{ "fields": [{"type":"int","id":"_id"},{"type":"text","id":"NewsTitle"},{"type":"text","id":"Detail"},{"type":"text","id":"NewsDate"},{"type":"text","id":"Region"},{"type":"text","id":"Province"},{"type":"text","id":"Department"},{"type":"text","id":"Link_News"}], "records": [ [1,"นักท่องเที่ยว แห่ขึ้นชมทะเลหมอกและรอดูแสงแรก ปี 2565 บนยอดดอย ภูชี้ฟ้า","
นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางขึ้นภูชี้ฟ้า เพื่อสัมผัสอากาศหนาว รอดูแสงอาทิตย์แรกและสัมผัสความงามของทะเลหมอก ในวันขึ้นปีใหม่ 1 มกราคม 2565 นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางมาจากต่างจังหวัดโดยรถยนต์ส่วนตัว มีทั้งมากับเพื่อนเป็นหมู่คณะและมากับครอบครัว จนเต็มบริเวณลานกลางเต็นท์
อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า ตั้งอยู่ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงราย อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่อิงฝั่งขวาและป่าแม่งาว ฟ้าทอง มีพื้นที่ประมาณ 120,000 ไร่ กรมป่าไม้ได้มีคำสั่งจัดตั้งเป็นวนอุทยาน เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2541 พื้นที่วนอุทยานเป็นยอดเขาสูงในเทือกเขาดอยผาหม่น ติดชายแดนไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว คลอบคลุมพื้นที่ 4 อำเภอคืออำเภอเทิง อำเภอเวียงแก่น อำเภอขุนตาลและอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ทิศเหนือ จด สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทิศตะวันออก จด สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทิศใต้ จด อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย และอำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา ทิศตะวันตก จด อำเภอเทิง อำเภอขุนตาล และอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย
ภูชี้ฟ้า ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงทางตะวันออกของจังหวัดเชียงราย อยู่ระหว่างรอยตะเข็บชายแดนไทยลาว ลักษณะเป็นหน้าผาสูงเป็นแนวยาวไปตามแนวชายแดน บริเวณปลายสุดของหน้าผามีลักษณะแหลมคล้ายกับนิ้วมือชี้ยื่นออกไปในอากาศ จึงเป็นที่มาของชื่อ \"ภูชี้ฟ้า\" จุดที่สูงสุดของภูชี้ฟ้าอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,200-1,628 เมตร เบื้องล่างของหน้าผาเป็นแอ่งหุบเขา เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านเชียงตอง แขวงไชยบุรี ประเทศลาว
อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า จะเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปสัมผัสอากาศหนาว ชมทะเลหมอกตั้งแต่เวลา 04.30 น. โดยจะมีรถบริการรับส่งตั้งแต่ที่รีสอร์ทไปจนถึงลานจอดรถอุทยานฯ นอกจากนี้นักท่องเที่ยว ยังได้ชมความงามของดอกซากุระเมืองไทย หรือดอกพญาเสือโคร่ง ที่กำลังเริ่มเบ่งบาน บริเวณหน่วยจัดการต้นน้ำหงาว-งาว สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย และบานสะพรั่งเต็มดอยต้นเดือนมกราคม 2565 ตั้งแต่บริเวณทางขึ้นภูชี้ฟ้า จนถึงลานกลางเต็นท์หน่วยจัดการต้นน้ำหงาว-งาว ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น ส่วนจุดชมวิวบริเวณใกล้เคียงที่สวยงามไม่ต่างกัน เช่น ภูชี้ดาว ภูชี้เดือน บ้านผาตั้ง ดอยผาหม่น สามารถชมวิวฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว ได้ด้วย
","1/1/2022","ภาคเหนือ","เชียงราย","สวท.เชียงราย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220101095412054"], [2,"พาณิชย์แม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่ติดตามราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อำเภอปาย-อำเภอแม่ลาน้อย","
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การผลิตและการตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2564/65 ณ สถานที่รับซื้อ ในพื้นที่อำเภอปายและอำเภอแม่ลาน้อย ได้แก่ 1.ลานข้าวโพดโชคพงษ์เกษม ตำบลทุ่งยาว 2.ลานข้าวโพดจิรพันธ์ ตำบลทุ่งยาว 3.สหกรณ์การเกษตรแม่ลาน้อย ตำบลแม่ลาน้อย 4.ลานข้าวโพดพิพัฒน์เจริญพาณิชย์ ตำบลแม่ลาน้อย พบว่า ผลผลิตออกสู่ตลาดแล้ว ประมาณร้อยละ 80 เกษตรกรขายได้ราคากิโลกรัมละ 7.80-8.30 บาท ความชื้น 15%
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการได้ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อชัดเจน ณ สถานที่รับซื้อ ซึ่งเป็นไปตามประกาศ กกร. ฉบับที่ 62 พ.ศ.2564 เรื่องการแสดงราคารับซื้อสินค้าเกษตร ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2564
","1/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220101102914096"], [3,"บรรยายกาศ Countdown 2022 เมืองกรุงเก่า","วานนี้ 31 ธันวาคม 2564 บริเวณวัดพระราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เฉลิมฉลองท้ายปีจัดงาน Amazing Thailand Countdown 2022 ทั่วประเทศ และพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดงานภายใต้ชื่อ \"Amazing New Chapters @ Phra Nakhon Si Ayutthaya\" นำเอกลักษณ์ความเป็นไทยจุดประกายความสุขให้คนทั้งโลก และผลักดันให้ประเทศไทยสู่การเป็น GLOBAL COUNTDOWN DESTINATION แสดงความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศร่วมเฉลิมฉลองปีใหม่ ทั้งกระตุ้นให้เกิดหมุนเวียนเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมย้ำความปลอดภัยตามมาตรการสาธารณสุข ชูการจัดงานรูปแบบ New Normal COVID-19 Free Event อย่างเคร่งครัด
ในโอกาสนี้ นางสรัลพัชร ประโมทะกะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้เกียรติร่วมเปิดงานฯ งาน Amazing New Chapters @ Phra Nakhon Si Ayutthaya จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-31 ธันวาคม ณ บริเวณวัดพระราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย อาทิ Lighting Art Lnstallation ตกแต่งประดับไฟสวยงามสะท้อนวิถีชีวิตไทยแบบประยุกต์ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานเก็บภาพถ่ายรูปยามค่ำคืน ตั้งแต่เวลา 16.30-21.00 น. เพลิดเพลินด้วยการแสดงดนตรีไทยพื้นบ้านภาคกลางประยุกต์ และร่วมสมัยจากศิลปินที่มีชื่อเสียง อาทิ NOTTOY สิงโตนำโชค ทั้งดนตรีจากวงดนตรีไทยประยุกต์และวง Local Band นอกจากนี้ ยังมี Thai Street Market ตลาดวิถีไทย อิ่มอร่อยกับอาหารไทยภาคกลางและเลือกชมผลิตภัณฑ์จาก SME ภาคกลางด้วย
สำหรับคืนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2565 วันที่ 31 ธันวาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 16.30-01.00 น. ผู้เข้าชมงานจะได้พบกับ THAI FAMOUS ARTIST CONCERT การแสดงดนตรีร่วมสมัยจากศิลปิน นักร้องท้องถิ่น และมีชื่อเสียงสลับหมุนเวียนตลอดค่ำคืน และไฮไลท์สำคัญของงาน Amazing New Chapters @ Phra Nakhon Si Ayutthaya เริ่มตั้งแต่ 23.00 น. เป็นต้นไป จัดเต็มการแสดงชุดพิเศษ \"ปีใหม่สุขใจไทยระรื่น\" ได้แรงบันดาลใจจาก \"ความรื่นเริง\" ของภาคกลาง สะท้อนเอกลักษณ์การใช้ชีวิตในดินแดนอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศที่มีแม่น้ำหลายสายผู้คนมีความเป็นอยู่สุขสบาย เป็นจุดกําเนิดของการสร้างสรรค์การเล่นรื่นเริงในโอกาสต่าง ๆ มากมาย ทั้งตามฤดูกาล และเทศกาล โดยในการแสดงชุดนี้ถ่ายทอดในรูปแบบผสมผสานความเป็นไทยประยุกต์เข้ากับความเป็นไทยดั้งเดิม ให้มีสีสันความสนุกสนานและความทันสมัย สื่อสาร ส่งมอบความสุขและสร้างรอยยิ้มในวาระปีใหม่ ให้ชีวิตไหลลื่นดั่งสายน้ำที่เลี้ยงชีวิต และให้ทุกคนยิ้มได้อย่างระรื่นกับการเริ่มต้นใหม่ในปีต่อไป
ต่อมาประทับใจไปกับการแสดงสุดพิเศษของแม่ขวัญจิต ศรีประจันต์ และวงรัตนโกสินทร์ เบรคคิน ครูว รวมถึงการแสดงโขนสมมุติชุดใหญ่ 30 คน ให้ความรู้และควบคุมการแสดง โดยครูมืด ประสาท ทองอร่าม และเพิ่มความสนุกสนานด้วยการแสดงจากศิลปินวง Richman Toy และสวนพลู คอรัส ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เข้าร่วมงานจะได้ตื่นตาตื่นใจกับการแสดงพลุแสงไฟประกอบดนตรีสุดอลังการ ชุด LET S THE BLESSINGS FLOW \"พรตลอดปี ชีวิตดีตลอดไป\" อำนวยอวยชัยให้ชีวิตคนไทยเป็นดั่งสายน้ำที่ลื่นไหลไร้อุปสรรคตลอดปี พ.ศ.2565 เริ่มต้นด้วย The Countdown : พลุไพโร จุดพร้อมจังหวะนับถอยหลัง จากนั้นตามด้วยการแสดงพลุ 7 องก์สำคัญ ได้แก่ องก์ 1 : เบิกอรุณจุดประกายแสงแห่งหวัง องก์ 2 : พร่างพราวจากนภาหลอมพลังรวมสู่นที องก์ 3 : สุขสมบูรณ์พูนผลผ่านพ้นภัย องก์ 4 : สุขภาพปลอดโรคเกษมโชค องก์ 5 : มั่งมีเงินทองสมสุขศรี องก์ 6 : ราบรื่นสุขจิตชีวิตดี และองก์ 7 : พรั่งพร้อมบริวารชำนาญไกล และปิดท้ายการแสดงพลุด้วยเลข 2565 The Finale
ทั้งนี้ ททท. ได้เข้มงวดมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม และยกระดับให้เป็นไปตามที่รัฐบาลกำหนด โดยใช้มาตรการ COVID Free Personnel COVID Free Customer และ COVID Free Environment ผู้จัดงาน พนักงาน นักร้อง นักดนตรี ต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบตามเกณฑ์ มีผลตรวจ ATK ทุกคนและมีผลเป็นลบก่อนเข้างาน 72 ชั่วโมง สำหรับประชาชนผู้เข้าร่วมงาน ต้องลงทะเบียนและแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ และมีผลตรวจ ATK เป็นลบภายใน 72 ชั่วโมงเช่นกัน โดยทุกคนต้องตรวจคัดกรองความเสี่ยงก่อน เข้างาน และปฏิบัติตามมาตรการ UP-D-M-H-T-A อย่างเคร่งครัด
","1/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","พระนครศรีอยุธยา","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220101154025246"], [4,"สวยงามตระการ ททท. จัด \"Countdown Suphanburi 2022\" กระตุ้นเศรษฐกิจ","จังหวัดสุพรรณบุรี จับมือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัด \"Countdown Suphanburi 2022\" โชว์เอฟเฟ็กต์ตระการตาเหนือหอคอยบรรหารแจ่มใส พร้อม Drone Light Show และสวนแสงสุดมหัศจรรย์ ภายใต้มาตรการอย่างเข้มข้น เน้นหลักความปลอดภัยคือความสุข กระตุ้นส่งเสริมการท่องเที่ยวในภาพรวม
เมื่อค่ำวานนี้ (31 ธ.ค. 64) บริเวณสวนเฉลิมภัทรราชินี หอคอยบรรหารแจ่มใส อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี นักท่องเที่ยวและชาวสุพรรณบุรี ร่วมเฉลิมฉลอง นับถอยหลังปีใหม่ ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ในงาน \"Countdown Suphanburi Happy Healthy 2022\" โดยจังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี เทศบาลเมืองสุพรรณบุรี กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สวนเฉลิมภัทรราชินี และหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมกันจัดงานดังกล่าวขึ้น
โดยมีวุตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางด้านงานเทศกาลตามวัฒนธรรมประเพณีของไทย รวมทั้งส่งเสริมเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวและวิถีชีวิตชุมชนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตามแนวนโยบายของรัฐบาล พร้อมทั้งนำเสนอจังหวัดสุพรรณบุรี ในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวที่ \"เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย เที่ยวปลอดภัย เที่ยวได้ทั้งปี\" และเป็นการสร้างความสุขให้กับชาวสุพรรณบุรีและผู้ที่มาร่วมงาน เป็นของขวัญปีใหม่ ปี 2565 โดยงานจัดขึ้นภายใต้มาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้น โดยเน้นหลักความปลอดภัยคือความสุข ซึ่งผู้เข้าร่วมงานต้องลงทะเบียนล่วงหน้าผ่าน Application QueQ , แสดงผลการฉีดวัคซีนอย่างน้อยสองเข็ม , แสดงผลการตรวจ ATK ภายใน 72 ชั่วโมง การตรวจวัดอุณหภูมิ , สวมใส่แมสก์ , เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือ โดยจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงานรอบละไม่เกิน 500 คน
ทั้งนี้ ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย ทั้งกิจกรรมถ่ายภาพกับสวนแสงเมืองสุพรรณลุ้นรับของขวัญปีใหม่ การแสดง Drone Light Show สุดตื่นตาครั้งแรกในจังหวัดสุพรรณบุรี การแสดง Mini Light & Sound \"Happy Healthy 2022\" โดยผู้กำกับชื่อดัง \"ศุภักษร\" จากบริษัท คอม อาร์ต โปรดักชั่น จำกัด www.facebook.com/Commartsproduction และสัมผัสประสบการณ์พิเศษสุดตระการตาจากการแสดง ไพโรเทคนิคเหนือหอคอยหนึ่งเดียวในเมืองไทย พร้อมขบวนศิลปินและนักร้องที่พร้อมมอบความสุข สนุก ตลอดงาน อาทิ แน็ท ศิริพงษ์ , น็อตทอย , ตุ๊กกี้ สุดารัตน์ , เปาวลี พรพิมล , หนุ่มสามวิ เงาเสียงเบน , ดีเจวิว และ Season Five โดยนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานเปิดงาน
","1/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","สุพรรณบุรี","สวท.สุพรรณบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220101133901189"], [5,"รองผู้ว่าฯ อยุธยา Kick Off มหกรรมท่องเที่ยววิถีชุมชนยลรุกขมรดกของแผ่นดิน วัฒนธรรมท้องถิ่นภาคกลางตอนบน 6 จังหวัด ยกระดับการท่องเที่ยววิถีชุมชนลุ่มน้ำเจ้าพระยา/ป่าสัก","รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา Kick Off มหกรรมท่องเที่ยววิถีชุมชนยลรุกขมรดกของแผ่นดิน วัฒนธรรมท้องถิ่นภาคกลางตอนบน 6 จังหวัด ยกระดับการท่องเที่ยววิถีชุมชนลุ่มน้ำเจ้าพระยา/ป่าสัก
วันนี้ 1 มกราคม 2565 ที่ลานด้านหน้าวิหารพระมงคลบพิตร อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มอบหมายให้ นางสาวนุชนาถ ประทีปธีรานันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานเปิดกิจกรรม Kick Off มหกรรมท่องเที่ยววิถีชุมชนยลรุกขมรดกของแผ่นดิน วัฒนธรรมท้องถิ่นภาคกลาง ภายใต้โครงการยกระดับการท่องเที่ยววิถีชุมชนลุ่มน้ำเจ้าพระยา/ป่าสัก โดยมีนางจุรีพร ขันตี วัฒนธรรมจังหวัด กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้ ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการ วัฒนธรรมจังหวัดกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน ผู้แทนชุมชน มาร่วมพิธีเปิดในครั้งนี้
สำหรับงาน \"มหกรรมท่องเที่ยววิถีชุมชน ยลรุกขมรดกของแผ่นดินวัฒนธรรมท้องถิ่นภาคกลาง\" ในวันนี้ จัดขึ้นตามที่รัฐบาลมีนโยบายเรื่องการพัฒนาศักยภาพของชุมชนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก และสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว เชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม เพื่อสร้างรายได้และขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รวมถึง ส่งเสริมและอนุรักษ์ประเพณีและวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า
ตลอดจนเพื่อเป็นการต่อยอดโครงการต้นไม้ที่ทรงคุณค่า \"รุกขมรดกของแผ่นดิน ใต้ร่มพระบารมี\" ของกระทรวงวัฒนธรรม ที่ได้ดำเนินการสืบค้นและรวบรวมข้อมูลต้นไม้ที่ มีความสำคัญทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของท้องถิ่น ซึ่งสามารถนำมาต่อยอดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพื่อสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสระบุรี จังหวัดอ่างทอง จังหวัดลพบุรี จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดชัยนาท จัดงานนี้ขึ้น ในวันที่ 1-2 มกราคม 2565 และจะจัดที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดสงขลา ในลำดับต่อไป
ด้าน นางสาวนุชนาถ ประทีปธีรานันต์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมมหกรรมท่องเที่ยววิถีชุมชนยลรุกขมรดกของแผ่นดิน วัฒนธรรมท้องถิ่นภาคกลาง เพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยววิถีชุมชน ที่สำคัญในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน 6 จังหวัด ให้เป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย และเป็นการนำทุนทางวัฒนธรรม ที่สำคัญของแต่ละจังหวัด ซึ่งมีวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี ของชุมชนท้องถิ่นแต่ละแห่งที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งภาษา ความเชื่อ การแต่งกาย อาหารการกิน ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนต้นไม้ใหญ่ ทรงคุณค่า ควรค่าแก่การศึกษา เรียนรู้ มาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ในลักษณะการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และวิถีชุมชน รวมทั้งเป็นการตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาล ในการสร้างงาน สร้างรายได้ ให้แก่ชุมชน และประชาชนได้เป็นอย่างดี
","1/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","พระนครศรีอยุธยา","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220101170659279"], [6,"มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2564 ยอดใช้จ่ายกว่า 250,000 ล้านบาท เตรียมเปิดโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 มีนาคมนี้","นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบ COVID-19 ปี 2564 ได้สิ้นสุดโครงการทั้ง 4 โครงการ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยมีผู้ใช้สิทธิสะสมทั้ง 4 โครงการรวม 41.5 ล้านราย ยอดใช้จ่ายสะสมทั้งหมด 254,281.7 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสมประมาณ 13.55 ล้านราย ยอดการใช้จ่ายสะสมรวม 24,010 ล้านบาท โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ผู้ใช้สิทธิสะสมประมาณ 1.51 ล้านราย ยอดการใช้จ่ายสะสมรวม 2,183.3 ล้านบาท โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสมจำนวน 26.35 ล้านราย และมีจำนวนผู้ใช้สิทธิครบ 4,500 บาท แล้วกว่า 10.87 ล้านราย ยอดการใช้จ่ายสะสมรวม 223,921.8 ล้านบาท และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิสะสมจำนวน 91,952 ราย ยอดใช้จ่ายสะสม 3,827.4 ล้านบาท
กระทรวงการคลัง จะนำผลการดำเนินโครงการฯ ไปพิจารณาปรับปรุงเพื่อออกแบบโครงการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในอนาคตต่อไป ขณะเดียวกันจะมีการปรับปรุงระบบโครงการคนละครึ่ง เพื่อรองรับการเปิดโครงการระยะที่ 4 ในช่วงเดือนมีนาคม 2565
นอกจากนี้ มาตรการช้อปดีมีคืน ปี 2565 ซึ่งได้เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ (1 มกราคม 2565) ไปจนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 โดยผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและค่าบริการ ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับปีภาษี 2565 ซึ่งจะยื่นแบบและชำระภาษีในช่วงต้นปี 2566
","1/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220101193438350"], [7,"นับถอยหลังข้ามปีคืนเคาท์ดาวน์กระบี่ กลับมาคึกคักอีกครั้งกับกิจกรรมอ่าวนางบีชเฟติวัล โฉมใหม่ 2022 แบบไลฟ์แอนด์ซาวด์พร้อมจุดเช็คอิน รูปแบบ Safe & Fun COVID Free Setting","
วานนี้ 31 ธันวาคม 2564 บรรยากาศคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่บริเวณหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี หาดอ่าวนาง จังหวัดกระบี่ มีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวบริเวณอ่าวนางแลนด์มาร์คเป็นจำนวนมาก โดยมีนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจงหวัดกระบี่ เดินทางมาเป็นประธานในพิธีนับถอยหลังเคาท์ดาวน์ในค่ำคืนนี้ ด้านการจราจรรถที่สัญจรไปมาค่อนข้างติดขัด แหล่งท่องเที่ยวยามค่ำกลับมามีสีสันคึกคักขึ้นอีกครั้ง ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร ต่างมีรายได้จากการท่องเที่ยวคืนเคาท์ดาวน์ที่อ่าวนางแลนมาร์ค หน้าหาดอ่าวนาง กระบี่กลับมาคึกคัก และมีสีสันอีกครั้ง ร้านค้า ร้านอาหารกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
ปีนี้ทางจังหวัดกระบี่จับมือรัฐเอกชนจัดงานเคาท์ดาวน์โฉมใหม่ New Normal รูปแบบ Safe & Fun COVID Free Setting และสร้างประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน ภายใต้การปฏิบัติตามมาตรการของกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด จังหวัดกระบี่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2564 ถึง 1 มกราคม 2565 ณ เวทีกลางบริเวณอ่าวนางแลนด์มาร์ค เพื่อส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เป็นการมอบความสุขให้กับชาวจังหวัดกระบี่และนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่มาเที่ยวชมงานได้มีความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 เพื่อสร้างกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยว และกระตุ้นการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ที่ให้ความสำคัญเรื่อง COVID Free Setting เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ในช่วง Krabi Reopening เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวภายใต้มาตรการความปลอดภัย กิจกรรม 3 โซน คือ
1.โซนถ่ายภาพ ที่ลานปฏิมากรรมปลาใบ ซึ่งจัดให้มีการถ่ายภาพเป็นรอบ ๆ ละ 10 นาที
2.โซนคอนเสิร์ต ที่เน้นให้ลงทะเบียนร่วมงานล่วงหน้า และหน้างานโดยผู้เข้าร่วม ต้องแสดงผลตรวจ ATK เป็นลบและผลฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม เพื่อเข้าชมการแสดงจากศิลปินนักร้องที่มีชื่อเสียง อาทิ เช่น ETC , เบน ชราทิศ ซานิ เจ เจตริน วงเคลียร์ เป็นต้น
และ 3. โซนอาหาร จำนวน 50 บูธ ประกอบด้วย การออกร้านอาหารชื่อดังจากสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ สมาคมร้านอาหารจังหวัดกระบี่ ภายใต้มาตรการความปลอดภัย Safe & Fun COVID Free Setting ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ ซึ่งได้มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจ เข้าร่วมงานจำนวนมาก ภายใต้มาตรการสาธารณสุข โดยมีรัฐและเอกชนผู้สนับสนุนการจัดงาน
นอกจากนี้ ภายในบริเวณอ่าวนางแลนด์มาร์ค ยังมีการจัดจำหน่ายสินค้าโอทอป 4 ภาค ของกรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ระหว่างวันที่ 29ธันวาคม 2564 ถึง 4 มกราคม 2565 และกิจกรรมประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวการเปิดอ่าวมาหยา แบบจำกัดจำนวนคน อีก เพื่อลดความแออัดและทุกกิจกรรมอยู่ภายใต้มาตรากาของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด
","1/1/2022","ภาคใต้","กระบี่","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220101141228204"], [8,"พาณิชย์แม่ฮ่องสอน คุมเข้มร้านค้า ห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า ช่วงเทศกาลปีใหม่","เจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคช่วงเทศกาลปีใหม่ ณ ร้านค้า อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จำนวน 2 ร้าน ผลการตรวจสอบพบว่า ราคาสินค้าอยู่ในภาวะทรงตัว อาทิ น้ำมันปาล์ม ขนาด 1 ลิตร ราคา 56-57 บาท , น้ำมันถั่วเหลือง ขนาด 1 ลิตร ราคา 57-60 บาท , น้ำปลา ขนาด 700 มล. ราคา 30-35 บาท , ผงซักฟอก ขนาด 850 กรัม ราคา 85 บาท , ซอสปรุงรสฝาเขียว ขนาด 600 มล. ราคา 35 บาท , ซอสหอยนางรม ขนาด 600 มล. ราคา 50 บาท
ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าชัดเจน สินค้ามีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้กำชับให้ร้านค้าปฏิบัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 อย่างเคร่งครัด ห้ามกักตุนสินค้า และห้ามฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาที่สูงเกินสมควร
","1/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220101144241217"], [9,"อำเภอหนองหิน จังหวัดเลย จัดกิจกรรม \"แต่งไทย ใส่บาตรดอกทองอุไร ณ ทุ่งดอกบัวตอง\"","
นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานเปิดกิจกรรม \"แต่งไทย ใส่บาตรดอกทองอุไร ณ ทุ่งดอกบัวตอง\" ที่บ้านผางาม ตำบลปวนพุ อำเภอหนองหิน จังหวัดเลย โดยมี นางนงค์นิตย์ เนียมศิริ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเลย, นายผดุงศักดิ์ หาญปรีชาสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย, นายศิริวัฒน์ พินิจพาณิชย์ ปลัดจังหวัดเลย, นายมนัสพันธ์ ดอนก้อนไพร นายอำเภอหนองหิน หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนผู้เข้าร่วมงาน
นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า จังหวัดเลยมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ที่นักท่องเที่ยวมักกล่าวถึง และวางแผนที่จะมาเที่ยวเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ มีความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรมประเพณีอันงดงาม แหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่มีอัตลักษณ์เฉพาะถิ่น สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติในพื้นที่ของอำเภอหนองหิน ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกเพียงดิน ภูป่าเปาะ สวนหินผางาม หรือที่เรียกกันจนติดปากว่า ฟูจิเมืองเลย คุนหมิงเมืองไทย หรือที่กำลังโด่งดังในภาพยนตร์เรื่อง ร่างทรง ก็มาใช้พื้นที่ของวัดถ้ำพระโพธิสัตว์ถ่ายทำ และแหล่งท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้นใหม่ คือ ทุ่งดอกบัวตอง และดอกทองอุไร ที่กำลังบานสะพรั่งในช่วงปีใหม่นี้ ซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชม รวมถึงการพักค้างแรมที่ตำบลปวนพุ เพื่อสัมผัสบรรยากาศอันหนาวเย็นแบบวิถีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ สงบ อบอุ่น เรียบง่าย มีน้ำใจ ชวนให้จดจำ จนอยากกลับมาเที่ยวอำเภอหนองหินอีกหลายๆ ครั้ง
นายมนัสพันธ์ ดอนก้อนไพร นายอำเภอหนองหิน กล่าวว่า จังหวัดเลยได้กำหนดวิสัยทัศน์ เมืองน่าอยู่ เมืองแห่งการท่องเที่ยว การค้าและการลงทุนภายใต้การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะประเด็นการพัฒนา คือ การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ควบคู่กับการอนุรักษ์พื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งอำเภอหนองหิน ได้เล็งเห็นว่าพื้นที่ของอำเภอมีศักยภาพสูงที่จะพัฒนา ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และประเด็นการพัฒนา โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่มีอยู่อย่างมากมาย และภาพยนตร์ชื่อดังได้มาถ่ายทำในพื้นที่ของตำบลปวนพุ เช่น องค์บาก 2 หรือร่างทรงที่กำลังโด่งดังในประเทศเกาหลีใต้ และแหล่งท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้นใหม่ในช่วงฤดูหนาวนี้ คือดอกบัวตองและทองอุไร ที่กำลังบานสะพรั่งของสองฝั่งถนน โดยเฉพาะต้นทองอุไรนั้น นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นผู้ปลูกด้วยตนเอง ซึ่งถือได้ว่าเป็นบุคคลที่ริเริ่ม และนับหนึ่งให้กับคนหนองหิน ในการที่จะพัฒนาเป็นถนนสายดอกไม้ต่อไปในอนาคต ชาวอำเภอหนองหินพร้อมที่จะนับก้าวที่สองและสามไปไม่มีที่สิ้นสุด จนเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนของการท่องเที่ยวในพื้นที่
ทั้งนี้ การจัดกิจกรรม \"แต่งไทย ใส่บาตรดอกทองอุไร ณ ทุ่งดอกบัวตอง\" ครั้งที่ 1 ได้ใช้จุดเด่นของแหล่งท่องเที่ยว มาจัดกิจกรรมที่มีหนึ่งเดียวในโลกได้อย่างน่าทึ่งและแปลกใหม่ รวมทั้งเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของคนไทยที่จะได้ทำบุญตักบาตรในวันขึ้นปีใหม่ อันเป็นมงคลสำหรับชีวิตที่จะก้าวเดินต่อไปในอนาคต และอีกประเด็นสำคัญคือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของคนในชุมชนที่จะได้จำหน่ายสินค้าต่าง ๆ ที่เราได้ผลิตขึ้น ถึงแม้เราจะเผชิญกับปัญหาของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แต่พวกเราจะต้องก้าวข้ามไปให้ได้ พร้อมเฝ้าระวังป้องกัน และปฏิบัติตามมาตรการที่หน่วยงานของรัฐกำหนดอย่างเคร่งครัด
#สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","1/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","เลย","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเลย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220101144812221"], [10,"จ.ลำปางคึกคัก นักท่องเที่ยวแห่เข้าสักการะ พระธาตุลำปางหลวง เสริมความเป็นสิริมงคลรับปีใหม่","จังหวัดลำปางคึกคัก นักท่องเที่ยวแห่เข้าสักการะ พระธาตุลำปางหลวง เสริมความเป็นสิริมงคลรับปีใหม่ ประชาชนและนักท่องเที่ยว แห่เดินทางขึ้นเหนือช่วงวันหยุดยาวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ แวะเที่ยวลำปางร่วมสักการะวัดพระธาตุเก่าแก่อายุ 1,300 กว่าปี พระธาตุลำปางหลวง เสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่ตนเองและครอบครัว ภาพบรรยากาศตามแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดลำปาง ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ได้กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากที่ต้องเงียบเหงาซบเซามานานกว่า 2 ปี เพราะผลกระทบอันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 โดยในห้วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ปีนี้ ประชาชนได้มีการเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาเพื่อเยี่ยมญาติพี่น้อง รวมถึงเดินทางมาเพื่อท่องเที่ยวซึ่งก็จะมีวันหยุดยาวติดต่อกันนานหลายวัน ช่วยให้เศรษฐกิจการค้าการขายตามแหล่งชุมชนในพื้นที่ได้รับการกระตุ้น ประชาชนมีการจับจ่ายซื้อของกันมากขึ้น โดยเฉพาะที่ วัดพระธาตุลำปางหลวง วัดพระธาตุเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำปาง อายุ 1,300 กว่าปี หนึ่งในโบราณสถานแหล่งท่องเที่ยวประจำจังหวัด ที่ดูเหมือนจะได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ เพราะมีประชาชนนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาที่วัดแห่งนี้ เพียงเพื่อต้องการจะเข้ากราบสักการะพระบรมธาตุที่อยู่ภายในวัด
โดยในเช้าวันนี้ (1 ม.ค.65) ตั้งแต่ก่อนที่ประตูวัดจะเปิดทำการ 07.30 น. บริเวณถนนด้านหน้าทางขึ้น ซุ้มประตูโขงวัดพระธาตุลำปางหลวง ตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา ได้มีประชาชนนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางมายืนรออยู่ที่บริเวณบันไดทางขึ้น คอยที่จะให้ประตูวัดเปิดเพื่อจะได้เข้าไปภายในบริเวณวัด ซึ่งในระหว่างที่รอคอยทำให้หลายคนได้ถ่ายรูปคู่กับซุ้มประตูโขง ซึ่งเป็นซุ้มประตูฝีมือช่างหลวงโบราณที่มีความสวยงามด้วยลวดลายปูนปั้นรูปดอกไม้ และสัตว์ป่าหิมพานต์ ส่วนด้านหลังซุ้มประตูมีองค์พระธาตุลำปางหลวง ที่เป็นองค์เจดีย์ขนาดใหญ่แบบทรงล้านนา ผสมกับทรงลังกา ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินสูง ส่วนด้านนอกองค์พระธาตุห่อหุ้มด้วยแผ่นทองเหลืองจังโกฉลุลวดลายวิจิตรสวยงาม ยามแสงแดดสาดส่องทำให้องค์พระธาตุมีสีเหลืองทองเปล่งประกายทั่วทั้งองค์ยิ่งดูสวยงามมากขึ้น โดยนักท่องเที่ยวที่เห็นภาพดังกล่าว ต่างอดใจไว้ไม่ไหวต้องยกกล้องถ่ายรูปและกล้องโทรศัพท์มือถือ ขึ้นมาถ่ายรูปปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นไว้เป็นที่ระลึกกันอย่างคึกคัก จนกระทั่งเมื่อถึงเวลาประตูวัดเปิดทำการประชาชนนักท่องเที่ยวต่างได้ทยอยเดินขึ้นบันไดซุ้มประตูเข้าไปภายในบริเวณวัด โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรค COVID-19 มีการตรวจวัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ รวมถึงลงชื่อผ่านเข้า-ออก พร้อมเบอร์โทรศัพท์
ซึ่งหลังจากปฏิบัติตามขั้นตอนแล้ว คณะกรรมการวัดจึงจะอนุญาตให้ผ่านเข้าไปเที่ยวชมภายในวัดได้ โดยประชาชนนักท่องเที่ยวที่ผ่านขั้นตอนต่างๆ และได้เข้ามาภายในบริเวณวัด ทุกคนต่างจะมุ่งหน้าที่เข้าไปกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด ทั้งองค์พระธาตุลำปางหลวง และพระเจ้าแก้วมรกตดอนเต้า พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำปาง ทั้งนี้เพื่อจะขอพรเสริมความเป็นสิริมงคล เสริมสร้างพลังใจให้แก่ตนเองและครอบครัว ให้มีกำลังใจในการที่จะทำงานเริ่มต้นชีวิตใหม่และผ่านพ้นอุปสรรคพบเจอแต่สิ่งดีๆ ในปีพุทธศักราชใหม่ โดยบรรยากาศความคึกคักที่ได้มีนักท่องเที่ยว กลับมาเที่ยวที่วัดพระธาตุลำปางหลวงช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ ถือเป็นอีกห้วงเวลาในรอบปีท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ที่จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลังจากนี้หากสถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลายก็คาดว่าวัดพระธาตุลำปางหลวง ก็จะมีนักท่องเที่ยวกลับเข้ามาเที่ยวชม สร้างความคึกคักให้กับชุมชนพื้นที่อีกครั้งในอีก 3 ข้างหน้า หรือในห้วงเทศกาลสงกรานต์ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำปาง
#สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","1/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220101145230223"], [11,"ขยายเวลาโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน Lot 14 (หมูเนื้อแดง) ไปจนถึง 15 มกราคมนี้","นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปริมาณและราคาหมูที่ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน จึงได้ขยายเวลาโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot 14 (หมูเนื้อแดง) ซึ่งสิ้นสุดโครงการเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยขยายเวลาต่อไปจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2565 เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชนและตรึงราคาในเบื้องต้น ทั้งนี้ได้มีการปรับราคาจำหน่ายให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น เพื่อไม่ให้กระทบต่อกลไลตลาดและกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงน้อยที่สุด
โดยหมูเนื้อแดงที่นำมาจำหน่ายในโครงการฯ ราคาอยู่ที่ 150 บาทต่อกิโลกรัม พร้อมติดตามและประเมินสถานการณ์เป็นระยะ เพื่อขยายโครงการในระยะต่อไปตามความเหมาะสม นอกจากนี้ยังได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าในการตรึงราคาไม่ให้สูงขึ้น โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่มีความต้องการบริโภคเนื้อหมูเพิ่มขึ้น
ประชาชนสามารถเลือกซื้อสินค้าในโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot 14 (หมูเนื้อแดง) ได้ตามจุดจำหน่ายทั่วประเทศ รวมทั้งตรวจสอบสถานที่จอดรถโมบาย และจุดจำหน่ายได้ที่เว็บไซต์กรมการค้าภายใน หรือ LINE OFFICIAL @Mobilepanich อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการสามารถร้องเรียนได้ที่ สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
","1/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220101193150346"], [12,"บรรยากาศเทศกาลท่องเที่ยวรับปีใหม่ ประชาชนแห่ไหว้พระ ศาลหลักเมือง ชมช้าง เมืองกรุงเก่าสุดคึกคัก","
บรรยากาศเทศกาลท่องเที่ยวรับปีใหม่ ประชาชนแห่ไหว้พระ ศาลหลักเมือง ชมช้าง เมืองกรุงเก่าสุดคึกคัก
วันนี้ (1 มกราคม 2565) วันแรกของปี 2565 บรรยากาศการท่องเที่ยวในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างมาไหว้พระขอพรรับปีใหม่ ที่วิหารพระมงคลบพิตร อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นักท่องเที่ยวต่างพาครอบครัวเดินทางมาไหว้พระขอพรจากพระมงคลบพิตร เพื่อความเป็นสิริมงคลกับตนเองและครอบครัว
ทั้งนี้ วิหารพระมงคลบพิตร ได้จัดเจ้าหน้าที่คอยให้บริการประชาชน รวมถึงการคัดกรองและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก่อนเข้าสักการะในโบสถ์ด้วย ขณะเดียวกัน มีประชาชนจากทั่วสารทิศ เข้ากราบสักการะศาลหลักเมืองพระนครศรีอยุธยา เพื่อความเป็นสิริมงคลรับปีใหม่ รวมทั้งที่วังช้างแลเพนียด ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่ง ที่นักท่องเที่ยวต่างนิยมพาครอบครัวมาท่องเที่ยวและชมความสามารถของน้องช้างและนั่งช้าง ชมโบราณสถานเป็นจำนวนมาก โดยทางวังช้างอยุธยาแลเพนียด ได้ลดราคาค่านั่งช้างให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ด้วย
","1/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","พระนครศรีอยุธยา","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220101182615318"], [13,"ตราด นักท่องเที่ยวล้นหลาม เที่ยวหาดบานชื่น ช่วงวันหยุดยาวฉลองเทศกาลปีใหม่ 2565 ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่","บรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ นักท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่จังหวัดตราด และนักท่องเที่ยวต่างจังหวัด เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังหาดบานชื่น ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ยังเป็นสถานที่ ท่องเที่ยว ยอดฮิตอันดับที่ 1 ของจังหวัดตราด นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2564 พื้นที่นั่งทานตามร้านค้าถูกจับจอง ตั้งแต่ช่วงเช้า แทบจะไม่มีที่นั่ง ขยายพื้นที่ไปจนถึงพื้นที่สาธารณะ และมีนักท่องเที่ยวมากางเตนท์ จับจองพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวา เพื่อที่จะรอเค้าท์ดาวน์ข้ามปีใหม่ ตลอดทั้งมีพ่อค้าแม่ค้าเร่ เข้าไปขายของให้กับนักท่องเที่ยว สร้างรายได้ในช่วงเทศกาลหยุดยาวในปีนี้ด้วย
ด้าน นางสาวณัฐสุดา เด่นดวง เป็นนักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดตราดบอกว่า จะพาครอบครัวมาเที่ยวที่ หาดบานชื่นทุกปี ซึ่งปีนี้เป็นวันหยุดยาวที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากกว่าปกติ ซึ่งตนเองและครอบครัวบอกว่า จากสถานการณ์โควิด ก็ต้องระวัง และรักษามาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และเว้นระยะห่าง อยู่แต่เฉพาะกลุ่ม หรือครอบครัวของตนเอง
ส่วนด้าน คุณธรรมศักดิ์ เทพธรรม นักท่องเที่ยวจากจังหวัดเชียงใหม่ บอกว่า ตั้งใจมาเที่ยวจังหวัดตราด และเลือกมาที่หาดบานชื่น เพราะทะเลสวย และบรรยากาศดี ซึ่งถ้ามาในช่วงเทศกาลต้องมาเช้าหน่อยนึง ประมาณ 9-10 โมง จะมีที่นั่งให้เลือก ติดริมชายทะเล ถ้ามาสายๆ หรือมาเที่ยง จะหาที่นั่ง ไม่ได้แล้ว มีนักท่องเที่ยวหลายคัน ที่เข้ามาแล้ว ไม่มีที่นั่งและที่จอดรถ จำต้องผิดหวัง เลี้ยวรถกลับไป
","1/1/2022","ภาคตะวันออก","ตราด","สวท.ตราด","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220101192414337"], [14,"นักท่องเที่ยวครึกครื้น สัมผัสแรกสวรรค์อ่าวมาหยา เปิดเที่ยววันแรก หลังปิดฟื้นฟูมานานร่วม 3 ปี วันนี้นักท่องเที่ยวคนไทยเที่ยวฟรี","วันนี้ (1 ม.ค. 65) นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานในพิธีเปิดรอบปฐมฤกษ์อ่าวมาหยา เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ หลังเปิดให้เข้าเที่ยวเป็นวันแรก หลังจากปิดฟื้นฟูมาร่วม 3 ปีเศษ โดยมีนายยงยุทธ นาควิโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่ อนุรักษ์ที่ 5 นายปราโมทย์ แก้วนาม หัวหน้าอุทยานห่างชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ร่วมในพิธีและร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยว
นายยงยุทธ นาควิโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่ อนุรักษ์ที่ 5 กล่าวว่า ผู้ประกอบการนำเที่ยวที่สามารถนำนักท่องเที่ยวเข้าไปเหยียบอ่าวมาหยาได้ ต้องเปิดจองผ่านแอพคิวคิว ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชก่อน จากนั้น สามารถเข้าได้ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. ซึ่งใช้เวลา 1 ชั่วโมงต่อรอบ รวม 11 รอบ ๆ ละ 375 คน 4,125 ต่อวัน ห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำอย่างเด็ดขาด เพื่อที่จะรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำที่หายากและใกล้จะสูญพันธุ์ เช่น ฉลามหูดำ ที่มีมากว่า 100 ตัว และกุ้งมังกร 7 สี แต่สามารถเดินเล่นและนอนหน้าชายหาดได้ หากผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษถูกปรับตามอัตราที่กรมอุทยานฯ กำหนด
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 64 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มาตรวจติดตามการฟื้นฟูและปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกของอ่าวมาหยา มีความเห็นว่า อ่าวมาหยามีความพร้อมเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ ในวันที่ 1 มกราคม 2565 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ ของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยในวันนี้นักท่องเที่ยวไทยเข้าชมฟรี
ด้าน นางสาว สุจิตรา แซ่เตื้อง อายุ 27 ปี นักท่องเที่ยวจากจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า รูสึกตื่นเต้นที่ได้เข้ามาเที่ยวอ่าวมาหยาในวันแรก ยอมรับสวยงามมาก ยอมรับในความสวยงาม และความเป็นธรรมชาติ นอกจากนั้น ยังยอมกฏติกาที่ทางอุทยานฯ ได้กำหนดเอาไว้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่บริการนักท่องเที่ยวที่เข้าชมอ่าวมาหยาได้ดีมาก ถึงแม้จะไม่ได้ลงเล่นน้ำที่อ่าวมาหยาก็ตาม ถือว่าคุ้มค่าที่ได้จองผ่านแอพคิวคิว ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช คุ้มค่าที่ได้มาอ่าวมาหยาเกาะพีพีจริง ๆ
ส่วนบรรยากาศการท่องเที่ยวทางทะเล ตามเกาะแก่งต่าง ๆ โดยเฉพาะทัวร์ 4 เกาะ ได้แก่ เกาะไก่ เกาะทับ เกาะหม้อ และเกาะปอดะ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากฝั่งหาดอ่าวนาง ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ พบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเช่าเหมาเรือหัวโทง และเรือสปีดโบ๊ทที่จอดให้บริการบริเวณท่าเรือหาดนพรัตน์ธารา ออกไปท่องเที่ยว จนเรือไม่พอกับจำนวนนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบบางรายต้องขนนักท่องเที่ยวไปส่งแล้วกลับมารับใหม่ ทำให้บรรยากาศคึกคักมากที่สุดในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา เป็นภาพที่หายไปนานหลังจากที่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19
ขณะที่ ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขากระบี่ ได้นำเรือตรวจการณ์ออกลาดตระเวน รักความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว พบว่าแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลทุกแห่งของทะเลกระบี่ คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว บรรยากาศสุดคุดึกคักในรอบ 3 ปี ซึ่งผู้ประกอการพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่คิดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวมากขนาดนี้ เป็นภาพที่เคยลืมไปแล้ว
","1/1/2022","ภาคใต้","กระบี่","สวท.กระบี่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220101195832366"], [15,"จังหวัดสระบุรี จัดงานทานตะวันบานที่บ้านเลียงผาส่งเสริมการท่งเที่ยวธรรมชาติ","วันนี้ 1 มกราคม 2565 เวลา 09.00 น. นายเอกพร จุ้ยสำราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานเปิดงานทานตะวันบาน และร่วมกิจกรรมเติมน้ำให้เลียงผา เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับชุมชนทำงานด้านอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการท่องเที่ยวในชุมชน ณ บ้านเลียงผา ป่าชุมชนเขาพระพุทธบาทน้อย-เขาขมิ้น หมู่ที่ 4 บ้านโป่งค่าป่าไม้แดง ตำบลท่าตูม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
นายทองสุข จันทะบูลย์ ประธานศูนย์ป่าชุมชนเขาพระพุทธบาทน้อย กล่าวว่า ศูนย์ป่าชุมชนเขาพระพุทธบาทน้อย มีเนื้อที่ภูเขา 2,186 ไร่ ประกอบด้วย ป่าชุมชนรายรอบภูเขา จำนวน 4 ป่า ประกอบด้วยป่าชุมชนบ้านพระพุทธบาทน้อย ตำบลสองคอน ป่าชุมชนบ้านบ่อโศรก ตำบลสองคอน ป่าชุมชนบ้านทุ่งแซง ตำบลท่าตูม ป่าชุมชนบ้านโป่งค่าป่าไม้แดง ตำบลท่าตูม มีป่าชุมชน 2 แปลง คือ ป่าชุมชนบ้านโป่งค่าป่าไม้แดง ป่าชุมชนเขาขมิ้น มีทรัพยากรธรรมชาติที่โดดเด่น คือ เลียงผา สัตว์ป่าสงวนในอนุสัญญาไชเตส นกจู๋เต้นเขาปูนพันธุ์สระบุรี เป็นนกเฉพาะถิ่น สถานะใกล้สูญพันธุ์ แมงกระดานถ้ำโมงนาที สถานะ เป็นสัตว์ชนิดใหม่ของโลก ต้นปรงสระบุรี อยู่ในบัญชีไชเตส (บัญชี 2) สถานะใกล้สูญพันธุ์ ถ้ำหินงอกหินย้อยสวยงาม ถ้ำเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า ถ้ำเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปโบราณ มีพืชและสัตว์ในระบบนิเวศน์เขาหินปูนที่สมบูรณ์อีกมากมาย
กิจกรรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติที่ดำเนินการ ได้แก่ กิจกรรมทำแนวกันไฟ และกิจกรรมดนตรีกล่อมไพรด้วยใจรักษ์เลียงผา กิจกรรมทำฝ่ายชะลอน้ำ กิจกรรมปลูกต้นไม้/กิจกรรมอนุรักษ์พันธุกรรมพืช กิจกรรมอบรมเยาวชน
สำหรับรางวัลที่ได้รับประกอบด้วย รางวัลลูกโลกสีเขียวทั้งประเภทชุมชน และประเภท 5 ปี แห่งความยั่งยืน รางวัลเชิดชูเกียรติขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือไอยูซีเอ็นรางวัล ทสม. ประเภทดีเด่นทั้งประเภทเครือข่ายและประเภทบุคคล และรางวัลที่ชุมชนภาคภูมิใจที่สุด คือ รางวัลทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์ขึ้นด้วยความหวงแหนของชุมชนและเครือข่ายหลังจากการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติประสมผลสำเร็จ ชุมชนต้องมีรายได้จากการอนุรักษ์ ดังนั้น ชุมชนจึงได้ร่วมกันปลูกทานตะวันเพื่อการท่องเที่ยวชุมชนเป็นปีแรก เพื่อให้ชุมชนมีรายได้ กิจกรรมจะจัดไปจนถึงวันที่ 25 มกราคม 2565 นี้
","1/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","สระบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220101210305386"], [16,"ศรีสะเกษ เปิดงานเทศกาลปีใหม่สี่เผ่าไทยศรีสะเกษ ประจำปี 2565 (New Normal)","เมื่อเวลา 17.00-23.00 น. ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ/ที่ปรึกษาเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธีเปิดงานเทศกาลปีใหม่สี่เผ่าไทยศรีสะเกษ ประจำปี 2565 (New Normal) โดยกำหนดจัดงานในระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2565 จำนวน 7 วัน 7 คืน ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ โดยมีวัตถุประสงค์การจัดงาน ดังนี้ 1.เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่นของชาวจังหวัดศรีสะเกษ ให้ดำรงไว้ซึ่งอัตลักษณ์อันดีงาม 2.เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนชาวจังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดใกล้เคียง ได้พักผ่อนหย่อนใจ ร่วมกิจกรรมการประกวดแข่งขัน และการเลือกซื้อสินค้าในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 3.เพื่อส่งเสริมความสมัครสมานสามัคคีของข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนชาวจังหวัดศรีสะเกษ 4.การออกร้านธารากาชาดเพื่อจัดหารายได้ในการบรรเทาทุกข์แก่ประชาชน
กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย 1.การออกร้านนิทรรศการของหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน การจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ OTOP สินค้าพื้นถิ่นของจังหวัด การหน่ายสินค้าของภาคเอกชน 2.การประกวดผลิตทางการเกษตร 3.การแข่งขันกีฬาเซปักตะกร้อ และวอลเลย์บอล 4.การแสดงและกิจกรรมบนเวทีกลางของหน่วยงาน/สถาบันการศึกษาต่าง ๆ ในจังหวัด เช่น การประกวดร้องเพลงของผู้บริหารท้องที่/ท้องถิ่น การประกวด Cover Dance การประกวดธิดาสี่เผ่าไทย การเดินแบบผ้าอัตลักษณ์จังหวัดศรีสะเกษ การแสดงโขนขุขันธ์ เป็นต้น 5.การจัดกิจกรรมจำหน่ายและออกสลากการกุศล ราคาฉบับละ 50 บาท มีรางวัล ประกอบด้วย รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย 6.การทำบุญตักบาตรในวันขึ้นปีใหม่
โดยในการจัดงานครั้งนี้ คณะกรรมการจัดงานทุกฝ่ายได้บูรณาการความร่วมมือในการจัดเตรียมความพร้อมการดำเนินงานเป็นอย่างดี ร่วมทั้งได้รับความร่วมมือร่วมใจจากส่วนราชการ อำเภอ สถานศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนบริษัท ห้างร้าน สมาคม มูลนิธิ และประชาชนชาวจังหวัดศรีสะเกษเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ การดำเนินกิจกรรมดังกล่าวปฏิบัติตามมาตรการภายใต้การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยมีพระครูโกศลสิขกิจ เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ นายประกอบ ละการชั่ว ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดศรีสะเกษ นายเทอดพงศ์ จามน้อยพรหม ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดศรีสะเกษ นางมัลลิกา พุฒิชาติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัด/ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด นายสำรวย เกษกุล นายอนุรัตน์ ธรรมประจิต นายนพ พงศ์ผลาดิสัย นางสาวชนมณัฐ รอดบุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ปลัดจังหวัด รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด (ท) ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด นายวิชิต ไตรสรณกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ นายวิทยา วิรารัตน์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัด ประธานหอการค้าจังหวัด นายอำเภอทุกอำเภอ สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัด สมาชิกชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัด นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัด นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยว ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัด รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาศรีสะเกษ ยโสธร ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารภาคเอกชน พี่น้องประชาชนทั้งภายใน และนอกจังหวัด แขกผู้มีเกียรติ ร่วมในพิธี
","1/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ศรีสะเกษ","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220101210058384"], [17,"จังหวัดกระบี่เปิดอ่าวมาหยา ณ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเป็นวันแรก หลังจากปิดฟื้นฟูมาเป็นระยะเวลา 3 ปี","วันที่ 1 มกราคม 2565 นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย นายยงยุทธ นาควิโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นายปราโมทย์ แก้วนาม หัวหน้าอุทยานแก่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวบริเวณอ่าวมาหยา \"วันขึ้นปีใหม่ 2565\" หลังจากมีการปิดอ่าวมาหยาเมื่อปี 2561 เพื่อให้ธรรมชาติได้พักฟื้นจนถึงตอนนี้ธรรมชาติระบบนิเวศเริ่มฟื้นตัวบริเวณชายหาด มีความสวยงามพบฝูงปลาฉลามหูดำบริเวณหน้าอ่าวมาหยาเป็นจำนวนมาก และมีปะการังเริ่มฟื้นตัว โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีนโยบายเปิดอ่าวมาหยาเพื่อรับการท่องเที่ยว ในวันที่ 2 มกราคม 2565 ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. โดยการจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวรอบละ 375 คน นักท่องเที่ยวมีเวลาเที่ยวได้ 1 ชั่วโมง/รอบ เพื่อไม่ให้เกิดความแออัด และคงความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติเอาไว้ และในการเตรียมความพร้อมเปิดอ่าวมาหยา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้พัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก ท่าเทียบเรือ และเส้นทางเชื่อมอ่าวโละซาม๊ะ - อ่าวมาหยา เป็นจุดรับ-ส่ง นักท่องเที่ยว โดยเรือที่จะเดินทางมาอ่าวมาหยาจะไม่อนุญาตให้เข้ามาจอดด้านหน้าแต่จะให้จอดด้านหลังหาดบริเวณอ่าวโละซาะแทน และในการเข้ามาท่องเที่ยวในบริเวณอ่าวมาหยา ต้องจองผ่านแอปพลิเคชัน QeuQ (คิวคิว ก่อนมาท่องเที่ยวเพื่อเป็นการจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยว และรักษาสมดุลทางธรรมชาติ และในการเข้ามาท่องเที่ยวต้องปฏิบัติตามมาตรการ และแนวทางปฏิบัติการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ในรูปแบบ New Normal
#สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","1/1/2022","ภาคใต้","กระบี่","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220101223325404"], [18,"อ่าวมาหยาเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยววันแรกแห่ลงสัมผัสความสวยงามของทรัพยากรธรรมชาติหลังฟื้นฟูทรัพยากรมาเกือบ 3 ปี","วันที่ 1 มกราคม 2565 เวลา 11.30 น. นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยนายยงยุทธ นาควิโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นายปราโมทย์ แก้วนาม หัวหน้าอุทยานแก่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวบริเวณอ่าวมาหยา \"วันขึ้นปีใหม่ 2565\" หลังจากมีการปิดอ่าวมาหยาเมื่อปี 2561 เพื่อให้ธรรมชาติได้พักฟื้นจนถึงตอนนี้ธรรมชาติระบบนิเวศเริ่มฟื้นตัวบริเวณชายหาดมีความสวยงาม
ตามที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ปิดอ่าวมาหยาหมู่เกาะพีพี เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี หมู่ที่ 7 บ้านเกาะพีพี ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2561เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทั้งบนบกและในทะเล โดยเฉพาะอย่างปะการังน้ำตื้นและสัตว์น้ำหายากฉลามหูดำ กุ้งมังกร 7 สี มาเป็นเวลา 3 ปี 6 เดือน โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นวาระยะเวลาดังกล่าวสามารถฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกลับคืนมาได้ 100% จึงให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดอ่าวมาหยาในวันที่ 1 มกราคม 2565 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทย นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวและท่องเที่ยว ได้มีรายได้หลังประสบปัญหาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มาเป็นเวลา 2 ปี ในวันนี้ถือเป็นวันปฐมฤกษ์ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปสัมผัส และเหยียบผืนทรายขาวละเอียดที่โอบล้อมไปด้วยแนวเทือกเขาของท้องทะเลอันดามันที่มีน้ำสีครามใสสะอาด โดยมีนายพุฒิพงศ์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยนายยงยุทธ์ นาควิโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 และนายปราโมทย์ แก้วนาม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี ร่วมเปิดอ่าวมาหยาอย่างเป็นทางการในการเปิดพุทธศักราชปีใหม่ 2565 ให้นักท่องเที่ยวชาวไทยทั่วประเทศและนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก สามารถท่องเที่ยวอ่าวมาหยาได้ตามแผนการบูรณาการและจัดการบริหารพื้นที่อ่าวมาหยาอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อระบบนิเวศวิทยาและทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งบนบกและในทะเลคือเรือทุกลำต้องเข้าจอดเทียบท่าที่บริเวณอ่าวโละซาม๊ะ เพื่อส่งและรับนักท่องเที่ยว
ส่วนด้านหน้าปากอ่าวมาหยาจะไม่ให้เรือเข้ามาในเขตห้วงห้ามอย่างเด็ดขาด ผู้ที่เข้าอ่าวมาหยาได้จะต้องจองผ่านแอปพลิเคชันคิวคิว ก่อนมาท่องเที่ยวเพื่อจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยว และรักษาความสมดุลทางธรรมชาติ รวมถึงต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรูปแบบนิวนอมอล นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเที่ยวชมได้ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. รวม 11 รอบๆละ 375 คนต่อ 1 ชั่วโมง รวมจำนวนนักท่องเที่ยว 4,125 คนต่อวัน และห้ามลงเล่นน้ำและอาบน้ำทะเลอย่างเด็ดขาด
ส่วนบรรยากาศโดยรวมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเที่ยวชมอ่าวมาหยาในวันนี้ เป็นไปอย่างคึกคักสวนใหญ่ยังคงเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย ชาวต่างชาติแถวยุโรป สแกนดิเนเวีย กลุ่มกลุ่มเอเชีย ต่างพึงพอใจในการบริหารจัดการของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ที่คอยอำนวยความสะดวกให้ตลอดอยู่ในพื้นที่อ่าวมาหยา ทั้งให้ความร่วมมือโดยการไม่ลงเล่นน้ำและว่ายน้ำ บางคนถึงกับนั่งและนอนอาบแดดอย่างสบายอารมณ์ในเวลา 1 ชั่วโมง ที่ขาดเสียไม่ได้คือทุกคนต้องถ่ายรูปเป็นที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งได้มาอ่าวมาหยาแล้ว ทั้งยังส่งไปให้เพื่อนๆได้ดูบรรยากาศความสวยงามของอ่าวมาหยาอีกด้วย
ด้านนางโชติมา ประเสริฐ นักท่องเที่ยวชาวไทย กล่าวว่ารู้สึกดีใจมากเพราะมาหลายครั้งแล้วไม่เคยได้เข้ามาในอ่าวมาหยาเลย และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เข้ามาประทับใจมาก ส่วนการไม่ให้ลงเล่นน้ำหน้าชายหาดนั้นรู้สึกเฉยๆ เพราะว่าเขาต้องการอนุรักษ์ปะการังน้ำตื้นและฉลามหูดำเอาไว้ให้รุ่นลูกรุ่นหลานเอาไว้ได้ดูถือว่าดี ส่วนการบริหารจัดการก็ถือว่าดี
โอกาสนี้นายนายยงยุทธ์ นาควิโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 กล่าวว่า วันนนี้เป็นวันแรกหลังจากที่ปิดอ่าวมาหยาจะร่วม 4 ปี ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก็ฟื้นฟูมาก ตนหวังว่านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศต่างพึงพอใจและมีความสุขในเทศกาลปีใหม่ ซึ่งได้เปิดตามนโยบายนายกรัฐมนตรี 1 มกราคม 2565 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ และตามนโยบายของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งอ่าวมาหยามันเป็นอัญมณีที่มีค่าสุดที่เมืองไทยเรามีในขณะนี้ หวังว่าทุคนจะร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวอย่างมีความสุข สำคัญที่สุดของเป้าหมายการเปิดอ่าวมาหยา นอกจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวเป็นแหล่งนันทนาการของนักท่องเที่ยวแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการดำรงอยู่ความยั่งยืนของทรัพยากรทั้งทางบกและทางทะเล โดยเฉพาะปัจจุบันมีฉลามหูดำ ซึ่งเป็นสัตว์ทะเลหายากได้มาอยู่อาศัยบริเวณหน้าหาดอ่างมาหยา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตรวจนับได้ร่วม 160 กว่าตัว ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนร่วมทั้งปะการัง ซึ่งด้านหลังอ่าวมาหยาคืออ่าวโล๊ะซ๊ามะเช่นเดียวกันปะการังได้รับการฟื้นฟูมามีความเจริญเติบโตขึ้นมา 3- 5 เซนติเมตร นั้นแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หลังจากที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ปิดอ่าวมาหยาเกือบรวม 4 ปี
#สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","1/1/2022","ภาคใต้","กระบี่","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220101233318405"], [19,"นักท่องเที่ยวแห่เที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน-เขาสก แน่นที่สุดในรอบ 2 ปี คาดสุราษฎร์เงินสะพัดกว่า 276 ล้านบาท","แหล่งท่องเที่ยวบริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา(เขื่อนเชี่ยวหลาน) อำเภอบ้านตาขุน , อุทยานแห่งชาติคลองพนม และอุทยานแห่งชาติเขาสก อำเภอพนม เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวไทยจากกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด นำรถยนต์ส่วนตัวเดินทางไปท่องเที่ยวถ่ายภาพและพักผ่อนจำนวนมาก ส่งผลให้บรรยากาศคึกคักมาก โดยเฉพาะรีสอร์ทที่พักในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก 30 แห่งกว่า 500 แห่งเต็มไปจนถึงวันที่ 2 มกราคม 2565 ที่มีจุดแคมป์ปิ้งยอดนิยมหลายแห่ง ที่ผู้ประกอบการได้ให้นักท่องเที่ยวอีกด้วย
นายไกรศักดิ์ พุทธสุภะ เจ้าของเขาสกกรีนวอลเล่ย์บอล รีสอร์ท ตำบลคลองศก อำเภอพนม และเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวเขาสก กล่าวว่า การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวดีที่สุดในรอบ 2 ปีจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ต้องปิดตัวไป แม้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวไทยไม่ใช่ชาวต่างชาติที่เป็นกลุ่มหลักของเขาสกแต่ก็ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นมาก เพราะอัดอั้นไม่ได้ออกท่องเที่ยวกันมานาน
นางสาวนันทวัน ศิริโภคพัฒน์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 - 3 มกราคม 2565 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ฝั่งแผ่นดินใหญ่ของ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (ไม่รวมเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) จำนวน 15,992 คน มีรายได้จากการท่องเที่ยว 63.81 ล้านบาท แต่ภาพรวมการท่องเที่ยวทั้งจังหวัดคาดจะมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 23.97 เปอร์เซ็นต์ จำนวนผู้เยี่ยมเยือน 31,740 คน มีรายได้จากการท่องเที่ยว 276.19 ล้านบาท
ไฟประดับตรงบริเวณวงเวียนหอนาฬิกา กลางเมืองยะลา ซึ่งเทศบาลนครยะลา ตกแต่งขึ้น ในปี 2022 ได้กลับมาสร้างสีสัน ความสุขให้กับพี่น้องประชาชน ชาวยะลา อีกครั้ง หลัง จ.ยะลา ผ่านพ้นช่วงวิกฤตโควิด-19
ควบคู่ไปกับจุดเช็คอิน แลนด์มาร์ครับปีใหม่ สโนแลนด์เมืองหิมะ ที่ดึงดูดใจเด็กๆ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง รวมถึงประชาชนทั่วไป ในยามค่ำคืน ที่ต่างก็ได้ นำบุตรหลาน ออกมาโพสท่า ถ่ายรูป สโนแลนด์เมืองหิมะ ตามมุมต่างๆ กันอย่างคึกคัก ถึงแม้นว่าหิมะจะไม่ตกเหมือนในคืน จัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 31 ธ.ค 64 แล้วก็ตาม แต่ทุกคนก็ยังอยากที่จะมา เซลฟี่ ถ่ายรูปในโทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป กับครั้งแรกในเมืองหิมะ เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก ส่งให้ครอบครัว เพื่อนฝูง ญาติพี่น้องทุกคน โดยเด็กๆ ต่างก็มีรอยยิ้มแห่งความสุข สนุกสนาน ที่ได้วิ่งเล่น จับทรายที่อยู่บนพื้น ซึ่งนานนับ 2 ปีแล้ว ที่บรรยากาศ แบบนี้ไม่เกิดขึ้นกับ จ.ยะลา หลังได้เกิดการะบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างหนัก
ขณะที่ภายในวงเวียนหอนาฬิกา YALA LIGHT NOW 2022 ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ประชาชนให้ความสนใจไปถ่ายรูปกันจำนวนมาก ซึ่งจะมีหลายๆมุมให้เลือก ทั้ง 4 ด้านไม่ว่าจะเป็น ปลามังกร ปลาพวงชมพู นกเขาชวา รวมถึง ไฟแสงเลเซอร์ ก็ยังคงอยู่ในความสนใจของเด็ก ที่พ่อ แม่นำมาวิ่งเล่นกัน
สำหรับการตกแต่งไฟประดับ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เทศบาลนครยะลา ได้จัดอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อมอบความสุข สร้างสีสัน บรรยากาศในยามค่ำคืนที่สว่างไสวให้กับเมืองยะลา สะท้อนความเป็นอยู่ วิถีชีวิตของประชาชน ในพื้นที่ ที่อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ในสังคมพหุวัฒนธรรมชายแดนใต้
รุ่งสุรีย์ กิตติกุลสวัสดิ์ สทท.ยะลา
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","2/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220102080259419"], [21,"หนองคาย วันหยุดยาวปีใหม่แห่เที่ยวสกายวอล์คคึกคัก","
บรรยากาศการท่องเที่ยววันหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จังหวัดหนองคายคึกคัก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาท่องเที่ยวกันเป็นครอบครัว มาเป็นกลุ่มญาติและกลุ่มเพื่อน แห่เที่ยวสกายวอล์ค ที่วัดผาตากเสื้อ อำเภอสังคม จุดชมวิวกระจกใสแห่งแรกของประเทศไทย กันตั้งแต่เช้าและตลอดทั้งวัน บรรยากาศการท่องเที่ยวจังหวัดหนองคายในวันหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ คึกคักตั้งแต่เช้า นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดหนองคาย
จุดท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดหนองคาย เป็นจำนวนมากอีกจุดหนึ่งคือ สกายวอล์ค ที่วัดผาตากเสื้อ ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย จุดชมวิวกระจกใสแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งวันนี้มีนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่พากันมาเป็นครอบครัว มาเป็นกลุ่มญาติและกลุ่มเพื่อนๆ โดยได้เดินทางมาท่องเที่ยวที่สกายวอล์คกันตั้งแต่เช้าและตลอดทั้งวัน ต่างชมทัศนียภาพ 2 ฝั่งโขงไทย -ลาวมุมสูงที่สวยงามและได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกบนสกายวอล์คที่มีฉากหลังเป็นวิวมุมสูงสองประเทศไทย-ลาวกัน
สำหรับสกายวอล์ค แห่งนี้ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นชม อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2559 เปิดให้ชมตั้งแต่เวลา 09.30 น. 16.30 น. ขณะนี้ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดหนองคาย มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาสัมผัสแล้วมากกว่า 1 ล้านคน ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดหนองคาย ส่วนใหญ่จะต้องเดินทางมาสัมผัสสกายวอล์คแห่งนี้
บรรยากาศที่ท่าเรืออ่าวฉลอง ตำบลฉลอง อำเภอเมืองภูเก็ต ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ท่าเรือหลักสำคัญของการท่องเที่ยวทางทะเลของเกาะภูเก็ต มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นจำนวนมาก เพื่อเดินทางออกไปท่องเที่ยวตามเกาะแก่งต่างๆ ทั้งในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและพื้นที่ใกล้เคียงอย่างเกาะพีพี จังหวัดกระบี่ โดยมีทั้งการท่องเที่ยวแบบ One Day Trip และพักค้างคืน
ชหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลความปลอดภัยและผู้ประกอบการ ตรวจสอบความพร้อมของท่าเทียบเรือ ตัวเรือ อุปกรณ์ประจำเรือ ผู้ควบคุมเรือและคนประจำเรือ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว รวมทั้งการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด เช่น การวัดอุณหภูมิร่างกาย การตรวจสอบ Application หมอพร้อม หมอชนะ ของนักท่องเที่ยวและการเน้นย้ำการสวมหน้ากากอนามัย
บรรยากาศการท่องเที่ยวทางทะเลของจังหวัดภูเก็ต เริ่มมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 ซึ่งถือเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ที่ทะเลและเกาะแก่งต่างๆ มีความสวยงาม พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว ให้มาชมความงดงามใต้ทัองทะเล ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น ชมฝูงปลาและหากโชคดีจะพบเห็นโลมาเล่นน้ำช่วงเกาะไม้ท่อน เป็นอีกหนึ่งความงดงามทางธรรมชาติที่สร้างความประทับใจใหกับนักท่องเที่ยวและสร้างเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดภูเก็ต ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวทางทะเลในช่วงเทศกาลปีใหม่กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากสถานการณ์โควิด-19
วันนี้ (2 มกราคม 2565) นางวรรณา พรหมบุญทอง ผู้อำนวยการศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 2 จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 2 จังหวัดตรัง เปิดให้บริการนักท่องเที่ยว/ ประชาชน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ บริการจุดนิทรรศการถ่ายทอดความรู้การผลิตและขยายพันธ์ุพืช และสนับสนุนต้นพันธุ์กระท่อม ต้นพันธุ์พืชผัก แก่ประชาชน มีจุดบริการและให้ความรู้แก่เกษตรประชาชนเรื่องการเพาะเลี้ยงและใช้ประโยชน์จากแหนแดงด้วย
ทั้งนี้ ในแต่ละวันจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชม กว่า 200 คนต่อวัน ซึ่งนอกจากจะมีพันธุ์พืชต่างๆแต่ให้เป็นของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชนแล้ว ยังมีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดนิทรรศการและให้ความรู้ในด้านต่างๆแก่ประชาชนที่เข้ามาเยี่ยมชมด้วย ซึ่งประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชมส่วนใหญ่ให้ความสนใจการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ โดยกว่าจะมาเป็นต้นพันธ์ุที่ดีจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ บรรจุถุงเพาะชำส่งมอบให้เกษตรกร ต้องผ่านกระบวนการล้างเนื้อเยื่อและปลูกอนุบาลด้วยความตั้งใจ เพื่อให้เกษตรกรได้รับต้นพันธุ์ที่ปลอดโรค ต้นสมบูรณ์และแข็งแรงที่สุด จึงขอให้ประชาชนและเกษตรกรมั่นใจได้ว่า พืชพันธุ์ดีต้องที่ศูนย์ขยายพันธุ์พืชกรมส่งเสริมการเกษตร เท่านั้น
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","2/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220102110939468"], [24,"ผู้ว่าฯ แพร่ เยี่ยมชมงาน OTOP ภูมิภาค ความสุขผลิบานทั่วไทย มียอดจำหน่ายประจำวันที่ 1 มกราคม 2565 จำนวน 234,350 บาท","นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ พร้อมด้วย นางวันทนา พ่วงบางโพ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดแพร่ เข้าเยี่ยมชมให้กำลังใจและอุดหนุนสินค้าของผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP ที่นำสินค้ามาจำหน่ายในงาน OTOP ภูมิภาค ความสุขผลิบานทั่วไทย (ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564) พื้นที่จังหวัดแพร่ ในระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2564 4 มกราคม 2565 ที่บริเวณลานจัดงานตรงข้ามอนุสาวรีย์พระยาไชยบูรณ์ ถนนยันตรกิจโกศล ตำบลป่าแมต อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ เพื่อส่งเสริมเผยแพร่การนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ในการพัฒนาสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ส่งเสริมช่องทางการตลาดให้กับสินค้า OTOP ตลอดจนเพื่อให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ได้เรียนรู้ทักษะด้านการบริหารจัดการและการตลาด โดยมีผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP จากทั่วประเทศเข้าร่วมจำหน่ายสินค้าในงานแต่ละจุด ประมาณ 300 บูธ
โดยมียอดการจำหน่ายประจำวันที่ 1 มกราคม 2565 จำนวน 234,350 บาท ผู้ประกอบการที่มียอดจำหน่ายสูงสุด 3 ลำดับแรกประจำวันที่ 1 มกราคม 2565 ได้แก่ สักชัยเฟอร์นิเจอร์ ยอดจำหน่าย 45,000 บาท กลุ่มวิสาหกิจชุมชนณหทัย เนเจอรัลเฮิร์บ ยอดจำหน่าย 31,200 บาท และกลุ่มทอผ้าบ้านปิน ยอดจำหน่าย 15,000 บาท
สำหรับยอดจำหน่ายสินค้าสะสม 4 วัน (ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2564 ถึง 1 มกราคม 2565) รวมทั้งสิ้น 643,830 บาท ผู้ประกอบการที่มียอดจำหน่ายสะสมสูงสุด 3 ลำดับแรก คือ สักชัยเฟอร์นิเจอร์ ยอดจำหน่าย 67,700 บาท ญเนศไทยดีไซน์ ยอดจำหน่าย 61,500 บาท และหม้อห้อมน้องผึ้ง ยอดจำหน่าย 55,980 บาท
ทั้งนี้ จังหวัดแพร่ มีผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP เข้าร่วมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าภายในงาน จำนวน 58 ราย แบ่งเป็นประเภท คือ ประเภทอาหาร จำนวน 6 ราย ประเภทเครื่องดื่ม จำนวน 1 ราย ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย จำนวน 25 ราย ประเภทของใช้ของที่ระลึก จำนวน 16 ราย ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร จำนวน 2 ราย และประเภทชวนชิม จำนวน 7 ราย
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","2/1/2022","ภาคเหนือ","แพร่","สวท.แพร่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220102120624514"], [25,"บรรยากาศท่องเที่ยววันหยุดยาวปีใหม่ เขื่อนป่าสักฯ คึกคัก นักท่องเที่ยวพักรถแวะเที่ยว นั่งรถไฟตัวหนอน ชมวิวสันเขื่อน เที่ยวชมพื้นที่จัดแสดงอุโมงค์ปลาน้ำจืด ก่อนเดินทางกลับเข้า กทม.","บรรยากาศ ท่องเที่ยววันหยุดยาว เนื่องในเทศกาลปีใหม่ ที่ลพบุรีคึกคัก โดยเฉพาะที่ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี นักท่องเที่ยว ซึ่งเริ่มทยอยเดินทางกลับจากภาคเหนือ และอีสาน เพื่อเข้า กทม.ล่วงหน้า ต่างพากันจอดแวะพักรถ ณ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อใช้บริการนั่งรถไฟตัวหนอน ลากไปแบบชิลล์ๆ เพื่อชมวิวไปตามสันเขื่อน ระยะทางไปกลับ 9,720 เมตร โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ซึ่งมีลมพัดเย็นสบายตลอดทั้งวัน เพื่อชมความงดงามและความยิ่งใหญ่บนสันเขื่อนของพ่อ พร้อมแวะถ่ายรูปเช็คอิน เก็บบรรยากาศทัศนียภาพบริเวณพื้นที่โดยรอบของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งเกิดจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ซึ่งปีนี้ยังคงมีน้ำเต็มเขื่อน จนทางเขื่อนป่าสักฯ ต้องจัดขบวนรถไฟตัวหนอน เพิ่มอีกหลายขบวน เพื่อให้เพียงพอต่อจำนวนนักท่องเที่ยว ในแต่ละรอบ เนื่องจากในแต่ละขบวนมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวให้นั่งแบบมีระยะห่าง ตามมาตรการการป่องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19 ทั้งนี้ ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมฟรี พื้นที่จัดแสดงอุโมงค์พันธุ์ปลาน้ำจืดของเขื่อนป่าสักฯ เพื่อเรียนรู้แหล่งกำเนิด และชนิดของพันธุ์ปลาต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำของเขื่อนปลาสักชลสิทธิ์ ก่อนเดินทางกลับเข้า กทม. อีกด้วย
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","2/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","ลพบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220102124837553"], [26,"ประชาชนเที่ยววัดถ้ำ ยะลา ไหว้พระปีใหม่ เพื่อความเป็นสิริมงคลคึกคัก","ช่วงของเทศกาลปีใหม่ ที่มีวันหยุดติดต่อกัน หลายๆ ครอบครัว ที่ลูกหลาน ญาติพี่น้องได้มีโอกาสเดินทางกลับมาเยี่ยม บ้านเกิดก็มักจะตระเวนเดินทางไปไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ตนเองเคารพนับถือยังสถานที่ ต่างๆ
สำหรับ จ.ยะลา ซึ่งผู้ที่เป็นลูกหลานเดินทางนำครอบครัวตนเองจากพื้นที่อื่น มาเยี่ยมพ่อ แม่ ก็จะพากันไปที่วัดถ้ำ หรือ คูหาภิมุข เพื่อขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลในวันขึ้นปีพุทธศักราชใหม่ 2565 เมื่อเดินทางมาถึง จ.ยะลา และก่อนเดินทางกลับไปทำงาน ซึ่งที่นี่จะมีทั้งพระพุทธไสยาสน์ ซึ่งเป็นพระนอนขนาดใหญ่อายุนับพันปี พระพุทธรูป ต่างๆ ที่ตั้งประดิษฐ์ฐานวางเรียงรายภายในวัดถ้ำ รวมทั้ง พ่อเจ้าเขา หรือ ยักษ์วัดถ้ำ ที่ยืนตระหง่านสูงเด่นที่บริเวณทางขึ้นถ้ำ
ชาวนราธิวาสที่เดินทางกันมาเป็นกลุ่ม บอกว่า ได้เดินทางไปไหว้พระที่วัดช้างไห้ จ.ปัตตานี มาแล้ว ก่อนที่จะมาไหว้พระที่วัดถ้ำยะลา ซึ่งเป็นสิ่งที่ ชาว จ.ยะลา เคารพนับถือ ก็จะขอพรให้สุขภาพดี ปราศจากโรคภัย ขณะที่ ชาวมหาสารคราม ซึ่งเดินทางมา พร้อมกับครอบครัวที่เป็นชาวยะลา บอกว่า ปีนี้ าได้มีโอกาสเดินทางมายะลา แต่ก็ยังกลัว และกังวลกับโควิด โอมิครอน อยู่ โดยส่วนตัวทั้งตนเอง และครอบครัวก็จะสวมใส่หน้ากากอนามัย มีเจลพกติดตัวเสมอ เพื่อป้องกัน วันนี้ ก่อนจะเดินทางกลับก็ได้ชักชวนกันมาไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่
ทั้งนี้ นอกจากชาวยะลา และจังหวัดต่างๆ จะให้ความสนใจ เดินทางมาไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดถ้ำยะลา แล้ว ก็ยังมีกลุ่มชาวมอญ ชาวเมียน ที่ทำงาน ใน จ.ยะลา ได้นำครอบครัวมาไหว้พระ ด้วยซึ่งนอกจากการทำบุญไหว้พระแล้วก็ยัง ซื้ออาหารให้ลิงที่วัดถ้ำซึ่งมีนับสิบ ๆ ตัว ขณะที่ การปฎิบัติตามมาตรการสาธารณสุข เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 ประชาชนยังคงให้ความร่วมมือสวมใส่หน้ากากอนามัยกันทุกคน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","2/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220102125326558"], [27,"นักท่องเที่ยวพาครอบครัวแช่ออนเซ็นบ่อน้ำร้อนเบตง สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยะลา ในวันหยุดช่วงเทศกาลปีใหม่","
วันนี้ (2 ม.ค. 65) บรรยากาศการท่องเที่ยวในวันหยุดช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่พาครอบครัว เพื่อนฝูง มาพักผ่อนตามสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติในพื้นที่ โดยเฉพาะที่บ่อน้ำร้อนเบตง สถานที่ท่องเที่ยวอินเทรนด์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สามรถแช่ออนเซ็น ไม่ต้องโกอินเตอร์ไกลถึงญี่ปุ่น ก็สามารถมาเที่ยวเพื่อสุขภาพได้ โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองนักท่องเที่ยวก่อนจะเข้ามาบ่อน้ำร้อนแห่งนี้เพื่อเฝ้าระวังป้องกันเชื้อไวรัส COVID-19
สำหรับบ่อน้ำร้อนเบตง ตั้งอยู่ในหมู่บ้านจะเราะปะไร ตำบลตาเนาะแมเราะ จังหวัดยะลา เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติขนาดใหญ่มีขนาดพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ โดยจะมีน้ำร้อนผุดขึ้นมาจากใต้ดิน ประกอบด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ มากมาย นักท่องเที่ยวจะนิยมนำไข่ไก่ และไข่นกกระทาไปต้มในบ่อน้ำร้อน อุณหภูมิของน้ำอยู่ที่ประมาณ 80 องศาเซลเซียส สามารถต้มไข่ไก่ได้จนสุกภายใน 10 นาที พร้อมทั้งอาบ หรือแช่เท้าเล่น บ่อแช่น้ำร้อนใหม่และอาคารธาราบำบัด โดยเชื่อกันว่าน้ำแร่แห่งนี้ สามารถบรรเทารักษาโรคภัยต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี อาทิ โรคปวดเมื่อยโรคเหน็บชา โรคผิวหนัง เป็นต้น ซึ่งโดยรอบของบ่อน้ำร้อนแห่งนี้ได้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้มีความสวยงาม ในช่วงที่ปิดให้บริการจากสถานการณ์โควิด แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ เพื่อให้เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนหย่อนใจ และส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ นอกจากนี้มีเจ้าหน้าที่คัดกรองนักท่องเที่ยว
ภายในบ่อน้ำร้อนเบตง ยังมีสระน้ำขนาดใหญ่ สำหรับกักน้ำจากน้ำพุร้อนเพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ใช้อาบหรือแช่เท้าเล่น ซึ่งแต่ละโซนออกแบบอย่างได้มาตรฐาน ถูกสุขลักษณะทั้งบ่อน้ำร้อนบ่อใหญ่ บ่อแช่น้ำร้อนใหม่และอาคารธาราบำบัด โดยเชื่อกันว่าน้ำแร่แห่งนี้ สามารถบรรเทารักษาโรคภัยต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี อาทิ โรคปวดเมื่อยโรคเหน็บชา โรคผิวหนัง เป็นต้น ตลอดจนมีอาคารสำหรับพักค้างคืน ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายอย่างครบครัน
ภาพ/ข่าว อดินันท์ มะลี อ.เบตง จ.ยะลา 084-8559605
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","2/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.เบตง จ.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220102125455560"], [28,"เจ้าท่าภูมิภาค สาขาตราด อำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เดินทางกลับจากการท่องเที่ยวเกาะกูด ช่วงส่งท้ายวันหยุดเทศกาลปีใหม่ 2565","(2 ม.ค. 65) บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวส่งท้ายช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2565 ที่ท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยวบ้านแหลมศอก ตำบลอ่าวใหญ่ อำเภอเมืองตราด เป็นไปด้วยความคึกคัก มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมากเดินทางกลับหลังการพักผ่อนช่วงหยุดยาวจากการท่องเที่ยวเกาะกูด จังหวัดตราด แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลยอดนิยมอีกแห่งของจังหวัดตราด โดยมีเจ้าหน้าที่ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาตราด คอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่โดยสารมากับเรือโดยสารประจำทาง
ในขณะที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ บางส่วนยังคงเดินทางไปท่องเที่ยวเกาะกูดผ่านท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยวบ้านแหลมศอก ซึ่งเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาตราด ยังคงตรวจความพร้อมของเรือโดยสารประจำทาง รวมทั้งยังแนะนำให้ผู้โดยสาร สวมใส่ชูชีพขณะโดยสารเรือทุกครั้ง รวมทั้งแนะนำให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพื่อป้องกันปัญหาโควิด -19 อีกด้วย
ทั้งนี้ จากข้อมูลการใช้บริการของนักท่องเที่ยว ผ่านท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยวบ้านแหลมศอก ของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาตราด ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 พบว่า มีเรือโดยสารให้บริการจำนวน 8 ลำ มีนักท่องเที่ยวใช้บริการทั้งขาไป กลับ เฉลี่ย 1,500 - 2,000 คนต่อวัน ทั้งนี้เนื่องจากนักท่องเที่ยวนิยมหันมาเที่ยวเกาะกูดกันมากขึ้น อาจจะเป็นสาเหตุนักท่องเที่ยวต้องการไปหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","2/1/2022","ภาคตะวันออก","ตราด","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220102150031608"], [29,"ขนส่ง จ.อุตรดิตถ์ เตรียมรถโดยสาร พร้อมรองรับประชาชนเดินทางกลับในช่วงหลังเทศกาลปีใหม่","วันนี้ (2 ม.ค.64) นายประวิทย์ กิจประยูร ขนส่ง จ.อุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 สำนักงานขนส่งจ.อุตรดิตถ์ ได้ติดตามการเดินทางของประชาชนที่ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งในปีนี้มีประชาชนใช้บริการไม่มากนัก เนื่องจากมีการเดินทางด้วยรถส่วนตัวมากขึ้น และประชาชนส่วนใหญ่เริ่มทยอยเดินทางก่อนถึงช่วงวันหยุดยาว ทำให้การขนส่งสาธารณะไม่แออัด
อย่างไรก็ตาม ในช่วงใกล้สิ้นสุดวันหยุดยาว ประชาชนเริ่มมีการเดินทางกลับ ขนส่ง จ.อุตรดิตถ์ ได้มีการเตรียมความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะโดยเน้นย้ำกับบริษัทเดินรถจัดรถโดยสาธารณะให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ไม่ให้มีประชาชนตกค้าง ณ สถานีขนส่ง นอกจากนี้ได้มีการตรวจสอบความพร้อมของพนักงานขับรถทุกเที่ยว และตรวจสอบความพร้อมของรถทุกคัน ก่อนออกจากสถานีขนส่ง จ.อุตรดิตถ์
ทั้งนี้ จังหวัดอุตรดิตถ์ มีสถิติอุบัติเหตุสะสม 4 วันระหว่างวันที่ 29 ธ.ค.64 1 ม.ค.65 เกิดอุบัติเหตุสะสม จำนวน 46 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 47 ราย ผู้เสียชีวิต 1 ราย ส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมผู้ขับขี่ ทั้งเมาแล้วขับและขับรถเร็วเกินกำหนด จึงต้องขอความร่วมมือผู้ใช้รถใช้ถนน ระมัดระวังในการเดินทาง มีสติและไม่ประมาท เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทั้งต่อตนเองและผู้อื่น
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","2/1/2022","ภาคเหนือ","อุตรดิตถ์","สวท.อุตรดิตถ์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220102155715620"], [30,"สำนักงานขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ ยืนยัน พร้อมจัดเตรียมรถโดยสารเสริม รองรับประชาชน ที่จะเดินทางกลับ ในวันพรุ่งนี้","นายสยาม ภู่ทรัพย์สิน หัวหน้ากลุ่มวิชาการขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับแล้ว การจองตั๋วรถโดยสารเที่ยวปกติขณะนี้เต็มหมดแล้ว ซึ่งสำนักงานขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เตรียมรถโดยสารเสริม คอยให้บริการประชาชน ทั้งนี้คาดการณ์ว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีประชาชนมาใช้บริการมากขึ้น ซึ่งสำนักงานขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ตั้งจุดคัดกรองและสุ่มตรวจ ATK กับผู้มาใช้บริการ ซึ่งทุกคนจะต้องผ่านจุดคัดกรองก่อนขึ้นไปยังรถโดยสาร เพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดของโควิด-19
ส่วนมาตรการการเตรียมความพร้อมในการให้บริการประชาชน ขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ได้ดำเนินการ 3 กิจกรรม คือ การตรวจความพร้อมของรถและพนักงานขับรถ จำนวน 3 แห่ง รวม 251 คัน / ตรวจคัดกรองโควิด-19 กับผู้ขับรถและผู้โดยสาร 1,232 คน มีการสุ่มตรวจจับความเร็วบนถนนสายหลัก มีการสุ่มตรวจ 231 คัน มีความเร็วเกินกำหนด 11 คัน ความเร็วเฉลี่ยประมาณ 104 กม/ชม. รวมถึงเฝ้าระวังการใช้ความเร็วของรถด้วยระบบ GPS เพื่อให้ประชาชนเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","2/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","บุรีรัมย์","สวท.บุรีรัมย์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220102162906626"], [31,"สินค้าหลายชนิด ในตลาด อ.ศีขรภูมิ ราคาแพง รับปีใหม่","จากการสำรวจตลาดสดเทศบาลตำบลศีขรภูมิ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ของผู้สื่อข่าว ในพื้นที่ พบว่า ราคาเนื้อหมูที่ขยับขึ้นสูงถึงกิโลกรัมละ 200 บาท ในขณะที่ผักสดบางชนิดราคาคงที่ แต่บางชนิดมีราคาสูงขึ้นตาม
เจ้หมวย เจ้าของเขียงหมูในตลาดสดเทศบาลตำบลศีขรภูมิ กล่าวว่า ขายเนื้อหมูมานานว่า 20 ปี ราคาหมูที่เคยแพงเต็มที่ ประมาณกิโลกรัมละ 120 130 บาท ถือว่าแพงสุดสุดแล้ว มาในช่วงเทศกาลปีใหม่ปีนี้ ราคาหมูขยับจากฟาร์มประมาณ 100 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 60-80บาท ไปสูงสุด 120 บาท ทำให้เขียงหมูในตลาดจำเป็นต้องขยับตัวตามไปด้วย และบรรดาผู้บริโภคจำเป็นต้องจับจ่ายไปเลี้ยงฉลองในห้วงเทศกาลปีใหม่ด้วย
สำหรับเนื้อหมูเนื้อแดงซึ่งก่อนนี้ขายเพียง 160-180 บาทต่อกิโลกรัม ถึงวันนี้ราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงกิโลกรัมละ 200 บาท เครื่องใน สันนอก สันใน ก็อยู่ในราคาประมาณนี้
ด้านแม่ค้าขายผักสด แม่ค้าขายผลไม้ ได้ให้ข้อมูลเช่นกันว่า มีผักบางชนิดราคาสูง แต่ยังดีที่จำพวกผักชี ผักกาด คะน้า ราคายังไม่ขยับ เนื่องจากว่าในห้วงนี้ประชาชนในเขตพื้นที่ด้านนอกได้ปลูกและนำมาขายเองโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง
อย่างไรก็ตามในขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจผักผลไม้ ตลอดจนเนื้อหมูภายในตลาด ได้มีพี่น้องประชาชน ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ต่างทยอย มาจับจ่ายซื้อของกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปประกอบอาหารให้กับพี่น้องที่เดินทางมาพักผ่อนในการหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","2/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","สุรินทร์","สวท.สุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220102182057645"], [32,"ถนนคนเดิน ย่านเมืองเก่า จังหวัดภูเก็ต คึกคักช่วงเทศกาลปีใหม่ มีจัดการแสดงศิลปวัฒนธรรมต้อนรับนักท่องเที่ยว ควบคู่การชมความสวยงามของอาคารแบบชิโน-โปรตุกีส","วันที่ 2 มกราคม 2565 ที่ บริเวณถนนคนเดิน ย่านเมืองเก่า จังหวัดภูเก็ต ทั้งบริเวณถนนถลาง ซอยรมณีย์ ถนนดีบุก มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาชมความงามของอาคารสถาปัตยกรรมชิโน-โปรตุกีส พร้อมเก็บภาพประทับใจ สัมผัสวิถีชีวิตย่านเมืองเก่า เลือกซื้อสินค้าของฝากของที่ระลึก ทั้งเสื้อผ้าพื้นเมือง และแวะรับประทานอาหารประจำถิ่น พร้อมนั่งชมการแสดงศิลปวัฒนธรรม ที่ทางสภาวัฒนธรรมตำบลตลาดใหญ่ ชุมชนย่านเมืองเก่าภูเก็ต ชุมชนคุณธรรมวัดมงคลนิมิตร และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต ร่วมจัดการแสดงศิลปวัฒนธรรมของเครือข่ายทางวัฒนธรรม ที่เปรียบเสมือนเป็นการแสดงของฑูตทางวัฒนธรรมแห่งสยาม ในการต้อนรับนักท่องเที่ยว มาให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงดงามอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ถนนคนเดินย่านเมืองเก่าจังหวัดภูเก็ต โดยปกติจะเปิดเฉพาะวันอาทิตย์ แต่เนื่องในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ จึงมีการเปิดตลาด 2 วัน คือ วันที่ 1 และ วันที่ 2 มกราคม 2565 เนื่องจากถนนคนเดินย่านเมืองเก่าภูเก็ต เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจและเดินทางมาชมความงาม สัมผัสวิถีชีวิตความเป็นเมืองเก่าของเกาะภูเก็ต ทำให้บรรยากาศในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ ย่านถนนคนเดินเมืองเก่า จังหวัดภูเก็ตมีความคึกคักมากกว่าปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวต่างให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","2/1/2022","ภาคใต้","ภูเก็ต","สวท.ภูเก็ต","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220102183722647"], [33,"สนับสนุุนการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยี ยกระดับเศรษฐกิจการค้าชายแดน 6 ประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง","นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กล่าวว่า ได้ร่วมมือกับสถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง ในการสนับสนุนการนำเทคโนโลยีนวัตกรรมดิจิทัลยกระดับเศรษฐกิจและสังคมภายใต้โครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจใน 6 ประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ประกอบด้วย ไทย เมียนมา กัมพูชา ลาว เวียดนาม และมณฑลยูนนานของจีน
โดยเน้นการสร้างความร่วมมือและหาแนวทางแลกเปลี่ยนประสบการณ์และนวัตกรรมด้านเศรษฐกิจดิจิทัลผ่านกิจกรรมต่างๆ ช่วยขับเคลื่อนทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมให้เติบโต พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในการก้าวเข้าสู่ยุคสังคมดิจิทัลสมัยใหม่ภายใต้กรอบการพัฒนาทางการเกษตรและการพาณิชย์ การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน และพลังงานและนวัตกรรมสิ่งแวดล้อม มุ่งพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และเสริมสร้างศักยภาพ ขจัดความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำให้แก่กลุ่มประเทศสมาชิกควบคู่กับการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจการค้าชายแดน
จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนในช่วงปี 2564 มีการส่งออกแล้ว 778,367 ล้านบาท ขยายตัวกว่าร้อยละ 38 ส่วนมูลค่าการค้าการส่งออกและนำเข้า 9 เดือนแรกของปี 2564 มีมูลค่ากว่า 1.2 ล้านบาท
","3/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220103114947759"], [34,"ขนส่งแม่สะเรียง เตือนผู้ขับขี่ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉินพร่ำเพรื่อ ลดอุบัติเหตุทางถนน","
นายพิษณุ พันธ์นัดที หัวหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดแม่ฮ่องสอน สาขาอำเภอแม่สะเรียง เปิดเผยว่า ผู้ขับขี่หลายคนคงเคยพบเห็นพฤติกรรมเปิดไฟฉุกเฉินพร่ำเพรื่อบ่อยครั้ง หรือบางครั้งเป็นตัวเองที่เผลอทำพฤติกรรมเหล่านี้ จึงนำข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบก มาประชาสัมพันธ์เพื่อให้ผู้ขับขี่หยุดพฤติกรรมเปิดไฟฉุกเฉินโดยไม่จำเป็น เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ เพิ่มความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของทุกคน
อย่างแรก เปิดไฟฉุกเฉินเพื่อข้ามแยก เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ เพราะผู้ขับร่วมทางอาจเห็นแค่ไฟกะพริบมุมหน้ามุมเดียว ไม่รู้ว่าเรากำลังจะเตรียมเลี้ยวไปยังด้านซ้าย-ขวา หรือตรงไป วิธีขับรถข้ามทางแยกที่ถูกต้อง ให้มองซ้ายมองขวา เมื่ออยู่ในระยะปลอดภัยก็ขับข้ามทางแยกไปเลย โดยไม่ต้องเปิดไฟฉุกเฉิน อีกอย่างคือ การเปิดไฟฉุกเฉินจอดรถ ในพื้นที่หรือเวลาห้ามจอด เป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง และการจอดรถในที่ห้ามจอด หรือจอดรถกีดขวางการจราจร มีโทษปรับสูงสุด 500 บาท
กรณีที่ฝนตกหนัก หมอกลงจัด ทัศนวิสัยแย่ การขับรถตามหลัง รถที่เปิดไฟฉุกเฉินระยะเวลานานๆ ทำให้ดวงตาพร่ามัว และหากมีรถหลายคันเปิดไฟฉุกเฉินพร้อมกันจะยิ่งทำให้กะระยะได้ยาก หากพบว่า ทัศนวิสัยไม่ดี ควรเปิดไฟหน้าพร้อมไฟตัดหมอก และหากทัศนวิสัยแย่ จนมองไม่เห็นทางควรจอดหลบ อย่างปลอดภัยและควรเปิดไฟฉุกเฉินไว้ด้วย
ดังนั้น ไฟฉุกเฉินควรใช้ตอนรถจอดเสียที่จอดอยู่กับที่ หรือ รถที่วิ่งมาด้วยความเร็วแล้วเจอสิ่งกีดขวาง หรือเจออุบัติเหตุข้างหน้า จำเป็นต้องเบรกกะทันหัน อาจเปิดไฟฉุกเฉินในช่วงสั้นๆ เพื่อเตือนให้รถคันหลังระวังและชะลอความเร็วได้ เมื่อรถยนต์ที่ตามมาเบรก และจอดต่อรถเราแล้วควรปิดไฟฉุกเฉิน เพราะการเปิดไฟฉุกเฉินพร่ำเพรื่อ จะทำให้ใช้ไฟเลี้ยวซ้าย-ขวาไม่ได้ สร้างความสับสนให้รถคันหลัง เพราะไม่รู้ว่าเราต้องการเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลน จึงไม่ใช่สิ่งที่ควรกระทำ และสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเปิดหรือไม่เปิดไฟฉุกเฉินในสถานการณ์ใดๆ ต้องมีความปลอดภัยต่อทุกคนเพิ่มขึ้น ไม่ใช่ลดลง
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","3/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220103110405739"], [35,"ขนส่งจังหวัดภูเก็ต พร้อมให้บริการประชาชนในช่วงการเดินทางกลับ หลังจากวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 เน้นย้ำความพร้อมของรถโดยสาร พนักงานขับรถ และการป้องกันโรคโควิด-19 ตลอดเส้นทาง","วันที่ 3 มกราคม 2565 นายจตุรงค์ แก้วกสิ ขนส่งจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต ได้เตรียมความพร้อมในการดูแลอำนวยความสะดวก ให้กับประชาชนที่เดินทางการกลับไปปฏิบัติหน้าที่ หลังจากวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 โดยการประสานความร่วมมือผู้ประกอบการให้จัดเตรียมรถโดยสารประจำทางและรถโดยสารไม่ประจำทาง ให้เพียงพอกับความต้องการเดินทางของประชาชน เพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง
พร้อมกันนี้ สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต ได้เน้นย้ำการจัดระเบียบการเดินรถให้มีคล่องตัว และได้มีการจัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ (ชั่วคราว) ที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารทั้ง 2 แห่ง เพื่อดูแลและป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ และคอยอำนวยความสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากดูแลความปลอดภัยด้านยานพาหนะแล้ว ได้เน้นย้ำให้มีการปฏิบัติตามมาตรการทางด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งมีการคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย การสวมหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง มีบริการเจลแอลกอฮอล์ และการเว้นระยะห่าง พร้อมกับงดให้บริการอาหารบนรถระหว่างการเดินทาง
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ทางขนส่งจังหวัดภูเก็ต ดำเนินการอย่างต่อเนื่องแม้ไม่ใช่ช่วงเทศกาลก็ตาม คือการตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถ ที่ได้ควบคุมเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับก่อนนำรถออกให้บริการ โดยพนักงานขับรถต้องมีใบอนุญาตขับรถที่ถูกต้อง ไม่มีสารเสพติด แอลกอฮอล์ และชั่วโมงการขับรถไม่เกินที่กฎหมายกำหนด ส่วนรถโดยสารต้องมีสภาพสมบูรณ์ มีระบบ GPS พร้อมในการติดตามตลอดเส้นทาง เพื่อความปลอดภัยของประชาชนสูงสุด
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","3/1/2022","ภาคใต้","ภูเก็ต","สวท.ภูเก็ต","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220103113033752"], [36,"ศรีสะเกษผนึกพลังราษฎร์รัฐเดินแบบผ้าอัตลักษณ์ชุมชนคนสี่เผ่าภายใต้ธีมงาน \"ผ้าทอเบญจศรีใต้ร่มพระบารมีลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ\"","เมื่อเร็วๆ นี้ ที่บริเวณการจัดงาน ณ เวทีกลางงานเทศกาลปีใหม่สี่เผ่ไทยศรีสะเกษ ประจำปี 2565 นำโดย นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และนายมัลลิกา พุฒิชาติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมเหล่าทัพนางแบบที่สวมใส่ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ\" ผ้าทอเบญจศรี ผ้าอัตลักษณ์คน 4 เผ่าศรีสะเกษ ที่มีออกแบบตัดเย็บให้เหมาะสมสวยงามยิ่งแก่ผู้สวมใส่ เพื่อเป็นส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ที่สำคัญ เน้นส่งเสริมการใช้ผ้าไทยและประชาสัมพันธ์
ผ้าอัตลักษณ์จังหวัดศรีสะเกษให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้น ควบคู่สร้างความรักความสามัคคีของภาคราชการ ภาคเอกชนและประชาชน พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก สู่สร้างอาชีพและรายได้ให้แก่คนในชุมชนอย่างยั่งยืน
อีกทั้งในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ มุ่งให้คนไทยได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นของขวัญปีใหม่ เพื่อส่งความสุขให้แก่ผู้รับด้วยผลิตภัณฑ์ชุมชน ที่หลากหลายจากทั้ง 22 อำเภอมารวมไว้ใจกลางเมืองศรีสะเกษ เพื่อให้ผู้สนใจเลือกช้อปกันอย่างจุใจ เป็นการช่วยเหลือส่งเสริมสนับสนุน ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ให้มีช่องทางการตลาด มีร้ายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนเพิ่มขึ้น ควบคู่ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนฐานรากให้มีความเข้มแข็งพร้อมสร้างสรรค์ชุมชน สร้างคน สร้างชาติ สร้างอาชีพอย่างยั่งยืน
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","3/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ศรีสะเกษ","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220103115330763"], [37,"นักท่องเที่ยวและประชาชนทยอยเดินทางกลับหลังหยุดยาวปีใหม่ ขณะที่ตำรวจทางหลวงสุราษฎร์ธานีตั้งกล้องตรวจจับความเร็วคุมเข้มวินัยจราจร หวังลดอุบัติเหตุบนท้องถนน","ร้อยตำรวจเอก ปานเทพ พจน์ธีระมนตรี สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 5 (สุราษฎร์ธานี) กล่าวว่า บรรยากาศของการเดินทางกลับของประชาชนและนักท่องเที่ยวจากเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี และวัดเจดีย์หรือวัดไอ้ไข่ จ.นครศรีธรรมราช หลังจากนำครอบครัวมาพักผ่อน และมาทำบุญเพื่อเป็นศิริมงคลหรือมาแก้บน เริ่มทยอยเดินทางกลับไปทำงานหรือกลับภูมิลำเนาหลังจากที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดใกล้เคียง ทั้งสงขลาและนครศรีธรรมราช เนื่องจากถนนเส้นนี้เป็นถนนสายหลักที่นักท่องเที่ยวใช้เป็นจำนวนมาก ซึ่งทางตำรวจทางหลวงได้ตั้งกล้องเพื่อจับความเร็วพร้อมทั้งใช้รถตำรวจทางหลวงเปิดสัญญาณไฟวาบๆ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน เพื่อเป็นการป้องกันการลดอุบัติเหตุทางถนน
นอกจากนี้ บนถนนสาย 41 หรือถนนสายเอเชียขาขึ้น บริเวณอำเภอเวียงสระ และอำเภอไชยาทางสถานีตำรวจทางหลวง 5 สุราษฎร์ธานีได้มีการตั้งกล้องตรวจจับความเร็วในบริเวณดังกล่าวด้วย ซึ่งที่ผ่านมาภายหลังจากที่ทางจังหวัดสุราษธานีได้มีหนังสือด่วนที่สุดออกมาประกาศใช้บังคับกฎหมายกับรถที่สัญจรผ่านไปมาเพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุทางถนน สามารถดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดได้จำนวน 1,118 ราย ส่วนใหญ่จะให้ความเร็วเกินที่กำหนด
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าวันนี้(3 ม.ค.ค64) การสัญจรทางถนนจากนครศรีธรรมราชเข้ามายังสุราษฎร์ธานี การจราจรยังคงบางตา คาดว่าในช่วงบ่ายของวันนี้จนถึงค่ำการจราจรจะหนาแน่นมากขึ้น ซึ่งทางตำรวจทางหลวงจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังให้กับผู้ใช้เส้นทางได้รับความปลอดภัย และกระตุ้นเตือนให้ผู้ขับขี่ใช้เส้นทางด้วยความระมัดระวังตลอดการเดินทาง เพื่อให้ถึงจุดหมายด้วยความปลอดภัย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","3/1/2022","ภาคใต้","สุราษฎร์ธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220103120848781"], [38,"บรรยากาศการเดินทางช่วงส่งท้ายปีใหม่ที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ยังคงคึกคักตั้งแต่เช้าทั้งขบวนรถที่มาจากกรุงเทพฯและขบวนรถท้องถิ่น","บรรยากาศการเดินทางช่วงส่งท้ายปีใหม่ที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ยังคงคึกคักตั้งแต่เช้าทั้งขบวนรถที่มาจากกรุงเทพฯและขบวนรถท้องถิ่น ในขณะที่ขบวนรถเร็ว171กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก ที่ตกรางที่สถานีรถไฟรือเสาะ เมื่อวานนี้ก็กลับมาเดินให้บริการตามปกติแล้ว
วันนี้(3ม.ค.65) บรรยากาศการเดินทางในช่วงส่งท้ายปีใหม่ ที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา ยังคงคึกคัก โดยตั้งแต่ช่วงเช้ามีประชาชนไปรอเดินทางกลับภูมิลำเนาทั้งเส้นทาง3จังหวัดชายแดนภาคใต้และภาคใต้ตอนบนค่อนข้างหนาแน่น โดยเฉพาะขบวนรถไฟที่มาจากกรุงเทพฯทั้งสองขบวน ทั้งขบวนรถเร็ว 171 กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก และขบวนรถด่วนพิเศษทักษิณารัถย์31 กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ มีผู้โดยสารเดินทางเต็มทั้งสองขบวน
ทั้งนี้ ในรถส่วนของขบวนรถเร็ว 171 กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก ที่ตกรางที่สถานีรถไฟรือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อวานนี้ก็กลับมาเดินรถตามปกติแล้วทั้งขาขึ้นและขาล่อง สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟสายใต้โดยเฉพาะขบวนขึ้นล่องกรุงเทพฯที่ให้บริการวันละ 4 ขบวน มีผู้โดยสารจองตั๋วเดินทางเต็มไปจนถึงวันที่ 4 มกราคม และมีการเสริมตู้โบกี้เต็มพิกัดการลากจูงทุกขบวนเพื่อให้เพียงพอกับจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางในช่วงส่งท้ายปีใหม่
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","3/1/2022","ภาคใต้","สงขลา","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220103124214815"], [39,"หยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม จ.สุรินทร์ คึกคัก คาดจะมีเงินสะพัดตลอดหลายสิบล้านบาท","หยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม จ.สุรินทร์ คึกคัก หลังซบเซาเกือบ 2 ปี ช่วงโควิดระบาด คาดจะมีเงินสะพัดตลอดหลายสิบล้านบาท ช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ทำให้บรรยากาศที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้ามาเลือกซื้อสินค้ากันอย่างคึกคักตลอดช่วงหยุดยาว เพื่อเป็นของฝากกับครอบครัวในแต่ละพื้นที่ ทำให้ตลาดคับแคบไปถนัดตา
เนื่องจากประชาชนชาวสุรินทร์ที่ไปทำงานหรือไปพำนักอาศัยอยู่ยังต่างจังหวัด ถือโอกาสวันหยุดยาวและมีเงินเดือนเหลือหรือมีโบนัสจากงาน ได้กลับบ้านมาฉลองเทศกาลครอบครัว แม้กระทั้งคนในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์และจังหวัดข้างเคียง ก็พาครอบครัวเดินทางมาจับจ่ายซื้อหาของภายในตลาดช่องจอม ทำให้ตลาดการค้าชายแดนแห่งนี้ที่เคยซบเซามานานในช่วงโควิด-19 ส่งผลกระทบมานานเกือบ 2 ปี กลับมาคึกคักเป็นอย่างมาก คาดว่าตลอดวันหยุดยาวช่วงปีใหม่จะมีเงินสะพัดภายในงานตลาดหลายสิบล้านบาท
โดยตลาดชายแดนช่องจอมได้เตรียมพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว มีจุดคัดกรอง ในการระมัดระวังป้องกันโควิด อย่างรัดกุม ทำตามระเบียบของสาธารณสุข ซึ่งก็พบว่านักท่องเที่ยวมีการสวมหน้ากาอนามัยทุกคน มีการระมัดระวังตัวเอง ผู้ประกอบการ เราได้อบรมและให้ความรู้ ในการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข มีแอลกอฮอล์ไว้ล้างมือทุกร้าน สวมหน้ากากทุกครั้งที่ทำงานค้าขายในช่วงเทศกาลปีใหม่
กำชัย วันสุข ส.ปชส.สุรินทร์ รายงาน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","3/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","สุรินทร์","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220103132544845"], [40,"ศรีสะเกษผนึกพลังราษฎร์รัฐเดินแบบผ้าอัตลักษณ์ชุมชนคนสี่เผ่า ภายใต้ธีมงาน \"ผ้าทอเบญจศรีใต้ร่มพระบารมีลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ\"","ที่บริเวณการจัดงาน ณ เวทีกลางงานเทศกาลปีใหม่สี่เผ่ไทยศรีสะเกษ ประจำปี 2565 นำโดย นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และนายมัลลิกา พุฒิชาติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมเหล่าทัพนางแบบที่สวมใส่ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ผ้าทอเบญจศรี ผ้าอัตลักษณ์คน 4 เผ่าศรีสะเกษ ที่มีออกแบบตัดเย็บให้เหมาะสมสวยงามยิ่งแก่ผู้สวมใส่ เพื่อเป็นส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ที่สำคัญ เน้นส่งเสริมการใช้ผ้าไทยและประชาสัมพันธ์ผ้าอัตลักษณ์จังหวัดศรีสะเกษให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้น ควบคู่สร้างความรักความสามัคคีของภาคราชการ ภาคเอกชนและประชาชน พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก สู่สร้างอาชีพและรายได้ให้แก่คนในชุมชนอย่างยั่งยืน
อีกทั้งในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ มุ่งให้คนไทยได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นของขวัญปีใหม่ เพื่อส่งความสุขให้แก่ผู้รับด้วยผลิตภัณฑ์ชุมชน ที่หลากหลายจากทั้ง 22 อำเภอมารวมไว้ใจกลางเมืองศรีสะเกษ เพื่อให้ผู้สนใจเลือกช้อปกันอย่างจุใจ เป็นการช่วยเหลือส่งเสริมสนับสนุน ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ให้มีช่องทางการตลาด มีร้ายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนเพิ่มขึ้นควบคู่ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนฐานรากให้มีความเข้มแข็งพร้อมสร้างสรรค์ชุมชน สร้างคน สร้างชาติ สร้างอาชีพอย่างยั่งยืน
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
วันที่ 3 มกราคม 2565 เวลา 09:00 น. นางจินตนา สูตรมงคล ขนส่งจังหวัดยโสธรรักษาราชการแทนขนส่งจังหวัดอำนาจเจริญ มอบหมายให้นางสาว ดํารัสศิริ ธะประวัติ เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงาน น.ส. ละอองดาว รัตนมูล น.ส. นิศามณี วรรณคำ นายมกรธวัช ศรีธรรม เจ้าหน้าที่ ขนส่งจังหวัดอำนาจเจริญ แนะนำวิธีการ เตรียมรถ ประจำทาง รถตู้และรถบัสประจำทาง ในการทำความสะอาด เพื่อป้องกัน covid- 19
- ส่วนคนขับมีการตรวจ ATK และตรวจแอลกอฮอล์
- ส่วนมาตรการในการขับรถมี GPS ตรวจสอบความเร็วระหว่างเดินทาง ระหว่างทางผ่านจุดตรวจของผู้โดยสาร จังหวัดอำนาจเจริญ มีการตรวจ ATK
- ส่วนบริษัท ขนส่ง จำกัด 999 เจ้าหน้าที่ เปิดเผยว่ารถให้บริการประชาชนเพียรพอในปีคับพี่น้อง
ว่าที่ ร.ต.เทวินทร์ ทุมประเสน สวท.อำนาจเจริญ / รายงาน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","3/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อำนาจเจริญ","สวท.อำนาจเจริญ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220103182037919"], [42,"ขนส่งแพร่ ตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2565","สำนักงานขนส่งจังหวัดแพร่ ออกตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2565 และจัดเจ้าหน้าที่ตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เบื้องต้น ด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit ( ATK ) กับผู้ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดแพร่
นายมานพ พุทธวงค์ ขนส่งจังหวัดแพร่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งจังหวัดแพร่ ร่วมกับคณะทำงานตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2565 จังหวัดแพร่ ได้แก่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ท้องถิ่นจังหวัด สำนักงานคุมประพฤติจังหวัด สถิติจังหวัด และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ออกตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการฯ ในระดับอำเภอ และจุดตรวจหลักเพื่อดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดแพร่ โดยมีนายวิเชียร อนุสาสนนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานคณะทำงาน จำนวน 3 อำเภอ 5 จุด
นอกจากนี้ สำนักงานขนส่งจังหวัดแพร่ ยังได้ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ และเทศบาลเมืองแพร่ จัดเจ้าหน้าที่ตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เบื้องต้นด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit ( ATK ) ให้กับผู้ที่เดินทางมากับรถโดยสารประจำทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดแพร่ รวมทั้งตั้งจุดแนะนำและนัดฉีดวัคซีนสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดแพร่
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","3/1/2022","ภาคเหนือ","แพร่","สวท.แพร่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220103182420921"], [43,"นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถ้อยแถลงถึงประชาชนไทยเพื่อประกาศการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยในปี 2565 ภายหลังจากการรับมอบตำแหน่งจากนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์","นายกรัฐมนตรีกล่าวกับประชาชนว่าไทยได้รับมอบการดำรงตำแหน่งเจ้าภาพเอเปคในปี 2565 และจะปฏิบัติหน้าที่ตลอด 1 ปี ต่อจากนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญอย่างยิ่งที่ไทยจะเปิดตัว และขับเคลื่อนการฟื้นประเทศจากโควิดไปสู่อนาคต และแสดงความพร้อมในการต้อนรับชาวต่างชาติ ตั้งแต่ระดับผู้นำ นักธุรกิจระดับสูง สื่อชั้นนำ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ ที่จะเดินทางมาประเทศไทยตลอดปีหน้า เอเปคเป็นเวทีส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ไทยเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง ประกอบด้วยเขตเศรษฐกิจชั้นนำถึง 21 เขตเศรษฐกิจ มี GDP รวมกันทั้งสิ้นกว่า 53 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,700 ล้านล้านบาท และมีมูลค่าการค้ารวมกันเกือบครึ่งหนึ่งของการค้าโลก
นายกรัฐมนตรีได้เปิดเผยว่า ไทยจะขับเคลื่อนให้เอเปคพลิกวิกฤตเป็นโอกาสในการเปลี่ยนผ่านไปสู่โลกยุคหลังโควิดที่ยั่งยืนและสมดุล และทุกคนมีส่วนร่วม ผ่านแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG Economy และได้ประกาศหัวข้อหลักของการประชุมเอเปคปี 2565 คือ เปิดกว้าง สร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล หรือ Open. Connect. Balance. ซึ่งมีประเด็นสำคัญ 3 ด้าน คือ
1. การส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนและครอบคลุม
2. การอำนวยความสะดวกการค้าและการลงทุน
และ 3. การฟื้นฟูความเชื่อมโยง โดยเฉพาะการเดินทาง และท่องเที่ยว เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิด
ทั้งนี้ การประชุมแรกของเอเปค 2565 จะจัดขึ้นที่จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 1-3 ธันวาคมนี้ และจะมีการประชุมอื่น ๆ กว่าร้อยการประชุมในภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศตลอดปีหน้า ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกพื้นที่
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","3/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อำนาจเจริญ","สวท.อำนาจเจริญ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220103183713929"], [44,"อ่าวมาหยาปิดฟื้นฟูกว่า 3 ปี ทรัพยากรธรรมชาติกลับมา 100 เปอร์เซนต์ เป็นที่อยู่ของสัตว์ทะเลหายากฉลามหูดำ และปะการังที่สวยงาม","นายนายยงยุทธ์ นาควิโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชกล่าวว่า หลังจากที่ปิดอ่าวมาหยาเพื่อฟื้นฟูกว่า 3 ปี ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฟื้นฟูกลับมา 100 เปอร์เซนต์ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศต่างพึงพอใจและมีความสุขในเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา
ซึ่งได้เปิดตามนโยบายนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ เพราะอ่าวมาหยามันเป็นอัญมณีที่มีค่าสุด เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก จึงมุ่งหวังให้นักท่องเที่ยวทุกคนจะร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวอย่างมีความสุข สำคัญที่สุดของเป้าหมายการเปิดอ่าวมาหยา
นอกจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวเป็นแหล่งนันทนาการของนักท่องเที่ยวแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการดำรงอยู่ความยั่งยืนของทรัพยากรทั้งทางบกและทางทะเล โดยเฉพาะปัจจุบันมีฉลามหูดำซึ่งเป็นสัตว์ทะเลหายากได้มาอยู่อาศัยบริเวณหน้าหาดอ่างมาหยา เจ้าหน้าสามารถตรวจนับได้ประมาณ 160 กว่าตัว ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน ร่วมทั้งปะการัง
ด้านหลังอ่าวมาหยาคืออ่าวโล๊ะซ๊ามะเช่นเดียวกันปะการังได้รับการฟื้นฟูมามีความเจริญเติบโตขึ้นมา 3 5 เซนติเมตร นั้นแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หลังจากที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ปิดอ่าว
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","3/1/2022","ภาคใต้","กระบี่","สวท.กระบี่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220103210540972"], [45,"อ่าวมาหยา จังหวัดกระบี่ ยังคงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศอย่างเหนียวแน่นจองคิวเข้าเที่ยวผ่านแอฟคิวคิว ของกรมอุทยานแห่งชาติฯ","ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถจองคิวเข้าเที่ยวชมอ่าวมาหยาได้ผ่านแอฟคิวคิว ของกรมอุทยานแห่งชาติฯ เพื่อจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยว และรักษาความสมดุลทางธรรมชาติ รวมถึงต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ในรูปแบบนิวนอมอล
นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเที่ยวชมได้ตั้งแต่เวลา 07.00 18.00 น. วันละ 11 รอบๆละ 375 คนต่อ 1 ชั่วโมง รวมจำนวนนักท่องเที่ยว 4,125 คนต่อวัน ห้ามลงเล่นน้ำและอาบน้ำทะเลอย่างเด็ดขาด หลังจากเปิดมาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 65 ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 3 ม.ค. 65 พบว่ายังคงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่จองคิวเข้าเที่ยวผ่านแอฟคิวคิว ของกรมอุทยานแห่งชาติฯ ยังคงเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวเต็มทุกเที่ยว
เจ้าหน้าที่อุทยานฯต้องดูแลความเรียบร้อยอย่างเข้มงวดและห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้ปะการังที่กำลังฟื้นฟูเกิดความเสียหายและไปรบกวนฝูงปลาฉลามครีบดำ นับ 100 ตัว ที่ใช้อ่าวมาหยาเป็นแหล่งหากินและผสมพันธุ์ แต่นักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวทุกคนต่างชื่นชมว่าสวยงามเหมือนในภาพที่ได้เผยแพร่ออกไปจริงๆ
ทุกคนที่มาท่องเที่ยวต่างประทับใจในการให้บริหารจัดการของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ที่คอยอำนวยความสะดวกให้ตลอดอยู่ในพื้นที่อ่าวมาหยา ทั้งให้ความร่วมมือโดยการไม่ลงเล่นน้ำและว่ายน้ำ บางคนถึงกับนั่งและนอนอาบแดดอย่างสบายอารมณ์ในเวลา 1 ชั่วโมง ที่ขาดเสียไม่ได้คือทุกคนต้องถ่ายรูปเป็นที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งได้มาอ่าวมาหยาแล้ว ทั้งยังส่งไปให้เพื่อนๆได้ดูบรรยากาศความสวยงามของอ่าวมาหยาอีก
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","3/1/2022","ภาคใต้","กระบี่","สวท.กระบี่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220103210743973"], [46,"กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวอ่าวมาหยา ไว้ทุกด้าน","นายยงยุทธ์ นาควิโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวถึงความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวอ่าวมาหยา กล่าวว่า ในส่วนของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มีการเตรียมความพร้อมไว้หมดทุกด้านแล้วก่อนที่จะทำการเปิดไม่ว่าจะเป็นท่าเทียบเรือ ทางเดิน ทางเท้า ทางลาดสำหรับผู้พิการ ป้ายบอกทาง ห้องปฐมพยาบาล ห้องสุขา ทุกอย่างได้จัดเตรียมไว้รอรับนักท่องเที่ยวไว้หมดแล้ว
นางรวินันท์ พุทธชาด นักท่องเที่ยวชาวไทย จากจังหวัดสงขลากล่าวถึงความประทับใจที่ได้มาเที่ยวอ่าวมายาแห่งนี้ว่า มีความประทับใจเป็นอย่างมากจากที่ได้เคยได้มาท่องเที่ยวเมื่อหลายปีที่ผ่านมา แต่มาครั้งนี้หลังจากที่ได้มีการฟื้นฟูเห็นได้ชัดว่าธรรมชาติกลับมาสมบูรณ์อีกครั้งถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสถานที่ที่สวยงามต้องมามากกว่า 1 ครั้ง โดยเฉพาะธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นผืนทรายที่ขาวสะอาด เม็ดทรายที่ละเอียด น้ำทะเลที่ใสสวยงาม ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็นท่าเทียบเรือที่มีความสะดวกสบายมากขึ้น โดยเฉพาะท่าเทียบเรือทางด้านหลังที่มีทางเดินทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินมาด้านหน้าเกาะได้อย่างสะดวกนับว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะนักท่องเที่ยวจะรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น ส่วนในเรื่องของข้อปฏิบัติต่างๆ ที่ทางอุทยานกำหนดก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด เพราะในอ่าวมาหยาเป็นอ่าวที่สวยงาม ในอนาคตถ้าหากมีการเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้ก็ต้องมีการจำกัดจำนวนที่จะลงเล่นเพราะเป็นการรักษาธรรมชาติไปในตัว
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","3/1/2022","ภาคใต้","กระบี่","สวท.กระบี่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220103213807977"], [47,"ผู้ว่าฯ ยะลา เช็คอิน สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ใน อ.เบตง เที่ยวให้สนุก และปลอดภัย แบบ New Normal สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว ก่อนสิ้นสุดวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2565","วันนี้ (3 ม.ค.65) บรรยากาศการท่องเที่ยว ตามสถานที่ต่างๆ ในพื้นที่อำเภอเบตง ยังคงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว ในช่วงโค้งสุดท้ายวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2565 ด้านนายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย ผศ.ดร.ทิพยวรรณ นิลทยา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง นายโตหอง แซ่หลี นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเบตง ได้ลงพื้นที่เช็คอิน จุดชมทะเลหมอก สกายวอล์ค ที่ ต.อัยเยอร์เวงอ.เบตง จ.ยะลา เที่ยวให้สนุก และปลอดภัย แบบ New Normal พร้อมพบปะประชาชนสร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ ท่ามกลางมาตราการคัดกรองโควิด-19 แม้จะเป็นวันสุดท้ายแต่นักท่องเที่ยวจำนวนมาก ยังคงเดินทางมาตั้งแต่เช้ามืด เพื่อชมความสวยงามของทะเลหมอกอัยเยอร์ แม้จะผิดหวังไม่เห็นความสวยงามของทะเลหมอก ท้องฟ้าปิด นักเที่ยวได้ถ่ายรูป ท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นสบาย ขณะที่ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในพื้นที่ อ.เบตง ทั้งอุโมงค์ปิยะมิตร สวนไม้ดอกเมืองหนาว บ่อน้ำร้อน ที่ ต.ตาเนาะแมเราะ นักท่องเที่ยวยังคงเดินทางมาท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง
นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า วันนี้มาเยี่ยมนักท่องเที่ยว สร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว มาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน การจากพูดคุยพบว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสัมผัสความสวยงามที่อำเภอเบตง มีทั้งมาจากกรุงเทพฯ ส่วนกลุ่มใหญ่ก็จะเป็นนักท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียง ทั้ง จ.สงขลา จ.พัทลุง จ.ตรัง จ.นครศรีธรรมราช และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งในช่วงปีใหม่นี้ นักท่องเที่ยว เดินทางขึ้นมาชมทะเลหมอก กว่า 2,000 คน ต่อวัน ที่นี่มีทะเลหมอกตลอดทั้งปี ส่วนมาตรการการป้องกันโควิด-19 อำเภอเบตงไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด มาเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ สถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่ดีขึ้นมาก ประชาชนในพื้นที่อำเภอเบตงได้รับวัคซีนเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ทางอำเภอเบตงเปิดหน่วยบริการฉีดวัคซีนให้ทุกคนที่มาเที่ยวในพื้นที่ ผู้ที่เดินทางเข้าสู่จังหวัดยะลาต้องฉีดวัคซีนทุกคน ผ่านมาตรการคัดกรองอย่างเข้มงวด หากรู้สึกไม่สบาย ทางเจ้าหน้าที่ พร้อมตรวจ ATK ให้ฟรีและหากพบว่ามีเชื้อเป็นบวก เจ้าหน้าที่พร้อมจัดยาฟาวิพิราเวียร์ให้ทานทันที สำหรับเรื่องด้านความมั่นคง ที่นี่รับรองในความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มข้น อำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","3/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.เบตง จ.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220103222552986"], [48,"ตรัง ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจเกี่ยวเนื่องทุกประเภท ต่างยิ้มออกในรอบ 2 ปี หลังนักท่องเที่ยวแห่อุดหนุนแน่นร้านตลอด 4 วันของเทศกาลปีใหม่จนต้องแจกบัตรคิว ระบุทำเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท หลังซบเซามาตลอดจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19 และต่างเรียกร้องขอให้รัฐบาลเร่งต่อโครงการคนละครึ่ง หวังเติมสภาพคล่องในระบบธุรกิจ หวั่นจะสะดุดอีกครั้งจากสายพันธุ์โอมิครอนที่เริ่มระบาดลุกลาม","ภาพบรรยากาศที่สุดจะคึกคักของร้านจำหน่ายอาหารเช้า ร้านอาหาร รวมทั้งร้านกาแฟใน จ.ตรัง ซึ่งหนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัด กลับมาให้เห็นภาพอีกครั้งในรอบ 2 ปี หลังจากซบเซามาเป็นเวลานานตลอดการระบาดของเชื้อโควิด -19 จนทำให้รู้สึกได้ว่า เทศกาลปีใหม่ปีนี้ คนตรังเจ้าของพื้นที่จะต้องหลีกทางให้กับนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดที่ตั้งใจเดินทางมาท่องเที่ยว และต้องการรับประทานอาหารเช้าบรรยากาศแบบชาวตรัง ซึ่งมีเอกลักษณ์และเสน่ห์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร เพราะติ๋มซำที่มีเมนูมากมายหลากหลายและหมูย่างเมืองตรัง จึงทำให้แต่ละร้านหนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว ทั้งที่ร้านพงษ์โอชา 2 และร้านเรือนไทยติ๋มซำ ถนนเพลินพิทักษ์ ต.ทับเที่ยง นักท่องเที่ยวทยอยเข้าร้านไม่ขาดสายจนเต็มแน่นทุกโต๊ะ จนต้องแจกบัตรคิว ซึ่งนอกจากติ๋มซำที่นับมีเมนูจนนับแทบไม่หมดแล้ว ยังมีหมูย่างแม้ราคาจะสูงกิโลกรัมละ 500 บาท แต่นักท่องเที่ยวก็สั่งรับประทาน จนแทบจะสับไม่ทัน และหมดไม่เพียงพอ
นายจีระศักดิ์ ทับเที่ยง อายุ 47 ปี เจ้าของร้านพงษ์โอชา สาขา 2 และเป็นกรรมการหอการค้าจังหวัดตรังด้วย กล่าวว่า บรรยากาศเทศกาลปีใหม่ 2565 ถือว่าเป็นบรรยากาศที่คึกคักมากๆ เนื่องจากที่ผ่านมาติดสถานการณ์โควิด -19 ประชาชนส่วนใหญ่ต้องเก็บตัวอยู่บ้าน หรือการเดินทางยากลำบากมายาวนาน แต่ในเทศกาลปีใหม่ 2565 นี้ สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ประชาชนจึงออกมาจับจ่ายใช้สอยค่อนข้างจะเป็นปกติ แต่ทุกคนที่มาก็ยังคงปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และเช่นเดียวกับทางร้านค้าผู้ประกอบการต่างๆก็ปฏิบัติตามมาตรการเคร่งครัดเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ถือว่าบรรยากาศกลับมาคึกคักที่สุดในรอบ 2 ปี ทำให้ทุกธุรกิจได้ประโยชน์ ทั้งการท่องเที่ยวทางทะเล ร้านอาหาร ร้านค้า โรงแรม รีสอร์ท ห้องพัก คนขับเรือ คนขับรถรับจ้าง เชื่อว่าในหนึ่งวันเม็ดเงินสะพัดจากต่างจังหวัดเข้ามาในจังหวัดตรังประมาณ 100 ล้านบาทต่อวัน สังเกตได้จากประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด เพราะเมื่อมาถึงก็จะมีการจับจ่ายใช้สอย ทั้งร้านค้าร้านอาหารของที่ระลึกและสถานที่ท่องเที่ยว ส่วนตัวเชื่อว่าเงินสะพัดในพื้นที่นับ 100 ล้านบาทต่อวัน หรือตลอดเทศกาลหยุดยาวปีใหม่ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท นอกจากนั้น อยากให้รัฐบาลเร่งต่อโครงการคนละครึ่งโดยเร็ว เนื่องจากเป็นโครงการที่ดี หวังเติมสภาพคล่องในระบบธุรกิจต่อยอดจากเทศกาลปีใหม่ หวั่นหากช้าจะสะดุดอีกครั้งจากสายพันธุ์โอมิครอน
ทางด้านนายธีรศักดิ์ จึงจงจิตต์ อายุ 48 ปี เจ้าของร้านเรือนไทยติ๋มซำ กล่าวว่า ปีนี้นักท่องเที่ยวคึกคักมากตลอดเทศกาลปีใหม่ แน่นร้านจนต้องแจกบัตรคิว ซึ่งถือได้ว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","4/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220104095741023"], [49,"ยืนยัน ก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง อำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ประชาชนพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้","
กรมท่าอากาศยาน ชี้แจงกรณีมีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง ที่มีข้อติดขัดไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ว่า กรมท่าอากาศยานได้ดำเนินการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2558 เพื่อแก้ไขปัญหาการคมนาคมในพื้นที่ที่มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชันไม่สะดวกต่อการเดินทาง และเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำหรับเส้นทางบินและการขึ้นลงของอากาศยาน จะอยู่ในน่านฟ้าของประเทศไทยเท่านั้น ไม่มีล้ำเข้าไปในน่านฟ้าของประเทศเพื่อนบ้านแต่อย่างใด
ขณะนี้ได้มีสายการบินขออนุญาตทำการบินไว้ 2 เส้นทางคือ หาดใหญ่-เบตง-หาดใหญ่ และดอนเมือง-เบตง-ดอนเมือง ปัจจุบันท่าอากาศยานเบตงได้มีการให้บริการเที่ยวบินทางราชการและเที่ยวบินส่วนบุคคล ซึ่งได้มีการทำการบินมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ กรมท่าอากาศยาน ยังได้มีการหารือแนวทางร่วมกันกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถึงการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยาน โดยได้มีการวางแผนการลงทุนและแนวทางในการให้บริการในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ก่อนดำเนินการก่อสร้างกรมท่าอากาศยาน ได้มีการศึกษาความเป็นไปได้ วิเคราะห์ข้อมูลทางกายภาพและทางเศรษฐศาสตร์ จึงได้ข้อสรุปในการก่อสร้างที่วางไว้คือ ทางวิ่ง(Runway) ขนาด 30x 1,800 เมตร สามารถรองรับเครื่องบินขนาด 80 ที่นั่ง เช่น ATR-72 และ Q-400 เป็นต้น ซึ่งตามหลักการดำเนินงานท่าอากาศยานจะมีการติดตามตัวเลขผู้โดยสารและเที่ยวบิน เพื่อนำมาวิเคราะห์ในการเพิ่มศักยภาพของท่าอากาศยานต่างๆ โดยจะต้องมีระยะของการพัฒนาตามขนาดและความต้องการเดินทางของประชาชน ซึ่งกรมท่าอากาศยาน ต้องการพัฒนาท่าอากาศยาน ให้สามารถรองรับการเดินทางทางอากาศของประชาชนได้อย่างเพียงพอและครอบคลุมทุกความต้องการ รวมถึงเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมของประชาชนให้ทั่วถึง
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงนโยบายการส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมในปี 2565 ว่า กระทรวงอุตสาหกรรมให้ความสำคัญต่อการยกระดับพัฒนาและคำนึงถึงสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป โดยจะนำเสนอนโยบายสำคัญต่อคณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ หรือ กอช. เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมศักยภาพตลอดห่วงโซ่อุปทาน และเกิดการบูรณาการกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การกำหนดสาระสำคัญของกระบวนการผลิตในเขตประกอบการเสรี หรือ Free Zone เพื่อให้สอดรับกับมาตรการส่งเสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ทำให้เกิดการลงทุนภายในประเทศ การจัดเตรียมสินเชื่อจากกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ อัตราดอกเบี้ยต่ำ ร้อยละ 2 ต่อปี เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ รวมถึงพัฒนาแพลตฟอร์มอุตสาหกรรม 4.0 โดยทำหน้าที่เป็น One Stop Service
การจัดพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อขจัดอุปสรรคการลงทุน และสร้างปัจจัยสนับสนุนให้เอื้อต่อการลงทุนในอุตสาหกรรมชีวภาพ ตลอดจนการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมชีวภาพ ซึ่งคาดว่าแล้วเสร็จเดือนเมษายน 2565 เพื่อเชื่อมโยงงานวิจัยสู่ภาคอุตสาหกรรม และขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพอย่างต่อเนื่อง ผ่านมาตรการส่งเสริมการผลิตและใช้ประโยชน์พลังงานหมุนเวียนจากอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ควบคู่การเร่งพัฒนาพืชเศรษฐกิจอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น ปาล์ม แป้งมันสำปะหลัง เพื่อสร้างรายได้เพิ่มแก่ภาคการเกษตรและภาคอุตสาหกรรม เร่งสร้างนักรบอุตสาหกรรมอาหารพันธุ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง พร้อมผลักดันการพัฒนาอาหารอนาคต โดยบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดกรอบแนวทางพัฒนาปัจจัยพื้นฐานให้เอื้อต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเป้าหมายใหม่ (Product Champion) รวมถึงให้เกิดการลงทุนเชิงพาณิชย์ และขับเคลื่อน flagship ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยกระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมนำเสนอแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ระยะที่ 1 (ปี พ.ศ. 2563-2570) ต่อ กอช. เพื่อพิจารณาในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 ก่อนนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี
ด้านนายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม หรือ สศอ. กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมในปี 2564 โดยคาดว่าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม หรือ MPI จะขยายตัวร้อยละ 5.2 ปรับตัวดีขึ้นจากปี 2563 หดตัวร้อยละ 9.3 ขณะที่คาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมปี 2565 อัตราการใช้กำลังการผลิตมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ประมาณการ MPI ขยายตัวร้อยละ 4.0-5.0 ส่วน GDP ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ 2.5-3.5 เป็นผลจากตลาดส่งออกขยายตัวต่อเนื่อง รวมถึงตลาดในประเทศเริ่มฟื้นตัวจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ของภาครัฐ ทั้งนี้ ยังต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ประกอบกับต้องพิจารณาปัจจัยราคาพลังงานและการขาดแคลนแรงงานโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสำคัญที่มีการใช้แรงงานเข้มข้นต่อไป
","4/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220104145500241"], [51,"นักท่องเที่ยวขึ้นหินสามวาฬ จ.บึงกาฬ ชมแสงแรกของวันกันอย่างคึกคักในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่","บรรยากาศในช่วงเช้าของแหล่งท่องเที่ยว ภายในโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศหินสามวาฬ ในเขตพื้นที่ศูนย์จัดการกลุ่มป่าสงวนแห่งชาติที่ 154 หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า ภูสิงห์ ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวน ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์และป่าดงสีชมพู ท้องที่บ้านโนนไทรทอง หมู่ที่ 8 ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า ที่โผล่พ้นทิวเขาขึ้นมาจากภูเขาฝั่ง สปป.ลาว
โดยเฉพาะจุดไฮไลท์ที่ บริเวณ หินสามวาฬ ซึ่งเป็นหินขนาดใหญ่เป็นหน้าผาสูง รูปร่างเหมือนปลาวาฬ 3 ตัว พ่อ แม่ ลูก เรียงกันอยู่เป็นจุดชมวิวที่สวยมที่สุดมองเห็นป่าไม้ ภูเขา และแม่น้ำโขง และฝั่ง สปป.ลาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเช้าเวลาที่พระอาทิตย์กำลังไต่ระดับโพล่ขึ้นขอบฟ้า จะได้เห็นแสงสีส้มที่ไล่เฉดสี ฉายแสงให้เห็นภาพวิวทิวทัศน์ที่อยู่เบื้องหน้าแบบสุดลูกหูลูกตา สวยงามมาก หลายคนขอพรขอให้มีอายุยืนยาวดังหินสามวาฬ และขอความโชคดี ตลอดปีใหม่ เดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย ที่พลาดไม่ได้ต้องถ่ายภาพความสวยงามและความประทับใจกับแสงแรกของวันไว้เป็นที่ระลึก
นอกจากนี้ ตลอดช่วงวันหยุดยาวปีใหม่นี้ ยังมีนักท่องเที่ยวทยอยเข้าชมความงดงามทางธรรมชาติ ไม่ขาดสาย โดยไม่ลืมที่จะสวมใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ผ่านการตรวจคัดกรอง ลงทะเบียนชื่อที่อยู่พร้อมเบอร์โทรศัพท์ และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 จากเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด
สำหรับ หินสามวาฬ แห่งนี้ตั้งแต่ช่วงเทศกาลหยุดยาวปีใหม่ มีนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวชมกว่า 10,560 คน โดยเฉพาะวันที่ 1 ม.ค.65 ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางขึ้นไปชมแสงแรกของปี 2565 หรือปีเสือ กว่า 3,300 คน สร้างความคึกคักให้กับพ่อค้าแม่ขาย ที่จำหน่ายสินค้าชุมชน ของฝาก ของที่ระลึก ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า สร้างรายได้ให้อาสาป่าไม้ที่ให้บริการรถรับส่งนักท่องเที่ยว วิ่งวันละ 10-15 เที่ยวต่อวัน สร้างเศรษฐกิจในชุมชนให้กับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","4/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","บึงกาฬ","สวท.บึงกาฬ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220104115629118"], [52,"จังหวัดประชุมกลั่นกรองโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ปี 2565","
วันนี้ (4 ม.ค. 64) นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในการประชุมกลั่นกรองโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ปี 2565 ณ ห้องพระยารัษฎา ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดตรัง มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 พ.ย.2564 เห็นชอบกรอบแผนงานหรือโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (กรอบวงเงิน 170,000 ล้านบาท ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ.2564 วงเงิน 500,000 ล้านบาท)
โดยกำหนดให้จัดทำข้อเสนอกรอบการดำเนินโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ปี 2565 (กรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท) กรอบวงเงินของจังหวัดตรัง จำนวน 118,306,894 บาท และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 พ.ย.2564 รับทราบกรอบการดำเนินการและคู่มือแนวปฏิบัติการเสนอโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากปี 2565 และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนดไว้ในคู่มือแนวปฏิบัติการเสนอโครงการรวมถึงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งข้อเสนอโครงการหรือกิจกรรมจะต้อมีลักษณะ (Do) 4 ด้าน ดังนี้
ด้านการพัฒนาสินค้า ท่องเที่ยวบริการ และการค้า
ด้านการยกระดับประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าเพิ่ม
ด้านการเกษตร/อุตสาหกรรม
ด้านพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการฟื้นตัว และพัฒนากิจกรรมทางเศรษฐกิจของชุมชน และโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการกระจายประโยชน์ให้กับประชาชนในระดับพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชน
ทั้งนี้ ในการประชุมมีเรื่องเพื่อพิจารณากลั่นกรองโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ปี 2565 จำนวน 50 โครงการ วงเงิน 270,331,090 บาท โดยเป็นโครงการที่เสนอโดยส่วนราชการ จำนวน 21 โครงการ วงเงิน 104,989,540 บาท โครงการที่เสนอโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 29 โครงการ ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง จำนวน 1 โครงการ วงเงิน 18,290,000 บาท เทศบาลนครตรัง จำนวน 2 โครงการ วงเงิน 11,595,000 บาท เทศบาลเมืองกันตัง จำนวน 1 โครงการ วงเงิน 18,778,000 บาท และโครงการของเทศบาลตำบล และองค์การบริหารส่วนตำบล เสนอผ่านสำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดตรัง จำนวน 25 โครงการ วงเงิน 116,216,300 บาท
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","4/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220104143339219"], [53,"ครม. เห็นชอบ วงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำนวน 3,185,000 ล้านบาท","นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำนวน 3,185,000 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จำนวน 85,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.74 ประกอบด้วย ประมาณการรายจ่ายประจำ จำนวน 2,390,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จำนวน 16,990.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.74 รายจ่ายลงทุน จำนวน 695,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จำนวน 83,066.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.57 รายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้จำนวน 100,000 ล้านบาท เท่ากับปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
รายได้สุทธิจำนวน 2,490,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จำนวน 90,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.75 งบประมาณขาดดุล จำนวน 695,000 ล้านบาท ลดลงจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จำนวน 5,000 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 0.71 ทั้งนี้วงเงินงบประมาณรายจ่าย จำนวน 3,185,000 ล้านบาท ดังกล่าว เท่ากับกรอบวงเงิน ตามแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2566 2569) ที่ ครม. ได้มีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564 สำหรับงบประมาณรายจ่ายลงทุนและงบประมาณรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้มีสัดส่วนอยู่ภายในกรอบที่กำหนด ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561
นอกจากนี้ ครม.ยังได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีคือ ให้มีกลไกความร่วมมือระหว่างกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติและธนาคารแห่งประเทศไทย ในการติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและจัดทำข้อเสนอแนะ มาตรการที่ต้องดำเนินการการบริหารความเสี่ยง ทั้งระยะสั้นและระยะปานกลางสำหรับในแต่ละกรณีเป็นการล่วงหน้า ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งติดตามการขับเคลื่อนมาตรการของรัฐบาลในประเด็นต่อไปนี้ เช่น การเร่งสร้างรายได้ใหม่ตามมาตรการของรัฐบาล เช่น มาตรการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง เข้าสู่ประเทศไทย (LTR) มาตรการดึงดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุนในพื้นที่ EEC และอุตสาหกรรมอนาคต (New S - curve) มาตรการส่งเสริมการลงทุนในกิจการด้านเทคโนโลยีและธุรกิจเกิดใหม่ (Startup) การขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศด้วยBCG Mode การติดตามการจัดเก็บรายได้ของรัฐ การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณ โดยหน่วยรับงบประมาณต้องมีการใช้จ่ายให้เป็นไปตาม แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนพลังงานและ ต้นทุนโลจิสติกส์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการดำเนินมาตรการเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนและการดำเนินธุรกิจ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ด้านแรงงาน รวมทั้งการควบคุมอัตรา แลกเปลี่ยนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
นายพงศกร เกตุประภากร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพังงา กล่าวว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ของจังหวัดพังงามีความคึกคักอย่างมากโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยมีสัดส่วนร้อยละ 80 และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติร้อยละ 20 ซึ่งสลับกับก่อนหน้านี้ที่สัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอยู่ที่ร้อยละ 80 และนักท่องเที่ยวชาวไทยอยู่ที่ร้อยละ 20 ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินโครงการเราเที่ยวด้วยกันของรัฐบาล โดยมีแนวคิดการขยายการดำเนินโครงการเราเที่ยวด้วยกันในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ซึ่งจะได้นำเสนอต่อรองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยต่อไป
ด้านนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติขณะนี้ยังคงมีนักท่องเที่ยวจาก slot ของโครงการ Test&Go ที่พำนักในโรงแรมบริเวณเขาหลักซึ่งเป็นกลุ่มพำนักระยะยาวหรือ long stay พำนักในโรงแรมและท่องเที่ยวในพื้นที่ต่อไปจนถึงราววันที่ 11 มกราคมนี้
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","4/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สวท.พังงา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220104150833250"], [55,"สาธารณรัฐประชาชนจีนเปิดด่านรถไฟผิงเสียง แก้ไขปัญหาทุเรียนและลำไยของไทยตกค้าง หลังจากมีการปิดด่านตงชิง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า จากปัญหาการปิดด่านตงชิง ในเขตการปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ส่งผลกระทบกับสินค้าผลไม้ไทย โดยเฉพาะทุเรียน และลำไยสด ที่มีปริมาณมากต้องติดค้างอยู่ที่ด่านตงซิง ซึ่งไม่สามารถยื่นคําร้องขอผ่านพิธีการศุลกากรเข้าประเทศจีนได้นั้น
วันที่ 4 มกราคม 2565 ทางประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้เปิดด่านรถไฟผิงเสียงในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง เพื่อนำเข้าผลไม้ไทยทั้งทุเรียน และลำไยตั้งแต่วันนี้ (4 ม.ค.65) ไปจนถึงวันที่ 17 มกราคม 2565 เพื่อแก้ไขปัญหากรณีด่านตงซิง
ซึ่งก่อนหน้านี้ทางการจีนได้ทำหนังสือประสานขอความอนุเคราะห์ฝ่ายเกษตรฯ ของกว่างโจวให้แจ้งมายังหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย ในการอํานวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการผลไม้ ทำการเปลี่ยนแปลงใบรับรองสุขอนามัยพืชในช่วง วันที่ 1-3 มกราคม 2565 เพื่อจะไทยจะได้ยื่นคําร้องขอผ่านพิธีการศุลกากรผ่านด่านรถไฟผิงเสียงเพื่อขนส่งเข้าประเทศจีนได้
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบ แจ้งว่า ขอให้ผู้ส่งออกรีบยื่นขอเปลี่ยนแปลงใบรับรองสุขอนามัยพืชจากด่านตงชิง เป็นด่านรถไฟผิงเสียงแทน และต้องระมัดระวังอย่าให้มีการปนเปื้อนโควิด-19 ทั้งคนขับรถ และสินค้า เพราะถ้าตรวจพบทางการจีนจะปิดด่านทันที จึงขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้ช่วยกันเข้มงวดกวดขันอย่างเต็มที่
สำหรับสถิติการส่งออกผลไม้ไทยไปยังประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ของกรมวิชาการเกษตร พบว่าในช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม 2564 ไทยส่งออกผลไม้ มีปริมาณกว่า 2 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 148,000 ล้านบาท โดยปริมาณการส่งออกผลไม้สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ทุเรียน ลำไย และมะพร้าวอ่อน แต่เริ่มประสบปัญหาการขนส่งผลไม้ติดขัดตามด่านต่างๆ ของจีนในช่วงปลายปี 2564
อย่างไรก็ตามส่งออกผลไม้ไทย ต้องเปลี่ยนแปลงใบรับรองสุขอนามัยพืชมาเป็นด่านรถไฟผิงเสียง เพื่อให้การขนถ่ายผลไม้ไปยังประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนไม่มีปัญหา
#สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","4/1/2022","ภาคเหนือ","แพร่","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220104151839261"], [56,"จังหวัดตรัง ประชุมกลั่นกรองโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ปี 2565","วันนี้ (4 ม.ค.64) นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในการประชุมกลั่นกรองโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ปี 2565 ณ ห้องพระยารัษฎา ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดตรัง
จากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2564 เห็นชอบกรอบแผนงานหรือโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (กรอบวงเงิน 170,000 ล้านบาท ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ.2564 วงเงิน 500,000 ล้านบาท) โดยกำหนดให้จัดทำข้อเสนอกรอบการดำเนินโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ปี 2565 (กรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท) กรอบวงเงินของจังหวัดตรัง จำนวน 118,306,894 บาท และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 พ.ย.2564 รับทราบกรอบการดำเนินการและคู่มือแนวปฏิบัติการเสนอโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากปี 2565 และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนดไว้ในคู่มือแนวปฏิบัติการเสนอโครงการรวมถึงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งข้อเสนอโครงการหรือกิจกรรมจะต้อมีลักษณะ (Do) 4 ด้าน ดังนี้ ด้านการพัฒนาสินค้า ท่องเที่ยวบริการ และการค้า ด้านการยกระดับประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าเพิ่ม ด้านการเกษตร/อุตสาหกรรม ด้านพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการฟื้นตัว และพัฒนากิจกรรมทางเศรษฐกิจของชุมชน และโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการกระจายประโยชน์ให้กับประชาชนในระดับพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชน
ทั้งนี้ ในการประชุมมีการพิจารณากลั่นกรองโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ปี 2565 จำนวน 50 โครงการ วงเงิน 270,331,090 บาท โดยเป็นโครงการที่เสนอโดยส่วนราชการ จำนวน 21 โครงการ วงเงิน 104,989,540 บาท โครงการที่เสนอโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 29 โครงการ ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง จำนวน 1 โครงการ วงเงิน 18,290,000 บาท เทศบาลนครตรัง จำนวน 2 โครงการ วงเงิน 11,595,000 บาท เทศบาลเมืองกันตัง จำนวน 1 โครงการ วงเงิน 18,778,000 บาท และโครงการของเทศบาลตำบล และองค์การบริหารส่วนตำบล เสนอผ่านสำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดตรัง จำนวน 25 โครงการ วงเงิน 116,216,300 บาท
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","4/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220104154059287"], [57,"ครม.อนุมัติงบกลางปี 65 วงเงิน 2,125 ล้านบาท ฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย 17 จังหวัด","นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 2,125.56 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยจำนวน 17 จังหวัด แบ่งเป็น งานบูรณะทางหลวงแผ่นดินและโครงสร้างพื้นฐานของกรมทางหลวง ครอบคลุมพื้นที่ 15 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย , เชียงใหม่ , ลำปาง , ขอนแก่น , ชัยภูมิ , นครราชสีมา , กาฬสินธุ์ , กำแพงเพชร , นครสวรรค์ , พระนครศรีอยุธยา , เพชรบูรณ์ , ลพบุรี , สุโขทัย , กาญจนบุรี และตาก โดยเป็นงานซ่อมแซมบูรณะ เช่น งานก่อสร้างและซ่อมสะพาน งานแก้ไขและป้องกันดินสไลด์ งานฟื้นฟูและเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำ รวม 69 รายการ วงเงิน 1,649.12 ล้านบาท
ส่วนงานบูรณะทางหลวงชนบทและโครงสร้างพื้นฐานของกรมทางหลวงชนบท ครอบคลุมพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ , แม่ฮ่องสอน , ชัยภูมิ , นครสวรรค์ , กำแพงเพชร , สุโขทัย และระนอง มีงานซ่อมฟื้นฟูสภาพทาง งานซ่อมฟื้นฟูและเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำ งานป้องกันการกัดเซาะโครงสร้างทาง รวม 31 รายการ วงเงิน 476.44 ล้านบาท
กระทรวงคมนาคม รายงานว่า ช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม - 12 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้เกิดอุทกภัยจากมรสุมที่พาดผ่านทั่วทุกภาคของประเทศไทย ทำให้ทางหลวงแผ่นดินและทางหลวงชนบทได้รับความเสียหาย ซึ่งกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและซ่อมแซมเส้นทางเพื่อให้การจราจรผ่านได้ในระยะเร่งด่วนแล้ว จำนวน 663 รายการ ครอบคลุมพื้นที่ 31 จังหวัด วงเงินรวม 7,987.83 ล้านบาท
วันที่ 4 ม.ค.65 ที่แผงหมูตลาดโก้งโค้ง ในเขตเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา นายปลอดชัย ขวัญย่อง ผู้ค้าเนื้อหมูในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา กล่าวว่า ราคาเนื้อหมูที่ขยับขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ในปีนี้ ยอมรับว่าลูกค้าทั้งขาจรและขาประจำเดือดร้อนหนัก เฉพาะเนื้อสันคอ วันนี้อยู่ที่ กก.ละ 220บาท เนื้อสามชั้นทะลุ 210-215 บาท จนส่งผลให้ ลูกค้าโอดครวญกับราคาหมูที่แพงรับปีใหม่ ส่วนกลุ่มที่รับไปทำหมูปิ้งต้องปรับราคาจากไม้ละ 5 บาท เป็น 3 ไม้ 20 บาท กันแล้ว ส่วนกลุ่มร้านหมูกะทะ เริ่มจะมีปรับราคากันหลายร้าน แต่ยังคงรอดูว่าจะมีการลดราคาหรือไม่ เพราะหากมีการปรับราคาขึ้นกลัวลูกค้าจะหายหมด
และจากการสอบถาม พ่อค้า แม่ค้า เขียงหมูรายย่อย กล่าวว่า ราคาเนื้อหมูที่ขยับปรับราคาแบบนี้ เป็นเพราะหมูจากฟาร์มย่อย หายไปจากระบบ จะเหลือผู้เลี้ยงหลักๆแถวนี้ไม่ถึง 10 ราย เมื่อของขาดตลาด ราคาก็ขึ้นไปตามสภาพ ซึ่งชาวบ้านจะหันไปซื้อวัตถุดิบอย่างอื่น ปรับเปลี่ยนแทน และจะ รอดูสักระยะราคาน่าจะปรับลดลงบ้าง
ขณะที่ประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อเนื้อหมู แผงหมูรายย่อย ต่างโอดเป็นเสียงเดียวกันว่าตามเขียงหมูที่เปิดกันทั่วไป 10 กว่า ร้านในย่านนี้ ราคาจะแตกต่างจากช่วงก่อนเทศกาลปีใหม่ ที่ราคาไม่ปรับจนต้องหันไปซื้อไก่ ซื้อปลา มาทำอาหารแทน เพราะสู้ราคาไม่ไหว เมื่อก่อนมีคนละครึ่งพอช่วยแบ่งเบาภาระกับราคาสินค้าที่ราคาปรับขึ้นเกือบทุกอย่าง จนตอนนี้เลยต้องปรับให้เข้ากับภาวะเศรษฐกิจ เมื่อหมูแพง ก็หันมากินเนื้อปลา เนื้อไก่แทน
พ่อค้าหมู ยังกล่าวว่า ราคาสุกร หน้าฟาร์ม มีการปรับราคาเนื่องจากปัจจัยหลักคือ รายย่อยไม่เลี้ยงแล้ว เพราะหมูติดโรค ค่าอาหารราคาสูง ราคาน้ำมันแพง ในการขนส่ง ทำให้ขาดทุน หมูที่เห็นกันในขณะนี้เป็นหมูของฟาร์มใหญ่จังหวะประจวบเหมาะกับช่วงนี้พ่อหมูพันธ์ แม่พันธ์ ขาดแคลน เลยเป็นข้ออ้างทำให้ ตลาดทั้งระบบปรับราคา ซึ่งจริงๆแล้ว ทุกช่วงเทศกาลสำคัญๆ ราคาเนื้อหมู ก็จะปรับราคาขึ้นอยู่แล้ว แต่ปีนี้ ราคาหมูขยับราคา จากที่เคยซื้อราคาเท่านี้ได้มากกว่า แต่พอเห็นราคาสันคอกก.ละ 220 บาท และหมูปิ้งไม้ละ 5 แค่พอคำ บางแผงหมูปิ้งปรับราคาเป็น 3 ไม้ 20 บาท เมนูพื้นๆของชาวบ้านขึ้น ราคาแบบนี้เดือดร้อนกันหมดแล้ว
ขณะที่ราคาเนื้อหมูมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น กก.ละ 20-30 บาท จากสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีการระบาดของโรคในสุกรหลายพื้นที่ ทำให้สุกรมีปริมาณลดลงแต่ความต้องการบริโภคเนื้อสุกรสูงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่2565 ส่งผลให้สุกรมีชีวิตและราคาเนื้อสุกรในตลาดสดและตามแผงหมูปรับราคาสูงขึ้น นอกจากนี้ราคาพริกขี้หนูราคากก.ละ 200 บาทอีกด้วย
","4/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.เบตง จ.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220104160315308"], [59,"มาตรการลดค่าครองชีพประชาชน ปี 65 ผู้ใช้สิทธิ คนละครึ่ง สามารถร่วม ช้อปดีมีคืน ได้","นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ยินดีที่มาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19 ปี 2564 ของรัฐบาล ได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน โดยมียอดใช้จ่ายสะสมรวมกว่า 254,281.7 ล้านบาท พร้อมยืนยันว่า ผู้ใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 ที่เพิ่งสิ้นสุดไปเมื่อ 31 ธ.ค. 64 สามารถร่วมโครงการช้อปดีมีคืนได้ และยังสามารถร่วมโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 ที่จะเริ่มวันที่ 1 มี.ค. 65 ได้อีก เนื่องจากช่วงเวลาไม่ทับซ้อนกัน
สำหรับโครงการ ช้อปดีมีคืน จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 15 ก.พ. 65 โดยผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หนังสือ e-Book หรือสินค้า OTOP ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท มาหักลดหย่อนภาษีฯ สำหรับปีภาษี 2565 ได้
","4/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อำนาจเจริญ","สวท.อำนาจเจริญ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220104161551318"], [60,"ครม. เห็นชอบปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ปรับปรุงแผนการก่อหนี้ใหม่ 20,700 ล้านบาท เสริมสภาพคล่องทางการเงิน","นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบอนุมัติ ปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2565 ครั้งที่ 1 เสนอโดยคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ ได้แก่ ปรับปรุงแผนการก่อหนี้ใหม่ ปรับปรุงแผนการบริหารหนี้เดิมและปรับเพิ่มแผนการชำระหนี้ โดยมีการเปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินรวมเพิ่มขึ้นเป็น 75,230.19 ล้านบาท พร้อมมอบหมายให้เร่งรัดดำเนินการตามแผนดังกล่าว
สำหรับแผนการก่อหนี้ใหม่ 20,700 ล้านบาท ประกอบด้วย แผนการก่อหนี้ใหม่ของรัฐวิสาหกิจ 700 ล้านบาท และอีก 20,000 ล้านบาท เป็นแผนเงินกู้เพื่อดำเนินโครงการหรือเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการทั่วไปของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) โดยปรับเพิ่มเงินกู้ระยะสั้น เพื่อเสริมสภาพคล่องในรูปแบบ credit line เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อนำไปชดเชยราคาน้ำมันขายปลีก โดยในส่วนของรัฐบาลไม่มีแผนการก่อหนี้ใหม่
ขณะที่แผนการบริหารหนี้เดิม ปรับเพิ่มขึ้น 31,588.34 ล้านบาท ประกอบด้วยแผนการบริหารหนี้เดิมของรัฐบาล ปรับเพิ่มขึ้น 52,793 ล้านบาท และแผนการบริหารหนี้เดิมของรัฐวิสาหกิจ ปรับลดลงสุทธิ 21,204.66 ล้านบาท
การปรับปรุงแผนฯ เป็นการปรับเพิ่มวงเงิน ปรับโครสร้างหนี้เงินกู้รัฐบาลที่ครบกำหนดในปีงบประมาณ 2566-2569 ซึ่งเป็นหนี้เงินกู้ภายใต้ พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด -19 โดยออกพันธบัตร รัฐบาลจำนวน 60,000 ล้านบาท รวมทั้งการกู้เงินเพื่อการลงทุนในโครงการพัฒนา และเพื่อดำเนินโครงการ หรือเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการทั่วไปของรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำเรื่องความเหมาะสมและความสอดคล้องกับสภาพคล่องทางการเงินในแต่ละช่วงเวลา ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการเงินกู้ อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ครม. ได้ให้กระทรวงการคลัง เป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่างๆ ของการกู้เงิน การค้ำประกันและการบริหารความเสี่ยงในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น โดยหากรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการกู้เงินได้เองก็ให้สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นของรัฐวิสาหกิจนั้นๆ
กรมสรรพสามิต ยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขายสุรา ยาสูบและไพ่ สำหรับผู้ที่มีใบอนุญาต ในปี พ.ศ.2564 ทุกประเภท ทุกฉบับที่มีความประสงค์ขายสุรา ยาสูบ และไพ่ต่อเนื่อง สถานประกอบการเดิม ในปี พ.ศ.2565 โดยนำใบอนุญาขายใบเดิมที่ยังไม่หมดอายุไปต่ออายุได้ที่ สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่หรือพื้นที่สาขาที่ร้านค้าตั้งอยู่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด หรือเคาน์เตอร์เซอร์วิส ในร้าน 7-11(ชำระค่าบริการตัวแทน) ได้รับใบอนุญาตขายฉบับใหม่ทันที
นำแบบฟอร์มคำขอใบอนุญาต ภส.08-06 ไปต่ออายุได้ที่ เคาน์เตอร์เซอร์วิส ในร้าน 7-11 (ชำระค่าบริการตัวแทน) แต่จะไม่สามารถรบใบอนุญาตได้ต้องติดต่อขอรับใบอนุญาตฉบับใหม่ ที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ หรือ พื้นที่สาขาที่ร้านตั้งอยู่ หรือเลือกต่อใบอนุญาตผ่านช่องทางออนไลน์ www.excise.go.th หรือ แอปพลิเคชั่น Excise Smart Service แต่จะไม่สามารถรับใบอนุญาตได้ต้องติดต่อขอรับใบอนุญาตฉบับใหม่ ที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ หรือ พื้นที่สาขาที่ร้านค้าตั้งอยู่
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","4/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","นครพนม","สวท.นครพนม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220104170552358"], [62,"กรอ.ตราด ติดตามผลการขับเคลื่อนการฟื้นฟูเศรษฐกิจจังหวัดตราด ประเด็นการส่งออกผลไม้","(4 ม.ค. 65) นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจังหวัดตราด (กรอ.ตร.) ครั้งที่ 1/2565 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โปรแกรม Cisco Webex Meetings โดยมี หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานด้านความมั่นคง ภาคประชาชน และภาคเอกชน เข้าร่วมที่ห้องประชุมพลอยแดง ศาลากลางจังหวัดตราด
สำหรับการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจังหวัดตราด ในครั้งนี้ ได้มีการนำเสนอประเด็นต่าง ๆ จากการประชุมหารือการขับเคลื่อนการฟื้นฟูเศรษฐกิจจังหวัดตราดที่ผ่านมา โดยเฉพาะประเด็นการส่งออกผลไม้ของจังหวัดตราด อาทิ การใช้ประโยชน์และการสนับสนุน การส่งออกสินค้า ผลไม้ ทุเรียน และมังคุดของจังหวัดตราด และจังหวัดใกล้เคียง ผ่านท่าเทียบเรืออเนกประสงค์คลองใหญ่ อำเภอคลองใหญ่ ตามที่หอการค้าจังหวัดตราดเสนอ ซึ่งสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาตราดแจ้งความประสงค์ข้อเสนอของหอการค้า ฯ ตามขั้นตอนให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ที่จะเข้ามาบริหารท่าเทียบเรือ พิจารณา นอกจากนี้ยังมีประเด็นการใช้มาตรฐานผลไม้ GAP, GMP ของผู้ประกอบการการส่งออกผลไม้ มาตรฐานผลไม้แบบกลุ่ม GAP ระบบสหกรณ์ ซึ่งจังหวัดตราด มีคณะทำงาน SC (Single Command) ที่แต่งตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 รับผิดชอบ ประกอบด้วย หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทุกหน่วยงาน และผู้แทนสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขต 6 (สวพ.6) ซึ่งมีหน้าที่ตรวจรับรองมาตรฐานผลไม้ โดยมีเกษตรและสหกรณ์จังหวัดตราดเป็นหัวหน้าคณะ ขับเคลื่อนการทำงาน อย่างไรก็ตามการประชุมครั้งนี้ยังได้มีการนำเสนอในเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งแรงงานที่เกี่ยวข้องกับผลไม้ หีบห่อบรรจุภัณฑ์ และผลไม้ มีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรค โดยเฉพาะการส่งออกผลไม้ที่อุณหภูมิต่ำทำให้เชื้อที่อาจปนเปื้อน อยู่ได้นานกว่าปกติ แนวทางแก้ไขคือ ใช้มาตรการ DMHTTA กับกระบวนการส่งออกผลไม้ทุกขั้นตอน การตรวจ ATK ในโรงงาน สถานประกอบการ และการสุ่มตรวจ ATK ในสถานประกอบการกลุ่มเป้าหมายของทางราชการเพื่อสร้างความมั่นใจอีกด้วย
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","4/1/2022","ภาคตะวันออก","ตราด","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220104175248371"], [63,"กระทรวงการคลัง ขานรับข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี เร่งแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ","นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้กำหนดให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน โดยสั่งการและมอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงการคลังและสถาบันการเงินเฉพาะกิจ กำหนดให้การแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชนเป็นพันธกิจหลักและเร่งดำเนินการในประเด็นต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เช่น การแก้ไขปัญหาหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) การกำหนดให้การไกล่เกลี่ยและการปรับโครงสร้างหนี้เป็นวาระของประเทศ การแก้ไขปัญหาหนี้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ การแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการ เป็นต้น
กระทรวงการคลัง ดำเนินมาตรการเพื่อช่วยเหลือและลดภาระให้กับลูกหนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยในระยะสั้นได้มอบหมายให้ธนาคารออมสินจัดทำโครงการ สร้างงานสร้างอาชีพ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบกับปัญหาการขาดรายได้จากการตกงาน ถูกเลิกจ้าง หรือลดเงินเดือน ให้เข้าโครงการอบรมเสริมความรู้และได้รับสินเชื่อนำไปประกอบอาชีพเพื่อเพิ่มช่องทางในการหารายได้และลดภาระหนี้สิน
นอกจากนี้ ในระยะยาวกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างจัดทำแผนการให้ความรู้ทางการเงินแก่ประชาชนอย่างครบถ้วนและทั่วถึง เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือนอย่างยั่งยืน โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาแผนฯ ดังกล่าวต่อไป
","4/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220104182726387"], [64,"สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดตราด จัดทดสอบโปรแกรมการท่องเที่ยวชุมชนยายม่อม กลุ่มเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ จังหวัดตราด","
(4 ม.ค. 64) สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดตราด นำโดย นายมนตรี ฮมแสน พัฒนาการจังหวัดตราด นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรมทดสอบโปรแกรมการท่องเที่ยวชุมชนยายม่อม บริเวณกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฟื้นฟูอาชีพบ้านยายม่อม หมู่ที่ 1 ตำบลแหลมงอบ อำเภอแหลมงอบ โดยการจัดทดสอบโปรแกรมการท่องเที่ยวชุมชนในครั้งนี้ มีกิจกรรมที่หลากหลายให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้สัมผัสความเป็นชุมชนบ้านยายม่อมแห่งนี้ อาทิ กิจกรรมการอนุรักษ์พันธุ์แมงดาทะเล สัมผัสชีวิตวิถีประมงพื้นบ้าน กิจกรรมทำชาใบขลู่ การแต่งกายชุดมุสลิม พร้อมทั้งชมมัสยิดนูรุ้ลการีมและหออะซาน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมร่วมเต้นลิเกฮูลู ชมการสาธิตและร่วมกิจกรรมการทำขนมบ้าบิ่น การสานปลาตะเพียน และปู จากใบจาก รวมไปถึงการล่องเรือชมวิถีประมงและป่าชายเลนบริเวณหาดทรายดำ อีกด้วย
สำหรับการจัดกิจกรรมทดสอบโปรแกรมการท่องเที่ยวชุมชนยายม่อม เป็นหนึ่งในหลายชุมชนที่เป็นเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ จังหวัดตราด (เน้นหนัก) ในปีงบประมาณ 2565 เพื่อเป็นการรับฟังปัญหา/ความต้องการกลุ่มเป้าหมายฯ และแนวทางบูรณาการส่งเสริมสนับสนุนกลุ่มเป้าหมายตามแนวทางประชารัฐ โดยเฉพาะการสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน เป็นการเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานต่อไป
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","4/1/2022","ภาคตะวันออก","ตราด","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220104184211393"], [65,"พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ","วันที่ 4 มกราคม 2565 นางพิรุณวรรณน์ จงใจภักดิ์ พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ มอบหมายให้ผู้อำนวยการกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้าและเจ้าหน้าที่ ตรวจติดตามสถานการณ์การจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ ณ ตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์ และห้างสรรพสินค้า พบว่า สุกรชำแหละราคาขายปลีก ราคา ณ ตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์ เนื้อแดง ราคา กก.ละ 200 - 220 บาท สันนอก/สันใน ราคา กก.ละ 200 - 220 บาท สามชั้น ราคากก.ละ 220 - 240 บาท มันหมูแข็ง ราคา กก.ละ 70-80 บาท ราคาปรับตัวสูงขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา กก.ละ 10 - 20 บาท ตามราคาสุกรมีชีวิตที่ปรับตัวสูงขึ้น
ส่วนราคา ณ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี แม็คโคร โลตัส เนื้อแดง ราคากก.ละ 132 -165 บาท สามชั้น ราคา กก.ละ 189 - 232 บาท
สุกรมีชีวิต ราคา กก.ละ 106 - 110 บาท ปรับตัวสูงขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 7 - 10 บาท/กก. เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเพิร์ส หรือพีอาร์อาร์เอส (PRRS) ทำให้สุกรล้มตายเป็นจำนวนมาก ผลผลิตที่ได้จึงน้อยกว่าปกติทำให้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ราคาจึงปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน ไม่ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุอันควร
ส่วนจุดจำหน่ายโครงการ หมูพาณิชย์ ลดราคา! ช่วยประชาชน จังหวัดสุรินทร์ ราคากิโลกรัมละ 150 บาท จำนวน 3 จุด ดังนี้ 1) ซี พี เฟรซมาร์ท สาขาตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ 2) ซี พี เฟรซมาร์ท สาขาสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ 3) ซี พี เฟรซมาร์ท สาขาปราสาท อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","4/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สวท.สุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220104190929398"], [66,"กรมท่าอากาศยานแจงกรณีก่อสร้างสนามบินเบตง ย้ำเพื่อพัฒนาตามขนาดและความต้องการเดินทางของประชาชน ส่วนจุดเติมน้ำมันอากาศนานได้หารือกับ ปตท. เพื่อหาแนวทางในการให้บริการในอนาคตแล้ว","วันนี้ (4 ม.ค.65 ) นางดวงพร สุวรรณมณี ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนราธิวาส ปฏิบัติงานในฐานะผู้อำนวยการท่าอากาศยานเบตง เผยว่า ทางกรมท่าอากาศยาน(ทย.)ชี้แจงกรณีมีประเด็นบิดเบือนของท่าอากาศยานเบตงตามที่ได้มีข้อมูลปรากฏบิดเบือนในสื่อสังคมออนไลน์ ถึงกรณีการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตงที่มีข้อติดขัดไม่สามารถเปิดให้บริการได้นั้น กรมฯขอชี้แจงข้อมูลเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องดังนี้
กรมท่าอากาศยานได้ดำเนินการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2558 วัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาการคมนาคมในพื้นที่ที่มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชันไม่สะดวกต่อการเดินทาง และเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
อย่างไรก็ตาม ซึ่งก่อนการดำเนินการก่อสร้างกรมท่าอากาศยาน ได้มีการศึกษาความเป็นไปได้ วิเคราะห์ข้อมูลทางกายภาพและทางเศรษฐศาสตร์ จึงได้ข้อสรุปในการก่อสร้างที่วางไว้คือ ทางวิ่ง(Runway) ขนาด 30x 1,800 เมตรสามารถรองรับเครื่องบินขนาด 80 ที่นั่ง (ATR-72/Q-400) ซึ่งตามหลักการดำเนินงานท่าอากาศยานจะมีการติดตามตัวเลขผู้โดยสารและเที่ยวบิน เพื่อนำมาวิเคราะห์ในการเพิ่มศักยภาพของท่าอากาศยานต่างๆ โดยจะต้องมีระยะของการพัฒนาตามขนาดและความต้องการเดินทางของประชาชน
สำหรับเส้นทางบินและการขึ้นลงของอากาศยาน จะอยู่ในน่านฟ้าของประเทศไทยเท่านั้น ไม่มีล้ำเข้าไปในน่านฟ้าของประเทศเพื่อนบ้านแต่อย่างใด ขณะนี้ได้มีสายการบินขออนุญาตทำการบินไว้ 2 เส้นทาง คือ 1.หาดใหญ่-เบตง-หาดใหญ่ และ 2.ดอนเมือง-เบตง-ดอนเมือง ปัจจุบันท่าอากาศยานเบตงได้มีการให้บริการเที่ยวบินทางราชการ และเที่ยวบินส่วนบุคคล ซึ่งได้มีการทำการบินมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ในส่วนของการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานนั้น กรมท่าอากาศยานได้มีการหารือแนวทางร่วมกันกับ บริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) โดยได้มีการวางแผนการลงทุนและแนวทางในการให้บริการในอนาคต
กรมท่าอากาศยานขอเรียนให้ทราบว่าจากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่าการดำเนินงานของกรมท่าอากาศยานมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนในความต้องการพัฒนาท่าอากาศยานให้สามารถรองรับการเดินทางทางอากาศของประชาชนได้อย่างเพียงพอ และครอบคลุมทุกความต้องการ รวมถึงเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมของประชาชนให้ทั่วถึงต่อไป
รายงานข่าวกระทรวงคมนาคม เผยว่า ในส่วนของสายการบินที่จะมาเปิดทำการบินที่ท่าอากาศยานเบตงนั้น ทาง ทย. มีมาตรการให้การสนับสนุนสายการบินตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น การลดค่าธรรมเนียมค่าขึ้นลงอากาศยาน 50% และยกเว้นค่าธรรมเนียมจอดอากาศยาน ส่วนเรื่องเงื่อนไขการรับประกันที่นั่งผู้โดยสาร 75% ตามที่ผู้ประกอบการสายการบินเสนอมา ได้เร่งรัดการเจรจาให้จบโดยเร็ว เพราะไม่อยากให้เปิดท่าอากาศยานแล้วหยุดให้บริการ และกลับมาเปิดให้บริการอีก ต้องการให้เปิดแล้วก็เปิดให้บริการยาวต่อเนื่องเลย ไม่อยากให้เกิดปัญหาท่าอากาศยานร้าง
สำหรับท่าอากาศยานเบตง จ.ยะลา ได้เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 60 แล้วเสร็จเมื่อปี 62 อาคารที่พักผู้โดสาร มีพื้นที่ประมาณ7,000 ตารางเมตร(ตรม.) สามารถรองรับผู้โดยสารในชั่วโมงเร่งด่วนได้ประมาณ 300 คนต่อชั่วโมง และรองรับผู้โดยสารได้ 876,000 คนต่อปี มีขนาดความยาวทางวิ่ง(รันเวย์) 1,800 เมตร สามารถรองรับได้เฉพาะอากาศยานขนาดเล็ก เช่น เครื่องบินแบบใบพัด ATR ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา เพื่อขยายความยาวรันเวย์เพิ่มเป็น 2,500 เมตร เพื่อให้สามารถรองรับอากาศยานขนาด 180 ที่นั่งได้
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","4/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.เบตง จ.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220104193256403"], [67,"กูร์เมต์ มาร์เก็ต ชวนชาวโคราช ช้อป ชิม หลากหลายสินค้า และเมนูอร่อย ดีต่อสุขภาพ ในบรรยากาศกาดดอยแสนม่วนอกม่วนใจ๋ ที่งาน เทศกาลสินค้าโครงการหลวง : ดอกไม้กินได้","นายชินาพัฒน์ พิมพ์ศรีแก้ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัทเดอะมอลล์ นครราชสีมา จำกัด เปิดเผยว่า กูร์เมต์ มาร์เก็ต และ เดอะมอลล์ โคราช ร่วมกับ มูลนิธิโครงการหลวง จัดงาน เทศกาลสินค้าโครงการหลวง : ดอกไม้กินได้ ชวนชาวโคราชและจังหวัดใกล้เคียง ร่วมลิ้มลองความอร่อยกับเมนูสุดพิเศษเฉพาะงานนี้ ที่รังสรรค์ขึ้นจากวัตถุดิบและดอกไม้กินได้จากโครงการหลวง พร้อมด้วยสินค้าและผลิตภัณฑ์คุณภาพทั้ง ผัก ผลไม้ ดอกไม้กินได้ รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปมากมาย พร้อมเมนูอิ่มอร่อยจากอาหารพื้นเมือง ที่ปรุงด้วยวัตถุดิบโครงการหลวง กว่า 10 เมนู ในบรรยากาศกาดดอยแสนม่วนอกม่วนใจ๋ ระหว่างวันที่ 5 - 12 มกราคม 2565 ที่ Grand Hall ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช กลับมาส่งตรงความสด อร่อย แบบได้สุขภาพให้กับชาวโคราชและจังหวัดใกล้เคียงอีกครั้ง กับงาน เทศกาลสินค้าโครงการหลวง ภายในคอนเซ็บท์ ดอกไม้กินได้ พร้อมจำลองบรรยากาศและกลิ่นอายการตกแต่งที่สวยงามเหมือนยกกาดดอยมาได้ม่วนอกม่วนใจ๋ โดยภายในงานรวบรวมสินค้าและผลิตภัณฑ์คุณภาพจากโครงการหลวงทั้ง ผัก-ผลไม้ ผลิตภัณฑ์แปรรูปมากมาย กว่า 150 รายการ อาทิ ผักเคล และผักสดหลากหลายชนิด, สตรอเบอร์รี่, เคปกูสเบอร์รี่, เสาวรส, ฟักทองญี่ปุ่น, มะเขือเทศเชอรี่, ปลาเรนโบว์เทร้าต์, ขนมปังมันเทศญี่ปุ่น มินิ, ไข่ไก่อินทรีย์โครงการหลวง ที่เลี้ยงแบบปล่อยธรรมชาติไม่ใช้ฮอร์โมนไม่ใช้สารเร่ง, กาแฟดริปโครงการหลวง กาแฟ 100% อะราบิก้า จากแหล่งปลูกแม่ลาน้อย ที่มีสภาพอากาศเหมาะสม ปลูกภายใต้ร่มไม้ใหญ่ และสภาพหุบเขาที่โอบล้อม ทำให้ได้เมล็ดกาแฟคุณภาพ มีให้เลือก 2 แบบ คือ คั่วกลาง กับ คั่วเข้ม, เนยแข็งเฟต้า ผลิตจากนมควายผสมนมแพะ นิยมรับประทานกับสลัด บีบให้เนื้อร่วนโรยหน้าสลัด โรยหน้าพิซซ่า หรือทานกับผลไม้, ผักเคลผง สินค้าใหม่ที่คุณค่าทางโภชนาสูง อัดแน่นไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุเป็นราชินีแห่งผักใบเขียว ฯลฯ พร้อมพบกับไฮไลท์ ดอกไม้กินได้ อาทิ ดอกเนสเตอร์เตียม (Nasturtium) มีสีขาว ครีม ชมพู เหลือง ส้ม และแดง มีกลิ่นหอม ใบมีรสเผ็ด จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Indian Cress ดอกและใบนิยมมารับประทาน เป็นผักสดมีรสเผ็ดและให้กลิ่นหอมคล้ายกับวอเตอร์เครส นิยมใส่ในสลัดเพื่อเพิ่มสีสันและรสชาติ ดอกกุหลาบ (Rose) มีหลากหลายสีสัน เช่น แดง ขาว เหลือง ชมพู ฯลฯ มีสรรพคุณช่วยลดกลิ่นตัว ขับเหงื่อ ขับสารพิษ ช่วยบำรุงหัวใจ และเป็นยาระบายอ่อน ๆ กลีบบางชนิดนำมาทำเป็น ชาดอกกุหลาบ บางชนิดนำมาทำเป็นอาหาร เช่น นำไปยำกับเนื้อสัตว์ ชุบแป้งทอด ใส่ในไข่เจียว หรือจะทำเป็นสลัดได้เช่นกัน, ดอกบีโกเนีย (Begonia) ตัวดอกมีความกรอบชุ่มฉ่ำเหมือนผักสลัดสด ๆ มีรสชาติเปรี้ยว เหมือนยอดมะขามอ่อน เหมาะสำหรับอาหารทุกประเภทที่ต้องการตัดรสเลี่ยน หรือแม้กระทั่งทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อเติมความสดชื่นระหว่างวัน มีสรรพคุณช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร
พร้อมกันนี้เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสและลิ้มลองความอร่อยของวัตถุดิบคุณภาพจากโครงการหลวง กูร์เมต์ มาร์เก็ต ได้รังสรรค์ 4 เมนูสุดพิเศษ โดยเชฟ You Hunt We Cook ซึ่งมีจำหน่ายเฉพาะงานเท่านั้น ได้แก่ สลัดโรลผักเคลกับดอกไม้โครงการหลวง (Salad Roll with kale Flower) ราคา 90 บาท, ผักเคลเบคอนอบครีมชีส (Bake kale & bacon cream cheese) ราคา 150 บาท, ปลาเรนโบว์เทราต์ ย่างกับซัลซ่ามะเขือเทศโครงการหลวง (Grilled Trout decorations with Cherry Tomato Salsa) ราคา 250 บาท, ปลาเรนโบว์เทราต์ ย่างซอสสมุนไพรกับข้าวโครงการหลวง (Grilled Trout with Thai Herb and Rice) ราคา 250 บาท และนอกจากนี้ ภายในงานยังได้คัดสรรอาหารเหนือ แบบพื้นเมืองแท้ ๆ และยังใช้วัตถุดิบจากโครงการหลวงในการปรุงเมนูมาให้ได้เลือกลิ้มลองความอร่อยมากมาย อาทิ ข้าวเหนียวงาดำ มีส่วนผสมพิเศษในส่วนของข้าวเหนียวธัญญะพืชที่ได้ใช้ งาดำ และงาหอม ผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวงมาเป็นส่วนผสมซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์, ข้าวซอยปลาเทร้าต์ทอด อาหารขึ้นชื่อของชาวเหนือ ใช้ปลาเทร้าต์จากโครงการหลวง ทอดในน้ำมันร้อน ๆ จนเหลืองกรอบ ทานพร้อมเส้นและราดน้ำแกงข้าวซอย เพิ่มความอร่อยด้วยเครื่องเคียงต่าง ๆ, ผัดไทไข่ไก่โครงการหลวง เมนูอาหารจานเด็ดซึ่งทางร้านได้นำไข่ไก่โครงการหลวงที่ปล่อยตามธรรมชาติ ไก่ไม่เครียด ไม่ใช้ฮอร์โมนเร่งไม่ใช้สารเร่งสีไข่แดง เลี้ยงด้วยผลผลิตอินทรีย์ ซึ่งไข่ไก่อินทรีย์จะปลอดจากสารพิษ, น้ำพริกหนุ่ม พร้อมผักเครื่องเคียงโครงการหลวง อาหารพื้นบ้านล้านนาที่รู้จักกันทั่วไป ทำจากพริกชนิดหนึ่งที่เรียกว่าพริกหนุ่มอาจจะใช้พริกหนุ่มที่แก่จัดหรือยังไม่แก่จัดก็ได้ โขลกส่วนผสม หอม และกระเทียม ที่มาย่างและรับประทาน กับ ผักโครงการหลวงสดจากดอยโดยตรง ซึ่งเป็นผักปลอดภัย และมีให้เลือกหลายหลายชนิด, กะลอจี้ ขนมกะลอจี๊เป็นขนมแป้งเหนียว ๆ สัญชาติจีน นำไปต้มจนสุก เวลาจะกินก็นำไปคลุกกับน้ำตาลทรายผสมงาขาวงาดำ จากโครงการหลวง ใส่ถั่วเพิ่มกะลอจี๊กรอบนอกนุ่มใน หอมงาและถั่ว ไปกินเล่นยามว่าง, ขนมตะโก้ ตะโก้กะทิสดมีให้เลือกกว่า 16 ไส้ โดยมีเมนูแนะนำคือไส้ ข้าวโพด, ฟักทอง, ถั่วแดง ที่สด ใหม่ จากโครงการหลวง บอกเลยว่าถ้ากินหมดนี่เบาหวานรับประทานแน่นอน, น้ำอะโวคาโดปั่น ได้คัดสรร ผลอะโวคาโด สดจากทีมโครงการหลวง มาทำน้ำอะโวคาโดปั่น ซึ่งเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพอย่างมาก เพราะมีทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายกว่า 20 ชนิด และมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่มาก ซึ่งประโยชน์ของอะโวคาโดนั้นมีหลากหลายด้าน เช่น บำรุงสมอง บำรุงดวงตา ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง ไปจนถึงประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่น ๆ และอีกหลากหลายเมนูให้เลือกลิ้มลองความอร่อย
ร่วมสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวง และลิ้มลองความอร่อยกับหลากหลายเมนูได้ ในงาน เทศกาลสินค้าโครงการหลวง : ดอกไม้กินได้ ตั้งแต่วันที่ 5 - 12 มกราคม 2565 ที่ Grand Hall ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","4/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","นครราชสีมา","สวท.นครราชสีมา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220104214616412"], [68,"ตรัง นักดำน้ำตื้นตะลึงพบกระเบนใหญ่สุดในโลกที่เกาะรอก","นักดำน้ำตื้นสุดตะลึงพบ \"กระเบนแมนตา\" หรือ \"กระเบนราหู\" ปลากระเบนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่เกาะรอก แถมยังให้เข้าไปยลโฉมได้อย่างใกล้ชิด ผู้ประกอบการทัวร์เผยเจอครั้งแรกในรอบ 18 ปี
ทีมผู้ประกอบการท่องเที่ยวทะเลตรัง ได้นำนักท่องเที่ยวเดินทางไปดำน้ำตื้น ที่บริเวณจุดดำน้ำหลังเกาะรอก ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นราชินีอันดามัน อันเนื่องมาจากธรรมชาติของโลกใต้น้ำที่ยังคงมีความสวยงามมาก โดยทุกคนต่างก็รู้สึกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง เมื่อได้พบกับปลากระเบนแมนตา หรือปลากระเบนราหู ซึ่งจัดเป็นปลากระเบนที่ใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากปกติแล้วผู้ที่จะพบเห็นปลากระเบนชนิดนี้ได้ จะต้องเป็นกลุ่มนักดำน้ำลึก หรือ Scuba Diving เท่านั้น แต่กลุ่มที่ดำน้ำตื้น จะมีโอกาสเจอน้อยถึงน้อยมาก แถมปลากระเบนตัวนี้ยังดูคุ้นกับผู้คนอีกด้วย
สำหรับปลากระเบนแมนตา หรือปลากระเบนราหู ที่พบตัวนี้ มีความกว้างของช่วงปีก จากคลีบซ้ายถึงคลีบขวา 3-4 เมตร แต่มีตำหนิที่คลีบซ้าย เหมือนโดนฉลามกัดมา แต่บางตัวอาจมีความกว้างของช่วงปีกได้ถึง 6.7 เมตร หรือ 22 ฟุต และมีน้ำหนักได้ถึง 1,350 กิโลกรัม ปกติมักอาศัยอยู่ในน่านน้ำเขตร้อนทั่วโลก โดยเฉพาะรอบๆ แนวปะการัง ส่วนที่จังหวัดตรัง จะพบมากบริเวณกองหินกลางทะเล หรือ \"หินม่วง หินแดง\" ซึ่งอยู่ห่างจากเกาะรอก ออกไปอีก 1 ชม. (Speedboat 50-60 กม./ชม.) ภายในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา
นายพฤกษ์ อุบลเกิด ผู้จัดการ มดตะนอย รีสอร์ท ทีมผู้ประกอบการท่องเที่ยวทะเลตรัง กล่าวว่า ตั้งแต่ตนเองทำทัวร์ดำน้ำตื้นมายาวนานถึง 18 ปี แต่เพิ่งจะเป็นครั้งแรกที่มีปลากระเบนแมนตา หรือปลากระเบนราหู ขึ้นมาให้ยลโฉมในระดับน้ำตื้นเช่นนี้ และเฉพาะที่บริเวณเกาะรอก ก็แทบไม่เคยมีประวัติว่า พบปลากระเบนชนิดนี้มาก่อน แต่ล่าสุดเพิ่งมีทีมดำน้ำลึกพบเห็นปลากระเบนแมนต้า ที่บริเวณหินม่วง หินแดง จำนวน 2 ตัว จึงนับเป็นความโชคดีทั้งของตนเองและกลุ่มนักดำน้ำตื้นที่ได้เจอปลากระเบนที่ใหญ่ที่สุดในโลกตัวนี้อย่างใกล้ชิด
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","4/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220104215435414"], [69,"จังหวัดแพร่เผยยอดจำหน่ายงาน OTOP ภูมิภาค ความสุขผลิบานทั่วไทย 7 วันยอดจำหน่ายกว่าล้านบาท","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า ตามที่จังหวัดแพร่ร่วมกับกรมพัฒนาชุมชนงาน OTOP ภูมิภาค ความสุขผลิบานทั่วไทย ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2564 - 4 มกราคม 2565 ที่บริเวณพื้นที่ตรงข้ามอนุสาวรีย์พระยาไชยบูรณ์ ตำบลป่าแมต อำเภอเมืองแพร่ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ ผู้ผลิตสินค้า OTOP ได้มีแหล่งจำหน่ายสินค้า เปิดช่องทางการตลาดให้สามารถจำหน่ายสินค้าได้ สร้างรายได้แก่ผู้ประกอบการ เสริมสร้างเศรษฐกิจในภาพรวม ภายใต้มาตรการการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
ด้านนายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่กล่าวว่า ในการจัดงาน OTOP ภูมิภาค ความสุขผลิบานทั่วไทย ซึ่งจัดที่จังหวัดแพร่นั้น ทั้ง 7 วัน สามารถจำหน่ายได้ยอดรวมถึง 1,474,180 บาท โดยร้านจำหน่ายทั้ง 7 วันมียอดสูงสุด 3 ลำดับคือ 1.อวิกาหม้อห้อมแฟชั่น ยอดจำหน่าย 123,100 บาท 2.ญเนศไทยดีไขน์ ยอดจำหน่าย 123,000 บาท และ 3. สิริพร บัตรน้อย ยอดจำหน่าย 119,100 บาท ซึ่งถือว่าประสบผลสำเร็จสามารถสร้างรายได้แก่ผู้ประกอบการ และสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากได้เป็นอย่างดีหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","5/1/2022","ภาคเหนือ","แพร่","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220105104448471"], [70,"ตลาดทุ่งเกวียนลำปางคึกคัก นักท่องเที่ยวสายเหนือเดินทางกลับแวะซื้อของฝากจำนวนมาก","ภาพบรรยากาศของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนช่วงเทศกาลปีใหม่ ต่างเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร หรือจังหวัดอื่นๆ โดยส่วนใหญ่ที่เดินทางมาเที่ยวยังจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และแม่ฮ่องสอน โดยใช้เส้นทางถนนสายเอเชีย เชียงใหม่-ลำปาง เดินทางกลับกันอย่างหนาแน่น เพื่อจะกลับไปทำงานหลังจากได้หยุดพักติดต่อกันมาหลายวัน โดยระหว่างการเดินทางกลับ ประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ได้จอดพักรถแวะซื้ออาหารพื้นเมืองและของฝากของที่ระลึกที่ตลาดทุ่งเกวียน ตำบลเวียงตาล อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่อีกแห่งของจังหวัดลำปางที่ขึ้นชื่อในเรื่องของสินค้าอาหารเมืองเหนือ จนทำให้การจราจรบริเวณถนนด้านหน้าตลาดคับคั่งหนาแน่น แต่ยังคงเคลื่อนตัวได้อย่างสะดวก เนื่องจากในปีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลาดทุ่งเกวียน ได้มีการแก้ปัญหาการจราจรในจุดดังกล่าว มีการติดป้ายเตือนเป็นช่วงๆ ก่อนถึงตลาด ให้นักท่องเที่ยวที่จะแวะซื้อของฝากได้ขับชิดซ้าย พร้อมจัดทำช่องทางพิเศษเบี่ยงเข้าไปยังจุดจอดรถด้านหน้าตลาด
ทางด้าน พ.ต.อ.ฤกษ์ชัย แสงสว่าง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรห้างฉัตร ได้จัดกำลังพลเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20 นาย เข้ามาช่วยปฏิบัติหน้าที่บริเวณด้านหน้าตลาด ทำการจัดระเบียบเรื่องการจราจร กำหนดจุดจอดพักรถ เพื่อให้การจราจรลื่นไหลคล่องตัวตลอดเวลา รวมทั้งเพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะปฏิบัติหน้าที่ยาวต่อเนื่องไปจนกว่าสถานการณ์การจราจรในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่จะกลับสู่ปกติ
ทั้งนี้ พ่อค้า แม่ค้า ภายในตลาดทุ่งเกวียนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกดีและมีความสุขที่สินค้าของฝากต่างๆ สามารถกลับมาขายได้อีกครั้ง เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่ที่โรค COVID-19 ระบาด ต่างได้รับผลกระทบแทบไม่มีรายได้ ส่วนสถานการณ์ปัจจุบันพวกตนยังคงกังวลกับโรค COVID-19 แต่ขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่ต่างก็ได้รับวัคซีนกันหมดแล้ว และหากทุกคนได้ใส่ใจที่จะดูแลตนเองปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่กำหนด ก็คิดว่าน่าจะช่วยให้ทุกคนปลอดภัยจากโรค COVID-19 ได้
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","5/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สวท.ลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220105105743482"], [71,"กระทรวงพาณิชย์เผยดัชนีราคาผู้บริโภค เดือนธันวาคม 2564 ปรับสูงขึ้นสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่อเนื่อง","นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือเงินเฟ้อทั่วไป เดือนธันวาคม 2564 สูงขึ้นร้อยละ 2.17 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน แต่สูงขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้า ที่ร้อยละ 2.71 จากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกในประเทศที่สูงน้อยกว่าที่ควรจะเป็น เนื่องจากมาตรการตรึงราคาน้ำมันของภาครัฐ ขณะที่สินค้าในกลุ่มอาหารสด อาทิ ราคาผักสด ยังอยู่ในระดับสูง ส่วนเนื้อสุกรและไข่ไก่ ปรับสูงขึ้นตามต้นทุนการเลี้ยง โดยเฉพาะราคาเนื้อสุกรปรับเพิ่มตามค่าบริหารจัดการโรคระบาดในสุกร ทำให้ปริมาณผลผลิตลดลง รวมทั้ง น้ำมันพืช กับข้าวสำเร็จรูปและข้าวราดแกง ราคาปรับสูงขึ้นตามต้นทุนและวัตถุดิบ อย่างไรก็ตาม ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ผลไม้สด เสื้อผ้า ค่าเช่าบ้าน ค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียมการศึกษายังคงปรับลดลง
สำหรับปัจจัยที่ทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นในเดือนนี้ สอดคล้องกับเครื่องชี้วัดเศรษฐกิจสำคัญหลายตัว เช่น ยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมทั้งการส่งออกสินค้าที่ยังคงขยายตัวได้ดีและต่อเนื่อง และดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมที่ยังคงขยายตัวได้ดี นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม ที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 มาอยู่ที่ระดับ 47.0 จากระดับ 45.2 ในเดือนก่อนหน้า รวมทั้ง ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างและดัชนีราคาผู้ผลิต ที่สูงขึ้นร้อยละ 8.9 และ 7.7 ตามลำดับ
ทั้งนี้ สถานการณ์เงินเฟ้อทั่วไป ในปี 2564 สูงขึ้นร้อยละ 1.23 ใกล้เคียงกับที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวในช่วงร้อยละ 0.8 1.2 และเงินเฟ้อพื้นฐาน สูงขึ้นร้อยละ 0.23 ซึ่งขยายตัวเท่ากับปีก่อน ปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อเงินเฟ้อในปีนี้ ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง ประกอบกับราคาผักสดเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม ชี้ว่า สถานการณ์ด้านราคาสินค้าและบริการของประเทศตลอดทั้งปี 2564 ยังอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ เคลื่อนไหวในทิศทางปกติ ขณะที่ เงินเฟ้อในปี 2565 คาดว่าจะมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในระดับที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ โดยค่ากลางอยู่ที่ร้อยละ 1.5 ซึ่งเป็นอัตราที่จะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อย่างเหมาะสม
ประเทศจีนเปิดด่านรถไฟผิงเสียง ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง นำเข้าผลไม้ไทย ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. ถึงวันที่ 17 มกราคม 2565 ทดแทนกรณีด่านตงซิง ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ปิดด่าน ทําให้ทุเรียนและลําไยสดของประเทศไทยติดค้างอยู่ที่ด่านเป็นจำนวนมาก โดยในปีที่ผ่านมาไทยส่งออกผลไม้ไปยังประเทศจีน ได้กว่า 2 ล้านตัน เป็นมูลค่ากว่า 148,000 ล้านบาท โดยปริมาณการส่งออกผลไม้สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ทุเรียน ลำไย และมะพร้าวอ่อน
ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสริมศักยภาพ ยกระดับและพัฒนาระบบขนส่งสินค้าเกษตรและผลไม้ไทย โดยให้ร่วมกับภาคเอกชน และเกษตรกร ดูแลและอำนวยความสะดวกแก่เกษตรกรไทย ตั้งแต่สนับสนุน และตรวจสอบการผลิตที่ได้มาตรฐาน สอดคล้องความต้องการผู้บริโภค มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ และมีการจัดการที่สอดคล้องกับมาตรการด้านสาธารณสุข รักษามาตรฐานคุณภาพผลไม้ส่งออก พร้อมคำนึงถึงมาตรการป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโควิด-19 ที่ปลอดภัย และได้มาตรฐานในระดับสากล
","5/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220105125202541"], [73,"ธุรกิจที่ดีขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ของจังหวัดตรัง หลังจากที่ซบเซามาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมามีการงดการเดินทาง แต่เมื่อมีการเดินทางท่องเที่ยว ทำให้ธุรกิจการจำหน่ายของฝากโดยเฉพาะขนมเค้ก เป็นสินค้าระดับ 5 ดาว มีไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนและนักท่องเที่ยว และมีการเตรียมปรับราคาขนมเค้กหลังจากเทศกาลตรุษจีน เนื่องจากวัตถุดิบในการทำขนมเค้กนั้นมีการปรับราคาขึ้น","จากการที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จังหวัดตรัง ซึ่งเทศกาลปีใหม่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวของจังหวัดตรังคึกคัก นอกเหนือจากธุรกิจท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการการท่องเที่ยวแล้ว ธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการอีกประเภทคือ การจำหน่ายของที่ระลึกและของฝาก โดยเฉพาการจำหน่ายขนมเค้กนับว่าเป็นของฝากที่นักท่องเที่ยวและประชาชนนิยมซื้อกกลับไปฝากเพื่อนๆและญาติ
นายสาธิต วงศ์สัมพันธ์ ผู้ประอบการร้านจำหน่ายขนมเค้กรสเลิศ กล่าวว่า ขนมเค้กของจังหวัดตรังเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรูปแบบ และรสชาติ จึงทำให้ขนมเค้กของจังหวัดตรังมีเอกลักษณ์เฉพาะ ในช่วงเทศกาลปีใหม่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาจำนวนมากจึงส่งผลให้ยอดการจำหน่ายขนมเค้กของผู้ประกอบการมียอดการจำหน่ายเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในแต่ละวันจนบางวันสินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และนักท่องเที่ยว การที่ขนมเค้กสามารถจำหน่ายได้จำนวนมาก จนไม่เพียงพอต่อความต้องการนั้น สาเหตุมาจากที่ผ่านมานั้นการแพร่ระบาดของโควิด -19 มีการแพร่ระบาดจำนวนมาก แต่ในขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้น ประชาชนจึงได้เดินทางออกมาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทำให้การจำหน่ายขนมเค้กดีขึ้นเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ขนมเค้กยังตรึงราคาไปถึงช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งหลังจากเทศกาลตรุษจีนแล้วขนมเค้กจะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น เนื่องจากวัตถุดิบในการทำขนมเค้กมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ จึงมีความจำเป็นต้องปรับราคาแต่ยังไม่ได้คิดว่าจะปรับขึ้นราคากี่บาท
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","5/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220105125128540"], [74,"ราคาหมูสดในขอนแก่น ทะลุ กก.ละ 240 บาท บางร้านแบกรับต้นทุนไม่ไหวพากันหยุดจำหน่ายในระยะนี้ ขณะที่ปลาสดมีการปรับราคาจำหน่ายขึ้นเป็น กก.ละ 75 บาท","การจับจ่ายเลือกซื้อสินค้า โดยเฉพาะเนื้อหมูสด ที่ตลาดสดเทศบาล 1 ภายในเขตเทศบาลนครขอนแก่น หลังพบว่าราคาจำหน่ายเนื้อหมู ภาพรวมทั้งประเทศมีการปรับราคาจำหน่ายที่สูงขึ้นมาตั้งแต่ช่วงก่อนเทศกาลปีใหม่ โดยบรรยากาศทั่วไปที่ตลาดสดเทศบาล 1 วันนี้แผงจำหน่ายหมูสดแทบทุกแผง มีการปรับราคาจำหน่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสันคอหมู, หมูสามชั้น ที่มีราคาปรับขึ้นไปสูงถึงกิโลกรัมละ 240 บาท หมูเนื้อแดง, ซี่โครง ราคากิโลกรัม 200 บาท ส่วนราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มปรับราคาสูงขึ้น จากเดิมกิโลกรัมละ 100 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 106 บาท ซึ่งสูงเป็นประวัติการในรอบหลายปีที่ผ่านมา
นางอรทัย นุชตะลัย ชาวจังหวัดขอนแก่น แม่ค้าขายหมู กล่าวว่า หมูหน้าฟาร์มวันนี้กิโลกรัมละ 106 บาท จากเดิมอาทิตย์ที่ผ่านมา 100 บาท และมีแนวโน้มที่จะปรับสูงขึ้นโดยไม่มีท่าทีที่จะลดลง ขณะที่ราคาหมูหน้าร้านที่ให้บริการวันนี้สันคอ, สันนอก, สันใน, สามชั้น และกระดูกแก้ว อยู่ที่กิโลกรัมละ 240 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 200 บาท หมูเนื้อแดงและซี่โครงหมู ราคากิโลกรัมละ 200 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 190 บาท \"การที่ราคาปรับขึ้นเร็วเพราะว่าหมูส่งออกต่างประเทศเยอะขึ้น อีกทั้งหัวอาหารก็แพงขึ้น ทำให้ราคาหมูจำเป็นต้องปรับราคาจำหน่ายขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบมากกับร้านขายเนื้อหมู เดิมจากที่เคยขายได้ยอดเยอะก็ขายได้น้อยลง ร้านต้องแบกต้นทุนเยอะขึ้น ขณะเดียวกันเมื่อเนื้อหมูราคาแพงขึ้นผู้บริโภคก็หันไปรับประทานปลาและ ไก่แทน เพราะราคาถูกกว่า
นางอรทัย นุชตะลัย แม่ค้าขายหมู ยังกล่าวอีกว่า จากการพูดคุยกับพ่อค้า-แม่ค้าด้วยกัน ล้วนต่างยอมรับว่าขณะนี้สินค้าประเภทต่างๆ มีการปรับราคาขึ้น ลูกค้าที่เคยซื้อหมูกับร้านประจำก็ซื้อน้อยลง ขณะที่บางร้านแบกรับต้นทุนไม่ไหวก็ทำการหยุดจำหน่ายไปก่อนในระยะนี้ก็เริ่มมีบ้างแล้ว\"
ขณะที่ น.ส.ตุ๊กตา ศรีอภัย อายุ 54 ปี แม่ค้าขายปลา กล่าวว่า ราคาจำหน่ายปลาก็มีการขยับขึ้นเช่นกัน ราคาวันนี้ขายส่งกิโลกรัมละ 60 บาท จากเดิม 55 บาท ขณะที่ราคาขายหน้าร้านอยู่ที่กิโลกรัมละ 75 บาท ซึ่งที่ผ่านมาร้านเคยลงปลาสดมาจำหน่ายวันละ 100 กิโลกรัม แต่ด้วยจำนวนลูกค้าที่ลดลงทำให้ลดเหลือวันละ 50 กิโลกรัม
สำหรับราคาปลาก็มีแนวโน้มที่ราคาจะแพงขึ้นอีก เพราะปลาเลี้ยงโตไม่ทัน ซึ่งในระยะแรกคิดว่าราคาหมูแพงแล้วปลาจะขายดีขึ้น แต่ไม่ใช่เลย เพราะปลาก็มีการปรับราคาขึ้นเช่นกันจึงทำให้ยอดจำหน่ายปลา ตกลงแบบครึ่งต่อครึ่ง
#สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","5/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ขอนแก่น","สวท.ขอนแก่น","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220105135910571"], [75,"ททท.เผยสิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 มูลค่ารวมกว่า 8,000 ล้านบาท","นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยถึงโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 จากข้อมูลหน้าเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com จำนวน 1 ล้านสิทธิ เนื่องจากจำนวนสิทธิที่พักเต็มจำนวนตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 วันนี้มีจำนวนคนใช้สิทธิโรงแรมที่พัก 399 คน ยอดสะสม 637,244 คน ขณะที่ยอดรวมของประชาชนที่ใช้สิทธิอยู่ที่ 1,064,758 คน ยอดสะสมผู้ประกอบการอยู่ที่ 8,921 ราย รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 8,657 ล้านบาท
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยวันนี้ 6,618 คน เดินทางเข้ามาประเทศไทยสะสมตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2564 - 2 มกราคม 2565 จำนวน 282,395 คน จำนวนนักท่องเที่ยวสะสมที่ลงทะเบียน Thailand Pass ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2564 - 2 มกราคม 2565 รวมทั้งสิ้น 1,358,805 คน ได้รับการอนุมัติ 1,063,179 คน
ททท. กำลังหาแนวทางกระจายนักท่องเที่ยวต่างชาติจากภูเก็ตไปยังพื้นที่อื่นๆ เตรียมเสนอให้ ศบค. พิจารณาเพิ่มพื้นที่ แซนด์บ็อกซ์ ในพื้นที่ที่เป็นเกาะ หรือที่เรียกว่า Island Approves อาทิ กระบี่ พังงา สมุย เกาะยาว เกาะไหง ไร่เลย์ ฯลฯ รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเกาะ เนื่องจากสามารถบริหารจัดการการเข้า-ออก ของนักท่องเที่ยวได้ง่ายเช่นเดียวกับภูเก็ต
นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม หรือ สศอ. กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมในปี 2565 โดยคาดว่า GDP ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ 2.5-3.5 เป็นผลจากตลาดส่งออกขยายตัวต่อเนื่อง รวมถึงตลาดในประเทศเริ่มฟื้นตัวจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ต่างๆ ของภาครัฐ ทั้งนี้ ยังต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ประกอบกับต้องพิจารณาปัจจัยราคาพลังงานและการขาดแคลนแรงงานโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสำคัญที่มีการใช้แรงงานเข้มข้นต่อไป
มรย.ประชุมหารือขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและอุตสาหกรรมบริการเพื่อสร้างการท่องเที่ยวสู่ เบตง 10,000 ล้าน ที่ ห้องประชุมสภามหาวิทยาลัยฯ ชั้น 2 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ โยธาทิพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ประธานการประชุมหารือแนวทางการดำเนินโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและอุตสาหกรรมบริการเพื่อสร้างโอกาสการท่องเที่ยวสู่ เบตง 10,000 ล้าน โดยมี ดร.ณพพงศ์ ธีระวร กรรมการสภามหาวิทยาลัยฯผู้ทรงคุณวุฒิ พร้อมด้วย ดร.นพเมศฐ์ เจริญนพพงศ์ และคณะผู้บริหารของมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เข้าร่วมประชุมหารือ
ทั้งนี้ เพื่อสร้างโอกาสการท่องเที่ยว เบตง 10,000 ล้าน ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย ในการพัฒนาพื้นที่อำเภอเบตงเป็นพื้นที่ต้นแบบ เพื่อพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนและงานวิจัยของทุกคณะ และทุกสถาบันในมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาให้สนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและอุตสาหกรรมบริการในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","5/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220105154657680"], [79,"ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อพิเศษสนับสนุนการเลี้ยงสุกรแบบครบวงจร เร่งแก้ปัญหาราคาเนื้อสุกรเพิ่มสูงขึ้น","นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากปัญหาราคาเนื้อสุกรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลได้เร่งออกนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทั้งการงดส่งออกสุกรมีชีวิต การงดเก็บค่าธรรมเนียมและภาษี รวมทั้งการจัดสินเชื่อพิเศษเพื่อการฟื้นฟูการผลิตสุกรเป็นการจำเพาะ ผ่านระบบ ธ.ก.ส. เพื่อสร้างความเข้มแข็งในระบบการเลี้ยงสุกรที่ส่งผลดีทั้งต่อเกษตรกรผู้ผลิตและผู้บริโภค
ธ.ก.ส. จัดเตรียมสินเชื่อพิเศษสำหรับเป็นทุนในการสนับสนุนการเลี้ยงสุกร การเพาะปลูกผลผลิตทางการเกษตรที่จำเป็นต่อการผลิตอาหารสัตว์ และการวางระบบการเลี้ยงที่เป็นมาตรฐานเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงจากปัญหาโรคระบาดที่มักจะเกิดขึ้น เพื่อเพิ่มปริมาณสุกรให้ออกสู่ตลาดได้มากขึ้น วงเงินรวม 30,000 ล้านบาท ประกอบด้วย สินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ สำหรับเกษตรกรรายย่อยและบุคคลในครัวเรือนที่ประสงค์จะกู้เงิน เพื่อไปลงทุนเลี้ยงสุกรหรืออื่นๆ วงเงินกู้ไม่เกิน 100,000 บาท กรณีกู้เป็นค่าใช้จ่ายคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี กรณีเป็นค่าลงทุนคิดดอกเบี้ยปีที่ 1-3 ในอัตราร้อยละ 4 ต่อปี
สินเชื่อ Food Safety เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียน หรือเพื่อเป็นค่าลงทุนในการส่งเสริมการประกอบอาชีพที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อัตราดอกเบี้ยกรณีเกษตรกร MRR (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ ร้อยละ 6.5 ต่อปี) กรณีผู้ประกอบการ นิติบุคคล กลุ่มวิสาหกิจชุมชนหรือองค์กร กลุ่มเกษตรกร หรือสหกรณ์การเกษตร ดอกเบี้ย MLR (ปัจจุบัน MLR เท่ากับ ร้อยละ 4.875 ต่อปี)
สินเชื่อเสริมแกร่ง SME เกษตร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนหรือค่าลงทุนในการประกอบธุรกิจ โดยมีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ หรือรักษาสิ่งแวดล้อม กำหนด วงเงินกู้ไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 2 ร้อยละ 4 ต่อปี และปีที่ 3 10 อัตราดอกเบี้ยตามประเภทของลูกค้า ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดสินเชื่อได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ
","5/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220105162448734"], [80,"ธปท.คาดปัญหาห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงักจะคลี่คลายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง หากการแพร่ระบาดโควิด-19 ไม่ยืดเยื้อ","
นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารการสื่อสารองค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การระบาดของโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่แพร่ระบาดมากขึ้นทั่วโลก อาจทำให้ปัญหา global supply chain disruption กลับมารุนแรงอีกครั้ง หลังจากที่ได้คลี่คลายลงบ้างในช่วงก่อนหน้า เพราะอาจเกิดการระบาดในบางโรงงานในต่างประเทศ จนต้องลดหรือหยุดการผลิตชั่วคราว หรืออาจทำให้การขนส่งติดขัด หรือมีการปิดท่าเรือ เป็นต้น ซึ่งจะกระทบต่อการผลิตและการส่งออกของไทยในบางสินค้า ทำให้ต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการปรับสูงขึ้นและเพิ่มแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อ
อย่างไรก็ตาม ธปท. คาดว่า การแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนจะจำกัดอยู่ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ซึ่งน่าจะทำให้ปัญหา supply chain disruption ทยอยคลี่คลายในช่วงครึ่งหลังของปี แต่หากการแพร่ระบาดรุนแรงและยืดเยื้อมากขึ้น หรือเกิดการระบาดของโควิด 19 สายพันธุ์ใหม่ๆ ที่รุนแรง ก็อาจส่งผลให้ปัญหา global supply disruption ยืดเยื้อมากขึ้นได้ จึงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามใกล้ชิดต่อไป
","5/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220105193624814"], [81,"งานเทศกาลปีใหม่สี่เผ่าไทย จังหวัดศรีสะเกษ ประจำปี 2565 ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ (OTOP) เกือบ 5 ล้านบาท สร้างรายได้กลับสู่ชุมชน กระตุ้นเศษฐกิจฐานราก","นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ในฐานะที่ปรึกษาเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ ได้ให้มีการจัดงาน เทศกาลปีใหม่สี่เผ่าไทย ขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ประจำปี 2565 ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2564-4 มกราคม 2565 ระยะเวลาจัดงานรวม 7 วัน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศษฐกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัด
ด้านสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ ได้จัดให้มีบูธจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ครบทั้ง 22 อำเภอ รวมกว่า 40 บูธ และยังมีการจัดกิจกรรมประกวดผ้าที่เป็นอัตลักษณ์จังหวัดศรีสะเกษ ทั้งหมด 5 กิจกรรม ได้แก่ การประกวดผ้าแส่วเบญจศรี การประกวดแข่งขันแส่วผ้าเบญจศรี การประกวดผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา การประกวดบรรจุภัณฑ์ด้วยวัสดุธรรมชาติ และการประกวด Live สด จำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ผ่านสื่อโซชียลมีเดีย ภายในงานยังมีการจัดกิจกรรมแฟชั่นโชว์ผ้าทอเบญจศรี ใต้ร่มพระบารมี ลายขอเจ้าฟ้าฯ โดยรายได้จากการจำหน่ายสินค้า OTOP และการจำหน่ายกระเช้าของขวัญปีใหม่จากภูมิปัญญาท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์ชุมชนจากทั้ง 22 อำเภอ มีมูลค่ารวมกว่า 4,480,000 บาท สามารถสร้างรายได้กลับสู่ชุมชน กระตุ้นเศษฐกิจฐานรากได้เป็นอย่างดี
#สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","5/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ศรีสะเกษ","สวท.ศรีสะเกษ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220105175250780"], [82,"พาณิชย์ระยองแก้ปัญหาราคาหมูแพง ดึงเขียงหมูเข้าร่วมโครงการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยเหลือประชาชนเหลือ กก.ละ 150 บาท เตรียมกระจายทุกอำเภอ บรรเทาความเดือดร้อนค่าครองชีพประชาชน","นางสุวีรยา ปั้นปาน พาณิชย์จังหวัดระยอง กล่าวว่า ราคาหมูเนื้อแดงที่แพงในช่วงนี้เกิดจากหมูมีโรคระบาด ทำให้หมูเนื้อแดงในตลาดลดน้อยลง ซึ่งในช่วงเดือนพฤศจิกายน และเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ก็เคยประสบปัญหาหมูเนื้อแดงขยับราคาสูงขึ้น ทางกระทรวงพาณิชย์ ได้มีนโยบายช่วยเหลือประชาชน โดยมีโครงการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยเหลือประชาชนขึ้น โดยลดราคาหมูหน้าเขียงหมูลง 5 จุดใน อ.เมืองระยอง ส่วนในช่วงที่ 2 นี้ราคาหมูขยับราคาสูงขึ้นอีก
ขณะนี้ ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดระยอง ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ และร้านค้าระยะที่ 2 แก้ไขปัญหาเร่งด่วนปัญหาหมูราคาแพงดังกล่าวในช่วง 15 วันนี้ ซึ่งจะจัดในช่วงกลางเดือนมกราคม 2565 นี้ ขณะนี้มีผู้ประกอบการแจ้งความประสงค์มาแล้ว 1 แห่ง คือ บริษัทเบทาโก สาขา อ.แกลง ขายราคา กก.ละ 150 บาท ในส่วนอำเภออื่นจะมีการทยอยจัดลดราคาต่อไป รวมทั้งห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ในจังหวัด ก็จะมีการขอความร่วมมือเข้าร่วมโครงการลดราคาหมูดังกล่าวด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนช่วยประชาชนในลดค่าครองชีพดังกล่าว
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","5/1/2022","ภาคตะวันออก","ระยอง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220105190340799"], [83,"พาณิชย์ตราดเผย สาเหตุสถานการณ์เนื้อสุกรราคาแพง เหตุเพราะต้นทุนเพิ่มและขาดแคลนแม่พันธุ์หมูขุน","(5 ม.ค.65) จากกรณีในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่เนื้อหมูมีราคาปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนผู้บริโภค ผู้ประกอบการร้านอาหาร รวมไปถึงผู้ประกอบการขายเนื้อหมู เพราะจำนวนลูกค้าลดลงอย่างเห็นได้ชัด
นางวรัญญา ถนอมพันธ์ พาณิชย์จังหวัดตราด ได้กล่าวถึงสาเหตุราคาเนื้อหมูแพงเพราะมาจากต้นทุนประกอบการที่เพิ่มขึ้น ทั้งราคาอาหารสัตว์ ยารักษาโรค ค่าขนส่ง ราคาน้ำมันแพง รวมถึงความต้องการของผู้บริโภคมีมากขึ้นจากการเปิดประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจ
กระทรวงพาณิชย์จึงได้มอบ หมายให้กรมการค้าภายใน ดำเนินการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาสุกรที่สูงขึ้น และให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด กับโครงการ หมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชนราคา (ครั้งที่ 2) ในพื้นที่ 76 จังหวัด ระยะเวลาดำเนินการ 15 วัน
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตราด จึงดำเนิน โครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน จังหวัดตราด ณ ร้านสุรีย์หมูสวย ข้างตลาดศูนย์การค้าตลาดเทศบาลเมืองตราด อำเภอเมืองตราด ในระหว่างวันที่ 7 15 ธันวาคม 2565 เวลา 11.00 13.00 น. หรือจนกว่าสินค้าจะหมด โดยจำหน่ายหมูเนื้อแดง (ทุ้ย) ให้แก่ประชาชนในราคากิโลกรัมละ 150 บาท เพื่อลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มกำลังซื้อของประชาชนในชุมชนได้ซื้อเนื้อหมูในราคาประหยัด รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น และทำให้เกิดการหมุนเวียนของระบบเศรษฐกิจ
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","5/1/2022","ภาคตะวันออก","ตราด","สวท.ตราด","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220105190623802"], [84,"อำเภอรัตนบุรี ติดตามขับเคลื่อนต้นแบบ โคก หนอง นา โมเดล ทางรอดเศรษฐกิจและสังคม พัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักพอเพียง เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร","นายคเณศวร เกษอินทร์ นายอำเภอรัตนบุรี เปิดเผยว่า นายกฤติศักดิ์ อันภักดี ประมงอำเภอรัตนบุรี ได้ติดตาม ตรวจเยี่ยม ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ด้านการประมง ตำบลธาตุ เพื่อเป็นพื้นที่ส่งเสริมการศึกษาและถ่ายทอดความรู้ด้านประมงในชุมชน และ การเลี้ยงสัตว์น้ำในครัวเรือนเพื่อบริโภค ส่งเสริมความมั่นคงด้านอาหาร เป็นพื้นที่เกษตรผสมผสาน ปลูกพืช และ เลี้ยงสัตว์ที่หลากหลายในพื้นที่เดียวกัน ในรูปแบบการเกษตรแบบอินทรีย์ ซึ่งช่วยให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตภายใต้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ในห้วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
สำหรับ แกนนำที่เข้าร่วมขับเคลื่อนหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ตระหนักถึงประโยชน์ในการดำเนินกิจกรรมตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ ในการออกแบบ และ ปรับพื้นที่ตามลักษณะภูมิสังคม ให้เป็นศูนย์เรียนรู้ทฤษฎีใหม่ รูปแบบ โคก หนอง นา จนพัฒนาต่อยอดเป็นศูนย์เรียนรู้ ตามโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง กิจกรรมพัฒนาศูนย์เรียนรู้ทฤษฎีใหม่รูปแบบ โคก หนอง นา
ทั้งนี้ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้มีการน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาประยุกต์ในรูปแบบ โคก หนอง นา โมเดล โดยการจัดการพื้นที่ ซึ่งเป็นการผสมผสานเกษตรทฤษฎีใหม่ เข้ากับภูมิปัญญาพื้นบ้าน ที่อยู่อย่างสอดคล้องกับธรรมชาติในพื้นที่นั้นๆ เป็นแนวทางการทำเกษตรอินทรีย์ และ การสร้างคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","6/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","สุรินทร์","สวท.สุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220106082825859"], [85,"ชาวปะกาเกอญอ แม่ฮ่องสอน สานกุ๊บไตต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างรายได้เสริม","นางหน่อเปอ พานทอง อายุ 58 ปี ประชาชนชาติพันธุ์ปะกาเกอญอ ที่อยู่ หมู่ที่ 3 ตำบลผาบ่อง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ใช้เวลาว่างจากงานประจำสานกุ๊บไตเป็นการต่อยอดและสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นและยังเป็นการสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัวอีกทางหนึ่ง นอกจากกุ๊บไตแล้ว นางหน่อเปอยังมีฝีมือในการทำเครื่องจักสานประเภทตะกร้า หรือของใช้ต่างๆ ผู้ที่สนใจสามารถนำแบบที่ต้องการไปให้สานตามแบบได้อีกด้วย
สำหรับวิธีการทำกุ๊บไตนั้น เริ่มจากการจักตอกไม้ข้าวหลาม แล้วเหลาให้ตอกมีความบาง นำมาสานด้วยลายต่างๆ ที่นิยมเช่น ลายสาม ลายดอกพิกุล สานให้ขึ้นรูปเป็นกุ๊บไตตามแบบ แล้วนำมาวาดภาพระบายสีให้สวยงาม ทาแล็คเกอร์ปิดท้ายเพื่อความเงางามและคงทน
กุ๊บไต เป็นภาษาท้องถิ่นของชาวไทใหญ่ใช้สวมศีรษะเพื่อกันแดด หรือกันฝน และสวมในการประกอบกิจกรรม เช่น การเดินขบวนกิจกรรมงานประเพณีต่างๆ เพื่อแสดงเอกลักษณ์ของท้องถิ่น หรือใช้การตกแต่งร้านค้าบ้านเรือนและสถานที่ เพื่อความสวยงาม ในปัจจุบันนักท่องเที่ยวนิยมซื้อเป็นของฝากของที่ระลึกจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ศูนย์ไทใหญ่ศึกษา วิทยาลัยชุมชนแม่ฮ่องสอน ได้ให้การสนับสนุนในการผลิตสื่อมีเดีย เพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อสร้างการรับรู้และส่งเสริมให้ชาวบ้านได้มีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น
ผู้ที่สนใจ สั่งทำกุ๊บไต เพื่อเป็นของฝาก หรือสนใจผลิตภัณฑ์จักสานประเภทอื่นๆ สามารถโทรสั่งจองได้ที่ นางหน่อเปอ พานทอง โทร.063-6362021
ยะลา พาณิชย์ลดราคาเนื้อหมูช่วยประชาชน ด้านแม่ค้า เผย กระทบบ้างแต่ไม่มาก
จากสถานการณ์ราคาหมู ที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคา ณ ปัจจุบัน หมูเนื้อแดงในหลายพื้นที่ ราคาพุ่งสูงกว่า 200 บาท/กก. ทั้งนี้เกิดจากปัจจัยต้นทุนการผลิต ที่เพิ่มสูง รวมทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โอมิครอน วันนี้ 6 ม.ค.65 ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดยะลา ได้เปิดจำหน่ายหมูเนื้อแดง ตามโครงการพาณิชย์ ลดราคาช่วยประชาชน หมูเนื้อแดง ในกิโลกรัมละ 130 บาท ซึ่งได้เปิดจำหน่ายมาตั้งแต่ พฤศจิกายน 2564 ทั้งนี้มีประชาชนให้ความสนใจ เดินทางซื้อหมูเนื้อแดง เป็นจำนวนมาก
ทางด้าน นางสาวอุมาพร มูณี เปิดเผยว่า สาเหตุหมูราคาสูงขึ้น เกิดจากต้นทุนวัตถุดิบของอาหารที่สูงขึ้น ค่าใช้จ่าย ค่าบริหารจัดการต่างๆ สูงขึ้น ทำให้เนื้อหมูขึ้นราคา สำหรับการเลี้ยงหมูตามฟาร์ม ในพื้นที่จังหวัดยะลา ยอมรับได้รับผลกระทบบ้าง แต่ไม่มาก เนื่องจากปัจจัยต้นทุน ทั้งอาหาร ยังสามารถควบคุมบริหารจัดการได้อยู่ เมื่อหมูราคาสูงขึ้น ประชาชนหันไปบริโภค ปลา ไก่ และเนื้อ แทน ซึ่งมีราคาต่ำกว่า ผนวกกับในช่วงนี้ เศรษฐกิจไม่ค่อยดีและสถานการณ์โควิดด้วย ยอดขายบางวันขายได้บ้าง บางวันก็ไม่ถึงเป้า
นางสาวอุมาพร มูณี ระบุว่า การเข้าร่วมโครงการของพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน จำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคากิโลกรัมละ 130 ซึ่งในตลาดก็จะขายกิโลกรัมละ 170 รัฐจะช่วยเหลือในส่วนต่างของราคา เพื่อเป็นการลดต้นทุนให้กับประชาชน และหันมาบริโภคเนื้อหมู ซึ่งผลกระทบของจังหวัดของเรายังไม่เยอะเท่ากับภาคอื่นๆ จังหวัดยะลาบ้านราคาจำหน่ายในท้องตลาด หมูเนื้อแดง ราคายังไม่สูงถึง 200 บาทต่อ กก. ซึ่งทางเรายังบริหารได้อยู่และยังพยุงได้อยู่ สำหรับการเลี้ยงหมูที่นี่เป็นหมูจากฟาร์มที่เลี้ยงเองไม่มีสารเร่งแต่อย่างใด ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","6/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220106103621898"], [87,"ดัน ผ้าทอแม่ฮ่องสอน สู่ตลาดแฟชั่นสากล จัดแสดงในงานเสน่ห์ผ้าทอล้านนา ภูมิปัญญาสู่สากล 7-16 ม.ค.65 จังหวัดเชียงใหม่","สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน เข้าร่วม \"งานเสน่ห์ผ้าทอล้านนา ภูมิปัญญาสู่สากล\" (The Elegant Fabric of Lanna) ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมส่งเสริมสิ่งทอพื้นเมืองและผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องให้กับผู้ประกอบการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ประกอบด้วย จังหวัดลำพูน จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดลำปาง และจังหวัดแม่ฮ่องสอน อีกทั้งเป็นการขยายช่องทางการตลาดสู่สากล ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพสินค้าและบริการ เพื่อเป็นการส่งเสริมธุรกิจผลิตภัณฑ์กลุ่มสิ่งทอผ้าพื้นเมืองแปรรูปเป็นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแฟชั่นให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ ซึ่งมีอัตลักษณ์ความโดดเด่นด้วยทุนทางวัฒนธรรมให้สามารถต่อยอดแปรรูปผ้าผืนที่สวยงามเหล่านั้นออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์ตรงกับความต้องการมากที่สุด ด้วยการนำความคิดสร้างสรรค์ของผู้ประกอบการไปสู่การสร้าง Collection ต้นแบบ จำนวน 20 ผลงาน 25 คอลเลคชั่น ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการยกระดับสินค้าให้สามารถแข่งขันในตลาดแฟชั่นสากลได้อย่างเป็นรูปธรรม
สำนักงานฯ จึงขอเชิญชวนประชาชนและผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมงานและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์กลุ่มสิ่งทอผ้าพื้นเมืองแปรรูปเป็นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแฟชั่นของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ซึ่งแต่ละจังหวัดได้คัดสรรผลิตภัณฑ์เด่นๆ เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยกำหนดจัดงาน 10 วัน ระหว่างวันที่ 7-16 มกราคม 2565 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","6/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220106104325912"], [88,"ปชส.สุราษฎร์ธานี เผย ครม.เห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำช่วยเหลือ SMEs ในช่วง COVID-19 โครงการ Soft Loan ออมสินฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย วงเงิน 5,000 ล้านบาท","นางสุนิสา รามแก้ว ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวถึงมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำช่วยเหลือ SMEs ในช่วง COVID-19 ว่า ครม.มีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ของธนาคารออมสิน หรือโครงการ Soft Loan ออมสินฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย วงเงิน 5,000 ล้านบาท
โดย ครม. เห็นชอบปรับหลักเกณฑ์โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs จากเดิมที่ปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มเป้าหมาย SMEs ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและ Supply Chain อาทิ ร้านอาหาร ธุรกิจสปา นวดแผนไทย รถรับจ้างนำเที่ยว และเกสต์เฮ้าส์ โดยขยายกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมธุรกิจอื่นที่ได้รับผลกระทบ และขยายระยะเวลารับคำขอสินเชื่อออกไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 จากเดิมที่สิ้นสุดวันที่ 30 ธันวาคม 2564 วงเงินกู้สูงสุดรายละ 500,000 บาท ดอกเบี้ย 3.9% ต่อปี ไม่ต้องมีหลักประกัน ทั้งนี้ที่ผ่านมา ธนาคารออมสินได้อนุมัติสินเชื่อโครงการไปแล้ว จำนวน 4,137 ราย รวมเงินทั้งสิ้น 1,746 ล้านบาท และยังมีวงเงินคงเหลืออีก จำนวน 3,254 ล้านบาท จากวงเงินรวมทั้งโครงการ 5,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลามาตรการสินเชื่อสู้ภัย COVID-19 กลุ่มเป้าหมายผู้มีรายได้ประจำ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และเกษตรกร จากเดิมที่มีกำหนดระยะเวลารับคำขอสินเชื่อถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ออกไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 ธนาคารออมสินได้ดำเนินการอนุมัติสินเชื่อตามมาตรการไปแล้ว จำนวน 820,380 ราย จำนวนเงินทั้งสิ้น 8,204 ล้านบาท และยังมีวงเงินคงเหลืออีกจำนวน 1,796 ล้านบาท วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์อนุมัติสินเชื่อตามมาตรการฯ ไปแล้ว จำนวน 28,911 ราย จำนวนเงินทั้งสิ้น 288 ล้านบาท และยังมีวงเงินคงเหลืออีก จำนวน 9,712 ล้านบาท จากวงเงินรวม 10,000 ล้านบาท
ดังนั้นการขยายระยะเวลาคำขอรับสินเชื่อ จะช่วยเสริมสภาพคล่องสำหรับการดำเนินธุรกิจ ผู้ประกอบการ SMEs และผู้ประกอบการรายย่อย ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดให้สามารถประกอบอาชีพและดำเนินธุรกิจต่อไปได้
#สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","6/1/2022","ภาคใต้","สุราษฎร์ธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220106110050934"], [89,"ปชส.สุราษฎร์ธานี เผย ประเทศไทยเสนอเป็นเจ้าภาพ 3 งานใหญ่ระดับโลก","นางสุนิสา รามแก้ว ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ครม.อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณจำนวน 4,180 ล้านบาท ให้ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดงาน \"Specialised Expo\" ณ จังหวัดภูเก็ต ภายใต้ชื่องาน EXPO 2028 Phuket, Thailand โดยองค์การนิทรรศการนานาชาติ(Bureau of International Expositions : BIE) มีข้อกำหนดว่า การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบกรอบงบประมาณก่อนการยื่นเสนอตัวอย่างเป็นทางการ โดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือ สสปน. ในฐานะผู้ประสานงานหลัก ได้ดำเนินการร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงสาธารณสุข เพื่อประสานขอให้เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส เป็นผู้แทนไทยในการยื่นหนังสือเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานอย่างเป็นทางการ และมีกำหนดจะยื่นหนังสือดังกล่าวต่อผู้แทนระดับสูงของ BIE ในวันที่ 7 มกราคม 2565 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
และยังกำหนดจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก จังหวัดอุดรธานี พ.ศ.2569 และจังหวัดนครราชสีมา พ.ศ.2572 รวมวงเงินทั้งสิ้น 6,781 ล้านบาท วัตถุประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการพัฒนาด้านพืชสวนของไทย กระตุ้นเศรษฐกิจด้านธุรกิจการนำเข้า ส่งออกผลผลิตการเกษตรและธุรกิจท่องเที่ยว และส่งเสริมการต่อยอดการวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านการเกษตร โดยกำหนดสถานที่จัดงานเป็นบริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำหนองแด ตำบลกุดสระ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี รวม 1,030 ไร่ ตั้งเป้าหมายมีผู้เข้าชมงาน 3.6 ล้านคน เป็นชาวต่างชาติร้อยละ 30 ตลอดระยะเวลาจัดงาน 134 วัน (ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 14 มีนาคม 2570) และมีประเทศเข้าร่วมงาน 20 ประเทศ
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 46 ซึ่งการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญเป็นการประชุมของคณะกรรมการมรดกโลกที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ในช่วงเดือนมิถุนายนหรือเดือนกรกฎาคมของทุกปี โดยคณะกรรมการมรดกโลกจะพิจารณาการเป็นเจ้าภาพฯ ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 45 ณ เมืองคาซาน สหพันธรัฐรัสเซีย ระหว่างวันที่ 19-30 มิถุนายน 2565 ซึ่งประโยชน์ที่จะได้รับ ได้แก่ การแลกเปลี่ยนความรู้ ส่งเสริมบทบาทการเป็นผู้นำในการดำเนินการภายใต้กรอบการดำเนินงานของอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาองค์ความรู้ และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงโครงการ กิจกรรม และข้อริเริ่มใหม่ ๆ เช่น การจัดการอบรมให้กับผู้จัดการแหล่งมรดกโลกหรือการอบรมให้ความรู้ในการดำเนินงานในด้านการอนุรักษ์ และเพื่อสร้างและขยายโอกาสในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับประเทศ ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยจากข้อมูลสถิติในการจัดการประชุมแต่ละครั้งที่ผ่านมาตั้งแต่ครั้งที่ 40 - 43 มีผู้เข้าร่วมประชุมครั้งละไม่ต่ำกว่า 2,300 คน ทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนจากการใช้จ่ายในด้านต่าง ๆ เช่น การเดินทาง ที่พัก การท่องเที่ยว และค่าใช้จ่ายทั่วไป
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","6/1/2022","ภาคใต้","สุราษฎร์ธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220106110723938"], [90,"พาณิชย์ยะลา จ่อนำหมูเนื้อแดงขาย ในราคา กก.ละ 150 บาท บรรเทาความเดือดร้อนประชาชนหลังหมูแพง","พาณิชย์ยะลา เตรียมเปิดขายหมูถูกช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนต่อเนื่อง ปรับขึ้นหมูเนื้อแดง กก.ละ 150 บาท ในวันที่ 8 - 15 ม.ค.65 ขณะที่ในวันนี้ 6 ม.ค.65 และวันพรุ่งนี้ 7 ม.ค. 65 หมูพาณิชย์ ที่จำหน่ายข้างสำนักงานพาณิชย์ จังหวัดยะลา ยังคงราคาปกติ เนื้อแดง กก.ละ 130 บาท ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนไปเลือกซื้อหมูกันอย่างต่อเนื่อง
นางผุสสดี จ๋ายเจริญ พาณิชย์จังหวัดยะลา เผยว่า ในวันเสาร์ที่ 8 ม.ค.65 ไปจนถึงวันที่ 15 ม.ค.65 นี้ ทางจังหวัดยะลา ได้ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดยะลา จัดโครงการ หมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน ต่อเนื่อง แต่จำเป็นต้องปรับราคาขึ้นตามราคาตลาด จากเดิมที่ขายหมูเนื้อแดง อยู่ กก.130 บาท พยุงราคามากว่า 1 เดือน หมูก็ยังมีราคาสูงขึ้น ตอนนี้ก็จะปรับขึ้นในราคา กก.ละ 150 บาท ส่วนหลักๆ ของปัญหาหมูราคาแพง เนื่องจากหมูจำนวนลดลง ซึ่งก่อนหน้านี้เจอโรคระบาด ต้นทุนปรับราคายืนยัน ในพื้นที่ยะลา หมูยังเพียงพอ อยู่ที่ 2,500 ตัว ความต้องการในเมืองไม่มาก ส่วนจุดที่มากก็จะอยู่ ที่ อ.เบตง ซึ่งได้เพิ่มจุดขายให้กับประชาชนเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการ โดยจะเริ่มจำหน่ายหมู ตามโครงการ ในวันเสาร์ที่ 8 - 15 ม.ค 65 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ลดภาวะค่าครองชีพ ให้กับพี่น้องประชาชน
ด้านผู้ขายหมู บอกว่า โครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน แรกๆ ก็นำหมูมาขายข้างสำนักงานพาณิชย์ยะลา 20 กก.ต่อวัน ช่วงหลังก็เพิ่ม เป็น 50 กก. ต่อวัน ขายไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็หมด ส่วนใหญ่ประชาชนก็จะมาเลือกซื้อในช่วงเช้า หลังจากพาณิชย์มีโครงการต่อเนื่องก็จะนำหมูมาขายไปจนถึงวันที่ 15 ม.ค.65
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","6/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220106114139967"], [91,"จังหวัดกระบี่หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แก้ไขปัญหาเนื้อหมูราคาแพงที่ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน ในขณะที่แม่ค้าขายหมูในจังหวัดกระบี่ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาราคาหมูแพง","
นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า จากปัญหาเนื้อหมูราคาแพง เนื่องจากการลดปริมาณการเลี้ยงสุกรและโรคระบาด รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์มีราคาสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน จังหวัดกระบี่จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันในการแก้ไขปัญหาเรื่องดังกล่าว เพื่อลดค่าครองชีพ และเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับผู้บริโภคจังหวัดกระบี่
โดยให้สำนักงานปศุสัตว์ ขอความร่วมมือให้ประสานผู้ประกอบการ/สมาคมผู้เลี้ยงสุกรลดราคาจำหน่าย ในส่วนของสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ได้อนุมัติงบประมาณให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกระบี่ ดำเนินโครงการ หมูพาณิชย์..ลดราคา ช่วยประชาชน กำหนดจุดจำหน่าย จำนวน 4 จุด จำหน่ายเนื้อหมูในราคา 150 บาท/กก. ช่วงเดือนมกราคม 2565 ระยะเวลาดำเนินการ 15 วัน และให้สำนักงานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ตรวจสอบในเรื่องของราคาและการติดป้ายแสดงราคา เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชนผู้บริโภค
ทางด้านนางนิพา ชาญณรงค์ แม่ค้าขายหมูในเขตเทศบาลเมืองกระบี่ กล่าวว่า กรณีเนื้อหมูที่มีการปรับราคาสูงมากในขณะนี้ ทำให้ปริมาณการขายหน้าเขียงลดลง โดยเฉพาะร้านอาหารสั่งซื้อน้อยลง ทำให้มีผลกระทบเป็นอย่างมาก จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเร่งแก้ปัญหาหมูแพง เพราะเป็นการเพิ่มต้นทุนให้กับแม้ค้า พ่อค้า รวมถึงผู้บริโภคประชาชน ได้รับผลกระทบในช่วงที่เศรษฐกิจแบบนี้ บางคนมีรายได้น้อยอยู่แล้ว แต่รายจ่ายภาระค่าครองชีพสูงตามมาอีกเป็นจำนวนมาก
#สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมรองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เกาะรัตนกาญจน์ วางแผนพัฒนาและปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่โดยรอบให้เป็นแลนด์มาร์คและพื้นที่ทางการค้าแห่งใหม่ของจังหวัดกาญจนบุรี
วันนี้ ( 6 มกราคม 2564 ) เวลา 09.00 น. นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วย นายกองเอก พงศธร ศิริสาคร นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายนรินทร์ อิ้วสวัสดิ์ ท้องถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองกาญจนบุรี ลงพื้นที่บริเวณเกาะรัตนกาญจน์และบ้านพัก 60 หลัง เพื่อวางแผนการพัฒนาและปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่โดยรอบให้เป็นแลนด์มาร์คและพื้นที่ทางการค้าแห่งใหม่ของจังหวัดกาญจนบุรี โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมกันดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเกี่ยวกับระบบน้ำทิ้งของชุมชนบ้านพัก 60 หลัง ซึ่งเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างความสุขให้กับประชาชนในพื้นที่
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","6/1/2022","ภาคตะวันตก","กาญจนบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220106131655008"], [93,"ครม.มีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ของธนาคารออมสิน หรือโครงการ Soft Loan ออมสินฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย วงเงิน 5,000 ล้านบาท จากเดิมที่ปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มเป้าหมาย SMEs ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและ Supply Chain อาทิ ร้านอาหาร, ธุรกิจสปา, นวดแผนไทย, รถรับจ้างนำเที่ยว, เกสต์เฮ้าส์
โดยขยายกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมธุรกิจอื่นที่ได้รับผลกระทบ และขยายระยะเวลารับคำขอสินเชื่อออกไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 จากเดิมที่สิ้นสุดวันที่ 30 ธันวาคม 2564 วงเงินกู้สูงสุดรายละ 500,000 บาท ดอกเบี้ย 3.9% ต่อปี ไม่ต้องมีหลักประกัน ทั้งนี้ที่ผ่านมาธนาคารออมสินได้อนุมัติสินเชื่อโครงการไปแล้ว จำนวน 4,137 ราย รวมเงินทั้งสิ้น 1,746 ล้านบาท และยังมีวงเงินคงเหลืออีก จำนวน 3,254 ล้านบาท จากวงเงินรวมทั้งโครงการ 5,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ครม. ยังมีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลามาตรการสินเชื่อสู้ภัย COVID19 กลุ่มเป้าหมายผู้มีรายได้ประจำ, ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และเกษตรกร จากเดิมที่มีกำหนดระยะเวลารับคำขอสินเชื่อถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ออกไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2565
ทางธนาคารออมสินได้ดำเนินการอนุมัติสินเชื่อตามมาตรการไปแล้ว จำนวน 820,380 ราย จำนวนเงินทั้งสิ้น 8,204 ล้านบาท และยังมีวงเงิน คงเหลืออีกจำนวน 1,796 ล้านบาท วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์อนุมัติสินเชื่อตามมาตรการฯ ไปแล้ว จำนวน 28,911 ราย จำนวนเงินทั้งสิ้น 288 ล้านบาท และยังมีวงเงินคงเหลืออีก จำนวน 9,712 ล้านบาท จากวงเงินรวม 10,000 ล้านบาท
ดังนั้นการขยายระยะเวลาคำขอรับสินเชื่อ จะช่วยเสริมสภาพคล่องสำหรับการดำเนินธุรกิจ ผู้ประกอบการ SMEs และผู้ประกอบการรายย่อย ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดให้สามารถประกอบอาชีพและดำเนินธุรกิจต่อไปได้
#สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","6/1/2022","ภาคเหนือ","แพร่","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220106132837009"], [94,"มั่นใจ ความตกลง RCEP ช่วยเพิ่มโอกาสการส่งออกสินค้าและบริการ ดึงดูดการลงทุนเข้าประเทศ ","นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP เริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งช่วยลดต้นทุนการผลิตและโอกาสส่งออกสินค้าและบริการ รวมทั้งดึงดูดการลงทุนเข้าประเทศ เพิ่มการจ้างงานให้กับแรงงานที่มีฝีมือและบุคลากรด้านวิชาชีพ และส่งเสริมบทบาทของไทยในฐานะห่วงโซ่การผลิตที่สำคัญของภูมิภาค
สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในภาคบริการอย่างมาก ซึ่งความตกลง RCEP จะเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยและประเทศในภูมิภาค โดยการเปิดตลาดภาคบริการของประเทศสมาชิกจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยเข้าไปลงทุนในสาขาที่ไทยมีศักยภาพ อาทิ ก่อสร้าง ธุรกิจเกี่ยวเนื่องด้านสุขภาพ ภาพยนตร์และบันเทิง รวมทั้งยังช่วยสร้างโอกาสให้คนไทยสามารถเข้าไปทำงานในประเทศสมาชิก RCEP อีกด้วย
นอกจากนี้ การลด หรือยกเลิกกฎระเบียบและมาตรการที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุน จะช่วยดึงดูดการลงทุนในสาขาที่ไทยมีความต้องการและเกิดเป็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนต่อยอดอุตสาหกรรมเป้าหมาย S curve ซึ่งจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ถือเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่มีการลงทุนในอาเซียนสูงและนักลงทุนไทยได้เข้าไปลงทุนในอาเซียนเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
ภูมิภาค RCEP ถือเป็นฐานการผลิตที่สำคัญและเป็นกลไกหลัก ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก แม้ทั่วโลกจะได้รับผลกระทบโควิด-19 แต่การลงทุนในภูมิภาค RCEP ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง โดยหลังจากนี้ความตกลง RCEP จะทำให้มีการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการอำนวยความสะดวกและการลดอุปสรรคทางการค้า ผู้สนใจทำการค้าในตลาด RCEP จึงควรเร่งทำความเข้าใจกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของแต่ละประเทศสมาชิก และศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค ตลอดจนช่องทางการจำหน่าย เพื่อสร้างแต้มต่อทางการค้าในตลาด RCEP ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
","6/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220106151045064"], [95,"จังหวัดสุรินทร์ขับเคลื่อนกิจกรรมลานวัฒนธรรม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว","
จังหวัดสุรินทร์ร่วมกับภาครัฐและเอกชนกำหนดดำเนินการจัดกิจกรรมบริเวณลานหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์หลังเก่า ให้เป็นลานกิจกรรมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ส่งเสริมวัฒนธรรมความเป็นไทย และสร้างความมีชีวิตให้กับศาลากลางจังหวัดสุรินทร์หลังเก่า ให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดสุรินทร์ โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเตรียมความพร้อมในการจัดกิจกรรม และในวันนี้ (6 มกราคม 2565) จังหวัดสุรินทร์ได้จัดประชุมติดตามผลการดำเนินงานขับเคลื่อนการจัดกิจกรรมดังกล่าว ณ ห้องประชุมไหมงาม ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ โดยมี นางทรงลักษณ์ วรภัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานการประชุม
ซึ่งที่ประชุมได้สรุปแนวทางการจัดกิจกรรม ประกอบด้วย กิจกรรมตักบาตรเช้าวันเสาร์ กิจกรรมตลาดผ้าไหม กิจกรรมตลาดอาหารและสินค้าทางวัฒนธรรม และกิจกรรมส่งเสริมการออกกำลังกาย กิจกรรม Street Art กิจกรรม Barber กิจกรรมการแสดงของชมรมผู้สูงอายุ / สภาเด็กและเยาวชน รวมทั้งการจำหน้ายสินค้าพืชผัก ผลผลิตเกษตรอินทรีย์ เป็นต้น และกำหนดเปิดงานในวันเสาร์ที่ 8 มกราคม 2565 จึงขอเชิญชวนชาวสุรินทร์แต่งกายผ้าไทยร่วมกิจกรรมลานวัฒนธรรม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","6/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สวท.สุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220106140315024"], [96,"ยะลา พาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน คงราคาหมูเนื้อแดง 130 บาท/กก. ขณะที่แม่ค้า เผย ในพื้นที่กระทบบ้างแต่ไม่มาก","จากสถานการณ์ราคาหมู ที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคา ณ ปัจจุบัน หมูเนื้อแดงในหลายพื้นที่ ราคาพุ่งสูงกว่า 200 บาท/กก. ทั้งนี้เกิดจากปัจจัยต้นทุนการผลิต ที่เพิ่มสูง รวมทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โอมิครอน
วันนี้ 6 ม.ค.65 ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดยะลา ได้เปิดจำหน่ายหมูเนื้อแดง ตามโครงการพาณิชย์ ลดราคาช่วยประชาชน หมูเนื้อแดง ในกิโลกรัมละ 130 บาท ซึ่งได้เปิดจำหน่ายมาตั้งแต่ พฤศจิกายน 2564 ทั้งนี้มีประชาชนให้ความสนใจ เดินทางซื้อหมูเนื้อแดง เป็นจำนวนมาก
นางสาวอุมาพร มูณี แม่ค้าขายหมู เปิดเผยว่า สาเหตุหมูราคาสูงขึ้น เกิดจากต้นทุนวัตถุดิบของอาหารที่สูงขึ้น ค่าใช้จ่าย ค่าบริหารจัดการต่างๆสูงขึ้น ทำให้เนื้อหมูขึ้นราคา สำหรับการเลี้ยงหมูตามฟาร์ม ในพื้นที่จังหวัดยะลา ยอมรับได้รับผลกระทบบ้าง แต่ไม่มาก เนื่องจากปัจจัยต้นทุน ทั้งอาหาร ยังสามารถควบคุมบริหารจัดการได้อยู่ เมื่อหมูราคาสูงขึ้น ประชาชนหันไปบริโภค ปลา ไก่ และเนื้อ แทน ซึ่งมีราคาต่ำกว่า ผนวกกับในช่วงนี้ เศรษฐกิจไม่ค่อยดีและสถานการณ์โควิดด้วย ยอดขายบางวันขายได้บ้าง บางวันก็ไม่ถึงเป้า ทั้งนี้การเข้าร่วมโครงการของพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน จำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคากิโลกรัมละ 130 ซึ่ง ในตลาดก็จะขายกิโลกรัมละ 170 รัฐจะช่วยเหลือในส่วนต่างของราคา เพื่อเป็นการลดต้นทุนให้กับประชาชน และหันมาบริโภคเนื้อหมู ซึ่งผลกระทบของจังหวัดของเรายังไม่เยอะเท่ากับภาคอื่นๆ จังหวัดยะลาบ้านเราราคาจำหน่ายในท้องตลาด หมูเนื้อแดง ราคายังไม่สูงถึง 200 บาทต่อ กก. ซึ่งทางเรายังบริหารได้อยู่และยังพยุงได้อยู่ สำหรับการเลี้ยงหมูที่นี่เป็นหมูจากฟาร์มที่เลี้ยงเองไม่มีสารเร่งแต่อย่างใด ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","6/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220106140732025"], [97,"กำชับ บริหารจัดการควบคุมทิศทางพลังงานไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน เตรียมประกาศปรับขึ้นราคาก๊าซ LPG","นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบหมายให้กระทรวงพลังงาน บริหารจัดการและดูแลทิศทางพลังงานทั้งไฟฟ้าและน้ำมัน ในปี 2565 ที่ปรับตัวสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพประชาชน รวมถึงต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการที่จะเพิ่มสูงขึ้น ควรมีการจำแนกกลุ่มการใช้พลังงานและมีการดูแลแต่ละกลุ่มตามความเหมาะสม โดยย้ำว่าห้ามมีการขาดแคลนพลังงาน
เบื้องต้นจากการนำเม็ดเงินที่ได้รับจากการจัดสรรผลประโยชน์บัญชี Take or Pay หรือภาระไม่ได้ใช้ก็ต้องจ่ายเงินของแหล่งก๊าซธรรมชาติเมียนมา จํานวน 13,594 ล้านบาท เพื่อจะนำไปลดค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 จะสามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ หรือค่า Ft ให้กับประชาชนได้ประมาณ 22 สตางค์ เป็นจำนวน 1 เดือน หรือหากเฉลี่ย 3 เดือน จะช่วยให้ประชาชนจ่ายค่า Ft อยู่ที่ 1.39 สตางค์ต่อหน่วยต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงาน ยังได้วางแผนบริหารราคาน้ำมันโดยคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จะอยู่ในระดับ 78 80 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ยังคงยืนยันจะดำเนินการตามนโยบายภาครัฐตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไปอีกไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความต้องการใช้สูงสุดของประเทศถึงร้อยละ 70 ของผู้ใช้น้ำมันทุกประเภท ควบคู่กับการบริหารจัดการการใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาบริหารจัดการ
ขณะที่ราคา ก๊าซ LPG ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ มีความจำเป็นต้องปรับราคาเพิ่มขึ้น โดยกระทรวงพลังงาน ได้ตรึงราคาก๊าซ LPG ถัง 15 กิโลกรัมในราคา 318 บาทต่อถัง ตามนโยบายของรัฐบาลไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 โดยจะทยอยปรับขึ้นราคา แบบขั้นบันได ส่วนปรับขึ้นในอัตราเท่าใดนั้นอยู่ระหว่างการนำเสนอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดทุกสัปดาห์ โดยยอมรับว่า ขณะนี้ราคาพลังงานมีความผันผวนสูงมาก
","6/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220106150722059"], [98,"รัฐบาลควรเพิ่มมาตรการคุมเข้มในพื้นที่เสี่ยง ย้ำไม่ควร Lockdown ทั้งหมด จะกระทบต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่น","
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุข ประกาศยกระดับการเตือนภัยโควิด-19 เป็นระดับ 4 โดยจะมีข้อแนะนำและมาตรการเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจมีการปิดสถานที่เสี่ยง รวมถึงชะลอการเดินทาง จึงขอให้มีการพิจารณาอย่างรอบด้าน เพื่อไม่ให้กระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว โดยมองว่าโอมิครอนไม่รุนแรงเท่ากับสายพันธุ์ก่อนหน้านี้
ขณะที่ระบบสาธารณสุขยังคงสามารถรองรับผู้ป่วยได้ รัฐบาลจึงควรเพิ่มความระมัดระวัง คุมเข้มสถานประกอบการที่มีประชาชนใช้บริการอย่างหนาแน่น และเร่งการ Boost เข็ม 34 ให้กับประชาชนให้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนไม่เห็นด้วย หากภาครัฐจะยกระดับมาตรการ ด้วยการ Lockdown ทุกกิจกรรมของประเทศ ซึ่งนอกจากจะสร้างความเสียหายกับเศรษฐกิจ ยังส่งผลให้ความเชื่อมั่นของประชาชนภายในประเทศลดลงด้วย
ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลเน้นการเพิ่มมาตรการคุมเข้มในพื้นที่เสี่ยง จัดเตรียมระบบสาธารณสุขในแต่ละจังหวัดให้มีความพร้อมและสร้างความเข้าใจที่ดีกับประชาชนในแต่ละพื้นที่ โดยนำมาตรการ Home Isolation / Hospitel กลับมาใช้ ส่วนภาคเอกชนพร้อมนำมาตรการ Bubble and Seal กลับมาเป็นแนวทางของแต่ละกิจการอีกครั้ง รวมทั้งเห็นด้วยกับการ Work From Home ในช่วงนี้ เพราะจะช่วยควบคุมไม่ให้มีการแพร่ระบาดเพิ่มเติมและอยู่ในระดับที่ธุรกิจยังเดินหน้าต่อไปได้
วันที่ 6 มกราคม 2565 ที่ตลาดสดธนารักษ์ หรือตลาดสดแม่สำเนียง ภายในเขตเทศบาลเมืองหนองบัวลำภู นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมด้วย รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด พาณิชย์จังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ให้ลงพื้นที่ตลาดสดเพื่อสำรวจราคาเนื้อหมูในตลาดสด และร้านค้าแผงลอย เนื่องจากสถานการณ์เนื้อหมูราคาแพงและเนื้อหมูขาดตลาด ทำให้ร้านค้า ปรับราคาขายเพิ่มสูงขึ้น จากการลงพื้นที่สำรวจราคาเนื้อหมู ตามแผงขายในตลาด พบว่าหมูสามชั้นปรับราคาขึ้นกิโลกรัมละ 200 จากเดิม 160 บาท เนื้อแดงมีการปรับราคาขึ้น 190 บาท จากเดิม 160 บาท ซี่โครงปรับราคาขายขึ้น 190 บาท จากเดิม 160 บาท
นอกจากนั้นยังได้ทำการลงพื้นที่สำรวจราคาเนื้อหมูในห้างสรรพสินค้า พบว่ามีราคาที่สูงเพิ่มขึ้น จากเดิม กิโลกรัมละ 10-30 บาท เจ้าของแผงขายเนื้อหมูในตลาดสดธนารักษ์ จังหวัดหนองบัวลำภู ร้านแม่น้อย กล่าวว่า ตั้งแต่ขายหมูมานานมากว่า 30 ปี ยังไม่เคยเห็นมีการขยับราคาเนื้อหมูสูงและรวดเร็วขนาดนี้ และสาเหตุที่ต้องขายหมูแพง เนื่องจากซื้อเนื้อหมูซีกจากโรงงานมาในราคาที่สูงขึ้น จึงต้องทำการค้าขายเนื้อหมูราคาที่สูงขึ้นตามไปไปด้วย แต่ก่อนเคยขายเนื้อหมูได้วันละไม่ต่ำกว่า 100 กิโลกรัมขึ้น พอมาวันนี้ ราคาหมูพุ่งขึ้นสูง 30-40 บาทต่อกิโล ทำให้ในแต่ละวันมียอดการขายหมูลดลงครึ่งต่อครึ่ง ชาวบ้านคงจะพากันหันไปทานอาหารอย่างอื่นที่มีราคาที่ถูกว่าแทน
นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า จากการลงสำรวจตลาดร้านค้าจำหน่วยเนื้อหมูพบว่ามีปริมาณเนื้อหมูเพียงพอต่อการจำหน่ายและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ แต่มีการขยับราคาเพิ่มสูงขึ้นตามกลไกลของการตลาด เนื่องจากบางพื้นที่มีเนื้อหมูขาดตลาดและมีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ภายในพื้นที่ แต่จังหวัดหนองบัวลำภู มีผู้ประกอบการฟาร์มหมูรายใหญ่ จึงได้ขอความร่วมมือให้มีการจำหน่ายให้กับผู้ค้าปลีก ร้านค้าภายในจังหวัดหนงอบัวลำภู ให้มีปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการ
พาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับผู้ประกอบการเขียงหมู เปิดขายหมูเนื้อแดงลดราคา ช่วยประชาชนกิโลกรัมละ 150 บาท แก้ปัญหาความเดือดร้อน ลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน
วันที่ 6 มกราคม 2565 เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสถานการณ์ราคาหมูหน้าเขียง มีการปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ราคาหน้าเขียงขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 200-220 บาท ส่งผลให้กระทรวงพาณิชย์ ต้องหามาตรการแก้ไขปัญหาราคาเนื้อหมู พร้อมทั้งให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ได้มีการประสานกับห้างทั่วประเทศ นำเนื้อหมูมาจำหน่ายในราคาประหยัด เพื่อลดราคา ช่วยประชาชน โดยทำโครงการ หมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับเขียงหมูเจ้เหล่ย และเขียงหมูเจ้กบ 2 ร้านขายเนื้อหมู ที่อยู่ภายในตลาดสดเทศบาลเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จำหน่ายเนื้อหมูราคาพิเศษ กิโลกรัมละ 150 บาท ระหว่างวันที่ 6-22 ม.ค.65 เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป
โดยนางสาวเอื้อนจิตร ช่วยนก พาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า สำหรับจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดได้ร่วมกับผู้ประกอบการเขียงหมู เปิดจำหน่ายหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน ราคาถูก 150 บาท/กิโลกรัม จำนวน 2 จุด ได้แก่ ร้านเขียงหมูเจ๊กบ ร้านเขียงหมูเจ๊เหล๋ย ในตลาดสดเทศบาลเมืองบึงกาฬ โดยกำหนดขายจุดละ 100 กิโลกรัม ในระหว่างวันที่ 6-22 ม.ค.65 รวม 15 วัน และหยุดขายทุกวันพระ หลังจากนั้นก็จะดูสถานการณ์ราคาของเนื้อหมูอีกครั้ง อย่างไรก็ตามขอเชิญชวนประชาชน ออกมาจับจ่ายใช้สอยซื้อหมูพาณิชย์...ลดราคา เพื่อเป็นการลดค่าครองชีพ ลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนได้ระยะหนึ่ง
พาณิชย์จังหวัดมุกดาหารจัดโครงการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน ครั้งที่ 2 หมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 150 บาท ระหว่างวันที่ 6-15 มกราคม 2565 ณ จุดจำหน่ายเทศบาลเมืองมุกดาหาร 3 แห่ง
นางลักขณา บุญนำ พาณิชย์จังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า จากสถานการณ์ราคาเนื้อหมูในตลาดมีราคาสูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อน กระทรวงพาณิชย์ได้จัดโครงการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน ครั้งที่ 2 หมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 150 บาท ระหว่างวันที่ 6-15 มกราคม 2565
สำหรับในเขตพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ได้กำหนดจุดจำหน่าย ทั้งหมด 3 จุด
จุดที่ 1. ร้านหมูแจ๋วแว๋ว ตลาดสดเทศบาล 2
จุดที่ 2 ร้านเจ้มายหมูสด ตลาดสดศิริพร
จุดที่ 3 ร้านเจ้น้อย ตลาดสดวัฒนธรรมพรเพชร
ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ผู้บริโภคหมูดังกล่าว
#สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","6/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","มุกดาหาร","สวท.มุกดาหาร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220106163616159"], [102,"ธ.ก.ส. โอนเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว กว่า 57,000 ครัวเรือน กว่า 700 ล้านบาท","นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ (6 มกราคม 2565) ธ.ก.ส. ได้โอนเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 งวดที่ 1-11 (เพิ่มเติม) พร้อมงวดที่ 12 อีกจำนวน 731 ล้านบาท ให้กับเกษตรกรจำนวน 57,965 ครัวเรือน ส่งผลให้ภาพรวมการโอนเงินโครงการประกันรายได้ฯ ไปแล้วทั้งสิ้น 85,113.24 ล้านบาท มีเกษตรกรได้รับประโยชน์แล้ว 4,564,768 ครัวเรือน
การประกันรายได้ดังกล่าว เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้ได้รับผลตอบแทนจากการผลิตที่เหมาะสม ป้องกันความเสี่ยงด้านราคาไม่ให้ประสบปัญหาขาดทุน และช่วยแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก การแพร่ระบาดของโควิด-19 และอุทกภัย โดยที่กลไกตลาดยังคงทำงานเป็นปกติ โดยเกษตรกรสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินได้ทางแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง และจะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่าน LINE Official BAAC Family กรณีที่ลูกค้าสมัครใช้บริการ BAAC Connect รวมถึงสามารถเบิกถอนเงินสดผ่านตู้ ATM ของ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ
นางอารีย์ เหลืองหิรัญ พาณิชย์จังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จัดโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน ร่วมมือกับผู้ประกอบการค้าเนื้อหมู จำหน่ายหมูเนื้อแดงราคากิโลกรัมละ 150 บาท เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนในการบริโภคเนื้อหมูช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และภาวะที่เนื้อหมูมีราคาจำหน่ายสูงขึ้น ให้สามารถซื้อเนื้อหมูได้ในราคาประหยัด
โดยในส่วนจังหวัดแพร่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแพร่ ร่วมกับผู้จำหน่ายเนื้อหมูในพื้นที่เปิดจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดงราคากิโลกรัมละ 150 บาท จำนวน 4 จุด ได้แก่ ร้านหมูอินเตอร์ สาขาตลาดชมภูมิ่ง อำเภอเมืองแพร่ สาขาร้องกวาง สาขาลอง และสาขาวังชิ้น จัดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 6 15 มกราคม 2565 เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป จำกัดจำนวนสำหรับผู้ซื้อที่มีคูปอง คนละ 1 กิโลกรัมต่อวัน โดยสามารถรับคูปองได้ที่จุดจำหน่าย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","6/1/2022","ภาคเหนือ","แพร่","สวท.แพร่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220106171055173"], [104,"ศอ.บต. จัดตั้งคณะกรรมการวิ่งเทรล ขับเคลื่อนกิจกรรม Amazean Jungle Trail ยกระดับการท่องเที่ยวเมืองเบตง ยะลา","ศอ.บต. จัดตั้งคณะกรรมการวิ่งเทรล ขับเคลื่อนกิจกรรม Amazean Jungle Trail ยกระดับการท่องเที่ยวเมืองเบตง ยะลา ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ กำหนดวิ่ง 7-8 พ.ค. 65
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) แต่งตั้งคณะกรรมการโครงการยกระดับการพัฒนาพื้นที่เมืองเบตง จังหวัดยะลา Amazean Jungle Trail ตามมติคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ซึ่งมีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยมอบหมายให้ ศอ.บต. จัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการฯ เพื่อกระตุ้นการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคมพหุวัฒนธรรม สร้างงาน สร้างรายได้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับพื้นที่ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย ในการเป็นเมืองพัฒนาทั้งสองเมือง
นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายสร้างสนามแข่งขันวิ่งเทรลที่มีมาตรฐานระดับโลก โดยมุ่งหวังให้บรรจุอยู่ใน UTMB World series เป็นสนามที่ 2 ของประเทศ อีกทั้งตั้งเป้าให้เป็นกิจกรรมช่วยในการประชาสัมพันธ์ให้นักวิ่งจากทั่วโลก ได้รู้จักอำเภอเบตง และเดินทางเข้ามาร่วมการแข่งขัน? เพื่อเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวเมืองเบตงต่อไป โดยคณะกรรมการโครงการยกระดับการพัฒนาพื้นที่เมืองเบตง จังหวัดยะลา Amazean Jungle Trail มีพลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการ
เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้มีเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความกินดี อยู่ดี และอยู่ร่วมกันได้ในวิถีพหุวัฒนธรรม พร้อมด้วยความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน ศอ.บต. และหน่วยงานความมั่นคงได้เดินหน้าการพัฒนาทุกๆด้าน เร่งพัฒนาให้ประชาชนพ้นเกณฑ์ความยากจนร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและจังหวัด พัฒนาด้านเศรษฐกิจให้มีความเจริญเติบโต ด้านทรัพยากรมนุษย์ และด้านการท่องเที่ยว ซึ่งตั้งเป้าให้โครงการ Amazean Jungle Trail สามารถเพิ่มยอดนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นในเมืองเบตง และในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกจังหวัด
สำหรับกิจกรรมวิ่ง Trail เป็นกิจกรรมที่เป็นเทรนด์ของคนรุ่นใหม่ โดยรัฐบาล นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้หนุนเสริมให้จัดกิจกรรมพร้อมกำชับให้ดำเนินการอย่างเต็มที่ หวังให้เป็นกิจกรรมช่วยยกระดับการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจภาคใต้ตอนล่าง ให้เกิดการพัฒนา สร้างภาพลักษณ์ใหม่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างไรก็ตาม กิจกรรมวิ่งเทรล อ.เบตง จ.ยะลา จะจัดขึ้นในวันที่ 7-8 พฤษภาคม 2565 แบ่งเป็น 3 ระยะ ประกอบด้วย ระยะเบตง 100 กิโลเมตร ระยะเบตง 50 กิโลเมตร และระยะเปรัค ประเทศมาเลเซีย 25 กิโลเมตร
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","6/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220106174011183"], [105,"จังหวัดเพชรบุรี พร้อมยกระดับการท่องเที่ยว ชายฝั่งทะเลตะวันตก Thailand Riviera หวังสร้างความโดดเด่นระดับโลก ภายใต้ความเปลี่ยนแปลง New Normal",".วันนี้ (วันที่ 6 มกราคม 2565 )นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี คณะกรรมาธิการท่องเที่ยว วุฒิสภา หัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน ประชุมร่วมจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง และชุมพร ผ่านระบบวิดิทัศน์ทางไกล ณ ห้องประชุม ศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี
นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีเปิดเผยว่าคณะกรรมาธิการท่องเที่ยว วุฒิสภา ลงพื้นที่เพชรบุรี พร้อมประชุมผ่านระบบวิดิทัศน์ เพื่อรับฟังปัญหาอุปสรรค การพัฒนาการท่องเที่ยว ซึ่งจังหวัดเพชรบุรีพร้อมยกระดับการท่องเที่ยวทุกด้าน โดยจะให้ความสำคัญด้านการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ และเน้นความร่วมมือของชาวบ้าน ในชุมชนแต่ละพื้นที่เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างสมดุลและมีความมั่นคงอย่างยั่งยืน ซึ่งจังหวัดเพชรบุรี มีพร้อมทั้งกิจกรรมและทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวที่หลากหลาย ตอบโจทย์การท่องเที่ยวทุกรูปแบบและทุกกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีได้กล่าวถึงการท่องเที่ยว ชายฝั่งทะเลตะวันตก Thailand Riviera ว่า แม้จะอยู่ภายใต้ความเปลี่ยนแปลงยุค New Normal แต่จะวางแนวทางการบริหารจัดการป้องกันความเสี่ยงให้นักท่องเที่ยวเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย ทั้งการฉีดวัคซีน ผลการตรวจ ATK การเพิ่มมาตรฐาน SHA PLUS เป็นการท่องเที่ยวที่ให้ความใส่ใจด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อม โดยจะเพิ่มขีดความสามารถการบริหารจัดการ ซึ่งThailand Riviera นับเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่มีศักยภาพ ซึ่งมีทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น กิจกรรมการท่องเที่ยวบริเวณชายหาด การท่องเที่ยวในทะเล ที่จะสามารถส่งเสริมกิจกรรมต่างๆทำให้ชุมชนเกิดรายได้ สำหรับอุปสรรคและปัญหาที่เกี่ยวโยงต่อการพัฒนาการท่องเที่ยว นั้นมีทั้งปัญหาการเร่งส่งเสริมช่องทางการตลาด การส่งเสริมความรู้ให้ชุมชนได้รับมาตรฐานสากล การประชาสัมพันธ์อัตลักษณ์ของแต่ละจังหวัด และที่สำคัญพบว่า นักท่องเที่ยวที่ขาดจิตสํานึกมีผลทําให้เกิดความเสื่อมโทรมของทรัพยากรในแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งจะได้บูรณาการทุกฝ่ายร่วมกันพัฒนาหวังสร้างความโดดเด่น ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นระดับโลกต่อไป
","6/1/2022","ภาคตะวันตก","เพชรบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220106191752238"], [106,"พาณิชย์จังหวัดนครพนม ลงพื้นที่ตรวจติดตามโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน ครั้งที่ 2","วันนี้ (6 มกราคม 2565) นายจิรวุฒิ สุวรรณอาจ พาณิชย์จังหวัดนครพนม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินโครงการ หมูพาณิชย์ ลดราคาช่วยประชาชน ครั้งที่ 2 ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนตามภาวะราคาสุกรที่สูงขึ้นและให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด โดยจำหน่ายหมูเนื้อแดง ราคากิโลกรัมละ 150 บาท
ซึ่งจังหวัดนครพนม จำหน่ายระหว่างวันที่ 5-15 มกราคม ณ จุดจำหน่าย 4 จุด คือ จุดที่ 1 แหลมทองโภคภัณฑ์ ข้างธนาคารออมสินนครพนม จุดที่ 2อารีย์เนื้อหมูสด ตำบลหนองสังข์ อำเภอนาแก จุดที่ 3 ตุ๊ดตู่หมูสด ตำบลพิมาน อำเภอนาแก และ จุดที่ 4 กวินหมูสด ตำบลนาแก อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม
นายจิรวุฒิ สุวรรณอาจ พาณิชย์จังหวัดนครพนม กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ พาณิชย์จังหวัดนครพนม ยังเฝ้าระวังติตามสินค้าประเภทอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปโภค บริโภค ที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันของประชาชน ในการตรวจสอบราคา ว่าร้านค้าต่าง ๆ ขายเกินราคาที่ได้กำหนดตามกฏหมายหรือไม่ด้วย
จึงขอเชิญชวนประชาชนไปจับจ่ายเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกตามที่รัฐบาลกำหนดไว้อย่างเป็นธรรมได้ตามสถานที่แจ้งไว้ข้างต้น รวมทั้ง ประชาชนที่พบเห็นร้านค้าขายสินค้าในราคาเกินกว่าที่รัฐบาลกำหนด สามารถแจ้งได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนม โทร 0-4251-1117 ได้ในเวลาราชการ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","6/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","นครพนม","สวท.นครพนม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220106184031223"], [107,"พาณิชย์จังหวัดตรัง จัดโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา! ช่วยประชาชน (ครั้งที่ 2) โดยจำหน่ายหมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 150 บาท จำหน่าย 6 จุด ใน 4 อำเภอ","นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ มีโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน (ครั้งที่ 2) โดยจำหน่ายหมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 150 บาท เพื่อให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งเป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงสถานการณ์ที่ราคาหมูปรับสูงขึ้น
ทั้งนี้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ได้กำหนดจัดกิจกรรมใน 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมืองตรัง อำเภอห้วยยอด อำเภอสิเกา และอำเภอรัษฎา โดยเปิดจำหน่ายหมูเนื้อแดงราคาถูก 6 จุด ด้วยกันคือ
1. ร้านชายสี่หมูสด ตลาดคลองมวน ตำบลหนองปรือ อำเภอรัษฎา เวลาจำหน่าย 08.00-18.00 น.(หยุดวันพุธและวันเสาร์) ระหว่างวันที่ 7 - 27 มกราคม 2565
2. ร้านน้องทิพย์ค้าหมู ตำบลเขากอบ อำเภอห้วยยอด เวลาจำหน่าย 05.00-12.00 น. (หยุดทุกวันพระ) ระหว่างวันที่ 7 - 23 มกราคม 2565
3. ร้านบ้านหมูทวงตังค์(ร้านหมูน้องบุ๋ม) อำเภอสิเกา เวลาจำหน่าย 06.30-12.00 น. (หยุดทุกวันพระ) ระหว่างวันที่ 7 - 23 มกราคม 2565
4. ร้านหมูสดแยกวัดตัน ถนนท่ากลาง อำเภอเมืองตรัง เวลาจำหน่าย 05.00-12.00 น.(หยุดทุกวันพระ) ระหว่างวันที่ 7 - 23 มกราคม 2565
5. ร้านน้องดิว หน้าสวนสาธารณะนาหมื่นราษฎร์ ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง เวลาจำหน่าย 06.00 - 12.00 น. (หยุดทุกวันพระ) ระหว่างวันที่ 7 - 23 มกราคม 2565
6. ร้านเจี๊ยบหมูสด ตำบลนาตาล่วง อำเภอเมืองตรัง เวลาจำหน่าย 06.00-11.00 น.(หยุดทุกวันพระ) ระหว่างวันที่ 7 - 23 มกราคม 2565
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","6/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220106185627227"], [108,"นายก อบต.กมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต แถลงนโยบายต่อสภาองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา หลังได้รับการรับรองผลการเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลกมลายึดหลัก ฟื้นฟูเศรษฐกิจ เปิดแหล่งท่องเที่ยว ควบคู่การพัฒนาและรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน มุ่งสู่เมือง Smart City","
นายจุฑา ดุมลักษณ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา แถลงนโยบายต่อที่ประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา หลังได้รับการรับรองผลการเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา โดย นายจุฑา ดุมลักษณ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา ยึดหลัก ฟื้นฟูเศรษฐกิจ เปิดแหล่งท่องเที่ยว ควบคู่การพัฒนาและรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน มุ่งสู่เมือง Smart City เพื่อการพัฒนาองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา ให้เป็นไปตามแนวทางของนโยบายที่ได้ประกาศไว้ต่อประชาชน เมื่อคราวหาเสียงขอรับการสนับสนุนเพื่อดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา ซึ่งได้กำหนดแนวนโยบายการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น ขององค์การบริหารส่วนตำบลกมลา ยึดหลักประโยชน์สูงสุดของประชาชน และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ตามหลักธรรมาภิบาล โดยเน้นหลักการพัฒนา 4 ด้าน ประกอบด้วย
การพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนให้เกิดการฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว เศรษฐกิจ ขององค์การบริหารส่วนตำบลกมลา ให้ประสบความสำเร็จ เนื่องจากตำบลกมลาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เน้นพัฒนาเศรษฐกิจในระดับฐานรากให้มีความเข้มแข็ง ส่งเสริมการประกอบอาชีพที่มีมาตรฐาน ส่งเสริมให้ความรู้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักของตลาดสากล พัฒนาการจัดระเบียบพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวและสินค้า บริการ และกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการจัดงาน กิจกรรมการแข่งขันกีฬา และงานวัฒนธรรมประเพณีประจำท้องถิ่นสืบต่อไป
การพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน ถือเป็นการพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกช่วงวัย เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา ด้านร่างกาย ด้านจิตใจ ด้านสังคม ด้านศาสนา ด้วยการผลักดันให้มีการจัดตั้งศูนย์ฝึกทักษะกีฬาและสาธารณสุขพื้นฐานที่ทุกคนต้องเข้าถึง รวมถึงการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส และส่งเสริมการทำความดี โดยนำหลักการดำเนินการพัฒนาและส่งเสริม คุณภาพชีวิตของประชาชนทุกช่วงวัย เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งด้านร่างกาย จิตใจและสังคม อย่างยั่งยืน
การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เน้นการพัฒนาปรับภูมิทัศน์ภายในตำบลกมลา ให้มีความสวยงามเติมเต็มความปลอดภัยของประชาชน จัดระเบียบเพื่อรองรับการเข้ามาของนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี และจะอนุรักษ์ไว้ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้มีความสมบูรณ์อย่างยั่งยืนสู่รุ่นต่อรุ่นสืบไป
และ การพัฒนาเมือง เป็นเมือง Smart City ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการใช้ชีวิตของประชาชนให้มีคุณภาพมากขึ้น ให้เป็นเมืองแห่งอนาคตอย่างยั่งยืน จากความคิดในการพัฒนาองค์การบริหารส่วนตำบลกมลาที่ต้องเป็นหนึ่งในทุกๆด้าน พร้อมการพัฒนาระบบการสื่อสาร 5g ของตำบล ผลักดันการจัดตั้งศูนย์ข้อมูล Big Data เพื่อรองรับการบริหารงานที่ทันสมัย สู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวตำบลกมลา อยู่ดี กินดี มีสุข อย่างยั่งยืน
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","6/1/2022","ภาคใต้","ภูเก็ต","สวท.ภูเก็ต","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220106203020250"], [109,"นายอำเภอเบตง เผยสนามบินเบตง เมื่อเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการจะสร้างรายได้สู่เบตงและจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เป็นอย่างมาก ขณะที่ประเด็นดราม่าในสื่อโซเชียลเกี่ยวกับสนามบินเบตง ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนในพื้นที่รวมถึงนักท่องเที่ยวที่รอใช้บริการสนามบินเบตง","นายอำเภอเบตง เผยสนามบินเบตง เมื่อเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการจะสร้างรายได้สู่เบตงและจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เป็นอย่างมาก ขณะที่ประเด็นดราม่าในสื่อโซเชียลเกี่ยวกับสนามบินเบตง ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนในพื้นที่รวมถึงนักท่องเที่ยวที่รอใช้บริการสนามบินเบตง
วันนี้ (6 ม.ค.65 ) จากกรณีที่มีผู้ใช้สื่อโซเชียลรายหนึ่ง โพสแสดงความคิดเห็นส่วนตัวลงสื่อสังคมออนไลน์ของตัวเอง เกี่ยวกับท่าอากาศยานเบตง โดยโพสข้อมูลที่บิดเบือนจากความเป็นจริง เกี่ยวกับการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตงว่ามีข้อติดขัดไม่สามารถเปิดให้บริการได้ และกลายเป็นเพียงแค่แหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของ อ.เบตง เท่านั้น ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารย์ และแสดงความคิดเห็นทั้งแง่บวกและลบ ต่อการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตงซึ่งเป็นโครงการภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล
โดยกรมท่าอากาศยานได้ออกมาชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องในทุกประเด็นที่มีการถกเถียงบนสื่อโซเชียล ทั้งเรื่องของวัตถุประสงค์หลักที่ก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง เพื่อการแก้ไขปัญหาการคมนาคมในพื้นที่ที่มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชันไม่สะดวกต่อการเดินทาง และเป็นเพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนดำเนินโครงการมีการศึกษาความเป็นไปได้ วิเคราะห์ข้อมูลทางกายภาพและทางเศรษฐศาสตร์ ความเป็นไปได้ของการก่อสร้างรวมถึงเส้นทางการบิน
ส่วนการขึ้นลงของอากาศยาน จะอยู่ในน่านฟ้าของประเทศไทยเท่านั้น ไม่ล้ำเข้าไปในน่านฟ้าฝั่งมาเลเซีย ขณะนี้มีสายการบินขออนุญาตทำการบินไว้ 2 เส้นทาง คือ หาดใหญ่-เบตง-หาดใหญ่ และ ดอนเมือง-เบตง-ดอนเมือง และปัจจุบันแม้จะยังไม่สามารถเปิดเที่ยวบินพาณิชย์ได้ แต่ท่าอากาศยานเบตง มีเที่ยวบินของทางราชการ และเที่ยวบินส่วนบุคคล ที่ใช้บริการท่าอากาศยานเบตง และทำการบินมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในประเด็นของการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานนั้น กรมท่าอากาศยานได้มีการหารือแนวทางร่วมกันกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มีการวางแผนการลงทุนและแนวทางในการให้บริการในอนาคตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ด้านนายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง เปิดเผยว่า หลังจากมีกระแสข่าวในประเด็นดังกล่าว ทางกรมท่าอากาศยานและสนามบินเบตงได้ออกมาชี้แจงให้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงแล้ว และเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนในพื้นที่รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างพื้นที่ ที่รอใช้บริการสนามบินเบตงแต่อย่างใด แม้จะยังไม่มีการเปิดบินโดยสายการบินพาณิชย์ แต่ชาวเบตงทั้งผู้ประกอบธุรกิจ แหล่งท่องเที่ยว โรงแรม ที่พัก และร้านค้าร้านอาหารในพื้นที่ก็เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว เมื่อสนามบินเบตงเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ตอนนี้ที่ยังไม่สามารถเปิดบินได้ส่วนหนึ่งก็ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังคงต้องเฝ้าระวังอยู่
นายอำเภอเบตง ยังกล่าวด้วยว่า การก่อสร้างท่าอากาศยานเบตงมีความสำคัญกับเภอเบตงอย่างยิ่งโดยเฉพาะด้านการเดินทางมาท่องเที่ยวเพราะจะช่วยในเรื่องของการย่นระยะเวลาในการเดินทาง สามารถเชื่อมโยงการเดินทางสู่เส้นทางท่องเที่ยวต่างๆในประเทศไทย และยังมีประโยชน์ต่อภาคธุรกิจการเกษตรโดยเฉพาะการขนส่งผลไม้ ทั้งทุเรียน มังคุด ส้มโชกุน สินค้าเกษตรคุณภาพดีของอำเภอเบตงที่จะสามารถส่งถึงมือผู้บริโภคได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น การเกิดขึ้นของสนามบินเบตงจะส่งผลดีต่อประชาชนชาวเบตงและจังหวัดชายแดนภาคใต้ในแง่ของการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและรายได้สู่ภาคการเกษตรได้เป็นอย่างดี
สำหรับท่าอากาศยานเบตง เป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลภายใต้โครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2560 แล้วเสร็จในปี 2562 สามารถรองรับผู้โดยสารในชั่วโมงเร่งด่วนได้ประมาณ 300 คนต่อชั่วโมง รองรับผู้โดยสารได้ 876,000 คนต่อปี มีขนาดความยาวทางวิ่ง หรือ รันเวย์ 1,800 เมตร สามารถรองรับได้เฉพาะอากาศยานขนาดเล็ก เช่น เครื่องบินแบบใบพัด ATR และขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา เพื่อขยายความยาวรันเวย์เพิ่มเป็น 2,500 เมตร เพื่อให้สามารถรองรับอากาศยานขนาด 180 ที่นั่ง
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","6/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.เบตง จ.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220106221557269"], [110,"นายกรัฐมนตรี ห่วงราคาหมูแพงกระทบค่าครองชีพประชาชน สั่ง\"พาณิชย์-เกษตรฯ\" เร่งแก้ปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว","มาตรการ 3 ระยะ \"แก้หมูแพง\"
1.ระยะเร่งด่วน
-ห้ามส่งออกหมูมีชีวิต 3 เดือน เริ่ม 6 ม.ค.- 5 เม.ย. 65
-ช่วยเหลือราคาอาหารสัตว์ จัดสินเชื่อพิเศษเพื่อให้เกษตรกรได้กลับมาเลี้ยงใหม่ ตรีงราคาจำหน่ายที่เหมาะสมสอดคล้องต้นทุนที่เกิดขึ้น
-เร่งสำรวจภาพรวมการผลิตสุกรเพื่อกำหนดพื้นที่เป้าหมาย
และมาตรการ พร้อมเพิ่มกำลังการพลิตแม่สุกรทดแทน
2.ระยะสั้น
-ส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ
-ขยายกำลังผลิตแม่สุกร
-เร่งศึกษาวิจัยยา และสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อลดความ
สูญเสียจากโรคระบาด
3.ระยะยาว
-พลักดันยกระดับมาตรฐานฟาร์มเกษตรกร เพื่อป้องกัน
โรคระบาด
-ส่งเสริมให้ปรับปรุงเป็นฟาร์มมีระบบการป้องกันโรค
และมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่ามาตรฐานฟาร์ม GAP เพื่อเพิ่มปริมาณ
การผลิตหมูให้เพียงพอต่อความต้องการบริโภค
-จัดสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กู้ยืมจาก ร.ก.ส. โครงการสานฟันสร้างอาชีพ
นายกรัฐมนตรีห่วงราคาหมูแพงกระทบค่าครองชีพประชาชน
สั่ง\"พาณิชย์-เกษตรฯ\"เร่งแก้ปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","6/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อำนาจเจริญ","สวท.อำนาจเจริญ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220106223528277"], [111,"จัดโครงการฝึกอบรมเศรษฐกิจการเงินขั้นพื้นฐานแก่สมาชิกสหกรณ์ หลักสูตร \"เศรษฐกิจการเงินขั้นพื้นฐานสำหรับสมาชิกสหกรณ์\" สหกรณ์ส่งเสริมเกษตรกรพนา จำกัด อำเภอพนา จังหวัดอำนาจเจริญ","วันนี้ (6 มกราคม 2565) สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์อำนาจเจริญ นำโดยนายไมตรี สายจันดา หัวหน้าสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์อำนาจเจริญ พร้อมด้วยบุคลากรสายสอบบัญชีที่ 1 จัดโครงการฝึกอบรมเศรษฐกิจการเงินขั้นพื้นฐานแก่สมาชิกสหกรณ์ หลักสูตร \"เศรษฐกิจการเงินขั้นพื้นฐานสำหรับสมาชิกสหกรณ์\" เพื่อให้สมาชิกสหกรณ์ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ความเข้าใจในหลักการ อุดมการณ์และวิธีการสหกรณ์
รวมถึงตระหนักในบทบาทหน้าที่ของสมาชิกสหกรณ์ในการมีส่วนร่วมตรวจสอบการดำเนินการ และการทำธุรกรรมทางการเงินกับสหกรณ์ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินการของสหกรณ์ให้เกิดความเชื่อมั่นและศรัทธาแก่สมาชิกสหกรณ์ต่อไป
Cr#ตรวจบัญชีสหกรณ์อำนาจเจริญ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","6/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อำนาจเจริญ","สวท.อำนาจเจริญ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220106223803279"], [112,"กระบี่เตรียมความพร้อมเปิดพื้นที่แบบ Sandbox เต็มพื้นที่ทั้งจังหวัด","วันที่ 6 มกราคม 2565 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมราชสีห์ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดกระบี่ ผมมอบหมายให้ท่านรองสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการเปิดพื้นที่ Sandbox เต็มพื้นที่ทั้งจังหวัด โดยที่ประชุมได้มีการพูดคุยหารือแนวทางการเตรียมความพร้อมในหลายประเด็น อาทิ การกำหนดจุดตั้งด่าน การจัดทำมาตรการที่จะดำเนินการตามรูปแบบ Sandbox
ซึ่ง ศบค.จะมีการประชุมพิจารณาอนุมัติให้จังหวัดกระบี่ของเราเป็นพื้นที่ Sandbox ในวันที่ 7 ม.ค.65 หากได้รับการเห็นชอบ จะทำให้จังหวัดกระบี่สามารถรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและหรือชาวไทยที่จะเดินทางกลับจากต่างประเทศ โดยผ่านทางสนามบินนานาชาติจังหวัดกระบี่ได้เลยเพราะมีไฟล์บินตรงจากต่างประเทศ อาทิ ฟินแลนด์ นอร์เวย์ สิงคโปร์
ทั้งนี้ การเปิดพื้นที่แบบ Sandbox มีมาตรการป้องกันโควิดที่เข้มข้น อาทิ
1)นักท่องเที่ยวจะต้องมีการประสานรถ transfer (airport transfer) sha plus เพื่อเดินทางเข้าสู่โรงแรมในรูปแบบปิดผนึก
2)นักท่องเที่ยวต้องแสดงเอกสาร ยืนยัน pre-paid Rt-PCR 2 ครั้ง
3)นักท่องเที่ยวต้องมีประกันเดินทางที่ครอบคลุม covid-19 วงเงิน อย่างน้อย 50,000 usd
4)นักท่องเที่ยวต้องแสดงเอกสารผลตรวจไม่พบเชื้อ covid-19 โดย Rt-PCR ก่อนเดินทาง 72 ชม. เป็นต้น
จึงมั่นใจได้ว่าการเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยวแบบ Sandbox ในครั้งนี้จะเป็นส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันภัยจากโควิด-19 มาเป็นลำดับแรก ตามนโยบายของจังหวัดที่ว่า \" โควิดต้องป้องกัน เศรษฐกิจต้องเดินหน้า คนเปราะบางต้องเร่งช่วยเหลือ\"
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","6/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220106222808273"], [113,"องคมนตรี เปิดงาน เทศกาลสินค้าโครงการหลวง : ดอกไม้กินได้","วันนี้ (6 ม.ค.65) เวลา 14.00 น. ที่ Grand Hall ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี เป็นประธานเปิดงาน เทศกาลสินค้าโครงการหลวง : ดอกไม้กินได้ โดย พลโท สวราชย์ แสงผล แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา พลตำรวจตรี พรมณัฏฐเขต ฮามคำไพ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 คุณพัชรินทร์ เก่งกาจ หัวหน้าฝ่ายผลิตผลและผลิตภัณฑ์แปรรูป มูลนิธิโครงการหลวง คุณศุภวุฒิ ไชยประสิทธิ์กุล ผู้อำนวยการใหญ่บริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด คุณพลอยชมพู อัมพุช ผู้จัดการใหญ่บริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และ คุณชินาพัฒน์ พิมพ์ศรีแก้ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด ให้การต้อนรับ
สำหรับงาน เทศกาลสินค้าโครงการหลวง ภายในคอนเซ็บท์ ดอกไม้กินได้ พร้อมจำลองบรรยากาศและกลิ่นอายการตกแต่งที่สวยงามเหมือนยกกาดดอยมาได้ม่วนอกม่วนใจ๋ โดยภายในงานรวบรวมสินค้าและผลิตภัณฑ์คุณภาพจากโครงการหลวงทั้ง ผัก-ผลไม้ ผลิตภัณฑ์แปรรูปมากมาย กว่า 150 รายการ อาทิ ผักเคล และผักสดหลากหลายชนิด, สตรอเบอร์รี่, เคปกูสเบอร์รี่, เสาวรส, ฟักทองญี่ปุ่น, มะเขือเทศเชอรี่, ปลาเรนโบว์เทร้าต์, ขนมปังมันเทศญี่ปุ่น มินิ, ไข่ไก่อินทรีย์โครงการหลวง ที่เลี้ยงแบบปล่อยธรรมชาติไม่ใช้ฮอร์โมนไม่ใช้สารเร่ง, กาแฟดริปโครงการหลวง กาแฟ 100% อะราบิก้า จากแหล่งปลูกแม่ลาน้อย ที่มีสภาพอากาศเหมาะสม ปลูกภายใต้ร่มไม้ใหญ่ และสภาพหุบเขาที่โอบล้อม ทำให้ได้เมล็ดกาแฟคุณภาพ มีให้เลือก 2 แบบ คือ คั่วกลาง กับ คั่วเข้ม, เนยแข็งเฟต้า ผลิตจากนมควายผสมนมแพะ นิยมรับประทานกับสลัด บีบให้เนื้อร่วนโรยหน้าสลัด โรยหน้าพิซซ่า หรือทานกับผลไม้, ผักเคลผง สินค้าใหม่ที่คุณค่าทางโภชนาสูง อัดแน่นไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุเป็นราชินีแห่งผักใบเขียว ฯลฯ พร้อมพบกับไฮไลท์ ดอกไม้กินได้ อาทิ ดอกเนสเตอร์เตียม (Nasturtium) มีสีขาว ครีม ชมพู เหลือง ส้ม และแดง มีกลิ่นหอม ใบมีรสเผ็ด จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Indian Cress ดอกและใบนิยมมารับประทาน เป็นผักสดมีรสเผ็ดและให้กลิ่นหอมคล้ายกับวอเตอร์เครส นิยมใส่ในสลัดเพื่อเพิ่มสีสันและรสชาติ ดอกกุหลาบ (Rose) มีหลากหลายสีสัน เช่น แดง ขาว เหลือง ชมพู ฯลฯ มีสรรพคุณช่วยลดกลิ่นตัว ขับเหงื่อ ขับสารพิษ ช่วยบำรุงหัวใจ และเป็นยาระบายอ่อน ๆ กลีบบางชนิดนำมาทำเป็น ชาดอกกุหลาบ บางชนิดนำมาทำเป็นอาหาร เช่น นำไปยำกับเนื้อสัตว์ ชุบแป้งทอด ใส่ในไข่เจียว หรือจะทำเป็นสลัดได้เช่นกัน, ดอกบีโกเนีย (Begonia) ตัวดอกมีความกรอบชุ่มฉ่ำเหมือนผักสลัดสด ๆ มีรสชาติเปรี้ยว เหมือนยอดมะขามอ่อน เหมาะสำหรับอาหารทุกประเภทที่ต้องการตัดรสเลี่ยน หรือแม้กระทั่งทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อเติมความสดชื่นระหว่างวัน มีสรรพคุณช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร
พร้อมกันนี้เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสและลิ้มลองความอร่อยของวัตถุดิบคุณภาพจากโครงการหลวง กูร์เมต์ มาร์เก็ต ได้รังสรรค์ 4 เมนูสุดพิเศษ โดยเชฟ You Hunt We Cook ซึ่งมีจำหน่ายเฉพาะงานเท่านั้น ได้แก่ สลัดโรลผักเคลกับดอกไม้โครงการหลวง (Salad Roll with kale Flower) ราคา 90 บาท, ผักเคลเบคอนอบครีมชีส (Bake kale & bacon cream cheese) ราคา 150 บาท, ปลาเรนโบว์เทราต์ ย่างกับซัลซ่ามะเขือเทศโครงการหลวง (Grilled Trout decorations with Cherry Tomato Salsa) ราคา 250 บาท, ปลาเรนโบว์เทราต์ ย่างซอสสมุนไพรกับข้าวโครงการหลวง (Grilled Trout with Thai Herb and Rice) ราคา 250 บาท และนอกจากนี้ภายในงานยังได้คัดสรรอาหารเหนือ แบบพื้นเมืองแท้ ๆ และยังใช้วัตถุดิบจากโครงการหลวงในการปรุงเมนูมาให้ได้เลือกลิ้มลองความอร่อยมากมาย อาทิ ข้าวเหนียวงาดำ มีส่วนผสมพิเศษในส่วนของข้าวเหนียวธัญญะพืชที่ได้ใช้ งาดำ และงาหอม ผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวงมาเป็นส่วนผสมซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์, ข้าวซอยปลาเทร้าต์ทอด อาหารขึ้นชื่อของชาวเหนือ ใช้ปลาเทร้าต์จากโครงการหลวง ทอดในน้ำมันร้อน ๆ จนเหลืองกรอบ ทานพร้อมเส้นและราดน้ำแกงข้าวซอย เพิ่มความอร่อยด้วยเครื่องเคียงต่าง ๆ, ผัดไทไข่ไก่โครงการหลวง เมนูอาหารจานเด็ดซึ่งทางร้านได้นำไข่ไก่โครงการหลวงที่ปล่อยตามธรรมชาติ ไก่ไม่เครียด ไม่ใช้ฮอร์โมนเร่งไม่ใช้สารเร่งสีไข่แดง เลี้ยงด้วยผลผลิตอินทรีย์ ซึ่งไข่ไก่อินทรีย์จะปลอดจากสารพิษ, น้ำพริกหนุ่ม พร้อมผักเครื่องเคียงโครงการหลวง อาหารพื้นบ้านล้านนาที่รู้จักกันทั่วไป ทำจากพริกชนิดหนึ่งที่เรียกว่าพริกหนุ่มอาจจะใช้พริกหนุ่มที่แก่จัดหรือยังไม่แก่จัดก็ได้ โขลกส่วนผสม หอม และกระเทียม ที่มาย่างและรับประทาน กับผักโครงการหลวงสดจากดอยโดยตรง ซึ่งเป็นผักปลอดภัย และมีให้เลือกหลายหลายชนิด, กะลอจี้ ขนมกะลอจี๊เป็นขนมแป้งเหนียว ๆ สัญชาติจีน นำไปต้มจนสุก เวลาจะกินก็นำไปคลุกกับน้ำตาลทรายผสมงาขาวงาดำ จากโครงการหลวง ใส่ถั่วเพิ่มกะลอจี๊กรอบนอกนุ่มใน หอมงาและถั่ว ไปกินเล่นยามว่าง, ขนมตะโก้ ตะโก้กะทิสดมีให้เลือกกว่า 16 ไส้ โดยมีเมนูแนะนำคือไส้ ข้าวโพด, ฟักทอง, ถั่วแดง ที่สด ใหม่ จากโครงการหลวง บอกเลยว่าถ้ากินหมดนี่เบาหวานรับประทานแน่นอน,น้ำอะโวคาโดปั่น ได้คัดสรร ผลอะโวคาโด สดจากทีมโครงการหลวง มาทำน้ำอะโวคาโดปั่น ซึ่งเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพอย่างมาก เพราะมีทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายกว่า 20 ชนิด และมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่มาก ซึ่งประโยชน์ของอะโวคาโดนั้นมีหลากหลายด้าน เช่น บำรุงสมอง บำรุงดวงตา ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง ไปจนถึงประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่น ๆ และอีกหลากหลายเมนูให้เลือกลิ้มลองความอร่อย จึงขอเชิญผู้สนใจร่วมสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวง และลิ้มลองความอร่อยกับหลากหลายเมนูได้ ในงาน เทศกาลสินค้าโครงการหลวง: ดอกไม้กินได้ ตั้งแต่วันที่ 5 - 12 มกราคม 2565 ที่ Grand Hall ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) แต่งตั้งคณะกรรมการโครงการยกระดับการพัฒนาพื้นที่เมืองเบตง จังหวัดยะลา Amazean Jungle Trail ตามมติคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ซึ่งมีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยมอบหมายให้ ศอ.บต. จัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการฯ เพื่อกระตุ้นการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคมพหุวัฒนธรรม สร้างงาน สร้างรายได้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับพื้นที่ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย ในการเป็นเมืองพัฒนาทั้งสองเมือง
นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายสร้างสนามแข่งขันวิ่งเทรลที่มีมาตรฐานระดับโลก โดยมุ่งหวังให้บรรจุอยู่ใน UTMB World series เป็นสนามที่ 2 ของประเทศ อีกทั้งตั้งเป้าให้เป็นกิจกรรมช่วยในการประชาสัมพันธ์ให้นักวิ่งจากทั่วโลก ได้รู้จักอำเภอเบตง และเดินทางเข้ามาร่วมการแข่งขัน เพื่อเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวเมืองเบตงต่อไป โดยคณะกรรมการโครงการยกระดับการพัฒนาพื้นที่เมืองเบตง จังหวัดยะลา Amazean Jungle Trail มีพลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการ
เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความกินดี อยู่ดี และอยู่ร่วมกันได้ในวิถีพหุวัฒนธรรม พร้อมด้วยความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน ศอ.บต. และหน่วยงานความมั่นคงได้เดินหน้าการพัฒนาทุกๆด้าน เร่งพัฒนาให้ประชาชนพ้นเกณฑ์ความยากจนร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและจังหวัด พัฒนาด้านเศรษฐกิจให้มีความเจริญเติบโต ด้านทรัพยากรมนุษย์ และด้านการท่องเที่ยว ซึ่งตั้งเป้าให้โครงการ Amazean Jungle Trail สามารถเพิ่มยอดนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นในเมืองเบตง และในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกจังหวัด
สำหรับกิจกรรมวิ่ง Trail เป็นกิจกรรมที่เป็นเทรนด์ของคนรุ่นใหม่ โดยรัฐบาล นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้หนุนเสริมให้จัดกิจกรรมพร้อมกำชับให้ดำเนินการอย่างเต็มที่ หวังให้เป็นกิจกรรมช่วยยกระดับการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจภาคใต้ตอนล่าง ให้เกิดการพัฒนา สร้างภาพลักษณ์ใหม่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างไรก็ตาม กิจกรรมวิ่งเทรล อ.เบตง จ.ยะลา จะจัดขึ้นในวันที่ 7-8 พฤษภาคม 2565 แบ่งเป็น 3 ระยะ ประกอบด้วย ระยะเบตง 100 กิโลเมตร ระยะเบตง 50 กิโลเมตร และระยะเปรัค ประเทศมาเลเซีย 25 กิโลเมตร
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","7/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107072206300"], [115,"รัฐบาล เร่งแก้ปัญหาเนื้อหมูราคาแพง สั่งห้ามส่งออกชั่วคราว เร่งผลักดันการยกระดับมาตรฐานฟาร์ม","นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหาเนื้อหมูราคาแพง ว่า สาเหตุเกิดจากปริมาณสุกรที่ลดลงและต้นทุนการเลี้ยงปรับสูงขึ้น กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกมาตรการเร่งด่วน ได้แก่ การห้ามส่งออกหมูมีชีวิตเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม - 5 เมษายนนี้ เพื่อเพิ่มปริมาณเนื้อหมูภายในประเทศ โดยกระทรวงพาณิชย์จะพิจารณาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
ส่วนการช่วยเหลือด้านราคาอาหารสัตว์ โดยเฉพาะส่วนที่นำเข้ามาจากต่างประเทศจะมีมาตรการช่วยเหลือ เช่น การงดเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมหรือภาษี การจัดสินเชื่อพิเศษของ ธ.ก.ส. เพื่อให้เกษตรกรที่สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขได้กลับมาเลี้ยงใหม่ในพื้นที่ความเสี่ยงต่อโรคระบาดต่ำ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ เร่งขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยเพื่อช่วยเหลือให้เข้าถึงแหล่งสินเชื่อได้ง่ายและสะดวกรวดเร็ว ทั้งนี้ การแก้ปัญหาเนื้อหมูราคาแพงจะต้องบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในการร่วมกันแก้ปัญหาทั้งระบบเพื่อให้การแก้ปัญหายั่งยืน
สำหรับมาตรการระยะยาว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะผลักดันการยกระดับมาตรฐานฟาร์มของเกษตรกรเพื่อป้องกันโรคระบาด เพื่อส่งเสริมให้ปรับปรุงเป็นฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสมมีค่าใช้จ่ายต่ำ ซึ่งจะเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรกลับมาเลี้ยงสุกรใหม่และเพิ่มปริมาณการผลิตหมูให้เพียงพอต่อความต้องการบริโภค
","7/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107100541338"], [116,"พาณิชย์แม่ฮ่องสอน หารือผู้แทนร้านภาคเหนือหมูสด จัดจำหน่ายหมูเนื้อแดง 150 บ.กก. บรรเทาภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ออกมาตรการเร่งด่วน-ระยะสั้น-ระยะยาว","
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน หารือผู้แทนร้านภาคเหนือหมูสด เพื่อติดตามสถานการณ์การผลิต การตลาดสุกรและแนวทางดำเนินการตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) โดยเบื้องต้นได้ดำเนินการจัดจำหน่ายหมูเนื้อแดง ราคาต่ำกว่าท้องตลาด 20 - 40% ในราคา กิโลกรัมละ 150 บาท ภายใต้โครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน ระหว่างวันที่ 5 - 15 มกราคม 2565 จำนวน 5 จุดใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง ขุนยวม ปางมะผ้า และปาย เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนในจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมออกมาตรการแก้ปัญหาหมูแพง \"เร่งด่วน - ระยะสั้น - ระยะยาว\" เชื่อมั่นราคาเนื้อหมูกลับสู่ภาวะปกติ ได้ข้อสรุปดังนี้
- มาตรการเร่งด่วน ได้แก่ 1. ห้ามส่งออกหมูมีชีวิตเป็นเวลา 3 เดือน (6 ม.ค. 65 - 5 เม.ย. 65) 2.ช่วยเหลือด้านราคาอาหารสัตว์ โดยเฉพาะส่วนที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ เช่น งดเว้นการเก็บค่าธรรมเนียม หรือภาษีการจัดสินเชื่อพิเศษของ ธ.ก.ส. เป็นต้น 3. เพิ่มกำลังการผลิตแม่หมูทดแทน โดยให้เกษตรกรใช้หมูขุนตัวเมียมาทำพันธุ์ชั่วคราว 4. เร่งรัดเจรจาฟาร์มรายใหญ่ให้กระจายพันธุ์ลูกหมูขุนแก่เกษตรกรรายย่อยและเล็ก ที่ต้องการกลับเข้ามาสู่ระบบใหม่
- มาตรการระยะสั้น ได้แก่ 1. ส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ 2. ขยายกำลังผลิตแม่หมู 3. สนับสนุนศูนย์วิจัยและบำรุงสัตว์ ในสังกัดกรมปศุสัตว์, เครือข่ายคู่ขนานกับฟาร์มเกษตรกรและภาคเอกชน 4. เร่งศึกษาวิจัยยาและสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อลดความสูญเสียจากโรคระบาด
- มาตรการระยะยาว ได้แก่ 1.ยกระดับมาตรฐานฟาร์มของเกษตรกรเพื่อป้องกันโรคระบาด 2. ส่งเสริมให้ปรับปรุงเป็นฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม (GFM) ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่ามาตรฐานฟาร์ม GAP 3. สนับสนุนการเลี้ยงโดยมีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กู้ยืมจาก ธ.ก.ส. ผ่านโครงการสานฝันสร้างอาชีพ
โดยเชื่อมั่นว่ามาตรการทั้ง 3 ระยะที่ได้จากข้อสรุปดังกล่าว จะสามารถทำให้ราคาเนื้อหมูกลับสู่ภาวะปกติได้
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","7/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107081414304"], [117,"นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ส่วนราชการส่งเสริมช่วยเหลือประชาชนเข้าถึงประโยชน์อย่างเต็มที่จาก \"ความตกลง RCEP\" ที่มีผลบังคับใช้แล้ว","นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พัฒนา ส่งเสริม และอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ ให้แก่ประชาชน ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ ให้ได้ใช้และรับประโยชน์จากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP) ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา
ความตกลง RCEP เป็นเขตการค้าเสรี (FTA) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีสมาชิกครอบคลุมกว่า 15 ประเทศ ได้แก่ 10 ประเทศอาเซียน รวมกับอีก 5 ประเทศคู่เจรจาของอาเซียน ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ครอบคลุมประชากรมากถึง 2.3 พันล้านคน หรือกว่า 1 ใน 3 ของโลก จึงเป็นตลาดในการนำเข้าเเละส่งออกสินค้าและบริการที่กว้างขวางและครอบคลุมหลายด้านที่ทำให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อผู้ผลิตและผู้บริโภคในแต่ละประเทศสมาชิก
ทั้งนี้ ประโยชน์ที่ประชาชน เกษตรกร ผู้ผลิต และผู้ประกอบการไทยจะได้รับจากความตกลง RCEP อาทิ ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้า (ภาษีเหลือ 0% สำหรับสินค้าส่งออกไทย จำนวนกว่า 29,891 รายการ ที่จะช่วยลดต้นทุนในการผลิตสินค้า เพิ่มประสิทธิภาพในการส่งออก เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการและเปิดตลาดใหม่ ๆ ให้กับสินค้าส่งออกของไทย /ผู้ประกอบการได้รับการอำนวยความสะดวกหรือลดความยุ่งยากทางการค้า โดยเฉพาะด้านพิธีศุลกากร และเพิ่มช่องทางออนไลน์สำหรับการยื่นเอกสารขอนำเข้าสินค้าเป็นการล่วงหน้า /ลดหรือยกเลิกข้อกำหนดด้านการลงทุน ที่เป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดการเลือกปฏิบัติต่อนักลงทุนต่างชาติภายในประเทศสมาชิก
ความตกลง RCEP จะช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs ของไทย เข้าถึงและใช้ประโยชน์จากความตกลงได้อย่างเต็มที่ คาดว่าจะสร้างรายได้และการจ้างงานให้กับประเทศมากขึ้น ทั้งยังเป็นโอกาสให้ไทยสามารถเปิดรับการลงทุน และการพัฒนาจากประเทศสมาชิกในสาขาที่ไทยมีความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการวิจัยและพัฒนา การศึกษา สิ่งแวดล้อม การซ่อมบำรุงชิ้นส่วนอากาศยานหรือเรือขนาดใหญ่หรืออุปกรณ์ขนส่งทางราง และการผลิตหุ่นยนต์สำหรับใช้ในภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้สอดรับกับโอกาส สิทธิประโยชน์ที่ไทยได้รับภายใต้ความตกลง RCEP
","7/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107111631377"], [118,"จังหวัดกระบี่ประชุมหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่กรณีเนื้อหมูมีราคาแพง ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน","สืบเนื่องจากกรณีเนื้อหมูมีราคาแพง ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน นายพุฒิพงศ์ ศิริมาย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ มอบหมายให้ นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่กรณีเนื้อหมูมีราคาแพง ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน โดยมีนายสุภาพ จีนเมือง พาณิชย์จังหวัดกระบี่ นายปัญญา แววดี ปศุสัตว์จังหวัดกระบี่ และนางสาวสมถวิล สันติธรรมกุล เจ้าหน้าที่ สคบ.กระบี่ ร่วมประชุมหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่กรณีเนื้อหมูมีราคาแพง ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน ณ ห้องปฏิบัติราชการ เบื้องต้นสรุปได้ดังนี้ บูรณาการร่วมกันในการแก้ไขปัญหาเรื่องดังกล่าว เพื่อลดค่าครองชีพ และเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับผู้บริโภคจังหวัดกระบี เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหา กรณีเนื้อหมูมีราคาแพง ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน เนื่องจากการลดปริมาณการเลี้ยงสุกรและโรคระบาด รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์มีราคาสูงขึ้น
ทั้งนี้ ในส่วนของสำนักงานปศุสัตว์ ขอความร่วมมือให้ประสานผู้ประกอบการ/สมาคมผู้เลี้ยงสุกรลดราคาจำหน่ายในส่วนของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกระทรวงพาณิชย์ ได้อนุมัติงบประมาณให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกระบี่ ดำเนินโครงการหมูพาณิชย์..ลดราคา!ช่วยประชาชนกำหนดจุดจำหน่าย จำนวน 4 จุด จำหน่ายเนื้อหมูในราคา150บาท/กก. ช่วงเดือนมกราคม 2565 ระยะเวลาดำเนินการ 10 วัน และให้สำนักงานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรวจสอบในเรื่องของราคาและการติดป้ายแสดงราคา เพื่อป้องกันการฉกฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชนผู้บริโภค และหารือประ้เด็นอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
นอกจากนี้ ยังหารือแนวทางแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนเรื่องสุนัขจรจัดในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวทำร้ายนักท่องเที่ยว โดยมอบหมายสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดกระบี่ ประสานองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งอยู่ในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวแก้ไขปัญหาเป็นกรณีเร่งด่วน เพื่อสร้างความปลอดภัยและภาพลักษณ์ที่ดีต่อนักท่องเที่ยว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่
ปานอุมา แหละยุหีม ข่าว
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","7/1/2022","ภาคใต้","กระบี่","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107085051310"], [119,"พาณิชย์จังหวัดปัตตานี ลงพื้นที่ติดตาม โครงการหมูพาณิชย์..ลดราคา ช่วยประชาชน จังหวัดปัตตานี","วันที่ 6 มกราคม 2565 นางสาวจินตะณา ปิ่นสุภา พาณิชย์จังหวัดปัตตานี พร้อม ผอ.กลุ่มกำกับฯ และเจ้าหน้าที่สนง.พาณิชย์จังหวัดปัตตานี ลงพื้นที่ติดตามโครงการหมูพาณิชย์... ลดราคา ช่วยประชาชน จังหวัดปัตตานี (ครั้งที่ 2) จำหน่ายหมูเนื้อแดง ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ตั้งแต่วันที่ 6 - 15 มกราคม 2565 เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน จากภาวะราคาเนื้อหมูที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ จังหวัดปัตตานี มีจุดจำหน่าย 3 จุด ดังนี้
1. ร้านตั้มหมูซิ่ง ถนนนเกลือ ซอย 14
2. ร้านป้าใจ ตลาดสดเทศวิวัฒน์
3. ร้านพี่หยอย ถนนมะกรูด ซอย 7
และติดตามร้านจำหน่ายหมูในพื้นที่ จำนวน 2 ร้าน
1. ร้านสันติฟาร์ม จำหน่ายหมูเนื้อแดงราคากิโลกรัมละ 157 บาท
2. บิ๊กซีซุปเปอร์เซ็นเตอร์ จำหน่ายหมูเนื้อแดงราคากิโลกรัมละ 165 บาท
ทั้ง 2 ร้านได้มีการปิดป้ายแสดงราคาให้ประชาชนได้เปรียบเทียบก่อนตัดสินใจซื้ออย่างชัดเจนเป็นไปตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","7/1/2022","ภาคใต้","ปัตตานี","สวท.ปัตตานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107111506376"], [120,"จ.ลำพูน ลงติดตามการจำหน่ายเนื้อหมู ขณะเดียวกันด้านพาณิชย์ เร่งนำมาตรการเข้าช่วยเหลือ","นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วยนางกนกรัตน์ ยุกติรัตน์ พาณิชย์จังหวัดลำพูน สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดลำพูน สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดลำพูน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การตลาดและการจำหน่ายเนื้อสุกร จังหวัดลำพูน จำนวน 2 แห่ง ณ ตลาดลำพูนจตุจักร ตำบลป่าสัก อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน และร้านหมูอินเตอร์สาขาลำพูน ตำบลเวียงยอง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา พบว่า สถานการณ์ราคาและการจำหน่ายสุกรในจังหวัดลำพูนแบ่ง 2 ลักษณะ 1.) เขียงหมูในตลาดสด ราคาหมูเนื้อแดง (ไหล่และสะโพก) ราคา 165-200 บาท/กิโลกรัม และ 2.) ร้านจำหน่าย เช่น ซีพี เบทาโกร หมูอินเตอร์ ยิ่งเจริญ วีพีเอฟ และห้างสรรพสินค้า เป็นต้น ราคาหมูเนื้อแดง (ไหล่และสะโพก) ราคา 160 179 บาท/กิโลกรัม ซึ่งราคาจำหน่ายในร้านต่ำกว่าราคาที่จำหน่ายในตลาดสด และปริมาณมีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค
ด้านกระทรวงพาณิชย์ ได้มีมาตรการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาสุกรของภาครัฐ เป็นกรณีเร่งด่วน ดังนี้
1) โครงการธงฟ้าราคาประหยัดลดค่าครองชีพประชาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ 2565 เพื่อดำเนินการ โครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชนในส่วนภูมิภาค เพื่อลดค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภค โดยจำหน่ายหมูเนื้อแดง (ไหล่และสะโพก) ปริมาณ 100 กิโลกรัม/วัน/จุด ในราคา 130 บาท/กิโลกรัม ตามโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ระหว่างวันที่ 27-31 ธันวาคม 2564 จุดจำหน่าย 4 จุด (อำเภอเมืองลำพูน 1 จุด/อำเภอป่าซาง 1 จุด/อำเภอบ้านโฮ่ง 1 จุด/และอำเภอลี้ 1 จุด
2) โครงการธงฟ้าราคาประหยัดลดค่าครองชีพประชาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ 2565 เพื่อดำเนินการ โครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชนในส่วนภูมิภาค ครั้งที่ 2 เพื่อลดค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภค โดยจำหน่ายหมูเนื้อแดง (ไหล่และสะโพก) ปริมาณ 50 กิโลกรัม/วัน/จุด ในราคา 150 บาท/กิโลกรัม ตามโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ระหว่างวันที่ 5-14 มกราคม 2565 (จำนวน 10 วัน) จุดจำหน่าย 7 จุด (อำเภอเมืองลำพูน 5 จุด อำเภอป่าซาง 1 จุด และอำเภอบ้านโฮ่ง 1 จุด
3) ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2565 เรื่องห้ามส่งออกสุกรมีชีวิตไปนอกราชอาณาจักร โดยกำหนดห้ามมิให้ส่งออกสุกรมีชีวิตไปนอกราชอาณาจักรทุกกรณี เป็นการชั่วคราว เป็นระยะเวลา 3 เดือนตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป เว้นแต่จะมีการออกประกาศใหม่
4) ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2565 เรื่อง การแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร โดยกำหนดให้ผู้เลี้ยง ผู้จำหน่าย ผู้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งครอบครองสุกรมีชีวิตที่มีปริมาณตั้งแต่ห้าร้อยตัวขึ้นไป และผู้ครอบครองสุกรชำแหละผ่าซีก เนื้อสุกรชำแหละแยกชิ้นส่วนซึ่งประกอบด้วย เนื้อไหล่ เนื้อสะโพก เนื้อสันนอก เนื้อสันใน และเนื้อหมูสามชั้น ที่มีปริมาณรวมกันตั้งแต่ห้าพันกิโลกรัมขึ้นไป ไม่ว่าจะครอบครองในฐานะผู้มีกรรมสิทธิ์ หรือครอบครองแทนผู้อื่น แจ้งปริมาณการเลี้ยง ปริมาณการซื้อ ปริมาณการจำหน่าย ปริมาณการใช้ ปริมาณการส่งออก ปริมาณการรับฝาก ปริมาณคงเหลือ ราคาจำหน่าย สถานที่เก็บ สถานที่เลี้ยง และจัดทำบัญชีคุมสินค้า เพื่อให้การกำกับดูแลสุกรและเนื้อสุกรมีปริมาณเพียงพอกับความต้องการของประชาชนในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อผู้บริโภค
5) รัฐบาลส่งเสริมเกษตรกรรายเล็ก และรายย่อยเดิม ในพื้นที่ที่มีความเหมาะสม โดยขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการขนาดใหญ่ให้ผลิตลูกหมูเพิ่ม เพื่อส่งให้เกษตรกรรายเล็ก และรายย่อยเลี้ยง โดยจะใช้เงินทุนจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ภายใต้ โครงการสานฝันสร้างอาชีพ ยกระดับรายได้เกษตรกร เข้ามาสนับสนุน เพื่อใช้เป็นต้นทุนในการดำเนินการ
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ให้กำลังใจแก่ผู้ประกอบการและผู้จำหน่ายเนื้อหมู เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการดำรงชีวิต พร้อมทั้ง รณรงค์ให้ผู้ประกอบการที่จำจ่ายเนื้อหมูและผู้ประกอบการตามร้านต่างๆในจังหวัดลำพูน ร่วมกันเข้ารับการฉีดวัคซีน เพื่อสร้างความมั่นใจ และความเชื่อมั่น แก่ลูกค้าให้หันมาบริโภคเนื้อหมูต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","7/1/2022","ภาคเหนือ","ลำพูน","สวท.ลำพูน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107120009410"], [121,"คมนาคมเข้มงวดมาตรการความปลอดภัยและการป้องกันโควิด-19 ท่าเรือเกาะสมุย สร้างความมั่นใจนักท่องเที่ยว","นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ติดตามความพร้อมการปฏิบัติงานของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุย ในการดูแลนักท่องเที่ยว บริเวณท่าเรือซีทรานเฟอร์รี่ และท่าเรือราชาเฟอร์รี่ อ.ดอนสัก ซึ่งเป็นท่าเรือหลักในการให้บริการเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากไปยังเกาะสมุยและเกาะพะงัน โดยจากการตรวจติดตามพบว่าทั้ง 2 ท่าเรือมีมาตรการด้านความปลอดภัยและระบบการคัดกรองที่มีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตามเพื่อความไม่ประมาท ได้กำชับให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคฯ ตรวจสอบความปลอดภัยของเรือ ท่าเทียบเรืออย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ประจำท่าเรือตลอดเวลา รวมทั้งให้เข้มงวดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ท่าเรือซีทรานเฟอร์รี่มีผู้ใช้บริการเฉลี่ย 1,500 คนต่อวัน ขณะที่ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ มีผู้ใช้บริการเฉลี่ย 1,000 คนต่อ วัน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (วันที่ 7 มกราคม 2565) นายธรรมนูญ ศรีวรรธนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และคณะอนุกรรมการจัดกิจกรรมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร สินค้า โอทอป สินค้าประชารัฐ สินค้าธงฟ้าและสินค้าทั่วไป ประชุมเตรียมความพร้อมการจัดงานพระนครคีรี - เมืองเพชร ครั้งที่ 35 ประจำปี 2565 ณ ห้องประชุมสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเพชรบุรี
นายธรรมนูญ ศรีวรรธนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า เพชรบุรีเป็นเมืองศักยภาพความโดดเด่นด้านการผลิต มีโรงงานผลิตสินค้าในพื้นที่ ทั้งสินค้าอุปโภค บริโภค และที่สำคัญมีฐานการผลิตแหล่งอาหารการกิน อร่อยทั้งรสชาติถูกปาก มาตรฐานความสะอาด สถานประกอบการผ่านมาตรฐาน SHA PLUS สมเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารของยูเนสโก
สำหรับงานพระนครคีรี - เมืองเพชร ปีนี้ ไม่เพียงการส่งเสริมฐานรากของพี่น้องเกษตรกรที่นำวัตถุดิบเพชรบุรีที่เป็นเมือง 3 รส รสหวาน จากตาลโตนด เปรี้ยวจากมะนาว และรสเค็มจากเกลือ เสริมอรรถรสแห่งรสชาติอาหารทุกจาน พร้อมการรังสรรค์เมนูจานเด็ด หลากหลายครบเครื่องแล้ว ที่สำคัญพี่น้องประชาชนยังสามารถซื้อผลิตภัณฑ์สินค้าคุณภาพหลากชนิด ทั้งจากโรงงานในพื้นที่ แหล่งผลิตสินค้าชุมชน ที่มาร่วมออกร้าน ซึ่งมีทั้งสินค้า โอทอป สินค้าประชารัฐ สินค้าธงฟ้า ราคาประหยัด นักท่องเที่ยว และผู้สนใจ สามารถ รอชม รอเลือกสินค้าคุณภาพดีหลากชนิดในราคามิตรภาพ จำหน่ายไม่แพง พร้อมรอชิมความอร่อยจากอาหารหลากรส รอพบกันในงานพระนครคีรี ( 18 กุมภาพันธ์ 27 กุมภาพันธ์ 2565 )
จามรี อนุรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี รายงาน
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","7/1/2022","ภาคตะวันตก","เพชรบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107115810404"], [123,"สำนักงานขนส่งจังหวัดยะลา สาขาอำเภอเบตงเชิญชวนประมูลทะเบียนรถเลขสวย ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต หมวด กจการงานก้าวหน้า ธุรกิจก้าวไกล","นางคชาพร จินตนุกูล หัวหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดยะลา สาขาอำเภอเบตง กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้สำนักงานขนส่งจังหวัดยะลา ไม่สามารถจัดการประมูลหมายเลขทะเบียน ในห้องประมูลได้ สำนักงานขนส่งจังหวัดยะลา กรมการขนส่งทางบก โดยกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) ขอเชิญชวนร่วมประมูลทะเบียนรถเลขสวย New normal auction ด้วยวิถีใหม่แห่งการประมูล โดยจะมีการประมูลหมายเลขทะเบียนรถเลขสวย ของยะลา หมวด กจ การงานก้าวหน้า ธุรกิจก้าวไกลและ หมายเลขทะเบียนรถเลขสวย ของ เบตง หมวด กค เริ่มทำการประมูลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้น จนถึงวันที่ 15 มกราคม 2565 วิธีการประมูลทางอินเทอร์เน็ตเพียงช่องทางเดียว
สามารถเสนอราคาแข่งขันแบบเรียลไทม์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันปิดประมูล หรือ ตั้งราคาล่วงหน้าขั้นสูง แบบ Maximum Bid หรือแบบ Advance Bid โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมการประมูลสามารถลงทะเบียนผ่านทาง www.tabienrod.com โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. เข้าไปที่เว็บไซต์www.tabienrod.com
2. เลือกเมนู การประมูลทะเบียนรถเก๋ง
3. สมัครเข้าร่วมการประมูล
4. คลิก เพิ่มเงินวางหลักประกัน
5. คลิก เพิ่มเงินวางหลักประกัน รถเก๋ง ประมูลทางอินเทอร์เน็ต
6. เลือกจำนวนหมายเลขที่จะประมูลตามกลุ่มบัญชีหมายเลขที่ต้องการ
7. กรอกข้อมูล และพิมพ์เอกสารวางหลักประกันมาที่ dltfax@gmail.com
ผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลสามารถลงทะเบียน และเสนอราคาได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานขนส่งจังหวัดยะลา 073-203782 , 073-216669 , 073-299339 , 099-4839995 สำนักงานขนส่งจังหวัดยะลา สาขาอำเภอเบตง 073-231022
หัวหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดยะลา สาขาอำเภอเบตง กล่าวเพิ่มเติมว่า รายได้จากการประมูลทะเบียนรถเลขสวย จะนำเข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เพื่อใช้ส่งเสริมการดำเนินงานตามแผนลดอุบัติเหตุทางถนนของกรมการขนส่งทางบก และหน่วยงานที่มีแผนงานด้านความปลอดภัยทางถนน สนับสนุนการศึกษาวิจัยเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และการเผยแพร่องค์ความรู้ด้านความปลอดภัย ต่อสาธารณชน เพื่อลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน เช่น การรณรงค์ลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลต่างๆ การจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS ทั้งประเทศ เพื่อติดตามการใช้ความเร็ว และความปลอดภัยของรถโดยสารและรถบรรทุก โครงการเสริมสร้างจิตสำนึกความปลอดภัยให้แก่เด็กและเยาวชน อาทิ โครงการสนามจราจรเยาวชน โครงการนักเรียนรุ่นใหม่มีใบขับขี่รวมทั้งสนับสนุนค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการอันเนื่องมาจากการประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","7/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.เบตง จ.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107131037447"], [124,"พาณิชย์ฯแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายหมูเนื้อแดง โครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชนในส่วนภูมิภาค ครั้งที่ 2 จัดจำหน่ายหมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 150 บาท","วันนี้ (7 ม.ค.65) สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายเนื้อหมูและการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายเนื้อหมูในพื้นที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ณ ตลาดสดเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน (ตลาดสายหยุด) ร้าน ซีพี, เบทาโกร, หมูอินเตอร์ และภาคเหนือหมูสด และติดตามโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชนในส่วนภูมิภาค จำหน่ายหมูเนื้อแดง 150 บาท/กิโลกรัม ระหว่างวันที่ 5-15 ม.ค. 65 จำนวน 5 จุด ใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง ขุนยวม ปางมะผ้า และอำเภอปาย พบว่าสถานการณ์ราคาและการจำหน่ายเนื้อหมูในจังหวัดแม่ฮ่องสอนมี 2 ลักษณะ 1.) เขียงหมูในตลาดสด ราคาหมูเนื้อแดง (ไหล่และสะโพก) ราคา 200 บาท/กิโลกรัม และ 2.) ร้านจำหน่าย เช่น ซีพี เบทาโกร หมูอินเตอร์ และภาคเหนือหมูสด ราคาหมูเนื้อแดง (ไหล่และสะโพก) ราคา 173 - 202 บาท/กิโลกรัม ปริมาณเนื้อหมูมีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคในจังหวัดแม่ฮ่องสอน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","7/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107135533470"], [125,"พาณิชย์ฯ แม่ฮ่องสอน เผยมาตรการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาสุกร ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน","นางสาวยุพา นาคา พาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า มาตรการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาสุกรของภาครัฐ เป็นกรณีเร่งด่วนของกระทรวงพาณิชย์ ตามนโยบายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ดำเนินการ ดังนี้
1) โครงการธงฟ้าราคาประหยัดลดค่าครองชีพประชาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ 2565 โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับร้านภาคเหนือหมูสด ดำเนิน โครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชนในส่วนภูมิภาค ครั้งที่ 1 โดยจัดจำหน่ายหมูเนื้อแดง ราคา 130 บาท/กก. จำนวน 5 จุดใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง ขุนยวม บางปะผ้า และอำเภอปาย ระหว่างวันที่ 29 - 31 ธันวาคม 2564 ยอดจำหน่าย 545.56 กก. สามารถลดค่าครองชีพให้ประชาชนได้ 10,911.20 บาท คิดเป็นร้อยละ 13.33
2) โครงการธงฟ้าราคาประหยัดลดค่าครองชีพประชาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ 2565 เพื่อดำเนินการ โครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชนในส่วนภูมิภาค ครั้งที่ 2 โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับร้านภาคเหนือหมูสด จัดจำหน่ายหมูเนื้อแดง ราคา 150 บาท/จำนวน 5 จุดใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง ขุนยวม ปางมะผ้า และอำเภอปาย ระหว่างวันที่ 5 - 15 มกราคม 2565 เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน
3) ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2565 เรื่อง ห้ามส่งออกสุกรมีชีวิตไปนอกราชอาณาจักร โดยกำหนดห้ามมิให้ส่งออกสุกรมีชีวิตไปนอกราชอาณาจักรทุกกรณีเป็นการชั่วคราว เป็นระยะเวลา 3 เดือนตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป เว้นแต่จะมีการออกประกาศใหม่
4) ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2565 เรื่อง การแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร โดยกำหนดให้ผู้เลี้ยง ผู้จำหน่าย ผู้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งครอบครองสุกรมีชีวิตที่มีปริมาณตั้งแต่ห้าร้อยตัวขึ้นไป และผู้ครอบครองสุกรชำแหละผ่าซีก เนื้อสุกรชำแหละแยกชิ้นส่วนซึ่งประกอบด้วย เนื้อไหล่ เนื้อสะโพก เนื้อสันนอก เนื้อสันใน และเนื้อหมูสามชั้น ที่มีปริมาณรวมกันตั้งแต่ห้าพันกิโลกรัมขึ้นไป ไม่ว่าจะครอบครองในฐานะผู้มีกรรมสิทธิ์ หรือครอบครองแทนผู้อื่น แจ้งปริมาณการเลี้ยง ปริมาณการซื้อ ปริมาณการจำหน่าย ปริมาณการใช้ ปริมาณการส่งออก ปริมาณการรับฝาก ปริมาณคงเหลือ ราคาจำหน่าย สถานที่เก็บ สถานที่เลี้ยง และจัดทำบัญชีคุมสินค้า เพื่อให้การกำกับดูแลสุกรและเนื้อสุกรมีปริมาณเพียงพอกับความต้องการของประชาชนในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อผู้บริโภค
5) รัฐบาลส่งเสริมเกษตรกรรายเล็ก และรายย่อยเดิม ในพื้นที่ที่มีความเหมาะสม โดยขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการขนาดใหญ่ให้ผลิตลูกหมูเพิ่ม เพื่อส่งให้เกษตรกรรายเล็ก และรายย่อยเลี้ยง โดยจะใช้เงินทุนจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ภายใต้ โครงการสานฝันสร้างอาชีพ ยกระดับรายได้เกษตรกร เข้ามาสนับสนุน เพื่อใช้เป็นต้นทุนในการดำเนินการ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","7/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107140908472"], [126,"ปัญหาสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้สถานธนานุบาลเทศบาลนครตรังมีประชาชนเข้าใช้บริการประมาณ 200-300 ราย","นายประสาท พุทธาไฝ ผู้จัดการธนานุบาลเทศบาลนครตรัง กล่าวว่า ขณะนี้ในแต่ละวันจะมีประชาชนมาใช้บริการประมาณ 200 - 300 ราย ทั้งจำนำ จ่ายดอก และไถ่ถอนแต่น้อย โดยทางสถานธนานุบาล เทศบาลนครตรัง ก็มีนโยบายช่วยเหลือประชาชน ก็จะรับทรัพย์มีค่าทุกชนิดทั้งชิ้นเล็ก ชิ้นใหญ่ แต่ต้องอยู่ในสภาพใช้งานที่สมบูรณ์ โดยทรัพย์ที่นำมาจำนำ ขณะนี้พบว่า จะเป็นของมีค่า ที่มีความหมายในชีวิตของเจ้าของทรัพย์มากขึ้น เช่น ทองคำที่เป็นทองหมั้น แหวนหมั้น แหวนแต่งงาน หรือแหวนที่ให้ในโอกาสพิเศษ รวมทั้งของใช้ที่เป็นของรักของหวง อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำอาหาร การประกอบอาชีพ เช่น เครื่องตัดหั่นเนื้อในร้านอาหาร นาฬิกาข้อมือ เครื่องดนตรี กีต้าร์ คีบอร์ด เป็นต้น รวมทั้งโน๊ตบุ๊ค เครื่องใช้ไฟฟ้า ประเภท ทีวี เครื่องฟอกอากาศ และเครื่องมือทางการเกษตร
ในที่นี้ บางคนนำมาจำนำไว้เป็น 10 ปีแล้ว ยังไม่ได้ไถ่ถอนคืน แต่ก็ยังมาจ่ายดอกเบี้ยไม่ขาดสาย สังเกตได้จากเอกสารจำนำที่ติดไว้กับทรัพย์ที่มีลักษณะหนารวมกันหลายแผ่น เป็นต้น ซึ่งแสดงว่าประชาชนได้รับความเดือดร้อน ยังต้องรอเวลาไถ่ถอนคืน ทั้งนี้ ทางสถานธนานุบาล เทศบาลนครตรัง ก็มีนโยบายช่วยเหลือประชาชนจากภาวะเศรษฐกิจนี้โดยการลดอัตราดอกเบี้ยให้ และจัดสรรเงินทุนสำรองไว้จำนวนสูงถึง 120 บาท สำหรับช่วยเหลือประชาชน โดยเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 25 สตางค์ และเว้นไม่คิดดอกเบี้ย 2 เดือนแรก และส่วนที่เกิน 5,000 บาท จะคิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2565
ทั้งนี้ หากประชาชนเดือดร้อนให้เดินทางมาใช้บริการที่สถานธนานุบาลเทศบาลนครตรังได้
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","7/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107161047563"], [127,"ยืนยันระดับหนี้สาธารณะในปัจจุบันยังไม่ก่อให้เกิดปัญหาการคลัง รัฐบาลสามารถบริหารจัดการหนี้สาธารณะได้","
นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการเผยแพร่ข้อความผ่านสื่อออนไลน์ ว่ารัฐบาลกู้เงินจนกระทบการคลังของประเทศนั้น ชี้แจงว่า ในภาวะปกติ กระทรวงการคลังจะกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ ซึ่งเป็นการกู้เงินตามปกติเมื่อรัฐบาลต้องการดำเนินนโยบายการคลังแบบขยายตัว เพื่อสนับสนุนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเป็นการกู้เงินเพื่อการลงทุนมากกว่าร้อยละ 65 ของหนี้สาธารณะคงค้าง
ส่วนในภาวะที่ไม่ปกติ การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมต่างๆของประเทศหยุดชะงัก รัฐบาลเป็นเพียงภาคส่วนเดียวที่มีความสามารถในการใช้จ่ายและขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงวิกฤตินี้จึงได้ตรา พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจ วงเงิน 1 ล้านล้านบาท และ พ.ร.ก. กู้เงินฯเพิ่มเติม วงเงิน 500,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การกู้เงินในช่วงวิกฤต ทำให้ระดับหนี้สาธารณะและสัดส่วนหนี้สาธารณะ/GDP เพิ่มสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เมื่อปัญหาคลี่คลายและเงินกู้ดังกล่าวช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจฟื้นตัว ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นและธุรกิจเติบโต GDP จะเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ระดับหนี้สาธารณะต่อ GDP ปรับตัวลดลงเป็นลำดับ
นอกจากนี้ รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อวางรากฐานการพัฒนาสร้างรายได้และเร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อกระจายความเจริญ ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ขยายโอกาสและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยยังมีโครงการเงินกู้โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในสาขาต่างๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการและจะทยอยเปิดให้บริการแก่ประชาชนเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2564 มีจำนวน 9.62 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 59.58 ต่อ GDP ซึ่งยังไม่ก่อให้เกิดปัญหาการคลังแต่อย่างใด โดยกระทรวงการคลังขอให้เชื่อมั่นว่า รัฐบาลยังมีความสามารถในการบริหารจัดการหนี้สาธารณะได้
นางศุภมิตร เต็งเผ่ พาณิชย์จังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาหมูที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคา ณ ปัจจุบัน หมูเนื้อแดงในหลายพื้นที่ราคาพุ่งสูงกว่า 200 บาท/กิโลกรัม ทั้งนี้เกิดจากปัจจัยต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูง โดยบางพื้นที่ราคาหน้าเขียงขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 200-220 บาท รวมทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้กระทรวงพาณิชย์ ต้องหามาตรการแก้ไขปัญหาราคาเนื้อหมู พร้อมทั้งให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ได้มีการประสานกับร้านค้า นำเนื้อหมูมาจำหน่ายในราคาประหยัด เพื่อลดราคา ช่วยประชาชน ตามโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพะเยา โดยกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมและมอบป้ายประชาสัมพันธ์ การดำเนินโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน (ครั้งที่ 2) หมูเนื้อแดงราคากิโลกรัมละ 150 บาท เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 6-15 มกราคม 2565 ณ ร้านหมูอินเตอร์ สาขาพะเยา อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา เพื่อให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด เป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","7/1/2022","ภาคเหนือ","พะเยา","สวท.พะเยา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107142842490"], [129,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตราด ร่วมผู้ประกอบการจำหน่ายเนื้อหมู จัด โครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน จังหวัดตราด","(7 ม.ค. 65) นางวรัญญา ถนอมพันธุ์ พาณิชย์จังหวัดตราด มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตราด ติดตามการดำเนิน โครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน จังหวัดตราด ที่ร้านสุรีย์หมูสด ข้างตลาดศูนย์การค้าเทศบาลเมืองตราด ซึ่งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตราด โดยความร่วมมือของผู้ประกอบการรายดังกล่าวจำหน่ายหมูเนื้อแดง (ทุ้ย) หรือบริเวณสะโพกหมู ให้กับประชาชนในราคากิโลกรัมละ 150 บาท โดยจำกัดการซื้อไม่เกิน 2 กิโลกรัมต่อคน โดยโครงการดังกล่าวดำเนินการระหว่างวันที่ 7 -15 มกราคม 2565
สำหรับการดำเนินการดังกล่าว เนื่องจากภาวะราคาสุกรที่มีการปรับราคาจำหน่ายขึ้น เนื่องจากต้นทุนของวัตถุดิบอาหารหลัก และมีปริมาณสุกรออกสู่ตลาดลดลง ทางกระทรวงพาณิชย์ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายใน ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดดำเนินโครงการนี้ เพื่อเป็นการลดค่าครองชีพ และเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชนได้ซื้อเนื้อหมูราคาที่เป็นธรรมบริโภคในครัวเรือน ซึ่งยังเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประชาชนจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น เกิดการหมุนเวียนของระบบเศรษฐกิจ ต่อไป
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","7/1/2022","ภาคตะวันออก","ตราด","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107145938516"], [130,"พาณิชย์ลำปางเผย กระทรวงพาณิชย์ เร่งแก้ปัญหาหมูราคาแพง ห้ามส่งออกหมูเป็น 3 เดือน เพื่อลดผลกระทบให้กับประชาชน","วันนี้ (7 ม.ค.65) นางสาวเยาวเรศ แซ่โค้ว พาณิชย์จังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาจำหน่ายของเนื้อสุกรที่มีราคาสูงขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน โดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หารือร่วมกับกรมปศุสัตว์ที่เป็นหน่วยงานดูแลการผลิตสุกรป้อนเข้าสู่ตลาด ซึ่งตัวเลขเบื้องต้นในปี 2564 มีการเลี้ยงสุกรป้อนเข้าสู่ตลาดประมาณ 19 ล้านตัว บริโภคในประเทศ 18 ล้านตัว ส่งออกไปต่างประเทศประมาณ 1 ล้านตัว คาดการณ์ว่าปี 2565 จะมีสุกรหายไปจากระบบเหลือประมาณ 13 ล้านตัว จาก 19 ล้านตัว ซึ่งเป็นการบริโภคในประเทศประมาณ 18 ล้านตัว ทำให้ขาดสุกรประมาณ 5 ล้านตัวสำหรับการบริโภค
โดยมีการพิจารณาห้ามส่งออกสุกรมีชีวิตเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม ถึงวันที่ 5 เม.ย.2565 เป็นการชั่วคราว และจะพิจารณาตามสถานการณ์ว่าควรให้มีการต่ออายุหรือไม่ โดยติดตามสถานการณ์โดยใกล้ชิด คาดว่าจะช่วยให้มีหมูเป็นกลับเข้าสู่ระบบเพิ่มเติมประมาณ 1 ล้านตัว พร้อมทั้งสั่งการให้ผู้เลี้ยงที่มีปริมาณการเลี้ยงเกิน 500 ตัว ผู้ค้าส่งที่มีปริมาณเกิน 500 ตัว ห้องเย็นที่มีการเก็บสต็อกเกิน 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป ให้ดำเนินการแจ้งสต็อกให้กรมการค้าภายในรับทราบ รวมทั้งแจ้งราคาในทุก 7 วัน เริ่มวันที่ 10 มกราคม 2565 เป็นต้นไป เพื่อให้ทราบปริมาณเนื้อสุกรทั้งหมดที่มีอยู่ในระบบ รวมทั้งหมูแช่แข็ง แช่เย็น รวมกันทั้งประเทศว่ามีจำนวนเท่าไร เพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาร่วมกันกับกรมปศุสัตว์และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำปาง ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่สำรวจสถานการณ์ในพื้นที่ พร้อมหาผู้จำหน่ายเนื้อสุกรในพื้นที่ เพื่อขอความร่วมมือจำหน่ายเนื้อสุกร (เนื้อแดง) ในราคาไม่เกิน 150 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งปัจจุบันมีร้านที่เข้าร่วมคือ ร้านหมูอนามัย เอสเคอินเตอร์ฟู๊ด สาขาลำปาง และสาขาอำเภอเถิน มีปริมาณเนื้อหมูจำหน่าย 150-200 กิโลกรัม จำหน่ายระหว่างวันที่ 5-19 มกราคม 2565 เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนในเบื้องต้น
อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือผู้ประกอบการจำหน่ายเนื้อสุกรและผู้ประกอบการร้านอาหาร มีการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้า ทั้งนี้หากผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบด้านราคาสินค้าและบริการจากผู้ให้บริการ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","7/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สวท.ลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107153014521"], [131,"พาณิชย์จันทบุรีเปิดจำหน่ายเนื้อหมูชำแหละในร้านที่เข้าร่วมโครงการในราคาควบคุมแก้ปัญหาหมูแพงลดผลกระทบค่าครองชีพประชาชน หมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท","นายนคร บุตรดีวงศ์ พาณิชย์จังหวัดจันทบุรี ได้นำเจ้าหน้าที่ออกไปอำนวยความสะดวกร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ \"แก้หมูแพง\" เปิดจำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคาควบคุม ลดผลกระทบค่าครองชีพประชาชนในจังหวัดจันทบุรีตามนโยบายของรัฐบาล โดยเบื้องต้นได้เปิดจำหน่ายหมูที่เข้าร่วมโครงการที่ร้าน จุฑามาศมีทช็อป เลขที่ 5/13 หมู่ที่ 12 ต.วังแซ้ม อ.มะขาม โดยเปิดจำหน่ายทุกวันในเวลา 08.00 น. ถึง 20.00 น. หรือจนกว่าสินค้าจะหมด และยังจะมีการขยายร้านที่เข้าร่วมโครงการให้ได้ตามเป้าหมาย 4 ร้าน เพื่อลดผลกระทบของประชาชนจากราคาเนื้อหมูแพง ซึ่งจะจำหน่ายราคาควบคุม ประกอบด้วย หมูเนื้อแดง / ไหล่หมู และสะโพกหมูราคากิโลกรัมละ 150 บาท ส่วนหมูชนิดอื่นจะขายในราคาควบคุมตามราคาตลาด นอกจากนี้ทางจังหวัดจันทบุรียังได้มีมาตรการแก้ปัญหาราคาหมูแพงโดยการห้ามส่งออกหมูมีชีวิต 3 เดือน รวมทั้งมาตรการอื่น ๆ ตามนโยบายของรัฐบาล อาทิ ช่วยเหลือราคาอาหารสัตว์ จัดสินเชื่อพิเศษ สำรวจภาพรวมการผลิตสุกรเพื่อกำหนดพื้นที่เป้าหมายและมาตรการ พร้อมเพิ่มกำลังการผลิตแม่สุกรทดแทน ส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ ขยายกำลังผลิตแม่สุกร ยกระดับมาตรฐานฟาร์มเกษตรกร เพื่อป้องกันโรคระบาด รวมทั้งจัดสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กู้ยืมจาก ธ.ก.ส. โครงการสานฟันสร้างอาชีพเป็นต้น
ทั้งนี้ หากร้านจำหน่ายเนื้อหมูชำแหละในจังหวัดจันทบุรีประสงค์จะเข้าร่วมโครงการสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดจันทบุรี หมายเลขโทรศัพท์ 039 311357 หรือ 039 313323 ในวัน และเวลาราชการ
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","7/1/2022","ภาคตะวันออก","จันทบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดจันทบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107162733572"], [132,"ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 46 ","
ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 46 โดยจะได้รับประโยชน์ด้านการแลกเปลี่ยนความรู้และด้านเศรษฐกิจ การประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญเป็นการประชุมของคณะกรรมการมรดกโลกที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ในช่วงเดือนมิถุนายนหรือเดือนกรกฎาคมของทุกปี โดยคณะกรรมการมรดกโลกจะพิจารณาการเป็นเจ้าภาพฯ ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 45 ณ เมืองคาซาน สหพันธรัฐรัสเซีย ระหว่างวันที่ 19-30 มิถุนายน 2565 ประโยชน์ที่จะได้รับ ได้แก่ ด้านการแลกเปลี่ยนความรู้ ส่งเสริมบทบาทการเป็นผู้นำในการดำเนินการภายใต้กรอบการดำเนินงานของอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาองค์ความรู้ และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงโครงการ กิจกรรม และข้อริเริ่มใหม่ ๆ เช่น การจัดการอบรมให้กับผู้จัดการแหล่งมรดกโลกหรือการอบรมให้ความรู้ในการดำเนินงานในด้านการอนุรักษ์ ด้านเศรษฐกิจ การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฯ จะเป็นการสร้างและขยายโอกาสในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับประเทศ ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยจากข้อมูลสถิติในการจัดการประชุมแต่ละครั้งที่ผ่านมาตั้งแต่ ครั้งที่ 40 - 43 มีผู้เข้าร่วมประชุมครั้งละไม่ต่ำกว่า 2,300 คน ทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนจากการใช้จ่ายในด้านต่าง ๆ เช่น การเดินทาง ที่พัก การท่องเที่ยว และค่าใช้จ่ายทั่วไป
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","7/1/2022","ภาคตะวันตก","กาญจนบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107174812628"], [133,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ออกตรวจสอบติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่อำเภอเมืองตรัง","นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า วันนี้( 7 มกราคม 2565) สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ออกตรวจสอบติดตามสถานการณ์จำหน่ายหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ชุดตรวจโควิด-19 และสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง โดยติดตามสถานการณ์จำหน่ายหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร
ซึ่งจังหวัดตรัง มีสมุนไพรฟ้าทะลายโจรและหน้ากากทางการแพทย์วางจำหน่าย ทุกร้าน ส่วนหน้ากากทางเลือก อาทิ หน้ากากกันฝุ่นทั่วไป หน้ากากเพื่อสุขภาพ หน้ากากผ้า เจลแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และถุงมือ สินค้ามีปริมาณเพียงพอกับความต้องการ ขณะที่ สถานการณ์การจำหน่ายสินค้าในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ราคาจำหน่ายสินค้าที่สำคัญ ได้แก่ น้ำมันพืช น้ำตาลทราย น้ำปลา ซอสหอยนางรม ข้าวหอมมะลิ สถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพที่สำคัญ ๆ มีการจำหน่ายเป็นไปตามภาวะปกติ ปริมาณมีความเพียงพอกับความต้องการของประชาชน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย ให้ครบถ้วน ชัดเจน และหากพบเห็นการกระทำผิด จำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร หรือจำหน่ายในราคาไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ สามารถร้องเรียนได้ที่ สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง โทร. 0 7522 3076 หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการ ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่ายต้องโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","7/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107164852583"], [134,"หอการค้าไทย ขอบคุณรัฐบาลไม่ล็อกดาวน์ประเทศ ย้ำภาครัฐดูแลให้เข้าถึง ATK มากขึ้น","นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขอบคุณรัฐบาลที่ฟังเสียงผู้ประกอบการ โดยใช้การยกระดับพื้นที่ให้เป็นระดับสีส้ม หรือพื้นที่ควบคุม 69 จังหวัด และไม่ได้เป็นการล็อกดาวน์ทั้งประเทศ แม้อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและเศรษฐกิจโดยรวมอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น โดยต่อจากนี้ ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพราะอาจเป็นจุดเปลี่ยนในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ หากทุกคนให้ความร่วมมือตามคำแนะนำ เชื่อว่าผู้ติดเชื้อจะมีแนวโน้มที่ลดลงได้ ทั้งนี้ ได้มีการแจ้งให้หอการค้าจังหวัดและสมาคมการค้าช่วยกำกับดูแลผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิก พร้อมเสนอว่าภาครัฐต้องเข้ามาดูแลเรื่องราคาและการเข้า ATK ให้มากขึ้น เนื่องจากเป็นเครื่องมือสำคัญในการตรวจหาเชื้อเบื้องต้น
ขณะที่การเลื่อนเปิดสถานบันเทิง อาจจะกระทบต่อผู้ประกอบการบ้าง แต่การอนุญาตให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นร้านอาหารได้แทน ก็ถือเป็นการช่วยบรรเทาผลกระทบได้ส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ ในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 8 จังหวัด ที่อนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึง 3 ทุ่ม ยังเป็นแนวทางที่เหมาะสมในช่วงเวลาเช่นกัน
ส่วนการเปิดรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว 3 จังหวัด/พื้นที่ ได้แก่ สุราษฎร์ธานี พังงา และกระบี่ ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคมนั้น จะเป็นตัวเสริมให้การท่องเที่ยวค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น โดยภาคเอกชนเสนอให้ภาครัฐทยอยเพิ่มพื้นที่ที่มีความพร้อมในระยะต่อไปด้วย อย่างไรก็ตาม การระงับ Test &Go มองว่าจะกระทบต่อชื่อเสียงหรือภาพลักษณ์ของประเทศ รวมทั้งภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ภาครัฐจึงควรใช้วิธีปรับมาตรการ เช่นเดียวกับที่บางประเทศได้มีการนำมาปรับใช้แล้ว ทั้งนี้ หอการค้าไทยเห็นด้วยกับแนวทางของ ศบค.ที่ให้พิจารณาเพิ่มวันทำงานที่บ้าน และไม่ประกาศล็อกดาวน์ โดยจะช่วยรณรงค์ไปยังเครือข่ายเพื่อให้ความร่วมมือต่อไป
พาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษติดตามราคาหมูสดในตลาดพบว่าราคาสูงพร้อมกำชับอย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาและให้ติดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน
วันนี้ (7 ม.ค.65) นายชัยรัตน์ บุญส่ง พาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ ได้ลงพื้นที่สอบถามราคาหมูสดในตลาดต้นมะเกลือ เทศบาลเมืองศรีสะเกษ พบว่าราคาหมูปรับตัวสูงขึ้นจากเดิมอยู่ที่ 200- 220 บาทต่อกิโลกรัม โดยแม่ค้าที่ซื้อหมูเป็นมาเชือดและชำแหละเอง ก็ยังต้องแบกรับกับราคาที่สูงกว่าปกติมาก เดิมเคยซื้อที่ 80 - 84 บาท ต่อกิโลกรัม ตอนนี้ขึ้นมาที่ 110 บาท
นางสาวชญาน์ทิพย์ เกษม แม่ค้าเขียงแม่โบ้ตลอดต้นมะเกลือ บอกว่า ตนเองจะซื้อหมูเป็นมาเชือดและชำแหละเอง เมื่อก่อนซื้อมาตัวละ 7-8 พันบาท ตอนนี้ราคาตัวละ 11,000-12,000 บาท ชำแหละแล้วหมูเนื้อแดงก็จะขายที่ 220-230 บาทต่อกิโลกรัม ซี่โครง 190-200 บาท ส่วนหัวและขาขายกิโลกรัมละ 110 บาท หรือเท่าราคาทุนที่ซื้อมา ยอมรับว่ากำไรแทบไม่มี แต่ต้องจำใจต้องขายเพื่อรักษาลูกค้าประจำไว้
ด้านนางสาวอารียา คลองบ่อ แม่ค้าตลาดต้นมะเกลือ บอกว่า ตนเองซื้อหมูซีกมาชำแหละขาย เมื่อก่อนเคยซื้อมาขายวันละ 1-2 ตัว ตอนนี้ราคาหมูซีกตัวละ 12,000-14,000 บาท ถือว่าราคาช่วงนี้แพงมาก และคนไม่ค่อยซื้อด้วย บอกเลยว่า ขาดทุนหรือแทบไม่มีกำไร แต่ต้องจำใจต้องขายเพื่อรักษาลูกค้าประจำ เพราะบางเจ้ามาซื้อทุกวันหรือมาสั่งซื้อทุกวัน วอนรัฐบาลเร่งหาทางช่วย
ขณะที่นายชัยรัตน์ บุญส่ง พาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ ได้ชี้แจงพร้อมทำความเข้าใจกับแม่ค้าขายหมู ว่า ตอนนี้หมูขาดตลาด ทำให้หมูมีแพงราคาขึ้น อีกประมาณ 3-4 เดือนน่าจะมีหมูเป็นเข้าระบบมากขึ้น ราคาอาจจะลดลงกว่านี้ ที่น่าเป็นห่วงคือช่วงตรุษจีน อาจขยับราคาขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ได้กำชับอย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาเอาเปรียบผู้บริโภค และให้ติดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนได้ตรวจเช็คราคาก่อนตัดสินใจซื้อ หากพบว่าราคาหมูขยับสูงผิดสังเกต ให้แจ้งสายด่วน 1569 ตลอด 24 ชม.
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","7/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ศรีสะเกษ","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107191800679"], [136,"พาณิชย์ขอนแก่น เดินหน้านโยบายช่วยประชาชนช่วงราคาหมูแพง ย้ำมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค","พาณิชย์จังหวัดขอนแก่น เผยราคาหมูเนื้อแดงในจุดจำหน่ายในขอนแก่น มีราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 190-210 บาท พร้อมสำรวจจำนวนหมูในฟาร์มหมูขนาดใหญ่ 3 แห่ง พบมีจำหน่ายเดือนละกว่า 32,000 ตัว คาดเพียงพอขายใน 6 เดือน
นายชาญยุทธ วันดี พาณิชย์จังหวัดขอนแก่น เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาหมูเนื้อแดงในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ว่า จากการลงพื้นที่สำรวจราคาหมูเนื้อแดงในหลาย ๆ จุด ในพื้นที่เขตเมืองขอนแก่น พบว่ามีราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 190-210 บาท นอกจากนี้ ยังได้ลงพื้นที่สำรวจปริมาณผลผลิตสุกรในฟาร์มขนาดใหญ่ ที่มีปริมาณการเลี้ยงสุกรมากกว่า 500 ตัว จำนวน 3 แห่ง พบว่ามีจำนวนสุกรขุนที่จะขายได้จำนวนรวม 32,224 ตัว ส่วนปริมาณสต๊อกเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์สุกรในห้องเย็น 9 แห่งในจังหวัดขอนแก่น พบว่ามีเนื้อสุกรรวม 36,544 กิโลกรัม และผลิตภัณฑ์สุกรรวม 4,180 กิโลกรัม ซึ่งคาดว่าน่าจะเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค
จากสถานการณ์เนื้อหมูราคาแพง และเนื้อหมูขาดตลาดตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2564 จนถึงปัจจุบัน ทำให้ร้านค้า ร้านอาหารต่างขอปรับราคาอาหารที่มีเนื้อหมูเป็นส่วนประกอบกันเป็นจำนวนมาก เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของผู้บริโภค พาณิชย์จังหวัดขอนแก่นจึงได้ขานรับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ด้วยการเปิดจุดจำหน่ายหมูพาณิชย์ขึ้น 5 จุด ในเขตอำเภอเมืองขอนแก่น ได้แก่ ตำบลแดงใหญ่ 1 จุด ตำบลบ้านเป็ด 3 จุด และตำบลในเมือง 1 จุด จำหน่ายเนื้อหมูในโครงการหมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน โดยการจำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ระหว่างวันที่ 5-15 มกราคม 2565
พาณิชย์จังหวัดขอนแก่น กล่าวอีกว่า สำหรับการเปิดจุดจำหน่ายเนื้อหมูในโครงการหมูพาณิชย์ลดราคา เพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาสุกรที่สูงขึ้น และให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งเป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
","7/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ขอนแก่น","สวท.ขอนแก่น","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107174108623"], [137,"ตรวจเข้มเครื่องชั่งน้ำหนักหมู เอาผิดผู้ค้าเอาเปรียบผู้บริโภค สร้างความมั่นใจให้ประชาชนช่วงหมูแพง","นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาหมูที่ปรับตัวสูงขึ้น กรมการค้าภายใน ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเร่งบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ขณะเดียวกันได้ให้ความสำคัญกับการรักษาความเป็นธรรมให้กับผู้บริโภคเกี่ยวกับเครื่องชั่ง ว่าจะได้ปริมาณถูกต้องครบถ้วน จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบเครื่องชั่งจำหน่ายเนื้อหมู
จากการตรวจสอบระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2564 - 4 มกราคม 2565 เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบสถานประกอบการ จำนวนรวมทั้งสิ้น 208 แห่ง ตรวจสอบเนื้อหมูแพ็คสำหรับจำหน่าย จำนวน 10,172 แพ็ค พบน้ำหนักถูกต้องทั้งหมด ตรวจสอบเครื่องชั่งสปริงสำหรับชั่งจำหน่ายเนื้อหมู จำนวน 292 เครื่อง พบถูก 290 เครื่อง พบผิด 2 เครื่อง โดยเจ้าหน้าที่ชั่งตวงวัดได้ดำเนินการยึดเครื่องที่ผิดทั้งหมด
ขณะที่การตรวจสอบเครื่องชั่งดิจิทัล สำหรับชั่งจำหน่ายเนื้อหมู จำนวน 349 เครื่อง พบถูก 346 เครื่อง พบผิด 3 เครื่อง ได้ดำเนินการผูกบัตรห้ามใช้ทั้งหมด
กรมการค้าภายใน จะส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องชั่งอย่างต่อเนื่อง หากพบมีการดัดแปลงเพื่อขายสินค้าให้กับประชาชน จะมีความผิด โทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท หากพบเห็นการกระทำผิด สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
","7/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107203448706"], [138,"ปรับราคาขายปลีกน้ำมันเฉพาะกลุ่มดีเซลทุกชนิด 40 สตางค์ต่อลิตร ","
กลุ่มผู้ค้าน้ำมัน บริษัท ปตท. และบางจาก แจ้งว่าตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันที่ 8 ธันวาคม 2565 เป็นต้นไป ราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มดีเซลทุกชนิด จะปรับราคาขึ้น 0.40 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไฮพรีเมียม ดีเซล B7 ราคาอยู่ที่ 35.46 บาทต่อลิตร ไฮดีเซล B7 ไฮดีเซล S และไฮดีเซล B20 S ราคาอยู่ที่ 29.44 บาทต่อลิตร สำหรับผลิตภัณฑ์อื่นราคาคงเดิม โดยน้ำมันเบนซินอยู่ที่ 39.16 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ E85 ราคาอยู่ที่ 24.14 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ E20 ราคาอยู่ที่ 30.24 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 ราคาอยู่ที่ 31.48 บาทต่อลิตรแก๊สโซฮอล์ 95 ราคาอยู่ที่ 31.75 บาทต่อลิตร
","7/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107205949719"], [139,"พาณิชย์จังหวัดนครพนม นำคณะทำงานตรวจสอบสต๊อกข้าวของผู้ประกอบการค้าข้าวที่เข้าร่วมโครงการชดเชยดอกเบี้ย ปี 2564/2565","
พาณิชย์จังหวัดนครพนม นำคณะทำงานตรวจสอบสต๊อกข้าวของผู้ประกอบการค้าข้าวที่เข้าร่วมโครงการชดเชยดอกเบี้ย ปี 2564/2565
วันนี้ 7 มกราคม 2564 นายจิรวุฒิ สุวรรณอาจ พาณิชย์จังหวัดนครพนม มอบหมายให้กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า นำคณะทำงานตรวจสอบสต๊อก ตรวจสอบเอกสาร และรับรองข้อมูลการรับซื้อข้าวเปลือกของผู้เข้าร่วมโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อก จังหวัดนครพนม ประจำเดือนธันวาคม 2564 ณ บริษัท นครพนมธัญญไรซ์ จำกัด ผลสต๊อกข้าวเปลือกหอมมะลิ จำนวน 2,796.40 ตัน มูลค่า 31,227,398.80 บาท ข้าวสารหอมมะลิ จำนวน 336 ตัน มูลค่า 9,576,000 บาท มูลค่ารวม 40,803,398.80 บาท ครอบคลุมตั๋วสัญญาใช้เงิน มูลค่า 33 ล้านบาท
","7/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","นครพนม","สวท.นครพนม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107190415667"], [140,"พาณิชย์นครพนมช่วยประชาชนจำหน่ายหมูเนื้อแดงราคากิโลกรัม 150 บาท","\"โครงการหมูพาณิชย์..ลดราคา ช่วยประชาชน\" จังหวัดนครพนม จำหน่ายหมูเนื้อแดงราคา 150 บาท/กิโลกรัม ระหว่างวันที่ 5-15 มกราคม 2565 มีจำนวน 4 จุดจำหน่าย ดังนี้
1) ร้านแหลมทองโภคภัณฑ์ ข้างธนาคารออมสิน สาขานครพนม (จำหน่ายเฉพาะวันจันทร์-ศุกร์)
2) ร้านอารีย์เนื้อหมูสด ต.หนองสังข์ อ.นาแก
3) ร้านกวินหมูสด ต.นาแก อ.นาแก
4) ร้านตุ๊ดตู่หมูสด ต.พิมาน อ.นาแก
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","7/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","นครพนม","สวท.นครพนม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107190716670"], [141,"รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่สำรวจแนวสร้างสะพาน เกาะนางคำ จ.พัทลุง-อ.ควนเนียง จ.สงขลา เพื่อความสะดวกของประชาชนทั้ง 2 จังหวัด","นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่บ้านท่าเนียน ตำบลเกาะนางคำ อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง เพื่อดูแนวสร้างสะพานข้ามฝั่ง จากบ้านท่าเนียน ตำบลเกาะนางคำ อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง เพื่อข้ามไปยังบ้านปากจ่า อำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา โดยมีนางนาที รัชกิจประการ ประธานที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ผู้บริหารกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้บริหารจังหวัดพัทลุง และประชาชนในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ กล่าวว่า การสร้างสะพานแห่งนี้ จะทำให้การเดินทางของพี่น้องประชาชนทั้ง 2 จังหวัดสะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถลดระยะเวลาการเดินทางได้มาก และที่สำคัญจะสามารถทำเป็นวงรอบในการเดินทางท่องเที่ยว เชิงธรรมชาติ วัฒนธรรม ประเพณี และประวัติศาสตร์ โบราณคดี ในพื้นที่ทั้ง 2 จังหวัดได้เป็นอย่างดี จึงมีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะสร้างสะพานในจุดนี้
โดยหลังจากนี้จะนำเรื่องทั้งหมดในการลงพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อไปหารือกับกระทรวงคมนาคม และกระทวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป พร้อมระบุว่า จะดำเนินการขอใช้งบประมาณเหลือจ่ายเพื่อนำมาดำเนินการก่อสร้างสะพานให้เร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าหากไม่มีปัญหา จะสามารถเริ่มก่อสร้างสะพานได้ในปีนี้
สำหรับสะพานแห่งนี้จะมีความยาวประมาณ 200 เมตร เป็นสะพานโค้งคอนกรีตเสริมเหล็ก คาดว่าจะใช้งบประมาณไม่เกิน 100 ล้านบาท โดยขั้นตอนแรกจะต้องขออนุญาตการก่อสร้างสะพานจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ก่อน เนื่องจากบริเวณดังกล่าวอยู่ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่า หากได้รับการอนุญาตจะต้องดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งทำการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA จึงจะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้
ทั้งนี้ จากการสอบถามประชาชนในพื้นที่บ้านท่าเนียน ตำบลเกาะนางคำ อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากให้มีการสร้างสะพานในจุดนี้ เนื่องจากจะสามารถเดินทางได้สะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับคนในพื้นที่ทั้ง 2 จังหวัดได้อีกด้วย
","7/1/2022","ภาคใต้","พัทลุง","สวท.พัทลุง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107193813687"], [142,"ททท. เปิดตัวเส้นทางท่องเที่ยว Unseen New Series ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมเปิดตัวชุมชนเพื่อการท่องเที่ยว","วันนี้ (7 ม.ค.65) เวลา 10.00 น. ที่โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา นางสาว ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดตัวเส้นทางท่องเที่ยว Unseen New Series ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ 25 Unseen New Series ของ ททท. โดย ททท. ได้คัดเลือกแหล่งท่องเที่ยว อันซีนไทยแลนด์เวอร์ชั่นใหม่จำนวน 25 แหล่งท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ นำมาเป็นจุดขายใหม่ทางการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น สำหรับแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Series ในภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือประกอบไปด้วย 5 แหล่งท่องเที่ยว ได้แก่ โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา (เมืองใต้พิภพและเมืองลอยฟ้า) จ.นครราชสีมา/เมืองพญานาค 3 พิภพ จ.มุกดาหาร/ภูพระ (ภูเขาแห่งแรงศรัทธา) จ.เลย/หอโหวด 101 จ.ร้อยเอ็ด/และโลกของช้าง จ.สุรินทร์
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ กล่าวว่า การเปิดโฉมใหม่ Unseen New Series เป็นแคมเปญ ททท.ชวนเที่ยวเมืองไทยออกไปสัมผัสกับเมืองไทย ในมุมที่เราอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อน ผ่านแหล่งท่องเที่ยว 25 แห่ง 5 ภูมิภาคทั่วไทย ซึ่งมีทั้งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ และแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man Made) โดยโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา กฟผ. ก็เป็น 1 ใน 5 แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการคัดสรรให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen และ BCG Model ที่โดดเด่นของภาคอีสาน นับเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวใหม่
เมืองลอยฟ้า (อ่างพักน้ำบนเขายายเที่ยง) ซึ่งถูกกล่าวขานว่าเป็นจุดชมวิวหมื่นล้านที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของไทย รวมถึงเป็นที่ตั้งของ เมืองใต้พิภพ (อุโมงค์โรงไฟฟ้าใต้ดิน) ที่อยู่ลึกลงไปใต้ดินกว่า 1.5 กิโลเมตร ใช้เป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้า โดยการสูบน้ำจากเขื่อนลำตะคองไปเก็บไว้ที่อ่างพักน้ำบนเขายายเที่ยง นับเป็น Unseen จุดเช็คอินที่ไม่เหมือนใคร
นอกจากนี้ ภายในงาน ททท. ยังมีการพาผู้สื่อข่าวและตัวแทนบริษัทนำเที่ยวโดยเฉพาะสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ (TEATA) และได้รับการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า 100% (บริษัท เบส ออโต้เซลล์ จำกัดและไพรม์มัส ออโต้เฮาส์) ร่วมออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวสายสุขภาพ กัญชง กัญชา BCG Model และ Happy Model ผนวกเข้าร่วมกิจกรรมเปิดตัวชุมชนท่องเที่ยวทั่วประเทศ 25 ชุมชน
ประกอบด้วย ภาคเหนือ 1.สุโขทัย (ชุมชนเมืองเก่าสุโขทัย) 2. เชียงราย (ชุมชนปางห้า) 3. น่าน (ชมุชนบ้านม่วงตื๊ด) 4. แม่ฮ่องสอน (ชุมชนเมืองปอน) 5. ตาก (ยะพอ)
ภาคกลาง 6.สุพรรณบุรี (ชุมชนบ้านดงเย็น) 7. เพชรบุรี (ชุมชนบ้านถ้ำเสือ) 8. สระบุรี (ชุมชนบ้านพุแค) 9. อยุธยา (ชุมชนเกาะเกิด) 10. ชัยนาท (ชุมชนตลาดโรงพักเก่าสรรพยา)
ภาคอีสาน 11. นครราชสีมา (ชุมชนเขายายเที่ยง) 12. เลย (ชุมชนภูป่าเปาะ) 13. หนองคาย (ชุมชนบ้านเดื่อ) 14. อุบลราชธานี (ชุมชนบ้านชีทวน) 15. ชัยภูมิ (ชัยภูมิ)
ภาคใต้ 16. สตูล (ชุมชนบ้านบ่อเจ็ดลูก) 17. นครศรีธรรมราช (ชุมชนบ้านพรหมโลก) 18. ระนอง (ชุมชนม่วงกลวง) 19. ตรัง (ชุมชนบ่อหินฟาร์มสเตย์) 20. ปัตตานี (ชุมชนบ้านทรายขาว)
ภาคตะวันออก 21. ชลบุรี (ชุมชนบ้านซากแง้ว) 22. จันทบุรี ชุมชนท่องเที่ยวบ้านเสด็จงาม) 23. ตราด (ชุมชนบ้านธรรมชาติล่าง) 24. สมุทรปราการ (ชุมชนบ้านกอบัว) 25. นครนายก (ชุมชนบ้านวังรี)
โดยพร้อมกิจกรรมนำร่องชุมชนท่องเที่ยวเขายายเที่ยง นักท่องเที่ยวจะได้พบกับกิจกรรมปลูกป่าลอยฟ้า ชมเขาเควสตา และผาชัน เป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนเชิงสร้างสรรค์ (Creative Tourism) ริเริ่มโดย ททท. มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ทำความรู้จักเรียนรู้ และทดลองทำกิจกรรมที่น่าสนใจกับเจ้าของพื้นที่ ซึ่งผลประโยชน์ที่จะได้รับก็คือนักท่องเที่ยวได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงของปราชญ์ชาวบ้าน เกิดความรักความผูกพันต่อวิถีความเป็นอยู่ของสถานที่ที่ได้ไปเยือน รวมทั้งพัฒนาศักยภาพของตน และเกิดแรงบันดาลใจใหม่ ๆ จากการเดินทางท่องเที่ยว ในทางกลับกัน การใช้เวลาเพื่อทำกิจกรรมในแต่ละแหล่งท่องเที่ยวย่อมส่งผลให้เกิดการพักค้างที่นานขึ้น เกิดการใช้จ่าย ในการประกอบกิจกรรมมากขึ้น กระจายรายได้นั้นไปสู่ระดับสังคม ชุมชนท้องถิ่นอย่างแท้จริงและยั่งยืนต่อไป
ททท. คาดว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวโดยรวมจะสามารถกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างต่อเนื่องในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวนี้ นอกจากนี้ ยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวชาวไทยไปสู่พื้นที่รอง ลดการกระจุกตัวของนักท่องเที่ยวในเมืองหลัก สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองของ ททท. รวมทั้ง สร้างการรับรู้ภาพลักษณ์โฉมใหม่ Cool Isan in Love ของภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือในมุมมองใหม่บนพื้นฐานของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) และต้องขอขอบคุณหน่วยงานภาคีเครือข่ายอันประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษและผจญภัย และชุมชนเขายายเที่ยงที่ร่วมสนับสนุนการดำเนินการในเชิงบูรณาการ
นายดนุนันท์ ไชยทุม หัวหน้ากองเดินเครื่องโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา กล่าวว่า สำหรับโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนาที่เป็น 1 ใน 5 ของแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Series ในภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีการชูจุดเด่นคือเมืองลอยฟ้า (อ่างพักน้ำบนเขายายเที่ยง) ซึ่งถูกกล่าวขานว่าเป็นจุดชมวิวหมื่นล้านที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของไทย รวมถึงเป็นที่ตั้งของ เมืองใต้พิภพ (อุโมงค์โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา) และยังมีการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ในชุมชนเขายายเที่ยงนับว่ามีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก
สำหรับโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา จ.นครราชสีมา เป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ และเป็นโรงไฟฟ้าใต้ดินแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย โดยชื่อ โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา มีความหมายว่า โรงไฟฟ้าลำตะคองเป็นที่พัฒนาแสงไฟด้วยน้ำ อาคารของโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา สร้างไว้ใต้ระดับผิวดินลึกกว่า 350 เมตร โดยติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบสูบกลับกำลังผลิตเครื่องละ 250 เมกะวัตต์ จำนวน 4 เครื่อง รวมกำลังการผลิตทั้งหมด 1,000 เมกะวัตต์ การทำงานของโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ คือ เมื่อถึงช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าน้อย จะมีการสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำตะคองของกรมชลประทาน ขึ้นไปเก็บไว้ที่อ่างพักน้ำตอนบน และเมื่อมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงจะปล่อยน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้า โดยปล่อยลงอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำตะคองเหมือนเดิม ซึ่งเป็นการบริหารจัดการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","7/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","นครราชสีมา","สวท.นครราชสีมา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220108003329737"], [143,"พาณิชย์อุดรธานีช่วยประชาชนจำหน่ายหมูเนื้อแดงราคากิโลกรัม 150 บาท","สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุดรธานี จัดจำหน่ายหมูเนื้อแดงราคา 150 บาท/กิโลกรัม โครงการหมูพาณิชย์..ลดราคา ช่วยประชาชน\" จังหวัดอุดรธานี ตั้งแต่บัดนี้-วันที่ 15 มกราคม 2565 ที่ตลาดโพศรี ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
นายประเสริฐ ฝ่ายชาวนา พาณิชย์จังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุดรธานี จัดทำโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชนจำหน่ายหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้ให้พาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด ร่วมกับผู้ประกอบการจำหน่ายหมูชำแหละในราคาหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท
ในการจำหน่ายครั้งนี้ต้องขอบคุณคณะผู้บริหารตลาดโพธิ์ศรีและผู้ประกอบการค้าหมูชำแหละที่เข้าร่วมโครงการจึงอยากเชิญชวนพี่น้องชาวจังหวัดอุดรธานีที่ท่านต้องการซื้อหมูในโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชนในราคากิโลกรัมละ 150 บาท มาซื้อได้ที่ตลาดโพธิ์ศรี ซึ่งเป็นตลาดบ่าย โดยมาอุดหนุนได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2565
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","7/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อุดรธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุดรธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107231344724"], [144,"พาณิชย์กระบี่ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดจำหน่ายเนื้อหมู ตามโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน (หมูเนื้อแดง) ครั้งที่ 2","จากสถานการณ์เนื้อหมูราคาแพง และเนื้อหมูขาดตลาดตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2564 จนถึงปัจจุบัน ทำให้ร้านค้า ร้านอาหาร ต่างขอปรับราคาอาหารที่มีเนื้อหมูเป็นส่วนประกอบกันเป็นจำนวนมากปัจจัยสำคัญที่ทำให้เนื้อหมูราคาปรับสูงขึ้นมาจาก 2 เหตุผล ได้แก่ 1.ผู้เลี้ยงสุกรแบกภาระต้นทุนด้านการเลี้ยงไม่ไหวจึงตัดสินใจปล่อยฟาร์มร้าง ทำให้หมูขาดตลาด และ 2. ผู้เลี้ยงสุกรต้องใช้เงินลงทุนในระบบป้องกันโรค หรือ Biosecurity สูงมาก ทำให้มีต้นทุนเพิ่ม
นายสุภาพ จีนเมือง พาณิชย์จังหวัดกระบี่ กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า พร้อมด้วย สคบ.จังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดจำหน่ายเนื้อหมูในโครงการหมูพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน (ครั้งที่ 2) จังหวัดกระบี่ โดยกำหนดจำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคา กก.ละ 150 บาท ระหว่างวันที่ 6 - 15 มกราคม 2565 จำนวน 4 จุด ดังนี้ 1.ตลาดสดมหาราช อ.เมืองกระบี่ 2.หน้าร้านสะดวกซื้อ ลิกไนซ์ อ.เหนือคลอง 3.หน้าแยกตลาดใน อ.เหนือคลอง 4.หลังตลาดสดเทศบาลตำบลคลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม
นายสุภาพ จีนเมือง พาณิชย์จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับการเปิดจุดจำหน่ายเนื้อหมูในโครงการหมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน (หมูเนื้อแดง) ครั้งที่ 2\" เพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาสุกรที่สูงขึ้น และให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมู ถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งเป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ปรากฎมีประชาชนให้ความสนใจเลือกซื้อเป็นจำนวนมาก
ด้าน น.ส.อรัญญา ครุฑคาบแก้ว อายุ 31 ปี เจ้าของแผงหมูหน้าตลาดสดมหาราช เทศบาลเมืองกระบี่ กล่าวว่า ตั้งแต่ขายหมูมาก็ไม่เคยเห็นว่าราคาหมูจะปรับขึ้นรวดเร็วเช่นนี้มาก่อน ทำให้กระทบกับยอดขาย ลูกค้าบางคนเห็นราคาก็หันไปซื้อเนื้อไก่แทน แต่หลังจากที่ทางพาณิชย์ได้มีโครงการหมูพาณิชย์ลดราคา หมูเนื้อแดง ราคา 150 บาท เมื่อลูกค้าเห็นก็จะแวะซื้อทันที เพราะเนื้อหมูที่เข้าร่วมโครงการเป็นเนื้อหมูที่ได้มาตรฐาน ยอมรับว่าหลังเข้าร่วมโครงการวันนี้ยอดขายดีขึ้น
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","7/1/2022","ภาคใต้","กระบี่","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220107233921728"], [145,"นายกรัฐมนตรี สั่งยกระดับช่วยเหลือประชาชน แก้ไขปัญหาราคาสินค้าราคาแพง ลดภาระประชาชน","นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงหลาโหม ติดตามสถานการณ์และห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์อาหารซึ่งปรับตัวสูงขึ้นในหลายประเภท โดยกำชับสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันกำกับดูแลราคาสินค้าและช่วยเหลือประชาชนให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมและควบคุมได้
จากสถานการณ์ดังกล่าว รัฐบาลได้ยกระดับมาตรการขั้นสูงสุดในการควบคุมราคาอาหารสด โดยราชกิจจานุเบกษาได้ออกประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2565 เรื่อง ห้ามส่งออกสุกรมีชีวิตไปนอกราชอาณาจักร และประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2565 เรื่อง การแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร กำหนดห้ามมิให้ส่งออกสุกรมีชีวิตไปนอกราชอาณาจักรทุกกรณีเป็นการชั่วคราว เป็นระยะเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2565 เพื่อให้ปริมาณสุกรและเนื้อสุกร มีเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ
นายกรัฐมนตรี ได้กำชับและสั่งการให้ทุกหน่วยงาน ติดตาม และออกมาตรการช่วยเหลือ บรรเทาผลกระทบที่เกิดกับประชาชนอย่างเร่งด่วน ทั้งมาตรการระยะสั้นและระยะยาว บูรณาการการทำงานร่วมกันจากทุกภาคส่วน ให้สอดคล้องต่อสถานการณ์และเพื่อความยั่งยืนต่อไป ในอนาคต
นอกจากนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสาเหตุของการปรับตัวของราคาสินค้าในหลายหมวดนั้นว่า เป็นไปตามกลไกตลาดอาหารโลก ซึ่งสอดคล้องกับดัชนีราคาอาหารโลก FAO Food Price Index: FFPI) ที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) รายงานว่า ค่าเฉลี่ยของราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลักที่มีการซื้อขายมากที่สุดทั่วโลกในปี 2564 อยู่ที่ร้อยละ 125.7 ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.1 จากปี 2563 และเป็นระดับสูงสุด นับตั้งแต่เมื่อปี 2554 ซึ่งเคยสูงถึงร้อยละ 131.9 ขณะเดียวกัน รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคของประเทศไทย ยังชี้ให้เห็นว่ามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน โดยค่าเฉลี่ยของปี 2564 เมื่อเทียบกับปี 2563 เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 1.23 และในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 เทียบกับไตรมาสที่ 4 ปี 2563 เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 2.42 โดยราคาสินค้ากลุ่มอาหารสด เช่น ราคาของเนื้อสุกร ซึ่งเป็นผลกระทบจากต้นทุนการเลี้ยง (อาหารสัตว์ ยารักษาโรค) เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งปัญหาโรคระบาดในสุกรและมาตรการลดความเสี่ยงโดยการจำกัดจำนวนการเลี้ยงที่ทำให้ปริมาณสุกรในระบบลดลง
","8/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220108103051779"], [146,"ททท. แถลงข่าวเปิดตัวเส้นทางท่องเที่ยว Unseen New Series ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในอีสาน","
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แถลงข่าวเปิดตัวเส้นทางท่องเที่ยว \" Unseen New Series\" ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ 25 Unseen New Series ของ ททท. โดย ททท. ได้คัดเลือกแหล่งท่องเที่ยวอันชีนไทยแลนด์เวอร์ชันใหม่ จำนวน 25 แหล่งท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ นำมาเป็นจุดขายใหม่ทางการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น
สำหรับแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Series ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบไปด้วย 5 แหล่งท่องเที่ยว ได้แก่ โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา จังหวัดนครราชสีมา , พญานาค 3 พิภพ จังหวัดมุกดาหาร , ภูพระ จังหวัดเลย , หอโหวด จังหวัดร้อยเอ็ด และโลกของช้าง จังหวัดสุรินทร์
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ กล่าวว่า ททท. มีโครงการ \"Unseen New Series\" เพื่อเป็นแคมเปญชวนเที่ยวเมืองไทย เป็นการชวนไปสัมผัสกับเมืองไทย ในมุมที่เราอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อน ผ่านแหล่งท่องเที่ยว 25 แห่งของแต่ละภูมิภาค ซึ่งมีทั้งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ และแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man Made) โดยโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา กฟผ. ก็เป็น 1 ใน 5 แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการคัดสรรให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen ที่โดดเด่นของภาคอีสาน เป็นที่ตั้งของ \"เมืองลอยฟ้า\" (อ่างพักน้ำบนเขายายเที่ยง) ซึ่งถูกกล่าวขานว่าเป็นจุดชมวิวหมื่นล้านที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของไทย รวมถึงเป็นที่ตั้งของ \"เมืองใต้พิภพ\" (อุโมงค์โรงไฟฟ้าใต้ดิน) ที่อยู่ลึกไปใต้ผิวดินกว่า 1.5 กิโลเมตร ใช้เป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้า โดยการสูบน้ำจากเขื่อนลำตะคองไปเก็บไว้ที่อ่างพักน้ำบนเขายายเที่ยง นับเป็นจุดเช็คอินที่ไม่เหมือนใคร
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการพาผู้สื่อข่าว และตัวแทนบริษัทนำเที่ยว เข้าร่วมกิจกรรมเปิดตัวชุมชนท่องเที่ยวภาคอีสาน โดยร่วมกิจกรรมชุมชนท่องเที่ยวเขายายเที่ยง ได้แก่ กิจกรรมปลูกาลอยฟ้า ชมเขาเควสตา และผาชัน
นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ททท. กล่าวว่า กิจกรรมชุมชนท่องเที่ยวภาคอีสาน เป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนเชิงสร้างสรรค์ (Creative Tourism) ซึ่งริเริ่มโดย ททท. เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ทำความรู้จัก เรียนรู้และทดลองทำกิจกรรมที่น่าสนใจกับเจ้าของพื้นที่ ซึ่งผลประโยชน์ที่จะได้รับก็คือ นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงของปราชญ์ชาวบ้าน เกิดความรักความผูกพันต่อวิถีความเป็นอยู่ของสถานที่ที่ได้ไปเยือน รวมทั้งพัฒนาศักยภาพของตนและเกิดแรงบันดาลใจใหม่ๆ จากการเดินทางท่องเที่ยว ในทางกลับกันการใช้เวลาเพื่อทำกิจกรรมในแต่ละแหล่ง ย่อมส่งผลให้เกิดการพักค้างที่นานขึ้น เกิดการใช้จ่าย ในการประกอบกิจกรรมมากขึ้นและกระจายรายได้นั้นไปสู่ระดับสังคมและชุมชนท้องถิ่นอย่างแท้จริง
สำหรับชุมชนท่องเที่ยวภาคอีสานประกอบไปด้วย 5 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนท่องเที่ยวเขายายเที่ยง จังหวัดนครราชสีมา , ชุมชนบ้านชีทวน จังหวัดอุบลราชธานี , ชุมชนบุ่งสิบสี่ จังหวัดชัยภูมิ , ชุมชนภูปาเปาะ จังหวัดเลย และชุมชนบ้านเดื่อ จังหวัดหนองคาย ททท. คาดว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวจะสามารถกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างต่อเนื่องในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวชาวไทยไปสู่พื้นที่รอง ลดการกระจุกตัวของนักท่องเที่ยวในเมืองหลัก สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองของ ททท. รวมทั้งสร้างการรับรู้ภาพลักษณ์ของภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือในมุมมองใหม่บนพื้นฐานของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) กล่าวคือการส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่นอันเป็นอัตลักษณ์ของชาวอีสาน ที่ผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีมา ตั้งแต่บรรพบุรุษกับวิถีชีวิตของคนยุคใหม่ตามแคมเปญ \"Cool Isan\" ของ ททท.
วันแรกของการจัดงาน \"อลังการบอนสีและของดีเมืองดอนพุด\" เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี มีนายสมภพ สมิตะสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานเปิดงาน โดย \"อำเภอดอนพุด\" มีพื้นที่ใกล้เคียงนิยมการปลูกไม้ใบในบ้าน รวมถึงการเลี้ยงไม้ประดับ \"บอนสี\" ซึ่งคนไทยรู้จักกันดีและปลูกเลี้ยงกันมานาน มีหลายสายพันธุ์จนเกิดลูกผสมใหม่ ๆ ที่รับการยกย่องว่าเป็นราชินีแห่งใบไม้ ทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนและเกษตรกรหลังจากช่วงที่ผ่านมาเกิดปัญหาน้ำท่วม ผลผลิตทางเกษตรได้รับความเสียหาย ประชาชนได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ส่งผลกระทบต่อรายได้ กอรปกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยาวนาน
โครงการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ สามารถเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชนสินค้าโอทอป สร้างรายได้เพิ่มโดยการจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสระบุรี เพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนให้แก่ประชาชน
สำหรับนักท่องเที่ยว ผู้ที่ชื่นชอบไม้ประดับ สามารถเข้าร่วมงาน \"อลังการบอนสีและของดีเมืองดอนพุด\" ได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 9 มกราคม 2565
","8/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","สระบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220108095050759"], [148,"ยะลา พาณิชย์ เปิด 4 จุด ขายหมูราคาถูก โลละ 150 บาท ช่วยประชาชน","ยะลา พาณิชย์ เปิด 4 จุด ขายหมูราคาถูก โลละ 150 บาท ช่วยประชาชนช่วงโควิด-19 ลดภาวะหมูแพงบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพ
จากสถานการณ์ราคาเนื้อหมูที่ยังมีราคาสูงต่อเนื่อง รวมถึงปริมาณความต้องการยังมีสูง ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง เนื่องจากผู้เลี้ยงประสบปัญหาต้นทุนเพิ่ม และมีการลดจำนวนเลี้ยงก่อนหน้านี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้บริโภค ล่าสุด ทางกระทรวงพาณิชย์ได้ขยายโครงการหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ผ่านจุดจำหน่ายของเครือข่ายเพิ่มแล้ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ลดภาระค่าครองชีพในช่วงที่ยังมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
สำหรับใน จ.ยะลา วันนี้ (8 ม.ค. 65) ทาง จังหวัดยะลา ได้ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดยะลา จัดโครงการ หมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน โดยนำหมูเนื้อแดงจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ให้กับประชาชน ซึ่งจะมีจุดจำหน่าย หมูพาณิชย์ จำนวน 4 จุด คือ 1.บริเวณด้านข้างสำนักงานพาณิชย์จังหวัดยะลา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา 2.ร้านเก๋ พอร์คชอป ถนนผังเมือง 5 อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา 3.แผงหมูป้ารัตน์ หลังโรงแรม Thai Hotel ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา และ 4.ในตลาดสดอำเภอเบตง ตำบลเบตง จังหวัดยะลา ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจก็สามารถแวะเวียนไปซื้อได้ จนถึงวันที่ 15 ม.ค. 65 นี้
ขณะที่ บรรยากาศตั้งแต่เช้าวันนี้ ได้มีประชาชนเดินทางออกมาซื้อหมูราคาถูก ที่ด้านข้างสำนักงานพาณิชย์จังหวัดยะลา และร้านเก๋ฯ ในเมืองยะลากันอย่างต่อเนื่อง โดยบอกว่าราคาถูก เนื้อนุ่ม เป็นหมูในพื้นที่ยะลา ตอนนี้หมูเนื้อแดงที่ตลาดบางร้านก็ขายกิโลกรัมละ 180-200 บาท หมูแพงช่วงนี้ พาณิชย์จัดโครงการแบบนี้ช่วยบรรเทาผลกระทบค่าใช้จ่าย ประจำวันในครอบครัวไปได้ส่วนหนึ่ง
","8/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220108103747792"], [149,"พุทธศาสนิกชน ร่วมกิจกรรมตักบาตรทางน้ำ นาวาภิกขาจาร อนุรักษ์ฟื้นฟูประเพณี ส่งเสริมการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ","ที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยสุพรรณบุรี ด้านหลังวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี นางสาวดวงแก้ว เลิศรัตนรังษี ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุพรรณบุรี นางสาวพจนา เสมา เกษตรและสหกรณ์จังหวัดสุพรรณบุรี นางสาวนิษฐกานต์ คุณวัชระกิจ วัฒนธรรมจังหวัดสุพรรณบุรี นางอรวิน บุตรวงศ์ ผอ.สวท. สุพรรณบุรี พร้อมด้วยประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมนาวาภิกขาจาร ใส่บาตรพระสงฆ์ เพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูประเพณีตักบาตรทางน้ำของวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ที่สมัยก่อนบ้านและวัดมักอยู่ติดริมแม่น้ำ พระสงฆ์ออกรับบิณฑบาตทางเรือ ซึ่งปัจจุบันหาชมได้ยาก เนื่องจากเส้นทางคมนาคมสะดวกสบายกว่าแต่ก่อน ทำให้ประเพณีการตักบาตรทางน้ำนับวันยิ่งสูญหายไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดสุพรรณบุรีมีแม่น้ำที่สำคัญไหลผ่านคือแม่น้ำท่าจีน โดยทางวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ได้ให้ความสำคัญของประเพณีตักบาตรทางน้ำอันดีงามนี้จึงได้อนุรักษ์ประเพณีนี้ไว้ โดยทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 07.00 น. จะมีพระสงฆ์ออกรับบิณฑบาตทางเรือ 9 รูป
ทั้งนี้ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยสุพรรณบุรี ได้จัดเพิ่มโป๊ะแพ เพื่อให้ประชาชนเว้นระยะห่างระหว่างกันขณะใส่บาตรได้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยนอกจากเป็นการทำบุญแล้วยังเป็นโอกาสดีที่จะได้ศึกษาพันธุ์กล้วยชนิดต่างๆ ที่หายากพร้อมกับเก็บภาพความประทับใจ จากนั้นสามารถเดินทางไปขอพรหลวงพ่อโต และหลวงพ่อเงินในโบสถ์มอญเก่าหลังวิหารหลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร เพื่อความเป็นสิริมงคล
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","8/1/2022","ภาคตะวันตก","กาญจนบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุพรรณบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220108104650801"], [150,"พาณิชย์พิจิตร แจ้ง 4 จุดบริการ \"โครงการพาณิชย์ลดราคา ! ช่วยประชาชน\" จำหน่ายหมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 150 บาท","พาณิชย์พิจิตร แจ้ง 4 จุดบริการ \"โครงการพาณิชย์ลดราคา ! ช่วยประชาชน\" จำหน่ายหมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 150 บาท
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพิจิตร นำหมูเนื้อแดงมาจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท จำกัดครอบครัวละ 1 กิโลกรัม ตาม \"โครงการพาณิชย์ลดราคา ! ช่วยประชาชน\" เพื่อแก้ไขปัญหาราคาหมูแพง โดยเปิดจุดจำหน่ายที่หน้าห้างเทสโก้โลตัส สาขาท่าหลวง อำเภอเมือง และสาขาตะพานหิน อำเภอตะพานหิน จนถึงวันที่ 21 มกราคม 2565 ร้านหมูเอสเค อินเตอร์ฟู๊ด สาขาพิจิตร และสาขาตะพานหิน จำหน่ายถึงวันที่ 15 มกราคม 2565
","8/1/2022","ภาคเหนือ","พิจิตร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพิจิตร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220108134904863"], [151,"สภาอุตสาหกรรมจังหวัดแพร่จัดงานอุตสาหกรรม 2022 และงานฤดูหนาวประจำปี 2565","ที่บริเวณสามแยกกอเปา ตำบลทุ่งโฮ้ง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ทางสภาอุตสาหกรรมจังหวัดแพร่ร่วมกับภาคเอกชนในพื้นที่ จัดงานอุตสาหกรรม 2022 และงานฤดูหนาวประจำปี 2565 เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการผลิต และผู้จำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรมต่างๆ ได้มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าแก่ประชาชน เป็นการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของจังหวัดแพร่
ภายในงานมีการจำหน่ายสินค้าหลากหลายชนิด รวมถึงอาหารต่างๆ จากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ การแสดงมอเตอร์โชว์ การแสดงของศิลปินนักร้อง การจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าธงฟ้า สินค้าราคาประหยัด โดย สภาอุตสาหกรรมจังหวัดแพร่ พบกับสวนสนุกชุดใหญ่
การจัดงานดังกล่าวเป็นไปตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ covid-19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด มีการตรวจคัดกรองก่อนเข้างาน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","8/1/2022","ภาคเหนือ","แพร่","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220108124458840"], [152,"ผู้ว่าฯ เลย นำเที่ยวภูลมโล ชมความสวยงามทุ่งดอกซากุระเมืองไทย (นางพญาเสือโคร่ง) บานสะพรั่งกว่า 1,200 ไร่","นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วย นางนงค์นิตย์ เนียมศิริ นายกเหล่ากาชาดจังหวัด, นายดำรงค์ สิริวิชย อิ่มวิเศษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย, นายศิริวัฒน์ พินิจพานิชย์ ปลัดจังหวัดเลย หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน สื่อมวลชน ร่วมลงพื้นที่
นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมทุ่งดอกซากุระเมืองไทย หรือดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่ภูลมโล อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ที่กำลังออกดอกสีชมพูสดใส่สวยงามเต็มภูเขาเป็นแสนต้น บนเนื้อที่กว่า 1,200 ไร่ ดอกซากุระเมืองไทยปีนี้ เริ่มออกดอกให้ชมความสวยงามประมาณปลายสัปดาห์ของเดือนธันวาคม 2564 ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2564 โดยปกติแล้วดอกจะบานให้ชมประมาณ 15 วัน หรือ สองอาทิตย์ บรรยากาศบนยอดภูลมโล ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,000-1,542 ฟุต อากาศเย็นสบาย ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว สื่อมวลชน หัวหน้าส่วนราชการ บันทึกภาพความสวยงามของดอกซากุระเมืองไทยอย่างตื่นเต้นและสนุกสนาน นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความสวยงามและชอบการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ สามารถติดต่อชมรมท่องเที่ยวภูลมโล กกสะทอน จะมีรถปิคอัพขับเคลื่อน 4 ล้อ ไว้บริการที่จุดบริการนักท่องเที่ยว อบต.กกสะทอน กว่า 60 คัน นำขึ้นชมตามเส้นทางจากบ้านห้วยมุ่นถึงภูลมโล ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร สัมผัสเส้นทางธรรมชาติที่ประทับใจอย่างแน่นอน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","8/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","เลย","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเลย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220108133807859"], [153,"โฆษก บช.น. กำชับตำรวจบังคับใช้กฎหมายคุมเข้มร้านอาหารขายสุราตามที่กฎหมายกำหนด พร้อมเผยคัสเตอร์ข้าวสารไม่พบเจ้าหน้าที่บกพร่อง","โฆษก บช.น. กำชับตำรวจบังคับใช้กฎหมายคุมเข้มร้านอาหารขายสุราตามที่กฎหมายกำหนด พร้อมเผยคัสเตอร์ข้าวสารไม่พบเจ้าหน้าที่บกพร่อง
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงการปรับเปลี่ยนเวลาการจำหน่ายสุรา ว่าขณะนี้ยังรอทาง ศบค. รัฐบาล กรุงเทพมหานคร ซึ่งกรุงเทพมหานครยังเป็นพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวในส่วนของผับบาร์ คาราโอเกะ ยังไม่เปิดอยู่แล้ว การดื่มสุรายังสามารถดื่มได้ถึงเวลา 23.00 น. แต่มีข้อมูลว่าอาจจะปรับเวลาเป็น 21.00 น. ซึ่งทางตำรวจนครบาล ได้ประชุมเตรียมความพร้อมไว้แล้ว เมื่อ ศบค. ประกาศเป็นเวลา 21.00 น. จะมีการประชุมกำชับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เตรียมความพร้อมในการดำเนินการตรวจสอบบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล
นอกจากนี้ ทางตำรวจนครบาลได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบและเพิ่มความเข้มมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา และจะปรับเวลาก็จะต้องเพิ่มความเข้มให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบการปฏิบัติภายใต้กรอบของกฎหมาย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ได้จับกุม จำนวน 49 ราย เป็นการจำหน่ายสุราในเวลาห้าม 28 ราย และอีก 21 ราย เป็นการจำหน่ายสุราโดยไม่มีใบอนุญาตจากสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร จากการกวดขันในระยะหลังไม่ค่อยพบการกระทำความผิด ส่วนใหญ่จะปฏิบัติตามกรอบของกฎหมาย
ส่วนกรณีการเกิดคัสเตอร์ย่านถนนข้าวสาร มีการวางระบบตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ตามที่รัฐบาลได้มีการผ่อนคลาย ผู้ที่จะเข้าไปใช้บริการจะต้องผ่านการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม หากเกิน 3 เดือนจะต้องตรวจ ATK ซึ่งจุดที่ตรวจจะบล็อคหัวท้ายถนนตั้งแต่ถนนจักรเพชร และถนนตะนาว ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง การตรวจคัดกรองผู้ที่จะเข้ามาใช้บริการก่อน ซึ่งตรวจพบถึง 60 กว่ารายและส่งเข้ารับการรักษา ทั้งนี้ ในช่วงปีใหม่มีผู้มาใช้บริการแล้วติดในส่วนหนึ่ง และจะต้องทำการตรวจสอบว่าหลุดเข้าไปในส่วนจุดไหน และย้ำมาตรการต่าง ๆ ที่ทำมาได้เข้มงวดมาโดยตลอด การตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่าเป็นความบกพร่องในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด
","8/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220108140656875"], [154,"ร้านข้าวแกงในจังหวัดตรัง ได้รับผลกระทบจากราคาหมูที่แพงขึ้น ทำให้ต้องปรับลดการนำเนื้อหมูมาทำอาหาร โดยนำปลาหรือไก่มาทำอาหารมากขึ้น อีกทั้งมีการปรับราคาข้าวแกงขึ้นจานละ 5 บาท เนื่องจากแบกรับต้นทุนที่แพงขึ้นไม่ไหว","นางสมใจ ยิ่งขจร แม่ค้าขายข้าวแกง บริเวณอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง กล่าวว่า จากการที่เนื้อหมูมีราคาแพงขึ้น ทำให้ร้านข้าวแกงได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก การที่หมูแพงทำให้ต้นทุนในการทำอาหารเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ทางร้านได้ปรับลดการนำหมูมาทำอาหารลง แต่ยังมีเมนูอาหารที่ทำจากหมู แต่ไม่มาก โดยจะนำปลาและไก่มาทำอาหารแทน ในแต่ละวันจะทำกับข้าว 30-40 อย่าง เพื่อขายให้กับประชาชน ปกติจะขายอาหารจานละ 35 บาท กับข้าว 2 อย่าง แต่เมื่อหมูมีราคาแพง กับข้าวบางอย่างที่มีหมูจะปรับเพิ่มขึ้นอีก 5 บาท อยู่ที่จานละ 40 บาท ส่วนแกงถุง ก็จำหน่ายราคา 40-50 บาทต่อถุง
ในขณะที่ประชาชนก็มารับประทานข้าวแกงอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประจำ เช่น พนักงานบริษัท คนขับรถ และประชาชนทั่วไป การที่หมูแพงนั้นทำให้รายได้ลดลง ได้รับผลกระทบอย่างมาก อย่างไรก็ตามทางร้านข้าวแกงก็ต้องประคองให้พ้นวิกฤตหมูแพง และจะไม่หยุดขายข้าวแกงในช่วงหมูแพง เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ยังให้ความสนใจกินข้าวแกง
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","8/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220108135224867"], [155,"จ.นครปฐมเปิดตลาดในสวน ชวนอุดหนุนผัก ผลไม้ ปลอดภัย ส่งตรงจากชวนสวน","ชุมชนบ้านหัวอ่าว อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ร่วมกับเครือข่ายและเกษตรกรในพื้นที่ เปิดตลาดในสวน ชวนอุดหนุนผัก ผลไม้ ปลอดภัย ส่งตรงจากชวนสวน
วันที่ 8 มกราคม 2565 ที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนบ้านหัวอ่าว ตำบลบางช้าง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม นายพงศ์สุธี สุขศิริ พาณิชย์จังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดตลาดในสวน พร้อมเปิดเวทีเสวนา ในหัวข้อ มีอะไรดี ที่สามพราน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ สาขานครปฐม คณะวิจัยมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม และชาวชุมชนบ้านหัวอ่าว ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากคณะวิจัยมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ที่ได้นำกระบวนการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสร้างสรรค์และต้นแบบชุมชนท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ภายใต้ โครงการวิจัยเรื่อง การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสร้างสรรค์บนวิถีเกษตร ศิลปะและวัฒนธรรม ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ราชบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร เพื่อการเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนโดยอยู่บนพื้นฐานอัตลักษณ์ของชุมชน อันนำไปสู่แนวทางการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมและมีความยั่งยืน โดย ดร.วงศ์ระวิทย์ น้อมนำทรัพย์ หัวหน้าโครงการ คณะวิจัยฯ ได้กล่าวว่าถึงเหตุผลที่คัดเลือกพื้นที่สามพราน เนื่องจากมีของดีที่น่าสนใจมากมาย ทั้งวัด สวน ตลาดในสวน และคาเฟ่บำบัด สมุนไพรเพื่อสุขภาพ นับว่าเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่ตอบรับสายสุขภาพ และสายธรรมชาติได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ นางประหยัด ปานเจริญ ประธานศูนย์การเรียนรู้ชุมชนบ้านหัวอ่าว ผู้มีแนวคิดอยากให้ผลผลิตผัก ผลไม้ปลอดภัยของชุมชนเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น กล่าวว่า ตลาดในสวน เกิดจาก ชาวชุมชนบ้านหัวอ่าว ซึ่งทำเกษตรอินทรีย์ มีกลุ่มผลิตผักผลไม้อินทรีย์ กว่า 200 ไร่ และมีผลผลิตเกษตรปลอดภัยอีกมากมาย จึงมีความต้องการเปิดพื้นที่เป็นแหล่งซื้อขายผลผลิตเกษตรอินทรีย์และเกษตรปลอดภัยใกล้กรุง เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น อีกทั้งสร้างรายได้ให้คนในชุมชน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรอินทรีย์ และอาหารภายในชุมชนที่ปลอดภัย ดีต่อสุขภาพ จากชาวสวนโดยตรง ราคาย่อมเยา
สำหรับตลาดในสวน วิถีธรรมชาติของคนรักสุขภาพ เปิดทุกวันเสาร์- อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.30-15.00 น. ภายในพื้นที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนบ้านหัวอ่าว ตำบลบางช้าง อำเภอสามพราน หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร 081 303 8556
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","8/1/2022","ภาคตะวันตก","นครปฐม","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220108150645901"], [156,"จังหวัดศรีสะเกษเดินหน้าสืบสานอนุรักษ์ผ้าพื้นถิ่นส่งต่อภูมิปัญญาการทอผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ สู่การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ผ้าวาระการพัฒนาจังหวัดศรีสะเกษ","วันที่ 7 มกราคม 2565 นางสาวชนมณัฐ รอดบุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานประชุมหารือหัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาชุมชนทั้ง 22 อำเภอ เพื่อร่วมวางแผนและกำหนดเป้าหมายขับเคลื่อน 10 วาระจังหวัด ต่อยอดการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ให้สมกับคำว่า อะไร อะไร ก็ดี ที่ศรีสะเกษ ผ่านวาระด้านเศรษฐกิจ โดยปีนี้มุ่งขับเคลื่อนเดินหน้าสืบสานอนุรักษ์ผ้าพื้นถิ่น โดยเฉพาะยกระดับภูมิปัญญาสู่การทอผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ กระจายอาชีพลงชุมชนมากยิ่งขึ้น โดยใช้ภูมิปัญญาการย้อม ทอ แส่ว เป็นพื้นฐาน เพื่อพัฒนาผ้าพื้นเมืองให้เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ชุมชน พร้อมเศรษฐกิจฐานรากที่มั่นคง ชุมชนพึ่งตนเองได้
จังหวัดศรีสะเกษ โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ จึงได้กำหนดยุทธศาสตร์และเป้าหมายการพัฒนา พร้อมบูรณาการทั้ง 22 อำเภอ ยกระดับภูมิปัญญาผ้าพื้นเมืองสู่การทอผ้าลายขอ พระราชทาน หรือ ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ให้ประชาชนได้รับรู้และหาซื้อสวมใส่ ร่วมกิจกรรมนุ่งผ้าไทยใส่บาตร ทำความดีวิถีพอเพียง เป็นประจำทุกวันอังคาร อีกทั้งจัดจำหน่ายภายตลาดโบราณ ลานออดหลอด ซอดศรีเกษ ณ ศูนย์โอทอปศรีสะเกษเป็นประจำทุกเดือน เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้ผู้ประกอบการโอทอปมากขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 ขณะที่ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากผ้าและเครื่องแต่งกาย ในปี 2564 มียอดจำหน่ายมากกว่า 1,190 ล้านบาท
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","8/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ศรีสะเกษ","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220108163009923"], [157,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ ประกาศราคากลางอ้างอิงและชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 256465 งวดที่ 13","สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ ประกาศราคากลางอ้างอิงและชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 256465 งวดที่ 13 โดยราคากลางอ้างอิงและชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 งวดที่ 13 เป็นของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนปลูกข้าว และระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 31ธ.ค. 64 ถึง 6 ม.ค. 65 ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงของ ข้าวเปลือกหอมมะลิ อยู่ที่ 11,292 บาท ต่อตัน ส่วนต่าง 3,707 บาทต่อตัน , ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงของ ข้าวเปลือกหอมมะลิ นอกพื้นที่ อยู่ที่ 10,905 บาท ต่อตัน ส่วนต่าง 3,094 บาทต่อตัน
นอกจากนี้ สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.บุรีรัมย์ จำกัด เปิดรับซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิ โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวนาปี ประจำปี 2564/65 โดย ผู้เข้าโครงการจะได้รับค่าเก็บและรักษาคุณภาพเข้าเปลือก ตันละ 500 บาท กู้เงินได้ไม่เกินรายละ 3 แสนบาท โดยจุดรับซื้อข้าวเปลือกของ สกต. จะมีทั้งหมด 5 จุด คือ
1.ศูนย์ธุรกิจ สกต.บุรีรัมย์ จำกัด ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โทร.08-3100-4449
2.ศูนย์ธุรกิจ สกต.อำเภอพุทไธสง ต.มะเฟือง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ โทร.08-4831-9499
3.ศูนย์ธุรกิจ สกต.อำเภอหนองกี่ ต.ทุ่งกระเต็น อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ โทร.06-4046-8892
4.ศูนย์ธุรกิจ สกต.หนองกง ต.หนองกง อ.นางรอง โทร.08-4834-7488
5.ศูนย์ธุรกิจ สกต.อำเภอหนองหงส์ ต.ไทยสามัคคี อ.หนองหงส์ โทร.09-2912-0587
","8/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","บุรีรัมย์","สวท.บุรีรัมย์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220108190551986"], [158,"กลับมาคึกคักอีกครั้งเปิดถนนคนเดิน กระบี่ : 14 ปี 14 อีกครั้ง ภายใต้มาตรการความปลอดภัย New Normal ยึดหลัก D-M-H-T-T อย่างเคร่งครัด ผู้ค้าทุกรายได้รับวัคซีนครบโดส ลดจำนวนบูธลง เหลือ 300 กว่ารายเพื่อให้มีพื้นที่ ว่างและเป็นการเว้นระยะห่าง","ที่เวทีถนนคนเดินกระบี่ นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ รองประธานหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้หอการค้าไทย เป็นประธานในพิธีเปิดถนนคนเดินกระบี่ หลังจากที่ได้หยุดให้บริการไปเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งแพร่เชื้อ โดยมีนายภูวดิท ปรีชานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ หอการค้าไทยนายอุทิศ ลิ้มสกุล ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกระบี่ และนายนัทที อดิศราลักษณ์ ประธานคณะกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวรายงาน มีหัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ เอกชน สื่อมวลชน ร่วมให้การต้อนรับ และเข้าร่วมพิธี ณ ถนนคนเดินกระบี่
นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ รองประธานหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ หอการค้าไทย ประธานในพิธีเปิด กล่าวว่า โครงการถนนคนเดินกระบี่ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่เป็นรูปธรรมของหอการค้าในสมัยที่ผมเป็นประธานหอการค้าจังหวัดกระบี่ ซึ่งได้มีการได้ดำเนินการสานต่อ จนมีการพัฒนาก้าวหน้าตามลำดับ
ประการแรก การเป็นพื้นที่นำร่องที่แทบจะกล่าวได้ว่าเป็นแห่งแรกของประเทศไทยใน การรณรงค์ไม่ใช้กล่องโฟมเป็นบรรจุภัณฑ์ใส่อาหาร และเป็นแห่งแรกที่ผู้ประกอบการไม่ใช้กล่องโฟม 100% ตั้งแต่เปิดให้บริการมา
ประการที่สอง การเป็นถนนคนเดินเพื่อสังคมที่จัดกิจกรรมดีๆช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก เช่น น้ำท่วม ดินสไลด์ นอกเหนือจากเป็นที่สร้างงาน สร้างอาชีพ
ก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถนนคนเดินกระบี่ ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ตลอดจนได้รับการสนับสนุนจากชาวกระบี่เป็นอย่างดี มีผู้คนเข้ามาจับจ่ายใช้สอย ภายในถนนคนเดิน วันละ 2,000-5,000 คน สร้างรายได้ไม่น้อยกว่าปีละ 120 ล้านบาทต่อปี หรือ 360 ล้านบาทในทางเศรษฐศาสตร์ แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะยังคงอยู่กับพวกเราอีกต่อไป แต่อย่างไรเสียชีวิตก็ต้องก้าวเดิน เศรษฐกิจก็ต้องขับเคลื่อนต่อไปสิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากให้ผู้ประกอบการค้าและผู้ที่มาจับจ่ายใช้สอย ในถนนคนเดินแห่งนี้ได้คำนึงก็คือการปฏิบัติตามมาตรการ และแนวทางการควบคุม การแพร่ระบาดของโรคติดต่อ เชื้อไวรัสโคโรน่า 2019/(COVID-19)/ในรูปแบบ New Normal/ภายใต้มาตรการความปลอดภัย และคงต้องลดความแออัดลง ซึ่งทราบว่าเดิมมีผู้ประกอบการค้ากว่า 400 ราย แต่ทางหอการค้าปรับเหลือเพียง 300 กว่ารายเท่านั้น และดีใจที่ทราบว่าผู้ประกอบการค้าถนนคนเดินกระบี่ได้มีการรับวัคซีนครบโดสทุกคน ทุกร้าน และจะเป็นความเชื่อมั่นของผู้ที่มาใช้บริการ
หากผู้ประกอบการค้าทุกคนได้ถ่ายเอกสารแสดงผลการฉีดวัคซีนครบโดส ติดไว้อย่างเปิดเผยก็จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ฝากผู้ประกอบการค้าและหอการค้าจังหวัดกระบี่ในเรื่องนี้ไว้ด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไรเสียก็ตัองสวมหน้ากากอนามัย ปรุงอาหารสวมถุงมือ ก็จะช่วยทั้งตัวเองและสังคมส่วนรวมได้ ขอให้ถนนคนเดินกระบี่แห่งนี้จะสร้างสิ่งดีๆใหม่ๆ ให้สังคมเมืองกระบี่ ตลอดไปและผู้ประกอบการค้าจะสร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องมิตรไมตรี การบริการที่ดี ไม่เอาเปรียบไม่ฉวยโอกาส ไม่ขายสินค้าในราคาที่สูงเกินสมควร สิ่งเหล่านี้จะเป็นเสน่ห์ให้ลูกค้ามาแล้วมาอีก
ทางด้านนายนัทที อดิศราลักษณ์ ประธานคณะกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ถนนคนเดินกระบี่เป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณเบื้องต้นจากจังหวัดกระบี่ เทศบาลเมืองกระบี่ และกระทรวงพาณิชย์ เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การค้าของจังหวัดที่ซบเซา ในช่วงนั้นเกิดวิกฤตเศรษฐกิจลุกลามไปทั่วทุกภูมิภาค ประกอบกับจังหวัดกระบี่ได้มีห้างต่างชาติขนาดใหญ่มาเปิดสาขารอบนอกของเมืองพร้อมๆ กันถึง 3 แห่ง ในปี 2561 ส่งผลให้ร้านค้าในเขตเทศบาลได้รับผลกระทบผู้บริโภคจากอำเภอรอบนอกไม่เข้ามาในเขตเมือง ในขณะที่คนในเมืองออกไปจับจ่ายสินค้าที่ห้างโมเดิร์นเทรด จนส่งผลให้เขตเทศบาลเมืองกระบี่ แทบจะกลายเป็นเมืองร้าง บ่ายสามร้านค้าส่วนใหญ่ปิดกันแล้ว คณะกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดกระบี่ ในสมัยที่นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ เป็นประธานหอการค้าจังหวัดกระบี่จึงจัดให้มีโครงการถนนคนเดินขึ้นโดยเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2561 ในทุกวันศุกร์เสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 16.00-22.00 น. ก่อนที่จะเกิดโรคระบาดโควิด-19 มีผู้บริโภคทั้งที่เป็นชาวกระบี่ตลอดจนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเข้ามาใช้บริการวันละไม่ต่ำกว่า 2,000-5,000 คน กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในเขตตัวเมือง ทำให้ธุรกิจการค้าในถนนคนเดิน สร้างรายได้ในทางตรงไม่น้อยกว่าปีละ 120 ล้านบาทหรือ 360 ล้านบาทในทางเศรษฐศาสตร์
ประธานหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวต่อไปว่า ถนนคนเดินแห่งนี้ได้สร้างโอกาสให้กับประชาชนเป็นตลาดในรูปแบบผู้ซื้อและผู้ขายมีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา ผู้ว่างงานและผู้ที่ต้องการสร้างอาชีพเป็นของตนเอง ได้มีโอกาสและมีพื้นที่ขาย ทั้งยังเป็นพื้นที่ในการกระจายสินค้าสินค้าและจัดให้มีการเจรจาทางการค้า ถนนคนเดินแห่งนี้นอกจากจะมีคุณค่าในทางเศรษฐกิจแล้ว ก็ยังเป็นถนนคนเดินเพื่อสังคม หลายครั้งที่จังหวัดกระบี่ประสบปัญหา เช่น น้ำท่วม ดินสไลต์ ก็ได้มีการจัดกิจกรรมระดมทุนส่งไปช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนทั้งในจังหวัดกระบี่และต่างจังหวัด ตลอดจนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมหนักในเฮติโดยรวบรวมเงิน เสื้อผ้าส่งผ่านจังหวัดกระบี่
ในส่วนเวทีถนนคนเดินกระบี่ ยังเป็นสถานที่ในการประชาสัมพันธ์งานกิจกรรมของจังหวัดและกิจกรรมของหน่วยงานราชการต่างๆ ในลักษณะเสียงตามสาย และเป็นเวทีสร้างคนไปสู่เวทีใหญ่ ถนนคนเดินกระบี่ในวันนี้นอกจากจะเป็นย่านการค้าพาณิชย์แล้วยังเป็นตลาดต้องชมที่ใส่ใจในสุขภาพของผู้บริโภคและห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อม เป็นพื้นที่นำร่องแห่งแรกที่ไม่มีการใช้กล่องโฟม และสามารถเป็นถนนคนเดินปลอดโฟม 100% ตั้งแต่ต้นปี 2562 ได้มีการขยายไปสู่การลงนาม MOU ระหว่างจังหวัด องค์กรภาคเอกชน และผู้ประกอบการ ให้เป็น กระบี่ปลอดโฟม เพื่อเป็นอีกหนึ่งในหลายๆ วิธีการที่จะก้าวสู่ Krabi Goes Green ก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 คณะกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดกระบี่ร่วมกับผู้ประกอบการค้าถนนคนเดินกระบี่มีนโยบายที่จะร่วมกันเลิกใช้ถุงพลาสติก ซึ่งขณะนั้นถนนคนเดินกระบี่มีผู้ประกอบการจำนวน 356 ราย ได้ลด ละ เลิกใช้ถุงพลาสติกไปแล้วกว่า 80% ถนนคนเดินกระบี่จะก้าวไปสู่โครงการถนนคนเดินกระบี่ : ถนนสีเขียวรักษ์โลก ห่วงใยผู้บริโภค ปลอดกล่องโฟม ปลอดถุงพลาสติก 100% ภายในงานมีกิจกรรมออกร้านจำหน่ายอุปโภคสินค้าอุปโภค บริโภคธงฟ้า ราคาประหยัด โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกระบี่ มีสินค้าราคาถูกกว่าท้องตลาดหลายรายการ ตลอดจนความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และจากผู้ประกอบการร้านค้าที่สนับสนุนและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","8/1/2022","ภาคใต้","กระบี่","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220108203733009"], [159,"โครงการ หมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน (ครั้งที่ 2) อำนาจเจริญ","สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญ ได้ดำเนินโครงการ หมูพาณิชย์ ...ลดราคา! ช่วยประชาชน (ครั้งที่ 2) ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน จากสถานการณ์เนื้อสุกรขาดตลาดและมีราคาสูงขึ้น จึงได้จัดให้มีจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดงราคาไม่เกินกิโลกรัมละ 150 บาท ณ ร้าน วี.ซี.มีท สาขาอำนาจเจริญ ตรงข้ามสวนมิ่งเมืองเฉลิมพระเกียรติ เขตเทศบาลเมืองอำนาจเจริญ ระหว่างวันที่ 6 - 15 มกราคม 2565
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","8/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อำนาจเจริญ","สวท.อำนาจเจริญ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220108220614015"], [160,"จังหวัดลพบุรี จัดงานมหกรรมประกวดปลากัดไทยสวยงามจังหวัดลพบุรี ครั้งที่ 3 ประจำปี 2565","จังหวัดลพบุรี จัดงานมหกรรมประกวดปลากัดไทยสวยงามจังหวัดลพบุรี ครั้งที่ 3 ประจำปี 2565
วานนี้ (8 มกราคม 2565) เวลา 17.30 น. ที่ศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ตำบลกกโก อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี นายกกชัย ฉายรัศมีกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานเปิดงานประกวดปลากัดไทยสวยงามจังหวัดลพบุรี ครั้งที่ 3 ประจำปี 2565 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยว ผู้นิยมปลากัดไทยสวยงาม และกระตุ้นให้ประชาชนผู้สนใจ ตลอดทั้งเยาวชนของจังหวัดลพบุรีได้หันมาสนใจเพาะเลี้ยงปลากัดไทย เพื่อความสวยงามและเป็นการสร้างรายได้ ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดลพบุรี และเป็นการส่งเสริมให้ธุรกิจการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำสวยงาม ให้มีความเข้มแข็งและขยายตัว รวมถึงการเตรียมความพร้อมของเกษตรกร เพื่อมุ่งสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน อันจะส่งเสริมให้ธุรกิจการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำสวยงามให้ก้าวหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนส่งผลถึงเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
โดยการจัดประกวดในครั้งนี้ มีการประกวดปลากัด จำนวน 21 รุ่น มีปลาส่งเข้าประกวดจำนวนมาก จังหวัดลพบุรีเป็นจังหวัดที่มีผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำสวยงามกระจายอยู่ในพื้นที่หลายอำเภอ โดยเฉพาะปลากัดไทย ซึ่งกรมประมงให้ความสำคัญกับเกษตรกรและผู้ประกอบการในเรื่องการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เพื่อให้มีผลผลิตที่มีคุณภาพ
อีกทั้ง ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดอาชีพธุรกิจด้านการประมงประเภทสัตว์น้ำสวยงาม ให้แก่เกษตรกรเกิดการรวมกลุ่มการจัดตั้งกลุ่มเครือข่ายผู้ผลิตสัตว์น้ำสวยงาม การให้ความรู้เรื่องการจัดทำมาตรฐานฟาร์ม การวางแผนการตลาดการค้า การส่งออกในอนาคต และเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2562
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ \"ปลากัดไทยเป็นสัตว์น้ำประจำชาติ\" ประเด็นสำคัญที่เสนอให้ปลากัดไทยเป็นสัตว์ประจำชาติประกอบด้วย 3 ด้าน ได้แก่ ด้านวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ เนื่องจากคนไทยรู้จักคุ้นเคย และมีความผูกพันกับปลากัดมาแต่โบราณ โดยกระทรวงวัฒนธรรมประกาศขึ้นทะเบียนให้ \"ปลากัด\" เป็นมรดกวัฒนธรรมของชาติเมื่อปี 2556 , ด้านความเป็นเจ้าของและความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และด้านประโยชน์ใช้สอยโดยเฉพาะด้านส่งเสริมการเพาะเลี้ยงและสร้างนวัตกรรมด้านการเพาะพันธุ์
","9/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","ลพบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220109091542022"], [161,"ขนส่งยะลา เปิดประมูลเลขทะเบียนรถเลขสวย อักษร \"กจ\" 301 เลขหมาย เปิดประมูลแล้ววันนี้ ผ่าน www.tabienrod.com","ขนส่งยะลา เปิดประมูลเลขทะเบียนรถเลขสวย อักษร \"กจ\" 301 เลขหมาย เปิดประมูลแล้ววันนี้ ผ่าน www.tabienrod.com
นายพงศ์ธร จันทราธิบดี ขนส่งจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า สำนักงานขนส่งจังหวัดยะลา ได้นำหมายเลขทะเบียนรถซึ่งเป็นที่ต้องการ หรือเป็นที่นิยมของประชาชนออกประมูลเป็นการทั่วไป ครั้งแรกที่หมวดอักษร \"กค\" เมื่อวันที่ 7-8 กรกฎาคม 2561 มีรายได้ทั้งสิ้น 13,042,000 บาท ครั้งที่ 2 อำเภอเบตง หมวด \"กค\" เมื่อวันที่ 17-18 สิงหาคม 2562 มีรายได้ทั้งสิ้น 38,117,103 บาท ครั้งที่ 3 หมวดอักษร \"กง\" เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2563 มีรายด้ทั้งสิ้น 7,566,000 บาท และครั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการสาธารณสุข ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) โดยจะเปิดการประมูลทางอินเทอร์เน็ตเท่านั้น
สำนักงานขนส่งจังหวัดยะลา จึงได้เปิดโอกาสให้ชาวจังหวัดยะลาได้ครอบครองทะเบียนรถเลขสวยจังหวัดยะลา โดยกำหนดให้มีการประมูลทะเบียนรถเลขสวยจังหวัดยะลา ครั้งที่ 4 ในวันเสาร์ที่ 15 มกราคม 2565 หมวดอักษร \"กจ : การงานก้าวหน้า ธุรกิจก้าวไกล\" จำนวน 301 เลขหมาย ซึ่งท่านสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.tabienrod.com ได้ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป
ทั้งนี้ รายได้จากการประมูลทะเบียนรถเลขสวย ทุกบาท ทุกสตางค์ จะนำเข้า \"กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน\" (กปถ.) เพื่อนำไปสนับสนุนและส่งเสริมด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และให้ความช่วยเหลือผู้พิการอันเนื่องมาจากการประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนน เป็นเงินค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการฯ
ดังนั้น จึงนับได้ว่าผู้ที่ประมูลทะเบียนรถเลขสวย ได้มีโอกาสร่วมทำบุญกุศล และสร้างคุณประโยชน์ให้กับสังคมส่วนรวมอีกทางหนึ่งด้วย
นอกจากนี้ การประมูลทะเบียนรถเลขสวยของจังหวัดยะลา นอกจากจะได้ครอบครองเป็นเจ้าของทะเบียนรถเลขสวยที่ตนเองชื่นชอบ ได้มีโอกาสร่วมทำบุญกุศลดังกล่าวแล้ว ยังเป็นความภาคภูมิใจของชาวจังหวัดยะลา และเป็นความภาคภูมิใจของทุกคนด้วยเช่นกัน ที่จะได้ครองครอบทะเบียนรถเลขสวย ซึ่งทุกท่านทุกพื้นที่สาสามารถเข้าร่วมประมูลได้ทางอินเทอร์เน็ตเท่านั้น เพียงเข้าไปที่เว็บไซต์ tabienrod.com แล้วคลิกที่รูปป้ายทะเบียนจังหวัดยะลา
","9/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220109090734021"], [162,"ควันหลงวันเด็ก พาหนูน้อยขี่ม้าชมธรรมชาติกลางสวนสาธารณะยะลา","\"ควันหลงวันเด็ก\" พาหนูน้อยขี่ม้าชมธรรมชาติกลางสวนสาธารณะยะลา
สวนสุขภาพ ภายในสวนสวนขวัญเมืองยะลา ได้กลายเป็นแหล่งรวมของบรรดาพ่อ แม่ ผู้ปกครองที่ได้นำลูก ๆ หลาน ๆ ตั้งแต่หนูน้อยไปจนถึงเด็ก ๆ ที่โตขึ้นมาหน่อยทั้งหญิง-ชาย ไปขี่ม้าชมธรรมชาติในสวนสาธารณะ ซึ่งทางสมาชิกชมรมคนรักษ์ม้าบ้านจารูพัฒนา ยะลา ได้นำม้าจำนวนถึง 9 ตัว มาให้น้อง ๆ ได้ขี่เล่น สัมผัสความน่ารักของม้า รวมไปถึงถ่ายรูปคู่ม้ากับครอบครัว โดยจะมีเจ้าของม้าจูงม้าพาเดิน ส่วนค่าบริการขึ้นม้าขี่ก็จะอยู่ที่ 30 บาท ขณะที่เด็ก ๆ ต่างมีความสุข มีรอยยิ้ม และสนุกสนานที่ได้มาสัมผัส จับต้องม้าตัวเป็น ๆ โดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใด
นายอัดนัน บูเก๊ะตง บอกว่า ได้นำม้ามาจากบ้านจารูพัฒนา ขี่กันมาเพื่อมาให้เด็ก ๆ ได้ขี่เล่นในวันเด็ก จะทำให้เด็ก ๆ มีความรู้สึกรักสัตว์ ได้ใกล้ชิดธรรมชาติด้วย ม้าที่นำมาก็จะเป็นม้าลูกผสม ไม่ดุ และมีความเชื่อง ไม่อันตรายกับเด็ก ๆ ม้าแต่ละตัวก็จะมีเจ้าของม้าเป็นผู้ดูแลจูงเด็ก ๆ เดินเล่น เด็ก ผู้ปกครองให้ความสนใจมาก ชื่นชอบมาก
สำหรับม้าที่นำมาก็จะมีค่าขี่ม้า ในราคา 30 บาท ซึ่งเงินที่ได้นี้ก็จะนำไปไว้ซื้ออาหารให้กับม้าด้วย นอกจากจะได้ขี่ม้าเล่น ก็สามารถที่จะถ่ายรูป เซลฟี่กับม้าได้เลย ไม่คิดเงิน สำหรับเด็ก ๆ ถ้าสนใจในการขี่ม้า ก็สามารถไปได้ที่ บ้านจารูพัฒนา ตลาดเก่ายะลา หรือที่หลังค่ายสิรินธร จะมีม้าไว้คอยบริการ
","9/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220109084339019"], [163,"บรรยากาศท่องเที่ยวชุมชนอำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี กลับมาคึกคัก ที่พักถูกจองเต็ม 100%","บรรยากาศท่องเที่ยวชุมชนอำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี กลับมาคึกคัก ที่พักถูกจองเต็ม 100%
นายจักรกฤษณ์ ฝั่งชลจิตร์ นายอำเภอดอนสัก เปิดดผยว่า จากการลงพื้นที่สังเกตการณ์บรรยากาศการท่องเที่ยวชุมชน ณ บริเวณหาดนางกำ ตำบลดอนสัก อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี พบว่ามีนักท่องเที่ยวนำครอบครัวเดินทางมาพักผ่อนที่ชายทะเลค่อนข้างหนาตา บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก ขณะที่ การจองและเข้าพักตามโรงแรมและรีสอร์ตต่าง ๆ ถูดจองเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ ศปก.อำเภอดอนสัก ได้กำชับให้ผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และมาตรการต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด และกวดขันเรื่องการดูแลรักษาความสะอาดบริเวณชายหาดอย่างเข้มงวดด้วย
","9/1/2022","ภาคใต้","สุราษฎร์ธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220109093353025"], [164,"กระทรวงพาณิชย์ อนุมัติจ่ายส่วนต่างประกันรายได้ข้าว งวดที่ 13 โดยจ่ายส่วนต่างลดลง หลังราคาข้าวขยับสูงขึ้น","นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้อนุมัติราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65 รอบที่ 1 งวดที่ 13 โดยมีมติจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2564/65 ที่ระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม - 6 มกราคม 2565 จำนวน 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ชดเชยตันละ 3,707.68 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ชดเชยตันละ 3,094.33 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ชดเชยตันละ 1,063.73 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ชดเชยตันละ 1,755.35 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ชดเชยตันละ 2,197.91 บาท
การจ่ายส่วนต่างน้อยลงจากงวดก่อน เนื่องจากราคาข้าวเปลือกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามชาวนาจะได้รับเงินส่วนต่าง งวดที่ 13 สูงสุด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ 51,907.52 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 49,509.28 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 26,593.25 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 52,660.50 บาท และข้าวเปลือกเหนียว 35,166.56 บาท โดย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินเข้าไปยังบัญชีของเกษตรกรภายใน 3 วันทำการหลังจากที่ได้มีการประกาศราคาเกณฑ์กลาง ซึ่งจะดำเนินการในสัปดาห์หน้านี้
","9/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220109125654094"], [165,"พาณิชย์จังหวัดลพบุรีติดตามการจำหน่ายหมูเนื้อแดง เตรียมเปิดจุดขายหมู 14 มกราคมนี้","
นางศิริพร สัจจาคุณ พาณิชย์จังหวัดลพบุรี แจ้งว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปัญหาเนื้อหมูราคาแพง โดยทีมงานสำนักงานพาณิชย์จังหวัดลพบุรี ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายหมูเนื้อแดง โดยพบว่าราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ณ ฟาร์มสุกรในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ราคา 95-100/กิโลกรัม ราคาจำหน่ายที่ตลาดสด หมูเนื้อแดงราคา กิโลกรัมละ 150-170 บาท หมูสามชั้น กิโลกรัมละ 180-200 บาท ปริมาณเนื้อสุกรเพียงพอกับความต้องการ ส่วนราคาจำหน่าย ที่ห้างสรรพสินค้า หมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 145-164 บาท หมูสามชั้น กิโลกรัมละ 200-217 บาท
ทั้งนี้ ได้กำชับให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายให้ถูกต้อง ครบถ้วน ชัดเจนตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 61 พ.ศ.2564 อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลพบุรีจะจัดจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดง \"พาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน\" lot 4 จำหน่ายหมูเนื้อแดงราคากิโลกรัมละ 150 บาท ที่หน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดลพบุรี ในวันที่ 14 มกราคมนี้ หลังจากที่ได้จัดจำหน่ายมาแล้วเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","9/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","ลพบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220109114217064"], [166,"ปศุสัตว์ลพบุรี เร่งสำรวจจำนวนการผลิตสุกรในพื้นที่ เตรียมวางแผนผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการบริโภค แก้ไขปัญาหาราคาหมูแพง","นายจรูญ ชูเกียรติวัฒนา ปศุสัตว์จังหวัดลพบุรี ชี้แจงมาตรการแก้ไขปัญหาเนื้อหมูราคาแพง ซึ่งนายกรัฐมตรีได้มีความห่วงใย กำหนดมาตรการ 3 ระยะ คือ มาตรการระยะเร่งด่วน ห้ามส่งออกหมูมีชีวิต 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม ถึง 5 เมษายน 2565 ช่วยเหลือราคาอาหารสัตว์ จัดสินเชื่อพิเศษเพื่อให้เกษตรกรได้กลับมาเลี้ยงใหม่ ตรึงราคาจำหน่ายที่เหมาะสมสอดคล้องกับต้นทุนที่เกิดขึ้น เร่งสำรวจภาพรวมการผลิตสุกรเพื่อกำหนดพื้นที่เป้าหมายและมาตรการ พร้อมเพิ่มกำลังการผลิตแม่สุกรทดแทน มาตรการระยะสั้น จะมีการส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ ขยายกำลังผลิตแม่สุกร พร้อมทั้งเร่งศึกษาวิจัยยา และสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อลดความสูญเสียจากโรคระบาด ส่วนมาตรการระยะยาว จะมีการผลักดันยกระดับมาตรฐานฟาร์มเกษตรกร เพื่อป้องกันโรคระบาด ส่งเสริมให้เป็นฟาร์มมีระบบการป้องกันโรค และมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่ามาตรฐานฟาร์ม GAP เพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตหมูให้เพียงพอต่อความต้องการบริโภค และจัดสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กู้ยืมจาก ธ.ก.ส.โครงการสานฝันสร้างอาชีพ
ปศุสัตว์จังหวัดลพบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ปศุสัตว์อำเภอสำรวจข้อมูลจำนวนการผลิตสุกรของจังหวัดลพบุรี เพื่อให้ทราบข้อมูลการเลี้ยงสุกรที่เป็นปัจจุบัน ซึ่งเป็นไปตามมาตรการการแก้ไขปัญหาเนื้อสุกรราคาสูงในระยะเร่งด่วน เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามีเกษตรกรบางส่วนเปลี่ยนจากการเลี้ยงสุกรไปประกอบอาชีพอื่น โดยเมื่อได้ข้อมูลแล้วจะรวบรวมส่งไปยังส่วนกลาง เพื่อวางแผนเพิ่มปริมาณการผลิตในภาพรวมของประเทศให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","9/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","ลพบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220109114348066"], [167,"เจ้าหน้าที่พาณิชย์แม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่ตรวจราคา \"สินค้าอุปโภคบริโภค\" ร้านค้าอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน พบราคาสินค้าอยู่ในภาวะทรงตัว","เมื่อวันที่ (7 มกราคม 2565) ที่ผ่านมา สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอนลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ณ ร้านค้า อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน 2 ร้าน ผลการตรวจสอบพบว่า ราคาสินค้าอยู่ในภาวะทรงตัว อาทิ น้ำมันปาล์ม ขนาด 1 ลิตร ราคา 53-58 บาท , น้ำมันถั่วเหลือง ขนาด 1 ลิตร ราคา 58-60 บาท , น้ำปลา ขนาด 700 มล. ราคา 35 บาท , ผงซักฟอก ขนาด 850 กรัม ราคา 75 บาท , ซอสปรุงรสฝาเขียว ขนาด 600 มล. ราคา 35 บาท , ปลากระป๋อง ขนาด 155 กรัม ราคา 13-22 บาท
อีกทั้ง ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าชัดเจน สินค้ายังมีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้กำชับให้ร้านค้าปฏิบัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 อย่างเคร่งครัด ห้ามกักตุนสินค้า และห้ามฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาที่สูงเกินสมควร
","9/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220109121025081"], [168,"สะพานมิตรภาพไทย-ลาว 4 อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เชื่อมต่อเส้นทาง R3A เชื่อมโยงประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน","เชียงราย เป็นจังหวัดเหนือสุดของประเทศไทยที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน คือ เมียนมาและลาว มีการเชื่อมโยงและเดินทางไปมาหาสู่กัน ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ไทย-เมียนมา ทำให้เชียงรายเป็นเมืองการค้าเชื่อมโยงชายแดนที่สำคัญและมีเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน 3 อำเภอคือ อำเภอแม่สาย อำเภอเชียงแสน และอำเภอเชียงของ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว 4 (เชียงของ-ห้วยทราย) เป็นสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่เชื่อมต่อระหว่าง บ้านดอนมหาวัน อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย กับบ้านดอน เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว เปิดใช้เมื่อปี 2556 เป็นการเชื่อมต่อกับเส้นทาง R3A ที่เชื่อมต่อระหว่างจีน ลาว และไทย เพื่อให้การคมนาคมระหว่างประเทศสะดวกมากยิ่งขึ้นและยังเป็นการรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
นายชวัช วัฒธรรม ผอ.แขวงทางหลวงเชียงรายที่ 2 กล่าวถึงเส้นทางในพื้นที่อำเภอเชียงของ ที่เชื่อมต่อไปยังถนน R3A ในความรับผิดชอบแขวงทางหลวงเชียงรายที่ 2 ว่า จุดเชื่อมต่อของ R3A จะเริ่มจากทางหลวงหมายเลข 1 ที่ตัวจังหวัดเชียงรายเข้ามายังเข้ามายังอำเภอ ขณะเดียวกัน ขณะนี้ มีอีกเส้นทางที่จากจังหวัดพะเยาซึ่งมีอยู่ 3 ตอนที่กำลังก่อสร้างขยายเป็น 4 ช่องจราจร และเส้นทางที่บ้านต้า อำเภอขุนตาล จะมาเชื่อมโยงเข้ากับอำเภอเชียงของ ที่ถนนหมายเลข 1356 ไปสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 4 เชียงของ-ห้วยทราย ที่จะไปบ่อเต็น-คุนหมิง เชื่อมโยงระหว่างประเทศลาวและประเทศจีน หากโครงการนี้เสร็จสมบูรณ์การจราจรคาดว่าจะเพิ่มมากขึ้น เป็นการรองรับการคมนาคมเชื่อมโยงระหว่างประเทศ การบรรทุกสินค้า การส่งออกพืชผลทางการเกษตร ข้าว น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจ สังคม ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน
เส้นทางดังกล่าวใช้เป็นเส้นทางเชื่อมโยงเครือข่ายโลจิสติกส์ด้านการขนส่งสินค้าเศรษฐกิจ จากจีนมาไทยและจากไทยไปจีน เกิดการขยายตัวทางการค้าในภูมิภาค จากข้อมูลของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงราย ต่อภาพรวมมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนด้านจังหวัดเชียงราย ปี 2564 มีมูลค่าการค้าขายกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว , สาธารณรัฐแห่งสภาพเมียนมา และสาธารณรัฐประชาชนจีนตอนใต้ ผ่านด่านเชียงของ ด่านเชียงแสน และด่านแม่สาย ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงพฤศจิกายน 2564 มีมูลค่ารวม 60,290,547,898.77 ล้านบาท เฉพาะการค้าขายผ่านด่านเชียงของ มีมูลค่ารวมกว่า 40,531,629,369.75 บาท
นอกจากนี้ เส้นทาง R3A ยังเป็นเส้นทางของนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่ใช้เส้นทางดังกล่าว ท่องเที่ยวแบบคาราวานจากเมืองคุนหมิง ผ่านสิบสองปันนา เชียงรุ่ง เมืองหล้า บ่อหาน บ่อเต็น หลวงน้ำทา ห้วยทราย และเข้าสู่ประเทศไทยผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 4 (เชียงของ-ห้วยทราย) ที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย จะเป็นการเพิ่มโอกาสทางการค้า การลงทุน เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงรายและประเทศไทย
เทศบาลนครเชียงราย ได้จัดงาน เชียงรายดอกไม้งาม ประจำปี 2564 ระหว่างวันที่ 24 ธันวาคม 2564 ถึง 9 มกราคม 2565 ณ สวนตุงและโคมนครเชียงราย ตามโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมประเพณีและภูมิปัญญาท้องถิ่นนครเชียงราย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับประชาชน หลังจากการจัดงาน เชียงรายดอกไม้งาม ประจำปี 2564 แล้ว
เทศบาลนครเชียงราย ยังคงเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชมสวน มีการจัดแสดงไม้ดอกไม้ประดับนานาพันธุ์ นิทรรศการ กิจกรรมการประกวดแข่งขันวาดภาพ ถ่ายภาพ คลิปวิดีโอ จำหน่ายอาหารและสินค้าพื้นเมือง ไปจนถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565 ตั้งแต่เวลา 07.00-21.00 น. ยกเว้นวันเสาร์ ซึ่งมีถนนคนเดินจะเปิดให้บริการถึงเวลา 22.00 น. ขอความร่วมมือประชาชนและนักท่องเที่ยวปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
","9/1/2022","ภาคเหนือ","เชียงราย","สวท.เชียงราย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220109122113084"], [170,"นักท่องเที่ยวพาบุตรหลานขึ้นชมถ้ำนาคา ที่จังหวัดบึงกาฬ ในช่วงวันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 ","ที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา ฝั่งอำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ นักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศยังคงเดินทางมาเยี่ยมชมถ้ำนาคา แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงอย่างไม่ขาดสาย จากลักษณะของผนังถ้ำที่คล้ายเกล็ดงูขนาดใหญ่ หรือเกล็ดพญานาค จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมจนเต็มโควตาทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ตรงกับวันเด็กแห่งชาติ ผู้ปกครองจึงนิยมพาบุตรหลานมาเที่ยวที่ถ้ำนาคา เพื่อสักการะขอพรต่อพญานาคให้เรียนหนังสือเก่ง ๆ และมีสุขภาพที่แข็งแรง รวมทั้งการขึ้นถ้ำนาคาก็ถือเป็นกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์ที่คนในครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันด้วย
นายอาทิตย์ โยธา นักท่องเที่ยวจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บอกว่า วันนี้เดินทางมาพร้อมกับครอบครัวและญาติ ๆ รวมทั้งยังเป็นการพาบุตรชายมาเที่ยวที่ถ้ำนาคา เนื่องในวันเด็กแห่งชาติปีนี้ด้วย ซึ่งการได้มาที่นี่ก็มีความประทับใจหลาย ๆ อย่าง ทั้งการบริการที่ดีจากมัคคุเทศก์ท้องถิ่น และสถานที่ที่มีความสวยงามโดดเด่น
เช่นเดียวกับนางปัทมา ผอบเพชร นักท่องเที่ยวจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่เดินทางมาด้วยกัน บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้เดินทางมาพร้อมกับครอบครัว และตั้งใจพาลูกมาเที่ยวที่ถ้ำนาคาเนื่องในวันเด็กแห่งชาติปีนี้ โดยหลังจากขึ้นมาบนถ้ำแล้วก็มีความประทับใจมาก เพราะถ้ำมีความสวยงามมากจริง ๆ ซึ่งหากมีโอกาสก็จะเดินทางมาเยี่ยมชมอีกแน่นอน
สำหรับการเข้าชมถ้ำนาคา ที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา นักท่องเที่ยวต้องจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน QueQ โดยแต่ละวันรับไม่เกิน 500 คนเท่านั้น นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังต้องได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็ม และต้องเตรียมสิ่งจำเป็นเช่น น้ำดื่มและถุงมือ โดยระยะทางขึ้นชมถ้ำนาคาอยู่ที่ 2 กิโลเมตร การเดินทางไปกลับจะใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง รวมถึงนักท่องเที่ยวต้องห้ามทิ้งขยะ ห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดอกไม้ ธูปเทียน หรือแป้งฝุ่นขึ้นไปบนภูลัง ห้ามก่อกองหินเป็นองค์พระธาตุ ห้ามแตะต้องหรือสัมผัส และเก็บได้แต่ภาพบรรยากาศเท่านั้น
","9/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","บึงกาฬ","สวท.บึงกาฬ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220109123100087"], [171,"จังหวัดเลย จัดกิจกรรมอบรม ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ ด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ไทย-ลาว","ที่โรงแรมภูเรือ แซงค์ฌัวรี รีสอร์ท แอนด์ สปา นายผดุงศักดิ์ หาญปรีชาสวัสดิ์รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานเปิดกิจกรรมอบรม ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ ด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ไทย-ลาว ภายใต้โครงการเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ เข้าร่วมกิจกรรม โดยกิจกรรมหลักเป็นการประชุมคณะกรรมการความร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยชายแดนระหว่างจังหวัดเลยกับแขวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว และจังหวัดเลยกับแขวงไชยะบุลี สปป.ลาว และในส่วนกิจกรรมย่อย สร้างความเข้าใจ พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการด้านการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว ไทย-ลาว ภายใต้สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19
นายผดุงศักดิ์ หาญปรีชาสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพชั้นนำ ที่เติบโตอย่างมีดุลยภาพบนพื้นฐานความเป็นไทย เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และกระจายรายได้ สู่ประชาชนทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน เพื่อให้เป็นกลไกในการขับเคลื่อนการพัฒนาการท่องเที่ยวที่สามารถกระจายรายได้ไปสู่เศรษฐกิจฐานรากได้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การสร้างเครือข่ายการทำงานบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงาน สร้างการทำงานร่วมกัน และให้ความสำคัญกับการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างผู้ประกอบการ ภาครัฐ ภาคเอกชน ของจังหวัดเลย แขวงไชยะบุลี แขวงหลวงพระบาง และแขวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว โดยการแลกเปลี่ยนข้อมูลความก้าวหน้าและปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีความเข้าใจในข้อเท็จจริงและปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างครบถ้วน ประกอบการพิจารณาในการเจรจาให้เป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการของจังหวัดเลย แขวงไชยะบุลี และแขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว มากที่สุด อาทิ การจัดการประชุม การส่งเสริมความร่วมมือ ด้านการค้า การลงทุนการท่องเที่ยว การศึกษา กีฬา และวัฒนธรรม เพื่อเชื่อมโยงกับจังหวัดเลย จังหวัดเพชรบูรณ์ ราชอาณาจักรไทย แขวงไชยะบุลี แขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว และโครงการสี่เหลี่ยมวัฒนธรรมล้านช้าง โดยสำนักงานพื้นที่พิเศษเลย (อพท.5 ) ดำเนินการจัดกิจกรรมอบรม ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ ด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ไทย-ลาว
นายวสันต์ ไทยสุวรรณ รักษาราชการแทนหัวหน้า สำนักงานจังหวัดเลย กล่าวว่า การดำเนินงานตามโครงการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1.เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการเกี่ยวกับการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ระหว่าง ไทย-ลาว 2.เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันและเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ประกอบการของจังหวัดเลย 3.เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเพิ่มช่องทางการตลาด ขยายการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวเชื่อมโยงและสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการ 4.เพื่อส่งเสริมการค้าและขยายฐานการตลาดผลิตภัณฑ์ชุมชน สินค้าพื้นถิ่น การท่องเที่ยวและบริการ ของจังหวัดเลย ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มตลาดเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","9/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","เลย","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเลย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220109130613102"], [172,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสงขลา จัดโครงการ หมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน ส่วนภูมิภาคจังหวัดสงขลา ครั้งที่ 2 เพื่อลดภาระค่าครองชีพ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน","วันนี้ (9 ม.ค.65) ที่บริเวณหน้าร้านโตชินท์ อาหารแช่แข็งตรงข้ามโรงเรียนเทศบาล 1 ถนนนครนอก อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสงขลา จัดโครงการ หมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน ส่วนภูมิภาคจังหวัดสงขลา ครั้งที่ 2 ซึ่งเป็น 1 ใน 4 จุดที่จำหน่ายหมูเนื้อแดง เนื้อติดมัน เพียงราคากิโลกรัมละ 150 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด เพื่อลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงหมูในท้องตลาดราคาแพง
โครงการ หมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน ส่วนภูมิภาค จังหวัดสงขลา ครั้งที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 6-15 มกราคม 2565 สำหรับในวันนี้เป็นวันที่ 4 ของการขายหมูโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน โดยมีประชาชนชาวเมืองสงขลาเดินทางทยอยกันมาซื้อหมู ราคาถูกอย่างต่อเนื่อง สำหรับโครงการฯ ดังกล่าว สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสงขลา จัดขึ้นเพื่อลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงหมูในท้องตลาดราคาแพง และประชาชนได้รับผลกระทบจากราคาเนื้อหมูปรับตัวสูงขึ้น เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายเนื้อหมูในราคาถูกกว่าท้องตลาดเป็นระยะเวลา 10 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 6-15 มกราคม 2565 มีจุดจำหน่าย 4 จุดคือ
1.ร้านเตชินท์ อาหารแช่แข็ง ถนนนครนอก อำเภอเมืองสงขลา ตรงข้ามโรงเรียนเทศบาล 1 ถนนนครนอก
2.แผงขายหมูพี่วรรณา (ตรงข้ามกับศูนย์ควบคุมโรค สวนตูล อำเภอเมืองสงขลา)
3.ร้านคุณจรูญ (บริเวณใกล้ สี่แยกป้อมตำรวจนาหม่อม อำเภอนาหม่อม)
4.แผงขายหมูกิตติพล (บริเวณถนนรัตนอุทิศ เขต 8 อำเภอหาดใหญ่)
ร้านเหล่านี้ได้เข้าร่วมกับโครงการของพาณิชย์จังหวัดสงขลา โดยจะจำหน่ายเนื้อหมู ซึ่งเป็นเนื้อแดง และเนื้อติดมัน ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท เริ่มขายแล้วตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง -15 มกราคม 2565 ทั้งนี้หากราคาเนื้อหมูยังสูงขึ้นอีก กรมการค้าภายในยืนยันว่า จะขยายโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชนต่อไปอีก เพื่อบรรเทาค่าใช้จ่ายของประชาชน
นายเตชินท์ พูลสวัสดิ์ อายุ 34 ปี เจ้าของแผงหมู ซึ่งเป็น 1 ใน 4 จุดที่จำหน่ายหมูเนื้อแดง เนื้อติดมัน เพียงราคากิโลกรัมละ 150 บาท กล่าวว่า ตอนนี้ราคาหมูเป็นอยู่ที่ ราคา 110 กว่าบาท แต่ทางร้านก็พยุงราคาของหมูให้ลูกค้าอยู่ จะอยู่ในราคาเนื้อแดง 150 บาท เนื้อติดมันก็ 150 บาทเช่นเดียวกัน ส่วนเนื้อสามชั้น ในตลาดกิโลกรัมละ 240 - 270 บาท แต่ทางร้านขายให้ลูกค้าในราคากิโลกรัมละ 200 บาท ตอนนี้ทางร้านก็ยังเปิดจำหน่ายหมู ตรงข้ามโรงแรมโรงเรียนเทศบาล 1 ถนนนครนอก เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-19.00 น. ลูกค้าที่เดินทางสัญจรไปมาทางเส้นทางนี้ สะดวกก็แวะชมแวะซื้อได้
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","9/1/2022","ภาคใต้","สงขลา","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220109132336109"], [173,"เปิดสนามวิ่งเทรลที่แม่ลาน้อย งาน \"Green Season Lanna Trail Season 2\" วิ่งลัดป่า ชมวิวดอยขุมคำ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา กระจายรายได้แก่ชุมชน","วันนี้ (9 ม.ค. 65) กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 (เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน) โดยสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน จัดงาน \"Green Season Lanna Trail Season 2\" กิจกรรมหลักที่ 6 Lanna Trail 4 จังหวัด ภายใต้โครงการท่องเที่ยวธรรมชาติ วิถีล้านนา ประจำปีงบประมาณ 2564 เป็นสนามที่ 2 โดยจัดขึ้นที่ อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ในการนี้ ดร.ชูชาติ คำมา นายอำเภอแม่ลาน้อย เป็นประธานเปิดงาน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วม
กำหนดการแข่งขันออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ประเภทล่นเอาม่วน ชาย/หญิง ระยะทาง 15 กิโลเมตร และประเภทล่นเอามันส์ชาย/หญิง ระยะทาง 30 กิโลเมตร โดยการจัดงานครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา เป็นช่องทางหนึ่งที่จะทำให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปได้รู้จักและเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวและเกิดการกระจายรายได้แก่ชุมชนท่องเที่ยวต่าง ๆ ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ต่อไป สำหรับสนามถัดไป สนามที่ 3 จะจัดที่ ม่อนล่อง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และสนามที่ 4 แม่สะป๊วด ?อ.แม่ทา จ.ลำพูนสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และติดตามภาพบรรยากาศการจัดงานได้ที่ https://www.facebook.com/GreenSeasonLannaTrail
นายจักรกฤษณ์ เอ่งฉ้วน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน ผู้จัดงาน กล่าวว่า จัดงานขึ้นภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิดอย่างเคร่งครัด ได้แก่ การตรวจ ATK การคัดกรองวัดไข้และอาการเสี่ยง ก่อนเข้าสถานที่จัดงาน และจัดให้นักวิ่ง หรือผู้มาร่วมงาน เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ไม่ต่ำกว่า 1 เมตร รวมถึงได้จัดให้นักวิ่ง หรือผู้มาร่วมงาน ทุกท่านจะต้องลงทะเบียนก่อนเข้างานและออกงาน โดยให้มีการสแกนข้อมูลผ่านแอปพลิเคชั่น เน้นย้ำให้นักวิ่ง หรือผู้มาร่วมงานปฏิบัติตามมาตรการการป้องกัน COVID-19 ตามมาตรการคณะกรรมการโรคติดต่อของแต่ละจังหวัด
","9/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220109160416142"], [174,"พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา ติดตามการดำเนินโครงการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน จังหวัดนครราชสีมา ครั้งที่ 2","นายศารุมภ์ โหม่งสูงเนิน พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา ติดตามการดำเนินโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน จังหวัดนครราชสีมา (ครั้งที่ 2) ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาหมูที่สูงขึ้นและให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งเป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภค โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับตลาดเทิดไทและผู้ประกอบการค้าเนื้อสุกรชำแหล่ะจัดโปรโมชั่นหมูเนื้อแดง ลดราคาเพื่อผู้บริโภค ราคากิโลกรัมละ 150 บาท จำนวน 6 จุด ได้แก่
1.ร้านหมูไอที 2. ร้านธนพร 3.ร้านสถานีหมูสด 4. ร้านเฮียเขียว 5. ร้านเจ้บีหมูสด 6. ร้านอุ๊บอิ๊บ
เริ่มตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 15 มกราคม 2565 จำหน่ายจำนวนวันละ 300 กิโลกรัม โดยจะจำหน่ายจนกว่าเนื้อหมูจะหมดทุกวัน
พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มีข้อสั่งการสำหรับแก้ปัญหาราคาหมูที่สูงขึ้นในเบื้องต้นดังนี้
1 ห้ามส่งออกหมูชั่วคราว 3 เดือน
2 สั่งเช็คสต๊อกหมูทั่วประเทศ ป้องกันการกักตุน
3 ถ้ามีการขายเกินราคาหรือค้ากำไรเกินหน่วยงานที่รับผิดชอบควร ดำเนินคดีทันที โดยโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปีและปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากประชาชนพบ พฤติกรรมดังกล่าวกรุณาแจ้ง 1569 และได้สั่งให้กรมปศุสัตว์เร่งส่งเสริมการเลี้ยงหมู เพื่อป้อนหมูเข้าสู่ระบบเพื่อแก้ปัญหาหมูแพงและหมูขาดแคลน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","9/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","นครราชสีมา","สวท.นครราชสีมา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220109150359127"], [175,"เชิญชวน ซื้อสินค้าภายในงาน Lanna Expo 2021","กลุ่มภาคเหนือตอนบน 1 เชิญชวนประชาชนซื้อสินค้าในงาน Lanna Expo 2021 ครั้งที่ 9 ภายใต้แนวคิด กินดี อยู่ดี ชีวิตวิถีใหม่ รวบรวมสินค้า และผลิตภัณฑ์ชุมชน มาจัดแสดงและจำหน่ายกว่า 500 บูธ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายหลังการเริ่มต้นวิถีชีวิตแบบ New Normal
บรรยากาศภายในงาน Lanna Expo 2021 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงสุดสัปดาห์มีประชาชนทยอยเข้ารับชม และเลือกซื้อสินค้าภายในงานกันอย่างต่อเนื่อง ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ตั้งแต่การดูแลเรื่องระยะห่างของบูธแสดงสินค้า มาตรการด้านสุขภาพและอนามัยต่าง ๆ ระหว่างการจัดงาน เช่น การสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ในพื้นที่งานแสดงสินค้า การคัดกรองคนเข้างาน การติดตั้งเจลแอลกอฮอล์ตามจุดต่างๆ ทั่วบริเวณงาน การดูแลความสะอาดของพื้นผิวสัมผัสภายในบริเวณงาน รวมถึงการจัดการจำนวนผู้เข้าร่วมงานไม่ให้หนาแน่นเกินไป เพื่อป้องกันความเสี่ยง และผลกระทบต่างๆ ด้านสุขอนามัย สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน ภายในงานได้แบ่งพื้นที่เป็นคูหาแสดง จำหน่ายสินค้า และบริการสุดยอดผลิตภัณฑ์ จำนวน 4 กลุ่ม 4 โซนสินค้าได้แก่ กลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ และสินค้าตกแต่ง กลุ่มสินค้าสุขภาพ และความงาม สมุนไพร กลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และสิ่งทอ ของฝากของที่ระลึก และกลุ่มสินค้าอาหาร และเครื่องดื่ม เกษตรแปรรูป เป็นต้น
สำหรับการจัดงาน Lanna Expo 2021 ครั้งนี้ นับเป็นการเปิดศักราชใหม่ของการจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าสำคัญงานแรกของปี ที่แสดงให้เห็นว่ากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ยังคงมีการกระตุ้นเศรษฐกิจของเมือง ตั้งแต่ฐานรากไปจนถึงผู้ประกอบการรายสำคัญ ภายใต้รูปแบบกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 เพื่อให้เศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ได้ขับเคลื่อนอีกครั้ง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการในกลุ่มจังหวัดให้เกิดการเติบโตทางการค้าและการลงทุน เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพิ่มโอกาสในการสร้างงาน และกระจายรายได้สู่ชุมชน ตลอดจนมีการเจรจาธุรกิจเชื่อมโยงระหว่างผู้ประกอบการในกลุ่มภูมิภาค ขยายฐานการตลาดสู่ระดับนานาชาติ
ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2565 ตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ ปิดเวลา 21.00 น. ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","9/1/2022","ภาคเหนือ","เชียงใหม่","สวท.เชียงใหม่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220109162629147"], [176,"จังหวัดเชียงใหม่ เปิดงาน \"ศิลปาชีพล้านนาไทย ก้าวไกลด้วยพระบารมี\" ครั้งที่ 3","จังหวัดเชียงใหม่ เปิดงาน \"ศิลปาชีพล้านนาไทย ก้าวไกลด้วยพระบารมี\" ครั้งที่ 3 เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ได้มีพระมหากรุณาธิคุณส่งเสริมด้านอาชีพ ให้กับประชาชนในท้องถิ่นกันดารในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 จัดกิจกรรมศิลปาชีพล้านนาไทย ก้าวไกลด้วยพระบารมี ครั้งที่ 3 โดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นประธานเปิดงานซึ่งมี ผู้ว่าราชการจังหวัดและรองผู้ว่าราชการจังหวัดของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายอำเภอ 25 แห่งของจังหวัดเชียงใหม่ ภาคเอกชน และสมาคมสตรีนครเชียงใหม่ เข้าร่วมงานฯ
นอกจากนี้ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง บทบาทสตรีกับการพัฒนาสังคมไทย และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มอบโล่รางวัลให้แก่เยาวสตรีศรีนครเชียงใหม่ ดีเด่น ผู้สืบสานพระราชปณิธาน แม่ของแผ่นดิน จำนวน 24 ราย และ สตรีศรีนครเชียงใหม่ ดีเด่น ผู้สืบสานพระราชปณิธาน แม่ของแผ่นดิน จำนวน 37 ราย
ทั้งนี้ กิจกรรมตามโครงการ \"ศิลปาชีพล้านนาไทย ก้าวไกลด้วยพระบารมี\" ครั้งที่ 3 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-16 มกราคม 2565 เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ได้มีพระมหากรุณาธิคุณส่งเสริมด้านอาชีพ ให้กับประชาชนในท้องถิ่นกันดารในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงเพื่อรวมพลังองค์กรสตรีในจังหวัดเชียงใหม่ และใกล้เคียง ในการสืบสานตามพระราชปณิธาน โดยเฉพาะงานศิลปาชีพให้ธำรงอยู่คู่กับประชาชน โดยเฉพาะสตรีตลอดไป
ภายในงานมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงมีพระราชดำริในการส่งเสริมการสวมใส่ผ้าไทย ภายใต้โครงการ ผ้าไทยใส่ให้สนุก และนิทรรศการผ้าไทยโบราณ การประกวดงานฝีมือ ผู้ที่สืบสานงานอัตลักษณ์วัฒนธรรมไทย และการจัดแสดง สาธิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน ผลิตภัณฑ์ OTOP และอาหาร รวม 230 บูธ
อย่างไรก็ตาม งานดังกล่าวจัดขึ้นตามมาตรการและข้อกำหนดในการควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของผู้ประกอบการและผู้เข้าร่วมงานทุกคน
","9/1/2022","ภาคเหนือ","เชียงใหม่","สวท.เชียงใหม่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220109171032153"], [177,"บัวนานาชนิดในทุ่งสามร้อยยอดเริ่มออกดอกบานสะพรั่ง พร้อมให้นักท่องเที่ยวมาชมความสวยงาม","วันนี้ (9 ม.ค.65) นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัว อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เริ่มมีบัวนานาชนิด เช่น บัวสาย บัวเผื่อน บัวหลวง ออกดอกบานสะพรั่ง โดยเฉพาะช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม จะเป็นช่วงที่บัวออกดอกสวยงามที่สุด สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยว โดยเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาล่องเรือชมบึงบัว และสัมผัสทัศนียภาพที่สวยงามของแนวเขาสามร้อยยอดซึ่งเป็นเขาหินปูน นอกจากนี้ ยังมีสะพานไม้ให้นักท่องเที่ยวเดินไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติบึงบัวได้อีกด้วย ซึ่งในปีงบประมาณ 2565 ทางอุทยานฯ ได้รับงบประมาณสนับสนุนการปรับปรุงซ่อมแซมสะพานไม้ ศาลาชมวิว พร้อมทั้งสร้างหอคอยดูนกไว้สำหรับบริการแก่นักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ บึงบัวทุ่งสามร้อยยอด ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำโลก หรือแรมซาร์ไซด์ ลำดับที่ 11 ของประเทศไทย มีความหลากหลายของธรรมชาติ นอกจากบัวนานาชนิดแล้ว ยังมีพืชน้ำหลากหลาย และเป็นแหล่งดูนกน้ำที่มีการสำรวจพบมากกว่า 300 ชนิด เช่น นกเป็ดน้ำ นกกระยาง นกกระสาแดง และนกอีโก้ง ที่สามารถพบเห็นได้ตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการเช่าเรือหางยาวของชมรมถ่อเรือชมธรรมชาติบึงบัว ราคาเหมาลำละ 500 บาท นั่งได้ 4 คน ใช้เวลาไปกลับประมาณ 1 ชั่วโมง ล่องไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติบึงบัว
ด้านนางเบญจมาส อ่วมสอาด ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด ได้นำนักศึกษาชาวไทยและชาวต่างชาติไปเที่ยวชมบึงบัวทุ่งสามร้อยยอด ชุมชนท่องเที่ยวบ้านเกาะไผ่ โดยได้ลงเรือหางยาวล่องไปตามลำน้ำในอุทยานสามร้อยยอด ชมวิวทิวทัศน์สองข้างทาง อาทิ เขาโบราณ ถ้ำเขาจูบกัน ไหว้พระขอพรที่วัดถ้ำเกาะไผ่เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยนักศึกษาต่างรู้สึกประทับใจอย่างมาก และยังได้รับประทานข้าวห่อใบบัวรสชาติอร่อยถูกปาก
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","9/1/2022","ภาคตะวันตก","ประจวบคีรีขันธ์","สวท.ประจวบคีรีขันธ์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220109184929159"], [178,"ยอดจำหน่าย สินค้า OTOP แม่ฮ่องสอน ในงานศิลปาชีพล้านนาก้าวไกลด้วยพระบารมี 3 วัน ทะลุ 1 แสนบาท","นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัด และพัฒนาการจังหวัด เข้าร่วมงาน\"ศิลปาชีพล้านนาไทยก้าวไกลด้วยพระบารมี\" ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นการบูรณาการจัดงานของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดลำพูน และจังหวัดลำปาง
โดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงานศิลปาชีพล้านนาไทย และได้เยี่ยมชมบูธ Otop จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 19 ผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย ประเภทอาหาร 7 ผลิตภัณฑ์/ผ้าฯ 90 ผลิตภัณฑ์/สมุนไพรฯ 1 ผลิตภัณฑ์/เครื่องดื่มฯ 1 ผลิตภัณฑ์/และชวนชิม 1 ผลิตภัณฑ์
ยอดการจำหน่าย ตั้งแต่วันที่ 7 - 9 มกราคม 2565 ได้ทั้งสิ้นกว่า 120,000 บาท
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","9/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220109185359160"], [179,"แม่ฮ่องสอน นำ 19 ผลิตภัณฑ์ชั้นนำ ร่วมงานศิลปาชีพล้านนา ไทยก้าวไกลด้วยพระบารมี ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ เชียงใหม่","
วันนี้ (9 มกราคม 2565) เวลา 11.00 น. นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบหมายให้ นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัด และ นายปฐมพงษ์ จันทร์สว่าง พัฒนาการจังหวัด เข้าร่วมงาน \"ศิลปาชีพล้านนาไทยก้าวไกลด้วยพระบารมี\" ณ ศูนย์ประชุม และแสดงสินค้านานาชาติฯ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นการบูรณาการจัดงานของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดลำพูน และจังหวัดลำปาง โดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน และเยี่ยมชมบูธสินค้า Otop จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 19 ผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ประเภทอาหาร 7 ผลิตภัณฑ์/ประเภทผ้าฯ 9 ผลิตภัณฑ์/สมุนไพรฯ 1 ผลิตภัณฑ์/เครื่องดื่มฯ 1 ผลิตภัณฑ์/และประเภทชวนชิม 1 ผลิตภัณฑ์ มียอดจำหน่าย ระหว่างวันที่ 7 - 9 มกราคม 2565 จำนวน 120,000 บาท
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","9/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220109215855188"], [180,"จ.ประจวบฯ คุมเข้มห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน ตั้งแต่เวลา 21.00 06.00 น.ของวันรุ่งขึ้น ในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวหัวหิน ป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19","นพ.วรา เศลวัตนะกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้จังหวัดได้ปรับปรุงมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว เขตเทศบาลเมืองหัวหิน เฉพาะ ต.หัวหิน และ ต.หนองแก จากเดิมอนุญาตให้ร้านอาหารและเครื่องดื่มที่ผ่านการตรวจประเมินตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หรือ SHA สามารถให้ลูกค้าบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านได้ไม่เกินเวลา 22.00 น.
แต่เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม มีผู้ติดเชื้อมากขึ้น โดยปรากฏเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนที่สามารถแพร่กระจายได้เร็ว จึงให้ร้านที่ผ่านมาตรฐานดังกล่าวเปิดให้ลูกค้าดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ไม่เกินเวลา 21.00 น. และห้ามดื่มหลังเวลา 21.00 น.ถึง 06.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ส่วนพื้นที่อื่นที่อยู่นอกพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวยังคงไม่อนุญาตให้มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรัาน ส่วนสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ยังคงงดการเปิดให้บริการ แต่ผู้ประกอบการสามารถขอเปิดดำเนินการในรูปแบบร้านอาหารได้ โดยให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตรวจประเมิน และพิจารณาอนุญาตก่อนการเปิดกิจการ และจัดระบบกำกับติดตามอย่างเคร่งครัด
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","10/1/2022","ภาคตะวันตก","ประจวบคีรีขันธ์","สวท.ประจวบคีรีขันธ์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220110113435285"], [181,"ร้านข้าวแกงในจังหวัดตรัง ได้รับผลกระทบจากราคาหมูที่แพงขึ้น","นางสมใจ ยิ่งขจร แม่ค้าขายข้าวแกง บริเวณอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง กล่าวว่า จากการที่เนื้อหมูมีราคาแพงขึ้น ทำให้ร้านข้าวแกงได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ต้นทุนในการทำอาหารเพิ่มขึ้น ร้านต้องปรับลดการนำหมูมาทำอาหารลง แต่ยังมีเมนูอาหารที่ทำจากหมู แต่ไม่มาก โดยจะนำปลาและไก่มาทำอาหารแทน ในแต่ละวันจะทำกับข้าว 30-40 อย่าง เพื่อขายให้กับประชาชน ปกติจะขายอาหารจานละ 35 บาท กับข้าว 2 อย่าง แต่เมื่อหมูมีราคาแพง กับข้าวบางอย่างที่มีหมูจะปรับเพิ่มขึ้นอีก 5 บาท อยู่ที่จานละ 40 บาท ส่วนแกงถุง ก็จำหน่ายราคา 40-50 บาทต่อถุง ในขณะที่ประชาชนก็มารับประทานข้าวแกงอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประจำ
วันที่ 8 มกราคม 2565 นางสาวยุพา นาคา พาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน เข้าร่วมงาน แสดงแฟชั่นโชว์ Collection ต้นแบบ ของผู้ประกอบการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 โซนจัดแสดง เสน่ห์ผ้าทอล้านนา ภูมิปัญญาสู่สากล ณ ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพสินค้าและบริการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 สู่สากล ประจำปีงบประมาณ 2564 โดยมีกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 7-16 มกราคม 2565 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่
ภายในงานมีการแสดงแฟชั่นโชว์ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ จำนวน 25 Collection มีผู้ประกอบการผ้าจังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 3 ราย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","10/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220110104509259"], [183,"พาณิชย์ยะลา เปิดจุดขาย หมูถูก กก.ละ 150 บาท ลดราคาช่วยประชาชน","วันนี้ (10 ม.ค. 65) ที่บริเวณข้างสำนักงานพาณิชย์จังหวัดยะลา นางผุสสดี จ๋ายเจริญ พาณิชย์จังหวัดยะลา ติดตามการดำเนินโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน จังหวัดยะลา ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาหมูที่สูงขึ้นและให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งเป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภค
โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดยะลา ร่วมกับตลาดในเขตเทศบาลนครยะลา ผู้ประกอบการค้าเนื้อสุกรชำแหละ จัดโปรโมชั่นหมูเนื้อแดง ลดราคาเพื่อผู้บริโภค ราคากิโลกรัมละ 150 บาท จำนวน 4 จุด ซึ่งเริ่มจำหน่ายวันที่ 8-15 ม.ค. 65 โดยจุดที่ 1,2 อ.เมืองยะลาจำหน่ายตั้งแต่เวลา 08.00 น เป็นต้นไป จุดที่ 3,4 อ.เบตง จำหน่ายตั้งแต่เวลา 06.00 น เป็นต้นไป ทั้ง 4 จุดจำหน่ายเนื้อแดงในราคา กก.ละ 150 บาท โดยจะจำหน่ายจนกว่าเนื้อหมูจะหมดทุกวัน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","10/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220110111413268"], [184,"ประชาชนเดือดร้อน หลังจากที่หมูมีราคาแพง ต้องมาเจอกับไก่ปรับราคาขึ้น","จากการที่เนื้อหมูมีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลกระทบต่อประชาชนและพ่อค้า แม่ค้า ต้องซื้อหมูในราคาที่แพง ในขณะที่ประชาชนก็ขาดกำลังซื้อ จึงหันมาซื้อไก่สดแทนเนื้อหมู เนื่องจากจะมีราคาถูกกว่าเนื้อหมูและยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวอีกด้วย
นางประคองจิต เพชรเรือนทอง แม่ค้าไก่สดในตลาดสด กล่าวว่า ไก่สดได้มีการปรับราคาขึ้นครั้งละ 1-2 บาท จนปัจจุบันราคาไก่อยู่ที่ 80 บาทต่อกิโลกรัม, เครื่องในกิโลกรัมละ 100 บาท น่องกิโลกรัมละ 90 บาท ปีกไก่ กิโลกรัมละ 90 บาท หน้าอกไก่ กิโลกรัมละ 100 บาท ตีนไก่ กิโลกรัมละ 120 บาท ซึ่งยอดการจำหน่ายไก่ก็ไม่ได้เพิ่มมากขึ้นแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าจะราคาถูกกว่าเนื้อหมู ทั้งนี้เป็นผลมาจากเศรษฐกิจมากกว่า ประชาชนไม่มีกำลังซื้อ ต้องประหยัดค่าใช้จ่าย คาดว่าไก่สดจะขายดีอีกครั้งในช่วงเทศกาลตรุษจีนช่วงปลายเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ คาดว่าราคาน่าจะปรับเพิ่มสูงขึ้นอีกอย่างแน่นอน เนื่องจากประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนจะมาซื้อไก่และเครื่องเซ่นไหว้ไปไหว้บรรพบุรุษ
จากกรณีที่ทางสมาคมผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ ซึ่งเป็นผู้กำหนดราคาแนะนำไข่ไก่ในตลาดทั่วไป ได้แจ้งว่าในวันที่ 10 มกราคม 2565 (วันนี้) จะมีการปรับขึ้นราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มให้อยู่ที่ฟองละ 3 บาท จากเดิม ฟองละ 2.80 บาท หรือปรับขึ้นราคาแผงละ 6 บาท ของไข่ไก่ทุกไซส์
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปยัง ตลาดสดภาษีซุง ภายในเขตเทศบาลเมืองชัยนาท แหล่งการค้าขนาดใหญ่ของจังหวัดชัยนาท เพื่อไปทำการสำรวจราคาไข่ไก่หน้าแผงจำหน่ายนายสมบัติ ปานพรม เจ้าของร้านขายไข่ ภายในตลาดสดภาษีซุง เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางร้านขายไข่ของตนยังไม่ได้มีการปรับขึ้นราคาของไข่ไก่ เนื่องจากทางร้านได้ไปทำการซื้อไข่ไก่จากฟาร์มมาเมื่อวานนี้ ปัจจุบันอย่างไข่ไก่เบอร์ 0 ทางร้านยังคงจำหน่ายในราคาแผงละ 120 บาท ไข่ไก่เบอร์ 1 ราคาแผงละ 105 บาท ไข่ไก่เบอร์ 2 แผงละ 100 บาท และไข่ไก่เบอร์ 3 แผงละ 95 บาท
สำหรับราคาใหม่ที่ไปซื้อจากฟาร์มขณะนี้ยังไม่ทราบว่ามีการปรับขึ้นราคาหรือยัง เนื่องจากยังไม่ได้สั่งไข่ใหม่ แต่หากมีการปรับขึ้นราคาก็คาดว่าน่าจะขยับขึ้นมาไม่มาก สำหรับเรื่องของราคาที่ไข่ไก่ที่มีการขยับราคาขึ้นมาน่าจะเกิดจากหลายปัจจัย เพราะปัจจุบันราคาหมู ไก่ ก็มีการปรับราคาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง การเลือกซื้อของผู้บริโภคขณะนี้ยังเป็นปกติ เพราะตั้งแต่ราคาของเนื้อหมูมีการปรับขึ้นราคา ผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็หันมารับประทาน ไก่ และไข่ มากกว่าเดิม
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","10/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","ชัยนาท","สวท.ชัยนาท","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220110112912283"], [186,"ไก่สดมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น 1 2 บาท หลังจากหมูมีราคาแพง จนปัจจุบันเนื้อไก่สดอยู่ที่ 80 บาทต่อกิโลกรัม","จากการที่เนื้อหมูมีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลกระทบต่อประชาชน และพ่อค้า แม่ค้า ต้องซื้อหมูในราคาที่แพง ในขณะที่ประชาชนมีกำลังซื้อน้อย จึงหันมาซื้อไก่สดบริโภคแทนเนื้อหมู เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว
ทางด้าน นางประคองจิต เพชรเรือนทอง แม่ค้าไก่สดในตลาดสด กล่าวว่า ไก่สดได้มีการปรับราคาขึ้น ครั้งละ 1-2 บาท จนปัจจุบันราคาไก่อยู่ที่ 80 บาทต่อกิโลกรัม, เครื่องในกิโลกรัมละ 100 บาท น่องกิโลกรัมละ 90 บาท ปีกไก่ กิโลกรัมละ 90 บาท หน้าอกไก่ กิโลกรัมละ 100 บาท ตีนไก่ กิโลกรัมละ 120 บาท
ทั้งนี้ ยอดการจำหน่ายไก่ไม่ได้เพิ่มมากขึ้นแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าจะราคาถูกกว่าเนื้อหมู ซึ่งอาจจะเป็นผลมาจากเศรษฐกิจมากกว่า ประชาชนไม่มีกำลังซื้อ ต้องประหยัดค่าใช้จ่าย คาดว่าไก่สดจะขายดีอีกครั้งในช่วงเทศกาลตรุษจีนช่วงปลายเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ โดยราคาน่าจะปรับเพิ่มสูงขึ้นอีกอย่างแน่นอน เนื่องจากประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนจะเลือกซื้อไก่และเครื่องเซ่นไหว้ไปไหว้บรรพบุรุษ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","10/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220110113629286"], [187,"สำนักงานขนส่งจังหวัดยะลา สาขาอำเภอเบตง เตือนผู้ขับขี่ หลีกเลี่ยง 6 พฤติกรรมเสี่ยงต่อการขาดสมาธิในการขับรถ","นางคชาพร จินตนุกูล หัวหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดยะลา สาขาอำเภอเบตง กล่าวว่า กิจกรรมที่ทำให้ขาดสมาธิในขณะขับรถ หรือต้องละสายตาจากเส้นทาง จะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการขับรถลดลง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัยขอเตือนกิจกรรมที่ทำให้ขาดสมาธิในการขับรถ ดังนี้
1. ไม่ควรใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ เพราะผู้ขับขี่ใช้โทรศัพท์มือถือจะต้องละสายตาดูโทรศัพท์พิมพ์ข้อความ ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการขับรถและการตอบสนองต่อเหตุเหตุฉุกเฉินช้าลง จึงไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ทันท่วงที หากต้องสนทนาทางโทรศัพท์ควรใช้อุปกรณ์เสริม อาทิ แฮนด์ฟรี บลูทูธ แทนการพิมพ์ข้อความผ่านโปรแกรมสนทนา หรือจอดรถในที่ปลอดภัยแล้วค่อยพิมพ์ข้อความสนทนาทางโทรศัพท์ จะช่วยลดความเสี่ยง
2. ไม่ควรรับประทานอาหารขณะขับรถ เพราะทำให้ผู้ขับขี่เหลือมือจับพวงพวงมาลัยเพียงข้างเดียว ส่งผลต่อการบังคับทิศทาง และประสิทธิภาพในการขับรถก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ผู้ขับรถควรรับประทานอาหารก่อนออกเดินทางหรือจอดพักรับประทานอาหารในบริเวณที่ปลอดภัย
3. หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในช่วงที่สภาพการจราจรติดขัดหรือรถจอดติดสัญญาณไฟ ส่งผลต่อสมาธิของผู้ขับขี่ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
4. ไม่ควรดูโทรทัศน์ระหว่างขับรถ เพราะแสงสว่าง เสียง และภาพที่เคลื่อนไหวจะดึงดูดผู้ขับขี่ให้ละสายตาจากเส้นทาง อาจรบกวนสมาธิในการขับรถของผู้ขับขี่ ถึงแม้ผู้ขับขี่จะไม่ได้ดูโทรทัศน์ แต่การเปลี่ยนช่อง ปรับเพิ่มหรือลดเสียงก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้
5. ไม่ควรโน้มตัวและละสายตาจากเส้นทางเพื่อค้นหาหรือก้มเก็บสิ่งของ เพราะจะทำให้ขาดสมาธิในการขับรถ จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ แนะนำให้จอดรถในบริเวณที่ปลอดภัยแล้วค่อยค้นหาหรือก้มเก็บสิ่งของในรถ
6. การตั้งข้อมูลเส้นทางผ่านระบบนำทาง GPS ควรตั้งจุดหมายการเดินทาง และวางแผนเลือกใช้เส้นทางให้เรียบร้อยก่อนออกรถ เพราะหากผู้ขับขี่ละสายตาและปล่อยมือข้างหนึ่งจากพวงมาลัย เพื่อค้นหาและเลือกเส้นทางจากระบบนำทาง GPS ของรถหรือโทรศัพท์ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","10/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.เบตง จ.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220110113816288"], [188,"ธุรกิจขนมเค้กในจังหวัดตรังดีขึ้น ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา หลังภาครัฐมีการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ","จากการที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จังหวัดตรัง ซึ่งมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวของจังหวัดตรังคึกคัก นอกเหนือจากธุรกิจท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการการท่องเที่ยวแล้ว ธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการอีกประเภทคือ การจำหน่ายของที่ระลึกและของฝาก โดยเฉพาะการจำหน่ายขนมเค้กซึ่งเป็นของฝากที่ขึ้นชื่อที่นักท่องเที่ยวและประชาชนนิยมซื้อกลับไป
ทางด้านนายสาธิต วงศ์สัมพันธ์ ผู้ประกอบการร้านจำหน่ายขนมเค้กรสเลิศ กล่าวว่า ขนมเค้กของจังหวัดตรังเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรูปแบบ และรสชาติ จึงทำให้ขนมเค้กของจังหวัดตรังมีเอกลักษณ์เฉพาะ ในช่วงเทศกาลปีใหม่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาจำนวนมากจึงส่งผลให้ยอดการจำหน่ายขนมเค้กของผู้ประกอบการมียอดการจำหน่ายเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว โดยในบางวันสินค้ามีไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด 19 จากทางภาครัฐที่ต้องการจะส่งเสริมการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้การท่องเที่ยวในจังหวัดคึกคัก ยอดการจำหน่ายขนมเค้กดีขึ้น นอกจากนี้ ทางร้านขนมเค้กยังตรึงราคาไปถึงช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งหลังจากเทศกาลตรุษจีนแล้วขนมเค้กอาจจะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น เนื่องจากวัตถุดิบในการทำขนมเค้กมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นประมาณร้อยละ 50 แต่ทั้งนี้ทางร้านจะมีการรอดูสถานการณ์ราคาวัตถุดิบอีกครั้งเพื่อประกอบการตัดสินใจเรื่องของราคาสินค้าต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","10/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220110114639295"], [189,"ผู้ว่าฯ ลำปาง ร่วมเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาราคาสุกร มุ่งส่งเสริมให้เกษตรกรรายย่อยมีสัดส่วนในการเลี้ยงสุกรให้ได้ 50% ของจำนวนสุกรที่เลี้ยงทั้งหมด เพื่อเพิ่มศักยภาพในการต่อรองราคา","นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย นางสาวรตนพร กิติกาศ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดลำปาง และนายศร ธีปฏิมากร ปศุสัตว์จังหวัดลำปาง เข้าร่วมการประชุมการตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประภัตร โพธสุธน และคณะ ณ หอประชุมอาคารโดมแผ่พืชน์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ปศุสัตว์เขต 5 ปศุสัตว์เขต 6 ปศุสัตว์จังหวัดในพื้นที่เขต 5 และเขต 6 ทีมงาน ธกส. หัวหน้าส่วนราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เกี่ยวข้อง และเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน
สำหรับการประชุมครั้งนี้ได้มีการหารือแนวทางการส่งเสริมการเลี้ยงสุกร เพื่อแก้ไขปัญหาราคาสุกร และโครงการสานฝันสร้างอาชีพ ยกระดับรายได้เกษตรกร ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวทางให้แก่เกษตรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย ได้แก่ 1.จัดทำโครงการให้การสนับสนุนสุกรแม่พันธุ์ 2 ตัวต่อราย หรือลูกสุกรขุน 20 ตัวต่อราย พร้อมอาหาร 2.ให้การสนับสนุนเงินทุน ผ่านโครงการของ ธกส. และ 3.ควบคุมการเลี้ยงให้ได้มาตรฐาน
ทั้งนี้ ในส่วนของจังหวัดลำปาง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาสุกรต่อที่ประชุม โดยเสนอให้มีการส่งเสริมให้เกษตรกรรายย่อยมีสัดส่วนในการเลี้ยงสุกรให้ได้ 50 % ของจำนวนสุกรที่เลี้ยงทั้งหมด เพื่อเพิ่มศักยภาพในการต่อรองราคา และเสนอให้มีการเพิ่มจำนวนอาสาสมัครปศุสัตว์ ให้เหมาะสมกับการเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ เพื่อให้เป็นตัวแทนของส่วนราชการในการดูแลเกษตรกร ทั้งด้านการจัดการ การสุขาภิบาล และเป็นผู้ประสานแจ้งข่าวกรณีพบโรคระบาดและปัญหาต่างๆ ตลอดจนต้องมีการเพิ่มศักยภาพด้านความรู้ วัสดุอุปกรณ์ในการปฏิบัติ ตลอดจนควรจัดระบบสวัสดิการที่เหมาะสมให้แก่อาสาสมัครปศุสัตว์ ซึ่งหลังจากนี้จังหวัดลำปางจะได้มีการจัดประชุมชี้แจงรายละเอียดโครงการให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยในพื้นที่ เพื่อสมัครเข้าร่วมโครงการ และเสนอข้อมูลให้แก่ส่วนกลางในการให้การสนับสนุนต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","10/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สวท.ลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220110132841322"], [190,"พาณิชย์จังหวัดภูเก็ต เปิดจุดจำหน่ายสินค้าราคาถูก ไข่ไก่ เบอร์ 3 แผงละ 88 บาท เนื้อหมูสด ก.ก.ละ 150 บาท และไก่สดทั้งตัว ก.ก.ละ 55 บาท เพื่อบรรเทาค่าใช้จ่ายประชาชน ตามนโยบายกระทรวงพาณิชย์","วันนี้ (วันที่ 10 มกราคม 2565) ที่ บริเวณลานจอดรถ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต เปิดเป็นจุดจำหน่ายสินค้าราคาถูกให้กับประชาชน ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อบรรเทาปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างเนื้อหมู ไข่ไก่ และไก่สด เพื่อให้ประชาชนได้มีช่องทางเลือกซื้อสินค้าที่มีราคาถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งเป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้บริโภค
นางปทุมภรณ์ แย้มเกิด ผู้อำนวยการกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต จัดโครงการพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน จังหวัดภูเก็ต ด้วยการจำหน่ายสินค้าราคาถูก อย่าง ไข่ไก่ เบอร์ 3 ราคาแผงละ 88 บาท เนื้อหมูสด กิโลกรัมละ 150 บาท และไก่สดทั้งตัว กิโลกรัมละ 55บาท ตามนโยบายกระทรวงพาณิชย์ เพื่อบรรเทาค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน วันละ 100 ชุด ตั้งแต่วันที่ 10 31 มกราคม เวลา 10.00 น. เป็นต้นไปจนกว่าสินค้าจะหมด
ทั้งนี้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต เร่งหาผลิตภัณฑ์และผู้จำหน่าย เพื่อกระจายจุดให้บริการประชาชนได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยบางวันอาจได้ผลิตภัณฑ์น้อยกว่าความต้องการของประชาชน เนื่องจากผลิตภัณฑ์หน้าฟาร์มมีปริมาณน้อย แต่ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต จะเร่งประสานผู้ประกอบการฟาร์มเพื่อจัดหาสินค้ามาให้เพียงพอกับประชาชน ตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประชาชนต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า แม้สินค้าจะมีราคาถูกกว่าท้องตลาดไม่มากนัก แต่ก็สามารถช่วยประหยัดค่าจ่ายไปได้บ้าง และอยากให้มีการจำหน่ายสินค้าราคาถูกไปเรื่อยๆ และอยากให้มีสินค้าที่มีความหลากหลายตรงกับความต้องการของประชาชนมากขึ้นด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","10/1/2022","ภาคใต้","ภูเก็ต","สวท.ภูเก็ต","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220110133221325"], [191,"กรมสรรพากรเปิดรับฟังทุกฝ่ายเพื่อหาทางออกเรื่องหลักเกณฑ์ภาษีจากกำไรสินทรัพย์ดิจิทัล สร้างความชัดเจนกับนักลงทุน","นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมสรรพากรกำลังเร่งหารือทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาหาแนวทางในเรื่องของหลักเกณฑ์การคิดภาษีจากกำไรการขายหรือการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ คริปโตเคอเรนซี ให้มีความเหมาะสมและเป็นปัจจุบัน คาดว่าจะแล้วเสร็จ ภายในเดือนมกราคม 2565 รวมถึงเดินหน้าเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนที่ดำเนินการในเรื่องของสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อนำมาจัดทำแนวทางการปฏิบัติในการเก็บภาษีจากสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับรูปแบบการลงทุนและบริบทในปัจจุบัน โดยยึดถือประโยชน์สูงสุดกับประชาชน และทุกฝ่ายเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมา การลงทุนและการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ คริปโตเคอเรนซี ของประเทศไทย มีการเติบโตและเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด ถือได้ว่าเป็นเรื่องใหม่ทั้งสำหรับผู้เสียภาษีและกรมสรรพากร ซึ่งกรมสรรพากรไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการศึกษาและประมวลผลต่างๆ มาโดยตลอด พร้อมยอมรับว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย ซึ่งกำลังเร่งดำเนินการเพื่อหาความชัดเจนต่อไป
อย่างไรก็ตาม กรมสรรพากรยังคงยึดแนวทางของการถือเอาผู้เสียภาษีเป็นศูนย์กลาง จึงพร้อมที่จะหาแนวทางปฏิบัติเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้แก่นักลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องจากการถือครองหรือได้รับผลประโยชน์จากสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการลงทุน และสร้างแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจจากนวัตกรรมทางการเงินดังกล่าวของประเทศต่อไป
","10/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220110160247446"], [192,"เรือโดยสารคลองแสนแสบ ปรับอัตราค่าโดยสารขึ้นอีก 1 บาท เริ่ม 14 มกราคมนี้","นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าเรือด่วนคลองแสนแสบเตรียมปรับขึ้นราคาค่าโดยสารอีก 1 บาท จาก 8 บาท เป็น 9 บาท ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2565 เป็นต้นไป ว่า ปัจจุบัน ราคาน้ำมัน ปรับสูงขึ้น เกินกว่า 25 บาทต่อลิตร และที่ผ่านมา บริษัท ครอบครัวขนส่ง ซึ่งให้บริการเดินเรือโดยสารคลองแสนแสบ ได้จัดเก็บอัตราค่าโดยสารเริ่มต้นเพียง 8 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาที่กรมเจ้าท่าประกาศไว้เมื่อปี 2563 เดิมในสถานการณ์ปกติจะมีประกาศ คกก. เรือประจำทาง ปี 2559 กำหนดให้ค่าโดยสาร สามารถปรับขึ้นลงตามอัตราราคาน้ำมัน ซึ่งในเดือนมีนาคม 2563 ราคาน้ำมันอยู่ที่ 24 บาท และมีอัตราค่าโดยสาร ของเส้นทางคลองแสนแสบ เริ่มต้นที่ 8 บาท แต่ด้วยสถานที่มีจำนวนคนโดยสาร ลดลงมากจากสถานการณ์โควิด-19 เหลือ ร้อยละ 10 ทำให้การเดินเรือประจำทางประสบภาวะขาดทุนหนักมาก และไม่สามารถคงการเดินเรือให้บริการได้ผู้ประกอบการเดินเรือคลองแสนแสบจึงยังคงอัตราค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 8 บาท ทั้งที่กรอบในการจัดเก็บเส้นทางแสนแสบจะเริ่มต้นที่ 9 บาท ดังนั้น เพื่อให้ผู้ประกอบการเดินเรือสามารถรักษาการให้บริการได้ต่อไป
กรมเจ้าท่า จึงอนุมัติให้ บริษัท ครอบครัวขนส่ง ปรับอัตราค่าโดยสารที่ระดับราคาน้ำมันเกิน 25 บาท สามารถให้ใช้ราคาเริ่มต้นที่ 9 บาทได้ เพื่อให้ผู้ให้บริการสามารถเดินเรือประจำทางได้ตามที่กฎหมายกำหนดไว้
","10/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220110150345385"], [193,"แนะผู้ส่งออกไทยใช้ประโยชน์จาก FTA อาเซียน-เกาหลีใต้ และ RCEP ขยายตลาดส่งออกเกาหลีใต้ หลังเตรียมลดภาษีเพิ่มให้สินค้าไทยหลายรายการ","
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจของเกาหลีใต้ในปี 2565 คาดว่ามีแนวโน้มจะขยายตัวเพิ่มขึ้น จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในประเทศ ส่งผลให้ความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้ากลุ่มวัตถุดิบที่ใช้ในภาคการผลิตของเกาหลีใต้อยู่ในช่วงขาขึ้น จึงเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไทยจะขยายการส่งออกไปตลาดเกาหลีใต้ โดยสามารถเลือกใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) 2 ฉบับ ได้แก่ อาเซียน-เกาหลีใต้ (AKFTA) ซึ่งได้ยกเลิกเก็บภาษีนําเข้าสินค้าให้ไทยกว่าร้อยละ 90.9 ของรายการสินค้าทั้งหมด และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้กับเกาหลีใต้ในวันที่ 1 ก.พ. 2565 ทั้งนี้ความตกลง RCEP ไทยประสบความสำเร็จในการผลักดันให้เกาหลีใต้เปิดตลาดเพิ่มเติมจาก AKFTA หลายรายการ อาทิ ทุเรียน มังคุด ฝรั่ง มะละกอ และอินทผาลัม เก็บภาษีที่อัตราร้อยละ 24-36 โดยจะทยอยลดจนเหลือศูนย์ ในปี 2574 นอกจากนี้ ปลาซาร์ดีนกระป๋อง ทูน่าแปรรูป และอาหารทะเลแปรรูป เก็บภาษีที่อัตราร้อยละ 20 และจะทยอยลดจนเหลือศูนย์ ในปี 2579 เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้ประกอบการไทยจะได้ประโยชน์จากการเพิ่มโอกาสสะสมถิ่นกำเนิดในเครือข่ายการผลิตสินค้าจากสมาชิก RCEP ทั้ง 15 ประเทศ ซี่งใช้เกณฑ์ถิ่นกำเนิดสินค้าเดียวกัน ทำให้มีความสอดคล้องและยืดหยุ่นมากขึ้น และยังสามารถสะสมวัตถุดิบในการผลิตได้จากหลายแหล่งมากขึ้น
ทั้งนี้ เกาหลีใต้เป็นตลาดคู่ค้าสำคัญของไทยที่น่าจับตามองในขณะนี้ เนื่องจากไทยมียอดส่งออกสินค้าไปเกาหลีใต้ขยายตัวสูงต่อเนื่อง โดยปีที่ผ่านมา (ม.ค.-พ.ย. 2564) มูลค่าการส่งออกไปเกาหลีใต้กว่า 5,373 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 39 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น ยางพารา ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ คอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น
","10/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220110145910378"], [194,"ธอส. เปิดขายสลาก ต่อเงินต่อทอง ลุ้นรางวัลเป็นสลากมูลค่าสูงสุด 1 ล้านบาท เริ่มจำหน่าย 12 มกราคมนี้","นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ได้จัดทำผลิตภัณฑ์ สลากออมทรัพย์ ชุดต่อเงินต่อทอง มูลค่าหน่วยละ 10,000 บาท กรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท อายุสลาก 3 ปี ให้ผลตอบแทนหน้าสลาก ร้อยละ 0.50 ต่อปี เมื่อฝากครบกำหนดจะได้รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยรวมหน่วยละ 10,150 บาท อีกทั้งยังมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลเป็นสลากออมทรัพย์ชุดต่อเงินต่อทองเพื่อเพิ่มโอกาสในการถูกรางวัลมากขึ้น ทุกเดือน รวม 36 ครั้ง
และยังเป็นสลากที่มีผลตอบแทนสูง โดยซื้อสลากเพียง 10 หน่วย หรือ 100,000 บาท จะได้รับผลตอบแทนขั้นต่ำคิดเป็นร้อยละ 0.86 ต่อปี นอกจากนี้ผู้ซื้อยังมีโอกาสถูกรางวัลสูง โดยรางวัลที่ 1 เป็นสลากมูลค่า 1 ล้านบาท รางวัลที่ 2 สลากมูลค่า 100,000 บาท รางวัลที่ 3 สลากมูลค่า 20,000 บาท รางวัลที่ 4 สลากมูลค่า 10,000 บาท และรางวัลพิเศษ รวมทั้งได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับดอกเบี้ยและเงินรางวัลอีกด้วย เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2565 จนกว่าจะเต็มกรอบวงเงิน และเริ่มออกรางวัลครั้งแรก วันที่ 17 มกราคม 2565 ผู้ที่สนใจสามารถซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. ผ่าน Mobile Application : GHB ALL หรือที่สาขาของธนาคาร ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ
","10/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220110152614406"], [195,"พาณิชย์จังหวัดปัตตานี ติดตามโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน","
วันที่ 10 มกราคม 2565 นางสาวจินตะณา ปิ่นสุภา พาณิชย์จังหวัดปัตตานี มอบหมายกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดปัตตานี ลงพื้นที่ติดตาม โครงการหมูพาณิชย์... ลดราคา! ช่วยประชาชน จังหวัดปัตตานี (ครั้งที่ 2) จำหน่ายหมูเนื้อแดง ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ตั้งแต่วันที่ 6 - 15 มกราคม 2565 เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน จากภาวะราคาเนื้อหมูที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ จังหวัดปัตตานี มีจุดจำหน่าย 3 จุด ดังนี้
1. ร้านตั้มหมูซิ่ง ถนนนเกลือ ซอย14
2. ร้านป้าใจ ตลาดสดเทศวิวัฒน์
3. ร้านพี่หยอย ถนนมะกรูด ซอย 7
และติดตามร้านจำหน่ายหมูในพื้นที่ จำนวน 2 ร้าน
1. ร้านสันติฟาร์ม จำหน่ายหมูเนื้อแดงราคากิโลกรัมละ 175 บาท
2. บิ๊กซีซุปเปอร์เซ็นเตอร์ จำหน่ายหมูเนื้อแดงราคากิโลกรัมละ 175 บาท
ทั้ง 2 ร้านได้มีการปิดป้ายแสดงราคาให้ประชาชนได้เปรียบเทียบก่อนตัดสินใจซื้ออย่างชัดเจนเป็นไปตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","10/1/2022","ภาคใต้","ปัตตานี","สวท.ปัตตานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220110144926362"], [196,"Sky Walk @ควนเจดีย์ อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยว ชูจุดเด่นทะเลหมอกยามเช้า มนต์เสน่ห์ที่น่าหลงใหล","Sky Walk @ควนเจดีย์ อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยว ชูจุดเด่นทะเลหมอกยามเช้า มนต์เสน่ห์ที่น่าหลงใหล
สกายวอล์ค Sky Walk @ควนเจดีย์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลลำไพล อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา จุดไฮไลท์ของสถานที่แห่งนี้ คือ จุดชมทะเลหมอกยามเช้า พร้อมชื่นชมทิวทัศน์ธรรมชาติแบบ 360 องศา และที่สำคัญมีองค์เจดีย์อันเป็นที่เคารพสักการะของคนในชุมชนมานานกว่า 300 ปี
จังหวัดสงขลา ได้ร่วมกับเทศบาลตำบลลำไพล และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยว ปรับปรุงภูมิทัศน์ และจัดทำ Sky Walk เป็นจุดชมทะเลหมอกแห่งใหม่ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ให้เดินทางมาพักผ่อนในช่วงวันหยุด เทศกาล หรือวันสำคัญ มานอนกางเต็นท์ชมหมอกหนายามเช้า รอชมแสงแรกของพระอาทิตย์ และชมพระอาทิตย์ตกดินในยามเย็น
นายเล็ก ขาวทอง นายกเทศมนตรีตำบลลำไพล กล่าวว่า จุดเริ่มต้นในการพัฒนาและฟื้นฟูควนเจดีย์ เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านที่ต้องการมีแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งได้เล็งเห็นความพร้อมของควนเจดีย์ ทั้งในด้านโบราณสถาน ยอดเขาที่มีความสูง มองเห็นทิวทัศน์ได้โดยรอบ และนอกเหนือจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้ว ยังสามารถพัฒนาเป็นแหล่งสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน
อีกทั้ง ทางเทศบาลตำบลลำไพล มีความคาดหวังอย่างยิ่งว่าจุดชมวิวยอดควนเจดีย์ของอำเภอเทพา จะเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่จะตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน ให้ได้มาสัมผัสวิถีธรรมชาติอย่างแท้จริง เกิดความรู้สึกประทับใจ และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้มายังควนเจดีย์แห่งนี้
สำหรับเส้นทางขึ้นสู่จุดชมวิวยอดควนเจดีย์ ได้พัฒนาเป็นถนนคอนกรีตที่สะดวกต่อการเดินทาง หรือผู้ที่รักสุขภาพก็สามารถจอดรถไว้บริเวณทางขึ้น แล้วเดินเท้าเพื่อออกกำลังกาย แต่ทั้งนี้ประชาชนและนักท่องเที่ยวจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความปลอดภัย ความมั่นใจให้กับตนเอง และผู้อื่น
นอกจากนี้ ในอนาคตทางเทศบาลตำบลลำไพล มีแนวคิดที่จะสร้างหอชมวิว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปสัมผัสอากาศธรรมชาติแบบใกล้ชิด รวมถึงการปรับพื้นที่บางส่วนเปิดเป็นร้านกาแฟ โดยการระดมทุน ด้วยการเข้าหุ้นของชาวบ้านเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ตลอดจนการพัฒนาปรับปรุงห้องน้ำและลานจอดรถให้สามารถรองรับการบริการได้มากยิ่งขึ้น
ศิริลักษณ์ แคล้วคลาด / ข่าว-ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
","10/1/2022","ภาคใต้","สงขลา","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220110153222417"], [197,"สพจ.ชัยภูมิจัดกิจกรรม สะออนสตรี ของดีชัยภูมิ สินค้า OTOP ของกิน ของใช้ ผ้าไหม ผ้าฝ้าย (ครั้งที่ 3)","วันที่ 8 มกราคม 2565 จังหวัดชัยภูมิ โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดชัยภูมิ ได้จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ จำนวน 25 บูธ ณ ลานกิจกรรมหน้าร้านวัตสัน (Watsons) ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ชัยภูมิ โดยการจัดงานครั้งนี้ ถือเป็นการกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกลุ่มอาชีพสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีภายในจังหวัด ตลอดจนประชาสัมพันธ์ผลสำเร็จของการดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีในการสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียน ผ่านผลิตภัณฑ์กลุ่มอาชีพ ของสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และเป็นการตอบสนองการดำเนินงานขับเคลื่อนงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีตามยุทธศาสตร์กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และเป็นการส่งเสริมช่องทางการตลาดของกลุ่มอาชีพสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี
สรุปยอดขายสินค้า ตามโครงการส่งเสริมช่องทางการตลาดกลุ่มอาชีพสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี สะออนสตรี ของดีชัยภูมิ ครั้งที่ 3 วันที่ 8 มกราคม 2565 ยอดรวม 87,300 บาท
กลุ่มที่มียอดขายจำหน่ายสินค้าดีสูงสุด 3 อันดับ ดังนี้ อันดับ 1 กลุ่มทอผ้าไหมบ้านส้มป่อย อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ จำนวนเงิน 33,800 บาท, อันดับ 2 กลุ่มแปรรูปผ้าบ้านหนองแก อำเภอแก้งกร้อ จังหวัดชัยภูมิ จำนวนเงิน 6,000 บาท และอันดับ 3 กลุ่มสตรีสหกรณ์บ้านโนนแต้ หมู่ที่ 8 อำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ จำนวนเงิน 5,240 บาท
การจัดกิจกรรมโครงการส่งเสริมช่องทางการตลาดกลุ่มอาชีพสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดชัยภูมิ ปีงบประมาณ 2565 ดำเนินการจัดโครงการ จำนวน 6 ครั้งดังนี้/ครั้งที่ 1 วันที่ 27 ธันวาคม 2564/ครั้งที่ 2 วันที่ 28 ธันวาคม 2564/ครั้งที่ 3 วันที่ 8 มกราคม 2565/ครั้งที่ 4 วันที่ 9 มกราคม 2565/ครั้งที่ 5 วันที่ 15 มกราคม 2565 และครั้งที่ 6 วันที่ 16 มกราคม 2565 ซึ่งการจัดโครงการฯ ครั้งที่ 1-3 มียอดการจำหน่ายสินค้ารวมเป็นเงินทั้งสิ้น 231,484 บาท
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","10/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ชัยภูมิ","สวท.ชัยภูมิ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220110161218454"], [198,"ปลัดกรุงเทพมหานคร ติดตามการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองบางลำพู ส่งเสริมการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนริมคลอง","
นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลและกรุงเทพมหานครมีนโยบายจัดระเบียบปรับปรุงภูมิทัศน์และพัฒนาสภาพแวดล้อมโดยรอบเกาะรัตนโกสินทร์ เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงามพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางวัฒนธรรม โดยประชาชนสามารถเข้าใช้ประโยชน์ในที่สาธารณะร่วมกันอย่างสมบูรณ์และยั่งยืน กรุงเทพมหานครจึงได้ดำเนินปรับปรุงภูมิทัศน์คลองบางลำพู เพื่อพัฒนาเป็นเส้นทางส่งเสริมการท่องเที่ยว ระยะทางประมาณ 1,500 ม. ซึ่งที่ผ่านมาได้ออกแบบการปรับปรุงภูมิทัศน์ตลอดแนวคลองและก่อสร้างทางเดินริมคลองเพิ่มเติม ปรับปรุงและก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กคลองบางลำพู ซ่อมแซมผนังลายอิฐ และติดตั้งบันไดเหล็ก รวมทั้งพัฒนาระบบระบายน้ำพื้นที่เขตชั้นในออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ปัจจุบันคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 40 คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนกรกฎาคม 2565 รวมถึงศึกษาแนวทางการเดินเรือไฟฟ้าในคลอง บำรุงรักษาและตัดแต่งต้นไม้ริมคลอง ตรวจสอบทางเท้า ฝาท่อระบายน้ำ สายไฟฟ้าและสายสื่อสาร
พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือประชาชน งดตั้งวางสิ่งของและสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำริมคลอง ไม่ทิ้งน้ำเสียลงคลอง เมื่อการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองบางลำพูแล้วเสร็จ จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่รอบเกาะรัตนโกสินทร์ สร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนริมคลอง ตลอดจนเชื่อมต่อการเดินทางและแหล่งท่องเที่ยว อาทิ พิพิธบางลำพูและสวนสันติชัยปราการ เป็นต้น
วันที่ 10 มกราคม 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคณะลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย ติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนและตรวจเยี่ยมพื้นที่บริเวณด่านศุลกากรสะพานมิตรภาพไทย-ลาว -รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์จากหน่วยงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง
โดยมูลค่าการค้าระหว่างประเทศไทย และสปป.ลาว รวมทั้งการนำเข้า-ส่งออกในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 มีมูลค่าสูงถึง 70,000 ล้านบาท ซึ่งประเทศไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าจากการส่งออกที่มากกว่าการนำเข้าถึง 6 เท่า แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะส่งผลต่อการค้าระหว่างประเทศรวมถึงการเดินทางของประชาชน แต่การค้าชายแดน ณ ด่านศุลกากรหนองคาย พบว่า การส่งออกสินค้ามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 23% YOY โดยเพิ่มขึ้นกว่า 12,000 ล้านบาท ในขณะที่การนำเข้าลดลงเพียงเล็กน้อยประมาณ 2,000 ล้านบาท คิดเป็น -8% YoY และในปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ด่านศุลกากรหนองคายจัดเก็บรายได้เข้ารัฐ จำนวน 784,087,573 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากปีงบฯ 63 จำนวน 136.19 ล้านบาท คิดเป็น 21% โดยจัดเก็บรายได้ศุลกากรสูงกว่าประมาณการที่ได้รับจากกรมฯ 5.29 ล้านบาท ภายในเวลาเพียง 9 เดือน เป็นผลจากการจับกุมเงิน 38 ล้านบาท ซึ่งผลคดีเป็นที่สิ้นสุดแล้ว ในการประชุมหารือร่วมกับภาครัฐและเอกชน ณ โรงแรมรอยัล นำคารา จังหวัดหนองคาย มีประเด็นหารือที่สำคัญ และภาคเอกชนได้มีข้อเสนอดังนี้
? การเร่งรัดก่อสร้างสะพานเชื่อมต่อทางรถไฟแห่งใหม่
? การสร้างศูนย์กระจายสินค้าเพื่อผลักดันการส่งออกผลไม้ผ่านด่านชายแดนจังหวัดหนองคาย
? การขอให้จีนเปิดตลาดสินค้าเกษตรภายใต้พิธีสารไทย-จีนที่เกี่ยวข้องสำหรับสินค้าเกษตรเพิ่มเติม
? ขอให้จีนอำนวยความสะดวกสินค้าผ่านด่าน 10 แห่งภายใต้พิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดในการกักกันโรคและตรวจสอบสำหรับการส่งออกและนำเข้าผลไม้ไทยผ่านประเทศที่สามเข้าสู่สาธารณรัฐประชาชนจีน
? การเตรียมมาตรการรองรับผลกระทบจากการนำเข้าสินค้าเกษตรจากจีนที่เพิ่มมากขึ้น
? การใช้ประโยชน์จากการขนส่งสินค้าจากไทยไปจีน ผ่านรถไฟจีน-ลาว ณ ปัจจุบัน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","10/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","หนองคาย","สวท.หนองคาย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220110190207536"], [200,"กรมการค้าภายใน บุกตรวจร้านจำหน่ายเครื่องไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือ พร้อมเอาผิดร้านค้าขายเกินราคา","นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้รับเรื่องร้องเรียน กรณีที่มีร้านค้าบริเวณศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร เรื่อง จำหน่ายเครื่องไหว้ ไม่ปิดป้ายแสดงราคาและจำหน่ายราคาสูงเกินสมควร จึงได้ดำเนินคดีตามกฎหมายฐานฝ่าฝืน ประกาศ กกร. ฉบับที่ 61 พ.ศ.2564 ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 และกรมฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมว่า มีการจำหน่ายราคาสูงเกินสมควรหรือไม่ ทั้งนี้ หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการจำหน่ายราคาสูงเกินสมควรจะมีความผิดตามมาตรา 29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
วันที่ 10 มกราคม 2565 สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลตาเบา อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เปิดศูนย์ช่วยเหลือตำบลตาเบา ประจำปี 2565 เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน เพื่อเป็นศูนย์กลางการพัฒนาและการบริการสวัสดิการสังคมสำหรับประชาชนทุกช่วงวัย เสริมสร้างการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน และภาคีเครือข่าย รวมถึงการเสริมพลัง (Empowerment) แก่กลุ่มเป้าหมาย ชุมชน และประชาชน เพื่อให้สามารถพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันได้ และเกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน โดยภายในงานมีการจำหน่ายสินค้า OTOP จากชุมชน กลุ่มแม่บ้าน และโรงเรียนผู้สูงอายุตำบลตาเบา โดยมีนางสาวพัทธิอร กาฬสุวรรณ พัฒนาสังคมแบะความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานในพิธีเปิด
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","10/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","สุรินทร์","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220110194816553"], [202,"ยังไม่อนุญาตให้ไข่ไก่-เนื้อไก่ ปรับขึ้นราคา สั่งกรมการค้าภายในติดตามอย่างใกล้ชิด","นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีไข่ไก่และเนื้อไก่ที่ปรับราคาขึ้น ว่า กระทรวงพาณิชย์ ยังไม่อนุญาตให้มีการขึ้นราคาสินค้าดังกล่าว ซึ่งอาจมีการฉกฉวยขึ้นราคา ก็จะมีการดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค แต่หากมีความจำเป็นต้องขึ้นราคาสินค้าในรายการใด ก็สามารถทำเรื่องมายังกระทรวงพาณิชย์ เพื่อพิสูจน์เป็นรายกรณีไปว่ามีความจำเป็น เพื่อไม่ให้กระทบต่อเกษตรกรรายย่อย จากการกดราคาทางนโยบายและเพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าขาดตลาดอีก ทั้งนี้ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายใน ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชน โดยจะต้องสมดุลกันระหว่างผู้บริโภค และเกษตรกรรายย่อย
ขณะที่การแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนหลังจากเนื้อหมูขึ้นราคาไปแล้วนั้น ขณะนี้มีโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน ที่กำหนดราคาหมูเนื้อแดงไว้คงที่ในกิโลกรัม (กก.) ละ 150 บาท ซึ่งมีกว่า 600 จุด และได้เตรียมเสนอของบกลาง เพื่อเร่งมาชดเชยราคาในโครงการที่ตรึงไว้ รวมทั้งอุดหนุนเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายย่อย เพื่อให้มีกำลังใจในการเลี้ยงหมูต่อไป ไม่ให้เกิดภาวะขาดแคลนในอนาคต โดยในวันพรุ่งนี้ (11 ม.ค. 65) จะชี้แจงด้วยวาจาให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบก่อนในเบื้องต้น
","10/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220110182906514"], [203,"กรมการท่องเที่ยว มอบรางวัล Smart Tourism พร้อมดันชุมชนส่งเสริมท่องเที่ยวชุมชนวิถีใหม่","
นายทวีศักดิ์ วาณิชย์เจริญ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า กรมการท่องเที่ยวจัดพิธีมอบรางวัลกิจกรรมการส่งเสริมชุมชนท่องเที่ยว รูปแบบ Smart Tourism การประกวดเส้นทางด้วยกิจกรรมท่องเที่ยวมุมมองใหม่ 2565 และการประกวดนวัตกรรมเพื่อการท่องเที่ยวโดยชุมชน เป็นการยกระดับให้เป็นชุมชนท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวครบทุกด้าน ส่งเสริมให้ชุมชนท่องเที่ยวใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย
สำหรับการจัดกิจกรรมการประกวดครั้งนี้ มีชุมชนและประชาชนที่สนใจทั่วประเทศร่วมส่งผลงานเข้าประกวดทั้ง 2 กิจกรรม รวม 540 ผลงาน ซึ่งการประกวดเส้นทางท่องเที่ยวด้วยกิจกรรมท่องเที่ยวมุมมองใหม่ 2565 มีจำนวน 415 ผลงาน และการประกวดนวัตกรรมเพื่อการท่องเที่ยวโดยชุมชน มีจำนวน 125 ผลงาน โดยผลงานที่ส่งเข้าประกวดได้ผ่านคัดเลือกเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ จำนวน 50 ผลงาน และได้มีการนำเสนอผลงานผ่านระบบออนไลน์ให้คณะกรรมการตัดสิน
ผลการประกวดรางวัลชนะเลิศทั้ง 2 ประเภท ได้แก่ การประกวดเส้นทางท่องเที่ยวด้วยกิจกรรมท่องเที่ยวมุมมองใหม่ 2564 รางวัลชนะเลิศคือ ผลงาน : เที่ยวอุดร นอนบ้านเชียง ออนซอนอีสาน ตามรอยดินดำอารยธรรมบ้านเชียงจังหวัดอุดรธานี โดย นางสาวบุษราภรณ์ กลางพรหม การประกวดนวัตกรรมเพื่อการท่องเที่ยวโดยชุมชน รางวัลชนะเลิศคือ ผลงาน: ซั้ง บ้านปลา ปะการังเทียมแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยกลุ่มการจัดการอ่าวท้องตมและการท่องเที่ยวโดยชุมชนท้องตมใหญ่ จังหวัดชุมพร
ผู้ชนะเลิศแต่ละประเภทจะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศและประกาศนียบัตร และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 อันดับ 2 รางวัลชมเชย จำนวน 27 รางวัล และรางวัลดาวรุ่งจำนวน 10 รางวัล พร้อมประกาศนียบัตรโดยผลงานที่ชนะการประกวดครั้งนี้ กรมฯจะนำไปพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ต่อไป
กลุ่มผู้ค้าน้ำมัน บริษัท ปตท. และบางจาก แจ้งว่า ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันที่ 11 ธันวาคม 2565 เป็นต้นไป ราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดและกลุ่มดีเซลทุกชนิด จะปรับราคาขึ้น 0.40 บาทต่อลิตร ยกเว้นเว้น E85 ปรับขึ้น 0.20 บาทต่อลิตร
ส่งผลให้ราคาขายปลีก น้ำมันเบนซินอยู่ที่ 39.56 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ E85 ราคาอยู่ที่ 24.34 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ E20 ราคาอยู่ที่ 30.64 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 ราคาอยู่ที่ 31.88 บาทต่อลิตรแก๊สโซฮอล์ 95 ราคาอยู่ที่ 32.15 บาทต่อลิตร ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลไฮพรีเมียม ดีเซล B7 ราคาอยู่ที่ 35.ค6 บาทต่อลิตร ไฮดีเซล B7 ไฮดีเซล S และไฮดีเซล B20 S ราคาอยู่ที่ 29.84 บาทต่อลิตร สำหรับผลิตภัณฑ์อื่นราคาคงเดิม
","10/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220110184525531"], [205,"พาณิชย์จังหวัดนนทบุรี ลงพื้นที่ตรวจติดตามโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน","
วันนี้ ( 10 มกราคม 2565) ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนนทบุรี นางสาวนิพัทธา จันย่อง พาณิชย์จังหวัดนนทบุรี ร่วมได้ประชุมผ่านระบบ Zoom Video Conference กับ นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ร่วมแก้ไขปัญหาเร่งด่วนตามภาวะราคาสุกรที่สูง พร้อมกันนี้ได้นำเจ้าหน้าที่ฯ ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินโครงการ หมูพาณิชย์ ลดราคาช่วยประชาชน ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนตามภาวะราคาสุกรที่สูงขึ้นและให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด โดยจำหน่ายหมูเนื้อแดง ราคากิโลกรัมละ 150 บาท ซึ่งจังหวัดนนทุบรี จำหน่ายระหว่างวันที่ 10-15 มกราคม ณ จุดจำหน่าย 2 จุด คือ จุดที่ 1 เบทาโกร ช็อป สาขาประชาชื่น จุดที่ 2 ร้านเฮียเตี้ย บริเวณสนามบินน้ำ โดย พาณิชย์จังหวัดนนทบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังเฝ้าระวังติตามสินค้าประเภทอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปโภค บริโภค ที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันของประชาชน ในการตรวจสอบราคา ว่าร้านค้าต่าง ๆ ขายเกินราคาที่ได้กำหนดตามกฏหมายหรือไม่ด้วย
จึงขอเชิญชวนประชาชนไปจับจ่ายเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกตามที่รัฐบาลกำหนดไว้อย่างเป็นธรรมได้ตามสถานที่แจ้งไว้ข้างต้น รวมทั้ง ประชาชนที่พบเห็นร้านค้าขายสินค้าในราคาเกินกว่าที่รัฐบาลกำหนด สามารถแจ้งได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนนทบุรี โทร 0-2591-7880 ได้ในเวลาราชการ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","10/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","นนทบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนนทบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220110195516556"], [206,"เปิดทางกู้วิกฤต หมูแพง ธ.ก.ส. พร้อมหนุนการเลี้ยงสุกรและเพิ่มผลผลิตอาหารสัตว์แบบครบวงจร เพื่อเร่งแก้ปัญหาราคาเนื้อสุกรที่เพิ่มสูงขึ้น","เปิดทางกู้วิกฤต หมูแพง ธ.ก.ส. พร้อมหนุนการเลี้ยงสุกรและเพิ่มผลผลิตอาหารสัตว์แบบครบวงจร เพื่อเร่งแก้ปัญหาราคาเนื้อสุกรที่เพิ่มสูงขึ้น และเพื่อสร้างระบบการเลี้ยงสุกรที่ส่งผลดีทั้งต่อเกษตรกรผู้ผลิตและผู้บริโภค ผ่านโครงการสินเชื่อพิเศษอัตราดอกเบี้ยต่ำ ดังต่อไปนี้
สินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ สำหรับเกษตรกรรายย่อยและบุคคลในครัวเรือนที่ประสงค์จะกู้เงิน เพื่อไปลงทุนเลี้ยงสุกรหรืออื่นๆ เพื่อเป็นการสร้างอาชีพ
วงเงินกู้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อรายอัตราดอกเบี้ย กรณีเป็นค่าลงทุนปีที่ 1-3 ร้อยละ 4 ต่อปี ปีที่ 4-5 MRR (ปัจจุบัน MRR เท่ากับร้อยละ 6.5 ต่อปี)
สินเชื่อ Food Safety เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนหรือเพื่อเป็นค่าลงทุนในการส่งเสริมการประกอบอาชีพที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อัตราดอกเบี้ยกรณีเกษตรกร MRR (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ ร้อยละ 6.5 ต่อปี)
สินเชื่อเสริมแกร่ง SME เกษตร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนหรือค่าลงทุนในการประกอบธุรกิจ โดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการลดต้นทุน
วงเงินกู้ไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 2 ร้อยละ 4 ต่อปี
เกษตรสามารถติดต่อขอสินเชื่อได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดโทร Call Center 02 555 0555
#BAAC #ธกส
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการซื้อหมูเนื้อแดง ลดราคาที่ตลาดเทิดไท จังหวัดนครราชสีมา โดยผู้ประกอบการค้าเนื้อสุกรได้เข้าร่วมโครงการขายหมูเนื้อแดงในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ซึ่งมีประชาชนมาซื้อหมูตามร้านที่เข้าโครงการทั้ง 6 ร้านอย่างคึกคักทุกวัน โดยจำกัดการซื้อเพื่อให้เกิดการกระจายอย่างทั่วถึง และหลังเปิดแผงขายก็ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงหมูเนื้อแดงก็ขายหมดตามจำนวน 50 กก.ต่อร้าน
นายศารุมภ์ โหม่งสูงเนิน พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การดำเนินโครงการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน จังหวัดนครราชสีมา (ครั้งที่ 2) เป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาหมูที่สูงขึ้นและให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งเป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภค โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับตลาดเทิดไทและผู้ประกอบการค้าเนื้อสุกรชำแหละ ลดราคาเพื่อผู้บริโภค ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท จนถึงวันที่ 15 มกราคม 2565 โดยจะจำหน่ายจนกว่าเนื้อหมูจะหมดทุกวัน หรือหากมีการขยายระยะเวลาก็จะได้ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆให้ประชาชนทราบต่อไป
น.ส.สุคนธ์ทิพย์ พนมเสริฐ ผู้จัดการตลาดเทิดไท (ตาลคู่) จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ตลาดเทิดไทได้เข้าร่วมโครงการนี้เป็นการสนับสนุนนโยบายภาครัฐที่พยายามจะช่วยเหลือประชาชนในภาวะวิกฤต เพื่อสามารถที่จะให้ประชาชนลดภาระค่าใช้จ่ายในการครองชีพได้ส่วนหนึ่ง อีกทั้งเป็นการช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าที่มีโอกาสทางการค้าสนับสนุนในการที่จะช่วยภาคครัวเรือน ลดภาระค่าใช้จ่าย เพราะจริงๆแล้วหมูเป็นปัจจัยสำคัญ ที่เป็นอาหารของหลักหลายๆ ครัวเรือน รับประทานหมูร้อยละ 90 เป็นหลัก เพราะฉะนั้นจึงเป็นปัจจัยสำคัญถ้าหากประชาชนมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นก็จะทำให้ภาพรวมค่าใช้จ่ายครัวเรือนหนักไป ดังนั้นเมื่อหน่วยราชการมาติดต่อทางตลาดก็รีบดำเนินการประสานกับร้านค้า ซี่งได้รับการตอบรับด้วยดีตั้งแต่วันแรกที่มีการร้องขอ ในเบื้องต้นทางตลาดพยายามช่วยกันลดราคาหมู จาก 200 หรือ 220 บาท โดยหลายร้านราคาอยู่ที่ 180 หรือ 170 บาท ราคาเต็มจริงๆ ก็คือ 190 เต็มเพดานก็คือ 200 ตามตารางตลาด แต่ ณ ตอนนี้พยายามช่วยกันส่งเสริมเพื่อให้ทั้งคนที่ขายหมูอยู่ได้ พ่อค้าแม่ค้าอยู่ได้ คนซื้ออยู่ได้ โดยภาครัฐก็ดูแลประชาชนได้ โดยร้านที่เข้าร่วมโครงการหมูเนื้อแดง กก.ละ 150 บาท มีจำนวน 6 จุด ได้แก่ 1.ร้านหมูไอที 2. ร้านธนพร 3.ร้านสถานีหมูสด 4. ร้านเฮียเขียว 5. ร้านเจ้บีหมูสด 6. ร้านอุ๊บอิ๊บ แต่ละร้านมีโควต้าขายร้านละ 50 กิโลกรัมต่อวัน และฝากถึงประชาชนในจังหวัดนครราชสีมาหรือจังหวัดใกล้เคียง โดยเฉพาะทางอีสานใต้ที่เข้ามาใช้บริการตลาดเทิดไทขอให้มีความมั่นใจในการควบคุมโรคโควิด-19 ของตลาดเทิดไท ที่มีพื้นที่กว่า 107 ไร่ ซึ่งการจัดผัง การจัดร้านค้า การจัดแผง ถูกสุขลักษณะของสาธารณสุขทุกประการ ทางตลาดมีวิธีการป้องกันโรคตั้งแต่ประตูทางเข้า โดยมีการตรวจวัดอุณหภูมิ การให้ผู้ที่เข้ามาในตลาดสวมหน้ากากอนามัย100% ส่วนพื้นที่ในอาคารแต่ละแห่งจะให้มีสแกนคิวอาร์โค๊ดหรือลงชื่อพร้อมสแกนอุณหภูมิก่อนเข้าภายในอาคาร เพราะฉะนั้น โดยรวมแล้วพื้นที่ของตลาดเทิดไทมีความปลอดโปร่ง โล่ง ทำให้ประชาชนที่มาซื้อสินค้ามีความมั่นใจในการบริหารจัดการในทุกๆระบบ นอกจากอาหารสดประเภทเนื้อสัตว์แล้วตลาดเทิดไทยังมีสินค้าผัก ผลไม้ และแหล่งจำหน่ายอาหารทะเลที่ใหญ่สุดในย่านนี้ด้วย ขอให้เชื่อมั่นในด้านความปลอดภัยทุกอย่างสำหรับผู้ใช้บริการในตลาดเทิดไท (ตาลคู่)
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","10/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","นครราชสีมา","สวท.นครราชสีมา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220110224033583"], [208,"จ.หนองคาย รองนายกรัฐมนตรีประชุมร่วมภาครัฐและเอกชน","รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน และร่วมประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ ที่จังหวัดหนองคาย
บ่ายวันนี้ (10 ม.ค. 65) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน และประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ ที่จังหวัดหนองคาย เริ่มจากติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน และตรวจเยี่ยมพื้นที่บริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จังหวัดหนองคาย โดยมีนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นางสาวสิริมา วัฒโน รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, พ.ต.อ.ณรัชต์พล เลิศรัชตะปภัสร์ นายด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปสถานการณ์การค้าชายแดน ซึ่งจากสถิติการค้าชายแดนปีงบประมาณ 2564 มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับ สปป.ลาว รวมทั้งการนำเข้า-ส่งออก ที่ผ่านด่านศุลกากรหนองคาย มีมูลค่าสูงกว่า 70,000 ล้านบาท พบว่าการส่งออกสินค้ามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า ร้อยละ 23 โดยเพิ่มขึ้นกว่า 12,000 ล้านบาท ในขณะที่การนำเข้าลดลงเพียงเล็กน้อยประมาณ 2,000 ล้านบาท คิดเป็นลดลง ร้อยละ 8
จากนั้นนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ็ได้เป็นประธานในการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ ณ ห้องประชุมคอนเวนชั่นฮอล์ โรงแรมรอยัลนาคาราและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์หนองคาย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ในการประชุมร่วมฯ ในครั้งนี้ภาคเอกชนได้มีข้อเสนอสำคัญหลายเรื่อง เช่น การเร่งรัดก่อสร้างสะพานเชื่อมต่อทางรถไฟแห่งใหม่ หรือสะพานหนองคาย แห่งที่ 2 การสร้างศูนย์กระจายสินค้าเพื่อผลักดันการส่งออกผลไม้ผ่านด่านชายแดนจังหวัดหนองคาย ขอให้จีนเปิดตลาดสินค้าเกษตรภายใต้พิธีสารไทย-จีนที่เกี่ยวข้องสำหรับสินค้าเกษตรเพิ่มเติม ขอให้จีนอำนวยความสะดวกสินค้าผ่านด่าน 10 แห่งภายใต้พิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดในการกักกัดโรคและตรวจสอบสำหรับการส่งออกและนำเข้าผลไม้ไทยผ่านประเทศที่สามเข้าสู่จีน การเตรียมมาตรการรองรับผลกระทบจากการนำเข้าสินค้าเกษตรจากจีนที่เพิ่มมากขึ้น การใช้ประโยชน์จากการขนส่งสินค้าจากไทยไปจีน ผ่านรถไฟจีน-ลาว นอกจากนี้ยังได้มีการเสนอขอให้มีการเปิดด่านรถไฟ ด่านท่าเรือหายโศก และจุดผ่อนปรนบ้านหม้อ เพื่อเป็นช่องทางในการขนส่งสินค้า เป็นการลดความแออัดในการขนส่งสินค้าจากด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จังหวัดหนองคาย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
จังหวัดหนองคาย โดยสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดหนองคาย จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) การจัดจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์แปรรูปโกโก้ ภายใต้แบรนด์ นาคีโกโก้หนองคาย เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงตลาด และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตร (โกโก้) เพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรอย่างยั่งยืน และเกิดผลเป็นรูปธรรม
วันนี้(10 มกราคม 65) ที่ห้องประชุมสหกรณ์การเกษตรสังคม จำกัด ตำบลแก้งไก่ อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย จังหวัดหนองคาย โดยสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดหนองคาย ได้จัดให้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) การจัดจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์แปรรูปโกโก้ ภายใต้แบรนด์ นาคีโกโก้หนองคาย ระหว่างสหกรณ์การเกษตรสังคม จำกัด ,กลุ่มสังคมโกโก้ และกลุ่มกาแฟโกโก้ลุ่มน้ำโขง กับร้านอาหารและเครื่องดื่มในพื้นที่อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย จำนวน 9 ร้าน โดยมีนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย , นายสมควร ใจซื่อ นายอำเภอสังคม , นายอำไพ ประเสริฐสังข์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดหนองคาย พร้อมตัวแทนจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในจังหวัดหนองคาย , ตัวแทนจากสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย , ตัวแทนกลุ่มเกษตรกร และจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นสักขีพยาน
พิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ในครั้งนี้ เกิดขึ้นเนื่องจาก การที่จังหวัดหนองคายได้กำหนดให้โกโก้ เป็นสินค้าทางเลือกชนิดหนึ่งของจังหวัด และทางจังหวัดก็ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณในการขับเคลื่อนโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัด ประจำปีงบประมาณ 2565 ให้ดำเนินงานโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการตลาดสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมที่สำคัญกิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโกโก้ อีกทั้งนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี ได้สนับสนุนงบประมาณกลาง รายการเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินจำเป็น โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการแปรรูปโกโก้ ดังนั้นเพื่อให้การขับเคลื่อนโกโก้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเพิ่มช่องทางการตลาดและสร้างรายได้แก่เกษตรกร รวมถึงผู้ประกอบการ สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดหนองคาย ในฐานะผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้จัดให้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) การจัดจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์แปรรูปโกโก้ ภายใต้แบรนด์ นาคีโกโก้หนองคาย ในครั้งนี้ขึ้น
นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่าการลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) การจัดจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์แปรรูปโกโก้ ภายใต้แบรนด์ นาคีโกโก้หนองคาย ในครั้งนี้ เป็นการร่วมมือกันเพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์โกโก้ ให้มีช่องทางจำหน่ายมากขึ้น ซึ่งขอยืนยันว่าทางจังหวัดหนองคาย พร้อมที่จะสนับสนุนให้โกโก้เป็นสินค้าที่ขึ้นชื่อของอำเภอสังคม นอกจากโกโก้แล้วจังหวัดหนองคาย ยังมีการส่งเสริมสนับสนุนสินค้าชนิดอื่น ๆ เช่นกล้วยตาก และสับปะรด เป็นต้น แต่โกโก้ถือเป็นแบรนด์ของคนรุ่นใหม่ เพราะในปัจจุบันนี้คนทั่วไปชอบดื่มกาแฟเพิ่มมากขึ้น โกโก้ถือเป็นสินค้าชนิดหนึ่งที่จะแทรกอยู่ในร้านกาแฟได้ ทำให้เป็นที่สนใจของประชาชน จึงหวังว่าการเพิ่มช่องทางจำหน่ายฯในครั้งนี้ จำให้สินค้าแปรรูปจากโกโก้จำหน่ายได้เพิ่มมากขึ้น
นายอำไพ ประเสริฐสังข์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดหนองคาย กล่าวว่าจากสถานการณ์ที่สินค้าการเกษตรอื่นมีปัญหาในเรื่องของการตลาด ทางรัฐบาลเองก็พยายามให้แต่ละพื้นที่ แต่ละจังหวัดได้หาช่องทาง ได้หาสินค้าเกษตรทางเลือกที่จะลดปัญหาในเรื่องของสินค้าล้นตลาด ในส่วนของจังหวัดหนองคายได้มีการพิจารณาให้โกโก้เป็นสินค้าเกษตรที่มีความเหมาะสมในการที่จะปลูกในพื้นที่จังหวัดหนองคาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตพื้นที่อำเภอสังคม จากข้อมูลของกรมพัฒนาที่ดินพบว่า มีพื้นที่มีความเหมาะสมในการปลูกโกโก้ประมาณ 5 หมื่นไร่ แต่เป้าหมายที่จังหวัดหนองคายได้กำหนดไว้เพื่อไม่ให้มีสินค้าโกโก้เกินความต้องการของตลาด จึงได้กำหนดพื้นที่ในการปลูกไว้ไม่เกิน 1 พันไร่ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่อำเภอสังคม ปัจจุบันนี้มีเกษตรกรได้เริ่มปลูกโกโก้ และเริ่มขายผลผลิตไปแล้ว จำนวน 53 ราย พื้นที่ปลูกประมาณ 400 กว่าไร่ อีก 2 3 ปีข้างหน้าคาดจะได้ครบตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
เกษตรและสหกรณ์จังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ในส่วนของการแปรรูปโกโก้ก็เป็นเป้าหมาย ที่หน่วยงานราชการและเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ จะได้เร่งดำเนินการ ซึ่งในอำเภอสังคม หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในจังหวัดหนองคาย ได้ร่วมกับสหกรณ์การเกษตรสังคม จำกัด ซึ่งเป็นองค์กรที่เป็นนิติบุคคล สามารถที่จะทำธุรกรรมทางด้านการเงินได้ และมีความสามารถที่จะขยายในเรื่องของขนาดของการแปรรูปได้ดีกว่าของกลุ่มเกษตรกรทั่ว ๆ ไป โดยให้สหกรณ์การเกษตรสังคม จำกัด เป็นผู้รวบรวมผลผลิตการแปรรูปจากโกโก้ ซึ่งกระบวนการทางด้านการผลิตนั้น ก็จะทำให้ได้มาตรฐานอย่างน้อยมาตรฐาน GAP ในส่วนของการแปรรูปก็จะให้ได้มาตรการในส่วนของโรงงาน และมาตรฐานทางด้านอาหารและยาด้วย.
จุมพล / หนองคาย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","10/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","หนองคาย","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220110235831598"], [210,"หมูแพงกระทบผู้ซื้อ-ผู้ขาย ต้องปรับตัว","ยะลา- หมูทอด ปรับขึ้นราคาสู้ไม่ไหวหมูแพง ขณะ หมูปิ้ง ตรึงขายเท่าเดิม ผู้บริโภคบางส่วนรับได้ บางรายหันไปทานปลาแทน หลังจากเนื้อหมู ได้ปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดตลาดสดยะลา ราคาหมูอยู่ที่ กก.ละ 230 บาท แนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก ทำให้ร้านขายหมูทอด แคบหมู ไก่ทอด ข้าวเหนียว แถวย่านหลังกองร้อยยะลา บริเวณทางเข้าถนนผังเมือง 1 ซอย 2 ได้ขึ้นราคาขายแล้ว จากเดิม หมูติดมัน หมูแดง ทอดราคา 25-30 บาท เพิ่มขึ้น 5 บาท เป็น 35 บาท แคบหมู ถุงละ 20 บาท ส่วนข้าวเหนียวยังคงเดิม ห่อละ 10 บาท พร้อมกับลดปริมาณการทำขายลง สู้กับหมูแพงไม่ไหว จากเดิมปกติทำหมูทอดขาย วันละ 30 กิโล ลดลงเหลือ วันละ 15-20 กก. เนื่องจากขายได้ไม่หมด หลังลูกค้า บอกหมูแพง ซื้อน้อยลง ไม่เหมือนเมื่อก่อนตอนนี้หมูแพง
ขณะเดียวกัน ที่ร้านขายหมูปิ้งเตาถ่าน หมูย่างนมสด - ไก่ย่างสมุนไพร ซึ่งอยู่ในละแวกเดียวกัน ยังคงตรึงราคา ขายไม้ละ 10 บาท เท่าเดิม ถึงแม้ว่า หมูปิ้งที่รับมาจาก กทม. เป็นแพ็ก เสียบไม้ ซึ่งรับมาวันละ 100 กว่าไม้เพื่อมาปิ้งขาย จากเดิม 600 กว่าบาทปรับขึ้น 10 บาท ก็ตาม แม้ค้าบอกว่ายังไหว พออยู่ได้ ขายเท่าเดิม ไม้ละ 10 บาท ข้าวเหนียว ห่อละ 5 บาท สงสารลูกค้า และไม่ได้ลดปริมาณแต่อย่างใด ถึงแม้นว่าต้นทุนจะเพิ่มก็ตาม แต่หากต่อไป ราคาหมูยังพุ่งไม่หยุด ก็ต้องมาคิดอีกทีว่าจะมีการปรับราคาขึ้นหรือไม่
นายสมใจ ทันวิมา พ่อค้าขายหมูทอด บอกว่า กว่า 2-3 เดือนแล้วที่หมูราคาแพง ตอนนี้ กก.ละ 230 บาท ขายไม่ได้กำไร ไม่ไหวแล้ว ว่าจะหยุดเหมือนกันไม่ได้อะไร ขึ้นได้ไม่เยอะ พอขึ้นทีละบาท ลูกค้าก็บ่น ถ้าเราไม่ขึ้นเราก็อยู่ไม่ได้ ต้องบอกว่า ราคาหมูแพง ก็ว่าจะหาวีธีใหม่ ซื้อผัก ซื้ออะไรมาขายที่ไม่แพงไปก่อน มีแต่ขึ้นราคาไม่ลง อยากให้รัฐบาลช่วยดูแล
ขณะที่ทางด้านผู้บริโภค บอกว่า บางร้านซื้อแกงที่มีหมูราคาก็ขึ้นแล้ว จาก 50 บาท เป็น 60 บาท ขึ้นมา 10 บาท ยังรับได้แต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ทราบดีว่าตอนนี้ราคาหมูแพงเข้าใจทางร้านที่ต้องปรับขึ้นราคา แต่ถ้ามากกว่านี้ก็คงไม่ไหว ของขึ้นทุกอย่าง ขณะที่ผู้บริโภคบางราย ก็จะรับประทานหมูให้น้อยลงหันไปทานปลาแทนก็มี
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","11/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111082645604"], [211,"จังหวัดตรังออกเยี่ยมจุดจำหน่ายเนื้อหมู ตามโครงการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน","วันนี้ นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง นายภานุวัฒน์ พูลสวัสดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง และ นายสุรจิต วิชชุวรรณ ปศุสัตว์จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ร้านน้องดิว หน้าสวนสาธารณะนาหมื่นราษฎร์ ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง และ ร้านหมูสด แยกวัดตันตยาภิรมณ์ ถนนตรัง-สิเกา เพื่อติดตามการดำเนินโครงการหมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน จังหวัดตรัง จำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์) เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาหมูที่สูงขึ้นและให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด
ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาเนื้อหมูที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2564 จากสาเหตุปริมาณการเลี้ยงลดลง ปัญหาโรคระบาด รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์มีราคาสูงขึ้น จังหวัดตรัง โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรังได้ดำเนินโครงการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชนจังหวัดตรัง เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาหมูที่สูงขึ้นและให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด เป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภคในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 และราคาเนื้อหมูปรับตัวสูงขึ้น
จังหวัดตรัง กำหนดแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหา เพิ่มช่องทางการจำหน่ายเนื้อหมูในราคาถูกกว่าท้องตลาด จำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 จำหน่ายมาแล้วเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม 2564 จำนวน 4 จุด และขณะนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ให้บริการจุดจำหน่าย 6 จุด ได้แก่ 1. ร้านหมูสด แยกวัดตัน ต.ทับเที่ยง 2. ร้านน้องดิว หน้าสวนสาธารณะนาหมื่นราษฎร์ ต.โคกหล่อ 3.ร้านเจี๊ยบหมูสด (ข้างร้านอาหารโกแป้ เจ๊บี) ต.นาตาล่วง 4.ร้านชายสี่หมูสด ตลาดคลองมวน ต.หนองปรือ 5.ร้านน้องทิพย์ค้าหมู หมู่ 8 ต.เขากอบ และ 6.ร้านบ้านหมูตวงตังค์ (บริเวณทางเข้าวัดเขาไม้แก้ว) ต.เขาไม้แก้ว โดยดำเนินโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2565 เป็นต้นไป (ระยะเวลาดำเนินการ 15 วัน)
ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์ราคาเนื้อหมูที่ปรับราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลมีมาตรการแก้ปัญหาราคาสุกรแพง ได้แก่
1. ห้ามส่งออกสุกรมีชีวิต 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2565 ถึง วันที่ 5 เมษายน 2565
2. ช่วยเหลือราคาอาหารสัตว์ จัดสินเชื่อพิเศษ เพื่อให้เกษตรกรได้กลับมาเลี้ยงใหม่ ตรึงราคาจำหน่ายที่เหมาะสมสอดคล้องต้นทุนที่เกิดขึ้น
3. ส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ
4. ผลักดันการยกระดับมาตรฐานฟาร์มของเกษตรกร เพื่อป้องกันโรคระบาดส่งเสริมให้ปรับปรุงเป็นฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม (GFM) มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่ามาตรฐานฟาร์ม GAP
5.กำหนดให้ผู้เลี้ยงสุกร ผู้จำหน่าย ผู้ส่งออก ซึ่งครอบครองสุกรมีชีวิตที่มีบริมาณตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป และผู้ครอบครองสุกรชำแหละผ่าซีกเนื้อสุกรชำแหละแยกชิ้นส่วนที่มีบริมาณรวมกันตั้งแต่ 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป แจ้งปริมาณ ราคาจำหน่าย สถานที่เก็บและสถานที่เลี้ยง ทุกวันจันทร์
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ตนเองได้พบปะพ่อค้าแม่ค้าผู้จำหน่ายหมูสด รวมถึงประชาชนที่มาซื้อเนื้อหมูได้รับทราบปัญหาและสภาพข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปหารือกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาในระดับพื้นที่เพื่อบรรเทาผลกระทบของน้องประชาชนชาวตรังต่อไป อย่างไรก็ตาม ตนเองได้กำชับให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคา ซึ่งส่วนใหญ่ได้ปิดป้ายแสดงราคา ชัดเจน
หากผู้บริโภคไม่ได้รับเป็นธรรมทางการค้าหรือได้รับความเดือดร้อนจากการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและบริการ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร สามารถร้องเรียนได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง โทร 0 7522 3076 สายด่วน 1569 หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง หมายเลขโทรศัพท์ 0 7521 7144
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","11/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111085950608"], [212,"ผู้ว่าฯ ตรัง ตรวจเยี่ยมจุดจำหน่ายเนื้อหมู ตามโครงการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน","วันนี้ (11 มกราคม 2565) เวลา 07.00 น. นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง นายสุรจิต วิชชุวรรณ ปศุสัตว์จังหวัดตรัง และ นายภานุวัฒน์ พูลสวัสดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง ลงพื้นที่ร้านน้องดิว หน้าสวนสาธารณะนาหมื่นราษฎร์ ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง และ ร้านหมูสด แยกวัดตันตยาภิรมณ์ ถนน ตรัง-สิเกา เพื่อติดตามการดำเนินโครงการหมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน จังหวัดตรัง จำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์) เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาหมูที่สูงขึ้นและให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด
ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาเนื้อหมูที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2564 จากสาเหตุปริมาณการเลี้ยงลดลง ปัญหาโรคระบาด รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์มีราคาสูงขึ้น จังหวัดตรัง โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรังได้ดำเนินโครงการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชนจังหวัดตรัง เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาหมูที่สูงขึ้นและให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด เป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภคในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 และราคาเนื้อหมูปรับตัวสูงขึ้น
จังหวัดตรัง กำหนดแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหา เพิ่มช่องทางการจำหน่ายเนื้อหมูในราคาถูกกว่าท้องตลาด จำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 จำหน่ายมาแล้วเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม 2564 จำนวน 4 จุด และขณะนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ให้บริการจุดจำหน่าย 6 จุด ได้แก่ 1. ร้านหมูสด แยกวัดตัน ต.ทับเที่ยง 2. ร้านน้องดิว หน้าสวนสาธารณะนาหมื่นราษฎร์ ต.โคกหล่อ 3.ร้านเจี๊ยบหมูสด (ข้างร้านอาหารโกแป้ เจ๊บี) ต.นาตาล่วง 4.ร้านชายสี่หมูสด ตลาดคลองมวน ต.หนองปรือ 5.ร้านน้องทิพย์ค้าหมู หมู่ 8 ต.เขากอบ และ 6.ร้านบ้านหมูตวงตังค์ (บริเวณทางเข้าวัดเขาไม้แก้ว) ต.เขาไม้แก้ว โดยดำเนินโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2565 เป็นต้นไป (ระยะเวลาดำเนินการ 15 วัน)
ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์ราคาเนื้อหมูที่ปรับราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลมีมาตรการแก้ปัญหาราคาสุกรแพง ได้แก่
1. ห้ามส่งออกสุกรมีชีวิต 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2565 ถึง วันที่ 5 เมษายน 2565
2. ช่วยเหลือราคาอาหารสัตว์ จัดสินเชื่อพิเศษ เพื่อให้เกษตรกรได้กลับมาเลี้ยงใหม่ ตรึงราคาจำหน่ายที่เหมาะสมสอดคล้องต้นทุนที่เกิดขึ้น
3. ส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ
4. ผลักดันการยกระดับมาตรฐานฟาร์มของเกษตรกร เพื่อป้องกันโรคระบาดส่งเสริมให้ปรับปรุงเป็นฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม (GFM) มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่ามาตรฐานฟาร์ม GAP
5.กำหนดให้ผู้เลี้ยงสุกร ผู้จำหน่าย ผู้ส่งออก ซึ่งครอบครองสุกรมีชีวิตที่มีบริมาณตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป และผู้ครอบครองสุกรชำแหละผ่าซีกเนื้อสุกรชำแหละแยกชิ้นส่วนที่มีบริมาณรวมกันตั้งแต่ 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป แจ้งปริมาณ ราคาจำหน่าย สถานที่เก็บและสถานที่เลี้ยง ทุกวันจันทร์
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ตนเองได้พบปะพ่อค้าแม่ค้าผู้จำหน่ายหมูสด รวมถึงประชาชนที่มาซื้อเนื้อหมู ได้รับทราบปัญหาและสภาพข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปหารือกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาในระดับพื้นที่เพื่อบรรเทาผลกระทบของน้องประชาชนชาวตรังต่อไป อย่างไรก็ตาม ตนเองได้กำชับให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคา ซึ่งส่วนใหญ่ได้ปิดป้ายแสดงราคา ชัดเจน
หากผู้บริโภคไม่ได้รับเป็นธรรมทางการค้าหรือได้รับความเดือดร้อนจากการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและบริการ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร สามารถร้องเรียนได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง โทร 0 7522 3076 สายด่วน 1569 หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง หมายเลขโทรศัพท์ 0 7521 7144
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","11/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111090525610"], [213,"นายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์ หมู ไก่และไข่ ขึ้นราคา สั่งทุกหน่วยงานบูรณาการแก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพง","นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์และห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าและอาหารปรับตัวสูงขึ้นในหลายประเภทอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด โดยสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันบูรณาการแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเร่งด่วน
พร้อมทั้งกำชับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ กำหนดมาตรการช่วยเหลือประชาชน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยไม่ให้กระทบกลไกตลาด รวมทั้งให้คาดการณ์ในอนาคตว่าเมื่อสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาสูงขึ้นหลายชนิด จะส่งผลให้ราคาสินค้าชนิดใดสูงขึ้นตามมาอีกหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับตัวของราคาสินค้าอุปโภค-บริโภค เป็นไปตามกลไกตลาดอาหารโลก ซึ่งสอดคล้องกับดัชนีราคาอาหารโลก FAO Food Price Index: FFPI) ที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) รายงานของปี 2564 ไว้ โดยค่าเฉลี่ยของราคาสินค้าอยู่ในระดับสูงสุด นับตั้งแต่เมื่อปี 2554 ทั้งนี้ ราคาสินค้ากลุ่มอาหารสดที่สูงขึ้น เช่น เนื้อหมู เป็นผลกระทบจากต้นทุนการเลี้ยง (อาหารสัตว์ ยารักษาโรค) เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งปัญหาโรคระบาดในสุกรในหลายประเทศและมาตรการลดความเสี่ยงโดยการจำกัดจำนวนการเลี้ยงที่ทำให้ปริมาณสุกรในระบบลดลง ซึ่งจะส่งผลให้ราคาสินค้าที่บริโภคทดแทนกันได้ เช่น ไข่ ไก่ ปลา จะมีแนวโน้มปรับราคาสูงขึ้นในอนาคตได้ ในการนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกกระทรวงประเมินสถานการณ์ วางแนวทางและมาตรการต่างๆ เพื่อดูแลประชาชน
โดยจะต้องแก้ไขทั้งผลกระทบเฉพาะหน้าและเร่งหาแนวทางช่วยเหลือในระยะยาวให้ครอบคลุมทั้งกลุ่มผู้ผลิตสินค้าและประชาชนผู้บริโภค รวมทั้งเน้นย้ำให้ทุกกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมดูแลให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการของประชาชนเป็นที่ตั้ง
กรมการค้าภายใน จะลงพื้นที่ติดตามและหากพบการฉวยโอกาสขึ้นราคาก็จะมีการดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค แต่หากมีความจำเป็นต้องขึ้นราคาสินค้าในรายการใดก็สามารถทำเรื่องมายังกระทรวงพาณิชย์ เพื่อพิสูจน์เป็นรายกรณีไปว่ามีความจำเป็น ไม่ให้กระทบต่อเกษตรกรรายย่อยจากการกดราคาทางนโยบายและเพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าขาดตลาดอีก
","11/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111093214624"], [214,"สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เปิดรับฟังความคิดเห็นโครงการศึกษาการจัดทำแผน แม่บท และขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","
ผศ.ดร.สุธนา บุญเหลือ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเป็นประธานและดำเนินการจัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นโครงการศึกษาการจัดทำแผนแม่บท และขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดโดยสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ผศ.ดร.สุธนา บุญเหลือ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 65 กำหนดให้รัฐพึงจัดให้มียุทธศาสตร์ชาติ เป็นเป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนต่างๆ ให้สอดคล้องและบูรณาการกันเพื่อให้เกิดเป็นพลังผลักดันร่วมกันไปสู่เป้าหมายดังกล่าว
ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ.2560 เมื่อมีพระบรมราชโองการประกาศใช้ยุทธศาสตร์ชาติแล้ว ให้คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติแต่ละด้านจัดทำแผนแม่บทเพื่อบรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติเสนอต่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติพิจารณาให้ความเห็นชอบและเสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบและประกาศในราชกิจจานุเบกษา แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติและบรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งมีทั้งสิ้น 23 แผนแม่บท ซึ่งจะมีผลผูกพันต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องที่จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามนั้นรวมทั้งการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณต้องสอดคล้องกับแผนแม่บทซึ่งจะนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อให้ประเทศไทยบรรลุวิสัยทัศน์ประเทศไทยมีความมั่นคงมั่งคัยั่งยืนเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ภายในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อความสุขของคนไทยทุกคน
ผศ.ดร.สุธนา บุญเหลือ กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการจัดทำระเบียงเศรษฐกิจได้จัดให้ครอบคลุมในทุกภูมิภาค คือ 1) ระเบียงเศรษฐกิจภาคเหนือ 2) ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3) ระเบียงเศรษฐกิจภาคกลาง-ตะวันตก และ 4) ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้
ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจใหม่ ทั้ง 4 ระเบียงเศรษฐกิจ ผลักดันเศรษฐกิจมหภาคของประเทศไทย ให้ก้าวสู่การเป็นประเทศพัฒนาเศรษฐกิจในระดับสากล และส่งเสริมการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค ให้มีการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจ เป็นแหล่งนวัตกรรมแห่งใหม่ ทั้งด้านเทคโนโลยี วัฒนธรรม โดยใช้ประโยชน์จากศักยภาพและโอกาสของพื้นที่กระจายสู่พื้นพื้นที่โดยรอบ
สำหรับพื้นที่ที่จะพัฒนาเป็นระเบียงเศรษฐกิจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วยจังหวัดนครราชสีมา/จังหวัดขอนแก่น/จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคาย เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ และเป็นเส้นทางรถไฟความเร็วสูง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการพัฒนาในอนาคต
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","11/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ขอนแก่น","สวท.ขอนแก่น","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111101604642"], [215,"พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี ติดตามการจำหน่ายเนื้อหมู โครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน จำหน่ายเนื้อหมูราคา 150 บาทกิโลกรัม แก้ไขปัญหาเร่งด่วนในภาวะที่ราคาเนื้อหมูเพิ่มสูงขึ้น","พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี ติดตามการจำหน่ายเนื้อหมู โครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน จำหน่ายเนื้อหมูราคา 150 บาท/กิโลกรัม แก้ไขปัญหาเร่งด่วนในภาวะที่ราคาเนื้อหมูเพิ่มสูงขึ้น
(11 ม.ค.65) นายธีรวุฒิ คล้ายเคลื่อน พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี มอบหมายให้ กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบการดำเนินโครงการ หมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน (ครั้งที่ 2) ตามที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้จัดให้มีการจำหน่ายเนื้อหมูในราคา 150 บาทต่อกิโลกรัม สถานที่จำหน่ายเนื้อหมูจังหวัดเพชรบุรี โครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน ระหว่างวันที่ 6 - 15 ม.ค. 65 ร้านเอ๋ หมูสด ไก่สด ตำบลท่ายาง อำเภอท่ายาง ร้านเสี่ยอ้วน หมูสด ไก่สด ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ และตำบลแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน และเพิ่มเติมอีก 1 จุด ได้แก่ ร้านรุ่งเรืองการค้า อำเภอบ้านลาด
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในภาวะที่ราคาเนื้อหมูเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งเป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภค รวมทั้งเพิ่มช่องทางการจำหน่ายเนื้อหมูในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป โดยดำเนินกิจกรรมจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2565 และดำเนินการจำหน่ายหมูให้กับประชาชนโดยจำกัดจำนวน 1 กิโลกรัมต่อคน
สวท.เพชรบุรี
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","11/1/2022","ภาคตะวันตก","เพชรบุรี","สวท.เพชรบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111110608662"], [216,"เน้นพัฒนาผู้ประกอบการไทยทั่วประเทศมากกว่า 7,000 ราย พร้อมรับมือทุกสถานการณ์เพิ่มยอดขาย-ขยายตลาดผ่าน อี-คอมเมิร์ซ","นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้เน้นการสร้างความเข้มแข็ง พัฒนาศักยภาพและเพิ่มทักษะให้พร้อมผู้ประกอบการทั่วประเทศมากกว่า 7,000 ราย พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยความต้องการของผู้ประกอบการและเทรนด์การตลาดออนไลน์เป็นสำคัญผ่าน 3 รูปแบบ ประกอบด้วยการพัฒนาองค์ความรู้ (Boost Up e-Commerce Skill) เสริมทักษะแก่ผู้ประกอบการชุมชน ต่อยอดขยายโอกาสการค้า สร้างรายได้ เสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการตลาดออนไลน์ (Digital Marketing) พร้อมฝึกปฏิบัติ Workshop อย่างเข้มข้น
การจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ผ่านกิจกรรม Smart Trader Online สร้างผู้ประกอบการให้เป็นนักการค้าออนไลน์มืออาชีพ (Smart Trader Online) ช่วยจำหน่ายสินค้าให้กับชุมชนที่มีสินค้าดีสินค้าเด่น เก่งผลิตแต่ไม่เก่งขาย หรือยังไม่คุ้นชินกับการค้าสมัยใหม่ จำหน่ายสินค้าทั้งในและต่างประเทศ เป็นสินค้าเกษตรในรูปแบบB2B ภายใต้นโยบาย เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด
การส่งเสริมการตลาดออนไลน์ (e-Commerce Booster Package) ร่วมกับแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ชั้นนำ กระตุ้นส่งเสริมการขายให้กับผู้ประกอบการและสินค้าชุมชน ซึ่งปัจจุบันมีสินค้าชุมชนกว่า 10,000 รายการ จาก 500 ร้านค้า สร้างยอดขายรวมไปแล้วกว่า 80 ล้านบาท
สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทรสายด่วน 1570 และ www.dbd.go.th
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน เข้าร่วมประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์การผลิตการตลาดสินค้าสุกร รวมถึงชี้แจงมาตรการแก้ไขปัญหาสุกร ผ่านระบบ VDO Conference ณ ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมี นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธาน มีสาระสำคัญ ดังนี้ ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2565 เรื่อง ห้ามส่งออกสุกรมีชีวิตไปนอกราชอาณาจักร โดยกำหนดห้ามมิให้ส่งออกสุกรมีชีวิตไปนอกราชอาณาจักรทุกกรณี เป็นการชั่วคราวเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป เว้นแต่จะมีการออกประกาศใหม่, ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2565 เรื่อง การแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร โดยกำหนดให้ผู้เลี้ยง ผู้จำหน่าย ผู้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งครอบครองสุกรมีชีวิตที่มีปริมาณตั้งแต่ห้าร้อยตัวขึ้นไป และผู้ครอบครองสุกรชำแหละผ่าซีก เนื้อสุกรชำแหละแยกชิ้นส่วนซึ่งประกอบด้วย เนื้อไหล่ เนื้อสะโพก เนื้อสันนอก เนื้อสันใน และเนื้อหมูสามชั้น ที่มีปริมาณรวมกันตั้งแต่ห้าพันกิโลกรัมขึ้นไป ไม่ว่าจะครอบครองในฐานะผู้มีกรรมสิทธิ์ หรือครอบครองแทนผู้อื่น แจ้งปริมาณการเลี้ยง ปริมาณการซื้อ ปริมาณการจำหน่าย ปริมาณการใช้ ปริมาณการส่งออก ปริมาณการรับฝาก ปริมาณคงเหลือ ราคาจำหน่าย สถานที่เก็บ สถานที่เลี้ยง และจัดทำบัญชีคุมสินค้า เพื่อให้การกำกับดูแลสุกรและเนื้อสุกรมีปริมาณเพียงพอกับความต้องการของประชาชนในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อผู้บริโภค,โครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชนในส่วนภูมิภาค รอบ 2 จำหน่ายหมูเนื้อแดง 150 บาท/กิโลกรัม ระหว่างวันที่ 5 15 มกราคม 2565 ให้ขยายระยะเวลา การจัดทำโครงการฯ สิ้นสุดวันที่ 31 มกราคม 2565 เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน และขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการโครงการจำหน่ายไก่สด ได้แก่ เนื้อสะโพก เนื้ออก ในราคา 70-75 บาท/กิโลกรัม
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","11/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111111304666"], [218,"พาณิชย์ฯ แม่ฮ่องสอน ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายเนื้อหมู เนื้อไก่ และไข่ไก่ ในพื้นที่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน กำชับห้ามขายสินค้าในราคาแพงเกินสมควร","
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายเนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ และการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายในพื้นที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ณ ตลาดสดเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน (ตลาดสายหยุด) ร้านซีพีเฟรสมาร์ท, เบทาโกร, หมูอินเตอร์ และภาคเหนือหมูสด พบว่า ราคาหมูเนื้อแดง (ไหล่และสะโพก) ราคา 173-220 บาท/กิโลกรัม, ราคาเนื้อไก่ (เนื้ออกไก่) 80-90 บาท/กิโลกรัม (น่องไก่ติดสะโพก) 72-80 บาท/กิโลกรัม, ราคาไข่ไก่ (เบอร์ 3) 95-98 บาท/แผง (30 ฟอง) ในส่วนของปริมาณสินค้ามีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคในจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ทั้งนี้ ร้านค้าได้ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายชัดเจน และจำหน่ายตรงตามราคาที่แสดงไว้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้กำชับให้ร้านปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 อย่างเคร่งครัด ให้ติดป้ายแสดงราคาจำหน่ายให้ชัดเจน ห้ามขายสินค้าในราคาแพงเกินสมควร ห้ามกักตุนหรือปฏิเสธการจำหน่ายสินค้า
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มีแผนการสร้างความเข้มแข็ง พัฒนาศักยภาพ และเพิ่มทักษะให้พร้อมผู้ประกอบการทั่วประเทศมากกว่า 7,000 ราย พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยความต้องการของผู้ประกอบการและเทรนด์การตลาดออนไลน์เป็นสำคัญผ่าน 3 รูปแบบ ประกอบด้วย 1) การพัฒนาองค์ความรู้ (Boost Up e-Commerce Skill) เสริมทักษะแก่ผู้ประกอบการชุมชน ต่อยอดขยายโอกาสการค้า สร้างรายได้ เสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการตลาดออนไลน์ (Digital Marketing) พร้อมฝึกปฏิบัติ Workshop อย่างเข้มข้น
2) การจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ผ่านกิจกรรม Smart Trader Online สร้างผู้ประกอบการให้เป็นนักการค้าออนไลน์มืออาชีพ (Smart Trader Online) ช่วยจำหน่ายสินค้าให้กับชุมชนที่มีสินค้าดีสินค้าเด่น เก่งผลิตแต่ไม่เก่งขาย หรือยังไม่คุ้นชินกับการค้าสมัยใหม่ จำหน่ายสินค้าทั้งในและต่างประเทศ เป็นสินค้าเกษตรในรูปแบบB2B ภายใต้นโยบาย เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด
3) การส่งเสริมการตลาดออนไลน์ (e-Commerce Booster Package) ร่วมกับแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ชั้นนำ กระตุ้นส่งเสริมการขายให้กับผู้ประกอบการและสินค้าชุมชน ซึ่งปัจจุบันมีสินค้าชุมชนกว่า 10,000 รายการ จาก 500 ร้านค้า สร้างยอดขายรวมไปแล้วกว่า 80 ล้านบาท
สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทรสายด่วน 1570 และ www.dbd.go.th
","11/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111130433742"], [220,"หมู่บ้านพลังงานสะอาด เกาะจิก อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ผู้ว่าฯชื่นชม นักท่องเที่ยวชื่นชอบ USA สนับสนุนเงินโครงการเครดิตคาร์บอน","ที่บ้านเกาะจิก หมู่ที่ 1 ตำบลบางชัน อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี มีบ้านเรือนประชาชนชาวประมงพื้นบ้านอาศัยอยู่กว่า 100 หลังคาเรือน มีประชากรจำนวน 392 คน เป็นหมู่บ้านในถิ่นทุรกันดารที่การเดินทางต้องอาศัยเรือเป็นพาหนะเดินทางเพียงอย่างเดียว เช่นเดียวกับสาธารณูปโภคต่างๆ ที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ร่วมกันพัฒนาให้ชาวบ้านได้มีสิ่งสาธารณูปโภคอย่างเหมาะสม
ไฟฟ้าถือเป็นปัจจัยในการดำรงชีวิต แต่การขยายเขตไฟฟ้าจากผืนดินไปยังหมู่บ้านเกาะจิกมีต้นทุนสูงและต้องใช้เวลาในการดำเนินการ ชาวบ้านรวมทั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี อบต. พลังงานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หาวิธีการให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนเกาะได้มีไฟฟ้าในการดำรงชีวิต มีสิ่งอำนวยความสะดวกในเรื่องของสุขภาพ และการศึกษา โดยทั้งหมู่บ้านได้ใช้พลังงานสะอาด โซล่าเซลล์ หรือพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานหลักหลังพระอาทิตย์เคลื่อนตัวเข้าสู่กลางคืน แต่การดำรงชีวิตในเวลากลางวันทุกวันนี้ก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ไฟฟ้า ในการดำรงชีวิตทั้งเรื่องของการดูแลรักษาสุขภาพที่สถานีอนามัยต้องดูแลอุปกรณ์ทางการแพทย์และสิ่งจำเป็นด้านครุภัณฑ์ทางการแพทย์ วัคซีนป้องกันโควิด
เช่นเดียวกับโรงเรียนถึงแม้จะมีเด็กนักเรียนน้อยเพียงแค่ 8 คน มีครู 1 คน แต่การศึกษาต้องอาศัยไฟฟ้าในการค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ถึงแม้ไม่ได้เรียนออนไลน์แต่ก็มีความจำเป็นที่ต้องอาศัยคอมพิวเตอร์ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเด็ก เยาวชนให้เท่าเทียมกับเด็กนักเรียนคนอื่นๆ ที่ผ่านมาในหมู่บ้านใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดโซล่าเซลล์ทุกหลังคาเรือนรวมทั้งโรงเรียน สถานีอนามัย วัด และรีสอร์ท ที่พักรองรับนักท่องเที่ยวก็จำเป็นต้องติดตั้งแผงโซล่าเซลเพื่อเป็นพลังงานที่จำเป็นต้องใช้ในการดำรงชีวิต
การใช้พลังงานสะอาดโซล่าเซลล์ของชาวบ้านเกาะจิก ถือเป็นความเข้มแข็งบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียงที่หลายฝ่ายชื่นชม โดยนายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นำคณะหัวหน้าส่วนราชการและผู้เกี่ยวข้องเยี่ยมชมให้กำลังใจ ชื่นชมความเข้มแข็งของชุมชน รวมทั้งดีใจกับรางวัลของหมู่บ้านที่ได้มาจากความมุ่งมั่น อดทน จนได้รับเงินรางวัลจากกองทุนพลังงานสะอาดเพื่อสิ่งแวดล้อม หรือคาร์บอนเครดิตสหรัฐอเมริกาคิดเป็นมูลค่าเงินสด 5 หมื่นเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1 ล้าน 5 แสนบาทไทย ที่ชาวบ้านได้หารือและนำเงินที่ได้รางวัลเครดิตคาร์บอนมาเป็นทุนในการพัฒนาพลังงานไฟฟ้าในหมู่บ้านเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเพราะที่ผ่านมาการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์
ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างหลงใหลเสน่ห์ของวิถีชุมชนชาวประมงพื้นบ้าน บ้านเกาะจิกที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน มีธรรมชาติที่สมบูรณ์จึงเป็นความเข้มแข็งของชุมชนที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในหมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง
","11/1/2022","ภาคตะวันออก","จันทบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดจันทบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111114731707"], [221,"ไข่ไก่ขึ้นราคา ทำชาวบ้านเดือดร้อน ถึงไข่แพงก็ต้องซื้อทุกบ้านต้องมี","
หลังจากที่ได้มีการปรับราคาไข่ไก่ขึ้นจากฟองละ 2.80 เป็น 3.00 บาท หรือปรับขึ้น 6 บาทต่อแผง ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (10 ม.ค 65) ในส่วนของบรรยากาศการซื้อไข่ไก่ ที่ บริเวณข้างตลาดสดยะลา ซึ่งได้มีพ่อค้านำไข่ไก่ จาก จ.พัทลุง จ.ตรัง มาตั้งวางขายกับรถโชเล่ย์ พบว่า ยังมีประชาชนให้ความสนใจมาซื้อไข่ไก่ ยกแผงกันอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่ก็เกรงว่าไข่ไก่อาจจะมีการปรับขึ้นราคาอีก ซื้อเก็บไว้ก่อนไว้ทานในครอบครัวต้องใช้ทำอาหารทุกวัน
ซึ่งราคาในวันนี้ (11 ม.ค.65) ทางพ่อค้า บอกว่า เบอร์ 1 ไข่ใบใหญ่ ปรับขึ้นเป็นแผงละ 105 บาท เบอร์ 2 แผงละ 101 บาท ส่วนเบอร์ 3 ยังราคาแผงละ 95 บาท คงเดิม สำหรับไข่ในพื้นที่ไม่ค่อยมี ไม่สวยบางครั้งก็ลูกเล็ก ทางเถ้าแก่ก็ได้สั่งไข่ไก่มาจาก จังหวัดอื่น
ขณะที่ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาซื้อ ก็จะมีคละกันไปทั้ง ซื้อไข่ไก่ เบอร์ 1 คนละ แผง 2 แผง บางคนก็ซื้อเบอร์ 3 ราคา 95 บาท และเบอร์ 2 โดยบอกว่า ถึงไข่ราคาแพงก็ยังต้องซื้อทุกบ้านต้องมี บ้านไหนไม่มีก็แปลก ต้องทานกันทุกวันในครอบครัวอยากให้ภาครัฐ พยุงราคาไว้อย่าให้แพงเกิน ชาวบ้านได้รับผลกระทบกันไปหมด หมูแพง น้ำมันแพง คราวนี้มาถึงไข่แพงอีกค่าครองชีพแต่ละวันใช้จ่ายเยอะหนักมากช่วงนี้
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","11/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111123016730"], [222,"กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดตราด จัดกิจกรรม โครงการชุมชนสัมพันธ์ (ขุนด่าน) เพื่อสร้างรายได้ในสถานการณ์โควิด-19 ที่บ้านท่าเลื่อน ต.ตะกาง","(11 ม.ค. 65) นาวาตรี บุญเลิศ อินทร์ผู้พิมล รองหัวหน้าชุดวิทยากรขุนด่าน นำกำลังพลจัดกิจกรรม โครงการชุมชนสัมพันธ์ (ขุนด่าน) ที่ศาลาประชาคมบ้านท่าเลื่อน หมู่ที่ 1 ต.ตะกาง อ.เมืองตราด จ.ตราด โดยมีประชาชนในพื้นที่ร่วมเข้ารับการอบรมตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
สำหรับการจัดกิจกรรม โครงการชุมชนสัมพันธ์ (ขุนด่าน) ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดตราด มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ประชาชนที่เข้ารับการอบรม มีความรู้ ทักษะ และรายได้ในการประกอบอาชีพในช่วงของสถานการณ์การแพร่ระบาดของการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยในครั้งนี้มีการสาธิตการทำพุดดิ้งมะพร้าวอ่อนจากวิทยากรผู้มีความรู้ โดยการนำมะพร้าวที่มีอยู่ในครัวเรือน มาเพิ่มคุณค่าและยกระดับสินค้าให้มีราคาเพิ่มมากขึ้น เป็นการต่อยอดให้ชุมชนมีความมั่นคงทางด้านอาชีพให้ยั่งยืนต่อไป
นางลัดดาวัลย์ ไชยเพ็ชร ผู้เข้ารับการอบรม กล่าวว่า วันนี้รู้สึกดีใจที่ กอ.รมน.ลงมาในหมู่ที่ 1 มาให้ความรู้กับชาวบ้านหมู่ที่ 1 ทุกคนได้รับความรู้ใหม่ๆ บางคนเอาไปทำเป็นอาชีพเสริมได้ ทำกินในครัวเรือนได้ ถ้ามีโครงการอะไรดีๆ อยากให้ กอ.รมน. ลงมาให้ความรู้ ทำกิจกรรมแบบนี้อย่างต่อเนื่อง
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","11/1/2022","ภาคตะวันออก","ตราด","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111125626736"], [223,"ส.อ.ท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือนธันวาคม 2564 อยู่ในระดับ 86.8 ปรับตัวดีขึ้น พร้อมยอมรับการแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์มิครอน อาจส่งผลกระทบเศรษฐกิจของไทยในปี 65","
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เปิดเผยว่า มาตรการผ่อนคลายโควิด-19 เพิ่มเติม ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินการได้มากขึ้น ทั้งภาคการผลิต การค้า การเดินทางในประเทศ ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐส่งเสริมการใช้จ่ายของประชาชนโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ ภาคการส่งออกเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคม 2564 ปรับตัวอยู่ในระดับ 86.8 เพิ่มขึ้นจาก 85.4 เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2564 เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน สูงสุดในรอบ 9 เดือน แต่อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยลบจากความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาดโควิด-19 ต้นทุนประกอบการที่ปรับตัวสูงขึ้นทั้งจากราคาพลังงาน วัตถุดิบ รวมถึงปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์และตู้คอนเทนเนอร์ยังไม่คลี่คลาย
ทั้งนี้ คาดการณ์ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ในอีก 3 เดือนข้างหน้าจะปรับตัวลดลง อยู่ที่ระดับ 95.2 จากระดับ 97.3 ในเดือนพฤศจิกายน 2564 เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เริ่มระบาดในประเทศไทยและในหลายประเทศทั่วโลก ผู้ประกอบการมีความกังวลหากมีการแพร่ระบาดรุนแรงภาครัฐอาจพิจารณาใช้มาตรการล๊อกดาวน์อีกครั้งอาจกระทบต่อการประกอบกิจการและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 2565
","11/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","นนทบุรี","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111132636750"], [224,"ร้านจำหน่ายไข่ไก่ในเขตเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ปรับราคาขึ้นแผงละ 5 บาท หลังเกษตรกรผู้เลี้ยงไข่ไก่แบกต้นทุนสูงมานานหลายเดือน สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้มีรายได้น้อยและร้านขายขนมชนิดต่างๆ ที่ต้องใช้ไข่ไก่ ซึ่งอาจปรับราคาขึ้นตาม","วันนี้ (11 ม.ค.65) ที่ร้านฟ้าไก่ไข่ ในเขตเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ประชาชนยังคงทยอยเลือกซื้อไข่ไก่อย่างต่อเนื่อง หลังทราบข่าวว่าราคาไข่ไก่มีปรับราคาขึ้น แต่จะซื้อเท่าที่จำเป็น โดยทางร้านเองก็มีการจำหน่ายแบบถุง ถุงละ 30 ฟอง เพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจของลูกค้า โดยราคาไข่ไก่ มีการปรับขึ้นแผงละ 5 บาท ทุกเบอร์ สาเหตุจากต้นทุนอาหารสัตว์ขึ้นราคา และสถานการณ์ COVID-19 สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้มีรายได้น้อยและร้านขายขนมชนิดต่างๆ ที่ต้องใช้ไข่ไก่ ซึ่งอาจปรับราคาขึ้นตาม
นายวสันต์ ว่องบุรากร เจ้าของร้านฟ้าไก่ไข่ กล่าวว่า สาเหตุของการปรับราคาไข่ไก่ขึ้น มาจากต้นทุนอาหารสัตว์ที่ใช้ในการเลี้ยงไก่ไข่ มีการปรับขึ้นในช่วง 2-3 เดือน ที่ผ่านมา ทางร้านพยายามตรึงราคาแล้ว แต่แบกภาระมาหลายเดือน จากต้นทุนที่ขยับสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นข้าวโพดเลี้ยงไก่ หรือกากถั่ว นอกจากนี้ยังมีต้นทุนจากค่าน้ำมัน ค่าขนส่งในการเดินทางมา อ.เบตง ค่าใช้จ่ายก็สูงขึ้นเช่นกัน ซึ่งวันนี้ เป็นวันแรกที่ราคาไข่ไก่ปรับราคาขึ้นแผงละ 5 บาท เท่ากันทุกไซส์ทุกเบอร์ โดย เบอร์ 0 ราคาแผงละ 125 บาท เบอร์ 1 ราคาแผงละ 120 บาท เบอร์ 2 ราคาแผงละ 115 บาท เบอร์ 3 ราคาแผงละ 110 บาท เบอร์ 4 ราคาแผงละ 105 บาท และ เบอร์ 5 ราคาแผงละ 90 บาท
ด้านนางรอมละ แม่ค้าขายขนมเบเกอรี่ กล่าวว่า ในแต่ละวันทางร้านต้องใช้ไข่ไก่เพื่อทำขนมเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ไข่ไก่มีราคาสูงขึ้น ซึ่งถ้าเกิดในระยะสั้นๆ ทางร้านก็ยังคงราคาขนมไว้อย่างเดิม แต่ถ้าราคาไข่ยังคงสูงขึ้น ทางร้านก็ต้องปรับขึ้นราคาขนมตามอย่างแน่นอน
นางสาวชินณิชา ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ประชาชนได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจมามากพอแล้ว อยากให้หน่วยงานภาครัฐ ควบคุมราคาสินค้า ลดค่าครองชีพ เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยด่วน สร้างงานสร้างรายได้ ขึ้นเงินเดือน พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","11/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.เบตง จ.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111130526744"], [225,"ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ประจำเดือนธันวาคม 2564 ปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ","นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ สอท. เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ประจำเดือนธันวาคม 2564 ว่า หลังจากภาครัฐผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 เพิ่มเติม ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินการได้มากขึ้นทั้งภาคการผลิต การค้า การเดินทางในประเทศ ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐส่งเสริมการใช้จ่ายของประชาชนโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ ภาคการส่งออกเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคม 2564 ปรับตัวอยู่ในระดับ 86.8 เพิ่มขึ้นจาก 85.4 เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2564 เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน สูงสุดในรอบ 9 เดือน
แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยลบจากความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาดโควิด-19 ต้นทุนประกอบการที่ปรับตัวสูงขึ้นทั้งจากราคาพลังงาน วัตถุดิบ รวมถึงปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์และตู้คอนเทนเนอร์ยังไม่คลี่คลาย
นอกจากนี้ ทั้งยังคาดการณ์ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ในอีก 3 เดือนข้างหน้าจะ ปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 95.2 จากระดับ 97.3 ในเดือนพฤศจิกายน 2564 เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เริ่มระบาดในประเทศไทยและในหลายประเทศทั่วโลก ผู้ประกอบการมีความกังวลหากมีการแพร่ระบาดรุนแรงภาครัฐอาจพิจารณาใช้มาตรการล๊อกดาวน์อีกครั้งอาจกระทบต่อการประกอบกิจการและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 2565
","11/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111203426984"], [226,"รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ตรวจเยี่ยมแผงขายสินค้า โครงการหมูพาณิชน์ลดราคาช่วยประชาชน","
วันนี้ (11 ม.ค.65) เวลา 08.00 น. ที่หน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพังงา นายเถลิงศักดิ์ นุชประหาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วยนายชัยรัตน์ ชื่นเจริญ พาณิชย์จังหวัดพังงา และนายพรภิรมย์ ฟุ้งตระกูล ปศุสัตว์จังหวัดพังงา ตรวจเยี่ยมโครงการหมูพาณิชน์ลดราคาช่วยประชาชน เพื่อจำหน่ายเนื้อหมูให้กับประชาชนผู้บริโภคในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ระหว่างวันที่ 11-14 มกราคม 2565 ซึ่งโครงการดังกล่าวมีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 3 จุด คือ จุดที่ 1 ร้านหมูโก้ศักดิ์ ตำบลถ้ำน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดพังงา จุดที่ 2 ร้านหมูนายดิน ตลาดสดเทศบาลเมืองพังงา และจุดที่ 3 หน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพังงา
สำหรับจุดจำหน่ายที่ 3 บริเวณหน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพังงา ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพังงา จัดจำหน่ายเนื้อหมู ราคากิโลกรัมละ 150 บาท ไข่ไก่เบอร์ 3 แผงละ 90 บาท ทั้งนี้สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.พังงา จำกัด ได้นำข้าวหอมมะลิมาจำหน่ายในราคาถูกกว่าท้องตลาด เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนผู้บริโภคด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","11/1/2022","ภาคใต้","พังงา","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111133027752"], [227,"กรมการค้าภายใน สั่งตรึงราคาไก่สดหน้าฟาร์ม เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน","นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาราคาไข่ไก่และเนื้อไก่ที่ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งที่ประชุมมีมติร่วมกันในการกำหนดราคาจำหน่ายไก่สดมีชีวิตหน้าฟาร์ม และราคาจำหน่ายปลีกชิ้นส่วนไก่สด เป็นระยะเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 สิ้นสุดในเดือนมิถุนายน 2565 ทั้งนี้ ส่งผลให้ราคาไก่มีชีวิตหน้าฟาร์ม อยู่ที่ 33.50 บาทต่อกิโลกรัม , ไก่สดรวมเครื่องใน และไก่สดไม่รวมเครื่องใน ราคา 60-65 บาทต่อกิโลกรัม ,น่องติดสะโพก ราคา 60-65 บาทต่อกิโลกรัม และเนื้ออก ราคา 65-70 บาทต่อกิโลกรัม นอกจากนี้ ยังได้ประสานกับกรมปศุสัตว์และผู้เลี้ยงเร่งเพิ่มผลผลิตให้เพียงพอภายใน 45 วัน
ส่วนไข่ไก่ที่ปรับขึ้นราคาไปแล้วนั้น กรมการค้าภายในมองว่า ยังไม่เหมาะสมที่จะปรับราคาในช่วงนี้ พร้อมเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือถึงสถานการณ์และความจำเป็นในการปรับขึ้นราคาไก่ไข่ว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ ซึ่งต้องหารือพิจารณาอย่างรอบ เพื่อติดตามปริมาณและความต้องการที่เกิดขึ้นจริง ก่อนที่จะพิจารณาหามาตรการช่วยเหลือผู้บริโภคและผู้เลี้ยงต่อไป
อธิบดีกรมการค้าภายใน ยืนยันปริมาณไข่ไก่ไม่ได้มีปัญหาการขาดแคลน แต่อาจจะมีต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากอาหารสัตว์เป็นต้นทุนสำคัญในการเลี้ยง โดยต้นทุนการเลี้ยงไก่ไข่ปัจจุบัน อยู่ที่ฟองละ 2.85 บาท เบื้องต้นได้หารือกับผู้ผลิตอาหารสัตว์แล้ว และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการเชื่อมโยงอาหารสัตว์ให้กับผู้เลี้ยงรายย่อย เพื่อเป็นการช่วยเหลือและลดต้นทุนบางส่วนให้ผู้เลี้ยงรายย่อยต่อไป
","11/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111141138778"], [228,"พาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ ตรวจตลาด ราคาสินค้า กำชับติดป้ายแสดงราคา","พาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ตรวจราคาเนื้อหมู ไก่ ไข่ไก่ ผักสด ป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า พร้อมกำชับให้พ่อค้าแม่ค้าติดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน และตรวจเครื่องชั่งให้ได้กิโลกรัมตรงมาตรฐาน
วันนี้ (11 ม.ค. 65) ที่ตลาดสดทุ่งนาทอง อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ นายศิริพงษ์ วิวัฒน์เกษมชัย พาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่สำรวจตลาด ในภาวะที่ราคาเนื้อสัตว์ขยับสูงขึ้น โดยเนื้อหมู ไก่ ไข่ไก่ มีการปรับราคาขึ้นตามกลไกตลาด ขณะที่ ราคาผักสดไม่ได้มีการปรับราคาขึ้นแต่อย่างใด โดยได้ส่งผลกระทบต่อทั้งแม่ค้าพ่อค้าและประชาชนผู้บริโภค โดยประชาชนมีการจับจ่ายซื้อน้อยลง ขณะที่ พ่อค้าแม่ค้าก็สั่งของมาจำหน่ายลดลงเช่นกัน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ได้ขยายเวลาการจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูก กิโลกรัมละ 150 ที่ร้านวีซีมีท โดยขยายเวลาออกไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565
โดยในการสำรวจตลาดครั้งนี้ ได้กำชับให้ผู้ประกอบการติดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคได้ตัดสินใจ และ เครื่องชั่ง ให้ได้มาตรฐานที่กำหนด ซึ่งจะมีสติกเกอร์เครื่องชั่งที่ได้รับการตรวจ จากสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ซึ่งร้านใดไม่ติดป้ายแสดงราคาหรือโกงตาชั่ง จะ มีโทษตามกฎหมาย
ในส่วนของเจ้าของร้านขายไข่ไก่มะไล น.ส.จินตหรา สุระภา เปิดเผยว่า ราคาไข่ไก่ ก็ได้ทยอยปรับราคาขึ้นมาเช่นกัน หากแต่ในส่วนของทางร้านพยายามที่จะไม่ปรับราคาให้สูงมาก เนื่องจากเป็นการช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้มากที่สุด โดยจะมีปรับเพิ่มราคาในบางไซส์ อย่างไข่ไก่เบอร์ 1 โดยขณะนี้ประชาชนจะนิยมบริโภคไข่ขนาดเล็กเบอร์ 4-5 เนื่องจากมีราคาที่ถูกกว่า ซึ่งไข่ไก่เบอร์ 1 จำหน่ายที่แผงละ 105 บาท จากเดิมราคา 100 เบอร์ 2 แผงละ 95 เบอร์ 3 แผงละ 90 ไม่ได้มีการปรับขึ้นราคา และเบอร์ 4 แผงละ 85 จากเดิมแผงละ 80 และเบอร์ 5 แผงละ 75
สำหรับราคาเนื้อหมู หมูสามชั้น กิโลกรัมละ 230 บาท เนื้อสะโพก กิโลกรัม 220 บาท เนื้อสันใน กิโลกรัมละ 230 บาท หมูบด กิโลกรัมละ 200 บาท ส่วนราคาไก่ชิ้น มีการปรับขึ้นราคา น่องติดสะโพก กิโลกรัมละ 75 จากเดิม 70 บาท ตับไก่ กิโลกรัมละ 100 จาก 80 บาท เศษเนื้อ กิโลกรัมละ 70 บาทจาก 55 บาท ปีกไก่สับ กิโลกรัมละ 115 บาท จาก 100 บาท ขณะที่ ปีกไก่ ปีกไก่บน ไม่มีการปรับขึ้นราคา
","11/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","กาฬสินธุ์","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111140008772"], [229,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำปาง เปิดขายหมูราคาถูก \"150 บาท/กก.\" บรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชน ถึงสิ้นเดือน ม.ค. 65","สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงพาณิชย์จัดโครงการ \"พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน\" เปิดจุด ขายหมูเนื้อแดง ครั้งที่ 2 ในราคา 150 บาท/กก. เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพ รวม 667 แห่งทั่วประเทศ สำหรับในพื้นที่จังหวัดลำปาง มี 2 แห่ง ได้แก่ ร้านหมูอนามัย เอส เค อินเตอร์ฟู้ด สาขาลําปาง และร้านหมูอนามัย เอส เค อินเตอร์ฟู้ด สาขาเถิน โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดได้ประสานกับตลาดหรือสถานที่จัดจุดจำหน่ายให้แก่ประชาชน ตั้งแต่วันนี้ - 31 ม.ค.65 โดยผู้สนใจตรวจสอบสถานที่จำหน่ายในแต่ละจังหวัดได้ที่ https://www.dit.go.th/Content.aspx?m=8&c=36749
ทั้งนี้ ล่าสุดนายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ เดินทางตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ณ หอประชุมอาคารโดมแผ่พืชน์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ปศุสัตว์เขต 5 ปศุสัตว์เขต 6 ปศุสัตว์จังหวัดในพื้นที่เขต 5 และเขต 6 ทีมงาน ธกส. หัวหน้าส่วนราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เกี่ยวข้อง และเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน โดยมีการหารือแนวทางการส่งเสริมการเลี้ยงสุกร เพื่อแก้ไขปัญหาราคาสุกร และโครงการสานฝันสร้างอาชีพ ยกระดับรายได้เกษตรกร ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวทางให้แก่เกษตรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย ได้แก่ จัดทำโครงการให้การสนับสนุนสุกรแม่พันธุ์ 2 ตัวต่อราย หรือลูกสุกรขุน 20 ตัวต่อราย พร้อมอาหาร การสนับสนุนเงินทุนผ่านโครงการของ ธกส. และการควบคุมการเลี้ยงให้ได้มาตรฐาน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","11/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สวท.ลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111142043786"], [230,"เปิดตัวเพจ ชี้ช่องการค้า บน Blockdit (บล็อกดิต) เพิ่มช่องทางการเผยแพร่ข้อมูลด้านการค้าเชิงลึก กฎระเบียบการค้า แนวโน้มตลาดให้กับผู้ประกอบการ","นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเริ่มจัดทำเพจชี้ช่องการค้า (Think Trade Think DITP) บนแพลตฟอร์ม Blockdit (บล็อกดิต) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Social Network ของไทยที่เป็นที่นิยมและเติบโตอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ข้อมูลกับผู้ประกอบการ ที่จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการทำการค้าได้ดีขึ้น ซึ่งกรมฯ มีข้อมูลการค้า การลงทุน กฎระเบียบการค้า แนวโน้มตลาด ที่ได้รับรายงานจากผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์จากทั่วโลก เข้ามาเป็นประจำอยู่แล้ว การเพิ่มช่องทางเผยแพร่บนแพลตฟอร์ม Blockdit ที่เป็นสื่อออนไลน์สมัยใหม่ และกำลังได้รับความนิยม จะเป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงข้อมูลการค้าให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ๆ และตอบโจทย์การทำธุรกิจในยุคดิจิทัล
ปัจจุบัน Blockdit มีผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มมากกว่า 2,000,000 บัญชี และมีเพจที่ร่วมสร้างสรรค์คอนเทนต์มากกว่า 100,000 เพจ ประโยชน์ เป้าหมายคือกลุ่มคนที่สนใจในการอ่าน เขียน เรื่องราวที่มีสาระน่าสนใจและเป็นประโยชน์สู่สังคม ผ่านบทความ วิดีโอ และพอดแคสต์ มีฟีเจอร์สำหรับนักทำคอนเทนต์โดยเฉพาะ เช่น การร่างไอเดีย การตั้งเวลาลงบทความ การดูข้อมูลเชิงลึก และมีจุดเด่น คือ มีระบบคัดกรองข่าวปลอม (fake news) เนื้อหาผิดลิขสิทธิ์ ผิดกฎหมาย รุนแรงและหยาบคาย โดยจะมีระบบ Algorithm ในการตรวจจับการรายงาน ทำให้ผู้อ่านมั่นใจได้ว่าจะได้รับข่าวสารที่มีสาระน่าสนใจ
","11/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111144637811"], [231,"ครม.เห็นชอบร่าง MOU ไทย-ญี่ปุ่น พัฒนาความร่วมมือด้านพลังงานทุกมิติให้ชัดเจนและเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมให้มากยิ่งขึ้น","นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างบันทึกความร่วมมือว่าด้วยการเป็นหุ้นส่วนด้านพลังงาน ระหว่างกระทรวงพลังงานแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะมีการลงนามในวันที่ 13 ม.ค. 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นสักขีพยาน
ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ของร่างบันทึกความร่วมมือฯ เพื่อเป็นการกำหนดทิศทางและกรอบการดำเนินความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างสองประเทศในมิติต่าง ๆ ให้ชัดเจนและเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมให้มากยิ่งขึ้น ขอบเขตความร่วมมือ ประกอบด้วย น้ำมันและก๊าซ , ไฟฟ้า , พลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน , พลังงานนิวเคลียร์ , นวัตกรรม เทคโนโลยีและพลังงานอัจฉริยะ , เทคโนโลยีการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และความร่วมมือด้านพลังงานอื่นๆ ตามที่ทั้งสองประเทศจะกำหนดร่วมกัน ซึ่งจะมีการดำเนินการในหลายรูปแบบ เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูล การฝึกอบรม การถ่ายทอดองค์ความรู้ การส่งเสริมการลงทุนร่วมกัน การจัดแผนที่นำทางด้านการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานเพื่อมุ่งไปสู่การบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ ในปี ค.ศ. 2050
บรรยากาศซื้อขายไข่ไก่ในตัวเมืองขอนแก่น หลังจากสมาคม-สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ มีการประกาศปรับราคาขึ้นฟองละ 20 สตางค์ ทำให้ราคาไข่คละหน้าฟาร์มสูงถึงฟองละ 3 บาท ตกแผงละ 6 บาท ทำให้หลายร้านต้องปรับราคาตาม โดยเฉพาะที่ตลาดสดบางลำภู ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น การซื้อขายไข่ไก่มีประชาชนมาเลือกซื้อตามปกติ แต่จะลดจำนวนการซื้อลง โดยส่วนใหญ่พ่อค้าแม่ค้าบอกว่า ลูกค้าจะซื้อเท่าที่จำเป็น โดยทางร้านเองก็มีการจำหน่ายแบบถุงละ 10 ฟอง เพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า โดยราคาไข่ไก่แต่ละร้านพบว่า มีการปรับขึ้นแผงละ 5-6 บาททุกเบอร์ และมีบางร้านยังไม่มีการปรับราคาขึ้นเนื่องจากเพิ่งจะทราบประกาศ ซึ่งราคาไข่ไก่เช้าวันนี้อยู่ที่ 80-120 บาท โดยไข่ไก่เบอร์ 0 อยู่ที่ราคาแผงละ 120 บาท เบอร์ 1 อยู่ที่ราคาแผงละ 105 บาท เบอร์ 2 อยู่ที่ราคาแผงละ 100 บาท เบอร์ 3 อยู่ที่ราคาแผงละ 95 บาท เบอร์ 4 อยู่ที่ราคาแผงละ 90 บาท และไข่ไก่เบอร์ 5 อยู่ที่ราคาแผงละ 80 บาท
นายเจษฎา จำปานุ้ย อายุ 39 ปี เจ้าของร้านพรสวาท ไข่สด ซึ่งจำหน่ายทั้งปลีกและส่ง บอกว่า หลังจากที่มีการประกาศปรับราคาขึ้น ตนเองก็จำเป็นจะต้องปรับขึ้นตาม โดยทางร้านปรับขึ้นแผงละ 5 บาททุกเบอร์ ซึ่งสาเหตุที่มีการปรับขึ้นนั้น ทราบจากทางสมาคมว่า ต้นทุนหัวอาหารที่สูงขึ้นและปัจจัยการส่งออกมีมูลค่าเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะน้ำมัน ทำให้มีการปรับขึ้น ซึ่งปกติจากที่ลูกค้าน้อยอยู่แล้วตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ระบาดอีกระลอกเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ลูกค้าลดลงอย่างเห็นได้ชัดจนลามมาถึงปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกซื้อแบบ 10 ฟอง ไม่ยกแผงเหมือนเดิม เพราะต้องประหยัดและซื้อเท่าที่จำเป็น โดยการปรับราคาไข่ไก่ขึ้นนั้น ในส่วนพ่อค้าแม่ค้าเองก็ไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนัก เพราะราคาต้องอิงตามประกาศ แต่ผลกระทบจะตกไปอยู่กับผู้บริโภคแทน ที่ต้องซื้อไข่ไก่ในราคาที่แพงขึ้นจากเดิมท่ามกลางสถานการณ์ที่เนื้อหมูแพงถึง กิโลกรัมละ 220-240 บาท แต่ราคาที่ปรับขึ้นนั้นเชื่อว่ายังสามารถปรับขึ้นได้อีก เพราะราคาเคยพุ่งสูงกว่านี้อีกแผงละ 10 บาท ซึ่งก็อยากให้ทางรัฐบาลเองช่วยตรึงราคาไม่เกิน ฟองละ 3 บาทเท่าปัจจุบันนี้ก็ยังดี
ด้าน นางบรรจง ทองอุทัยศิริ อายุ 59 ปี ลูกค้าที่มาซื้อไข่ไก่ บอกว่า การปรับราคาขึ้นของไข่ไก่นั้น ในฐานะผู้บริโภคเองก็ไม่สามารถไปแก้ไขอะไรได้ ก็ต้องซื้อในราคาที่ร้านขาย แต่จะซื้อในจำนวนที่เหมาะสมไม่ซื้อเยอะเหมือนก่อน และที่บ้านเองก็จะมีแต่ลูกหลานที่ทานไข่เป็นอาหารในแต่ละวัน ถามว่ากระทบไหมก็เล็กน้อยเพราะยังไงก็จำเป็นที่ต้องซื้อ แต่ถ้ารัฐบาลช่วยเรื่องราคาให้ถูกลงได้อีกก็จะดีเพราะทั้งหมู ทั้งผักต่างปรับราคาขึ้นด้วยกันทั้งหมด
","11/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ขอนแก่น","สวท.ขอนแก่น","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111143426797"], [233,"พาณิชย์ชัยภูมิ จัด โครงการรถ Mobile พาณิชย์... ลดราคา ! ช่วยประชาชนผู้ประสบภัย จังหวัดชัยภูมิ","วานนี้ (10 ม.ค. 65) สำนักงานพาณิชย์จังหวัดชัยภูมิ ดำเนิน โครงการรถ Mobile พาณิชย์... ลดราคา ! ช่วยประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ ในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด ร้อยละ 15-30% อาทิ ไข่ไก่ น้ำมันพืช น้ำตาลทราย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน ซีอิ๊วขาว น้ำปลา น้ำยาปรับผ้านุ่ม เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการลดค่าครองชีพ ในช่วงประสบอุทกภัยในพื้นที่ ระยะเวลาดำเนินโครงการ ตั้งแต่วันที่ 10-14 มกราคม 2565 จำนวน 50 จุดจำหน่าย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวได้ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิอย่างเคร่งครัด โดยวันที่ 10 มกราคม 2565 (วันที่ 1) ดำเนินการจำนวน 10 จุดจำหน่าย สินค้าที่ขายดี 3 ลำดับ ได้แก่ 1.ไข่ 2.น้ำมัน 3.น้ำตาลทราย รวมมูลค่าที่นำสินค้าอุปโภคบริโภค ณ จุดจำหน่ายทั้งสิ้น 315,356 บาท ลดค่าครองชีพให้กับประชาชน รวมเป็นจำนวนเงิน 143,727 บาท มีประชาชนให้ความสนใจซื้อสินค้ารวมทั้งสิ้น 1,195 คน
","11/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ชัยภูมิ","สวท.ชัยภูมิ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111145743821"], [234,"พาณิชย์ชัยภูมิ จัดโครงการรถ Mobile พาณิชย์...ลดราคา ! ช่วยประชาชนผู้ประสบภัยจังหวัดชัยภูมิ","วันที่ 10 มกราคม 2565 สำนักงานพาณิชย์จังหวัดชัยภูมิ ดำเนิน โครงการรถ Mobile พาณิชย์...ลดราคา ! ช่วยประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ ในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด ร้อยละ 15-30% อาทิ ไข่ไก่ น้ำมันพืช น้ำตาลทราย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน ซีอิ๊วขาว น้ำปลา น้ำยาปรับผ้านุ่ม เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการลดค่าครองชีพ ในช่วงประสบอุทกภัยในพื้นที่ ระยะเวลาดำเนินโครงการ ตั้งแต่วันที่ 10-14 มกราคม 2565 จำนวน 50 จุดจำหน่าย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวได้ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ อย่างเคร่งครัด โดยวันที่ 10 มกราคม 2565 (วันที่ 1) ดำเนินการจำนวน 10 จุดจำหน่าย สินค้าที่ขายดี 3 ลำได้แก่ 1.ไข่ 2.น้ำมัน 3.น้ำตาลทราย รวมมูลค่าที่นำสินค้าอุปโภคบริโภค ณ จุดจำหน่ายทั้งสิ้น 315,356 บาท ลดค่าครองชีพให้กับประชาชน รวมเป็นจำนวนเงิน 143,727 บาท มีประชาชนให้ความสนใจซื้อสินค้ารวมทั้งสิ้น 1,195 คน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","11/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ชัยภูมิ","สวท.ชัยภูมิ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111150303826"], [235,"จังหวัดนครพนม เชิญชวนซื้อสินค้าเกษตรผ่านช่องทางออนไลน์ช่วงโควิด","นางสาวกัญณฐา? อภินันท์ธนา เกษตรจังหวัดนครพนม เปิดเผย?ว่า? สำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนมดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาแนวทาง ในการจำหน่ายสินค้าเกษตรแบบออนไลน์ เพื่อเป็นการยกระดับและพัฒนากลุ่มเกษตรกรให้มีความรู้ความสามารถในการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์แปรรูปต่าง ๆ ไปสู่การจำหน่ายออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบด้านการขนส่งสินค้า เกิดการชะลอตัว และได้รับความเสียหายไม่สามารถกระจายผลผลิตออกสู่ตลาดได้ การจำหน่ายสินค้าออนไลน์จึงมีความจำเป็นและทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าเกษตรได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
สำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม จึงขอประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตรออนไลน์ของกลุ่มเกษตรกร เพื่อเผยแพร่ให้ผู้สนใจได้รับทราบช่องทางการจำหน่ายและสินค้าเกษตรมากยิ่งขึ้น ดังนี้ เฟซบุ๊กเพจ สินค้าเกษตรออนไลน์ จังหวัดนครพนม ที่ https://bit.ly/3qcb28M และเว็บไซต์ตลาดเกษตรกรออนไลน์ ที่ https://bit.ly/3K1v25K
","11/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","นครพนม","สวท.นครพนม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111151132828"], [236,"พาณิชย์จังหวัดภูเก็ตจับมือห้างไลม์ไลท์อเวนิวภูเก็ต จัดเมนูธงฟ้า เป็นเมนูทางเลือก จานละ 30 บาท ตรึงราคา...ช่วยประชาชน","วันนี้ (11 ม.ค.65) นางสาววรนิษฐ์ อภิรัฐจิรวงษ์ พาณิชย์จังหวัดภูเก็ต ได้แนะนำร้านอาหารธงฟ้าในศูนย์อาหารห้างไลม์ไลท์อเวนิวภูเก็ต จำนวน 12 ร้าน โดยแต่ละร้านจะจัดเมนูทางเลือกเมนูธงฟ้า ราคา 30 บาท เพื่อเป็นทางเลือกและลดภาระค่าครองชีพให้กับผู้บริโภคและนักท่องเที่ยว ที่เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้างไลม์ไลท์เป็นห้างที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ใกล้แหล่งท่องเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ต จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย โดยมีเมนูอาหาร 30 บาท เช่น ข้าวมันไก่ฉีก/ข้าวไข่ข้นไส้กรอก/ข้าวแกงส้มไข่เจียว/ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ/บะหมี่หมูแดง/ผัดไทย/สเต็กไก่/ข้าวกระเพราไก่/ข้าวหน้าไก่คัตสึราดซอส/ก๋วยเตี๋ยวเรือ
สำหรับร้านอาหารธงฟ้า เป็นอีกหนึ่งโครงการของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับผู้บริโภค โดยร้านอาหารที่จะเข้าร่วมโครงการ จะต้องเป็นร้านอาหารปรุงสำเร็จ อร่อย คุณภาพดี สะอาด ประหยัด จำหน่าย จาน/ชามละ 35-40 บาท ปิดป้ายแสดงราคาชัดเจน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","11/1/2022","ภาคใต้","ภูเก็ต","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111154138851"], [237,"ข้าวราดแกงเจ้เหมียว อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ขวัญใจมหาชนยุคของแพง ขายข้าวแกง จานละ 20 บาท เปิดมา 10 กว่าปีคงราคาเดิม","ข้าวราดแกงเจ้เหมียว อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ขวัญใจมหาชนยุคของแพง ขายข้าวแกง จานละ 20 บาท เปิดมา 10 กว่าปีคงราคาเดิม
วันนี้ (11 มกราคม 2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ที่ยืดเยื้อมานานอีกทั้งของแพง ทำให้ผู้คนลำบากกันถ้วนหน้า แต่ยังมีร้านขายข้าวราดแกงที่ยังคงยืนหยัดขายข้าวราดแกงราคาถูกมากว่า 10 ปี ชื่อร้านแกงเจ้เหมียว ข้าวราดแกง 20 บาท ของนางทรรศนีย์ แสงคำมี อายุ 53 ปี หรือเจ้เหมียว ตั้งอยู่ริมถนนสายศรีสงคราม-อากาศอำนวย ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ซึ่งยังคงเปิดร้านข้าวราดแกงทุกวันเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่ลำบาก และขายในราคาเดิม คือข้าวราดแกง 1 อย่าง 20 บาท พิเศษราดข้าว 2 อย่าง 30 บาท ไข่ดาวฟองละ 5 บาท แกงถุงละ 25 บาท โดยจะเปิดร้านตั้งแต่เช้า มีลูกค้าหมุนเวียนมาซื้อไปกินที่บ้าน นั่งทานที่ร้านอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางร้านเปิดขายตั้งแต่ เวลา 07.00 น. ถึง 15.00 น. หยุดวันอาทิตย์ ถือว่าเป็นร้านที่ชาวบ้าน คนใช้แรงงาน ข้าราชการในพื้นที่ฝากท้องในช่วงที่ลำบาก บางคนมานั่งกิน ต้องซื้อกลับบ้านไปฝากหรือไปรับประทานในตอนเที่ยง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลยทีเดียว อาหารก็มีให้เลือกหลากหลายเมนู เช่น ผัดกะเพรา ผัดขี้เมา ลาบ แกงไตปลา แกงจืด ผัดขิง พะแนง ผัดวุ้นเส้น แกงเขียวหวาน ผัดหน่อไม้ ขนมจีน ก๋วยเตี๋ยวหมู ฯลฯ
เจ้เหมียว บอกว่า ต้องการช่วยเหลือผู้คนที่ลำบาก โดยเฉพาะในช่วงนี้ชาวบ้านเดือดร้อนจากโควิด 19 ยังมาเจอของแพง ตนกับครอบครัวเริ่มเปิดร้านขายข้าวแกง มานานกว่า 10 ปี ในราคาเริ่มต้นจานละ 20 บาท พิเศษ 30 บาท เพิ่มไข่ดาว 5 บาท ไม่คิดจะขึ้นราคาเพราะเป็นการช่วยเหลือชาวบ้านไปด้วย เพียงอาศัยขายเยอะ ๆ ก็พอมีกำไรเลี้ยงครอบครัวได้ ซึ่งคนในร้านก็ช่วยขายเป็นลูกหลาน พี่น้อง เริ่มทำตั้งแต่ 06.00 น. เปิดขาย 07.00 น. ไปจนถึง 15.00 น. และหยุดวันอาทิตย์ ซึ่งจะขายดีในช่วงเช้าก่อนคนไปทำงาน และช่วงเที่ยง คนจะทยอยมาเรื่อย ๆ อาหารที่ร้านจะเน้นทำใหม่สดตลอด ตัวไหนหมดทำเพิ่มเรื่อย ๆ ขายดีจะเป็นผัดกะเพรา ผัดขี้เมา วันหนึ่งผัดทีมากกว่า 20 กระทะ โดยลูกค้ามีหลากหลายอาชีพ ทั้งนักเรียน ชาวบ้าน คนใช้แรงงาน ข้าราช แวะเวียนเข้ามาซื้อตลอดทั้งวัน โดยเฉลี่ยแล้วกำไรไม่มากพออยู่ได้และก็จะขายต่อไปจนกว่าจะทำไม่ไหว เจ้เหมียว กล่าว
","11/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","นครพนม","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111153232845"], [238,"อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เปิดโครงการเฝ้าระวังและคุ้มครองแรงงานจากการหยุดกิจการชั่วคราวและเลิกจ้าง ป้องกันการละเมิดสิทธิประโยชน์แรงงานตามกฎหมาย เสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับสิทธิและกฎหมายคุ้มครองแรงงาน","วันนี้ (11 ม.ค.65) ที่ห้องประชุมโชควัฒนา สวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ลำพูน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เป็นประธานเปิดโครงการเฝ้าระวังและคุ้มครองแรงงานจากการหยุดกิจการชั่วคราวและเลิกจ้าง เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิประโยชน์แรงงานตามกฎหมาย และโครงการส่งเสริมสวัสดิการแรงงานสูงอายุ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยมีนายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นางสาวศิริลักษณ์ ตั้งวรปัญญากุล สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดลำพูน หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ
นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกและต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2562 เป็นต้นมา ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อทั่วโลกกว่า 279 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตกว่า 5 ล้าน 3 แสนราย ส่วนของประเทศไทย ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2 แสนกว่าราย มีผู้เสียชีวิต 2 หมื่นกว่าคน แม้ในขณะนี้ประเทศไทยได้มีการผ่อนคลายมาตรการ แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวที่มีมาต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน และเชื้อดังกล่าวยังมีการพัฒนาเป็นสายพันธุ์ใหม่เข้ามา ซึ่งไม่มีผู้ใดทราบแน่ชัดว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศเป็นวงกว้าง สถานประกอบกิจการยังคงเผชิญความเสี่ยงที่จะต้องลดกำลังการผลิต หรือหยุดกิจการ ชั่วคราวหรือเลิกจ้าง มีการใช้เทคนิคหรือกลยุทธ์ต่างๆ ในการบริหารจัดการโดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นทุนด้านแรงงานแต่ยังต้องรักษาสภาพการจ้างงานบางส่วนไว้ ก่อให้เกิดการจ้างงานรูปแบบใหม่ซึ่งส่งผลกระทบต่อลูกจ้างเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ จังหวัดลำพูนมีนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นแหล่งจ้างงานขนาดใหญ่ที่สำคัญของภาคเหนือ ขณะเดียวกันก็เป็นแหล่งจ้างงานภาคเกษตรกรรมที่สำคัญของประเทศและพืชเกษตรที่สำคัญ คือ ลำไย เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ย่อมส่งผลกระทบต่อธุรกิจภาคอุตสาหกรรม และธุรกิจภาคเกษตรกรรม จากการติดตามข่าวได้ทราบว่าจังหวัดลำพูนได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก มีมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเข้มข้น และเข้มแข็งอย่างต่อเนื่อง เพื่อหาแนวทางป้องกันผลกระทบต่อภาคแรงงานในอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของจังหวัด ในส่วนของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้มอบหมายให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดลำพูน เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์และตรวจสอบกรณีการหยุดกิจการชั่วคราวและการเลิกจ้างของสถานประกอบกิจการ เพื่อป้องกันมิให้มีการละเมิดสิทธิประโยชน์ของลูกจ้าง สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ตามกฎหมาย รวมถึงส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างให้ตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างความร่วมมือในการแก้ปัญหาในภาวะวิกฤตนี้ เพื่อให้สถานประกอบกิจการสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้โดยไม่มีการเลิกจ้างหรือเลิกจ้างให้น้อยที่สุด ตลอดจนการเสริมสร้างความรู้ให้แก่แรงงานผู้สูงอายุในกรณีที่ต้องเกษียณอายุหรือถูกเลิกจ้างก่อนกำหนดให้มีความรู้ด้านสุขภาพอนามัยมีความพร้อมและวางแผนในการดำรงชีวิตหลังเกษียณ ขอให้ผู้เข้ารับการอบรมทุกท่านตั้งใจ เก็บเกี่ยวความรู้จากวิทยากรเพื่อจะได้นำความรู้ และทักษะที่ได้รับไปใช้เป็น แนวทางในการบริหารจัดการแรงงานในสถานประกอบกิจการ ในภาวะวิกฤตเช่นนี้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ตลอดจนสามารถวางแผน ใช้ชีวิตหลังเกษียณได้อย่างมีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
ด้าน สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดลำพูน เผยว่า การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ส่งผลกระทบไม่เพียงด้านสุขภาพที่มีผู้ป่วยและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากเท่านั้น ยังรวมถึงด้านเศรษฐกิจ เมื่อรัฐบาลหลายประเทศมีมาตรการล็อกดาวน์จนถึงขั้นปิดประเทศ ทำให้การติดต่อค้าขายมีการหยุดชะงัก สถานประกอบกิจการได้รับผลกระทบโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคบริการด้านการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมส่งออกไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ต้องหยุดกิจการชั่วคราว ลดชั่วโมงการทำงานลดเงินเดือนพนักงานไปจนถึงการเลิกจ้างหรือปิดกิจการ ผู้ประกอบการหลากหลายสาขาต้องปรับเปลี่ยนแนวทางในการดำเนินธุรกิจการให้บริการ ขณะเดียวกันก็ปรับวิธีการทำงาน การบริหารจัดการสู่บริบทความปกติใหม่ (New Normal) เพื่อลดค่าใช้จ่ายและให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
จากข้อมูลของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดลำพูนในปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ถึงปัจจุบัน พบว่า มีสถานประกอบกิจการได้หยุดกิจการชั่วคราวตามมาตรา 75 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 จำนวน 19 แห่ง ส่งผลกระพบต่อลูกจ้าง จำนวน 6,893 คน และมีสถานประกอบกิจการจำนวน 94 แห่ง มีการเลิกจ้างซึ่งส่งผลกระทบต่อลูกจ้าง จำนวน 1,962 คน ประกอบกับในปี 2564 จากข้อมูลของสำนักงานสถิติจังหวัดลำพูน พบว่าจังหวัดลำพูนมีประชากรที่เป็นผู้สูงอายุ จำนวน 186,264 คน โดยในจำนวนนี้เป็นแรงงานผู้สูงอายุที่อยู่ในระบบ จำนวน 79,951 คน ซึ่งกลุ่มแรงงานเหล่านี้นายจ้างมักจะเลือกกลุ่มเป้าหมายเป็นลำดับต้นในการพิจารณาการเลิกจ้าง
สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดลำพูน จึงได้จัดโครงการฯ เพื่อเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ตมกฎหมายคุ้มครองแรงานและป้องกันมิให้แรงงานถูกละเมิดสิทธิจากการหยุดกิจการชั่วคราวและเลิกจ้างตลอดจนสามารถบริหารจัดการแรงงานในภาวะวิกฤตได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพื่อส่งเสริมให้แรงงานผู้สูงอายุมีการเตรียมความพร้อมก่อนการเกษียณอายุสามารถใช้ชีวิตภายหลังการเกษียณอายุได้อย่างมีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป โดยการจัดอบรมในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนวิทยากรจากศาลแรงงานภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ผู้เข้ารับการอบรมประกอบด้วย นายจ้าง ลูกจ้าง และผู้ที่เกี่ยวข้อง จำนวนรวม 50 คน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
วันนี้ (11 ม.ค. 65) ที่ห้องประชุมสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสงขลา นายอำพล พงศ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานการประชุมติดความคืบหน้าการขับเคลื่อนเตรียมความพร้อมเปิดพื้นที่การท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา ร่วมกับตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานหาดใหญ่ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสงขลา สำนักงานจังหวัดสงขลา สำนักงานจังหวัดสงขลา สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา ฯลฯ โดยหารือเกี่ยวกับการประเมินพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว การพัฒนาพื้นที่ปลอดภัยด้านการท่องเที่ยว แนวทางการเปิดด่านชายแดน แนวทางการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยว เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นายอำพล พงศ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ตามที่ รัฐบาลกำหนดให้จังหวัดสงขลา ดำเนินการเปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว ในระยะที่ 2 (1-31 ธันวาคม 2564) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ จังหวัดสงขลาได้ดำเนินการขับเคลื่อนและเตรียมความพร้อมในด้านมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ด้านกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อรองรับการเปิดพื้นที่การท่องเที่ยว โดยในเบื้องต้นได้กำหนดเปิดพื้นที่การท่องเที่ยว ระยะที่ 1 ในวันที่ 16 มกราคม 2565 รูปแบบ Test and G0 ช่องทางทางบก ผ่านบริษัทนำเที่ยว ณ ด่านสะเดา ซึ่งการเปิดด่านชายแดนไทย-มาเลเซีย ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศก่อน โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีกำหนดหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีมาเลเซีย เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบความเป็นไปได้ในการเปิดพรมแดน และการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ทั้งทางอากาศ ทางบก และทางน้ำ เมื่อวันที่ 29-30 ธันวาคม 2564
แต่เนื่องจากมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์ \"โอมิครอน\" รวมทั้งทางประเทศมาเลเซียเกิดน้ำท่วมหนัก ทำให้บ้านเรือนประชากรในประเทศมาเลเซียได้รับความเสียหาย นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย จึงเลื่อนกำหนดการเจรจากับทางรัฐบาลไทย และให้มีการเลื่อนการเปิดด่านไปก่อน รวมทั้งปัจจุบันรัฐบาลได้ยกเลิกมาตรการเดินทางเข้าประเทศแบบ Test and Go และ Sandbox ยกเว้น ภูเก็ตแชนด์บ็อกซ์ เป็นการชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม จังหวัดสงขลายังคงขับเคลื่อนและเตรียมความพร้อมเปิดพื้นที่การท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยเร่งรัดการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือเข็ม 3 ดำเนินมาตรการ COVID Free Setting เร่งรัดการตรวจ ATK 2% ของประชากรต่อสัปดาห์ เตรียมความพร้อมเรื่องการดูแลรักษาพยาบาล โดยเฉพาะความพร้อมของโรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการ และผลักดันให้สถานประกอบการในพื้นที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยให้ได้มากที่สุด
","11/1/2022","ภาคใต้","สงขลา","สวท.สงขลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111170218903"], [240,"ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยแผนปี 65-67 เชื่อมโยงตลาดทุน มุ่งสร้างโอกาสใหม่","
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ความท้าทายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ขณะที่โลกยุคดิจิทัลเปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิ่ง กลุ่มตลาดหลักทรัพย์ฯ ยึดมั่นวิสัยทัศน์ To Make the Capital Market Work for Everyone มุ่งพัฒนาตลาดทุนให้เป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน พร้อมปรับตัวและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยแผนกลยุทธ์ 3 ปีต่อจากนี้ (2565-2567) จะขยายสู่การเชื่อมโยงการลงทุนโลกปัจจุบันควบคู่ไปกับโลกอนาคต ให้เป็นแหล่งรวมการลงทุนของประเทศ พร้อมส่งเสริมทักษะทางการเงินของคนไทยเพื่อคุณภาพชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นภายใต้ชีวิตวิถีใหม่ และสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคธุรกิจในการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง เพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนของประเทศ ผ่านกลยุทธ์ 3 ด้าน
1) เชื่อมโยงโอกาสทุกภาคส่วน
2) พัฒนานวัตกรรมโครงสร้างพื้นฐานที่ทุกคนไว้วางใจ และ 3) ส่งเสริมความยั่งยืนด้านการเงินเพื่อคนไทย
1) เชื่อมโยงโอกาสทุกภาคส่วน ด้วยการส่งเสริมการระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นจดทะเบียนใหม่แก่ประชาชนครั้งแรก (IPO) ของบริษัทที่มีศักยภาพและการเติบโตสูง และการจดทะเบียนของบริษัทจากต่างประเทศ มุ่งพัฒนาแหล่งระดมทุนสำหรับธุรกิจเพื่อสังคม เอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพ ด้วยการต่อยอดจาก LiVE Platform ไปสู่ LiVE Exchange โดยคาดว่าจะเปิดซื้อขายภายในไตรมาส 1 ปี 2565 พร้อมยกระดับคุณภาพของบริษัทจดทะเบียนโดยการบ่มเพาะให้เป็น ESG Investment Stars สนับสนุนให้บริษัทขนาดกลางและเล็ก นำแนวคิดด้าน ESG มาใช้ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อเพิ่มจำนวนบริษัทที่อยู่ในดัชนีความยั่งยืนระดับโลก ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรในตลาดทุน เพิ่มการเข้าถึงการลงทุนที่ง่ายขึ้นด้วยกระบวนการเปิดบัญชีที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งส่งเสริมผู้ลงทุนบุคคลใช้เทคโนโลยีช่วยในการซื้อขาย ตอบโจทย์ผู้ลงทุนรุ่นใหม่ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ใช้เงินลงทุนขั้นต่ำน้อย รวมทั้งเชื่อมโยงโอกาสการลงทุนในต่างประเทศ อาทิ ETF DR DW และ Fractional Product ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้ซื้อขายได้ต้นไตรมาส 3 ของปีนี้
2) พัฒนานวัตกรรมโครงสร้างพื้นฐานที่ทุกคนไว้วางใจ โดยการขยายโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีความน่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเพื่อสอดคล้องกับชีวิตวิถีใหม่ ยกระดับการบริหารจัดการผู้ประกอบวิชาชีพในตลาดทุนแบบครบวงจรผ่านรูปแบบดิจิทัล พร้อมพัฒนา ESG Data Platform เพื่อให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลสำหรับการลงทุนในหุ้นยั่งยืน รวมถึงเตรียมพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่เพื่อเชื่อมต่อการซื้อขายจากสินทรัพย์ในปัจจุบันไปสู่สินทรัพย์ดิจิทัล โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (TDX) ภายในไตรมาส 3 ปี 2565
3) ส่งเสริมความยั่งยืนด้านการเงินเพื่อคนไทย ผ่านการส่งเสริมและการศึกษาด้าน ESG โดยการเพิ่มจำนวนผู้เชี่ยวชาญด้าน ESG ผ่านการร่วมมือกับสถาบันการศึกษา รวมทั้งองค์กรต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่หลักสูตรที่เป็นมาตรฐานด้าน ESG ส่งเสริมทักษะทางการเงินให้เป็นส่วนหนึ่งในทักษะชีวิตของคนไทยเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นภายใต้ชีวิตวิถีใหม่ อาทิ โครงการ Happy Money เพิ่มจำนวนพันธมิตรในการขับเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อมและภูมิอากาศผ่านโครงการ Climate Care Platforms รวมถึงเพิ่มศักยภาพธุรกิจเพื่อสังคม และสนับสนุนธรรมาภิบาลด้านความปลอดภัย
ไซเบอร์ของตลาดทุนไทย
เพื่อให้การพัฒนาตลาดหลักทรัพย์ในอนาคตมีความยืดหยุ่น สนับสนุนการแข่งขันในโลกการลงทุนยุคดิจิทัล
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ขยายโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างคล่องตัว และเปิดโอกาสให้มีการทำงานร่วมกับพันธมิตรได้อย่างเต็มที่ เชื่อว่าจะสามารถสร้างโลกการลงทุนปัจจุบันควบคู่ไปกับโลกอนาคตได้อย่างไร้รอยต่อ ตอบโจทย์ทั้งผู้ออกหลักทรัพย์ ผู้ลงทุน และผู้มีส่วนได้เสียในทุกภาคส่วน พร้อมเดินหน้าดูแลคนไทยผ่านความเปลี่ยนแปลงและเติบโตไปพร้อมกัน นายภากรกล่าว
สรุปพัฒนาการสำคัญและความสำเร็จปี 2564
สร้างการเติบโตให้กับตลาดทุน
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของหลักทรัพย์ IPO ที่ 4.54 แสนล้านบาท สูงสุดเป็นอันดับ 7 ในเอเชีย และอันดับ 18 ของโลก
สภาพคล่องสูงสุดในอาเซียน ตั้งแต่ปี 2555 โดยปัจจุบันมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 9.39 หมื่นล้านบาท
จำนวนบัญชีหุ้นเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบัญชี หรือเพิ่มขึ้น 40% จากสิ้นปีก่อนหน้า ปัจจุบันมีบัญชีซื้อขายหุ้นกว่า 5 ล้านบัญชี
มีเกณฑ์รองรับ IPO สำหรับ New Economy ตอบโจทย์การระดมทุนของรัฐในอุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายรัฐ
ได้รางวัล ตลาดหลักทรัพย์ยอดเยี่ยมแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำปี 2564 (Best Stock Exchange Southeast Asia 2021) จากGlobal Banking and Finance Review และรางวัล ESQRs Quality Achievements Award 2021 จากสถาบัน European Society for Quality Research (ESQR) สะท้อนให้เห็นถึงการเป็นที่ยอมรับในระดับสากลในฐานะตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำของภูมิภาคเอเชีย
ส่งเสริมความคล่องตัวให้กับภาคธุรกิจ
พัฒนาระบบซื้อขาย LiVE Exchange เพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนของเอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพ
เชื่อมโยงสินค้าและบริการในตลาดโลก เช่น DR Linkage ไทย-สิงคโปร์, DW on DJSI, NASDAQ-100 Index และ Hang Seng Tech Index และอ้างอิงหุ้นในตลาดฮ่องกง
พัฒนาบริการ Streaming Fund+ ซื้อขายกองทุนรวมและสร้างแผนการลงทุน
FundConnext มีธุรกรรมซื้อขายกองทุนรวมมากกว่า 33,000 รายการต่อวัน เพิ่มขึ้นกว่า 1.6 เท่า จากปี 2563
พัฒนาบริการ Digital Access Platform (DAP) โดยเป็น NDID Proxy ของตลาดทุน พร้อมเดินหน้าเชื่อมโยงฐานข้อมูลกับหน่วยงานทางการ
สนับสนุนความยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้เสีย
24 บริษัทจดทะเบียนไทยได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) สูงสุดในอาเซียนเป็นปีที่ 8 และ 11 บริษัทไทย ติดอันดับ Gold class ของ S&P Global สูงสุดของโลก
ขยายพันธมิตรพัฒนาหลักสูตรผู้ประกอบการ เช่น NIA ปัญญาภิวัฒน์ และ Expara Thailand
สร้างการเรียนรู้ทางการเงินสำหรับคนไทยผ่านโครงการ Happy Money, AOM YOUNG และ INVESTORY Mobile Exhibition on Schools
เดินหน้าลดโลกร้อน Climate Care Platforms โดยมีบริษัทเข้าร่วมมากกว่า 300 บริษัท และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของอาคารให้เป็นศูนย์ (carbon neutral)
ออกมาตรการลดผลกระทบจาก COVID-19 ให้กับผู้มีส่วนได้เสีย
","11/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","หน่วยงานสำนักข่าว","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111165820899"], [241,"พาณิชย์บึงกาฬ ให้ข้อมูลสาเหตุที่ราคาเนื้อหมูแพงในช่วงนี้ พร้อมชี้มาตรการของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเร่งแก้ปัญหานี้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว","
นางสาวเอื้อนจิตร ช่วยนก พาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ ให้ข้อมูลว่า จากสถานการณ์เนื้อหมูราคาแพงและเนื้อหมูขาดตลาด ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 จนถึงปัจจุบันก็ทำให้ร้านค้า ร้านอาหารต้องปรับราคาค่าอาหารที่มีเนื้อหมูเป็นส่วนประกอบซึ่งมีราคาสูงขึ้น ซึ่งมีสาเหตุมาจาก
1.ผู้เลี้ยงสุกรแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไม่ไหว บางรายจึงต้องตัดสินใจเลิกเลี้ยงหมูไปก่อนในช่วงนี้ ส่งผลให้ฟาร์มร้าง หมูขาดตลาด
2.เกิดโรคระบาดในสุกร ผู้เลี้ยงสุกรจึงต้องใช้เงินลงทุนในระบบป้องกันที่เรียกว่า Biosecurity (ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ) ที่สูงขึ้น ทำให้มีต้นทุนการเลี้ยงสุกรที่เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
ในการแก้ปัญหานี้ กรมการค้าภายในก็ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศจัดรายการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน (ครั้งที่ 2) ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) เพื่อลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งเป็นโครงการเร่งด่วนในภาวะที่ราคาหมูแพงขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้มีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูที่ถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งจัดกันทั้งหมด 15 วัน ในส่วนของ จ.บึงกาฬ ก็จัดมาแล้วตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา และจะจัดไปจนถึงวันที่ 22 ม.ค. 65 และหยุดขายในวันพระ โดยหมูที่นำมาขายนี้เป็นหมูเนื้อแดง ขายในราคาถูก 150 บาทต่อกิโลกรัม จำนวน 2 จุด ได้แก่ ร้านเขียงหมูเจ๊กบ ร้านเขียงหมูเจ๊เหล๋ย ในตลาดสดเทศบาลเมืองบึงกาฬ โดยกำหนดขาย จุดละ 100 กิโลกรัม
ส่วนการแก้ปัญหาในระยะยาว มีการพิจารณาในประเด็นเรื่องจำนวน ปริมาณตัวเลขการผลิตหมูที่ป้อนเข้าสู่ตลาด และมีประกาศจากคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ว่าด้วยเรื่องการห้ามส่งออกสุกรมีชีวิตไปนอกราชอาณาจักรทุกกรณีเป็นระยะเวลา 3 เดือน จนถึงวันที่ 5 เม.ย. 65 เป็นการชั่วคราวก่อน แล้วหลังจากนั้นจะพิจารณาต่อไปตามสถานการณ์ว่าจะต้องมีการต่ออายุหรือไม่ และยังได้มีการออกประกาศเรื่องการแจ้งปริมาณราคา สถานที่เก็บ และการจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื่องจากว่าสินค้าสุกรเป็นสินค้าควบคุมตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ โดยให้ผู้เลี้ยงที่มีปริมาณการเลี้ยงเกิน 500 ตัว , ผู้ค้าส่งที่มีปริมาณการส่งเกิน 500 ตัว และห้องเย็นที่มีการเก็บสต๊อกเกิน 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป ให้แจ้งสต๊อกราคาและจำนวนสินค้าให้กรมการค้าภายในทราบในทุก 7 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค. 65 เป็นต้นไป เพื่อให้ทราบปริมาณหมูเป็น หมูแช่แข็งแช่เย็นที่อยู่ในระบบทั่วประเทศมีปริมาณทั้งหมดเท่าไร และในที่ประชุมได้มอบหมายให้กรมปศุสัตว์ เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงในเรื่องนี้ ผลิตสุกรเข้าระบบ และเร่งส่งเสริมการเลี้ยงสุกรให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สุกรมีเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศโดยเร็วที่สุด
","11/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","บึงกาฬ","สวท.บึงกาฬ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111172848912"], [242,"กระบี่ นำร่องบูรณาการ 4 ตลาดกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์โควิด-19","วันนี้ (11 มกราคม 2565) นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานประชุมหารือเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์โควิด-19 มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย นายสาโรจน์ ไชยมาตร ท้องถิ่นจังหวัดกระบี่ นายสุภาพ จีนเมือง พาณิชย์จังหวัดกระบี่ นายสงัด พืชพันธุ์ พัฒนาการจังหวัดกระบี่ นายชำนาญ นุ่นดำ เกษตรจังหวัดกระบี่ พันตำรวจเอก สมเด็จ สุขการ นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ นายกิตติ ณัฏฐวุฒิสิทธิ์ รองประธานหอการค้าจังหวัดกระบี่ ณ ห้องปฏิบัติงานผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดกระบี่
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้มอบแนวทางในการขับเคลื่อนในการบูรณาการตลาด เพื่อช่วยเหลือประชาชนได้มีแหล่งขายสินค้าเพิ่มมากขึ้น และประชาชนได้มีทางเลือกตลาดซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นด้วยเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ในเบื้องต้นให้มีการนำร่องบูรณาการ 4 ตลาด ประกอบด้วย ตลาดถนนคนเดิน เปิดให้บริการ ทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ บริหารจัดการโดยหอการค้าจังหวัดกระบี่ , ตลาดประชารัฐคนไทยยิ้มได้ หลังศาลากลางจังหวัดกระบี่ เปิดให้บริการทุกวันพฤหัสบดี บริหารจัดการโดยเทศบาลเมืองกระบี่ และสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดกระบี่ , ตลาดเกษตรกรจังหวัดกระบี่ เปิดให้บริการวันจันทร์ บริหารจัดการโดยสำนักงานเกษตรจังหวัดกระบี่ และตลาดโต้รุ่งสะพานเจ้าฟ้า เปิดให้บริการทุกวัน บริหารจัดการโดยเทศบาลเมืองกระบี่
ทั้งนี้ การบูรณาการ 4 ตลาดดังกล่าว จะช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้กับพ่อค้าแม่ค้าและเกษตรกร ได้รับผลกระทบรายได้ที่ลดลงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จึงได้เพิ่มช่องทางการตลาดขึ้นเพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าและเกษตรกร ได้มีตลาดเป็นช่องทางจำหน่ายผลผลิตเพิ่มมากขึ้น และประชาชนผู้ซื้อได้มีทางเลือกซื้อสินค้าได้สะดวกมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก สร้างความเข็มแข็ง มั่นคง กระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน
","11/1/2022","ภาคใต้","กระบี่","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111173204914"], [243,"เปิดพื้นที่แซนด์บ๊อกซ์ 3 จังหวัดภาคใต้วันนี้วันแรก กำชับเจ้าหน้าที่ทุกราย คุมเข้มตามมาตรการสาธารณสุข","นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยถึงภาพรวมการเปิด sandbox 3 จังหวัดภาคใต้ วันนี้วันแรก หลังมีมติจาก ศบค. เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ว่า ได้อนุมัติการเปิดพื้นที่ sandbox เพิ่มเติมใน 3 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดพังงาและจังหวัดกระบี่ ซึ่งดูจากสถิติในการยื่นขอ Thailand Pass มีประชาชนเข้าร่วมประมาณ 3,800 คน ส่วนใหญ่จะเป็นประชาชนที่เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตรองลงมากระบี่ และสมุย ตามลำดับ
การท่องเที่ยว มีมาตรการและแนวทางความพร้อม ของ sandbox ในพื้นที่ใหม่ ยังคงเป็นไปตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดและกำชับเจ้าหน้าที่ทุกรายตรวจคัดกรองอย่างเข้มงวด ประกอบไปด้วย ติดตั้ง แอปพลิเคชันหมอชนะ เพื่อการติดตามและกำกับที่อยู่ในพื้นที่และมีการตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง เนื่องจากการตรวจพบเชื้อครั้งที่สองจะมีสถิติที่สูงกว่าการตรวจหาเชื้อในครั้งแรก ซึ่งจะเน้นการตรวจคัดกรองในพื้นที่ phuket sandbox เดิม และ 3 พื้นที่ sandbox ใหม่
วันที่ 11 มกราคม 2565 นายจิรวุฒิ สุวรรณอาจ พาณิชย์จังหวัดนครพนม มอบหมายให้นายธิติศักดิ์ ผาสุขนิตย์ชญากุล ผอ.กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนงาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานฯ ออกตรวจสอบเรื่องร้องเรียนร่วมกับสำนักงาน สาขาชั่งตวงวัดเขต 2-3 สกลนคร ตามคำร้องที่ กท 0020/ 65 กรณีร้องเรียนว่าราคาจำหน่ายปลีกน้ำมันดีเซล B7 ไม่ตรงกับป้ายแสดงราคาหน้าสถานีบริการน้ำมัน ผลการตรวจสอบพบว่า ณ วันเวลาทำการตรวจสอบ พบว่าราคาจำหน่ายปลีกหัวจ่ายน้ำมันดีเซล B7 จำนวน 6 หัวจ่าย ราคา 30.66 บาท/ลิตร ราคาที่แสดงไว้หน้าสถานีบริการน้ำมัน ราคา 30.66 บาท/ลิตร โดยจำกัดโควต้าไม่เกิน 100 ลิตร ส่วนราคาส่งมี 2 หัวจ่าย ราคา 30.35 บาท/ลิตร ไม่จำกัดโควต้าการซื้อ และจากการติดต่อสอบถามผู้ร้องและผู้ประกอบการทราบว่า เรื่องร้องเรียนดังกล่าวเป็นเรื่องจริง โดยจำหน่ายน้ำมันดีเซล B7 ในวันที่ 4 มกราคม 2565 ราคาจำหน่ายปลีก 29.26 บาท/ลิตร ราคาที่แสดงไว้หน้าสถานี 29.26 บาท/ลิตร ราคาส่ง 29.55 บาท/ลิตร เหตุที่ราคาส่งสูงกว่าราคาปลีกในช่วงวันเวลาดังกล่าว เนื่องจากล็อตน้ำมันขายส่งยังเป็นโควต้าเดิม ยังไม่ปรับราคา แต่ทางสถานีได้แจ้งให้ผู้ร้องไปเติมที่หัวจ่ายขายปลีกแล้วในราคา 29.26 บาท/ลิตร ในปริมาณ 100 ลิตร แต่ผู้ร้องพอใจที่จะเติมหัวจ่าย ในราคาส่ง 200 ลิตร
ทั้งนี้ผู้ร้องรับทราบเหตุผลและไม่ติดใจเรื่องราคา แต่ไม่พอใจการให้บริการของพนักงานที่พูดจาเสียงดังไม่สุภาพ ซึ่งอยากให้ทางสถานีขอโทษ ทางสถานีได้ให้พนักงานดังกล่าวขอโทษผู้ร้อง และมีโปรโมชั่นส่วนลด 10 สต./1,000 ลิตร หากนำบิลจำนวน 1,000 ลิตรมายืนยัน ซึ่งทางผู้ร้องพึงพอใจกับการดำเนินการ ทั้งนี้ สำนักงานสาขาชั่งตวงวัดเขต 2-3 สกลนคร ได้ตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมัน จำนวน 24 หัวจ่าย พบว่า ถูกต้อง ครบถ้วน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","11/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","นครพนม","สวท.นครพนม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111190945940"], [245,"พาณิชย์จังหวัดมุกดาหารกำหนดจุดจำหน่ายสุกรและตึงราคา ก.ก.ละ 150 บาทจนถึงวันที่ 31 มกราคมนี้","
วันนี้ (11 ม.ค.65) นางลักขณา บุญนำพาณิชย์ จังหวัดมุกดาหาร กล่าวภายหลังการประชุมชี้แจ้งมาตรการแก้ไขปัญหาสุกร ผ่านระบบ Zoom Meeting ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อชี้แจ้งมาตรการแก้ไขปัญหาสุกร ณ ห้องประชุมสำนักงานพาณิชย์จังหวัดมุกดาหาร โดยกำหนดให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดดำเนินการจัดจุดจำหน่ายสุกรและตึงราคาหมูชำแหละเนื้อแดง กก.ละ 150 บาท จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 จำนวน 6 จุด จากเดิมกำหนดสิ้นสุดวันที่ 15 มกราคม 2565 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับราคาสุกรสูงขึ้น รวมทั้งเพื่อเพิ่มช่องทางในการซื้อเนื้อสุกรชำแหละในราคาถูกกว่าท้องตลาด
สำหรับจังหวัดมุกดาหารปัจจุบันมีเขียงหมูที่เข้าร่วมโครงการ จำหน่ายหมูพาณิชย์ลดราคาเพื่อประชาชน ราคา 150 บาท เพียง 2 จุดคือ.1.เขียงหมูแจ๋วแหว๋ว 2 เชียงหมูเจ๊น้อย ณ ตลาดศิริพร เวลา 07.00 น.เป็นต้นไป สำหรับจุดที่เพิ่มเติม สนง.พาณิชย์จังหวัดมุกดาหาร จะแจ้งให้ทราบต่อไป
ในส่วนของเรื่องไก่เนื้อ ทางกรมการค้าภายใน แจ้งว่าได้ประสานขอความร่วมมือสมาคมผู้เลี้ยงไก่ ผู้ประกอบการรายใหญ่ให้ตรึงราคาสินค้าเป็นเวลา 6 เดือน ได้แก่
- ไก่เป็น ราคา 35.50 บาท/กก.
- ไก่สดทั้งตัวไม่รวมเครื่องใน ราคา 60-65 บาท
- น่องติดสะโพก/น่อง/สะโพก ราคา 60-65 บาท
- เนื้ออก ราคา 65-70 บาท/กก.
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","11/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","มุกดาหาร","สวท.มุกดาหาร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111191214941"], [246,"จังหวัดชลบุรี นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่ฯ แนะรัฐลดภาษีนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ หวังดึงราคาเนื้อหมู-ไก่ไม่ให้พุ่งไกลกว่าที่เป็นอยู่","
นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่ฯ แนะรัฐลดภาษีนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ หวังดึงราคาเนื้อหมู-ไก่ไม่ให้พุ่งไกลกว่าที่เป็นอยู่
ดร.ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และประธานกรรมการบริหารบริษัทในเครือฉวีวรรณ ผู้ส่งออกเนื้อไก่รายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า หนึ่งปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลจะต้องแก้ให้ได้คือ ราคาวัตถุดิบในการประกอบอาหารสัตว์ที่พุ่งสูงถึง 40% จนกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาเนื้อหมูและเนื้อไก่พุ่งสูงจนทำให้ผู้เลี้ยงหมูและไก่หลายรายที่ไม่มีสายป่านทางการเงินต้องหยุดระบบการผลิตจนเป็นที่มาของการขาดแคลนเนื้อหมูและไก่ ยิ่งตอนนี้เจอปัญหาโควิดสายพันธุ์โอมิครอนที่ทำให้ภาคธุรกิจเกรงว่าหากเกิดการระบาดใหญ่รัฐบาลอาจประกาศล็อกดาวน์อีกครั้ง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจที่เริ่มขยับหยุดชะงัก สิ่งนี้ขอยืนยันว่าการล็อกดาวน์ไม่ช่วยแก้ปัญหาอะไร แต่ประชาชนจะต้องมีสติในการดำเนินชีวิตและดูแลตัวเองให้ดี รวมทั้งผู้ประกอบธุรกิจต้องทำงานอย่างรอบคอบ เพียงเท่านี้เราก็จะผ่านวิกฤตการระบาดครั้งใหญ่ได้
ดร.ฉวีวรรณ ยังแนะแนวทางในการแก้ปัญหาราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์พุ่งสูงว่า รัฐบาลควรลดภาษีนำเข้าวัตถุดิบที่ใช้เลี้ยงสัตว์ ทั้งกากถั่ว ข้าวโพด และวัตถุดิบอื่นๆ เพื่อลดต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการมีกำลังในการเลี้ยงหมูและไก่อีกครั้ง หลังในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาวิกฤตโควิด-19 ได้ก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้ออย่างหนักจนทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กจำนวนมากต้องหยุดกระบวนการผลิตหลังเกิดปัญหาราคาเนื้อสัตว์ตกต่ำในช่วงก่อนหน้า แต่เมื่อโรงงานหลายแห่งเริ่มกลับเข้าสู่กระบวนการผลิตอีกครั้งกลับต้องเจอกับปัญหาราคาอาหารสัตว์แพง โดยเชื่อราคาเนื้อหมูและเนื้อไก่ที่พุ่งสูงขึ้นจะเป็นเช่นนี้ไปจนถึงช่วงเทศกาลตรุษจีน เพราะในช่วง 2 เดือนก่อนหน้านี้ราคาไก่ตกต่ำอย่างหนัก ซึ่งสินค้าเกษตรหากผู้ประกอบการขาดทุนมากราคาก็ตกต่ำ เมื่อสินค้าขาดตลาดราคาจะพุ่งขึ้น ดังนั้น ในปีนี้สิ่งที่ขอฝากไปยังรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์คือ การแก้ไขปัญหาเรื่องต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันกัน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","11/1/2022","ภาคตะวันออก","ชลบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111203616985"], [247,"จ.อำนาจเจริญ จัดงานผลิตภัณฑ์ คักขนาด ดีเกินคาด อํานาจเจริญ คุมเข้มตามมาตรการป้องกันโควิด-19","
วันนี้ (11 ม.ค.65) ที่บริเวณสนามหน้าสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดอํานาจเจริญ ตําบลบุ่ง อําเภอเมือง จังหวัดอํานาจเจริญ นายธนูสินธ์ ไชยสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานเปิดงาน ผลิตภัณฑ์ คักขนาด ดีเกินคาด อํานาจเจริญ พร้อมทั้งเป็นสักขีพยานในการลงนามจับคู่ธุรกิจระหว่างนักธุรกิจกับเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ พร้อมทั้งเดินเยี่ยมชมบูธแสดงและจำหน่ายสินค้าโอทอป ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยผู้จําหน่ายสินค้าทุกรายต้องได้รับวัคซีนมาแล้วอย่างน้อย 2 เข็มและต้องผ่านการตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ไม่เกิน 24 ชั่วโมง ก่อนเข้าจําหน่ายสินค้า ตลอดผู้เข้าร่วมงานต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 และผ่านการตรวจคัดกรองก่อนเข้าร่วมงานและยังได้ดําเนินการตามมาตรการควบคุมโรค D-M- H-T- T- A อย่างเคร่งครัด
นายวิรัตน์ นามวงษา พาณิชย์จังหวัดอํานาจเจริญ ได้กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า จังหวัดอํานาจเจริญได้กําหนดประเด็นการพัฒนาด้านการส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และบริการ และสินค้าชุมชนให้สามารถแข่งขันได้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจการค้าของจังหวัดให้เติบโตอย่างต่อเนื่องจากฐานการเกษตร การสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่ชุมชนและเป็นปัจจัยสําคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับชุมชนให้เติบโตมากขึ้น และสามารถแข่งขันได้ โดยผู้ประกอบการรายย่อยที่เป็นเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร เครือข่ายสินค้า OTOP สมาชิกบิสคลับอํานาจเจริญ ผู้ประกอบการ SMEs วิสาหกิจชุมชน ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจําหน่ายสินค้าชุมชน สินค้า OTOP ยังคงต้องได้รับการส่งเสริมและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และให้สามารถขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็ง มีช่องทางการตลาด และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้และพัฒนาขีดความสามารถทางการตลาดของตนเอง เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ประกอบกับสถานการณ์ในห้วงที่ผ่านมา และในสถานการณ์ปัจจุบันเกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจ การค้าขายสินค้าได้น้อยลง ทําให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจลดลงด้วย ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ผลิต ผู้ประกอบการรายย่อยจังหวัดอํานาจเจริญ สํานักงานพาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญ จึงได้จัดงาน ผลิตภัณฑ์ คักขนาด ดีเกินคาด อํานาจเจริญ ขึ้น โดยมีกิจกรรมประกอบด้วย การแสดงและจําหน่ายสินค้าชุมชน สินค้า OTOP ของผู้ประกอบการรายย่อยที่เป็นเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร เครือข่ายสินค้า OTOP สมาชิกบิสคลับอํานาจเจริญ ผู้ประกอบการ SMEs วิสาหกิจชุมชน ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจําหน่ายสินค้าดังกล่าว จํานวน 80 คูหา โดยเป็นผู้ประกอบการในจังหวัดอำนาจเจริญ จํานวน 52 คูหา ต่างจังหวัด จํานวน 28 คูหา และมีกิจกรรมบันเทิงเพื่อสร้างความสนใจให้มีผู้มาจับจ่ายใช้สอยตลอดการจัดงานระยะเวลา 5 วัน ระหว่างวันที่ 10-14 มกราคม 2565 และยังมีการเจรจาจับคู่ธุรกิจ โดยเชิญนักธุรกิจ/ผู้ซื้อ(Buyer) ร่วมเจรจาธุรกิจกับเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ประกอบการภายในงาน เพื่อเชื่อมโยงและสร้างเครือข่ายธุรกิจการค้า สํานักงานพาณิชย์จังหวัดอํานาจเจริญได้ให้ความสําคัญกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยผู้จําหน่ายสินค้าทุกรายต้องได้รับวัคซีนมาแล้วอย่างน้อย 2 เข็ม และผู้จําหน่ายสินค้าที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่นต้องได้รับวัคซีนมาแล้วอย่างน้อย 2 เข็ม และต้องผ่านการตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ไม่เกิน 24 ชั่วโมง ก่อนเข้าจําหน่ายสินค้า และยังได้ดําเนินการตามมาตรการควบคุมโรค D -M - H- T - T- A อย่างเคร่งครัด
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","11/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อำนาจเจริญ","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอำนาจเจริญ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111232312026"], [248,"พาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ตรวจราคา เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ ผักสด ป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า พร้อมกำชับให้พ่อค้า แม่ค้า ติดป้ายแสดงราคา ให้ชัดเจน และตรวจเครื่องชั่งให้ได้กิโลกรัมตรงมาตรฐาน","พาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ตรวจราคา เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ ผักสด ป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า พร้อมกำชับให้พ่อค้า แม่ค้า ติดป้ายแสดงราคา ให้ชัดเจน และตรวจเครื่องชั่งให้ได้กิโลกรัมตรงมาตรฐาน
วันนี้ (11 ม.ค.65) ที่ตลาดสดทุ่งนาทอง เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ นายศิริพงษ์ วิวัฒน์เกษมชัย พาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่สำรวจตลาด ในภาวะที่ราคาเนื้อสัตว์ขยับสูงขึ้น โดยเนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ มีการปรับราคาขึ้นตามกลไกตลาด ขณะที่ราคาผักสดไม่ได้มีการปรับราคาขึ้นแต่อย่างใด จึงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อทั้งแม่ค้า พ่อค้า และประชาชนผู้บริโภค สำหรับประชาชนช่วงนี้มีการจับจ่ายซื้อน้อยลง ขณะที่พ่อค้าแม่ค้า ก็สั่งของมาจำหน่ายลดลงเช่นกัน ซึ่งทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ขยายเวลาการจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูก กิโลกรัมละ 150 ที่ร้านวีซีมีท โดยขยายเวลาออกไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565
นายศิริพงษ์ วิวัฒน์เกษมชัย พาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ในการสำรวจตลาดในครั้งนี้ได้กำชับให้ผู้ประกอบการ ติดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคได้ตัดสินใจ และเครื่องชั่ง ให้ได้มาตรฐานที่กำหนด ซึ่งจะมีสติกเกอร์เครื่องชั่งที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว จากสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ซึ่งร้านใดไม่ติดป้ายแสดงราคาหรือโกงตาชั่ง จะมีโทษตามกฎหมาย สำหรับประชาชนที่พบเห็นร้านค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า หรือไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้าที่ชัดเจน สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ โทร 043-815656
ด้านเจ้าของร้านขายไข่ไก่มะไล น.ส.จินตหรา สุระภา เปิดเผยว่า ราคาไข่ไก่ ด้ทยอยปรับราคาขึ้นมาเช่นกัน แต่ในส่วนของทางร้านพยายามที่จะไม่ปรับราคาให้สูงมาก เนื่องจากเป็นการช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้มากที่สุด โดยจะมีการปรับเพิ่มราคาในบางไซส์ อย่างไข่ไก่เบอร์ 1 โดยขณะนี้ประชาชนจะนิยมบริโภคไข่ขนาดเล็กเบอร์ 4 5 เนื่องจากมีราคาที่ถูกกว่า ซึ่งไข่ไก่เบอร์ 1 จำหน่ายที่แผงละ 105 บาท จากเดิมราคา 100 เบอร์ 2 แผงละ 95 เบอร์ 3 แผงละ 90 ไม่ได้มีการปรับขึ้นราคา และเบอร์ 4 แผงละ 85 จากเดิมแผงละ 80 และเบอร์ 5 แผงละ 75
สำหรับราคาเนื้อหมู หมูสามชั้นกิโลกรัมละ 230 บาท เนื้อสะโพก กิโลกรัม 220 บาท เนื้อสันใน กิโลกรัมละ 230 บาท หมูบดกิโลกรัมละ 200 บาท ส่วนราคาไก่ชิ้น มีการปรับขึ้นราคา น่องติดสะโพก กิโลกรัมละ 75 จากเดิม 70 บาท ตับไก่ กิโลกรัมละ 100 จาก 80 บาท เศษเนื้อกิโลกรัมละ 70 บาทจาก 55 บาท ปีกไก่สับ กิโลกรัมละ 115 บาท จาก 100 บาท ขณะที่ปีกไก่ ปีกไก่บน ไม่มีการปรับขึ้นราคา
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","11/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","กาฬสินธุ์","สวท.กาฬสินธุ์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220111233140028"], [249,"ผลิตภัณฑ์ คักขนาด ดีเกินคาด อำนาจเจริญ","วันที่ 11 มกราคม 2565 เวลา 16.30 น. ณ บริเวณสนามหน้าสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดอำนาจเจริญ ตำบลบุ่ง อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ (นายธนูสินธ์ ไชยสิริ) เป็นประธานเปิดงาน ผลิตภัณฑ์ คักขนาด ดีเกินคาด อำนาจเจริญ ซึ่งเป็นการจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าตามโครงการเสริมสร้างศักยภาพและขีดความสามารถผู้ผลิต ผู้ประกอบการด้านผลิตภัณฑ์ การตลาด การค้า การลงทุน กิจกรรมการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันด้านการตลาด โดยการจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้า กระตุ้นการค้าและส่งเสริมช่องทางการตลาด ตามแผนปฏิบัติราชการจังหวัดอำนาเจริญประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจการค้าของจังหวัดให้เติบโตอย่างต่อเนื่องจากฐานการเกษตร การสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่ชุมชนและเป็นปัจจัยสำคัญ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับชุมชนให้เติบโตมากขึ้น และสามารถแข่งขันได้
โดยผู้ประกอบการรายย่อยที่เป็นเกษตรกรกร กลุ่มเกษตรกร เครือข่ายสินค้า OTOP สมาชิกบิสคลับอำนาจเจริญ ผู้ประกอบการ SMEs วิสาหกิจชุมชน ซึ่งเป็นผู้ผลิต
และจำหน่ายสินค้าชุมชน สินค้า OTOP ยังคงต้องได้รับการส่งเสริมและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และ ให้สามารถขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็ง มีช่องทางการตลาด และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้และพัฒนาขีดความสามารถทางการตลาดของตนเอง เพื่อให้ มีรายได้เพิ่มขึ้น ประกอบกับสถานการณ์ในห้วงที่ผ่านมา และในสถานการณ์ปัจจุบันเกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจ การค้าขายสินค้าได้น้อยลง ทำให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจลดลงด้วย
ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ผลิต ผู้ประกอบการรายย่อย จังหวัดอำนาจเจริญ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัด จึงได้งาน ผลิตภัณฑ์ คักขนาด ดีเกินคาด อำนาจเจริญ ขึ้น โดยมีกิจกรรม ประกอบด้วย การแสดงและจำหน่ายสินค้าสินค้าชุมชน สินค้า OTOP ของผู้ประกอบการรายย่อยที่เป็นเกษตรกรกร กลุ่มเกษตรกร เครือข่ายสินค้า OTOP สมาชิกบิสคลับอำนาจเจริญ ผู้ประกอบการ SMEs วิสาหกิจชุมชน ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าดังกล่าว จำนวน 80 คูหา โดยเป็นผู้ประกอบการในจังหวัดจำนวน 52 คูหา และต่างจังหวัดจำนวน 28 คูหา และกิจกรรมบันเทิงเพื่อสร้างความสนใจให้มีผู้มาจับจ่ายใช้สอยตลอดการจัดงาน ระยะเวลา 5 วัน ระหว่างวันที่ 10 14 มกราคม 2565
และผู้จำหน่ายสินค้าที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่นต้องได้รับวัคซีนมาแล้วอย่างน้อย 2 เข็ม และต้องผ่านการตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ไม่เกิน 24 ชั่วโมง ก่อนเข้าจำหน่ายสินค้า และยังได้ดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรค D M - H T T A อย่างเคร่งครัด
การจัดงานครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือ และสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนในจังหวัดเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัท อำนาจศูนย์การค้าเมืองใหม่ จำกัด ที่ได้กรุณาอำนวยความสะดวกสถานที่แห่งนี้ใช้จัดงาน จนทำให้การจัดงานครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
วานนี้ (11 มกราคม 2565) เวลา 16.30 น. ณ บริเวณสนามหน้าสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดอำนาจเจริญ ตำบลบุ่ง อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ (นายธนูสินธ์ ไชยสิริ) เป็นประธานเปิดงาน ผลิตภัณฑ์ คักขนาด ดีเกินคาด อำนาจเจริญ และหัวหน้าราชการร่วมงานในครั้งนี้ ผู้อำนวยการประชาสัมพันธ์จังหวัดอำนาจเจริญ และผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดอำนาจเจริญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอำนาจเจริญ ตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ
ซึ่งเป็นการจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าตามโครงการเสริมสร้างศักยภาพและขีดความสามารถผู้ผลิต ผู้ประกอบการด้านผลิตภัณฑ์ การตลาด การค้า การลงทุน กิจกรรมการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันด้านการตลาด โดยการจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้า กระตุ้นการค้าและส่งเสริมช่องทางการตลาด ตามแผนปฏิบัติราชการจังหวัดอำนาเจริญประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจการค้าของจังหวัดให้เติบโตอย่างต่อเนื่องจากฐานการเกษตร การสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่ชุมชนและเป็นปัจจัยสำคัญ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับชุมชนให้เติบโตมากขึ้น และสามารถแข่งขันได้
โดยผู้ประกอบการรายย่อยที่เป็นเกษตรกรกร กลุ่มเกษตรกร เครือข่ายสินค้า OTOP สมาชิกบิสคลับอำนาจเจริญ ผู้ประกอบการ SMEs วิสาหกิจชุมชน ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าชุมชน สินค้า OTOP ยังคงต้องได้รับการส่งเสริมและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และ ให้สามารถขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็ง มีช่องทางการตลาด และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้และพัฒนาขีดความสามารถทางการตลาดของตนเอง เพื่อให้ มีรายได้เพิ่มขึ้น ประกอบกับสถานการณ์ในห้วงที่ผ่านมา และในสถานการณ์ปัจจุบันเกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจ การค้าขายสินค้าได้น้อยลง ทำให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจลดลงด้วย
ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ รายย่อยจังหวัดอำนาจเจริญ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัด จึงได้งานผลิตภัณฑ์ คักขนาด ดีเกินคาด อำนาจเจริญ ขึ้น โดยมีกิจกรรม ประกอบด้วย
1. การแสดงและจำหน่ายสินค้าสินค้าชุมชน สินค้า OTOP ของผู้ประกอบการรายย่อยที่เป็นเกษตรกรกร กลุ่มเกษตรกร เครือข่ายสินค้า OTOP สมาชิกบิสคลับอำนาจเจริญ ผู้ประกอบการ SMEs วิสาหกิจชุมชน ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าดังกล่าว จำนวน 80 คูหา โดยเป็นผู้ประกอบการในจังหวัดจำนวน 52 คูหา และต่างจังหวัดจำนวน 28 คูหา และกิจกรรมบันเทิงเพื่อสร้างความสนใจให้มีผู้มาจับจ่ายใช้สอยตลอดการจัดงาน ระยะเวลา 5 วัน ระหว่างวันที่ 10 14 มกราคม 2565
2. การเจรจาจับคู่ธุรกิจ ในวันอังคารที่ 11 มกรามคม 2565 เวลา 16.30 น. ในบริเวณพื้นที่การจัดงานแห่งนี้ โดยเชิญนักธุรกิจ/ผู้ซื้อ(Buyer) ร่วมเจรจาธุรกิจกับเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ประกอบการภายในงาน เพื่อเชื่อมโยงและสร้างเครือข่ายธุรกิจการค้า
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญ ได้ให้ความสำคัญกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) โดยผู้จำหน่ายสินค้าทุกรายต้องได้รับวัคซีนมาแล้วอย่างน้อย 2 เข็ม และผู้จำหน่ายสินค้าที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่นต้องได้รับวัคซีนมาแล้วอย่างน้อย 2 เข็ม และต้องผ่านการตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ไม่เกิน 24 ชั่วโมง ก่อนเข้าจำหน่ายสินค้า และยังได้ดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรค D M - H T T A อย่างเคร่งครัด
การจัดงานครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือ และสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนในจังหวัดเป็นอย่างดี อย่าลืม!! สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างระหว่าง หมั่นล้างมือ และปฎิบัติตามมาตราการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี แจ้งกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ เพิ่มจุดจำหน่ายและระยะเวลาจำหน่ายหมูเนื้อแดง ถึงสิ้นเดือนนี้ พร้อมขอความร่วมมือ สมาคมผู้เลี้ยงไก่ ผู้ประกอบการรายใหญ่ ชะลอการขึ้นราคา และให้อยู่ในช่วงราคา ที่กำหนด เป็นระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งคาดการณ์ว่า 1-3 วันนี้ เนื้อไก่ จะปรับราคาลดลง นายธีรวุฒิ คล้ายเคลื่อน พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี และกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า เข้าร่วมประชุมชี้แจงการเพิ่มจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดง ตามโครงการ หมูพาณิชย์...ลดราคา ! ช่วยประชาชน ผ่านระบบออนไลน์ ZOOM ณ ห้องประชุมชั้น 3 ห้องประชุมดอกเกลือ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี
โดยมี นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธานการประชุม เพื่อประเมินสถานการณ์การผลิตการตลาดสินค้าสุกร รวมถึงชี้แจงมาตรการแก้ไขปัญหาสุกร โดยกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้มาตรการเพิ่มจำนวนจุดจำหน่ายหมู เนื้อแดงเพิ่มเติม ซึ่งจะขยายระยะเวลาจำหน่ายหมูเนื้อแดงจนถึง สิ้นเดือนมกราคม 2565 เพื่อลดภาระค่าครองชีพประชาชนเป็นการเร่งด่วน ในด้านสถานการณ์เนื้อไก่ที่ปรับราคาขึ้นนั้น ทางกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้ขอความร่วมมือ สมาคมผู้เลี้ยงไก่ ผู้ประกอบการรายใหญ่ ชะลอการขึ้นราคา และให้อยู่ในช่วงราคา ที่กำหนด เป็นระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งคาดการณ์ว่า 1-3 วันนี้ เนื้อไก่ จะปรับราคาลดลงมา
สวท.เพชรบุรี/12 ม.ค.65
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","12/1/2022","ภาคตะวันตก","เพชรบุรี","สวท.เพชรบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220112095513068"], [252,"พาณิชย์จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ตรวจการจำหน่ายชุดตรวจ ATK ตามร้านจำหน่าย พบว่ามีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ","พาณิชย์จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ตรวจการจำหน่ายชุดตรวจ ATK ตามร้านจำหน่าย พบว่ามีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ในขณะที่ผู้ประกอบการแจ้งว่าช่วงเทศกาลปีใหม่มีประชาชนมาซื้อจำนวนมาก ทำให้สินค้ามีไม่พอประกอบกับ เป็นช่วงวันหยุดทำให้ชุดตรวจไม่สามารถส่งมาได้ทัน แต่ในขณะนี้สามารถส่งมาจำหน่ายได้ตามปกติแล้ว
ที่ร้านไทยสวัสดิ์เภสัช 2 ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ตรวจการจำหน่ายชุดตรวจ ATK และจากการสอบถามเจ้าของร้านทราบว่าช่วงเทศกาลปีใหม่นั้นประชาชนเดินทางกลับมาบ้านและมาท่องเที่ยวจำนวนมาก และมาหาซื้อชุดตรวจชุดตรวจ ATK ในการนำไปตรวจหาเชื้อโควิด -19 เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับตนเองและบุคคลในครอบครัวหรือบุคคลรอบข้าง หากพบเชื้อก็จะได้ติดต่อเจ้าหน้าที่นำตัวไปรักษา ชุดตรวจ ATK เป็นประโยชน์ต่อประชาชนเป็นอย่างมาก
ทางด้านนางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง กล่าวว่า ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ได้ให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณและราคาของชุดตรวจ ATK อย่างต่อเนื่อง พบว่าชุดตรวจ ATK มีเพียงพอต่อความต้องการประชาชน ในขณะที่ราคาจำหน่ายก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของแต่ละบริษัท ที่ตรวจสอบนั้นราคาชุดละ 100 บาท ชุดตรวจ ATK นั้นไม่เป็นสินค้าควบคุม ประชาชนสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อในราคาเท่าไหร่หรือยี่ห้อไหนก็ได้ ยืนยันว่าชุดตรวจ ATK มีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนอย่างแน่นอน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","12/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220112094843063"], [253,"พาณิชย์ลำปาง ออกตรวจสอบและติดตามการปิดป้ายแสดงราคาการจำหน่ายเนื้อสุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ ในพื้นที่","นางสาวเยาวเรศ แซ่โค้ว พาณิชย์จังหวัดลำปาง มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำปาง ลงพื้นที่ตรวจสอบและติดตามการปิดป้ายแสดงราคาการจำหน่ายเนื้อสุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ ในพื้นที่จังหวัดลำปาง ซึ่งผลการตรวจสอบพบว่าสถานการณ์การจำหน่ายเนื้อสุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ ปริมาณมีเพียงพอกับความต้องการของประชาชน
สำหรับราคาจำหน่ายสินค้าอาหารสดที่สำคัญ อาทิ สุกรชำแหละราคาตลาดทั่วไป เนื้อแดง สะโพก-ไหล่ ราคา 220 - 230 บาท/กก. ในช็อป เนื้อแดง สะโพก-ไหล่ ราคา 145 - 200 บาท/กก. สำหรับไก่เนื้อทั้งตัวรวมเครื่องใน และไม่รวมเครื่องใน ราคา 60-65 บาท, ไก่เนื้อ อก สะโพก น่อง ราคา 70-73 บาท, ไข่ไก่เบอร์ 0 ราคา 4.20-4.50 บาท ไข่ไก่เบอร์ 1 ราคา 3.50-3.80 บาท ไข่ไก่เบอร์ 2 ราคา 3.30- 3.50 บาท ไข่ไก่ เบอร์ 3 ราคา 3.20-3.30 บาท ไข่ไก่เบอร์ 4 ราคา 3.0-3.20 บาท และไข่ไก่เบอร์ 5 ราคา 2.70-2.80 บาท
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบไม่พบพฤติกรรมในการกักตุนสินค้าหรือขายเกินราคาที่กำหนดทางร้านได้มีการปิดป้ายแสดงสินค้าที่จำหน่าย ถูกต้อง ชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำการปิดป้ายแสดงราคาสินค้า และไม่ให้มีการฉวยโอกาสกักตุนสินค้าและขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุผลอันควร
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","12/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สวท.ลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220112102532079"], [254,"รัฐบาลเดินหน้าฟื้นประเทศ \"ท่องเที่ยวไทย...อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ นิว แชปเตอร์\" ภายใต้การรักษาสมดุลทางเศรษฐกิจและมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด","พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินหน้าแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวในปีนี้ ซึ่งเป็นปีท่องเที่ยวไทย โดยกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กำหนดโปรโมทการท่องเที่ยวไทยภายใต้แนวคิด อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ นิว แชปเตอร์ (Amazing Thailand New Chapter) จุดขายใหม่ด้านการท่องเที่ยวของไทย ภายในเดือนมกราคมนี้ รวมถึงเดินหน้าจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวสีขาว สอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (BCG) ในภาคการท่องเที่ยว ที่จะช่วยให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและปลอดภัยขึ้น
นอกจากนี้ในช่วงไตรมาส 2 ช่วงเดือนเมษายน วางแผนจะเก็บเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าไทย 300 บาทต่อคน หรือเรียกกันว่าค่าเหยียบแผ่นดิน เพื่อนำเงินที่ได้รับไปพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในไทย และทำประกันให้แก่นักท่องเที่ยว กรณีประสบอุบัติเหตุ หรือเสียชีวิต ก็จะได้รับวงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท หรือ ค่ารักษาพยาบาล ได้รับสูงสุด 5 แสนบาท เป็นต้น โดยวางแผนเก็บรวมกับค่าตั๋วเครื่องบินกรณีเดินทางทางอากาศ และอยู่ระหว่างการพิจารณาวิธีการเรียกเก็บจากการเดินทางทางบก
ปี 2565 กระทรวงการท่องเที่ยวฯ คาดว่าไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ที่ราว 1.3-1.8 ล้านล้านบาท คาดว่าจะมีต่างชาติเที่ยวไทย อยู่ที่ระหว่าง 5-15 ล้านคน สร้างรายได้ราว 8 แสนล้านบาท โดยประเมินว่าหากสถานการณ์ยังเป็นเหมือนปกติทั่วไป หากมีนักท่องเที่ยวจากยุโรปและสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก ทั้งนี้แม้จะมีการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน แต่ล่าสุดหลายประเทศในแถบยุโรป และสหรัฐอเมริกา ก็ได้เลิกล็อกดาวน์แล้ว เพราะได้รับการฉีดวัคซีน และแม้โอมิครอนจะแพร่กระจายเชื้อเร็ว แต่ความรุนแรงของอาการน้อยกว่าเดลต้า
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานติดตามประเมินสถานการณ์ทั้งภายในประเทศ และศึกษากรณีของต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อวางแผนเดินหน้าฟื้นประเทศ ภายใต้การรักษาสมดุลทางเศรษฐกิจและสาธารณสุขต่อไป ในส่วนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ได้มีการเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ ซึ่งทุกโครงการจะดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
","12/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220112150313247"], [255,"พาณิชย์จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ตรวจการจำหน่ายชุดตรวจ ATK ตามร้านจำหน่าย พบว่ามีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน","ที่ร้านไทยสวัสดิ์เภสัช 2 ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ตรวจการจำหน่ายชุดตรวจ ATK และจากการสอบถามเจ้าของร้านทราบว่าช่วงเทศกาลปีใหม่นั้นประชาชนเดินทางกลับมาบ้านและมาท่องเที่ยวจำนวนมาก และมาหาซื้อชุดตรวจชุดตรวจ ATK ในการนำไปตรวจหาเชื้อโควิด -19 เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับตนเองและบุคคลในครอบครัวหรือบุคคลรอบข้าง หากพบเชื้อก็จะได้ติดต่อเจ้าหน้าที่นำตัวไปรักษา ชุดตรวจ ATK เป็นประโยชน์ต่อประชาชนเป็นอย่างมาก
ทางด้านนางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง กล่าวว่า ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ได้ให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณและราคาของชุดตรวจ ATK อย่างต่อเนื่อง พบว่าชุดตรวจ ATK มีเพียงพอต่อความต้องการประชาชน ในขณะที่ราคาจำหน่ายก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของแต่ละบริษัท ที่ตรวจสอบนั้นราคาชุดละ 100 บาท ชุดตรวจ ATK นั้นไม่เป็นสินค้าควบคุม ประชาชนสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อในราคาเท่าไหร่หรือยี่ห้อไหนก็ได้ ยืนยันว่าชุดตรวจ ATK มีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนอย่างแน่นอน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","12/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220112094947064"], [256,"นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมากเชื่อมั่นการท่องเที่ยวของไทย ส่งผลให้ เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต คาดเศรษฐกิจดีขึ้นกว่าเดิม","นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เผยถึง การท่องเที่ยวในพื้นที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขณะนี้เป็นที่ยอมรับในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่มีความเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขไทย และกระบวนการคัดกรองโรคโควิด-19 ในการเดินทางเข้ามาเที่ยวยังแหล่งท่องเที่ยวเศรษฐกิจของจังหวัด อย่าง 3 เกาะ สมุย พะงัน เต่า ภายใต้โครงการ Samui Plus Sandbox ที่เดินหน้าสู้กับโควิด สายพันธุ์โอไมครอน โดยกระบวนการคัดกรองที่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงสถานที่พักในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับมาตรฐานSHA PLUS ที่สามารถการันตีถึงความปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยว
สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติส่วนใหญ่ที่เลือกมาเที่ยวที่เกาะเต่านั้น มักจะเดินทางมาทำกิจกรรมทางทะเล อย่างการดำน้ำชมแนวปะการังรอบเกาะเต่า รวมถึงสัตว์ทะเลจำนวนมาก ที่ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์
ด้านนางรำลึก อัศวชิน นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะเต่า กล่าวว่า ถึงขณะนี้ทั่วโลกจะมีการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 สายพันธ์โอไมครอน อย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยกระบวนการการคัดกรอง ในการรองรับนักท่องของประเทศไทย ได้สร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ เกาะเต่าถือได้ว่าเป็นเป้าหมายแรกๆของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ชื่นชอบในการดำน้ำเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทำให้ปัจจุบันยอดจองที่พักตามที่ต่างๆหนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว และคาดว่าเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวจะดีกว่าเดิมอย่างแน่นอน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","12/1/2022","ภาคใต้","สุราษฎร์ธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220112094046055"], [257,"กรมการท่องเที่ยว จัดพิธีมอบรางวัลกิจกรรมส่งเสริมชุมชนท่องเที่ยวรูปแบบ Smart Tourism","กรมการท่องเที่ยว จัดพิธีมอบรางวัลกิจกรรมส่งเสริมชุมชนท่องเที่ยวรูปแบบ Smart Tourism ใน การประกวดเส้นทางด้วยกิจกรรมท่องเที่ยวมุมมองใหม่ 2564 และการประกวดนวัตกรรมเพื่อการท่องเที่ยวในชุมชน ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 2 โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ กรุงเทพฯ
ภายในงานประกอบด้วยการเสวนาร่วมกับผู้ที่ได้รับรางวัล โดยมีนายบุญเสริม ขันแก้ว รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวต้อนรับ นายทวีศักดิ์ วาณิชย์เจริญ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว ประธานในพิธี และมอบรางวัลให้แก่ผู้ได้รับรางวัลชนะการประกวดในแต่ละประเภท
นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมการประกวดครั้งนี้ มีชุมชนและประชาชนที่สนใจทั่วประเทศ ร่วมส่งผลงานเข้าประกวดทั้ง 2 กิจกรรมรวง 540 ผลงาน และการประกวดนวัตกรรมเดื่อการท่องเที่ยวโดยชุมชน มีจำนวน 125 ผลงาน การประกวดเส้นทางท่องเที่ยวด้วยกิจการรมท่องเที่ยวมุมมองใหม่ 2564 รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ผลงาน เที่ยวอุดร นอนบ้านเชียง ออนซอนอีสาน ตามรอยด้นดำ อารยธรรมบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี โดยนางสาวบุษราภรณ์ กลางพรหม และการประกวดนวัตกรรมเพื่อการท่องเที่ยวโดยชุมชน รางวัลชนะเลิศได้แก่ผลงาน ซั้ง บ้านปลา ปะการังเทียมและภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยกลุ่มการจัดการอ่าวท้องตมและการท่องเที่ยวโดยชุมชนท้องตมใหญ่ จังหวัดชุมพร ผู้ชนะเสิศแต่ละประเภทจะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศและประกาศนียบัตร
นอกจากนี้ ยังมีรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1,2 รางวัลชมเชย จำนวน 27 รางวัล และรางวัลดาวรุ่ง จำนวน 10 รางวัล พร้อมประกาศนียบัตร โดยผลงานที่ชนะการประกวดในครั้งนี้ กรมการท่องเที่ยว จะนำไปพัฒนาต่อยอด ให้เกิดประโยชน์ต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","12/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","นนทบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนนทบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220112104832088"], [258,"กรมการค้าภายในจับมือห้างท้องถิ่นดูแลค่าครองชีพประชาชน ลดราคาสูงสุดถึงร้อยละ86 ไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 ","กระทรวงพาณิชย์ดำเนินโครงการ พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน LOT 16 New Year Grand Sale 2022 มาตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2564 31 มกราคม 2565 โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน กับภาคเอกชน ผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ผู้ให้บริการและแพลตฟอร์ม รวม 230 ราย รวมกว่า 32,000 สาขาทั่วประเทศ ในการลดราคาสินค้าและบริการ 3 กลุ่ม ทั้งกลุ่มสินค้า กลุ่มบริการ และกลุ่ม Platform & Logistic ลดสูงสุดถึง 86%
ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคและติดตามการจำหน่ายสินค้าในโครงการ ที่ห้างเซฟมาร์ท ห้างท้องถิ่นรายใหญ่ในจังหวัดอุดรธานีนั้น มีสินค้าอุปโภคบริโภคเข้าร่วมโครงการหลากหลายรายการ ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ข้าวสาร ครีมอาบน้ำ แชมพู น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ ลดสูงสุดถึง 80% ซึ่งประชาชนให้ความสนใจซื้อหาเป็นจำนวนมาก สามารถลดค่าครองชีพให้ประชาชนในจังหวัดอุดรธานีและพื้นที่ใกล้เคียง และช่วยผลักดันเศรษฐกิจระดับจังหวัดและระดับภูมิภาค ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบรายละเอียดโครงการ \"พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน LOT 16 New Year Grand Sale 2022 ได้ที่เว็บไซต์กรมการค้าภายใน (www.dit.go.th) ซึ่งเลือกซื้อสินค้าและบริการ ได้จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565
นอกจากนี้ ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ได้มีการหารือถึงแนวทางในการดำเนินกิจกรรมอื่น ๆ ในการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนและการเพิ่มช่องทางการระบายสินค้าเกษตร โดยเฉพาะผลไม้ ในช่วงที่ผลผลิตออกมากอีกด้วย
นางลลิดา จิวะนันทประวัติ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจติดตามการปฏิบัติราชการของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพะเยา รอบที่ 1 ระหว่างวันที่ 11-12 มกราคม 2565 ในพื้นที่จังหวัดพะเยา ซึ่งวานนี้ (11 ม.ค.65) ลงพื้นที่ อ.เชียงคำ และ อ.ภูซาง เพื่อไปติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวก อ.ภูซาง โดยมีมูลค่าการค้าเดือน ธ.ค.64 รวม 77.04 ล้านบาท มูลค่าการส่งออก 58.52 ล้านบาท มูลค่าการนำเข้า 18.52 ล้านบาท สินค้าส่งออก ได้แก่ น้ำมันเบนซิน/น้ำมันดีเซล เครื่องอุปโภค และวัสดุก่อสร้าง และสินค้านำเข้า ได้แก่ หินปูนบด ลูกเดือย และสินแร่ที่ยังไม่ได้คัดแยก อีกทั้งตรวจเยี่ยมกลุ่มดอยอ้อยบ้านสบบง อ.ภูซาง ที่ แปรรูปผลิตภัณฑ์จากน้ำอ้อย เช่น น้ำตาลอ้อยก้อน น้ำอ้อยผง และน้ำอ้อยผสมมะพร้าวและงา
จากนั้นผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์และคณะ ได้ไปตรวจเยี่ยมที่บริษัท แฟคทอรี่ 234 จำกัด อ.เชียงคำ ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรที่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์จากกระทรวงสาธารณสุขแห่งแรกของจังหวัดพะเยา ปัจจุบันผลิตยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณ เช่น ยาหม่อง ยาดมสมุนไพร น้ำมันไพล พิมเสนน้ำ และลงพื้นที่ไปยังกลุ่มผ้าปักชาวเขาแปรรูป อ.เชียงคำ ที่ผลิตเสื้อผ้าและของใช้จากผ้าปักชาวเขา จากเดิมผ้าปักจะใช้กับเสื้อของชาวเขาเท่านั้น ปัจจุบันได้ประยุกต์นำลายผ้าปักมาปักประดับเป็นกระเป๋ารูปแบบต่างๆ หรือของใช้ที่เป็นผ้าและที่สามารถปักดอกได้ เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ขณะที่กลุ่มผ้าทอสันปูเลย อ.เชียงคำ ทอผ้าที่เน้นเอกลักษณ์ไทลื้อ จากเส้นไหมประดิษฐ์และผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ เช่น ผ้าซิ่นลายน้ำไหล และลายหางปลา โดยมี นายวิรุฬห์ สิทธิวงศ์ นายอำเภอเชียงคำ ให้การต้อนรับและนำคณะเยี่ยมชมกลุ่มฯ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","12/1/2022","ภาคเหนือ","พะเยา","สวท.พะเยา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220112105404093"], [260,"กาฬสินธุ์ส่งเสริม บ้านศิลปินโอทอป ขุนพลผ้ากาฬสินธุ์","สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดกาฬสินธุ์ ส่งเสริมบุคลากรทรงคุณค่า อนุรักษ์ สืบทอด ภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่สานต่อมรดกล้ำค่า ผลิตภัณฑ์ OTOP จัดกิจกรรมเปิดบ้านศิลปิน OTOP Artist Rally Praewa Kalasin 2022 ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดกาฬสินธุ์ จัดกิจกรรมเปิดบ้านศิลปิน OTOP Artist Rally Praewa Kalasin 2022 โดยมีนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดงานและร่วมเยี่ยมชม บ้านศิลปิน OTOP ทั้ง 3 ราย โดย นายอุทัย สิงห์ทอง พัฒนาการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กล่าวถึงความเป็นมาของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ว่าเพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปินในฐานะเป็นผู้อนุรักษ์และสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรม ส่งเสริมสนับสนุนให้เป็นแหล่งเรียนรู้และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเส้นทางบ้านศิลปิน OTOP ขุนพลผ้ากาฬสินธุ์ ต่อยอด ถ่ายทอด ภูมิปัญญาศิลปินสู่คนรุ่นใหม่ และผู้สนใจ อันเป็นการสร้างคุณค่า และมูลค่าของผลิตภัณฑ์ OTOP ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน กิจกรรมในครั้งนี้ได้นำหัวหน้าส่วนราชการ บุคลากรภาคการศึกษา ภาครัฐ ภาคเอกชน และสื่อมวลชนลงพื้นที่เยี่ยมชมบ้านศิลปิน OTOP 3 ราย ประกอบด้วย การเรียนรู้ย้อมผ้าแต่งแพรวาโบราณ ที่บ้านศิลปิน OTOP ของนายวิทวัส โสภารักษ์ เลขที่ 90 หมู่ 2 ตำบลโนนศิลา อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งที่นี่มีเอกลักษณ์ของกลุ่มที่โดดเด่นคือ เป็นการอนุรักษ์ลายผ้าไหมแพรวาแบบโบราณดั้งเดิม ใช้เทคนิคการเก็บกอดแบบโบราณ รวมไปถึงการจก ขิด และ ยก นอกจากจะอนุรักษ์ลายแพรวาโบราณดั้งเดิมแล้ว ยังเป็นการปรับใช้ให้ดูทันสมัยด้วย
------เสียง------
วิทวัส โสภารักษ์
ศิลปิน OTOP อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์
จากนั้นได้เยี่ยมบ้านศิลปินรายที่ 2 ร่วมจิบชาแลภู ดูไหมสมเด็จ ของนายอดุลย์ มูลละชาติ เลขที่ 144 หมู่ 11 ตำบลดินจี่ อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งมีเอกลักษณ์เป็นเทคนิคการออกแบบลวดลายขึ้นมาใหม่ ให้มีความสวยงาม บวกกับความหมายที่ดี รวมไปถึงการวางลวดลายให้เหมาะสมกับผู้ที่สวมใส่ ให้มีสรีระที่ดูดี สวยงาม โดยเฉพาะการเลือกใช้ไหมบ้าน เดือน 11 ซึ่งจะให้ความเงางามที่สุด โดยได้ปรับประยุกต์การทอผ้าให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น
และปิดท้ายที่บ้านศิลปินรายที่ 3 ชมไหมแพรวาประยุกต์ลุคใหม่ ภูมิปัญญาไทย ของนายพงษ์ชยุตน์ โพนะทา เลขที่ 6 หมู่ที่ 3 ตำบลโพน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ มีเอกลักษณ์ของกลุ่มในการนำลายโบราณมาปรับสี ปรับลาย ให้ดูงดงามมากยิ่งขึ้น ควบคู่กับการอนุรักษ์ลายโบราณดั้งเดิม ถือเป็นคนรุ่นใหม่ที่สามารถต่อยอดการออกแบบลายแพรวาขึ้นใหม่ 100% โดยทำการคิดลายขึ้นมาใหม่ทั้งหมด 20 ลาย และจดลิขสิทธิ์ไปแล้ว 15 ลาย อาทิ ลายช่อหยาด ลายกนกแทงช่อ ลายน้ำหยด ลายดาวหว่าน ลายคั่นไม้เป็นต้น
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","12/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","กาฬสินธุ์","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220112112239103"], [261,"พาณิชย์สมุทรปราการ จัดโครงการหมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน ครั้งที่ 2 เพื่อลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน","นายสาธิต กล่อมสวัสดิ์ พาณิชย์จังหวัดสมุทรปราการ ได้มอบหมายให้นางจุฑารัตน์ ศรีโมรา ผู้อำนวยการกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ตรวจติดตามโครงการหมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน ครั้งที่ 2 ตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาสุกรที่สูงขึ้น และให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งเป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยจำหน่ายหมูเนื้อแดงราคา กิโลกรัมละ 150 บาท ตั้งแต่วันที่ 5-15 มกราคม 2565 ณ ร้านหมูสด (C38) และร้านเจ๊นางหมูสด (C170) ณ ตลาดทิพย์นิมิตร ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","12/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","สมุทรปราการ","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรปราการ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220112114235111"], [262,"กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง เกี่ยวกับโรงไฟฟ้าชุมชน พร้อมทั้งสร้างการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชุมชน ให้มีรายได้มั่นคงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น","วันนี้(12 ม.ค.65) นายอดิศักดิ์ ชูสุข ผู้อำนวยการกองวิจัย ค้นคว้าพลังงาน กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เป็นประธานเปิดโครงการสื่อสารสร้างการรับรู้ตามนโยบายส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก จากแนวนโยบายการส่งเสริมความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ มีมติเห็นชอบกรอบหลักการ โครงการนำร่องโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2563
โรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ถือเป็นหนึ่งในนโยบายด้านพลังงาน เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนให้กลุ่มเกษตรกรมีรายได้จากการร่วมเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้า และการจำหน่ายวัสดุทางการเกษตรเป็นเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้า รวมไปถึงชุมชนในพื้นที่ได้รับผลตอบแทนในรูปของการพัฒนาและบริการให้กับชุมชน เช่น ด้านการรักษาพยาบาล ด้านสาธารณูปโภค ด้านการศึกษา ส่งผลให้ชุมชนมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน
โครงการนำร่อง โรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก มีเป้าหมายในการรับซื้อไฟฟ้ารวม 150 เมกะวัตต์ โดยใช้เชื้อเพลิงชีวมวลที่ได้จากการปลูกไม้โตเร็ว และก๊าซชีวภาพจาก พืชพลังงาน โดยมีการลงทุนโดยภาคเอกชน และจะเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วน ร้อยละ 90 และให้วิสาหกิจชุมชน ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 10 โดยเป็นหุ้นบุริมสิทธิ โดยโรงไฟฟ้าฯ จะมีการทำสัญญารับซื้อเชื้อเพลิงในรูปแบบ Contract Farming กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เพื่อเป็นข้อตกลงในปริมาณ และราคารับซื้อเชื้อเพลิงอย่างยุติธรรม
ปัจจุบัน สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ได้ประกาศผลการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) แล้ว จำนวนทั้งสิ้น 43 โครงการ แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวล 16 โครงการ และโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ 27 โครงการ โดยในส่วนของจังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้ผ่านการคัดเลือก จำนวน 2 โครงการ ปริมาณไฟฟ้าเสนอขายรวม 5.85 MW
โรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากจะเป็นมิติหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในชุมชน ทั้งการส่งเสริมพลังงานทดแทนตามเหมาะสมของพื้นที่ ซึ่งจะเป็นการต่อยอดการทำเกษตรรูปแบบใหม่ที่เกษตรกรเองสามารถเป็นส่วนหนึ่งของโรงไฟฟ้าระดับชุมชน เป้าหมายสำคัญของโครงการ คือ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชุมชน มีรายได้มั่นคง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ครับ
สำหรับ โครงการสื่อสารสร้างการรับรู้ตามนโยบายส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก พพ. จัดทำขึ้นเพื่อสื่อสารสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง เกี่ยวกับโรงไฟฟ้าชุมชน พร้อมทั้งสร้างการมีส่วนร่วม ในการเข้าถึงข้อมูลโครงการได้ครอบคลุมทุกมิติให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นชุมชน วิสาหกิจชุมชน ซึ่งเป็นกลุ่มสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ฐานราก โดยมีการจัดกิจกรรม จำนวน 5 ครั้ง ครอบคลุม 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ
การจัดงานในวันนี้ เป็นการดำเนินการเผยแพร่องค์ความรู้ของโครงการ ในรูปแบบเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ครั้งที่ 5 จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้เข้าร่วมเสวนาจากภาครัฐและภาคเอกชน จำนวน 4 คน และผู้เข้าร่วมกิจกรรม ประมาณ 200 คน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","12/1/2022","ภาคตะวันตก","ราชบุรี","สวท.ราชบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220112122101126"], [263,"จังหวดัตรังจัดประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะจังหวัดตรัง (Sri-Trang City) ครั้งที่ 1/2565","ที่ห้องพระยารัษฎา ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดตรังนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะจังหวัดตรัง (Sri-Trang City) ครั้งที่ 1/2565 เพื่อขอรับการพิจารณาอนุมัติการเป็นเมืองอัจฉริยะของประเทศไทย
สำหรับจังหวัดตรัง ได้ขับเคลื่อนโครงการภายใต้แผนงานพัฒนาเมืองอัจฉริยะจังหวัดตรัง (Trang Smart City) ใน 3 ด้าน (สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ , เศรษฐกิจอัจฉริยะ และการดำรงชีพอัจฉริยะ) โดยมี 3 พื้นที่นำร่อง ประกอบด้วย เทศบาลนครตรัง เทศบาลเมืองกันตัง และเทศบาลตำบลโคกหล่อ ก่อนขยายผลไปสู่พื้นที่อื่น ๆ ในอนาคตต่อไป ทั้งนี้ จังหวัดตรัง มีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม ขนบธรรมเนียมประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ และประวัติศาสตร์อันยาวนาน
ดังนั้น จังหวัดตรัง จึงได้นำต้นทุนที่ดีเหล่านี้มาต่อยอด ขยายผลสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะอย่างเต็มรูปแบบ เป็นเมืองที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยและชาญฉลาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการและการบริหารจัดการเมืองที่ดี เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข อย่างยั่งยืน ซึ่งการพัฒนาจังหวัดตรังสู่เมืองอัจฉริยะ จะเป็นการหลอมรวมเทคโนโลยีสมัยใหม่กับเทคนิควิธีทางดิจิตอล และนวัตกรรมอื่นๆ เพื่อเป็นแนวทางในการช่วยแก้ปัญหา พัฒนาคุณภาพประชากร และสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้จังหวัดตรัง เป็น \"เมืองอัจฉริยะที่ยั่งยืน\" ต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","12/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220112122457129"], [264,"พลังงานจัดกิจกรรมสื่อสารสร้างความรู้ความเข้าใจโรงฟ้าชุมชน เพื่อเศรษฐกิจฐานราก ที่ จ.ราชบุรี","วันที่ 12 ม.ค. 2565 กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน (พพ.) จัดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กิจกรรมสื่อสารสร้างความรู้ความเข้าใจโรงฟ้าชุมชน เพื่อเศรษฐกิจฐานราก ภายใต้ โครงการสื่อสารสร้างการรับรู้ตามนโยบายส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ที่ จ.ราชบุรี เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรงไฟฟ้าชุมชน พร้อมทั้งสร้างการมีส่วนร่วม ในการเข้าถึงข้อมูลโครงการได้ครอบคลุมทุกมิติให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นชุมชน วิสาหกิจชุมชน ซึ่งเป็นกลุ่มสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก
โดยมี นายอดิศักดิ์ ชูสุข ผู้อำนวยการกองวิจัย ค้นคว้าพลังงาน พพ. เป็นประธานกล่าวเปิดงาน และร่วมเสวนาบนเวที กับผู้ทรงคุณวุฒิด้านพลังงาน และตัวแทนโรงไฟฟ้าชุมชน มีผู้เข้าร่วมเสวนาจากภาครัฐและภาคเอกชน และประชาชนที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 100 คน ที่ห้องประชุมโรงแรมราชาบุระ อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี
นายอดิศักดิ์ ชูสุข ผู้อำนวยการกองวิจัย ค้นคว้าพลังงาน พพ. กล่าวว่า จากแนวนโยบายการส่งเสริมความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ มีมติเห็นชอบกรอบหลักการ โครงการนำร่องโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2563
โรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ถือเป็นหนึ่งในนโยบายด้านพลังงาน เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนให้กลุ่มเกษตรกรมีรายได้จากการร่วมเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้า และการจำหน่ายวัสดุทางการเกษตรเป็นเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้า รวมไปถึงชุมชนในพื้นที่ได้รับผลตอบแทนในรูปของการพัฒนาและบริการให้กับชุมชน เช่น ด้านการรักษาพยาบาล ด้านสาธารณูปโภค ด้านการศึกษา ส่งผลให้ชุมชนมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน
โครงการนำร่อง โรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก มีเป้าหมายในการรับซื้อไฟฟ้ารวม 150 เมกะวัตต์ โดยใช้เชื้อเพลิงชีวมวลที่ได้จากการปลูกไม้โตเร็ว และก๊าซชีวภาพจาก พืชพลังงาน โดยมีการลงทุนโดยภาคเอกชน และจะเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วน ร้อยละ 90 และให้วิสาหกิจชุมชน ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 10 โดยเป็นหุ้นบุริมสิทธิ โดยโรงไฟฟ้าฯ จะมีการทำสัญญารับซื้อเชื้อเพลิงในรูปแบบ เกษตรพันธสัญญา หรือ คอนแทรคฟาร์มมิ่ง กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เพื่อเป็นข้อตกลงในปริมาณ และราคารับซื้อเชื้อเพลิงอย่างยุติธรรม
ปัจจุบัน สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ได้ประกาศผลการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) แล้ว จำนวนทั้งสิ้น 43 โครงการ แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวล 16 โครงการ และโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ 27 โครงการ โดยในส่วนของจังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้ผ่านการคัดเลือก จำนวน 2 โครงการ ปริมาณไฟฟ้าเสนอขายรวม 5.85 MW
โรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากจะเป็นมิติหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในชุมชน ทั้งการส่งเสริมพลังงานทดแทนตามเหมาะสมของพื้นที่ ซึ่งจะเป็นการต่อยอดการทำเกษตรรูปแบบใหม่ที่เกษตรกรเองสามารถเป็นส่วนหนึ่งของโรงไฟฟ้าระดับชุมชน เป้าหมายสำคัญของโครงการ คือ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชุมชน มีรายได้มั่นคง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","12/1/2022","ภาคตะวันตก","ราชบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดราชบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220112122237127"], [265,"GISTDA เปิดผลติดตามการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออก EEC","GISTDA ร่วมกับ มูลนิธิเสนาะ อูนากูล และ TDRI ถอดบทเรียน ESB ถึง EEC เปิดผลติดตามการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออก ด้วย AIP Platform ชู 4 ข้อเสนอ พัฒนาพื้นที่ ศก.พิเศษ อย่างยั่งยืน
ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อํานวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เปิดเผยว่า การพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออก ESB และนำมาสู่ผลการติดตามโครงการ EEC การติดตามสถานะโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และบริบทของพื้นที่ในภาคตะวันออก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน (ปี 2564) พร้อมขับเคลื่อนแนวคิดและหลักการใช้ข้อมูล การใช้เทคโนโลยีมาแก้ปัญหาในพื้นที่ สำหรับการตัดสินใจเชิงนโยบาย อีกทั้งต้องการส่งเสริมการนําวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปสนับสนุนการตัดสินใจการพัฒนาพื้นที่ของผู้กําหนดนโยบายในพื้นที่ EEC และภูมิภาคอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต
โดย GISTDA มีบทบาทสำคัญในการนําเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องสร้างฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Geo-Spatial data) และพัฒนา Platform เรียกว่า Actionable Intelligence Policy หรือ AIP สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล โดยมีวัตถุประสงค์ให้เป็น Platformแสดงผลบน Dashboard ที่ให้ข้อเสนอแนะ เพื่อแก้ปัญหาและสนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบายในการพัฒนาพื้นที่ ให้สอดคล้องกับศักยภาพ ความสามารถที่รองรับได้ ซึ่งผลการศึกษาได้นำมาสู่ 4 แนวทางในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ยั่งยืนทั้งสำหรับ EEC และพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษอื่น ๆ ในภูมิภาคต่าง ๆ ได้แก่
1. การจัดทำและบังคับใช้แผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดิน ดังที่ EEC ได้ดำเนินการแล้ว เพื่อให้สามารถกำหนดพื้นที่เพื่อกิจกรรมต่างๆ ได้สอดคล้องกับภูมิศาสตร์และการอยู่ร่วมกันในสังคม
2. การกำหนดจำนวนผู้ประกอบการหรือจำนวนโรงงานแต่ละประเภท โดยคำนึงถึงขีดความสามารถในการรองรับของธรรมชาติ มีการจำกัดจำนวนใบอนุญาต จัดระบบซื้อขายใบอนุญาต ดังที่ สกพอ. ใช้ควบคู่กับกรมโรงงานอุตสาหกรรม และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
3. การพัฒนาระบบขนส่งขยะ ของเสีย การคัดแยก และกำจัดขยะ ของเสียในรูปแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน เพราะการพัฒนาเขตเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมตามมาด้วยของเสียหรือขยะอันตราย ขยะติดเชื้อ และขยะมูลฝอยจากชุมชน จึงต้องมีการกำหนดพื้นที่และมีนวัตกรรมสำหรับการกำจัดขยะทุกประเภทอย่างเหมาะสม
4. ผลักดันให้นำธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม (Environmental Governance) มาปฏิบัติเป็นแนวทางปกติในการประกอบกิจการหรืออุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดความตระหนักถึงความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม มีการให้ความรู้และเปิดเผยข้อมูลต่อชุมชนให้ทราบ
รวมทั้งพัฒนาให้มีระบบการติดตามการดำเนินงานของเขตเศรษฐกิจพิเศษต่อเนื่อง ดังเช่นที่รายงานฉบับนี้ได้นำเสนอเทคโนโลยี AIP ของ GISTDA ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และให้มีระบบเฝ้าระวังทุกมิติด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาวะของประชาชน ระบบจัดเก็บและใช้ข้อมูลต่อไป
ปริญญา/ข่าว
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","12/1/2022","ภาคตะวันออก","ชลบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113062902444"], [266,"จังหวัดตราด ขับเคลื่อนการจัดทำตราสัญลักษณ์ผลิตภัณฑ์จังหวัดตราด (Trat Brand) ผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวและบริการจังหวัดตราด","วันนี้ (12 ม.ค. 65) นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด มอบหมายให้ นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการจัดทำและบริหารตราสัญลักษณ์ ผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวและบริการจังหวัดตราด ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตราด โดยมีคณะอนุกรรมการฯ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมที่ห้องประชุมตราดสีทอง ศาลากลางจังหวัดตราด
ทั้งนี้ จากการประชุมคณะกรรมการ่วมภาครัฐและเอกชนภาคตะวันออก (วาระพิเศษ) เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม 2564 รวมทั้งการประชุมการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของจังหวัดตราด ได้มีมติสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตราด รับผิดชอบในการจัดทำแบรนด์ผลิตภัณฑ์ของจังหวัด (Trat Brand) โดยได้มีการตั้งคณะกรรมการ และคณะอนุกรรมการจัดทำและบริหารตราสัญลักษณ์ รวม 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ (Cluster) คือ ผลิตภัณฑ์ผลไม้จังหวัดตราด ผลิตภัณฑ์ชุมชนจังหวัดตราด และผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวและบริการจังหวัดตราด
โดยคณะอนุกรรมการจัดทำและบริหารตราสัญลักษณ์ ผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวและบริการจังหวัดตราด ที่ประชุมในวันนี้ได้ร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินการจัดทำและบริหารตราสัญลักษณ์ผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวและการบริการจังหวัดตราด เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับคุณภาพด้านการท่องเที่ยวและการให้บริการของจังหวัดตราด โดยเฉพาะเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดตราดให้สามารถทำตลาดในระดับสากลได้
อย่างไรก็ตาม การประชุมคณะอนุกรรมการฯ ครั้งนี้ ได้ร่วมกันพิจารณากำหนดสัญลักษณ์ และพิจารณากำหนดระเบียบ / หลักเกณฑ์การอนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์ รวมทั้งควบคุมและป้องกันความเสื่อมเสียต่อการใช้ตราสัญลักษณ์ อีกด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","12/1/2022","ภาคตะวันออก","ตราด","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220112141458190"], [267,"นักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี บูรณาการศาสตร์นำความรู้สร้างเศรษฐกิจชุมชนเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ปลากะตักตากแห้ง กลุ่มประมงพื้นบ้านปะนาเระ จังหวัดปัตตานี สร้างแบรนด์ PLA NARE นำร่องขยายตลาดออนไลน์เพื่อส่งออกประเทศจีน","การขจัดความยากจนทุกรูปแบบในทุกพื้นที่ เป็นเป้าหมายที่ว่าด้วยการลดความยากจนทั้งทางเศรษฐกิจ และความยากจนในมิติอื่น ๆ ซึ่งเป็นเป้าหมายลำดับที่ 1 ของการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG1) จากรายงานของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พบว่าปี 2563 คนจนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 5 แสนคน เส้นความยากจนขยับลงมาอยู่ที่ 2,762 บาทต่อคนต่อเดือน โดยปัญหาความยากจนในภาคใต้ พบว่า มีปัญหารุนแรงขึ้นจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดน โดยปี 2563 คนจนใน 3 จังหวัดมีสัดส่วนประมาณ 48.8% ของคนยากจนในภาคใต้ และเพิ่มขึ้นถึง 23.5% ขณะที่จังหวัดที่เหลือในภาคใต้มีจำนวนคนจนลดลง 10.12% โดยเฉพาะจังหวัดปัตตานี มีสัดส่วนคนจนติดอันดับสูงสุด 10 อันดับแรกมาตั้งแต่ปี 2547 ต่อเนื่องถึงปี 2563 หรือตลอดเวลา 17 ปี นอกจากนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของชุมชนเพิ่มขึ้นอีก โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ
ผศ.ดร.ซัมซู สาอุ อาจารย์คณะวิทยาการอิสลาม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่ปรึกษาโครงการ Fish Win : การพัฒนาเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ปลากะตักตากแห้งเพื่อส่งออกประเทศจีน กล่าวว่า จากปัญหาดังกล่าวทำให้จัดตั้งกลุ่มเพื่อจัดทำโครงการเรียนรู้เพื่อแก้ปัญหาความยากจนดังกล่าวโดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่นและเป็นต้นทุนทางเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้โครงการ Fish Win : การพัฒนาเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ปลากะตักตากแห้งเพื่อส่งออกประเทศจีน เป็นหนึ่งใน 2 ของโครงการ Reinventing University วิทยาเขตปัตตานี โดยมีกลุ่มนักศึกษาของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ในหลากหลายสาขาวิชา อาทิ นางสาวมาณาล บาสอสิดิก คณะศึกษาศาสตร์ นางสาวทรายนับ มาหิเละ นายอามีรุณ ขาเดร์ รัฐศาสตร์ นางสาวนูรุลมุมีนะห์ มะแซ นายมูฮัมหมัดอิรฟัน บินเจ๊ะมะ นางสาวซูฮัยร์ลา มะเซ็ง Mr.Ma Sitong Mr.Wu Lei คณะวิทยาการอิสลาม นายซอฟรอน เกงเลอมะ นายซอฟรอน แวดาโอะ นางสาวฟาตีฮะห์ ดือราแม นางสาวซัลวา ดอเล๊าะ นางสาวนูซีลา ติยี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น
โดยมี ผศ.ดร.ซัมซู สาอุ คณะวิทยาการอิสลาม และ ดร.รุสลี นุห์ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายยุทธศาสตร์ คณะวิทยาการอิสลาม เป็นที่ปรึกษาโครงการ มีการเลือกชุมชนประมง ตำบลปะนะเระ อำเภอปะนะเระ จังหวัดปัตตานี เป็นพื้นที่นำร่องในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นคือปลากะตักตากแห้ง เพื่อการส่งออกไปยังประเทศจีน ได้ร่วมออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ภายใต้แนวคิดการบูรณาการศาสตร์ การบูรณาการกับสาขาวิชาเพื่อการทำงาน และการสร้างเครือข่ายกับต่างประเทศเพื่อพัฒนาภาษาและการรอบรู้การเป็นพลเมืองโลก และจัดตั้งกลุ่มลงพื้นที่สำรวจข้อมูลจากกลุ่มแม่บ้านผลิตภัณฑ์ปลากะตักตากแห้ง พบว่า ทางกลุ่มมีความต้องการจะพัฒนาผลิตภัณฑ์เพี่อเพิ่มมูลค่า และขยายตลาดการส่งออก เนื่องจากตลาดปัจจุบันมีข้อจำกัดเรื่องการส่งออก และปัญหาเรื่องของราคา อีกครั้งในช่วงวิกฤติจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ทำให้มีการเลิกจ้างแรงงาน ทำให้แรงงานจากหมู่บ้านประสบปัญหาการว่างงาน ไม่มีการงานทำ ส่งผลต่อรายได้ที่ลดลงและค่าใช้ในครอบครัวที่เพิ่มขึ้นจึงได้ออกแบบกิจกรรมที่เน้นทักษะการสร้างผู้ประกอบการตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
โดยใช้ ทักษะการเป็นผู้ประกอบการเป็นทักษะที่สำคัญและเป็นอัตลักษณ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อาทิ ศึกษาปัญหาและความต้องการในการเพิ่มมูลค่าของปลากะตักตากแห้ง วิเคราะห์ปัญหาและนำเสนอแนวทางการผลิตและบรรจุภัณฑ์ปลากะตักตากแห้งด้วยกระบวนการ Lean Canvas นำเสนอแนวทางการผลิตและบรรจุภัณฑ์ปลากะตักตากแห้ง พัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปปลากะตักตากแห้งและสร้างบรรจุภัณฑ์ อบรมการตลาดออนไลน์ การทดลองการขายออนไลน์
MR.Ma Sitong นักศึกษาสาขาวิชาอิสลามศึกษา หลักสูตรนานาชาติ คณะวิทยาการอิสลาม กล่าวว่า ตนได้นำเสนอแนวคิดการส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีน ซึ่งมีประชากรมุสลิมอยู่จำนวนมาก โดยได้จัดแนะนำความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของชาวจีนแผ่นดินใหญ่ การพัฒนาสูตรอาหารที่สอดคล้องกับรสนิยมของชาวจีน รวมทั้งการใช้ภาษาจีนในการสื่อสารและประชาสัมพันธ์สินค้า สินค้าฮาลาลจากปะนาเระสามารถส่งออกไปยังตลาดมุสลิมจีนได้ โดยประเทศจีนมีความต้องการผลิตภัณฑ์ปลากะตัก แต่ต้องปรับปรุงส่วนผสมและรสชาติให้เข้ากับรสนิยมของคนจีนได้
นางสาวทรายนับ มาหิเละ คณะรัฐศาสตร์ ได้สะท้อนการเรียนรู้จากโครงการว่า ได้ลงชุมชนจริง ได้พูดคุยกับกลุ่มแม่บ้าน ทำให้ได้เรียนรู้ปัญหาของชุมชน และแนวทางแก้ปัญหาแบบมีส่วนร่วม ซึ่งเป็นสายงานในสาขาวิชาที่เรียนอยู่แล้ว นอกจากนี้โครงการได้เชิญวิทยากรที่ทำเกี่ยวกับการขายของออนไลน์ซึ่งได้ทำอยู่แล้ว ทำให้ได้รู้กระบวนการและเทคนิคของผู้ประกอบการออนไลน์ได้มากขึ้น โดยเฉพาะตลาดฮาลาลและตลาดในต่างประเทศ
นายซอฟรอน เกงเลอมะ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้กล่าวถึงการเรียนรู้ที่ได้จากโครงการว่า ภูมิใจมากที่ได้เอาความรู้จากที่ได้เรียนมาแลกเปลี่ยนกับกลุ่มแม่บ้าน และได้ช่วยคิดค้นสูตรน้ำพริกปลากะตักร่วมกับวิทยากร อีกทั้งโครงการได้ทำการอบรมเรื่องมาตรฐานฮาลาล อย. และ GMP เพื่อการส่งออก ซึ่งเป็นความรู้เพิ่มเติมที่สามารถใช้ในการประกอบอาชีพในอนาคตได้
นางสาวมาณาล บาสอสิดิก สาขาวิชาภาษาอังกฤษ จากคณะศึกษาศาสตร์ ได้เล่าถึงประสบการณ์การพัฒนาทักษะด้านภาษาของตนเองว่า ได้เข้าร่วมอบรมกับวิทยากรต่างประเทศ ซึ่งทำให้เห็นถึงมุมมองใหม่ ๆ และตัวอย่างของการทำนวัตกรรมในยุตดิจิทัล นอกจากจะเปิดโลกทัศน์แล้ว ยังได้ฝึกการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกับทั้งวิทยากรและเพื่อนนักศึกษาต่างชาติ ซึ่งช่วยพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษซึ่งเป็นสาขาวิชาที่เรียนอยู่ด้วย
ความพยายามที่จะพัฒนาโครงการเพื่อแก้ปัญหาความยากจน โดยการทำโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ปลากะตักตากแห้ง เพี่อการส่งออกประเทศจีนของนักศึกษาในโครงการ Fish Win เป็นโครงการทางเลือกหนึ่งที่จะพัฒนาเกษตรกรกลุ่มปลากะตักตากแห้งในจังหวัดปัตตานีให้อยู่รอดได้ในระยะสั้น และลดผลกระทบต่อการพัฒนาในระยะยาว และการเปิดตลาดออนไลน์เพื่อการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ เช่น ประเทศจีนซึ่งมีกำลังซื้อมาก
ผศ.ดร.ซัมซู สาอุ อาจารย์คณะวิทยาการอิสลาม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่ปรึกษาโครงการ Fish Win : การพัฒนาเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ปลากะตักตากแห้งเพื่อส่งออกประเทศจีน ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการดังกล่าวนอกจะช่วยสร้างรายได้ให้กับกลุ่มชาวประมงแล้ว ยังช่วยพัฒนาทักษะของกลุ่มผลิตภัณฑ์ประมงให้เรียนรู้และใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งสามารถเพิ่มผลผลิต สร้างคุณค่าและขยายการเข้าถึงทางการตลาดของเกษตรกรได้ ซึ่งจะเป็นการสร้างอาชีพที่ยั่งยืนต่อไปซึ่งเป็นผลกระทบ (impact) ที่เกิดขึ้นโดยตรงกับชุมชน การเรียนรู้ของนักศึกษาเองก็สะท้อนถึงจุดเปลี่ยนของการจัดการเรียนรู้ในระดับอุดมศึกษาที่ใช้ประเด็นปัญหาจริงในท้องถิ่นเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ ใช้การแก้ปัญหาจากความชำนาญในสาขาวิชาของตนเองร่วมกันทำงานเป็นทีม และสร้างเครือข่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงปัญหาในท้องถิ่น ผู้คนที่หลากหลาย ใช้สหวิทยาการต่าง ๆ เพื่อนำทฤษฎีในห้องเรียนไปปรับใช้และพัฒนาชุมชนต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีการสร้างเครือข่ายกับต่างประเทศ สร้างความร่วมมือกับ Faculty of Business and Management จาก Universiti Teknologi Mara (UiTM) ประเทศมาเลเซีย โดยมี Assoc.Prof.Dr Jati Kasuma Ali ผู้เชี่ยวชาญด้านผู้ประกอบการ และผู้ทรงคุณวุฒิในการแข่งขันการประกวดนวัตกรรมนานาชาติได้มาเป็นพี่เลี้ยงให้กับนักศึกษาในการทำคลิปเพื่อส่งเข้าประกวดการแข่งขัน EDUCATIONAL DESIGN, GAMES, INVENTION & INNOVATION COMPETITION 2022 ซึ่งเป็นการยกระดับศักยภาพของนักศึกษาในการเข้าร่วมกิจกรรมในระดับนานาชาติ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","12/1/2022","ภาคใต้","ปัตตานี","สวท.ปัตตานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220112144644232"], [268,"สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี ขอเชิญชวนผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ลงทะเบียนสมัครรับมาตรฐาน SHA และ SHA Plus","สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี ขอเชิญชวนผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ลงทะเบียนสมัครรับมาตรฐาน SHA และ SHA Plus เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านความสะอาดและสุขอนามัย ตามมาตรการจังหวัดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว พร้อมทั้งสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้เข้ารับบริการ
ดร.กิรดา ลำโครัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี ขอเชิญชวนผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ลงทะเบียนสมัครรับมาตรฐาน SHA (Amazing Thailand Safety & Health Administration) และ SHA Plus เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านความสะอาดและสุขอนามัย ตามมาตรการจังหวัดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว (Blue Zone) พร้อมทั้งสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้เข้ารับบริการ
สำหรับ มาตรฐาน SHA (Amazing Thailand Safety & Health Administration) เป็นโครงการที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการยกระดับมาตรการความสะอาดหรือความปลอดภัยด้านสุขอนามัย เป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนให้สถานที่ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนั้นเพิ่มความรัดกุมกับสินค้าและบริการ โดยคำนึงถึงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นไปอย่างปลอดภัยและถูกต้องตามหลักสุขอนามัย โดยเครื่องหมาย SHA นั้น เป็นตราที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคด้วย กิจการที่สามารถขอตรา SHA ได้มีทั้งหมด 10 รูปแบบ ได้แก่ ร้านอาหาร โรงแรมหรือที่พักสถานที่ท่องเที่ยว ยานพาหนะ บริษัทนำเที่ยว กิจการเกี่ยวกับสุขภาพและความงาม ห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้า กีฬาเพื่อการท่องเที่ยว การจัดกิจกรรม/จัดประชุม/โรงละคร/โรงมหรสพ และ ร้านของที่ระลึก และร้านค้าต่าง ๆ
ส่วน SHA Plus คือ ผู้ประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA แล้ว และบุคลากรได้รับวัคซีน COVID-19 ครบโดสอย่างน้อย 70% ของพนักงานทั้งหมดในองค์กร จะได้รับสัญลักษณ์ \"SHA Plus\" หรือ \"SHA+\" โดยคุณสมบัติของกิจการที่จะได้รับ SHA Plus ต้องจะเป็นผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน SHA ก่อน จากนั้นเตรียมข้อมูลและหลักฐานการฉีดวัคซีนจำนวนตั้งแต่ 70% ขึ้นไปของพนักงานในสถานประกอบการ สำหรับใช้ในการลงทะเบียนรับ SHA Plus
ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการท่านใดสนใจสมัครรับมาตรฐาน SHA และ SHA Plus สามารถสมัครด้วยตนเองได้ที่ https://web.thailandsha.com/index หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : 085 - 2925551 (คุณพิณ) 080 - 6513838 (คุณอุ้ม) คณะทำงานฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี) หรือ 034 - 520335 ต่อ 202 สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","12/1/2022","ภาคตะวันตก","กาญจนบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220112145646242"], [269,"ธ.ก.ส. โอนเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 256465 งวดที่ 1-12 (เพิ่มเติม) และงวดที่ 13 ให้เกษตรกรอีกกว่า 25,000 ครัวเรือน วงเงิน 275 ล้านบาท","นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ (12 มกราคม 2565) ธ.ก.ส. ได้โอนเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 งวดที่ 1-12 (เพิ่มเติม) พร้อมงวดที่ 13 อีกจำนวน 275 ล้านบาท ให้กับเกษตรกรจำนวน 25,132 ครัวเรือน ส่งผลให้ภาพรวมการโอนเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 โอนเงินไปแล้วจำนวน 85,388.26 ล้านบาท มีเกษตรกรได้รับประโยชน์กว่า 4,582,172 ครัวเรือน
ทั้งนี้ โครงการประกันรายได้ เป็นช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้ได้รับผลตอบแทนจากการผลิตที่เหมาะสม เป็นการป้องกันความเสี่ยงด้านราคาไม่ให้ประสบปัญหาขาดทุน และช่วยแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก การแพร่ระบาดของโควิด-19 และอุทกภัย โดยที่กลไกตลาดยังคงทำงานเป็นปกติ โดยเกษตรกรสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินได้ทางแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง และจะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่าน LINE BAAC Family กรณีที่ลูกค้าสมัครใช้บริการ BAAC Connect รวมถึงสามารถเบิกถอนเงินสดผ่านตู้ ATM ของ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ
","12/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220112164922305"], [270,"พาณิชย์ จ.ประจวบฯ คุมเข้มราคาจำหน่ายสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพ พร้อมจัดโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน จำหน่ายหมูเนื้อแดง กก.ละ 150 บาท รวม 6 จุด","วันนี้ (12 ม.ค. 65 )น.ส.ภัสศรัณย์ ชำนาญกิจ พาณิชย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดฯ ได้ตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าในท้องตลาดอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและไม่ให้มีการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค หลังพบว่าปัจจุบันราคาสินค้าหลายชนิดปรับตัวสูงขึ้น โดยจากการลงพื้นที่ติดตามการจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพต่างๆ เช่น ไข่ไก่ เนื้อไก่ น้ำมันพืช พบว่าขณะนี้ราคาจำหน่ายยังเป็นปกติ แต่ได้ขอความร่วมมือผู้ค้าผู้ประกอบการให้ปิดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน
ส่วนประชาชนผู้บริโภคหากพบเห็นการฉวยปรับขึ้นราคาโดยไม่เป็นธรรมสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 หรือที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดฯ ส่วนสถานการณ์การจำหน่ายหมูเนื้อแดงในตลาด พบว่ายังคงมีการปรับราคาสูงขึ้น ล่าสุด สำนักงานพาณิชย์จังหวัดฯ ได้ประสานผู้ประกอบการจัดทำโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน จำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคา กก.ละ 150 บาท รวม 6 จุด ปริมาณ 60 กก./จุด/วัน ได้แก่ อ.เมือง 4 จุด ที่ร้านเจ้ยิ้น ร้านหมูวราชัย ร้านหมูเจ้จี๋ และร้านนพรัตน์ฟาร์ม / อ.บางสะพาน 1 จุด ที่ร้านหมูสายใจ และ อ.หัวหิน 1 จุด ที่ร้านหัวหินหมูสด-ไก่สด สาขา 1 แยกพุทธไชโย โดยเปิดจุดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 13 - 31 ม.ค.นี้ จากนั้นจะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","12/1/2022","ภาคตะวันตก","ประจวบคีรีขันธ์","สวท.ประจวบคีรีขันธ์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220112180738352"], [271,"รัฐบาลบูรณาการทุกหน่วยแก้ไขปัญหาค่าครองชีพสูง","พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงานบูรณาการแก้ปัญหาสินค้าโภคภัณฑ์อาหารปรับตัวสูงขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะ อาหารสด ไม่ว่าจะเป็น เนื้อหมู เนื้อไก่ และ ไข่ไก่ เป็นต้น
กรมการค้าภายในได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบร่วมกันกำหนดราคาจำหน่ายไก่มีชีวิตหน้าฟาร์ม และราคาจำหน่ายปลีกชิ้นส่วนไก่สด เป็นระยะเวลา 6 เดือนนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 เป็นต้นไป โดยสิ้นสุดในเดือนมิถุนายน 2565
ราคาไก่
ราคาจำหน่ายไก่สดมีชีวิต จำหน่ายในราคา 33.50 บาทต่อกิโลกรัม
ไก่สด รวมเครื่องในและไม่รวมเครื่องใน จำหน่าย 60-65 บาทต่อกิโลกรัม
น่องติดสะโพก น่อง สะโพก จำหน่าย 60-65 บาทต่อกิโลกรัม
เนื้ออก จำหน่าย 65-70 บาทต่อกิโลกรัม
ราคาไข่ไก่ หารือสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่และกรมปศุสัตว์ เพื่อหารือโครงสร้างต้นทุนการเลี้ยง ผลผลิต และการประกาศปรับราคาไข่คละเป็น 3 บาทต่อฟองนั้นสมเหตุสมผลหรือไม่ ซึ่งจากข้อมูลต้นทุนเลี้ยงไข่ไก่อยู่ที่ 2.85 บาทต่อฟอง ทั้งนี้จะขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึงราคาเพื่อลดผลกระทบต่อผู้บริโภค โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในวันที่ 13 มกราคม 2564
ราคาเนื้อหมู ในส่วนของราคาเนื้อหมู กรมการค้าภายใน ได้จำหน่ายหมูราคาถูกผ่าน โครงการพาณิชย์ลดราคาหมู ออกไปถึงสิ้นเดือนมกราคม 2565 นี้
กรุงเทพฯ มีจุดขายหมู กก.ละ 150 บาท ทั้งหมด 116 จุด แยกเป็นรถโมบายตระเวนตามพื้นที่ต่าง ๆ 50 คัน และตั้งจุดจำหน่ายอีก 50 จุด
ส่วนต่างจังหวัดมี 551 จุด รวมเป็นทั้งหมด 667 จุด เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนสามารถซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาดได้
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","12/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","สมุทรปราการ","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรปราการ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113061419438"], [272,"สำนักงานพาณิชย์จ.สงขลา เร่งแก้ปัญหาราคาสุกรที่ขยับตัวสูงขึ้น โดยจะเพิ่มจุดจำหน่ายเนื้อสุกรเพิ่มอีก 2 แห่ง พร้อมขอให้ร้านค้าติดป้ายแสดงราคา และส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบตลาดอย่างต่อเนื่อง เกรงแผงหมูจะฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าช่วงเทศกาลตรุษจีน","
จากราคาเนื้อสุกรที่ขยับขึ้นราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทะลุกิโลกรัมละ 200 -210 บาท นางสาวฉัตร์สุดา ชุมแสง พาณิชย์จังหวัดสงขลา กล่าวถึงสาเหตุที่เนื้อสุกรปรับราคาจำหน่ายสูงขึ้น เนื่องจากเกษตรกรมีการเลี้ยงสุกรที่ลดน้อยลง เพราะต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์มีราคาสูง และเกิดโรคระบาดในสุกรมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2564 จึงทำให้เกษตรกรรายย่อยไม่ได้เลี้ยงสุกร ซึ่งส่งผลต่อปริมาณเนื้อสุกรที่ออกสู่ตลาดลดน้อยลง และมีการขยับระดับราคาสูงขึ้น ขณะนี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ช่วยประชาชน ครั้งที่ 2
สำหรับในจังหวัดสงขลา ราคาเนื้อสุกรหน้าฟาร์ม อยู่ที่กิโลกรัมละ 112-114 บาท ส่วนราคาขายปลีก หมูสามชั้น อยู่ที่กิโลกรัมละ 200 - 210 บาท หมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 190 200 บาท เนื้อสัน กิโลกรัมละ 190 200 บาท ทั้งนี้จังหวัดสงขลาได้ดำเนินโครงการหมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน ครั้งที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 6 15 มกราคม 2565 มีจุดจำหน่ายทั้งหมด จำนวน 4 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 บริเวณริมถนนสงขลา-นาทวี ตรงข้ามสำนักงานควบคุมโรค อำเภอเมือง จุดที่ 2 ร้านเตชินทร์อาหารแช่แข็ง ตรงข้ามกับโรงเรียนเทศบาล 1 ถนนนครนอก อำเภอเมือง จุดที่ 3 บริเวณริมถนนรัตนอุทิศ เขต 8 อำเภอหาดใหญ่ และ จุดที่ 4 บริเวณริมถนนใกล้ป้อมตำรวจสี่แยกนาหม่อม อำเภอนาหม่อม จำหน่ายเนื้อแดงและเนื้อติดมันในราคากิโลกรัมละ 150 บาท โดยแต่ละจุดจะจำหน่ายวันละประมาณไม่ต่ำกว่า 100 กิโลกรัมต่อวัน ตามที่กรมการค้าภายในกำหนด และหลังจากวันที่ 15 มกราคม 2565 ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสงขลา จะดำเนินการหาจุดจำหน่ายเพิ่มอีก 2 จุด รวมทั้งหมด 6 จุด
นอกจากนี้ราคา ไก่ และไข่ไก่ โดยขยับราคาสูงตามมาเช่นกัน เนื่องจากเนื้อหมูมีราคาแพง ประชาชนก็หันมาบริโภคไก่ และไข่ไก่เพิ่มมากขึ้น จากการที่เจ้าหน้าที่ของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสงขลา ก็ได้ลงไปตรวจสอบ พบว่าระดับราคาไก่เนื้อปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ไก่สดชำแหละ (ไม่รวมเครื่องใน) ราคาอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 70 บาท ส่วนเนื้ออกไก่อยู่ที่กิโลกรัมละ 70-75 บาท และสะโพกกิโลกรัมละ 70-75 บาท ไข่ไก่ขึ้นราคาแผงละ 6 บาท
ทางด้านกรมการค้าภายใน ได้ขอความร่วมมือไปยังเกษตรกรรายใหญ่ ให้คงราคาไว้เป็นระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่เดือนมกราคม ไปจนถึง เดือนมิถุนายน 2565 และกำหนดให้ขายไก่เป็นหน้าฟาร์ม อยู่ที่กิโลกรัมละ 33.50 บาท ส่วนไก่สด (ไม่รวมเครื่องใน) อยู่กิโลกรัมละ 60-65 บาท, น่องไก่ สะโพกไก่ ให้จำหน่ายปลีก กิโลกรัมละ 60 -65 บาท ส่วนเนื้อหน้าอกไก่ ให้จำหน่ายปลีกอยู่ที่กิโลกรัมละ 65-70 บาท พร้อมได้ขอความร่วมมือแก่ผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้า ทำการติดป้ายแสดงราคาจำหน่ายให้ชัดเจน และสั่งห้ามขายสินค้าดังกล่าว แพงเกินกว่าราคาที่ได้ติดป้ายไว้ หากขายเกินกว่าราคาป้ายที่กำหนด จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พาณิชย์จังหวัดสงขลา กล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการดังกล่าวสามารถจะเป็นช่องทางหนึ่งที่จะช่วยชะลอการขึ้นราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ก่อนถึงช่วงเทศกาลตรุษจีน เป็นมาตรการหนึ่งที่จะช่วยพ่อแม่พี่น้องประชาชนได้ซื้อสินค้าในราคาที่เป็นธรรม
รัฐบาลเก็บค่าเดินทางเข้าไทย จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ คนละ 300 บาท เริ่ม 1 เมษายน นี้
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในวันที่ 1 เม.ย. ปีนี้ จะเริ่มเก็บเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยคนละ 300 บาท เบื้องต้นคาดการณ์ว่าหากปีนี้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามา 5 ล้านคน จะสามารถจัดเก็บเงินได้ประมาณ 1,500 ล้านบาท เพื่อนำไปพัฒนาภารกิจเร่งด่วนที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการสร้างทางขึ้นลงสำหรับคนพิการ และการสร้างห้องน้ำ ซึ่งเงินก้อนนี้จะเก็บไว้เป็นกองทุน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติ นอกจากนี้ จะต้องให้ท้องถิ่นเข้ามาร่วมลงทุนด้วย ทั้งนี้จำนวนเงินที่เก็บจากนักท่องเที่ยวจะดึงออกมา 50 บาท เพื่อนำไปซื้อประกันภัยสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งในปีแรกอาจเหลือเงินใส่เข้าไปในกองทุน 1,250 ล้านบาท และจะมีการประสานให้สายการบินต่างๆ จัดเก็บเงินดังกล่าวรวมกับราคาตั๋วเครื่องบินพร้อมพัฒนาแอพพลิเคชั่นให้นักท่องเที่ยว และมีการแสดงหลักฐานก่อนเข้าประเทศว่าได้ชำระเงินเรียบร้อยแล้ว
","12/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220112194946383"], [274,"จังหวัดบุรีรัมย์ เตรียมจัดงาน \"แสง สี เสียง ตำนานรักภูเขาไฟกระโดง\" ประจำปี 2565 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นรายได้ให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว","ที่ห้องประชุมนารายณ์บรรทมสินธุ์ นายดำรงชัย เนรมิตตกพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ประชุมคณะกรรมการจัดการแสดง \"แสง สี เสียง ตำนานรักภูเขาไฟกระโดง\" ประจำปี 2565 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงงานเทศกาล รวมถึงประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดที่มีอยู่แล้วให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีไทย ตามนโยบายของรัฐบาลในด้านการท่องเที่ยว และกระตุ้นรายได้ด้านการท่องเที่ยว พร้อมทั้งกระจายรายได้ ให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้การจัดงานเทศกาลภูเขาไฟบุรีรัมย์ ประจำปี 2565 ยิ่งใหญ่ และเป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น
โดยธีมของการจัดงานปีนี้คือ ปฐมบทแห่งภูเขาไฟ ซึ่งจะนำเรื่องราวเล่าขาน เรื่องเล่าทางภูมิศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์รวมไปถึงตำนานความเชื่อของจังหวัดบุรีรัมย์ในฐานะเป็นเมืองที่มีภูเขาไฟที่ดับแล้ว มากที่สุดในประเทศไทย มาบอกเล่าให้กับผู้เข้ามาเยี่ยมชมงานได้ชมผ่านรูปแบบของนิทรรศการและการแสดงแสงสีเสียง ในชื่อชุด อัปสราโชว์ จากนั้นจะเป็นการโชว์การการระเบิดของภูเขาไฟกระโดง ซึ่งจะมีการระเบิดทุก ๆ ชั่วโมง
นอกจากนั้นยังมีการจัดซุ้มไฟประดับตลอดทางเดินขึ้นปากปล่องภูเขาไฟ 700 เมตร ให้ประชาชนได้ถ่ายภาพ มีการจัดลานวัฒนธรรมนำร้านค้าผลิตภัณฑ์และอาหารพื้นเมือง มีร้านค้าจำนวนกว่า 70 ร้าน ให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีก เช่น กิจกรรมบวงสรวงศักดิ์สิทธิ์ บริเวณหน้าพระสุภัทรบพิตร กิจกรรมสวดมนต์ ปฏิบัติธรรม น้อมนำจิตใจ บริเวณลานด้านหน้าองค์พระสุภัทรบพิตร ในช่วงเย็นของทุกวัน
สำหรับงาน \"แสง สี เสียง ตำนานรักภูเขาไฟกระโดง\" ประจำปี 2565 จะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 14-16 มกราคม 2565 ณ บริเวณวนอุทยาน ภูเขาไฟกระโดง ตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ ประชาชนที่เดินทางเข้ารับชมภายในงานจะต้องผ่านการฉีดวัคซีนครบโดส และปฏิบัติตามมาตรการอย่างเข้มงวด
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","12/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","บุรีรัมย์","สวท.บุรีรัมย์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220112201239387"], [275,"ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานีเยี่ยมจุดจำหน่ายเนื้อหมูธงฟ้าราคาถูก ห่วงในประชาชนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19","วันนี้ (12 ม.ค.65 ) นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนางสุนิสา รามแก้ว ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี และนายกัมปนาท กลิ่นเสาวคนธ์ นายอำเภอบ้านนาสาร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดจำหน่ายเนื้อหมูและสินค้าธงฟ้าราคาถูก ในเขตเทศบาลเมืองนาสาร อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นนโยบายหนึ่งของกระทรวงพาณิชย์ที่จับมือกับภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ และผู้เกี่ยวข้อง จัดจำหน่ายเนื้อหมูและสินค้าอื่นๆ ที่สด สะอาด จากฟาร์มมาตรฐาน ราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป เพื่อช่วยลดค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และประสบกับปัญหาราคาเนื้อหมูในท้องตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น
สำหรับจุดจำหน่ายสินค้าธงฟ้าแห่งนี้ มีจำหน่ายทั้งเนื้อหมูสามชั้น กิโลกรัมละ 160 บาท สะโพก 150 บาท สันใน 160 บาท นอกจากนี้ยังมีไข่ไก่ราคาถูก เบอร์ศูนย์จำหน่าย แผงละ 110 บาท เบอร์หนึ่งแผงละ 100 บาท เบอร์สองแผงละ 95 บาท เบอร์สามแผงละ 90 บาท ตลอดจนสินค้าอื่นๆ ทั้งสดและแห้งอีกมากมายให้ได้เลือกซื้อ โดยได้รับความสนใจจากประชาชนเลือกซื้อกลับไปบริโภคเป็นจำนวนมาก พร้อมกับขอบคุณรัฐบาลที่ห่วงใย และให้ความช่วยเหลือลดค่าครองชีพของประชาชน
นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ที่ได้รับผลกระทบสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยกระทรวงกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับผู้ประกอบการ จัดจำหน่ายเนื้อหมูและสินค้าธงฟ้าราคาถูก กระจายไปในแต่ละอำเภอ เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ลดค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","12/1/2022","ภาคใต้","สุราษฎร์ธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220112200107385"], [276,"จังหวัดเพชรบุรี เร่งพัฒนาเมืองด้านอุตสาหกรรม ภายใต้ระบบเชิงนิเวศ ไม่เพียงการสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ สร้างเศรษฐกิจในพื้นที่เท่านั้น แต่ประชาชนต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความภาคภูมิใจในเมืองน่าอยู่คู่อุตสาหกรรม","จังหวัดเพชรบุรี เร่งพัฒนาเมืองด้านอุตสาหกรรม ภายใต้ระบบเชิงนิเวศ ไม่เพียงการสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ สร้างเศรษฐกิจในพื้นที่เท่านั้น แต่ประชาชนต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความภาคภูมิใจในเมืองน่าอยู่คู่อุตสาหกรรม เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้(วันที่ 12 มกราคม 2565) นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นางอทิตา กลิ่นสุวรรณ อุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบุรี นายอำนาจ เถาเล็ก ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์ การพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ หัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ ร่วมประชุมหารือ การพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ณ ห้องประชุม ศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี
นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยถึงแนวทางการพัฒนาเมืองเพชรบุรีว่าจังหวัดเพชรบุรีมีความพร้อมในศักยภาพทุกด้าน ที่จะพัฒนาให้เป็นเมืองน่าอยู่ น่ากิน น่าเที่ยว พร้อมทั้งการขับเคลื่อนวิถีเศรษฐกิจด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมภายใต้ระบบเชิงนิเวศ ซึ่งภาคอุตสาหกรรมไม่เพียงเป็นแหล่งการสร้างงาน สร้างอาชีพ ที่จะช่วยเพิ่มรายได้ สร้างเศรษฐกิจในพื้นที่เท่านั้น แต่ประชาชนต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความภาคภูมิใจในเมืองน่าอยู่คู่อุตสาหกรรม สานนโยบาย ยุทธศาสตร์ชาติ ที่ให้การพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เป็นเมืองที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โรงงานอุตสาหกรรมสามารถอยู่ร่วมกับคนในชุมชน โดยไม่ส่งผลกระทบไม่เป็นปัญหาการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งต้องควบคู่ไปกับการพัฒนาดูแลสิ่งแวดล้อม อันจะนำไปสู่เมืองน่าอยู่คู่อุตสาหกรรม
จังหวัดเพชรบุรี พร้อมที่จะเข้าร่วมโครงการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ โดยจะมีการพิจารณาเลือกพื้นที่นำร่อง เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมให้สามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน ไม่ให้เกิดผลกระทบซึ่งกันและกันภายใต้สภาวะแวดล้อมและคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมทั้งช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจชุมชนเติบโตไปด้วยกัน
ทางด้านนางอทิตา กลิ่นสุวรรณ อุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบุรีกล่าวว่า เพชรบุรีมีโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลาย จะทำอย่างไรให้อุตสาหกรรมสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน โดยจะทำเมืองเพชรบุรีให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ โดยให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อคัดเลือก พื้นที่ที่มีความเหมาะสม ถือเป็นโอกาสอันดีของจังหวัดเพชรบุรี ที่ทางกรมโรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรมได้มองเห็นถึงศักยภาพ ว่ามีเพียงพอที่จะทำ เป็นอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ที่ไม่เพียงช่วยสร้างเศรษฐกิจ สร้างรายได้แล้ว แต่สามารถอยู่ร่วมกับประชาชนได้อย่างมีความสุข
จามรี อนุรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรีรายงาน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","12/1/2022","ภาคตะวันตก","เพชรบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220112204112395"], [277,"พาณิชย์โคราชเตือนใช้เครื่องชั่งดัดแปลงขายสินค้ามีโทษทั้งจำและปรับขณะที่ประชาชนยังซื้อหมูราคาประหยัดอย่างต่อเนื่อง","นายศารุมภ์ โหม่งสูงเนิน พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า โครงการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน จังหวัดนครราชสีมา (ครั้งที่ 2) ยังมีไปจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2565 ซึ่งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับตลาดเทิดไทและผู้ประกอบการค้าเนื้อสุกรชำแหละ ได้ลดราคาเพื่อผู้บริโภค ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาหมูที่สูงขึ้นและให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งเป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภค
บรรยากาศการซื้อหมูเนื้อแดง ลดราคากิโลกรัมละ 150 บาท ที่ตลาดเทิดไท จังหวัดนครราชสีมา มีประชาชนมาซื้อหมูตามร้านที่เข้าโครงการทั้ง 6 ร้านอย่างต่อเนื่องทุกวัน มีหมูจำหน่ายร้านละ 50 กก.และจำกัดการซื้อเพื่อให้เกิดการกระจายอย่างทั่วถึง
พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา ฝากถึงประชาชนและร้านค้าในการตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องชั่งน้ำหนักเวลาซื้อขายสินค้าให้ถูกต้องตามจริง ซึ่งหากมีการแจ้งหรือตรวจพบการใช้เครื่องชั่งที่มีการดัดแปลงเพื่อขายสินค้าให้กับประชาชน จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ.2542 ม.75/1 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการซื้อขายสินค้าหรือบริการที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","12/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","นครราชสีมา","สวท.นครราชสีมา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220112233951421"], [278,"งาน ผลิตภัณฑ์ คักขนาด ดีเกินคาด อำนาจเจริญ\" มีศิลปินสาวสวยมากร่วมงานนี้","วันที่ 12 มกราคม 2565 ในงาน ผลิตภัณฑ์ คักขนาด ดีเกินคาด อำนาจเจริญ\" ระหว่างวันที่ 10-14 มกราคม 2565 ณ สนามหน้าสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดอำนาจเจริญ มีศิลปินสาวสวยมากความสามารถ น้องนุช ประทุมทอง มาโชว์พลังเสียงเพราะ ๆ ให้ได้ฟังภายในงาน ภายในงานมีสินค้าให้เลือกมากมาย พร้อมกับเดินช้อป ชิล ชม สินค้าชุมชน สินค้าOTOP และอาหารอร่อย และมีกิจกรรมลุ้มโชค ช้อปครบทุก 500 บาท รับคูปองลุ้นเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกวัน กิจกรรมภายใต้มาตรการควบคุมโรค D-M-H-T-T-A อย่างเคร่งครัด
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","12/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อำนาจเจริญ","สวท.อำนาจเจริญ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220112235144432"], [279,"หมูพาณิชย์..ลดราคา ช่วยประชาชน บรรยากาศซื้อขายเป็นไปอย่างคึกคัก","นายธีรวุฒิ คล้ายเคลื่อน พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี มอบหมายให้กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้าและเจ้าหน้าที่ดัชนี ตรวจติดตามการจำหน่ายหมูเนื้อแดงตามโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน หมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท ณ จุดจำหน่ายบริเวณตลาดสดเทศบาลเมืองเพชรบุรี ตลาดสดเทศบาลท่ายาง ร้านเอ๋หมูสดท่ายางและร้านรุ่งเรืองการค้า อำเภอบ้านลาด
บรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนให้ความสนใจ เนื่องจากราคาถูกกว่าปกติ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในภาวะที่ราคาเนื้อหมูเพิ่มสูงขึ้น เพิ่มช่องทางการจำหน่ายเนื้อหมูในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป จำหน่ายหมูให้กับประชาชนโดยจำกัดจำนวน 1 กิโลกรัมต่อคน ถึงวันที่ 15 มกราคม 2565 รวมถึงติดตามราคาไข่ไก่ ไก่สด ซึ่งเป็นนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) เพื่อลดภาระ ค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภค
จังหวัดยะลา ขยายขายหมูพาณิชย์ 150 บาท ถึง 31 ม.ค บรรเทาหมูแพง พาณิชย์ยะลา ย้ำ ผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้า เป็นไปตามต้นทุน ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค
สถานการณ์ราคาหมูที่ยังขยับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากปัญหา ทั้งต้นทุนการเลี้ยงหมูที่สูงขึ้นเกษตรกรเลิกเลี้ยง รวมถึงหมูเป็นโรค ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค
ขณะที่ กระทรวงพาณิชย์ ได้เร่งแก้ปัญหา จัดโครงการ หมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าครองชีพ ให้กับประชาชน ในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 มาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ล่าสุดทางกระทรวงพาณิชย์ ได้ขยายเวลาโครงการออกไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค 65 แล้ว หลังราคาหมูยังพุ่งไม่หยุด
นางผุสสดี จ๋ายเจริญ พาณิชย์จังหวัดยะลา เผยว่า หลังจากที่พาณิชย์ยะลา ได้รับนโยบายให้จัดโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชนในรอบแรกปลายเดือน พ.ย ถึง ธ.ค 64 ซึ่งมีการนำหมูเนื้อแดง มาจำหน่ายในราคา 130 บาท ต่อกิโลกรัม และขยายต่อมาในวันที่ 8 ม.ค 65-15 ม.ค 65 ปรับราคาจำหน่ายขึ้น ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ตามราคาของหมูที่เพิ่มขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันราคาหมูยังไม่คลี่คลาย ทั้งปริมาณที่เข้าสู่ตลาดน้อย ต้นทุนสูงขึ้น แนวโน้มราคาหมูยังคงปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งทางพาณิชย์ยะลา ได้รับนโยบายให้ขยายเวลา ขายหมูลดราคา ในกิโลกรัมละ 150 บาท ไปจนถึงสิ้นเดือนมกราคม เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการที่สูงขึ้น ในช่วงโควิด-19 ที่มีการเปิดเมือง เป็นการช่วยลดค่าครองชีพ ให้กับประชาชน โดยจะเพิ่มขึ้นอีก 2 จุด จากเดิม 4 จุด เป็น 6 จุด จำหน่ายจุดละ 100 กก. แบ่งเป็น อ.เมืองยะลา 2 จุด
ซึ่งจะมีจุดจำหน่าย ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดยะลา และ ร้านเก๋ พอร์คชอป ถนนผังเมือง 5 สำหรับ อ.เบตง ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจะเข้ามามากมีความต้องการบริโภคสูง ก็จะมี อยู่ 4 จุด คือ แผงหมูป้ารัตน์ แผงคุณชินกร แผงคุณวงค์คณา และ แผงคุณอภิชาต โดยจะจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค 65 ไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค 65
ขณะที่ ในส่วนของสินค้าอย่างอื่น ที่เกี่ยวข้องกับปศุสัตว์ ซึ่งต้นทุนได้ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไก่สด ไข่ไก่ ทางพาณิชย์ยะลา ก็ได้เข้าไปดูแล แล้ว ทั้งในส่วนของผู้บริโภคและ เกษตรกร ฝากผู้ประกอบการ การจำหน่ายสินค้า ก็ให้เหมาะสม เป็นไปตามต้นทุน ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค ซึ่งทางพาณิชย์ มีกฎหมายอยู่ ถ้ามีการร้องเรียนเข้ามา ก็จะต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย โดยเฉพาะในส่วนของสุกรในขณะนี้ก็ได้มีประกาศ ห้ามส่งออกสุกรมีชีวิต ต้องแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร ด้วย
ทั้งนี้ หากผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่ 1569 ทางพาณิชย์ยะลา ก็จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113083751454"], [281,"รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ย้ำ ยังไม่อนุญาตให้ไข่ไก่เนื้อไก่ ปรับขึ้นราคา","นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณ๊ไข่ไก่และเนื้อไก่ที่ปรับราคาขึ้น ว่า กระทรวงพาณิชย์ ยังไม่อนุญาตให้มีการขึ้นราคาสินค้าดังกล่าว ซึ่งอาจมีการแฏฉวยขึ้นราคา ก็จะมีการดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค แต่หากมีความจำเป็นต้องขึ้นราคาสินค้าในรายการใด ก็สามารถ ทำเรื่องมายังกระทรวงพาณิชย์ เพื่อพิสูจน์เป็นรายกรณีไปว่ามีความจำเป็น เพื่อไม่ให้กระทบต่อเกษตรกรรายย่อย จากการกดราคาทางนโยบายและเพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าขาดตลาดอีก ทั้งนี้ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายใน ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชน โดยจะต้องสมดุลกันระหว่างผู้บริโภค และเกษตรกรรายย่อย
ขณะที่การแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนหลังจากเนื้อหมูขึ้นราคาไปแล้วนั้น ขณะนี้มีโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน ที่กำหนดราคาหมูเนื้อแดงไว้ที่คงที่ในกิโลกรัมละ 150 บาท ซึ่งมีกว่า 600 จุด และได้เตรียมเสนอของบกลาง เพื่อเร่งมาชดเชยราคาในโครงการที่ตรึงไว้ รวมทั้งอุดหนุนเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายย่อย เพื่อให้มีกำลังใจในการเลี้ยงหมูต่อไป ไม่ให้เกิดภาวะขาดแคลนในอนาคต
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สวท.มุกดาหาร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113085900469"], [282,"นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงสินค้าราคาแพง กำชับกระทรวงพาณิชย์เร่งแก้ปัญหาไม่ให้กระทบประชาชน","นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่านายกรัฐมนตรีแสดงความเป็นห่วง กรณีราคาสินค้าที่ปรับสูงขึ้น โดยเฉพาะหมวดอาหารสด ซึ่งส่วนหนึ่งปัจจัยมาจากภาวะเงินเฟ้อ จึงกำชับ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ปัญหาหมูแพง รวมถึงสินค้าทุกชนิดอย่างเป็นระบบครบวงจร
โดยให้มีการวางแนวทางแก้ปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อดูแลไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน ขณะเดียวกัน ขออย่าให้มีการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค ส่วนกรณีที่มีการวิเคราะห์ว่า หากรัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาราคาหมูแพงได้ อาจกระทบต่อรัฐบาลนั้น นายธนกร ระบุว่า ขณะนี้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังวิเคราะห์หาทางแก้ปัญหาจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สวท.มุกดาหาร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113090037470"], [283,"โครงการพัฒนาระบบบำเหน็จบำนาญและสวัสดิการรักษาพยาบาล (ระบบ Digital Pension) ผ่านระบบ Zoom meeting อำนาจเจริญ","วานนี้ (12 มกราคม 2565) เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอำนาจเจริญ ศาลากลาง ชั้น 3 นายชาญวิทย์ ธานี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอำนาจเจริญ มอบหมายนายวราพล นามภิไชย เจ้าพนักงานธุรการ ชำนาญงาน พร้อมด้วยนางสาวอุมาภรณ์ มงคลนำ เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ปฏิบัติงาน และนางสาวพรนิภา การินทอง เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน เข้าร่วมรับฟังการประชาสัมพันธ์ ขี้แจงโครงการพัฒนาระบบบำเหน็จบำนาญและสวัสดิการรักษาพยาบาล (ระบบ Digital Pension) ผ่านระบบ Zoom meeting
ด้วยกรมบัญชีกลาง ได้จัดทำโครงการพัฒนาระบบบำเหน็จบำนาญและสวัสดิการรักษาพยาบาล (ระบบ Digital Pension) ขึ้น เพื่อใช้งานทดแทนระบบบำเหน็จบำนาญ (e-Pension) ในการพิจารณาอนุมัติสั่งจ่าย และการเบิกจ่ายเงินเบี้ยหวัด บำเหน็จบำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน ซึ่งคาดว่าระบบ Digital Pension จะเปิดใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการใช้งานระบบ กำหนดให้หน่วยงานแจ้งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ดำเนินการลงทะเบียนเพื่อขอกำหนดสิทธิเข้าใช้งานในระบบ Digital Pension ให้แล้วเสร็จ ภายใน 20 มกราคม 2565
","13/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อำนาจเจริญ","สวท.อำนาจเจริญ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113085255465"], [284,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ตรวจติดตามการจำหน่ายเนื้อสุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ณ ตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์","สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ โดยนางพิรุณวรรณน์ จงใจภักดิ์ พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ตรวจติดตามการจำหน่ายเนื้อสุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ ณ ตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์ พบว่า สถานการณ์การจำหน่ายสินค้า โดยเฉพาะการจำหน่ายเนื้อสุกร ราคาทรงตัว (เมื่อเปรียบเทียบกับปลายสัปดาห์ก่อน) กำลังซื้อของผู้บริโภคมีน้อย ผู้บริโภคหันไปบริโภคเนื้อไก่ทดแทน ส่งผลให้ภาวะการค้าไก่สดชำแหละคึกคักกว่าปกติ ผู้ค้าเนื้อไก่สดแหละแจ้งว่าแม้ราคาไก่มีชีวิตมีการปรับสูงขึ้นไปแล้วก็ตาม แต่ก็ยังจำหน่ายในราคาเดิมอยู่เท่ากับสัปดาห์ก่อน
ส่วนราคาไข่ไก่สัปดาห์นี้ได้ปรับราคาสูงขึ้นทุกเบอร์ แผงละ 5-6 บาท เนื่องจากผลผลิตไข่ไก่ออกสู่ตลาดน้อย อย่างไรก็ตาม ปริมาณสินค้าทุกชนิดมีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนผู้บริโภค
โดยราคาจำหน่ายปลีกเนื้อสุกร ณ ตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์ เนื้อแดง ราคากก.ละ 200 -220 บาท , สันนอก/สันใน ราคากก.ละ 200 -220 บาท , สามชั้น ราคากก.ละ 220-240 บาท , มันหมูแข็ง ราคากก.ละ 70-80 บาท
ราคาจำหน่ายปลีกไก่สดชำแหละ ไก่สดทั้งตัวไม่รวมเครื่องใน กก.ละ 75-80 บาท , ไก่เนื้อไก่สดชำแหละอก กก.ละ 90-100 บาท , ไก่เนื้อไก่สดชำแหละสะโพก กก.ละ 90-100 บาท , ไก่เนื้อสดชำแหละน่อง กก.ละ 85-90 บาท
ราคาจำหน่ายปลีกไข่ไก่คัดเบอร์ ไข่ไก่ เบอร์ 0 ราคา 108-115 บาท/แผง , ไข่ไก่ เบอร์ 1 ราคา 96-105 บาท/แผง , ไข่ไก่ เบอร์ 2 ราคา 93-99 บาท/แผง , ไข่ไก่ เบอร์ 3 ราคา 81-95 บาท/แผง , ไข่ไก่ เบอร์ 4 ราคา 75-87 บาท/แผง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ผู้ประกอบการค้า ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าให้ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า และป้องกันการร้องเรียน หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้า สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569
","13/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","สุรินทร์","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113091504473"], [285,"พาณิชย์ลำปาง ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ด้านปริมาณและราคาจำหน่ายสุกรชำแหละ ไก่สด ไข่ไก่ และสินค้าอุปโภค-บริโภค","นางสาวเยาวเรศ แซ่โค้ว พาณิชย์จังหวัดลำปาง มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ด้านปริมาณ และราคาจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ และสินค้าอุปโภคบริโภคในตลาดสด และช็อป อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง จากการตรวจสอบ พบว่า จังหวัดลำปางมีปริมาณสุกรเพียงพอต่อการบริโภค โดยมีราคาจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ ณ จุดจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ (เขียงในตลาด) ดังนี้ เนื้อแดง/หัวไหล่ ราคากิโลกรัมละ 177-220 บาท, สันนอก ราคากิโลกรัมละ 183-220 บาท และสันคอ/สามชั้น/สันใน ราคากิโลกรัมละ 209 - 220 บาท
ไก่สด มีปริมาณมีเพียงพอกับการบริโภค โดยมีราคาจำหน่าย ดังนี้ ไก่สดทั้งตัวรวมเครื่องใน กิโลกรัมละ 80 บาท, ไก่สดไม่รวมเครื่องใน กิโลกรัมละ 70 บาท, สะโพก น่อง กิโลกรัมละ 62-70 บาท และอก กิโลกรัมละ 70-72 บาท
ไข่ไก่ ปริมาณมีเพียงพอกับการบริโภค โดยมีราคาจำหน่าย ดังนี้ เบอร์ 0 บรรจุถุง 10 ฟอง ราคา 42-45 บาท, เบอร์ 1 บรรจุถุง 10 ฟอง ราคา 38-40 บาท, เบอร์ 2 บรรจุถุง 10 ฟอง ราคา 37-38 บาท, เบอร์ 3 บรรจุถุง 10 ฟอง ราคา 32 - 35 บาท และเบอร์ 4 บรรจุถุง 10 ฟอง ราคา 30-30 บาท
ผักสด มีเพียงพอต่อการบริโภค โดยมีราคาจำหน่าย ดังนี้ กะหล่ำดอก กิโลกรัมละ 20 บาท ผักกาดขาวปลี กิโลกรัมละ 20 บาท กะหล่ำปลี กิโลกรัมละ 20 บาท ผักชี/ ต้นหอม กิโลกรัมละ 60 บาท ผักบุ้ง กิโลกรัมละ 25 บาท และมะเขือเทศ ผลเล็ก/ผลใหญ่ กิโลกรัมละ 50 บาท
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้กำชับให้ทางผู้ประกอบการทำการติดป้ายแสดงราคาที่ชัดเจน รวมถึงเน้นย้ำมิให้ผู้ประกอบการกักตุนและฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สวท.ลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113110503510"], [286,"จังหวัดสระบุรี กำหนดจุดหน่ายหมูเนื้อแดงตามโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน","นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี มอบหมายให้ นายนิพนธ์ วรรณภักดี พาณิชย์จังหวัดสระบุรี เร่งแก้ไขปัญหาหมูราคาแพง ตามนโยบายเร่งด่วนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งขณะนี้พาณิชย์จังหวัดสระบุรี ได้กำหนดจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดงตามโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน หมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท จำนวน 7 จุดในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ระหว่างวันที่ 16-31 มกราคม นี้ อำเภอเมืองสระบุรี ร้านหมูใจถึงและร้านเจ๊ตน ตลาดสืบศิริ ร้านเบทาโกรสาขาเมืองสระบุรี ตลาดเกษตรหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองสระบุรี ตลาดมณฑลทหารบกที่ 18 อำเภอหนองแค ร้านเจ๊ไรตลาดหินกอง อำเภอวังม่วง ร้านหมูเอ็มที
สำหรับราคาหมูเนื้อแดงในตลาดพื้นที่จังหวัดสระบุรี ขณะนี้ มีการจำหน่ายในราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 210 บาท และมีจำนวนการจำหน่ายลดลง บางร้านต้องหยุดจำหน่ายเนื่องจากราคาต้นทางราคาสูง อย่างไรก็ตามเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ในวันพรุ่งนี้(14 ม.ค.65) ตั้งแต่เวลา 08.00 น. พาณิชย์จังหวัดสระบุรี จะเริ่มทำการจำหน่ายหมูเนื้อแดงตามโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน เป็นวันแรก 1 จุด ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองสระบุรี และจะเริ่มเปิดจำหน่ายอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 16 31 มกราคม 2565 ในทุกจุดที่จัดไว้บริการ
นอกจากนี้ ได้ติดตามราคาไข่ไก่ ไก่สด ตลอดจนสินค้าควบคุมอื่น ๆ ที่ขณะนี้ได้เริ่มปรับราคาสูงขึ้นทุกประเภททั้งสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงการบริการต่าง ๆ ซึ่งรัฐบาลได้มีนโยบายให้เข้าไปดูแล เพื่อลดภาระ ค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภค ต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","สระบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113113849532"], [287,"พาณิชย์จังหวัดสกลนคร เร่งเพิ่มจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 150 บาท รองรับขยายเวลาจำหน่ายลดค่าครองชีพประชาชน ถึงสิ้นเดือนมกราคมนี้","นางเกศินี พวงประดิษฐ์ พาณิชย์จังหวัดสกลนคร เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาจำหน่ายหมูเนื้อแดงในพื้นที่จังหวัดสกลนคร ปรับตัวสูงขึ้น สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสกลนคร ร่วมกับผู้ประกอบการค้าหมู ได้จัดตั้งจุดจำหน่าย หมูพาณิชย์ลดราคา จำหน่ายหมูเนื้อแดงราคา กิโลกรัมละ 150 บาท
ล่าสุด มีผู้ประกอบการเข้าร่วม หมูพาณิชย์ลดราคา จำนวน 6 แห่ง ในพื้นที่ 3 อำเภอ เร่งเพิ่มจุดจำหน่ายให้ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดสกลนคร พร้อมขยายเวลาจำหน่ายออกไปถึง 31 มกราคม 2565 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
พาณิชย์จังหวัดสกลนคร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับมาตรการกำกับดูแล ผู้เลี้ยง ผู้จำหน่าย ผู้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งครอบครองสุกรมีชีวิตที่มีปริมาณตั้งแต่ห้าร้อยตัวขึ้นไป และผู้ครอบครองสุกรชำแหละผ่าซีกเนื้อ แยกชิ้นส่วน มีปริมาณรวมกันตั้งแต่ห้าพันกิโลกรัมขึ้นไป ต้องแจ้งปริมาณ ราคาจำหน่าย สถานที่เก็บและสถานที่เลี้ยง ต่อสำนักงานพาณิชย์จังหวัดท้องที่เป็นประจำทุกสัปดาห์
","13/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","สกลนคร","สวท.สกลนคร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113115340537"], [288,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ตรวจติดตามการจำหน่ายเนื้อสุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ ณ ตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์ พบเนื้อสุกรราคาทรงตัว","สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ตรวจติดตามการจำหน่ายเนื้อสุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ ณ ตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์ พบเนื้อสุกรราคาทรงตัว
นางพิรุณวรรณน์ จงใจภักดิ์ พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ตรวจติดตามการจำหน่ายเนื้อสุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ ณ ตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์ พบว่าสถานการณ์การจำหน่ายสินค้า โดยเฉพาะการจำหน่ายเนื้อสุกร ราคาทรงตัว เมื่อเปรียบเทียบกับปลายสัปดาห์ก่อน กำลังซื้อของผู้บริโภคมีน้อย ผู้บริโภคหันไปบริโภคเนื้อไก่ทดแทน ซึ่งส่งผลให้ภาวะการค้าไก่สดชำแหละคึกคักกว่าปกติ ผู้ค้าเนื้อไก่สดชำแหละแจ้งว่าแม้ราคาไก่มีชีวิตมีการปรับสูงขึ้นไปแล้วก็ตาม แต่ก็ยังจำหน่ายในราคาเดิมอยู่เท่ากับสัปดาห์ก่อน
ส่วนราคาไข่ไก่สัปดาห์นี้ได้ปรับราคาสูงขึ้นทุกเบอร์ แผงละ 5-6 บาท เนื่องจากผลผลิตไข่ไก่ออกสู่ตลาดน้อย อย่างไรก็ตาม ปริมาณสินค้าทุกชนิดมีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนผู้บริโภค
สำหรับราคาจำหน่ายปลีกเนื้อสุกร ณ ตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์ เนื้อแดง ราคา กก.ละ 200-220 บาท , สันนอก/สันใน ราคา กก.ละ 200 -220 บาท , สามชั้น ราคา กก.ละ 220-240 บาท , มันหมูแข็ง ราคา กก.ละ 70-80 บาท
ราคาจำหน่ายปลีกไก่สดชำแหละ ไก่สดทั้งตัวไม่รวมเครื่องใน กก.ละ 75-80 บาท , ไก่เนื้อไก่สดชำแหละอก กก.ละ 90-100 บาท , ไก่เนื้อไก่สดชำแหละสะโพก กก.ละ 90-100 บาท , ไก่เนื้อสดชำแหละน่อง กก.ละ 85-90 บาท
ราคาจำหน่ายปลีกไข่ไก่คัดเบอร์ ไข่ไก่ เบอร์ 0 ราคา 108-115 บาท/แผง , ไข่ไก่ เบอร์ 1 ราคา 96-105 บาท/แผง , ไข่ไก่ เบอร์ 2 ราคา 93-99 บาท/แผง , ไข่ไก่ เบอร์ 3 ราคา 81-95 บาท/แผง , ไข่ไก่ เบอร์ 4 ราคา 75-87 บาท/แผง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ผู้ประกอบการค้า ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าให้ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า และป้องกันการร้องเรียน หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้า สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569
","13/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สวท.สุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113120539549"], [289,"มรย.ยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ บนฐานภูมิปัญญาอาหารพื้นถิ่น เส้นทางท่องเที่ยวชุมชนโกตาบารู","โครงการวิจัย การยกระดับศักยภาพการท่องเที่ยวชุมชนเชิงสร้างสรรค์บนฐานภูมิปัญญาอาหารพื้นถิ่น เส้นทางท่องเที่ยวชุมชนโกตาบารู อำเภอรามัน จังหวัดยะลา โดยคณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา จัดกิจกรรม Fam Trip : แนะนำและเปิดเส้นทางท่องเที่ยวชุมชนโกตาบารู ภายใต้แผนงานการยกระดับศักยภาพการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาพื้นที่บนฐานอัตลักษณ์ท้องถิ่น ปีที่2 โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) ประจำปีงบประมาณ 2564 ดำเนินงานวิจัยภายใต้เครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคใต้
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิชาวดี ตานีเห็ง หัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวว่า ปัจจุบันการท่องเที่ยวชุมชนเชิงสร้างสรรค์ได้เติบโตอย่างรวดเร็ว คนไทยนิยมท่องเที่ยวเมืองรอง มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาคลังปัญญาแห่งชายแดนใต้เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น จึงมีแนวคิดในการทำโครงการวิจัย การยกระดับศักยภาพการท่องเที่ยวชุมชนเชิงสร้างสรรค์บนฐานภูมิปัญญาอาหารพื้นถิ่น เส้นทางท่องเที่ยวชุมชนโกตาบารู อำเภอรามัน จังหวัดยะลา มุ่งเน้นให้ชุมชนได้นำความหลากหลายทางชีวภาพและทุนทางวัฒนธรรม สร้างความสมดุลของชุมชนในการพัฒนาและยกระดับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยว พัฒนาช่องทางการตลาดการท่องเที่ยว และพัฒนาศักยภาพชุมชนต้นแบบการบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเชื่องโยงกับเส้นทางท่องเที่ยวอ่าวไทย อันดามัน และพหุวัฒนธรรมชายแดนใต้
สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ทีมคณะวิจัยได้ออกแบบและพัฒนาโปรแกรมการท่องเที่ยว Half Day Trip (ทริปเที่ยวครึ่งวัน : ชุมชนพหุวัฒนธรรมโกตาบารู อำเภอรามัน จังหวัดยะลา) โดยการนำนักท่องเที่ยวสัมผัสเส้นทางชุมชนโกตาบารู เริ่มจากการสัมผัสทะเลหมอก เช็คอิน และเก็บภาพประทับใจ ณ จุดชมวิวบนภูเขาธารทองที่โอบล้อมด้วยผืนป่าเขียวขจี จากนั้นเดินทางไปรับประทานอาหารเช้า ภูมิปัญญาอาหารพื้นถิ่น ซุปไก่บ้านซิกเนอเจอร์ ชุมชนโกตาบารู ต้นตำรับสืบทอดจากประเทศบังคลาเทศและปากีสถานกว่า 100 ปี แวะช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์จากผ้ามัดย้อม โดยการใช้สีย้อมผ้าจากพืชพื้นถิ่นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ต่อด้วยการเยี่ยมชมศาสนสถาน สุสานโต๊ะนิ วัดวชิรปราการและมัสยิดปากีสถาน พร้อมกับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต อาหาร ศิลปะ ประเพณี การปกครอง เศรษฐกิจ สายสัมพันธ์ชุมชนพหุวัฒนธรรมหัวเมืองโกตาบารู ณ พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมโกตาบารู และร่วมกิจกรรม DIY ทำขนมพื้นบ้าน ขนมซามัง ก่อนออกเดินทางกลับ โดยนำข้อเสนอแนะจากนักท่องเที่ยวมาพัฒนาโปรแกรมการท่องเที่ยวชุมชนพหุวัฒนธรรมโกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา ตอบสนองพฤติกรรมการท่องเที่ยวสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่หลากหลาย สร้างความประทับใจ เกิดภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างช่องทางการตลาดแก่นักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศในอนาคต
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิชาวดี ตานีเห็ง ยังกล่าวอีกว่า ทีมคณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาเน้นการทำงานมีส่วนร่วมและบูรณาการกับเครือข่ายและภาคีในพื้นที่ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม โดยมุ่งเน้นการยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์บนฐานภูมิปัญญาอาหารพื้นถิ่นที่สร้างความน่าสนใจต่อนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมาย พัฒนาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวบนฐานอัตลักษณ์ที่มีคุณค่าและเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างอาชีพ กระจายรายได้แก่ชุมชน ผ่านช่องทางการตลาดออนไลน์และออฟไลน์และชุมชนสามารถบริหารจัดการรองรับการท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืนภายใต้การท่องเที่ยววิถีใหม่(New Normal) และมีบริการที่ดีได้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA (Amazing Thailand Safety & Health Administration)
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113120246543"], [290,"พาณิชย์แม่ฮ่องสอน คุมเข้ม ลงพื้นที่ติดตามราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคา","วันที่ 12 มกราคม 2565 สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ณ ร้านค้า อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน 2 ร้าน ผลการตรวจสอบพบว่าผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าชัดเจน สินค้ายังมีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ราคาสินค้าอยู่ในภาวะทรงตัว อาทิ น้ำมันปาล์ม ขนาด 1 ลิตร ราคา 56-57 บาท, น้ำมันถั่วเหลือง ขนาด 1 ลิตร ราคา 57-58 บาท, น้ำตาลทราย ขนาด 1 กิโลกรัม ราคา 25-26 บาท, น้ำปลา ขนาด 700 มล. ราคา 28-35 บาท, ผงซักฟอก ขนาด 900 กรัม ราคา 42-45 บาท, ซอสปรุงรสฝาเขียว ขนาด 600 มล. ราคา 35 บาท ปลากระป๋อง ขนาด 155 กรัม ราคา 17-18 บาท
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้กำชับให้ร้านค้าปฏิบัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 อย่างเคร่งครัด ห้ามกักตุนสินค้า และห้ามฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาที่สูงเกินสมควร
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113115811540"], [291,"มรภ.ยะลา ยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ บนฐานภูมิปัญญาอาหารพื้นถิ่น เส้นทางท่องเที่ยวชุมชนโกตาบารู","โครงการวิจัย การยกระดับศักยภาพการท่องเที่ยวชุมชนเชิงสร้างสรรค์บนฐานภูมิปัญญาอาหารพื้นถิ่น เส้นทางท่องเที่ยวชุมชนโกตาบารู อำเภอรามัน จังหวัดยะลา โดยคณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา จัดกิจกรรม Fam Trip : แนะนำและเปิดเส้นทางท่องเที่ยวชุมชนโกตาบารู ภายใต้แผนงานการยกระดับศักยภาพการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาพื้นที่บนฐานอัตลักษณ์ท้องถิ่น ปีที่2 โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) ประจำปีงบประมาณ 2564 ดำเนินงานวิจัยภายใต้เครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคใต้
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิชาวดี ตานีเห็ง หัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวว่า ปัจจุบันการท่องเที่ยวชุมชนเชิงสร้างสรรค์ได้เติบโตอย่างรวดเร็ว คนไทยนิยมท่องเที่ยวเมืองรอง มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาคลังปัญญาแห่งชายแดนใต้เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น จึงมีแนวคิดในการทำโครงการวิจัย การยกระดับศักยภาพการท่องเที่ยวชุมชนเชิงสร้างสรรค์บนฐานภูมิปัญญาอาหารพื้นถิ่น เส้นทางท่องเที่ยวชุมชนโกตาบารู อำเภอรามัน จังหวัดยะลา มุ่งเน้นให้ชุมชนได้นำความหลากหลายทางชีวภาพและทุนทางวัฒนธรรม สร้างความสมดุลของชุมชนในการพัฒนาและยกระดับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยว พัฒนาช่องทางการตลาดการท่องเที่ยว และพัฒนาศักยภาพชุมชนต้นแบบการบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเชื่องโยงกับเส้นทางท่องเที่ยวอ่าวไทย อันดามัน และพหุวัฒนธรรมชายแดนใต้
สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ทีมคณะวิจัยได้ออกแบบและพัฒนาโปรแกรมการท่องเที่ยว Half Day Trip (ทริปเที่ยวครึ่งวัน : ชุมชนพหุวัฒนธรรมโกตาบารู อำเภอรามัน จังหวัดยะลา) โดยการนำนักท่องเที่ยวสัมผัสเส้นทางชุมชนโกตาบารู เริ่มจากการสัมผัสทะเลหมอก เช็คอิน และเก็บภาพประทับใจ ณ จุดชมวิวบนภูเขาธารทองที่โอบล้อมด้วยผืนป่าเขียวขจี จากนั้นเดินทางไปรับประทานอาหารเช้า ภูมิปัญญาอาหารพื้นถิ่น ซุปไก่บ้านซิกเนอเจอร์ ชุมชนโกตาบารู ต้นตำรับสืบทอดจากประเทศบังคลาเทศและปากีสถานกว่า 100 ปี แวะช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์จากผ้ามัดย้อม โดยการใช้สีย้อมผ้าจากพืชพื้นถิ่นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ต่อด้วยการเยี่ยมชมศาสนสถาน สุสานโต๊ะนิ วัดวชิรปราการและมัสยิดปากีสถาน พร้อมกับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต อาหาร ศิลปะ ประเพณี การปกครอง เศรษฐกิจ สายสัมพันธ์ชุมชนพหุวัฒนธรรมหัวเมืองโกตาบารู ณ พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมโกตาบารู และร่วมกิจกรรม DIY ทำขนมพื้นบ้าน ขนมซามัง ก่อนออกเดินทางกลับ โดยนำข้อเสนอแนะจากนักท่องเที่ยวมาพัฒนาโปรแกรมการท่องเที่ยวชุมชนพหุวัฒนธรรมโกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา ตอบสนองพฤติกรรมการท่องเที่ยวสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่หลากหลาย สร้างความประทับใจ เกิดภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างช่องทางการตลาดแก่นักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศในอนาคต
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิชาวดี ตานีเห็ง ยังกล่าวอีกว่า ทีมคณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาเน้นการทำงานมีส่วนร่วมและบูรณาการกับเครือข่ายและภาคีในพื้นที่ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม โดยมุ่งเน้นการยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์บนฐานภูมิปัญญาอาหารพื้นถิ่นที่สร้างความน่าสนใจต่อนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมาย พัฒนาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวบนฐานอัตลักษณ์ที่มีคุณค่าและเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างอาชีพ กระจายรายได้แก่ชุมชน ผ่านช่องทางการตลาดออนไลน์และออฟไลน์และชุมชนสามารถบริหารจัดการรองรับการท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืนภายใต้การท่องเที่ยววิถีใหม่(New Normal) และมีบริการที่ดีได้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA (Amazing Thailand Safety & Health Administration)
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113120507547"], [292,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรังจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร การสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้า ด้วยสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทยและเทรนตลาด NEXT Normal","สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรังจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร การสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้า ด้วยสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทยและเทรนตลาด NEXT Normal ที่โรงแรมธรรมรินทร์ ธนา อำเภอเมือง จังหวัดตรัง
นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตรการสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าด้วยสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทยและเทรนด์ตลาด Next Normal กิจกรรมที่ 1 การบริหารจัดการและการทำการตลาดสินค้า สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์โครงการสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ประจำปีงบประมาณพุทธศักราช 2565 โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรังจัดขึ้น
สำหรับการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตรการสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าด้วยสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทยและเทรนด์ตลาด Next Normal ในครั้งนี้ดำเนินการภายใต้กิจกรรมที่ 1 การบริหารจัดการและการทำการตลาดสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์กิจกรรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-14 มกราคม 2565 โดยมีกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย กลุ่มเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ประกอบการด้านสินค้า GI และสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง ผู้สนใจทั่วไป ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องด้านสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จากกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ตรัง สตูล กระบี่ พังงา ภูเก็ต ระนองและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจำนวนทั้งสิ้น 120 คน
ทั้งนี้ สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือ GI เปรียบเสมือนแบรนด์ของท้องถิ่น ที่บ่งบอกถึงคุณภาพและแหล่งที่มาของสินค้าเชื่อมโยงกับแหล่งภูมิศาสตร์ยกระดับคุณภาพของสินค้าและสร้างมูลค่าเพิ่มในห่วงโซ่สินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่นและภูมิปัญญาท้องถิ่นของจังหวัด ปัจจุบันประเทศไทยมีสินค้าที่ขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือ GI แล้วจำนวน 152 สินค้าโดยสินค้าของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน 6 จังหวัดประกอบด้วย จังหวัดตรัง กระบี่ พังงา ภูเก็ต ระนองและสตูลที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI มีแล้วจำนวน 10 สินค้า เมื่อเทียบกับศักยภาพของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันยังมีสินค้าอีกหลากหลาย ที่มีโอกาสขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ได้
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113120956558"], [293,"มุกดาหาร ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ ย้ำ พ่อค้าปิดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน","มุกดาหาร ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ ย้ำ พ่อค้าปิดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน
นางลักขณา บุญนำ พาณิชย์จังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดมุกดาหาร ร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดมุกดาหาร ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมุกดาหาร สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดมุกดาหาร และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดมุกดาหาร ได้ลงพื้นที่ ณ ตลาดวัฒนธรรม
พรเพชร , ตลาดเทศบาล 1 มุกดาหาร และห้างสรรพสินค้า แม็คโคร สาขามุกดาหาร เพื่อสำรวจ ตรวจสอบ และรณรงค์ให้ผู้ประกอบการร้านค้ามีการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าที่จำหน่ายให้ชัดเจน เนื่องจากผลผลิตสุกรในประเทศมีปริมาณลดลง ส่งผลให้ราคาเนื้อสุกรชำแหละมีการปรับราคาขึ้นลงตามราคาสุกรมีชีวิต รวมถึงโรคระบาดและถึงต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่มีราคาสูงขึ้น
ผลจากการสำรวจพบว่า ราคาจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละในตลาดสด และห้างสรรพสินค้าในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ดังนี้ 1.หมูเนื้อแดง ราคา 160-185 บาท/กิโลกรัม 2.หมูบด ราคา 140-200 บาท/กิโลกรัม 3.หมูสามชั้น ราคา 180-189 บาท /กิโลกรัม ส่วนราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ราคา 110-115 บาท/กิโลกรัม
ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องปรามมิให้ผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าและบริการ ฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาและไม่แสดงราคาจำหน่ายสินค้า ซึ่งเป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค หากพบเห็นการฝ่าฝืนไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า หรือค่าบริการ สามารถแจ้งข้อมูล เบาะแส หรือหลักฐานได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดมุกดาหาร กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ถนนวิวิธสุรการ โทรศัพท์ 0-4263-3375 หรือสายด่วน 1569 หรือทาง E-Mail : Mukdahan@dit.go.th
","13/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","มุกดาหาร","สวท.มุกดาหาร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113121937566"], [294,"สุพรรณบุรี จำหน่ายหมูพาณิชย์... ลดราคา ช่วยประชาชน บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน","นายวินิจ เฮ่าบุญ พาณิชย์จังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า เดิมประเทศไทยผลิตและส่งออกหมู/เนื้อหมูมาโดยตลอด แต่เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยประสพปัญหาโรคระบาดระบาดในหมูเป็นจำนวนมากจึงจำเป็นต้องทำลายหมูที่ติดเชื้อเพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาด ทำให้หมูขาดแคลน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มีมาตรการงดการส่งออกหมูไปต่างประเทศเป็นเวลา 3 เดือน ส่วนการแก้ไขปัญหาเนื้อหมูแพงกระทรวงพาณิชย์ จัดโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน เป็นหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท ณ จุดจำหน่ายบริเวณ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในภาวะที่ราคาเนื้อหมูเพิ่มสูงขึ้น เพิ่มช่องทางการจำหน่ายเนื้อหมูในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป จำหน่ายหมูให้กับประชาชนโดยจำกัดจำนวน 1 กิโลกรัมต่อคน ถึงวันที่ 15 มกราคม 2565 รวมถึงติดตามราคาไข่ไก่ ไก่สด และสินค้าอื่นๆ ด้วย ซึ่งเป็นนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) เพื่อลดภาระ ค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภค
สำหรับร้านจำหน่ายเนื้อสุกรที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ร้านหมูแฮปปี้ฟาร์ม สาขาสุพรรณบุรี ถ.เณรแก้ว /สาขา โพธิ์พระยา /สาขา ตลาดเทศบาล 3 อ.เมืองสุพรรณบุรี/สาขาดอนเจดีย์ /สาขาด่านช้าง 1/ สาขาด่านช้าง2 / /สาขา อู่ทอง/ และ สาขาบางลี่ อ.สองพี่น้อง
นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือ จาก บริษัท เบทาโกร จำกัด /บริษัท เอ็มที อู่ทอง จำกัด ตลาดสดเทศบาลสองพี่น้อง /ห้างสรรพสินค้าแม็คโคร สุพรรณบุรี/ห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส สาขาสุพรรณบุรี/ตลาดสดเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี /ร้านเจ้ยุ หมูอินเตอร์ ตลาดริมน้ำสุพรรณบุรี จำหน่ายเนื้อหมูชนิดต่างๆในราคาย่อมเยาถูกว่าท้องตลาดไปจนถึง 31 มกราคม 2565
อย่างไรก็ตาม ยังร่วมบูรณาการกับหลายหน่วยงานตรวจสอบการผลิตเนื้อหมูแปรรูป/การติดป้ายราคา/ชั่งตวงวัด/หากตรวจพบและพิสูจน์ว่ากระทำความผิดจริงต้องดำเนินคดีตามกฎหมายอาญาทันที หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิดแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 1569
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","สุพรรณบุรี","สวท.สุพรรณบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113123441577"], [295,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดระยอง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภค บริโภค ไข่ไก่และหมูเนื้อแดง ราคาจำหน่ายยังอยู่ในภาวะปกติ","นางสาวสุวีรยา ปั้นปาน พาณิชย์จังหวัดระยอง เปิดเผยว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดระยอง ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภค ประเภท หน้ากากอนามัย เจลล์ล้างมือ ไข่ไก่ และเนื้อสุกรชำแหละ (เนื้อแดง) ได้อำเภอต่างของจังหวัดระยอง ล่าสุดเมื่อ ได้ลงพื้นที่ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ติดตามการจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพของประชาชน พบว่า ราคาจำหน่ายหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ ที่วางจำหน่ายในร้านค้า 2 แห่ง ยังมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค โดยหน้ากากอนามัยขนาด 50 ชิ้น จำหน่ายราคากล่องละ 110 บาท ส่วนเจลล้างมือขนด 60 -105 มิลลิลิตร ราคาประมาณ 49- 50 บาท ซึ่งราคาสินค้ายังอยู่ในภาวะปกติ ทางร้านฯ มีการปิดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน และไม่พบการกักตุนสินค้าแต่อย่างใด
ส่วนสถานการณ์ไข่ไก่ในพื้นที่ อ.บ้านฉาง พบว่า มีการปรับขึ้นราคาเล็กน้อย ประมาณ 4-6 บาทต่อแผง โดยราคาไข่ไก่ เบอร์ 0 ราคา 107 บาท
- ไข่ไก่ เบอร์ 1 ราคา 95 บาท
- ไข่ไก่ เบอร์ 2 ราคา 89 บาท
- ไข่ไก่ เบอร์ 3 ราคา 86 บาท
- ไข่ไก่ เบอร์ 4 ราคา 83 บาท
เนื่องจากจังหวัดระยองไม่มีฟาร์มไก่ไข่ในพื้นที่ ผู้ประกอบการจะสั่งสินค้าจากฟาร์มไข่ไก่ในจังหวัดชลบุรี และฉะเชิงเทรา ผ่านบริษัท ซีพี (มหาชน) จำกัด และบริษัทเบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม ส่วนสถานการณ์ราคาจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ(เนื้อแดง) ที่ ร้านคุณหน่อยเฟรช มาร์ท อำเภอบ้านฉาง ราคา 180 บาท ต่อกิโลกรัม ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจกประกาศ กกร. ฉบับที่ 61 พ.ศ. 2564 เรื่องการแสดงสินค้าและค่าบริการ และ พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 พร้อมทั้งกำชับให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคตะวันออก","ระยอง","สวท.ระยอง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113133141592"], [296,"ศอ.บต. จัดอบรมการเพิ่มประสิทธิภาพด้านบริหารงานพัสดุ และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ เพื่อให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบงานพัสดุ ได้ปฏิบัติงานตามหลัก ธรรมาภิบาล","ศอ.บต. จัดอบรมการเพิ่มประสิทธิภาพด้านบริหารงานพัสดุ และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ เพื่อให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบงานพัสดุ ได้ปฏิบัติงานตามหลักธรรมาภิบาล
วันนี้ (13 มกราคม 2565) เวลา 09.00 น. ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จัดอบรม เรื่อง การเพิ่มประสิทธิภาพด้านบริหารงานพัสดุ ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ประจำปีงบประมาณ 2565 แก่เจ้าหน้าที่ในสังกัด ศอ.บต. ประกอบด้วยข้าราชการ พนักงานราชการ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ ที่รับผิดชอบงานด้านพัสดุ ศอ.บต. เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจด้านกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และแนวทางปฏิบัติงานในระบบอิเล็กทรอนิกส์ และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพต่อไป โดยมีนายกฤษฎา เคลือบมณี ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานเปิดอบรม ณ ห้องประชุม ชั้น 2 ศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา
ในการนี้ นายกฤษฎา เคลือบมณี กล่าวว่า การบริหารงานขององค์กรให้ประสบความสำเร็จ การพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ และสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญขององค์กรโดยเฉพาะด้านการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุที่เป็นปัจจัยสำคัญของการบริหารงานขององค์กรให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารงานพัสดุจะต้องโปร่งใสและถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบต่าง ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมทั้งกระบวนการต่าง ๆ จำเป็นต้องมีการบริหารงานอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ซึ่งการบริหารงานพัสดุนั้น ผู้ปฏิบัติงานต้องมีความรู้ความเข้าใจในหลาย ๆ ด้าน เช่น พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ฉบับปัจจุบัน ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และสภาวการณ์ในปัจจุบัน เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างถูกต้องโปร่งใส
สำหรับ การอบรมในครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 15 มกราคม 2565 เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้เพิ่มเติม ในเรื่องการบริหารการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ การวางแผนจัดซื้อจัดจ้าง และกระบวนการทางพัสดุที่ควรรู้ เพื่อให้การปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113131624587"], [297,"กรมการค้าภายใน ร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ ตรึงราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์ม ฟองละ 2.90 บาท จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย","นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า ที่ประชุมได้หารือร่วมกันและรับทราบถึงสถานการณ์ปัญหาด้านต้นทุนของผู้เลี้ยงไก่ไข่ ที่มีการปรับตัวสูงขึ้นจริง โดยเฉพาะวัตถุดิบอาหารสัตว์ ซึ่งกรมฯ จะหารือกับผู้ผลิตอาหารสัตว์ และหาทางช่วยเหลือในการเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตกับผู้เลี้ยงต่อไป อย่างไรก็ตาม เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ผู้เลี้ยงไก่ไข่จะให้ความร่วมมือในการตรึงราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์ม ที่ฟองละ 2.90 บาท ไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยจะมีการหารือร่วมกันเป็นระยะ
ทั้งนี้ เมื่อผู้เลี้ยงไก่ไข่ได้ปรับราคาลงมาแล้ว ผู้จำหน่ายส่งและปลีก จะต้องปรับลดราคาไข่ไก่ลงมาด้วย หากประชาชนพบเห็นการกักตุนหรือฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ และหากตรวจสอบพบการกระทำผิดจะมีโทษตามมาตรา 29 แห่งพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ
","13/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113135914616"], [298,"ผวจ.จันทบุรีตรวจเยี่ยมความพร้อมจุดคัดกรองนักแสวงบุญ ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง บนยอดเขาคิชฌกูฏ เน้นจองคิวขึ้นเขาผ่านแอป QueQ เท่านั้นไม่รับ Wolkin","วันนี้ ( 13 ม.ค.65 ) ที่วัดกระทิง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี และที่วัดพลวง นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วย พระครูพุทธบทบริบาล เจ้าคณะอำเภอเขาคิชฌกูฏ เจ้าอาวาสวัดพลวง ประธานมูลนิธิพระพุทธบาทพลวง / นายอำเภอเขาคิชฌกูฏ / สาธารณสุขอำเภอ / หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ เขาคิชฌกูฏ ผู้นำท้องที่ และผู้ที่เกี่ยวข้องได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมความพร้อมของจุดคัดกรองตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด -19 ตามแผนเผชิญเหตุและมาตรการป้องกันของคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดจันทบุรี
รวมทั้งศูนย์ CI จุดให้บริการรถคิวที่จะรับนักแสวงบุญขึ้นไปบนยอดเขาที่ต้องแยกออกจากจุดคัดกรอง และให้คำแนะนำว่าไม่ควรมีการตรวจ ATK ที่บริเวณหน้างานเนื่องจากเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้ ดังนั้นนักแสวงบุญ ประชาชน นักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทในปีนี้ ระหว่างวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2 เมษายน 2565 จะต้องตรวจคัดกรองมาก่อนหน้า และต้องจองคิวการขึ้นเขาผ่านแอป QueQ ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเท่านั้นไม่รับ Wolkin หน้างาน
สำหรับงานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง(เขาคิชฌกูฏ) ปีนี้ กำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2 เมษายน 2565 ตามประเพณีคือขึ้น 1 ค่ำเดือน 3 ถึง ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด 19 อย่างเข้มข้น และจะมีพิธี บวงสรวง ปิดป่า เปิดเขาในวันจันทร์ที่ 31 มกราคม 2565 โดยนักแสวงบุญ ประชาชน นักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง บนยอดเขาคิชฌกูฏต้องปฏิบัติตามนี้ ต้องเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มโดยแสดงเอกสารรับรองการรับวัคซีนหรือการยืนยันจากแอปพลิเคชั่นหมอพร้อม / แสดงเอกสารรายงานผลการตรวจโควิด -19 ด้วยวิธี RT-PCR หรือ Rapid Antigan test ไม่เกิน 3 วัน จากสถานพยาบาลของรัฐ หรือ สถานพยาบาลเอกชนที่กระทรวงสาธารณสุขรับรองแสดงผลทดสอบว่าไม่พบเชื้อ / กรณีผู้ที่เคยป่วยโควิด -19 ที่ได้รับการรักษาหายแล้วต้องมีเอกสารรับรองผลการตรวจรักษาว่าหายป่วยมาแล้วไม่เกิน 90 วัน
ผู้ที่จะขึ้นไปบนเขาต้องปฏิบัติตามมาตรการและระเบียบของกรมอุทยานแห่งชาติฯ อย่างเคร่งครัด การจองคิวรถเพื่อขึ้นไปบนยอดเขาสามารถจองได้ 2 คิว ผ่านแอปพลิเคชั่น QueQ โดยมีขั้นตอนรวม 4 ขั้นตอนทั้งนี้คิวรถที่จะให้บริการขึ้นไปบนเขามี 2 คิว คือคิววัดพลวง มีรถบริการจำนวน 111 คิว และคิววัดกระทิงมีรถบริการ 31 คิว ผู้ที่จะขึ้นไปบนเขาโดยรถบริการต้องจองผ่านแอปพลิเคชั่น QueQ เท่านั้นไม่รับ Walk in
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคตะวันออก","จันทบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดจันทบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113135230606"], [299,"คณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐจังหวัดตราด (E3) ลงพื้นที่ติดตามสนับสนุนกลุ่มเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ จังหวัดตราด (เน้นหนัก) ปี 2565 พื้นที่ อ.เกาะช้าง","นายมนตรี ฮมแสน พัฒนาการจังหวัดตราด มอบหมายให้ นางสาวอัมพร ธรรมชาติ นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ ลงพื้นที่ติดตามสนับสนุนกลุ่มเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ จังหวัดตราด (เน้นหนัก) ปี 2565 ร่วมกับ คณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ (E3) ประกอบด้วย ผู้แทนผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษ 3 ผู้แทนท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตราด ผู้แทนวิทยาลัยชุมชนตราด ผู้แทนวัฒนธรรมจังหวัดตราด ผู้แทนเกษตรและสหกรณ์จังหวัดตราด ผู้แทนเกษตรจังหวัดตราด ผู้แทนบริษัทประชารัฐรักสามัคคีตราด (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด จำนวน 4 กลุ่ม ประกอบด้วย
1. ด้านการเกษตร จำนวน 1 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มทุเรียนเกาะช้าง สวนวิโรจน์
2. ด้านการท่องเที่ยวโดยชุมชน จำนวน 1 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอก
3. ด้านแปรรูป จำนวน 2 กลุ่ม ได้แก่ 3.1 กลุ่มอาชีพสตรีเจ๊กแบ๊ 3.2 กลุ่มวิสาหกิจชุมชนคลังมะพร้าวเกาะช้าง
สำหรับการลงพื้นที่ติดตามสนับสนุนกลุ่มเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ จังหวัดตราด (เน้นหนัก) ปี 2565ในครั้งนี้ เป็นการสำรวจข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย ร่วมรับฟังปัญหา/ความต้องการกลุ่มเป้าหมาย เพื่อนำไปพัฒนาและต่อยอดแนวทางบูรณาการส่งเสริมสนับสนุนกลุ่มเป้าหมายตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ ให้มีประสิทธิภาพต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคตะวันออก","ตราด","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113135513609"], [300,"พาณิชย์ตาก ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ด้านปริมาณและราคาจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ เนื้อไก่ชำแหละ และไข่ไก่","นางสาวปาริชาติ พงค์พันเทา พาณิชย์จังหวัดตาก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ด้านปริมาณและราคาจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ เนื้อไก่ชำแหละ และไข่ไก่ ณ จุดจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ (Outlet) และตลาดสด ในพื้นที่อำเภอเมืองตาก อำเภอบ้านตาก และอำเภอสามเงา โดยมีผลการตรวจสอบดังนี้
1. ราคาจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละในตลาดสด (เขียงหมู) ยังคงตัวเมื่อเปรียบเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าโดยราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ราคากิโลกรัมละ 115 บาท ราคาจำหน่าย ดังนี้
เนื้อแดง/เนื้อสะโพก/เนื้อหัวไหล่ ราคากิโลกรัมละ 180 - 230 บาท/?สันนอก ราคากิโลกรัมละ 180-220 บาท/สามชั้น ราคากิโลกรัมละ 200-230 บาท
2. ราคาจำหน่ายเนื้อไก่ชำแหละในตลาดสด และจุดจำหน่ายเนื้อไก่ชำแหละ (Outlet) ดังนี้
ไก่ทั้งตัวไม่รวมเครื่อง ราคากิโลกรัมละ 70-80 บาท/เนื้อส่วนอกไก่ ราคากิโลกรัมละ 75-80 บาท/เนื้อส่วนสะโพก ราคากิโลกรัมละ 65-75 บาท
3. ราคาจำหน่ายไข่ไก่ต่อแผง 30 ฟอง ในตลาดสด และจุดจำหน่ายไข่ไก่ (Outlet) ดังนี้
เบอร์ 0 ราคาจำหน่าย แผงละ 118-125 บาท/?เบอร์ 1 ราคาจำหน่าย แผงละ 106-115 บาท/เบอร์ 2 ราคาจำหน่าย แผงละ 100-110 บาท/?เบอร์ 3 ราคาจำหน่าย แผงละ 94-100 บาท/เบอร์ 4 ราคาจำหน่าย แผงละ 88- 95 บาท
จังหวัดตากมีปริมาณสุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ เพียงพอต่อการบริโภคในจังหวัด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้กำชับให้ทางผู้ประกอบการทำการติดป้ายแสดงราคาที่ชัดเจน รวมถึงเน้นย้ำมิให้ผู้ประกอบการกักตุนและฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าอีกด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","ตาก","สวท.ตาก","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113140841629"], [301,"ผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ ตรวจเยี่ยมโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน พร้อมกำชับผู้ประกอบการติดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน","
วันนี้ (13 ม.ค. 65) นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ น.ส.ภัสศรัณย์ ชำนาญกิจ พาณิชย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบราคาและคุณภาพการจำหน่ายเนื้อหมูที่ตลาดสดเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมตรวจเยี่ยมโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน
ซึ่งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดฯ ได้ประสานผู้ประกอบการจำหน่ายหมูเนื้อแดงราคาประหยัด กก.ละ 150 บาท รวม 6 จุด ปริมาณ 60 กก./จุด/วัน ได้แก่ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ 4 จุด ที่ร้านเจ้ยิ้น ร้านหมูวราชัย ร้านหมูเจ้จี๋ และร้านนพรัตน์ฟาร์ม / อำเภอหัวหิน 1 จุด ที่ร้านหัวหินหมูสด-ไก่สด สาขา 1 แยกพุทธไชโย และอำเภอบางสะพาน 1 จุด ที่ร้านหมูสายใจ โดยทั้ง 6 จุดจะเปิดจำหน่ายหมูเนื้อแดงตามโครงการดังกล่าวจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้กำชับให้ผู้ค้าผู้ประกอบการ ปิดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจนและตรวจสอบเครื่องชั่งให้ได้ตามมาตรฐานที่กำหนด หากพบการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคจะดำเนินการตามกฎหมาย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคตะวันตก","ประจวบคีรีขันธ์","สวท.ประจวบคีรีขันธ์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113140201623"], [302,"ย้ำมาตรการการเดินทางเข้าไทย เพิ่ม Sandbox อีก 3 จังหวัด ","นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงมาตรการการเดินทางเข้าประเทศไทย ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งที่ประชุม ศบค. มีมติให้คงการระงับการรับลงทะเบียน Thailand Pass เพิ่มเติมสำหรับผู้เดินทางเข้าแบบ Test and Go ไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
โดยยังสามารถเข้าไทยด้วยวิธี Sandbox หรือเข้ารับการกักตัวแบบ Alternative Quarantine หรือ AQ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา มีการเปิดรับลงทะเบียนใหม่สำหรับผู้เดินทางแบบ Sandbox เพิ่มเติมอีก3 แห่ง ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) จังหวัดกระบี่ และจังหวัดพังงา ซึ่งมีความพร้อมด้านการบริหารจัดการและด้านสาธารณสุข เพื่อให้เกิดการกระจายตัวของผู้เดินทางจากจังหวัดภูเก็ต และส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบกลุ่มจังหวัด
นอกจากนี้ ยังอนุญาตให้ผู้เดินทางจากประเทศต้นทางแอฟริกา สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้แล้วเช่นกัน หากเข้ามาในรูปแบบ AQ ปรับลดระยะเวลาการกักตัวจาก 14 วัน เป็น 7 วัน สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนครบตามข้อกำหนดของไทย และ 10 วันสำหรับผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน หรือได้รับวัคซีนไม่ครบตามข้อกำหนด
ส่วนสถานะล่าสุดของผู้ลงทะเบียนขอเดินทางเข้าประเทศไทย ผ่านระบบ Thailand Pass มีผู้ลงทะเบียนแล้ว 876,957 คน ได้รับอนุมัติแล้ว 696,941คน ในจำนวนผู้ได้รับอนุมัติแล้ว เป็นผู้ลงทะเบียนเดินทางเข้าแบบ Test and go 528,608 คน แบบ Sandbox 128,274 และแบบ AQ 40,059 คน (สถานะ ณ วันที่ 12 มกราคม 2565 เวลา 14.00 น.)
บรรยากาศการค้าขายอาหารจานด่วนบริเวณหน้าโรงเรียนเทศบาลบ้านกล้วย และข้างโรงเรียนชัยนาทพิทยาคม ในเขตเทศบาลเมืองชัยนาท ค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากโรงเรียนถูกสั่งหยุดการเรียนการสอนแบบ ONSITE ลูกค้าหมูปิ้งยามเช้าจึงมีเพียงคนทำงานทั่วไปในเขตเมืองชัยนาท
น.ส.ดวงใจ แม่ค้าหมูปิ้ง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ปริมาณการขายลดน้อยลง ประกอบกับสถานการณ์เนื้อหมูแพง จึงจำเป็นต้องลดปริมาณลงนิดหน่อย และพยายามขายให้ได้มากขึ้น ถ้าจะขึ้นราคาก็ทำไม่ได้เพราะลูกค้าไม่มีกำลังซื้อ ประกอบกับหลายๆ ร้านยังไม่ปรับราคาขึ้น จึงใช้วิธีลดปริมาณลงเล็กน้อยแล้วขายราคาเดิม คือไม้ละ 5 บาท แต่หากหมูที่สต็อกไว้หมดลง อีกไม่นานคงต้องปรับราคาขึ้น อยากให้รัฐบาลช่วยพิจารณาตรึงราคาเนื้อหมูให้อยู่ที่ประมาร 150 บาท/กิโลกรัม หรือต่ำกว่านี้ เพราะตอนนี้ส่งผลกระทบไปหมดทั้งคนขายและคนกิน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","ชัยนาท","สวท.ชัยนาท","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113150323649"], [304,"กรมท่าอากาศยาน ชี้แจงกรณีท่าอากาศยานเพชรบูรณ์ยังไม่สามารถเปิดให้บริการผู้โดยสารได้เนื่องจากสายการบินที่จะมาให้บริการเลื่อนแผนการบิน","กรมท่าอากาศยาน ชี้แจงกรณีที่มีข่าวการก่อสร้างอาคารใหม่ท่าอากาศยานท่าอากาศยานเพชรบูรณ์ ขณะที่มีอาคารเดิมอยู่แล้วนั้น ว่า จังหวัดเพชรบูรณ์ถือเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในด้านการท่องเที่ยว จึงได้มีการเปิดใช้บริการท่าอากาศยานเพชรบูรณ์ ในปี 2543 เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ผู้โดยสาร นักท่องเที่ยว และนักธุรกิจที่เดินทางมาในพื้นที่ ซึ่งมีสายการบินพาณิชย์ให้บริการมาเป็นระยะ ซึ่งที่ผ่านมากรมท่าอากาศยานมีแผนที่จะดำเนินการปรับปรุงอาคารที่พักผู้โดยสารหลังเดิมให้สามารถใช้งานอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อมีการคำนวณงบประมาณสำหรับการปรับปรุงอาคารเก่าปรากฎว่าค่อนข้างสูง ประกอบกับในปี 2561 ได้รับแจ้งจากสายการบินว่ามีแผนที่จะใช้อากาศยานขนาด 70-80 ที่นั่ง มาให้บริการที่ท่าอากาศยานเพชรบูรณ์ด้วย ดังนั้น เพื่อเป็นการรองรับการให้บริการดังกล่าว กรมท่าอากาศยานจึงขอรับงบประมาณและได้รับการจัดสรรในปี 2562 - 2563 ในการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 150 คนต่อชั่วโมง ใช้วงเงินงบประมาณ 40 ล้านบาท ออกแบบลักษณะอาคารเป็นแบบเปิดโล่ง เพื่อลดการใช้ระบบปรับอากาศที่มีค่าบำรุงรักษาสูง มีระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐาน เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนสิงหาคม 2562 ก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2563 เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ ได้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้สายการบินที่มีแผนจะทำการบิน ต้องทบทวนการลงทุนและเลื่อนการดำเนินการออกไปก่อน
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันท่าอากาศยานเพชรบูรณ์ ได้มีการเปิดให้บริการเที่ยวบินทางราชการ เที่ยวบินฝึกบินของโรงเรียนการบินและเที่ยวบินส่วนบุคคล โดยกรมท่าอากาศยานมีความพร้อมจะเปิดให้บริการผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานเพชรบูรณ์เมื่อสถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติ
วันนี้ (13 ม.ค.65) ที่ห้างสรรพสินค้าท็อปพลาซ่า สาขาพิจิตร สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพิจิตร ร่วมกับสำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จัดกิจกรรมเสริมส่งผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ในงานมีผู้ประกอบการร้านค้า OTOP ออกร้านจำหน่ายสินค้าผ้าทอ เครื่องแต่งกายพื้นบ้าน สิ่งของเครื่องใช้ และของประดับตกแต่งบ้าน รวมทั้งร้านอาหารจากผู้ประกอบการโดยตรง รวม 25 ร้านค้า เปิดจำหน่ายไปจนถึงวันที่ 18 มกราคมนี้ ที่ห้างท๊อปพลาซ่าพิจิตร
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคเหนือ","พิจิตร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพิจิตร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113154155698"], [306,"ศอ.บต. อบรมการเพิ่มประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่ด้านบริหารงานพัสดุ และระเบียบกระทรวงการคลัง","ศอ.บต. อบรมการเพิ่มประสิทธิภาพด้านบริหารงานพัสดุ และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ เพื่อให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบงานพัสดุ ได้ปฏิบัติงานตามหลักธรรมาภิบาล
วันนี้ (13 มกราคม 2565) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จัดอบรม เรื่อง การเพิ่มประสิทธิภาพด้านบริหารงานพัสดุ ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ประจำปีงบประมาณ 2565 แก่เจ้าหน้าที่ในสังกัด ศอ.บต. ประกอบด้วยข้าราชการ พนักงานราชการ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ ที่รับผิดชอบงานด้านพัสดุ ศอ.บต. เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจด้านกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และแนวทางปฏิบัติงานในระบบอิเล็กทรอนิกส์ และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพต่อไป โดยมีนายกฤษฎา เคลือบมณี ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานเปิดอบรม ณ ห้องประชุม ชั้น 2 ศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา
นายกฤษฎา เคลือบมณี กล่าวว่า การบริหารงานขององค์กรให้ประสบความสำเร็จ การพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ และสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญขององค์กรโดยเฉพาะด้านการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุที่เป็นปัจจัยสำคัญของการบริหารงานขององค์กรให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารงานพัสดุจะต้องโปร่งใสและถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบต่าง ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมทั้งกระบวนการต่าง ๆ จำเป็นต้องมีการบริหารงานอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ซึ่งการบริหารงานพัสดุนั้น ผู้ปฏิบัติงานต้องมีความรู้ความเข้าใจในหลาย ๆ ด้าน เช่น พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ฉบับปัจจุบัน ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และสภาวการณ์ในปัจจุบัน เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างถูกต้องโปร่งใส
สำหรับ การอบรมในครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 15 มกราคม 2565 เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้เพิ่มเติม ในเรื่องการบริหารการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ การวางแผนจัดซื้อจัดจ้าง และกระบวนการทางพัสดุที่ควรรู้ เพื่อให้การปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113151407659"], [307,"ไทย-ญี่ปุ่น เดินหน้าการร่วมสร้างสรรค์ รองรับเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนของทั้งสองประเทศ","พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับนายฮากิอูดะ โคอิจิ (Mr. HAGIUDA Koichi) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะ โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับ ยินดีที่รัฐมนตรีฮากิอูดะฯ ได้เลือกไทยเป็นประเทศแรกๆ ในการเยือนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะช่วยกระชับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นในด้านเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ไทยในฐานะประธานเอเปคปี 2565 พร้อมร่วมมือกับญี่ปุ่นในประเด็นต่างๆ ที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันภายใต้กรอบเอเปค โดยเฉพาะโมเดลเศรษฐกิจ BCG ของไทย กับยุทธศาสตร์การเติบโตสีเขียวของญี่ปุ่น ทั้งในระดับทวิภาคีและระดับพหุภาคีให้เกิดผลลัพธ์เป็นรูปธรรม
รัฐมนตรีฮากิอูดะฯ กล่าวยินดีที่ได้เข้าพบในวันนี้ พร้อมแสดงความมุ่งมั่นของญี่ปุ่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกับไทย โดยเฉพาะความร่วมมือที่เกี่ยวข้องกับโมเดล BCG การลงทุนและการพัฒนาอุตสาหกรรม พร้อมยืนยันว่า ญี่ปุ่นพร้อมสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคของไทยด้วย
ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นความร่วมมือที่สำคัญ อาทิ ด้านการลงทุนและการพัฒนาอุตสาหกรรม โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณภาคเอกชนญี่ปุ่นที่เชื่อมั่นในศักยภาพของเศรษฐกิจไทยมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ญี่ปุ่นได้จัดให้ไทยเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายสำคัญของข้อริเริ่ม Asia-Japan Investing for the Future (AJIF) ของญี่ปุ่น การร่วมสร้างสรรค์ (co-creation) ระหว่างภาคเอกชนไทยกับญี่ปุ่นจะนำไปสู่การลงทุนสำหรับอนาคต อันจะเป็นประโยชน์ต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนของทั้งสองประเทศและภูมิภาคเอเชียโดยรวม
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ร่วมเป็นประธานในการลงนาม บันทึกความร่วมมือว่าด้วยการเป็นหุ้นส่วนทางพลังงาน โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย และนายฮากิอูดะ โคอิจิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น เป็นผู้ลงนามฝ่ายญี่ปุ่น ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างกัน โดยให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของโลก จากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นการใช้พลังงานสะอาด ซึ่งจะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เสริมสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุน รวมทั้งจะเกิดความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้าน Smart Energy แห่งอนาคตในรูปแบบต่างๆ
วันนี้ (13 ม.ค. 65) สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด รายงานว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน ติดตามหารือกับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เพื่อตรึงราคาสินค้า ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน โดยกระทรวงพาณิชย์ได้หารือกับบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตรา มาม่า เพื่อไม่ให้มีการปรับขึ้นราคามาม่าซอง เป็นการช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนในสถานการณ์ปัจจุบัน
กระทรวงพลังงาน โดยคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติตรึงราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ต่ออีก 2 เดือนที่ราคา 318 บาทต่อถัง ขนาด 15 กิโลกรัม จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 มกราคม 2565 เป็นวันที่ 31 มีนาคม 2565 พร้อมทั้งขอความร่วมมือ บมจ.ปตท. (PTT) พิจารณาช่วยเหลือส่วนลดราคาก๊าซ LPG แก่ผู้มีรายได้น้อยที่เป็นร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ ปตท. ดำเนินการต่อไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565 รวมทั้ง ให้คงราคาขายปลีกก๊าซ NGV ที่ 15.59 บาท/กิโลกรัม และคงราคาขายปลีกก๊าซ NGV โครงการ เอ็นจีวี เพื่อลมหายใจเดียวกัน ให้กับผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ 13.62 บาท/กิโลกรัม ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 1 เดือน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ - 15 มีนาคม 2565
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคตะวันออก","ตราด","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113153501689"], [309,"จังหวัดตราด ผลกระทบสินค้าอุปโภคบริโภคปรับราคาสูงขึ้น พ่อค้าขายลูกชิ้นทอดโอดหลังแก๊สปรับขึ้นราคา","วันนี้ (13 ม.ค.65) จากผลกระทบสินค้าอุปโภคบริโภคปรับราคาสูงขึ้น ทั้งเนื้อหมู ไก่ เป็ด ไข่ไก่ และสินค้าอีกหลายๆ อย่าง ที่คนต้องใช้อุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันต่างปรับราคาขึ้น กระทบค่าครองชีพของประชาชน แม้แต่ราคาน้ำมัน ปรับราคาขึ้นวันต่อวัน ทำให้หลายอาชีพต้องรับผลกระทบไปตามๆกัน ไหนจะต้องเจอกับพิษโควิด-19 ล่าสุดแก๊สหุงต้มก็ปรับราคาขึ้นตามสิ้นค้าอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่มีอาชีพค้าขาย ที่ต้องใช้แก๊ส อย่างเช่น ของทอด แม้แต่การทำอาหารในครัวเรือนต่างได้รับผลกระทบไปตามๆกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นายพงษ์ปิยะ โพธิวรรณ พ่อค้าขายไส้กรอกลูกชิ้นทอดในพื้นที่อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน โดยนายพงษ์ปิยะ เปิดเผยว่า ตนเองมีอาชีพขายไส้กรอกลูกชิ้นทอดมานานกว่า 7 ปีแล้ว ใช้รถสามล้อพ่วงข้างตระเวนวิ่งขายตามหมู่บ้านต่างๆ ในพื้นที่ของ อำเภอคลองใหญ่ มาปีนี้ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเรื่องไส้กรอกหมู ไก่ ปรับราคาขึ้นจากเดิม แต่ตนเองต้องขายราคาเดิม และล่าสุดแก๊สหุงต้มที่ตนเองได้ใช้ทอดไส้กรอก/ลูกชิ้น เดิมทีถังละ 308.41 บาท ปรับขึ้นเป็นถังละ 330 บาท ไหนจะยังค่าน้ำมันที่ต้องวิ่งตระเวนขายอีก แทบจะไม่มีกำไรเหลือเลยในแต่ละวัน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน หรือ กบร.ว่า ที่ประชุมมีมติขยายระยะเวลามาตรการลดค่าใช้จ่ายและมาตรการทางการเงิน ในไตรมาสที่ 1/2565 เพื่อบรรเทาผลกระทบกับสายการบินจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทั้งนี้ กบร. มีมติเห็นชอบให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ CAAT กรมท่าอากาศยาน และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ขยายระยะเวลามาตรการบรรเทาผลกระทบของสายการบิน ที่ได้ดำเนินการมาจนถึงสิ้นปี 2564 ต่อเนื่องไปอีก 1 ไตรมาส เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นหลังโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนระบาดหนักจนคาดการณ์ว่าจะส่งผลให้จำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นถึง 6 เท่าในช่วงปลายปีกลับชะลอตัวลงอีกเป็นระลอกที่ 5 จึงจำเป็นต้องเร่งระดมมาตรการด้านปฏิบัติการให้เกิดประสิทธิภาพและประหยัดน้ำมันเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายสายการบินอีกทาง
พร้อมทั้งนำผลการศึกษาแนวทางของประเทศต่างๆ มาปรับปรุงมาตรการให้สามารถช่วยพยุงการดำเนินงานของสายการบินได้เต็มที่ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการด้านการลดค่าใช้จ่ายของสายการบิน ทอท. เป็นผู้ดำเนินมาตรการลดค่าใช้จ่ายของสายการบินที่ใช้บริการสนามบินของ ทอท. โดยขยายระยะเวลาปรับลดค่าบริการในการขึ้นลงของอากาศยาน (Landing Charge) และค่าบริการที่เก็บอากาศยาน (Parking Charge) ลงอัตราร้อยละ 50 ทั้งเที่ยวบินภายในประเทศและเที่ยวบินระหว่างประเทศ สำหรับสายการบินที่ยังทำการบินอยู่ และยกเว้นการจัดเก็บค่าบริการที่เก็บอากาศยาน (Parking Charge) สำหรับสายการบินที่หยุดให้บริการชั่วคราวจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565
สำหรับมาตรการทางการเงิน CAAT ได้ขยายระยะเวลาชำระหนี้ (Credit Terms) ค่าธรรมเนียมการเข้าหรือออกนอกประเทศ จาก 15 วันเป็น 90 วัน จนถึงรอบชำระวันที่ 31 มีนาคม 2565 ด้านกรมท่าอากาศยาน ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราค่าเช่าสำหรับทุกกิจกรรมในอัตราค่าเช่า ไม่ต่ำกว่าที่กรมธนารักษ์กำหนดเป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 31 มีนาคม2565 ส่วน ทอท. เลื่อนชำระค่าบริการสนามบิน (Landing and Parking Charges) และค่าเครื่องอำนวยความสะดวก (Aircraft Service Charge) สำหรับงวดชำระเดือนเมษายน 2564 ถึงเดือนมกราคม 2565 ออกไปงวดละ 9 เดือน และให้ผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 12 งวดชำระ
","13/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113183934840"], [311,"ย้ำตรึงราคาสินค้าบางส่วนไม่ให้แพง พร้อมเร่งออกมาตรการคนละครึ่งเฟส 4 ก่อนมีนาคม กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก","
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงราคาสินค้าแพงในขณะนี้ ว่า ส่วนหนึ่งรัฐบาลได้พยายามที่จะบริหารจัดการดูแลอยู่แล้ว หากสินค้าตัวไหนที่สามารถตรึงราคาได้ รัฐบาลก็พยายามจะดำเนินการ แต่บางส่วนก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกลตลาด โดยจะเพิ่มการผลิตให้มากขึ้น กรณีที่สินค้าขาดแคลน ส่วนหนึ่งอย่ามองเฉพาะราคาสินค้าเพียงอย่างเดียว ต้องดูวิธีบริหารจัดการอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมด้วย โดยจากการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย การควบคุมอัตราเงินเฟ้อก็ยังอยู่ในเป้าหมาย จึงเชื่อว่า อัตราเงินเฟ้อในประเทศไทย จะอยู่ในกรอบร้อยละ 1-3 แต่หากเงินเฟ้อขยับใกล้เคียง ร้อยละ 3 ก็จะมีการประเมินและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อยู่แล้ว และย้ำว่า การตรึงราคาสินค้าบางส่วน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบในวงกว้าง ประชาชนอย่าได้วิตกมากจนเกินไป ยืนยันรัฐบาลเตรียมรับมือไว้แล้ว ส่วนสาเหตุของการเกิดอัตราเงินเฟ้อ ที่ราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีความต้องการของผู้บริโภคที่มีมากขึ้น ทำให้มีความต้องการสูงขึ้น ขณะที่ในช่วงโควิดที่ผ่านมาการผลิตมีการชะลอตัว มีการชะลอการลงทุนจากภาวะล็อกดาวน์ ทำให้ผู้ประกอบการไม่กล้าที่จะขยายกำลังการผลิต และการผลิตสินค้าบางส่วนยังคงชะงักงั้น จากการแพร่ระบาดโควิด สายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งมองว่า เป็นเพียงเหตุการณ์ชั่วคราวและเชื่อว่ากำลังการผลิตจะมากขึ้น หากควบคุมการแพร่ระบาดได้ดี
สำหรับมาตรการคนละครึ่งเฟส 4 จะออกมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อใด นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ก็จะเร่งหารือกับกับกระทรวงการคลัง โดยต้องดูสถานการณ์เศรษฐกิจในไทยและในโลกด้วย ว่ามีผลกระทบอย่างไร ส่วนจะเร่งมาตรการนี้ให้เร็วขึ้นก่อนเดือมมีนาคมหรือไม่ ก็มีความเป็นไปได้ แต่ต้องหารืออีกทีและอาจจะมีมาตรการอื่นๆ ด้วย รวมถึงการนำเม็ดเงินของรัฐบาล ลงไปกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก โดยสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กำลังดูรายละเอียดโครงการของทุกกระทรวงอยู่ เพื่อนำไปสร้างเศรษฐกิจพื้นฐานสู่ท้องถิ่น
ด้านมาตรการจูงใจซื้อรถไฟฟ้า(อีวี) นายสุพัฒนพงษ์ ย้ำว่า จะมีการนำเสนอมาตรการนี้ ต่อที่ประชุม ครม. ในต้นปีนี้ โดยนักลงทุนญี่ปุ่นก็พร้อมที่มาลงทุนในไทย ซึ่งเตรียมประกาศเจตนารมย์ที่เป็นทางการในเร็วๆ และตนเองพร้อมที่จะเดินทางไปโรดโชว์ที่ประเทศญี่ปุ่น ราวเดือนเมษายนนี้ ซึ่งจะไปนำเสนอเรื่องของความพร้อมและความคืบหน้าในการเดินหน้าพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งมีการพัฒนาในหลายๆด้าน รวมถึงไทยก็จะนำเสนอแผนส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมและนวัตกรรมใหม่ๆ อีกทั้งมีแผนที่จะดึงดูดนักลงทุนญี่ปุ่นที่มีศักยภาพสูงเข้ามาพำนักระยะยาวในประเทศไทย
","13/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113182123829"], [312,"การเปิดด่านชายแดนจีน-เวียดนาม บริเวณจังหวัด Lao Cai ช่วยให้สินค้าไทยที่ตกค้างสามารถผ่านแดนได้รวดเร็วขึ้น","
นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากรายงานของศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในเวียดนาม สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย เมี่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา จีนได้เปิดด่าน Hekou ซึ่งเป็นด่านคู่กับด่าน Kim Thanh II บริเวณจังหวัด Lao Cai ของเวียดนาม ทำให้สินค้าประเภทผลไม้และอาหารแช่แข็งที่อยู่ในเวียดนามผ่านแดนได้อีกครั้ง หลังจากสั่งห้ามการผ่านแดนของสินค้าดังกล่าวชั่วคราวตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 เนื่องจากตรวจพบเชื้อโควิด-19 ปนเปื้อนมากับสินค้าของเวียดนาม โดยในช่วงเช้าของวันแรกที่ทำการเปิดด่าน มีรถขนส่งแก้วมังกร มะม่วงและขนุน ลงทะเบียนผ่านแดนประมาณ 50 คัน ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม ระบุว่า แก้วมังกรของเวียดนามประมาณร้อยละ 35 ส่งออกไปจีนผ่านทางด่านต่างๆ ในจังหวัด Lao Cai
การที่จีนเปิดด่าน Hekou จะมีส่วนช่วยลดการแออัดของสินค้าที่ตกค้างอยู่ที่ด่าน Huu Nghi และด่าน Tan Thanh จังหวัด Lang Son และด่าน Mong Cai จังหวัด Quang Ninh และจะทำให้สินค้าส่งออกของไทยที่ตกค้างอยู่ สามารถผ่านแดนออกไปสู่จีนได้เร็วขึ้น
นางสุนิสา รามแก้ว ประขาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงานบูรณาการแก้ปัญหาสินค้าโภคภัณฑ์อาหารปรับตัวสูงขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะ อาหารสด ไม่ว่าจะเป็น เนื้อหมู เนื้อไก่ และ ไข่ไก่ เป็นต้น
ในส่วนของราคาเนื้อหมู กรมการค้าภายใน ได้จำหน่ายหมูราคาถูกผ่าน โครงการพาณิชย์ลดราคาหมู ออกไปถึงสิ้นเดือนมกราคม 2565 นี้ กรุงเทพฯ มีจุดขายหมู กก.ละ 150 บาท ทั้งหมด 116 จุด แยกเป็นรถโมบายตระเวนตามพื้นที่ต่าง ๆ 50 คัน และตั้งจุดจำหน่ายอีก 50 จุด ส่วนต่างจังหวัดมี 551 จุด รวมเป็นทั้งหมด 667 จุด เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนสามารถซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาดได้ ซึ่งสถานการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา ทำให้เกษตรกรในหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบ ฟาร์มเสียหาย มีการปิดปรับปรุง สัตว์เลี้ยงเสียชีวิตจมน้ำ นอกจากนี้สถานการณ์โควิด - 19 ทำให้การบริโภคลดลงผู้เลี้ยงจึงลดจำนวนหมูที่เลี้ยง เมื่อกลับมาเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจความต้องการกลับมา แต่กำลังผลิตไม่สามารถตอบสนองได้ทัน
ขณะที่ ครม. เห็นชอบอนุมัติงบกลางปี 65 จำนวน 574.11 ล้านบาท เพื่อป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever : ASF) และโรคระบาดร้ายแรงในสุกร หรือหมูป่า ซึ่งเป็นโรคติดต่อในสุกรที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่รุนแรง โดยจะจ่ายเป็นค่าชดใช้ราคาสุกรที่ถูกทำลายตั้งแต่ วันที่23 มีนาคม - 15 ตุลาคม 2564 ในพื้นที่ 56 จังหวัด ภาคกลาง 10 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี อ่างทอง ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อยุธยา สระบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ และสุพรรณบุรี , ภาคตะวันออก 1 จังหวัด คือ สระแก้ว , ภาคตะวันตก 3 จังหวัดเพชรบุรี กาญจนบุรี และประจวบคีรีขันธ์ , ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ชัยภูมิ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี เลย หนองบัวลำภู มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ขอนแก่น อำนาจเจริญ หนองคาย บึงกาฬ ร้อยเอ็ด นครพนม อุดรธานี มุกดาหาร สกลนคร และยโสธร , ภาคเหนือ 12 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง แม่ฮ่องสอน น่าน พะเยา แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ และภาคใต้ 10 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ตรัง กระบี่ ระนอง นครศรีธรรมราช ชุมพร พัทลุง พังงา และสงขลา
อย่างไรก็ตาม ราคาสินค้าที่มีการปรับตัวสูงขึ้นนั้น ไม่เพียงแต่ประเทศไทยแต่ยังรวมไปถึงอีกหลายประเทศทั่วโลก เพราะราคาสินค้าจะปรับตามกลไกของตลาดอาหารโลก ซึ่งสอดคล้องกับดัชนีราคาอาหารโลก FAO Food Price Index: FFPI) ที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) รายงานของปี 2564 ไว้ ซึ่งราคาสินค้าในกลุ่มอาหารสด เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ ที่เพิ่มสูงขึ้นนั้น เป็นผลกระทบมาจากต้นทุนในการเลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือยารักษาโรคต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น.
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคใต้","สุราษฎร์ธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113163113752"], [314,"พาณิชย์ตรวจติดตามโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน จังหวัดตรัง (ครั้งที่ 2)","นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง มอบหมายเจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ติดตามการดำเนินโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน จังหวัดตรัง (ครั้งที่ 2) ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาหมูที่สูงขึ้นและให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งเป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภคในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 และราคาเนื้อหมูปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งพื้นที่จังหวัดตรัง มีจุดจำหน่ายจำนวน 6 จุด ได้แก่
1. ร้านหมูสด แยกวัดตัน ต.ทับเที่ยง
2. ร้านน้องดิว หน้าสวนสาธารณะนาหมื่นราษฎร์ ต.โคกหล่อ
3.ร้านเจี๊ยบหมูสด (ข้างร้านอาหารโกแป้ เจ๊บี) ต.นาตาล่วง
4.ร้านชายสี่หมูสด ตลาดคลองมวน ต.หนองปรือ
5.ร้านน้องทิพย์ค้าหมู หมู่ 8 ต.เขากอบ 6.ร้านบ้านหมูตวงตังค์ (บริเวณทางเข้าวัดเขาไม้แก้ว) ต.เขาไม้แก้ว
โดยเริ่มดำเนินโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2565 เป็นต้นไป (ระยะเวลาดำเนินการ 15 วัน)
จากสถานการณ์หมูปรับราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลมีมาตรการแก้ปัญหาราคาหมูแพง ดังนี้
-ห้ามส่งออกหมูมีชีวิต 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2565 ถึง วันที่ 5 เมษายน 2565
-ช่วยเหลือราคาอาหารสัตว์ จัดสินเชื่อพิเศษ เพื่อให้เกษตรกรได้กลับมาเลี้ยงใหม่ ตรึงราคาจำหน่ายที่เหมาะสมสอดคล้องต้นทุนที่เกิดขึ้น
-ส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ
-ผลักดันการยกระดับมาตรฐานฟาร์มของเกษตรกร เพื่อป้องกันโรคระบาด ส่งเสริมให้ปรับปรุงเป็นฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม (GFM) มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่ามาตรฐานฟาร์ม GAP
ทั้งนี้ สำนักงานฯ ได้กำชับให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคา ซึ่งส่วนใหญ่ได้ปิดป้ายแสดงราคา ชัดเจน หากผู้บริโภคไม่ได้รับเป็นธรรมทางการค้าหรือได้รับความเดือดร้อนจากการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและบริการ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร สามารถร้องเรียนได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง โทร 0 7522 3076 หรือสายด่วน 1569
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113163824761"], [315,"จังหวัดสมุทรสงครามจัดจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดงช่วยประชาชน จำนวน 7 จุด","นายขจร ศรีชวโนทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ชี้แจงถึงภาวะราคาสุกรมีการปรับราคาจำหน่ายสูงขึ้น เนื่องจากการลดปริมาณการเลี้ยงและโรคระบาด รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์มีราคาสูงขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาราคาเนื้อหมูที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และลดค่าครองชีพให้ประชาชนน รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินโครงการ หมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน ด้วยการเปิดจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดง ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ
ซึ่งจังหวัดสมุทรสงคราม มีจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดงลดราคาตามโครงการ หมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท จำนวน 7 จุด ครอบคลุม ทั้ง 3 อำเภอ โดยเริ่มจำหน่ายตั้งแต่บัดนี้จนถึง วันที่ 31 มกราคม 2565 ได้แก่ อำเภอเมือง 1. ร้านหมูวรรณา 2.ร้านหมูเอกชัย3. ร้านเบทาโกร 4. ร้านเจ้แบงค์ 5. ร้านไพโรจน์ (ตลาดร่มหุบ)อำเภออัมพวา ร้านหมูธารา ส่วนอำเภอบางคนที ร้านเจ้แมว 9 ตลาดสดเทศบาล ตำบลกระดังงา
จึงขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องชาวสมุทรสงครามได้รับทราบ และสามารถหาซื้อ หมูเนื้อแดง ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ที่จุดจำหน่ายทั้ง 7 จุดดังกล่าว ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึง วันที่ 31 มกราคม 2565
","13/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","สมุทรสงคราม","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113170103793"], [316,"จังหวัดสตูล ประชุมศูนย์ขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดสตูล ครั้งที่ 1 เพื่อยกระดับศักยภาพประเทศในหลายมิติ","วันนี้ (13 ม.ค. 65) ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศาลากลางจังหวัดสตูล นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานการประชุมศูนย์ขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดสตูล (ศจพ.จ.) ครั้งที่ 1/2565 โดยมี นางศุภมาส เหล็นเรือง พัฒนาการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมประชุม
สำหรับการประชุมเพื่อรับทราบการจัดตั้งศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดสตูล (ศจพ.จ.) นโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประกอบด้วย ความเป็นมา แนวทางการดำเนินงานการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับการปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ รวมถึงกำหนดแผนการขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
พร้อมพิจารณาการตรวจสอบข้อมูลบุคคล/ครัวเรือน ในระบบ TPMAP และตรวจสอบพบครัวเรือนใหม่/ตกหล่น ที่ไม่มีในระบบ TPMAP ที่มีปัญหาความยากจนใน 5 มิติ ได้แก่ มิติสุขภาพ มิติความเป็นอยู่ มิติการศึกษา มิติรายได้ และมิติการเข้าถึงบริการภาครัฐ , ร่วมแก้ไขปัญหาและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน รายละเอียด ดังนี้ ข้อมูลครัวเรือน มีอยู่ในระบบ TPMAP จำนวน 12,200 ครัวเรือน , ไม่พบสภาพปัญหาตามระบุในระบบ TPMAP จำนวน 10,027 ครัวเรือน , จำนวนครัวเรือนใหม่/ตกหล่น ที่ไม่มีในระบบ TPMAP เป็นการค้นพบโดยทีมปฏิบัติการฯ ระดับพื้นที่ จำนวน 829 ครัวเรือน เป็นต้น
ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์ ศจพ.จ.สตูล ตามนโยบายของรัฐบาลได้ให้แต่ละจังหวัดแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนอย่างแท้จริง เน้นย้ำว่า ต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานของจังหวัด คือการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน และการยกระดับรายได้ทางเศรษฐกิจ ในภาคอุตสาหกรรมและแรงงาน อาทิ ด้านเศรษฐกิจ สังคม ท่องเที่ยว อุตสาหกรรม และการศึกษา อีกด้วย
#สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113165007777"], [317,"สายการบินไทยเวียตเจ็ท เชื่อมระบบ หมอพร้อม บนระบบเช็คอินออนไลน์ อำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร ลดการสัมผัสขณะเดินทาง ","สายการบินไทยเวียตเจ็ท แจ้งว่า เพื่อเป็นการยกระดับการให้บริการผู้โดยสารในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ลดการสัมผัสขณะเดินทาง สายการบินได้อำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารด้วยการเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน หมอพร้อม บนระบบเช็คอินออนไลน์ของไทยเวียตเจ็ท ผู้โดยสารสามารถเช็คอินออนไลน์ล่วงหน้า พร้อมรับตรารับรองการฉีดวัคซีน รวมถึงผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจด้วยตนเอง หรือ ATK (Antigen Test Kit ) และการตรวจหาสารพันธุกรรมเชื้อไวรัสแบบ RT-PCR บนบัตรที่นั่งอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อม เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร เพิ่มความมั่นใจด้วยการลดการสัมผัสบริเวณเคาน์เตอร์เช็คอิน มอบประสบการณ์การเดินทางวิถีใหม่
ผู้โดยสารสามารถรับตรารับรองการฉีดวัคซีนโดยการเปิดใช้งานเอกสารรับรองสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Health Pass) ผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อม โดยสามารถดาวน์โหลดผ่าน App Store (สำหรับระบบ iOS) หรือ Play Store (สำหรับระบบ Android) จากนั้นลงทะเบียนหรือเข้าสู่ระบบหมอพร้อม เมื่อเข้าสู่ระบบสำเร็จ เลือกเมนู เอกสารรับรองสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเปิดใช้งานเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน เมื่อเสร็จสิ้น ข้อมูลเอกสารรับรองสุขภาพของผู้โดยสารจะเชื่อมต่อกับระบบเช็คอินออนไลน์ของสายการบินโดยอัติโนมัติ เมื่อทำการเช็คอินออนไลน์ ผู้โดยสารสามารถระบุหมายเลขประจำตัวประชาชนและรับตราประทับจากแอปพลิเคชันหมอพร้อมบนบัตรที่นั่งอิเล็กทรอนิกส์ทันที
สายการบินไทยเวียตเจ็ทพร้อมให้บริการเช็คอินออนไลน์ สำหรับทุกเส้นทางบินภายในประเทศจากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) และเส้นทางบินข้ามภูมิภาค ผู้โดยสารสามารถเช็คอินออนไลน์ล่วงหน้าได้ภายใน 24 1 ชั่วโมง ก่อนเวลาเดินทางได้ที่เว็บไซต์ vzcheckin.vietjetair.com ปัจจุบัน สายการบินไทยเวียตเจ็ทให้บริการครอบคลุม 14 เส้นทางบินภายในประเทศ
","13/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113173623808"], [318,"ปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดขึ้น 50 สตางค์ต่อลิตร เว้น E85 ปรับขึ้น 30 สตางค์ต่อลิตร ","
กลุ่มผู้ค้าน้ำมัน บริษัท ปตท. และบางจาก แจ้งว้าตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันที่ 14 ธันวาคม 2565 เป็นต้นไป ราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดขึ้นจะปรับราคาขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร เว้น E85 ปรับขึ้น 0.30 บาทต่อลิตร
ส่งผลให้ราคาขายปลีก น้ำมันเบนซินอยู่ที่ 40.06 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ E85 ราคาอยู่ที่ 24.64 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ E20 ราคาอยู่ที่ 31.14 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 ราคาอยู่ที่ 32.38 บาทต่อลิตรแก๊สโซฮอล์ 95 ราคาอยู่ที่ 32.65 บาทต่อลิตร สำหรับกลุ่มดีเซลทุกชนิดราคาคงเดิม โดยน้ำมันดีเซลไฮพรีเมียม ดีเซล B7 ราคาอยู่ที่ 35.86 บาทต่อลิตร ไฮดีเซล B7 ไฮดีเซล S และไฮดีเซล B20 S ราคาอยู่ที่ 29.84 บาทต่อลิตร
","13/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113173736810"], [319,"พาณิชย์แพร่ ดูแลการจำหน่ายเนื้อหมูและเนื้อสัตว์อื่นอย่างใกล้ชิด บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน พร้อมติดตามการครอบครองของผู้ประกอบการ","
นางอารีย์ เหลืองหิรัญ พาณิชย์จังหวัดแพร่ มอบหมายให้ผู้อำนวยการกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแพร่ ติดตามการดำเนินโครงการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชนอย่างใกล้ชิด ณ ตลาดสดแพร่ชมภูมิ่ง เพื่อให้เป็นทางเลือกให้กับประชาชนสามารถซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด ขณะเดียวกัน ได้ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าไก่เนื้อ ไข่ไก่ และติดตามฟาร์มไข่ไก่ ซึ่งในช่วงที่ราคาหมูแพงประชาชนได้หันมาบริโภคเนื้อสัตว์อื่นที่ราคาถูกกว่าเป็นการทดแทน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแพร่จึงได้กำชับให้ผู้ค้าห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาหรือขายสินค้าราคาสูงเกินสมควร ห้ามกักตุนสินค้า และแนะนำให้ปิดป้ายแสดงราคา
ส่วนการแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร สำหรับผู้เลี้ยง ผู้จำหน่าย ผู้ส่งออก ซึ่งครอบครองสุกรมีชีวิตตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป และผู้ครอบครองสุกรชำแหละผ่าซีก เนื้อสุกรชำแหละแยกชิ้นส่วนปริมาณรวมกันตั้งแต่ 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยสินค้าและบริการในพื้นที่จังหวัดแพร่นั้น สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแพร่ได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการที่ครอบครองสุกรมีชีวิต สุกรชำแหละผ่าซีก และเนื้อสุกรชำแหละแยกชิ้นส่วน ซึ่งมีปริมาณครอบครองตามประกาศฯ จำนวน 1 ราย แจ้งครั้งแรกในวันที่ 10 มกราคม 2565 และจะดำเนินการแจ้งครั้งต่อไปเป็นประจำในวันจันทร์ของทุกสัปดาห์ โดยผู้ประกอบการได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
","13/1/2022","ภาคเหนือ","แพร่","สวท.แพร่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113172356801"], [320,"รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายกระทรวงเศรษฐกิจจัดทำแผนการดำเนินการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย ลาว จีน","นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการบูรณาการการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย ลาวและจีน โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุม ว่า รองนายกรัฐมนตรี ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พร้อมด้วยกระทรวงคมนาคม ร่วมกันพิจารณาแผนการดำเนินการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย ลาว จีน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบแผนการดำเนินงาน และเห็นชอบให้แต่งตั้นคณะอนุกรรมการเพื่อติดตามความก้าวหน้าสถานะการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเห็นชอบการจัดทำ Framework Agreement การขนส่งทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน โดยการเชื่อมต่อการเดินทางข้ามแดนผ่านทางรถไฟช่วงหนองคาย เวียงจันทน์ ซึ่งในการเจรจาระหว่างประเทศนั้น ให้ดำเนินการเจรจาบนพื้นฐานที่ไทย ลาว และจีนมีความเกี่ยวข้องและผลประโยชน์ร่วมกัน โดยอาจยกระดับให้เป็นบันทึกข้อตกลงที่มีความผูกพันเพิ่มเติม และให้การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ดำเนินการของบกลางเพื่อออกแบบสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 และเร่งดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้แต่งตั้งองค์ประกอบของคณะกรรมการเพิ่มเติม ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อพิจารณาแนวทางการบูรณาการการเชื่อมโยงทางรถไฟไทย ลาว และจีนต่อไปเมื่อสภาวะการณ์ของประเทศผ่านช่วงสถานการณ์โควิด-19 แล้ว คาดการณ์ว่ามูลค่าทางการค้าที่บริเวณด่านหนองคาย ผ่านโครงข่ายรถไฟไทย-ลาว-จีน จะสร้างมูลค่าทางการค้าเพิ่มขึ้น โดยสถานะการค้าและการขนส่งในปัจจุบัน นับตั้งแต่โครงการรถไฟจีน ลาว ได้เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2564 จากสถิติการส่งออกสินค้าผ่านชายแดนหนองคายในช่วงเดือนธันวาคมปี 2563 กับช่วงเดือนธันวาคมปี 2564 (ช่วงที่มีการเปิดการให้บริการรถไฟลาว-จีน) พบว่ามีปริมาณการขนส่งเพิ่มขึ้นจาก 116,552 ตัน เป็น 304,119 ตัน ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 4.64 พันล้านบาท เป็น 6.91 พันล้านบาท มูลค่านำเข้าส่งออกที่ด่านหนองคายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญหลังจากมีรถไฟลาว จีนเกิดขึ้น ซึ่งเร็วกว่าช่องทางอื่น 1 วัน และมีค่าขนส่งถูกกว่าประมาณร้อยละ 25 โดยมีการขนส่งสินค้าหลายชนิดผ่านทางรถไฟจีน-ลาว มายังไทย ได้แก่ ผักผลไม้สดแช่เย็น สิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน ผลิตภัณฑ์เครื่องจักร เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้า ตลอดจนรถยนต์ ยางพาราและไม้แปรรูป การเตรียมความพร้อมและการส่งเสริมของภาครัฐ ได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนผู้ประกอบการจะช่วยให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศพร้อมขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกันต่อไป
","13/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113183315834"], [321,"ตลาดสดเงียบเหงา พ่อค้าแม่ค้าแผงหมูเดือดร้อน เหตุคนไม่กล้าบริโภคเนื้อหมู เนื่องจากหมูแพงและเกรงว่าหมูเป็นโรค วอนภาครัฐปรับราคาหมูคงที่ เพื่อให้ผู้บริโภครับราคาได้","
จากราคาสุกรที่ขยับตัวสูงขึ้น ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคเพียงอย่างเดียว อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อเกษตรกรรายย่อย รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าแผงหมู หลายคนอาจเลิกกิจการ เพราะขายของไม่ได้ เนื่องจากผู้บริโภคทานเนื้อหมูน้อยลง เหตุราคาแพงและกลัวโรคระบาดที่เกิดขึ้นในหมู ที่ตลาดสดสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ อ.เมือง จ.สงขลา บรรยากาศการจำหน่ายเนื้อหมูค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากลูกค้าน้อยลง
นางกมลวรรณ ชูสาย แม่ค้าแผงหมู กล่าวว่า ตั้งแต่หมูปรับราคาขึ้นสูง ส่งผลกระทบต่อพ่อค้าแม่ค้าในตลาดอย่างมาก เนื่องจากขายของไม่ได้ เพราะไม่มีคนมาซื้อ วอนขอให้สื่อช่วยออกข่าวสร้างความเข้าใจแก่ประชาชน เพราะประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจผิด คิดว่าหมูเป็นโรค อีกทั้งรับประกันหมูในตลาด มีความสะอาด ปลอดโรค เนื่องจากทางตลาดมีการทำความสะอาดคัดกรองโรคทุกสัปดาห์ และขอเชิญชวนผู้บริโภคหันมาซื้อหมูด้วยความมั่นใจ นอกจากนี้ อยากให้รัฐบาลหรือภาครัฐให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการ เนื่องจากพ่อค้าแม่ค้ามีความเดือดร้อนมาก อาจเลิกประกอบอาชีพนี้ เนื่องจากขายของไม่ได้ จากที่ขายวันละ 200 กิโลกรัม ปัจจุบันเหลือเพียง 50 กิโลกรัม อยากให้ฟาร์มหมูปรับราคาลงหน่อย เพื่อราคาหน้าแผงจะได้ไม่แพงมาก
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคใต้","สงขลา","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113192318859"], [322,"ข้าวหมูแดง-หมูกรอบ ร้านดังขอนแก่น ปรับราคาขาย จานละ 50 บาท แต่ยังตรึงราคาข้าวมันไก่ จานละ 40 วอนรัฐบาลแก้ไขปัญหาด่วน","การจับจ่ายเลือกซื้อสินค้าในช่วงภาวะวัตถุดิบมีราคาแพง และปรับขึ้นสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู , ไข่ไก่ , เนื้อไก่ และอาหารทะเล ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคอย่างมากในขณะนี้ โดยจากการสำรวจที่ตลาดสดโต้รุ่งร่วมจิตร ตรงข้ามโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน เขตเทศบาลนครขอนแก่น พบว่ายังคงมีลูกค้ามาเลือกซื้อสินค้าโดยเฉพาะอาหารปรุงสุกอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะที่ร้านเจ๊อู๊ดข้าวหมูแดง-หมูกรอบ ร้านอาหารชื่อดังของจังหวัดขอนแก่น ที่ยังคงมีลูกค้าทยอยกันมาเลือกซื้อเมนูอาหารต่าง ๆ ทั้งแบบนั่งรับประทานที่ร้านแบบวิถีใหม่นิวนอร์มอล หรือซื้อสั่งกลับบ้านอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางร้านได้ติดป้ายประกาศขอปรับขึ้นราคาอาหารประเภทเนื้อหมู เพิ่มขึ้นจานละ 10 บาท ทำให้ราคาจำหน่ายจากเดิมเริ่มต้น จานละ 40 บาท ปรับขึ้นเป็น 50 บาท ในกลุ่มข้าวหมูแดง , ข้าวขาหมู , ข้าวหมูกรอบ และข้าวหมูแดงผสมหมูกรอบ โดยเป็นการปรับราคาการจำหน่ายมาตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา
น.ส.จุฑารัตน์ อยู่มั่นคง เจ้าของร้านเจ๊อู๊ด ข้าวหมูแดง-หมูกรอบ ขอนแก่น กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดร้านขายข้าวหมูแดง-หมูกรอบ คู่เมืองขอนแก่นมาหลายสิบปี ไม่เคยที่จะประสบพบเจอกับราคาเนื้อหมูที่แพงขนาดนี้ เดิมเคยพบว่าช่วงที่แพงสุดที่ร้านรับได้คือหมูสามชั้นกิโลกรัมละ 170 บาท ซึ่งก็เกิดขึ้นมานานหลายปีมากแล้ว แต่วันนี้ราคาเนื้อหมูและวัตถุดิบจากหมูที่ร้านต้องใช้ประจำไม่ว่าจะเป็นขาหมู,สันนอก,หมูสามชั้น แต่ละประเภทใช้ประมาณวันละ 15 กก. ที่มีการปรับราคาจำหน่ายขึ้น กก.ละ 20 บาท ขณะที่ไก่ ที่ร้านใช้เป็นวัตถุดิบประเภทไก่ทั้งตัวและน่องติดสะโพก ก็มีการปรับราคาขึ้น กก.ละ 20 บาท เช่นกัน ส่วนไข่ไก่ ปรับขึ้นแผงละ 6 บาท
\"...เมื่อวัตดุดิบทุกประเภท ปรับราคาขึ้น กก.ละ 15-20 บาท และราคาแต่ละวันไม่เท่ากัน โชคดีที่ข้าวสารหรือก๊าซหุงต้ม หรือผักชนิดต่าง ๆ ที่ยังไม่มีการปรับราคาขึ้นในช่วงนี้ ทำให้ร้านมีความจำเป็นต้องปรับราคาจำหน่ายข้าวประเภทหมู เพิ่มขึ้นจานละ 10 บาท เดิมขายในราคาจานละ 40 บาทก็ขอปรับเป็นจานละ 50 บาท ซึ่งลูกค้าทุกท่านที่มาใช้บริการต่างเข้าใจ และพร้อมยินดีที่จะจ่ายในราคาจำหน่ายใหม่ ที่ร้านขอประกาศปรับราคาจำหน่ายขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งหากในอนาคตราคาหมูลดต่ำลงร้านก็พร้อมที่จะปรับราคาจำหน่ายลงเช่นกัน...\"
น.ส.จุฑารัตน์ฯ กล่าวต่ออีกว่า แม้ราคาไก่จะปรับสูงขึ้นไม่แตกต่างจากหมู แต่ร้านก็ยังคงสามารถตรึงราคาและแบกรับต้นทุนได้ เพราะหากจะต้องปรับราคาจำหน่ายสินค้าทุกประเภทร้านก็เห็นใจลูกค้าเช่นกัน ในยุคที่ทุกอย่างแพงหมด การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งร้านยังคงตรึงราคาและแบกรับต้นทุนในจุดนี้ได้ จึงขอประกาศปรับขึ้นราคาเฉพาะอาหารประเภทหมูไปก่อน อย่างไรก็ตามรัฐบาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีความชัดเจนในการแก้ไขปัญหา ซึ่งเรื่องหมูแพง ไข่แพง ปลาแพง น้่ำมันแพง ไก่แพง เป็นเริื่องใกล้ตัวของทุกคนซึ่งรัฐบาลจะต้องรีบทำทันทีโดยไม่ต้องรอ
","13/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ขอนแก่น","สวท.ขอนแก่น","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113201747879"], [323,"งาน \"ผลิตภัณฑ์ คักขนาด ดีเกินคาด อำนาจเจริญ\" พบกับ เบียร์ พร้อมพงษ์ มาโชว์พลังเสียง","เชิญชวนทุกท่านเลือกซื้อสินสินค้าในงาน ผลิตภัณฑ์ คักขนาด ดีเกินคาด อำนาจเจริญ\" ระหว่างวันที่ 13-14 มกราคม 2565 ณ สนามหน้าสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดอำนาจเจริญ ภายในงานมีสินค้าให้เลือกมากมาย พร้อมกับเดินช้อป ชิล ชม สินค้าชุมชน สินค้า OTOP อาหารอร่อย และมีกิจกรรมลุ้มโชค ช้อปครบทุก 500 บาท รับคูปองลุ้นเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกวัน วันที่ 13 มกราคม 2565 เวลา 17.00 น. พบกับ เบียร์ พร้อมพงษ์ มาโชว์พลังเสียงเพราะ ๆ ให้ได้ฟัง เชิญมาเที่ยว มาช้อป มาชิลล์ มาให้กำลังใจกันได้
","13/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อำนาจเจริญ","สวท.อำนาจเจริญ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113202640884"], [324,"ผวจ.ระนอง เยี่ยมชมงานแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP โอทอปแฟร์ เมืองแร่นอง","วันนี้ (13 มกราคม 2565) เวลา 17.00 น. นายสมเกียรติ ศรีษะเนตร ผวจ.ระนอง พร้อมด้วยนายปลิ้ม นับถือบุญ พัฒนาการจังหวัดระนอง การค้าภายในจังหวัดระนอง พาณิชย์จังหวัดระนอง และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันเยี่ยมชม อุดหนุนสินค้าและให้กำลังใจผู้ประกอบการ OTOP ของจังหวัดระนอง ที่มาจำหน่ายสินค้าภายในงานแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP โอทอปแฟร์ เมืองแร่นอง
นายปลื้ม นับถือบุญ พัฒนาการจังหวัดระนอง กล่าวว่า การจัดงานแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ โอทอปแฟร์ เมืองแร่นอง จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-20 มกราคม 2565 ณ สนามกีฬากลางจังหวัดระนอง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัด เพิ่มช่องทางการตลาดให้แก่สมาชิกผู้ประกอบการเครือข่าย OTOP และผู้ค้าในจังหวัดระนองที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
และในโอกาสที่จังหวัดระนองเป็นเจ้าภาพจัดงานกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 คัดเลือกภาค 4 ระนองเกมส์ ระหว่างวันที่ 10-30 มกราคม 2565 เพื่อส่งเสริมสนับสนุน ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ให้มีช่องทางการตลาด มีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนเพิ่มขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล เป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนฐานรากให้มีความเข้มแข็ง เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และสนับสนุนการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และการจัดงานครั้งนี้ ได้ดำเนินการจัดงานภายใต้มาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 อย่างเคร่งครัด
","13/1/2022","ภาคใต้","ระนอง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระนอง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113202109881"], [325,"จ.หนองคาย รมช.เกษตรและสหกรณ์ติดตามการค้าชายแดน","นายประภัตร โพธสุธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน ที่จังหวัดหนองคาย หลังพบมีผักและผลไม้จากจีน ขนส่งโดยทางรถไฟจีน-ลาว ผ่านเข้ามาทางด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จังหวัดหนองคาย ในขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดหนองคาย ขอให้ผลักดันให้มีการเปิดด่านฯ ให้ประชาชนข้ามแบบไปเช้าเย็นกลับ ได้
บ่ายวันนี้ (13 ม.ค.65) นายประภัตร โพธสุธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน ที่จังหวัดหนองคาย โดยมีนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย/นางสาวสิริมา วัฒโน รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย/นายเอกธนัช อินทร์รอด ส.ส.หนองคาย เขต 3 พรรคเพื่อไทย/นางชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย เขต 2 พรรคเพื่อไทย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปสถานการณ์การค้าชายแดน ณ ห้องประชุมด่านศุลกากรหนองคาย
ภายหลังรับฟังการบรรยายสรุป นายประภัตร โพธสุธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะได้เดินทางไปติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนและตรวจเยี่ยมพื้นที่บริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จังหวัดหนองคาย
นายประภัตร โพธสุธร รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า วันนี้ (13 ม.ค.65) หลังจากที่มีการประชุมเพื่อแก้ปัญหาราคาหมูแพงที่จังหวัดอุดรธานีได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมด่านศุลกากรหนองคาย รวมทั้งด่านพรมแดนอื่นๆ ด้วย โดยได้รับฟังการบรรยายสรุปจากผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย และจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากมีการเดินรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว (คุนหมิง-เวียงจันทน์) แล้ว มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง ซึ่งศุลกากรหนองคายได้ชี้แจงว่ามีการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น ทั้งนำเข้า-ส่งออก ล่าสุดมีการส่งสินค้าที่ขนส่งโดยรถไฟจีน-ลาว มาจากจีนแล้วส่งต่อเข้ามายังไทยแล้วกว่า 700 ตู้คอนเทนเนอร์ จึงทำให้เป็นห่วงว่ามีสินค้าอะไรบ้างที่ส่งเข้ามา และมีสินค้าอะไรบ้างที่ไทยจะส่งออกไปได้และนำเข้ามาได้ พบว่าสินค้าไทยที่จะส่งทางรถไฟจีน-ลาว ไปจีนได้มี 3 ชนิดคือ สินแร่ ยางพารา และมันสำปะหลัง แต่วันนี้ได้เห็นมีการส่งออกข้าวเหนียวเป็นชุดแรกวันแรก ในขณะเดียวกันก็มีสินค้าจากจีนเข้ามา ได้ให้ข้อคิดเห็นว่าสินค้าใดที่เข้ามาโดยถูกต้อง ปราศจากสิ่งเจือปน และไม่มีสิ่งใดที่เป็นพิษก็ให้เข้ามาได้ แต่ถ้าหากมีอะไรที่อาจจะกระทบกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็ต้องดูให้ละเอียด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าใจในเรื่องนี้หมดแล้ว
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ส.ส.หนองคาย และผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้เสนอให้มีการเปิดด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถผ่านเข้า-ออก ได้ แบบไปกลับในวันเดียว ซึ่งทาง สปป.ลาวได้พร้อมแล้ว อยากให้ประชาชนข้ามมารักษาพยาบาล และข้ามมาจับจ่ายซื้อสินค้าได้ ซึ่งเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี
นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ในเรื่องของการค้าชายแดนระหว่างจังหวัดหนองคาย กับนครหลวงเวียงจันทน์ มีมาช้านาน เป็นการได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ในการข้ามแดนซื้อขายซึ่งกันและกัน ซึ่งตั้งแต่ปิดด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จังหวัดหนองคาย มาเป็นเวลา 2 ปี ทำให้การค้าชายแดนระหว่างหนองคาย กับนครหลวงเวียงจันทน์ลดลง ทุกภาคส่วนในจังหวัดหนองคาย จึงได้มีความคิดเห็นเช่นเดียวกันว่า อยากให้ทาง ศบค. โดยผ่านทางรัฐมนตรี ให้เปิดข้ามด่านฯ ได้แบบไปเช้าเย็นกลับ ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขที่เข้มข้นได้
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","หนองคาย","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113234737908"], [326,"การประชุมหารือระหว่างภาครัฐและผู้ประกอบการค้าเนื้อสุกร \"โครงการหมูพาณิชย์ ลดราคาช่วยเหลือประชาชน\" จ.อำนาจเจริญ","วันที่ 13 มกราคม 2565 เวลา 15.00 น. นายธานินทร์ จุฑาทิพย์ชาติกุล ปศุสัตว์จังหวัดอำนาจเจริญ ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ให้เป็นประธานในการประชุมหารือระหว่างภาครัฐและผู้ประกอบการค้าเนื้อสุกรจังหวัดอำนาจเจริญ เพื่อดำเนินโครงการ หมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน ณ ห้องประชุมสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอำนาจเจริญ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญ ร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอำนาจเจริญ มีผู้ประกอบการค้าเนื้อสุกร จำนวน 6 ราย เข้าร่วมโครงการฯ ในการจำหน่ายเนื้อสุกรราคากิโลกรัมละ 150 บาท ตั้งแต่วันที่ 17-31มกราคม 2565 ในเขตพื้นที่อำเภอ เมือง/ลืออำนาจ/ปทุมราชวงศา/หัวตะพาน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","13/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อำนาจเจริญ","สวท.อำนาจเจริญ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220113232308893"], [327,"พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี ติดตามการจำหน่ายเนื้อหมูมีราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เชิญชวนร้านขายเนื้อหมู เข้าร่วมโครงการ พาณิชย์ลดราคา.. ช่วยประชาชน ครอบคลุมทุกอำเภอในจังหวัดเพชรบุรี บรรเทาความเดือนร้อน","พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี ติดตามการจำหน่ายเนื้อหมูมีราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เชิญชวนร้านขายเนื้อหมู เข้าร่วมโครงการ พาณิชย์ลดราคา.. ช่วยประชาชน ครอบคลุมทุกอำเภอในจังหวัดเพชรบุรี บรรเทาความเดือนร้อน (14 ม.ค.65)นายธีรวุฒิ คล้ายเคลื่อน พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าเนื้อหมูในจังหวัดเพชรบุรีมีการปรับราคาสูงขึ้นทุกวันพระอย่างต่อเนื่อง กระทรวงพาณิชย์เร่งช่วยเหลือประชาชน มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชิญชวนร้านขายเนื้อหมูในพื้นที่ เข้าร่วมโครงการพาณิชย์ลดราคา..ช่วยประชาชน จำหน่ายเนื้อหมูในราคา กิโลกรัมละ 150 บาท มีผู้ประกอบการให้ความร่วมมือ จำนวน 4 ราย ในพื้นที่อำเภอชะอำ อำเภอแก่งกระจาน อำเภอท่ายาง และอำเภอบ้านลาด ผู้ค้าจะนำเนื้อหมูมาจำหน่ายวันละ 30-50 กิโลกรัม
จากการสอบถามปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรี ช่วงนี้ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีผู้เลี้ยงหมูอยู่ในช่วงพักคอก เหลือฟาร์มใหญ่ ที่เลี้ยงหมู 500 ตัวขึ้นมีมีเพียง 2 ฟาร์มเท่านั้น จึงเป็นช่วงเวลาที่เนื้อหมูขาดตลาด ผู้ค้าที่รับมาจากแหล่งผลิตมีต้นทุนปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ราคาการจำหน่ายเนื้อหมูสดในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี เริ่มตั้งแต่ราคา 185- 200 กว่าบาท พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรีเร่งหาผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการให้ครอบคลุมทุกอำเภอ เพื่อให้มีจุดจำหน่ายเนื้อหมูในราคา กิโลกรัมละ 150 บาท และได้เจรจากับผู้ผลิต ผู้ค้า ไข่ไก่ เนื้อไก่ รายใหญ่ให้ตรึงราคา ลดความเดือดร้อนช่วยเหลือประชาชน นอกจากนี้ กลุ่มส่งเสริมการประกอบธุรกิจการค้าและการตลาด ลงพื้นที่รับสมัครร้านอาหารธงฟ้า และแจกอุปกรณ์ประชาสัมพันธ์ร้านอาหารธงฟ้า ราคาประหยัด เพื่อให้เป็นที่รู้จักของประชาชนผู้บริโภคในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีอย่างทั่วถึง
สวท.เพชรบุรี/14 ม.ค.65
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคตะวันตก","เพชรบุรี","สวท.เพชรบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114094645952"], [328,"นายกรัฐมนตรี ชื่นชมทุกหน่วยงานที่มีส่วนผลักดันความตกลง FTA ขยายตัวดีขึ้น มูลค่าส่งออกกว่า 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ","นายธนกร วังบุญคงชนะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบตัวเลขการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลง FTA เดือนมกราคม ตุลาคม 2564 ขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 31.67 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยทำให้มีมูลค่าการส่งออกถึง 63,104.43 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีสัดส่วนการใช้สิทธิสูงถึงร้อยละ 78.51 โดยนายกรัฐมนตรีชื่นชมการทำงานและขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ร่วมมีส่วนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจนสามารถทำให้ตัวเลขการส่งออกสูงถึงกว่า 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เชื่อมั่นว่าการทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการของรัฐบาลจะส่งผลสำคัญต่อสำเร็จในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างแน่นอน
นายกรัฐมนตรี ได้วางนโยบายและกำกับดูแล เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศ ผลักดันการส่งออกในเวทีระหว่างประเทศและเพื่อเป็นโอกาสในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในช่วงก้าวข้ามผ่านความท้าทายที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ
สำหรับการใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA นั้น มีการใช้สิทธิเพิ่มขึ้นทุกตลาดและตลาดที่มีมูลค่าการใช้สิทธิ FTA สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 อาเซียน (มูลค่า 21,539.08 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยตลาดส่งออกสำคัญของอาเซียนคือ เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซียและฟิลิปปินส์ อันดับ 2 จีน อันดับ 3 ออสเตรเลีย อันดับ 4 ญี่ปุ่น และอันดับ 5 อินเดีย ทั้งนี้ ยังไม่รวมถึงความตกลง Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP ซึ่งเป็นความตกลงใหม่ที่รัฐบาลไทยโดยนายกรัฐมนตรีผลักดันการเจรจาในวาระที่ไทยเป็นประธานการประชุมสุดยอดอาเซียน เมื่อปี 2562 และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งรวมทั้งสิ้นแล้ว ประเทศไทยมี FTA ที่มีผลบังคบใช้แล้วรวมทั้งสิ้น 14 ฉบับ
","14/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","NULL","Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114094317945"], [329,"พช.ยโสธร ประชุมโครงการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวและบริการ กิจกรรมหลัก ยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวและการค้าสู่สากล","
วันที่ 13 มกราคม 2565 เวลา 13.30 น นายสุรชัย แดนพิบูลย์ นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนพัฒนาการจังหวัดยโสธร ประธานประชุมโครงการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวและบริการ กิจกรรมหลัก ยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวและการค้าสู่สากล โดยมี ผู้อำนวยการกลุ่มงานฯ นักวิชาการชำนาญการ นักพัฒนาชุมชน นักการตลาดรุ่นใหม่และกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมหมอนขิด ชั้น2 ศาลากลางจังหวัดยโสธร
สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดยโสธรได้กำหนดดำเนินโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัด ประจำปีงบประมาณ 2565 ประกอบด้วย
1.การดำเนินงานโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 โครงการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวและบริการ ประกอบด้วย 2 กิจกรรมย่อย ดังนี้
1.1พัฒนาผู้ประกอบการ OTOP
1.2.พัฒนาบรรจุภัณฑ์ OTOP และ Banner
2. การดำเนินงานตามโครงการ ตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของกลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ 2565 โครงการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยว
3.การดำเนินงานตามโครงการส่งเสริมกระบวนการเครือข่ายองค์ความรู้ KBC
4.การดำเนินงานตามโครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่าย OTOP ประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพเครือข่าย OTOP
5.การแต่งตั้งคณะกรรมการเครือข่าย OTOP ระดับจังหวัด
เป้าหมายการพัฒนาจังหวัดยโสธร \"ยโสธรเมืองเกษตรอินทรีย์ เมืองแห่งวิถีอีสาน@ สะออน 50 ปี ศรียโสธร \"เศรษฐกิจฐานรากมั่นคงและชุมชนพึ่งตนเองได้ ภายในปี 2565\"
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ยโสธร","สวท.ยโสธร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114092621934"], [330,"พิษณุโลก เปิดจุดลดราคาสินค้าช่วยเหลือประชาชน จุดที่ 8 มีประชาชนต่อแถวเลือกซื้อสินค้าอย่างคึกคัก","หลังจากที่มีการเปิด 7 จุด จำหน่ายเนื้อหมูราคาถูก วันนี้ (14 มกราคม 2565) เริ่มต้นตั้งแต่เวลา 07.30 น. ณ ตลาดประชารัฐ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นับเป็นจุดที่ 8 ของการจำหน่ายสินค้าราคาถูก เพื่อบรรเทาค่าครองชีพให้ประชาชน โดยมีประชาชนให้ความสนใจเข้าแถวซื้อสินค้าในโครงการฯ อย่างคึกคัก
จังหวัดพิษณุโลก โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพิษณุโลก สำนักงานประมงจังหวัดพิษณุโลก และผู้ประกอบการภาคเอกชน ได้แก่ ซีพี เบทาโกร โรงงานน้ำตาลทรายพิษณุโลก เกษตรกรผู้เลี้ยงปลา นำสิ้นค้ามาวางจำหน่ายในกิจกรรม ลดราคาช่วยประชาชน ครั้งนี้
สำหรับจุดจำหน่ายที่ 8 ณ ตลาดประชารัฐ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองพิษณุโลก แห่งนี้ จะเปิดจำหน่ายในทุกวันศุกร์ ซึ่งสินค้าที่นำมาวางจำหน่ายนั้น จะเป็นสินค้าที่จำเป็นในการบริโภค อาทิ หมูเนื้อแดง ราคากิโลกรัมละ 150 บาท , ชิ้นส่วนไก่ชำแหละ อกไก่ ราคา กิโลกรัมละ 65 บาท , น่องไก่ติดสะโพก ราคากิโลกรัมล่ะ 59 บาท , ปลาหมอ ขนาดไซส์ 4 ตัว 1 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 80 บาท , ไข่ไก่เบอร์ 3 ราคาแผงละ 87 บาท และ น้ำตาลทรายลิน บรรจุถุง 1 กิโลกรัม ราคาถุงละ 20 บาท
โดยวันนี้เป็นครั้งแรกที่เปิดจุดจำหน่ายจุดที่ 8 ทั้งนี้ นายรณรงค์ นครจินดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เดินทางมาร่วมจำหน่ายสินค้าให้ประชาชนด้วยตนเอง พร้อมด้วย นางอุบลรัตน์ ศิลตระกูล พาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก ก็เดินทางมาจำหน่าย และ สังเกตการณ์ สอบถามความต้องการของประชาชนอีกด้วย.
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","พิษณุโลก","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพิษณุโลก","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114094040944"], [331,"ผู้ว่าฯ ตาก ตรวจเยี่ยมจุดจำหน่ายเนื้อหมูชำแหละ ที่เข้าร่วมโครงการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชนเหลือกิโลกรัมละ 150 บาท","วันนี้ (14 ม.ค.65) เวลา 09.00 น. ที่ร้าน SKF อินเตอร์ฟู๊ด ร้านจำหน่ายเนื้อหมูชำแหละ สาขาเมืองตาก อำเภอเมือง จังหวัดตาก นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อมด้วย นางสาวปาริชาติ พงค์พันเทา พาณิชย์จังหวัดตาก ตรวจเยี่ยมจุดจำหน่ายเนื้อหมูชำแหละ ที่เข้าร่วมโครงการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน เหลือกิโลกรัมละ 150 บาท
สืบเนื่องจากปัจจุบันราคาเนื้อหมูมีราคาสูงขึ้น สาเหตุหนึ่งเกิดจากการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกา หรือ ASF ตามที่กรมปศุสัตว์ได้เปิดเผยไปก่อนหน้านี้ ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้ให้ข้อมูลว่า ASF เป็นโรคติดต่อเฉพาะในสุกรเท่านั้น ไม่ติดต่อสู่คนหรือสัตว์ชนิดอื่น ผู้บริโภคยังสามารถรับประทานเนื้อสุกรได้อย่างปลอดภัย โดยจะต้องให้ความร้อนปรุงสุกที่อุณหภูมิสูงกว่า 70 องศาเซลเซียส
ด้านกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ได้ออกมาตรการด้านการตลาดและกฎหมาย ควบคุมราคาสินค้า โดยเฉพาะเนื้อหมู รวมทั้งกรมปศุสัตว์ได้แก้ไขปัญหาโดยการเพิ่มแม่สุกรและลูกสุกร คาดว่าอีกระยะสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการในประเทศ
สำหรับจังหวัดตาก ได้มีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน ได้แก่ร้าน SKF จำนวน 3 สาขา ประกอบด้วย สาขาเมืองตาก สาขาตำบลไม้งาม อำเภอเมืองตาก และสาขาแม่สอด ซึ่งได้เริ่มจำหน่ายเนื้อหมูในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ตั้งแต่วันที่ 1-31 มกราคม 2565
ขณะเดียวกัน ร้านหมูอนามัยเบทาโกร สาขาวังเจ้า/ร้านหมูอนามัยเบทาโกร สาขาวังเจ้า/ร้านหมูอนามัยเบทาโกร สาขาสามเงาและร้านโกดัง ฟู๊ดมาร์เก็ต อำเภอเมืองตาก เริ่มจำหน่ายเนื้อหมูในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ตั้งแต่วันที่ 14-31 มกราคม 2565 ส่วนร้านหมูอนามัยเบทาโกร สาขาวังประจบ จะเริ่มจำหน่ายเนื้อหมูในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ตั้งแต่วันที่ 18-31 มกราคม 2565
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคตะวันตก","ตาก","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตาก","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114103625963"], [332,"ยอดขายสินค้า 8 สหกรณ์นำร่องผ่าน ThaiTrad.com มียอดเจรจา 1 ปี กว่า 80 ล้านบาท","
นายอัชฌา สุวรรณนิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ผลการจำหน่ายสินค้าเกษตรของสถาบันเกษตรกรผ่านแพลตฟอร์มกลาง ThaiTrade.com ซึ่งเชื่อมโยงกับหลายประเทศทั่วโลก ในนามของคณะทำงานการสร้างแพลตฟอร์มกลางในโครงการเกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด ตลอดปี 2564 ที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมให้สถาบันเกษตรกรมีการค้าขาย ผ่านระบบออนไลน์ให้มากขึ้น เป็นการยกระดับรายได้และขยายตลาดสินค้าเกษตรในขบวนการสหกรณ์
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า แจ้งว่า ผลการเจรจาธุรกิจเกิดมูลค่าการซื้อขายคาดการณ์ 1 ปี ประมาณ 80 ล้านบาท จากสหกรณ์ที่เข้าโครงการนำร่องโครงการจำหน่ายสินค้าบนแพลตฟอร์ม 8 แห่ง สินค้าจำนวน 42 รายการ ได้แก่ สินค้ากลุ่มข้าว โคนมและโคเนื้อ ซึ่งสหกรณ์ทั้ง 8 แห่ง ได้เข้าร่วมเจรจาธุรกิจกับผู้นำเข้าจำนวน 22 บริษัท จาก 9 ประเทศคือ ลาว เวียดนาม สิงคโปร์ พม่า ฟิลิปปินส์ จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่นและอินเดีย
จากความสำเร็จเบื้องต้นนี้จะเป็นการทำให้สหกรณ์อื่นๆ เห็นช่องทางการขยายโอกาสทางการตลาดได้เพิ่มมากขึ้นสร้างโอกาสการสร้างรายได้เพิ่มให้กับเกษตรที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ ทั้งนี้ ได้เกิดคู่เจรจาการค้า 59 คู่ สินค้าที่ได้รับความสนใจสูงสุดคือ ข้าวหอมมะลิ ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ นมอัดเม็ด สินค้าสหกรณ์ที่เข้าโครงการนำร่อง เป็นสินค้าที่มีมาตรฐานการผลิตที่ดี มีคุณภาพ
ในปี 2564 ที่ผ่านมาเมื่อเข้าร่วมโครงการนั้น กรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เปิดเวทีอบรมการค้าบนระบบแพลตฟอร์ม เช่น การทำกิจกรรมการค้าออนไลน์แบบจับคู่ธุรกิจ หลักเกณฑ์การขายสินค้าของบนแพลตฟอร์มเป็นต้นให้กับทั้ง 8 สหกรณ์ เนื่องจากผู้ค้าต้องมีความพร้อมด้านสินค้าสำหรับยอดการเจรจาธุรกิจ ทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อตอบโจทย์ผู้ซื้อในระบบ
นอกจากนั้น ยังมีความร่วมมือกับภาคเอกชน สนับสนุนช่องทางจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม Phenixbox.com ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสในการขยายตลาดของสถาบันเกษตรกรอีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งในความร่วมมือนี้มี 19 สหกรณ์ให้ความสนใจเข้าร่วม และได้มีการเจรจากับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมในเครือ AWC จำนวน 12 สหกรณ์ เจรจากับผู้ประกอบการ 14 แห่ง มีคู่เจรจารวม 41 คู่ ผลการเจรจา คาดว่าใน 1 ปีนี้ จะมียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 3 ล้านบาท
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสตูล พร้อมบรรเทาภาระค่าครองชีพแก่ประชาชน จัดจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท รวม 5 จุดบริการ ตั้งแต่วันที่ 16-31 มกราคม 2565
วันนี้ (14 ม.ค.65) นางสายช่อ อังศุพานิช พาณชิย์จังหวัดสตูล กล่าวว่า มาตรการช่วยเหลือประชาชนของกระทรวงพาณิชย์ในสถานการณ์โควิด-19 ที่มีสินค้าบางชนิดปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาเนื้อหมู สำหรับแก้ปัญหาสถานการณ์ราคาเนื้อหมูที่เพิ่มสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 200 บาท ขณะนี้ได้ร่วมกับผู้ประกอบการในพื้นที่จัดจำหน่ายเนื้อหมูราคาพิเศษใน 5 จุดบริการ ตั้งแต่วันที่ 16-31 มกราคม 2565 ด้วยการจำหน่ายหมูเนื้อแดงชำแหละ ราคากิโลกรัมละ 150 บาท ประกอบด้วย อำเภอเมืองสตูล 3 จุด บริการ คือบริเวณสามแยกทางเข้าเขาจีน, บริเวณตรงข้ามโรงเรียนบ้านคลองขุด, ปากซอยคลองขุด 11 ตรงข้ามทางเข้าวัดมงคลมิ่งเมือง (วัดป่าช้าจีน) และอำเภอละงู 2 จุดบริการ คือบริเวณหน้าตลาดสดเทศบาลตำบลกำแพง ทั้งนี้ในส่วนของจังหวัดสตูลมีผู้บริโภคเนื้อหมูประมาณ 20% เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีประชาชนนับถือศาสนาอิสลามอยู่รวมกว่า 70 % จึงได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","NULL","สวท.สตูล","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114105612969"], [334,"พาณิชย์จังหวัดสระแก้วจำหน่ายหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน","วันนี้ (14 ม.ค. 65) ที่ บริเวณตลาดนัดดอกแก้ว บริเวณด้านหลังศาลากลางจังหวัดสระแก้ว นายธีระชัย ลิ้มประสิทธิศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เยี่ยมชมการจำหน่ายเนื้อหมู โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสระแก้วได้ดำเนินโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน ซึ่งทางจังหวัดสระแก้ว พาณิชย์จังหวัดสระแก้วได้ร่วมกับร้านแก้วลำดวนอินเตอร์ฟู้ด จัดจำหน่ายหมูเนื้อแดงส่วนสะโพกให้กับประชาชนผู้บริโภคในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ปริมาณวันละ 360 กิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 16- 31 มกราคม 2565 รวมทั้งสิ้น 16 วัน โดยจะกระจายไปตามจุดจำหน่ายของร้านแก้วอินเตอร์ฟู้ด ทั้ง 6 แห่งในจังหวัดสระแก้ว โดยมีที่ สาขาสระแก้ว สาขาบ้านแก้ง สาขาศาลาลำดวน สาขาท่าแยก สาขาท่าเกษมและสาขาโคกปี่ฆ้อง เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสซื้อหมูเนื้อแดงได้อย่างทั่วถึง โดยการซื้อดังกล่าวทางสำนักงานพาณิชย์ได้จำกัดการซื้อท่านละไม่เกิน 2 กิโลกรัม
นางสาวนงเยาว์ ศรีฉันทะมิตร พาณิชย์จังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า จากภาวะที่ราคาหมูมีการปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากการลดปริมาณการเลี้ยงหมูและโรคระบาดรวมถึงต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์มีราคาสูง ทางด้านกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการแก้ไขโดยมี 3 มาตรการ โดยมาตรการที่ 1 ห้ามส่งหมูมีชีวิตไปนอกราชอาณาจักร เพื่อให้ปริมาณหมูเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ มาตรการที่ 2 กำหนดให้ผุ้เลี้ยง ผู้จำหน่าย ผู้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ที่ครอบครองหมูมีชีวิตที่มีปริมาณตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป ต้องแจ้งปริมาณการเลี้ยง ปริมาณการซื้อ ปริมาณการจำหน่าย ปริมาณการส่งออก ปริมาณคงเหลือ ราคาจำหน่าย สถานที่เก็บและสถานที่เลี้ยงซึ่งจะต้องแจ้งทุกวันจันทร์ของสัปดาห์และมาตรการที่ 3 เป็นการดำเนินโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน โดยจัดจำหน่ายหมูเนื้อแดงส่วนยะโพกให้กับประชาชนในราคากิโลกรัมละ 150 บาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้นและหากสถานการณ์ราคาหมูยังอยู่ในระดับสูงอีกกระทรวงพาณิชย์อาจจะมีมาตราการอื่นๆเพื่อแก้ไขราคาหมูเพิ่มเติมอีกต่อไป
นางสาวนงเยาว์ ศรีฉันทะมิตร พาณิชย์จังหวัดสระแก้ว
ประจัก-สุชีวิน /ภาพ/ข่าว
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคตะวันออก","สระแก้ว","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระแก้ว","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114111145980"], [335,"จ.พิษณุโลกเปิดจุดลดราคาสินค้าช่วยเหลือประชาชนจุดที่ 8หลังจากที่มีการเปิด 7 จุด จำหน่ายเนื้อหมูราคาถูก ","ประชาชนชาวพิษณุโลกเข้าแถวต่อคิว ซื้อเนื้อหมู ณ จุดจำหน่ายสินค้าลดราคาช่วยประชาชนคึกคัก หลังจังหวัดร่วมกับภาครัฐและเอกชน เปิดเพิ่มใหม่อีก 1 จุด
วันนี้ (14 ม.ค.65) เริ่มต้นตั้งแต่เวลา 07.30 น. ณ ตลาดประชารัฐ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นับเป็นจุดที่ 8 ของการจำหน่ายสินค้าราคาถูก เพื่อบรรเทาค่าครองชีพให้ประชาชน โดยมีประชาชนให้ความสนใจเข้าแถวซื้อสินค้ามในโครงการฯ อย่างคึกคัก
จังหวัดพิษณุโลก โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพิษณุโลก สำนักงานประมงจังหวัดพิษณุโลก และผู้ประกอบการภาคเอกชน ได้แก่ ซีพี เบทาโกร โรงงานน้ำตาลทรายพิษณุโลก เกษตรกรผู้เลี้ยงปลา นำสิ้นค้ามาวางจำหน่ายในกิจกรรม ลดราคาช่วยประชาชน ครั้งนี้
สำหรับจุดจำหน่ายที่ 8 ณ ตลาดประชารัฐ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองพิษณุโลก แห่งนี้จะเปิดจำหน่ายในทุกวันศุกร์ ซึ่งสินค้าที่นำมาวางจำหน่ายนั้น จะเป็นสินค้าที่จำเป็นในการบริโภค อาทิ หมูเนื้อแดง ราคากิโลกรัมละ 150 บาท/ชิ้นส่วนไก่ชำแหละ อกไก่ ราคา กิโลกรัมละ 65 บาท/น่องไก่ติดสะโพก ราคากิโลกรัมล่ะ 59 บาท/ปลาหมอ ขนาดไซส์ 4 ตัว 1 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 80 บาท/ไข่ไก่เบอร์ 3 ราคาแผงละ 87 บาท/และน้ำตาลทรายลิน บรรจุถุง 1 กิโลกรัม ราคาถุงละ 20 บาท
โดยวันนี้เป็นการเปิดครั้งแรกที่เปิดจุดจำหน่ายจุดที่ 8 ทั้งนี้ นายรณรงค์ นครจินดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นางอุบลรัตน์ ศิลตระกูล พาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก เดินทางมาร่วมจำหน่ายให้แก่ประชาชน และสังเกตการณ์ สอบถามความต้องการของประชาชนอีกด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","พิษณุโลก","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพิษณุโลก","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114115241007"], [336,"ผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี ตรวจเยี่ยมการจำหน่าย หมูพาณิชย์... ลดราคา ช่วยประชาชน","
วันนี้(14 ม.ค.65) เวลา 09.00 น. ที่ ร้านหมูแฮปปี้ฟาร์ม สาขา ถ.เณรแก้ว จ.สุพรรณบุรี นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วย นายศรีธรรม ราชแก้ว นายอำเภอเมืองสุพรรณบุรี นายวินิจ เฮ่าบุญ พาณิชย์จังหวัดสุพรรณบุรี และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการจำหน่าย หมูพาณิชย์... ลดราคา ช่วยประชาชน
โดยนายณัฐภัทร กล่าวว่า ขณะนี้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะสินค้าที่จำเป็น คือ หมู ไก่ ไข่ไก่ มีราคาสูงขึ้น กระทรวงพาณิชย์ จึงมีมาตรการช่วยเหลือประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ช่วงนี้เป็นรอบที่ 3 โดยการชดเชยราคาให้ผู้ประกอบการด้วย ซึ่งเป็นหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท ณ จุดจำหน่ายบริเวณร้านหมูแฮปปี้ฟาร์ม ทั้ง 8 สาขา ทั่วทั้งจังหวัด ที่เข้าร่วมโครงการฯ เฉลี่ย สาขาละ 70-100 กิโลกรัม เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในภาวะที่ราคาเนื้อหมูเพิ่มสูงขึ้น
อีกทั้ง ยังเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายเนื้อหมูในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป โดยจำกัดจำนวน 1 กิโลกรัมต่อคน ถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 แม้จะไม่ทั่วถึง แต่สามารถช่วยบรรเทาความเดือนได้ระดับหนึ่ง แต่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะออกนโยบายมาช่วยเหลือประชาชนเป็นระยะๆ
นอกจากนี้ พาณิชย์จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆเพื่อป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า การติดป้ายแสดงราคา โดยเฉพาะชุดตรวจ ATK จึงขอความร่วมมือร้านค้า ต้องติดป้ายแสดงราคาตามที่กฎหมายกำหนดเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบอย่างชัดเจน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","สุพรรณบุรี","สวท.สุพรรณบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114113904998"], [337,"จ.พิษณุโลกจัดโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชนนำสินค้าจากแหล่งผลิตมาจำหน่ายมาในราคาถูกกว่าท้องตลาด","วันนี้ (14 ม.ค.65) นายรณรงค์ นครจินดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยนางอุบลรัตน์ ศีลตระกูล พาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก ได้ออกติดตามการจัดโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน จุดจำหน่ายที่ 8 ณ ตลาดประชารัฐ หรือตลาดนักเกษ๖รกร บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองพิษณุโลก ตลาดแห่งนี้ได้เปิดจำหน่ายสินค้าของชุมชนและเกษตรกรในทุกวันศุกร์อยู่แล้ว โดยสินค้าที่นำมาวางจำหน่ายในครั้งนี้ เป็นสินค้าจากแหล่งผลิตมาจำหน่ายมาในราคาถูกกว่าท้องตลาด อาทิ หมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท น่องติดสะโพกกิโลกรัมละ 59 บาท อกไก่กิโลกรัมละ 65 บาท ไข่ไก่เบอร์ 3 แผงละ 87 บาท ปลาหมอชุมพรกิโลกรัมละ 80 บาท และน้ำตาลทรายกิโลกรัมละ 20 บาท เพื่อช่วยลดค่าครองชีพของประชาชน
จังหวัดพิษณุโลก โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพิษณุโลก สำนักงานประมงจังหวัดพิษณุโลก และผู้ประกอบการภาคเอกชน ได้แก่ ซีพี เบทาโกร โรงงานน้ำตาลทรายพิษณุโลก เกษตรกรผู้เลี้ยงปลา นำสิ้นค้ามาวางจำหน่ายในกิจกรรม ลดราคาช่วยประชาชน ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและช่วยให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้จังหวัดพิษณุโลกได้มีการเปิดจุดจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูกไปแล้ว 7 แห่ง ดำเนินการระหว่าง วันที่ 5-31 มกราคม 2565 โดยประชาชนสามารถเช็กจุดจำหน่ายได้กับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคเหนือ","พิษณุโลก","สวท.พิษณุโลก","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114141409058"], [338,"คาดเก็บค่าเหยียบแผ่นดินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ประมาณ 1,500 ล้านบาท ย้ำไม่เก็บคนไทย ","นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ค่าเหยียบแผ่นดิน หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า ค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยว จะเป็นการจัดเก็บเฉพาะจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยเท่านั้น
จากการสอบถามความคิดเห็นเชิงลึกจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและภาคเอกชน พบว่าอัตราการจัดเก็บที่เหมาะสมเป็นรายละ 300 บาทต่อครั้ง และจะนำเงินจำนวน 300 บาทดังกล่าวนี้ เข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยประมาณร้อยละ 50 ซื้อประกันภัยสำหรับนักท่องเที่ยวร้อยละ 20 (ระยะเวลาความคุ้มครอง 45 วัน) ส่วนเงินที่เหลือประมาณร้อยละ 20- ร้อยละ 30 จะเป็นค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างบริษัท หรือหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาบริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพ
สามารถเริ่มจัดเก็บได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งชาติและจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ และนำเสนอ ครม. ต่อไป หากกระบวนการเสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กำหนด คาดว่าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 (เมษายน-กันยายน 2565) จะสามารถจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวได้ประมาณ 1,500 ล้านบาท จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5 ล้านคน
นางเบญจวรรณ์ จันทร์ภูมิ จัดหางานจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า จังหวัดชัยนาทมีนายจ้าง/สถานประกอบการ ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs จำนวน 642 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 85.60 จากเป้าหมายจำนวน 750 แห่ง มีลูกจ้างสัญชาติไทยเข้าร่วมโครงการ 1,522 คน คิดเป็นร้อยละ 96.14 ของเป้าหมายจำนวน 6,784 คน ถือว่าจังหวัดชัยนาทประสบผลสำเร็จในระดับหนึ่ง
การจ่ายเงินอุดหนุนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 รัฐจ่ายให้นายจ้างที่อยู่ในฐานทะเบียนข้อมูลของสำนักงานประกันสังคม ณ วันที่ 16 ต.ค.64 โดยจ่ายตามจำนวนลูกจ้างสัญชาติไทยไม่เกิน 200 คน โดยไม่ได้ตรวจสอบการนำส่งข้อมูลสมทบผ่านระบบ E-Service และรักษาระดับการจ้างงานได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 สำหรับในเดือนธันวาคม 2564 มกราคม 2565 จะมีการตรวจสอบการนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ E-Service และรักษาระดับการจ้างงานให้ได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ทุกวันที่ 16 ของเดือนนั้นๆก่อนที่จะจ่ายเงินอุดหนุน
นายจ้างที่ไม่มีประวัติส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ E-Service มาก่อนให้ดำเนินการส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ ภายในวันที่ 17 มกราคม 2565 มิฉะนั้นจะไม่ได้รับเงินอุดหนุนทั้ง 2 เดือน (ธันวาคม 2564-มกราคม 2565)
นอกจากนี้ จะมีการตรวจสอบว่ามีการจ่ายเงินค่าจ้างให้กับลูกจ้างเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ รวมทั้งนิติสัมพันธ์ของนายจ้างลูกจ้างเป็นไปตามที่กำหนดหรือไม่ เนื่องจากบางรายพบว่ามีแต่รายชื่อแต่ไม่มีตัวตนลูกจ้างมาทำงานจริง สำหรับนายจ้างที่ประกอบกิจการผับ บาร์ คาราโอเกะ และรัฐมีคำสั่งปิดชั่วคราว นายจ้างจะต้องนำส่งข้อมูลเงินสมทบเช่นเดียวกับกิจการอื่นๆ แต่การนำส่งข้อมูลเงินสมทบของลูกจ้างแต่ละรายจะเป็นเงินจำนวน เท่ากับ ศูนย์บาท
สำนักงานจัดหางานจังหวัดชัยนาท จึงขอประชาสัมพันธ์ให้นายจ้างที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวได้ทราบ หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามรายละเอียดได้ทางโทรศัพท์หมายเลข 0-5641-3035 หรือสายด่วน 1506 กด 2
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","ชัยนาท","สวท.ชัยนาท","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114130759030"], [340,"ผู้ว่าฯสุพรรณบุรี ตรวจการจำหน่ายเนื้อหมู ตามโครงการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน จำหน่ายในกิโลกรัมละ 150 บาท","วันนี้ (14 ม.ค. 65) ที่ร้านแฮปปี้ฟาร์ม อำเภอเมืองสุพรรณบุรี นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วย นายอำเภอเมืองสุพรรณบุรี พาณิชย์จังหวัดสุพรรณบุรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การขายเนื้อหมูที่เข้าร่วมโครงการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน จำหน่ายในกิโลกรัมละ 150 บาท เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้บริโภค หลังจากราคาหมูมีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงกิโลกรัมละ 200-220 บาท
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า ตอนนี้ราคาเครื่องอุปโภคบริโภคโดยเฉพาะหมู และสินค้าที่จำเป็นกับพี่น้องประชาชน พวกเนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ ราคาก็จะสูงขึ้น ทางกระทรวงพาณิชย์ก็ได้มีมาตรการ ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ช่วยเหลือต่อเนื่องมาช่วงนี้เป็นระยะที่สามแล้ว การช่วยเหลือแบบชดเชยราคาให้ผู้ประกอบการด้วย แฮปปี้ฟาร์มมีสาขาในสุพรรณบุรี ทั้งหมด 8 สาขาที่เข้าร่วมโครงการกับทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุพรรณบุรีตามโครงการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยเหลือประชาชน โดยจัดจำหน่ายหมู เนื้อหมูสะโพกที่เข้าร่วมโครงการจำหน่ายจากราคาเดิม 185 บาทจะลดลงมาเหลือกิโลกรัมละ 150 บาท ทางแฮปปี้ฟาร์มเข้าร่วมโครงการกับทางจังหวัดสุพรรณบุรีในจำนวนเนื้อหมู 10.5 ตัน หรือ 10,500 กิโลกรัม เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 มกราคมจนถึง 31 มกราคม อันนี้ก็เพื่อแบ่งเบาภาระและเป็นความห่วงใยที่ทางรัฐบาลมองเห็นว่าต้องช่วยเหลือพี่น้องประชาชน
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการไปประสานกับทางพาณิชย์และทางอำเภอทุกอำเภอให้ตรวจสอบในเรื่องของราคาสินค้าโดยเฉพาะราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงค์ชีพของประชาชน ว่าไม่ให้ปรับราคาเกินสมควร และแต่ละรายการต้องมีการทำป้ายแสดงราคา ถ้าไม่ทำป้ายแสดงราคาก็ถือว่าผิดกฎหมาย ต้องขอความร่วมมือผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆการจำหน่ายสินค้าให้ติดแสดงราคาเพื่อให้พี่น้องประชาชนนั้นได้รับทราบ
นายวินิจ เฮ่าบุญ พาณิชย์จังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า การจำหน่ายหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน จำหน่ายในกิโลกรัมละ 150 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 มกราคมจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 มีจัดจำหน่ายทุกวัน กำหนดไว้คนละหนึ่งกิโลเท่านั้น ไม่สามารถที่จะซื้อสองกิโลขึ้นไปได้ เนื่องจากมีเนื้อหมูปริมาณที่จำกัด เพื่อให้ประชาชนได้ซื้อหมูในราคาถูกอย่างทั่วถึง
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคตะวันตก","กาญจนบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุพรรณบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114131102031"], [341,"จ.แม่ฮ่องสอน ขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง","
วันนี้ (14 ม.ค.65) นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจของเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดแม่ฮ่องสอน ครั้งที่ 1/2565 ณ ห้องประชุมประดิษฐ์จองคำ ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อให้เกิดการพัฒนาและกลไกขับเคลื่อนการดำเนินงานขจัดความยากจนและพัฒนาทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดแม่ฮ่องสอนให้มีประสิทธิภาพครอบคลุมในทุกรายมิติและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
ทั้งนี้การตรวจสอบข้อมูลบุคคลในครัวเรือนเป้าหมายในพื้นที่ทั้ง 7 อำเภอ และการตรวจสอบข้อมูลบุคคลครัวเรือนเป้าหมายในระดับอำเภอ ซึ่งได้ตรวจสอบข้อมูลครัวเรือนเป้าหมายครบถ้วน 100% โดยได้ดำเนินการจัดประชุมรับรองข้อมูลบุคคลครัวเรือนเป้าหมายที่ผ่านการตรวจสอบ ในระหว่างวันที่ 5-10 มกราคม 2565 ครบทุกอำเภอรวมแล้ว 10,917 ครัวเรือน โดยมีครัวเรือนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ 5 มิติ จำนวน 2,538 ครัวเรือน สำหรับผู้ไม่ผ่านเกณฑ์ 5 มิติ สามารถแจ้งได้ทุกส่วนราชการ หรือพัฒนาการอำเภอทุกอำเภอ โดยจังหวัดแม่ฮ่องสอนจะมีการประกาศ กำหนดเป้าหมายการแก้ไขปัญหาความยากจนและการพัฒนาคนทุกช่วงวัย วาระจังหวัด ให้มีการบรรจุไว้ในแผนพัฒนาจังหวัดและแผนปฏิบัติราชการจังหวัดรายปี ในวันที่ 27 มกราคม 2565
โดยมีการบูรณาการหน่วยงานในระดับพื้นที่ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาของบุคคลครัวเรือนเป้าหมายตรงต่อสภาพปัญหาในแต่ละมิติศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในระดับต่างๆ บูรณาการความรับผิดชอบในการดำเนินงานเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาในระดับบุคคลครัวเรือนอีกทั้งร่วมแก้ไขและพัฒนาเพื่อนำไปสู่ความยั่งยืนในการจัดทำนโยบายมาตรการการดำเนินงานที่เหมาะสมและร่วมติดตามตรวจสอบและประเมินผลการดำเนินการต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114135148043"], [342,"สหกรณ์จังหวัดตากพร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานสหกรณ์พัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงพบพระ จำกัด","วันนี้? (14? ม.ค.65)? นายนำโชค ศิลกุล สหกรณ์จังหวัดตาก พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของสหกรณ์พัฒนาพื้นที่สูง?แบบโครงการหลวงพบพระ จำกัด ซึ่งตั้ง?อยู่ตำบลคีรีราษฏร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก? ซึ่งที่ผ่านมาสหกรณ์จังหวัดตากได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์ ที่รับผิดชอบช่วยเหลือแนะนำและดูแลทั้งตัวองค์กร การบริหารจัดการ ระบบการควบคุมภายใน และการพัฒนาผลผลิตของสมาชิกให้มีคุณภาพ? และแนะนำช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างการยอมรับและขยายตลาดให้เข้าถึงผู้บริโภค ซึ่งเป็นวิธีการที่ช่วยเสริมสร้างรายได้ให้กับสมาชิกได้อย่างมั่นคง และตัวสหกรณ์สามารถเป็นที่พึ่งแก่สมาชิกได้อย่างแท้จริง
สำหรับโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง พบพระมีพื้นที่รับผิดชอบครอบคลุมพื้นที่? 2? ตำบล 24 หมู่บ้าน มีจำนวนครัวเรือนทั้งหมด 7,843 ครัวเรือน และจำนวนประชากรทั้งหมด 32,370 คน ปัจจุบันได้พัฒนาและส่งเสริมอาชีพแก่ประชาชนโดยการส่งเสริมอาชีพทางเลือกเพื่อสร้างรายได้แก่เกษตรกร ประกอบด้วย ส่งเสริมการปลูกพืชผักในโรงเรือน ได้แก่ พริกหวาน มะเขือเทศโทมัส ผักนอกโรงเรือนแตงกวาญี่ปุ่น ฟักทองญี่ปุ่น บีทรูท พริกซุปเปอร์ฮอต เพื่อจำหน่ายตลาดชุมชน/ตลาดข้อตกลง สนับสนุนการเพิ่มผลผลิตพืชไร่ (เฮมพ์) ส่งเสริมปลูกไม้ผลที่มีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ได้แก่ เสาวรสหวานพันธุ์ไทนุง อะโวคาโดพันธุ์แฮสต์ บัคคาเนีย ปีเตอร์สัน และปลูกพลับพันธุ์พี 2 พันธุ์ฟูยู ทดแทนการปลูกพืชไร่ ส่งเสริมการเลี้ยงปศุสัตว์ สุกร เพื่อสร้างรายได้เสริม และเพื่อการบริโภค
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","ตาก","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตาก","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114141651059"], [343,"รองผู้ว่าราชการจังหวัดประชุมคณะกรรมการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน พร้อมเห็นชอบออกใบรับรองมาตรฐานที่ผ่านการตรวจสอบจำนวน 9 ผลิตภัณฑ์","วันนี้ (14 ม.ค. 65) ที่ห้องประชุมสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนายกรกฎ วงษ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานประชุมคณะกรรมการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบและลงนามรับรองผล เพื่อออกใบรับรองมาตรฐานที่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยตรวจสอบจำนวน 9 ผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย
วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตน้ำตาลมะพร้าวแท้ ผลิตภัณฑ์ไซรัปจากพืช,
วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตน้ำตาลมะพร้าวแท้ ผลิตภัณฑ์น้ำตาลมะพร้าว,
วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตร หมู่ 3 ตำบลบ้านปรก ผลิตภัณฑ์แชมพูอัญชัน,
วิสาหกิจชุมชนเรือนไม้หอม ผลิตภัณฑ์แชมพู,วิสาหกิจชุมชนเรือนไม้หอม ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว,
วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแป้งร่ำตำบลบางนางลี่ ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว,
วิสาหกิจชุมชนจักรสานก้านมะพร้าว น้ำตาลท่าคา ผลิตภัณฑ์จากทางมะพร้าว,
วิสาหกิจชุมชนบ้านเกื้อกูล ผลิตภัณฑ์ไม้กวาดทางมะพร้าว,
วิสาหกิจชุมชนบ้านเกื้อกูล ผลิตภัณฑ์ไม้กวาดดอกหญ้า
ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบ เนื่องจากเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
","14/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","สมุทรสงคราม","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114143554081"], [344,"พาณิชย์จังหวัดตราด จัดโครงการหมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน จังหวัดตราด","วันนี้ (14 ม.ค. 65) นางวรัญญา ถนอมพันธุ์ พาณิชย์จังหวัดตราด เปิดเผยว่า กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตราด ร่วมกับผู้ประกอบร้านจำหน่ายเนื้อหมู จัดโครงการหมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน จังหวัดตราด โดยนำหมูโลกรัมละ 150 บาท ในพื้นที่ต่าง ๆ ในระหว่างวันที่ 16 -31 มกราคม 2565 อาทิ ร้านสหกรณ์จังหวัดตราด ตลาดนัดไร่ป่า ตลาดนัดดกิโลศูนย์ รวมทั้งร้านสุรีย์หมูสวย ฟาร์มคุณปู่ เป็นต้น
จึงขอเชิญชวนประชาชนผู้สนใจซื้อเนื้อหมูตามโครงการดังกล่าวตามตารางการจัดหน่วยออกจำหน่าย ทั้งนี้จำกัดจำนวนการซื้อ 1 คน/ 1กิโลกรัม
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคตะวันออก","ตราด","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114152458121"], [345,"จ.จันทบุรีแถลงข่าวจัดงานเทศกาลนานาชาติพลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2021 จันทบุรี นครแห่งอัญมณี โชว์พลอยสวยงามชนะเลิศการประกวดระดับชาติ กระจายการจัดงาน 3 แห่งในแหล่งธุรกิจอัญมณีกำหนดจัดงาน 3 7 กุมภาพันธ์ 2565","วันนี้ ( 14 ม.ค.65 ) ที่ ศูนย์อัญมณีและเครื่องประดับจังหวัดจันทบุรีนายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยนายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับจังหวัดจันทบุรี / ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการและ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ ได้ร่วมแถลงข่าวการจัดงานเทศกาลนานาชาติพลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2021 จันทบุรี นครแห่งอัญมณี ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด 19
งานครั้งนี้ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน ) ร่วมกับจังหวัดจันทบุรี องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาลเมืองจันทบุรี สำนักงานพาณิชย์จังหวัดจัดขึ้น เดิมกำหนดจัดงานในช่วงเดือนธันวาคมแต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด -19 จึงเลื่อนมาจัดในช่วงนี้แทนเป็นการจัดงานที่ใช้สถานที่ 3 แห่ง คือ ที่ศูนย์อัญมณีและเครื่องประดับจังหวัดจันทบุรี / เคพีจิวเวอลี่ และตลาดพลอยซอยศรีจันท์เป็นจุดจัดกิจกรรม
ทั้งนี้ การจัดงานเทศกาลนานาชาติพลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2021 INTERNATIONAL CHANTHABURI GEMS AND JEWELRY FESTIVAL 2021 ถือเป็นงานที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจยกระดับพัฒนาอุตสาหกรรมอัญมณีของจังหวัดจันทบุรีให้เป็นที่ยอมรับของสากลมากยิ่งขึ้นกิจกรรมต่าง ๆ ภายในงานเทศกาลนานาชาติพลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2021 มีอย่างหลากหลายอาทิ การแสดงผลงานพลอยสวยงามที่ชนะการประกวด / การประชุมวิชาการนานาชาติด้านอัญมณีและเครื่องประดับครั้งที่ 7 / งานประกวดพลอย GITs Enchanting Ruby & Sapphire Awards / การสาธิตการเจียระไนพลอย การแกะสลักโลหะด้วยมือ การแกะลายด้วยเครื่องตัดลายการชุบ ขัดล้างเครื่องประดับ การลงยาสีเย็น-ร้อนบนเครื่องประดับ การเลเซอร์ตัวอักษรและสัญลักษณ์ การจำหน่ายอัญมณีและเครื่องประดับจากโรงงานผู้ผลิตโดยตรง การจำหน่ายพลอยดิบ พลอยสี จากผู้ค้าที่เข้าร่วมกิจกรรม เป็นต้น กิจกรรม Gems Tour การท่องเที่ยวแหล่งเรียนรู้ด้านอัญมณีเยี่ยมชมเหมืองพลอยและโรงงานแปรรูปในจังหวัดจันทบุรี / เปิดให้บริการตรวจสอบอัญมณีและเครื่องประดับเคลื่อนที่ Mobile Lab โดย GIT / การจับคู่ธุรกิจ BWC Business Matching ภายใต้โครงการซื้อด้วยความมั่นใจ Buy with Confidence และกิจกรรมสัมมนา \"จากดีไซน์สู่สินค้าเครื่องประดับออนไลน์ยุค New Normal\"เป็นต้นกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 3 ถึง 7 กุมภาพันธ์ 2565
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคตะวันออก","จันทบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดจันทบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114155851134"], [346,"ข่าวดี พาณิชย์จังหวัดสกลนคร จัดโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน จังหวัดสกลนคร ครั้งที่ 3","ข่าวดี พาณิชย์จังหวัดสกลนคร จัดโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน ครั้งที่ 3 เปิดจุดจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูก กก. ละ 150 บาท จำนวน 7 จุด ๆ ละ 50 กก./วัน บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน ลดค่าครองชีพ
วันนี้ (14 ม.ค. 65) สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสกลนคร ได้จัดโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน จังหวัดสกลนคร ครั้งที่ 3 ที่บริเวณข้างสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสกลนคร ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท โดยมี นางสาวอัจฉรา ธรรมธาตุ รักษาราชการแทนพาณิชย์จังหวัดสกลนคร นางสาวอรวรรณ ทิพม่อม นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ นำเจ้าหน้าที่ออกให้บริการประชาชน ซึ่งได้เดินทางมาซื้อเนื้อหมูในราคาประหยัดอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสกลนคร ได้จัดจุดจำหน่ายเนื้อหมูจำนวน 7 จุดๆ ละประมาณ 50 กิโลกรัม ต่อวัน จำกัดการซื้อคนละ 1 กิโลกรัม ประกอบด้วย ที่อำเภอเมือง จำนวน 3 จุด บริเวณด้านข้างสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสกลนคร เขียงหมูเจ๊จุ๋ม (ตลาดประเสริฐศาสตร) และร้านดี๊ดีหมูสวย ที่อำเภออากาศอำนวย จำนวน 2 จุด ณ ตลาดสดเทศบาล 1 ที่อำเภอวานรนิวาส จำนวน 1 จุด ร้านเจ๊ดาเขียงหมู และที่อำเภอเจริญศิลป์ จำนวน 1 จุด ณ ร้านป๊อปหมูสด ตลาดสดชุมชนเจริญศิลป์ จำหน่ายตั้งแต่วันที่ 12 -31 มกราคม 2565
นางสาวอัจฉรา ธรรมธาตุ รักษาราชการแทนพาณิชย์จังหวัดสกลนคร กล่าวว่า เนื่องจากภาวะราคาสุกรมีการปรับราคาจำหน่ายสูงขึ้น เกิดจากการลดปริมาณการเลี้ยงลูกหมูและโรคระบาด รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์มีราคาสูงขึ้น เพื่อเป็นการลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน และเป็นการเพิ่มช่องทางในการเลือกซื้อหมูเนื้อแดงในราคาประหยัด กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จึงได้ดำเนินโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน ซึ่งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสกลนคร ได้ดำเนินการครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3
ขณะที่ประชาชนที่เดินทางมาซื้อเนื้อหมูต่างพึงพอใจกับโครงการ และต้องการให้หน่วยงานภาครัฐจัดกิจกรรมดีๆ เช่นนี้ต่อไป ควบคู่ไปกับการเร่งแก้ไขปัญหาราคาเนื้อหมูที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้านกระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ได้ดำเนินการดังนี้
1. ห้ามไม่ให้มีการส่งออกสุกรมีชีวิตไปนอกประเทศเป็นเวลา 3 เดือน ตามมติของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร. ที่ประชุมกันเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2565 โดยคาดการณ์ว่าจะทำให้มีหมูเป็น กลับสู่ระบบตลาดภายในประมาณ 1 ล้านตัว
2. กกร.ห้ามไม่ให้ผู้เลี้ยงหมูและผู้ค้าส่งที่มีปริมาณเกิน 500 ตัว (หมูมีชีวิต) ผู้มีห้องเย็นเก็บสต๊อกเกิน 5,000 กก.ขึ้นไป (หมูชำแหละ) และต้องแจ้งสต๊อกให้กรมการค้าภายในทราบทุก 7 วัน มาตรการที่ออกมานี้รัฐบาลเชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาหมูราคาแพงที่คนไทยกำลังเผชิญอยู่ได้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน จังหวัดสกลนคร ได้ที่โทร 042-711277 สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสกลนคร
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","สกลนคร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสกลนคร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114230836343"], [347,"รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ลงพื้นที่จังหวัดสตูล ติดตามความก้าวหน้าโครงการ U2T ในพื้นที่ 10 ตำบล ครอบคลุม 5 อำเภอ หลังสร้างมูลค่าเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นราว 100 ล้านบาท","วันนี้ (14 ม.ค. 65) ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสตูล เพื่อติดตามการดำเนินงานโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย) มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ พื้นที่จังหวัดสตูล (U2T) โดย อว.ส่วนหน้าจังหวัดสตูล (มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา วิทยาเขตสตูล) ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา วิทยาเขตสตูล อำเภอละงู จังหวัดสตูล โดยมีนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นายสัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ จังหวัดสตูลเป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย มีวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงมีการประกอบอาชีพเกี่ยวเนื่องกับการเกษตรเป็นส่วนใหญ่ ทาง อว.ส่วนหน้าจังหวัดสตูล จึงเห็นความสำคัญของการยกระดับเศรษฐกิจในชุมชนด้วยโครงการ U2T เพื่อการยกระดับและพัฒนาชุมชนให้เกิดความก้าวหน้าทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม พร้อมส่งเสริมรากฐานทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
สำหรับการขับเคลื่อนโครงการ U2T ได้รับความร่วมมือจาก 4 สถาบันการศึกษาร่วมบูรณาการรับผิดชอบพื้นที่ 10 ตำบล ครอบคลุม 5 อำเภอของจังหวัดสตูล ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา วิทยาเขตสตูล รับผิดชอบพื้นที่ตำบลปาล์มพัฒนา อำเภอมะนัง , มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รับผิดชอบพื้นที่ตำบลละงู ตำบลน้ำผุด อำเภอละงู , ตำบลย่านซื่อ อำเภอควนโดน และตำบลพิมาน ตำบลบ้านควน อำเภอเมืองสตูล , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี รับผิดชอบพื้นที่ตำบลทุ่งหว้า อำเภอทุ่งหว้า และวิทยาชัยชุมชนสตูล รับผิดชอบพื้นที่ตำบลนาทอน อำเภอทุ่งหว้า , ตำบลควนสตอ อำเภอควนโดน และตำบลเกตรี อำเภอเมืองสตูล
ที่ผ่านมาการดำเนินงานของโครงการ U2T ในพื้นที่ สามารถสร้างมูลค่าเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากราว 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นสิ่งที่กระทรวง อว. ร่วมสนับสนุนกับหน่วยงานในจังหวัดสตูลจนเกิดเป็นความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม ภายใต้พันธกิจของโครงการ คือ การพัฒนาสัมมาชีพและสร้างอาชีพใหม่ ยกระดับการท่องเที่ยวนำองค์ความรู้ช่วยบริการชุมชน การส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของคนในชุมชน รวมถึงการยกระดับรากฐานทางเศรษฐกิจสู่ความก้าวหน้าที่ยั่งยืน
โดยมีตัวอย่างของการขับเคลื่อนโครงการ U2T ในจังหวัดสตูล เช่น การจัดการขยะในพื้นที่อุทยานธรณีโลกสตูล มีศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยแบบครบวงจร ของเทศบาลตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล รองรับขยะจากอทุยานธรณีโลกสตูล เกาะหลีเป๊ะ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ใกล้เคียง 21 แห่ง ด้วยรูปแบบการกำจัดขยะมูลฝอยแบบครบวงจร , หมู่บ้านพริกไทยพันธุ์สุไหงอุเป พืชอัตลักษณ์ อำเภอทุ่งหว้า เพื่อขยายพันธุ์พริกไทยสุไหงอุเป ด้วยเทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชอย่างง่ายสู่กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูก เป็นต้น
โอกาสนี้ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ กล่าวด้วยว่า ทุกการขับเคลื่อนงานของกระทรวง อว. ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศในระยะยาว ซึ่งเป็นไปตามความตั้งใจของรัฐบาล ที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปี 2580 ให้ได้ อีกทั้งในอนาคตข้างหน้าทางกระทรวง อว. ยังมีแนวทางดำเนินการต่าง ๆ เช่น เศรษฐกิจอวกาศ ในอีก 6-7 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะมียานอวกาศโคจรรอบดวงจันทร์ เพื่อเพิ่มศักยภาพของประเทศนำไปสู่การเป็นประเทศวิทยาศาสตร์ ในส่วนของการขับเคลื่อนโครงการ B2T ในจังหวัดสตูลได้เห็นเป็นประจักษ์แล้วว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี หากมีในส่วนใดที่อยากให้ทางกระทรวง อว. เพิ่มเติมขอให้หน่วยงานในจังหวัดได้สะท้อนและร่วมกันขับเคลื่อนโครงการฯ ไปด้วยกัน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคใต้","สตูล","สวท.สตูล","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114160817149"], [348,"อบจ.แม่ฮ่องสอน เตรียมจัดงานเปิดเมิงไตฯ ครั้งที่ 14 ระหว่างวันที่ 16-20 ก.พ. 65 ภายใต้มาตรการโควิด-19 อย่างเข้มงวด","สืบเนื่องจากการประกาศเลื่อนการจัดงานเปิดเมิงไตฯ ครั้งที่ 14 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ในขณะนั้น ประกอบกับมีจำนวนผู้ได้รับการฉีดวัคซีนเป็นจำนวนน้อย ซึ่งหากเกิดการระบาดอาจแพร่กระจายเป็นวงกว้าง
ล่าสุด องค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับการประสานงานจากสำนักงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชิญชวนร่วมบูรณาการจัดงานเปิดเมิงไตฯ ร่วมกับงานกาชาด เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในจังหวัดแม่ฮ่องสอน องค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน จึงได้กำหนดจัดงานเปิดเมิงไตฯ ครั้งที่ 14 ในระหว่างวันที่ 16-20 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ศูนย์ไทใหญ่ศึกษา ตำบลจองคำ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ภายในงานมีกิจกรรมตามคอนเซ็ปต์ ชิม ชม ช๊อป แชะ แชร์ ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความเป็นจังหวัดแม่ฮ่องสอนผ่านการแสดงวัฒนธรรมพื้นถิ่น การชิมอาหารไทใหญ่ และการเที่ยวชม จับจ่ายซื้อสินค้าท้องถิ่นภายในงาน และเพื่อให้นักท่องเที่ยวและประชาชนเกิดความมั่นใจในการเข้าร่วมงานเปิดเมิงไตฯ ในครั้งนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้รับความร่วมมือจากทางสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกำหนดมาตรการและแนวทางการจัดงานเพื่อให้เป็นไปตามมติของศูนย์บริหารการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศคบ.) อย่างเคร่งครัด
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114160655147"], [349,"สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่จับมือกรมการค้าภายใน ตรึงราคาไข่ไก่ ราคาคละหน้าฟาร์มที่ 2.90 บาท","
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ชี้แจงว่า กรมการค้าภายในได้ประชุมหารือร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยภาคกลาง สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้ สมาคมผู้ผลิตผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่แปดริ้ว สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ชลบุรี สหกรณ์ผู้ลี้ยงไก่ไข่ลุ่มน้ำน้อย ผู้ผลิตรายใหญ่ กรมปศุสัตว์ และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร โดยหารือร่วมกันและรับทราบถึงสถานการณ์ปัญหาด้านต้นทุนของผู้เลี้ยง เพื่อช่วยลดค่าครองชีพประชาชน ผู้เลี้ยงไก่ไข่จะให้ความร่วมมือตรึงราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มที่ 2.90 บาท ไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
หากพบเห็นว่ามีการกักตุนหรือฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม แจ้งได้ที่ สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ หากตรวจสอบพบการกระทำผิดจะมีโทษตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาทหรือทั้งจำและปรับ
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อำนาจเจริญ","สวท.อำนาจเจริญ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114204604300"], [350,"รองผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน มอบพาณิชย์จังหวัดสะท้อนปัญหาหมูแพง ให้กรมการค้าภายในเร่งหามาตรการแก้ไขระยะยาวช่วยเหลือทั้งผู้ค้าและผู้บริโภค เบื้องต้นเปิดจุดจำหน่ายหมูถูก 150 บาท/กก. 5 จุด ใน 4 อำเภอ","นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยนางสาวยุพา นาคา พาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน และเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าบริโภคประเภทของสด ณ ตลาดสดเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้พูดคุยกับผู้ค้า และสอบถามปัญหาด้านราคาโดยเฉพาะเนื้อหมู พบว่ามีต้นทุนสูงขึ้นตั้งแต่หน้าฟาร์ม ร้อยละ 50-60 แต่ในกลุ่มของผู้ค้าได้มีการตกลงที่จะพยุงราคาให้เป็นธรรมต่อทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย คือให้ผู้ค้าพออยู่ได้ ส่วนผู้บริโภคก็ยังสามารถซื้อหมูได้
อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าสะท้อนว่าผู้บริโภคมีพฤติกรรมการซื้อลดลง จากแต่เดิมในช่วงที่ราคาปกติ จะซื้อ 1-2 กิโลกรัม ปัจจุบันลดลงเหลือครึ่งกิโลกรัม การที่หมูแพงขึ้นไม่ได้ทำให้พ่อค้าแม่ค้ามีกำไรมากขึ้นมิหนำซ้ำยอดขายยังลดลง จึงต้องการให้ทางจังหวัดรายงานปัญหานี้ไปที่ส่วนกลางหามาตรการทำให้ราคาหมูต้นทุนถูกลง ซึ่งในจุดนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ระบุว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอนนำข้อแนะของผู้ค้าให้กรมการค้าภายในพิจารณาหาแนวทางแก้ปัญหาระยะยาว
สำหรับการแก้ปัญหาระยะสั้น สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ร่วมกับร้านภาคเหนือหมูสด ขยายเวลาดำเนิน โครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชนในส่วนภูมิภาค ไปถึง 31 มกราคม 2565 โดยจัดจำหน่ายหมูเนื้อแดง ราคา 150 บาท/กก. จำนวน 5 จุดใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง ขุนยวม ปางมะผ้า และอำเภอปาย
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114180312235"], [351,"พาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ ลงพื้นที่ตรวจติดตามการจำหน่ายหมูเนื้อแดงตามโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคาช่วยประชาชน (ครั้งที่ 2)","วันที่ 14 มกราคม 2565 เวลา 10.00 น. นางสาวเอื้อนจิตร ช่วยนก พาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ มอบหมายให้กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ตรวจติดตามการจำหน่ายหมูเนื้อแดงตามโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน (ครั้งที่ 2) (หมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท) ซึ่งเป็นนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ณ จุดจำหน่ายบริเวณตลาดสดเทศบาลเมืองบึงกาฬ ดังนี้
1.เขียงหมูเจ้เหล่ย
2.เขียงหมูเจ้กบ
โดยบรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนให้ความสนใจ เนื่องจากราคาถูกกว่าปกติ 50 บาท เริ่มโครงการเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2565 โดยโครงการจะสิ้นสุดในวันที่ 22 มกราคม 2565
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","บึงกาฬ","สวท.บึงกาฬ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114174937227"], [352,"พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ตรวจติดตามการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค ในพื้นที่","พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ตรวจติดตามการจำหน่ายหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ ชุดตรวจ ATK และราคาจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค
วันที่ 14 มกราคม 2565 นางพิรุณวรรณน์ จงใจภักดิ์ พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ มอบหมายให้นางสาวภัทรสุดา เกิดเกลี้ยง นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ และเจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ออกตรวจติดตามการจำหน่ายหน้ากากอนามัยในเขตอำเภอเมืองสุรินทร์ พบว่าสถานการณ์การจำหน่ายยังอยู่ในภาวะปกติ ปริมาณยังคงมีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ร้านค้าส่วนใหญ่ยังไม่มีการจำกัดปริมาณการซื้อ โดยราคาจำหน่ายหน้ากากอนามัยในท้องตลาดยังคงปกติ อยู่ในราคาที่กำหนด พบว่าขณะนี้ประชาชนให้ความสนใจในการซื้อชุดตรวจโควิด ATK มากขึ้น หน้ากากอนามัย ขนาดกล่องบรรจุ 50 ชิ้น ราคา 80-125 บาท/กล่อง เจลแอลกอฮอล์ 450 มล. ราคา 99-130 บาท/ขวด ชุดตรวจ ATK แบบน้ำลาย ราคา 95-150 บาท/ชุด แบบสวอปจมูก ราคา 95-120 บาท/ชุด
ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน และราคาจำหน่ายหน้ากากอนามัยต้องจำหน่ายไม่เกินชิ้นละ 2.50 บาท กรณีจำหน่ายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคา มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท พร้อมทั้งได้ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอุปโภค สุกรเนื้อแดง และน้ำมันพืช พบว่าขณะนี้ราคาสุกรเนื้อแดงมีการปรับตัวสูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อน ส่วนน้ำมันพืชและไข่ไก่ราคายังคงทรงตัว
ราคาจำหน่ายสุกรเนื้อแดง ณ ตลาดสด ราคา 200-240 บาท/กก. ณ ห้างสรรพสินค้า ราคา 185-252 บาท/กก.
ราคาจำหน่ายน้ำมันพืชถั่วเหลือง ราคา 54-55 บาท/ขวด 1 ลิตร ราคาจำหน่ายน้ำมันพืชปาล์ม ราคา 54-55 บาท/ขวด 1 ลิตร
ส่วนราคาไข่ไก่พบว่าราคายังคงทรงตัวอยู่ ดังนี้ ไข่ไก่ เบอร์ 0 ราคา 3.8-3.9 บาท/ฟอง ไข่ไก่ เบอร์ 1 ราคา 3.6-3.7 บาท/ฟอง ไข่ไก่ เบอร์ 2 ราคา 3.4-3.5 บาท/ฟอง ไข่ไก่ เบอร์ 3 ราคา 3.2-3.3 บาท/ฟอง ไข่ไก่ เบอร์ 4 ราคา 3.0-3.10 บาท/ฟอง
ทั้งนี้พบว่าสินค้ายังมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการ และหากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สวท.สุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114172700208"], [353,"นายกรัฐมนตรีหารือคณะผู้ประกอบการรุ่นใหม่หอการค้าทั่วประเทศ ผลักดันพลังคนรุ่นใหม่ร่วมสร้างสรรค์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ","นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย ดร.กฤษณะ วจีไกรลาศ กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นางสาวปริม จิตจรุงพร ประธานคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่หอการค้าไทย (YEC : Young Entrepreneur Chamber of Commerce) นำคณะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (YEC) ทั่วประเทศ เข้าเยี่ยมคารวะและรับทราบนโยบายจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หอการค้าไทยและหอการค้าทั่วประเทศมีบทบาทสำคัญในการเป็นภาคีของรัฐและเอกชนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมาโดยตลอด และเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ พร้อมกล่าวว่า คนรุ่นใหม่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่เทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทต่อการขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจ ขอให้คนรุ่นใหม่มาร่วมสร้างสรรค์และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยยุคใหม่ให้เดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง มุ่งเน้นให้ประชาชนเป็นส่วนขับเคลื่อนสำคัญและให้นำเทคโนโลยีแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างๆ มาประยุกต์ใช้ร่วมกัน ทั้งในด้านของการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ ให้เกิดความน่าสนใจกับแต่ละท้องถิ่น
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี รับฟังความเห็นจากผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ทั้ง 77 จังหวัด ทั่วประเทศ ในมุมมองของคนรุ่นใหม่ถึงแนวทางในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจังหวัด โดยมีเป้าหมายสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และได้มีการกลั่นกรองนำมาทั้งหมด 15 จังหวัด โดยได้นำเสนอตามยุทธศาสตร์เน้นการขับเคลื่อน โดยความร่วมมือของภาคเอกชนและการสนับสนุนจากภาครัฐ พร้อมกันนี้ขอชมเชยและให้ข้อเสนอแนะว่าให้มีการเตรียมทำแผนและข้อเสนอในเชิงลึกมากขึ้น เพื่อให้แต่ละจังหวัดนำไปปรับใช้ได้ และขอให้คำนึงถึงกลไก ความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน โดยชี้ว่าภาคเอกชนคืออีกหนึ่งกลไกที่สำคัญของประเทศ ตลอดจนตัวชี้วัด ที่จะชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จของแต่ละโครงการด้วย
","14/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114200812273"], [354,"โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียด คาดเปิดลงทะเบียนได้ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2565","
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดการดำเนินโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 อาทิ จำนวนสิทธิที่จะเข้าร่วมโครงการ วันแรกที่จะเปิดรับลงทะเบียน เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเปิดรับลงทะเบียนได้ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ส่วนวันเริ่มใช้สิทธิโครงการฯ คาดว่าจะอยู่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2565
อย่างไรก็ตาม ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับรายละเอียดของโครงการฯ ผ่านช่องทางการประชาสัมพันธ์ต่างๆ ของกระทรวงการคลังต่อไป ทั้งนี้ ตามที่ได้มีกระแสข่าวว่า จะมีการเปิดรับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ในวันที่ 16 มกราคม 2565 โดยให้ประชาชนกลุ่มเก่าที่เคยได้รับสิทธิกดยืนยันสิทธิ และให้ประชาชนกลุ่มใหม่จำนวน 5 ล้านคน ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการนั้น ไม่เป็นความจริง ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ
","14/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114202813285"], [355,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ ตรวจติดตามสถานการณ์ราคาไก่ ณ ห้างค้าปลีกและร้านค้าจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ","
วันที่ 14 มกราคม 2565 นางสาวเอื้อนจิตร ช่วยนก พาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ มอบหมายให้กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ลงพื้นที่ตรวจติดตามการจำหน่ายไก่มีชีวิตและเนื้อไก่สด ณ ห้างค้าปลีก (เทสโก้โลตัส/ แม็คโคร/เบทาโกร/ซีพี เฟรชมาร์ท) และร้านค้าจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ผลการติดตามเป็นดังนี้
ในส่วนของสถานการณ์ภาวะการค้า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ ได้ลงพื้นที่สำรวจติดตามและขอความร่วมมือกับกลุ่มผู้ประกอบการจำหน่ายไก่สด ให้จำหน่ายในราคาที่กำหนด ดังนี้
- ไก่สดรวม/ไม่รวมเครื่องใน ราคากิโลกรัมละ 60-65 บาท
- น่องติดสะโพก/น่อง/สะโพก ราคากิโลกรัมละ 60-65 บาท
- เนื้ออกไก่ ราคากิโลกรัมละ 65-70 บาท
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยลดภาระค่าครองชีพแก่ผู้บริโภคในช่วงนี้ เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตามมาตรการของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","บึงกาฬ","สวท.บึงกาฬ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114175346230"], [356,"ผู้ว่าอุบลฯ ลงพื้นที่ติดตามร้านเข้าร่วมโครงการพาณิชย์ลดราคา จำหน่ายหมูเนื้อแดงราคาถูก ช่วยลดค่าครองชีพประชาชน จากสถานการณ์ค่าครองชีพมีแนวโน้มสูงขึ้น","นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยนายทรงพล วิชัยขัทคะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่สำนักพาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี ตรวจเยี่ยมราคาหมูเนื้อแดง ที่ ร้านวี.ซี.มีท สาขาอุบลราชธานี ซึ่งเป็นร้านที่เข้าร่วมโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน โดยนำหมูเนื้อแดง จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ทั้งนี้เพื่อลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จากสถานการณ์ค่าครองชีพมีแนวโน้มสูงขึ้น
สำหรับมาตรการเกี่ยวกับหมูราคาแพงจังหวัดอุบลราชธานีร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุบลราชานี ได้ดำเนินการหาร้านเข้าร่วมโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน ซึ่งจำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 จำนวน 4 จุด ได้แก่ อำเภอเมือง และร้านทูบี พอร์ค มาร์ท (4 สาขา) สาขาตลาดดอนกลางสันติสุข สาขาถนนอุปลีสาน อำเภอเมือง สาขาตลาดวาริน และสาขาตลาดเจริญศรี อำเภอวารินชำราบ และขณะนี้กำลังประสานร้านวี.ซี.มีท เพื่อให้ช่วยขยายระยะเวลาร่วมโครงการหมูพาณิชย์ลดราค ช่วยประชาชน ! โดยจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 150 ต่อไปอีก จากเดิมถึงวันที่ 16 มกราคม 2565
นอกจากนี้ สำนักงานพาณิชย์ ส่วนกลางประสาน ได้ประสานขอความร่วมมือห้างแม็คโคร อุบลราชธานี ตรึงราคาจำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคากิโลกรัมละ 185 บาท โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 18 มกราคม 2565 ซึ่งห้างแม็คโคร สาขาอุบลราชธานี มีปริมาณจำหน่ายวันละ 2,000 กิโลกรัม
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อุบลราชธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114174138221"], [357,"ธ.ก.ส. โอนเงินประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 3 รอบที่ 1-2 เพิ่มเติม และรอบที่ 3 ","นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ (14 มกราคม 2565) ธ.ก.ส. ได้โอนเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 3 รอบที่ 1-2 เพิ่มเติม และรอบที่ 3 ให้แก่เกษตรกรจำนวน 484,609 ราย เป็นเงิน 568 ล้านบาท โดยเป็นการประกันรายได้ตามการผลิตแต่ละประเภท ได้แก่ ยางพาราแผ่นดิบคุณภาพดี ประกันราคา 60 บาท/กิโลกรัม น้ำยางสด (DRC 100%) ประกันราคา 57 บาท/กิโลกรัม และยางก้อนถ้วย (DRC 50%) ประกันราคา 23 บาท/กิโลกรัม เป้าหมายเกษตรกร 1.88 ล้านราย พื้นที่สวนยางกว่า 19.16 ล้านไร่ วงเงินงบประมาณ จำนวน 9,783.61 ล้านบาท
นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ได้โอนเงิน ตามโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 ครั้งที่ 3 แก่เกษตรกร จำนวน 62,374 ราย เป็นเงิน 490 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรจากภาระต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น รวมถึงเป็นการจูงใจให้เกษตรกรดูแลรักษาข้าวให้มีคุณภาพดี เพื่อที่จะมีโอกาสขายข้าวในราคาที่สูงและมีรายได้มากขึ้น โดยรัฐบาลสนับสนุนเงินให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 รอบที่ 1 กับกรมส่งเสริมการเกษตร ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 20,000 บาทต่อครัวเรือน เป้าหมายเกษตรกร จำนวน 4.69 ล้านครัวเรือน วงเงินงบประมาณ จำนวน 53,871.84 ล้านบาท
เกษตรกรสามารถตรวจสอบ ผลการโอนเงินได้ทางแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง และจะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่าน LINE Official BAAC Family กรณีที่ลูกค้าสมัครใช้บริการ BAAC Connect รวมถึงสามารถเบิกถอนเงินสดผ่านตู้ ATM ของ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ
เกษตรกรสวนส้ม ปรับสวนส้มเป็นการแนวท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม สร้างรายได้ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19
นายจันดี ทวีอภิรดีสถิตย์ เจ้าของสวนส้มจันทร์ทวี อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เดิมก่อนที่จะมาทำสวนส้มสายน้ำผึ้งนี้ ประกอบอาชีพเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและบริการมีลูกน้องหลายร้อยคน แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด จึงปรับตัวหันมาทำเกษตรกรรม และน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้สู้ฝันฝ่าอุปสรรค ซึ่งเมื่อก่อนตอนทำธุรกิจท่องเที่ยวสามารถสร้างรายได้วันละ 300,000 บาท ปัจจุบัน ตั้งแต่มาทำอาชีพเกษตรกรรม มีรายได้เพียงวันละ 3,000 บาท ต่อมาเหลือ 300 บาท ตนและครอบครัวจึงปรับสวนส้มที่มีอายุ 15 ปี เปิดเป็นท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมพร้อมเลือกเก็บเกี่ยวผลผลิตเองและนำมาชั่งในกิโลกรัมละ 50 บาท ในกรณีมาซื้อที่หน้าสวนจะจำหน่ายในกิโลกรัมเฉลี่ย 35 บาท ซึ่งสามารถประคองให้ผ่านช่วงวิกฤตไปได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งนักท่องเที่ยวที่สนใจจะมาเที่ยวชม หรืออุดหนุนผลผลิตทางการเกษตร สามารถติดต่อเข้าชมสวนได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอสะเมิง หรือติดต่อมาที่ตนได้เลยที่ โทร 089-759-3888
ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่มีพื้นที่ปลูกส้ม จำนวน 38,192 ไร่ อำเภอสะเมิง มีพื้นที่ปลูกส้ม จำนวน 345 ไร่ เริ่มให้ผลผลิตตั้งแต่เดือนธันวาคม-มิถุนายน 2565
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคเหนือ","เชียงใหม่","สวท.เชียงใหม่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114181539243"], [359,"รองผู้ว่าฯตรัง เปิดงานมหกรรมท่องเที่ยวชุมชนจังหวัดตรัง \"วิถีป่า วิถีนา\" เพื่อเตรียมความพร้อมของจังหวัดตรัง รองรับนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพตามวิถีใหม่","
นายภูวนัฐ สมใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีเปิดการจัดกิจกรรม มหกรรมท่องเที่ยวชุมชนจังหวัดตรัง วิถีป่า-วิถีนา เพื่อเตรียมความพร้อมของจังหวัดตรัง รองรับการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพตามวิถีใหม่ ณ โรงเรียนบ้านเขาหลัก หมู่ที่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง
ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid - 19) ส่งผลต่อเนื่องไปยังเศรษฐกิจในทุกระดับ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยวและบริการ และการจัดการรูปแบบการท่องเที่ยวจะไม่เหมือนเดิม นักท่องเที่ยวจะให้ความสำคัญกับสุขอนามัย และความปลอดภัย พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจะเปลี่ยนไป โดยเดินทางเป็นกลุ่มขนาดเล็ก
จังหวัดตรัง ได้เห็นความสำคัญเร่งด่วน จำเป็นต้องดำเนินโครงการยกระดับมาตรฐานและเตรียมความพร้อมด้านการท่องเที่ยวแบบ New Normal โดยในหนึ่งกิจกรรมนั้น คือ กิจกรรมมหกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดตรัง เพื่อเตรียมความพร้อมของจังหวัดตรัง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพตามวิถีใหม่ และเพื่อสร้างช่องทางการตลาดเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากจังหวัดตรัง ผ่านกิจกรรมการท่องเที่ยว สำหรับการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ภายใต้ชื่องาน \" วิถีป่า วิถีนา\" กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 มกราคม 2565 ณ โรงเรียนบ้านเขาหลัก หมู่ที่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง โดยความร่วมมือของกลุ่มท่องเที่ยวชุมชนวิถีป่า วิถีนา อาทิ บ้านเขาหลัก บ้านตะเหมก บ้านเขาโหรง บ้านหน้าเขา - ในวัง บ้านวังผาเมฆ บ้านในเขา บ้านนาหมื่นศรี และ บ้านนาข้าวเสีย ที่ยังคงความเป็นอัตลักษณ์ของอาหารพื้นถิ่น ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ความมีมิตรไมตรีของผู้คน และโดดเด่นเรื่องประเพณีวัฒนธรรม
สำหรับภายในงาน จัดให้มีการจำหน่ายอาหารและผลิตภัณฑ์เด่นของแต่ละชุมชน การสาธิตผลิตภัณฑ์และอาหารของชุมชน รวมถึงการแสดงบนเวที ซึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาด COVID 19 โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนต้องแสดงผลการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม งดการจัดโต๊ะรับประทานอาหารภายในงาน รวมถึงการชำระเงินสามารถจ่ายผ่านระบบออนไลน์ได้ เพื่อลดการสัมผัสระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่ง จากอำเภอเมืองตรัง องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำผุด โรงเรียนบ้านเขาหลัก กลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชนในจังหวัดตรัง และประชาชนบ้านเขาหลัก นำโดย นายสวัสดิ์ ขุนนุ้ย ผู้ใหญ่บ้านเขาหลัก
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114193505263"], [360,"จังหวัดลำพูน เปิดงาน เที่ยวลำพูน เสพงานศิลป์ ถิ่นวัฒนธรรม","จังหวัดลำพูน เปิดงาน \"เที่ยวลำพูน เสพงานศิลป์ ถิ่นวัฒนธรรม\" แอ่วสนุก สุขเบิกบาน วิถี SLOW LIFE แบบ NEW NORMAL เพื่อส่งเสริม และประชาสัมพันธ์ กิจกรรม สถานที่ ภูมิปัญญา และประวัติศาสตร์ที่สำคัญของจังหวัดลำพูน ให้เป็นที่รู้จัก
ที่สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ตำบลเวียงยอง อำเภอเมืองลำพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานเปิดงาน \"เที่ยวลำพูน เสพงานศิลป์ ถิ่นวัฒนธรรม\" กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดลำพูน ในห้วงฤดูท่องเที่ยว โดยมี นายภาษเดช หงส์ลดารมภ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นางปนัดดา เนาวรัตน์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลำพูน นายจักรกฤษณ์ เอ่งฉ้วน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชน รวมถึงบรรดานักท่องเที่ยว ร่วมพิธีและร่วมกิจกรรม จังหวัดลำพูน โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน บูรณาการร่วมกับหน่วยงาน ภาครัฐและเอกชน จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดลำพูนในห้วงฤดูท่องเที่ยว กิจกรรม \"เที่ยวลำพูน เสพงานศิลป์ ถิ่นวัฒนธรรม\" แอ่วสนุก สุขเบิกบาน วิถี SLOW LIFE แบบ NEW NORMAL จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 -18 มกราคม 2565 ภายใต้โครงการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวและบริการ เพื่อส่งเสริม สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับนักท่องเที่ยวให้รู้จักจังหวัดลำพูนในหลากหลายมิติ
สำหรับภายในงานพบกับ Winter of lights ชมแสงศิลป เสน่ห์แห่งลำพูน ด้วยประติมากรรมไฟยามค่ำคืน Tourism market การแสดงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว พร้อมสินค้าชุมชนท่องเที่ยวราคาสุดพิเศษ กว่า 30 บูธ Design & crafts สุดยอดผลงานสร้างสรรค์ทางศิลปะและหัตถกรรมพื้นถิ่นโดยศิลปินชุมชน Creative workshop สนุกสนานเรียนรู้ด้วยแรงบันดาลใจกับ DIY workshop สุดชิค, Local food อิ่มอร่อยกับอาหารพื้นถิ่นและเครื่องดื่มที่หลากหลาย เป็นต้น
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคเหนือ","ลำพูน","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114202827286"], [361,"รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดการจัดกิจกรรม มหกรรมท่องเที่ยวชุมชนจังหวัดตรัง วิถีป่า วิถีนา เพื่อเตรียมความพร้อมของจังหวัดตรังรองรับการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพตามวิถีใหม่","นายภูวนัฐ สมใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีเปิดการจัดกิจกรรม มหกรรมท่องเที่ยวชุมชนจังหวัดตรัง วิถีป่า-วิถีนา เพื่อเตรียมความพร้อมของจังหวัดตรัง รองรับการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพตามวิถีใหม่ ณ โรงเรียนบ้านเขาหลัก หมู่ที่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง
ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid - 19) ส่งผลต่อเนื่องไปยังเศรษฐกิจในทุกระดับ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยวและบริการ และการจัดการรูปแบบการท่องเที่ยวจะไม่เหมือนเดิม นักท่องเที่ยวจะให้ความสำคัญกับสุขอนามัย และความปลอดภัย พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจะเปลี่ยนไป โดยเดินทางเป็นกลุ่มขนาดเล็ก
จังหวัดตรัง ได้เห็นความสำคัญเร่งด่วน จำเป็นต้องดำเนินโครงการยกระดับมาตรฐานและเตรียมความพร้อมด้านการท่องเที่ยวแบบ New Normal โดยในหนึ่งกิจกรรมนั้น คือ กิจกรรมมหกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดตรัง เพื่อเตรียมความพร้อมของจังหวัดตรัง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพตามวิถีใหม่ และเพื่อสร้างช่องทางการตลาดเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากจังหวัดตรัง ผ่านกิจกรรมการท่องเที่ยว สำหรับการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ภายใต้ชื่องาน \" วิถีป่า วิถีนา\" กำหนดจัดขี้นระหว่างวันที่ 14-16 มกราคม 2565 ณ โรงเรียนบ้านเขาหลัก หมู่ที่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง โดยความร่วมมือของกลุ่มท่องเที่ยวชุมชนวิถีป่า วิถีนา อาทิ บ้านเขาหลักบ้านตะเหมก บ้านเขาโหรง บ้านหน้าเขา - ในวัง บ้านวังผาเมฆ บ้านในเขา บ้านนาหมื่นศรี และ บ้านนาข้าวเสีย ที่ยังคงความเป็นอัตลักษณ์ของอาหารพื้นถิ่น ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ความมีมิตรไมตรีของผู้คน และ โดดเด่นเรื่องประเพณีวัฒนธรรม
สำหรับภายในงาน จัดให้มี การจำหน่ายอาหารและผลิตภัณฑ์เด่นของแต่ละชุมชน การสาธิตผลิตภัณฑ์และอาหารของชุมชน รวมถึงการแสดงบนเวที ซึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาด COVID 19 โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนต้องแสดงผลการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม งดการจัดโต๊ะรับประทานอาหารภายในงาน รวมถึง การชำระเงินสามารถจ่ายผ่านระบบออนไลน์ได้ เพื่อลดความการสัมผัสระหว่างผู้ซื้อ และผู้ขาย การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่ง จาก อำเภอเมืองตรัง องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำผุด โรงเรียนบ้านเขาหลัก กลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชนในจังหวัดตรัง และประชาชนบ้านเขาหลัก นำโดย นายสวัสดิ์ ขุนนุ้ย ผู้ใหญ่บ้านเขาหลัก
ประกวดราคา ใช้ออกอากาศวันจันทร์ที่ 17 มกราคม 2565
","14/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114205132303"], [362,"จังหวัดนครพนม หามาตรการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะราคาสุกรที่สูงขึ้น","วันที่ 14 มกราคม 2565 เวลา 09.00 น. นายจิรวุฒิ สุวรรณอาจ พาณิชย์จังหวัดนครพนม ร่วมประชุมหารือมาตรการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะราคาสุกรที่สูงขึ้น กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ปศุสัตว์จังหวัด เกษตรและสหกรณ์จังหวัด เกษตรจังหวัด สำนักงานจังหวัด และประชาสัมพันธ์จังหวัด โดยมีนายชาญชัย คงทันรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานในที่ประชุม โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนม ได้รายงานต่อที่ประชุมว่ามีมาตรการในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะราคาสุกรที่สูงขึ้น
1. ห้ามส่งออกสุกรมีชีวิตไปนอกราชอาณาจักร ทุกกรณีเป็นระยะเวลา 3 เดือนนับตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. 2565
2. กำหนดให้ผู้เลี้ยง ผู้จำหน่าย ผู้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งครอบคลุมสุกรมีชีวิตที่มีปริมาณตั้งแต่ห้าร้อยตัวขึ้นไป และผู้ครอบครองสุกรชำแหละผ่าซีก เนื้อสุกรชำแหละแยกชิ้นส่วน ที่มีปริมาณรวมกันตั้งแต่ห้าพันกิโลกรัมขึ้นไป แจ้งปริมาณ ราคาจำหน่าย สถานที่เก็บและสถานที่เลี้ยง และจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร
3. จัด โครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน
ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 23 พ.ย. - 31 ธ.ค. 64 จำหน่ายหมูเนื้อแดง ราคากิโลกรัมละ ไม่เกิน 130 บาท จำนวน 7 จุดจำหน่าย
ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 5 - 15 ม.ค. 65 จำหน่ายหมูเนื้อแดง
ราคากิโลกรัมละ ไม่เกิน 150 บาท จำนวน 4 จุด
1) แหลมทองโภคภัณฑ์ ข้างธนาคารออมสินสาขานครพนม
2) อารีย์เนื้อหมูสด ตำบลหนองสังข์ อำเภอนาแก
3) ตุ๊ดตู่หมูสด ตำบลพิมาน อำเภอนาแก
4) กวินหมูสด ตำบลนาแก อำเภอนาแก
ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 16 - 31 ม.ค. 65 จำหน่ายหมูเนื้อแดง
ราคากิโลกรัมละ ไม่เกิน 150 บาท จำนวน 7 จุด
1) แหลมทองโภคภัณฑ์ ข้างธนาคารออมสินสาขานครพนม
2) อารีย์เนื้อหมูสด ตำบลหนองสังข์ อำเภอนาแก
3) ตุ๊ดตู่หมูสด ตำบลพิมาน อำเภอนาแก
4) กวินหมูสด ตำบลนาแก อำเภอนาแก
5) ร้านสกล ตลาดสดเทศบาลปลาปาก ตำบลปลาปาก อ.ปลาปาก
6) ร้านครูรักหมูสด ตลาดสดบ้านนาพระชัย ต.หนองแวง อ.บ้านแพง
7) ร้านปังหอมหมูสด บ้านดอนดู่ ตำบลนาทม อำเภอนาทม
","14/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","นครพนม","สวท.นครพนม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114214534335"], [363,"สุพรรณบุรี SP-Net เปิดเวทีเสวนา \"มุมมองสุพรรณบุรีโมเดลด้านการท่องเที่ยว\"","อาจารย์กิติ จารุอารยนันท์ ประธานสถาบันพัฒนาธุรกิจภูมิภาค เปิดเผยว่าสถาบันพัฒนาธุรกิจภูมิภาค โดย มูลนิธิองค์กรเครือข่ายบริการธุรกิจภูมิภาค ได้ออกแบบ และจัดทำรายการสื่อออนไลน์เพื่อชุมชนขึ้น ทุกวันศุกร์ เวลา 18.30 - 20.00 น. เพื่อให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้รับรู้ข่าวสาร และแนวทางในการรับมือ แก้ปัญหา เพื่อการดำรงชีวิตอย่างมีความสุข และยั่งยืน โดยในวันที่ 14 มกราคม 2565 ประเด็น เปิดมุมมองการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวสุพรรณบุรี มุ่งสู่ mini MICE City ที่ผนวกเข้ากับความเป็น เมืองอาหารปลอดภัย เมืองดนตรี เมืองสมุนไพร เมืองสุขภาพ และเมืองกีฬา
- การรวมเครือข่ายสร้างชุมชน บริหารโดยชุมชน เพื่อชุมชน
- สะท้อนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน สมุนไพรและของฝาก
- กลไกการมีส่วนร่วมภาคประชาชน เปิดใจรับฟัง สื่อสารที่ดี และยอมรับการเปลี่ยนแปลง
- การมีภาวะผู้นำและต่อยอดองค์ความรู้เป็นเครื่องมือสำคัญของชุมชนเข้มแข็ง
- หัวใจของคนในชุมชนคือ ความซื่อสัตย์ จัดการต้นทุนทางสังคม กำหนดธรรมนูญชุมชน นำไปสู่ผลประชนร่วมกัน
ดำเนินรายการ โดย นายกิติ จารุอารยนันท์ : ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาธุรกิจภูมิภาค
และผู้ร่วมสนทนา ประกอบด้วย
1. นายอนุศักดิ์ คงมาลัย : สมาชิกวุฒิสภา
2. คุณสุวรรณา จิวัฒนไพบูลย์ : บริษัท ซองเดอร์ ไทยออร์กานิคฟูด จำกัด
3. คุณอภิรดี อามาตย์ทัศน์ : เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสุพรรณบุรี
4. คุณอธิชา สนสารี : ประธานวิสาหกิจบ้านวังโหรา
5. นายพิสิฏฐ์ ช่างผาสุข : ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสุพรรณบุรี
6. นายกิจอุดม เสือเจริญ : สมาชิกเทศบาล ต.ศรีษะเกษ อ.นาน้อย จ.น่าน
ทั้งนี้ สามารถรับชมรายการสด และร่วมแสดงความคิดเห็น ระหว่างรายการ ได้ทาง Facebook มูลนิธิเอสพีเน็ต : https://www.facebook.com/SP.Net.Foundation/live/
https://www.facebook.com/SP.Net.Foundation/posts/4577231038956936
เฉลียว อินยิ้ม สวท.สุพรรณบุรี รายงาน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","สุพรรณบุรี","สวท.สุพรรณบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114223021338"], [364,"เริ่มแล้ว จังหวัดบุรีรัมย์จัดงาน เทศกาลภูเขาไฟกระโดง ครั้งที่ 3 เชิญนักท่องเที่ยวชมแสง สี เสียง ตำนานรักเขากระโดง 14 16 มกราคมนี้","วันนี้ (14 ม.ค.65) นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดงานเทศกาลภูเขาไฟกระโดง ครั้งที่ 3 ที่บริเวณลานปากปล่องภูเขาไฟกระโดง ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นรายได้ด้านการท่องเที่ยว พร้อมทั้งกระจายรายได้ให้ผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้า และประชาชนในพื้นที่ ภายใต้มาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มข้น โดยผู้เข้าชมงานต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทุกคน สำหรับรูปแบบการจัดงานในปีนี้คือ ปฐมบทแห่งภูเขาไฟ ซึ่งจะนำเรื่องราวเล่าขาน เรื่องเล่าทางภูมิศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ รวมไปถึงตำนานความเชื่อของจังหวัดบุรีรัมย์ ในฐานะเป็นเมืองที่มีภูเขาไฟที่ดับแล้วมากที่สุดในประเทศไทย จำนวน 6 ลูก บอกเล่าให้ผู้เข้าชมงานได้ชมผ่านรูปแบบของนิทรรศการและการแสดงแสงสีเสียง ในชื่อชุด อัปสราโชว์ อย่างยิ่งใหญ่ตระการตา พร้อมทั้งมีการจำลองการระเบิดของภูเขาไฟกระโดง ซึ่งจะมีการระเบิดทุกๆ ชั่วโมง นอกจากนั้น ทางเดินขึ้นปากปล่องภูเขาไฟระยะทางกว่า 700 เมตร ได้มีการจัดซุ้มไฟประดับแสงไฟแบล็คไลท์ สร้างสีสันให้ประชาชนที่ไปเที่ยวชมงานได้ถ่ายภาพ มีลานวัฒนธรรม ร้านค้าค้าผลิตภัณฑ์และอาหารพื้นเมือง มีร้านค้ามากกว่า 70 ร้าน ให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีก เช่น กิจกรรมบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บริเวณหน้าพระสุภัทรบพิตร กิจกรรมสวดมนต์ ปฏิบัติธรรมน้อมนำจิตใจ บริเวณลานด้านหน้าองค์พระสุภัทรบพิตรในช่วงเย็นของทุกวัน ซึ่งประชาชนและนักเที่ยวสามารถเดินทางไปร่วมทำกิจกรรม และเที่ยวชมงานได้จนถึงวันที่ 16 มกราคม 2565 ตั้งแต่เวลา 16.00 เป็นต้นไป
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","14/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","บุรีรัมย์","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220114231433345"], [365,"ตลาด อ.ต.ก. เปิดขายไข่ไก่ราคาพิเศษ เฉลี่ยฟองละ 3 บาท ช่วยภาระค่าครองชีพของประชาชน","นายปิยวุฒิ วิหงษ์ รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจการเกษตร เปิดเผยว่า ผู้บริหารองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) มีนโยบายในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน เนื่องจากการปรับตัวขึ้นของราคาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยร่วมมือกับสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ เปิดจำหน่ายไข่ไก่ราคาพิเศษราคาเดียวกับหน้าฟาร์ม จำนวน 400 ถาด โดยจำหน่ายแบบคละเบอร์บรรจุถาดละ 30 ฟอง ถาดละ 90 บาท เบอร์ 2 ถาดละ 96 บาท และเบอร์ 1 ถาดละ 102 บาท จำกัดจำนวนการซื้อคนละ 2 ถาด โดยเปิดจำหน่ายในวันนี้ตั้งแต่เวลา 10.00 น. จนกว่าจะหมด ส่วนการเปิดจำหน่ายไข่ไก่ในครั้งต่อไปทางตลาด อ.ต.ก. จะหารือร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ว่ามีปริมาณไข่ไก่เพียงพอให้นำมาจำหน่ายในราคาพิเศษอีกหรือไม่
ขณะที่ นายมาโนช ชูทับทิม นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ ยืนยันว่า ไข่ไก่มีเพียงพอ ส่วนสาเหตุที่ราคาไข่ไก่เพิ่มขึ้นในขณะนี้เนื่องจากต้นทุนราคาอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น
ปัจจุบันการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก ทั้งกลุ่มผู้ใหญ่วัยทำงานรวมไปถึงกลุ่มเด็กเยาวชนคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นภูเขา น้ำตก ทะเลหมอก ส่วนหนึ่งมาจาก สถานการณ์โควิด-19 ที่มีการแพร่ระบาดมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากในห้วงสองปีที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนงดการเที่ยวห้าง หรือสถานที่ ที่มีผู้คนหนาแน่น หาแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติ อากาศที่บริสุทธิ์
สำหรับ จ.ยะลา ต.โกตาบารู อ.รามัน เป็นพื้นที่อีกแห่งหนึ่งที่น่าจับตา ซึ่งที่นี่จะเป็นจุดเด่นหลายอย่าง ตั้งแต่การเป็นเมืองโกตาบารู ที่เก่าแก่มีประวัติมากมาย ชุมชนพหุวัฒนธรรม ภูมิปัญญาอาหารพื้นถิ่น และอีกมากมาย รวมไปถึง สภาพพื้นที่ภูเขาป่าธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์ ทำให้การท่องเที่ยวอย่างจุดชมวิวทะเลหมอกเขาโต๊ะนิ กำลังเป็นที่นิยมของผู้ที่ชื่นชอบเป็นอย่างมาก
โดยจะมีประชาชน แวะเวียนขึ้นไปตั้งแคมป์ เพื่อรอชมหมอกในช่วงเช้าและพระอาทิตย์ตกในช่วงค่ำอยู่บ่อยครั้ง หลายคนที่มาจากทั้งในพื้นที่ จ.ยะลา และพื้นที่ใกล้เคียง ที่ได้ขึ้นมาตั้งเต้นท์พักแรมค้างคืน ต่างก็ได้สัมผัสกับความสวยงามของทะเลหมอก ดูพระอาทิตย์ขึ้น และตก วิวภูเขาที่โอบล้อมด้วยผืนป่า เห็นเมืองแสงระยิบระยับยามค่ำคืน โดยบอกว่า ประทับใจกับความสวยงามของที่นี่มาก และไม่ลืมที่จะเก็บภาพความทรงจำที่ครั้งหนึ่ง ได้มาสัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้ ขณะที่ เส้นทางการขึ้นสู่จุดชมวิวนั้นในช่วงแรกที่กำลังเริ่มปรับปรุงก็จะต้องเดินทางด้วยรถโฟวิล ขับเคลื่อน 4 ล้อขึ้นไป สู่จุดตั้งเต้นท์ และ ยอดเขาโต๊ะนิซึ่งจะมีทางเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้
นายมาหะมะรอยี แวหะมะ นายกเทศมนตรี ต.โกตาบารู บอกว่า ทางเทศบาล โกตาบารู มีนโยบายในการสนับสนุนการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ ท่องเที่ยวพหุวัฒนธรรม เนื่องจากโกตาเป็นเมืองเก่า มีสตอรี่มากมาย มีธรรมชาติ ภูเขา ที่สามารถพัฒนาสู่การท่องเที่ยวเชิงพหุวัฒนธรรม เป็นเมืองรองท่องเที่ยวธรรมชาติ ซึ่งอนาคตอาจจะเป็นแลนด์มาร์คใหม่ จ.ยะลา และจะทำให้ อปท.โกตาบารู เข้มแข็งพึ่งตนเอง ได้เมื่อมีท่องเที่ยวเกิดขึ้นเศรษฐกิจชาวบ้านก็จะดี
สำหรับเขาโต๊ะนิจุดเด่นก็จะมีทะเลหมอกเยอะในช่วงเช้า 6-7 โมง ยามค่ำคืนจะเห็นดาวบนดิน เมืองยะลาทั้งเมือง พูดได้ว่าเป็นการหยิบหมอกหยอกตะวันได้เลย
ทางด้าน นายมาหามะรอซาลี บือแน ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ การปกครองท้องถิ่น ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกร่วมกับเพื่อน ได้เล่าให้ฟังว่า เริ่มแรกเมื่อก่อนตนเอง มาซื้อบ้านพัก ปลูกบ้านอยู่ ตอนนั้นยางยังราคา 80 บาท ชาวบ้านก็ไม่ได้ขายที่ให้ พอช่วงหลังยางราคาต่ำก็เลยมาขายที่แปลงนี้ให้ 200 ไร่ ที่ได้นำมาพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ช่วงแรกก็เป็นเฉพาะกลุ่มของตนเอง และเพื่อนๆ ที่มาเที่ยว คนนอกก็เข้ามาชมวิว บอกว่าวิวสวยดี เอาอาหาร นำขยะมา เราก็ต้องจ้างเด็ก มาเก็บ ก็เลยได้แนวคิดที่จะทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่ก็ต้องเก็บเงิน เพื่อใช้จ่ายเป็นค่าไฟ ค่าน้ำ และค่าอื่นๆ ที่นี่จะมีหมอกให้ดูทั้งปี ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับ สภาพอากาศ ธรรมชาติ บางวันน้อย บางวันมาก ดูได้ 360 องศา ตอนแรกจะมาพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเล็ก ๆ อยากสร้างรายได้ให้ท้องถิ่น ขายสินค้าออนไลน์ ทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวภูเขา ธรรมชาติ
ซึ่งบางคนบอกว่า จะทำแหล่งท่องเที่ยวต้องใช้เงิน 200-300 ล้านบาท เนื้อที่รวมก็มากประมาณ 1,000 ไร่ เราก็ไม่มี ก็เลยได้ทำเอ็มโอยูร่วมกับชาวบ้านเจ้าของที่ จะมาร่วมกันพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบบ้านๆ ไม่ต้องหรูหราอลังการอะไร ช่วงหลัง ก็ได้หน่วยงานภาครัฐ มาร่วมสนับสนุน และได้ทำ เอ็มโอยู ร่วมกัน หน่วยงานภาครัฐ เทศบาลอำนวยความสะดวก ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ธรรมชาติ ดูแลเรื่องโควิด ด้วย ส่วนค่าใช้จ่ายถ้าเปิดแล้วที่พักก็จะมีหลายระดับ หลายราคา ตั้งแต่เต้นท์ ราคา 150 บาท ไปจนถึงผู้ใหญ่ นักธุรกิจ ที่พัก ที่จะมีหลายราคาตั้งแต่ 5,000 บาท ไปจนถึง 10,000 บาท สำหรับผู้ที่สนใจ ก็สามารถติดต่อได้ที่ทางเฟสบุ๊ค ธารทองดิสคัฟเวอรี่ 081-5417400
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","15/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220115073936353"], [367,"ทีพีไอ โพลีน พาวเวอร์ เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียโครงการกําจัดขยะมูลฝอย อบจ.สงขลา รอบที่ 2 สำหรับพื้นที่ ต.เขารูปช้าง ต.ทุ่งหวัง และ ต.พะวง พร้อมนำข้อห่วงใยพิจารณากำหนดมาตรการป้องกัน และลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด","
ทีพีไอ โพลีน พาวเวอร์ เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียโครงการกําจัดขยะมูลฝอยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา รอบที่ 2 สำหรับพื้นที่ตำบลเขารูปช้าง ตำยบทุ่งหวัง และตำบลพะวง พร้อมนำข้อห่วงใยพิจารณากำหนดมาตรการป้องกัน และลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด
วันนี้ (15 ม.ค. 65) ที่โรงแรม บี.พี. สมิหลา บีชฯ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายพนมเทียน เส้งวั่น ท้องถิ่นจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดเวทีจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย โครงการกําจัดขยะมูลฝอยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา โดยการแปรรูปเป็นพลังงานไฟฟ้าของบริษัท ทีพีไอ โพลีน พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) รอบที่ 2 สำหรับพื้นที่ตำบลเขารูปช้าง ตำบลทุ่งหวัง และตำบลพะวง ซึ่งอยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตรโดยรอบโครงการฯ
ทั้งนี้ ได้จัดเวทีรอบที่ 1 ไปแล้ว เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา สำหรับพื้นที่ตำบลเกาะแต้ว และบางส่วนของตำบลนาทับ อำเภอจะนะ ซึ่งในวันนี้มี นายไชยพร นิยมแก้ว นายอำเภอเมืองสงขลา พร้อมด้วยนางสาวปรินดา ปาราเล่ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ในฐานะผู้แทนนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นายศิริชัย เอกพันธ์ รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นายปรีชัย มาละวรรณโณ ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นางสาวภพภร ทองคณารักษ์ ผู้อำนวยการกองผังเมืององค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นายจักรธร สุริแสง นายกเทศมนตรีเมืองเขารูปช้าง เข้าร่วมรับฟังการดำเนินโครงการฯ และมี นายรอเซ็ง ไหรเจริญ นายกเทศมนตรีตําบลเกาะแต้ว และประธานคณะกรรมการดำเนินการรับฟังความคิดเห็นฯ กล่าวรายงาน
ผู้บริหารจากบริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) นำโดยนายนราดล ตันจารุพันธ์ ผู้ช่วยรองผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วยนายอนุสรณ์ สมัยมาก ผู้จัดการโครงการฯร่วมกับบริษัทที่ปรึกษา บริษัท ซีเอ็มเอส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด ร่วมกันตอบข้อซักถาม ชี้แจงข้อห่วงกังวลจากที่ประชุม โดยที่ประชุมได้มีการสอบถามถึงผลกระทบของโครงการแปรรูปขยะเป็นพลังงานไฟฟ้าดังกล่าว ทั้งด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม ด้านเส้นทางและปริมาณการขนส่งขยะ ด้านการระบายน้ำ เป็นต้น ทางบริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ได้ให้ความมั่นใจถึงมาตรการป้องกันแก้ไข และลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างเคร่งครัด ซึ่งมีหลายส่วนที่จะร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนาในด้านต่าง ๆ ที่ชุมชนเป็นห่วงกังวลด้วย
นายนราดลฯ ผู้ช่วยรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีไอ โพลีนฯ กล่าวว่า นอกจากการนำข้อเสนอแนะ และข้อห่วงกังวลทั้งหมดของประชาชนที่ได้รับในวันนี้ไปพิจารณาประกอบการกำหนดมาตรการอย่างเข้มงวดแล้ว กระบวนการติดตามตรวจสอบต้องเป็นไปอย่างเปิดเผย โปร่งใส และมีส่วนร่วมตามหลักธรรมาภิบาล อันเป็นนโยบายการประกอบกิจการอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ ตลอดมาอยู่แล้ว
วานนี้ (14 ม.ค 65) นายศิริวัฒน์ บุปฝาเจริญรองผู้ว่าราชการจังหวัด และนางสาวยุพา นาคา พาณิชย์จังหวัด สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้แทน สคบ.จังหวัดแม่ฮ่องสอน และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่าง ๆ ในจังหวัด ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายเนื้อหมู เนื้อไก่สด ไข่ไก่ และการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าดังกล่าว ณ ตลาดสดเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน (ตลาดสายหยุด) พบว่าสถานการณ์ราคาและการจำหน่าย ราคาหมูเนื้อแดง (ไหล่และสะโพก) ราคา 200 - 220 บาท/กิโลกรัมราคาเนื้อไก่ (เนื้ออกไก่) 90 บาท/กิโลกรัม (น่องไก่ติดสะโพก) 80 บาท/กิโลกรัม ราคาไข่ไก่ (เบอร์ 2) 105 บาท/แผง (ฟองละ 3.50 บาท) และไข่ไก่ (เบอร์ 3) 95 บาท/แผง (ฟองละ 3.17 บาท)
ในส่วนของปริมาณสินค้า มีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคในจังหวัดแม่ฮ่องสอน
นอกจากนี้ ร้านค้าได้ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายชัดเจน และจำหน่ายตรงตามราคาที่แสดงไว้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้กำชับให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 อย่างเคร่งครัด โดยให้ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าให้ชัดเจน ห้ามจำหน่ายสินค้าในราคาแพงเกินสมควร ห้ามกักตุนหรือปฏิเสธการจำหน่ายสินค้า
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","15/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220115104136366"], [369,"พาณิชย์จังหวัดลำปาง ติดตาม โครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน มีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการฯ 2 ราย 7 แห่ง","นางสาวเยาวเรศ แซ่โค้ว พาณิชย์จังหวัดลำปาง พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจฯ ลงพื้นที่ตรวจติดตามการจำหน่ายเนื้อหมูตามโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ณ ร้านหมูอินเตอร์ สาขาตลาดต้นยางอำเภอเมืองลำปาง ซึ่งร้านค้าได้จำหน่ายเนื้อแดงราคากิโลกรัมละ 150 บาท โดยจำหน่ายระหว่างวันที่ 13 - 31 มกราคม 2565 ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป
ทั้งนี้ จังหวัดลำปางมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน จำหน่าย เนื้อแดงราคากิโลกรัมละ 150 บาท จำนวน 2 ราย จุดจำหน่าย 7 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท เอสเค อินเตอร์ฟู้ด จำกัด จำนวน 2 สาขาได้แก่ ร้านหมูอนามัย เอสเคอินเตอร์ฟู๊ด สาขาลำปาง และร้านหมูอนามัย เอสเคอินเตอร์ฟู๊ด สาขาเถิน โดยจุดจำหน่ายทั้ง 2 จุด จะจำหน่ายหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป จำกัดคนละไม่เกิน 2 กิโลกรัม และบริษัท หมูอินเตอร์กรุ๊ป จำกัด จำนวน 5 สาขา ได้แก่ ร้านหมูอินเตอร์ สาขาตลาดต้นยาง, ร้านหมูอินเตอร์ สาขาน้ำโท้ง, ร้านหมูอินเตอร์ สาขาเกาะคา, ร้านหมูอินเตอร์ สาขาแม่เมาะ และร้านหมูอินเตอร์ สาขาล้อมแรด โดยจุดจำหน่ายทั้ง 5 จุด จะจำหน่ายตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งผู้ซื้อจะได้รับคูปองเพื่อนำไปเป็นส่วนลดในการซื้อหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ150บาท คูปอง 1 ท่านต่อ1 สิทธิ์ต่อวัน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","15/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สวท.ลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220115105032372"], [370,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพะเยา จัดโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน (ครั้งที่ 3) หมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 150บาท รวมจำนวน 9 จุด ใน 3 อำเภอ","นางศุภมิตร เต็งเผ่ พาณิชย์จังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาหมูที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคา ณ ปัจจุบัน หมูเนื้อแดงในหลายพื้นที่ ราคาพุ่งสูงกว่า 200 บาท/กิโลกรัม ทั้งนี้เกิดจากปัจจัยต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูง โดยบางพื้นที่ราคาหน้าเขียงขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 200-220 บาท รวมทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้กระทรวงพาณิชย์ ต้องหามาตรการแก้ไขปัญหาราคาเนื้อหมู พร้อมทั้งให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ได้มีการประสานกับร้านค้า นำเนื้อหมูมาจำหน่ายในราคาประหยัด เพื่อลดราคาช่วยประชาชน ตามโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพะเยา โดยกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ดำเนินโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน (ครั้งที่ 3) หมูเนื้อแดงราคากิโลกรัมละ 150 บาท เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 16 31 มกราคม 2565 ณ ร้านหมูอินเตอร์ อำเภอเมืองพะเยา , ร้านอร่อยดี By KK อำเภอเมืองพะเยา , ร้านอำนวยหมูสด อำเภอเมืองพะเยา , ร้านลุงเปลี่ยน อำเภอเมืองพะเยา , ร้านป้าน้อง อำเภอเมืองพะเยา , ร้านหมูสยามฟาร์ม อำเภอแม่ใจ , ร้านหมูอนามัยพรพิมล อำเภอแม่ใจ , หมูอนามัยบ้านบัว อำเภอดอกคำใต้ , และหมูอนามัยพัชรภรณ์ อำเภอดอกคำใต้ รวมจำนวน 9 จุด (จำกัดคนละไม่เกิน 1 กิโลกรัม) เพื่อให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด เป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","15/1/2022","ภาคเหนือ","พะเยา","สวท.พะเยา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220115112124387"], [371,"FTA ส่งผลให้ตัวเลขการใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA 10 เดือนแรก ปี 2564 ขยายตัว 31.67% มูลค่าส่งออกกว่า 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ","นายกฯ ชื่นชมทุกหน่วยงานที่มีส่วนผลักดันความตกลง FTA ส่งผลให้ตัวเลขการใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA 10 เดือนแรก ปี 2564 ขยายตัว 31.67% มูลค่าส่งออกกว่า 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
นายธนกร วังบุญคงชนะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบตัวเลขการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลง FTA เดือนมกราคมตุลาคม 2564 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 31.67% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยทำให้มีมูลค่าการส่งออกถึง 63,104.43 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีสัดส่วนการใช้สิทธิ สูงถึง 78.51% นายกรัฐมนตรีชื่นชมการทำงาน และขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ร่วมมีส่วนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจนสามารถทำให้ตัวเลขการส่งออกสูงถึงกว่า 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เชื่อมั่นว่าการทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการของรัฐบาลจะส่งผลสำคัญต่อสำเร็จในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างแน่นอน
สำหรับการใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA นั้น มีการใช้สิทธิเพิ่มขึ้นทุกตลาด และตลาดที่มีมูลค่าการใช้สิทธิ FTA สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
อันดับ 1 อาเซียน (มูลค่า 21,539.08 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยตลาดส่งออกสำคัญของอาเซียนคือ เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์
อันดับ 2 จีน (มูลค่า 21,372.57 ล้านเหรียญสหรัฐ)
อันดับ 3 ออสเตรเลีย (มูลค่า 6,891.79 ล้านเหรียญสหรัฐ)
อันดับ 4 ญี่ปุ่น (มูลค่า 5,784.20 ล้านเหรียญสหรัฐ) และอันดับ
5 อินเดีย (มูลค่า 3,990.80 ล้านเหรียญสหรัฐ)
ทั้งนี้ ยังไม่รวมถึงความตกลง Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP ซึ่งเป็นความตกลงใหม่ที่รัฐบาลไทยโดยนายกรัฐมนตรีผลักดันการเจรจาในวาระที่ไทยเป็นประธานการประชุมสุดยอดอาเซียน เมื่อปี 2562 และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งรวมทั้งสิ้นแล้ว ประเทศไทยมี FTA ที่มีผลบังคบใช้แล้วรวมทั้งสิ้น 14 ฉบับ
ผลสำเร็จจากการเติบโตทางการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ เกิดจากการทำงานอย่างจริงจัง ตั้งใจของรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้วางนโยบาย และกำกับดูแลเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศ ผลักดันการส่งออกในเวทีระหว่างประเทศ และเพื่อเป็นโอกาสในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในช่วงก้าวข้ามผ่านความท้าทายที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ
Cr#สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 2
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","15/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อำนาจเจริญ","สวท.อำนาจเจริญ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220115112724392"], [372,"พาณิชย์ลำพูน จัดต่อเนื่อง! ถ่ายทอดสดออนไลน์ Taobao Live ขายผลิตภัณฑ์จังหวัดลำพูน ให้ชาวจีน ขยายช่องทางการตลาดสู่สากล","ว่นนี้ (14 มกราคม 2565) ที่ผ่านมา นางสาวปทุม กาวิละ นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำพูน ติดตามการประชาสัมพันธ์การตลาดบนช่องทางออนไลน์ Taobao Live โดย influencer ชาวจีน ให้กับสินค้าของผู้ประกอบการหัตถอุตสหกรรมของจังหวัดลำพูน และผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์จังหวัดลำพูน (Lamphun Brabd) ภายใต้โครงการพัฒนาหัตถอุตสาหกรรมหริภุญชัยสู่นวัตกรรมสร้างสรรค์ ปี 2564 ณ ถนนคนเดินลำพูน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
โดยการประชาสัมพันธ์ในครั้งนี้ มีชาวจีนให้ความสนใจสินค้าจังหวัดลำพูน กว่า 1,000 คน ผ่านไลฟ์สด Taobao Live ซึ่งสินค้าเด่นที่ชาวจีนให้ความสนใจสั่งซื้อ ลำดับ 1 รองเท้าจากผ้าฝ้าย ลำดับ 2 ยาหม่อง ยาสมุนไพร ลำดับ 3 กาแฟสด และยังให้ความสนใจสอบถามรายละเอียดสินค้าอื่นๆ อีกหลายรายการ ซึ่งการประชาสัมพันธ์ครั้งนี้ ได้สร้างการรับรู้ เผยแพร่ผลิตภัณฑ์จังหวัดลำพูนได้อย่างกว้างขวางให้ชาวจีนได้รู้จักยิ่งขึ้นแล้ว ยังสร้างโอกาสทางการค้าสู่สากลให้ผู้ประกอบการจังหวัดลำพูน ซึ่งครั้งที่เป็นครั้งที่ 2 และครั้งต่อไป จะมีการไลฟ์สดในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 15-16 มกราคม 2565 ณ ตลาดต้องชมบ้านดอนหลวง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","15/1/2022","ภาคเหนือ","ลำพูน","สวท.ลำพูน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220115133927440"], [373,"อำเภอน้ำหนาว จัดจำหน่ายสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์ชุมชน เพิ่มช่องทางการตลาด","วันที่ 15 มกราคม 2565 ณ หน้าที่ว่าการอำเภอน้ำหนาว นายวีระวัฒน์ วัฒนวงศ์พฤกษ์ นายอำเภอน้ำหนาว มอบหมายให้ นายทองจันทร์ เเล้วเพิ่ม พัฒนาการอำเภอน้ำหนาว ร่วมกับส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น จัดจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชน ผลผลิตทางการเกษตรและของดีอำเภอน้ำหนาว ณ หน้าที่ว่าการอำเภอน้ำหนาว
สำหรับกิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาด รองรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน และประชาสัมพันธ์ของดีอำเภอน้ำหนาว กระจายรายได้สู่ชุมชน ในระยะแรกกำหนดจัดร้าน จำหน่ายของดีอำเภอน้ำหนาวในวันเสาร์ถึงวันอาทิตย์ ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร้านค้า และนักท่องเที่ยว ได้ปฏิบัติตามมาตรการ DMHTTA อย่างเคร่งครัด และการดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","15/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","เพชรบูรณ์","สวท.เพชรบูรณ์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220115134736442"], [374,"รัฐบาลบูรณาการทุกหน่วยงานเร่งแก้ไขปัญหาค่าครองชีพสูง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงาน ว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงานบูรณาการแก้ปัญหาสินค้าโภคภัณฑ์อาหารปรับตัวสูงขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะ อาหารสด ไม่ว่าจะเป็น เนื้อหมู เนื้อไก่ และ ไข่ไก่ เป็นต้น
ด้านกรมการค้าภายในได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบร่วมกัน กำหนดราคาจำหน่ายไก่มีชีวิตหน้าฟาร์ม และราคาจำหน่ายปลีกชิ้นส่วนไก่สด เป็นระยะเวลา 6 เดือนนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 เป็นต้นไป โดยสิ้นสุดในเดือนมิถุนายน 2565
สำหรับราคาไก่ : ราคาจำหน่ายไก่สดมีชีวิต จำหน่ายในราคา 33.50 บาทต่อกิโลกรัม , ไก่สด รวมเครื่องในและไม่รวมเครื่องใน จำหน่าย 60-65 บาทต่อกิโลกรัม , น่องติดสะโพก น่อง สะโพก จำหน่าย 60-65 บาทต่อกิโลกรัม , เนื้ออก จำหน่าย 65-70 บาทต่อกิโลกรัม
ราคาไข่ไก่ : จะมีการหารือสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่และกรมปศุสัตว์ เพื่อหารือโครงสร้างต้นทุนการเลี้ยง ผลผลิต และการประกาศปรับราคาไข่คละเป็น 3 บาทต่อฟองนั้น สมเหตุสมผลหรือไม่ ซึ่งจากข้อมูลต้นทุนเลี้ยงไข่ไก่อยู่ที่ 2.85 บาทต่อฟอง ทั้งนี้จะขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึงราคาเพื่อลดผลกระทบต่อผู้บริโภค
ราคาเนื้อหมู : ในส่วนของราคาเนื้อหมู กรมการค้าภายใน ได้จำหน่ายหมูราคาถูกผ่าน โครงการพาณิชย์ลดราคาหมู ออกไปถึงสิ้นเดือนมกราคม 2565 นี้ โดย กรุงเทพฯ มีจุดขายหมู กก.ละ 150 บาท ทั้งหมด 116 จุด แยกเป็นรถโมบายตระเวนตามพื้นที่ต่าง ๆ 50 คัน และตั้งจุดจำหน่ายอีก 50 จุด , ส่วนต่างจังหวัดมี 551 จุด รวมเป็นทั้งหมด 667 จุด เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนสามารถซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาดได้
ปัจจัยที่ทำให้หมูมีราคาแพง คือ การเกิดการระบาดของโรคในสุกร โรคพีอาร์อาร์เอส (PRRS) โรคระบบสืบพันธุ์ทางเดินหายใจ ในสุกร (โรคติดต่อ) โรคท้องร่วงติดต่อในสุกร (PED) โรคอหิวาต์ในสุกร (Classical Swine Fever : CSF) และโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ( African Swine Fever : ASF) การเกิดโรคระบาดต่าง ๆ ทำให้สุกรแม่พันธุ์เสียหายมากถึง 40% จากจำนวน 1.1 ล้านตัว เหลือเพียง 6.6 แสนตัว ส่งผลต่อเนื่องถึงปริมาณผลผลิตสุกรขุนปรับลดลงถึง 30% จากปี 2563 จากที่เคยมีจำนวนสุกรประมาณ 18-19 ล้านตัว/ปี เหลือเพียง 14.7 ล้านตัว/ปีเท่านั้น อีกทั้งยังทำให้ต้นทุนการเลี้ยงต่อตัวเพิ่มขึ้นอีกด้วย
แนวทางการแก้ปัญหาของภาครัฐ จัดเตรียมมาตรการ 3 ระยะเพื่อแก้ไขปัญหา มาตรการเร่งด่วน : การห้ามส่งออกหมูมีชีวิตเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2565 ถึง วันที่ 5 เมษายน 2565 เพื่อเพิ่มปริมาณเนื้อหมูภายในประเทศ , การช่วยเหลือด้านราคาอาหารสัตว์ โดยเฉพาะส่วนที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ เช่น การงดเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมหรือภาษี , การเร่งสำรวจภาพรวมสถานการณ์การผลิตสุกร เพื่อกำหนดพื้นที่เป้าหมายและมาตรการที่เหมาะสม พร้อมเพิ่มกำลังการผลิตแม่สุกรทดแทน เร่งกระจายแม่พันธุ์และลูกสุกรขุนให้กับรายย่อยที่ต้องการกลับเข้ามาสู่ระบบใหม่ กำหนดโซนเลี้ยงและออกมาตรการบังคับใช้อย่างเหมาะสมเพื่อควบคุมโรค และเร่งรัดการวิจัยพัฒนาวัคซีนป้องกันโรค
มาตรการระยะสั้น : การส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ การขยายกำลังผลิตแม่สุกร สนับสนุนศูนย์วิจัยและบำรุงสัตว์ ในสังกัดกรมปศุสัตว์และเครือข่ายคู่ขนานกับฟาร์มเกษตรกรและภาคเอกชน เร่งเดินหน้าการศึกษาวิจัยยาและสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อลดความสูญเสียจากโรคระบาด
มาตรการระยะยาว : กระทรวงเกษตรฯ จะผลักดันการยกระดับมาตรฐานฟาร์มของเกษตรกรเพื่อป้องกันโรคระบาด ส่งเสริมให้ปรับปรุงเป็นฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม (GFM) มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่ามาตรฐานฟาร์ม GAP ซึ่งจะเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรกลับมาเลี้ยงสุกรใหม่และเพิ่มปริมาณการผลิตหมูให้เพียงพอต่อความต้องการบริโภค , สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กู้ยืมจาก ธ.ก.ส. ในโครงการสานฝันสร้างอาชีพ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ เร่งขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยเพื่อช่วยเหลือให้เข้าถึงแหล่งสินเชื่อได้ง่ายและสะดวกรวดเร็ว รวมทั้งการรวมกลุ่ม สนับสนุน และหาตลาดในราคาที่เกษตรกรอยู่ได้อย่างดี
ราคาก๊าซ : ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติเห็นชอบการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซ LPG โดยให้คงราคาไว้ที่ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ไปถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565 แม้ว่าราคาก๊าซหุงต้ม หรือก๊าซ LPG ตลาดโลกที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดย ณ วันที่ 5 มกราคม 2565 อยู่ที่ 682.90 เหรียญสหรัฐต่อตัน เทียบได้กับราคาขายปลีกก๊าซ LPG ที่ 412 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","15/1/2022","ภาคเหนือ","แพร่","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220115143851472"], [375,"อุบลฯ เปิดตลาดนัด สินค้า-อุปโภค บริโภค ราคาประหยัด ทุกวันเสาร์ ณ ลานขวัญเมือง เพื่อบรรเทาค่าครองชีพของประชาชน","( 15 ม.ค.65) นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ตรวจติดตาม เยี่ยมให้กำลใจ ผู้ประกอบการ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี เกษตรกร และเครือข่ายโคก หนอง นา ที่เข้าร่วมโครงการตลาดนัดเพื่อจำหน่ายสินค้า อุปโภค บริโภค ราคาประหยัด นำสินค้า อุปโภค-บริโภค ไข่ไก่ ผักสด เนื้อหมู และอาหาร จำหน่ายให้กับประชาชน ราคาถูก โดยเปิดจำหน่าย ทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 10.00 - 14.00 น. ณ บริเวณลานขวัญเมือง ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีหลังเก่า อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ทั้งนี้เพื่อบรรเทาค่าครองชีพของประชาชน ในสถานการณ์ปัจจุบัน และยังเป็นการเปิดโอกาสให้เกษตรกร กลุ่มเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ ได้จำหน่าย พืช ผัก สร้างรายได้ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกด้วย
สำหรับมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาเนื้อหมูราคาแพง ปัจจุบันนี้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี ได้ประสานห้างแม็คโคร จำหน่ายเนื้อหมู ราคากิโลกรัม ละ 185 บาท ต่ำกว่าราคาทั่วไป โดยจำหน่าย 2,000 กิโลกรัม ต่อวัน โดยเบื้องต้นจำหน่ายไปจนถึงวันที่ 18 มกราคม 2565 นี้
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","15/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อุบลราชธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220115153143479"], [376,"เอนกเปิดตัว 4 เสือ อว. สำนักปลัด - วช. - วศ. - ปส. รวมพลังสร้างโมเดลใหม่ในการปฏิรูปหน่วยงานราชการ นำร่อง สตูล ร่วมพัฒนา สตูลจีโอพาร์ค อุทยานธรณีโลกแห่งแรกแห่งเดียวของประเทศไทยให้เป็นแหล่งรายได้สำคัญของจังหวัด","วันนี้ (15 ม.ค. 65) ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัด อว. ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผอ.สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) และนายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ลงพื้นที่ เปิดตัวสี่เสือกับเครือข่าย ณ สตูล โดยเป็นครั้งแรกในการรวมพลังของ 4 หน่วยงานราชการของ อว. มาร่วมพัฒนา จ.สตูล ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา วิทยาเขตสตูล
ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เปิดเผยว่า การเปิดตัว 4 เสือที่ จ.สตูล ถือเป็นครั้งแรกในการนำ 4 หน่วยงานราชการของ อว. ได้แก่ สำนักงานปลัด อว. - วช. - วศ. - ปส. มาร่วมกันพัฒนาพื้นที่ จ.สตูล ซึ่งถือเป็นจังหวัดนำร่องในการนำ 4 เสือมาสร้างโมเดลใหม่ในการปฏิรูปหน่วยงานราชการให้คิดใหม่ ทำใหม่ ก้าวสู่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อพาชาวสตูลทะยานสู่การเป็นอีกจังหวัดเศรษฐกิจสำคัญของพื้นที่ภาคใต้ โดยหลังจากนี้ ตนได้มอบหมายให้ปลัด อว. หารือในรายละเอียดกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล และให้ดำเนินการทันที พร้อมกับบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวทั้งหมด โดยเฉพาะการเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา สตูลจีโอพาร์ค อุทยานธรณีโลกแห่งแรกแห่งเดียวของประเทศไทย ให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยใช้องค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของ อว. เพื่อให้เป็นความภาคภูมิใจของประเทศ และเป็นแหล่งรายได้สำคัญของจังหวัดและชุมชน
ด้าน ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อว. มี 3 ภารกิจหลัก คือ การสร้างคน สร้างองค์ความรู้ และสร้างนวัตกรรม ล่าสุดที่เพิ่มเติมเข้ามา คือ มิติของการพัฒนา เช่น โครงการ อว.ส่วนหน้า ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของ อว. ประจำแต่ละจังหวัด ซึ่งจะต้องทำงานร่วมกับทางจังหวัด โดยเฉพาะในเรื่องของการพัฒนา เป็นหน่วยงานที่รับประเด็นปัญหาที่มีความจำเป็นเร่งด่วนของจังหวัด เพื่อประสานงานกับ อว. และนำศักยภาพและสิ่งที่ อว. มีมาช่วยแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ โดยยึดนโยบายของท่านรัฐมนตรีที่ให้เอาผลสำเร็จเป็นตัวตั้งและกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน เช่น โจทย์ในวันนี้ คือ สตูลจีโอพาร์ค ที่อว.จะเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนากับทางจังหวัด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีเป้าหมายคือการสร้างการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ทำให้เป็นที่เชิดหน้าชูตาของประเทศ และเป็นแหล่งรายได้ของคนในพื้นที่
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","15/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220115160115486"], [377,"จังหวัดเชียงใหม่ ขยายระยะเวลาโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคาช่วยประชาชน ระยะที่ 2 เริ่ม 16 31 มกราคม 2565","พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เผย ขยายระยะเวลาโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคาช่วยประชาชน ระยะที่ 2 เริ่ม 16 - 31 มกราคม 2565 จัดหมูแดงราคากิโลกรัมละ 150 บาท วันละ 600 กิโลกรัม จำหน่ายในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ สันกำแพง และอำเภอสันทราย รวม 10 จุด
นางพนิดา วานิชรัตน์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่ ขยายระยะเวลาโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคาช่วยประชาชน ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่เริ่มโครงการนี้มาตั้งแต่วันที่ 1 - 15 มกราคม 2565 โดยเปิดจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดงราคากิโลกรัมละ 150 บาท ให้แก่ประชาชน 4 จุด และทำการขยายระยะเวลาโครงการระยะที่ 2 โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ถึงวันที่ 31 มกราคม จัดหมูเนื้อแดงราคากิโลกรัมละ 150 บาท วันละ 600 กิโลกรัม กระจายไปตามจุดจำหน่ายในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอสันกำแพง และ อำเภอสันทราย รวม 10 จุด เพื่อลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากราคาเนื้อสุกรปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ ได้กำหนดจัดตลาดนัด ไทยช่วยไทย คนไทย ยิ้มได้ ในระหว่างวันที่ 17 - 19 มกราคม 2565 ตั้งแต่เวลา 08.00 -15.00 น. ที่บริเวณตลาดประชารัฐ ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยจะมีสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด ข้าวสาร อาหารแห้ง พืชผัก เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ มาจำหน่ายในราคายุติธรรม และในวันที่ 17 มกราคม 2565 เวลา 11.00 - 11.30 น. เต็นท์ของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ จะมีช่วงโปรโมชั่นจำหน่ายไข่ไก่ จำนวน 5,000 ฟอง ฟองละ 1 บาท
พิมลกัลย์ เดชะชัย สวท. เชียงใหม่
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","15/1/2022","ภาคเหนือ","เชียงใหม่","สวท.เชียงใหม่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220115173426500"], [378,"ผักสดขอนแก่น ราคาลดลงแล้ว ลูกค้าแห่ซื้อคึกคักรับวันสุดสัปดาห์ ขณะที่พ่อค้า-แม่ค้า วอนรัฐแก้ไขปัญหาหมู-ไก่-ไข่ แพง โดยด่วน","การเลือกซื้อสินค้าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ตลาดสดบางลำภู เขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยพบว่าวันนี้ร้านจำหน่ายผักสดแทบทุกแผงมีการปรับชนิดราคาลงเมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา ท่ามกลางการเลือกซื้อของลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย ที่ต่างทยอยกันมาใช้บริการเลือกซื้อสินค้าต่างๆกันอย่างคึกคัก ซึ่งทางตลาดยังคงกำหนดมาตรการควบคุมและป้องกันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยเข้ามาภายในพื้นที่ตลาดอย่างเด็ดขาดและการให้พ่อค้า แม่ค้าและลูกค้านั้นสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา รวมทั้งการเว้นระยะห่างและการล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ หรือจุดล้างมือที่ตลาดนั้นได้ตั้งจุดบริการไว้โดยรอบพื้นที่
นางพรรณี สีภา เจ้าของร้านแม่เพ็ญผักสด กล่าวว่า ราคาจำหน่ายผักสดขณะนี้นั้นถูกลงเกินครึ่ง ไม่ว่าจะเป็นมะเขือเทศกิโลกรัม 50 บาท จากเดิม 150 บาท ,พริกแดงจินดากิโลกรัมละ 60 บาท จากเดิม 170 บาท ,กะหล่ำกิโลกรัมละ 25 บาท จากเดิม 50 บาท,โหระพา กิโลกรัมละ 50 บาท จากเดิม 90 บาท ,ผักชีฝรั่ง กิโลกรัมละ 60 บาท จากเดิม 90 บาท ,ผักกาดขาวกิโลกรัมละ 25 บาท จากเดิม 60 บาท ,คะน้า กิโลกรัมละ 20 บาท จากเดิม 60 บาท และผักชี กิโลกรัมละ 50 บาท จากเดิม 80 บาทง
\"แม้ว่าขณะนี้ราคาผักจะลดลงแล้ว แต่ราคาเนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ และน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงแพงอยู่จึงอยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วน เนื่องจากขณะนี้ยอมรับว่า ผู้บริโภคแย่แล้ว จึงอยากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาดูแลให้ราคาลดลงเหมือนผัก ไม่ใช่ขึ้นแล้วไม่ลงเลย กลไกของตลาดจึงอยากให้เกิดราคาที่สมดุลกัน เพื่อให้ผู้บริโภคจะได้ไม่ต้องซื้อของในราคาแพงแบบที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้\"
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","15/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ขอนแก่น","สวท.ขอนแก่น","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220115181411503"], [379,"จังหวัดตาก จัดงาน Tak Me More ตากมีอะไรมากกว่าที่คิด ชม ชิม ช้อป แชะ เชื่อมโยงการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมระหว่างอำเภอทั้ง 9 อำเภอ","เย็นวันนี้ (15 ม.ค. 65) เวลา 17.30 น. ที่บริเวณอาคารศูนย์แสดงสินค้า OTOP หนองน้ำมณีบรรพต (เกาะลอย) อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก นายสุรพล วงศ์สุขพิศาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เป็นประธานในพิธีเปิดงาน Tak Me More ตากมีอะไรมากกว่าที่คิด ชม ชิม ช้อป แชะ เชื่อมโยงการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมระหว่างอำเภอทั้ง 9 อำเภอ โดยมี นางแสงดาว เรื่อศรีจันทร์ รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักงานจังหวัดตาก ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตาก นายกเทศมนตรีเมืองตาก ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตาก ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และประชาชน เข้าร่วมงานในครั้งนี้
ด้วยสำนักงานจังหวัดตาก ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตามประเพณีของจังหวัดตาก 9 อำเภอ เพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชุมชนของจังหวัดตาก ให้เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยว รวมทั้งสร้างรายได้ให้กับชุมชนและประชาชนในพื้นที่ ด้วยคอนเซ็ปต์ \"Tak Me More ตากมีอะไรมากกว่าที่คิด\" ที่เชื่อมโยงด้วยคำว่า Tak หมายถึง จังหวัดตาก Me หมายถึง ผู้คนในจังหวัด และ More หมายถึง มากกว่า ทั้งนี้ ต้องการสื่อถึงการเชิญชวนให้เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดตาก ซึ่งมีอะไรมากกว่าที่คุณคิด โดยการจัดกิจกรรมดังกล่าว จะถูกจัดขึ้นในพื้นที่ 9 อำเภอของจังหวัดตาก และดำเนินงานภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มต้นที่อำเภอเมืองตาก ระหว่างวันที่ 15-16 มกราคม 2565 นี้
สำหรับกิจกรรมครั้งแรกในวันนี้ ได้มีการนำของดีของเด็ดจากร้านค้าชุมชนมากมาย มาให้ชิม ช้อป แบบจุใจ อาทิ ไส้อั่วสมุนไพร บาร์บีคิว ขนมไทย อโวคาโด้ น้ำทับทิมสด สินค้าหัตถกรรมต่างๆ และงานเพ้นท์มือ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุก พร้อมแจกของรางวัลมากมาย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาร่วมงานได้ที่บริเวณกาดเกาะลอย อำเภอเมืองตาก ในวันนี้ (15 ม.ค. 65) ถึงวันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2565 ตั้งแต่เวลา 16.00 - 21.00 น. ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลการจัดกิจกรรมครั้งต่อไป และข้อมูลข่าวสารจังหวัดตากเพิ่มเติมได้ทาง Facebook Fanpage สำนักงานจังหวัดตาก : Tak Provincial Governors Office
ภาพ/ข่าว : สนง.ประชาสัมพันธ์ จ.ตาก
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","15/1/2022","ภาคตะวันตก","ตาก","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตาก","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220115202444555"], [380,"ผู้ว่าฯลำพูน พร้อมนายกเหล่ากาชาดจังหวัดลำพูน เยี่ยมชมความงดงามของสวนดอกไม้ ไอรักบ้านธิ I Love Banthi ซึ่งเปิดให้ บรรดานักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไปเข้าเยี่ยมชมแล้ว","นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นางปนัดดา เนาวรัตน์ ประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลำพูน เยี่ยมชมการสถานที่จัดงาน และชมความงดงามของ พื้นที่สวนดอกไม้ ไอรักบ้านธิ (I Love Banthi ) ที่มีพื้นที่มากถึง 10 ไร่ ณ อุโบสถต้นมื่น บ้านแพะต้นยางงาม ต.บ้านธิ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน โดยเปิดให้ บรรดานักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไปเข้าเยี่ยมชม และถ่ายภาพความประทับใจเก็บเป็นที่ระลึก เริ่มตั้งแต่ มกราคม - มีนาคม 2565 มีนายชลิต ทิพย์คำ นายอำเภอบ้านธิ พร้อมด้วย นางกิรณา ทิพย์คำ นายกกิ่งกาชาดอำเภอบ้านธิ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านธิ และเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับ สำหรับพื้นที่ สวนดอกไม้ ไอรักบ้านธิ (I Love Banthi ) มีพื้นที่ จำนวนกว่า 10 ไร่ เปิดให้ประชาชนทั่วไป รวมถึงนักท่องเที่ยว เข้าชมความงดงาม และเก็บภาพความประทับใจ ของสวนดอกไม้
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ งานต๋ามประทีปส่องไฟวิถี 3 ไต การแสดงหุ่นตุ๊กตามือผ้าทอไทลื้อ กิจกรรมงานวิ่งเทรลพิชิตดอยงุ้ม (โครงการไอรักบ้านธิ)\" การปั่นจักรยานเมือง 3 ไต (โครงการไอรักบ้านธิ)\" วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 และประกวดภาพถ่าย (ไอรักบ้านธิ I Love Banthi) เป็นต้น ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ - 31 มีนาคม 2565 นี้ ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย ประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลำพูน ร่วมให้เกียรติถ่ายภาพโปรโมทงานในเดือน แห่งความรัก งานกิจกรรม สัญญารัก ณ บ้านธิ เป็นการจดทะเบียนสมรสกลางสวนไอรักบ้านธิ ซึ่งจัดขึ้น ในวันแห่งความรัก วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 นี้ โดย อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน
ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยว มาร่วมสัมผัสความสวยงาม ของสวนดอกไม้ ไอรักบ้านธิ กว่า 10 ชนิด พร้อมชวนคู่ รักมาร่วมจดทะเบียนสมรสท่ามกลางสวนดอกไม้ สอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ สำนักงานทะเบียนอำเภอบ้านธิ โทร 053-985983 สามารถยื่นคำร้องได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 นายคมศักดิ์ หล่อเถิน....ข่าว/ภาพ 15 มกราคม 2565
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","15/1/2022","ภาคเหนือ","ลำพูน","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220115203629564"], [381,"กบง. มีมติตรึงราคาแก๊สหุงต้ม 318 บาทต่อถัง ถึง 31 มี.ค. นี้","พ่อค้า-แม่ค้า ต้องแบกรับภาระต้นทุนหนักขึ้นอีก หลังมีรายงานข่าวว่าราคาแก๊สหุงต้มเตรียมขยับขึ้นราคา เดือน ก.พ.2565 วอนภาครัฐฯ หาแนวทางช่วยเหลือ เศรษฐกิจยังไม่ดี ข้าวของขยับขึ้นเกือบหมด ปรับราคาขายได้ไม่มาก หวั่นลูกค้าหาย
ล่าสุด เพื่อไม่ให้เป็นการซ้ำเติมปัญหาและดูแลประชาชนไม่ให้รับความเดือนร้อนในเรื่องก๊าซ LPG ที่ประชุม กบง. มีมติเห็นชอบการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซ LPG โดยให้คงราคาไว้ที่ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ไปถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565
โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ ประสานคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อพิจารณาบริหารจัดการเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้สอดคล้องกับแนวทางการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซ LPG ต่อไป และขอความร่วมมือ บริษัท ปตท. จำกัด พิจารณาช่วยเหลือส่วนลดราคาก๊าซ LPG แก่ผู้มีรายได้น้อยที่เป็นร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหารผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ ปตท. ดำเนินการต่อไปจนถึง วันที่ 31 มีนาคม 2565 (เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2565)
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","15/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อำนาจเจริญ","สวท.อำนาจเจริญ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220116072641581"], [382,"พาณิชย์ยะลา เริ่มแล้วขายหมูลดราคา กก.ละ 150 บาท ช่วยประชาชน จนถึง 31 ม.ค 65","จากสถานการณ์เนื้อหมู ที่ยังมีราคาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 ทางด้านกระทรวงพาณิชย์ จึงได้ขยายโครงการ หมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน เพิ่มอีก 16 วัน ยืนราคาหมูในกิโลกรัมละ 150 บาท โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ 16 ม.ค. 65 เป็นวันแรกไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565
ขณะที่ในส่วนของจังหวัดยะลา สำนักงานพาณิชย์จังหวัดยะลา ได้จัดโครงการ หมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน ขึ้น โดยครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 ตั้งแต่ราคาหมูขยับสูงขึ้น
โดยนำหมูเนื้อแดง มาจำหน่าย ในราคาไม่เกินกิโลกรัมละ 150 บาท เพื่อลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน เพิ่มกำลังซื้อของประชาชนในชุมชนได้ซื้อเนื้อหมูในราคาประหยัด รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นซึ่งมีประชาชนให้ความสนใจมาเลือกซื้อกันอย่างคึกคักโดยทางคนขายบอกว่า บางวัน ขายไม่ถึง 10 นาที ช้าสุดก็ 1 ชั่วโมง คนรู้จักที่ซื้อแล้ว
ส่วนบรรยากาศ ที่แผงคุณสินธร ตลาดพิมลชัย 3 ซึ่งเป็น 1 จุดจำหน่ายหมูพาณิชย์ลดราคา ได้มีประชาชนเดินทางไปเลือกซื้อหมูกันตั้งแต่ช่วงเช้า โดยทางเจ้าของแผง บอกว่า ได้หมูพาณิชย์ จำหน่ายวันละ 100 กก. ขายในราคา กก.ละ 150 บาท หมดแล้วหมดเลย หากประชาชนสนใจก็สามารถมาเลือกซื้อได้นอกจากนี้ทางแผงก็ได้นำเนื้อหมูส่วนอื่นๆ ลดราคาลง 10 บาท เพื่อช่วยเหลือประชาชน อีกทางหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดยะลา ได้ขยายจุดจำหน่ายหมูพาณิชย์ เพิ่มเป็น 7 จุดจำหน่าย จุดละ 100 กก. ประกอบด้วย อำเภอเมืองยะลา จำนวน 3 จุด จุดที่ 1 บริเวณด้านข้างสำนักงานพาณิชย์จังหวัดยะลา เริ่มจำหน่ายเวลา 08.00 น. จุดที่ 2 ร้านเก๋ พอร์คชอป ถนนผังเมือง 5 (เยื้อง 7-11 สาขาหลังกองร้อย) เริ่มจำหน่ายเวลา 08.00 น. จุดที่ 3 แผงคุณสินธร ตลาดพิมลชัย 3 เริ่มจำหน่ายเวลา 06.00 น. และอำเภอเบตง จำนวน 4 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 4 แผงหมูป้ารัตน์ ตำบลเบตง (หลังโรงแรมไทยโมเดิร์น เบตง) เริ่มจำหน่ายเวลา 06.00 น. จุดที่ 5 แผงวงค์ทนา ตำบลเบตง (หลังโรงแรมไทยโมเดิร์น เบตง) เริ่มจำหน่ายเวลา 06.00 น. จุดที่ 6 แผงคุณชินกร ตลาดเทศบาลเบตง เริ่มจำหน่ายเวลา 06.00 น. จุดที่ 7 แผงคุณประสาน ตลาดเทศบาลเบตง เริ่มจำหน่ายเวลา 06.00 น.
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","16/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220116094357596"], [383,"ลำปาง เปิด 7 จุด โครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน","
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ในพื้นที่จังหวัดลำปาง มีผู้ประกอบการเข้าร่วม \"โครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน\" จำหน่าย เนื้อแดงราคากิโลกรัมละ 150 บาท จำนวน 2 ราย จุดจำหน่าย 7 แห่ง ระหว่างวันที่ 13 - 31 มกราคม 2565 ดังนี้
บริษัท เอสเค อินเตอร์ฟู้ด จำกัด จำนวน 2 สาขา ได้แก่ ร้านหมูอนามัย เอสเคอินเตอร์ฟู๊ด สาขาลำปาง และร้านหมูอนามัย เอสเคอินเตอร์ฟู๊ด สาขาเถิน โดยจุดจำหน่ายทั้ง 2 จุด จะจำหน่ายหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป จำกัดคนละไม่เกิน 2 กิโลกรัม
บริษัท หมูอินเตอร์กรุ๊ป จำกัด จำนวน 5 สาขา ได้แก่ ร้านหมูอินเตอร์ สาขาตลาดต้นยาง, ร้านหมูอินเตอร์ สาขาน้ำโท้ง, ร้านหมูอินเตอร์ สาขาเกาะคา, ร้านหมูอินเตอร์ สาขาแม่เมาะ และร้านหมูอินเตอร์ สาขาล้อมแรด โดยจุดจำหน่ายทั้ง 5 จุด จะจำหน่ายตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ผู้ซื้อจะได้รับคูปองเพื่อนำไปเป็นส่วนลดในการซื้อหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท คูปอง 1 ท่านต่อ 1 สิทธิ์ต่อวัน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","16/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สวท.ลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220116102633607"], [384,"พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์จำหน่ายเนื้อสุกรราคาถูก","สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ กำหนดดำเนินการจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ เนื้อแดง ในราคา กก.ละ 150 บาท ระหว่างวันที่ 17 - 31 มกราคม 2565 ณ หน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้บริโภค โดยจำหน่ายตั้งแต่ เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป จนกว่าสินค้าจะหมด โดยเนื้อสุกรที่นำมาจำหน่ายมีจำนวนจำกัด จำกัดคนละ ไม่เกิน 1 กก.
นอกจากเนื้อสุกรแล้ว ยังมีพืชผักปลอดสารพิษ ข้าวสารปลอดสารพิษนำมาจำหน่ายด้วย
จึงขอประชาสัมพันธ์ เชิญชวนประชาชน ผู้บริโภค มาร่วมซื้อสินค้าได้ตั้งแต่วันที่ 17 - 31 มกราคม 2565 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","16/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สวท.สุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220116103540608"], [385,"สนับสนุนงบประมาณกว่า 400 ล้านบาท เร่งช่วยเหลือ SME 5,000 กว่าราย พัฒนา ยกระดับมาตรฐาน ผ่านมาตรการเอสเอ็มอีคนละครึ่ง","นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. กล่าวว่า ในปี 2565 สสว. ดำเนินมาตรการช่วยเหลือ อุดหนุน วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ผ่านโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS ( Business Development Service ) หรือโครงการเอสเอ็มอี คนละครึ่ง เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ ประมาณ 5,000 ราย ให้ได้รับโอกาสในการเข้าถึงการบริการสนับสนุนด้านการพัฒนาธุรกิจในรูปแบบใหม่ ที่เอสเอ็มอี จะสามารถเลือกรับการบริการ หรือรับการพัฒนากับผู้ให้บริการทางธุรกิจ (Business Development Service Provider : BDSP) ที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจของตนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
สสว. เตรียมงบประมาณเพื่อช่วยอุดหนุนผู้ประกอบการกว่า 400 ล้านบาท อุดหนุนค่าใช้จ่าย ในการพัฒนาให้แก่เอสเอ็มอีแบบร่วมจ่าย (co-payment) ในสัดส่วนร้อยละ 50 - 80 ตามขนาดของธุรกิจ สูงสุดรายละ 200,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ภายในเดือนมกราคมนี้ สสว. จะเปิดระบบ BDS อย่างเป็นทางการเพื่อให้ผู้ให้บริการทางธุรกิจ หรือ BDSP ขึ้นทะเบียนและนำเสนอบริการลงบนระบบ BDS และในส่วนการขึ้นทะเบียนเพื่อขอรับการช่วยเหลือ อุดหนุนของผู้ประกอบการ จะเปิดให้ผู้ประกอบการขึ้นทะเบียนในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยคาดว่าจะเป็นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ส่วนบริการที่อยู่ในเกณฑ์ที่ สสว. จะช่วยเหลือ อุดหนุนให้แก่ SME ที่ยื่นข้อเสนอผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ BDS ใน 6 หมวด เช่น การเพิ่มผลิตภาพและประสิทธิภาพธุรกิจ /การพัฒนาและบริหารจัดการธุรกิจ การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและบริการ เป็นต้น
กลุ่มเป้าหมายเอสเอ็มอีที่ สสว.จะช่วยเหลือ อุดหนุน ได้แก่ ผู้ประกอบการที่เป็นนิติบุคคล หรือผู้ประกอบการที่เป็นบุคคลธรรมดาที่จดทะเบียนกับหน่วยงานภาครัฐ เน้นกลุ่มท่องเที่ยว อาหาร เครื่องดื่ม ยา สมุนไพร New S-Curve BCG Bio Circular Economy หรือเศรษฐกิจชีวภาพและเกษตรแปรรูป คาดว่า เมื่อสิ้นสุดมาตรการในปีนี้ จะสามารถสร้างกลไกสนับสนุนให้ผู้ให้บริการทางธุรกิจทั้งภาครัฐ หรือภาคเอกชน มีบทบาทในการส่งเสริมเอสเอ็มอีได้มากขึ้น
","16/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220116135525675"], [386,"ผู้ว่าราชการจังหวัดน่านพื้นที่ตรวจสอบราคาและคุณภาพเนื้อหมู ในโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน","
นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พาณิชย์จังหวัดน่าน ปศุสัตว์จังหวัดน่าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบราคาและคุณภาพเนื้อหมู ภายตลาดสด ตั้งจิตนุสรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในมาตรฐานสินค้าให้แก่ผู้บริโภคได้บริโภคเนื้อหมูที่ปลอดภัยและเป็นธรรมในภาวะที่ราคาเนื้อสัตว์ขยับสูงขึ้น ใน โครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 โดยกระทรวงพาณิชย์ จัดโครงการ หมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน ยืนราคาหมูในกิโลกรัมละ 150 บาท โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ 16 ม.ค. 65 เป็นวันแรกไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565
นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า การสำรวจตลาดครั้งนี้ เพื่อดูความสะอาดภาพรวมของสถานที่ ความสะอาดของอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ สุขภาพอนามัยของผู้ประกอบการ สถานประกอบการ และการป้องกันแมลงที่เป็นพาหะนำเชื้อโรค พร้อมทั้งได้กำชับให้ผู้ประกอบการ ติดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคได้ตัดสินใจรวมถึงเครื่องชั่งให้ได้มาตรฐานที่กำหนด และ เชิญชวนประชาชน น่าน ร่วมโครงการ พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน ครั้งที่ 2 เริ่มตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าครองชีพ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","16/1/2022","ภาคเหนือ","น่าน","สวท.น่าน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220116105822616"], [387,"พาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขานรับนโยบายรัฐบาล จับมือร้านขายหมู จำหน่ายหมูเนื้อแดงราคาถูก เริ่มตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มกราคม นี้","พาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขานรับนโยบายรัฐบาล จับมือร้านขายหมู จำหน่ายหมูเนื้อแดงราคาถูก เริ่มตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มกราคม นี้
นางกาญจนา ชมมี พาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมแก้ไขปัญหาเรื่องหมูราคาแพง เป็นมาตรการเสริมและเป็นทางเลือกให้กับประชาชนผู้บริโภค โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดฯ ดำเนินการโครงการ \"พาณิชย์ลดราคา ! ช่วยประชาชน หมูพาณิชย์ ราคาถูก\" ขึ้น โดยภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กำหนดเปิดจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดง ราคากิโลกรัมละ 150 บาท เพื่อเป็นการบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ณ ตลาดเจ้าพรหม กำหนดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 17 มกราคมนี้เป็นประจำทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์ จนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2556 รวมถึงร้านแฮปปี้ ฟาร์ม และร้านบัดดี้ เซฟ อำเภอเสนา ตั้งแต่บัดนี้จนถึงสิ้นเดือนมกราคมนี้เช่นกัน ประชาชนที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 035 345661
","16/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220116105329614"], [388,"สวนกระแสหมูแพง ขายให้ชาวสุรินทร์ในราคา กิโลกรัมละ 150 บาท","จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่สะสมมาตลอดตั้งแต่ปี 2561 และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลกระทบในการดำรงชีวิตทั้งทางอาชีพ การคมนาคม หรือแม้กระทั่งเศรษฐกิจ ที่เห็นได้ชัดในปัจจุบันในเรื่องของราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคที่ปรับสูงขึ้น ทั้งราคาพลังงานและอาหารสด โดยเฉพาะราคาเนื้อสุกรที่ปรับตัวสูงสุดในรอบ 10 ปี โดยราคาเนื้อสุกร เนื้อแดง
ล่าสุดขยับมาอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 200 บาท และคาดว่าราคาอาจจะขยับสูงขึ้นอีก ส่งผลให้ผู้ประกอบการขายปลีกเนื้อสุกร โดยเฉพาะรายย่อย และผู้ประกอบร้านอาหารหลายรายเริ่มแบกรับต้นทุนไม่ไหว จนต้องทยอยปรับขึ้นราคา
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ จึงมีโครงการจำหน่ายเนื้อสุกร ให้แก่ประชาชนในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ระหว่างวันที่ 17 - 31 มกราคม 2565 ณ หน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้บริโภค โดยจำหน่ายตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป หรือจนกว่าสินค้าจะหมด
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","16/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","สุรินทร์","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220116120007629"], [389,"การเบิกจ่ายงบประมาณ ปี 2565 ไตรมาสแรก ภาพรวมเบิกจ่ายแล้วกว่า 980,000 ล้านบาท","นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ไตรมาสที่ 1 (1 ตุลาคม 2564 31 ธันวาคม 2564) ภาพรวมมีการเบิกจ่ายแล้ว จำนวน 983,614 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 31.73 ของวงเงินงบประมาณ 3,100,000 ล้านบาท จำแนกเป็น รายจ่ายลงทุน จำนวน 97,003 ล้านบาท , รายจ่ายประจำ จำนวน 886,611 ล้านบาท สำหรับเงินงบประมาณที่กันไว้เบิกเหลื่อมปี มีการเบิกจ่าย จำนวน 75,530 ล้านบาท
การเบิกจ่ายงบประมาณในภาพรวมสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า หรือคิดเป็นร้อยละ 3.17 โดยกรมบัญชีกลางได้แต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ ในการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย รวมทั้งให้คลังเขต และคลังจังหวัด กำกับดูแลหน่วยงานในพื้นที่รับผิดชอบ เร่งรัดการก่อหนี้ การดำเนินการและการเบิกจ่าย เพื่อให้เม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็ว
คณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ ได้กำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายในภาพรวม ไม่น้อยกว่าร้อยละ 93 การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 98 การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 และการใช้จ่ายงบประมาณ ร้อยละ 100 โดยกำหนดให้หน่วยรับงบประมาณที่มีรายการปีเดียวเร่งก่อหนี้ผูกพันให้เสร็จสิ้นทุกรายการภายในไตรมาสที่ 2 หากหน่วยงานมีเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี ให้เร่งรัดการเบิกจ่ายเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีโดยเร็ว
นอกจากนี้ ได้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ โดยกำหนดให้ปรับแผนการลงทุนให้สามารถเบิกจ่ายได้เร็วขึ้นในช่วงไตรมาส 1 และ 2 ของปี (Front- Loaded) รวมทั้งเร่งเบิกจ่ายเงินกู้ตาม พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 (กรอบวงเงิน 5 แสนล้านบาท) ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินกู้ เร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี
","16/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220116134849665"], [390,"นักท่องเที่ยวทั่วสารทิศแห่เที่ยวอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ชมสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ ลิ้มลองรสชาดอาหารเด่น ไก่สับเบตง ส้มโชกุนเบตง ทำบรรยากาศเที่ยวช่วงสุดสัปดาห์คึกคัก ท่ามกลางมาตรการทางด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด","
วันนี้ 16 ม.ค. 65 บรรยากาศท่องเที่ยวในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์พบว่า มีนักท่องเที่ยวทั่วสารทิศเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่กันอย่างคึกคักทำให้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในเขตเทศบาลและนอกเมือง ต่างรับนักท่องเที่ยววันละนับพันคน และได้มีจองโปรแกรมท่องเที่ยวกับผู้ประกอบการอย่างคึกคัก ทั้งรถนำเที่ยวท้องถิ่น ทั้งแบบเช้าไปเย็นกลับ และพักค้างคืนตามรีสอร์ทต่างๆ เพื่อสัมผัสธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้บรรยากาศในตัวเมืองเบตงโดยเฉพาะจุดเช็คอิน ไม่ว่าจะเป็นตู้ไปรษณีย์ยักษ์ สัญลักษณ์ประจำเมืองเบตง และตู้ไปรษณีย์ที่สร้างขึ้นมาใหม่ใหญ่กว่าเดิม ที่ตั้งอยู่ที่ด้านหน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา (ศาลาประชาคมหลังเก่า เทศบาลเบตง) ถนนสุขยางค์ มีความสูง 9 เมตร จึงเป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะไปถ่ายรูปตู้ไปรษณีย์ และไม่พลาดที่ต้องไปชมสวรรค์บนดิน สนามบินเบตง ที่ท่าอากาศยานนานาชาติเบตงที่ได้รับความนิยมทั้งจากชาวเบตงและนักท่องเที่ยวจากต่างพื้นที่ เพื่อไปชมสถาปัตยกรรมของอาคารที่พักผู้โดยสาร รวมถึงถ่ายรูปเป็นที่ระลึก บริเวณด้านหน้า เพราะที่นี่ตกแต่งด้วยไม้ไผ่สุดอลังการ สะท้อนเอกลักษณ์ท้องถิ่น
โดยคำว่า เบตง หรือ บือตง เป็นภาษามลายู แปลว่า ไม้ไผ่ ซึ่งหากเปิดบริการสนามบินเบตงจะอำนวยความสะดวกในการเดินทาง รวมถึงการท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอเบตง ของผู้คนทั้งไทยและต่างชาติเพิ่มขึ้น และไม่พลาดที่ต้องลิ้มลอง รสชาติ ส้มโชกุนเบตงแท้ เพราะอำเภอเบตง เป็นแหล่งปลูกส้มโชกุนที่มีคุณภาพดีที่สุดเพราะที่นี่มีลักษณะพิเศษ เป็นพื้นที่เป็นที่ราบสูง ภูเขาสลับซับซ้อน มีดินเป็นดินร่วน อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 20-27 องศาทำให้อากาศเย็นสบาย ยิ่งช่วงนี้ส้มโชกุนกำลังออกผลผลิตใกล้ตรุษจีน นักท่องเที่ยวแห่ชิมเลือกซื้อกันอย่างคึกคักสร้างรายได้เข้าพื้นที่ ทั้ง โรงแรม รีสอร์ท ห้องพัก และร้านอาหาร เที่ยวชมสวนส้มโชกุน คาดเงินสะพัดจำนวนมาก
นักท่องเที่ยวจากจังหวัดลพบุรี บอกว่า อากาศ ที่เบตงเยี่ยมยอดมาก เพราะอยากมาสัมผัสเมืองเบตง เพราะเป็นอีกอำเภอหนึ่งของจังหวัดยะลา ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเป็นอำเภอที่ตั้งอยู่ใต้สุดของประเทศไทย เมื่อมาได้สัมผัส ที่นี่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรม มีอาหารการกินอร่อย อย่าง ไก่เบตง ที่ใครก็บอกว่าเด็ด ผู้คนหลายอยู่กันหลายเชื้อชาติน่ารักใจดี เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีเสน่ห์น่าไปสัมผัสขอเชิญชวนมาเที่ยว
ขณะที่ ศปก.อำเภอเบตง ก็ได้มีการวางมาตรการทางด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวโดย ประชาชน และผู้ประกอบการในพื้นที่อำเภอเบตง ขณะนี้เกือบครบ 100 % แล้ว ที่ได้รับวัคซีน เพราะทางอำเภอเบตงได้เปิดบริการฉีดวัคซีนให้ทุกคนที่มาเที่ยวในพื้นที่ รวมทั้งผู้ที่เดินทางเข้าสู่จังหวัดยะลาต้องฉีดวัคซีนทุกคน ผ่านมาตรการคัดกรองอย่างเข้มงวด หากรู้สึกไม่สบาย ทางเจ้าหน้าที่ พร้อมตรวจ ATK ให้ฟรี และหากพบว่ามีเชื้อเป็นบวก เจ้าหน้าที่พร้อมจัดยาฟาวิพิราเวียร์ให้ทานทันที
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","16/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.เบตง จ.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220116131450650"], [391,"ขนส่งจังหวัดเพชรบุรี ประมูลทะเบียนรถเลขสวย หมวดอักษร กน ก้าวหน้าร่ำรวย เลขสวยหนุนนำ ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มรูปแบบ New normal วิถีใหม่แห่งการประมูล","ขนส่งจังหวัดเพชรบุรี ประมูลทะเบียนรถเลขสวย หมวดอักษร กน ก้าวหน้าร่ำรวย เลขสวยหนุนนำ ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มรูปแบบ New normal วิถีใหม่แห่งการประมูล เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (วันที่ 16 มกราคม 2565) นายชนะ ลิขิตเดชาโรจน์ ขนส่งจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานเปิดการประมูลเลขทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน จังหวัดเพชรบุรี ครั้งที่ 8 หมวดอักษร กน ก้าวหน้าร่ำรวย เลขสวยหนุนนำ ในการปิดประมูลผ่านทางอินเทอร์เน็ต ณ วิทยาลัยอาชีวศึกษาเพชรบุรี
นายชนะ ลิขิตเดชาโรจน์ ขนส่งจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำนักงานขนส่งจังหวัดเพชรบุรี ได้เปิดการประมูลหมายเลขทะเบียนรถ ซึ่งเป็นที่ต้องการหรือเป็นที่นิยมของประชาชน เลขสวย (Super Number) ประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน หมวดอักษร กน ซึ่งมีความหมายว่า ก้าวหน้าร่ำรวย เลขสวยหนุนนำ จำนวน 301 หมายเลข
โดยประมูลผ่านอินเทอร์เน็ตเต็มรูปแบบครั้งแรกของจังหวัดเพชรบุรี ผ่านทางเว็บไซต์ www.tabienrod.com เปิดให้ลงทะเบียนและเข้าเสนอราคามาตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 และปิดประมูลวันที่ 16 มกราคม 2565 ในวันนี้ ตามลำดับหมายเลขที่แจ้งไว้ในโบรชัวร์ เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป นอกจากนี้ ขนส่งจังหวัดเพชรบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ที่ประมูลได้ จะได้รับแผ่นป้ายทะเบียนกราฟิก เป็นภาพทิวทัศน์และภาพเอกลักษณ์ของจังหวัดเพชรบุรีที่สวยงาม ถือเป็นกรรมสิทธิ์ สามารถเป็นมรดกตกทอดถึงทายาท หรือซื้อขาย โอน เปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ได้ และรายได้ในการประมูลจะนำเข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อเป็นทุนสนับสนุนและส่งเสริมด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และจัดสรรเป็นค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการที่ประสบภัยจากการใช้รถใช้ถนน ถือเป็นการสร้างบุญสร้างกุศลอีกทางหนึ่งด้วย
รวยริน ทองชู นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ
ข่าว ภาพ/ข่าว สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","16/1/2022","ภาคตะวันตก","เพชรบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220116131713651"], [392,"พาณิชย์จังหวัดนนทบุรีดำเนินโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคาช่วยประชาชน กระจายไปตามจุดจำหน่ายของร้าน ลดราคาช่วยประชาชนหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท มีจำหน่าย 7 จุดที่จังหวัดนนทบุรีระหว่างวันที่ 16-31 มกราคม 2565","(16 มกราคม 2565) จากภาวะราคาเนื้อหมูที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นผลจากการลดปริมาณการเลี้ยงหมูของผู้ประกอบการ และปัญหาโรคระบาดรวมถึงต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่มีราคาสูง จนทำให้กระทรวงพาณิชย์ ต้องกำหนดแนวทางแก้ไขใน 3 มาตรการ คือ 1.ห้ามส่งหมูมีชีวิตออกนอกราชอาณาจักร เพื่อให้ปริมาณหมูเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ 2.กำหนดให้ผู้เลี้ยง ผู้จำหน่ายและผู้ส่งออกนอกราชอาณาจักรที่ครอบครองหมูมีชีวิตตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป ต้องแจ้งปริมาณการเลี้ยง ปริมาณการซื้อ ปริมาณการจำหน่าย ปริมาณการส่งออก ปริมาณคงเหลือ ราคาจำหน่าย และสถานที่เก็บ รวมถึงสถานที่เลี้ยงซึ่งจะต้องแจ้งทุกวันจันทร์ของสัปดาห์ และ 3.การดำเนินโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน โดยจัดจำหน่ายหมูเนื้อแดงส่วนสะโพกให้ประชาชนในราคากิโลกรัมละ 150 บาท เพื่อลดความเดือดร้อนในเบื้องต้น และหากสถานการณ์ราคาหมูยังอยู่ในระดับสูงอีก
ซึ่งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนนทบุรีได้ดำเนินโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคาช่วยประชาชน กระจายไปตามจุดจำหน่ายของร้าน ทั้งหมด 7 แห่งในพื้นที่จังหวัด ระหว่างวันที่ 16-31 มกราคม 2565 ดังนี้ ร้านเปรมตลาดสดเทศบาลเมืองบางบัวทอง ริมคลองโสนลอย ร้านเจ๊จงตลาดสดเทศบาลปากเกร็ด ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลปากเกร็ด ร้านหมูลงเตี้ยสนามบินน้ำตลาดสดจิตรวรรณ ซอยนนทบุรี ตำบท่าทราย ร้านหมูดีฟาร์ม ซอยสามัคคี ตำบลท่าทราย ร้านโฟกัสตลาดครอบครัว ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ร้านพรชัย ตลาดฤทธิ์สุขทางหลวงชนบทนนทบุรี 1009 เจ๊อรหมูสดตลาดบางใหญ่ ตำบลเสาธรหินอำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี
สำหรับโครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งที่รัฐบาล ที่กระทรวงพาณิชย์จัดขึ้นเพื่อลดความเดือดร้อนในเบื้องต้น แบ่งเบาภาระให้ประชาชน โดยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทา?ความเดือดร้อน?ได้ในระดับหนึ่ง สอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนนทบุรี ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี 11000. โทรศัพท์ : 0 2591 7883. โทรสาร : 0 2591 6927. อีเมล : nonthaburi@dit.go.th.
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","16/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","นนทบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนนทบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220116133454664"], [393,"วันแรก โครงการหมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน จังหวัดตราด มีผู้สนใจจับจ่ายซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด","(16 ม.ค. 65) ที่บริเวณร้านจำหน่ายเนื้อหมู ฟาร์มคุณปู่ ปากทางเข้าวัดหนองเสม็ด อำเภอเมืองตราด นางวรัญญา ถนอมพันธุ์ พาณิชย์จังหวัดตราด มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตราด ตั้งโต๊ะแจกคูปองสำหรับประชาชนที่สนใจเลือกจับจ่ายซื้อเนื้อหมูในราคาต่ำกว่าท้องตลาด ซึ่งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตราด ร่วมกับผู้ประกอบการแผงจำหน่ายเนื้อหมูจัดขึ้นภายใต้โครงการหมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน จังหวัดตราด เพื่อเป็นการลดค่าครองชีพ และเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชนได้ซื้อเนื้อหมูราคาที่เป็นธรรมบริโภคในครัวเรือน
สำหรับการจัดโครงการดังกล่าวมีการนำเนื้อหมูจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ในพื้นที่ต่าง ๆ ในระหว่างวันที่ 16 - 31 มกราคม 2565 โดยในวันแรกของการจำหน่ายเนื้อหมูตามโครงการนี้มีการตั้งจุดจำหน่ายที่ ร้านฟาร์มคุณปู่ ปากทางเข้าวัดหนองเสม็ด อำเภอเมืองตราด ร้านสุรีย์หมูสวย บริเวณข้างตลาดศูนย์การค้าเทศบาลเมืองตราด และบริเวณตลาดนัดสี่แยกนนทรี อำเภอบ่อไร่ ส่วนในวันพรุ่งนี้จะมีการจำหน่ายที่ร้านสหกรณ์จังหวัดตราด สาขา 1 ร้านฟาร์มคุณปู่ ร้านสุรีย์หมูสวย และบริเวณตลาดนัดไร่ป่า หน้าวัดไร่ป่า ตำบลเนินทราย อำเภอเมืองตราด ทั้งนี้จำกัดจำนวนการซื้อ 1 คน 1 กิโลกรัม
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","16/1/2022","ภาคตะวันออก","ตราด","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220116135533679"], [394,"อีอีซี โกลบอล คลาวด์ จำกัด ขยายฐานธุรกิจ Data Center ของคนไทย ปักเสาเข็มลงทุน 800 ล้านบาท นับเป็นการลงทุนก้าวแรกในพื้นที่ ซิลิคอน เทค พาร์ค บ้านฉาง จ.ระยอง คาดการก่อสร้างแล้วเสร็จ กรกฎาคม 2565 พร้อมเริ่มธุรกิจทันที","วันที่ 16 มกราคม 2565 ?เวลา 11.09 น. ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับบริษัท อีอีซี โกลบอล คลาวด์ จำกัด ที่ห้องประชุมบริษัทฯ เลขที่ 95 หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านฉาง อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ศูนย์นวัตกรรมดิจิทัลและเทคโนโลยีชั้นสูงบ้านฉาง จังหวัดระยอง
บริษัท อีอีซี โกลบอล คลาวด์ จำกัด เป็นบริษัทประกอบธุรกิจ Data Center ของคนไทย มีวัตถุประสงค์หลักในการให้บริการ Hybrid Cloud โดยรองรับผู้มาใช้งานทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น Manufacturing, Healthcare, Education, e-Commerce การให้บริการของบริษัทเป็นการเพิ่มช่องทางการแข่งขันและโอกาสในการสร้างมูลค่าต่อยอด รวมถึงการลดค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้า มีบริการหลายรูปแบบ เช่น Infrastructure as a Service ที่สามารถเชื่อมต่อให้กับผู้ให้บริการอื่นทั้งในและต่างประเทศ การให้บริการแบบ platform as a Service ที่ทางบริษัทมีความพร้อมสำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้งาน รวมถึงการนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อสร้าง Predictive Model สำหรับการสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจให้กับผู้ใช้บริการ โดยบริษัทจะเริ่มให้บริการในเดือนกรกฎาคม 2565 นี้
ทั้ง?นี้? บริษัท อีอีซี โกลบอล คลาวด์ จำกัด จัดตั้งขึ้นโดยได้รับการแนะนำและสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ที่ประสงค์จะเห็นการมี DATA CENTER ของคนไทย ลงทุนและดำเนินการโดยคนไทย ที่มีมาตรฐานระดับสากล ปลอดภัย มั่นคง เพื่อให้นักลงทุนไทยและต่างชาติสามารถเข้าถึงได้โดยสะดวก แสดงศักยภาพการพัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูงของประเทศไทย สกพอ. จึงได้ดำริให้มีการลงนาม MOU เพื่อส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้เข้าถึงและสามารถใช้ประโยชน์จากงานบริการบริษัท อีอีซี โกลบอล คลาวด์ จำกัด
พลตำรวจโท ปรีดี พงศ์เศรษฐสันต์ ประธานกรรมการบริษัทกล่าวว่า DATA CENTER ของบริษัท อีอีซี โกลบอล คลาวด์ จำกัด มีมาตรฐานสากลในระดับ TIER 3 , ISO 9001:2015 และ ISO 27001 การดำเนินการเน้นหลักสำคัญ 3 ประการ คือการรักษาความปลอดภัยข้อมูลให้กับลูกค้า การให้พื้นที่เก็บข้อมูลที่มีมากกว่าและที่สำคัญที่สุดคือการคิดค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า กล่าวคือ High Security, More Space, Less Price บริษัท อีอีซี โกลบอล คลาวด์ จำกัด มีความพร้อมและยินดีที่จะร่วมมือ สนับสนุนและให้บริการกับทุกภาคส่วน โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศ ประชาชน สังคม ชุมชนและท้องถิ่นเป็นสำคัญ คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงเดือน กรกฎาคม 2565 และเริ่มดำเนินธุรกิจได้ทันที และพร้อมจะร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ.
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","16/1/2022","ภาคตะวันออก","ระยอง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220116174502727"], [395,"จีนเปิด 4 ด่านหลักนำเข้าผลไม้ไทยแล้ว เตรียมพร้อมล่วงหน้ารับมือการส่งออกผลไม้ฤดูการผลิตปี 2565","นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากรายงานสถานการณ์ล่าสุดเมื่อวานนี้ จีนได้เปิด 4 ด่านหลักทั้งหมดแล้ว ได้แก่ ด่านโม่ฮาน บนเส้นทาง R2A (เชียงของ-บ่อเตน-โมฮ่าน) เปิดให้บริการทุกวัน โดยกำหนดเปิดด่านตั้งแต่เวลา 07.30 น.- 16.30 น. สำหรับรถขนส่งผลไม้ และ 16.30 น.- 20.00 น. สำหรับรถเปล่า ถือเป็นความก้าวหน้าในความร่วมมือระหว่างไทย - สปป.ลาว และจีน
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากการประชุมและตรวจความพร้อมที่ด่านเชียงของปรากฎว่ามีรถบรรทุกผลไม้ห้องเย็นเข้าออกที่ด่านเชียงของคึกคักมากขึ้น หลังจากด่านโมฮ่านเปิดไม่จำกัดจำนวนรถ โดยเป็นรถบรรทุกส่งออกจากไทยมากกว่ารถที่นำเข้าสินค้าจากจีนเข้าไทย ได้กำชับให้มีการพ่นฆ่าเชื้อทั้งรถขาเข้าและขาออกตามมาตรการ Covid free และ SPS
ด่านโหย่วอี้กวน เปิดให้บริการปกติ แต่ยังจำกัดรถบรรทุกสินค้าเข้าด่านไม่เกิน 100 คัน เนื่องจากมาตรการโควิดที่เข้มงวด ซึ่งทางการไทยและเวียดนามได้ประสานงานกับจีนเพื่อให้เพิ่มปริมาณการปล่อยรถสินค้า ซึ่งได้ให้ทูตเกษตรไทยในปักกิ่งและกวางโจว เสนอจีนให้ใช้ในแนวทางเดียวกับด่านโมฮ่าน
ด่านรถไฟผิงเสียง เปิดนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารที่ขนส่งผ่านห่วงโซ่ความเย็น (รวมผลไม้ไทย) ระหว่างวันที่ 4 17 มกราคม 2565 (ตามมาตรการ เปิด 14 วัน ปิด 14 วัน)
ด่านตงซิง กลับมาเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2565 หลังจากปิดด่านเนื่องจากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเมืองตงซิง โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้ไปตรวจเยี่ยมล้งใหญ่เป็นบริษัทไทยกำลังขึ้นตู้คอนเทนเนอร์เป็นทุเรียนทวาย (นอกฤดู) จากชุมพรและภาคใต้แจ้งว่าส่งออกไปที่ด่านตงชิง
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยด้วยว่า ได้เสนอรายงานเบื้องต้นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยปลายเดือนนี้ทางการไทยและจีนได้หารือก่อนหน้านี้จนได้ข้อสรุป ในการที่กระทรวงเกษตรฯ ของไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมร่วมระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับกระทรวงเกษตรของจีน และเดือนหน้าจะมีการประชุมว่าด้วยมาตรการ SPS ระหว่าง 2 ประเทศ อย่างไรก็ตาม ปี 2564 แม้จะเผชิญปัญหาด่านติดจัดและตู้ขนส่งสินค้าขาดแคลน รวมทั้งค่าระวางเรือขึ้นสูงมาก แต่เราสามารถส่งออกผลไม้ไปจีนสูงสุดเป็นประวัติการณ์เพียง 11 เดือน ในปี 2564 มีมูลค่ากว่า 1.5 แสนล้านบาท และครองส่วนแบ่งในตลาดจีนเป็นอันดับหนึ่ง มีมาร์เก็ตแชร์ถึง 45% ขอให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันในการขยายการส่งออกผลไม้ให้เพิ่มขึ้นจากปี 2564
บรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ยังคงมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาชมความงดงามของสกายวอร์คเชียงคาน ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านท่าดีหมี ตำบลปากตม อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย อย่างต่อเนื่อง
นางวาราภรณ์ ครองศรี ผู้ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์บริเวณสกายวอร์คเชียงคาน กล่าวว่า เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทางเจ้าหน้าที่จะทำการคัดกรองประชาชนและนักท่องเที่ยว ตรวจสอบหลักฐานการได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ก่อนเข้าชมสกายวอร์ค พร้อมทั้งแนะนำให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เช่น สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะชมสกายวอร์ค เว้นระยะห่าง และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ เป็นต้น
ทั้งนี้ ทุกวันจะมีนักท่องเที่ยว เข้าเที่ยวชมสกายวอร์คเชียงคานอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดการกระจายรายแก่ผู้ประกอบการรายย่อยในท้องถิ่นชุมชน สร้างงานสร้างอาชีพให้กับประชาชนในท้องถิ่นด้วย
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","17/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","เลย","สวท.เลย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220117101840818"], [397,"กระทรวงอุตสาหกรรม เร่งช่วยเหลือผู้ส่งออกเครื่องปรับอากาศของไทย เหตุอินเดียห้ามนำเข้าเครื่องปรับอากาศที่มีสารทำความเย็น พร้อมเตรียมนำเข้าสู่ที่ประชุมองค์การการค้าโลกในเดือนมีนาคมนี้","กรณีประเทศอินเดีย กำหนดมาตรการห้ามนำเข้าเครื่องปรับอากาศที่บรรจุสารทำความเย็น พร้อมออกกฎระเบียบการนำเข้าเคมีภัณฑ์และปิโตรเคมี และระงับการตรวจประเมินโรงงานผลิตสินค้าในต่างประเทศ ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะผู้ส่งออกเครื่องปรับอากาศของไทย
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สำหรับการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย ได้สั่งการให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. ในฐานะผู้แทนประเทศไทยในคณะกรรมการว่าด้วยอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า (Committee on Technical Barriers to Trade : TBT) ภายใต้องค์การการค้าโลก หรือ WTO นำประเด็นดังกล่าวหารือในที่ประชุม Committee on TBT ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-11 มีนาคม 2565 ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส
ด้านนายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ สมอ. ได้เจรจาทวิภาคีกับอินเดียเพื่อหารือร่วมกันในการลดปัญหาอุปสรรคทางการค้าแล้ว แต่อินเดียยังไม่ยกเลิกมาตรการดังกล่าว จึงจำเป็นต้องยกระดับการเจรจา ในที่ประชุม Committee on TBT โดยจะเรียกร้องให้อินเดียยกเลิกมาตรการห้ามนำเข้าเครื่องปรับอากาศที่บรรจุสารทำความเย็น เนื่องจากขาดเหตุผลทางวิทยาศาสตร์และเป็นการปฏิบัติไม่เท่าเทียมกัน ระหว่างสินค้าที่ผลิตในประเทศกับสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ รวมทั้งขอให้ขยายเวลาการบังคับใช้กฎระเบียบควบคุมคุณภาพเกี่ยวกับการนำเข้าเคมีภัณฑ์และปิโตรเคมี จาก 180 วัน เป็น 360 วัน เพื่อให้ผู้ประกอบการได้มีเวลาในการเตรียมความพร้อม
นอกจากนี้ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ขอให้อินเดียพิจารณาการตรวจประเมินโรงงานผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (remote audit) เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกทางการค้า และนอกจากประเด็นมาตรการของอินเดียแล้ว ยังมีประเด็นเสนอให้อินโดนีเซียพิจารณาการรับรองผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศที่ส่งออกไปยังอินโดนีเซีย เพื่อไม่ต้องมีการตรวจสอบซ้ำ ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาและค่าใช้จ่าย
","17/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220117140710939"], [398,"เทศบาลเมืองศรีสะเกษ กระตุ้นการท่องเที่ยวเกาะกลางน้ำ ให้บริการฟรี เรือคายัค และจักรยานน้ำ ตลอดเดือนมกราคม 2565","
เทศบาลเมืองศรีสะเกษ เปิดให้บริการฟรี สำหรับบริการเรือคายัคและจักรยานน้ำ เหมาะแก่การแวะไปพักผ่อนหย่อนใจโดยเฉพาะเดือนมกราคมนี้ใช้บริการฟรีได้ตลอดทั้งเดือนสำหรับคนที่ชื่นชอบการพายเรือชมธรรมชาติ ในบรรยากาศสุดชิลบ้านเรา พร้อมให้บริการแล้วนะคะเปิดให้บริการทุกวัน ที่ เกาะกลางน้ำ
จันทร์-ศุกร์ : 10:00-18:00 น.
เสาร์-อาทิตย์ : 09:00-18:00 น.
คืนเรือภายในเวลา : 18:30 น.
- รบกวนแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนก่อนเข้าใช้บริการ
- ตรวจวัดอุณหภูมิ และลงทะเบียนก่อนเข้าใช้บริการ
- เว้นระยะ และสวมหน้ากาก ตลอดเวลา
- ที่จุดบริการ ต้องล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","17/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ศรีสะเกษ","สวท.ศรีสะเกษ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220117101347814"], [400,"ลดราคา ช่วยประชาชน จังหวัดปัตตานี ครั้งที่ 3","สำนักงานพาณิชย์จังหวัดปัตตานี โดย นางสาวจินตะณา ปิ่นสุภา พาณิชย์จังหวัดปัตตานี ดำเนิน โครงการหมูพาณิชย์... ลดราคา ช่วยประชาชน จังหวัดปัตตานี (ครั้งที่ 3) จำหน่ายหมูเนื้อแดง ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ตั้งแต่วันที่ 16 - 31 มกราคม 2565 เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน จากภาวะราคาเนื้อหมูที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ จังหวัดปัตตานี มีจุดจำหน่าย 6? จุด ในเขตอำเภอเมืองปัตตานี ดังนี้
1.ร้านตั้มหมูซิ่ง ถนนนาเกลือ ซอย14
2.ร้านป้าใจ ตลาดสดเทศวิวัฒน์
3.ร้านพี่หยอย ถนนมะกรูด ซอย 7
4.ร้านลุงเนียร ถนนนาเกลือ ซอย 23
5.ร้านพี่แหม่ม ถนนสามัคคี สาย ข
6.ร้านมณีวรรณ หมูสด หน้าโรงเรียนเมืองปัตตานี
ทั้ง 6 จุดจำหน่าย ได้มีการปิดป้ายแสดงราคาให้ประชาชนได้เปรียบเทียบก่อนตัดสินใจซื้ออย่างชัดเจนเป็นไปตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","17/1/2022","ภาคใต้","ปัตตานี","สวท.ปัตตานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220117104348847"], [401,"จังหวัดแม่ฮ่องสอน ส่งเสริมช่องทางการตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มอาชีพสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ประจำปีงบประมาณ 2565 ยอดจำหน่าย 3 วัน เป็นทะลุ 6 หมื่น","วันที่ 16 มกราคม 2565 นายจิรศักดิ์ สีหามาตย์ ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน เขตตรวจที่ 16 พร้อมด้วย ปฐมพงษ์ จันทร์สว่าง พัฒนาการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เยี่ยมชมและให้กำลังใจแก่กลุ่มอาชีพสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ณ ถนนคนเดินเทศบาลตำบลปาย อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตามโครงการส่งเสริมช่องทางการตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มอาชีพสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ประจำปีงบประมาณ 2565 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมช่องทางการตลาดของกลุ่มอาชีพสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีและประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มอาชีพสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และการประชาสัมพันธ์การดำเนินงานกองทุนฯ การรับสมัครสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี
ซึ่งกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มอาชีพกองทุนพัฒนาบทบาทตรีที่กู้เงินประเภทเงินทุนหมุนเวียน จำนวน 20 กลุ่ม ดำเนินการระหว่างวันที่ 14-16 มกราคม 2565 ณ ถนนคนเดินเทศบาลตำบลปาย อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภายในงานมีการจัดแสดง จำหน่ายผลิตภัณฑ์ ของที่ระลึก เช่นผ้าทอกะเหรี่ยงประยุกต์ ผ้ามูเซอ ผ้าไทยใหญ่ ผลไม้ตามฤดูกาล กระเทียม อาหารพื้นบ้าน และอาหารแปรรูปจากผลผลิตทางการเกษตร อีกมากมาย
ยอดจำหน่ายวันที่ 14-16 มกราคม 2565 รวมทั้งสิ้น 68,570 บาท สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ได้ความสนใจสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มปากาญอ@ปายบ้านแม่ปิง, กลุ่มเสื้อพื้นเมืองประยุกต์, กลุ่มผ้าปักลายมูเซอแดง
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
วันนี้ (17 ม.ค.65) ที่เดอะแกรนด์จามจุรี รีสอร์ท นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานเปิดการสัมมนาชี้แจงและคัดเลือกผู้ประกอบการ โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า จังหวัดลำพูน ประจำปี 2565 โดยมีผู้ประกอบการ SME และวิสาหกิจชุมชน เข้าร่วมสัมมนา
นางจันทนา ไวยาวัจมัย อุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน กล่าวว่า การจัดโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า จังหวัดลำพูน ประจำปี 2565 จัดขึ้นเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม SME และวิสาหกิจชุมชน ให้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตร สร้างรายได้เพิ่ม ประกอบการการใช้นวัตกรรมเพิ่มคุณค่าและมูลค่าทางธุรกิจของผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ พร้อมทั้งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ได้ตรงตามความต้องการของตลาด โดยได้วิทยากรจากอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาให้ความรู้ ด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวให้กำลังใจและให้ผู้ประกอบการ SME และวิสาหกิจชุมชน นำความรู้ที่ได้จากการสัมมนาในครั้งนี้ นำไปต่อยอดและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตร สร้างรายได้เพิ่ม และสร้างผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ได้ตรงตามความต้องการของตลาดต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","17/1/2022","ภาคเหนือ","ลำพูน","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220117114800885"], [403,"พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี เพิ่มจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดงในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี โครงการ พาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน ระหว่างวันที่ 16-31 มกราคม 2565 บรรเทาความเดือดร้อนช่วยเหลือประชาชน","(17 ม.ค.65) นายธีรวุฒิ คล้ายเคลื่อน พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าเนื้อหมูในจังหวัดเพชรบุรีมีการปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระทรวงพาณิชย์เร่งช่วยเหลือประชาชน มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชิญชวนร้านขายเนื้อหมูในพื้นที่ เข้าร่วมโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน จำหน่ายเนื้อหมูในราคากิโลกรัมละ 150 บาท มีผู้ประกอบการให้ความร่วมมือ จำหน่ายเนื้อหมู จำนวน 8 จุด ในพื้นที่อำเภอชะอำ ร้านเสี่ยอ้วน อำเภอแก่งกระจาน ร้านเสี่ยอ้วน อำเภอท่ายาง ร้านเอ๋ หมูสด ไก่สด ร้านแดงฟาร์ม อำเภอบ้านลาด ร้านรุ่งเรืองการค้า และอำเภอเมือง ร้านเพชรบุรีหมูสด ไก่สด ร้านหมูอนามัยบันไดอิฐ และร้านแดงฟาร์ม โดยผู้ค้าจะนำเนื้อหมูมาจำหน่ายวันละ 40-50 กิโลกรัม เริ่มจำหน่ายเวลา 10.00 น. จนกว่าสินค้าจะหมด จำกัดจำนวนซื้อ 1 กิโลกรัม/คน จำหน่ายตั้งแต่วันที่ 16-31 มกราคม 2565
ทั้งนี้ พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรีเร่งหาผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการให้ครอบคลุมทุกอำเภอ เพื่อให้มีจุดจำหน่ายเนื้อหมูในราคา กิโลกรัมละ 150 บาท และได้เจรจากับผู้ผลิต ผู้ค้า ไข่ไก่ เนื้อไก่ รายใหญ่ให้ตรึงราคา ลดความเดือดร้อนช่วยเหลือประชาชน
สวท.เพชรบุรี
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","17/1/2022","ภาคตะวันตก","เพชรบุรี","สวท.เพชรบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220117115658888"], [404,"วัฒนธรรมฯ แม่ฮ่องสอน ยกสินค้าทางวัฒนาธรรม จำหน่ายสร้างรายได้ กวาดเงินกว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท","นางสาวทัศนีย์ ดอนเนตร์ วัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบหมายให้ นายอนุศักดิ์ บัวลา นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ ร่วมงาน ช่วงฟื้นผญา ศิลปวัฒนธรรมล้านนา นำคุณค่าสู่การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ภายใต้โครงการจัดแสดงนวัตกรรม และจำหน่ายสินค้า Lanna Expo 2021 กินดี อยู่ดี ชีวิตวิถีใหม่ ระหว่างวันที่ 7-16 มกราคม 2565 ซึ่งดำเนินการจัดงานโดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ณ บริเวณโถงท่าแพ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ในการนี้ สำนักงานวัฒนธรรม?จังหวัดแม่ฮ่องสอน?ได้สนับสนุนเครือข่ายทางวัฒนธรรมในการร่วมจำหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรม? ตลอดถึงการสาธิตภูมิปัญญาท้องถิ่นของจังหวัดแม่ฮ่องสอน? เพื่อสร้างรายได้ให้กับเครือข่าย? ดังนี้ ข้าวปุกงา/ถั่วลายเสือคั่วสายฟ้า/ชุดไตแม่ฮ่องสอน/แปรรูปถั่วเหลือง/ภูมิปัญญาการทำกาแฟลั๊วะ/การอีดน้ำมันงาแบบโบราณ/และการทำขนมงา (ไทใหญ่)
กิจกรรมภายในงานมีการจำหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรมทั้งในรูปแบบการออกบูธและรูปแบบออนไลน์ ไลฟ์สดผ่านเพจ \"ช่วงฟื้นผญา ศิลปวัฒนธรรมล้านนา\" Lanna Expo 2021 นอกจากนี้มีการแสดงศิลปะวัฒนธรรมล้านนาของจังหวัดต่างๆ? โดยสามารถสรุปยอดการจำหน่ายสินค้าการสาธิตภูมิปัญญาท้องถิ่น? ระหว่างวันที่ 7 มกราคม -16 มกราคม 2565 จำนวนทั้งสิ้น?152,170 บาท
ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าว ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
","17/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220117120832889"], [405,"จังหวัดลำพูน มุ่งส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP 3 - 5 ดาว เพิ่มความทันสมัย ให้เป็นที่นิยมของผู้บริโภคตรงตามความต้องการของตลาดในยุคปัจจุบัน","
วันนี้ (17 ม.ค.65) สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดลำพูน จัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP 3 - 5 ดาว จังหวัดลำพูน กิจกรรมย่อย พัฒนาศักยภาพผู้ผลิต ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ OTOP 3-5 ดาว ระหว่างวันที่ 17-19 มกราคม 2565 ณ โรงแรมแกรนด์ ปา โอเทล แอน รีสอร์ท ลำพูน โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการฯ ได้แก่ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP รวมทั้งสิ้น 40 คน โดย นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานเปิดโครงการ สำหรับการจัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP 3 - 5 ดาว จังหวัดลำพูน มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ส่งเสริมและพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ ออกแบบผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ OTOP และพัฒนาช่องทางการตลาดของผลิตภัณฑ์ OTOP โดยผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับการถ่ายทอดความรู้และทักษะจากวิทยากรผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบตัดเย็บเบื้องต้น เทคนิคการปักผ้าและการแปรรูปผลิตภัณฑ์ ให้มีความทันสมัย เป็นที่นิยมของผู้บริโภครวมถึงแนวโน้มการตลาดในยุคปัจจุบัน ได้รับความอนุเคราะห์วิทยากร จากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำพูน และทีมวิทยากรเอกชนผู้มีความเชี่ยวชาญ ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดนโยบายการเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยการเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้เข้มแข็ง สามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการเพิ่มองค์ความรู้ในด้านการปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการผลิตในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ จังหวัดลำพูน เป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงเรื่องการทอผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ โดดเด่น มีความสวยงาม ทั้งผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าชนเผ่า และการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผ้า นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ชุมชนอื่นๆ ที่มีความน่าสนใจและเป็นที่นิยมของผู้บริโภค จังหวัดลำพูนได้เล็งเห็นความสำคัญของผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน จึงได้สนับสนุนงบประมาณโครงการฯ สำหรับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่มีโอกาสได้เข้าร่วมโครงการฯ ในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความทันสมัย เป็นเอกลักษณ์สื่อถึงความเป็นตัวตนของเจ้าของผลิตภัณฑ์ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของกลุ่มผู้ผลิตชุมชน ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น โครงการฯ นี้ จึงเป็นประโยชน์และก่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","17/1/2022","ภาคเหนือ","ลำพูน","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220117122813903"], [406,"ภาครัฐและเอกชน จ.สุราษฎร์ธานี ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ไมซ์ใหม่ Thailand 7 MICE Magnificent Themes 2021","วันนี้ (17 ม.ค. 65) นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับมอบหมายจากนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานเปิดงานการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ไมซ์ใหม่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี Thailand 7 MICE Magnificent Themes 2021 ที่จัดขึ้น ณ The Nature samui อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. กำหนดจัดประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไมซ์ใหม่ พื้นที่ไมซ์ชิตี้ และเมืองที่มีศักยภาพ (7 Themes) เพื่อสำรวจและพัฒนาพื้นที่เมืองไมซ์ซิตี้และเมืองที่มีศักยภาพ ให้มีความพร้อมในการรองรับกิจกรรมไมซ์ และเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ประกอบการหรือผู้จัดกิจกรรมไมซ์ เพื่อก่อให้เกิดรายได้และพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ ในอนาคต
สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มีการบรรยายเพื่อพัฒนาทักษะและเรียนรู้ตลาดไมซ์ พร้อมเปิดโอกาสให้ผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วมได้ซักถามและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีการแบ่งกลุ่มทำกิจกรรม Workshop ระดมสมองเพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมตามโจทย์ที่ได้รับมอบหมาย และนำเสนอกิจกรรมกลุ่มและรับฟังความคิดเห็นจากวิทยากรและผู้บริหารของ TCEB
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","17/1/2022","ภาคใต้","สุราษฎร์ธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220117140444933"], [407,"พาณิชย์จังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดงราคาถูก ช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน","วันนี้ (17 มกราคม 2565) นายพสิษฐ์ พรหมภักดี พาณิชย์จังหวัดฉะเชิงเทรา ประชาสัมพันธ์เปิดจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดง ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ตามโครงการ หมูพาณิชย์..ลดราคา ช่วยประชาชน (ส่วนภูมิภาค) ตามนโยบายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนาตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาหมูที่สูงขึ้นและให้ประชาชน มีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งเป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภค โดยจำหน่ายหมูเนื้อแดง ราคากิโลกรัมละ 150 บาท ระหว่างวันที่ 16 - 31 มกราคม 2565 จำนวน 7 จุด ในพื้นที่ 3 อำเภอ ประกอบด้วย บริเวณหน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดฉะเชิงเทรา อ.เมือง (ขายทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์) ร้านเบทาโกร สาขาฉะเชิงเทรา อ.เมือง ร้านดีฟาร์ม สาขาฉะเชิงเทรา อ.เมือง ร้านหมูถูก สาขาฉะเชิงเทรา อ.เมือง ร้านหมูดีนะ (หน้าตลาดทรงชัย) อ.เมือง ร้านมาโนช (ตลาดโรงสี) อ.บางปะกง
ร้านหมูดีนะ (ตลาดเก่าพนม) อ.พนมสาราคาม
ทั้งนี้ ประชาชนผู้สนใจสามารถหาซื้อได้ตามจุดจำหน่ายต่างๆ เบื้องต้น และหากมีการเพิ่มจุดจำหน่าย สำนักงานพาณิชย์จังหวัดฉะเชิงเทรา จะประชาสัมพันธ์แจ้งให้ทราบทาง Facebook สำนักงานพาณิชย์จังหวัดฉะเชิงเทรา และสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดฉะเชิงเทรา ต่อไป หรือสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 038-511400
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ ได้เรียกประชุมกระทรวงพาณิชย์เพื่อติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างต่อเนื่อง และมีข้อสั่งการให้ตั้งวอร์รูมติดตามราคาสินค้า แก้ปัญหาและดำเนินคดีกับผู้ที่ฉวยโอกาสอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ในฐานะประธานกรรมการตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือ พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ระดับจังหวัด เป็นประธานวอร์รูมในระดับจังหวัด
ส่วนกรณีที่น้ำอัดลมจะมีการปรับขึ้นราคานั้น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเรียกผู้ประกอบการมาพบ พร้อมได้สั่งการผ่านกรมการค้าภายในห้ามขึ้นราคาโดยเด็ดขาด ขณะเดียวกันยังได้สั่งการให้ทุกฝ่ายช่วยกันดูแลประชาชนอย่างเต็มที่
","17/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220117142756959"], [409,"พาณิชย์ชัยนาทเปิดจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดงตามโครงการพาณิชย์ ลดราคาช่วยประชาชน จำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคากิโลกรัมละ 150 บาท","วันที่ 17 มกราคม 2565 นายประมวล นิลนาค พาณิชย์จังหวัดชัยนาท พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดชัยนาท ลงพื้นที่เปิดจุดจำหน่ายโครงการหมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชนครั้งที่ 3 ณ ตลาดสดภาษีซุง และตลาดสดเทศบาลเมืองชัยนาท อ. เมืองชัยนาท ตามนโยบายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากราคาเนื้อสุกรปรับตัวสูงขึ้น เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายเนื้อสุกรในราคาถูกกว่าท้องตลาด โดยจำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคากิโลกรัมละ 150 บาท
ทั้งนี้ จังหวัดชัยนาทได้ดำเนินโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคาช่วยประชาชน (ครั้งที่ 3) ในวันที่ 17 31 มกราคม 2565 รวมทั้งสิ้น 15 วัน จำนวน 10 จุด ได้แก่ ตลาดสดภาษีซุง อำเภอเมือง อาทิ เจ๊หมึกหมูสด, จำนงขายหมู, เจ๊หมวยหมูสด, โกดังหมูสด, กดตังหมูสด, ทรงพลหมูสด, หมูสดแม่บุญเรือน, ยืนขายหมู, เฮียปักขายหมู, ในส่วนของตลาดสดเทศบาลเมืองชัยนาท อาทิ เขียงหมูลุงชิน และกิตติชนม์หมูดี
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","17/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","ชัยนาท","สวท.ชัยนาท","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220117152127030"], [410,"กระทรวงพาณิชย์ สั่งห้ามขึ้นราคาน้ำอัดลม ตั้งวอร์รูมแก้ปัญหาทุกจังหวัด","นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประชุมติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างต่อเนื่องและมีข้อคำสั่งการให้ตั้งวอร์รูมติดตามราคาสินค้า แก้ปัญหาและถ้าหากพบเห็นคนกระทำผิดให้ดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542
ในเรื่องของราคาน้ำอัดลม ทางกระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในคอยดูแลผู้ประกอบการร้านค้าห้ามขึ้นราคาเด็ดขาดและยังได้สั่งการให้ทุกฝ่ายจะต้องช่วยดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ ซึ่งจะมีการประชุมหารือกันอีกครั้งในครั้งต่อไป
นายชัยวัฒน์ แสงศรี รองผู้ว่าราชการ จังหวัดยโสธร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหาร ศูนย์อำนวย การขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดยโสธร (คจพ.จ.ยส) โดยมีคณะกรรมการฯ เจ้าหน้าที่ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด,อำเภอ เข้าร่วมประชุม
โดยที่ประชุมรับทราบการประกาศ วาระจังหวัดยโสธร ขจัดความยาก จนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน และเห็นชอบผลการตรวจสอบ ข้อมูลครัวเรือนเป้าหมาย TPMAP จังหวัดยโสธร ทั้ง 5 มิติ และส่งต่อ ข้อมูลที่รับรองแล้วให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อมูลไปใช้ในการแก้ไข ปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตต่อไป
พร้อมนี้ ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดยโสธร (ศจพ.จ.ยส) ประกอบด้วย การขับเคลื่อนการดำเนินงานการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยให้เป็น วาระจังหวัด ที่หน่วยงานเกี่ยวข้องต้องให้ความสำคัญ และดำเนินการ ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม, แนวทางการดำเนินงาน ขั้นตอนการขจัด ความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง, ฐานครัวเรือนเป้าหมายในระบบ TPMAP Logbook ที่ตกเกณฑ์ 5 มิติจังหวัดยโสธร จำนวน 2,211 ครัวเรือน รวม 3,773 คน และข้อมูลครัวเรือนเป้าหมาย TPMAP ซึ่งรับรองแล้วจำนวน 291 ครัวเรือน ครัวเรือนพบใหม่ 376 ครัวเรือน รวม 667 ครัวเรือน ในอำเภอ ดังนี้ อำเภอเมือง 214 ครัวเรือน อำเภอทรายมูล 4 ครัวเรือน อำเภอกุดชุม 145 ครัวเรือน อำเภอคำเขื่อนแก้ว 23 ครัวเรือน อำเภอป่าติ้ว 181 ครัวเรือน อำเภอมหาชนะชัย 35 ครัวเรือน อำเภอค้อวัง 8 ครัวเรือน อำเภอเลิงนกทา 43 ครัวเรือนและอำเภอไทยเจริญ 14 ครัวเรือน
ทั้งนี้ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดยโสธร จะส่งข้อมูลที่ผ่านการรับรองแล้วให้คณะทำงานฯ ได้ดำเนินการตามกระบวนการขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนฯ ให้ผู้ตกเกณฑ์ได้รับการแก้ไขปัญหา และมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","17/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ยโสธร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220117161535068"], [412,"จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองการดำเนินการตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 ครั้งที่ 1/2565","วันนี้(17ม.ค. 65) ที่ห้องประชุมนางยวนชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี (หลังใหม่) อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายประเวศ ไทยประยูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองการดำเนินการ ตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้งที่ 1/2565 พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมเพื่อพิจารณากรณีขอใหม่ ขอเพิ่มห้องและขอใบต่ออนุญาต จำนวน 86 ราย ในพื้นที่ 6 อำเภอ
จากอำเภอต่างๆ ในเขตพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ส่งเอกสารหลักฐานการขออนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมเพื่อเสนอให้นายทะเบียนโรงแรมพิจารณาออกใบอนุญาต ซึ่งในรอบเดือนพฤศจิกายน ถึง ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมาได้มีผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมยื่นคำขออนุญาตตามพระราชบัญญัติโรงแรม จาก 6 อำเภอ รวมจำนวน 86 ราย (ขอใหม่ ขอเพิ่มห้อง ขอต่ออายุ)
สำหรับกรณีที่ขอใหม่ ขอเพิ่มห้องและขอใบต่ออนุญาต จำนวน 86 ราย ในพื้นที่ 6 อำเภอ ประกอบด้วยอำเภอบ้านนาเดิม จำนวน 4 แห่ง (ขอต่อ) อำเภอเวียงสระ จำนวน 5 แห่ง (เพิ่ม 1 ห้อง ขอต่อ 4 ห้อง) อำเภอเมือง จำนวน 9 แห่ง (ขอใหม่1 ขอต่อ 8) อำเภอดอนสัก จำนวน 6 แห่ง (ขอใหม่) อำเภอเกาะพะงัน จำนวน 7 แห่ง (ขอใหม่ 3 ขอต่อ 4) และนายอำเภอเกาะสมุย จำนวน 55 แห่ง (ขอใหม่ 5 เพิ่มห้อง 1 ขอต่อ 49) ซึ่งมติที่ประชุมทางคณะกรรมการเห็นชอบให้ผ่านการพิจารณา81 ราย และไม่ผ่านการเกณฑ์จำนวน 5 ราย ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาให้ไปปรับปรุงและแก้ไขให้เรียบร้อยเพื่อพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป.
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","17/1/2022","ภาคใต้","สุราษฎร์ธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220117160140052"], [413,"ปตท. คงราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติช่วยเหลือประชาชนตรึงราคา LPG และ NGV ไปจนถึงเดือนมีนาคมนี้","นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ราคาพลังงานที่ผันผวนของตลาดโลกและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประกอบกับที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. ได้ขอความร่วมมือ ปตท. ช่วยเหลือด้านราคาพลังงานให้แก่ประชาชน จึงได้ขยายเวลาการคงราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติ สำหรับยานยนต์ NGV ที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม และราคาขายปลีก NGV ในโครงการ เอ็นจีวี เพื่อลมหายใจเดียวกัน สำหรับผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ที่เคยรับสิทธิ์ผ่าน www.เอ็นจีวีเพื่อลมหายใจเดียวกัน.com ที่ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม จนถึงวันที่ 15 มีนาคม 2565
นอกจากนั้น ปตท. จะยังคงสนับสนุนส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม หรือ LPG แก่ผู้มีรายได้น้อย กลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยขยายระยะเวลาไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565 ทั้งนี้ ปตท. ให้การสนับสนุนส่วนลดดังกล่าวตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 เป็นต้นมา
นายชัยวัฒน์ ชัยเวชพิสิษฐ ปลัดจังหวัดยโสธร เป็นประธานการประชุมคณะทำงาน ฝ่ายอำนวย การตามแผนปฏิบัติการ 50 ตำบลมั่งคง : พื้นที่ปลอดภัยบาเสพติด จังหวัดยโสธร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ที่ห้องประชุมข้าวหอม มะลิอินทรีย์ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดยโสธร
โดยที่ประชุมรับทราบแนวทางการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนด้านการส่งเสริมหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินพื้นที่ปลอดภัยยาเสพติด ภายใต้การขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการ 50 ตำบลมั่นคง : พื้นที่ปลอดภัยยาเสพติดจังหวัดยโสธร ประจำปี พ.ศ. 2565 ซึ่งมีแนวทางดำเนินการในแต่ละด้านเช่น กลไกและหน้าที่ในการขับเคลื่อน หมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดยโสธรระดับต่างๆ ข้อมูลหมู่บ้าน กองทุนแม่ของแผ่นดินที่มีพื้นเป้าหมาย 50 ตำบลมั่นคง จำนวน 261 หมู่บ้าน และนอกพื้นที่ จำนวน 140 หมู่บ้าน แนวทางการขับเคลื่อน กองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดยโสธร ประจำปี 2565 โดยแบ่งเป็น 4 ระยะได้แก่
ระยะที่ 1 กระบวนการสร้างการรับรู้ ซึ่งดำเนินการระหว่างเดือนธันวาคม 2564 - กุมภาพันธ์ 2565
ระยะที่ 2 กระบวนการป้องกันปัญหายาเสพติด ดำเนินการระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน 2565 โดยการขับเคลื่อนตามกระบวนงาน 10 ขั้นตอนกองทุนแม่ของแผ่นดิน
ระยะที่ 3 กระบวนการแก้ไขปัญหายาเสพติด ดำเนินการระหว่างเดือนเมษายน - มิถุนายน 2565 เป็นการตรวจสุขภาพกองทุนแม่ของแผ่นดิน 4 ด้าน 19 ตัวชี้วัด
ระยะที่ 4 กระบวนการติดตามและรายงานผล มีการติดตามและรายงานทุกเดือน และมีการประเมินผลทุก 3 เดือน เพื่อสรุปผลการทำงานให้กับคณะทำงานฯ ทุกระดับทราบต่อไป
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","17/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ยโสธร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220117161431067"], [415,"พาณิชย์สมุทรสาครตรวจเยี่ยมร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน หมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท","วันนี้ (17 ม.ค.65) เวลา 10.00 น. นางสาวสุนันทา น้อยพิทักษ์ พาณิชย์จังหวัดสมุทรสาคร พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสมุทรสาคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมร้านขายหมูที่เข้าร่วมโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน หมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่า ร้านที่เข้าร่วมโครงการฯ มีการขายหมูกิโลกรัมละ 150 บาทจริง ในจำนวนจำกัดในแต่ละวัน สามารถซื้อได้ไม่เกินคนละ 2 กิโลกรัม มีป้ายแสดงเข้าร่วมโครงการฯ และป้ายแสดงราคาสินค้าชัดเจน นอกจากนี้เพื่อสามารถตรวจสอบได้ ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้มีการให้คนซื้อผู้ชื่อ เบอร์โทร และจำนวนกิโลที่ซื้อ ลงในสมุด บ้างร้านมีการใช้ QR CODE เพื่อสแกนจ่ายเงิน สำหรับ จังหวัดสมุทรสาคร มีร้าขายหมูที่เข้าร่วมโครงการพาณิชย์ ...ลดราคา..ช่วยประชาชน หมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท ครั้งที่ 3 ซึ่งจะเริ่มขายตั้งแต่วันที่ 17 - 31 มกราคม 2565 ทั้ง 3 อำเภอมีร้านขายหมู จำนวน 10 ร้านค้า ได้แก่ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จำนวน 4 ร้าน ได้แก่ ร้านเจ๊เพียร (ป้าหมู) ตลาดปั้มเอสโซ่ท่าจีน/ร้านอินเทคค์ มาร์ท สาขามหาชัย/ร้านอินเทคค์ มาร็ท สาขาพันท้ายนรสิงห์/ร้านหมูโสรญา (เจ๊อ้อ) ตำบลบางโทรัด อำเภอกระทุ่มแบน จำนวน 5 ร้าน ได้แก่/ร้านหมูปูอ้วน/ร้านเจ๊รัตน์/ร้านเจ๊ตา-เฮียเล็ก/ร้านเจ๊เปิ้ล-เฮียตี๋/ร้านเจ๊หมวย-เฮียจี๊ด และอำเภอบ้านแพ้ว จำนวน 1 ร้าน ได้แก่ ร้านราตรี หมูสด ตำบลหลักสาม ซึ่งแต่ละร้านมีปริมาณสินค้าจำนวนจำกัดต่อวัน สำนักงานพาณิชย์สมุทรสาคร โทร 0-3441-3566
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","17/1/2022","ภาคตะวันตก","สมุทรสาคร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220117164742093"], [416,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์จัดโครงการหมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน ครั้งที่ 3","นางพิรุณวรรณน์ จงใจภักดิ์ พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์กำหนดจัดโครงการหมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน ครั้งที่ 3 ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อจำหน่ายหมูเนื้อแดงให้กับประชาชนผู้บริโภค ราคากิโลกรัมละ 150 บาท ระหว่างวันที่ 17- 31 มกราคม 2565 โดยมีจุดจำหน่าย จำนวน 9 จุด ได้แก่
1. หน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ถ.เทศบาล 4 อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 09.00 น.
2. ร้านเจ๊กานต์หมูสด ถ.สุรินทร์-ปราสาท ต.เฉนียง อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 09.00 น.
3. ร้านเฮียตี้ ถ.สุรินทร์-ศีขรภูมิ ต.สลักได อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 09.00 น.
4. ร้านแรมโบ้หมูสด ถ.เลี่ยงเมืองสุรินทร์-ปราสาท ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 09.00 น.
5. เขียงเอ แอนด์ พี โปรช็อป ถ.สุรินทร์-ปราสาท ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 08.30 น.
6. ร้านพงษ์หมูสด สาขา 1 ตรงกันข้ามทางเข้าบ้านบุณเยิง ต.แสลงพันธ์ อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 09.00 น.
7. ร้านพงษ์หมูสด สาขา 2 (เยื้องร้านทะเลเผา) ต.สลักได อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 15.00 น.
8. ร้านวีซีมีท (VC meat) สาขาสุรินทร์ ถ.เทศบาล 3 ต.ในเมือง อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 09.00 น.
9. ร้านเจ้จิ้งหรีด ถ.เทศบาล 3 ต.ในเมือง อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 09.00 น.
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาสุกรที่สูงขึ้น และให้ประชาชนมีทางเลือกในการซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งเป็นการลดภาระค่าครองชีพ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงสถานการณ์ดังกล่าว โดยมีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","17/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สวท.สุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220117165021097"], [417,"คณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เร่งรัด ทอท. เพิ่มขีดความสามารถอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิรองรับผู้โดยสารถึง 65ล้านคนต่อปีภายในปี 2568","นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุม ว่า ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานเพื่อจ้าง ICAO ซึ่ง ทอท. อยู่ระหว่างการประสานกับสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาร่างข้อตกลง (Agreement) เพื่อให้ ICAO ดำเนินการศึกษาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนตุลาคมนี้
สำหรับแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คาดการณ์ว่า ปริมาณผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะกลับมาฟื้นตัวในระดับเดียวกันกับช่วงก่อนเกิดการระบาดโควิด-19 หรือประมาณปี 2562 อีกครั้ง ในช่วงปี 2567 - 2568 มีผู้โดยสารประมาณ 65 ล้านคนต่อปี ส่วนความก้าวหน้าการดำเนินงานเพื่อก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก (East Expansion) คาดว่าจะดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างปรับแบบในเดือนกรกฎาคม 2565 และเริ่มก่อสร้างได้ในเดือนพฤศจิกายน 2565 ใช้ระยะเวลา 29 เดือน แล้วเสร็จเปิดให้บริการได้ประมาณเดือนมีนาคม 2568
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติมอบหมายให้ ทอท. เร่งรัดการดำเนินการจ้าง ICAO ตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้มีข้อมูลมาประกอบการพิจารณาร่วมกับผลการศึกษาของ IATA เพื่อพิจารณาแนวทางการทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวมถึงเห็นชอบให้ ทอท. ดำเนินการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ซึ่งมีความพร้อมและ ครม. อนุมัติโครงการไว้แล้ว ให้เป็นไปตามแผนการดำเนินงาน (Action Plan) ที่กำหนดไว้ ซึ่งจะทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีความพร้อมรองรับผู้โดยสารที่คาดว่าจะกลับมาในระดับประมาณ 65 ล้านคนต่อปี ในปี 2568 และให้ทอท.ประสานการทำงานกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ศึกษาแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในการเตรียมพร้อมรองรับปริมาณผู้โดยสารที่ IATA คาดการณ์ไว้ว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางการเดินทางอันดับ 9 ของโลก โดยจะมีผู้โดยสารเข้ามาในไทยถึง 200 ล้านคน รวมถึงให้ศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการขนส่งทางอากาศในกรณีที่มีการพัฒนารถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูงด้วย
","17/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220117203449222"], [418,"ผู้ว่าฯสมุทรสงคราม ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจได้รับทราบการสนับสนุนเพื่อฟื้นฟูผู้ประกอบการเนื่องจากการแพร่ระบาดโรคโควิด -19","วันนี้(17 ม.ค.65)ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดฯ นายขจร ศรีชวโนทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจหรือ กรอ.จังหวัดสมุทรสงคราม โดยมีนายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ และหัวหน้าส่วนราชการ ภาคประชาชน ภาคเอกชน เข้าร่วมประชุมรับทราบผลการพิจารณาข้อเสนอขอรับการสนับสนุนเพื่อฟื้นฟูผู้ประกอบการเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 กลุ่มจังหวัดภาคกลางปริมณฑล และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ให้จังหวัดสมุทรสงครามและคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแกก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
จากนั้น ร่วมกันพิจารณา การจัดการบริหารน้ำ คลองแม่กลาง คลองสุนัขหอน เพื่อฟื้นฟูท่องเที่ยวคลองประวัติศาสตร์ ,จังหวัดสมุทรสงครามเมืองผู้สูงอายุ,เส้นทางท่องเที่ยว Thailand Riviera กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2, การจัดการบริหารขยะชุมชน ขนะในลำน้ำ และปัญหาน้ำเสียแขตติดจังหวัดใกล้เคียง
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","17/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","สมุทรสงคราม","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220117173515129"], [419,"พาณิชย์สตูล ขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึงราคาไข่ไก่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน","บ่ายวันที่ 17 มกราคม 2565 นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับทราบกาดำเนินงานการแก้ปัญหาเรื่องค่าครองชีพสูง ที่ส่งผลกระทบต่อเรื่องปากท้อง และการดำรงชีพของพี่น้องประชาชนจังหวัดสตูล
โดยนางสายช่อ อังศุพานิช พาณิชย์จังหวัดสตูล รายงานการให้ความช่วยเหลือในเรื่องการควบคุมและตรึงราคาสินค้า ว่า ที่ผ่านมาทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสตูล ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้าในท้องตลาด เพื่อเข้มงวดในการควบคุมราคาสินค้าต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องราคาไข่ไก่ โดยราคาขายปลีกไข่ไก่ในจังหวัดสตูล ยังคงอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าราคากลางที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด
นอกจากนี้ ยังได้มีการช่วยเหลือประชาชนโดยจัดโครงการ \"หมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน\" ให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายปี 2564 จนถึงปัจจุบัน อย่างต่อเนื่อง สำหรับรอบที่ 3 ระหว่างวันที่ 16-31 มกราคม 2565 จัดให้มีการจำหน่ายหมูราคาถูกอีกรอบ วันละ 6 จุดๆ ละ 1 ตัว ในราคา ก.ก.ละ 150 บาท ในขณะที่ราคาหมูในตลาด ราคา ก.ก.ละ 180-220 บาท
ผู้ว่าฯ สตูล เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พาณิชย์จังหวัด พัฒนาชุมชนจังหวัด ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นการเร่งด่วน ถึงแม้จังหวัดสตูลจะได้รับผลกระทบไม่มากก็ตาม
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","17/1/2022","ภาคใต้","สตูล","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220117175031140"], [420,"ตรึงราคาจำหน่ายเนื้อไก่ ในห้างค้าปลีกค้าส่ง บรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย","นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในวันนี้ (17 ม.ค.65) ได้หารือร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ สมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย สมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ รวมทั้งผู้ผลิตรายใหญ่ ห้างค้าปลีกค้าส่ง สมาคมตลาดสดแห่งประเทศไทยและกรมปศุสัตว์ ซึ่งได้เห็นตรงกันที่จะช่วยเหลือประชาชนผู้บริโภคในภาวะวิกฤติ โดยจะให้ความร่วมมือตรึงราคาจำหน่ายปลีก ณ ห้างค้าปลีกค้างส่ง (บิ๊กซี แม็คโคร โลตัส) โดยไก่สดรวมเครื่องใน ,ไก่สดไม่รวมเครื่องใน ราคา 60-65 บาทต่อกิโลกรัม น่องติดสะโพก ราคา 60-65 บาทต่อกิโลกรัม น่อง, สะโพก ราคา 65-70 บาทต่อกิโลกรัม เนื้ออก ราคา 70-75 บาทต่อกิโลกรัม เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (18 มกราคม 2565) ไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ทั้งนี้ ราคาขายปลีกในตลาดต่างๆ จะต้องสอดคล้องกับราคาดังกล่าวด้วย
นอกจากนี้ สำหรับการดูแลค่าครองชีพให้กับประชาชน กระทรวงพาณิชย์ จะเสนอของบกลางจากรัฐบาล ในที่ประชุม ครม. วันพรุ่งนี้ (18 ม.ค.65) วงเงิน 1,400 ล้านบาท เพื่อเปิดจุดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค จำนวน 3,050 จุดทั่วประเทศ โดยจะดำเนินการเป็นระยะเวลา 90 วัน หรือ 3 เดือน ส่วนหมูเนื้อแดง ปัจจุบันยังคงเปิดจุดจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูก กก.ละ 150 บาท จำนวน 667 จุดทั่วประเทศ ไปจนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2565 เพื่อช่วยแทรกแซงราคาเนื้อหมูและลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังไม่มีนโยบายให้สินค้ารายใดปรับขึ้นราคา และได้ขอความร่วมมือผู้ผลิตให้ตรึงราคาจำหน่ายไปก่อน แต่หากมีความจำเป็นต้องปรับขึ้น ต้องชี้แจงรายละเอียดต้นทุน โดยจะพิจารณาตามความเหมาะสม
หากประชาชนพบเห็นการกักตุน หรือฉวยโอกาส จำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศและหากตรวจสอบพบการกระทำผิดจะมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ
","17/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220117181136145"], [421,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ","
พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ (นางพิรุณวรรณน์ จงใจภักดิ์) พร้อมด้วยหัวหน้ากลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า (นางวิยะดา เฮ่ประโคน) นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ (นางกรรณชนันจ์ คชสีห์) กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์การจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่อำเภอเมืองสุรินทร์ และพื้นที่ใกล้เคียง ดังนี้
1. สุกรชำแหละ ราคาขายปลีก
-ราคาในพื้นที่เมืองสุรินทร์ และพื้นที่ใกล้เคียง
- เนื้อแดง ราคากก.ละ 200 -220 บาท
- สันนอก/สันใน ราคากก.ละ 200 -220 บาท
- สามชั้น ราคากก.ละ 220-240 บาท
- มันหมูแข็ง ราคากก.ละ 70-80 บาท
ราคาสุกรชำแหละเมื่อเปรียบเทียบกับสัปดาห์ก่อนราคาทรงตัว ปริมาณการซื้อขายมีน้อย ภาวะการค้าค่อนข้างซบเซา
-ราคา ณ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี แม็คโคร เทสโก้โลตัส
- เนื้อแดง ราคากก.ละ 185 -190 บาท
- สามชั้น ราคากก.ละ 230-259 บาท
ราคาสุกรชำแหละปรับสูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อน เนื้อแดงราคาสูงขึ้น กก.ละ 18 บาท และหมูสามชั้น ปรับสูงขึ้น กก.ละ 5 บาท
2. ราคาจำหน่ายปลีกไก่สดชำแหละ
-ไก่สดทั้งตัวไม่รวมเครื่องใน กก.ละ 75-80 บาท
-ไก่เนื้อไก่สดชำแหละอก กก.ละ 90-100 บาท
-ไก่เนื้อไก่สดชำแหละสะโพก กก.ละ 90-100 บท
- ไก่เนื้อสดชำแหละน่อง กก.ละ 85-90 บาท
3. ราคาจำหน่ายปลีกไข่ไก่คัดเบอร์ ราคายังทรงตัว
- ไข่ไก่ เบอร์ 0 ราคา 108-115 บาท/แผง
- ไข่ไก่ เบอร์ 1 ราคา 96-105 บาท/แผง
- ไข่ไก่ เบอร์ 2 ราคา 93-99 บาท/แผง
- ไข่ไก่ เบอร์ 3 ราคา 81-95 บาท/แผง
- ไข่ไก่ เบอร์ 4 ราคา 75-87 บาท/แผง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ผู้ประกอบการค้าปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าให้ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า และป้องกันการร้องเรียน หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้า สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569
4. จุดจำหน่ายโครงการ หมูพาณิชย์ ลดราคา! ช่วยประชาชน จังหวัดสุรินทร์ ราคากิโลกรัมละ 150 บาท จำนวน 9 จุด ดังนี้
1. หน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ถ.เทศบาล 4 อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 09.00 น.
2. ร้านเจ๊กานต์หมูสด ถ.สุรินทร์-ปราสาท ต.เฉนียง อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 09.00 น.
3. ร้านเฮียตี้ ถ.สุรินทร์-ศีขรภูมิ ต.สลักได อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 09.00 น.
4. ร้านแรมโบ้หมูสด ถ.เลี่ยงเมืองสุรินทร์-ปราสาท ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 09.00 น.
5. เขียงเอ แอนด์ พี โปรช็อป (หน้ามหาวิทยาลัยราชมงคลสุรินทร์) ถ.สุรินทร์-ปราสาท ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 08.30 น.
6. ร้านพงษ์หมูสด สาขา 1 (ตรงกันข้ามทางเข้าบ้านบุณเยิง) ต.แสลงพันธ์ อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 09.00 น.
7. ร้านพงษ์หมูสด สาขา 2 (เยื้องร้านทะเลเผา) ต.สลักได อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 15.00 น.
8. ร้านวีซีมีท (VC meat) สาขาสุรินทร์ ถ.เทศบาล 3 ต.ในเมือง อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 09.00 น.
9. ร้านเจ้จิ้งหรีด ถ.เทศบาล 3 ต.ในเมือง อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 09.00 น.
เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาสุกรที่สูงขึ้น และให้ประชาชนมีทางเลือกในการซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งเป็นการลดภาระค่าครองชีพ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงสถานการณ์ดังกล่าว โดยมีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","17/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อุบลราชธานี","สวท.สุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220117190407196"], [422,"กรมการพัฒนาชุมชน ส่งสุขต่อเนื่องเดินหน้าจัดงาน โอทอปไทย รวมใจ ส่งความสุขปีใหม่ 2565 กระตุ้นเศรษฐกิจสู่ชุมชน","นายวรงค์ แสงเมือง ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน เปิดงาน โอทอปไทย รวมใจ ส่งความสุขปีใหม่ 2565ณ บริเวณ Main Hall และหน้าร้านแว่นท้อปเจริญ ศูนย์การค้าไอทีสแควร์ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ เพื่อจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ เพิ่มช่องทางการตลาดและสร้างรายได้ให้กับชุมชน รวมถึงประชาสัมพันธ์การดำเนินงานโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ สร้างการเรียนรู้แนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 -23 มกราคม 2565 รวม 9 วัน มีผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP สนใจเข้าร่วมจำหน่าย จำนวน 58 ราย ประกอบด้วย ประเภทอาหารชวนชิม อาหาร เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึกและประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร คาดว่าจะมียอดจากการจำหน่ายสินค้าในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 1,500,000 บาท จะทำให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชน อันจะเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งต่อไป
","17/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220117191852203"], [423,"จ.พังงา ภาครัฐร่วมเอกชนเตรียมเดินหน้าให้จังหวัดพังงาเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ","
วันนี้ (17 ม.ค.65) นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชน ร่วมประชุมหารือการระดมความคิดเห็นการพัฒนาเขตระเบียงเศรษฐกิจเวลเนสอันดามันฯ ณ ห้องประชุมภูผา ศาลากลางจังหวัดพังงา
จังหวัดพังงาภาคการท่องเที่ยวเป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยให้เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวระดับโลก เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ สร้างความหลากหลายด้านการท่องเที่ยวทั้งระบบให้สอดรับกับนักท่องเที่ยว มุ่งเน้นที่สาขาทีมีศักยภาพเพื่อตอบสนองนโยบายและการยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ทั้งสินค้า บริการ บุคลากร ผู้ประกอบการ ตลอดจนแหล่งท่องเที่ยว
จังหวัดพังงามีสถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่สามารถรองรับชีวภาพของพืชสมุนไพรพื้นบ้านและผักพื้นถิ่นที่สามารถต่อยอดทางด้านเศรษฐกิจส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพิ่มมูลค่านวัตกรรมผลิตภัณฑ์ และบริการทางสุขภาพ มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ดังนั้นโครงการพังงาเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจะเป็นโครงการที่สำคัญที่จะดำเนินกิจกรรมด้านต่างๆ ให้เกิดผล ทั้งในด้านสังคม คุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และ สิ่งแวดล้อม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดพังงา (Wellnes tourism) ให้โดดเด่นโดยใช้พืชสมุนไพรและพืชผักอาหารท้องถิ่นมาใช้เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้เพาะปลูก แปรรูปผลิตภัณฑ์พืชสมุนไพร \"เมืองสมุนไพร (Herbal City)\" และเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจสุขภาพ คุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อม จังหวัดพังงา
สำหรับการประชุมครั้งนี้เพื่อวางแนวทางการบริหารจัดการตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจะเป็นหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบไปพร้อมกับภาคเอกชน เพื่อร่วมผลักดันให้จังหวัดพังงาเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","17/1/2022","ภาคใต้","พังงา","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220117205521230"], [424,"จ.หนองคาย ตรวจสต็อกป้องกันการกักตุนเนื้อหมู","รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกตรวจสต็อกเนื้อหมูตามร้านค้าขนาดใหญ่และห้างสรรพสินค้า ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย เพื่อป้องกันการกักตุนเนื้อหมู
เวลา 16.00 น. วันนี้ (17 ม.ค.65) นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้มอบหมายให้ นางสาวสิริมา วัฒโน รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นายกิตติคุณ บุตรคุณ ปลัดจังหวัดหนองคาย, นายณัฐพงศ์ คำวงศ์ปิน หัวหน้าสำนักงานจังหวัดหนองคาย, นายวิโรจน์ พิเภก พาณิชย์จังหวัดหนองคาย, นายสมเกียรติ ตู้จินดา ปศุสัตว์จังหวัดหนองคาย, นายยรรยง พรมศร ป้องกันจังหวัดหนองคาย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันออกตรวจสต็อกเนื้อหมูตามร้านค้าขนาดใหญ่และห้างสรรพสินค้า ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย
การออกตรวจสต็อกเนื้อหมูตามร้านค้าขนาดใหญ่และห้างสรรพสินค้า ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย เพื่อป้องกันการกักตุนเนื้อหมู โดยได้มีการตรวจทั้งภายในร้านว่ามีปริมาณเนื้อหมูที่จำหน่ายเพียงพอหรือไม่ ตรวจราคาที่จำหน่าย และได้ตรวจสต็อกในห้องเย็น ซึ่งภาพรวมพบว่า ตามร้านค้าขนาดใหญ่และห้างสรรพสินค้า มีปริมาณเพียงพอกับความต้องการของประชาชน ส่วนภายในห้องเย็นที่มีการเก็บเนื้อหมูนั้นก็ไม่พบว่ามีการสต็อกเกินกว่าที่กำหนด อีกทั้งยังได้ขอความร่วมมือไม่ให้มีการกักตุนเนื้อหมู.
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
วันที่ 17 มกราคม 2565 นางพิรุณวรรณน์ จงใจภักดิ์ พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยนายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการค้าส่ง ซึ่งเป็นร้านธงฟ้าพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 2 ร้าน ได้แก่ บริษัท เมย์ (เล้าม่งเส็ง) จำกัด ที่ตั้งเลขที่ 216/1-3 ถ.เทศบาล 3 ต.ในเมือง อ.เมืองจ.สุรินทร์ และบริษัท เดอะวัน ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด ที่ตั้งเลขที่ 269 ม.4 ต.กังแอน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมและเชื่อมโยงช่องทางการจำหน่ายสินค้าของร้านค้าธงฟ้าฯ กับสินค้าขององค์การคลังสินค้า เช่น ข้าวสาร น้ำมันพืช กะทิ ฯลฯ และได้รับฟังปัญหาข้อเสนอเแนะวิธีการด้านการตลาดในช่องทางอื่นๆ อีกด้วย
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
นางสายช่อ อังศุพานิช พาณิชย์จังหวัดสตูล กล่าวว่า จากปัญหาราคาสินค้าปรับสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดปัญหาค่าครองชีพแก่ประชาชน กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดสรรงบประมาณให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสตูล จัดจำหน่ายเนื้อหมูราคาประหยัด ตามโครงการ \"หมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน\" ซึ่งรอบนี้เป็นรอบที่ 3 แล้ว โดยรอบแรก และรอบที่สอง จัดไปแล้วเมื่อช่วยปลายปี 2564 ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอีกรอบ โดยจัดจำหน่าย ระหว่างวันที่ 16 - 31 มกราคม 2565 เวลา 08.00 - 10.00 น. จำนวน 6 จุด ๆละ 1 ตัว ในราคา กิโลกรัมละ 150 บาท ในขณะที่ปัจจุบัย ราคาเนื้อหมูในท้องตลาดมีราคาสูงถึง 180-220 บาท โดยเน้นพื้นที่ที่มีผู้นิยมบริโภคเนื้อหมู คือ
จุดที่ 1 สามแยกทางเข้าเขาจีน ต.คลองขุด อ.เมืองสตูล
จุดที่ 2 ตรงข้ามโรงเรียนบ้านคลองขุด อ.เมืองสตูล
จุดที่ 3 ปากซอยคลองขุด 11 ตรงข้ามทางเข้าวัดป่าช้าจีน อ.เมืองสตูล
จุดที่ 4 มณเทียรฟาร์มช็อป ทางออกตลาดสดเทศบาลเมืองสตูล
จุดที่ 5 บริเวณตลาดสดเทศบาลตำบลกำแพง อ.ละงู
จุดที่ 6 หน้าตลาดสดเทศบาลตำบลกำแพง อ.ละงู
ซึ่งคาดว่า จะสามารถบรรดทาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนได้ในระดับหนึ่ง
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
นายธีรวุฒิ คล้ายเคลื่อน พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายหมูเนื้อแดง ตามโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน (ครั้งที่ 3) เพื่อเป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภค และเพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อหมูเนื้อแดงในราคาประหยัด ตามนโยบายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ได้ดำเนินการจำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ระหว่างวันที่ 16 31 มกราคม 2565 จำนวน 8 จุด ดังนี้ จุดที่ 1 ร้านหมูอนามัยบันไดอิฐ อำเภอเมืองเพชรบุรี จุดที่ 2 ร้านแดงฟาร์ม อำเภอเมืองเพชรบุรี จุดที่ 3 ร้านเพชรบุรีหมูสดไก่สด อำเภอเมืองเพชรบุรี จุดที่ 4 ร้านแดงฟาร์ม อำเภอท่ายาง จุดที่ 5 ร้านเอ๋หมูสดไก่สด อำเภอท่ายาง จุดที่ 6 ร้านอ้วนผักสด อำเภอชะอำ จุดที่ 7 ร้านอ้วนหมูสดไก่สด อำเภอแก่งกระจาน จุดที่ 8 ร้านรุ่งเรืองการค้า อำเภอบ้านลาด โดยเริ่มจำหน่ายตั้งแต่เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป หรือจนกว่าสินค้าจะหมด (สินค้ามีจำนวนจำกัด) และเพื่อเป็นการกระจายสินค้าได้ทั่วถึง ได้กำหนดให้มีการจำกัดจำนวนการซื้อคนละ 1 กิโลกรัม
ทั้งนี้ 8 จุดจำหน่าย มีการปิดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจนเป็นไปตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 สถานการณ์การซื้อขายคึกคัก มีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก จากการสอบถามประชาชนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นอย่างมาก และต้องการให้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องรวมถึงต้องการให้เพิ่มปริมาณการจำหน่ายต่อวันให้มากขึ้น ในการนี้สำนักงานฯ ได้กำชับให้การดำเนินการเป็นไปภายใต้มาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
สวท.เพชรบุรี
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคตะวันตก","เพชรบุรี","สวท.เพชรบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118101947300"], [428,"พาณิชย์แม่ฮ่องสอน ร่วมกับ ศคบ. และตัวแทนอำเภอ ตรวจสอบติดตามสถานการณ์สินค้าอุปโภคบริโภค พื้นที่ อ.ปางมะผ้า และ อ.ปาย","สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ทำการปกครองอำเภอปางมะผ้า และที่ทำการปกครองอำเภอปาย ลงพื้นที่ตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ดังนี้ พื้นที่อำเภอปางมะผ้า ได้แก่ ร้านฮอมสุขซุปเปอร์มาร์เก็ต/ร้านอำภาม/ร้านภาคเหนือหมูสด/ตลาดสดปางมะผ้า/ร้านหมูอินเตอร์ ตำบลสบป่อง
พื้นที่อำเภอปาย ได้แก่ ตลาดแสงทองอร่าม/ร้านเบญจมาศ/ร้านภาคเหนือหมูสด/ร้านเบทาโกร และร้านเอ็มพีหมูสด ตำบลเวียงใต้
ผลการตรวจสอบพบว่าผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าชัดเจน สินค้ามีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค อาทิ น้ำมันปาล์ม ขนาด 1 ลิตร ราคา 58-65 บาท/น้ำมันถั่วเหลือง ขนาด 1 ลิตร ราคา 58-65 บาท/หมูเนื้อแดง ขนาด 1 กิโลกรัม ราคา 190-230 บาท/ไข่ไก่ เบอร์ 2 ราคาแผงละ 96-105 บาท/ไข่ไก่ เบอร์ 3 ราคาแผงละ 90-105 บาท/เนื้ออกไก่ ขนาด 1 กิโลกรัม ราคา 75-70 บาท/น่องไก่ติดสะโพก ขนาด 1 กิโลกรัม ราคา 71-80 บาท
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้กำชับให้ร้านค้าปฏิบัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 อย่างเคร่งครัด ห้ามกักตุนสินค้า และห้ามฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาที่สูงเกินสมควร
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118103517321"], [429,"นายกรัฐมนตรี กำชับในที่ประชุม ครม. เร่งแก้ปัญหาสินค้าแพงและหมูแพง ผลักดันร้านธงฟ้าเปิดทางเลือกสำหรับประชาชน","นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องติดตามและเร่งแก้ไขราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น ทั้งเนื้อสัตว์ หมู ไก่ และสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อประชาชนโดยเร่งด่วน พร้อมสั่งการให้ร้านค้าธงฟ้าเปิดจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตประจำวัน เพื่อเป็นทางเลือกของพี่น้องประชาชนและผู้ใช้สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในการจับจ่ายสินค้าราคาประหยัด ซึ่งจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน นอกจากนี้ จะมีการเร่งหารือกับผู้ประกอบการในการตรึงราคาสินค้าที่จำเป็นอื่นๆ อีกด้วย
สำหรับน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินการเพื่อช่วยเหลือประชาชนในการแก้ไขราคาสินค้าแพง โดยเฉพาะเนื้อหมูอย่างเร่งด่วนแล้ว ซึ่งการดำเนินการของกรมปศุสัตว์ทำให้มีการเลี้ยงหมูที่ปลอดโรคและมีการพิจารณาทั้ง Demand-Supply ในตลาด ส่วนพาณิชย์ได้เร่งให้ร้านธงฟ้านำสินค้าจำเป็นมาจำหน่ายแก่พี่น้องประชานโดยเร่งด่วน
","18/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118102118303"], [430,"ต่อยอดแพลตฟอร์มกลาง เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด เฟส 2 ตั้งเป้ายอดขายทะลุ 500 ล้านบาท","
นางรวีพรรณ ช้างเย็นฉ่ำ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยในฐานะผู้แทนประธานอนุกรรมการร่วมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการสร้างแพลตฟอร์มกลาง ว่า ได้จัดให้มีแพลตฟอร์มกลางเป็นหน้าเฉพาะ เกษตรผลิตพาณิชย์ตลาด บนแพลตฟอร์ม Thaitrade.com ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและแพลตฟอร์ม Phenixbox.com ของบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด(มหาชน) ซึ่งมีการคัดเลือกสินค้าจากสหกรณ์การเกษตรคุณภาพ 26 สหกรณ์ ขึ้นเพื่อจำหน่ายในรูปแบบ B2B (Business to Business) ไปยังผู้ซื้อรายใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งปีที่ผ่านมามีการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Online Business Matching) ระหว่างสหกรณ์การเกษตรและผู้ซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศ เกิดคู่เจรจาธุรกิจรวม 100 คู่เจรจา รวมมูลค่าการซื้อขายกว่า 82,000 ล้านบาท
สำหรับในปี 2565 นี้ มีการต่อยอดให้แพลตฟอร์มกลาง เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด เป็นศูนย์กลางการค้าสินค้าเกษตรไทยที่ครอบคลุมสินค้าเกษตรหลากหลายประเภทมากขึ้น โดยเตรียมขยายกลุ่มเป้าหมายเกษตรกรและสินค้าเกษตรไปยังกลุ่มอื่นๆ อาทิ กลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มประมงและกลุ่มปศุสัตว์ มากกว่า 100 กลุ่มเกษตรกร ทั้งนี้จะทำให้มีสินค้าที่หลากหลายที่มีคุณภาพและมาตรฐาน คาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายทะลุ 500 ล้านบาท และให้เป็นที่รู้จักอย่างแน่นอน
พาณิชย์จังหวัดสุราษฎร์ธานีเปิดตลาดจำหน่ายหมู 6 จุดตามโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน เพื่อให้ผู้บริโภคได้หมูเนื้อแดงในราคาถูกกว่าท้องตลาด อนาคตจะนำผู้เลี้ยงหมูกว่า 3,500 รายในจังหวัดมาเปิดตลาดนัดอีกครั้งรับช่วงเทศกาลตรุษจีน
ที่ห้องประชุมวายุภักดิ์ สำนักงานคลังจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายศักดาพร รัตนสุภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เรียกพาณิชย์จังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด คลังจังหวัดสุราษฎร์ธานี หอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี และประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อหารือในการช่วยเหลือผู้บริโภคหลังราคาหมูชำแหละ ไก่ไข่ มีราคาที่พุ่งขึ้น โดยในเบื้องต้นทางพาณิชย์จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้เปิดจุดจำหน่ายราคาหมูเนื้อแดง จำนวน 6 จุด ประกอบด้วย ร้านจำหน่ายหมูวิทยา ร้านวัฒนาฟาร์มฟู๊ด ร้าน เอ-วัน หมูสด ร้าน ร้านข้าวหอม ข้าวฟ่าง หมูสด ร้านณีหมูคุณภาพ และร้านยกครัว ให้กับผู้บริโภคเพื่อลดภาระค่าครองชีพ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภคในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และได้รับผลกระทบจากราคาเนื้อหมูที่ปรับสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยจำหน่ายเนื้อแดงตามโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชนในราคากิโลกรัมละ 150 บาท จากราคาตลาด กก.ละ 180-200 บาท จุดละ 100 กก.ต่อวัน จนวันที่ 31 ม.ค.นี้ และอาจจะนำมาขายในตลาดนัดเพิ่มในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ประชาชนมีความต้องการหมูจำนวนมากกว่าปกติโดยเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีนที่จำเป็นต้องใช้ในพิธีไหว้เจ้าไหว้บรรพบุรุษ
นายศักดาพร รัตนสุภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า วันนี้ได้เรียกหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายสินค้าบริโภคในจังหวัดมาปรึกษาเพื่อหาแนวทางในการลดค่าครองชีพให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะราคาหมูแพง ซึ่งสุราษฎร์ธานีมีบริษัทหรือกลุ่มผู้เลี้ยงหมูจำนวน 3,500 ราย ทั้งจังหวัดหากเป็นไปได้จะนำกลุ่มผู้เลี้ยงหมูนำหมูมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีในราคาที่ผู้บริโภคสามารถที่จะซื้อไปรับประทานได้
ด้านนางเพ็ญลดา สายสวัสดิ์ คลังจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการต่างๆ เริ่มได้รับผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด- 19 ทางคลังจังหวัดได้ประสานกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เพื่อให้เป็นแหล่งเงินทุนในการกู้ยืมเพื่อนำเงินไปลงทุนดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 4 ต่อปี ในวงเงิน 1 แสนบาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรอีกทางหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ ในวันที่ 21 มกราคม 2565 ทางพาณิชย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี จะเปิดตลาดนัดธงฟ้าราคาประหยัดให้กับผู้บริโภค โดยจะมี เนื้อหมู /ไข่ไก่ และผักสด มาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคบริเวณศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี.
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคใต้","สุราษฎร์ธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118101920299"], [432,"สนง.พาณิชย์จังหวัดตรัง ตรวจติดตามโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน จังหวัดตรัง (ครั้งที่ 3) กำชับต้องปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน","นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง มอบหมายเจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ติดตามการดำเนินโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน จังหวัดตรัง (ครั้งที่ 3) ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาสุกรที่สูงขึ้นและให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด โดยจำหน่ายหมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 150 บาท ซึ่งเป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภค ในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 และราคาเนื้อสุกรปรับตัวสูงขึ้น
ซึ่งพื้นที่จังหวัดตรัง มีจุดจำหน่ายจำนวนรวม 12 จุด ได้แก่ 1. ร้านหมูสด แยกวัดตัน ต.ทับเที่ยง 2. ร้านน้องดิว หน้าสวนสาธารณะนาหมื่นราษฎร์ ต.โคกหล่อ 3.ร้านเจี๊ยบหมูสด (ข้างร้านอาหารโกแป้ เจ๊บี) ต.นาตาล่วง 4.ร้านชายสี่หมูสด ตลาดคลองมวน ต.หนองปรือ 5.ร้านน้องทิพย์ค้าหมู หมู่ 8 ต.เขากอบ 6.ร้านบ้านหมูตวงตังค์ (บริเวณทางเข้าวัดเขาไม้แก้ว) ต.เขาไม้แก้ว 7. ร้านหมูสด สด (ตรงข้ามโรงเรียนบ้านวังลำ) ต.วังคีรี 8. ช้อปเบทาโกร สาขาเมืองตรัง 9. ช้อปเบทาโกร สาขาห้วยยอด 10.ร้านเจ๊อ้อยป่ายาง (ตรงข้ามร้านรับซื้อของเก่ายอดเพชร) ต.นาโยงเหนือ 11. ร้านสุนิษา (ข้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.นาโยงเหนือ) ต.นาโยงเหนือ และ 12. ร้านสาวหมูสด (ตรงข้ามโรงเรียนวังวิเศษ) ต.เขาวิเศษ โดยดำเนินโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 14 - 31 มกราคม 2565 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ได้กำชับให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคา ซึ่งส่วนใหญ่ได้ปิดป้ายแสดงราคา ชัดเจน หากผู้บริโภคไม่ได้รับเป็นธรรมทางการค้าหรือได้รับความเดือดร้อนจากการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและบริการ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร สามารถร้องเรียนได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง โทร 0 7522 3076 หรือสายด่วน 1569
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118104921332"], [433,"พาณิชย์สุราษฎร์ฯเปิดขายหมู 6 จุดช่วยเหลือชาวบ้านซื้อหมูถูกอนาคตจ่อเปิดขายตลาดนัดเพิ่มรับตรุษจีน สุราษฎร์ธานี-พาณิชย์สุราษฎร์ธานีเปิดตลาดจำหน่ายหมู 6 จุดตามโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา!ช่วยประชาชน เพื่อให้ผู้บริโภคได้หมูเนื้อแดงในราคาถูกกว่าท้องตลาด อนาคตจะนำผู้เลี้ยงหมูกว่า 3,500 รายในจังหวัดมาเปิดตลาดนัดอีกครั้งรับช่วงเทศกาลตรุษจีน","ที่ห้องประชุมวายุภักดิ์ สำนักงานคลังจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายศักดาพร รัตนสุภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้เรียก พาณิชย์จังหวัด/ ปศุสัตว์จังหวัด /คลังจังหวัดสุราษฎร์ธานี/ หอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี /ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานีเพื่อหารือในการช่วยเหลือผู้บริโภคหลังราคาหมูชำแหละ ไก่ไข่ มีราคาที่พุ่งขึ้น โดยในเบื้องต้นทางพาณิชย์จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้เปิดจุดจำหน่ายราคาหมูเนื้อแดง จำนวน 6 จุด ประกอบด้วยร้านจำหน่ายหมูวิทยา /ร้านวัฒนาฟาร์มฟู๊ด/ ร้าน เอ-วัน หมูสด/ ร้าน ร้านข้าวหอม ข้าวฟ่าง หมูสด/ ร้านณีหมูคุณภาพ และร้านยกครัว ให้กับผู้บริโภคเพื่อลดภาระค่าครองชีพ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภคในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และได้รับผลกระทบจากราคาเนื้อหมูที่ปรับสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์
โดยจำหน่ายเนื้อแดงตามโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน ในราคากิโลกรัมละ 150 บาทจากราคาตลาด กก.ละ 180-200 บาทจุดละ 100 กก.ต่อวัน จนวันที่ 31 ม.ค.นี้และอาจจะนำมาขายในตลาดนัดเพิ่มในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ประชาชนมีความต้องการหมูจำนวนมากกว่าปกติโดยเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีนที่จำเป็นต้องใช้ในพิธีไหว้เจ้าไหว้บรรพบุรุษ
นายศักดาพร รัตนสุภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า วันนี้ได้เรียกหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายสินค้าบริโภคในจังหวัดมาปรึกษาเพื่อหาแนวทางในการลดค่าครองชีพให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะราคาหมูแพง ซึ่งสุราษฎร์ธานีมีบริษัทหรือกลุ่มผู้เลี้ยงหมูจำนวน 3,500 รายทั้งจังหวัดหากเป็นไปได้จะนำกลุ่มผู้เลี้ยงหมูนำหมูมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีในราคาที่ผู้บริโภคสามารถที่จะซื้อไปรับประทานได้
ด้านนางเพ็ญลดา สายสวัสดิ์ คลังจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการต่างๆเริ่มได้รับผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด- 19 ทางคลังจังหวัดได้ประสานกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเพื่อให้เป็นแหล่งเงินทุนในการกู้ยืมเพื่อนำเงินไปลงทุนดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 4 ต่อปี ในวงเงิน 1 แสนบาทเพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรอีกทางหนึ่งด้วย
และในวันที่ 21 มกราคม 2565 ทางพาณิชย์จังหวัดสุราษฎร์ธานีจะเปิดตลาดนัดธงฟ้าราคาประหยัดให้กับผู้บริโภค โดยจะมี เนื้อหมู /ไข่ไก่ และผักสด มาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคบริเวณศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี.
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคใต้","สุราษฎร์ธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118105242337"], [434,"พิซซ่าหน้าหมา","PIZZA NAH MAS หรือพิซซ่าหน้าหมา คือร้านพิซซ่าสไตล์โฮมเมด ที่ใช้กระบวนการอบพิซซ่าด้วยเตาถ่านที่มีรูปใบหน้าของสุนัข และเป็นคำพ้องเสียงมาจากภาษาอินโดนีเซีย ที่อ่านว่าหน้ามาร์ ซึ่งแปลว่า แม่ที่ดี ตั้งอยู่ที่บริเวณศูนย์นิเวศเกษตรศิลป์ บ้านโชคใต้ หมู่ที่ 4 ตำบลอู่โลก อำเภอลำดวน จังหวัดสุรินทร์ โดยลักษณะเด่นของพิซซ่าหน้าหมาที่นี่คือการนำวัตถุดิบพื้นถิ่นอย่างข้าวหอมมะลิอินทรีย์มาเป็นหนึ่งในส่วนผสมของแป้ง เป็นการนำอัตลักษณ์ของจังหวัดสุรินทร์ ที่โดดเด่นในเรื่องของเกษตรอินทรีย์ ตามนโยบาย สุรินทร์รุ่งเรือง เมืองเกษตรอินทรีย์ ของ นายสุวพงศ์ กิติภัทย์ภิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์
คุณสัญญา ทิพบำรุง หรือคุณหยา เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการทำพิซซ่า คือการได้ชวนเด็กๆในชุมชนทำกิจกรรมที่หลากหลายในพื้นที่ศูนย์นิเวศเกษตรศิลป์ ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะ งานดนตรี รวมถึงกิจกรรมแลกเปลี่ยนความรู้กับชาวต่างชาติ แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้กิจกรรมกับเด็กและชาวต่างชาติต้องหยุดชะงักลง
อย่างไรก็ตาม การทำงานร่วมกันกับเด็กและชุมชน เป็นสิ่งที่คุณหยายังคงทำมาโดยตลอด เพื่อต้องการสร้างกระบวนการการเรียนรู้ การสร้างคิดสร้างสรรค์ เช่น พิซซ่าหน้าผักจากริมรั้ว พิซซ่าหน้าดักแด้จากการสาวไหมของคุณยาย หรือแม้กระทั่งพิซซ่าหน้าแมลง ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าให้กับวัตถุดิบที่มีอยู่รอบตัวได้ดีอีกด้วย
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","สุรินทร์","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118113330364"], [435,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ตรวจติดตามราคาไข่ไก่ พบปรับราคาเพิ่มขึ้นแต่ยังเพียงพอต่อความต้องการ","นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ราคาไข่ไก่ ณ ตลาดสดเทศบาลนครตรัง ตลาดนาโยง ตลาดย่านตาขาว และห้างแม็คโคร สาขาตรัง พบว่า ราคาขายปลีกไข่ไก่ เบอร์ 3 ตลาดสดเทศบาลนครตรัง แผงละ 108 บาท ตลาดนาโยง แผงละ 102 บาท ตลาดย่านตาขาว แผงละ 102 บาท และห้างแม็คโคร สาขาตรัง แผงละ 99 บาท ไม่จำกัดจำนวน ในภาพรวมปรับราคาขึ้น 3-6 บาทต่อแผง แต่ยังอยู่ในราคาที่กระทรวงพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือให้ไม่เกินฟองละ 3.50 บาท โดยยังมีเพียงพอต่อความต้องการ
ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่เพจสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง และหากผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรมทางการค้าหรือได้รับความเดือดร้อนจากการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและบริการ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร สามารถร้องเรียนได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง โทร 0 7522 3076 หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง โทร 0 7521 7144
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118111628354"], [436,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครปฐม จัดโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน เปิดจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 150 บาท ในพื้นที่อำเภอต่างๆ รวม 9 จุด ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565","นายพงศ์สุธี สุขศิริ พาณิชย์จังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า จากกรณีเนื้อหมูมีราคาเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครปฐม ลงพื้นที่ตรวจติดตามโครงการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน (ครั้งที่ 3) เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน และเพิ่มช่องทางในการเลือกซื้อหมูในราคาประหยัด ตามนโยบายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
สำหรับจังหวัดนครปฐม ได้เปิดจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ในพื้นที่อำเภอต่างๆ รวม 9 จุด ได้แก่ อำเภอเมืองนครปฐม ที่ร้านลัคกี้ฟาร์ม ตำบลวังตะกู หน้าตลาดโอเดียน และถนนเทศา ซอย 3 ตำบลพระปฐมเจดีย์, อำเภอสามพราน ที่อ้อมใหญ่ปาร์ค ตำบลอ้อมใหญ่, อำเภอนครชัยศรี ที่ บจก. เฟรชมีท ฟู้ด โปรดักส์ 91 ตำบลงิ้วราย, อำเภอบางเลน ที่ตลาดปลาบางเลนธานี ตำบลบางเลน และตลาดสดโรงยาง ตำบลบางปลา, อำเภอดอนตูม ที่ร้านอมรเทพญ์ ตำบลห้วยพระ และอำเภอกำแพงแสน ที่เบทาโกร ตำบลกำแพงแสน โดยเปิดจำหน่ายตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565
ทั้งนี้ จุดจำหน่าย ทั้ง 9 จุด มีป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจนเป็นไปตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ซึ่งมีประชาชนให้ความสนใจต่อการจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากราคาจำหน่ายถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป จึงจำกัดจำนวนการซื้อคนละ 1 กิโลกรัม เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสซื้อสินค้าอย่างทั่วถึง พร้อมกำชับให้ทุกร้าน ดำเนินการภายใต้มาตรการป้องกันและการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม - ข่าว
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
นางศุภมิตร เต็งเผ่ พาณิชย์จังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินโครงการพาณิชย์ลดราคาหมูช่วยประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และได้ขยายต่อในต้นปี 2565 โดยประชาชนสามารถเลือกซื้อหมูเนื้อแดงได้ในราคา 150 บาทต่อกิโลกรัมได้ โดยประชาชนสามารถตรวจสอบจุดจำหน่ายกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในเขตพื้นที่อาศัยอยู่ได้
ด้านสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพะเยา ได้ดำเนินการโครงการหมูพาณิชย์ ...ลดราคา ช่วยประชาชน (ครั้งที่ 3) โดยจัดจำหน่ายหมูเนื้อแดงราคา 150 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อลดภาระค่าครองชีพ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่จังหวัดพะเยา ให้เลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด โดยจำหน่ายห้วงวันที่ 16-31 มกราคม 2565 จำนวนทิ้งสิ้น 9 จุดบริการ ในพื้นที่ 3 อำเภอ ดังนี้ อำเภอเมือง จำหน่าย 5 จุดบริการ ได้แก่/ร้านหมูอินเตอร์ สาขาพะเยา/ร้านอร่อยดี by KK/ ร้านอำนวยหมูสด/ร้านลุงเปลี่ยนหมูสด และร้านธนพฤทธ์ (ร้านป้าน้อง) อำเภอดอกคำใต้ จำหน่าย 2 จุดบริการ ได้แก่ ร้านหมูอนามัยบัวบาน และร้านหมูอนามัยพัชรพร อำเภอแม่ใจ จำหน่าย 2 จุดบริการ ได้แก่ ร้านหมูสยามฟาร์ม และร้านโชคดีหมูอนามัย
ทั้งนี้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพะเยา ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ออกติดตามดูแล ผู้ประกอบการที่เข้าโครงการพาณิชย์ลดราคาหมู และแนะนำให้มีการปิดป้ายแสดงสินค้าจำหน่ายให้ครบถ้วนถูกต้องและชัดเจนเพื่อให้ประชาชนได้เปรียบเทียบก่อนตัดสินใจซื้อประชาชนที่สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพะเยา โทร.054-431636
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคเหนือ","พะเยา","สวท.พะเยา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118115110374"], [438,"ยะลา เปิดการซ้อมแผนรักษาความปลอดภัยเมืองเศรษฐกิจ เพื่อป้องกันระงับเหตุครบทุกมิติ","วันนี้ (18 ม.ค. 65) เวลา 10.00น. ที่ สภ.เมืองยะลา พันเอก ขจิต มกราภิรมย์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา เป็นประธานเปิดการซ้อมแผนรักษาความปลอดภัยเมืองเศรษฐกิจอำเภอเมืองยะลา เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ที่ได้กำหนดให้มีการซ้อมแผนรักษาความปลอดภัยเมืองเศรษฐกิจ 8 เมืองหลักโดยอำเภอเมืองยะลา เป็น 1 ในอำเภอที่อยู่ในกรอบการปฏิบัติของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า
โดยมีมิติการซ้อมได้แก่ มิติก่อนเกิดเหตุ มุ่งเน้นการรับข่าวสารแจ้งเตือน และเพิ่มความเข้มในการปฏิบัติ ตรวจสอบบุคคลและยานพาหนะของจุดตรวจ ด่านตรวจรอบเขตเมืองยะลา มิติระหว่างเกิดเหตุ เน้นการปฏิบัติตามขั้นตอนหลักยุทธวิธีของหน่วยในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง สามารถระงับเหตุ หรือป้องกันการเกิดเหตุได้ และมิติหลังเกิดเหตุ สามารถติดตาม จับกุม สืบสวนสอบสวนจนทราบตัวผู้ก่อเหตุนำมาซึ่งการบังคับใช้กฎหมายได้
ทั้งนี้ หน่วยเฉพาะกิจตำรวจยะลา 91 จึงกำหนดรูปแบบการซ้อมในครั้งนี้แบบข้าศึกสมมติ แทรกซึมเข้าก่อเหตุร้ายในเขตเมืองยะลา เพื่อให้หน่วยกำลังและหน่วยที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการป้องกันเหตุ ระงับเหตุ และติดตามจับกุม ครบทุกมิติการปฏิบัติ โดยได้รับความร่วมมือจาก ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอเมืองยะลา เทศบาลนครยะลา ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 หน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ชุดปฏิบัติการสุนัขทหาร สมาชิกไทยอาสาป้องกันชาติ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ชีพกู้ภัยในเขตเทศบาลนครยะลา ร่วมดำเนินการซ้อมเป็นอย่างดี
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118122102399"], [439,"จังหวัดลำพูน เปิดจำหน่ายหมูเนื้อแดง กก.ละ 150 บาท จำนวน 9 จุด ตามนโยบาย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงพาณิชย์ เพื่อลดค่าครองชีพประชาชน","วันนี้ (18 ม.ค.65) ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำพูน นางกนกรัตน์ ยุกติรัตน์ พาณิชย์จังหวัดลำพูน เผยว่า จังหวัดลำพูนจำหน่ายหมูเนื้อแดง กก.ละ 150 บาท เปิดจำหน่ายแล้วจำนวน 9 จุดทั่วจังหวัดลำพูน ระหว่างวันที่ 17- 31 มกราคม 2565 ตามนโยบายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อลดค่าครองชีพประชาชน โดยสามารถไปเลือกซื้อตามจุดจำหน่ายได้ ประกอบด้วย/ร้าน CP ป่ารกฟ้า 150 ม.9 ต.น้ำดิบ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน/ร้านยิ่งเจริญฟาร์ม (สาขาตลาดโต้รุ่ง) 175 ถ.รอบเมืองใน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน/ร้านยิ่งเจริญฟาร์ม (สาขาตลาดป่าเห็ว) 161 บ้านป่าเห็ว ต.อุโมงค์ อ.เมือง จ.ลำพูน/ร้านพาเจริญฟาร์ม (สาขาอำเภอบ้านโฮ่ง) 27/6 บ้านห้วยกานต์ ต.บ้านโฮ่ง อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน/ร้านดีเจริญฟาร์ม (สาขาฮ่องกอม่วง) 114 ต.มะเขือแจ้ อ.เมือง จ.ลำพูน/ร้านยิ่งเจริญฟาร์ม (สาขานิคมหนองเป็ด) ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน/ร้านยิ่งเจริญฟาร์ม (สาขาตลาดจตุจักร) ต.ป่าสัก อ.เมือง จ.ลำพูน/ร้าน ยิ่งเจริญฟาร์ม (สาขาอินทร) 57/2 หมู่11 ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน และร้าน บี.เอ็มอินเตอร์ฟู๊ดส์ (สาขาบ้านธิ) อ.บ้านธิ จ.ลำพูน.
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคเหนือ","ลำพูน","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118133413416"], [440,"โครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน(กิโลกรัมละ ๑๕๐._บาท) จังหวัดอำนาจเจริญ","วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 06.00 น. นายธานินทร์ จุฑาทิพย์ชาติกุล ปศุสัตว์จังหวัดอำนาจเจริญ ร่วมกับพาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญ ดำเนินโครงการ หมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน
โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ นายทวีป บุตรโพธิ์ ลงพื้นที่เพื่อประชาสัมพันธ์ ตรวจเยี่ยมโครงการฯ ดังกล่าว และขอบคุณสถานที่จำหน่ายเนื้อสุกร ที่เข้าร่วมโครงการฯ โดยมีผู้ประกอบการค้าเนื้อสุกร จำนวน 6 ราย เข้าร่วมโครงการฯ ในการจำหน่ายเนื้อสุกรราคากิโลกรัมละ 150 บาท ตั้งแต่วันที่ 17 31 มกราคม 2565 ในพื้นที่ อ.เมืองฯ , อ.ลืออำนาจ , อ.หัวตะพาน , อ.ปทุมราชวงศา
Cr#ปศุสัตว์จังหวัดอำนาจเจริญ ร่วมกับพาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อำนาจเจริญ","สวท.อำนาจเจริญ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118134825428"], [441,"พาณิชย์จังหวัดระยอง จัดโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน จำหน่ายหมูเนื้อแดงราคา 150 ต่อกิโลกรัม จำนวน 9 จุด เริ่ม 17-31 มกราคมนี้","ตามที่ กระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน โดยการจำหน่ายหมูเนื้อแดงราคาถูกกว่าท้องตลาด ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท จำนวน 667 จุดทั่วประเทศ ไปจนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2565 เพื่อช่วยแทรกแซงราคาเนื้อหมูและลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน
นางสาวสุวีรยา ปั้นปาน พาณิชย์จังหวัดระยอง กล่าวว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดระยอง ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการร้านค้าปลีกในพื้นที่จังหวัดระยอง ได้เปิดจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดง ราคากิโลกรัมละ 150 บาท เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 17 31 มกราคม 2565 มีจุดจำหน่ายทั้งหมด 9 จุด คือ
- ร้านเอ๋หมูสด อ.เมืองระยอง จำหน่ายวันที่ 22-24 มกราคม
- ร้านไนท์ ตลาดใหม่หนองแฟบ ต.มาบตาพุด จำน่ายตั้งแต่วันที่ 17- 31 มกราคม
- ร้านเฮงเฮง ตลาดลาวมาบตาพุด อ.เมืองระยอง จำหน่ายวันที่ 18 24 มกราคม
- ร้านเทพกิติ จักรกฤต อินเตอร์ฟู้ด ข้างวัดสะพานสี่ อ.ปลวกแดง จำหน่ายวันที่ 17-31 มกราคม
- ร้านจองหมูสะอาด ต.มาบยางพร ซอย 22 อ.ปลวกแดง จำหน่ายวันที่ 19 มกราคม
- ร้านไนท์ ชอย 5 อ.นิคมพัฒนา จำหน่ายวันที่ 18-31 มกราคม
- ร้านเบทาโกร ช้อป สาขาแกลง จำหน่ายระหว่างวันที่ 17 -24 มกราคม 2565
- ร้านหมูดี อ.เขาชะเมา จำหน่ายวันที่ 26-31 มกราคม
- ร้านสามเกลอ อ.แกลง จำหน่ายวันที่ 26-31 มกราคม
สำหรับปริมาณการจำหน่ายหมูเนื้อแดงแต่ละแห่ง จะมีปริมาณค่อนข้างจำกัด เนื่องจากปริมาณหมูในตลาดขาดแคลน แต่เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน จำเป็นต้องกระจายจุดจำหน่ายให้ครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด นอกจากนี้ กรมการค้าภายใน ยังได้ขอความร่วมมือห้างค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่ เช่น แม็คโคร โลตัส บิ๊กซี จำหน่ายเนื้อหมูในราคาต่ำกว่าท้องตลาด โดยเนื้อหมูทั่วไป ในราคากิโลกรัมละ 185-210 บาท ขึ้นอยู่กับชนิดของเนื้อหมู ขณะที่ราคาเนื้อหมูตามตลาดสดในชุมชน ราคาประมาณ 210-250 บาท ต่อกิโลกรัม
ทั้งนี้ ปัจุจุบัน จ.ระยองมีฟาร์มเลี้ยงหมูอยู่ประมาณ 88 แห่ง ให้ผลผลิตประมาณ 10,000 ตัวต่อเดือน ยังไม่เพียงพอสำหรับการอุปโภค จำเป็นต้องนำเข้าจากจังหวัดใกล้เคียง คาดว่าภายในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ ราคาจำหน่ายเนื้อหมู น่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคตะวันออก","ระยอง","สวท.ระยอง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118140353434"], [442,"ครม.อนุมัติงบกลาง 1,480 ล้านบาท ดันโครงการ พาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน","นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบอนุมัติเงินงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็น วงเงินรวมทั้งสิ้น 1,480 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ปี 2565 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 เพิ่มช่องทางในการเลือกซื้อสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพในราคาประหยัดให้แก่ประชาชนได้อย่างทั่วถึง รวมทั้งเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและการบริโภค ซึ่งจะก่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ระยะเวลาดำเนินการ 90 วัน
โดยกิจกรรมบริหารจัดการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางจำหน่าย โดยจัดหา สถานที่จำหน่ายและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมจำนวนไม่น้อยกว่า 3,000 จุด ตามแหล่งชุมชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและภูมิภาค 76 จังหวัด และการจำหน่ายผ่านรถ Mobile จำนวนไม่น้อยกว่า 50 คัน ตามแหล่ง ชุมชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
โครงการ พาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ปี 2565 จะช่วยลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ในช่วงการระบาดของโควิด-19 และภาวะการปรับราคาสินค้าขึ้นอย่างต่อเนื่องจากโรคระบาดในสัตว์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน อีกทั้งจะเป็นการเพิ่มช่องทางในการเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันในราคาประหยัด ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ในขณะนี้
","18/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118144044458"], [443,"จังหวัดเพชรบูรณ์ ตรวจติดตามสถานการณ์สินค้าอุปโภค บริโภคอ่อนไหวอย่างต่อเนื่อง","
จังหวัดเพชรบูรณ์ ตรวจติดตามสถานการณ์สินค้าอุปโภค บริโภคอ่อนไหวอย่างต่อเนื่อง วันที่ 18 มกราคม 2565 จังหวัดเพชรบูรณ์ นายสุพล ศรีทับทิม พาณิชย์จังหวัดเพชรบูรณ์ แจ้งว่า โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัด นางสาวจรรยวรรธน์ อ้วนตา ผู้อำนวยการกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าที่อ่อนไหว ในช่วงนี้ ณ ตลาดสดเทศบาล 2 อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ พบว่า
1.) มะละกอ มีการปรับราคาสูงขึ้นเล็กน้อย โดยผู้ประกอบการแจ้งว่ารับมะละกอดิบพันธุ์ดำเนิน จากตลาดค้าส่งพืชผักตลาดเสียงอดิศร อำเภอหล่มสัก ถุง (10 กก.) ถุงละ 140 บาท นำจำหน่ายในตลาด ถุงละ 150-170 บาท ให้เหตุผลว่ามะละกอจากแหล่งผลิตสำคัญจังหวัดใกล้เคียง ช่วงนี้ขาดตลาด จึงทำให้ให้ราคาปรับสูงขึ้นจากเดือนก่อน 10-20 บาท/ถุง
2) สินค้าเนื้อสุกรชำแหละ หมูเนื้อแดง กก.ละ 190-200 บาท หมูสามชั้นกิโลกรัมละ 200-220 บาท หมูเนื้อสัน 200-210 บาท
3) สินค้าไก่สด ไก่ทั้งตัวไม่รวมเครื่องใน กก.ละ 65-75 บาท อกไก่ กก.ละ 75 บาท น่องไก่ กก.ละ 68-70 บาท สะโพก กก.ละ 68-70 บาท
4) สินค้าไข่ไก่ เบอร์ 0 แผงละ 115 บาท ฟองละ 3.80 บาท เบอร์ 1 แผงละ 105 บาท ฟองละ 3.50 บาท เบอร์ 2 แผงละ 95 บาท ฟองละ 3.16 บาท เบอร์ 3 แผงละ 93 บาท ฟองละ 3.10 บาท เบอร์ 4 แผงละ 88 บาท ฟองละ 2.93 บาท
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการมีการติดป้ายแสดงราคาชัดเจน และปรับเป็นราคาปัจจุบัน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","เพชรบูรณ์","สวท.เพชรบูรณ์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118134555427"], [444,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลพบุรี จัดโครงการ \"หมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน จังหวัดลพบุรี\"เพื่อช่วยเหลือประชาชนลดภาระค่าครองชีพ และแก้ไขปัญหาภาวะราคาสุกรปรับสูงขึ้น","วันที่ 18 มกราคม 2565 เวลา 11.00 น. จังหวัดลพบุรี นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัดลพบุรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 150 บาท ณ ร้านหมูสมบูรณ์ สาขาสี่แยกท่าแค อำเภอเมืองลพบุรี ในโครงการ \"หมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน จังหวัดลพบุรี\" เป็นโครงการฯที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลพบุรี จัดหาหมูมาจำหน่ายให้ประชาชนในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด เพื่อช่วยเหลือประชาชนลดภาระค่าครองชีพและแก้ไขปัญหาภาวะราคาสุกรปรับตัวสูงขึ้น โดยนำเนื้อหมูและชิ้นส่วนต่าง ๆ มาจำหน่ายในราคาที่ภูกกว่าท้องตลาด ซึ่งจำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคากิโลกรัมละ 150 บาทและจำหน่ายให้ประชาชนรายละ 1 กิโลกรัม
สำหรับบรรยากาศในวันนี้ที่ร้านหมูสมบูรณ์ พบว่ามีประชาชนเดินทางมาซื้อเนื้อหมู ไข่ไก่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการจำหน่ายเนื้อไก่และชิ้นส่วนของไก่มาจำหน่าย รวมทั้งไข่ไก่ขนาดต่าง ๆ ที่ราคาถูกกว่าท้องตลาดด้วย โดยจังหวัดลพบุรี ได้กำหนดจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 150 บาท ในพื้นที่ต่าง ๆ จำนวน 6 จุด ได้แก่ ในเขตอำเภอเมือง 2 จุด อำเภอสระโบสถ์ 1 จุด อำเภอหนองม่วง 1 จุด และ อำเภอโคกเจริญ 1 จุด และอำเภอพัฒนานิคม 1 จุด
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลพบุรี ได้ออกตรวจสอบติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างต่อเนื่องและได้กำชับให้ผู้ประกอบการติดป้ายแสดงราคาจำหน่ายให้ถูกต้องชัดเจน มิฉะนั้นจะมีโทษปรับ 10,000 บาท และหากจำหน่ายราคาสูงเกินสมควรหรือกักตุนสุกร เนื้อสุกร จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมดังกล่าวสามารถแจ้งได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลพบุรี โทรศัพท์ 036-413150 หรือสายด่วน 1569
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","ลพบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118152431501"], [445,"พาณชย์จังหวัดสุรินทร์ ติดตามการดำเนินโครงการหมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน","วันนี้ (18 มกราคม 2565) นางพิรุณวรรณน์ จงใจภักดิ์ พาณชย์จังหวัดสุรินทร์ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ตรวจติดตามการดำเนินโครงการหมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อจำหน่ายหมูเนื้อแดงให้กับประชาชนผู้บริโภค ราคากิโลกรัมละ 150 บาท ระหว่างวันที่ 17-31 มกราคม 2565 จำนวน 9 จุด ได้แก่
1.หน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ถ.เทศบาล 4 อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 09.00 น.
2.ร้านเจ๊กานต์หมูสด ถ.สุรินทร์-ปราสาท ต.เฉนียง อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 09.00 น.
3.ร้านเฮียตี้ ถ.สุรินทร์-ศีขรภูมิ ต.สลักได อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 09.00 น.
4.ร้านแรมโบ้หมูสด ถ.เลี่ยงเมืองสุรินทร์-ปราสาท ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 09.00 น.
5.เขียงเอ แอนด์ พี โปรช็อป (หน้ามหาวิทยาลัยราชมงคลสุรินทร์) ถ.สุรินทร์-ปราสาท ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 08.30 น.
6.ร้านพงษ์หมูสด สาขา 1 (ตรงกันข้ามทางเข้าบ้านบุณเยิง) ต.แสลงพันธ์ อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 09.00 น.
7.ร้านพงษ์หมูสด สาขา 2 (เยื้องร้านทะเลเผา) ต.สลักได อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 15.00 น.
8.ร้านวีซีมีท (VC meat) สาขาสุรินทร์ ถ.เทศบาล 3 ต.ในเมือง อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 09.00 น.
9.ร้านเจ้จิ้งหรีด ถ.เทศบาล 3 ต.ในเมือง อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มขาย 09.00 น.
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาสุกรที่สูงขึ้น และให้ประชาชนมีทางเลือกในการซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งเป็นการลดภาระค่าครองชีพ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงสถานการณ์ดังกล่าว โดยมีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก
","18/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สวท.สุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118141536444"], [446,"โครงการ หมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน จังหวัดอำนาจเจริญ","วันที่ 18 มกราคม 2565 นายทวีป บุตรโพธิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมด้วยนายวิรัตน์ นามวงษา พาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญ และนายธานินทร์ จุฑาทิพย์ชาติกุล ปศุสัตว์จังหวัดอำนาจเจริญ ออกตรวจเขียงหมูที่เข้าร่วม โครงการ หมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภค อีกทั้งเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และที่ได้รับผลกระทบจากราคาเนื้อสุกรปรับตัวสูงขึ้น โดยจังหวัดอำนาจเจริญจัดให้มีจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด ตั้งแต่วันที่ 17-31 มกราคม 2565 ราคากิโลกรัมละ 150 บาท รวม 6 จุดจำหน่าย ดังนี้
1. เขียงหมูบุญงาม 126 หมู่ 8 ตำบลบุ่ง อำเภอเมืองอำนาจเจริญ
2. เขียงหมูสันติสุข 97 หมู่ 5 ตำบลนาจิก อำเภอเมืองอำนาจเจริญ
3. เขียงหมูสดสายันต์ฟาร์ม ถนนชยางกูร หมู่ 10 ตำบลโคกกลาง อำเภอลืออำนาจ
4. ร้านสองเขียงหมู 158 หมู่ 6 ตำบลอำนาจ อำเภอลืออำนาจ
5. เขียงหมูเฮียกิ 80/2 หมู่ 2 ตำบลนาหว้า อำเภอปทุมราชวงศา
6. เขียงหมูสดวงศ์ก่อเจริญฟาร์ม 71 หมู่ 3 ตำบลหนองแก้ว อำเภอหัวตะพาน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
นายชัยรัตน์ บุญส่ง พาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า พาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษได้ดำเนินการตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้จัดโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน (หมูเนื้อแดง) ครั้งที่ 3 โดยได้ประสานงานผู้ประกอบการจำหน่ายเนื้อหมูในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ จัดโปรโมชั่นหมูเนื้อแดง ลดราคาเพื่อผู้บริโภค ราคากิโลกรัมละ 150 บาท จำนวน 8 จุด เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยมีสถานที่จำหน่าย จำนวน 8 จุดที่จำหน่ายหมูเนื้อแดงราคา 150 บาท ประกอบด้วย 5 อำเภอ ได้แก่
1.อำเภอเมืองศรีสะเกษ ร้าน TJ Fresh Food สาขาอำเภอเมืองศรีสะเกษ/ร้านเจ้แตหมูสด
2.อำเภอกันทรารมย์ ได้แก่ หจก.เฮง เฮง เจริญพร/เขียงหมู หนิงหมูสด และเขียงหมูแม่โจ้หมูสด
3.อำเภอกันทรลักษ์ ได้แก่ ร้านหมูซีพี
4.อำเภอขุนหาญ ได้แก่ ร้านแสนดี เฟรชมาร์ท
5.อำเภออุทุมพรพิสัย ได้แก่ ร้านมนปรียา หมูสด
โดยเริ่มจำหน่ายหมูเนื้อแดง ราคากิโลกรัมละ 150 บาท ระยะเวลาดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 13-31 มกราคม 2565
","18/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ศรีสะเกษ","สวท.ศรีสะเกษ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118152247499"], [448,"มั่นใจการส่งออกปีนี้ยังขยายตัวต่อเนื่อง พร้อมเร่งเดินหน้าจัดกิจกรรมกระตุ้นการส่งออกทุกรูปแบบ","นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการประเมินทิศทางการส่งออกของไทยในปี 2565 แม้อัตราการขยายตัวจะชะลอตัวลงจากผลกระทบของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน แต่ในภาพรวมจะยังขยายตัว โดยอยู่ในระดับที่ร้อยละ 3-4 มูลค่าประมาณ 8.989.07 ล้านล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับหลายหน่วยงานที่ได้ประเมินไว้ สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนการส่งออกในปี 2565 มาจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้ามีทิศทางขยายตัว ค่าเงินบาทอยู่ในระดับที่เอื้อต่อการส่งออก รวมทั้งราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง ส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน นอกจากนี้การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล ยังช่วยให้การเจรจาออนไลน์มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการมีผลบังคับใช้ของ RCEP ที่ช่วยสนับสนุนการส่งออก
อย่างไรก็ตาม กรมฯ ยังมีแผนขับเคลื่อนการส่งออกให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยได้เตรียมกิจกรรมทั้งตลาดหลัก ตลาดรองและตลาดใหม่ ในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์กว่า 152 กิจกรรม เช่น การจัดเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ในทุกภูมิภาค การจัดงานแสดงสินค้าและส่งเสริมการขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ อาทิ amazon.com เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีแผนผลักดันสินค้าและบริการไทยเข้าสู่ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหารและจัดเลี้ยง รวมทั้งประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์สินค้าไทยและเน้นส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตร อาหาร เครื่องดื่มและธุรกิจบริการอาหาร เป็นการเฉพาะ พร้อมให้ความสำคัญกับ BCG Model โดยมีเป้าหมายช่วยผู้ประกอบการทำตลาด 2,056 ราย สร้างมูลค่าการค้าไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
ขณะที่การประเมินผลกระทบจากโอมิครอน ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ในต่างประเทศ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีปัญหาและอุปสรรคเกิดขึ้นให้รายงานเข้ามาทันที เพื่อเร่งดำเนินการแก้ไข พร้อมทั้งเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้นำเข้าสินค้าไทย ในคุณภาพและมาตรฐานสินค้าที่มีระบบป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด
เช็คเงื่อนไข ล่าสุด \"บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ\" เตรียมนำเทคโนโลยี AI ตรวจสอบคุณสมบัติในการลงทะเบียน รอบใหม่ คัดกรองคนที่ไม่จนจริงออกจากระบบ คาดประชาชนได้รับสิทธิ 15 ล้านคน
ล่าสุด นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการตรวจสอบการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อคัดกรองคนที่ไม่จนจริงออกจากระบบ ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง อยู่ในระหว่างการเตรียมการเพื่อลงทะเบียนผู้มีสิทธิ์ได้รับ \"บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ\" รอบใหม่ภายในปีนี้
การลงทะเบียน \"บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ\" หรือ \"บัตรคนจน\" ในรอบนี้ จะนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการคัดกรองคนที่สมควรได้รับสิทธิ์ โดยระบบจะสามารถเชื่อมโยงกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อตรวจสอบข้อมูลของผู้ลงทะเบียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบัญชีเงินฝากในธนาคาร ซึ่งตามเกณฑ์แล้วจะต้องมีไม่เกิน 1 แสนบาท,ที่ดิน,ที่อยู่อาศัย และอื่นๆ แบบเรียลไทม์
ซึ่งการลงทะเบียน \"บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ\" ในรอบใหม่นี้ จะมีคนได้รับสิทธิ์ ราว 14-15 ล้านคน คาดว่า จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มีอยู่ 14.6 ล้านคน โดยผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่กระทบต่อรายได้ต่อคนในระดับรากหญ้า
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อำนาจเจริญ","สวท.อำนาจเจริญ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118155227528"], [450,"ประชาชนชาวกาฬสินธุ์ร่วมซื้อหมูในโครงการ \"หมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน\"","ในสถานการณ์เนื้อหมูราคาแพง ประชาชนชาวกาฬสินธุ์ต่างเข้าคิวซื้อเนื้อหมูราคาถูกในโครงการ \"หมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน\" บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ที่ตลาดสดทุ่งนาทอง อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้จัดโครงการ \"หมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน\" ขึ้น เพื่อจำหน่ายเนื้อหมูราคาให้แก่ประชาชน เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเบื้องต้น
นายศิริพงษ์ วิวัฒน์เกษมชัย พาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์เนื้อหมูปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง ซึ่งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ เร่งบรรเทาความเดือดร้องของประชาชน ในส่วนของจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กำหนดมาตรการเพื่อลดผลกระทบตามแนวทางของกระทรวงพาณิชย์ ด้วยการเปิดจุดจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูกตามโครงการ \"หมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน\" โดยจำหน่ายเนื้อหมู ราคากิโลกรัมละ 150 บาท ในระหว่างวันที่ 17-31 มกราคม 2565 เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป จนกว่าสินค้าจะหมด โดยมีผู้ประกอบการเช้าร่วม 7 ราย และจำหน่ายใน 7 จุด ประกอบด้วย
จุดที่ 1 หจก.เจทีพี ฟู๊ด สาขากาฬสินธุ์ ถนนถีนานนท์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์
จุดที่ 2 เขียงหมูอารยาหมูสด (ตลาดสดทุ่งนาทอง) อำเภอเมืองกาฬสินธุ์
จุดที่ 3 เขียงหมูแม่บุญร่วม บริเวณหน้าสำนักงานพาณิชย์ จังหวัดกาฬสินธุ์
จุดที่ 4 ห้องเย็นนุชไก่สด (ตลาดสดร่วมใจ)
จุดที่ 5 ห้องเย็นนุชไก่สด สาขา 1 อำเภอเมืองกาฬสินธุ์
จุดที่ 6 ร้าน Meat U หมูสด อำเภอยางตลาด
จุดที่ 7 ร้านเจ๊ตุ่มหมูสด อำภอยางตลาด
โดยบรรยากาศการจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูก ที่ตลาดสดทุ่งนาทอง อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ มีประชาชนต่างมาเข้าแถวเพื่อรอซื้อเนื้อหมูกันตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นางสมหมาย ปรีดี ชาวกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนเองตั้งใจจะมาซื้อเนื้อหมูในราคาถูกของโครงการหมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน ซึ่งเป็นลดภาระค่าใช้จ่ายได้อย่างตรงตัว ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่รายได้ก็ลดน้อยลง ซึ่งหากมีโครงการเช่นนี้ต่อไปจะช่วยเหลือประชาชนได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ จังหวัดกาฬสินธุ์ได้มีการลงพื้นที่สำรวจตลาด ติดตามดูราคาเนื้อสัตว์ เนื้อไก่ ไข่ไก่ ผักสด โดยบางส่วนมีการปรับขึ้นราคา ขณะที่ผักสดไม่ได้มีการปรับขึ้นราคาแต่อย่างใด ในการนี้ ได้กำชับให้พ่อค้า แม่ค้า ติดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน เพื่อการประกอบการตัดสินใจของประชาชน ให้สามารถเปรียบเทียบราคาคุณภาพก่อนตัดสินใจซื้อ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท รวมทั้งตรวจสอบเครื่องชั่ง ให้ตรงตามมาตรฐานและได้คำรับรองจากกรมการค้าภายใน ไม่ฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาหรือขายแพงเกินสมควร หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ หากประชาชนพบเห็นผู้กระทำผิดสามารถร้องเรียนได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ โทร.0-4381-5656 หรือ สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน
","18/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","กาฬสินธุ์","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118160831548"], [451,"มุกดาหาร เดินหน้าโครงการ \"หมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประขาชน\" หมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 150 บาท","มุกดาหาร เดินหน้าโครงการ \"หมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประขาชน\" หมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 150 บาท
นางลักขณา บุญนำ พาณิชย์จังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า ได้เปิดจุดดำเนินโครงการ \"หมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประขาชน\" จังหวัดมุกดาหาร (ครั้งที่ 2) ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาหมูราคาสูงขึ้น และเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ลดค่าครองชีพ ให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด ผู้บริโภค โดยร่วมผู้ประกอบการค้าเนื้อสุกรชำแหละจัดกิจกรรมจำหน่ายหมูเนื้อแดง ลดราคาเพื่อผู้บริโภค ราคากิโลกรัมละ 150 บาท จำนวน 7 จุด เริ่มในวันที่ 17-31 มกราคม 2565
สาเหตุสุกรชำแหละปรับราคาสูงขึ้น เนื่องจากปัญหาสุกรมีชีวิตที่ราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากผลกระทบของโรคระบาดร้ายแรงในสุกร ทำให้จำนวนสุกรออกสู่ตลาดลดลง ประกอบกับราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สำคัญ ๆ อาทิ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กากถั่วเหลือง เป็นต้น มีราคาสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรต้องรับภาระต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น จึงส่งผลต่อเนื่องมายังผู้บริโภค กระทรวงพาณิชย์เองไม่ได้นิ่งนอนใจและออกมาตรการเร่งด่วน ดังนี้
1.ห้ามส่งออกสุกรมีชีวิตเป็นเวลา 3 เดือน
2.กำหนดให้ให้ผู้เลี้ยงหมูรายใหญ่ตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป/ผู้ค้าส่ง ที่มีหมูเกิน 500 ตัวขึ้นไป และห้องเย็นที่มีสต็อกหมู ตั้งแต่ 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป แจ้งปริมาณ และราคาทุก 7 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 มกราคมนี้ เป็นต้นไป เพื่อดูแลปริมาณหมู และสต็อกหมูที่มีอยู่ทั้งประเทศ
3.จัดกิจกรรมพาณิชย์... ลดราคา ! ช่วยประชาชน โดยจัดจำหน่ายหมูเนื้อแดงเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ซึ่งจะดำเนินการต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2565
พาณิชย์จังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกิจกรรมพาณิชย์... ลดราคา ! ช่วยประชาชน ที่จังหวัดมุกดาหาร ดำเนินการครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเพิ่มขึ้นเป็น จำนวน 7จุด ดังนี้
ตลาดเทศบาล1 มุกดาหาร 1.ร้านบุญมีหมูสด 2.ร้านเจ้มายหมูสด ข้างแม็คโครมุกดาหาร 3.ร้านแจ๋วแหว๋วหมูสด ตลาดประชารัฐคำอาฮวน 4.ร้านเขียงหมูลุงหมอก ตลาดสดราตรี อำเภอหว้านใหญ่ 5.ร้านวาสนา ตลาดสดเทศบาลนิคมคำสร้อย 6.ร้านแม่ติ่งหมูสด ฟาร์มโชคชัย ม.5 ตำบลตอนตาล 7.เชิดชัยฟาร์ม รวมจำหน่ายจำนวน วันละ 350 กิโลกรัม (จุดละ 50 กิโลกรัม)
","18/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","มุกดาหาร","สวท.มุกดาหาร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118161334549"], [452,"สินค้าโปรตีนจากพืชกำลังได้รับความนิยม แนะผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จาก FTA และ RCEP เพิ่มโอกาสส่งออก ","นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันสินค้าอาหารกลุ่มโปรตีนจากพืช (plant-based products) กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น จากกระแสการดูแลสุขภาพของผู้บริโภค โดยคาดการณ์ว่า ในปี 2565 ตลาดสินค้าโปรตีนจากพืชจะขยายตัวสูงกว่า 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งประเทศไทยส่งออกสินค้าอาหารกลุ่มโปรตีนจากพืช เป็นอันดับที่ 25 ของโลก และอันดับที่ 3 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย
ผู้ประกอบการสามารถใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ไทยมีกับคู่ค้าเพื่อขยายการส่งออก โดยปัจจุบันคู่ค้า FTA 16 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน จีน ฮ่องกง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ชิลี และเปรู ไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าโปรตีนจากพืชของไทยแล้ว นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) จะมีผลบังคับให้เกาหลีใต้ทยอยลดภาษีนำเข้าสินค้าเต้าหู้ไทยจนเหลือศูนย์ภายในปี 2579 อีกด้วย จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการและเกษตรกรไทยในการเพิ่มช่องทางและขยายตลาด โดยจะต้องติดตามและปรับตัวให้เท่าทันกับพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไป เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค
ไทยส่งออกสินค้าโปรตีนจากพืช ในปี 2564 (ม.ค.-พ.ย.) มูลค่า 2.57 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยส่งออกไปอาเซียนมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ จีน และออสเตรเลีย ขณะที่การส่งออกไปตลาดคู่ FTA มีมูลค่า 1.65 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 64 ของการส่งออกสินค้าโปรตีนจากพืชทั้งหมด
การรถไฟแห่งประเทศไทย ประสานผู้รับเหมาเร่งเข้าซ่อมแซมปรับปรุงปัญหาลูกคลื่นบนถนนกำแพงเพชร 6 เลียบทางรถไฟ
ช่วงดอนเมือง-หลักสี่ ตั้งแต่ 25 มกราคมนี้ พร้อมประสานจัดการจราจรไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน คาดใช้เวลาดำเนินการเสร็จภายใน 2 เดือน
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ชี้แจงกรณีมีข้อร้องเรียนจากประชาชน ได้รับความเดือดร้อนจากถนนกำแพงเพชร 6 หรือถนนเลียบทางรถไฟช่วงดอนเมือง-หลักสี่ ใต้แนวรถไฟฟ้าสายสีแดง มีปัญหาลูกคลื่น ทำให้ประชาชนที่สัญจรบนถนนเส้นดังกล่าวเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ว่า การรถไฟฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น และที่ผ่านมาได้มีการติดตามดูแลการซ่อมแซมพื้นผิวถนนเลียบทางรถไฟต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563 ในส่วนถนนเลียบทางรถไฟ (กำแพงเพชร 6) ที่มีปัญหาร้องเรียนนั้น การรถไฟฯ ได้สั่งการให้ บมจ. อิตาเลียนไทย ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบก่อสร้างโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต)สัญญาที่ 2 เร่งดำเนินการซ่อมแซมแล้ว โดยอยู่ในช่วงการประกันความชำรุดบกพร่องของการก่อสร้าง จึงไม่ต้องใช้งบประมาณในการซ่อมแซมเพิ่มแต่อย่างใด
ทั้งนี้ แนวทางการซ่อมแซมปัญหาลูกคลื่นบนพื้นผิวถนนกำแพงเพชร 6 การรถไฟฯ ได้กำหนดแผนเข้าซ่อมแซม เป็น 2 ระยะ ระยะเร่งด่วน ได้ให้ บมจ.อิตาเลียนไทย เร่งเข้าซ่อมแซมผิวจราจรที่ปูดนูนและลักษณะเป็นลูกคลื่นในจุดที่ 1 เริ่มวันที่ 25 มกราคม 2565 เป็นต้นไป โดยจะมีการขอปิดการจราจรบริเวณดังกล่าวทั้งหมด ซึ่งการรถไฟฯ ได้มีหนังสือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประชาสัมพันธ์ให้หลีกเลี่ยงเส้นทางในระหว่างการดำเนินการ และเมื่อแล้วเสร็จในจุดที่ 1 จะทยอยซ่อมแซมในจุดที่ 2-4 โดยคาดจะใช้เวลาดำเนินการได้ครบทุกจุดประมาณ 2 เดือน
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการแก้ไขในระยะยาว การรถไฟฯ จะมีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญในการบำรุงรักษาและปรับปรุงถนน รวมทั้งมีนโยบายที่จะส่งมอบถนนให้หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญ เป็นผู้ดูแลรับมอบจากการรถไฟฯ นำไปปรับปรุงแก้ไขตามแนวทางหลักเทคนิควิศวกรรรม เนื่องจากการรถไฟไม่มีภารกิจและความเชี่ยวชาญด้านถนน จึงจำเป็นต้องดำเนินการส่งมอบให้หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญเป็นผู้ดูแลให้แทนต่อไป
","18/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118170319590"], [454,"จังหวัดอ่างทอง จัดโครงการ \"พาณิชย์...ลดราคา ! ช่วยประชาชน\" (ครั้งที่ 3) เพื่อลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภค","วันนี้ (18 มกราคม 2565) เวลา 11.30 น. ที่ร้านหมูแฮปปี้ สาขาอำเภอเมืองอ่างทอง นายศักดิ์ดา บรรดาศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วย นางสาวสิการย์ เฟื่องฟุ้ง พาณิชย์จังหวัดอ่างทอง และ นายชัยยุทธ เหลืองบุศราคัม ปศุสัตว์จังหวัดอ่างทอง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินโครงการ \"พาณิชย์...ลดราคา ! ช่วยประชาชน\" (ครั้งที่ 3) ตามนโยบายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภค และเพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อหมูเนื้อแดงในราคาประหยัด
โดยพาณิชย์จังหวัดอ่างทอง ได้กำหนดจัดจำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคา 150 บาท/กิโลกรัม ระหว่างวันที่ 16 31 มกราคม 2565 จำนวน 9 จุด ประกอบด้วย ร้านซีพี เฟรชมาร์ท ที่ตั้งตลาดทรัพย์ทวี อ.เมืองอ่างทอง , ร้านปาหนัน ที่ตั้งข้างสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอ่างทอง อ.เมืองอ่างทอง, ร้านหมูแฮปปี้ สาขาอำเภอเมืองอ่างทอง ที่ตั้งเยื้องธนาคารออมสิน 53 อ.เมืองอ่างทอง, ร้านหมูสุภา สาขาโพธิ์ทอง ที่ตั้ง 52/2 ต.อ่างแก้ว อ.โพธิ์ทอง, ร้านหมูอินเทรนด์ ที่ตั้งตลาดไซโย อ.ไชโย, ร้านหมูสุภา สาขาวิเศษชัยชาญ ที่ตั้ง 163/7 ม.7 ต.ศาลเจ้าโรงทอง, ร้านหมูแฮปปี้ สาขาวิเศษชัยชาญ ที่ตั้ง ต.ศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษชัยชาญ, ร้าน 100 ซีพี ที่ตั้งตลาดศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษชัยชาญ และร้านหมื่นแสนอาหารสด ที่ตั้งตรงข้าม CJ สามโก้ 247/1 ม.6 ต.สามโก้ อ.สามโก้
ทั้งนี้ เนื่องจากสินค้ามีจำนวนจำกัด จุดจำหน่ายละไม่เกิน 50 กิโลกรัมต่อวัน ดังนั้น เพื่อเป็นการกระจายสินค้ากันให้ได้ทั่วถึง จึงได้จำกัดการซื้อคนละ 1 กิโลกรัม
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","อ่างทอง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอ่างทอง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118181748633"], [455,"พาณิชย์จันทบุรี เปิดจำหน่ายเนื้อหมูชำแหละในร้านที่เข้าร่วมโครงการในราคาควบคุมแก้ปัญหาหมูแพงลดผลกระทบค่าครองชีพประชาชน หมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท","วันนี้ (18 ม.ค. 65) นายนคร บุตรดีวงศ์ พาณิชย์จังหวัดจันทบุรี ได้นำเจ้าหน้าที่ออกไปอำนวยความสะดวกร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ \"แก้หมูแพง\" เปิดจำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคาควบคุม ลดผลกระทบค่าครองชีพประชาชนในจังหวัดจันทบุรีตามนโยบายของรัฐบาล โดยเบื้องต้นได้เปิดจำหน่ายหมูที่เข้าร่วมโครงการที่ ร้านเจ๊ม้อย ตลาดพลิ้ว อ.แหลมสิงห์ โดยเปิดจำหน่ายทุกวันในเวลา 07.00 น. ถึง 20.00 น.
โดยจำหน่ายวันละ 80 กก. จำกัดครอบครัวละ 2 กก. และยังจะมีร้านที่เข้าร่วมโครงการอีก 4 ร้าน ได้แก่ ร้านสุรีย์หมูสวย ตลาดสวนมะม่วง ต.วัดใหม่ อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี จำหน่ายเวลา 00.00-08.30 น. วันละ 100 กก. จำกัดครอบครัวละ 2 กก. / ร้านเบทาโกรช็อป สาขาจันทบุรี ถ.มหาราช อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี เวลาจำหน่าย 07.30-17.30 น. วันละ 20 กก. จำกัดครอบครัวละ 1 กก. / ร้านจุฑามาศ มีท ช็อป ต.วังแซ้ม อ.มะขาม จ.จันทบุรี เวลาจำหน่าย 07.00-20.00 น. วันละ 50 กก. จำกัดครอบครัวละ 2 กก. และร้านล้านหมูกัปตันหมูอนามัย ต.จันทเขลม อ.เขาคิชฌกูฎ จ.จันทบุรี เวลาจำหน่าย 07.00-20.00 น. วันละ 20 กก. จำกัดครอบครัวละ 1 กก. ทั้งนี้โครงการ แก้หมูแพง เป็นการลดผลกระทบของประชาชนจากราคาเนื้อหมูแพง ซึ่งจะจำหน่ายราคาควบคุมประกอบด้วย หมูเนื้อแดง / ไหล่หมู และสะโพกหมูราคากิโลกรัมละ 150 บาท ส่วนหมูชนิดอื่นจะขายในราคาควบคุมตามราคาตลาด
นอกจากนี้ ทางจังหวัดจันทบุรียังได้มีมาตรการแก้ปัญหาราคาหมูแพงโดยการห้ามส่งออกหมูมีชีวิต 3 เดือน รวมทั้งมาตรการอื่น ๆ ตามนโยบายของรัฐบาล อาทิช่วยเหลือราคาอาหารสัตว์ จัดสินเชื่อพิเศษ/ สำรวจภาพรวมการผลิตสุกรเพื่อกำหนดพื้นที่เป้าหมายและมาตรการ พร้อมเพิ่มกำลังการผลิตแม่สุกรทดแทน / ส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ ขยายกำลังผลิตแม่สุกร ยกระดับมาตรฐานฟาร์มเกษตรกร เพื่อป้องกันโรคระบาด รวมทั้งจัดสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กู้ยืมจาก ธ.ก.ส. โครงการสานฟันสร้างอาชีพเป็นต้น
ทั้งนี้ หากร้านจำหน่ายเนื้อหมูชำแหละในจังหวัดจันทบุรีประสงค์จะเข้าร่วมโครงการสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดจันทบุรี หมายเลขโทรศัพท์ 039 311357 หรือ 039 313323 ในวัน และเวลาราชการ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคตะวันออก","จันทบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดจันทบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118170055589"], [456,"จังหวัดเพชรบุรี แก้ปัญหา หมูแพง เปิดร้าน หมูถูก ช่วยชาวบ้าน สานนโยบายรัฐบาล ชวนร้านค้าร่วมโครงการจำหน่ายหมูกิโลกรัมละ 150 บาท เท่านั้น ชาวบ้านพอใจช่วยแบ่งเบาภาระในเรื่องค่าใช้จ่าย","เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ ( 18 มกราคม 2565) นายธีรวุฒิ คล้ายเคลื่อน พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจการจัดจำหน่ายเนื้อสุกร ร้านค้าร่วมโครงการฯ ในพื้นที่ อำเภอชะอำ อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี
นายธีรวุฒิ คล้ายเคลื่อน พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยถึงสถานการณ์หมู ว่า ราคาหมูปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากผลพวงโรคระบาด ทำให้หมูมีชีวิตมีจำนวนลดน้อยลง รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ให้จัดทำโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชนจำหน่ายหมูเนื้อแดงราคาประหยัดที่กิโลกรัมละ 150 บาทต่อกิโลกรัม โดยเชิญชวนร้านค้าเข้าร่วมโครงการขายหมูถูกโดยเฉพาะ สำหรับจังหวัดเพชรบุรีสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรีเปิดร้าน หมูถูก ช่วยชาวบ้าน 8 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ อำเภอชะอำ, ท่ายาง, แก่งกระจาน, อำเภอเมือง,อำเภอบ้านลาดให้ประชาชนสามารถเลือกซื้อได้ในแหล่งใกล้บ้าน ซึ่งจะมีป้ายแสดงเข้าร่วมโครงการจำหน่ายหมูราคาพิเศษให้กับประชาชนได้ซื้อไปบริโภค ในราคาประหยัด ซึ่งทุกร้านมีความสะดวกและถูกสุขอนามัย อยู่ในตู้เย็น ตู้แช่อย่างดี ตามมาตรฐาน
ทางด้านนางลักขณา แสงทอง เจ้าของร้านขายหมูอำเภอชะอำ เปิดเผยว่าเข้าร่วมโครงการเพื่อช่วยประชาชน อยากให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าที่ราคาถูก ช่วยชาวบ้านในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียงได้ซื้อสินค้าราคาถูก ซึ่งทำให้ลูกค้าก็รู้สึกดีด้วย ที่ได้ขายสินค้าที่ไม่แพง ราคาถูกกว่าท้องตลาดที่เขาซื้อกัน นับเป็นการช่วยสังคม ตอบแทนสังคมเพื่อชุมชนเข้มแข็ง ชาวบ้านซื้อสินค้าได้ราคาถูกขึ้น ไม่ผลักภาระให้กับชุมชนด้วย
นายประจิน เข็มกลัด ผู้ประกอบการเขียงหมู เปิดเผยว่า ยินดีที่ได้เข้าร่วมโครงการเพื่อทำประโยชน์ลดความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่เพชรบุรี ซึ่งที่ผ่านมาทางร้านมีฟาร์มเอง ส่วนหนึ่งก็ช่วยในด้านแรงงานการจ้างงานให้คนพื้นที่ ผลิตสินค้ามีคุณภาพ ใหม่สด ขายในราคาที่ไม่แพง ถูกกว่าคนอื่น
นอกจากนั้น นางจันจิรา เข็มกลัด ได้กล่าวเสริมว่าจากปัญหาค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น การมีนโยบายแบบนี้นับเป็นการได้ช่วยเหลือ ซึ่งช่วงหมูแพงการซื้อขายไม่สะพัดเหมือนเดิม แต่พอมีโครงการเข้ามาก็มีการตอบรับที่สะพัดมากขึ้นขายได้มากขึ้น
นายอมรเทพ กลิ่นพุดตาน เจ้าของร้านค้าอำเภอท่ายาง กล่าวว่า ชาวบ้านต้องเดือดร้อน เพราะหมูราคาขึ้น ชาวบ้านก็ไม่มีกำลังจะซื้อรวมทั้งสินค้าอื่นๆ ด้วย การได้เข้าร่วมโครงการก็ทำให้ชาวบ้านเข้ามาในร้านช่วยกระตุ้นยอดขายด้วยและได้ช่วยชาวบ้านซื้อของในราคาถูกลงด้วย
ทางด้าน นายณรงค์ สุขศรี ชาวบ้านผู้มาซื้อหมูถูก กล่าวว่า ได้ซื้อหมูราคาถูกไม่แพง อยากให้ภาครัฐ ช่วยเหลือประชาชนแบบนี้ไปนานๆ
นางกิตติยา ส่งกลิ่น กล่าวว่า รู้สึกดีที่รัฐบาลเข้ามาช่วยในเรื่องของราคาหมูเพราะมันจะช่วยแบ่งเบาภาระในเรื่องค่าใช้จ่าย ภายในครอบครัวลงไปได้ด้วย
จามรี อนุรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี รายงาน
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคตะวันตก","เพชรบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118180939631"], [457,"หอการค้าภาคเหนือร่วมกับอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ เตรียมพัฒนาเศรษฐกิจเชื่อมโยงงานวิจัย ..","หอการค้า 17 จังหวัดภาคเหนือลงนามความร่วมมือกับอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ เตรียมพัฒนาเศรษฐกิจ เชื่อมโยงงานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรม ผ่านการบ่มเพาะผู้ประกอบการในภาคเหนือ..//
อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ (จ.เชียงใหม่) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่าง หอการค้า 17 จังหวัดภาคเหนือ กับ 14 มหาวิทยาลัยเครือข่ายอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ เพื่อเตรียมสร้างโครงการความร่วมมือต่างๆ โดยเชื่อมโยงงานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรม ผ่านการบ่มเพาะผู้ประกอบการในภาคเหนือโดยมีประธานกรรมการหอการค้า 17 จังหวัด และคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเครือข่ายอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ ร่วมพิธี
นายสมบัติ ชินสุขเสริม ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคเหนือ หอการค้าไทย กล่าวว่า คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคเหนือ หอการค้าไทย และหอการค้า 17 จังหวัดภาคเหนือ ได้เล็งเห็นบทบาทและความสำคัญของอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม โดยเชื่อมโยงองค์ความรู้จากมหาวิทยาลัยเครือข่ายในภาคการศึกษาด้วยการนำองค์ความรู้ การวิจัยและพัฒนา ตลอดจนเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับภาคธุรกิจอย่างแท้จริง
ด้าน ศ.ดร.นายแพทย์พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวในฐานะมหาวิทยาลัย แม่ข่ายดำเนินงานอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีความยินดีในการร่วมมือกับหอการค้าไทย และอีก 13 มหาวิทยาลัยเครือข่ายในการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศจากทรัพยากรที่มีอยู่ เพื่อให้เกิดนวัตกรรมที่สามารถต่อยอดไปสู่การสร้างธุรกิจและผู้ประกอบการใหม่ รวมถึงสนับสนุนศักยภาพของ SMEs สู่การพัฒนายกระดับประเทศตามนโยบาย Thailand 4.0 ต่อไป
ทั้งนี้ โครงการสร้างเครือข่ายทางการค้าและจับคู่เจรจาธุรกิจสู่ตลาดสากล จะเป็นโครงการที่จะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรกนี้ โดยความร่วมมือขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ และอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP) ในการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการธุรกิจด้านอาหารและเกษตรแปรรูปให้มีศักยภาพสูง พร้อมมุ่งสู่ตลาดต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับจังหวัดลำปางและหอการค้าจังหวัดลำปางในการพัฒนาสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City Lampang) รวมถึงโครงการนิคมอุตสาหกรรมนวัตกรรมและเทคโนโลยีภาคเหนือ ภายใต้กรอบแนวคิดการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจภาคเหนือ ซึ่งร่วมกับหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ในการผลักดันให้เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางดิจิทัล (Digital Hub) เกิดอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน และอุตสาหกรรมการบริการสุขภาพและเครื่องสำอาง เป็นต้น
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคเหนือ","เชียงใหม่","สวท.เชียงใหม่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118172900608"], [458,"นักท่องเที่ยวแห่ชมความงามของพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า 2แผ่นดิน จุดชมวิวบริเวณถนนเลียบแนวชายแดนไทย - มาเลเซีย แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ อ.เบตง จ.ยะลา","วันนี้(18 ม.ค.65) ที่จุดชมวิว ถนนเลียบแนวชายแดนไทย - มาเลเซีย ชุมชนบ้านกาแป๊ะฮูลู กลายแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ อ.เบตง จ.ยะลา โดยเฉพาะในช่วงยามเย็น มีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางมาชมทัศนียภาพทิวทัศน์ จากมุมสูงของเมืองเบตงที่สามารถมองเห็นเทือกเขาอันสลับซับซ้อน เหมือนภาพวาดที่สวยงาม และยังมองเห็นไปยังอีกฝั่งของประเทศมาเลเซีย โดยไฮไลท์สำคัญของที่นี่คือการได้ชมความงามของพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า จากฝั่งของ อ.บาลิง รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย ที่บางวันพระอาทิตย์เป็นสีทองสวยงาม สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มารอชมเป็นอย่างมาก ต่างถ่ายรูป เช็คอิน อวดลงสื่อโซเชียล บางคนพร้อมไลฟ์ผ่านเฟสบุ๊ค ถ่ายทอดบรรยากาศ ให้ผู้ติดตามได้ชมเสน่ห์ของอาทิตย์ยามอัสดง ที่ ชายแดน ไทย- มาเลเซีย โดยบรรยากาศแต่ละวันเป็นไปอย่างคึกคักมีนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างพื้นที่มาเที่ยวชมอย่างเนืองแน่น สอดรับกับการเปิดเมืองสู่การท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน และชุมชนใกล้เคียงหลังประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจ จากวิกฤตโควิด 19 มานาน
นายถนอม คงเพชร นักท่องเที่ยว กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่มาเที่ยวแลนด์มาร์คแห่งใหม่นี้ เห็นทัศนียภาพของทั้ง 2 ประเทศ ทั้งไทย และมาเลเซีย ทิวทัศน์สวยงามมาก มีลมพัดยามเย็น อากาศดี ได้เห็นพระอาทิตย์ตกติดเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนในฝั่งมาเลเซีย ส่วนช่วงเช้าจะเห็นทะเลหมอกในฝั่งของอำเภอเบตงด้วย
ด้าน นายสาธิต ดาเด๊ะ ประธานชุมชนบ้านกาแป๊ะฮูลู กล่าวว่า ชุมชนบ้านกาแป๊ะฮูลู อยู่ใกล้พรมแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย ทางกรมทางหลวงได้สร้างถนนเลียบแนวชายแดนไทย มาเลเซีย และสร้างดาดคอนกรีต ซึ่งเป็นหน้าผาปูนซีเมนต์ เพื่อป้องกันน้ำกัดเซาะหน้าดิน ป้องกันดินสไลด์ที่อาจเกิดขึ้น นอกจากประโยชน์ของการก่อสร้างแล้วยังเกิดความสวยงามด้วย กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ อ.เบตง แต่ข้อควรระวังของการมาเที่ยวที่นี่คือต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย เพราะหน้าผาปูนซีเมนต์มีความสูงหลายเมตร หากตกลงมาอาจทำให้เสียชีวิตได้ ผู้ที่พาบุตรหลานมาเที่ยวต้องดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด เนื่องจากวัตถุประสงค์ของการก่อสร้าง ไม่ได้รองรับการท่องเที่ยว แต่พอมีชาวบ้านในพื้นที่ ขึ้นมาถ่ายรูปความสวยงามของพระอาทิตย์ลงสื่อโซเชียล ทำให้ผู้คนเดินทางมากเที่ยวกันมากขึ้น
สำหรับที่จุดชมวิว ถนนเลียบแนวชายแดนไทย - มาเลเซีย ชุมชนบ้านกาแป๊ะฮูลู เดินทางจากตัวเมืองเบตงไปทางด่านพรมแดน 6 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายขึ้นภูเขา จะมีป้ายบอกทาง บ้านซาโห่ เดินทางต่อไปอีกไม่ถึง 3 กิโลเมตร ก็ถึงจุดชมวิวดังกล่าว
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.เบตง จ.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118175904627"], [459,"พาณิชย์จังหวัดมุกดาหาร เดินหน้าจัด \"โครงการหมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประขาชน\" หมูเนื้อแดง กก.ละ 150 บาท","นางลักขณา บุญนำ พาณิชย์จังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า ได้เปิดจุดดำเนินโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน จังหวัดมุกดาหาร (ครั้งที่ 2) ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาหมูราคาสูงขึ้นและเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ลดค่าครองชีพให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด โดยร่วมผู้ประกอบการค้าเนื้อสุกรชำแหละจัดกิจกรรมจำหน่ายหมูเนื้อแดง ลดราคาเพื่อผู้บริโภค ราคากิโลกรัมละ 150 บาท จำนวน 7 จุด เริ่มในวันที่ 17-31 มกราคม 2565 ดังนี้
1.ร้านเขียงหมูลุงหมอก ตลาดประชารัฐคำอาฮวน
2.ร้านบุญมีหมูสด ตลาดเทศบาล 1 มุกดาหาร
3.ร้านเจ้มายหมูสด ตลาดสดเทศบาล 2 มุกดาหาร
4.ร้านคุณแจ๋วแหววหมูสด สาขา 2 ข้าง แมคโคร มุกดาหาร
5.ร้านวาสนา ตลาดสดราตรี อำเภอหว้านใหญ่
6.ร้านแม่ติ่งหมูสด ตลาดสดเทศบาลนิคมคำสร้อย
7.ร้านเชิดชัยฟาร์ม จำหน่ายจุดละ 50 กก. รวมวันละ 350 กิโลกรัม
วันนี้ ( 18 ม.ค.65 ) นางลักขณา บุญนำ พาณิชย์จังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุสุกรชำแหละปรับราคาสูงขึ้นเนื่องจาก ปัญหาสุกรมีชีวิตที่ราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากผลกระทบของโรคระบาดร้ายแรงในสุกรทำให้จำนวนสุกรออกสู่ตลาดลดลง ประกอบกับราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สำคัญ ๆ อาทิ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กากถั่วเหลือง เป็นต้น มีราคาสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรต้องรับภาระต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น จึงส่งผลต่อเนื่องมายังผู้บริโภค ซึ่งแนวทางแก้ไข กระทรวงพาณิชย์ได้ออกมาตรการเร่งด่วน ดังนี้
1. ห้ามส่งออกสุกรมีชีวิตเป็นเวลา 3 เดือน
2. กำหนดให้ให้ผู้เลี้ยงหมูรายใหญ่ตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป / ผู้ค้าส่ง ที่มีหมูเกิน 500 ตัวขึ้นไป และห้องเย็นที่มีสต็อกหมู ตั้งแต่ 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป แจ้งปริมาณ และราคาทุก 7 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.เป็นต้นไป เพื่อดูแลปริมาณหมู และสต็อกหมูที่มีอยู่ทั้งประเทศ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","มุกดาหาร","สวท.มุกดาหาร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118173325613"], [460,"พาณิชย์จังหวัดมหาสารคาม ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปรากฏข่าวมะละกอปรับขึ้นราคา ร้านขายส้มตำยืนยันยังไม่เพิ่มราคา","
วันนี้ (18 มกราคม 2565 ) นายเจนณรงค์ ศรีอินทร์ พาณิชย์จังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดมหาสารคาม ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีร้านอู๋แซ่บเวอร์ ใกล้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม จากที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา โดยจากการตรวจสอบพบว่า ร้านค้ายังคงจำหน่ายอาหารเมนูส้มตำในราคาจาน ละ 35 บาท ซึ่งยังคงราคาเดิม รวมทั้งอาหารอื่น ๆ ยังคงราคาเดิมเช่นกัน สำหรับเมนูอาหารที่ปรุงจากเนื้อหมูวางจำหน่ายปกติ โดยได้ปรับรูปแบบการจัดจานอาหาร และราคาสอดคล้องกับต้นทุน ซึ่งร้านค้ายังคงรักษาฐานลูกค้าไว้ เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา
นอกจากนี้ การตรวจติดตามราคาสินค้าซึ่งเป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหาร ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองมหาสารคาม ดังนี้
1. มะละกอดิบพันธุ์ดำเนิน ขายส่ง ถุงละ 140-180 บาท น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม
ขายปลีกกิโลกรัมละ 25 บาท
2. มะนาว เบอร์ 3 ราคา 2.50 บาท เบอร์ 5 ลูกละ 2 บาท เบอร์ 6 ลูกละ 1.60 บาท
3. พริกชี้ฟ้าจินดาแดง กิโลกรัมละ 37-40 บาท
4. มะเขือเทศ กิโลกรัมละ 30 บาท
5. ถั่วฝักยาว กิโลกรัมละ 30 บาท
ทั้งนี้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดมหาสารคาม ได้มีมาตรการกำกับดูแล ประกอบด้วย
1. ได้จัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบติดตามราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและข้อปฏิบัติตามกฎหมายของผู้ประกอบการอย่างใกล้ชิด ซึ่งเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2565 ได้ออกติดตามราคาสินค้าบริเวณตลาดสดเทศบาลเมืองมหาสารคาม โดยมี นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมบูรณาการ
2. มาตรการเสริมสร้างกลไกทางการตลาด ได้ดำเนินการโครงการหมูธงฟ้า ราคากิโลกรัมละ 150 บาท จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 ซึ่งได้ดำเนินการตลอดมาและได้ดำเนินโครงการธงฟ้าลดค้าครองชีพ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จำนวน 3 ครั้ง
3. มาตรการการมีส่วนร่วมประชาชน เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการติดตามราคาสินค้า โดยช่องทางสายด่วน 1569 ซึ่ง ณ วันที่ 17 มกราคม 2565 ยังไม่ปรากฏข้อร้องเรียนเกี่ยวกับราคาอาหารสำเร็จรูปแต่ประการใด
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","มหาสารคาม","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118174448618"], [461,"พาณิชย์ชัยภูมิ เดินหน้า ลดค่าครองชีพ จำหน่ายหมูราคา 150 บาท","วันที่ 17 มกราคม 2565 นางศศิพิมล มงคล พาณิชย์จังหวัดชัยภูมิ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดจำหน่าย โครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน (ครั้งที่ 3) ตามนโยบายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อจำหน่ายหมูเนื้อแดงให้กับประชาชนผู้บริโภค ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ระหว่างวันที่ 17 - 31 มกราคม 2565 จำนวน 3 จุด ได้แก่
1. ร้านเจ้เกมส์ หน้าสหกรณ์จังหวัดชัยภูมิ
2. ร้านหมูทอง พ่อไสว บ้านนาฝาย อำเมือง
3. ร้านแม่วันเพ็ญหมูสด ตลาดเย็นในตลาดสด อำเภอเมือง
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาสุกรที่สูงขึ้น และให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งเป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยมีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ชัยภูมิ","สวท.ชัยภูมิ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118184848645"], [462,"ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยแผนการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัด","นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยกรณีการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในจังหวัดบุรีรัมย์ ว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้จัดกิจกรรมต่างๆ ขึ้นโดยมุ่งเน้นการกระจายรายได้สู่ชุมชน และเผยแพร่วัฒนธรรมออกสู่สายตานักท่องเที่ยว โดยให้คนในชุมชนนำของดีของเด่น รวมถึงวัฒนธรรมในแต่ละพื้นที่มาขายและจัดแสดงที่งาน ยกตัวอย่างเช่น ตลาดถนนคนเดินเมืองต่ำและงานแสง สี เสียงภูเขาไฟกระโดงที่เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา ก็ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก โดยใน 2 วันแรกมียอดจำหน่ายมากกว่า 1 ล้านบาท สร้างรายได้ให้แก่พ่อค้าแม่ค้าอย่างล้นหลาม ซึ่งการจัดกิจกรรมของทั้ง 2 แห่งได้มีการนำมาตรการด้านสาธารณสุขมาใช้อย่างเข้มงวด ช่วยลดโอกาสการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเป็นแนวทางจัดกิจกรรมต่างๆในรูปแบบวิถีใหม่
สำหรับกิจกรรมวิ่งมาราธอนที่จะจัดในวันที่ 22 มกราคม 2565 นี้ ทางจังหวัด ผู้จัดงานและส่วนที่เกี่ยวข้องต่างก็ให้ความสำคัญ กับมาตรการด้านสาธารณสุข พร้อมปรับกิจกรรมต่างๆ ให้เข้ากับมาตรการที่จังหวัดได้วางไว้ ไม่ว่าจะเป็น กรณีของผู้จัดงานผู้ร่วมงานต้องได้รับวัคซีนครบโดส และตรวจ ATK ทางน้ำลาย ก่อนเข้าร่วมวิ่ง อนุญาตให้ถอดหน้ากากอนามัยหลังปล่อยตัวจากจุดสตาร์ทเท่านั้น และใส่หน้ากากอนามัยหลังแข่งขันเสร็จ การปล่อยตัวนักวิ่งทีละบล็อก เพื่อลดความแออัด ซึ่งในแต่ละบล็อกนักวิ่งต้องเว้นระยะห่าง และกำหนดให้นักวิ่งแยกรับประทานอาหารตามจุดที่กำหนด เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนผู้ที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงช่วยกันรักษาความสะอาด และเป็นเจ้าภาพที่ดีในการจัดงานครั้งนี้
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","บุรีรัมย์","สวท.บุรีรัมย์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118195903702"], [463,"อุทยานหมู่เกาะอ่างทอง พบวาฬบรูด้าใหญ่ 8 เมตร โผล่เล่นน้ำ เสริมยืนยันเกาะสมุย ติดอันดับ 7 เกาะท่องเที่ยวยอดเยี่ยมโลก อันดับ 2 เอเชีย","เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2565 นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นายณัฐวัฒน์ นุ้ยศรีราม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง อ.เกาะสมุย ได้พบวาฬบรูด้า ซึ่งเป็นสัตว์หายาก จำนวน 1 ตัว เมื่อวันที่ 17 ม.ค.65 ว่ายเล่นน้ำบริเวณเกาะหนุมานและใกล้เคียงเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ล่าสุดวันนี้ได้นำเจ้าหน้าที่สายตรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิชาการ ออกลาดตระเวนสำรวจสามารถบันทึกภาพวาฬ มีขนาดความยาวลำตัวประมาณ 6-8 เมตร ขณะหากินอาหารอยู่ระหว่างเกาะรอก เกาะแปยัค เกาะแหล เกาะหินแตก ทางด้านทิศตะวันตกของอุทยานฯ ซึ่งจะนำภาพไปเปรียบเทียบอัตลักษณ์กับฐานข้อมูลของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อระบุชื่อเป็นข้อมูลติดตามต่อไป
นายวิชวุทย์ กล่าวว่า ในเบื้องต้น นายณัฐวัฒน์ ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวัง ติดตาม เก็บข้อมูล พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ประกอบการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยว และประมงพื้นบ้าน ขอให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ หรือกระทำการใดๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อสัตว์ดังกล่าวแล้ว โดยก่อนนี้เมื่อเดือน ก.พ.64และ มี.ค.64 ได้พบวาฬบูรด้า 2 แม่ลูก แม่วันดี กับเจ้าวันหยุด เข้ามาหากินบริเวณอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง และมีวาฬบูรด้าอีก 2 ตัวตามมา เนื่องจากทะเลบริเวณอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองมีความอุดมสมบูรณ์มาก
นิตยสารเทรเวล แอนด์ เลเซอร์ (Travel and Leisure) ซึ่งเป็นนิตยสารด้านการท่องเที่ยวทั่วโลกชื่อดังของอเมริกาได้ประกาศผลจากการร่วมโหวตของนักท่องเที่ยว ให้เกาะสมุย ติดอันดับ 7 เกาะท่องเที่ยวยอดเยี่ยมของโลกปี 2564 และอันดับ 2 ของเอเชีย โดยใช้หลักเกณฑ์สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ชายหาด อาหาร ความเป็นมิตรและมูลค่าโดยรวม ซึ่งเกาะสมุย ถูกประกาศเป็นเกาะที่มีชายฝั่งทะเลที่สวยงาม น้ำทะเลใสราวคริสตัลจุดนี้เองจึงทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติต่างหลงใหลและอยากมาเยือนเกาะสมุยให้ได้สักครั้งในชีวิต นายวิชวุทย์ กล่าวว่า
เครดิตภาพ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคใต้","สุราษฎร์ธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118192656665"], [464,"มทส. ร่วมมือ เมกาเชฟ ต่อยอดการวิจัยสู่เชิงพาณิชย์อย่างยั่งยืน","วันนี้ (18 ม.ค.65) รองศาสตราจารย์ ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือวิจัยและพัฒนา ร่วมกับ นายภาส นิธิปิติกาญจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สินวารีพัฒนา จำกัด โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.จิรวัฒน์ ยงสวัสดิกุล รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ศาสตราจารย์ ดร.สันติ แม้นศิริ คณบดีสำนักวิชาวิทยาศาสตร์ รองศาสตราจารย์ ดร.ระพี อูทเคอ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา พร้อมด้วยคณาจารย์ มทส. และคณะผู้บริหาร บริษัท สินวารีพัฒนา จำกัด ร่วมเป็นเกียรติในพิธี ณ ห้องประชุมสารนิเทศ อาคารบริหาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุรีลักษณ์ รอดทอง หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านเทคโนโลยีจุลินทรีย์เพื่ออุตสาหกรรมเกษตร มทส. เผยว่า ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านเทคโนโลยีจุลินทรีย์เพื่ออุตสาหกรรมเกษตร มีความร่วมมือในการดำเนินการวิจัยและพัฒนาร่วมกับ บริษัท สินวารีพัฒนา จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำปลาพรีเมียมและซอสปรุงรส ตราเมกาเชฟ (Megachef) ในฐานะผู้ประกอบการจากภาคอุตสาหกรรม มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีการต่อยอดและพัฒนางานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ รวมทั้งถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารที่ใช้ประโยชน์จากจุลินทรีย์อย่างต่อเนื่อง มีโครงการวิจัยที่ได้เสนอขอและได้รับทุนสนับสนุนจากแหล่งทุนภายนอกจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งสิ้น 7 โครงการ มีมูลค่ารวมกว่า 28.6 ล้านบาท ภายใต้การดำเนินการวิจัยของโครงการเหล่านี้ คณะนักวิจัยและบริษัทฯ มีผลสำเร็จที่ภาคภูมิใจที่สามารถเสนอขอรับทุนจากแผนงานการวิจัยร่วมกับภาคเอกชน (Collaboration Research Platform) ได้ถึง 2 โครงการ ด้วยระยะเวลาดำเนินการโครงการละ 1 ปี ที่มูลค่า 6.5 ล้านบาท และ 14.6 ล้านบาท ตามลำดับ นับได้ว่าเป็นความร่วมมือที่สร้างแรงบันดาลใจให้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อร่วมมือในการศึกษาวิจัย พัฒนางานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ พัฒนาเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ต้นแบบเพื่อการศึกษาวิจัย รวมถึงรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารที่ใช้ประโยชน์จากจุลินทรีย์ และผลิตผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์อาหาร ตลอดจนแลกเปลี่ยนและเสริมสร้างความรู้ ประสบการณ์ ข้อมูลทางวิชาการ จัดฝึกอบรมและสัมมนาเพื่อพัฒนาบุคลากรของทั้งสองฝ่าย มีกำหนดระยะเวลา 5 ปี ทั้งนี้ เพื่อเป็นกรอบในการดำเนินงานวิจัยและพัฒนาอย่างยั่งยืน นำไปสู่การบริการวิชาการ และเป็นไปตามยุทธศาสตร์การวิจัยและพัฒนาเพื่อความยั่งยืนของมหาวิทยาลัย รวมถึงเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งในความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนากับผู้ประกอบการ จากภาคอุตสาหกรรมให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","นครราชสีมา","สวท.นครราชสีมา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118202701711"], [465,"พาณิชย์ฯ ขอนแก่น ออกตรวจติดตามโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน จ.ขอนแก่น (ครั้งที่ 3)","นายชาญยุทธ วันดี พาณิชย์จังหวัดขอนแก่น นายสุระชัย วิชาชัย หัวหน้ากลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า นายนิยุทธ์ สืบสาย หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมการประกอบธุรกิจการค้าและการตลาด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดขอนแก่น ได้ออกตรวจติดตามโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน จังหวัดขอนแก่น (ครั้งที่ 3) ณ ตลาดสดบางลำภู และได้ออกสำรวจสถานการณ์ภาวะราคาสินค้า ในตลาดสดเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งประชาชนได้ให้ความสนใจและตอบรับโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน จังหวัดขอนแก่น (ครั้งที่ 3) เป็นอย่างมาก ที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชน
จากการสำรวจราคาสินค้าในเขตเทศบาลนครขอนแก่น สินค้าบางรายการราคายังปกติ เช่น หมูเนื้อแดง ราคา 200บาท/กก. หมูสามชั้น ราคา 220 บาท/กก. ไก่สดทั้งตัว (ทั้งรวมเครื่องในและไม่รวมเครื่องใน) ราคา 65 บาท/กก. น่องไก่(ติดสะโพก) ราคา 70 บาท/กก. ไข่ไก่ เบอร์ 2 ราคา 100 บาท/แผง ไข่ไก่ เบอร์ 3 ราคา 95 บาท/แผง ปลานิลสด ราคา 70-80 บาท/กก. ปลาดุกสด ราคา 60-65 บาท/กก. ส่วนอาหารทะเล และผักสด อาจจะมีบางรายการมีการปรับเพิ่มขึ้นและลดลงเล็กน้อย เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดขอนแก่น จะได้ออกตรวจสอบติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งกำกับดูแลในการปิดป้ายแสดงราคาในการจำหน่ายสินค้าต่อไป
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","18/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ขอนแก่น","สวท.ขอนแก่น","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220118205911714"], [466,"เสนอรัฐบาลเร่งพิจารณาเปิดรับนักท่องเที่ยวลงทะเบียนท่องเที่ยวแบบ Test & Go โดยเร็ว เพื่อไม่ให้ไทยเสียโอกาส","นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 สายพันธุ์โอมิครอนในช่วงที่ผ่านมา ทำให้รัฐบาลต้องหยุดรับลงทะเบียนนักท่องเที่ยวแบบ Test & Go ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวลดลงอย่างมาก เงินรายได้จากการท่องเที่ยวหายไปเฉลี่ยเดือน 5,000-9,000 ล้านบาท
ขณะนี้เห็นว่าสถานการณ์ของโรคโควิด -19 สายพันธุ์โอมิครอนมีแนวโน้มดีขึ้นแล้ว ดังนั้นเห็นว่ารัฐบาลควรเร่งพิจารณาดำเนินมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบ Test & Go โดยเร็ว ให้เริ่มดำเนินการได้ในเดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป เพื่อไม่ให้ไทยเสียโอกาสด้านการท่องเที่ยวกับประเทศอื่น ซึ่งหากไม่เร่งดำเนินการจะทำให้เสียตลาดนักท่องเที่ยวและเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของไทยในระยะยาว
พร้อมกันนี้ ยังมีข้อเสนอให้รัฐบาล ปรับปรุงกระบวนการให้เหมาะสมกับสถานการณ์เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว รวมถึงเสนอให้มีการตรวจ RT-PCR ก่อนการเดินทางเพิ่มอีกเป็น 5 วัน และ 3 วัน ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย จากเดิมกำหนดให้ต้องตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทางไม่กิน 72 ชั่วโมง (3 วัน)
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ถือเป็นหน้าที่ของทุกภาคส่วนที่จะต้องร่วมมือกันปฏิบัติมาตรการป้องกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด ก็จะช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคได้เป็นอย่างดี
","19/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119125528876"], [467,"ยุคโควิดของแพง กระทบคนขาย คนซื้อ ต้องทำใจ","
หลังจากราคาหมูได้ขยับสูงขึ้นทำให้ราคาสินค้า อาหาร ต่างพากันปรับสูงขึ้นตาม ไม่ว่าจะเป็นไข่ไก่ ไก่สด อาหารทะเล อย่าง กุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึก ปลาเค็ม ไก่สด โดยทั้งคนขาย ผู้บริโภค ก็ต้องทำใจไปตามๆ กัน ในช่วงภาวะของแพง ต้องลดปริมาณขาย ส่วนคนซื้อก็ต้องลดปริมาณการซื้อลง
แม่ค้าขายอาหารทะเลในตลาดเมืองใหม่เขตเทศบาลนครยะลา บอกว่า หลังราคาหมูแพง อาหารทะเล ก็เริ่มปรับขึ้นราคาทุกอย่าง 10-20 บาท ซึ่งเป็นมาตั้งก่อนปีใหม่ โดยกุ้งสด จากเดิมเคยขาย กก.ละ 180 บาท ตอนนี้ ก็ขึ้นมาเป็น กก.ละ 200 บาท ส่วนปลาต่างๆ ก็ปรับขึ้นเช่นกัน ปกติที่ร้านจะรับปลามาขายจาก จ.ปัตตานี ขายได้น้อยลง บางวันก็หมด บางวันก็ไม่หมด ลูกค้าลดลง ทางร้านก็ต้องทำใจ จากเดิมลูกค้าเอา 5 กก.ก็ลดเหลือ 4 กก. จาก 4 กก.ก็ลดเหลือ 3 ก.ก
นอกจากนี้ ก็ยังทำให้ปลาเค็ม ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกันเนื่องจากปลาสดมีราคาแพง ในส่วนของ ไก่สด ก็ได้ปรับขึ้นราคา จากเดิม กก.ละ 65 บาท ก็ปรับขึ้นมา 10 บาท เป็น 75 บาท ต่อกิโล ชาวบ้านก็ซื้อน้อยลงไม่มากเหมือนเมื่อก่อน
ขณะที่ ทางด้าน ผักสดกลับสวนกระแสราคาลง โดยแม่ค้าผักสด บอกว่า ก่อนหน้านี้ผักสดได้ปรับขึ้นราคาไปแล้ว ตอนนี้ได้ลดลง เป็นปกติแล้ว มีบางชนิดปรับสูงขึ้น เช่น บร็อคโคลี่ ที่จากเดิม กก.ละ 70 บาท ปรับขึ้น 20 บาท เป็น 90 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ ผักสดขึ้นราคาเยอะมาก เกือบทุกชนิด
ในส่วนของผู้บริโภค คนซื้อ ซึ่งจ่ายตลาดอยู่เป็นประจำ ต่างบอกว่า ของแพงทุกอย่าง เป็นมาตั้งแต่ช่วงโควิดแล้ว ภาวะค่าครองชีพสูงมากใช่วงของแพง ก็ต้องทำใจ ลดจำนวนซื้อลง
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","19/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119085257747"], [468,"พาณิชย์จังหวัดภูเก็ต เดินหน้าโครงการ พาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน พร้อมเตรียมเปิดตลาดนัดพาณิชย์ ลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน","นางสาววรนิษย์ อภิรัฐจิรวงษ์ พาณิชย์จังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต เดินหน้าโครงการพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน อย่างต่อเนื่อง โดยมีจุดบริการประชาชนทั้งหมด 10 จุด ครอบคลุมทั้ง 3 อำเภอ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 และกำลังเตรียมดำเนินการเปิดตลาดนัดพาณิชย์ ด้วยการนำสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด ออกจำหน่ายให้กับประชาชน ซึ่งจะมีทั้งสินค้าอุปโภค บริโภค ที่มีความจำเป็นกับประชาชน เช่น ไข่ไก่ ข้าวสาร น้ำมันพืช ผงซักฟอก เพื่อลดภาระค่าครองชีพและเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19
นอกจากนี้ ตลาดนัดพาณิชย์จะเป็นการเพิ่มช่องทางในการเลือกซื้อสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพในราคาประหยัดให้แก่ประชาชนได้อย่างทั่วถึง และเป็นการเปิดพื้นที่การตลาดให้กับประชาชน เกษตรกร ในการนำสินค้า ผลผลิตทางการเกษตรมาวางจำหน่ายเพิ่มตัวเลือกให้กับประชาชนผู้บริโภคอีกทางหนึ่งด้วย
อย่างไรก็ตาม สำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต สานต่อนโยบายของรัฐบาล กระทรวงพาณิชย์ และจังหวัดภูเก็ต ในการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ช่วยลดภาระค่าครองชีพ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 และภาวะการปรับราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การดูแล ห่วงใย คุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งหากประชาชนพบเห็นการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมทางการค้า สามารถแจ้งหรือร้องเรียนได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต โทรศัพท์หมายเลข 0 7621 9586 หรือ สายด่วน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","19/1/2022","NULL","ภูเก็ต","สวท.ภูเก็ต","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119085706749"], [469,"ผวจ.ยโสธร เยี่ยมจุดจำหน่าย หมูพาณิชย์ ลดราคาช่วยประชาชน พร้อมเชิญชวนชาวยโสธร ซื้อเนื้อหมู กก.ละ 150.-บาท ใน 7 จุดขายพื้นที่ อ.เมือง,กุดชุม,เลิงนกทาและป่าติ้ว","วันนี้ (18 ม.ค.65) นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมด้วยนางพัทธานันท์ ยังตรง ประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดยโสธร พร้อมสมาชิกชมรมฯ ร่วมเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประกอบการร้านจำหน่ายเนื้อหมู ตามโครงการ หมูพาณิชย์ ลดราคาช่วยประชาชน โดยมีพาณิชย์จังหวัดยโสธร ปศุสัตว์จังหวัดยโสธร เจ้าหน้าที่สำนักงานสาขาช่างตวงวัด เขต 2-3 ร้อยเอ็ด ร่วมเยี่ยมชมและให้กำลังใจ ผู้ประกอบการจำหน่าย เนื้อหมู ที่ร้านแฮปปีมาร์ท ซึ่งเปิดดำเนินการที่เลขที่ 32 ถนนวิทยะธำรงค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองยโสธร
พร้อมนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ได้เชิญชวนประชาชนซื้อเนื้อหมู ราคาประหยัด ซึ่งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดยโสธร จัดโครงการ หมูพาณิชย์ ลดราคาช่วยประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และลดภาระค่าครองชีพ โดยเปิดจำหน่ายเนื้อหมูใน 7 จุด จำหน่ายจุดละ 50-100 กิโลกรัมต่อวัน ในราคากิโลกรัมละ 150.-บาท ตามร้านค้าใน 4 อำเภอดังนี้
อำเภอเมืองยโสธร จำหน่าย 4 จุด ที่ร้านยายเปลื้อง ภายในตลาดสดเทศบาล 1 ตำบลในเมือง,ร้านแฮปปีมาร์ท สาขา 2 เลขที่ 32 ถนนวิทยะธำรงค์ ตำบลในเมือง , ร้านเขียงหมูแม่อ้อน ตลาดน้ำโผ่ ตำบลเดิดและร้านมิตรแท้ ฟาร์ม เลขที่ 12/13 ถนนสหพัฒนา ตำบลในเมือง
อำเภอกุดชุม ที่ร้านหนูนิสัยดี ภายในตลาดสดเทศบาลตำบลกุดชุมพัฒนา/อำเภอเลิงนกทา ที่ร้าน อาร์ พี ฟาร์ม ตรงข้ามปั๊มน้ำมัน ปตท.เลิงนกทาและอำภอป่าติ้ว ที่ร้านแม่สอน หมูสด ตลาดสดเทศบาลตำบลโพธิ์ไทร ถนนอรุณประเสริฐ อำเภอป่าติ้ว
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","19/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ยโสธร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119112029820"], [470,"รัฐบาลจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นส่งความสุข 3 หมื่นล้านบาท หมดภายในสองวัน","นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงการคลังได้ทำการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นส่งความสุข วงเงิน 30,000 ล้านบาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดเฉลี่ยร้อยละ 1.90 ต่อปี เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน ซึ่งเริ่มจำหน่ายวันแรก เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา เป็นการจำหน่ายให้กับประชาชนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป รายละไม่เกิน 5 ล้านบาท ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก สามารถจำหน่ายได้หมดในสองวัน โดยวันแรกจำหน่าย 27,000 ล้านบาท และวันที่สอง 3,000 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นคนไทยให้ความสนใจในการเข้ามาลงทุนในพันธบัตรของรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ก็ทำให้รัฐบาลใช้ช่องทางในการระดมทุน หรือกู้เงินในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยดอกเบี้ยก็จะไหลกลับเข้าสู่ประชาชนคนไทยภายในประเทศทั้งนี้ กระทรวงการคลัง โดยสำนักบริหารหนี้สาธารณะ ได้รายงานด้วยว่า ในการจำหน่ายพันธบัตรครั้งนี้มีการลงทุนผ่าน Internet และ Mobile Banking เพิ่มขึ้น ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์การแพร่ระบาดและวิถีการทำธุรกรรมทางการเงินที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง
ส่วนข้อกังวลเรื่องระดับหนี้สาธารณะนั้น กระทรวงการคลังให้ความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลมีความสามารถในการบริหารจัดการหนี้สาธารณะ ทั้งนี้ หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2564 มีจำนวน 9.62 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 59.58 ต่อ GDP ซึ่งอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหาการคลังแต่อย่างใด เนื่องจากรัฐบาลยังคงมีความสามารถในการชำระหนี้ โดยติดตามสัดส่วนภาระดอกเบี้ยต่อประมาณการรายได้ประจำปีอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับสากล ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ BBB+ Stable Outlook ซึ่งเป็นระดับที่น่าพอใจค่อนข้างมากภายใต้สถานการณ์วิกฤติ COVID-19 ขณะที่หลายประเทศถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือและมุมมองความน่าเชื่อถือ ยกตัวอย่าง เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2564 Fitch Ratings รายงานว่าภาคการคลังของประเทศไทยมีความแข็งแกร่ง ความเสี่ยงภาคการคลังสาธารณะจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ภาครัฐบาลได้รับการบริหารจัดการ โดยกลยุทธ์การบริหารหนี้สาธารณะที่เข้มแข็ง
","19/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119102504773"], [471,"นายกรัฐมนตรี ชื่นชม พื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน ได้รับบรรจุบัญชีรายชื่อเบื้องต้น ขึ้นทะเบียนมรดกโลก","
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เว็บไซต์ของศูนย์มรดกโลก องค์การยูเนสโก ได้บรรจุ พื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น เพื่อเสนอขอขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยภายหลังทราบข่าว พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวยินดีและชื่นชมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ได้เดินหน้าผลักดันจนประสบความสำเร็จไปขั้นหนึ่ง
พร้อมย้ำว่า ขอให้ทุกหน่วยงานคำนึงถึงทรัพยากรธรรมชาติ และประโยชน์ของประชาชนในพื้นที่และประเทศเป็นหลัก เพราะการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติจะนำมาซึ่งความภาคภูมิใจให้คนไทย รวมทั้งเป็นการอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างยั่งยืนอีกทางหนึ่ง ตลอดจนเมื่อได้เป็นมรดกโลกแล้ว จะยังต้องมีการบูรณาการการทำงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันดูแล รักษาพื้นที่ตามมาตรฐาน รวมทั้งตรวจสอบพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสถานที่แหล่งอนุรักษ์ ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของไทยและของโลก ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในพื้นที่ สร้างอาชีพให้ประชาชนต่อไป
สำหรับพื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน ที่นำเสนอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเลตลอดชายฝั่งทะเลอันดามันที่อยู่ตอนบนของคาบสมุทรไทย ในเขตจังหวัดระนอง พังงา และจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งสิ้น 6 อุทยานแห่งชาติ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระนอง อุทยานแห่งชาติแหลมสน อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง อุทยานแห่งชาติสิรินาถ รวมไปถึงพื้นที่ป่าชายเลนจังหวัดระนอง และพื้นที่สงวนชีวมณฑลระนอง
เว็บไซต์ UNESCO ระบุว่า โดยรวมแล้ว พื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน ของประเทศไทยก่อให้เกิดสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่น่าประทับใจที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่ละพื้นที่เป็นตัวอย่างที่ไม่มีใครเทียบได้ของความงามตามธรรมชาติ และเมื่อรวมกันเป็นหนึ่งเดียวแล้วยังสร้างห้องเรียนประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติ เป็นหนังสืออ้างอิงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่รวมอยู่ในประเทศเดียว
","19/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119102835780"], [472,"จังหวัดสุราษฎร์ธานีเปิด 6 จุดจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูก บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน","
นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ตามที่กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายดำเนินโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน เพื่อลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภค ในช่วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และที่ได้รับผลกระทบจากราคาเนื้อหมูปรับสูงขึ้น โดยจัดให้มีการจำหน่ายหมูเนื้อแดง ตามโครงการดังกล่าว กิโลกรัมละ 150 บาท
สำหรับจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีจุดจำหน่าย จำนวน 6 จุด ระหว่างวันที่ 16 31 มกราคม 2565 ได้แก่ 1.ร้านหมูวิทยา คงหวาน เลขที่ 92/3 ถนนตลาดใหม่ ตำบลตลาด อำเภอเมืองฯ 2.ร้านวัฒนาฟาร์มฟู๊ด เลขที่ 95 ถนนศรีเวียง ตำบลนาสาร อำเภอบ้านนาสาร 3.ร้านเอ-วิน หมูสด ถนนตลาดล่าง ตำบลบางกุ้ง อำเภอเมืองฯ 4.ร้านข้าวหอม-ข้าวฟ่าง หมูสด เลขที่ 84-12 ถนนตลาดล่าง ตำบลบางกุ้ง อำเภอเมืองฯ 5.ร้านณีหมูคุณภาพ เลขที่ 103/627 หมู่ที่ 3 ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมืองฯ และ 6.ร้านยกครัว เลขที่ 30-6 หมู่ที่ 6 ตำบลคลองน้อย อำเภอเมืองฯ นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากร้านวัฒนา ฟาล์มฟู๊ด จัดจำหน่ายไข่ไก่และไก่สดชำแหละในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดอีกด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวด้วยว่า รัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ที่ได้รับผลกระทบสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และได้รับผลกระทบจากราคาเนื้อหมูที่ปรับสูงขึ้น โดยกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับผู้ประกอบการ จัดจำหน่ายเนื้อหมูและสินค้าธงฟ้าราคาถูก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ช่วยลดค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน
สถานการณ์การจำหน่ายเนื้อหมูสด วานนี้มีราคาปรับตัวพุ่งสูงขึ้น จากเดิมกิโลกรัมละ 200 บาท ขยับขึ้นอีกกิโลกรัมละ 20 บาทเป็นกิโลกรัมละ 220 บาท ส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้าเขียงหมู ที่อยู่ในตลาดสดเทศบาลเมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ มียอดจำหน่ายลดลงกว่าเดิมอีก ถึงแม้จะแบ่งขายเป็นจาน/ละ 100 บาท แล้วก็ตาม ซึ่งทั้งวันบรรยากาศการจำหน่ายเนื้อหมูเงียบเหงาบางตา นอกจากนี้ยังกระทบกับพ่อค้าแม่ค้ารายเล็กรายย่อย ที่จำหน่ายอะไหล่หมู ประเภท หัวหมู ขาหมู ต่างได้รับผลกระทบปิดร้านเป็นการชั่วคราว หยุดขายจนกว่าราคาหมูจะต่ำลงกว่านี้ และเหลือเขียงหมูที่ยังจำหน่ายอยู่ในตลาดสด เพียง 2 ร้าน คือ ร้านเขียงหมูเจ๊เหล่ย และร้านเขียงหมูเจ๊กบ เท่านั้น
ส่วนราคาหมูเนื้อแดงวันนี้ 220 บาท/กก., สันคอ 220 บาท/กก., หมูบด 220 บาท/กก., สามชั้น 220 บาท/กก., ซี่โครง 220 บาท/กก., ใส้กรอก-กุนเซียง 220 บาท/กก., เครื่องในดี 200 บาท/กก. ส่วนราคาหมูหน้าฟาร์มกิโลกรัมละ 115 บาท
อย่างไรก็ตาม สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ โดย นางสาวเอื้อนจิตร ช่วยนก สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ได้ร่วมกับผู้ประกอบการเขียงหมู ร้านเขียงหมูเจ๊เหล่ย และร้านเขียงหมูเจ๊กบ ในตลาดสดเทศบาลเมืองบึงกาฬ เปิดจำหน่าย หมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน ราคาถูก 150 บาท/กิโลกรัม ทั้ง 2 ร้าน ร้านละ 40 กิโลกรัมต่อวัน กำหนด 1 กิโลกรัมต่อคนเท่านั้น ในเวลา 10.00 น. ของทุกวันจนกว่าหมูจะหมดตามกำหนด ซึ่งก็มีประชาชนทยอยมาซื้อแบบบางตาเช่นกัน
ทั้งนี้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ ได้ร่วมกับ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ออกตรวจติดตามจุดจำหน่ายที่เข้าร่วมโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน โดยจำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคา 150 บาท/ก.ก. ซึ่งเริ่มจำหน่ายมาตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม และจะจำหน่ายไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 และตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่สำคัญ ณ ตลาดสดเทศบาลเมืองบึงกาฬ/ห้างค้าปลีก-ค้าส่ง (แม็คโคร,เทสโก้โลตัส)/ร้านค้าทั่วไป พบว่า ราคาสินค้าบางชนิดปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย เช่น หมูสด ไก่สด และไข่ไก่ ทั้งนี้สำนักงานฯ ได้ขอให้ผู้ประกอบการช่วยตรึงราคาสินค้าไม่ให้สูงเกินไป เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคได้มีทางเลือกในการซื้อสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพต่อไป ทั้งนี้ หากพบเห็นความไม่เป็นธรรมทางการค้า สามารถแจ้งได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ 042 492 528 หรือสายด่วน 1569
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","19/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","บึงกาฬ","สวท.บึงกาฬ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119110347807"], [474,"พาณิชย์ลำพูน ร่วมหารือผู้ประกอบการรับซื้อลำไยนอกฤดู ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา และช่วยเหลือด้านผลผลิตลำไย","สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำพูน ออกติดตามสถานการณ์การผลิต การตลาดลำไย (นอกฤดู) ในช่วงเทศกาลตรุษจีนในพื้นที่จังหวัดลำพูนอย่างใกล้ชิด พบสถานการณ์การผลิตลำไยจังหวัดลำพูน มีเนื้อที่ยืนต้น 351,167 ไร่ เนื้อที่ให้ผล 325,972 ไร่ คาดการณ์ปริมาณผลผลิตรวม 335,948 ตัน ลำไยนอกฤดูผลผลิต 107,926 ตัน ลดลง 3,755 ตัน (-3.48%) สถานการณ์การตลาด ผู้ประกอบการในพื้นที่มีการรับซื้อผลผลิตลำไยตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นมา ผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากในช่วงปลายเดือนมกราคม เนื่องจากเกษตรมีเป้าหมายที่จะจำหน่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีน (1 กุมภาพันธ์ 2565) ผู้ประกอบการในพื้นที่ยังมีการเปิดรับซื้อผลผลิตลำไยไม่จำกัดปริมาณ แต่ปริมาณลำไยที่ออกสู่ตลาดในช่วงนี้ยังไม่มากนัก โดยราคาลำไยจังหวัดลำพูน ณ วันที่ 17 มกราคม 2565 มีดังนี้
1) ลำไยสดช่อ (มัดปุ๊ก) เกรด AA+A ราคา 20-25 บาท เกรด A+B ราคา 13-20 บาท เกรด B+C ราคา 7-13 บาท
2) ลำไยสดช่อ (ตะกร้าขาว) เกรดจีน ทอง 35 บาท แดง 30 บาท น้ำเงิน 25 บาท เขียว 20 บาท
3) ลำไยสดรูดร่วง เกรด AA ราคา 9-10 บาท เกรด A ราคา 5-6 บาท เกรด B ราคา 2-3 บาท และเกรด C ราคา 0.50-1 บาท
4) ลำไยอบแห้งเนื้อสีทอง เกรด AAA 220 บาท เกรด AA 180 บาท เกรด A 150 บาท
ทั้งนี้ได้เข้าหารือกับนายกฤษฎา ปูแดง นายกสมาคมการค้าผู้ประกอบการผลไม้ไทยภาคเหนือ นายทวีศักดิ์ ไชยเสน/นายมาโนช ไชสุวรรณ ผู้ประกอบการส่งออก และตัวแทนเกษตรกร เพื่อติดตามสถานการณ์การรับซื้อลำไยนอกฤดูในพื้นที่จังหวัดลำพูน พบว่าราคาลำไยสดเพื่อส่งออกปรับตัวลดลงจากต้นมกราคม (เกรด AA+A)5 บาท/กก. (เดิม 33-36 บาท/กก. เหลือ 28 -30 บาท/กก.) เนื่องจากผู้ประกอบการไม่มั่นใจในสถานการณ์การส่งออกและด่านประเทศจีนจะปิดในช่วงวันที่ 1-6 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งระยะเวลาการขนส่งทางบกไปยังประเทศจีนประมาณ 3-6 วัน หากการขนส่งตู้สินค้าล่าช้าจะทำให้สินค้าไม่สามารถผ่านแดนได้ทันในช่วงเวลาดังกล่าว ในเดือนมกราคม 2565 อีกทั้งปริมาณความต้องการบริโภคลำไยสดภายในประเทศลดลง ประมาณร้อยละ 30 ด้านราคาลำไยรูดร่วงปรับตัวลดลง เนื่องจากผู้ประกอบการยังมีปริมาณสต๊อกลำไยอบแห้ง(ลำไยในฤดู) และยังไม่มีคำสั่งซื้อจากประเทศปลายทางทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถรับภาระความเสี่ยงในการจัดเก็บสต๊อกเพิ่มจึงลดปริมาณการอบแห้งลง อีกทั้งปัญหาที่ได้พบของผู้ประกอบการรับซื้อ คือ ปัญหาคุณภาพลำไยนอกฤดู ผิวไม่สวย ผิวแตก เนื่องจากผลกระทบจากสภาพอากาศ ประสบปัญหาขาดตู้ขนส่งสินค้า เรือขนส่ง และการเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าโดยเฉพาะเชื้อโควิด-19 ของประเทศปลายทาง
ด้านสำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำพูน ได้หารือและมีแนวทางการแก้ไข และช่วยเหลือผลผลิตลำไยนอกฤดู ดังนี้
1.วันที่ 12 มกราคม 2565 นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ติดตามความคืบหน้าด้านต่างๆ ได้แก่ การบริหารจัดการผลไม้ของภาคเหนือ ฤดูกาลผลิตปี 2565 (ลำไย) ณ ห้องประชุมสำนักงานเกษตรจังหวัดลำพูน แนวทางการบริหารจัดการผลไม้ภาคเหนือ โดยภาคีเครือข่ายภาครัฐและภาคเอกชน โดยได้รับทราบและหารือประเด็นปัญหาที่เกิดในสถานการณ์การค้าลำไยในจังหวัดพูน ได้แก่ ราคาตกต่ำ ปัญหาการขนส่ง และการเข้มงวดในการขนส่งสินค้าประเทศปลายทาง โดยมอบหมายให้จังหวัดจัดตั้งคณะกรรมการบริหารลำไยแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งคณะกรรมการและประชุมกำหนดแนวทางการดำเนินการบริหารจัดการต่อไป
2. เซลล์แมนจังหวัดดำเนินการส่งเสริมสนับสนุนการจำหน่ายลำไยเข้าสู่ตลาดเพื่อบริโภคสด ได้แก่ กิจกรรมเพิ่มช่องทางการจำหน่ายลำไย ผ่านช่องทางออนไลน์ เชื่อมโยงกระจายลำไยผ่านเครือข่ายสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ โดยได้เชื่อมโยงให้กับกลุ่มเกษตรกรส่งลำไยไปจำหน่ายในตลาดปลายทาง และประสานจังหวัดที่ไม่ใช่แหล่งผลิตลำไยในพื้นที่จังหวัดภาคกลาง เพื่อเชื่อมโยงการจำหน่ายผลผลิต เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้แก่เกษตรกร เช่น ห้างสรรพสินค้า ห้างท้องถิ่น นิคมอุตสาหกรรม ฯลฯ เช่น เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 จัดส่งลำไยนอกฤดูไปจำหน่ายจังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดนครปฐม ปริมาณ 3 ตัน
3. เกษตรกรในพื้นที่ต้องการให้ภาครัฐประกันรายได้ไม้ผล (ลำไย) และเงินเยียวยาผลผลิตลำไย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
นางสาวฉัตร์สุดา ชุมแสง พาณิชย์จังหวัดสงขลา กล่าวว่า กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ขอความร่วมมือห้างค้าปลีกค้าส่ง โมเดิร์นเทรดและร้านค้าปลีกค้าส่ง ผู้ค้า ทุกจังหวัดร่วมกันจำหน่ายไก่มีชีวิตและเนื้อไก่สดเพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพแก่ผู้บริโภค เป็นระยะเวลา 6 เดือนโดยกำหนดราคา ดังนี้
-ไก่มีชีวิตหน้าฟาร์ม กก.ละ 33.50 บาท
-ไก่สดรวม/ไม่รวมเครื่องใน (ปลีก) กก.ละ 60-65 บาท
-น่องติดสะโพก/น่อง/สะโพก (ปลีก) กก.ละ 60-65 บาท
-เนื้ออกไก่ (ปลีก) กก.ละ 65-70 บาท
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสงขลา จึงขอความร่วมมือฟาร์มไก่ โมเดิร์นเทรด พ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่จังหวัดสงขลา ขายปลีกไก่มีชีวิต เนื้อไก่ ตามราคาแนะนำและขอให้ปิดป้ายแสดงราคาให้เห็นชัดเจนและห้ามกักตุนหรือฉวยโอกาสจำหน่ายในราคาที่ไม่เป็นธรรม หากผู้ประกอบการรายใดฝ่าฝืน จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ไม่ปิดป้ายแสดงราคา (มาตรา 28) ประกอบกับมาตรา 40 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร (มาตรา 29) ประกอบกับ มาตรา 41 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับหากพบเห็นพฤติกรรมเอาเปรียบผู้บริโภคด้านราคา แจ้งสายด่วน 1569 หรือ 074312077
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","19/1/2022","ภาคใต้","สงขลา","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119110355808"], [476,"สุพรรณบุรี ยังไม่พบการปรับขึ้นราคาน้ำอัดลม ตามที่ปรากฏเป็นข่าว ว่าจะมีการปรับราคาในช่วงปลายเดือนมกราคมนี้","
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมกับ กอ.รมน.สุพรรณบุรี และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุพรรณบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบ กรณีตามที่มีข่าวนำเสนอว่า ผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ค้า ร้านขายปลีก แจ้งว่าผู้แทนจำหน่ายหรือตัวแทนค้าส่ง จะมีการปรับราคาจำหน่ายน้ำอัดลมประมาณ 2 บาทต่อขวดในขนาด 300 ซีซี ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2565 โดยได้ตรวจสอบ ต้นทางการค้าส่ง ตัวแทนค้าส่งจำหน่ายสาขาของบริษัทผู้ผลิตค้าส่ง ดังนี้
1. บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน ) อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับการยืนยันจากผู้จัดการฝ่ายการขายว่าในช่วงนี้ยังไม่มีการปรับราคาแต่อย่างใด
2. บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับคำชี้แจงจากพนักงานว่าผู้จัดการฝ่ายการขายยังไม่มีนโยบายปรับราคาน้ำอัดลมในห้วงนี้ และทางบริษัทมิได้ผลิตน้ำอัดลมขนาด 300 มิลลิลิตร มีเพียงขนาด 422 มิลลิลิตรเท่านั้น ซึ่งมีการปรับราคาไปเมื่อเมื่อเดือนมีนาคม 2563
3. ร้านตั้งฮั้วไรซ์ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี จากการตรวจสอบพบว่า ราคาน้ำอัดลม ยี่ห้อต่าง ๆ ในขนาด 300 ซีซี และใกล้เคียง ยังคงมีราคาขายปลีกที่ขวดละ 10 บาท โดยทางร้านตั้งฮั้วไรซ์ แจ้งว่าตั้งแต่ต้นปี 2564 จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการปรับราคาขายสินค้าดังกล่าวแต่อย่างใดและทางบริษัทผู้ผลิตและผู้ส่งยังไม่ได้แจ้งการปรับขึ้นราคาในช่วงปลายเดือนมกราคมนี้ดังที่ปรากฏเป็นข่าว มีเพียงการปรับราคาโค้กขวดแก้ว 422 ซีซีจากราคา 179 บาทต่อลัง (24 ขวด) ปรับเพิ่มเป็น 200 บาทต่อลัง (24 ขวด)
สรุปได้ว่า จากการตรวจสอบบริษัทผู้ผลิตและผู้ส่ง ซึ่งเป็นต้นทางของราคาสินค้า และจากการตรวจสอบร้านค้าขายส่งยังมิได้มีการปรับราคาขายส่งในช่วงปลายเดือนมกราคม 2565 ซึ่งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุพรรณบุรี กอ.รมน.สุพรรณบุรี และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุพรรณบุรีจะได้ร่วมกันตรวจสอบผู้ประกอบการรายอื่นๆ ต่อไป
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","19/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","สุพรรณบุรี","สวท.สุพรรณบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119105716806"], [477,"ผวจ.ยโสธร เยี่ยมจุดจำหน่าย หมูพาณิชย์ ลดราคาช่วยประชาชน พร้อมเชิญชวนชาวยโสธร ซื้อเนื้อหมู กก.ละ 150.-บาท ใน 7 จุดขายพื้นที่ อ.เมือง,กุดชุม,เลิงนกทาและป่าติ้ว","วันที่ (18 ม.ค.65) นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมด้วยนางพัทธานันท์ ยังตรง ประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดยโสธร พร้อมสมาชิกชมรมฯ ร่วมเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประกอบการร้านจำหน่ายเนื้อหมู ตามโครงการ หมูพาณิชย์ ลดราคาช่วยประชาชน โดยมีพาณิชย์จังหวัดยโสธร ปศุสัตว์จังหวัดยโสธร เจ้าหน้าที่สำนักงานสาขาช่างตวงวัด เขต 2-3 ร้อยเอ็ด ร่วมเยี่ยมชมและให้กำลังใจผู้ประกอบการจำหน่ายเนื้อหมูที่ร้านแฮปปีมาร์ท ซึ่งเปิดดำเนินการที่เลขที่ 32 ถนนวิทยะธำรงค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองยโสธร
พร้อมนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ได้เชิญชวนประชาชนซื้อเนื้อหมูราคาประหยัด ซึ่งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดยโสธร จัดโครงการ หมูพาณิชย์ ลดราคาช่วยประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าครองชีพ โดยเปิดจำหน่ายเนื้อหมูใน 7 จุด จำหน่ายจุดละ 50-100 กิโลกรัมต่อวัน ในราคากิโลกรัมละ 150.-บาท ตามร้านค้าใน 4 อำเภอ โดยอำเภอเมืองยโสธร จำหน่าย 4 จุด ส่วนอำเภอกุดชุม /อำเภอเลิงนกทา และอำภอป่าติ้ว อำเภอละ 1 จุด
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","19/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ยโสธร","สวท.ยโสธร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119111651815"], [478,"จังหวัดสุราษฎร์ธานีจัดตลาดนัดชุมชนสินค้าราคาย่อมเยา ช่วยลดค่าครองชีพประชาชนช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จำหน่ายหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท","นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประสานความร่วมมือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พาณิชย์จังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด เกษตรและสหกรณ์จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน กำหนดจัดตลาดนัดชุมชนสินค้าราคาถูกลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ในช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ 21 มกราคม 2565 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภค ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และผลกระทบจากราคาเนื้อหมูปรับสูงขึ้น โดยจัดให้มีการจำหน่ายหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท ผัก ผลไม้ รวมทั้งสินค้าอื่นๆ ในราคาย่อมเยา เช่น น้ำมันพืช ซอสปรุงรส ไข่ไก่ ไข่เค็ม กุนเชียง สินค้า OTOP และอาหารสดแช่แข็ง เป็นต้น
นายวิชวุทย์ จินโต กล่าวด้วยว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานียังมีจุดจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูก จำนวน 6 จุด ระหว่างวันที่ 16-31 มกราคม 2565 ได้แก่ 1.ร้านหมูวิทยา คงหวาน เลขที่ 92/3 ถนนตลาดใหม่ 2.ร้านวัฒนาฟาร์มฟู๊ด เลขที่ 95 ถนนศรีเวียง อำเภอบ้านนาสาร 3.ร้านเอ-วิน หมูสด ถนนตลาดล่าง ตำบลบางกุ้ง 4.ร้านข้าวหอม-ข้าวฟ่าง หมูสด เลขที่ 84-12 ถนนตลาดล่าง ตำบลบางกุ้ง 5.ร้านณีหมูคุณภาพ เลขที่ 103/627 หมู่ที่ 3 ตำบลมะขามเตี้ย และ 6.ร้านยกครัว เลขที่ 30-6 หมู่ที่ 6 ตำบลคลองน้อย อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภค ที่ได้รับผลกระทบจากราคาเนื้อหมูในท้องตลาดปรับสูงขึ้น
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","19/1/2022","ภาคใต้","สุราษฎร์ธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119115945856"], [479,"ผวจ.สุโขทัย ตรวจติดตามราคาสินค้า และมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี","ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ลงพื้นที่ตรวจติดตามราคาสินค้า และมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ตลาดสดในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี พร้อมแนะพ่อค้าแม่ค้าจำหน่ายสินค้าในราคายุติธรรม ติดป้ายราคาสินค้าอย่างชัดเจน และส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น
นายวิรุฬ พรรณเทวี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุโขทัย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุโขทัย และสำนักงานเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ลงพื้นตลาดสดภายในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี เพื่อตรวจติดตามราคาสินค้า โดยเฉพาะเนื้อสุกรชำแหละที่มีราคาสูงขึ้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้บริโภค ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ กล่าวว่า ในช่วงนี้ราคาจำหน่ายสุกรชำแหละมีราคาสูงขึ้น พ่อค้าแม่ค้าได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน เนื่องจากจำนวนคนซื้อลดลง ส่งผลให้รายได้จากจำหน่ายลดลงจากเดิมประมาณร้อยละ 50 จึงจำเป็นต้องลดปริมาณการจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละลงจากเดิม
นายวิรุฬ พรรณเทวี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย กล่าวขอความร่วมมือพ่อค้าแม่ค้าให้จำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละในราคาราคายุติธรรม และติดป้ายราคาสินค้าอย่างชัดเจน พร้อมเน้นย้ำให้พ่อค้าแม่ค้า และผู้บริโภค ต้องดำเนินการตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ นอกจากนี้ จะส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยว เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดสุโขทัยให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดสุโขทัยให้ดีขึ้น
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","19/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","สุโขทัย","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุโขทัย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119115134850"], [480,"ประชาชน จ.ลำปาง จำนวนมาก ให้ความสนใจซื้อหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท ด้านพาณิชย์จังหวัดลงพื้นที่ติดตามโครงการฯ พร้อมตรวจสอบราคาสินค้าอุปโภค-บริโภค","นางสาวเยาวเรศ แซ่โค้ว พาณิชย์จังหวัดลำปาง มอบหมายให้นางรัชดาวัลย์ ขันเฉียง หัวหน้ากลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับฯ ลงพื้นที่ตรวจติดตามการจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละตามโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน จำหน่ายเนื้อแดงราคากิโลกรัมละ 150 บาท ณ ร้านหมูอนามัย เอส เค เอฟ สาขาลำปาง และร้านหมูอินเตอร์ สาขาน้ำโท้ง อ.เมืองลำปาง พบว่าประชาชนให้ความสนใจซื้อเป็นจำนวนมาก เนื่องจากราคาถูกกว่าราคาตลาดทั่วไป และช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี
จังหวัดลำปาง มีผู้ประกอบการเข้าร่วม \"โครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน\" จำหน่าย เนื้อแดงราคากิโลกรัมละ 150 บาท จำนวน 2 ราย จุดจำหน่าย 7 แห่ง ระหว่างวันที่ 13 - 31 มกราคม 2565 ประกอบด้วย บริษัท เอสเค อินเตอร์ฟู้ด จำกัด จำนวน 2 สาขาได้แก่ ร้านหมูอนามัย เอสเคอินเตอร์ฟู๊ด สาขาลำปาง และร้านหมูอนามัย เอสเคอินเตอร์ฟู๊ด สาขาเถิน โดยจุดจำหน่ายทั้ง 2 จุด จะจำหน่ายหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ150บาท ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป จำกัดคนละไม่เกิน 2 กิโลกรัม และบริษัท หมูอินเตอร์กรุ๊ป จำกัด จำนวน 5 สาขา ได้แก่ ร้านหมูอินเตอร์ สาขาตลาดต้นยาง, ร้านหมูอินเตอร์ สาขาน้ำโท้ง, ร้านหมูอินเตอร์ สาขาเกาะคา, ร้านหมูอินเตอร์ สาขาแม่เมาะ และร้านหมูอินเตอร์ สาขาล้อมแรด
โดยจุดจำหน่ายทั้ง 5 จุด จำหน่ายตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป โดยผู้ซื้อจะได้รับคูปองเพื่อนำไปเป็นส่วนลดในการซื้อหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท คูปอง 1 ท่านต่อ 1 สิทธิ์ต่อวันนอกจากนี้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำปาง ได้ตรวจสอบราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ ที่ตลาดหนองกระทิง อาทิ ข้าวสารเหนียว กข.6 ราคากิโลกรัมละ 30 บาท, ข้าวเหนียวสันป่าตอง ราคากิโลกรัมละ 25 บาท, ข้าวหอมมะลิ ราคากิโลกรัมละ 30-40 บาท ผู้ประกอบการแจ้งว่ามีการปรับราคาข้าวขึ้นกระสอบละ 100 200 บาท (กระสอบ 45 กก.) ส่วนผักสดราคาเปลี่ยนแปลงตามปริมาณผักที่เข้าสู่ตลาด ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าสินค้ามีปริมาณเพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค เจ้าหน้าที่ได้กำชับให้ผู้ประกอบการติดป้ายแสดงราคาให้ผู้บริโภคเห็นชัดเจน รวมถึงเน้นย้ำมิให้ผู้ประกอบการกักตุนและฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า
","19/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สวท.ลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119120358858"], [481,"พาณิชย์จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงพื้นที่ติดตามการดำเนิน โครงการหมูพาณิชย์... ลดราคา ช่วยประชาชน (ครั้งที่ 3) จุดจำหน่าย 7 จุด จนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2565","นางเอกอนงค์ บัวมาศ พาณิชย์จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงพื้นที่ติดตามการดำเนิน โครงการหมูพาณิชย์... ลดราคา ช่วยประชาชน (ครั้งที่ 3) จำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ตั้งแต่วันที่ 16 - 31 มกราคม 2565 เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน จากภาวะราคาเนื้อหมูที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีจุดจำหน่าย 7 จุด ดังนี้
1. เขียงหมูดีเวอร์ สาขาท่าโพธิ์ บริเวณข้างกำแพงวัดท่าโพธิ์ อำเภอเมือง
2. เขียงหมูดีเวอร์ สาขาถนนนครศรี-ปากพนัง ตรงข้ามไทวัสดุ อำเภอเมือง
3. เขียงหมูดีเวอร์ สาขาหน้า องค์การบริหารส่วนตำบลปากนคร อำเภอเมือง
4. ร้านมงคลฟาร์ม ตลาดจันดี อำเภอฉวาง
5. เขียงหมูดีเวอร์ สาขาโรงเรียนพานิชย์ทุ่งสง อำเภอทุ่งสง
6. ร้านโกเอฟ หมูสด ตลาดนาโพธิ์ อำเภอทุ่งสง
7. เขียงหมูดีเวอร์ สาขาดอนตรอ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ
ทั้ง 7 จุดจำหน่าย ได้มีการปิดป้ายแสดงราคาให้ประชาชนได้เปรียบเทียบก่อนตัดสินใจซื้ออย่างชัดเจนเป็นไปตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","19/1/2022","ภาคใต้","นครศรีธรรมราช","สวท.นครศรีธรรมราช","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119120134857"], [482,"กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เดินหน้ารักษามาตรฐานร้านอาหารไทย \"Thai SELECT\" สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคชาวไทยและต่างชาติ และเตรียมเปิดรับสมัครร้านอาหารไทยเข้ารับการประเมินเพื่อรับตราสัญลักษณ์Thai SELECT ประมาณต้นเดือนมีนาคม 2565","นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา ว่า ร้านอาหารเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดฯ ทั้งการปิดร้าน การเปิด-ปิดร้านตามช่วงเวลาที่กำหนด และการจำกัดผู้เข้ารับการบริการ ซึ่งผู้ประกอบการต้องมีการปรับแผนธุรกิจเพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ถึงแม้ว่า รูปแบบธุรกิจร้านอาหารจะมีการปรับตัวขนานใหญ่ ธุรกิจร้านอาหารไทยยังคงเดินหน้าสร้างและรักษามาตรฐานร้านอาหารไทยภายใต้ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังมีการสร้างมาตรฐาน การพัฒนาองค์ความรู้ด้านต่างๆ ที่มีความจำเป็นแก่ผู้ประกอบการร้านอาหาร อาทิ การยกระดับคุณภาพงานบริการ การบริหารจัดการธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม การขยายตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ / การจัดทำเคมเปญส่งเสริมการขายและประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร Thai SELECT ผ่านสื่อประเภทต่างๆ ผ่านช่องทางแพลตฟอร์มออนไลน์ / จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายการทำโปรโมชั่นส่วนลดสนับสนุนร้านอาหาร เป็นต้น
ทั้งนี้ ในปี 2565 กระทรวงพาณิชย์เตรียมเปิดรับสมัครร้านอาหารไทยทั่วประเทศเข้ารับการประเมินเพื่อรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ประมาณเดือนมีนาคม โดยมีคุณสมบัติเบื้องต้นอาทิ เปิดให้บริการมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน รองรับลูกค้าพร้อมกันได้ไม่ต่ำกว่า 30 ที่นั่ง และมีรายการอาหารไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ80 โดยร้านอาหารไทยในประเทศที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT แล้ว จะมีอายุการใช้ตราสัญลักษณ์เป็นเวลา 3 ปี และสามารถสมัครต่ออายุตราสัญลักษณ์ได้อีกคราวละ 3 ปี โดยหากร้านอาหารมีมากกว่า 1 สาขา แต่ละสาขาต้องแยกยื่นขอเข้ารับการประเมินเพื่อรับตราสัญลักษณ์ฯ
","19/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119131754885"], [483,"รองผู้ว่าฯ อยุธยา ตรวจเยี่ยมจุดบริการ พาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ประชาชนยิ้มได้รับคูปองซื้อหมู ลด 35 บาทกิโลกรัม","ช่วงเช้าวันนี้ (19 มกราคม 2565) ที่ตลาดเจ้าพรหม ต.หอรัตนไตย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นางสรัลพัชร ประโมทะกะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นางกาญจนา ชมมี พาณิชย์จังหวัด นางพิศมัย เลิศอิทธิบาท ประชาสัมพันธ์จังหวัด และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดบริการ พาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งตรวจสอบราคาการจำหน่ายสินค้าควบคุมภายในตลาดเจ้าพรหม
นางสรัลพัชร ประโมทะกะ กล่าวว่า ปัจจุบันราคาเนื้อหมูสูงขึ้น ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพแก้ปัญหาหมูราคาแพง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดย นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงร่วมกับพาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดจุดให้บริการ พาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน หมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 150 บาท เพื่อเป็นมาตรการเสริมและเป็นทางเลือกให้กับประชาชนผู้บริโภค ในเบื้องต้นได้จัดจุดบริการไว้ 2 จุด ได้แก่ อำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา ที่บริเวณตลาดเจ้าพรหม โดยมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการ จำนวน 5 ร้าน และที่อำเภอเสนา บริเวณตลาดบ้านแพน จำนวน 2 ร้าน ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนสามารถมาแลกคูปอง 1 สิทธิ์ต่อ 1 คน เพื่อเป็นการชดเชยค่าราคาหมู ก่อนนำไปซื้อหมูที่ร้านเข้าโครงการสังเกตได้จากป้ายธงฟ้า และ \"พาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคไม่ให้ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน
นางกาญจนา ชมมี กล่าวว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้จัดกิจกรรมโครงการ \"พาณิชย์ลดราคา...ช่ายประชาชน\" จำหน่ายหมูเนื้อแดงราคาถูกกิโลกรัมละ 150 บาท ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยตั้งจุดลงทะเบียนเพื่อรับคูปองส่วนลด คูปองละ 35 บาท ตั้งแต่เวลา 08.00-10.00 น. โดยให้ประชาชนเตรียมเลขบัตรประชาชนมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ จะได้รับคูปองส่วนลด (1 คน ต่อ 1 สิทธิ ต่อ 1 กิโลกรัม) จากนั้นให้นำคูปองไปซื้อสินค้ากับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ \"หมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ซึ่งร้านที่ร่วมโครงการจะติดป้ายธงฟ้าช่วยประชาชน และได้กำหนดจุดจำหน่าย 2 อำเภอ รวม 7 ร้าน ได้แก่ (1) ร้านเจ๊เอ๋หมูสด สาขาตลาดเจ้าพรหม (2) ร้านเจ๊แนนหมูสด สาขาตลาดเจ้าพรหม (3) ร้านเจ๊นุ้ยหมูสด สาขาตลาดเจ้าพรหม (4) ร้านสุรินทร์ (5) ร้านเจ๊แหวงหมูสด สาขาตลาดเจ้าพรหม (6) ร้านบัดดี้เชพ สาขาอำเภอเสนา (7) ร้านแฮปปี้ ฟาร์ม สาขาอำเภอเสนา โดยตลาดเจ้าพรหม เปิดให้บริการในวันจันทร์-พุธ-ศุกร์ และตลาดบ้านแพน จะเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2565
ข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เว็บไซต์ : https://ayutthaya.prd.go.th/
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","19/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","พระนครศรีอยุธยา","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119125422875"], [484,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง คุมเข้มตรวจสอบติดตามสถานการณ์สินค้าในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่อำเภอเมืองตรัง","นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ออกตรวจสอบติดตามสถานการณ์จำหน่ายหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ชุดตรวจโควิด-19 และสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง พบว่าสถานการณ์การค้า จังหวัดตรังมีสมุนไพรฟ้าทะลายโจรและหน้ากากทางการแพทย์วางจำหน่ายทุกร้าน ส่วนหน้ากากทางเลือก อาทิ หน้ากากกันฝุ่นทั่วไป หน้ากากเพื่อสุขภาพ หน้ากากผ้า เจลแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และถุงมือ สินค้ามีปริมาณเพียงพอกับความต้องการ
สำหรับสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ราคาจำหน่ายสินค้าที่สำคัญ อาทิ น้ำมัน น้ำตาล น้ำปลา ซอสหอยนางรม ปลากระป๋อง ข้าวหอมมะลิ สถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพที่สำคัญ ๆ มีการจำหน่ายเป็นไปตามภาวะปกติ ปริมาณมีความเพียงพอกับความต้องการของประชาชน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย ให้ครบถ้วน ชัดเจน และหากพบเห็นการกระทำผิด จำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร หรือจำหน่ายในราคาไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ สามารถร้องเรียนได้ที่ สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง โทร. 0 75-223076 หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการ ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่ายต้องโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","19/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119125852878"], [485,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ตรวจติดตามโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน จังหวัดตรัง (ครั้งที่ 3)","นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง มอบหมายเจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ติดตามการดำเนินโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน จังหวัดตรัง (ครั้งที่ 3) ตามนโยบายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาสุกรที่สูงขึ้นและให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด โดยจำหน่ายหมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 150 บาท ซึ่งเป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภค ในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 และราคาเนื้อสุกรปรับตัวสูงขึ้น
สำหรับพื้นที่จังหวัดตรัง มีจุดจำหน่ายจำนวนรวม 12 จุด ได้แก่ 1. ร้านหมูสด แยกวัดตัน ต.ทับเที่ยง 2. ร้านน้องดิว หน้าสวนสาธารณะนาหมื่นราษฎร์ ต.โคกหล่อ 3.ร้านเจี๊ยบหมูสด (ข้างร้านอาหารโกแป้ เจ๊บี) ต.นาตาล่วง 4.ร้านชายสี่หมูสด ตลาดคลองมวน ต.หนองปรือ 5.ร้านน้องทิพย์ค้าหมู หมู่ 8 ต.เขากอบ 6.ร้านบ้านหมูตวงตังค์ (บริเวณทางเข้าวัดเขาไม้แก้ว) ต.เขาไม้แก้ว 7. ร้านหมูสด สด (ตรงข้ามโรงเรียนบ้านวังลำ) ต.วังคีรี 8. ช้อปเบทาโกร สาขาเมืองตรัง 9. ช้อปเบทาโกร สาขาห้วยยอด 10.ร้านเจ๊อ้อยป่ายาง (ตรงข้ามร้านรับซื้อของเก่ายอดเพชร) ต.นาโยงเหนือ 11. ร้านสุนิษา (ข้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.นาโยงเหนือ) ต.นาโยงเหนือ 12. ร้านสาวหมูสด (ตรงข้ามโรงเรียนวังวิเศษ) ต.เขาวิเศษ โดยดำเนินโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 14 - 31 มกราคม 2565 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ผู้ประกอบการได้ปิดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน หากผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรมทางการค้าหรือได้รับความเดือดร้อนจากการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและบริการ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร สามารถร้องเรียนได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง โทร 075-223076 หรือสายด่วน 1569
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","19/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119130826880"], [486,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ราคาไข่ไก่ ณ ตลาดสดเทศบาลนครตรัง ตลาดนาโยง ตลาดย่านตาขาว และห้างแม็คโคร สาขาตรัง","
นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ราคาไข่ไก่ ณ ตลาดสดเทศบาลนครตรัง ตลาดนาโยง ตลาดย่านตาขาว และห้างแม็คโคร สาขาตรัง พบว่า ราคาขายปลีกไข่ไก่ เบอร์ 3 ตลาดสดเทศบาลนครตรัง แผงละ 108 บาท ตลาดนาโยง แผงละ 102 บาท ตลาดย่านตาขาว แผงละ 102 บาท และห้างแม็คโคร สาขาตรัง แผงละ 99 บาท ไม่จำกัดจำนวน
ทั้งนี้ หากผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรมทางการค้าหรือได้รับความเดือดร้อนจากการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและบริการ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร สามารถร้องเรียนได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง โทร 075-223076 หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง หมายเลขโทรศัพท์ 075-217144
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","19/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119131835886"], [487,"จังหวัดแพร่มอบให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแพร่ นำโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ลงพื้นที่ช่วยประชาชน พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึงราคาจำหน่ายสุกรเนื้อไก่และไข่ไก่","นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวว่า จากสถานการณ์ราคาสุกรที่เพิ่มสูงขึ้น และมีการคาดการณ์ว่าจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากการลดปริมาณการเลี้ยงหมูในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ปัญหาโรคระบาดในสุกรที่กระจายเป็นวงกว้าง ทำให้จำเป็นต้องกำจัดสุกรที่มีความเสี่ยงจำนวนมากเพื่อควบคุมโรคและทำให้ปริมาณสุกรขาดตลาดมากยิ่งขึ้น
ทางกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดทำโครงการหมูพาณิชย์ ...ลดราคา! ช่วยประชาชน โดยให้จำหน่ายสุกรเนื้อแดง กิโลกรัมละ 150 บาท และได้ประชุมหารือร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยภาคกลาง สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้ สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ลุ่มน้ำน้อย ผู้ผลิตรายใหญ่ กรมปศุสัตว์ และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เพื่อตรึงราคาไข่ไก่ ไก่มีชีวิต และเนื้อไก่สด เพื่อลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภคในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 และที่ได้รับผลกระทบจากราคาเนื้อสุกรปรับตัวสูงขึ้น
โดยได้สั่งการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรวจสอบและติดตามการจำหน่ายอย่างใกล้ชิด ซึ่งการจัดจำหน่ายสุกรเนื้อแดง ภายใต้โครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ! ช่วยประชาชน จำนวน 3 ครั้ง ดำเนินการไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 16-31 มกราคม 2565 ขอความร่วมมือร้านค้า จัดจำหน่ายหมูเนื้อแดงในพื้นที่จังหวัดแพร่ในราคาไม่เกินกิโลกรัมละ 150 บาท ครอบคลุม 8 อำเภอ จำนวน 9 จุด จุดละไม่เกิน 50 กิโลกรัม/วัน
โดยจุดที่ 1 ร้านเขียงหมูน้ำทองฟาร์ม ถนนเหมืองหิต ตำบลในเวียง อำเภอเมืองแพร่
จุดที่ 2 หมูอินเตอร์สาขาชมภูมิ่ง ถนนช่อแฮ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองแพร่
จุดที่ 3 หมูอินเตอร์สาขาลอง ตำบลห้วยอ้อ อำเภอลอง
จุดที่ 4 หมูอินเตอร์สาขาร้องกวาง ตำบลร้องกวาง อำเภอร้องกวาง
จุดที่ 5 อินเตอร์สาขาวังชิ้น ตำบลวังชิ้น อำเภอวังชิ้น
จุดที่ 6 ร้านทอฝันหมูสดแพร่สาขาสูงเม่น ตำบลพระหลวง อำเภอสูงเม่น
จุดที่ 7 ร้านทอฝันหมูสดแพร่สาขาหนองม่วงไข่ ตำบลหนองม่วงไข่ อำเภอหนองม่วงไข
จุดที่ 8 ร้านทอฝันหมูสดแพร่สาขาเด่นชัย ตำบลเด่นชัย อำเภอเด่นชัย
จุดที่ 9 ร้านทอฝันหมูสดสอง ตำบลบ้านกลาง อำเภอสอง
นอกจากนี้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแพร่ยังได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายและขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึงราคาจำหน่ายสุกรเนื้อไก่และไข่ไก่อย่างใกล้ชิดเป็นประจำทุกวัน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","19/1/2022","ภาคเหนือ","แพร่","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119141049913"], [488,"พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับภาคเอกชน ประชุมคณะทำงานด้านการตลาดระดับจังหวัด (เซลล์แมนจังหวัด) จังหวัดเพชรบุรี ขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจการค้าการตลาด","พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับภาคเอกชน ประชุมคณะทำงานด้านการตลาดระดับจังหวัด (เซลล์แมนจังหวัด) จังหวัดเพชรบุรี ขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจการค้าการตลาด ณ ห้องประชุมตรีวัง ชั้น 1 สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี นายธีรวุฒิ คล้ายเคลื่อน พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานการประชุมคณะทำงานด้านการตลาดระดับจังหวัด (เซลล์แมนจังหวัด) จังหวัดเพชรบุรี ครั้งที่ 3/2565 ร่วมกับภาคเอกชนจังหวัดเพชรบุรี เพื่อหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมถึงแนวทางการขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจการค้าการตลาดจังหวัดเพชรบุรี ประจำปีงบประมาณ 2565 โดยที่ประชุมได้หารือประเด็นต่าง ๆ ที่สำคัญ การดำเนินการทางด้านการตลาด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัดเพชรบุรี โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ พระนครคีรี - เมืองเพชรบุรี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 (การจัดทำขนมไทย) ทิศทางและแนวทางการดำเนินงานของคณะทำงานด้านการตลาด ระดับจังหวัด (เซลล์แมนจังหวัด) จังหวัดเพชรบุรี ประจำปีงบประมาณ 2565 ในการฟื้นฟูและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดเพชรบุรี หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 การประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ และขยายโอกาสทางการค้า โดยการประชาสัมพันธ์สินค้า GI จังหวัดเพชรบุรี (ชมพู่เพชรสายรุ้ง) ตลอดจนการส่งเสริมการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ GI อื่น ๆ ของจังหวัดเพชรบุรี เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าชุมชนและสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก และการนำเสนอประเด็นสำคัญของคณะทางานด้านการตลาดระดับจังหวัด (เซลล์แมนจังหวัด) จังหวัดเพชรบุรี ต่อคณะกรรมการร่วมภาครัฐและภาคเอกชนจังหวัด (กรอ.จังหวัด)
สวท.เพชรบุรี
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","19/1/2022","ภาคตะวันตก","เพชรบุรี","สวท.เพชรบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119133944902"], [489,"อำเภอดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ทดสอบระบบกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรชุมชนบ้านช่องแก้ว ชม ชิม ช็อป แชร์ ไปแลชุมชน","นายจักรกฤษณ์ ฝั่งชลจิตร์ นายอำเภอดอนสัก เปิดเผยว่า ได้นำส่วนราชการและภาคีเครือข่าย ร่วมเปิดทดสอบระบบกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรชุมชนบ้านช่องแก้ว ชม ชิม ช็อป แชร์ ไปแลชุมชน เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวและจุดเรียนรู้ด้านการเกษตรให้แก่เกษตรกร นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจ ซึ่งภายในงานมีการจัดบูธจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และผลิตผลทางการเกษตร รวมทั้งฐานการเรียนรู้ต่างๆ โดยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเคร่งครัด
ในการนี้มีส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น และประชาชน เข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียงกัน ณ ชุมชนช่องแก้วท่องเที่ยวเชิงเกษตร หมู่ที่ 15 ตำบลปากแพรก อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งผลการทดสอบระบบดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้จะกำหนดให้มีกิจกรรมทุกวันเสาร์ อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป.
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","19/1/2022","ภาคใต้","สุราษฎร์ธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119144337935"], [490,"คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) มีมติให้ไก่และเนื้อไก่ เป็นสินค้าควบคุม ผู้เลี้ยง 1 แสนตัวขึ้นไป ต้องแจ้งปริมาณ สต๊อก และต้นทุนจำหน่ายทุกเดือน เตรียมเสนอ ครม.พิจารณาในสัปดาห์หน้า","คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) มีมติให้ไก่และเนื้อไก่ เป็นสินค้าควบคุม ผู้เลี้ยง 1 แสนตัวขึ้นไป ต้องแจ้งปริมาณ สต๊อก และต้นทุนจำหน่ายทุกเดือน เตรียมเสนอ ครม.พิจารณาในสัปดาห์หน้า
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ครั้งที่ 2/2565 ผ่านระบบทางไกล ว่า ที่ประชุมมีมติให้ไก่และเนื้อไก่เป็นสินค้าควบคุม และให้ความเห็นชอบ กำหนดมาตรการให้ผู้เลี้ยงไก่ที่มีปริมาณการเลี้ยงตั้งแต่ 100,000 ตัวขึ้นไป และโรงชำแหละไก่ที่มีกำลังการผลิตมากกว่า 4,000 ตัวต่อวัน แจ้งปริมาณ สต๊อก และต้นทุนราคาจำหน่ายทุกเดือน และกำหนดให้โรงงานผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 55 โรง แจ้งต้นทุนราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต และสต๊อก รวมทั้งกำหนดมาตรการให้ การปรับราคาต้องได้รับอนุญาตจากกรมการค้าภายในก่อน ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์จะนำเสนอผลการประชุมดังกล่าวต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในสัปดาห์หน้าต่อไป อย่างไรก็ตาม แนวทางกำกับราคาไก่ถือว่าได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากเกษตรกรและผู้ประกอบการ ที่ได้มีการประชุมร่วมกันมา 2 ครั้ง และกำหนดราคาหน้าฟาร์มและราคาจำหน่ายไก่ในราคาที่เป็นธรรมกับผู้บริโภค ภาพรวมสามารถตรึงราคาไก่ไว้ได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน และยังได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในประชุมร่วมกับเกษตรกรและผู้ประกอบการด้านไก่อย่างต่อเนื่องและใกล้ชิดต่อไป เพื่อไม่ให้มีการซ้ำเติมอาหารทางเลือกกับผู้บริโภค
สำหรับกรณีมีข่าวว่าเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังจะขึ้นราคาด้วยนั้น กรมการค้าภายในได้เชิญผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ รวมทั้งสมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ มาประชุมหารือกันและได้ข้อยุติแล้วว่าจะไม่มีการขึ้นราคาเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่อย่างใด ทั้งนี้หากประชาชนพบเห็นการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าหรือกักตุนสินค้า สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 โดยกระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานพาณิชย์ทุกจังหวัด จะใช้เป็นข้อมูลในการลงไปตรวจสอบและดำเนินคดีต่อไป
","19/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119165151067"], [491,"จังหวัดตรัง สนับสนุนงบประมาณให้กับทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง จัดโครงการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาถูก สู้ภัยโควิด-19 จังหวัดตรัง ครั้งที่ 3 บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน","นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า จังหวัดตรัง ได้ติดตามและเร่งแก้ไขปัญหาราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น ทั้งเนื้อสัตว์ หมู ไก่ และสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 353,600 บาท ให้กับทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง จัดโครงการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาถูก สู้ภัยโควิด-19 จังหวัดตรัง ครั้งที่ 3 จำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตประจำวัน เพื่อเป็นทางเลือกของพี่น้องประชาชนในการจับจ่ายสินค้าราคาประหยัด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
ทั้งนี้ กำหนดจัดกิจกรรมใน 10 อำเภอ อำเภอละ 2 วัน ดังนี้
วันที่ 20-21 มกราคม 2565 เวลา 09.00 - 15.00 น. ณ เทศบาลตำบลนาโยงเหนือ อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ,
วันที่ 26 และ 27 มกราคม 2565 ที่โรงเรียนบ้านเกาะปราง ตำบลนาท่ามเหนือ อำเภอเมืองตรัง ,
วันที่ 28 และ 29 มกราคม 2565 ที่ลานเฉลิมพระเกียรติท่าแพขนานยนต์ อำเภอกันตัง ,
วันที่ 2 และ 3 กุมภาพันธ์ 2565 บริเวณที่ว่าการอำเภอหาดสำราญ ,
วันที่ 4 และ 5 กุมภาพันธ์ 2565 บริเวณที่ว่าการอำเภอห้วยยอด ,
วันที่ 7 และ 8 กุมภาพันธ์ 2565 บริเวณที่ว่าการอำเภอย่านตาขาว ,
วันที่ 10 และ 11 กุมภาพันธ์ 2565 บริเวณอาคารบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลสิเกา อำเภอสิเกา,
วันที่ 14 และ 15 กุมภาพันธ์ 2565 บริเวณศาลาประชาคมที่ว่าการอำเภอรัษฎา ,
วันที่ 17 และ 18 กุมภาพันธ์ 2565 ที่เทศบาลตำบลท่าพญา อำเภอปะเหลียน ,
วันที่ 21 และ 22 กุมภาพันธ์ 2565 บริเวณวัดเขาพระวิเศษ อำเภอวังวิเศษ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","19/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119151414957"], [492,"พาณิชย์จังหวัดตรัง เผยโครงการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาถูก สู้ภัยโควิด-19 จังหวัดตรัง ครั้งที่ 3 นำไข่ไก่ราคาถูก 300 แผงต่อวัน พร้อมเนื้อหมูชำแหละจำหน่ายในราคาถูกกว่าท้องตลาด","นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 353,600 บาท จัดโครงการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาถูก สู้ภัยโควิด-19 จังหวัดตรัง ครั้งที่ 3 โดยจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตประจำวัน เพื่อเป็นทางเลือกของพี่น้องประชาชนในการจับจ่ายสินค้าราคาประหยัด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน กำหนดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ 20-21 มกราคม 2565 เวลา 09.00 - 15.00 น. ณ เทศบาลตำบลนาโยงเหนือ อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง
สำหรับสินค้าที่นำมาจำหน่ายประกอบด้วยไข่ไก่เบอร์ 2 แผงละ 30 ฟอง จำนวน 300 แผงต่อวัน จากราคาปกติ 108-110 บาท จำหน่ายเพียง 65 บาทเท่านั้น , น้ำมันพืชปาล์ม ขนาด 1 ลิตร จากราคาปกติ 51 - 60 บาท จำหน่ายเพียง 45 บาทเท่านั้น โดยจำกัดการซื้อคนละ 1 แผงสำหรับไข่ไก่และน้ำมันพืช คนละ 1 ขวด
นอกจากนี้ ยังมีเนื้อหมูชำแหละจำหน่าย
โดยหมูเนื้อแดง(ไหล่-สะโพก-ขาหน้าและคอ) จากราคาตลาด 180-200 บาท จำหน่ายเพียง 150 บาท ,
หมูสามชั้นจากราคาปกติ 180-220 บาท จำหน่ายเพียง 170 บาท ,
เนื้อสันใน จากราคาปกติ 180-200 บาทจำหน่ายเพียง 170 บาท ,
ซี่โครง จากราคาปกติ 170- 180 บาท จำหน่ายเพียง 160 บาท ,
เครื่องใน(ตับและหัวใจ) จากราคาปกติ 130-140 บาท จำหน่ายเพียง 100 บาท ,
ขาและหัวหมู ปกติกิโลกรัมละ 120-130 บาท จำหน่ายเพียง 100 บาท ,
กระดูกสัน จากราคาปกติ 110-120 บาทต่อกิโลกรัม จำหน่ายเพียงกิโลกรัมละ 100 บาท ,
เครื่องในรวม จากราคาปกติ 50 - 70 บาทจำหน่ายเพียง 50 บาทเท่านั้น
โดยจำกัดการซื้อหมูเนื้อแดงและหมูสามชั้นคนละ 1 กิโลกรัมเท่านั้น
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","19/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119154843993"], [493,"พาณิชย์ลำพูน จับตาราคาสินค้า \"เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ น้ำมันปาล์ม ชุดตรวจ ATK\" กำชับ ปิดป้ายราคาให้ชัดเจน ห้ามฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชน","วันที่ 19 มกราคม 2565 นางกนกรัตน์ ยุกติรัตน์ พาณิชย์จังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำพูน ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้า อาทิ เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ น้ำมันปาล์ม ข้าวสาร ชุดตรวจ ATK และหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ของผู้ประกอบการ ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าขายปลีกในพื้นที่อำเภอเมืองลำพูน ตามข้อสั่งการของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่กำชับให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดติดตามสถานการณ์ราคาจำหน่ายสินค้า และการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชนช่วงการแพร่ระบาดสถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19 และป้องกันการร้องเรียน หลังกระทรวงพาณิชย์ ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการรายใหญ่ และรายเล็ก ชะลอการขึ้นราคาสินค้าหลายรายการ และหารือกำหนดราคาสินค้าให้เหมาะสม เพื่อลดภาระค่าครองชีพประชาชนในช่วงนี้ และได้เน้นย้ำให้พาณิชย์จังหวัด ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และให้ความเป็นธรรมทางการค้าของผู้บริโภค
ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นว่ามีการกักตุนหรือฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ และหากตรวจสอบพบการกระทำผิดจะมีโทษตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","19/1/2022","ภาคเหนือ","ลำพูน","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119154543990"], [494,"ตราด หมูตราดไม่ขาดส่งออกต่างจังหวัด บริษัทจ้างชาวบ้านเลี้ยงตัวละ 800 บาท","วันที่ 19 ม.ค.65 นางสายหยุด นันทพงษ์ไพศาล เจ้าของฟาร์มสายหยุด บ้านทางควาย ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด เปิดเผยถึงสถานการณ์การเลี้ยงสุกรในฟาร์มของตนเองว่ายึดอาชีพเลี้ยงสุกรมาได้ประมาณ 8 ปีแล้ว จากการรับจ้างเลี้ยงสุกรให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง โดยตนเองต้องเตรียมโรงเรือนเลี้ยงสุกร และอาคารประกอบอื่นๆ ไว้ให้พร้อม บริษัทจะนำลูกสุกรมาให้เลี้ยง พร้อมอาหารสุกร เวชภัณฑ์ดูแลรักษาสุกร ตลอดจนเตรียมสัตว์แพทย์มาคอยตรวจดูแลการเลี้ยงสุกรให้เป็นระยะๆ ส่วนทางฟาร์มจะต้องจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าพนักงานเอง โดยให้ค่าเลี้ยงสุกรจนโตจับขายได้ตัวละ 800 บาท
นางสายหยุดบอกว่า ฟาร์มของตนเองเลี้ยงสุกรได้รุ่นละ 1,500 ตัว ใช้เวลาเลี้ยงรุ่นละ 4 เดือนครึ่ง ใน 1 ปีจะเลี้ยงสุกรได้ 2 รุ่น และใช้เวลาพักทำความสะอาดฟาร์ม 3 เดือน มีรายได้จากการเลี้ยงปีละประมาณ 2 ล้าน 4 แสนบาท
นางสายหยุด เปิดเผยต่อว่า การบริหารจัดการฟาร์มเลี้ยงสุกร จะใช้คนงานเลี้ยงประมาณ 2-3 คน ใช้เครื่องผสมอาหารระบบอัตโนมัติ เป็นฟาร์มแบบปิด ห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปในฟาร์มโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันโรคระบาดสู่สุกร เพราะโรคสุกรจะมีคนเป็นพาหะด้วย แม้แต่พนักงานทำงานในฟาร์ม ยังต้องห้ามกินเนื้อสุกรโดยเด็ดขาด เพราะไม่มั่นใจกับเนื้อสุกรที่นำมาปรุงอาหารจากท้องที่ต่างๆ มีเชื้อโรคระบาดหรือไม่ หากมีการแพร่ระบาดของเชื้อโรค จะทำให้เกิดความเดือดร้อนกับทางฟาร์ม ฟาร์มจะต้องถูกสั่งปิด เสียเวลา เสียรายได้ ดังนั้นคนเลี้ยงได้ แต่กินเนื้อสุกรไม่ได้โดยเด็ดขาด เรื่องราคาสุกรเป็น ถูก แพง ตนเองไม่ทราบเพราะรับจ้างเลี้ยงสุกรอย่างเดียวเท่านั้น
ขณะนายจังหวัด สมทิพย์ อยู่บ้านเลขที่ 176 ม.6 ต.เทพนิมิต อ.เขาสมิง จ.ตราด เปิดเผยถึงรายละเอียดสุกรแพง และขาดตลาดว่า เป็นสถานการณ์ในจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดตราดไม่ขาด เพราะมีฟาร์มเลี้ยงสุกรจากบริษัทหลายแห่ง และยังมีชาวบ้านที่ลงทุนเลี้ยงสุกรเองเป็นรายได้เสริมอีกไม่ถึง 10 ราย เป็นการเลียงครั้งละ 10-20 ตัวเท่านั้น ทำให้สุกรในจังหวัดตราดไม่ขาด แถมยังมีพ่อค้าจากต่างจังหวัดมารับซื้อสุกรจากฟาร์มต่างๆ กันเป็นจำนวนมาก
นายจังหวัดบอกว่า ตนเองมีอาชีพซื้อสุกรเป็นมาชำแหละขาย โดยซื้อสุกรได้ขนาดประมาณ 100 กก.ขึ้นไป ในราคาสุกรเป็น กก.ละ 110 บาท จากเดิมที่เคยซื้อกก.ละ 60-70 และขึ้นสูงสุด กก.ละ 80 บาท แต่หลังจากมีสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคสุกร ทำให้บริษัทถือโอกาสปรับราคาสุกรเป็นขึ้นไปเป็น กก.ละ 110 -117 บาทเลยทีเดียว
นายจังหวัดบอกว่า ตนเองซื้อสุกรมาชำแหละขายวันละ1 ตัว และออกขายตามชุมชนต่างๆ ในราคา กก.ละ 170 บาท สำหรับสุกรเนื้อแดง สุกรบด และเนื้อประเภทอื่นๆ ส่วนเนื้อสามชั้น จะขายปลีก กก.ละ 200 บาท และขานส่ง กก.ละ 190 บาท แต่ราคาขายของตนเองก็ยังถูกกว่าท้องตลาด กก.ละ 40 บาท ทำให้ตนขายเนื้อสุกรชำแหละหมดทุกวัน มีกำไรจากการขายวันละ 800 บาท ก็พออยู่ได้
สุนิสา สังข์ทอง สวท.ตราด
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","19/1/2022","ภาคตะวันออก","ตราด","สวท.ตราด","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119161914024"], [495,"จังหวัดตรัง สนับสนุนงบประมาณให้กับทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง จัดโครงการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาถูก สู้ภัยโควิด-19 จังหวัดตรัง ครั้งที่ 3 บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน","นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า จังหวัดตรัง ได้ติดตามและเร่งแก้ไขปัญหาราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น ทั้งเนื้อสัตว์ หมู ไก่ และสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 353,600 บาท ให้กับทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง จัดโครงการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาถูก สู้ภัยโควิด-19 จังหวัดตรัง ครั้งที่ 3 จำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตประจำวัน เพื่อเป็นทางเลือกของพี่น้องประชาชนในการจับจ่ายสินค้าราคาประหยัด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
ทั้งนี้ กำหนดจัดกิจกรรมใน 10 อำเภอ อำเภอละ 2 วัน ดังนี้
วันที่ 20-21 มกราคม 2565 เวลา 09.00 - 15.00 น. ณ เทศบาลตำบลนาโยงเหนือ อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ,
วันที่ 26 และ 27 มกราคม 2565 ที่โรงเรียนบ้านเกาะปราง ตำบลนาท่ามเหนือ อำเภอเมืองตรัง ,
วันที่ 28 และ 29 มกราคม 2565 ที่ลานเฉลิมพระเกียรติท่าแพขนานยนต์ อำเภอกันตัง ,
วันที่ 2 และ 3 กุมภาพันธ์ 2565 บริเวณที่ว่าการอำเภอหาดสำราญ ,
วันที่ 4 และ 5 กุมภาพันธ์ 2565 บริเวณที่ว่าการอำเภอห้วยยอด ,
วันที่ 7 และ 8 กุมภาพันธ์ 2565 บริเวณที่ว่าการอำเภอย่านตาขาว ,
วันที่ 10 และ 11 กุมภาพันธ์ 2565 บริเวณอาคารบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลสิเกา อำเภอสิเกา,
วันที่ 14 และ 15 กุมภาพันธ์ 2565 บริเวณศาลาประชาคมที่ว่าการอำเภอรัษฎา ,
วันที่ 17 และ 18 กุมภาพันธ์ 2565 ที่เทศบาลตำบลท่าพญา อำเภอปะเหลียน ,
วันที่ 21 และ 22 กุมภาพันธ์ 2565 บริเวณวัดเขาพระวิเศษ อำเภอวังวิเศษ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","19/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119161729022"], [496,"องค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล จัดการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนอนาคตสตูลด้านการท่องเที่ยว ในปีงบประมาณ 2565","วันนี้ (19 ม.ค. 65) ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล นายสัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล เป็นประธานการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนอนาคตสตูลด้านการท่องเที่ยว ในปีงบประมาณ 2565 โดยมีนายเจตกร หวันสู ประธานสภาการท่องเที่ยว อบจ.สตูล พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกสภาการท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
สำหรับการประชุมเพื่อรับทราบผลการดำเนินงานของสภาท่องเที่ยว ปีงบประมาณ 2564 พร้อมพิจารณาเรื่องการวางแผนการดำเนินงานของสภาการท่องเที่ยว อบจ.สตูล ปีงบประมาณ 2565 การแสดงผลงานของสภาฯ ในการประชุม APGN (Asia Pacific Geoparks Network) และพิจารณาการทำความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวกับอุทยานแห่งชาติตะรุเตา อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา และอุทยานแห่งชาติทะเลบัน รวมถึงได้มีหารือถึงประเด็นข้อสอบถามการเปิดให้บริการของถ้ำภูผาเพชร และถ้ำเลสเตโกดอน อีกด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","19/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119164223050"], [497,"ปรับราคาขายปลีกกลุ่มน้ำมันแก๊สโซฮอล์และน้ำมันเบนซิน 50 สตางค์ต่อลิตร เว้น E85 ปรับขึ้น 30 สตางค์ต่อลิตร ","กลุ่มผู้ค้าน้ำมัน บริษัท ปตท. และบางจาก แจ้งว่าตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันที่ 20 มกราคม 2565 เป็นต้นไป ราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์และเบนซิน ปรับขึ้นราคา 0.50 บาทต่อลิตร เว้น E85 ปรับขึ้น 0.30 บาทต่อลิตร และกลุ่มดีเซลทุกชนิดปรับขึ้น 0.10 บาทต่อลิตร
ส่งผลให้ราคาขายปลีก น้ำมันเบนซินอยู่ที่ 40.56 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ E85 ราคาอยู่ที่ 24.94 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ E20 ราคาอยู่ที่ 31.64 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 ราคาอยู่ที่ 32.88 บาทต่อลิตรแก๊สโซฮอล์ 95 ราคาอยู่ที่ 33.15 บาทต่อลิตร ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลไฮพรีเมียม ดีเซล B7 ราคาอยู่ที่ 35.96 บาทต่อลิตร ไฮดีเซล B7 ไฮดีเซล S และไฮดีเซล B20 S ราคาอยู่ที่ 29.94 บาทต่อลิตร สำหรับผลิตภัณฑ์อื่นราคาคงเดิม
","19/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119185129129"], [498,"บริษัทเอกชน มอบเงินสนับสนุน กองทุนประทีปรองศาสตราจารย์แพทย์หญิงยุวดี เลี่ยวไพรัตน์ พ.ศ. 2559 ให้ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเพาะช่าง เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาศิลปะและวัฒนธรรมของชาติ รวมถึงเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนวิทยาลัยเพาะช่าง ต่อไป","
บริษัทเอกชน มอบเงินสนับสนุน กองทุนประทีปรองศาสตราจารย์แพทย์หญิงยุวดี เลี่ยวไพรัตน์ พ.ศ. 2559 ให้ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเพาะช่าง เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาศิลปะและวัฒนธรรมของชาติ รวมถึงเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนวิทยาลัยเพาะช่าง ต่อไป
ผศ.บรรลุ วิริยาภรณ์ประภาส ผู้อำนวยการวิทยาลัยเพาะช่าง นำคณะผู้บริหาร วิทยาลัยเพาะช่าง เข้าพบ นายประทีป เลี่ยวไพรัตน์ และ รศ.พญ.ยุวดี เลี่ยวไพรัตน์ เพื่อสวัสดีและมอบของขวัญปีใหม่ ณ บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ในโอกาสนี้ นายประทีป เลี่ยวไพรัตน์ และรศ.พญ.ยุวดี เลี่ยวไพรัตน์ ได้มอบเงินสนับสนุน กองทุนประทีปรองศาสตราจารย์แพทย์หญิงยุวดี เลี่ยวไพรัตน์ พ.ศ. 2559 จำนวน 1,500,000 บาท เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาศิลปะและวัฒนธรรมของชาติ รวมถึงเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนวิทยาลัยเพาะช่าง โดยวิทยาลัยเพาะช่างจะดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ของเจ้าของทุนต่อไป
","19/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119202121166"], [499,"จ.หนองคาย ร้านอาหารตามสั่งให้ตำส้มตำฟรี","ร้านอาหารตามสั่งข้างศูนย์ราชการจังหวัดหนองคาย ให้ลูกค้าตำส้มตำรับประทานฟรี มาเป็นระยะเวลากว่า 5 ปี และยืนยันจะทำต่อเนื่องต่อไป แม้ราคามะละกอและเครื่องปรุงในการตำส้มตำจะแพงขึ้น เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าในสภาวะสินค้าหลากหลายชนิดปรับขึ้นราคา
ร้านอาหารตามสั่งไม่มีชื่อแต่ลูกค้าส่วนใหญ่จะเรียกว่าร้านแม่ใหญ่หนา หรือร้านใต้ต้นหูกวาง ข้างศูนย์ราชการจังหวัดหนองคาย ที่มีนายวีรพล สีหานาม อายุ 72 ปี อดีตลูกจ้างประจำ วิทยาลัยเทคนิคหนองคาย พร้อมญาติ ๆ ช่วยกันทำ โดยมีการปรับปรุงบ้านของตนเองให้เป็นร้านอาหารตามสั่งหลังเกษียณอายุราชการ ขายมาแล้วเป็นเวลากว่า 12 ปี อาหารขึ้นชื่อของร้านก็จะเป็นกะเพาหมูกรอบ ที่ลูกค้าส่วนใหญ่จะต้องสั่งรับประทานกัน นอกจากนี้ก็มีเมนูอาหารตามสั่งที่ไม่แตกต่างจากร้านอาหารตามสั่งทั่วไป แต่สิ่งที่ร้านแห่งนี้แตกต่างจากร้านอาหารตามสั่งร้านอื่น ๆ คือให้ลูกค้าตำส้มตำรับประทานได้ฟรี มาตั้งแต่ปี 2559 เป็นระยะเวลากว่า 5 ปี ย่างเข้าปีที่ 6 แล้ว
โดยทางร้านจะเตรียมวัตถุดิบและเครื่องครัวในการตำส้มตำให้ พร้อมน้ำปลาร้านัวๆ ลูกค้าอยากได้รสชาติแบบไหนก็ปรุงตามใจชอบ อยากตำกี่จานก็ไม่ว่า แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ก็ตำแค่พอรับประทาน ซึ่งในแต่ละวันจะเตรียมมะละกอไว้วันละ 5-6 กก.และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นบุคลากรของส่วนราชการที่อยู่ภายในศูนย์ราชการจังหวัดหนองคาย โดยเฉพาะอยู่ภายในศาลากลางจังหวัดหนองคาย ถือเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการซื้อส้มตำให้กับลูกค้าที่เข้ามารับประทานอาหารภายในร้านได้เป็นอย่างดี ยิ่งขณะนี้อยู่ในช่วงที่สินค้าหลากหลายชนิดมีการปรับขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงมะละกอที่ใช้ในการตำส้มตำด้วย ที่มีการปรับราคาจากเดิมเกือบ 4 เท่าตัว แต่ทางร้านก็ไม่ได้มีการปรับราคาอาหารที่ขายอยู่ คือยังคงขายราคาจานละ 45 บาท ถ้ามีไข่ดาวก็เพิ่มอีก 5 บาทเท่านั้น ส่วนส้มตำฟรีก็ยังคงให้ลูกค้าได้ตำรับประทานฟรีเหมือนเดิม อีกทั้งยังมีบริหารอาหารตามสั่งส่งให้กับลูกค้าที่อยู่ภายในศาลากลางจังหวัด อีกด้วย ทำให้มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายวีรพล สีหานาม เจ้าของร้าน บอกว่าส้มตำฟรีได้ทำมาตั้งแต่พ่อหลวง (ร.9) เสด็จสวรรคต ในปี 2559 ซึ่งก่อนหน้านั้นนำมะละกอ พร้อมเครื่องตำส้มตำมาให้ลูกค้าตำเอง โดยคิดราคาจานละ 10 บาท แต่ไม่ประสบผลสำเร็จตามที่ตั้งไว้ เลยปรับเป็นให้ตำเองฟรี และได้ทำต่อเนื่องตั้งแต่นั้นมา ถือเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการซื้อส้มตำให้กับลูกค้าได้มากพอสมควร และยืนยันจะทำแต่เนื่องต่อไปมีราคามะละกอจะแพงขึ้นหลายเท่าตัว ส่วนราคาอาหารตามสั่งก็ยังคงตรึงราคาเดิม ดูว่าจะรับภาระที่เพิ่มขึ้นไหวไหม ถ้ารับไม่ไหวจึงจะปรับราคาขึ้น ขณะนี้ขายในราคาจานละ 45 บาท ถ้ามีไข่ดาวก็จะขายราคาจานละ 50 บาท ซึ่งตนขายอาหารตามสั่งมาแล้วมากกว่า 10 ปี หลังจากที่เกษียณอายุราชการ
ลูกค้าที่มารับประทานอาหารที่ร้านประจำ บอกว่า การมีส้มตำฟรีเป็นสิ่งที่ดี ทำให้ประหยัดเงินไปได้หลายบาท เพราะหากเราซื้ออาหารแล้ว ถ้าต้องซื้อส้มตำเพิ่มอีก ก็จะต้องเพิ่มเงินอีกอย่างน้อยครึ่งหนึ่งหรือเท่าหนึ่งทีเดียว
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","19/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","หนองคาย","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220119202346167"], [500,"พาณิชย์ลำปาง พร้อมขานรับโครงการพาณิชย์ลดราคา ฯ Lot 17 หลัง ครม. อนุมัติงบ 1,480 ล้าน","
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เสนอโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน ปี 2565 ซึ่งเป็นโครงการลดราคาของกระทรวงพาณิชย์ Lot 17 วงเงินงบประมาณ 1,480 ล้านบาท ซึ่ง ครม. ได้ให้ความเห็นชอบ เพื่อเปิดจุดจำหน่ายสินค้าราคาถูกที่จำเป็นต่อการอุปโภคบริโภคโดยเฉพาะเนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ น้ำมันพืช ข้าวสารและสินค้าอื่นที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ในราคาพิเศษ เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชนรวม 3,050 จุด ครอบคลุมทั้ง 76 จังหวัด ผ่านห้างท้องถิ่น ห้างโมเดิร์นเทรด ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด พื้นที่สาธารณะ ลานอเนกประสงค์ สถานีบริการน้ำมัน 1,500 สถานี และรถโมบาย
ทั้งนี้ จุดจำหน่ายสินค้าราคาถูกนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นจุดจำหน่ายสินค้าราคาถูกที่จำเป็นต่อการอุปโภคบริโภค เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนอีกทางหนึ่ง ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาล เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนในสถานการณ์ปัจจุบันเป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน โดยคาดว่าจะเริ่มต้นได้เร็วที่สุดไม่เกินสัปดาห์หน้า
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","20/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สวท.ลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120094958230"], [501,"ส่งเสริม GI ครบวงจร ดันสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่นขึ้นทะเบียน ควบคุมคุณภาพ เพิ่มช่องทางการตลาด","นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้าสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ และการส่งเสริมการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา ได้มีการจดทะเบียนสินค้า GI ไทยเพิ่มอีก 18 รายการ รวมเป็น 152 รายการ สร้างมูลค่าเพิ่มรวมกว่า 39,000 ล้านบาท ช่วยยกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าชุมชนและช่วยผู้ประกอบการและเกษตรกรรายย่อยไม่ถูกกดราคา สร้างกระบวนการผลิตสินค้าอัตลักษณ์พื้นที่ของไทย
สำหรับแผนการทำงานในปี 2565 ยังเดินหน้าตามมาตรการเชิงรุกเพื่อส่งเสริมสินค้า GI ไทยอย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดลงพื้นที่ให้ความรู้การขอรับความคุ้มครองสินค้า GI ให้กับชุมชนกว่า 20 แห่งทั่วประเทศ พร้อมส่งเสริมผู้ประกอบการกลุ่มเป้าหมายกว่า 800 ราย และมีการโปรโมตสินค้า GI ไทย ให้เป็นที่รู้จักผ่านทั้งสื่อออนไลน์และออฟไลน์ การจัดพื้นที่จำหน่ายสินค้าในห้างสรรพสินค้าชั้นนำใจกลางเมือง จัดแสดงสินค้าในงานระดับนานาชาติ อาทิ ThaiFex 2022, STYLE 2022, Rice Matching 2022 ฯลฯ รวมทั้งการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้กับสินค้า GI เพื่อสร้างความโดดเด่นตรงความต้องการของตลาด
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้ประชุมหารือกับ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้ประกอบการ สมาคม และเครือข่ายธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะและแนวทางการฟื้นฟูภาคท่องเที่ยว รวมถึงความพร้อมในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งที่ผ่านมาต่างได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด-19
หอการค้าไทย เห็นว่า ควรนำมาตรการ test & go กลับมาใช้ และปรับให้เหมาะสมกับการสถานการณ์ ณ เวลานี้ ซึ่งควรเร่งดำเนินการ เพื่อช่วยให้ภาคการท่องเที่ยวและบริการ มีเงินหมุนเวียนในระบบ รักษาการจ้างงานของแรงงานไว้ได้ และพร้อมที่จะกลับมาเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย คาดว่า หากมีการนำระบบ test & go มาใช้ได้ นักท่องเที่ยวในปีนี้ น่าจะสูงถึง 5-6 ล้านคน อย่างแน่นอน
ขณะที่ ผู้ว่าฯ ททท. ได้นำเสนอและชี้แจงแผนการตลาดด้านการท่องเที่ยว ทั้งระยะสั้นและระยะยาว หลังการเปิดประเทศ โดยให้ความเห็นว่าการประชุม ศบค. ชุดใหญ่ ในวันนี้ (20 มค 65) มีแนวโน้มที่ดีที่จะมีการพิจารณาข้อเสนอในการปรับมาตรการระดับสีของจังหวัดต่าง ๆ รวมถึงพิจารณานำมาตรการ test & go กลับมาใช้อีกครั้ง ตามข้อเสนอของผู้ประกอบการ และในอนาคตจะต้องเน้นการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริม เน้นสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการหารือในประเด็นการกำกับดูแลธุรกิจท่องเที่ยวของชาวต่างด้าวในพื้นที่ ที่มีการดำเนินธุรกิจในลักษณะผิดกฎหมาย เช่น ไกด์นำเที่ยว และ Platform ท่องเที่ยวที่ไม่ได้เสียภาษีอย่างถูกต้อง และยังเสนอให้ช่วยกันผลักดัน การเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการรายย่อยในธุรกิจท่องเที่ยว เพื่อช่วยให้ภาคการท่องเที่ยวให้กลับมาประคองกิจการต่ออีกครั้ง ขณะที่ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวใน จ.เชียงใหม่ ได้มีการนำเสนอยกระดับพื้นที่สีฟ้าทุกอำเภอ เพื่อให้สามารถรองรับนักเดินทางต่างประเทศที่จะเข้ามาท่องเที่ยว ซึ่งจากเดิมมีการประกาศพื้นที่สีฟ้าเพียง 5 อำเภอในจังหวัดเท่านั้น แม้จะมีการระบาดในพื้นที่อยู่บ้าง แต่จากข้อมูลพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อยังอยู่ในระดับที่สามารถรองรับได้
","20/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120142234422"], [503,"บางกอกแอร์เวย์ส พร้อมเปิดให้บริการเที่ยวบินพิเศษเส้นทางกรุงเทพฯ ภูเก็ต ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้ หนุนโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ","บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส แจ้งว่า ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เตรียมเปิดให้บริการเที่ยวบินพิเศษเส้นทางกรุงเทพฯ ภูเก็ต เพื่อสนับสนุนโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ วันละ 2 เที่ยวบิน เฉพาะผู้โดยสารซีลรูท (Sealed Route) ทั้งนี้ ผู้โดยสารที่เดินทางโดยเที่ยวบินพิเศษ เป็นผู้โดยสารที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และต้องปฏิบัติตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งกำหนดมาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร อาทิ มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนครบตามข้อกำหนด, หลักฐานการสำรองห้องพักที่ได้มาตรฐาน SHA Extra Plus, ใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าผู้เดินทางไม่มีเชื้อโรคโควิด-19 โดยวิธี RT-PCR ระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง, เอกสารประกันที่มีวงเงินคุ้มครองขั้นต่ำ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ และผ่านการคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิ ตั้งแต่การเดินทางเข้าประเทศ รวมถึงระหว่างการพำนักอยู่ในประเทศไทย ตามระยะเวลาที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด เป็นต้น
สำหรับเที่ยวบินพิเศษเส้นทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ต ให้บริการโดยเครื่องบินแบบเอทีอาร์ 72-600 โดยเที่ยวบินที่ PG5275 ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 12.00 น. ถึงสนามบินภูเก็ต เวลา 14.05 น. และเที่ยวบินที่ PG5279 ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 17.10 น. ถึงสนามบินภูเก็ตเวลา 19.15 น. ผู้โดยสารสามารถตรวจสอบรายละเอียดเที่ยวบินเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bangkokair.com/flight/flightSchedule โดยยืนยันว่า สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ยังคงยึดมั่นในการให้บริการโดยคำนึงถึงความปลอดภัย และสุขอนามัยของผู้โดยสาร และพนักงานผู้ปฏิบัติงานเป็นสำคัญ และดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่องโดยเคร่งครัด
","20/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120105340273"], [504,"เจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไข่ไก่ ","พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับศูนย์ชั่งตวงวัดภาคเหนือ เชียงใหม่ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ปริมาณการผลิต การจำหน่าย และราคาไข่ไก่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
นางพนิดา วานิชรัตน์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ร่วมกับศูนย์ชั่งตวงวัดภาคเหนือ (เชียงใหม่) นำโดยนายคมเพชร สำลีเติมสิริ ผู้อำนวยการศูนย์ชั่งตวงวัดภาคเหนือ(เชียงใหม่) ร่วมกันติดตามสถานการณ์ปริมาณการผลิตการจำหน่ายและราคาไข่ไก่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากที่กรมการค้าภายในประกาศตรึงราคาไข่ไก่แบบคละ หน้าฟาร์มที่ฟองละ 2.90 บาท และจัดทำราคาจำหน่ายปลีกไข่ไก่ที่เหมาะสม ไม่รวมถึงไข่ไก่คัดคุณภาพหรือบรรจุภัณฑ์พิเศษ ไม่ให้ปรับราคาสูงขึ้น โดยติดตามสถานการณ์การผลิตของฟาร์มไก่ไข่และร้านจำหน่ายไข่ไก่ในพื้นที่อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า ฟาร์มไก่ไข่เป็นฟาร์มขนาดเล็ก ยังคงได้รับผลกระทบจากราคาอาหารสัตว์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น โดยไข่ไก่ที่ออกสู่ตลาดวันละไม่ต่ำกว่า 20,000 ฟอง แต่ยังสามารถจำหน่ายได้แม้ต้นทุนการผลิตจะเพิ่มสูงตาม และมีการขายส่งในพื้นที่จังหวัดและขายปลีกหน้าฟาร์ม พบว่า ปริมาณไข่ไก่ในพื้นที่เพียงพอกับความต้องการบริโภคไม่มีปัญหาขาดแคลน
สำหรับผู้ประกอบการร้านจำหน่ายไข่ไก่แบบปลีก มีการปรับราคาขึ้นจากสัปดห์ที่ผ่านมาฟองละ 0.10 บาท ทุกเบอร์ หรือมีการปรับขึ้นราคาไข่ไก่แผงละ 3 บาท จากการตรวจสอบราคาไข่ไก่ในสัปดาห์นี้พบว่าผู้ประกอบการร้านยังจำหน่ายไข่ไก่ในราคาปกติตามเดิมอยู่ เนื่องจากมีการปรับราคาจากที่ผ่านมา โดยมีราคาขายปลีกอยู่ในระดับราคาที่เหมาะสม คือเบอร์ 0 =3.80 - 4.30 บาท/ฟอง (115 - 129 บาท/แผง) เบอร์ 1=3.60 - 3.70 บาท/ฟอง (108-111 บาท/แผง) เบอร์ 2=3.30 - 3.40 บาท/ฟอง (99-102 บาท/แผง) เบอร์ 3 = 3.00-3.20 บาท/ฟอง (90 - 96 บาท/แผง) เบอร์ 4= 2.80 - 2.90 บาท/ฟอง (84-87 บาท/แผง)
อย่างไรก็ตามสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่จะได้ออกตรวจติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการกักตุนหรือการฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรมแก่ผู้บริโภค
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","20/1/2022","ภาคเหนือ","เชียงใหม่","สวท.เชียงใหม่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120111128282"], [505,"เกาะสมุย อันดับ 7 ของโลก อันดับ 2 ของเอเชีย เกาะท่องเที่ยวยอดเยี่ยมปี 2564 ","นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับการจัดอันดับ 7 ของโลก และอันดับ 2 ของเอเชีย ในฐานะเกาะท่องเที่ยวยอดเยี่ยม ปี 2564 จากการจัดอันดับของนิตยสารแทรเวล แอนด์ เลเชอร์ (Travel and Leisure) นิตยสารด้านการท่องเที่ยวทั่วโลกชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวร่วมโหวต ระหว่างวันที่ 11 มกราคมถึง 10 พฤษภาคม 2564
โดยใช้หลักเกณฑ์ สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ชายหาด อาหาร ความเป็นมิตร และมูลค่าโดยรวม ซึ่งเกาะสมุย มีความโดดเด่น เป็นเกาะที่มีชายฝั่งทะเลสวยงามและน้ำทะเลใสราวคริสตัลและปัจจุบันนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ยังสามารถเดินทางเข้ามาที่เกาะสมุยในรูปแบบแซนด์บ็อกซ์ ได้ด้วย
ส่วนผลคะแนนสำรวจเกาะท่องเที่ยวโลกอันดับ 1 และ 2 ได้แก่ เกาะมิลอสและเกาะโฟเลกันดรอส (Milos and Folegandros) ประเทศกรีซ ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ เกาะเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ (St. Vincent and the Grenadines) ในทะเลแคริบเบียน
นายกเมืองพัทยาลุย 7 โครงการ เดินหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่ชุมชนโบราณลานโพธิ์และนาเกลือ สู่ตลาดอาหารทะเลระดับโลก
นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า การปรับปรุงภูมิทัศน์และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ในพื้นที่พัทยาเป็นนโยบายสำคัญในการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ โดยล่าสุด เมืองพัทยาได้ขับเคลื่อน โครงการพัฒนาพื้นที่ลานโพธิ์และนาเกลือ หรือ Old Town นาเกลือ ให้สอดรับกับยุทธศาสตร์การนำพัทยาไปสู่ความยั่งยืนตามแนว นีโอพัทยา และรองรับการขยายตัวของเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ตอบโจทย์การเป็นศูนย์กลางธุรกิจ ที่พักอาศัย การขนส่งคมนาคม และท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมพื้นที่สีเขียวริมชายหาดและวัฒนธรรมในท้องถิ่น
สำหรับโครงการพัฒนาพื้นที่ลานโพธิ์และนาเกลือ ที่ได้รับงบประมาณแล้ว จะมีทั้งสิ้น 7 โครงการหลัก ครอบคลุมตั้งแต่การยกระดับตลาดอาหารทะเลสดที่มีคุณภาพ การซื้อของฝาก การสร้างรายได้ให้วิสาหกิจชุมชน พัฒนาจุดชมทัศนียภาพเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ป่าชายเลน และศึกษาวิถีวัฒนธรรมท้องถิ่นยาวนานนับ 100 ปี มีสวนสาธารณะให้พักผ่อนหย่อนใจ สร้างคุณภาพชีวิตให้ชุมชนและเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะหลังโควิด-19 จะมีนักท่องเที่ยวทั่วโลกซึ่งคิดถึงและกลับมาสู่พัทยาจำนวนมาก
โครงการพัฒนาพื้นที่ลานโพธิ์และนาเกลือ หรือ Old Town นาเกลือ ถือเป็นมิติใหม่ด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาอย่างแท้จริง เพราะพื้นที่ตรงนี้มีจุดขายสำคัญของการเป็นศูนย์กลางการค้าเก่าแก่ของชาวเมืองพัทยามาแต่ดั้งเดิม โดยเฉพาะตลาดอาหารทะเลสดๆ และเส้นทางศิลปะวัฒนธรรมที่มีมนต์เสน่ห์ เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีทรัพยากรธรรมชาติชายฝั่งอุดมสมบูรณ์ ดังนั้น โครงการทั้งหมดจึงออกแบบอย่างผสมผสานกันอย่างกลมกลืนและสอดคล้องกับความรู้สึกภาคภูมิใจของคนพัทยาว่ามีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญเทียบเท่าต่างประเทศ
ทั้งนี้ โครงการสร้างมิติใหม่พื้นที่ลานโพธิ์และนาเกลือ จะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 198 ล้านบาท ประกอบด้วย 1. โครงการก่อสร้างอาคารจอดรถสำหรับตลาดจำหน่ายสินค้าของฝาก เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว รองรับรถยนต์ได้ 239 คัน โดยชั้นดาดฟ้าเป็นสวนสามารถชมวิวอ่าวนาเกลือในมุมสูงได้ 2. โครงการก่อสร้างตลาดขายอาหารทะเลบริเวณตลาดลานโพธิ์ เมืองพัทยา ปรับปรุงตลาดขายอาหารทะเลสด สะอาด มีคุณภาพราคาไม่แพงจากชาวประมงชุมชนนาเกลือ พร้อมบริการปรุงอาหารทะเลและที่นั่งสำหรับรับประทาน 3.โครงการปรับปรุงสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติพื้นที่ 6,432 ตารางเมตร พัฒนาให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจริมชายทะเล ออกกำลังกายและอีเวนต์ต่างๆ เพิ่มพื้นที่สีเขียวสนามเด็กเล่นและสิ่งอำนายความสะดวกครบครัน 4.โครงการก่อสร้างเส้นทางเดินชมธรรมชาติตลาดลานโพธิ์-จุดชมวิวทัศนียภาพปากคลองนาเกลือและคลองนกยาง (สะพานยาว) 5.โครงการปรับปรุงจุดชมทัศนียภาพปากคลองนาเกลือ และคลองนกยาง (สะพานยาว) ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาแวะดูนกในท้องถิ่นหลากหลายสายพันธุ์ อาทิ นกยาง นกนางนวล นกนางนวลแกลบ และนกชายฝั่ง 6.โครงการก่อสร้างเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าโกงกางคลองนกยาง สำหรับนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมป่าชายเลนผืนสุดท้ายของเมืองพัทยา ตั้งแต่สวนสาธารณะศาลเจ้าศรีนิล ถึงสะพานขาว และ 7.โครงการก่อสร้างทางเท้าโซนนาเกลือ ได้แก่ ถนนสว่างฟ้า ถนนพัทยา-นาเกลือ และถนนทางเดินในชุมชน เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยและสะดวกปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวและประชาชนที่สัญจรไปมา
ในส่วนของงบประมาณที่ใช้ในทั้ง 7 โครงการ ระยะ 4 ปีข้างหน้าจะมาจากงบประมาณของเมืองพัทยา ,เงินอุดหนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ,งบแผนบูรณาการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกปี 2565 และเงินอุดหนุนงบประมาณรายจ่ายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (พ.ศ.2563-2566) โดยการดำเนินงานทั้ง 7 โครงการจะเป็นระยะที่หนึ่งซึ่งเป็นการพัฒนาเชิงพื้นที่ เชื่อมโยงจุดเด่นต่าง ๆของลานโพธิ์นาเกลือ และในระยะที่สองจะเป็นการพัฒนาร่วมกับ อีอีซี. ที่จะมุ่งยกระดับตลาดอาหารทะเล ซึ่งจะทำให้การพัฒนา นีโอนาเกลือ มีความสมบูรณ์ต่อไป
ปริญญา ข่าว/ภาพ
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","20/1/2022","ภาคตะวันออก","ชลบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120135542396"], [507,"ถั่วลายเสือ 88 รายการ และกระเทียม 144 รายการ ได้รับการรับรองเป็นสินค้า GI ของแม่ฮ่องสอน","พาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน นางสาวยุพา นาคา และนางสาวจันทร์จิรา อังธนาณุกุล นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่งวิชาการพาณิชย์ชำนาญการพิเศษ เข้าร่วมประชุมคณะทำงานเพื่อพิจารณาคำขอ ตรวจกระบวนการผลิต ควบคุมคุณภาพสินค้าและแหล่งที่มาของสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ถั่วลายเสือแม่ฮ่องสอน ครั้งที่ 1/2565 ณ ห้องประชุมศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศภูมิศาสตร์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ประชุมมีมติรับรองผลการตรวจประเมินเกษตรกรที่สมัครขอใช้ตราสัญลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ถั่วลายเสือแม่ฮ่องสอน จำนวน 88 ราย และมีมติรับรองผลการตรวจประเมินเกษตรกรที่สมัครขอใช้ตราสัญลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ กระเทียมแม่ฮ่องสอน จำนวน 144 ราย และมอบหมายทีมตรวจประเมินมาตรฐานการผลิตจัดทำสรุปรายละเอียดเกษตรกรเพิ่มเติม
ตราสัญลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications หรือ GI) เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่ง ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีความเชื่อมโยง (Links) ระหว่างปัจจัยสำคัญสองประการ คือ ธรรมชาติและมนุษย์ กล่าวคือ ชุมชนได้อาศัยลักษณะเฉพาะที่มีอยู่ในแหล่งภูมิศาสตร์ตามธรรมชาติ เช่น สภาพดินฟ้าอากาศ หรือวัตถุดิบเฉพาะในพื้นที่ มาใช้ประโยชน์ในการผลิตสินค้าในท้องถิ่นของตนขึ้นมา ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณลักษณะพิเศษที่มาจากพื้นที่ดังกล่าว คุณลักษณะพิเศษนี้อาจหมายถึง คุณภาพ ชื่อเสียงหรือคุณลักษณะเฉพาะอื่นๆ ที่มาจากแหล่งภูมิศาสตร์นั้นๆ
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","20/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120134200371"], [508,"เกษตรฯ แม่ฮ่องสอน ถ่ายทอดความรู้และพัฒนาศักยภาพเกษตรกร ลดพื้นที่การปลูกพืชที่เสี่ยงจะเกิดการเผา","นายวรากร ฟองกระจาย เกษตรอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน มอบหมายให้นางสาวยุพาพร อุณหนันท์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ พร้อมด้วยนายวรวุฒิ ณภาทรัพย์ เจ้าพนักงานการเกษตร และนางสาวธัญจิรา ไชยวรรณ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร จัดกิจกรรมถ่ายทอดความรู้และพัฒนาศักยภาพเกษตรกรให้เป็นวิทยากรด้านการเกษตรปลอดการเผา โดยวิทยากรจากศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดแม่ฮ่องสอน (เกษตรที่สูง) อบรมให้ความรู้และสาธิตการขยายพันธุ์ไม้ผลในรูปแบบต่างๆ เพื่อลดพื้นที่การปลูกพืช ที่เสี่ยงจะเกิดการเผา ณ บ้านไม้สะเป่ ตำบลางหมู อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
การขยายพันธุ์พืชเป็นการเพิ่มจำนวนต้นพืชให้ได้จำนวนมากพอกับปริมาณความต้องการ โดยพืชต้นใหม่ที่ได้ยังคงลักษณะและสมบัติของพันธุ์ที่ดีไว้ หรืออาจได้พันธุ์ใหม่ที่มีลักษณะผิดไปจากเดิม
การขยายพันธุ์พืชแบ่งได้ 2 แบบ คือ การขยายพันธุ์พืชแบบอาศัยเพศ ได้แก่ การขยายพันธุ์ โดยการใช้เมล็ด ซึ่งเกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมียของพืชดอก จนเกิดการปฏิสนธิ รังไข่ของดอกจะเจริญเป็นผล ไข่หรือออวุลที่อยู่ในรังไข่จะเจริญเป็นเมล็ด และภายในของเมล็ดก็จะมีต้นอ่อนหรือเอมบริโอ เมื่อนำเมล็ดพืชมาเพาะต้นอ่อนก็จะงอกและเจริญเติบโต ได้พืชต้นใหม่ที่มีลักษณะเหมือนเดิมและมีจำนวนมากขึ้น และการขยายพันธุ์พืชแบบไม่อาศัยเพศ ได้แก่ การขยายพันธุ์โดยใช้ส่วนต่างๆ ของต้นพืช เช่น ใช้การปักชำ การตอนกิ่ง การต่อกิ่ง การติดตา การทาบกิ่ง การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เป็นต้น
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","20/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120135115383"], [509,"กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 พร้อมจัดกิจกรรม ปั่นจักรยานเพื่อการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ บนเส้นทาง 3 เส้นทาง 3 จังหวัด ตลอดเดือน กุมภาพันธ์นี้","
นายอังกูร สีลาเทวากูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นประธานงานแถลงข่าว กิจกรรม \"ปั่นทางไกลตามรอยอารยธรรมทวารวตี\" พร้อมตัวย นายชูชีพ พงษ์ไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นายศศิน ติศวนนท์ ผู้ช่วยท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี และ นายสมจินต์ ชาญกระบี่ ผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษ 7 ณ กาดวิถีชุมชนคูบัว อ.เมืองราชบุรีจังหวัดราชบุรี ซึ่งกิจกรรมปั่นวิถีใหม่ ตามรอยทวารวดี\" จัดขึ้นเพื่อให้เกิดการบูรณา การท่องเที่ยว เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน และเกิดการกระจายรายได้ให้แก่ชุมชนและผู้ประกอบการท่องเที่ยว โดยกิจกรรมการปั่น ทั้ง 3 เส้นทาง จะมีศิลปิน นักปั่น ที่มีชื่อเสียงเข้าร่วม ได้แก่ คุณมนัสวิน นันทเสน (ติ๊ก ชิโร่) คุณอรุณณภา พาณิชจรูญ (หวานหวาน นางฟ้าสายปั่น) และ คุณจิรศักดิ์ ปานทุ่ม (แมว)
นายอังกูร ศีลาเทวากูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า ในปัจจุบัน แนวโน้มเรื่องการท่องเที่ยว สุขภาพ และสิ่งแวดล้อมเป็นกระแสหลักที่สนใจและถูกพูดถึงเป็นจำนวนมาก กิจกรรมการปั่นจักรยานเป็นกิจกรรมหนึ่งที่สามารถตอบโจทย์ เรื่องการท่องเที่ยว สุขภาพและสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงการท่องเที่ยวทางเลือก ซึ่งสามารถสร้างการรับรู้และประสบการณ์ใหม่ให้แก่นักท่องเที่ยวในปัจจุบัน ทั้งนี้พื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 มีความโดดเด่นด้านวัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์ เช่น ประวัติศาสตร์ยุคทวารวดี รวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์ที่หลากหลาย อาทิ ไททรงดำไทยวน ลาวครั่ง ซึ่งนับเป็นจุดแข็งของทรัพยากรการท่องเที่ยวที่มีร่วมกันสามารถตึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในพื้นที่โดยจังหวัตราชบุรีจะเป็นการปั่นจักรยาน จ.ราชบุรี - จ.สุพรรณบุรี ในวันอาทิตย์ ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 โดยผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในสมัยทวารวดี อาทิ ชุมชนโบราณสถานบ้านคู่บัว พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่ (วัดขนอน) มหรสพการละเล่นชั้นสูงที่เก่าแก่ ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมจากยูเนสโก ในปี พ.ศ. 2550
ทางด้าน นายชูชีพ พงษ์ใชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ได้กล่าวแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ตามอารยธรรมทวารวดี เพื่อให้รู้จักและสามารถมาตามรอยประวัติศาสตร์อารยธรรมทวารวดี ที่จังหวัดสุพรรณบุรี โดยเส้นทางของจังหวัด สุพรรณบุรี - จังหวัดกาญจนบุรี ในวันอาทิตย์ ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 จะเริ่มจากวัดเขา พระศรีสรรเพชญาราม ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยทวารวตี ผ่านพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ หรือที่รู้จักกันว่า \"หลวงพ่ออู่ทอง\" ผ่านพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง สถานที่จัดแสดงลูกปัดอู่ทอง อันเป็นโบราณวัตถุที่ทรงคุณค่าในอดีต และมีการต่อยอดส่งเสริมให้ชาวบ้านในเขตอำเภออู่ทอง ได้ใช้องค์ความรู้ในอดีตมาประยุกต์ ผลิตลูกปัด เพื่อเป็นสินค้าของที่ระลึกแก่ผู้สนใจและนักท่องเที่ยว และนำภูมิปัญญาไปสร้างสรรค์เป็น ขนมลูกปัดสลัดงา ที่มีรสชาติเอร็ตอร่อย
ด้าน นายศศิน ดิศวนนท์ ผู้ช่วยท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า นับเป็นการดีที่จังหวัดกาญจนบุรีได้รับการปรับเป็นพื้นที่สีฟ้า พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว โดยเส้นทางการปั่นจักรยานจาก จังหวัดกาญจนบุรี - จังหวัดราชบุรี วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 โดยเริ่มจากอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเก่า โบราณสถานพงตึก\" ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง ในเขตอำเภอ ท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี อดีตเป็นชุมชนทางด้านการค้าในสมัยทวารวดี
สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม สามารถดูรายละเอียดทาง Facebook Fan Page : ปั่นวิถีใหม่ ตามรอยทวารวดี และ www.dvaravatinewnormal.com
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","20/1/2022","ภาคตะวันตก","ราชบุรี","สวท.ราชบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120143522430"], [510,"พาณิชย์จังหวัดระยอง ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาเนื้อไก่และไข่ไก่ พบราคาจำหน่ายมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย","
สถานการณ์ราคาไก่และไข่ไก่ จ.ระยอง ยังอยู่ในราคาที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ล่าสุด กกร. มีมติให้ไก่และเนื้อไก่ เป็นสินค้าควบคุม ผู้เลี้ยง 1 แสนตัวขึ้นไป ต้องแจ้งปริมาณ สต๊อก และต้นทุนจำหน่ายทุกเดือน เตรียมเสนอ ครม.พิจารณาในสัปดาห์หน้า
ตามที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ครั้งที่ 2/2565 เมื่อวานนี้ (19 ม.ค.65) ที่ประชุมมีมติให้ไก่และเนื้อไก่เป็นสินค้าควบคุม และให้ความเห็นชอบกำหนดมาตรการ ให้ผู้เลี้ยงไก่ที่มีปริมาณการเลี้ยงตั้งแต่ 100,000 ตัวขึ้นไป และโรงชำแหละไก่ที่มีกำลังการผลิตมากกว่า 4,000 ตัวต่อวัน แจ้งปริมาณ สต๊อก และต้นทุนราคาจำหน่ายทุกเดือน กำหนดให้โรงงานผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 55 โรง ต้องแจ้งต้นทุนราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิตและสต๊อก กำหนดมาตรการให้การปรับราคา ต้องได้รับอนุญาตจากกรมการค้าภายในก่อน โดยกระทรวงพาณิชย์เตรียมเสนอผลการประชุม ต่อที่ประชุม ครม. เห็นชอบในสัปดาห์หน้า นั้น
นางสาวสุวีรยา ปั้นปาน พาณิชย์จังหวัดระยอง กล่าว จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์จำหน่ายเนื้อไก่และไข่ไก่ในสัปดาห์นี้ ราคาไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมีราคาไม่แตกต่างจากราคาที่กระทรวงพาณิชย์ขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึงราคาไว้ โดยกำหนดราคาหน้าฟาร์มและราคาจำหน่ายไก่ ในราคาที่เป็นธรรมกับผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม หากพบเห็นการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าหรือกักตุนสินค้า แจ้งได้ที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดระยอง โทร.0-3869-4053-5 เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการลงไปตรวจสอบต่อไป
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","20/1/2022","ภาคตะวันออก","ระยอง","สวท.ระยอง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120135906403"], [511,"จ.ประจวบฯ จับมือ มทร.รัตนโกสินทร์ แปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์จากมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ และป้องกันแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ","(20 ม.ค.65) ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดโครงการสร้างการรับรู้การพัฒนาห่วงโซ่คุณค่าใหม่ของการยกระดับผลิตภัณฑ์จากมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหามะม่วงน้ำดอกไม้สีทองล้นตลาด ราคาตกต่ำ ด้วยการนำมาแปรรูปเพิ่มมูลค่า รวมถึงการบริหารจัดการเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ปลูก ผู้แปรรูป และผู้จำหน่าย เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์จากมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองสู่มาตรฐานการส่งออก โดยอาศัยการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม บูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างนักวิจัยและผู้ประกอบการ ทำให้เกิดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์จากมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองที่มีคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาด
โดยในวันนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ได้จัดสัมมนาในหัวข้อการพัฒนาห่วงโซ่คุณค่าการใช้ประโยชน์และวิธีการสกัดสารสำคัญจากมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง เพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ OTOP ที่มีมูลค่าสูงสำหรับวิสาหกิจชุมชน ตั้งเป้านำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ในการพัฒนายกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนจากมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","20/1/2022","ภาคตะวันตก","ประจวบคีรีขันธ์","สวท.ประจวบคีรีขันธ์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120140315408"], [512,"ปศุสัตว์จังหวัดยโสธร บูรณาการพาณิชย์จังหวัด เกษตรและสหกรณ์ ตำรวจ ด่านกักกันสัตว์ และสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดออกตรวจสต๊อกเนื้อหมูในพื้นที่จังหวัดยโสธร เพื่อป้องกันการกักตุน","วันที่ 20 มกราคม 2565 ที่จังหวัดยโสธร หน่วยงานสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดยโสธร บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสต๊อกเนื้อหมู นำโดย นายปรีดา ถาวรประดิษฐ์ ปศุสัตว์จังหวัดยโสธร พร้อมด้วย นางสาวอลเวง ศรีหิรัญ พาณิชย์จังหวัดยโสธร นางสาวเสาวนิต ทับทิมจรูญ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดยโสธร พ.ตท.นิติพัฒน์ สิริปิติวัฒน์ รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ร.ต.อ.พิสูจน์ นันทศักดิ์ภิญโญ สารวัตรป้องกันและปรามปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธร นายทรงศักดิ์ วงศ์สุพรรณ หัวหน้าด่านกักกันสัตว์ นางสาวนรีรัตน์ เจริญศิริรัตนา นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร และเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ห้างสรรพสินค้าแมคโคร สาขายโสธร และร้านจำหน่ายหมูสด วี.ซี.มีท สาขายโสธร อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร ตรวจสต๊อกเนื้อหมู เพื่อป้องกันการกักตุนเนื้อหมู โดยมีการตรวจทั้งภายในห้างร้าน ว่ามีปริมาณเนื้อหมูที่จำหน่ายเพียงพอหรือไม่ ตรวจราคาที่จำหน่าย และได้ตรวจสต็อกในห้องเย็น
ทั้งนี้ การลงตรวจสอบภาพรวม พบว่าภายในห้างและร้านค้า มีปริมาณเนื้อหมูเพียงพอกับความต้องการของประชาชน และมีการติดป้ายราคาสินค้าอย่างชัดเจน ส่วนภายในห้องเย็นที่มีการเก็บเนื้อหมูนั้นก็ไม่พบว่ามีการสต็อกเกินกว่าที่กำหนด อีกทั้งยังได้ขอความร่วมมือไม่ให้มีการกักตุนเนื้อหมู
นอกจากนั้น ทางห้างแมคโคร สาขายโสธร ยังได้นำเนื้อเป็ด ไก่ ปลา และอาหารทะเล มาจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ประชาชน ในช่วงเทศกาลตรุษจีนด้วย
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","20/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ยโสธร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120143731433"], [513,"กระทรวงคมนาคม ทุ่มงบกว่า 1.4 ล้านล้านบาท ขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในปี 2565 ","นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า แม้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทย และทั่วโลกจะประสบปัญหาวิกฤติโควิด-19 แต่งานกระทรวงคมนาคมยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงข่ายคมนาคมของประเทศ ในการดำเนินการโครงสร้างพื้นฐานซึ่งเป็นเป็นครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งการท่องเที่ยว และการลงทุนของภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบและชะลอตัว
ในปี 2565 กระทรวงคมนาคมมีเม็ดเงินลงทุนโครงข่ายคมนาคมทั้งหมด 1.4 ล้านล้านบาท ประกอบด้วยโครงการที่ลงนามสัญญาแล้ววงเงิน 516,000 ล้านบาท และโครงการลงทุนใหม่ 974,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยจ้างงานได้มากถึง 154,000 ล้านบาท สร้างมูลค่าเพิ่มในส่วนของการใช้จ่ายด้านวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ 1.24 ล้านล้านบาท เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร้อยละ 2.35 ของจีดีพี หรือประมาณ 400,000 ล้านบาท
สำหรับแผนลงทุนของกระทรวงทั้งราง น้ำ บก อากาศ จะช่วยเพิ่มความเร็วในการเดินทาง โดยรถไฟฟ้า เพิ่มความเร็วในการเดินทางช่วงรถติดได้ 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เส้นทางมอเตอร์เวย์ เพิ่มความเร็วได้ จาก 80 กิโลเมตร เป็น 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถไฟทางคู่ เพิ่มความเร็วจาก 60 กิโลเมตรเป็น 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลดต้นทุนค่าขนส่งได้ 4 เท่า, รถไฟความเร็วสูง เพิ่มความเร็วการเดินทางจาก 80 กิโลเมตรเป็น 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา เชื่อต่อกรเดินางภูมิภาคและต่างประเทศเร็วรองรับผู้โดยสารจาก 80 ล้านคนต่อปี เป็น 120 ล้านคนต่อปี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวอีกว่า กระทรวงคมนาคมดำเนินการพัฒนารถไฟฟ้าในกรุงเทพ และปริมณฑล ทั้งหมด 14 สายทางระยะทาง 554 กิโลเมตร ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 6 สาย 11 เส้นทาง อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 4 สายทาง และในปี 2565 จะเปิดใช้บริการสายสีเหลือง ช่วง ลาดพร้าว-สำโรง และแยกรัชดา-ลาดพร้าว-แยกรัชโยธิน เปิดให้บริการเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนสายสีชมพู ช่วงแครายมีนบุรี และช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี เปิดบริการเดือนกรกฎาคม 2566 สายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี คาดว่าจะเสร็จเดือนธันวาคม 2568 และแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ ช่วงพญาไทบางซื่อดอนเมือง จะเปิดให้บริการ ปี 70 อีกทั้งยังมีอีก 4 สายที่อยู่ระหว่างศึกษารูปแบบลงทุน และเปิดประมูล ซึ่งจะเปิดให้บริการปี 70 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ยังมีแผนสร้างรถไฟทางคู่ โดยเชื่อมโยงฝั่งตะวันออกสู่ตะวันตก เหนือสู่ใต้ รองรับการเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งปี 2565 ก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะแรก จะแล้วเสร็จ 1,111 กิโลเมตร
","20/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120150341446"], [514,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ตรวจสอบการรับซื้อผลปาล์มน้ำมันของผู้ประกอบการลานเทในพื้นที่อำเภอห้วยยอด","นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง มอบหมายกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ร่วมกับผู้แทนเกษตรและสหกรณ์จังหวัด ผู้แทนเกษตรจังหวัดตรัง และผู้แทนอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง ลงพื้นที่ตรวจสอบการรับซื้อผลปาล์มน้ำมันของผู้ประกอบการลานเทในพื้นที่อำเภอห้วยยอด จำนวน 6 แห่ง เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับเกษตรกรในการจำหน่ายผลปาล์มน้ำมันและยกระดับมาตรฐานการผลิตปาล์มน้ำมันจังหวัดตรังให้สามารถแข่งขันในตลาดได้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำการปิดป้ายแสดงราคารับซื้อผลปาล์มน้ำมัน ตามประกาศ กกร. ฉบับที่ 58 พ.ศ. 2564 เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการรับซื้อ และการแสดงราคารับซื้อสินค้าผลปาล์มน้ำมันตามอัตราน้ำมันฯ และฉบับที่ 21 พ.ศ. 2564 เรื่อง การแจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุมสินค้าน้ำมันปาล์มและผลปาล์มน้ำมัน รวมทั้งแนะนำให้ลานเททำบัญชีลูกค้าที่นำผลผลิตมาจำหน่ายเพื่อป้องปรามการลักขโมยผลปาล์มน้ำมัน สำหรับ สถานการณ์โดยทั่วไป ปริมาณผลปาล์มน้ำมันเข้าสู่ตลาดลดลงจากเดือนก่อน ราคารับซื้อกิโลกรัมละ 11.20 12.20 บาท ผู้ประกอบการลานเทจะรวบรวมผลปาล์มน้ำมันไปจำหน่ายให้กับโรงงานสกัดในพื้นที่จังหวัดตรังและจังหวัดกระบี่
ในส่วนของการป้องปรามการลักขโมยผลปาล์มน้ำมัน หน่วยงานระดับอำเภอได้ประชุมหารือร่วมกับผู้ประกอบการลานเทในพื้นที่และขอความร่วมมือไม่รับซื้อผลปาล์มน้ำมันจากผู้ที่นำมาขายในลักษณะผิดปกติ เช่น มีปริมาณน้อย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","20/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120153945479"], [515,"ธนาคารแห่งประเทศไทย เตรียมออกใช้ธนบัตรพอลิเมอร์ ชนิดราคา 20 บาท ในวันที่ 24 มีนาคมนี้","นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. จะออกใช้ธนบัตรชนิดราคา 20 บาท ที่เปลี่ยนวัสดุการพิมพ์เป็นพอลิเมอร์ เพื่อพัฒนาคุณภาพให้ประชาชนได้ใช้ธนบัตรที่มีสภาพใหม่ สะอาดและใช้งานได้นานขึ้น เนื่องจากธนบัตรชนิดราคา 20 บาท เป็นธนบัตรที่ประชาชนใช้จ่ายมากที่สุด มีการหมุนเวียนเปลี่ยนมือบ่อย จึงทำให้ธนบัตรมีสภาพเก่ากว่าธนบัตรชนิดราคาอื่น
ธนบัตรพอลิเมอร์ผลิตจากพลาสติกแบบพิเศษ ซึ่งไม่ดูดซับความชื้นและสิ่งสกปรก และมีความทนทานในการใช้งานมากกว่าธนบัตรกระดาษ จึงช่วยลดปริมาณการผลิตธนบัตรใหม่เพื่อทดแทนธนบัตรที่ชำรุดและเอื้อต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น สอดคล้องกับธนาคารกลางในหลายประเทศที่ได้ออกใช้ธนบัตรพอลิเมอร์ เช่น อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม เป็นต้น
นอกจากนี้ ธนบัตรพอลิเมอร์ ชนิดราคา 20 บาท มีภาพและลักษณะโดยรวมเหมือนกับธนบัตรกระดาษชนิดราคา 20 บาท ที่หมุนเวียนในปัจจุบัน โดยมีการใช้เทคโนโลยีต่อต้านการปลอมแปลงที่ทันสมัยและมีมาตรฐานขั้นสูง
ธนบัตรพอลิเมอร์ ชนิดราคา 20 บาท จะเริ่มออกใช้หมุนเวียน ในวันที่ 24 มีนาคม 2565 นี้ โดยประชาชนสามารถเบิกถอนผ่านสาขาธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจทุกแห่ง ขณะเดียวกัน ธนบัตรกระดาษ ชนิดราคา 20 บาท ที่ใช้หมุนเวียนอยู่ในปัจจุบัน ยังคงสามารถใช้จ่ายได้ตามปกติต่อไป
","20/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120190658593"], [516,"เปิดตลาดนัดชุมชนช่วยค่าครองชีพจังหวัดชัยนาท ชาวบ้านแห่ต่อคิวซื้อเนื้อหมูยาวเหยียด","
ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดชัยนาท หลายหน่วยงานบูรณาการร่วมกับผู้ประกอบการเอกชน และเกษตรกร จัดกิจกรรมจำหน่ายสินค้าราคาถูก ราคาประหยัด ตลาดนัดชุมชนช่วยค่าครองชีพจังหวัดชัยนาท จัดพื้นที่จำหน่ายสินค้าจำเป็นในครัวเรือน น้ำมันพืช น้ำตาล ซอสปรุงรส เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ ผัก และผลไม้ ประชาชนให้ความสนใจซื้อเนื้อหมู เป็นจำนวนมาก ซึ่งจำหน่ายในราคาถูก หมูเนื้อแดงราคากิโลกรัมละ 150 บาท ไข่ไก่แผงละ 85 บาท
นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า ตลาดนัดชุมชนที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดชัยนาท ได้มีการจัดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้ว แต่วันนี้มีความพิเศษคือ ส่วนราชการ เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตร ผู้ประกอบการ และเกษตรกร พร้อมใจนำสินค้ามาจำหน่ายในราคาต้นทุน โดยเฉพาะเนื้อหมูราคาถูก เป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนลดภาระค่าครองชีพ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่บริโภคในครัวเรือน โดยมีเนื้อสัตว์ทางเลือก ได้แก่ เนื้อจระเข้ ราคากิโลกรัมละ 100 บาท มาจำหน่ายด้วย นอกจากนี้ยังมีสินค้าประเภทน้ำมันพืช น้ำปลา น้ำตาล จำหน่ายในราคาต้นทุน ช่วยประชาชนลดค่าใช้จ่าย
การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ พบว่ามีการตอบรับเป็นอย่างดี จึงได้วางแผนในการดำเนินกิจกรรม ตลาดนัดชุมชนช่วยค่าครองชีพจังหวัดชัยนาท เวียนไปในทุกอำเภอ เพื่อช่วยประชาชนลดค่าครองชีพได้อย่างทั่วถึง
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","20/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","ชัยนาท","สวท.ชัยนาท","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120154412484"], [517,"พ่อเมืองกรุงเก่า เยี่ยมชมและอุดหนุนผู้ประกอบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP เปิดโถงศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ช่วยบรรเทาปัญหาค่าครองชีพแก่ผู้ผลิตและผู้ประกอบการ","เช้าวันนี้ (20 ม.ค.65) เวลา 08.30 น. นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เยี่ยมชมและอุดหนุนผู้ประกอบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ซึ่งทำการจัดแสดงและจำหน่าย ณ บริเวณห้องโถง ชั้น 1 อาคาร 4 ชั้น ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อส่งเสริมช่องทางการตลาด และบรรเทาปัญหาค่าครองชีพแก่ผู้ผลิตและผู้ประกอบการ OTOP ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จัดโดยสำนักงานพัฒนาชุมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สำหรับการจัดบูธจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในวันนี้ เป็นผู้ประกอบการ OTOP จากอำเภอพระนครศรีอยุธยา ได้จัดจำหน่ายขนมบ้าบิ่น เผือกอบ มันอบ กล้วยอบ และขนมหม้อแกง (ไส้ถั่ว, ไส้เผือก และไส้ไข่) โดยปกติช่วงเช้า-บ่าย จะจำหน่ายบริเวณวิหารพระมงคลบพิตร และช่วงเย็น บริเวณตลาดนัดองค์การโทรศัพท์ อ.พระนครศรีอยุธยา
ท่านที่สนใจร่วมอุดหนุนสินค้า สามารถติดต่อได้ที่ 035 336542
#สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศีอยุธยา
#สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
วันนี้ (20 ม.ค.65) ที่ห้องปฏิบัติการผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี นายระห์หมัด บูดีมัน (Mr. Rachmat Budiman) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย พร้อมคณะ ประกอบด้วย กงสุลสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ณ สงขลา ผู้ช่วยทูตทหาร ผู้ช่วยทูตตำรวจ เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อสร้างสัมพันธไมตรีอันดีระหว่างกัน พร้อมหารือข้อราชการในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทยและอินโดนีเซียในระดับจังหวัด และขยายความสัมพันธ์ด้านต่างๆ เช่น ด้านการค้า การท่องเที่ยว การลงทุน วัฒนธรรม และด้านการศึกษา รวมทั้งปัญหาสำคัญในขณะนี้คือการแพร่ระบาดของโควิด-19
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","20/1/2022","ภาคตะวันตก","กาญจนบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุพรรณบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120163748519"], [519,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตราด ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การผลิตและการตลาด สินค้าอุปโภคบริโภค ในพื้นที่อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด","วันที่ 20 มกราคม 2565 นางวรัญญา ถนอมพันธุ์ พาณิชย์จังหวัดตราด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า และผู้บริหารสำนักงานเทศบาลเมืองตราด ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การผลิต และการตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค อาทิ เนื้อสุกร เนื้อไก่สด ไข่ไก่ อาหารทะเล ผักผลไม้ และวัตถุดิบในการปรุงอาหาร ณ ตลาดสดซอยไร่รั้ง และตลาดศูนย์การค้าเทศบาลเมืองตราด ตำบลบางพระ อำเภอเมืองตราด ผลการติดตามพบว่า ปริมาณสินค้ามีเพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค ผู้ประกอบการฯ ได้มีการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายตามที่กฎหมายกำหนด
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการบางรายมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย โดยจัดช่วงเวลาจำหน่ายสินค้าในราคาต่ำกว่าท้องตลาดทั่วไป เช่น เนื้อไก่สด กิโลกรัมละ 55 บาท เพื่อลดค่าครองชีพให้ประชาชนผู้บริโภคด้วยอีกทางเลือกหนึ่ง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฯ ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์แนวทางในการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการ ตามประกาศ กกร. ฉบับที่ 61 พ.ศ. 2564 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 และแจกวัสดุประชาสัมพันธ์การปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้า พร้อมทั้งกำชับให้มีการปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน ครบถ้วน ถูกต้อง เพื่อให้เป็นข้อมูลสำหรับผู้บริโภคในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า ซึ่งผู้ประกอบการฯ ยินดีให้ความร่วมมือปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ต่อไป
พาณิชย์ตราด/ข่าว สนธยา/รายงาน
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","20/1/2022","ภาคตะวันออก","สระแก้ว","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระแก้ว","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120163229513"], [520,"กระทรวงพาณิชย์ สั่งติดตามสถานการณ์สินค้า 6 ชนิดอย่างใกล้ชิด หลังพบราคาเคลื่อนไหวผิดปกติ ","นายบุญยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะทำงานกำกับติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าแก้ไขปัญหาและดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนและกระทำความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้รับทราบสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของราคาสินค้าจากกรมการค้าภายในและมีติให้ความสำคัญในการจับตาสินค้าบริโภค 6 รายการ ได้แก่ เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว เป็ด ปลา และมะละกอ เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีความเคลื่อนไหวด้านราคาและมีข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ราคาออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนสินค้าอุปโภคบริโภครายการอื่นๆ ก็จะมีการติดตามสถานการณ์เป็นปกติ
สำหรับสถานการณ์ราคาเนื้อหมูในปัจจุบัน พบว่า ราคาได้ปรับตัวสูงขึ้นไปมาก เนื่องจากปริมาณหมูเข้าสู่ตลาดลดลง ส่วนเนื้อไก่ ราคาปรับขึ้นเล็กน้อย โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื้อวัว ยังไม่เปลี่ยนแปลงด้านราคา ปลา ส่วนใหญ่มีราคาลดลง ขณะที่มะละกอ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีข่าวว่าราคาปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา จากการตรวจสอบ ไม่พบว่ามีราคาสูงขึ้นตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
นอกจากนี้ คณะทำงานฯ ยังได้มีมติให้มีการบูรณาการร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ทั้งหมด โดยใช้ทรัพยากรบุคคลที่มีอยู่ ร่วมกันจัดชุดตรวจลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ หากพบการกระทำผิดกฎหมาย เช่น ไม่ปิดป้ายแสดงราคา หรือขายแพงเกินสมควร ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนในต่างจังหวัด ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดติดตามข่าวสารใกล้ชิด และรายงานวอร์รูมให้ทราบทันที
หากประชาชนพบเห็นจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม จำหน่ายสินค้าในราคาสูงเกินสมควร สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 โดยแจ้งสถานที่เกิดเหตุ จุดเกิดเหตุ รวมถึงพฤติกรรมผู้ขายซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเก็บรายละเอียดของผู้แจ้งไว้เป็นความลับ
วันที่ 20 มกราคม 2565 ที่จังหวัดยโสธร หน่วยงานสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดยโสธร บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสต๊อกเนื้อหมู นำโดย นายปรีดา ถาวรประดิษฐ์ ปศุสัตว์จังหวัดยโสธร พร้อมด้วย นางสาวอลเวง ศรีหิรัญ พาณิชย์จังหวัดยโสธร นางสาวเสาวนิต ทับทิมจรูญ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดยโสธร พ.ตท.นิติพัฒน์ สิริปิติวัฒน์ รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ร.ต.อ.พิสูจน์ นันทศักดิ์ภิญโญ สารวัตรป้องกันและปรามปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธร นายทรงศักดิ์ วงศ์สุพรรณ หัวหน้าด่านกักกันสัตว์ นางสาวนรีรัตน์ เจริญศิริรัตนา นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร และเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ห้างสรรพสินค้าแมคโคร สาขายโสธร และร้านจำหน่ายหมูสด วี.ซี.มีท สาขายโสธร อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร ตรวจสต๊อกเนื้อหมู เพื่อป้องกันการกักตุนเนื้อหมู โดยมีการตรวจทั้งภายในห้างร้าน ว่ามีปริมาณเนื้อหมูที่จำหน่ายเพียงพอหรือไม่ ตรวจราคาที่จำหน่าย และได้ตรวจสต็อกในห้องเย็น
ทั้งนี้ การลงตรวจสอบภาพรวม พบว่า ภายในห้างและร้านค้า มีปริมาณเนื้อหมูเพียงพอกับความต้องการของประชาชน และมีการติดป้ายราคาสินค้าอย่างชัดเจน ส่วนภายในห้องเย็นที่มีการเก็บเนื้อหมูนั้นก็ไม่พบว่ามีการสต็อกเกินกว่าที่กำหนด อีกทั้งยังได้ขอความร่วมมือไม่ให้มีการกักตุนเนื้อหมู นอกจากนั้น ทางห้างแมคโคร สาขายโสธร ยังได้นำเนื้อเป็ด ไก่ ปลา และอาหารทะเล มาจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ประชาชน ในช่วงเทศกาลตรุษจีนด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","20/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ยโสธร","สวท.ยโสธร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120173118556"], [522,"จังหวัดเพชรบูรณ์ โครงการส่งเสริมกระบวนการเครือข่ายองค์ความรู้ เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์","จังหวัดเพชรบูรณ์ โครงการส่งเสริมกระบวนการเครือข่ายองค์ความรู้ เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ วันที่ 20 มกราคม 2560 5 เวลา 8.30 น นายสุเมธ ธีรนิติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมกระบวนการเครือข่ายองค์ความรู้ KBO (Knowledge- OTOP ) ณ ห้องบุษราคัมชั้น 3 โรงแรมบูรพาอำเภอเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยนางสาวมนทิราเข็มทองพัฒนาการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวรายงาน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากกรมการพัฒนาชุมชนประจำปีงบประมาณ 2565 ในการดำเนินโครงการเพื่อส่งเสริมให้เครือข่ายองค์ความรู้จังหวัด เป็นศูนย์กลางในการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนพัฒนาขีดความสามารถของผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น และยกระดับผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐานมีบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม สามารถเพิ่มมูลค่าสร้างนวัตกรรมได้ มีกิจกรรมทั้งหมด 2 กิจกรรม ได้แก่กิจกรรมการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายองค์ความรู้ KBO จังหวัด
ซึ่ง คณะกรรมการเครือข่ายเคมีโอจังหวัด พิจารณาคัดเลือกผลิตภัณฑ์จำนวน 20 ผลิตภัณฑ์ เข้าร่วมโครงการและร่วมวางแผนกำหนดแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการประชุมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP จำนวน 20 กลุ่มๆละ 2 คน และคณะกรรมการเครือข่ายองค์ความรู้ KBO จำนวน 10 คน รวม 50 คน ดำเนินการใน 2 วันคือวันที่ 20-21 มกราคม 2565
โดยได้รับการสนับสนุนวิทยากรจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ นำโดยอาจารย์ ปุณฑริกา สุคนธสิงห์ สาขาวิทยาการจัดการ คณะวิทยาการจัดการ โดยมีหลักสูตรที่มุ่งเน้นส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การเพิ่มมูลค่าสร้างสรรค์นวัตกรรม พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพการออกแบบดีไซน์ที่ทันสมัย สร้างแบรนด์ สร้าง Story ดาวนมทำการตลาด Digital Marketing และ การวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์เพื่อจัดทำแผนการพัฒนาทั้ง 21 ผลิตภัณฑ์
โอกาสนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายสุเมธ ธีรนิติ ได้กล่าวกับผู้เข้ารับการอบรมถึงการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาเครือข่ายองค์ความรู้ว่า ได้รับความร่วมมือจากสถาบันการศึกษาในพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ปราชญ์ชาวบ้าน เครือข่าย OTOP ร่วมมือผนึกองค์ความรู้ช่วยเหลือผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP ในจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยการส่งเสริมสร้างทักษะความรู้ เพื่อพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพมาตรฐานพร้อมออกสู่ตลาดภายในประเทศและตลาดระดับสากล
โดยได้อาศัยความร่วมมือของคณะกรรมการเครือข่ายองค์ความรู้เคมีระดับจังหวัด เพื่อให้เป็นกลไกในการพัฒนาศักยภาพกลุ่มผู้ผลิตชุมชนและพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ OTOP ยกระดับสินค้าในกลุ่มปรับตัวสู่การพัฒนาและผลิตภัณฑ์ระดับ 1 ถึง 3 ดาวของจังหวัดเพชรบูรณ์ ให้มีคุณภาพมาตรฐานและเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้นสามารถ เพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากของจังหวัดเพชรบูรณ์ให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้นต่อไป.
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","20/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","เพชรบูรณ์","สวท.เพชรบูรณ์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120180435580"], [523,"การค้าชายแดนไทย กัมพูชา บริเวณชายแดน ณ จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม จังหวัดสุรินทร์ มูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.99","นางพิรุณวรรณน์ จงใจภักดิ์ พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ รายงานข้อมูลภาวะการค้าชายแดนไทย กัมพูชา บริเวณชายแดน ณ จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ว่า ภาวะการค้าชายแดนมีมูลค่าการค้ารวมทั้งสิ้น 588.81 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2564 มูลค่าการค้า 55.55 ล้านบาท การค้าเพิ่มขึ้น 33.26 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.99
มูลค่าการส่งออกและสินค้าส่งออกรวมทั้งสิ้น 461.41 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนก่อน 470.90 ล้านบาท ลดลง 9.49 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.02 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนลดลง 596.30 ล้านบาท ลดลง 134.89 ล้านบาท หรือลดลง 22.62
มูลค่าการนำเข้าและสินค้านำเข้า รวมทั้งสิ้น 127.40 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนก่อน 84.65 เพิ่มขึ้น 42.75 ล้านบาท หรือร้อยละ 50.50 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน 143.08 ล้านบาท ลดลง 15.68 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.96
ดุลการค้า ไทยเกินดุลการค้าบริการรวมทั้งสิ้น 334.01 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนก่อนเกินดุลการค้า 386.25 ล้านบาท ดุลการค้าลดลง 52.24 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.52 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันกับปีก่อน 453.22 ล้านบาท ดุลการค้าลดลง 119.21 ล้านบาท หรือร้อยละ 26.30
สถิติการเดินทางเข้า ออก ชายแดนไทย กัมพูชา เดือนธันวาคม 2564 สถิติการเดินทางเข้ามารวมทั้งสิ้น 498 คน เป็นชาวไทยทั้งหมด เมื่อเทียบกับเดือนก่อน 488 คน สถิติการเดินทางเข้าเพิ่มขึ้น 10 คน หรือร้อยละ 2.05
สถิติการเดินทางออกรวมทั้งสิ้น 493 คน เป็นคนไทย 490 คน คนกัมพูชา 1 คน และคนต่างชาติ 2 คน เมื่อเทียบกับเดือนก่อน 475 คน สถิติการเดินทางออกเพิ่มขึ้น 18 คน หรือร้อยละ 3.79
สถิติยานพาหนะเข้า ออก รวมทั้งสิ้น 926 คัน เป็นรถยนต์นั่ง 268 คัน รถบรรทุก 658 คัน เมื่อเทียบกับเดือนก่อน 900 คัน สถิติยานพาหนะเข้าออกราชอาณาจักรไทย กัมพูชา เพิ่มขึ้น 26 คัน หรือคิดเป็นร้อยละ 2.89
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","20/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สวท.สุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120194446611"], [524,"วธ.ศรีสะเกษ จัดพิธีมอบเกียรติบัตรแก่ผู้ผ่านการอบรม และปิดการอบรมทบทวนและพัฒนาบทบาทมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ภายใต้โครงการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวตามอารยะธรรมอีสานใต้","จังหวัดศรีสะเกษ โดย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ จัดพิธีมอบเกียรติบัตรแก่ผู้ผ่านการอบรม พร้อมกับปิดการอบรมการจัดการชุมชนท่องเที่ยวทางศาสนาและวัฒนธรรม การอบรมมัคคุเทศก์ท้องถิ่น รุ่นที่ 1/2565 ตามโครงการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวตามอารยะธรรมอีสานใต้ กิจกรรมตามรอยอารยธรรมอีสาน
เมื่อเวลา 14.30 น.(20 ม.ค.65) ณ ห้องประชุมสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ นายประหยัด ถิลา วัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานมอบเกียรติบัตรแก่ผู้ผ่านการอบรม พร้อมกับปิดการอบรมการจัดการชุมชนท่องเที่ยวทางศาสนาและวัฒนธรรม การอบรมมัคคุเทศก์ท้องถิ่น รุ่นที่ 1/2565 ตามโครงการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวตามอารยะธรรมอีสานใต้ กิจกรรมตามรอยอารยธรรมอีสาน โดยมี ผู้อำนวยการกลุ่มกิจการพิเศษ ข้าราชการ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ และเครือข่ายทางวัฒนธรรม ตลอดจนผู้แทนชุมชน เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 50 คน
สืบเนื่องจาก จังหวัดศรีสะเกษ เป็นจังหวัดที่มีความโดดเด่นในเรื่องศิลปะ วัฒนธรรมของอารยะธรรมขอม เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าซึ่งเป็นทุนทางวัฒนธรรมที่ ท่องเที่ยวในชุมชน ซึ่งเป็นกระแสการท่องเที่ยวในปัจจุบัน และอนาคตอันใกล้ สร้างความเข้มแข็งแก่ระบบเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน โดยการจัดการอบรมการจัดการชุมชนท่องเที่ยวทางศาสนาและวัฒนธรรมการ อบรมมัคคุเทศก์ท้องถิ่น เป็นโครงการตามแผนปฏิบัติราชการ จังหวัดศรีสะเกษ ประจำปี พ.ศ.2565 จัดขึ้นเพื่อพัฒนาสร้างความเข้มแข็งจากฐานราก ปฏิรูปกระบวนการการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของคนไทยในทุกช่วงวัย สร้างโอกาส และความเสมอภาคทางสังคม
โดยส่งเสริมการเรียนรู้และรักษาภูมิปัญญาทางศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรมตนเองที่เป็นมรดกของชุมชน ตลอดจนนำทุนทางวัฒนธรรมของชุมชนมาพัฒนาตอยอดทางเศรษฐกิจ ร้างโอกาสทางสังคมแลเศรษฐกิจให้แก่ชุมชน เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ รวมถึงส่งเสริมการ ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในชุมชน อันจะนำมาซึ่งการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งแบ่งการดำเนินการออกเป็น 2 รุ่น ๆละ 50 คน รวทั้งสิ้น 100 คน
สำหรับรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 19 20 มกราคม 2565 กลุ่มเป้าหมายจำนวน 50 คน ประกอบด้วย ตัวแทนชุมชนคุณธรรมวัดพระธาตุสุพรรณหงส์, ชุมชนคุณธรรมวัดโพธิ์ศรี, ชุมชนคุณธรรมวัดป่าพิมลมังคลาราม, ชุมชนคุณธรรมวัดสระกำแพงใหญ่, ชุมชนคุณธรรมวัดสำโรงเกียรติ และนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎ ศรีสะเกษ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","20/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ศรีสะเกษ","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120201350644"], [525,"พาณิชย์จังหวัดตราด ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายผักสด และวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหาร","(20 ม.ค. 65) นางวรัญญา ถนอมพันธุ์ พาณิชย์จังหวัดตราด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับฯ ติดตามการจำหน่ายผักสด และวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหาร ณ บริเวณตลาดสดซอยไร่รั้ง และตลาดสดศูนย์การค้าเทศบาลเมืองตราด ผลการตรวจสอบปรากฏ ดังนี้ ปริมาณสินค้าผักสดและวัตถุดิบที่ใช้สำหรับประกอบอาหาร มีเพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค สินค้าส่วนใหญ่ผู้ประกอบการรับมาจากจังหวัดจันทบุรี ราคาจำหน่ายดังนี้
1. มะละกอดิบ พันธุ์ดำเนินสะดวก ชนิดผลยาว ราคาขายส่ง บรรจุ 10 กิโลกรัม ราคา 180 บาท ราคาขายปลีก กิโลกรัมละ 25 บาท
2. พริกขี้หนู ราคาขายปลีก กิโลกรัมละ 160 - 170 บาท
3. พริกจินดาแดง ราคาขายปลีก กิโลกรัมละ 70 บาท
4. มะนาว ราคาขายปลีก กิโลกรัมละ 40 - 60 บาท ราคาปลีกลูกละ 4 - 5 บาท
5. กะหล่ำปลี ราคาขายปลีก กิโลกรัมละ 35 บาท
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ฯ ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์แนวทางในการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการ ตามประกาศ กกร. ฉบับที่ 61 พ.ศ. 2564 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 และแจกวัสดุประชาสัมพันธ์การปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้า พร้อมทั้งกำชับให้มีการปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน ครบถ้วน ถูกต้อง เพื่อให้เป็นข้อมูลสำหรับผู้บริโภคในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า ซึ่งผู้ประกอบการฯ ยินดีให้ความร่วมมือปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ต่อไป
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","20/1/2022","ภาคตะวันออก","ตราด","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120201822648"], [526,"พาณิชย์จังหวัดแพร่ จำหน่ายหมูเนื้อแดง โครงการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน ครั้งที่ 3","วันนี้ (20 ม.ค. 65) สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแพร่ ร่วมกับร้านหมูอินเตอร์ ร้านทอฝันหมูสด และเขียงหมูน้ำทองฟาร์ม จำหน่ายหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท ครอบคลุมทั้ง 8 อำเภอ จำนวน 9 จุดจำหน่าย พาณิชย์จังหวัดแพร่ จำหน่ายหมูเนื้อแดง โครงการหมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน ครั้งที่ 3
ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อลดภาระค่าครองชีพบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน เป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาสุกรที่สูงขึ้น ช่วยให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด
สำหรับ ยอดจำหน่าย ณ วันที่ 19 มกราคม 2565 รวมทั้งสิ้น 259.45 กิโลกรัม เป็นเงิน 38,917.50 บาท ผู้ซื้อจำนวน 151 ราย สามารถลดค่าครองชีพประชาชนจำนวน 9,859.10 บาท
ยอดจำหน่ายสะสม (18-19 ม.ค. 65) รวมทั้งสิ้น 553.27 กิโลกรัม เป็นเงิน 82,269.75 บาท ผู้ซื้อจำนวน 325 ราย สามารถลดค่าครองชีพประชาชนจำนวน 21,024.07 บาท
จังหวัดแพร่เนื้อสุกร ไก่ ไข่ไก่ และสินค้าอุปโภค มีปริมาณเพียงพอตามความต้องการของประชาชน และมีการปิดป้ายแสดงราคาที่ชัดเจน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","20/1/2022","ภาคเหนือ","แพร่","สวท.แพร่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120195644621"], [527,"ขอเชิญผู้ประกอบกิจการ SME กลุ่ม OTOP กลุ่มวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ ผู้นำชุมชน และผู้นำกลุ่มอาชีพ สมัครฝึกอบรมโครงการเพิ่มผลิตภาพแรงงาน","สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานอำนาจเจริญ ขอเชิญผู้ประกอบกิจการ SME กลุ่ม OTOP กลุ่มวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ ผู้นำชุมชน และผู้นำกลุ่มอาชีพ สมัครฝึกอบรมโครงการเพิ่มผลิตภาพแรงงาน (กิจกรรมที่ 1) หลักสูตร \"การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบกิจการ\" (6 ชม.)
ผู้สนใจสามารถสมัครตามรายละเอียดในเอกสารประชาสัมพันธ์ชุดนี้ได้ หลังจากฝึกอบรมสามารถเพิ่มผลิตภาพแรงงาน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","20/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อำนาจเจริญ","สวท.อำนาจเจริญ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120205830675"], [528,"ชาวบ้านใน อ.เบตง จ.ยะลา แห่จับแมลงจั๊กจั่นลงกินน้ำ ทำเมนูเด็ดทอดกรอบ ลาบจักจั่น เผ็ดเปรี้ยวหวานมัน แหล่งโปรตีนชั้นดีและสร้างรายได้เสริมในยุคโควิด","วันนี้ 20 ม.ค. 63 ชาวบ้านใน อ.เบตง จ.ยะลา จำนวนมาก ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ต่างนำไฟฉายส่องสว่าง ถุงพลาสติก ขวดน้ำเปล่า แห่ออกมาจับจั๊กจั่นที่เกาะตามเสาไฟฟ้าตามพุ่มไม้ที่มีแสงไฟตกแต่งยามค่ำคืน ตามอาคารต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองเบตงเป็นจำนวนมาก ทำให้ชาวบ้านมีรายได้เสริมในช่วงราคายางตกต่ำและการระบาดของโควิด-19 อยู่ในขณะนี้ ซึ่ง 2 ปี จะมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่จั๊กจั่น ออกมาจากป่า
ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ก่อนที่ฤดูร้อนจะมามาถึง จะเป็นช่วงที่จะพบจักจั่นมากที่สุด โดยจั๊กจั่นจะคลานต้วมเตี้ยม ขึ้นมาเหนือพื้นดินและไต่ขึ้นไปเกาะอยู่ตามกิ่งต้นไม้ต่างๆ ก่อนลอกคราบกลายเป็นจั๊กจั่นอย่างสมบูรณ์โดยจะเกาะอยู่ตามต้นไม้ และกินน้ำเลี้ยงของต้นไม้เป็นอาหาร ซึ่งช่วงที่โตเต็มวัยจะมีระยะเวลาประมาณ 4 เดือน ซึ่งจะได้ยินเสียงร้องของจั๊กจั่นดังระงมไปทั่วเมืองเบตง
โดยชาวบ้านจะใช้แสงไฟนีออนสีม่วงมาล่อจักจั่นให้มาเล่นไฟ และเลือกจับเฉพาะจั๊กจั่นที่มีตัวสีดำ ท้องสีส้ม ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีเนื้อมีความมัน กว่าจั๊กจั่นสายพันธุ์อื่นๆ โดยทำการจับตัวที่บินตกมาตามจุดต่างๆ ใกล้ตัวด้วยมือเปล่า และขายจักจั่นตัวเป็นๆ ตัวละ 2 - 3 บาท ซึ่งบางคนจะโพสต์ขายในเฟซบุ๊ก หรือส่งขายตามร้านอาหารต่างๆ ในพื้นที่ และต่างพื้นที่ ซึ่งมีร้านอาหารสั่งออเดอร์เข้ามาบ้างแล้ว เนื่องจากเป็นเมนูชื่นชอบของนักท่องเที่ยว โดยเมื่อมาถึงเบตงหากมาพบการขายจั๊กจั่นก็จะเหมาซื้อหมดในราคาตังละ 3 บาท ส่วนตัวจักจั่น ที่ผ่านการทอดกรอบมาแล้วก็จะคิด ตัวละ 5 บาท
ซึ่งในแต่ละคืนสามารถจับจั๊กจั่นขายได้ 500-1,000 ตัว มีรายได้ประมาณ 1,500 2,500 บาทต่อคืนซึ่งหากเป็นคืนที่มีอากาศเย็นพอดี จักจั่น จะออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่ง เป็นการหารายได้เสริมในช่วงราคายางตกต่ำอยู่ในขณะนี้และประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ระบาดทำให้มีรายได้มาเสริม
สำหรับจักจั่น มีหลายชนิด แต่สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายชนิด เช่น ทอด คั่ว หมก ยำ แกง และนำมาทำเมี่ยง กินกับข้าว และกับแกล้ม และยังจัดเป็นอาหารยาอีกด้วย
โดยขั้นตอนการนำไปปรุงอาหาร ก่อนอื่นต้องเด็ดปีกออกแล้วนำไปล้างน้ำสะอาด ประมาณ 2 -3 รอบ แล้วสามารถนำไปทำเมนูจั๊กจั่นได้ตามความชอบ แต่ที่เมนูชาวบ้านในพื้นที่อำเภอเบตงชื่นชอบมากที่สุด คือ จักจั่นทอดกรอบหยอดซอสแม็กกี้ โรยพริกไทย ถือเป็นเมนูเด็ดหายากเนื่องจากจะมีในพื้นที่อ.เบตง จ.ยะลา ที่เดียวเท่านั้น
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","20/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.เบตง จ.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120205540673"], [529,"พาณิชย์ตรัง เชื่อมโยงและเผยแพร่ผลิตภัณฑ์จากพืชพื้นถิ่น สู่ช่องทางการตลาดออนไลน์ ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก จังหวัดตรัง","วันที่ 20 มกราคม 2565 สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง จัดกิจกรรมเชื่อมโยงและเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ สู่ช่องทางการตลาดออนไลน์ ครั้งนี้ 2 ตามโครงการยกระดับสินค้าและบริการด้วยช่องทางการตลาดวิถีใหม่ (New Normal) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้จากการพัฒนาและออกแบบจากเตยปาหนันและก้านจาก ผ่านการไลฟ์สดทางเพจเฟซบุ๊กเพื่อให้เกิดการซื้อขายจริง โดย หนูเล็ก ก่อนบ่าย มีผู้ติดตามกว่า 1.4 ล้าน follows และเจ้าของเพจ กระเป๋ากระจูด ร้านธรรมมือ ทะเลน้อย มีผู้ติดตามกว่า 92,000 follows ณ กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรดุหุนสามัคคี อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง
การจัดกิจกรรมไลฟ์สดครั้งนี้ เป็นการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์จักสานเตยปาหนัน ของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรดุหุนสามัคคี อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง และผลิตภัณฑ์จักสานก้านจากของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจักสานก้านจากโต๊ะเมือง รวมทั้งกลุ่มจักสานก้านจากบ้านนายอดทอง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับผู้ประกอบการในการใช้โอกาสจากช่องทางการตลาดออนไลน์เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทันที เกิดมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้นกว่า 130,000 บาท ซึ่งสินค้าที่ได้รับความสนใจ ได้แก่ กระเป๋าเตยปาหนันรูปแบบต่างๆ กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าเอกสาร กระเป๋าจากก้านจาก ตะกร้าใส่ผลไม้ ถาดผลไม้ขนาดต่างๆ หลากหลายรูปทรง เป็นต้น
การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในยุคปัจจุบัน สร้างภาพลักษณ์สินค้าที่มีศักยภาพของจังหวัดตรังให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น สร้างรายได้ให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์จากพืชพื้นถิ่น รวมทั้งช่วยยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของจังหวัดตรังได้เป็นอย่างดี
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
นายสุระชัย วิชาชัย หัวหน้ากลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดขอนแก่น ได้ลงพื้นที่ออกติดตามโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ที่ตลาดบางลำภู และร้าน 97 เฟรชมาร์ท ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น โดยประชาชนได้ให้ความสนใจและตอบรับโครงการฯ เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังได้ตรวจสอบภาวะราคาสินค้า ที่ตลาดบางลำภู และตลาดศรีเมืองทอง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
ซึ่งพบว่า ราคาสินค้าทั่วไป เช่น ไข่ไก่ เนื้อหมู ผักสด ฯลฯ ราคายังทรงตัวปกติ ส่วนมะละกอ พันธุ์ดำเนิน จำหน่ายอยู่ที่ราคา 80-180 บาท (ถุงละ 10 กก.) ขึ้นอยู่กับขนาดของมะละกอ ซึ่งได้ปรับตัวลงจากสัปดาห์ที่แล้ว 10-20 บาท /ถุง
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","20/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ขอนแก่น","สวท.ขอนแก่น","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120215835689"], [531,"จ.สมุทรสาคร ยกทะเลมาไว้ที่ขอนแก่น ในงานเทศกาลอาหารทะเลและของดี จ.สมุทรสาคร","นางสาวสุนันทา น้อยพิทักษ์ พาณิชย์จังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานเปิดงาน เทศกาลอาหารทะเลและของดีจังหวัดสมุทรสาคร ที่ตลาดต้นตาลขอนแก่น ระหว่างวันที่ 19 - 23 มกราคม 2565 เวลา 17.00 น. 23.00 น. ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด สร้างโอกาส เพิ่มช่องทางการตลาดที่ขอนแก่น โดยมี ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไปร่วมงานภายในงานมีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าอาหารทะเลและสินค้าดีเมืองสมุทรสาคร
นางสาวสุนันทา น้อยพิทักษ์ พาณิชย์จังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า จากมาตรการดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) เชิงรุกกันมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งประชาชนทุกภาคส่วนสามารถกลับมาประกอบอาชีพได้อย่างเป็นปกติ ซึ่งจังหวัดสมุทรสาคร โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสมุทรสาคร ร่วมกับหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร ได้ร่วมจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้า เทศกาลอาหารทะเลและของดีจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อสร้างโอกาส เพิ่มช่องทางการตลาดและประชาสัมพันธ์สินค้าให้แก่เกษตรกร/ผู้ผลิต ผู้ประกอบการของจังหวัดสมุทรสาครให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ สร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน และความเข้มแข็งของชุมชนระหว่างจังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดขอนแก่นรวมถึงพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง (ร้อยแก่นสารสินธุ์) อย่างยั่งยืน
การจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้า เทศกาลอาหารทะเลและของดีจังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสมุทรสาคร ภายใต้กระทรวงพาณิชย์ที่มีบทบาทและภารกิจในการส่งเสริมและสนับสนุนการค้า ได้บูรณาการกับ หอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของจังหวัดสมุทรสาครหลังผ่านวิกฤติจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) โดยจัดกิจกรรมแสดงและจำหน่ายสินค้า เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าอาหารทะเลทั้งสดและแปรรูปของจังหวัดสมุทรสาคร รวมถึงสินค้าที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ อีกมากมายของจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเป็นการส่งเสริมผู้ประกอบการของจังหวัดสมุทรสาคร และผลักดันเศรษฐกิจในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง
ภายในงานมีการแสดงและจำหน่ายสินค้าอาหารทะเลและของดีจังหวัดสมุทรสาคร อาทิเช่น อาหารทะเลสด และอาหารทะเลแปรรูป สินค้า OTOP รวมทั้งเครื่องเบญจรงค์ที่มีคุณค่า และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยด้านหน้าและบริเวณการจัดกิจกรรมมีจุดนิทรรศการถ่ายทอดความรู้ และจุดถ่ายรูปที่สวยงามแก่ผู้มาเยือน และกิจกรรมนาทีทองนาทีถูก กิจกรรมแจกนักช้อป และพบกับการลุ้นรางวัลภายในงานอีกมากมาย มีการแสดงดนตรีสดทุกวัน 2 ช่วง โดยช่วงแรกระหว่างเวลา เวลา 17.30 น. - 19.00 น. และช่วงที่สองเวลา 21.45 น. -23.00 น. และการจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจระหว่างจังหวัดสมุทรสาครกับกลุ่มจังหวัด ร้อยแก่นสารสินธุ์
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","20/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ขอนแก่น","สวท.ขอนแก่น","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120221000690"], [532,"พังงา เตรียมเปิด หลาดริมคลองงา เพิ่มช่องทางการขายให้เกษตรกรและประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายรายได้ในชุมชน","วันนี้ (20 ม.ค. 65) นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ประชุมคณะทำงานเตรียมความพร้อมในการจัดงาน เกษตรแฟร์ ซึ่งประกอบด้วย ส่วนราชการหน่วยงานต่างๆ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน ณ ห้องประชุมภูผา ศาลากลางจังหวัดพังงา โดยจังหวัดพังงาได้รับนโยบายจากนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทยให้สำรวจสถานที่เพื่อใช้จัดกิจกรรมในลักษณะที่ให้เกษตรกรได้พบปะกับผู้ซื้อโดยตรงซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ผลิต และแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ให้มีช่องทางการจำหน่ายสินค้า ฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก กระตุ้นการค้าขายและสร้างรายได้ให้กับชุมชน ดังนั้นจึงได้กำหนดจัดงาน เกษตรแฟร์ ขึ้นที่บริเวณลานเอนกประสงค์ ข้างริมคลองพังงา ศูนย์ราชการจังหวัดพังงา ภายในงานมีการจำหน่ายสินค้าเกษตร สินค้าอุปโภค บริโภค ของกลุ่มเกษตรกร ชุมชน และประชาชน เปิดจำหน่ายครั้งแรกวันที่ 14 -16 กุมภาพันธ์ 2565 และเปิดขายครั้งถัดไปทุกวันศุกร์ เวลา 15.00 ถึง 19.00 น. ภายในบริเวณจะมีการแสดงของเด็กนักเรียน ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน และการละเล่นต่างๆ เพื่อสร้างความสุขให้กับผู้ซื้อและผู้ขาย และยังได้กราบไหว้พระทิพยมงคลพุทธปฏิมากร ที่ประดิษฐานอยู่ภายในหอพระด้วย อีกทั้งพ่อค้า แม่ค้า หรือประชาชน ที่ต้องการนำสินค้ามาจำหน่ายไม่ว่าจะเป็นของกิน ของใช้ เสื้อผ้า สินค้าเบ็ดเตล็ด สินค้ามือสอง ก็สามารถทำได้ เพื่อให้ตลาดมีสินค้าที่หลายหลายและเป็นที่สนใจของผู้คนให้เข้ามายังตลาดแห่งนี้มากขึ้น
ทั้งนี้มีการตรวจคัดกรองตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ มีการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและความปลอดภัยให้กับประชาชนโดยหน่วยงานต่างๆ
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
วันที่ 20 มกราคม 2565 เวลา 13.30 น. นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นางดนิตา สมจิตต์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดร้อยเอ็ด ,นายพิศ นันทพูนพิพัฒน์ พัฒนาการจังหวัดร้อยเอ็ด ,นายพงษ์ศักดิ์ วรวงศ์ พาณิชย์จังหวัดร้อยเอ็ด ,หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เยี่ยมชมตลาดผ้าไหม ผ้าฝ้ายของดีเมืองร้อยเอ็ด ครั้งที่ 3 \"ผ้าไทยใส่ให้สนุก\" และเนื้อหมูธงฟ้าราคาถูก ที่บริเวณศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP จังหวัดร้อยเอ็ด (หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด) ซึ่งมีประชาชนให้ความสนใจอย่างล้นหลาม
โดยจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ดำเนินกิจกรรมตลาดผ้าไหม ผ้าฝ้ายเมืองร้อยเอ็ด และผลิตภัณฑ์ OTOP เด่นของจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประจำทุกเดือน ในสัปดาห์แรกของเดือน หรือสัปดาห์ที่เหมาะสม กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การออกร้านแสดงและจำหน่ายสินค้าของผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้าไหม ผ้าฝ้ายจังหวัดร้อยเอ็ด และผลิตภัณฑ์ OTOP เด่นของจังหวัดร้อยเอ็ด ทั้ง 20 อำเภอ รวมทั้งสิ้น 35 บูท รวมถึงการแสดงดนตรี จากวงดนตรีคลาสสิคแบนด์ หมวดดุริยางค์ มณฑลทหารบกที่ 27 จังหวัดร้อยเอ็ด สร้างความสนุกสนาน ให้แก่ผู้ที่มาร่วมงาน และการจำหน่ายเนื้อหมู กิโลกรัมละ 150 บาท และเนื้อวัวราคาถูก เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชน
ทั้งนี้ นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวประชาสัมพันธ์เชิญชวนชาวจังหวัดร้อยเอ็ด และจังหวัดใกล้เคียงร่วม ชม ช้อป แชะ สินค้าภายในงานตลาดผ้าไหม ผ้าฝ้ายของดีเมืองร้อยเอ็ด ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 19 - 20 มกราคม 2565 เวลา 09.00-18.00 น. ที่ บริเวณศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP จังหวัดร้อยเอ็ด (หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด) เพื่อเป็นการช่วยเหลือกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ให้มีรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และกระจายรายได้สู่ชุมชน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","20/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ร้อยเอ็ด","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120231049701"], [534,"จังหวัดชัยนาท จัด ตลาดนัดชุมชน ช่วยค่าครองชีพจังหวัดชัยนาท เพื่อบรรเทาปัญหาค่าครองชีพของครัวเรือนประชาชน","เช้าวันนี้ (20 มกราคม 2565) ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดชัยนาท (หลังใหม่) ถนนพรหมประเสริฐ อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท เป็นประธานเปิดงาน ตลาดนัดชุมชน ช่วยค่าครองชีพจังหวัดชัยนาท เพื่อบรรเทาปัญหาค่าครองชีพของครัวเรือนประชาชน โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท และหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดชัยนาท ร่วมเปิดงาน
ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท กล่าวว่า การจัด ตลาดนัดชุมชน ช่วยค่าครองชีพจังหวัดชัยนาท วันนี้ มีความพิเศษที่มีหน่วยงานราชการจังหวัดชัยนาท โดยส่วนราชการของกระทรวงพาณิชย์และส่วนราชการของกระทรวงเกษตร รวมถึงผู้ประกอบการและเกษตรกร ร่วมกันนำสินค้าในราคาต้นทุนมาจำหน่าย เช่น เนื้อหมูในราคาที่ถูกมาก รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดชัยนาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชน ลดภาระเรื่องค่าครองชีพ ช่วยให้ประชาชนได้มีโอกาสเลือกซื้อสินค้าในราคาถูก และราคาประหยัด ทั้งนี้ ได้มีการวางแผนว่าจะหมุนเวียนไปจัด ตลาดนัดชุมชน ช่วยค่าครองชีพจังหวัดชัยนาท ในทุกอำเภอ แต่วันนี้ เริ่มที่อำเภอเมืองฯ ก่อนเพื่อดูผลการตอบรับจากประชาชน ซึ่งก็เป็นที่น่าพอใจและได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนมาร่วมซื้อสินค้ากันจำนวนมาก
ส.ปชส.ชัยนาท
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","20/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยนาท","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220120221419691"], [535,"ตม.ภูเก็ต ปฏิบัติการเชิงรุกต่อวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวที่กักตัวถึงโรงแรมที่พัก เป็นการอำนวยความสะดวก สร้างความเชื่อมั่นและดูแลนักท่องเที่ยว","พ.ต.อ.ธเนศ สุขชัย ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต เปิดเผยว่า ภาพรวมใน ขณะนี้เชื้อโอมิครอนยังมีการแพร่ระบาดในต่างประเทศค่อนข้างสูง ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต บางส่วนอาจเป็นพาหะนำเชื้อเข้ามา แต่จังหวัดภูเก็ตมีระบบการคัดกรองตั้งแต่ Day 0 คือที่สนามบิน ซึ่งเมื่อผ่านการตรวจแล้วไม่พบเชื้อ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวไปตามปกติ และด้วยระบบแซนด์บ็อกซ์ ที่มีการตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ในระยะ Day 5 หรือ Day 6 และส่วนใหญ่จะมีผลการตรวจที่ออกมาว่า นักท่องเที่ยวมีเชื้อเป็นบวก จึงต้องถูกส่งตัวเข้าสู่กระบวนรักษาตามมาตรการสาธารณสุข ด้วยการกักตัวในระบบ HQ หรือ HRC แต่ระหว่างการกักตัวระยะเวลาวีซ่าของนักท่องเที่ยวอาจใกล้หมดอายุ และไม่สามารถเดินทางไปต่อวีซ่าได้ด้วยตัวเอง
ดังนั้น ตม.ภูเก็ต จึงออกปฏิบัติการเชิงรุกบริการต่อวีซ่า ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว โดยการประสานความร่วมมือกับผู้ประกอบการที่พักที่นักท่องเที่ยวเข้ากักตัว โดยระยะเวลา 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการดูแลนักท่องเที่ยวที่ติดเชื้อและเข้าพักตามระบบสาธารณสุขยังโรงแรมต่างๆ กว่า 200 ราย รวมทั้งเจรจาชี้แจงนักท่องเที่ยวที่ไม่เข้าใจภาพรวมว่า เมื่อติดเชื้อแล้วจะต้องปฏิบัติอย่างไร มากกว่า 30 ราย ถือเป็นการดูแล อำนวยความสะดวกและเป็นการสร้างความเชื่อมั่น สร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคใต้","ภูเก็ต","สวท.ภูเก็ต","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121083006717"], [536,"จ.ประจวบฯ ระดมเจ้าหน้าที่ตรวจสอบป้องกันการกักตุนสินค้าและเนื้อสุกรช่วงเทศกาลตรุษจีน หากพบการกระทำผิดมีโทษทั้งจำและปรับ","(21 ม.ค.65) นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ออกจากที่ว่าการอำเภอเมืองประจวบฯ ไปยังสถานประกอบการต่างๆ เพื่อตรวจสอบป้องกันการกักตุนสินค้าและเนื้อสุกรช่วงเทศกาลตรุษจีน สำรวจการกักตุนเนื้อสุกร และกำกับดูแลร้านจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ ตามมาตรการกำกับดูแลสุกร เนื้อสุกร ปี 2565 ไม่ให้มีการฉวยโอกาสจำหน่ายในราคาสูง และกำชับให้ผู้ค้า ผู้ประกอบการติดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน พร้อมตรวจสอบสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพอื่นๆ ไม่ให้ปรับขึ้นราคา หากประชาชนพบเห็นการกักตุนหรือฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดฯ และหากตรวจสอบพบการกระทำผิดจะมีโทษตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ
ทั้งนี้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดฯ ได้จัดจุดจำหน่ายเนื้อสุกร กก.ละ 150 บาท จำนวน 6 จุดใน อ.เมือง อ.หัวหิน และ อ.บางสะพาน เพื่อบรรเทาค่าครองชีพให้กับประชาชน
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคตะวันตก","ประจวบคีรีขันธ์","สวท.ประจวบคีรีขันธ์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121085713723"], [537,"ผู้ว่าฯสมุทรสงคราม เปิดงานเทศกาลส้มโอขาวใหญ่และของดีสมุทรสงครามต้อนรับเทศกาลตรุษจีนปี2565","วันนี้(21 ม.ค.65) ที่บริเวณวดปากน้ำ ตำบลแควอ้อม อำเภออัมพวา นายขจร ศรีชวโนทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานเปิดงานเทศกาลส้มโอขาวใหญ่และของดีสมุทรสงคราม โดยมีนางกฤษาพร สุนทรพจน์ พาณิชย์จังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดเทศกาล พร้อมด้วยนายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภาคเอกชน เกษตรกร พ่อค้า ประชาชน ร่วมเปิดงานอย่างคึกคัก พร้อมมอบรางวัลและประกาศนียบัตรแก่เกษตรกรผู้ชนะการประกวดส้มโอชาวใหญ่ ขนาดน้ำหนัก 1.4 1.6 กิโลกรัม และขนาดนำหนักมากกว่า 1.6 กิโลกรัม การจำหน่ายส้มโอขาวใหญ่ภายในงาน จะแบ่งออกเป็นหลายประเภท เล็ก ใหญ่ กลาง ราคาไม่เกินกิโลกรัมละ 60 บาท 3 ลูกร้อยบาท 4 ลูกร้อยบาท และแล้วแต่ตกลงราคากันเองระหว่างชาวสวนกับผู้ซื้อ
ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า ส้มโอขาวใหญ่นับว่าเป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่เป็นผลไม้ไหว้บรรพบุรุษและเป็นสิริมงคล ทางจังหวัดสมุทรสงครามจึงได้กำหนดให้ชาวสวนนำส้มโอออกมาจำหน่ายในช่วงนี้ และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกสบาย ให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวแล้วต้องการที่จะซื้อกลับไปเป็นของฝากหรือเตรียมไว้ไหว้บรรพบุรุษในช่วงตรุษจีน และยังมีสินค้า OTOP อีกหลายอย่างมาวางจำหน่ายให้ซื้ออีกด้วย งานเริ่มตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 23 มกราคม 2565 จำหน่ายตั้งแต่เวลา 08.30 19.00 น. สถานที่จอดรถสะดวกสบาย
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","สมุทรสงคราม","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121103633745"], [538,"ผู้ว่าฯ ตรัง ตรวจเยี่ยมการจัดจำหน่ายสินค้า ตามโครงการจำหน่ายสินค้าอุปโภค- บริโภค ราคาถูกสู้ภัยโควิด-19 จังหวัดตรัง ระยะที่ 3","วันนี้ (21 ม.ค.2565) นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการจัดจำหน่ายสินค้า ตามโครงการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค ราคาถูกสู้ภัยโควิด-19 จังหวัดตรัง ระยะที่ 3 ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้จังหวัดตรังและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ได้กำหนดจัดกิจกรรมระหว่างวันที่ 20-21 มกราคม 2565 ณ เทศบาลตำบลนาโยงเหนือ อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ตามที่ จังหวัดตรังได้อนุมัติงบประมาณให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ดำเนินการจัดกิจกรรมในพื้นที่ 10 อำเภอๆ ละ 2 วัน เพื่อบรรเทาภาวะค่าครองชีพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น โดยดำเนินการภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
โดยในวันนี้ ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ได้นำสินค้ามาจำหน่าย อาทิ ไข่ไก่เบอร์ 2 จำนวน 300 แผงต่อวัน ปกติราคา 108 - 110 บาท จำหน่ายเพียง 65 บาทเท่านั้น น้ำมันพืชปาล์มขนาด 1 ลิตร วันละ 180 ขวด ปกติราคา 57 - 60 บาท จำหน่ายเพียง 45 บาท ทั้งนี้ให้สิทธิ์ผู้ซื้อไข่ไก่คนละ 1 แผง น้ำมันพืชคนละ 1 ขวด นอกจากนี้ยังจำหน่ายเนื้อหมูชำแหละ อาทิ หมูเนื้อแดง (ไหล่/สะโพก/ขาหน้า/คอ) ราคาตลาด 180-200 บาท จำหน่ายเพียง 150 บาท สามชั้น 180-220 บาท จำหน่าย 170 บาท เนื้อสันใน ราคา 180-200 บาท จำหน่ายเพียง 170 บาท ซี่โครง ราคา 170-180 บาท จำหน่าย 160 บาท เครื่องใน (ตับ/หัวใจ) ราคา 130-140 บาทจำหน่าย 100 บาท ขา-หัว ราคา 120-130 บาท จำหน่าย 100 บาท กระดูกสัน ราคา 110-120 บาท จำหน่าย 100 บาท เครื่องในรวม จำหน่าย 50-70 บาท จำหน่าย 50 บาท
อย่างไรก็ตาม นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้กล่าวว่า ปัญหาราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น ทั้งเนื้อสัตว์ หมู ไก่ และสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 353,600 บาท ให้กับทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง จัดโครงการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาถูก สู้ภัยโควิด-19 จังหวัดตรัง ครั้งที่ 3 จำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตประจำวัน เพื่อเป็นทางเลือกของพี่น้องประชาชนในการจับจ่ายสินค้าราคาประหยัด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121114216784"], [539,"ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ตรวจเยี่ยมการจัดจำหน่ายสินค้า ตามโครงการจำหน่ายสินค้าอุปโภค- บริโภค ราคาถูกสู้ภัยโควิด-19 จังหวัดตรัง ระยะที่ 3 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน","
วันนี้ (21 ม.ค.2565) นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการจัดจำหน่ายสินค้า ตามโครงการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค ราคาถูกสู้ภัยโควิด-19 จังหวัดตรัง ระยะที่ 3 ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้จังหวัดตรังและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ได้กำหนดจัดกิจกรรมระหว่างวันที่ 20-21 มกราคม 2565 ณ เทศบาลตำบลนาโยงเหนือ อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง
ตามที่จังหวัดตรังได้อนุมัติงบประมาณให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ดำเนินการจัดกิจกรรมในพื้นที่ 10 อำเภอๆ ละ 2 วัน เพื่อบรรเทาภาวะค่าครองชีพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น โดยดำเนินการภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
โดยในวันนี้ ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ได้นำสินค้ามาจำหน่าย อาทิ ไข่ไก่เบอร์ 2 จำนวน 300 แผงต่อวัน ปกติราคา 108-110 บาท จำหน่ายเพียง 65 บาทเท่านั้น น้ำมันพืชปาล์มขนาด 1 ลิตร วันละ 180 ขวด ปกติราคา 57-60 บาท จำหน่ายเพียง 45 บาท ทั้งนี้ให้สิทธิ์ผู้ซื้อไข่ไก่คนละ 1 แผง น้ำมันพืชคนละ 1 ขวด นอกจากนี้ยังจำหน่ายเนื้อหมูชำแหละ อาทิ หมูเนื้อแดง (ไล่/สะโพก/ขาหน้า/คอ) ราคาตลาด 180-200 บาท จำหน่ายเพียง 150 บาท สามชั้น 180-220 บาท จำหน่าย 170 บาท เนื้อสันใน ราคา 180-200 บาท จำหน่ายเพียง 170 บาท ซี่โครง ราคา 170-180 บาทจำหน่าย 160 บาท เครื่องใน (ตับ/หัวใจ) ราคา 130-140 บาทจำหน่าย 100 บาท ขา-หัว ราคา 120-130 บาท จำหน่าย 100 บาท กระดูกสัน ราคา 110-120 บาท จำหน่าย 100 บาท เครื่องในรวม จำหน่าย 50-70 บาท จำหน่าย 50 บาท
ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า ปัญหาราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น ทั้งเนื้อสัตว์ หมู ไก่ และสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 353,600 บาท ให้กับทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง จัดโครงการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาถูกสู้ภัยโควิด-19 จังหวัดตรัง ครั้งที่ 3 จำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตประจำวัน เพื่อเป็นทางเลือกของพี่น้องประชาชนในการจับจ่ายสินค้าราคาประหยัด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121114906792"], [540,"จังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดตลาดสินค้าราคาถูก พาณิชย์ร่วมปศุสัตว์จังหวัด จัดหมูสด 5 ตัว กก.150 บาท จำหน่ายหน้าศาลากลางหมดเกลี้ยงไม่ถึงชั่วโมง ด้านผู้ว่าฯเผย ตั้งใจให้ตลาดนัดแห่งนี้เป็นการลดค่าครองชีพให้กับประชาชน","วันนี้ (21 ม.ค. 65) ที่ลานจอดรถหน้าศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดสราษฎร์ธานี โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ร่วมกับ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี อาทิ สำนักงานประมง ปศุสัตว์จังหวัดสุราษฎร์ธานีเกษตรจังหวัด สำนักงานพัฒนาชุมชน จังหวัด ร่วมกันเปิดตลาดนัดชุมชน ลดค่าครองชีพ ช่วยเหลือประชาชน โดยการ จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆให้กับประชาชน เพื่อลดค่าครองชีพในช่วงสินค้าราคาแพง โดยเฉพาะเปิดขายหมูชำแหละ 5 ตัว 500 กก. หมูเนื้อแดงราคา กก.ละ150บาท /กระดูกซี่โครงหมู/ เครื่องในหมู ราคาลดหลั่นกันไปและถูกกว่าท้องตลาด และ ยังมีหมูแช่แข็ง แพ็คละ89บาท ไข่ไก่เบอร์ 2 แผงละ 99 บาท จำนวน 200 แผง โดยมีนายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี รอง ผวจ.สุราษฎร์ธานีและหัวหน้าส่วนราชการมาให้กำลังใจทั้งผู้ซื้อและผู้ขายอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีสินค้าต่างๆเช่น น้ำมันพืช ปลากระป๋อง อีซิ๊ว ลูกชิ้นต่างๆ โดยได้รับความร่วมมือจากห้างร้านต่างๆมาเปิดบูธจำหน่ายสินค้าราคาถูกให้ประชาชน จำนวนกว่า15 ร้านค้า ซึ่งภายในตลาดมีประชาชนแห่กันมาจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมากทำให้ของบางอย่างหมดอย่างรวดเร็วไม่ถึง 1 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังมีผักสด ผลไม้และของใช้อื่น ๆอีกจำนวนมาก
นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ตลาดนัดแห่งนี้เป็นการลดค่าครองชีพให้กับประชาชนมีทั้งอาหารสดและอาหารแห้ง ทั้งหมู /น้ำมันพืช ในลักษณะผู้ประกอบการพบกับพี่น้องประชาชนและประชาชนดีใจที่ได้ซื้อหมูในราคา กก.ละ 150 บาทและวันนี้ขายหมูหมดเกลี้ยงจำนวน 5 ตัว โดยในวันศุกร์ต่อไปจะจัดในลักษณะนี้อีก มอบหมายให้ปศุสัตว์นำหมูมาขายให้เพิ่มมากขึ้น
ด้านนางขนิษฐา มุนีแนม พาณิชย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ทางกระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับทางจังหวัดตั้งจุดจำหน่ายหมูราคาถูกให้กับประชาชน โดยนอกจากตลาดชุมชนแห่งนี้ยังมีจุดจำหน่ายในอ.เมือง 4จุด อำเภอบ้านนาสาร2จุดและตอนนี้ได้เพิ่มที่ อ.ชัยบุรีอีก2จุด เพื่อลดค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยประชาชนสามารถติดตามข่าวสารได้ผ่านช่องทางหน้าเพจของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุราษฎร์ธานีประชาชนที่มาจับจ่ายสินค้ารายหนึ่งบอกว่า อยากให้ทางจังหวัดเปิดตลาดแบบนี้บ่อยขึ้น อย่างน้อยสัปดาห์ละ2-3ครั้ง โดยการมาจำหน่ายสินค้าราคาถูกช่วยลดค่าครองชีพได้มากส่วนตัวตนจะเลือกซื้อของสดและผักเป็นหลัก.
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคใต้","สุราษฎร์ธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121131948834"], [541,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตาก ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ด้านปริมาณ และราคาจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภคที่สำคัญในพื้นที่ อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก","วันที่ 21 มกราคม 2565 เจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตาก ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ด้านปริมาณและราคาจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ณ ตลาดสดเทศบาลบ้านตาก ตำบลบ้านตาก อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก มีผลการตรวจสอบดังนี้
1.สินค้ากลุ่มผักสดและเนื้อสัตว์
ผักสด มีราคาปรับตัวลดลง 15-30 บาท ดังนี้
- กระหล่ำปลี ราคาจำหน่าย จากเดิม กิโลกรัมละ 35 บาท เป็น กิโลกรัมละ 20 บาท
- ผักกาดขาว ราคาจำหน่ายจากเดิม กิโลกรัมละ 50 บาท เป็น กิโลกรัมละ 20 บาท
- พริกจินดา ราคาจำหน่าย จากเดิม กิโลกรัมละ 120 บาท เป็น กิโลกรัมละ 80 บาท
- มะเขือเทศ ราคาจำหน่ายจากเดิม กิโลกรัมละ 50 บาท เป็น กิโลกรัมละ 30 บาท
- มะละกอพันธุ์แขกนวล ราคาจำหน่ายอยู่ที่ กิโลกรัมละ 8 บาท มีราคาทรงตัวไม่ขาดตลาด โดยเกษตรกรปลูกและจำหน่ายเอง
เนื้อสัตว์ เนื้อสัตว์บางชนิดมีราคาปรับตัวสูงขึ้น 10 - 50 บาท ดังนี้
สุกรชำแหละ
- เนื้อแดง/เนื้อสะโพก/หัวไหล่ จากเดิมราคากิโลกรัมละ 180 บาท ปรับขึ้นเป็น 200- 210 บาท
- สามชั้น จากเดิมกิโลกรัมละ 190 ปรับขึ้นเป็น 220-230 บาท
เนื้อไก่ชำแหละ
- เนื้อส่วนน่องติดสะโพก จากเดิมราคากิโลกรัมละ 73 - 75 บาท ปรับขึ้นเป็น 75- 77 บาท
- เนื้อส่วนอกไก่ จากเดิมราคากิโลกรัมละ 78 - 80 บาท ปรับขึ้นเป็น 80 - 82 บาท
ปลาสด
- ปลานิลสด จากเดิมราคากิโลกรัมละ 60 บาท ปรับขึ้นเป็น 70 บาท
- ปลาทับทิม มีราคาทรงตัวจำหน่ายกิโลกรัมละ 100 บาท
ไข่ไก่ แผง 30 ฟอง ราคาจำหน่ายทรงตัว ดังนี้
- เบอร์ 0 ราคาจำหน่าย แผงละ 125 บาท
- เบอร์ 1 ราคาจำหน่าย แผงละ 115 บาท
- เบอร์ 2 ราคาจำหน่าย แผงละ 110 บาท
- เบอร์ 3 ราคาจำหน่าย แผงละ 105 บาท
- เบอร์ 4 ราคาจำหน่าย แผงละ 95 บาท
2. ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าชัดเจน ถูกต้อง ครบถ้วน
จังหวัดตากมีปริมาณสินค้าอุปโภคบริโภคที่สำคัญเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และมิให้กักตุนสินค้าหรือฉวยโอกาส ขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุอันควร
#สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","ตาก","สวท.ตาก","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121133035842"], [542,"จังหวัดตราด จับมือ depa ชูโมเดล Durian Road at Trad ยกระดับมาตรฐาน GAP สู่ GAP Plus+ สร้างความมั่นใจให้ผู้ส่งออกทุเรียน ด้วยแอปพลิเคชัน KASETTRACK","(21 ม.ค. 65) นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานการประชุมหารือการนำเทคโนโลยีไปช่วยแก้ไขปัญหาการสวมสิทธิ์ GAP ให้กับเกษตรกรจังหวัดตราด โดยมีสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) โดย ฝ่ายส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาการเกษตรสมัยใหม่ และสำนักงานฯ สาขาภาคตะวันออก เข้าร่วมประชุมหารือการยกระดับการผลิตและการส่งออกทุเรียนคุณภาพ ตลอดทั้งห่วงโซ่ ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ผ่านระบบออนไลน์ มีนายชยุทกฤดิ นนทแก้ว เกษตรจังหวัดตราด ผู้บริหารราชการส่วนจังหวัด และสมาคมผู้ประกอบการส่งออกทุเรียน มังคุด (DMA) และสมาคมการค้าผลไม้ยุคใหม่ (MAFTA) และผู้แทน บริษัท วีเดฟซอฟท์ จำกัด ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน KASETTRACK ดิจิทัลสตาร์ทอัพสัญชาติไทย หนึ่งในผู้บริการดิจิทัล (Digital Provider) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับ depa เข้าร่วมที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตรจังหวัดตราด
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ได้มอบหมายให้สำนักงานเกษตรจังหวัดตราด ยกระดับเตรียมความพร้อม รองรับเทคโนโลยีดิจิทัล แอปพลิเคชัน KASETTRACK ชูโมเดล Durian Road at Trad จากสวนสู่ล้ง ออกก่อน อ่อนไม่มี ที่ตลาด เชิญชิมทุเรียนลูกแรกของปี 2565 พร้อมยกระดับมาตรฐาน GAP สู่ GAP Plus+ เพิ่มมาตรการป้องกันโควิด-19 ในสวนทุเรียน สร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการส่งออกทุเรียนคุณภาพไปจีน ผ่านโครงการส่งเสริมและสนับสนุนคูปองดิจิทัล (mini Transformation Voucher) ของ depa ตั้งเป้าหมาย เกษตรกรกว่า 150 ราย คาดการณ์ สวนทุเรียน 3,000 ไร่ จำนวน 1,700 ตัน 96 ตู้คอนเทนเนอร์ ภายใต้ แพลตฟอร์ม แอปพลิเคชัน KASETTRACK ผู้ช่วยเกษตรกรในการวางแผนการผลิตให้ได้ตามข้อกำหนดมาตรฐาน GAP ที่ช่วยให้เกษตรกรจดบันทึกผ่านแอปพลิเคชันได้อย่างเป็นระบบ สนับสนุนการตรวจประเมินแบบเสมือนจริงแทนการเดินทางไปตรวจที่แปลงเกษตร ทำให้สามารถประเมิน ให้คำปรึกษาวิชาการในการปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง และออกใบรับรองมาตรฐาน GAP แก่เกษตรกรได้รวดเร็วขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพื่อตรวจประเมิน อีกทั้งช่วยป้องกันการนำเลขทะเบียน GAP ของเกษตรกรคุณภาพไปใช้ และลดการสวมสิทธิ์ใบรับรองมาตรฐาน GAP
ด้านสมาคมผู้ประกอบการส่งออกทุเรียน มังคุด (DMA) และสมาคมการค้าผลไม้ยุคใหม่ (MAFTA) กล่าวว่า โครงการนำร่องการประยุกต์ใช้แอปพลิเคชัน KASETTRACK ของจังหวัดตราด ถือเป็นมิติใหม่ ของการผลิตทุเรียนคุณภาพของประเทศไทย ที่จะสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการส่งออกทุเรียนคุณภาพไปจีน ทางสมาคมฯ มีความยินดีเข้าร่วมโครงการ และรับซื้อผลผลิตทุเรียน ของเกษตกรที่อยู่ในแพลตฟอร์ม แอปพลิเคชัน KASETTRACK คาดการณ์มูลค่าการซื้อทุเรียนกว่า 325 ล้านบาท
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคตะวันออก","ตราด","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121124547827"], [543,"ผู้ว่าฯ สมุทรปราการติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าในตลาดปากน้ำ","นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยหน่วยที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภค บริโภค และโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน จำหน่ายราคาหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท บริเวณตลาดปากน้ำ(วิบูลย์ศรี) และตลาดบางฆ้อง อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรปราการ โดยภายในตลาดทั้ง 2 แห่ง ยังคงมีประชาชนออกมาซื้อสินค้าอุปโภคอย่างต่อเนื่อง แม้จำนวนจะลดลงจากก่อนหน้านี้ก็ตาม
ด้าน นายสาธิต กล่อมสวัสดิ์ พาณิชย์จังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า ภาพรวมของราคาสินค้าทั้งพืชผักและอาหารสดต่างๆ ทั้งไก่ ไข่ อาหารทะเล มีการปรับขึ้นราคาบ้าง แต่ก็ยังคงเป็นไปตามกลไกตลาด ในส่วนของหมูที่มีการปรับราคาสูงขึ้น ทางรัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำโครงการโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน จำหน่ายราคาหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท ในส่วนจังหวัดสมุทรปราการ มีจุดจำหน่าย 8 จุด ประกอบด้วย อำเภอเมืองฯ 4 จุด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ 3 และอำเภอบางเสาธง 1 จุด ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน นอกจากนี้ได้ทำความเข้าใจแก่พ่อค้าแม่ค้าภายในตลาด ให้ติดตั้งป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบ และฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าอย่างไม่เป็นธรรม เป็นการซ้ำเติมประชาชน
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","สมุทรปราการ","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรปราการ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121155645945"], [544,"สระบุรีเปิดจุดจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูก กิโลกรัมละ 150 บาท เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน ไม่ถึง 20 นาทีหมดเกลี้ยง","บรรยากาศเช้าวันนี้ นางอังคณา ชิตะติดติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ตรวจเยี่ยมจุดจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูกให้กับพี่น้องประชาชน บริเวณตลาดชุมชนหน้าสำนักงานที่ดินจังหวัดสระบุรี ซึ่งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสระบุรี เปิดจุดจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูก โครงการ \"หมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน เพื่อลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนมาในการแก้ปัญหาเร่งด่วน ช่วยให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด โดยประชาชนสามารถเลือกซื้อหมูเนื้อแดงราคากิโลกรัม (กก.) ละ 150 บาท โดยเริ่มเปิดจำหน่ายตั้งแต่เวลา 08.30 น. ปรากฏว่าไม่ถึง 20 นาทีหมูที่นำมาจำหน่ายจำนวน 100 กิโลกรัม นั้นหมดเกลี้ยง ซึ่งจำกัดเพียงคนละ 1 กิโลกรัมเท่านั้น มีประชาชนสนใจมาลงชื่อจองคิวตั้งแต่ยังไม่เริ่มจำหน่าย
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้แก้ปัญหาเนื้อหมูราคาแพง โดยเปิดจุดบริการทั่วประเทศขายหมูราคาถูก กิโลกรัมละ 150 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ม.ค. 65 โดยมอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดในแต่ละจังหวัด ประสานงานกับตลาดหรือสถานที่ จัดโครงการขึ้นจนถึงสิ้นเดือน ม.ค.2565 เพื่อเป็นมาตรการเสริม เป็นทางเลือกให้กับประชาชน โดย จ .สระบุรีสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสระบุรีมีเปิดจุดบริการ คือ อำเภอเมืองสระบุรี บริเวณร้านเบทาโกร สาขาเมืองสระบุรี ร้านหมูข้าง บขส.สระบุรี ร้านหมูอ้วนฟาร์ม ร้านเจ๊ตูน ตลาดสืบศิริ อำเภอวังม่วง ร้านหมูเอ็มที อำเภอบ้านหมอ ร้านกิตติอินเตอร์ฟู๊ด อำเภอเสาไห้ร้านอ๋อมบูมหมูสด และจุดหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองสระบุรีบริเวณตลาดชุมชนหน้าสำนักงานที่ดินจังหวัดสระบุรี จุดนี้จะจัดจำหน่ายให้กับพี่น้องประชานในวันจันทร์และวันศุกร์
โดยภาพรวม จ.สระบุรี พบว่าประชาชนที่เข้ามาเลือกซื้อเนื้อสุกรชำแหละ ส่วนใหญ่นำไปปรุงอาหารสำเร็จรูปเพื่อจัดจำหน่ายและบริโภคตามปกติ ซึ่งผู้ประกอบการการค้าบางรายยังไม่ได้ปรับราคาอาหารปรุงสำเร็จขึ้น แต่หันมาใช้วัตถุดิบจากเนื้อสัตว์ประเภทอื่น อาทิ เนื้อปลา เนื้อไก่ ทดแทนเนื้อสุกรเพิ่มมากขึ้นเป็นทางเลือกอีกทั้งยังอยากให้นำสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ นำมาขายในราคาถูกด้วย
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","สระบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121133020841"], [545,"จ.อุตรดิตถ์ตรวจติดตามสถานการณ์หมูแพง","ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ตรวจติดตามสถานการณ์หมูแพงในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์
วันที่ 21 มกราคม 2565 นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมกับนางพิสมนต์ มงคลเทพ พาณิชย์จังหวัดอุตรดิตถ์ นายสัตวแพทย์ ชัยนาท แสนยศ ปศุสัตว์จังหวัดอุตรดิตถ์ ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์หมูแพงในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยนายสัตวแพทย์ ชัยนาท แสนยศ ปศุสัตว์จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ให้ข้อมูลว่าจากการตรวจสอบห้องเย็น จำนวน 20แห่ง ปรากฏว่ายังไม่พบการกักตุนเนื้อหมูตามห้องเย็นต่างๆ ทั้งนี้จังหวัดอุตรดิตถ์ได้ขอความร่วมมือภาคธุรกิจ ฟาร์ม โรงฆ่าสัตว์ให้จำหน่ายเนื้อหมูแก่ประชาชน ในราคาที่ยุติ ในขณะนี้ปริมาณเนื้อหมูที่มีในจังหวัดเพียงพอต่อความต้องการการบริโภคของพี่น้องประชาชนจังหวัดอุตรดิตถ์ ทั้งนี้ยังได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหน้าร้านที่เข้าร่วมโครงการ พาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน หมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท
#สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคเหนือ","อุตรดิตถ์","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุตรดิตถ์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121134035854"], [546,"ผู้ว่าฯ ชลบุรี ตรวจแผงชำแหละหมู และร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน ป้องกันและแก้ไขปัญหาเนื้อหมูมีราคาสูง","วันที่ 21 มกราคม 2565 เวลา 08.00 น. นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ท.สุธรรม ลครรำ พาณิชย์จังหวัดชลบุรี นายพจน์ สิชฌนุกฤษณ์ ปศุสัตว์จังหวัดชลบุรี และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานภาครัฐ ลงพื้นที่ตลาดใหม่ชลบุรี สำรวจการกักตุนเนื้อหมู ซึ่งเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ.2497 รวมทั้งราคาหมูชนิดต่าง ๆ จากสถานการณ์ที่เนื้อหมูมีราคาสูงขึ้น โดยได้สอบถามและพูดคุยกับทางร้านค้าและประชาชน ถึงราคาหมูในปัจจุบัน พบว่ามีราคาสูงขึ้นจริง ส่งผลให้ร้านค้าและประชาชนได้รับผลกระทบ โดยผู้ว่าฯ ชลบุรี ได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้น และกำชับให้ร้านค้าแสดงราคาอย่างชัดเจน พร้อมป้องกันการกักตุนเนื้อหมูในช่วงสถานการณ์นี้ด้วย
ทั้งนี้ ยังได้ลงพื้นที่ไปยังร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน ซึ่งจำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ตามที่พาณิชย์จังหวัดชลบุรี ได้ร่วมมือกับร้านค้า ตรึงราคาเนื้อหมู ช่วยเหลือประชาชน พบว่ามีปริมาณเนื้อหมูที่เพียงพอในการขายแต่ละวัน โดยในจังหวัดชลบุรี มี 6 ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ จำหน่ายตั้งแต่วันที่ 19 - 31 มกราคม 2565
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้มีบัญชาให้กระทรวงมหาดไทย ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยจังหวัดชลบุรีได้ดำเนินการ ดังนี้
1. ตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังและควบคุมโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) โดยมอยหมายปศสัตว์ จังหวัดเป็นเลขานุการ
2. เร่งสำรวจข้อมูลฟาร์มสุกร จำนวนสุกร ผู้เลี้ยงสุกร ทั้งรายย่อยและรายใหญ่ ที่ได้รับความเสียหายจากการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ให้ถูกต้องครบถ้วนเป็นปัจจุบัน รวมทั้งเตรียมการเยียวยาตามระเบียบของทางราชการที่เกี่ยวข้อง
3. กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เฝ้าระวังควบคุม กำกับ การเคลื่อนย้ายสุกรและซาก ให้เป็นไปตามมาตรการที่กรมปศุสัตว์จังหวัดกำหนดอย่างเคร่งครัด
4. มอบหมายสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สำรวจ ตรวจตราการกักตุนเนื้อสุกร กำกับดูแลร้านจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ โดยติดป้ายราคาสินค้าให้ชัดเจน
5. แจ้งนายอำเภอทุกอำเภอ กำชับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเครือข่ายประชาชนในพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากพบสุกรป่วยหรือตายผิดปกติให้แจ้งอาสาปศุสัตว์ประจำหมู่บ้านหรือปศุสัตว์อำเภอทันที
6. ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบข้อมูลข่าวสารรวมทั้งเฝ้าระวังและแจ้งเหตุผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี หมายเลขโทรศัพท์ 1567
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคตะวันออก","ชลบุรี","สวท.ชลบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121182750060"], [547,"คุมเข้มต้องแจ้งสต็อกหมู หากพบไม่แจ้งให้ดำเนินคดีตามกฎหมายได้ทันที","นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) กำหนดให้ผู้เลี้ยงสุกรตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป และผู้ครอบครอง หรือห้องเย็นที่มีสต็อกตั้งแต่ 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป จะต้องแจ้งปริมาณและราคาทุก 7 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2565 เป็นต้นมา เพื่อดูแลปริมาณสุกรและสต็อกเนื้อสุกรที่มีอยู่ทั้งประเทศ โดยสั่งให้พาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดได้บูรณาการกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกตรวจสอบติดตามผู้ประกอบการครอบครองสุกร เนื้อสุกร ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บและการจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร ตามประกาศ กกร.
หากตรวจสอบแล้วพบว่าผู้ประกอบการรายใดไม่แจ้งปริมาณ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และปรับอีกวันละ 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากพบเห็นว่ามีการกักตุนจะมีโทษตามมาตรา 30 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษจำคุก 7 ปีและปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หากประชาชนพบเห็นการกักตุน หรือจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
","21/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121150039886"], [548,"จังหวัดพิษณุโลกลงพื้นที่ตรวจสถานที่เก็บเนื้อสุกร ตามประกาศ กกร.ฉ.2","
วันนี้ (21 ม.ค.65) นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นางอุบลรัตน์ ศิลตระกูล พาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก และนายสุริพล มาบุญช่วย ปศุสัตว์จังหวัดพิษณุโลก ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การเก็บเนื้อสุกร ณ ห้องเย็น บริษัท ที่พี แปซิฟิกจำกัด ตามประกาศ กกร.ฉ.2 เรื่องการแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บและจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร ลงวันที่ 5 มกราคม 2565
สาระสำคัญของประกาศนี้คือ การกำหนดให้ผู้เลี้ยงสุกร ผู้จำหน่าย ผู้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งครอบครองสุกรมีชีวิตที่มีปริมาณตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป และครอบครองสุกรชำแหละผ่าซีก เนื้อสุกรชำแหละ แยกชิ้นส่วนที่มีปริมาณรวมกันตั้งแต่ 5,000 กิโลกรัมขึ้นไปแจ้งปริมาณ ราคาจำหน่าย สถานที่เก็บและสถานที่เลี้ยง
ทั้งนี้ สามารถแจ้ง ณ สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับโดยที่กำหนดให้แจ้ง ครั้งแรกวันที่ 10 มกราคม 2565 และทุกวันจันทร์ของสัปดาห์ถัดไป
#สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
#สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพิษณุโลก
","21/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","พิษณุโลก","สทท.พิษณุโลก","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121134343858"], [549,"กตป.ลงพื้นที่ภาคใต้ ติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานด้านกิจการโทรคมนาคม พร้อมรับฟังความคิดเห็นและประเมินผลระบบส่งสัญญาณ 5 G ของไทย","วันนี้ (21 มกราคม 2565) ที่ ห้องประชุม ไม้ขาว บอลลูม โรงแรมเจดับบลิว แมริออท ภูเก็ต รีสอร์ต แอนด์ สปา จังหวัดภูเก็ต พันเอก ดร.พีรวัส พรหมกลัดพะเนาว์ คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน ด้านกิจการโทรคมนาคม (กตป.) พร้อมด้วยคณะ ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ในการติดตามและประเมินผลตามนโยบาย กสทช. ที่สำคัญในด้านกิจการโทรคมนาคม โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีส่วนได้เสียในด้านกิจการโทรคมนาคม แสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ ที่มีความสำคัญ เช่น การเร่งรัดการนำสายสื่อสารลงใต้ดินและการจัดระเบียบสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้า มาตรการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการของ กสทช. เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 การจัดสรรและการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 700 MHZ, 2600 MHZ และ 26 GHz การจัดตั้งศูนย์ทดลองทดสอบ 5G การทดลองทดสอบ 5G (Sand Box) รวมถึงมาตรการแก้ไขปัญหา SMS หลอกลวงประชาชน โดยมีตัวแทนจากภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็น เป็นจำนวนมากภายใต้มาตรการป้องกันโรคโควิด-19
พันเอก ดร.พีรวัส พรหมกลัดพะเนาว์ กรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน ด้านกิจการโทรคมนาคม (กตป.) กล่าวว่า การลงพื้นที่ทั้ง 3 ภูมิภาคทั่วประเทศ ที่ผ่านมา พบว่า ภาพรวมของสัญญาณ 5G ตามจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่ไม่มีปัญหา โดยส่วนใหญ่ผู้ให้บริการสัญญาณมือถือเกือบทุกเครือข่ายสามารถใช้บริการได้ แต่อาจจะมีปัญหาบ้างในจังหวัดที่เป็นเมืองรองในแต่ละภูมิภาค ทั้งในตัวอำเภอ ตำบล สัญญาณอาจจะหายไปบ้าง อาจจะเกิดจากผู้ให้บริการสัญญาณมือถือที่ประมูลไปเกือบ 2 ปี นี้ เจอพิษโควิด-19 อาจส่งผลให้เกิดปัญหาในเรื่องของการจะนำอุปกรณ์ระบบ 5G เข้ามาติดตั้ง ซึ่งหลังจากนี้ไปพื้นที่ที่สัญญาณ 5G เข้าไม่ถึง กสทช. จะเร่งให้ผู้ประกอบการขยายสัญญาณให้ครอบคลุมทุกโครงข่ายตามสัญญาและเงื่อนไขที่กำหนด
อย่างไรก็ตาม สำหรับในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต สัญญาณ 5G จากการตรวจตรวจสอบพบว่ามีสัญญาณครอบคลุมประมาณ 80 90 % แต่อาจมีบางพื้นที่ที่มีลักษณะภูเขาบังสัญญาณอาจจะเข้าไม่ถึงได้ และอีกปัญหาหนึ่งที่พบในจังหวัดภูเก็ต คือเรื่องของปัญหาด้านสายโทรคมนาคมการสื่อสาร ที่ขณะนี้รัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ กสทช. และผู้ประกอบการค่ายมือถือทุกค่าย เร่งรัดจัดระเบียบสายสื่อสารให้เป็นระเบียบไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน ซึ่งหลายพื้นที่หลายจังหวัดรวมทั้งจังหวัดภูเก็ต ได้ดำเนินการนำสายสื่อสารลงใต้ดินบ้างแล้ว
ส่วนการรวบรวมข้อมูลจากการรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จะรวบรวมสรุปผลการศึกษาและวิเคราะห์ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงผลการปฏิบัติงานของ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สำนักงาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. เสนอต่อส่วนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานต่าง ๆ ในปีที่ผ่านมา เพื่อนำไปปรับปรุงการทำงานในปีต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคใต้","ภูเก็ต","สวท.ภูเก็ต","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121173544035"], [550,"จังหวัดกาญจนบุรีเร่งติดตามปัญหาสินค้าราคาแพง ควบคุมไม่ให้มีการกักตุนและฉวยโอกาส หากพบจะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด","จังหวัดกาญจนบุรีเร่งติดตามปัญหาสินค้าราคาแพง ควบคุมไม่ให้มีการกักตุนและฉวยโอกาส หากพบจะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี โดยในภาพรวมของจังหวัดกาญจนบุรียังไม่พบปัญหา สามารถควบคุมราคาไว้ได้ โดยจะมีการออกตรวจควบคุมราคาสินค้าอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน
ตามที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามการแก้ปัญหาราคาหมูแพง และสินค้าอื่นๆ ที่มีการปรับขึ้นราคา โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามไม่ให้มีการจำหน่ายสินค้าเกินราคา กักตุนและปฏิเสธการจำหน่ายสินค้า ทั้งนี้ หากพบเห็นว่ามีการฉวยโอกาสหรือฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการขั้นเด็ดขาด
วันนี้ ( 21 มกราคม 2565 ) เวลา 10.00 น. นายสมหวัง บุญระยอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วย นายผกายเนติ์ เล่งอี้ พาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เทศบาลเมืองกาญจนบุรี ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ร่วมออกตรวจติดตามราคาจำหน่ายสินค้า ไม่ให้มีการจำหน่ายเกินราคา กักตุนสินค้า และปฏิเสธการจำหน่ายสินค้า ในตลาดสดและห้างสรรพสินค้าในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมทั้งกำกับการติดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจนเพื่อให้ผู้บริโภคได้ประกอบการตัดสินใจในการซื้ออีกด้วย จากการตรวจสอบราคาสินค้าในตลาดสดและห้างสรรพสินค้า ภาพรวมของจังหวัดกาญจนบุรี ราคาจำหน่ายยังอยู่ในระดับที่เหมาะสม ทางหน่วยงานได้มีการออกตรวจกำกับดูแลอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งได้ตรวจสอบและแนะนำให้มีการติดป้ายแสดงราคา พร้อมเน้นย้ำไม่ให้มีการจำหน่ายเกินราคา กักตุนสินค้า ทำให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบ หากพบจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรียังได้มีการจัดโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยเหลือประชาชนหมูเนื้อแดง จำหน่ายในตลาดและซุปเปอร์มาเก็ต ให้กับประชาชน และจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายโดยนำสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นมาจำหน่ายให้ประชาชนเพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือนอีกด้วย ซึ่งเป็นนโยบายที่รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ให้การสนับสนุนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
นายสมหวัง บุญระยอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตามที่นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้สั่งการให้มีการออกตรวจสอบและสำรวจราคาจำหน่ายสินค้า โดยเฉพาะเนื้อหมูสด ตามที่ทราบข่าวว่ามีราคาที่สูงขึ้น จากการตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี พบว่ามีการจำหน่ายในราคาที่เหมาะสมตามกลไกของตลาด ไม่ได้มีการจำหน่ายเกินราคาแต่อย่างใด ในภาพรวมของจังหวัดกาญจนบุรีจากการตรวจสอบในตลาดสดและห้างสรรพสินค้า ราคาจำหน่ายยังอยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งทางหน่วยงานได้มีการออกตรวจกำกับดูแลอย่างต่อเนื่อง ในส่วนราคาสินค้าอื่นๆ ก็มีการปรับขึ้นเล็กน้อยตามสภาวะเศรษฐกิจแต่ยังอยู่ในระดับที่เหมาะสมและอยู่ภายใต้ราคาควบคุมที่ภาครัฐได้ขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการ สำหรับราคาของอาหารทางพาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรีได้มีการออกตรวจกำกับดูแลในราคาร้านอาหาร ปัจจุบันยังไม่ได้รับการร้องเรียนมีการปรับราคาสูงเกินควรแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตาม ขอเน้นย้ำผู้ประกอบการไม่ให้มีการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้า ทางหน่วยงานราชการได้มีการออกตรวจสต๊อกสินค้า การจำหน่ายสินค้าอย่างต่อเนื่อง หากพบว่ามีการฉวยโอกาสขึ้นราคาเกินควรและกักตุนสินค้าจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเข้มงวด
นายผกายเนติ์ เล่งอี้ พาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี ได้สนองนโยบายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในการช่วยเหลือประชาชน ในโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยเหลือประชาชนหมูเนื้อแดง โดยขณะนี้ได้มีจุดจำหน่าย จำนวน 7 จุด ทั้งในอำเภอเมืองและอำเภอใกล้เคียง ในตลาดที่ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายรวมถึงห้างสรรพสินค้าบางแห่งก็ได้เข้าร่วมโครงการ ซึ่งตอบโจทย์กับผู้ประกอบการและผู้บริโภคเป็นอย่างมาก จากที่ประชาชนมีความวิตกกังวลในเรื่องโรคระบาดในหมูและในเรื่องราคาสินค้าก็มีความมั่นใจในการเลือกซื้อ ซึ่งก็จะดำเนินการโครงการดังกล่าวต่อไป ตามนโยบายระยะสั้นในการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพของประชาชน ส่วนในระยะกลางและระยะยาว รัฐบาลก็ได้ดำเนินการ การรวบรวมสต๊อกสินค้าต่างๆจากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดและสำนักงานพาณิชย์จังหวัด เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามกฎหมายคณะกรรมการกลางว่าด้วยสินค้าและบริการ ในจังหวัดกาญจนบุรีขณะนี้ยังไม่พบการร้องเรียนหมูแพง ราคาจำหน่ายก็เป็นไปตามกลไกของตลาด และการดำเนินการอยู่ระหว่างการตรวจสอบห้องเย็นและสต๊อกต่างๆ ของผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีที่ได้แจ้งข้อมูลมาตามประกาศ คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการที่ให้แจ้งปริมาณการเลี้ยง ปริมาณการซื้อ ปริมาณการจำหน่าย ปริมาณคงเหลือ ราคาจำหน่าย สถานที่เก็บ สถานที่เลี้ยงสุกร และจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร ส่วนผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้แจ้งก็ขอให้แจ้งมายังสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อดำเนินการตรวจสอบอย่างถูกต้องต่อไป ส่วนราคาสินค้าอื่นๆ ได้มีแผนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายโดยจะนำสินค้ามาจำหน่ายที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรีให้ประชาชนได้มาเลือกซื้อเพื่อบรรเทาปัญหาค่าครองชีพอีกด้วย และในส่วนของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากราคาต้นทุนสินค้าเพิ่มสูงขึ้นก็ได้มีการช่วยเหลือ ด้วยการตรวจสอบเส้นทางกลไกของตลาดในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการเพื่อที่จะได้ทราบว่าเกิดขึ้นในส่วนใด นำมาหาแนวทางและปรับสมดุลให้เกิดขึ้นระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ให้ได้ราคาที่เหมาะสมต่อไป พร้อมทั้งยังขอย้ำเตือนผู้ประกอบการในการจำหน่ายสินค้า เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงที่ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลตรุษจีน ขอให้อย่าฉกฉวยการขึ้นราคาจำหน่ายสินค้า หากชุดตรวจออกตรวจพบหรือได้รับการร้องเรียนจะมีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจัง
ภัสร์ภรณ์ เหลืองทอง ข่าว
ทีมข่าวสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคตะวันตก","กาญจนบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121190848103"], [551,"ผู้ว่าฯ แพร่ พร้อมผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ป้องกันการกักตุนเนื้อหมู กำกับดูแลร้านจำหน่ายทั้งหมู ไก่ ไข่ไก่ และการปิดป้ายราคาสินค้า","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่ รายงานว่า วันนี้ (21 ม.ค.65) เวลา 10.30 น. นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่พร้อมด้วย นางอารีย์ เหลืองหิรัญ พาณิชย์จังหวัดแพร่ พ.ต.อ. สิทธิชัย ไกรแสง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ นางรติพร บุญคง ประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่ ตัวแทนจากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดแพร่ ตัวแทนจาก กอ.รมน.แพร่ และป้องกันจังหวัดแพร่ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ป้องกันการกักตุนเนื้อหมู กำกับดูแลร้านจำหน่ายเนื้อหมูชำแหละ ภาวะราคาสุกร ไก่ ไข่ไก่ และการปิดป้ายราคาสินค้า
โดยลงพื้นที่ไปยังร้านเขียงหมูน้ำทองฟาร์ม ถนนเหมืองหิต ตำบลในเวียง อำเภอเมืองแพร่ ซึ่งจำหน่ายหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท ตามโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ! ช่วยประชาชน , ลงพื้นที่ตลาดสดแพร่ชมภูมิ่ง เพื่อติดตามภาวะราคาจำหน่ายและการปิดป้ายแสดงราคา หมู ไก่ ไข่ไก่ และพืชผลอื่นๆ/ลงพื้นที่บริษัทอุดมฟาร์มแพร่ จำกัด หมู่ 4 ตำบลทุ่งโฮ้ง อำเภอเมืองแพร่ เพื่อติดตามปริมาณและการกระจายไข่ไก่/ลงพื้นที่โรงชำแหละและตัดแต่งหมูของซีพี สาขาจังหวัดแพร่ ตำบลแม่หล่าย อำเภอเมืองแพร่ เพื่อติดตามกำกับดูแลการครอบครองหมูมีชีวิต/หมูซำแหละผ่าซีก เนื้อหมูชำแหละ แยกชิ้นส่วน และติดตามการจำหน่ายหมูชำแหละ ไก่ ไขไก่ และสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ห้างสรรพสินค้าแม็คโคร สาขาแพร่
ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวว่า รัฐบาลได้มีนโยบายผ่านทางกระทรวงพาณิชย์ ในเรื่องของการจำหน่ายเนื้อหมู โดยจัดจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูกจำนวน 9 จุด กระจายไปทั้ง 8 อำเภอ ส่วนการบริโภคหมูไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากยกเว้นช่วงเทศกาล ถ้าจะให้ราคาถูกลงกว่านี้ก็ต้องผลิตหมูให้มากขึ้น หรือลดการส่งออกหมูไปยังต่างประเทศ หรือให้เกิดความพอดีกันระหว่างผู้บริโภคกับผู้ผลิต
ด้านนายรณชัย ปัญญามูลวงษา ผู้จัดการโรงชำแหละและตัดแต่งสุกร จังหวัดแพร่ บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า พยายามจัดสรรหาสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งตอนนี้หมูขาดแคลนก็มีการเลี้ยงหมูอยู่หลายจังหวัด โดยนำหมูมีชีวิตจากจังหวัดข้างเคียงมาชำแหละ เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด ในส่วนของจังหวัดแพร่นั้นปริมาณเนื้อหมูมีเพียงพอต่อการบริโภคแน่นอน
สำหรับมาตรการกำกับดูแลหมูหรือเนื้อหมูปี 2565 นั้น กำหนดให้หมูหรือเนื้อหมูเป็นสินค้าควบคุม โดยมีมาตรการ คือ ห้ามไม่ให้ส่งออกหมูมีชีวิตไปนอกราชอาณาจักรทุกกรณีเป็นระยะเวลา 3 ปี ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก หรือปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ, กำหนดให้ผู้เลี้ยง ผู้จำหน่าย ผู้ส่งออก ซึ่งครอบครองหมูมีชีวิตตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป ผู้ครอบครองหมูชำแหละ ผ่าซีก เนื้อหมูชำแหละแยกชิ้นส่วน ที่มีปริมาณรวมกันตั้งแต่ 5,000 กิโลขึ้นไป ต้องแจ้งปริมาณการเลี้ยง การซื้อ การจำหน่าย การใช้ การส่งออก การรับฝาก คงเหลือ ราคาจำหน่าย สถานที่เก็บ สถานที่เลี้ยง ซึ่งหากไม่ดำเนินการตามถือว่ามีโทษ จำคุก ปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ, กำหนดให้ผู้จำหน่ายเนื้อหมูชำแหละ และส่วนที่บริโภคได้ ต้องแสดงราคาจำหน่ายปลีกไว้ที่สินค้าหรือบริเวณใกล้เคียง โดยให้แสดงราคาต่อหน่วยในลักษณะที่ชัดเจน และเปิดเผย สามารถอ่านได้ง่าย กรณีมีค่าใช้จ่ายอื่นๆให้แสดงควบคู่ด้วย และต้องแสดงให้ตรงกับราคาที่จำหน่าย นอกจากนี้ยังห้ามจำหน่ายหมู เนื้อหมูในราคาสุงเกินสมควร และห้ามกักตุนหมู เนื้อหมูโดยสถานที่เก็บ สถานที่เลี้ยงไม่ตรงตามที่แจ้ง ไม่จำหน่าย หรือปฏิเสธการจำหน่าย โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ก็จะมีโทษจำคุก หรือปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคเหนือ","แพร่","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121162529978"], [552,"ผู้ว่าฯ ตาก พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบสต็อคหมูชำแหละ ของห้างหุ้นส่วนจำกัด เสริมกสิกิจ ผลการตรวจสอบไม่พบการกักตุนสินค้าแต่อย่างใด และคาดว่าเนื้อหมูมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค","วันนี้ (21 ม.ค. 65) เวลา 11.00 น. ที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด เสริมกสิกิจ ตำบลไม้งาม อำเภอเมือง จังหวัดตาก นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อมด้วย นางสาวปาริชาติ พงค์พันเทา พาณิชย์จังหวัดตาก นายชัชวาลย์ ปัญญา ปลัดจังหวัดตาก และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบฟาร์มหมูและสถานที่พักเนื้อหมูชะแหละ
จากการตรวจสอบปริมาณเนื้อหมูที่ครอบครอง สถานประกอบการมีปริมาณชิ้นส่วนหมูชำแหละ ข้อมูล ณ วันที่ 21 มกราคม 2565 จำนวน 3,618 กิโลกรัม และมีปริมาณชิ้นส่วนหมูชำแหละที่รับฝากของบริษัทเบทาโกร เกษตรอุตสาหกรรมจำกัด จำนวน 122,000 กิโลกรัม สำหรับจำหน่ายในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด รวม 34 สาขา ซึ่งปริมาณดังกล่าวเป็นการเก็บสต็อกปกติ เพื่อจำหน่ายในพื้นที่ภาคเหนือ ในส่วนของปริมาณหมูมีชีวิตและหมูชำแหละพบว่า มีปริมาณที่สมดุลกัน ซึ่งมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค และผู้ประกอบการไม่มีการกักตุนสินค้าแต่อย่างใด ซึ่งมีการนำสินค้าออกจำหน่ายในทางการค้าปกติ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่พาณิชย์ได้กำชับให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมาย ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2565 ลงวันที่ 5 มกราคม 2565 เรื่อง ห้ามส่งออกสุกรมีชีวิตไปนอกราชอาณาจักร และประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2565 ลงวันที่ 5 มกราคม 2565 เรื่อง การแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร โดยกำหนดให้ผู้เลี้ยง ผู้จำหน่าย ผู้ส่งอออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งครอบครองสุกรมีชีวิตที่มีปริมาณตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป ไม่ว่าจะครอบครองในฐานะผู้มีสิทธิ์หรือครอบครองแทนผู้อื่น แจ้งปริมาณการเลี้ยง ปริมาณการซื้อ ปริมาณการจำหน่าย ปริมาณการส่งออก ปริมาณคงเหลือ ราคาจำหน่าย สถานที่เก็บ และสถานที่เลี้ยง ตามแบบแจ้ง สก.01 ภายในวันที่ 10 มกราคม 2565 และให้แจ้งครั้งต่อไปเป็นประจำทุกสัปดาห์ในวันจันทร์ของสัปดาห์ถัดไป
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เปิดเผยว่า ในภาพรวมของจังหวัดตาก มีการสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกอำเภอ ดูแลเรื่องการจำหน่าย การกักตุนเนื้อหมูในตลาด และสั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง เฝ้าดูอาการของเกษตรกรหรือผู้ประกอบการเลี้ยงหมูมีชีวิต หากพบว่ามีการตายที่ผิดปกติ ให้รีบแจ้งปศุสัตว์เข้าตรวจสอบในทันที ในเบื้องต้น จังหวัดตากได้ดำเนินการควบคุมดูแลปัญหาเนื้อหมูมีราคาแพง ตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคตะวันตก","ตาก","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตาก","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121165200006"], [553,"จังหวัดพิษณุโลก ออกตรวจสอบห้องเย็นป้องกันกักตุนเนื้อสุกรไม่ให้เกิดความเสียหายต่อภาพรวมของระบบเศรษฐกิจ","นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นางอุบลรัตน์ ศิลตระกูล พาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก นายสุริพล มาบุญช่วย ปศุสัตว์จังหวัดพิษณุโลก ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การเก็บเนื้อสุกร ตามประกาศประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคา สินค้าและบริการ ฉบับที่ 2 เรื่องการแจ้งปริมาณ ราคา หาที่เก็บและจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร ลงวันที่ 5 มกราคม 2565 กำหนดให้ผู้เลี้ยงสุกร ผู้จำหน่าย ผู้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งครอบครองสุกรมีชีวิตที่มีปริมาณตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป และครอบครัวสุกรชำแหละผ่าซีก เนื้อสุกรชำแหละแยกชิ้นส่วน ที่มีปริมาณรวมกันตั้งแต่ 5 ตัน ขึ้นไปแจ้งปริมาณ ราคาจำหน่าย สถานที่เก็บและ สถานที่เลี้ยง โดยให้แจ้งที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยกำหนดให้พี่แจงครั้งแรกในวันที่ 10 มกราคม 2565 และทุกวันจันทร์ของสัปดาห์ถัดไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า การติดตามสถานการณ์การเก็บเนื้อสุกรในวันนี้ ไม่พบว่ามีการกักตุนเนื้อสุกรแต่อย่างใด ซึ่งส่วนใหญ่หมูที่ตรวจพบผู้ประกอบการจะรับมาฝากแช่ไว้ในพื้นที่รอการจัดจำหน่วย และการนำเข้ามาในพื้นที่ก็มีใบอนุญาตถูกต้องยังไม่พบอะไรที่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและคณะกรรมการกักตุนสินค้าจังหวัดพิษณุโลก จะยังคงมีการเข้าตรวจสอบห้องเย็นทั้งหมด ซึ่งพบว่ามีหลายบริษัทที่เปิดให้บริการห้องเย็นในลักษณะเดียวกันนี้ เพื่อป้องกันการกักตุนเนื้อสุกรไม่ให้เกิดความเสียหายต่อภาพรวมของระบบเศรษฐกิจและเกิดผลกระทบกับประชาชน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคเหนือ","พิษณุโลก","สวท.พิษณุโลก","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121165331008"], [554,"พ่อเมืองแพร่ห่วงใยประชาชนภาวะสินค้าราคาแพง ลงพื้นที่ติดตามสภาวการณ์ราคาสินค้าในตลาด","
นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ลงพื้นที่ร้านจำหน่ายเนื้อหมูน้ำทองฟาร์ม และตลาดสดแพร่ชมภูมิ่ง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ เพื่อติดตามสภาวการณ์ราคาสินค้าตามท้องตลาด และร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน จำหน่ายหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท รวมทั้งสินค้าอื่นๆ ที่มีการบริโภคทดแทนเนื้อหมู อาทิ เนื้อไก่ ไข่ไก่ เนื้อปลา ทั้งนี้เพื่อป้องกันการกักตุนสินค้า กำกับดูแลร้านจำหน่ายสินค้าไม่ให้เกิดการเอาเปรียบผู้บริโภค โดยได้ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดแพร่ สำนักงานสาขาชั่งตวงวัดแพร่ ในการควบคุมราคาสินค้าและการชั่งตวงวัดปริมาณสินค้าให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้บริโภค
ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวว่า เป็นการลงมาติดตามสถานการณ์ตลาดภายในจังหวัดแพร่ให้มีการควบคุมราคาและการซื้อขายที่เป็นธรรมต่อประชาชน รวมถึงติดตามการดำเนินมาตรการของรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชนทั้งโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน จำหน่ายหมูเนื้อแดง และการเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชน ทั้งนี้ จังหวัดแพร่ได้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนโดยเพิ่มช่องทางการตลาดให้สามารถเข้าถึงสินค้าราคาถูกของผู้ซื้อผู้บริโภค และให้ผู้ประกอบการสามารถจำหน่ายสินค้าได้
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ยังได้ติดตามแหล่งกระจายไข่ไก่ ณ บริษัทอุดมฟาร์มแพร่ จำกัด ตำบลทุ่งโฮ้ง อำเภอเมืองแพร่ เพื่อตรวจสอบปริมาณและการกระจายไข่ไก่ในพื้นที่จังหวัดแพร่ ติดตามกำกับดูแลการครอบครองสุกรชำแหละผ่าซีก สุกรชำแหละแยกชิ้นส่วน ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เรื่อง การแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร ณ โรงชำแหละและตัดแต่งสุกรของซีพี สาขาจังหวัดแพร่ ตำบลแม่หล่าย อำเภอเมือง และติดตามการจำหน่ายหมูชำแหละ ไก่ และสินค้าอุปโภคบริโภค ในห้างโมเดิร์นเทรด ที่ห้างสรรพสินค้าแม็คโคร อำเภอเมือง จังหวัดแพร่
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคเหนือ","แพร่","สวท.แพร่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121162808982"], [555,"ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ตรวจแผงชำแหละหมู","ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เข้าตรวจแผงชำแหละหมู แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน กรณีเนื้อสุกรชำแหละมีราคาสูง พร้อมตรึงราคาก่อนไหว้ตรุษจีน ไม่ให้แพงเกินความเป็นจริง
วันที่ 21 มกราคม 2565 นายภัครธรณ์ เทียนไขย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย พาณิชย์จังหวัดชลบุรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ปศุสัตว์จังหวัดชลบุรี ปลัดจังหวัดชลบุรี นายอำเภอเมืองชลบุรี และผู้เกี่ยวข้อง ได้ออกปฏิบัติหน้าที่ในการสำรวจการกักตุนเนื้อสุกรในพื้นที่อำเภอเมืองชลบุรี เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ.2497 ที่ตลาดใหม่ชลบุรี และร้านจำหน่ายหมูเนื้อแดงโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน
นายภัครธร์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ตามที่เกิดสถานการณ์ราคาเนื้อสุกร ปรับตัวสูงขึ้นอย่างผิดปกติ ส่งผลกระทบให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาดังกล่าว เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการฉวยโอกาสของผู้ประกอบการหรือผู้ค้าเนื้อสุกรในการกักตุนเนื้อสุกร โดยประสงค์ให้ เนื้อสุกรขาดแคลนในท้องตลาด เพื่อที่จะได้นำเนื้อสุกรออกจำหน่ายในราคาที่สูง ในการนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน สำหรับจังหวัดชลบุรีได้ดำเนินการตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังและควบคุมโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) พร้อมเร่งสำรวจข้อมูลฟาร์มสุกร จำนวนสุกร ผู้เลี้ยงสุกร ทั้งรายย่อยและรายใหญ่ ที่ได้รับความเสียหายจากการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ให้ถูกต้องครบถ้วนเป็นปัจจุบัน รวมทั้งเตรียมการเยียวยาตามระเบียบของทางราชการที่เกี่ยวข้อง กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เฝ้าระวังควบคุม กำกับการเคลื่อนย้ายสุกรและซากให้เป็นไปตามมาตรการที่กรมปศุสัตว์จังหวัดกำหนดอย่างเคร่งครัด มอบหมายสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สำรวจ ตรวจตราการ กักตุนเนื้อสุกร กำกับดูแลร้านจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ โดยติดป้ายราคาสินค้าให้ชัดเจน แจ้งนายอำเภอทุกอำเภอ กำชับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่ายประชาชนในพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากพบสุกรป่วยหรือตายผิดปกติให้ แจ้งอาสาปศุสัตว์ประจำหมู่บ้านหรือปศุสัตว์อำเภอทันที ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบข้อมูลข่าวสารรวมทั้งเฝ้าระวัง หากประชาชนพบราคาหมูแพงกว่าความเป็น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนสามารถแจ้งเหตุผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี โทร1567 ที่ทำการปกครองจังหวัดชลบุรี
ด้านว่าที่ร้อยโทสุธรรม ลครรำ พาณิชย์จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดชลบุรี ได้จัดโครงการพาณิชย์ลดราคา!ช่วยประชาชน (หมูเนื้อแดง) โดยมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย อำเภอเมืองชลบุรี ได้แก่ ร้านเบทาโกร ช๊อป สาขาชลบุรี ตั้งอยู่ที่ถนนพระยาสัจจา ตำบลเสม็ด ร้านหมูสดใส อยู่ที่หมู่ 3 ตำบลห้วยกะปิ ร้านศิริไลฟาร์ม ฟู๊ด อยู่ที่หมู่ 4 ตำบลบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี และร้านเจ้คิ้ม หมูบางทราย ตำบลบางทราย ส่วนอำเภอศรีราชา ได้แก่ ร้านเบทาโกร ช็อป สาขาบ่อวิน อยู่ที่ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา ส่วนอำเภอเกาะจันทร์ ได้แก่ ร้าน K&N meat อยู่ที่ ตำบลเกาะจันทร์ อำเภอเกาะจันทร์ ส่วนอำเภอบ่อทอง ได้แก่ ร้านคุณนุ หมูสด อยู่ตรงข้ามเทศบาลตำบลบ่อกวางทอง ตำบลบ่อทอง และอำเภอบ้านบึง ได้แก่ ร้านคูณทรัพย์ หมูอนามัย อยู่ที่ชอยเชิดน้อย ตำบลบ้านบึง อำเภอบ้านบึง จำหน่ายหมูเนื้อแดง ในราคากิโลกรัม 150 บาท จำกัด คนละไม่เกิน 2 กิโลกรัม ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 มกราคม 2565 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดชลบุรี โทร 038 -277217
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคตะวันออก","ชลบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121193752132"], [556,"จ.ประจวบฯ ปล่อยแถวออกตรวจห้องเย็น เพื่อป้องกันการกักตุนเนื้อหมู ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง","เช้าวันนี้ (21 ม.ค.65) นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานการปล่อยแถวตรวจสอบห้องเย็น ห้องเก็บสินค้า เพื่อป้องกันการกักตุนสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง โดยได้มอบหมายให้ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ พ.ต.อ.ภาคภูมิ โห้ใย รอง.ผบก.ภ.ประจวบฯ ปลัดจังหวัดประจวบฯ พาณิชย์จังหวัดประจวบฯ ปศุสัตว์จังหวัดประจวบฯ ประมงจังหวัดประจวบฯ ประชาสัมพันธ์จังหวัดประจวบฯ นายกเทศมนตรีเมืองประจวบฯ และผู้แทนสาธารณสุขจังหวัดประจวบฯ บูรณาการร่วมกันนำกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบร้านจำหน่ายสินค้า เขียงหมู ห้องเย็น และฟาร์มเลี้ยงหมู เพื่อตรวจสอบป้องกันการกักตุนเนื้อหมูเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด หลังจากที่ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะเนื้อหมูมีการขยับราคาสูงขึ้น ซึ่งผลการสุ่มตรวจภายในห้องเย็นและสถานประกอบการในพื้นที่อำเภอเมือง จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ ร้านอุงมุ้ยเฮียง หมูนพรัตน์ ห้องเย็นโรงงานเล็กปลาจิ้งจั้ง คลองวาฬ และหนองยาวฟาร์ม ต.ห้วยทราย ไม่พบว่ามีการกักตุนเนื้อหมูแต่อย่างใด
ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เปิดเผยว่า ในส่วนของจังหวัดประจวบฯ โดยสำนักงานพาณิชจังหวัดประจวบฯ ได้มีการประกันราคาหมูเนื้อแดง ในราคา กก.ละ 150 บาท ปริมาณ 60 กก./จุด/วัน จำนวน 7 จุด ซึ่งเป็นที่พึงพอใจของประชาชน พร้อมทั้งยังมีมาตรการในการควบคุมการกักตุนสินค้าอุปโภคบริโภค โดยมีการสุ่มตรวจโกดังสินค้า เขียงหมู ซึ่งจากการออกตรวจในวันนี้ไม่พบผู้ประกอบการที่กักตุนสินค้าเกินเกณฑ์ที่กำหนด และฟาร์มสุกรที่แจ้งยอดก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ได้ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการ ติดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคใช้เป็นข้อมูลประกอบในการพิจารณาเลือกซื้อหรือใช้สินค้าได้เป็นธรรม
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคตะวันตก","ประจวบคีรีขันธ์","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121185645090"], [557,"จังหวัดตรังจัดชุดพาณิชย์-ปศุสัตว์ นำทีมลงพื้นที่ลุยตรวจสอบติดตามโกดังหมูไก่ เฝ้าระวังหวั่นผู้ประกอบการกักตุนสินค้า หมู ไก่ เบื้องต้น ไม่พบการกักตุนสินค้า","จังหวัดตรังจัดชุดพาณิชย์-ปศุสัตว์ นำทีมลงพื้นที่ลุยตรวจสอบติดตามโกดังหมูไก่ เฝ้าระวังหวั่นผู้ประกอบการกักตุนสินค้า หมู ไก่ เบื้องต้น ไม่พบการกักตุนสินค้า มีเพียงพอกับความต้องการบริโภค ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายชัดเจน และได้แจ้งเตือนให้ผู้ประกอบการห้ามกักตุนสินค้าให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มาตรา 30 หากฝ่าฝืนอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งจำปรับ ตามมาตรา 41
วันนี้ (21 ม.ค.2565) ที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดตรัง นายภูวนัฐ สมใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย พล.ต.ต.สันทัด วินสน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง นางสาวณัฐธยาน์ ทวีวงศ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดตรัง นายภานุวัฒน์ พูลสวัสดิ์ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง หัวหน้าด่านกักกันสัตว์ตรัง และนายจุลชาติ จุลเพชร หัวหน้ากลุ่มพัฒนาคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดตรัง ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ราคาหมู ไก่ ไขไก่ ที่มีราคาปรับสูงอย่างต่อเนื่อง จากนั้นได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสต็อกสินค้าเนื้อสุกรชำแหละ เนื้อไก่สด ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฉบับที่ 2 พ.ศ.2565 เรื่อง การแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร ณ วันที่ 5 มกราคม พ.ศ.2565 และตามพระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พศ.2497 ได้ลงพื้นที่ทั้งหมด 3 แห่ง คือ บริษัทเพิ่มพูน ผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด เบทาโกรช็อป สาขาตรัง และห้างแม็คโคร สาขาตรัง
เบื้องต้นจากการตรวจสอบ ไม่พบการกักตุนสินค้า และสินค้ามีเพียงพอกับความต้องการบริโภค ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายชัดเจน ทั้งนี้ ได้ แจ้งเตือนให้ผู้ประกอบการห้ามกักตุนสินค้า ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มาตรา 30 หากฝ่าฝืนอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งจำปรับ ตามมาตรา 41
นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง กล่าวว่า วันนี้ทีมจังหวัดตรังหลายภาคส่วนร่วมกันลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ปริมาณ และราคา ทั้งหมู และ ไก่ ที่เป็นสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพของพี่น้องประชาชน พบว่ามีสินค้าเพียงพอ ไม่มีการกักตุน ราคาก็อยู่ในเกณฑ์ที่ทางรัฐบาลขอความร่วมมือ ได้ลงพื้นที่บริษัทจำหน่าย ไก่ หมู ที่บริษัทเพิ่มพูน ผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด, เบทาโกรช็อป สาขาตรัง และห้างแม็คโคร สาขาตรัง ทั้งหมด 3 จุด และในสัปดาห์ต่อไปจะมีแผนออกตรวจเพิ่มเติมอีก
ในส่วนของเรื่องอาหารสัตว์แพงจะต้องระดับนโยบายจะต้องเข้ามาดูแล ตัววัตถุดิบที่มาผลิตเป็นอาหารสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ ถั่วเหลือง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้มีการปรับราคาสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นต้องดูที่ต้นทาง และในช่วงเทศกาลตรุษจีนทางพาณิชย์จังหวัดตรังได้ติดตามสถานการณ์ในเรื่องของราคา ต้องการให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน เพื่อที่จะให้ผู้บริโภคสามารถที่จะเลือกซื้อ ตัดสินใจซื้อได้ ในส่วนของหมูมีการจัดจุดจำหน่ายทั้งหมด จำนวน 12 จุด โดยจำหน่ายเนื้อหมูแดง ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท จะดำเนินการไปจนถึงสิ้นเดือนมกราคมนี้ เพื่อที่จะให้พี่น้องประชาชนมีทางเลือกในการซื้อหมูในราคาถูกกว่าท้องตลาด
ซึ่งทาง บริษัท เบทาโกรช็อป สาขาตรังก็ได้ให้ความร่วมมือกับทางราชการในการเปิดจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดง ราคากิโลกรัมละ 150 บาทเช่นกัน และในส่วนของพืชผักที่จ่อขึ้นราคาในช่วงตรุษจีน ตอนนี้ทางพาณิชย์จังหวัดตรังเองก็ได้ติดตามราคาพืชผักผลไม้ ในตลาด ก็ได้ดูราคาอยู่ ส่วนใหญ่ราคายังไม่มีการปรับ ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการบริโภคอาจจะเพิ่มขึ้น โดยสถานการณ์ผู้ประกอบการเองก็ต้องดูว่าสามารถขึ้นราคาได้หรือไม่ ทางพาณิชย์เองได้ลงไปกำชับไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า และหากจะขึ้นราคาจริง ๆ ขอให้มีเหตุผลว่า ขึ้นเพราะอะไร หากผู้ประกอบการมีการฝ่าฝืนไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า มีโทษปรับ ไม่เกิน 10,000 บาท แต่หากมีการฉวยโอกาสและมีการกักตุนสินค้า จะมีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งจำปรับ ตามมาตรา 41
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121163211989"], [558,"ผู้ว่าฯนราธิวาสพร้อมด้วยผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้า ประเภทอาหารสด ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองนราธิวาส","วันนี้ 21 ม.ค.65 เวลา 07.30 น.นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยนางวรรณภรณ์ เกตุทัต ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจตลาดสดเทศบาลเมืองนราธิวาส(ตลาดสดหัวลำโพง) เป็นตลาดสดขนาดใหญ่ในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส เพื่อตรวจติดตามราคาสินค้าต่างๆ ประเภท เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ พืชผักและผลิตผลทางการเกษตร โดยมีนายไพซอล อาแว นายกเทศมนตรีนราธิวาส นางนฤมล แก้วมุกดากุล พาณิชย์จังหวัดนราธิวาส นายบัญชา กันหาสินธุ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ฯ
ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสและคณะ ได้พูดคุยทำความเข้าใจกับพ่อค้า-แม่ค้าในตลาดเกี่ยวกับการค้าขายสินค้า ขอให้มีการค้าขายในราคาตามความเป็นจริง และขอให้จำหน่ายสินค้าด้วยความเป็นธรรมกับผู้บริโภค พร้อมทั้งขอความร่วมมือไม่ให้มีการกักตุนสินค้า หรือฉกฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า โดยเฉพาะสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ เช่น ข้าวสาร เนื้อสัตว์ หรือไข่ไก่ จะต้องมีป้ายบอกราคาสินค้าที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค
นอกจากนี้ แล้วนายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.นราธิวาส ได้ถือโอกาสทำการประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านได้รับรู้ ถึงมาตรการในการช่วยเหลือผู้บริโภค โดยสำนักงานพาณิชย์ จ.นราธิวาส ได้เปิดพื้นที่ 10 จุด ใน 6 อำเภอ คือ อ.เมืองนราธิวาส สุไหงโก-ลก ตากใบ สุไหงปาดี รือเสาะ และอำเภอศรีสาคร ซึ่งจำหน่ายหมู่เนื้อแดงราคาถูกเพียงกิโลกรัม 150 บาท ตั้งแต่วันที่ 16 ถึง 31 มกราคม 2565
ทางด้านนายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.นราธิวาส กล่าวว่า จากการเดินตรวจเยี่ยมติดตามที่ตลาดสดเทศบาลเมืองนราธิวาส พบว่าโดยรวมทีการการติดป้ายกำกับราคาสินค้าบอกราคา ซึ่งได้เน้นย้ำในเรื่องของราคา และกลไกของตลาด โดยเฉพาะในเรื่องของเนื้อหมูให้พยายามคงราคานี้ไว้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่เราได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาด
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคใต้","นราธิวาส","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121164626999"], [559,"รองผู้ว่าฯนครพนม นำท่มออกตรวจเยี่ยมโครงการ หมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน จังหวัดนครพนม","
นายชาญชัย คงทัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายจิรวุฒิ สุวรรณอาจ พาณิชย์ ช่วยประชาชน ตามนโนบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเป็นการลดภาระค่าครองชีพลและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภค อีกทั้งเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และที่ได้รับผลกระทบจากราคาเนื้อสุกรปรับตัวสูงขึ้น
โดยจังหวัดนครพนม จัดให้มีจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคาที่ตำกว่าท้องตลาด ตั้งแต่วันที่ 16-31 มกราคม 2565 ราคากิโลกรัมละ 150 บาท รวม 7 จุดจำหน่าย
1.แหลมทองโภคภัณฑ์ ข้างธนาคารออมสินสาขานครพนม จังหวัดนครพนม
2.อารีย์เนื้อหมูสด ตำบลหนองสังข์ อำเภอนาแก
3.ตุ๊ดตู่หมูสด ตำบลพิมาน อำเภอนาแก
4.กวินหมูสด ตำบลนาแก อำเภอนาแก
5. ร้านสกล ตลาดสดเทศบาลปลาปาก ตำบลปลาปาก อำเภอปลาปาก
6. ครูรักหมูสด ตลาดสดบ้านนาพระชัย ตำบลหนองแวง อำเภอบ้านแพง
7.ปังหอมหมูสด 129 หมู่ที่ 5 บ้านดอนดู่ ตำบลนาทม อำเภอนาทม
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","นครพนม","สวท.นครพนม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121153430909"], [560,"มรย.เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก สู่ เบตง 10,000 ล้าน","ทีมผู้บริหาร มรย.และคณะ ลงพื้นที่เบตง ติดตามโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและอุตสาหกรรมบริการเพื่อสร้างโอกาสการท่องเที่ยวสู่ เบตง 10,000 ล้าน
วันนี้ (21 ม.ค.65) ที่ ห้องรับรองมูลนิธิ 80 ปี ชั้น 2 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมบัติ โยธาทิพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ให้การต้อนรับ
ดร.ณพพงศ์ ธีระวร กรรมการสภามหาวิทยาลัยฯผู้ทรงคุณวุฒิ พร้อมด้วยคณะ และ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา หารือแนวทางการดำเนินโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและอุตสาหกรรมบริการเพื่อสร้างโอกาสการท่องเที่ยวสู่ เบตง 10,000 ล้าน โดยร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย ในการพัฒนาพื้นที่อำเภอเบตงเป็นพื้นที่ต้นแบบ เพื่อพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนและงานวิจัยของทุกคณะ และทุกสถาบันในมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาให้สนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและอุตสาหกรรมบริการในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนนำคณะลงพื้นที่ศึกษาดูงาน ณ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121165522010"], [561,"จังหวัดศรีสะเกษ เตรียมการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากจังหวัดศรีสะเกษ","วันนี้(21 ม.ค. 2565) ที่ห้องประชุมสำนักงานวัฒนธรรม จังหวัดศรีสะเกษ
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ มอบหมายให้นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานการประชุมเตรียมการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากจังหวัดศรีสะเกษ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2565
รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จังหวัดศรีสะเกษ กำหนดจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากจังหวัดศรีสะเกษ ระหว่างวันที่ 13-15 กุมภาพันธ์ 2565 ณ สวนสาธารณะกุดหวาย \"อนุสรณ์ 239 ปี จังหวัดศรีสะเกษ\"
โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาศักยภาพทุนมนุษย์ตามกรอบทิศทางยุทธศาสตร์ ระยะ 20 ปี เพื่อปรับปรุงพัฒนาการท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และด้านมรดกศิลปวัฒนธรรมให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และสร้างรายได้เพิ่มทางเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด และสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รวมทั้งสนับสนุนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการดำเนินงานด้านศิลปวัฒนธรรมให้เกิดการพัฒนาพื้นที่ แหล่งเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรม โดยมี วัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ พาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ พัฒนาการจังหวัดศรีสะเกษ ผู้แทน ผอ.สนง.ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดศรีสะเกษ ผู้แทน พมจ.ศรีสะเกษ และผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ศรีสะเกษ","สวท.ศรีสะเกษ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121154643926"], [562,"กรณีห้องเย็นสงขลา พบมีความผิดฐานไม่แจ้งสต็อก ย้ำ มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่น และปรับรายวันอีก 2,000 บาทจนกว่าจะดำเนินการให้ถูกต้อง","นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นำทีมเข้าตรวจห้องเย็น หลังพบมีเนื้อหมูฝากเก็บไว้กว่า 2 แสนกิโลกรัม โดยกล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ว่าเข้าข่ายการกักตุนสินค้าหรือไม่ แต่ได้คุยกับผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในฐานะประธานวอร์รูมติดตามสถานการณ์สินค้าระดับจังหวัดแล้ว เบื้องต้นพบความผิด ฐานไม่แจ้งสต็อกตามคำสั่งของกรมการค้าภายใน ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และจะดำเนินการปรับต่อเนื่องอีกวันละ 2,000 บาท จนกว่าจะมีการดำเนินการให้ถูกต้อง
ส่วนจะเข้าข่ายการกักตุนสินค้าหรือไม่นั้น จะต้องรอทางผู้ว่าราชการจังหวัดตรวจสอบข้อมูล และดำเนินการในรายละเอียดก่อน และจะมีการแถลงให้ทราบต่อไป อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดทุกพื้นที่ เร่งบูรณาการกับผู้ว่าราชการจังหวัดออกตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง หากพบมีการกักตุน ก็จะมีความผิดตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ
","21/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121200043145"], [563,"เปิดแปลงสาธิตแปลงสาธิต สระแก้วโมเดล ปลูกกระท่อมแปรรูป เพื่อการส่งออก","
วันนี้ (21 ม.ค.65) นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้บ้านสวนรักเพื่อน (สวนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน) ณ ศูนย์เรียนรู้บ้านสวนรักเพื่อน เลขที่ 322 หมู่ที่ 13 บ้านหนองโสน ตำบลหนองหว้า อำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว บนพื้นที่ของ นายบุญตา รักเพื่อน ซึ่งเป็นแปลงสาธิต สระแก้วโมเดล ปลูกกระท่อมแปรรูปเพื่อการส่งออก โดยบริษัท พีบี ออแกนิค ฟาร์ม จำกัด ร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรไทยก้าว อำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว จัดโครงการดังกล่าวขึ้น
สำหรับโครงการนี้เป็นช่องทางส่งเสริมให้เกษตรมีอาชีพ มีรายได้จากการปลูกพืชกระท่อม ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ และเพื่อให้เกษตรกรได้ศึกษาเรียนรู้แปลงสาธิตต้นแบบสำหรับการปลูกพืชกระท่อม ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน สร้างรายได้และเพิ่มอาชีพให้แก่ชาวบ้าน รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตยาจากสมุนไพรและพืชท้องถิ่น
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคตะวันออก","สระแก้ว","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระแก้ว","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121165824013"], [564,"ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ร่วมกับ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบห้องเย็นเนื้อสุกรในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีเพื่อป้องกันการกักตุนสินค้า","วันนี้ (21 ม.ค.65) นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยปศุสัตว์จังหวัด พาณิชย์จังหวัดตำรวจ และฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ตรวจร้านจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ และห้องเย็นในพื้นที่ เพื่อป้องกันการกักตุนเนื้อสุกร กำกับดูแลร้านค้าเนื้อสุกรชำแหละ ให้ติดป้ายราคาสินค้าอย่างชัดเจน โดยคณะได้ลงพื้นที่จุดแรก คือ ที่ร้าน วีทีมีท ดีสทริบิวชั่น จำกัด สาขาจันทบุรี จังหวัดจันทนิมิต อำเภอเมืองจังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์ จากการตรวจสอบ พบว่ามีเอกสารใบอนุญาตทำการค้า ใบอนุญาตให้นำและเคลื่อนย้ายซากสัตว์ และทำการค้าอย่างถูกต้องตามสุขอนามัย และมีการติดป้ายราคาอย่างชัดเจน ส่วนห้องแช่เย็น และห้องเย็น ที่เก็บสต๊อกสินค้า มีการแจ้งรายละเอียดการนำเข้าและออก ไม่พบปัญหาการกักตุนเนื้อหมูแต่อย่างใด จากนั้นเดินทางต่อไปที่ บริษัท เบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด สาขาจันทบุรี ตั้งอยู่ที่ 81/69-73 ถนนมหาราช ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ไม่พบการกักตุนเนื้อสุกรเกินกำหนด จากการตรวจสอบเอกสารถูกต้องตามข้อกำหนด ซึ่งบริษัทฯ ทำการจำหน่ายเนื้อสัตว์และสินค้าแปรรูปเนื้อสัตว์หลากชนิด โดยมีห้องแช่เย็นสินค้าเพื่อรอจำหน่ายที่สามารถจัดเก็บสินค้าทั้งหมด 6 ตัน ขณะนี้มีเนื้อหมูประมาณ 1 ตัน ที่อยู่ระหว่างการกระจายสินค้าไปในพื้นที่รับผิดชอบ
หลังจากนั้นคณะได้เดินทางไปที่บริษัทเทพมณีโคลด์ สตอเรจ จันทบุรี เลขที่ 121 หมู่ที่ 11 ตำบลนายายอาม อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นห้องเย็นขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัด มีพื้นที่จัดเก็บสินค้าได้สูงถึง 1,500 ตัน ปัจจุบันมีเนื้อสุกร อยู่ 303 ตัน สัตว์ปีก 66 ตัน และสินค้าประมง 8 ตัน โดยมีสินค้าของบริษัทรายใหญ่ นำสินค้าเข้ามาแช่แข็งประมาณ 267,000 กิโลกรัม และในจำนวนนี้มีเนื้อสุกร จำนวน 110,000 กิโลกรัม เพื่อรอกระจายสินค้าไปยังสาขาร้านค้าในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดจันทบุรี อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพื่อให้เป็นไปตามประกาศของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ที่กำหนดให้ผู้ครอบครองหรือห้องเย็นที่มีสต็อกตั้งแต่ 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป แจ้งปริมาณ และราคาทุก 7 วัน ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อดูแลปริมาณสุกรและสต็อกเนื้อสุกรที่มีอยู่ทั้งประเทศ
ทั้งนี้หากพบการกระทำผิด ผู้ประกอบการรายใดไม่แจ้งปริมาณ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และปรับอีกวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้ง หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากพบเห็นว่ามีการกักตุนจะมีโทษตามมาตรา 30 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาทหรือทั้งจำและปรับ และหากประชาชนพบเห็นการกักตุนหรือจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดจันทบุรี โทร 039311357
","21/1/2022","ภาคตะวันออก","จันทบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดจันทบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122012502205"], [565,"จ.แม่ฮ่องสอน ไม่มีปริมาณการครอบครองสุกร ที่มีปริมาณรวมกันตั้งแต่ห้าพันกิโลกรัมขึ้นไป ตามประกาศ กกร. ฉบับที่ 2 พ.ศ.2565","นางสาวยุพา นาคา สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า วันนี้ (21 ม.ค.65) สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับ ปศุสัตว์จังหวัด สคบ.จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ทำการปกครองอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อตรวจสอบและติดตามราคา ปริมาณและสถานการณ์จัดเก็บสินค้าอุปโภคบริโภค ร้าน หจก.กาดคำพลาซ่า, หจก.ไทยเสรี, ตลาดสดเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน (ตลาดสายหยุด), ภาคเหนือหมูสด, โลตัส, ซีพีเฟรชมาร์ท, เบทาโกร, หมูอินเตอร์
ผลการตรวจสอบพบว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอนไม่มีปริมาณการครอบครองสุกรชำแหละผ่าซีก เนื้อสุกรชำแหละแยกชิ้นส่วนซึ่งประกอบด้วย เนื้อไหล่ เนื้อสะโพก เนื้อสันนอก เนื้อสันใน และเนื้อหมูสามชั้น ที่มีปริมาณรวมกันตั้งแต่ห้าพันกิโลกรัมขึ้นไป ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ฉบับที่ 2 พ.ศ.2565
ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าชัดเจน สินค้ามีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค อาทิ น้ำมันปาล์ม ขนาด 1 ลิตร ราคา 55-60 บาท, น้ำมันถั่วเหลือง ขนาด 1 ลิตร ราคา 57-60 บาท, หมูเนื้อแดง ขนาด 1 กิโลกรัม ราคา 200-220 บาท, ไข่ไก่ เบอร์ 2 ราคาแผงละ 89-114 บาท,ไข่ไก่ เบอร์ 3 ราคาแผงละ 85-105 บาท, เนื้ออกไก่ ขนาด 1 กิโลกรัม ราคา 75- 100 บาท, น่องไก่ติดสะโพก ขนาด 1 กิโลกรัม ราคา 71-82 บาท, น้ำปลา ขนาด 700 มล. ราคา 30-35 บาท
ทั้งนี้ และเจ้าหน้าที่ได้กำชับให้ร้านค้าปฏิบัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 อย่างเคร่งครัด โดยปิดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน ห้ามกักตุนสินค้า และห้ามฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาที่สูงเกินสมควร
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121164325996"], [566,"จ.อุบลฯ ออกตรวจตราร้านค้า เพื่อป้องกันการกักตุนสินค้า หมูสด หมูแช่เย็น พร้อมกับได้แจ้งร้านค้าไม่ติดป้ายแสดงราคาสินค้า และจำหน่ายสินค้าตรงตามป้ายบอกราคา","วันที่ 20 มกราคม 2565 นายศิลปชัย ประเสริฐศรี นายอำเภอนาเยีย ได้สั่งการให้ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงเจ้าหน้าที่ปกครอง บูรณาการร่วมกันกับตำรวจสถานีตำรวจภูธรนาเยีย ปศุสัตว์อำเภอนาเยีย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอนาเยียที่ 22 ออกตรวจตราร้านค้า เพื่อป้องกันการกักตุนสินค้า หมูสด หมูแช่เย็น พร้อมกับได้แจ้งร้านค้า ไปติดป้ายแสดงราคาสินค้า และจำหน่ายสินค้าตรงตามป้ายบอกราคา และหากไม่ดำเนินการจะมีโทษตามกฎหมายผู้ประกอบการร้านค้า ให้ความร่วมมือด้วยดี โดยเฉพาะการจำหน่ายไข่ไก่ เป็นไปตามที่พาณิชย์จังหวัดแจ้งประชาสัมพันธ์
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อุบลราชธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121191449109"], [567,"รองผู้ว่าฯศรีสะเกษ ลงพื้นที่ติดตามราคาจำหน่ายสุกรและไก่ชำแหละ รวมทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค","วันนี้ (21 ม.ค.2565) ที่ตลาดสดเทศบาล 1 อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีสาขาศรีสะเกษ และห้างสรรพสินค้าแมคโครสาขาศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ มอบหมายให้นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ลงพื้นที่ติดตามราคาจำหน่ายสุกรชำแหละ ไก่ชำแหละ และสินค้าอุปโภค บริโภค ดังนี้
1. ตรวจเยี่ยมแผงตลาดสดเทศบาล 1 ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีสาขาศรีสะเกษ และห้างสรรพสินค้าแมคโครสาขาศรีสะเกษ เพื่อติดตามและสอบถามราคาสุกรและไก่ ซึ่งผู้ประกอบการได้จำหน่ายสินค้าเป็นไปตามกลไกตลาด มิได้มีราคาสูงกว่าปกติ โดยได้มีการตรึงราคาในส่วนสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ เพื่อรักษาฐานลูกค้าไว้ให้คงเดิม
2. ตรวจเยี่ยมจุดจำหน่ายสุกรชำแหละตามโครงการ \"พาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน\" เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายในราคาถูกกว่าท้องตลาด กิโลกรัมละ 150 บาท ดำเนินการระหว่างวันที่ 16-31 มกราคม 2565 ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษมีจุดจำหน่ายทั้งหมด 7 จุด
3. ตรวจสอบการกักตุนเนื้อสุกรชำแหละในห้างสรรพสินค้าและสถานประกอบการห้องเย็นภายในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อป้องกันการกักตุนซากสุกร ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้สุกรมีราคาที่เพิ่มสูงขึ้น และเป็นแนวทางป้องกันการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) รวมถึงตรวจสอบการลักลอบนำเข้าสัตว์ซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และพระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ.2597 จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ ห้องเย็นคุณใหม่อาหารไทยฮาลาล ห้องเย็นบุญสมหวังโฟรเซ่นฟูดส์โปรดัก ห้องเย็นแม็คโครสาขาศรีสะเกษ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีสาขาศรีสะเกษ และห้องเย็นบุญศิริโฟรเซ่นโปรดักส์ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ไม่พบการกักตุนเนื้อหมู
4. ประชาสัมพันธ์ให้พ่อค้า แม่ค้า และประชาชนมารับการฉีดวัคซีนป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
โดยมี พาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดศรีสะเกษ ประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ ผอ.กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองศรีสะเกษ ผู้แทนปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษ ผู้แทนอุตสาหกรรมจังหวัดศรีสะเกษ รก.นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมบูรณาการในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ศรีสะเกษ","สวท.ศรีสะเกษ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121163014985"], [568,"ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสลงพื้นที่ kick off การขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง Narathiwat Model : คนนราธิวาส ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ผู้ว่าฯ ใส่ใจ ห่วงใย คนนรา","วันที่ 21 ม.ค. 65 เวลา 09.45 น. ณ พื้นที่ตำบลโคกเคียนและตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสพร้อมด้วยนางสาวสุนีย์ มาหะ ผู้อำนวยการกลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชน รักษาราชการแทนพัฒนาการจังหวัดนราธิวาส ผู้บริหารส่วนราชการและผู้เกี่ยวข้อง เปิดเวทีสอบถามสภาพปัญหาในการดำเนินชีวิตของครัวเรือนเพื่อรับทราบข้อมูลปัญหา ความต้องการ และการให้ความช่วยเหลือแก่ครัวเรือนเป้าหมายให้สามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาให้ครัวเรือนเป้าหมายสามารถอยู่รอด พอเพียง และยั่งยืน ภายใต้Narathiwat happiness model : คนนราธิวาส ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งเป้าหมายประกอบไปด้วย นางสุรี บินสาและ ชาวบ้านในพื้นที่ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาสและครัวเรือนยากจนตำบลกะลุวอเหนือ จำนวน 20 ครัวเรือน ครัวเรือนยากจนตำบลกะลุวอเหนือจากโครงการ บพท. 20 ครัวเรือน ในการนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสได้มอบถุงยังชีพให้กับครัวเรือนที่ยากจนเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น
จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสได้เดินทางไปเยี่ยมกลุ่มกระจูดบ้านทอนฮิเล ที่ดำเนินการส่งผลิตภัณฑ์เสื่อจูดให้แก่โรงงานของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ตามโครงการพระราชดำริ โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองจังหวัดนราธิวาส นอกจากนี้ได้เดินทางไปเยี่ยมชมนิทรรศการข้อมูลคนยากจนของพื้นที่เทศบาลตำบลกะลุวอเหนือ และร่วมวิเคราะห์ข้อมูลของตำบลกะลุวอเหนือ รับฟังรายงานความก้าวหน้าโครงการ (พื้นที่อำเภอเมืองนราธิวาส) และลงพื้นที่เยี่ยมครัวเรือนที่ยากจนพร้อมมอบถุงยังชีพ ในพื้นที่ตำบลกะลุวอเหนือ โดยมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ร่วมกับ เทศบาลตำบลกะลุวอเหนือและเครือข่ายพัฒนาที่อยู่อาศัยตำบลกะลุวอเหนือ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคใต้","นราธิวาส","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121175803047"], [569,"ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาไข่ไก่ของบริษัทฟาร์มชูสินเตือนใจ 99 จำกัด (ฟาร์มชูสิน) พบจำหน่ายในราคาตามที่กำหนด","วันนี้ (21 ม.ค.65) เวลา 14.00 น. นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บริษัทฟาร์มชูสินเตือนใจ 99 จำกัด (ฟาร์มชูสิน) ตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล ซึ่งเป็นฟาร์มไข่ไก่ที่จำหน่ายผลผลิตในจังหวัดสตูลและจังหวัดใกล้เคียง เพื่อตรวจสอบราคา จำหน่ายไข่ไก่หน้าฟาร์มและให้กำลังใจผู้ประกอบการในสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาด้วย
ด้านนายศิวกร โคนันท์ เจ้าของฟาร์มชูสิน กล่าวว่า ทางฟาร์มได้จำหน่ายไก่ไข่ในพื้นที่จังหวัดสตูลและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งครองสัดส่วนตลาดในจังหวัดสตูลราว 30 % ในแต่ละวันสามารถผลิตไข่ได้ 200,000 300,000 ฟองต่อวัน จากจำนวนไก่ทั้งหมดที่เลี้ยงในระบบปิดที่ได้มาตรฐานประมาณ 250,000 ตัว โดยสถิติกำลังการบริโภคไข่ไก่ของชาวสตูลอยู่ที่ 280 ฟอง/คน/ปี ถือเป็นสถิติที่สูงอันดับต้น ๆ ของประเทศ ขณะนี้ราคาจำหน่ายไข่ไก่ (เบอร์ 3) ของฟาร์มชูสิน ราคาปลีก 3.40 บาท/ฟอง ราคาส่ง 3.20 บาท/ ฟอง ซึ่งเป็นราคาตามที่กรมการค้าภายในกำหนด
นอกจากนี้ภายในฟาร์มฯ ยังมีการบริหารจัดการแบบครบวงจร โดยเฉพาะในส่วนของขี้ไก่ซึ่งนำเข้าสู่ กระบวนการตามขั้นตอนเพื่อผลิตและพร้อมนำออกมาจำหน่ายในรูปแบบของปุ๋ยขี้ไก่ ซึ่งทำให้ช่วยลดมลภาวะภายในฟาร์มได้เป็นอย่างดี เนื่องจากในแต่ละวันจะมีขี้ไก่สดราว 15 ตัน เมื่อนำเข้าสู่กระบวนการจะคงเหลือขี้ไก่เพียง 4 ตันเท่านั้น
พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อติดตามสถานการณ์ของราคาไข่ไก่ของฟาร์มชูสินว่าจำหน่ายในราคาที่เหมาะสมหรือไม่ ซึ่งทางฟาร์มฯ ได้จำหน่ายในราคาที่เหมาะสม อีกทั้งยังได้ให้กำลังใจกับผู้ประกอบการด้วย เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทางผู้ประกอบการก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ส่วนราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีการขึ้นราคาอยู่ในขณะนี้เป็นไปตามกลไกของตลาด
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคใต้","สตูล","สวท.สตูล","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121180723050"], [572,"โรบัสต้าสะบ้าย้อย อร่อยจากถิ่นกำเนิด ด้วยรสชาติโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่าย สร้างรายได้ให้ชุมชน","
ประเทศไทยมีกาแฟสองสายพันธุ์หลัก ที่ได้รับความนิยมจากคอกาแฟ ได้แก่ กาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าและสายพันธุ์อราบิก้า โดยสายพันธุ์โรบัสต้าสามารถเจริญเติบโตและให้ผลผลิตได้ดีในเขตพื้นที่ทางภาคใต้และยังมีจุดกำเนิดอยู่ที่ตำบลบ้านโหนด อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา
นายชนะ มณีอ่อน อายุ 59 ปี ประธานวิสาหกิจชุมชนแปรรูปกาแฟอำเภอสะบ้าย้อย กล่าวว่า สมัยแรกเริ่มกาแฟโรบัสต้าได้รับความนิยมและปลูกกันอย่างแพร่หลาย แต่ต่อมาพื้นที่ปลูกเริ่มลดน้อยลงจนเกือบจะหายไป เนื่องจากมียางพาราเข้ามาเป็นพืชเศรษฐกิจทดแทน ทางจังหวัดสงขลา และสำนักงานเกษตรจังหวัด จึงได้เข้ามาส่งเสริมพื้นที่ปลูก สนับสนุนต้นพันธุ์ รวมถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์ เพื่อคงความเป็นอัตลักษณ์ประจำถิ่นไว้
โดยในปี พ.ศ.2559 จุดกำเนิดของการรวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนได้รับการสนับสนุนจากอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญของพืชเศรษฐกิจและเป็นแหล่งกำเนิดของกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า จึงได้เข้ามาสนับสนุนให้ตำบลบ้านโหนดเป็นพื้นที่นำร่องในการปลูกกาแฟขึ้นมาเป็นครั้งแรก จากนั้นในปี 2562 ได้มีการรวบรวมสมาชิกและจัดตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปกาแฟอำเภอสะบ้าย้อย โดยทำเป็นเครือข่ายทั้งอำเภอและมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ตำบลบ้านโหนดในการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรและสมาชิกทั้งหมด
นอกเหนือจากการแปรรูปกาแฟและพัฒนาผลิตภัณฑ์แล้ว ทางกลุ่ม ฯ ได้ส่งเสริมการสร้างงาน สร้างรายได้ ควบคู่กับการจัดตั้งกลุ่มชุมชนการท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เข้ามามีบทบาทร่วมกับกลุ่มกาแฟโรบัสต้าสะบ้าย้อย เพื่อให้นักท่องเที่ยวหรือประชาชนทั่วไป สามารถมาเที่ยวชมธรรมชาติและสัมผัสรสชาติกาแฟโรบัสต้าแบบ 100% ได้ที่นี้ทีเดียว
ด้านนางเสาวณิต ศรีนุ่น ฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์วิสาหกิจชุมชนแปรรูปกาแฟสะบ้าย้อย กล่าวว่า โรงน้ำชาจ่าหวินได้ต่อยอดมาจากโรงคั่วกาแฟ โดยจะรับผลิตภัณฑ์จากโรงคั่วกาแฟมาจำหน่ายอยู่ที่โรงน้ำชาแห่งนี้ซึ่งได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะพื้นที่ ตัวผลิตภัณฑ์ทำจากเมล็ดเชอรี่สีแดงทำให้รสชาติมีความเข้มข้น เป็นที่ถูกอกถูกใจคอกาแฟเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังต่อยอดด้วยการทำผ้ามัดย้อมจากใบกาแฟ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า โดยวิทยาลัยชุมชนสงขลาได้เข้ามาสนับสนุนองค์ความรู้ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นกัน
ปัจจุบันทางกลุ่มฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ในรูปแบบกาแฟคั่วบด กาแฟคั่วเมล็ด และกาแฟดริป โดยจะมีทั้งคั่วอ่อน คั่วกลาง และคั่วเข้ม ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับคอกาแฟทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัด ด้วยขั้นตอนการผลิตได้มาตรฐานและใส่ใจในรายละเอียด ผู้สนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่เพจ Facebook โรบัสต้าสะบ้าย้อย ต้นกำเนิดกาแฟโรบัสต้าแท้ 100% หรือโทร 083-3699125
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคใต้","สงขลา","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121183326063"], [573,"ผู้ว่าฯ อุตรดิตถ์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคาเนื้อหมูหน้าฟาร์ม พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการจำหน่ายเนื้อหมูในราคายุติธรรม","วันนี้ (21 ม.ค.65) นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วยนางพิสมนต์ มงคลเทพ พาณิชย์จังหวัดอุตรดิตถ์ นายสัตวแพทย์ ชัยนาท แสนยศ ปศุสัตว์จังหวัดอุตรดิตถ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจติดตามการจำหน่ายเนื้อหมูหน้าฟาร์ม ที่ บริษัท ทริปเปิ้ลอาร์ กรุ๊ป (2018) จำกัด ตำบลน้ำพี้ อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ และร้านจำหน่ายเนื้อสัตว์ BMP Fresh Shop สาขางิ้วงาม โดยขณะนี้ราคาเนื้อหมูที่ส่งจำหน่ายกิโลกรัมละ 178 บาท ส่วนราคาในท้องตลาดจำหน่ายกิโลกรัมละ 200 - 230 บาท
ปศุสัตว์จังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า สำหรับการตรวจห้องเย็นทั้ง 20 แห่งในจังหวัดอุตรดิตถ์ ไม่พบการสต๊อกหรือกักตุนเนื้อหมูแต่อย่างใด ส่วนการแก้ไขปัญหาราคาเนื้อหมูแพง เบื้องต้นได้ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการให้จำหน่ายด้วยราคายุติธรรมไม่เอาเปรียบผู้บริโภค มีการระบายสินค้าอย่างเป็นธรรม และขอให้ช่วยตรึงราคาขายตามราคาที่รัฐบาลประกาศให้นานที่สุดซึ่งคาดว่าจะถึงสิ้นเดือนมกราคมนี้ ซึ่งสุกรมีชีวิตในจังหวัดอุตรดิตถ์มีน้อยลงเนื่องจากการบริโภคในพื้นที่และส่งไปยังต่างจังหวัด แต่ขณะนี้ประชาชนเข้าใจในเรื่องราคาหมูแพง จึงหันไปบริโภคเนื้ออย่างอื่นมากขึ้น ทำให้เนื้อสุกรในพื้นที่ยังคงเพียงพอ ส่วนปัญหาเรื่องโรคระบาดในพื้นที่ทางจังหวัดยังควบคุมและป้องกันได้ทำให้ไม่พบเนื้อหมูติดเชื้อ
ทางด้านพาณิชย์จังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า จังหวัดอุตรดิตถ์ได้มีร้านค้าที่ร่วมโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน จำหน่ายหมูเนื้อแดงราคากิโลกรัมละ 150 บาท ในพื้นที่ อำเภอเมือง 3 แห่ง ได้แก่ ร้าน BMP Fresh Shop สาขางิ้วงาม ร้าน B Fresh Farm ถนนสำราญรื่น และ ร้าน S K F ถนนบรมอาสน์ ซึ่งจะมีการจำหน่ายถึงวันที่ 31 ม.ค.65 เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนจากราคาหมูที่แพงขึ้น
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคเหนือ","อุตรดิตถ์","สวท.อุตรดิตถ์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121173645036"], [574,"สัตวแพทย์ มทร.ศรีวิชัย ทุ่งใหญ่ ร่วมมือกับโรงพยาบาลปศุสัตว์จังหวัดนครศรีธรรมราช พัฒนาศักยภาพชุมชน แปรรูปผลิตภัณฑ์จากสัตว์และการตกแต่งชิ้นเนื้อ สร้างความน่าสนใจให้กับผลิตภัณฑ์","คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช พื้นที่ทุ่งใหญ่ นำโดย อ.สพ.ญ.กัตติเนตร สกุลสวัสดิพันธ์ รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา และ ผศ.น.สพ.สิริศักดิ์ ชีช้าง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปศุสัตว์นครศรีธรรมราช ถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ชุมชน ผ่านการจัดกิจกรรมการพัฒนาศักยภาพด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากสัตว์และการตกแต่งชิ้นเนื้อ ให้กับเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนอ่าวพระยาเกษตรอุตสาหกรรม (กลุ่มแปลงใหญ่แพะอ่าวพระยา) ตำบลอ่าวลึกน้อย อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่
มีกิจกรรมการถ่ายทอดองค์ความรู้และการฝึกปฏิบัติด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากสัตว์ การตกแต่งชิ้นเนื้อ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับสมาชิกเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนและประชาชนทั่วไปที่สนใจ ในด้านการแปรรูปและการตกแต่งชิ้นเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อแพะ เนื้อวัว เนื้อไก่ และเนื้อเป็ด ซึ่งถือเป็นแหล่งโปรตีนสำคัญที่คนส่วนใหญ่นิยมบริโภค อีกทั้งสามารถนำไปต่อยอดในการประกอบอาชีพด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์และการตกแต่งชิ้นเนื้อได้
ด้าน อ.สพ.ญ.กัตติเนตร สกุลสวัสดิพันธ์ รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา กล่าวว่า การแปรรูปผลิตภัณฑ์สัตว์เป็นการทำให้เนื้อสดถูกเปลี่ยนแปลงสภาพไปจากเดิมโดยใช้ วิธีการเพียงวิธีใดวิธีหนึ่งหรือหลาย ๆ วิธิีร่วมกัน เช่น การหั่น การสับละเอียด การใช้เครื่องปรุงแต่ง กลิ่นรส การใช้วัตถุเจือปนในอาหารการบด การหมัก การรมควัน การบรรจุกระป๋อง การทำให้สุก และการแช่แข็ง เป็นต้น เพื่อเปลี่ยนเนื้อให้เป็นผลิตภัณฑ์พร้อมรับประทาน การแปรรูปเนื้อจึง ประกอบด้วยการถนอมอาหาร ซึ่งหมายถึงการเก็บรักษาอาหารโดยวิธิีต่าง ๆ ให้อาหารมีสภาพ ใกล้เคียงกับของสดที่สุดโดยสูญเสียคุณภาพ และคุณค่าทางโภชนาการน้อยที่สุด นอกจากนั้นยังรวมถึงการแปรรูปอาหารที่เป็นการนา อาหารมาผ่านกระบวนการต่างๆ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะ ตามต้องการโดยมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคและมีความปลอดภัย และเพิ่มมูลค่าของเนื้อตัวอย่างเนื้อแปรรูป
ผู้สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ ที่ อ.สพ.ญ.กัตติเนตร สกุลสวัสดิพันธ์ รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช พื้นที่ทุ่งใหญ่ โทร.075-489614
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคใต้","นครศรีธรรมราช","สวท.นครศรีธรรมราช","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121175911048"], [575,"ผู้ว่าฯ มุกดาหารนำคณะออกตรวจตลาดสดเทศบาลเมืองมุกดาหาร ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าไม่ให้เอาเปรียบผู้บริโภค","นายเฉลิมพล มั่งคั่งผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วย นางลักขณา บุญนำ พาณิชย์จังหวัดมุกดาหาร นางวันวิภา แพงแก้ว ประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดมุกดาหาร กอ.รมน.จังหวัดมุกดาหาร สคบ.จังหวัดมุกดาหาร เทศบาลเมืองมุกดาหาร และคณะสื่อมวลชน ออกตรวจตลาดเทศบาล 2 ซึ่งเป็นตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดของเทศบาลเมืองมุกดาหาร และ ศูนย์จำหน่ายขายส่งสินค้าอุปโภคและบริโภคแม็คโคร
เพื่อติดตามสถานการณ์และตรวจสอบภาวะราคาสินค้าอุปโภค บริโภค ที่อาจส่งผลให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชน ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) และข้อสั่งการของ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการในระดับจังหวัด ทำหน้าที่กำกับดูแล และติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสินค้าบริโภค 6 รายการ คือ เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว เป็ด ปลา และมะละกอ เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีความเคลื่อนไหวด้านราคา และมีข่าวเกี่ยวกับการปรับขึ้นราคาอย่างต่อเนื่องและส่งผลกระทบกับความเดือดร้อนของประชาชน
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้ทำความเข้าใจกับพ่อค้า-แม่ค้า ในตลาดเกี่ยวกับการค้าขายสินค้า ขอให้มีการค้าขายในราคาตามความเป็นจริง ไม่ให้มีการกักตุนสินค้า หรือฉกฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า โดยเฉพาะสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพในราคาที่ไม่เป็นธรรม หรือจำหน่ายสินค้าในราคาสูงเกินสมควร
พร้อมนี้ ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด และให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดมุกดาหาร ประชาสัมพันธ์ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาสสินค้า และมอบหน่วยงานสังกัดกรมการค้าภายในได้มีการตรวจสอบการใช้ตาชั่ง เพื่อป้องกันไม่ให้มีการดัดแปลงแก้ไขเครื่องชั่ง หรือโกงตาชั่ง เพื่อเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค และฝากถึงประชาชนหากพบเห็นการจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม จำหน่ายสินค้าในราคาสูงเกินสมควร ร้องเรียนได้ที่สำนักงานคณะกรรมการส่วนจังหวัดว่าด้วยราคาสินค้าและบริการจังหวัดมุกดาหาร โทร 042 633374-5 หรือศูนย์รับเรื่องร้องเรียนสายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน หรือที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดมุกดาหาร โทร.0-42 611575
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","มุกดาหาร","สวท.มุกดาหาร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121184213069"], [576,"คลัง เตรียมเรียก คปภ. หารือ หลังผู้เอาประกันภัยร้องเรียนยังไม่ได้รับเงินชดเชย จากกรณีบริษัท เอเชียประกันภัย ถูกสั่งปิดกิจการ","นายชื่นชอบ คงอุดม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังรับหนังสือร้องเรียนจากตัวแทนกลุ่มผู้เอาประกันภัย ของ บริษัท เอเชียประกันภัย จำกัด (มหาชน) ว่า ในสัปดาห์หน้ากระทรวงการคลังจะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง คปภ. มาหารือร่วมกันเพื่อขอความชัดเจนและทางออกให้กับผู้เสียหายจากการเคลมค่าสินไหม กับบริษัท เอเชีย ประกันภัย ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับค่าสินไหมทดแทน โดยจะต้องได้รับความชัดเจนในการจ่ายเงินให้กับผู้เอาประกันภัย ภายใน 1 เดือนหลังจากนี้
จากการพูดคุยกับกลุ่มผู้เสียหาย พบว่าเรื่องนี้ไม่ได้ซับซ้อน เพียงแต่ขณะนี้ผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้เสียหายได้รวมกลุ่มกันประมาณ 4 พันกว่าราย มีจำนวนกรมธรรม์ประมาณ 1 แสนฉบับ ทั้งประกันภัยโควิดแบบเจอ จ่าย จบ รวมทั้งประกันภัยรถยนต์ อย่างไรก็ตาม แม้บริษัทเอเชีย ประกันภัย จะปิดตัวลงแล้ว แต่ยังมีเงินจากกองทุนประกันวินาศภัย ที่จะต้องนำมาจ่ายชดเชยให้ผู้เอาประกันต่อ พร้อมย้ำว่ากระทรวงการคลังไม่ได้นิ่งนอนใจและได้มีการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อเนื่อง
","21/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121192031111"], [577,"อุทยานแห่งชาติตาดหมอก ทบทวนและฝึกซ้อม หลักสูตรงานกู้ชีพกู้ภัยในอุทยานแห่งชาติ เพื่อเพิ่มทักษะและความชำนาญ พร้อมช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ประสบเหตุ","
นายธงไชย ราชบัวขาว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตาดหมอก เปิดเผยว่า อุทยานแห่งชาติตาดหมอก ได้จัดฝึกทบทวนหลักสูตรกู้ชีพกู้ภัยในอุทยานแห่งชาติ ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานกู้ชีพกู้ภัย โดยมีนายสิทธิยา หลำเพชร หัวหน้าศูนย์กู้ภัยอุทยานแห่งชาติที่ 2 พิษณุโลก และคณะ เป็นผู้ฝึกอบรม โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2565 ณ อุทยานแห่งชาติตาดหมอก ต.นาป่า อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์
โดยการเข้ารับการฝึกอบรมของบุคลากรครั้งนี้ เพื่อเป็นการทบทวนการช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น อาทิ ฝึกการฟื้นคืนชีพพื้นฐาน (CPR) การใช้เครื่องกระตุ้นคลื่นหัวใจไฟฟ้า (AED) เงื่อนเชือก รวมทั้งฝึกยกเคลื่อนย้ายผู้ป่วย/ผู้บาดเจ็บ ส่งสถานพยาบาล และฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุ เพื่อเพิ่มศักยภาพในภารกิจกู้ชีพกู้ภัยในอุทยานแห่งชาติให้ได้มาตรฐานสากล เพื่อนำไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ที่เจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติงาน หรือจากการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ ตามระบบของการแพทย์ฉุกเฉินอย่างถูกวิธี และสามารถเชื่อมโยงกับหน่วยบริการในระดับสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","เพชรบูรณ์","สวท.เพชรบูรณ์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121190337097"], [578,"จังหวัดบึงกาฬ คุมเข้มการขายสินค้าบริโภคที่สำคัญและตรวจติดตามโครงการหมูพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชน","วันที่ 21 มกราคม 2565 เวลา 10.00 พาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ ร่วม กับปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดบึงกาฬ ตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ ฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ตรวจสอบสินค้าบริโภคที่สำคัญ (เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว เป็ด ปลา และมะละกอ) ณ ตลาดนัดไทย-ลาว เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีความเคลื่อนไหวด้านราคา และมีข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ราคาออกมาอย่างต่อเนื่อง จับตาสินค้าในกลุ่มนี้และให้ความสำคัญ จากการตรวจสอบพบว่า ปริมาณสินค้าทั้ง 6 รายการยังมีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค โดย ราคามะละกอ อยู่ที่กก.ละ 20-25 ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว 10-15 บาท ปลากนิล ปลาทับทิม กก.ละ 85 บาท อกไก่ กก.ละ 70-75 บาท ไข่ไก่เบอร์ 3 แผงละ 90-108 บาท หมูเนื้อแดง กก.ละ 185-220 บาท ส่วนสินค้าอื่นยังทรงตัวปกติ ไม่พบการจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควร
จากนั้น ไปตรวจสอบสต๊อกหมูยังห้างแม็คโคร สาขาบึงกาฬ ร้านจำหน่ายเนื้อหมูสด ทั้งนี้ จังหวัดบึงกาฬมีการนำเข้าเนื้อหมูชำแหละอยู่ที่ 6-7 ตันต่อวัน หมูเป็นตัวละ 100 กก. ขึ้นไป ประมาณ 50 ตัว รวมแล้วปริมาณการบริโภคเนื้อหมูในจังหวัดบึงกาฬ อยู่ที่ประมาณวันละ 12,000 กก. ซึ่งจังหวัดบึงกาฬมีฟาร์มเลี้ยงหมูที่เลี้ยงเกิน 500 ขึ้นไปจำนวน 8 ราย มีหมูอยู่ที่ประมาณ 3,500 ตัว โดยหมูชำแหละส่วนใหญ่นำเข้ามาจากโรงฆ่าสัตว์ในพื้นที่ จ.หนองคาย
นางสาวเอื้อนจิตร ช่วยนก พาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า การตรวจตลาดในครั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ (นายสนิท ขาวสอาด) ในฐานะประธานคณะกรรมการส่วนจังหวัดว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ จังหวัดบึงกาฬกำชับให้คณะกรรมการทำหน้าที่กำกับดูแล และติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด เป็นการตรวจสอบราคาสินค้าในช่วงที่มีการปรับขึ้นราคา เพื่อลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน รวมทั้งเป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วน ช่วยให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้้อหมู สินค้าที่มีราคาถูกกว่าท้องตลาด และป้องปรามการกักตุนสินค้า อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสต๊อกเนื้อหมูในช่วงนี้ต้องเป็นไปตามที่กำหนดอย่างเคร่งครัด หากตรวจพบว่าไม่มีการแจ้งปริมาณสต๊อกที่ชัดเจน จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และปรับอีกวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะมีการแจ้ง หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากพบเห็นว่ามีการกักตุนสินค้า จะมีโทษตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการกักตุนหรือจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ หรือสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","บึงกาฬ","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121184313070"], [579,"ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ปล่อยแถวตรวจตราตามมาตรการป้องกันการกักตุนและควบคุมราคาสินค้าและบริการ จังหวัดลพบุรี","วันที่ 21 มกราคม 2565 นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีพร้อมด้วย ปลัดจังหวัดลพบุรี พาณิชย์จังหวัดลพบุรี ปศุสัตว์จังหวัดลพบุรี ผู้แทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ร่วมปล่อยแถวตามโครงการตรวจตราตามมาตรการป้องกันการกักตุนและควบคุมราคาสินค้าและบริการ จังหวัดลพบุรีและลงพื้นที่ บูรณาการตรวจสอบราคาสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น เนื้อสุกร เนื้อไก่ ไข่ไก่ ที่ห้างแมคโคร สาขาลพบุรี เพื่อให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 และตรวจเยี่ยมโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา! ช่วยประชาชน จำหน่ายหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท และเข้าตรวจสอบบริษัท ชลสิทธิ์โฟรเซ่นฟู้ดส์ จำกัด ถึงการครอบครองสุกรชำแหละให้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2565 เรื่อง การแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร พร้อมนี้ ได้กำชับให้ผู้ประกอบการได้ปฏิบัติ ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด จากสถานการแพร่ระบาดโรคอหิวาในสุกร ส่งผลต่อปริมาณและระดับราคาที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคโดยตรง เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว รัฐบาล มอบหมาย มท พาณิชย์ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรการเข้าไปแก้ไขปัญหาเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาปัญหา ดูแลสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาที่เป็นธรรมตลอดจนเพื่อยกระดับในเรื่องความปลอดภัยและป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าในช่วงนี้ จังหวัดลพบุรีจึงได้บูรณาการสนธิกำลังออกตรวจสอบสถานที่จำหน่าย สถานที่เก็บ สถานที่เลี้ยง ให้ดำเนินการตามมาตรการของทางราชการอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการโรคระบาด ป้องกันการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค หากพบมีการฝ่าฝืนโดยจะดำเนินการกับผู้กระทำผิดอย่างเฉียบขาด ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการได้ช่วยเหลือผู้บริโภคในช่วงนี้จำหน่ายในราคาที่เป็นธรรมอย่าได้ฉวยโอกาสกักตุนเพื่อหวังผลทางด้านการตลาดหรือราคา ที่สูงกว่าราคาปกติควบคุม ขอความร่วมมือประชาชนหากพบการกระทำผิดแจ้ง 1569
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","ลพบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121190353098"], [580,"ผู้ว่าฯ สตูล ลงพื้นที่ บริษัท ฟาร์มชูสินเตือนใจ 99 จำกัด ตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล เพื่อเยี่ยมเยือนให้กำลังใจผู้ประกอบการ พร้อมทั้งติดตามราคาไข่ไก่ ในช่วงสถานการณ์ค่าครองชีพสูง พบว่าราคาไข่ไก่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน","วันที่ (21 ม.ค.65) นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วย นาวาตรีหญิง โนสมา หลีเส็น นายกเหล่าาชาดจังหวัดสตูล หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บริษัท ฟาร์มชูสินเตือนใจ 99 จำกัด หมู่ที่ 10 ตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล เพื่อเยี่ยมเยือนให้กำลังใจผู้ประกอบการ พร้อมทั้งติดตามราคาไข่ไก่ ในช่วงสถานการณ์ค่าครองชีพสูงด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า การลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ของราคาไข่ไก่ ของฟาร์มชูสิน ซึ่งพบว่าทางฟาร์มฯ ได้จำหน่ายในราคาตามเกณฑ์มาตรฐานอยู่ในราคาที่เหมาะสม ไม่มีการเอาเปรียบผู้บริโภค ในส่วนการกักตุนสินค้าในพื้นที่จังหวัดสตูลไม่มี พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้เน้นย้ำหน่วยงานที่กำกับดูแลชายแดน ให้มีการเข้มงวดมากขึ้น ในช่วงที่สินค้าอุปโภค บริโภค มีราคาที่สูงขึ้น เช่น เนื้อวัว ไข่ไก่ พืชผักต่างๆ ในขณะนี้ ยืนยันว่าไม่มีการลักลอบขนส่งสินค้าเหล่านี้เข้ามาในพื้นที่ของจังหวัดสตูลแน่นอน
ด้านนายศิวกร โคนันท์ เจ้าของฟาร์มชูสิน กล่าวว่า ทาง บริษัท ฟาร์มชูสินเตือนใจ 99 จำกัด เป็นฟาร์มขณะใหญ่ ซึ่งเลี้ยงไก่ไข่ประมาณ 250,000 ตัว ด้วยการบริหารจัดการแบบครบวงจร และใช้เทคโนโลยีการเลี้ยงระบบปิด สามารถผลิตไข่ได้วันละประมาณ 200,000-300,00 ฟอง ขณะนี้ราคาจำหน่ายไข่ไก่(เบอร์ 3) ของฟาร์มชูสิน ราคาปลีก 3.40 บาท/ฟอง ราคาส่ง 3.20 บาท/ ฟอง และการจำหน่ายไข่ไก่ในราคานี้ ถูกควบคุมโดยสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้ ทางฟาร์มฯ ไม่สามารถขึ้นราคาเองได้ หากต้องการจะขึ้นราคาต้องขออนุญาตจากกรมการค้าภายในท่านั้น
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคใต้","สตูล","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121184850078"], [581,"ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำทีมลงพื้นที่ลุยตรวจสอบสต๊อกห้องเย็นเก็บเนื้อสุกรชำแหละเฝ้าระวังหวั่นผู้ประกอบการกักตุนสินค้า เบื้องต้น ไม่พบการกักตุนสินค้าแต่อย่างใด ระบุหากพบมีการประทำผิดกฎหมายต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท","ที่ศูนย์สต๊อกห้องเย็นเก็บเนื้อสุกรชำแหละของบริษัทเบทาโกร ตั้งอยู่ที่บริเวณถนนกาญจนวิถี ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พาณิชย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ปศุสัตว์จังหวัดสุราษฎร์ธานี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี และ ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบสต็อกสินค้าเนื้อสุกรชำแหละ เนื้อไก่สด ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฉบับที่ 2 พ.ศ.2565 เรื่อง การแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บ และ จัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร ณ วันที่ 5 มกราคม พ.ศ.2565 และ ตามพระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ.2497 โดยมี นายณภัทร ชูสุดรักษ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่และเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ
สำหรับศูนย์ สต๊อกห้องเย็นเก็บเนื้อสุกรชำแหละของบริษัทเบทาโกร ที่ทางคณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าตรวจสอบในครั้งนี้พบว่าเป็นศูนย์หลักของ 6 จังหวัดภาคใต้ตอนบน คือ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา ภูเก็ต และ อ.ทุ่งสง จ. นครศรีธรรมราชการ รวมทั้งหมด 9 จุดบริการ 21 สาขา มีการสต๊อกเนื้อสุกรชำแหละทั้งหมด 200 ตัน หรือ 200,000 กิโลกรัม และ จาการตรวจสอบวันนี้พบว่าที่ศูนย์กระจายสินค้าสุราษฎร์ธานี ณ วันที่ 21 มกราคม 2565 มีเนื้อสุกรชำแหละ และ ชิ้นส่วนต่าง ๆรวมทั้งสิ้น 17,288 กิโลกรัม หรือ 17 ตันเศษ ซึ่งทุกวันจันทร์ทางบริษัทจะต้องแจ้งจำนวนสินค้า ที่มีในสต๊อกทั้งหมด ไปยังสำนักงานพานิชจังหวัด ส่วนการขนย้ายทุกครั้งนั้นต้องแจ้งให้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดทราบก่อนทุกครั้ง
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามทราบว่า การเลี้ยงสุกรของบริษัทเบทาโกร จะดำเนินการในระบบฟาร์มปิดทั้งหมด และใช้ลักษณะการจ้างเกษตรกรเลี้ยง โดยเฉลี่ยค่าจ้างตกตัวละประมาณ 600 บาท โดยใน 1 เหล้าที่จ้างเลี้ยงนั้นเกษตรกรจะมีสุกรอยู่ประมาณ 750-1,000 ตัว แต่เกษตรกรที่รับจ้างเลี้ยงจะต้องมีเหล้าสุกรเป็นของตัวเอง
นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การตรวจครั้งนี้เพื่อติดตามสถานการณ์โรคระบาดสุกร การเคลื่อนย้ายสัตว์ และ การสต๊อกสินค้า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ไม่พบสิ่งผิดปกติ ไม่มีการกักตุนเนื้อหมู ซึ่งการตรวจสอบของทางจังหวัดนั้นจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องตามนโยบายของรัฐบาล และ กระทรวงมหาดไทยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จึงต้องขอย้ำขอความร่วมมือผู้ประกอบการว่าอย่าได้ฉวยโอกาสขึ้นราคาหมู เพราะจะเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน หากพบว่าผู้ประกอบการรายใดมีการกักตุนหวังผลให้ราคาสูงขึ้น ถือว่าผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ.2597 จะต้องถูกดำเนินการอย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งนี้ ได้ แจ้งเตือนให้ผู้ประกอบการห้ามกักตุนสินค้า ขอให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มาตรา 30 หากฝ่าฝืนอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งจำปรับ ตามมาตรา 41
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคใต้","สุราษฎร์ธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121185524087"], [582,"พาณิชย์จังหวัดบึงกาฬตรวจเข้มราคาหมูและสินค้าอุปโภคบริโภคที่สำคัญ ป้องกันการกักตุนสินค้า และเตรียมขยายจุดจำหน่ายหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน","วันที่ 21 มกราคม 2565 เวลา 13.00 น. สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบึงกาฬ ตำรวจ สภ.เมืองบึงกาฬ สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองบึงกาฬ ออกตรวจสถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์ และไข่สด เพื่อตรวจติดตามราคาจำหน่ายสินค้าด้านปศุสัตว์ และตรวจสอบปริมาณการกักตุนเนื้อสัตว์ในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬเพื่อป้องกันการกักตุนสินค้า รวมถึงการติดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน และการจำหน่ายสินค้าเกินราคา ซึ่งจะซ้ำเติมประชาชนในภาวะที่สินค้าปรับตัวขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง โดยลงพื้นที่ตรวจสอบสินค้าและราคา ที่ห้างสรรพสินค้าแม็คโคร สาขาบึงกาฬ และตลาดสดเทศบาลเมืองบึงกาฬ ซึ่งหลังจากการตรวจสอบ ยังไม่พบการกระทำผิดใดๆ ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
โดยนางสาวเอื้อนจิตร ช่วยนก พาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อตรวจสอบราคาสินค้าที่ให้บริการรวมทั้งการกักตุนสินค้า ป้องกันการจำหน่ายสินค้าเกินราคา โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ ได้ร่วมกับผู้ประกอบการเขียงหมู เปิดจำหน่ายหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน ราคาถูก 150 บาท/กิโลกรัม จำนวน 2 จุด ได้แก่ ร้านเขียงหมูเจ๊กบ ร้านเขียงหมูเจ๊เหล๋ย ในตลาดสดเทศบาลเมืองบึงกาฬ โดยกำหนดขายจุดละ 40 กิโลกรัม และตั้งแต่วันที่ 23-31 ม.ค.นี้ จะเพิ่มการจำหน่าย หมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน ราคาถูก 150 บาท/กิโลกรัม อีกจำนวน 5 จุด ในอำเภอเมืองบึงกาฬ ที่ตำบลนาสวรรค์ จำนวน 1 จุด ที่เขียงงหมู ป.เฟรชฮับ สาขา 1 ช้อปหมูนาสวรรค์ และตำบลชัยพร ที่ตลาดสดชัยพร จำนวน 4 จุด เขียงหมูเบทาโกร เขียงหมูวีระ หมูสด เขียงหมูอธิกา หมูสด เขียงหมูแม่ยอด คาดว่าจะมีประชาชนให้ความสนใจมาซื้อหมูในโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน กันมากขึ้น เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายลดค่าครองชีพให้กับประชาชน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","บึงกาฬ","สวท.บึงกาฬ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121190940104"], [583,"การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เดินหน้าจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยว ยกระดับเทรนด์อาหารสุขภาพ ","นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. ได้จัดงาน \"มากินกัญ\" ภายใต้โครงการ Gastronomy Amazing ยิ่งกว่าเดิม เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย และช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยใช้เทรนด์กัญชา-กัญชง ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรที่ได้รับอนุญาตตามข้อบัญญัติของกฎหมาย มานำเสนอในรูปแบบเมนูของคนรักสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ Health & Wellness และการท่องเที่ยวเส้นทางผลิตภัณฑ์กัญชา-กัญชง รวมถึงพืชผักสมุนไพรท้องถิ่นที่มีความเชื่อมโยงกับชุมชน สะท้อนวิถีชีวิตและภูมิปัญญาไทย สอดคล้องกับแนวคิด BCG Economy Model เป็นการผลักดันและยกระดับสินค้าการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้มีคุณภาพเทียบเท่าระดับมาตรฐานนานาชาติ
นอกจากนี้ ยังมีบริการส่งอาหาร 50 เมนูเด็ด จาก 40 ร้านอาหารดังภายในงาน ผ่านแฟลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ การแสดงดนตรีเปิดหมวก และกิจกรรมบนเวทีที่น่าสนใจอีกเป็นจำนวนมาก ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้ ระหว่างวันที่ 21-23 มกราคม 2565 เวลา 15.00 น.-21.00 น. ณ อุทยาน 100 ปี ถนนบรรทัดทอง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ในรูปแบบ Covid Free-Setting อย่างเคร่งครัด โดยสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้าได้ทางแอปพลิเคชั่น QueQ
วันที่ (21 ม.ค.65) ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ตำบลเวียงยอง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมท่องเที่ยววิถีชุมชนและผลิตภัณฑ์ OTOP ของดีเมืองหละปูน ครั้งที่ 2 \" เติมเต็มความสุข ต่อวิถีชุมชนให้ยั่งยืน ท่องเที่ยววิถีใหม่ แบบ New Normal\" ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-25 มกราคม 2565 โดยมี นางปนัดดา เนาวรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลำพูน รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ปลัดจังหวัดลำพูน นางบำเพ็ญ เมืองมูล พัฒนาการจังหวัดลำพูน หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงาน
นางบำเพ็ญ เมืองมูล พัฒนาการจังหวัดลำพูน เผยว่า สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดลำพูน ร่วมบูรณาการทุกภาคส่วนจัด \"มหกรรมท่องเที่ยววิถีชุมชนและผลิตภัณฑ์ OTOP ของดีเมืองหละปูน\" ท่องเที่ยววิถีไทย กับเส้นทางใหม่เชิงวัฒนธรรม วิถีชีวิต และธรรมชาติกับ 8 หมู่บ้านท่องเที่ยวชุมชน จังหวัดลำพูน เพื่อส่งเสริมการขายเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้กับผู้ผลิตและผู้ประกอบการ OTOP จังหวัดลำพูน ประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ชุมชน ในหมู่บ้านท่องเที่ยวชุมชนจังหวัดลำพูน นำเสนอและทดลองผลิตภัณฑ์/การบริการของหมู่บ้านท่องเที่ยวชุมชนจังหวัดลำพูน ก่อให้เกิด การสร้างโอกาสเพิ่มช่องทางการตลาด ส่งเสริมรายได้ให้กับผู้ประกอบการในช่วงสถานการณ์ปัจจุบันที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด ภายในงานพบกับการจำลองหมู่บ้านท่องเที่ยวชุมชน 8 อำเภอ เรียนรู้วิถีชีวิต ภูมิปัญญาและหัตถกรรม บูธจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ของดี จังหวัดลำพูนกว่า 30 ราย กาดหมั้วอาหารพื้นถิ่นกว่า 20 บูธ การแสดงศิลปะวัฒนธรรมพื้นถิ่นล้านนาของจังหวัดลำพูน การสาธิตการทำอาหารชุมชน ภายในงานสามารถเลือก ช้อปผลิตภัณฑ์สินค้าเด่น OTOP จังหวัดลำพูนเป็นของขวัญส่งความสุขในเทศกาลปีใหม่ 2565 กิจกรรมส่งเสริมการขาย และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย โดยการจัดกิจกรรม ระหว่างวันที่ 21 - 25 มกราคม 2565 ณ บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ตำบลเวียงยอง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
สำหรับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมให้สแกน QR CODE เพื่อลงทะเบียนล่วงหน้า พร้อมระบุวันและช่วงเวลาทำการจองเข้าร่วมกิจกรรม หลังจากที่ท่านลงทะเบียนสำเร็จ ทางทีมงานจะยืนยันการลงทะเบียนพร้อมรหัสใช้งานตอบกลับภายใน 24 ชั่วโมง ผู้เข้าร่วมงานจะต้องลงทะเบียน \"ไทยชนะ\" ทุกครั้ง ผ่านจุดคัดกรองด้านหน้าทางเข้างาน ตรวจวัดอุณหภูมิ เน้นย้ำเว้นระยะห่าง และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ภายในงานแต่ละโชนจะมีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือไว้บริการภายใต้มาตรการควบคุมโรค และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้เข้าร่วมงาน เชิญชวนท่องเที่ยววิถีชุมชน ส่งเสริมรายได้ให้กับผู้ประกอบการ OTOP ของดีเมืองหละปูน แบบวิถีใหม่ New Normal ติดตามละเอียดเพิ่มเติมหรือความเคลื่อนไหวได้ที่ เพจ : มหกรรมท่องเที่ยววิถีชุมชน ผลิตภัณฑ์ OTOP ของดีเมืองหละปูน OTOP
ด้าน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เผยว่า จังหวัดลำพูนเป็นเมืองขนาดเล็กที่สุดในภาคเหนือ ที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ ประชากรมีหลายเชื้อชาติและหลายภาษา มีวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นแตกต่างกัน ในการพัฒนาการท่องเที่ยว จึงมุ่งเน้นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ในหมู่บ้านชุมชนและการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยวจากจังหวัดใกล้เคียงและกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ปัจจุบันการท่องเที่ยวของจังหวัดลำพูน ได้รับโอกาสและความนิยมจากนักท่องเที่ยว ทั้งภายในจังหวัดและต่างจังหวัดมากขึ้น ซึ่งในการจัดงานครั้งนี้ ได้นำจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้านท่องเที่ยวชุมชนทั้ง 8 อำเภอของจังหวัดลำพูน มาจำลองวิถีชีวิตภายในบริเวณงาน เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของหมู่บ้านท่องเที่ยวชุมชน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการขาย เพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP จังหวัดลำพูน ให้มีรายได้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หวังว่าในการจัดงานครั้งนี้ จะเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์หมู่บ้านท่องเที่ยวชุมชนให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP มีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคที่ได้เข้ามาเยี่ยมชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ภายในงานในครั้งนี้
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคเหนือ","ลำพูน","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122010226199"], [585,"นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น นำคณะลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ค้า และติดตามสภาวะการค้าขายที่ตลาดเขียว ริมบึงแก่นนคร","เวลา 17.00 น.วันที่ 21 มกราคม 2565 ที่ตลาดเขียว ริมบึงแก่นนคร อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น พร้อมด้วยนายมนตรี สิงหปุณณภัทร รองนายกเทศมนตรี และคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาลนครขอนแก่น ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจบรรดาพ่อค้า แม่ค้า ที่ค้าขายภายในตลาดสีเขียว ตรวจติดตามสถานการณ์ภาวะการค้าการขาย พร้อมรับฟังปัญหา อุปสรรค เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือแก้ไข
นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าค่าครองชีพสูงขึ้น ข้าวของขึ้นราคาในหลายๆ เหตุผลและหลายๆ ปัจจัย เนื่องจากมีพ่อค้าคนกลาง แต่ที่ตลาดเขียวของเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งตั้งอยู่ริมบึงแก่นนครนั้น จะเห็นได้ว่าเป็นการนำสินค้าจากผู้ผลิตโดยตรงมายังผู้ขายโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง และเป็นสินค้าปลอดภัย อาหารปลอดภัย ซึ่งประชาชนผู้บริโภคจะได้สบายใจ และมั่นใจในการมาจับจ่ายใช้สอยที่ตลาดแห่งนี้
\"นอกจากราคาที่ไม่แพง เป็นธรรมและปลอดภัยต่อผู้บริโภคและครอบครัว แล้ว ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ให้ครัวเรือน และยังมีตลาดอีกหลายแห่ง ที่เทศบาลนครขอนแก่นดูแล ในเบื้องต้นมีแนวคิดที่จะเพิ่มพื้นที่ เพิ่มวันเวลา เพิ่มสถานที่จำหน่าย เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ค้าขายมากขึ้น ซึ่งขณะนี้เทศบาลนครขอนแก่น ยังได้เปิดตลาดเขียวจากกองทุนตั้งตัว OTOP อำเภอเมือง ในทุกวันพุธ ที่บริเวณด้านข้างสำนักงานเทศบาลนครขอนแก่น
นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ยังกล่าวอีกว่า ได้เตรียมเปิดพื้นที่ ที่ บขส. 1 พื้นที่ บขส.ปรับอากาศ และที่ถนนคนเดิน โดยจะเพิ่มพื้นที่ เพิ่มวันเวลา เพิ่มสถานที่ เช่น ถนนคนเดิน ที่จะเปิดในวันอาทิตย์เพิ่มขึ้น ให้เป็นฟู้ดสตรีทโดยตรง ที่จะมีทั้งอาหารมีททรัคฟู้ด ในส่วน บขส.1 ได้มีการพูดคุยกับพี่น้องผู้ประกอบการใน บขส. 1 ว่า เห็นควรที่จะมีการปรับเป็นตลาดในรูปแบบใด โดยความร่วมมือกับ CEA หรือ TCDC เพื่อที่จะมาออกแบบมาคิดเรื่องตลาดสร้างสรรค์ให้เป็นพื้นที่ที่น่าสนใจ
หรือแม้กระทั่งที่ บขส.ปรับอากาศ ซึ่งเมื่อไม่มีสภาพเป็น บขส.แล้วจะเตรียมการอย่างไร โดยจะมีการเตรียมจัดงานโปรโมทพื้นที่ โปรโมทเมืองเรื่องของเมืองสร้างสรรค์เมืองขอนแก่น โดยใช้พื้นที่ บขส.ปรับอากาศ ในงานอีสานครีเอทีฟเฟสติวัล โดยร่วมมือกับเครือข่ายต่างๆ ที่จะเริ่มดพเนินการในช่วงประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์จนถึงต้นเดือนมีนาคม ประมาณ 7-8 วัน จะมีการฉายภาพอาคารโรงแรมสวัสดี ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่หลายสิบปีให้เห็นภาพเมืองขอนแก่น โดยจะมีกิจกรรมดีๆเกิดขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเสริมสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ขอนแก่น","สวท.ขอนแก่น","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121200126146"], [586,"ผู้ว่าฯ สกลนคร นำทีมลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ราคาเนื้อหมู เตรียมขยายจุดจำหน่ายเนื้อหมูราคาประหยัดช่วยประชาชนทุกอำเภอ","ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร นำทีมลงพื้นที่ ตรวจติดตามสถานการณ์ราคาเนื้อหมู รับฟังปัญหาผู้ประกอบการและประชาชนผู้บริโภค เตรียมขยายจุดจำหน่ายเนื้อหมูราคาประหยัดช่วยประชาชน ครอบคลุมทุกอำเภอ
วันนี้ (21 ม.ค.65) นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร พร้อมด้วยนายวีระ ฤกษ์วาณิชกุล ปลัดจังหวัดสกลนคร นางเกศินี พวงประดิษฐ์ พาณิชย์จังหวัดสกลนคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมและลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์การจำหน่ายเนื้อหมู ในพื้นที่จังหวัดสกลนคร ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสกลนคร ห้างแม็คโคร สาขาสกลนคร และตลาดสดเทศบาลนครสกลนคร โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสกลนครได้จัดให้มีจุดจำหน่ายเนื้อหมู ตามโครงการ หมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน ในราคา กก.ละ 150 บาท จำนวน 7 จุดๆ ละ 50 กก./วัน และกำลังดำเนินการเพิ่มจุดจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูกให้ครอบคลุมทั้ง 18 อำเภอของจังหวัดสกลนคร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
ทั้งนี้ ปัจจุบันพบว่าราคาเนื้อหมูยังคงผันผวนตามกลไกตลาด โดยที่จังหวัดสกลนครราคาขายปลีกตามท้องตลาด อยู่ที่ กก.ละ 220-230 บาท และยังคงมีแนวโน้มปรับขึ้นในทิศทางเดียวกันเหมือนกับภูมิภาคอื่น เนื่องจากสุกรมีชีวิตที่จะป้อนโรงฆ่าสัตว์เกิดการขาดแคลน จากปัญหาดังกล่าว จังหวัดสกลนครมีความห่วงใย และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าครองชีพของประชาชน
นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า วันนี้เราได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามสถานการณ์ราคาเนื้อหมูที่ปรับสูงขึ้น พร้อมลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการและประชาชนผู้บริโภคในพื้นที่ โดยจังหวัดสกลนครกำลังดำเนินขยายจุดจำหน่ายหมูราคาประหยัดให้เพิ่มมากขึ้น ขณะที่ข้อมูลจากโรงฆ่าสัตว์เทศบาลนครสกลนคร ปัจจุบันหมูยังเข้าสู่ระบบปกติ เฉลี่ยวันละ 20-30 ตัว และจากการสอบถามแม่ค้าในพื้นที่พบว่ายอดจำหน่ายหมูลดลง โดยประชาชนหันไปรับประทานอาหารอย่างอื่นมากขึ้น เช่น ปลา ไก่ หรือไข่ไก่ ซึ่งราคายังปกติ
สำหรับคนอีสานก็จะนิยมรับประทานแมลงทอด ซึ่งมีจำหน่ายในตลาดหลากหลายชนิด ในส่วนของพืชผักและผลไม้ ราคายังทรงตัวปรับขึ้นลงเล็กน้อยตามกลไกตลาด และที่ห้างแม็คโคร สาขาสกลนครมีการจำหน่ายเนื้อหมูวันละประมาณหนึ่งพันกิโลกรัม จากการสำรวจพบว่าทุกแห่งยอดจำหน่ายเนื้อหมูลดลง ขณะที่เนื้อไก่ขายดีขึ้น พร้อมยืนยันว่าจังหวัดสกลนคร ร่วมกับพาณิชย์จังหวัดกำลังดำเนินการประสานกับผู้ประกอบการเพื่อเพิ่มจุดจำหน่ายเนื้อหมูราคาประหยัดกิโลกรัมละ 150 บาทให้มากขึ้น ในทุกอำเภอ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนให้มากขึ้นต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","สกลนคร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสกลนคร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122001930188"], [587,"จังหวัดลำพูน ตรวจสอบการเก็บสต็อกเนื้อหมู ของผู้ประกอบการจำหน่ายเนื้อหมู ในพื้นที่","ผู้ว่าฯ ลำพูน ลงพื้นที่ตรวจสอบการเก็บสต็อกเนื้อหมู ของผู้ประกอบการจำหน่ายเนื้อหมูในพื้นที่ เพื่อป้องกันการกักตุนสินค้า และฉวยโอกาสปรับราคา
นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ปลัดจังหวัดลำพูน หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำพูน พาณิชย์จังหวัดลำพูน รองผู้อำนวยการรักษาความมั่งคงภายในจังหวัดลำพูน นายอำเภอเมืองลำพูน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบการเก็บสต็อกเนื้อสุกรแปรรูป เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาการฉวยโอกาส ของผู้ประกอบการ รวมถึงตรวจสอบการลักลอบนำเข้าซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ในพื้นที่อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน จำนวน 2 แห่ง คือ บริษัท เอ็มเอสพี อินเตอร์ฟู้ดส์ จำกัด เลขที่ 92 หมู่ที่ 15 ต.ป่าสัก อ.เมืองลำพูน และห้างหุ้นส่วนจำกัด เคเอฟพี เทรดดิ้ง เลขที่ 92 หมู่ 3 ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมืองลำพูน จากการตรวจสอบพบว่าทั้ง 2 แห่ง มีปริมาณเนื้อสุกรตามปริมาณในการส่งจำหน่าย ไม่มีการกักตุนสินค้า และไม่พบการกระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 แต่อย่างใด ทั้งนี้หากประชาชนพบเห็นว่ามีการกักตุนหรือฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำพูน และหากตรวจสอบพบการกระทำผิดจะมีโทษตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคเหนือ","ลำพูน","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122010652200"], [588,"จังหวัดมุกดาหารตรวจติดตามสถานการณ์หมูแพงและสินค้าอื่นๆ พร้อมกำชับผู้ค้าปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน","วันนี้ (21 ม.ค.65) เวลา 08:00 น นายเฉลิมพล มั่งคั่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดมุกดาหาร ปศุสัตว์จังหวัดมุกดาหาร กอ.รมน.จังหวัดมุกดาหาร สคบ.จังหวัดมุกดาหาร เทศบาลเมืองมุกดาหาร ประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหารและคณะสื่อมวลชน ลงพื้นที่ออกตรวจติดตามสถานการณ์สุกร ไข่ไก่ ไก่เนื้อ และสินค้าเกษตร ที่ตลาดสดเทศบาล 2 ตลาดศิริพร ในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร และห้างแม็คโคร สาขามุกดาหาร พร้อมนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารได้พบปะพูดคุยเพื่อรับทราบเสียงสะท้อน จากบรรดาพ่อค้า แม่ค้า ถึงผลกระทบจากสถานการณ์สินค้าอุปโภค - บริโภค ที่มีราคาสูงขึ้น
ทั้งนี้ สถานการณ์ด้านราคาจำหน่ายหมูเนื้อแดง ไก่สด ปลานิล และไข่ไก่ในห้างสรรพสินค้าในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น ในส่วนของราคาหมูเนื้อแดงมีการตรึงราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 185 บาท ราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ราคา 110 บาทต่อกิโลกรัม หมูเนื้อแดงราคา 185 บาทถึง 200 บาทต่อกิโลกรัม น่องไก่ราคา 75 บาทต่อกิโลกรัม อกไก่ราคา 65 บาทต่อกิโลกรัม ปลานิลสดราคา 70-75 บาทต่อกิโลกรัม และไข่ไก่เบอร์ 0 ถาดละ128 บาท เบอร์ 1 ถาดละ 118 บาท เบอร์ 2 ถาดละ 105 บาท และเบอร์ 3 ราคาถาดละ 102 บาท โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดมุกดาหารได้มีการออกติดตามการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการ รวมถึงสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหารเป็นประจำทุกสัปดาห์ ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่าผู้ประกอบการร้านค้าเขียงหมูมีการปิดป้ายแสดงราคาที่ชัดเจน ปริมาณสุกรมีชีวิตในพื้นที่จังหวัดมุกดาหารมีเพียงพอสำหรับการบริโภค ไม่พบการกักตุนสินค้า ประชาชนส่วนใหญ่บริโภคเนื้อหมูลดลงและหันไปบริโภคเนื้อสัตว์ชนิดอื่นทดแทน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","มุกดาหาร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121231813170"], [589,"พาณิชย์ฯ หนองบัวลำภู ลงพื้นที่สำรวจจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดงราคาประหยัด ตามโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน","วันนี้ (21 ม.ค.65) นายพิชัย แก้วประเสริฐ ผู้อำนวยการกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมด้วยบุคลากรในหน่วยงาน ลงพื้นที่ ณ ตลาดสดชูเดช อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อสำรวจการดำเนินโครงการ หมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ในพื้นที่ดังกล่าว
ด้วยภาวะที่เนื้อหมูมีการปรับราคาจำหน่ายสูงขึ้น ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น สำนักงานพาณิชย์จังหวัดหนองบัวลำภูจึงมีการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด เป็นการลดค่าครองชีพ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ด้วยการดำเนินโครงการ หมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน โดยดำเนินการจำหน่ายหมูเนื้อแดงจากผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู ในราคา 150 บาท/กิโลกรัม ระหว่างวันที่ 17 - 31 มกราคม 2565 จำนวน 6 จุด ได้แก่
1. อำเภอศรีบุญเรือง ตลาดชูเดช จำนวน 3 จุด1) เขียงหมูแม่น้อย 2) เขียงหมูแม่อ้อย 3) เขียงหมูแม่แต๋ว เริ่มจำหน่าย เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป2. อำเภอโนนสัง จำนวน 1 จุด- เขียงหมูคู่ฮัก ตลาดเทศบาลตำบลโนนสัง เริ่มจำหน่ายเวลา 15.00 น. เป็นต้นไป
3. อำเภอนากลาง จำนวน 1 จุด- เขียงหมูคู่ฮัก (2) หน้าร้านเสรีการไฟฟ้านากลาง เริ่มจำหน่ายเวลา 15.00 น. เป็นต้นไป
4. อำเภอนาวัง จำนวน 1 จุด
- เขียงหมูคู่ฮัก (3) หน้าร้านบิ๊กต้อย (ใหม่) นาวัง เริ่มจำหน่ายเวลา 15.00 น. เป็นต้นไป
5. อำเภอเมือง จำนวน 1 จุด เขียงหมูสุริพร บ้านท่าเดื่อ หมู่ 6 เริ่มจำหน่ายเวลา 09.00 น. เป็นต้นไป
จากการลงพื้นที่สอบถามทั้งผู้จำหน่ายเนื้อหมู และประชาชนที่เดินทางมาซื้อสินค้าในตลาดสดชูเดช พบว่าผลตอบรับเป็นไปในทางที่ดี ประชาชนมีความพึงพอใจในโครงการดังกล่าว และสนับสนุนให้มีการดำเนินโครงการเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในลักษณะเช่นนี้อีก
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","21/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","หนองบัวลำภู","สวท.หนองบัวลำภู","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220121224524167"], [590,"จ.ตราดตรวจสอบการกักตุนเนื้อหมูพื้นที่เกาะช้างไม่พบการกระทำผิด","วันนี้ (21 ม.ค. 65) เวลา 10.30 น. นางโสภิดา ตนะวัฒนา ปลัดอำเภอเกาะช้าง นางสาวจิรวัส สนนิวาส เจ้าหน้าที่ปกครอง และ สสอ.เกาะช้าง ร่วมสำรวจ ตรวจสอบ การกักตุน เนื้อสุกรทั้งเป็น และแช่เย็น โดยเฉพาะโรงงานที่มีห้องเย็น จำนวน 3 แห่ง ดังนี้
1.แม็คโคร เกาะช้าง, 2.โลตัส 3.บิ๊กซี
การดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีการกักตุนแต่อย่างใด
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงการพัฒนาท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Port) ในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง สู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ Smart City โดยการท่าเรือแห่งประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ผลักดันนโยบายการบริหารการจราจร และการบูรณาการด้านข้อมูลเทคโนโลยีดิจิทัลภายในกรอบระยะเวลา 3 ปี ในการเชื่อมโยงข้อมูลการขนส่งหลากหลายรูปแบบ ทั้งทางถนน ทางเรือ และทางราง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สายเรือ ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ ผู้ประกอบการรถขนส่งสินค้า ผ่านระบบเทคโนโลยีดิจิทัล ได้แก่ Smart Port Traffic (ระบบจัดการข้อมูลการจราจร) Smart Port EDI (ระบบเชื่อมต่อ Big Dataจากระบบต่าง ๆ) Smart Port Payment (ระบบชำระเงินแบบ QR Code)
สำหรับโครงการพัฒนา Smart City ในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง ประกอบด้วย การส่งเสริมด้านการบูรณาการข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สายเรือ ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ กรมศุลกากร ผู้ประกอบการขนส่งสินค้า พัฒนาระบบการบริหารจัดการท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Port) และระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อช่วยบริหารเวลารถบรรทุกสินค้าเข้าออก (Truck Queue) เป็นต้น
ทั้งนี้ เพื่อมุ่งพัฒนาระบบท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Port System) ส่งเสริมให้เกิดการต่อยอดการใช้ประโยชน์จากข้อมูลท่าเรืออัจฉริยะให้มีศักยภาพ เพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการตู้คอนเทนเนอร์ ลดต้นทุนโลจิสติกส์ แก้ปัญหาการจราจร ลดมลภาวะและปัญหาสิ่งแวดล้อม เพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับชุมชนโดยรอบท่าเรือฯ
","22/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อำนาจเจริญ","สวท.อำนาจเจริญ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122070702214"], [592,"ปศุสัตว์จังหวัดอุบราชธานี ร่วมกับพาณิชย์จังหวัดฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เช่น เนื้อหมู ไข่ไก่ ในสถานประกอบการขนาดใหญ่ เพื่อให้ประชาชนไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ","นายสมเพชร สร้อยสระคู รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยนายกิตติ กุบแก้ว ปศุสัตว์จังหวัดอุบลราชธานี บูรณาการตรวจสอบราคาสินค้าร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี โดยทำการตรวจสอบสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น เนื้อหมู ไข่ไก่ ผัก ผลไม้ น้ำมันพืช และสินค้าอื่น ๆ ที่บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด สาขาอุบลราชธานี
ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ที่เข้ามาใช้บริการให้ได้รับความเป็นธรรม ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ? ซึ่งผลการตรวจสอบพบว่า ผู้ประกอบการมีการปฏิบัติตามมาตรการที่กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดไว้?อย่างถูกต้อง? และสินค้ามีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และมีการติดป้ายราคาสินค้าอย่างชัดเจน
สำหรับส่วนภายในห้องเย็นที่มีการเก็บเนื้อสัตว์นั้น ไม่พบว่ามีการสต็อกเกินกว่าที่กำหนด อีกทั้ง ยังได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการไม่ให้มีการกักตุนสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีนอีกด้วย
","22/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อุบลราชธานี","สวท.อุบลราชธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122070843215"], [593,"พาณิชย์จังหวัดลำปาง ติดตามสถานการณ์ ราคา ปริมาณ หน้ากากอนามัยและชุดตรวจหาเชื้อโควิค-19","นางสาวเยาวเรศ แซ่โค้ว พาณิชย์จังหวัดลำปาง มอบหมายให้ผู้อำนวยการกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า และเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ ราคา ปริมาณ หน้ากากอนามัยและชุดตรวจโควิค-19 ณ ร้าน อ.เภสัช ตำบลบ่อแฮ้ว อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง โดยพบว่า หน้ากากอนามัย ยี่ห้อ P+CARE (สีฟ้า) , Disposable (สีเขียว สีขาว) บรรจุ 50 ชิ้น ราคา 60 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ 1.20 บาท) , หน้ากากอนามัย ยี่ห้อ Disposable (สีฟ้า) บรรจุ 50 ชิ้น ราคา 80 บาท (เฉลี่ยนชิ้นละ 1.60 บาท) และชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ 2 in 1 ราคากล่องละ 125 บาท
สถานการณ์การจำหน่ายหน้ากากอนามัย และชุดตรวจหาเชื้อโควิค-19 จากการตรวจสอบพบว่ามีการปิดป้ายแสดงราคาชัดเจน จำหน่ายไม่เกินราคาควบคุม มีสินค้าหมุนเวียน ไม่ขาดแคลน
","22/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สวท.ลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122075455220"], [594,"ผู้ว่าฯ ลำปาง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์สินค้าและโครงการ \"หมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน\" พร้อมบูรณาการหน่วยงานแก้ปัญหาค่าครองชีพ","นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยนางสาวเยาวเรศ แซ่โค้ว พาณิชย์จังหวัดลำปาง พาณิชย์จังหวัดลำปาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ออกตรวจติดตามสถานการณ์การจำหน่วยสินค้าอุปโภคบริโภค และโครงการ \"หมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน\" ณ ตลาดสดบ้านต้นยาง ตำบลพิชัย อำเภอเมืองลำปาง ตามข้อสั่งการของกระทรวงมหาดไทย เพื่อดำเนินการแก้ไขและบรรเทาปัญหาค่าครองชีพครัวเรือน พร้อมบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกตรวจสินค้า เพื่อไม่ให้มีการจำหน่ายเกินราคา กักตุน และปฏิเสธการจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพขอประชาชน
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าราคาจำหน่ายเนื้อสุกรเริ่มทรงตัว ปริมาณการบริโภคลดลงจากราคาที่ขยับสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้า ผู้บริโภคบางส่วนหันไปบริโภคเนื้อสัตว์อื่น ๆ ทดแทนเนื้อไก่และไข่ไก่ กระทรวงพาณิชย์ได้หารือผู้เกี่ยวข้องขอความร่วมมือในการกำหนดราคาไก่มีชีวิต เนื้อไก่สด และไขไก่ที่เหมาะสม เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพแก่ผู้บริโภค ผักสดและผลไม้ราคาเปลี่ยนแปลงตามปริมาณสินค้าที่เข้าสู่ตลาด อาหารทะเลราคาทรงตัว มีบางสินค้าราคาเปลี่ยนแปลงตามปริมาณที่เข้าสู่ตลาด สินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ ราคาสินค้าส่วนใหญ่ทรงตัวจากที่กระทรวงพาณิชย์ขอความร่วมมือให้ผู้ผลิตตรีงราคาสินค้า และปริมาณสินค้ามีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค
ทั้งนี้ ในส่วนของการบรรเทาปัญหาค่าครองชีพครัวเรือนของประชาชน จังหวัดลำปางจะดำเนินการจัดตลาดนัด ตลาดชุมชน การจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาประหยัดและโครงการคนละครึ่งของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม จังหวัดลำปางได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ไม่ให้ฉวยโอกาสกักตุนสินค้า ไม่ให้จำหน่ายในราคาเกินสมควร และปิดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ผู้บริโภคเห็นอย่างชัดเจน หากพบการกระทำความผิดจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย ตามาตรา 29 และ มาตรา 30 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากพบเห็นการกระทำความผิดสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดลําปาง โทร.0-5426-5087
","22/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สวท.ลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122090929228"], [595,"จังหวัดสุโขทัย ติดตามการจำหน่ายหมูเนื้อแดงช่วยประชาชน","จังหวัดสุโขทัย ลงพื้นที่ติดตามการจำหน่ายสุกรเนื้อแดง (สะโพก) ตามโครงการ \"พาณิชย์... ลดราคา ! ช่วยประชาชน\" พร้อมกำชับรายขายหมูต้องติดป้ายราคาให้ชัดเจน นางสาวพัชรอร วงศ์กำแหง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วยนายศุภสัณห์ ศิลป์ชูศรี พาณิชย์จังหวัดสุโขทัย ปลัดอำเภอเมืองสุโขทัย และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจติดตามราคาสินค้า ณ ตลาดสดวัดตระพังทอง ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย
จากการลงพื้นที่พบว่าราคาจำหน่ายเนื้อสุกรมีการปรับขึ้นราคา โดยราคาจำหน่ายเนื้อแดง 180-200 บาท/กิโลกรัม ซึ่งผู้ประกอบการมีการตรึงราคาจำหน่ายไม่ให้มีราคาจำหน่ายสูงเกินไป เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้บริโภค สำหรับราคาเนื้อไก่และราคาไข่ไก่ ยังอยู่ในเกณฑ์ไม่เกินราคาแนะนำที่กรมการค้าภายในกำหนด ส่วนราคาพืชผักและผลไม้เป็นไปตามฤดูกาล ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้กำชับให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายปลีกสินค้าอย่างเคร่งครัด และไม่ให้ฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าเกินสมควร
ด้าน พาณิชย์จังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ติดตามการจำหน่ายสุกรเนื้อแดง (สะโพก) ตามโครงการ \"พาณิชย์... ลดราคา ! ช่วยประชาชน\" ครั้งที่ 3 ณ ร้าน N.T. หมูสด-ไก่สด สาขาคีรีมาศ 2 (ข้างโรงพยาบาลคีรีมาศ) อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดจำหน่าย ทั้ง 7 จุด ของจังหวัดสุโขทัย โดยจำหน่ายเนื้อสุกรเนื้อแดง (สะโพก) ราคากิโลกรัมละ 150 บาท และจำกัดปริมาณการซื้อครอบครัว ละไม่เกิน 2 กิโลกรัม นอกจากนนี้ ทางร้านฯ ได้มีการจัดโปรโมชั่นร่วมกับโครงการฯ ด้วยซึ่งโครงการดังกล่าวจะจัดจำหน่ายเนื้อสุกรเนื้อแดง (สะโพก) จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565
","22/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","สุโขทัย","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุโขทัย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122093427233"], [596,"จัดแผนขนส่งผักผลไม้ รองรับการเปิดเส้นทางรถไฟจีน-ลาว หวังเพิ่มยอดการส่งออกสินค้าเกษตรไทย","นายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้เตรียมแผนการนำเข้าและส่งออกผักผลไม้ของไทยและจีน ประจำปี 2565 หลังมีการเปิดให้บริการโครงการทางรถไฟระหว่างจีน-ลาวเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยเป็นการจัดแผนรองรับสำหรับการเปิดเส้นทางรถไฟความเร็วปานกลางระหว่างคุนหมิง-เวียงจันทน์
เบื้องต้นได้ประสานการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมศุลกากร กรมทางหลวง การรถไฟแห่งประเทศไทย ด่านประมงและปศุสัตว์ เพื่อเตรียมความพร้อมด้านการส่งออกและนำเข้าสินค้าทางการเกษตรทุกๆ ด้าน แบ่งเป็นแผนระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ซึ่งปีที่ผ่านมาไทยสามารถส่งออกผักและผลไม้ของไทยไปจีนในปีที่ผ่านมามีมูลค่ากว่า 140,000 ล้านบาทผ่านทางถนนมากกว่า 2 ใน 3 ซึ่งมีความสะดวกมากกว่าการขนส่งทางเรือที่ประสบปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์จากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ซึ่งการเปิดเส้นดังกล่าวจะอำนวยความสะดวกลดต้นทุนการขนส่งของไทยได้ถึงร้อยละ 30 - 50 โดยเฉพาะเส้นทางผ่านพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือผ่านด่านศุลกากรหนองคาย ซึ่งเป็นจุดเชื่อมโยงการขนส่งไทย-ลาว-จีน
","22/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122140948312"], [597,"นายกรัฐมนตรีผลักดันตลาดท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ททท.คาด ไตรมาส 1 ดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทยไม่ต่ำกว่า 4 แสนคน","
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินหน้าผลักดันการท่องเที่ยวไทย หลังจากรัฐบาลเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ สามารถเข้ามาเที่ยวในประเทศผ่านรูปแบบ Test & Go ได้ โดยเริ่มวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คาดการณ์สถานการณ์ด้านตลาดการท่องเที่ยวไตรมาส 1/2565 (เดือนมกราคม-มีนาคม 2565) จะมีนักท่องเที่ยวในประเทศ จำนวน 27.1 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 137,712 ล้านบาท ส่วนตลาดต่างประเทศ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ จำนวน 338,645 คน สร้างรายได้ 26,065 ล้านบาท
ภาพรวมการท่องเที่ยวในประเทศมีทิศทางเติบโตขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป คนไทยพร้อมเดินทางท่องเที่ยวหลังจากได้รับวัคซีน ส่วนตลาดในต่างประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัวจากมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติม ถึงภาพรวมของการท่องเที่ยวในประเทศ มีกระแสที่ดี โดยความคืบหน้าโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 และทัวร์เที่ยวไทย ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ในส่วนของความคืบหน้าโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 มีประชาชนมีจำนวนผู้ใช้สิทธิ์ 637,171 คน ยอดการจอง โรงแรมสะสม 2,004,199 ห้อง สร้างมูลค่าการใช้จ่ายผ่านโครงการทั้งสิ้น 8,888 ล้านบาท และในส่วนของโครงการทัวร์เที่ยวไทย ยอดรวมมูลค่าการเดินทางและค่าใช้จ่ายการสะสม 227.83 ล้านบาท โดยประชาชนสามารถใช้สิทธิทั้ง 2 โครงการได้ถึง 31 มกราคม 2565
รัฐบาลเตรียมเดินหน้าโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 ในเร็วๆ นี้ เบื้องต้นจะเพิ่มสิทธิจำนวนห้องพัก 2 ล้านสิทธิหรือห้อง โดย ททท. คาดว่า จะเริ่มให้ประชาชนจองสิทธิได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 และสิ้นสุดการใช้สิทธิภายในเดือนเมษายน 2565 ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรพิจารณา
","22/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122135957303"], [598,"ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่สำรวจราคาเนื้อหมู ไก่สด และไข่ไก่ สั่งทุกอำเภอติดตามจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย","
นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วย นางสาวยุพา นาคา พาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ปศุสัตว์จังหวัดแม่ฮ่องสอน เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และตำรวจ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคา ปริมาณ และสถานที่จัดเก็บสินค้าอุปโภคบริโภค เนื้อหมู ไก่สด และไข่ไก่ ในอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ได้แก่ ตลาดสดเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน (ตลาดสายหยุด) ร้านซีพี เฟรสมาร์ท ร้านเบทาโกร ร้านหมูอินเตอร์ และร้านธัมมาทรัพย์เจริญ
ผลการตรวจสอบพบว่าไม่มีการครอบครองสุกรชำแหละผาซีก เนื้อสุกรชำแหละแยกชิ้นส่วน ที่มีปริมาณรวมกันตั้งแต่ห้าพันกิโลกรัมขึ้นไปตามประกาศ กกร. ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2565 เรื่อง การแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร ส่วนสินค้าประเภทอื่นๆ พบว่ามีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค และผู้ประกอบการมีปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าชัดเจน สินค้า อาทิ
- น้ำมันปาล์ม ขนาด 1 ลิตร ราคา 55-60 บาท
- น้ำมันถั่วเหลือง ขนาด 1 ลิตร ราคา 57-60 บาท
- หมูเนื้อแดงขนาด 1 กิโลกรัม ราคา 200-220 บาท
- ไข่ไก่เบอร์ 2 ราคาแผงละ 89-114 บาท
- ไข่ไก่เบอร์ 3 ราคาแผงละ 85-105 บาท
- เนื้ออกไก่ ขนาด 1 กิโลกรัม ราคา 75-100 บาท
- น่องไก่ติดสะโพก ขนาด 1 กิโลกรัม ราคา 71-82 บาท
ทั้งนี้ จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้มอบหมายพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับปศุสัตว์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ปกครองอำเภอ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกตรวจติดตามสถานการณ์สินค้า ณ ร้านขายส่ง/ขายปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค ตลาดสดและร้านจำหน่ายเนื้อหมูในพื้นที่ทุกอำเภอจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ซึ่งในการลงพื้นที่เจ้าหน้าที่ได้กำชับให้ร้านค้าปฏิบัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 อย่างเคร่งครัด โดยปิดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน ห้ามกักตุนสินค้า และห้ามฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาที่สูงเกินควร
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
บรรดาร้านค้าในเขตเทศบาลนครยะลา ได้นำเสื้อผ้าสีแดงออกมาวางจำหน่ายหน้าร้าน ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อแล้ว ซึ่งอีกไม่กี่วันข้างหน้า เทศกาล ตรุษจีน ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวไทยเชื้อสายจีนก็จะมาถึง โดยปีนี้ตรงกับวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565
สำหรับเสื้อผ้าที่นำมาวางจำหน่ายจะมีทั้งเสื้อยืด เสื้อคอกลม เสื้อคอวี หลายแบบหลายลาย ทั้งลายมังกร ลายการ์ตูนเสือ สัญลักษณ์ปี 2022 ตัวอักษร ร่ำรวย รวมถึงชุดกี่เพ้า ชุดเจ้าสัว ชุดทำงาน เด็ก ผู้ใหญ่ เพื่อให้ประชาชนได้มาเลือกซื้อสวมใส่ ซึ่งเสื้อสีแดงเป็นสีแห่งความสุขและความเป็นสิริมงคลของชาวจีน ที่จะนิยมสวมใส่ในวันตรุษจีน ซึ่งมีประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนทยอยออกมาเลือกซื้อบ้างแล้ว แต่ยังไม่มาก ส่วนราคาเสื้อตรุษจีนปีนี้ ราคาถูกลงกว่าปีที่แล้ว
ร้านพี่ลี คนใหญ่คนโต บอกว่า ได้เริ่มสั่งเสื้อจาก กทม. มาขายตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ตามปกติช่วงนี้คนน่าจะมาเลือกซื้อกันเยอะแล้ว แต่ตอนนี้เงียบมาก คาดว่าในอาทิตย์สุดท้ายตอนใกล้ ๆ ตรุษจีน คนน่าจะแห่มาซื้อ ปีนี้ได้สั่งเสื้อมาขายมากกว่าเดิม มีความหวังว่าจะขายดี เพราะทุกปีขายไม่เคยพอ คนจะมาซื้อ 3 วันสุดท้ายก่อนตรุษจีนกันเยอะไม่เคยเหลือ ปีนี้อาจจะเหลืออีกหลายวัน บางคนถ้าคนจีนจริง ๆ จะมาซื้อเตรียมไว้ ถ้าถึงเวลาจะไม่ได้เสื้อเป็นทีม บางคนจะซื้อแบบที่เหมือนกันทั้งครอบครัว มาหลังจะไม่ได้ตามที่ต้องการ มาซื้อก่อนก็จะมีหมด
สำหรับราคาปีนี้ถูกกว่าเดิม ปกติผู้ใหญ่ไซต์ S , M ตัวละ 150 บาท ไซต์ L ตัวละ 170 บาท ไซต์ XL ตัวละ 180 บาท ไซต์ 2XL ตัวละ 200 บาท ไซต์ 3XL ตัวละ 200 ขึ้นไป ชุดกี่เพ้า สั้น-ยาว เริ่มต้นที่ 200 บาท ในปีนี้เสื้อไซต์ S , M , L , XL ที่ร้านจะตัดขายราคา 150 บาททุกตัว ราคาเสื้อแพงขึ้นแต่ทางร้านขายถูกลง เศรษฐกิจไม่ค่อยดีช่วยประชาชน แต่ดีอย่างอยู่ยะลา 3 จังหวัด กำลังซื้อของประชาชนยังพอมี ยิ่งเวลาเทศกาลคนก็เข้ามา แต่ทั้งนี้ก็จะต้องรอลุ้นในอาทิตย์สุดท้าย
สำหรับเสื้อจะทั้งเสื้อเด็ก ลายน่ารัก ๆ เสื้อผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่คนจะเน้นซื้อเป็นเสื้อยืด เสื้อโปโลมากกว่า เสื้อยืดออกมากสุด ถ้าซื้อเยอะ ปกติทางร้านจะขายในราคาตามไซต์ แต่ทางร้านก็จะขายในราคา 150 บาท
","22/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122111518253"], [600,"ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน เผยตรุษจีนนี้ เนื้อหมู ไก่ ไข่ไก่ ไม่ขาดตลาด กำชับพาณิชย์คุมราคาไม่ให้กระทบผู้ค้า-ผู้บริโภค","นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ทางจังหวัดได้บูรณาการร่วมมือกันทั้งสำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด อำเภอ และตำรวจ ออกตรวจติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า โดยเฉพาะสินค้าบริโภคอย่างเนื้อหมู เนื้อไก่ และไข่ไก่ อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2565 พบว่าในทุกอำเภอ ราคาสินค้าบางชนิดได้มีการปรับขึ้นจริง แต่เป็นไปตามกลไกตลาด และยังมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ที่ผ่านมาไม่พบการกักตุนหรือทำผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ตามในช่วงตรุษจีน ที่กำลังจะมาถึงคาดว่าจะมีความต้องการเพิ่มมากขึ้นกว่าช่วงปกติ ซึ่งในวันนี้ (22 ม.ค.65) ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ลงพื้นที่สำรวจปริมาณเนื้อสัตว์ และพูดคุยกับผู้ค้า คาดการณ์ว่าปริมาณเนื้อสัตว์จะมีเพียงพอ ขณะเดียวกันในด้านราคากระทรวงพาณิชย์ก็มีกลไกในควบคุมอยู่ ดังนั้น จึงเชื่อมั่นว่าประชาชนเชื้อสายจีนจะยังสามารถสืบสานประเพณีการฉลองตรุษจีนได้ ส่วนการแก้ปัญหาด้านราคานั้น ทางรัฐบาล โดยกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และภาคเอกชน กำลังเร่งหารือเพื่อตรึงราคา และแก้ไขปัญหาในระยะต่อไป
ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มีการกำชับให้พาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด ตรวจสอบ และติดตามราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด หากพบมีการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด หากประชาชนพบเห็นว่ามีการกักตุนหรือฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ และหากตรวจสอบพบการกระทำผิดจะมีโทษตามมาตรา 29 แห่งพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","22/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122114657265"], [601,"พ่อเมืองชุมพรลงพื้นที่ตรวจตลาดให้กำลังใจพ่อค้าแม่ค้าติดป้ายแสดงราคาสินค้า","
วันนี้ (22 มกราคม 2565) เวลา 08.30 น. นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วยนายกองเอกพุทธ กฤชคงพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร , นางสาวเปรมนีย์ ทรัพย์โชคชัย พาณิชย์จังหวัดชุมพร , นายศรีชัย วีระนรพานิช นายกเทศมนตรีเมืองชุมพร , นายณรงค์ หลักกำจร ประชาสัมพันธ์จังหวัดชุมพร และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ราคาจำหน่ายอาหารสด และการปิดป้ายแสดงราคาสินค้า ที่ตลาดสดชุมพร (หมอพนัส) ตำบลท่าตะเภา อำเภอเมืองชุมพร
นายโชตินรินทร์ เกิดสม กล่าวว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่มาพูดคุยตรวจเยี่ยม ทำความเข้าใจกับพ่อค้า-แม่ค้าในตลาด ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ที่จะดูแลเรื่องราคาสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ให้มีราคาที่เป็นธรรม ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่าในตลาดสดชุมพร มีการติดป้ายแสดงราคาสินค้า บางร้านป้ายอาจจะเก่าหรือชำรุด ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดก็ได้แนะนำให้เปลี่ยนป้ายให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ แต่สิ่งที่สำคัญ คือ ต้องขายในราคาที่ยุติธรรมในสถานการณ์ที่ราคาสินค้ามีความผันผวน ไม่ต้องการให้พ่อค้าแม่ค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าในรายการที่ไม่ให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งจากที่ดูในวันนี้ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ส่วนสินค้าที่ต้องติดตามอยู่ขณะนี้ ทั้งหมู ไก่ และไข่ไก่ พบว่ามีปริมาณเพียงพอ และไม่มีการกักตุน แต่ในทางกลับกันประชาชนซื้อหมูน้อยลง อาจเป็นเพราะราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งในตลาดสดชุมพร แห่งนี้มีการปรับราคาสูงขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น แต่ละรายการเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6 บาท/กก. ส่วนไข่ไก่ยังมีราคาปกติ เนื่องจากมีฟาร์มอยู่ในจังหวัดชุมพร ทำให้มีปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการ และขายอย่างต่อเนื่อง ส่วนเนื้อไก่ก็อยู่ในราคาปกติเช่นกัน
ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวต่อว่า ภารกิจในวันนี้ก็มาเยี่ยมพี่น้องประชาชนด้วย พร้อมกับดูในเรื่องของมาตรการป้องกันโควิด-19 ซึ่งทางตลาดก็ได้มีมาตรการป้องกันโรค มีจุดคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิ ให้บริการเจลล้างมือ ส่วนภายในตลาดทุกคนสวนหน้ากากอนามัยตลอดเวลา จากนี้จะรณรงค์เรื่องการลดใช้ถุงพลาสติกโดยใช้เป็นถุงผ้าหรือตะกร้าแทน
นอกจากนี้ พ่อเมืองชุมพร ยังได้เปิดเผยว่า จังหวัดชุมพร ร่วมกับมูลนิธิชุมพรพัฒนา กำหนดจัดจำหน่ายสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีพในราคาถูก โดยเฉพาะน้ำมันปาล์มและน้ำปลา ซึ่งมีโรงงานผลิตในพื้นที่จังหวัดชุมพร นำมาจำหน่ายในราคาต้นทุน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ลดค่าครองชีพให้แก่ของพี่น้องประชาชน ซึ่งจะเริ่มจัดจำหน่ายในวันที่ 25-27 มกราคมนี้ ณ บริเวณที่ว่าอำเภอเมืองชุมพร และที่ว่าการอำเภอหลังสวน
","22/1/2022","ภาคใต้","ชุมพร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชุมพร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122120303271"], [602,"รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ พีที แม็กซ์นิตรอน เรซซิ่งซีรีส์ 2021 ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ฟื้นฟูเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่ ","รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ พีที แม็กซ์นิตรอน เรซซิ่งซีรีส์ 2021 ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ฟื้นฟูเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่
วันนี้ (22 ม.ค. 65) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ พีที แม็กซ์นิตรอน เรซซิ่งซีรีส์ 2021 ที่สนามแข่งขันเฉพาะกิจ พีที ประจวบสตรีท เซอร์กิต อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชน ร่วมพิธี
สนามแห่งนี้ได้รับการรับรองจากราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในการจัดการแข่งขัน โดยใช้เส้นทางการแข่งขันเลียบเขาช่องกระจกและอ่าวประจวบฯ ระยะทาง 2.3 กิโลเมตร ถือเป็นการส่งเสริมกีฬามอเตอร์สปอร์ตให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย สร้างนักกีฬามอเตอร์สปอร์ตของไทยสู่ระดับสากล รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ฟื้นฟูเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับผู้ค้าผู้ประกอบการ โรงแรม จากการจับจ่ายใช้สอยของผู้ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ โดยมีนักแข่งรถรุ่นต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประมาณ 3,000 คน ทุกคนต้องได้รับวัคซีนโควิดครบโดส และมีผลการตรวจเอทีเคเป็นลบ ส่วนประชาชนงดให้เข้าชม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความแออัดตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นักแข่งรถได้มีการลงสนามซ้อมตั้งแต่วันที่ 19-21 มกราคม 2565 และแข่งจริงในวันที่ 22-23 มกราคม 2565 โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานถ้วยรางวัลให้แก่ผู้ชนะเลิศการแข่งขัน 1 รุ่น คือ รุ่นสยาม จีที ซึ่งจะทำการแข่งขันในวันที่ 23 มกราคม 2565
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวขอบคุณหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่ร่วมกันสร้างกิจกรรมการกีฬาต่อยอดการท่องเที่ยวในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงกีฬาระดับโลกให้กับประเทศไทย โดยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถือเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงามเหมาะสมกับการส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้หมุนเวียน ฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง และสนามแข่งขันเฉพาะกิจ พีที ประจวบสตรีท เซอร์กิต จะเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ในการดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งจะมีการส่งเสริมให้กิจกรรมการแข่งขันรถยนต์รายการนี้เป็นกิจกรรมประจำปีของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต่อไป
สำหรับประชาชนที่สนใจชมการแข่งขัน สามารถรับชมได้ผ่านการไลฟ์สตรีมมิ่งทางเพจ เฟซบุ๊ก PT Maxnitron Motorsport วันเสาร์ที่ 22 มกราคม 2565 ทำการแข่งขันตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม 2565 แข่งขันตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
","22/1/2022","ภาคตะวันตก","ประจวบคีรีขันธ์","สวท.ประจวบคีรีขันธ์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122121802276"], [603,"ผู้ว่าฯ พาณิชย์ แม่ฮ่องสอน นำทีมหน่วยงานในจังหวัด ติดตามสถานการณ์สินค้า","วันนี้ (22 มกราคม 2565) เวลา 09.30 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายเชษฐา โมสิกรัตน์ พร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน (นางสาวยุพา นาคา) ปศุสัตว์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เนื้อหมู ไก่สด และไข่ไก่ และสถานที่จัดเก็บสินค้าอุปโภคบริโภค ได้แก่ 1?.ตลาดสดเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน (ตลาดสายหยุด) 2.ซีพีเฟรชมาร์ท 3?.เบทาโกร 4?.ร้านหมูอินเตอร์ 5?.ร้านธัมมาทรัพย์เจริญ
ผลการตรวจสอบ พบว่าผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าชัดเจน สินค้ามีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค อาทิ น้ำมันปาล์ม ขนาด 1 ลิตร ราคา 55-60 บาท น้ำมันถั่วเหลือง ขนาด 1 ลิตร ราคา 57-60 บาท หมูเนื้อแดงขนาด 1 กิโลกรัม ราคา 200-220 บาท ไข่ไก่เบอร์ 2 ราคาแผงละ 89-114 บาท ไข่ไก่เบอร์ 3 ราคาแผงละ 85-105 บาท เนื้ออกไก่ ขนาด 1 กิโลกรัม ราคา 75-100 บาท
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับร้านภาคเหนือหมูสด ดำเนินโครงการ \"หมูพาณิชย์ ลดราคา ! ช่วยประชาชน\" ตามนโยบายรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด เป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยจำหน่ายหมูเนื้อแดง ราคา กก.ละ 150 บาท ตั้งแต่วันที่ 5-31 มกราคม 2565 จำนวน 5 จุด ในอำเภอเมือง ขุนยวม ปางมะผ้าและปาย
สำหรับจังหวัดแม่ฮ่องสอนไม่มีปริมาณการครอบครองสุกรชำแหละผาซีก เนื้อสุกรชำแหละแยกชิ้นส่วน ที่มีปริมาณรวมกันตั้งแต่ห้าพันกิโลกรัมขึ้นไปตามประกาศ กกร ฉบับที่ 2 พ.ศ.2565 และเจ้าหน้าที่ได้กำชับให้ร้านค้าปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ และจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้มอบหมายพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับปศุสัตว์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ปกครองอำเภอ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกตรวจติดตามสถานการณ์สินค้า ณ ร้านขายส่ง/ขายปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค ตลาดสด และร้านจำหน่ายเนื้อหมูในพื้นที่ทุกอำเภอจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
","22/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122123545280"], [604,"จังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับภาครัฐ เอกชน และเครือข่ายกลุ่มเกษตรกร จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ตลาดนัดทุกวันเสาร์ ครั้งที่ 2 ให้ประชาชนได้ซื้อสินค้าในราคาที่ประหยัด","นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้นายสมเพชร สร้อยสระคู รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับรองนายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี ตรวจติดตามและเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า กลุ่มเกษตรสีเขียว เครือข่ายโคก หนอง นา เกษตรกร และประชาชน นำสินค้าอุปโภคบริโภคจำหน่ายให้กับประชาชน ที่บริเวณตลาดนัดราคาประหยัด ลานขวัญเมือง ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี (หลังเก่า)
โดยวันนี้ (22 ม.ค. 65) เป็นการจำหน่ายสินค้าทุกวันเสาร์ ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 มีสินค้าที่นำมาจำหน่าย ได้แก่ อุปโภคบริโภค เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ พืชผักสวนครัว ผลไม้ และอาหารแห้ง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากสถานการณ์สินค้ามีแนวโน้มสูงขึ้น เพื่อเพิ่มช่องทางในการเลือกซื้อสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพในราคาประหยัดให้แก่ประชาชน รวมทั้งเพื่อให้เกิดการ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและการบริโภค ซึ่งจะก่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
","22/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อุบลราชธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122124829286"], [605,"ผู้ว่าฯ ลำปาง นำทีมติดตามสถานการณ์สินค้าอุปโภค-บริโภค แก้ปัญหาค่าครองชีพประชาชน","ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ตลาดชุมชน ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภค-บริโภค ป้องกันการเอารัดเอาเปรียบช่วยเหลือประชาชนด้านค่าครองชีพ
นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย น.ส. เยาวเรศ แซ่โค้ว พาณิชย์จังหวัดลำปาง นายศร ธีปฎิมากร ปศุสัตว์จังหวัดลำปาง และเจ้าหน้าที่จากสังกัดหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากสำนักงานจังหวัด ฝ่ายปกครองจังหวัด พาณิชย์จังหวัด ตำรวจภูธรเมืองลำปาง เจ้าหน้าที่สำนักงานสาขาชั่งตวงวัดเขต 1-2 ลำปาง ประชาสัมพันธ์จังหวัด เจ้าหน้าที่ กอ.รมน. และเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน สคบ.จังหวัดลำปาง ในนามคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดลำปาง ร่วมลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์การจำหน่วยสินค้าอุปโภค-บริโภค พร้อมติดตามโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน ตามข้อสั่งการของกระทรวงมหาดไทย เพื่อดำเนินการแก้ไขและบรรเทาปัญหาผลกระทบด้านค่าครองชีพแก่ครัวเรือนประชาชน ป้องปรามไม่ให้มีการจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นเกินราคา กักตุน หรือปฏิเสธการจำหน่าย
ทั้งนี้ เนื่องด้วยปัจจุบันเป็นช่วงที่ผลผลิตสินค้าทางการเกษตรได้มีการปรับราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะเนื้อหมูที่พบว่ามีปริมาณการผลิตออกสู่ท้องตลาดลดลง และด้วยต้นทุนการเลี้ยงสุกรที่ได้มีการปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เนื้อหมูที่มีจำหน่ายอยู่ตามท้องตลาดทั่วไปมีราคาแพง จากเดิมกิโลกรัมละ 170-180 บาท พุ่งขึ้นเป็นกิโลกรัมละกว่า 230 บาท ซึ่งคาดการณ์ว่าเนื้อหมูอาจจะมีราคาแพงขึ้นได้อีก เฉพาะอย่างยิ่งก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีน และช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยอาจทำให้เกิดกักตุนสินค้า ซึ่งเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ทั้งยังเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายมีโทษทั้งจำและปรับ ดังนั้นเพื่อจะป้องปรามไม่ให้เกิดข้อพิพาทในลักษณะดังกล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง จึงได้นำทีมเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรตามตลาดชุมชนในเขตพื้นที่ เพื่อเป็นการย้ำเตือนและประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ป้องกันการกระทำที่ผิดกฎหมาย
โดยล่าสุด ได้ทำการลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตร พืชผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ ที่วางจำหน่ายภายในบริเวณตลาดชุมชนต้นยาง ตำบลพิชัย อำเภอเมืองลำปาง ซึ่งจากการติดตามตรวจสอบราคาพบว่าสินค้าเกษตรส่วนใหญ่ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ มีเพียงอาหารทะเลบางรายการ และไข่ไก่ที่มีการปรับราคาสูงขึ้นเล็กน้อย ส่วนเนื้อหมูมีการปรับราคาสูงขึ้นโดยเนื้อหมูสดตามเขียงหมูในตลาดพ่อค้าแม่ค้าจะจำหน่ายกันในราคากิโลกรัมละ 230 บาท ซึ่งจากการสอบถามแม่ค้าขายเนื้อหมูในตลาดต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ช่วงนี้เนื้อหมูมีราคาแพงมาก ทำให้ผู้บริโภคซื้อหมูไปรับประทานกันน้อยลง และส่วนใหญ่จะซื้อปริมาณครั้งละ 50-60 บาทเท่านั้น ส่วนกำไรแทบไม่เหลือเพราะหมู 1 ตัว ต้องใช้เวลาขาย 2 วัน กว่าจะหมด โดยในส่วนของความช่วยเหลืออยากให้มีการคุมราคาสินค้าลดราคาเนื้อหมูลงตั้งแต่ต้นทาง รวมถึงอยากให้รัฐช่วยเหลือในเรื่องค่าภาษีเพราะทุกวันนี้พ่อค้าแม่ค้าเนื้อหมู ต้องจ่ายภาษีให้รัฐสูงมาก ถึงปีละกว่า 37,000 บาท
ด้านนายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า จากสถานการณ์เนื้อหมูราคาแพงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ เป็นผลกระทบอันเนื่องมาจากปัญหาเรื่องวัตถุดิบ อาหารสัตว์มีการปรับราคาสูงขึ้นและปัญหาเรื่องโรคระบาดในสุกร เบื้องต้นทางหน่วยงานกระทรวงพาณิชย์ได้มีการดำเนินการช่วยเหลือประชาชนผู้บริโภค โดยร่วมกับผู้ประกอบการจำหน่ายเนื้อหมู ร้านหมูอินเตอร์ จัดโปรโมชั่นพิเศษลดราคาเนื้อหมู (เนื้อแดง) จำหน่ายกิโลกรัมละ 150 บาท ซึ่งกำหนดเงื่อนไขลดราคาให้กับผู้บริโภค 1 คน/กิโลกรัม และจะจำหน่ายเนื้อหมูในราคานี้เพียง 50 กิโลกรัม/วัน เพื่อให้การช่วยเหลือกระจายไปอย่างทั่วถึงและไม่กระทบกับผู้ประกอบการรายย่อย ส่วนการแก้ปัญหาในระยะยาวได้เร่งที่จะดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร โดยเกษตรกรที่ต้องการอยากเลี้ยงแม่พันธุ์ก็จะมีการจัดหาแม่พันธุ์ให้รายละ 2 ตัว หรือหากต้องการเลี้ยงสุกรขุน ก็จะจัดหาลูกสุกรขุนให้รายละ 20 ตัว รวมไปถึงร่วมกับธนาคาร ธกส. เปิดให้สินเชื่อดอกเบี้ยถูก ส่วนปัญหาโรคระบาดจะให้หน่วยงานปศุสัตว์คอยเฝ้าระวังติดตามช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรทุกราย โดยตามแนวทางการช่วยเหลือนี้ในอีก 4 ข้างหน้า ตามวงรอบของการเลี้ยงสุกร คาดว่าจะมีปริมาณเนื้อสุกรเข้าสู่ตลาดมากขึ้นและราคาก็จะลดลงเป็นปกติ
อย่างไรก็ตามในการนี้จังหวัดลำปาง ขอแจ้งเตือนและขอความร่วมมือผู้ประกอบการอย่าได้ฉวยโอกาสกักตุนสินค้า ห้ามจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นในราคาเกินสมควร และให้ปิดป้ายแสดงราคาสินค้าอย่างชัดเจน โดยหากพบการกระทำความผิดจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิด สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดลําปาง โทร 0-5426-5087
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","22/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122132453295"], [606,"ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน บูรณาการร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจติดตาม สถานการณ์ปัญหาราคา การจำหน่ายสินค้าบริโภคและอุปโภค","วันนี้ (22 ม.ค.65) นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยนายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ผกก.สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน พาณิชย์จังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด และประชาสัมพันธ์จังหวัด ร่วมลงพื้นที่ ตรวจติดตามสถานการณ์ปัญหาราคา การจำหน่ายสินค้าบริโภคและอุปโภค ในตลาดสายหยุด และร้านค้าปลีก-ค้าส่งเนื้อสัตว์ ในเขตเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อติดตามสถานการณ์ปัญหาราคา สินค้าอุปโภคบริโภค ที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชน โดยจากการสำรวจพบว่าสินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะเนื้อหมูที่มีราคาสูงขึ้นกว่าเท่าตัว แต่ยอดขายลดลงเนื่องจากราคาเนื้อหมูที่สูง ประชาชนจึงหันไปบริโภคเนื้อสัตว์ชนิดอื่นแทน
ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใย ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดติดตามสถานการณ์ปัญหาราคาการจำหน่ายสินค้าบริโภคและอุปโภค โดยเฉพาะเนื้อหมู ซึ่งจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา ต่างได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการในการตรวจสอบ พบว่าสินค้ามีการปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นไปตามกลไกการตลาด และปริมาณสินค้ายังคงมีเพียงพอ ต่อการอุปโภคบริโภค ไม่พบการกักตุนสินค้าแต่อย่างใด โดยได้แนะนำให้ผู้ค้าปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าให้ชัดเจน และขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึง หรือลดราคาสินค้าที่จำเป็น เพื่อช่วยเหลือประชาชน
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการแม่ฮ่องสอน ในฐานะประธานคณะกรรมการส่วนจังหวัดว่าด้วยราคาสินค้าและบริการจังหวัดแม่ฮ่องสอน (กจร.) ได้สั่งการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจสอบราคาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยกำชับให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 อย่างเคร่งครัด โดยปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าให้ชัดเจน ห้ามจำหน่ายสินค้าในราคาแพงเกินสมควร ห้ามกักตุนหรือปฏิเสธการจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพของประชาชน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","22/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122142435322"], [607,"สบค.พังงาร่วมพาณิชย์พังงา ลงตรวจสอบร้านจำหน่ายเนื้อหมู","สำนักงานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดพังงา ร่วมกับ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพังงา อำเภอตะกั่วป่า ตำรวจภูธรจังหวัดพังงา สถานีตำรวจภูธรตะกั่วป่า และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อป้องกันการกักตุนสินค้า จำนวน 5 แห่ง คือ 1) ตลาดสด บขส.ตะกั่วป่า 2) ห้างบิ๊กซี สาขาตะกั่วป่า 3) ซุปเปอร์ชิป สาขาคึกคัก 4) ห้องแช่ บริษัท ZAINO IF&B จำกัด 5) ห้องแช่ บริษัท รีฟัลเจิน จำกัด
ผลการลงพื้นที่สรุปได้ว่า มีการจำหน่ายสินค้าปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค และไม่พบการกักตุนเนื้อหมูแต่อย่างใด ในส่วนของราคาสินค้ามีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงตามสภาวะและกลไกของตลาด ทั้งนี้ คณะตรวจสอบได้ขอความร่วมมือพ่อค้า-แม่ค้า และผู้ประกอบการไม่ให้มีการกักตุนสินค้าและให้มีการจำหน่ายสินค้าที่เหมาะสม
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","22/1/2022","ภาคใต้","พังงา","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122142739323"], [608,"กรมการขนส่งทางบก เตือนประชาชนที่จะขอรับใบอนุญาตขับขี่ต้องมาดำเนินการด้วยตนเองที่สำนักงานขนส่งเท่านั้น ","นางพรรณี พุ่มพันธ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ขณะนี้กรมการขนส่งทางบกอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับมิจฉาชีพ แอบอ้างเป็นกรมการขนส่งทางบก หรือ Department of Land Transport (DLT) สร้างบัญชีไลน์ปลอม เฟซบุ๊กปลอม รับทำใบอนุญาตขับรถทางออนไลน์ โดยมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากประชาชนในการทำใบอนุญาตขับรถในราคา 2,000 - 12,000 บาท ตามประเภทของรถ และต้องส่งข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อรับทำและจัดหาใบอนุญาตขับรถบนโลกออนไลน์ โดยไม่ต้องอบรมหรือทดสอบ เพียงแค่จ่ายเงินก็รอรับใบอนุญาตขับรถได้ที่บ้าน โดยยืนยันว่ากรณีดังกล่าวไม่เป็นความจริง ขั้นตอนการขอรับใบอนุญาตขับรถทุกชนิดมีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถต้องดำเนินการด้วยตนเองทุกขั้นตอนที่สำนักงานขนส่งเท่านั้น
กรมการขนส่งทางบก ได้ย้ำเตือนไปยังประชาชน หากพบเห็นการโฆษณารับทำใบอนุญาตขับรถโดยไม่ต้องมีขั้นตอนการอบรมหรือทดสอบ ขอให้สันนิษฐานว่าเป็นมิจฉาชีพและอย่าหลงเชื่อโอนเงินโดยเด็ดขาด หากผู้ที่หลงเชื่อได้รับใบอนุญาตขับรถปลอม นำไปใช้จะมีความผิดตามกฎหมายอาญา อีกทั้งเสี่ยงต่อการถูกนำข้อมูลส่วนตัวไปแอบอ้างทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย แอบอ้างนำข้อมูลไปกู้เงินออนไลน์ รวมไปถึงการนำไปในก่อคดีอาชญากรรมร้ายแรงได้
","22/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122203539452"], [609,"ผู้ว่าฯ สกลนคร เปิดงานมหกรรมโคเนื้อโคขุนจังหวัดสกลนคร ประจำปี 2565 พร้อมจัดประกวดโค-กระบือชิงถ้วยพระราชทานฯ","
ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เปิดงานมหกรรมโคเนื้อโคขุนจังหวัดสกลนคร ประจำปี 2565 และจัดประกวดโค-กระบือ ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
วันที่ 22 มกราคม 2565 ที่สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา จังหวัดสกลนคร นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นประธานเปิดงานมหกรรมโคเนื้อโคขุนจังหวัดสกลนคร ประจำปี 2565 ภายใต้โครงการ SANOOK Color Food Valley \"Diversity of Function Organic\" โดยมีนายวีระสันติ ประทุมพล ปศุสัตว์จังหวัดสกลนคร กล่าวรายงาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร เทศบาลนครสกลนคร ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และประชาชนเข้าร่วมงาน โคเนื้อถือเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย ความต้องการบริโภคเนื้อโคภายในประเทศ มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นตามจำนวนประชากร รูปแบบการเลี้ยงโคเนื้อในปัจจุบันจึงปรับเปลี่ยนเป็นการเลี้ยงเชิงธุรกิจ เกษตรกรจำเป็นจะต้องมีรูปแบบการเลี้ยงอย่างจริงจัง เลือกใช้พันธุ์ที่เหมาะสมต่อรูปแบบการผลิต และมีการวางแผนการผลิตอย่างเป็นระบบ
ภายในงานได้จัดการประกวดโคเนื้อพันธุ์อเมริกันบราห์มัน โคเนื้อลูกผสมชาร์โรเลส์ และประกวดกระบือ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมจัดนิทรรศการการแสดงพันธุ์สัตว์ พันธุ์พืชอาหารสัตว์ สาธิตการเลี้ยงโคขุน การจำหน่ายเนื้อโคขุน และสินค้าปสุสัตว์ รวมถึงการประกวดการทำอาหารประเภทลาบ และส้มวัว
นายวีระสันติ ประทุมพล ปศุสัตว์จังหวัดสกลนคร กล่าวว่า จังหวัดสกลนครมีศักยภาพในการส่งเสริม และพัฒนาการผลิตโคเนื้อโคขุนคุณภาพ ทุกปี จังหวัดสกลนครได้สนับสนุนงบประมาณเพื่อพัฒนาเกษตรกร ในด้านความรู้ ทักษะความชำนาญ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมุ่งเน้นในการประชาสัมพันธ์ การเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้มากขึ้น อีกทั้งในจังหวัดสกลนครมีสหกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์ กรป.กลาง โพนยางคำ จำกัด ที่ผลิตเนื้อโคขุนโพนยางคำซึ่งเป็นเนื้อโคคุณภาพสูง ให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องและยาวนาน จึงเป็นการสร้างโอกาสในเชิงธุรกิจ ก่อให้เกิดรายได้ที่มั่นคงให้กับเกษตรกร ในจังหวัดสกลนครได้เป็นอย่างดี ตอบสนองนโยบายจังหวัด ที่มีวิสัยทัศน์ \"เป็นแหล่งเกษตรปลอดภัย ก้าวไกลการค้าพัฒนาการท่องเที่ยว\"
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","22/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","สกลนคร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสกลนคร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122144114334"], [610,"รัฐบาลเดินหน้า โครงการพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ปี 2565 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงของแพง","
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบอนุมัติเงินงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงินรวมทั้งสิ้น 1,480 ล้านบาท เพื่อดำเนิน โครงการพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ปี 2565 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 เพิ่มช่องทางในการเลือกซื้อสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพในราคาประหยัดให้แก่ประชาชนได้อย่างทั่วถึง รวมทั้งเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและการบริโภค ซึ่งจะก่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
สำหรับรูปแบบของโครงการจะเป็นการจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพให้แก่ประชาชนในราคาประหยัด อาทิ กิจกรรมจัดจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ ในบริเวณต่างๆ อาทิ ร้านสะดวกซื้อ ห้างท้องถิ่น ตลาด ลานอเนกประสงค์ และสถานีบริการน้ำมันไม่น้อยกว่า 3,000 จุด ตามแหล่งชุมชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และอีก 76 จังหวัด กิจกรรมจัดจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นผ่านรถ Mobile ไม่น้อยกว่า 50 คัน ตามแหล่งชุมชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีการจัดหาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพตามชนิด ปริมาณ?และราคาตามที่กรมการค้าภายในกำหนดจากสมาคม ผู้ค้าปลีก-ค้าส่ง และ supplier ในพื้นที่ เพื่อนำมาจำหน่ายในจุดจัดจำหน่าย
โครงการกระทรวงพาณิชย์ โครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน (หมูเนื้อแดง) เปิดจุดขายหมูเนื้อแดงในราคากิโลกรัมละ 150 บาท เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพรวม 92 แห่งทั่วประเทศ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดได้ประสานกับตลาดหรือสถานที่จัดจุดจำหน่ายให้แก่ประชาชนตั้งแต่วันนี้-31 มกราคม 2565
สำหรับจังหวัดแพร่ได้ดำเนินการ โครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน ขายเนื้อหมูกิโลกรัมละ 150 บาท จำนวน 9 แห่งคือ จุดที่ 1 ร้านเขียงหมูน้ำทองฟาร์ม ถนนเหมืองหิต ตำบลในเวียง อำเภอเมืองแพร่ จุดที่ 2 หมูอินเตอร์สาขาชมภูมิ่ง ถนนช่อแฮ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองแพร่ จุดที่ 3 หมูอินเตอร์สาขาลอง ตำบลห้วยอ้อ อำเภอลอง จุดที่ 4 หมูอินเตอร์สาขาร้องกวาง ตำบลร้องกวาง อำเภอร้องกวางจุดที่ 5 อินเตอร์สาขาวังชิ้น ตำบลวังชิ้น อำเภอวังชิ้น จุดที่ 6 ร้านทอฝันหมูสดแพร่ สาขาอำเภอสูงเม่น ตำบลพระหลวง อำเภอสูงเม่น จุดที่ 7 ร้านทอฝันหมูสดแพร่ สาขาอำเภอหนองม่วงไข่ ตำบลหนองม่วงไข่ อำเภอหนองม่วงไข่ จุดที่ 8 ร้านทอฝันหมูสดแพร่ สาขาอำเภอเด่นชัย ตำบลเด่นชัย อำเภอเด่นชัย และจุดที่ 9 ร้านทอฝันหมูสดสอง ตำบลบ้านกลาง อำเภอสอง นอกจากนี้สำหรับโครงการอื่นๆ ที่อยู่ในโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน อยู่ระหว่างดำเนินการและประสานร้านค้า สถานีบริการน้ำมันหรือสถานที่ที่เหมาะสมอีกกว่า 3,000 แห่ง
อย่างไรก็ตาม โครงการ พาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ปี 2565 จะช่วยลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงการระบาดของโควิด-19 และภาวะการปรับราคาสินค้าขึ้นอย่างต่อเนื่องจากโรคระบาดในสัตว์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน อีกทั้งจะเป็นเพิ่มช่องทางในการเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันในราคาประหยัด
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","22/1/2022","ภาคเหนือ","แพร่","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122141827319"], [611,"กระทรวงคมนาคม เตรียมความพร้อมเปิดให้บริการท่าอากาศยานเบตง ","นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการท่าอากาศยานเบตง จังหวัดยะลา ว่า เพื่อรองรับการพัฒนาทางเศรษฐกิจและเพื่อความมั่นคงของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอเบตง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีนโยบายเร่งรัดการเปิดให้บริการท่าอากาศยานเบตงโดยเร็ว
ล่าสุดที่ประชุมติดตามการดำเนินการเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการท่าอากาศยานเบตง โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย กรมท่อากาศยาน สายการบินนกแอร์ ร่วมกับผู้แทนหน่วยงานในพื้นที่ อำเภอเบตง โดย สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย รายงานว่าจะสามารถออกใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะให้ท่าอากาศยานเบตง ได้ภายในเดือนมกราคมนี้และที่ผ่านมา ได้อนุมัติเส้นทางบินกรุงเทพ-เบตง และหาดใหญ่-เบตง วันละ 1 เที่ยว ให้แก่สายการบินนกแอร์เรียบร้อยแล้วขณะที่สายการบินนกแอร์ยืนยันความพร้อม ที่จะทำการบินไปยังท่าอากาศยานเบตง ด้วยอากาศยานประเภท Q400 จำนวน 86 ที่นั่ง โดยขอความอนุเคราะห์ ทำประกันที่นั่ง ร้อยละ 75 ที่ประชุมจึงมอบหมายให้จังหวัดยะลา หารือร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด สมาคมธุกิจท่องเที่ยวอำเภอเบตง และสายการบินนกแอร์ เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการแก่ประชาชนได้ทันตามกำหนดและให้เกิดความชัดเจน เพื่อหาข้อสรุปโดยเร็วในการเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์อย่างเป็นทางการภายหลังได้ข้อยุติ
สำหรับขีดความสามารถท่าอากาศยานเบตง มีความยาวทางวิ่งขนาด 30 คูณ 1,800 เมตร รองรับอากาศยานขนาดไม่เกิน 80 ที่นั่ง ลาดจอดเครื่องบินรองรับได้จำนวน 3 ลำ อาคารที่พักผู้โดยสารสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสาร 300 คนต่อชั่วโมง หรือประมาณ 800,000 คนต่อปี อยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้งเครื่องตรวจอาวุธและวัตถุระเบิดแบบ EDS และเครื่อง X-Ray 4 เครื่อง และทางเข้า-ออก Airside 4 จุดและอุปกรณ์ความปลอดภัยสนามบินตามมาตรฐานสากล
","22/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122203251450"], [612,"จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดงานมหกรรมกินปูม้าขยายผลธนาคารปูม้ายกระดับเศรษฐกิจฐานราก ต่อยอดการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวิถีประมงปูม้าตามอัตลักษณ์พื้นที่","
วันนี้ (22 ม.ค.65) ที่ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครศรีธรรมราช นายไตรรัตน์ ไชยรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานเปิดงานมหกรรมกินปูม้า นครศรีธรรมราช ครั้งที่ 2 Amazing Crab Feeder โดยมี ผศ.ดร.อมรศักดิ์ สวัสดี ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ นายพรศักดิ์ ศักดิ์ธานี ประมงจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงาน ภาคเอกชน และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรม
สำหรับงานมหกรรมกินปูม้า นครศรีธรรมราช ครั้งที่ 2 สืบเนื่องจากโครงการการถ่ายทอดและขยายผลธนาคารปูม้าเพื่อ คืนปูม้าสู่ทะเลไทย และต่อยอดงานวิจัยเพื่อยกระดับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนตามแนวทาง BCG Economy ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งนี้เพื่อสร้างธนาคารปูม้าในพื้นที่ซึ่งชุมชนมีความต้องการและมีความเหมาะสม รวมทั้งสร้างศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้า เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะต่างๆ ในการทำธนาคารปูม้าให้กับชุมชนใกล้เคียง สร้างความตระหนักในการฟื้นฟูทรัพยากรปูม้า โดยโครงการในระยะที่ 2 ได้จัดสร้างธนาคาร จำนวน 19 ธนาคาร และศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้าจำนวน 5 แห่ง มีการปล่อยปูม้า ในระยะเวลา 10 เดือนของการดำเนินโครงการ โดยกลุ่มธนาคารปูม้าได้นำปูไข่นอกกระดองเข้าธนาคารโดยเฉลี่ยจำนวน 89 ตัวต่อธนาคารต่อเดือน และปล่อยลูกปูม้าคืนสู่ทะเลไทยในระยะที่ 2 จำนวน 15,837 ตัว
นอกจากนี้โครงการธนาคารปูม้า ยังได้ต่อยอดทางด้านส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวิถีประมงปูม้า มีแผนการท่องเที่ยวตามอัตลักษณ์พื้นที่โดยแบ่งออกเป็น 3 โซน มีการจัดทำเมนูอาหารปูม้าอัตลักษณ์จังหวัดนครศรีธรรมราชกว่า 8 เมนู รวมทั้งจัดทำช่องทางการขายปูม้าแบบออนไลน์ และการสร้างนวัตกรรมเครื่องแยกไข่ ปูม้าชุมชน ผลลัพธ์จากโครงการพบว่าชาวประมงมีผลจับมากขึ้น และมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 20 ของรายได้เดิม และการจัดงานในครั้งนี้ยังรวมถึงการนำเสนอผลการดำเนินงานของ โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย) โดยมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ รับผิดชอบให้ดำเนินโครงการฯ ในพื้นที่ดำเนินการ ระยะที่ 1 มีพื้นที่ให้บริการ 4 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 36 มีการจ้างงานในพื้นที่ดำเนินการตำบลละ 20 อัตรา และเกิดกิจกรรมการดำเนินการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของสถาบันอุดมศึกษารายตำบลในด้านต่างๆ ทั้งการพัฒนาสัมมาชีพและสร้างอาชีพใหม่ การสร้างและพัฒนา Creative Economy การนำองค์ความรู้ไปช่วยบริการชุมชน การส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อม/Circular Economy และเกิดการจัดกิจกรรม U2T สู้ภัย COVID ซึ่งเป็นการรณรงค์ ให้ความรู้แก่ชุมชน ในการป้องกันตนเอง การฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ด้วย ทั้งนี้งานดังกล่าวจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 22-23 มกราคม 2565 ผู้สนใจสามารถเข้าชมและเลือกซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์จากปูม้าได้ในราคาย่อมเยาว์
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับด่านกักกันสัตว์ศรีสะเกษ เข้าดำเนินการตรวจสอบ สถานประกอบการห้องเย็น ภายในเขตพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ป้องกันการกักตุนซากสุกร ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้สุกรมีราคาที่เพิ่มสูงขึ้น และเป็นแนวทางป้องกันการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) รวมถึงตรวจสอบการลักลอบนำเข้าสัตว์ซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 จำนวน
1.ห้องเย็น คุณใหม่อาหารไทยฮาลาล 156 ม.1 ต.น้ำคำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ตรวจพบซากสัตว์ดังต่อไปนี้
- เครื่องในโค 18,800 กก.
- ชิ้นส่วนโค 13,850 กก.
- ปากหนาม 13,300 กก.
- ไม่พบการกระทำผิด
2.ห้องเย็น บุญสมหวัง โฟรเซ่น ฟูดส์ โปรดัก 259 ต.ซำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ตรวจพบซากสัตว์ดังต่อไปนี้
- ปากหนาม 4,000 กก.
- เนื้อไก่สดแช่แข็ง 4,000 กก.
- ไม่พบการกระทำผิด
3.ห้องเย็น แม็คโครสาขาศรีสะเกษ 112 ม.6 ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ
ตรวจพบซากสัตว์ดังต่อไปนี้
- เนื้อสุกร จำนวน 2,217 กก.
-ซากสัตว์ปีก 3026.6 กก.
- ไม่พบการกระทำผิด
4.ห้องเย็น บุญศิริโฟรเซ่นโปรดักส์ 159 ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ
ตรวจพบซากสัตว์ดังต่อไปนี้
- ชิ้นส่วนสุกร 9,748 กก.
- เครื่องในโค 16,000 กก.
- ไม่พบการกระทำผิด
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","22/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ศรีสะเกษ","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122190927420"], [614,"รองพ่อเมืองศรีสะเกษนำคณะตรวจสต๊อกเนื้อหมูป้องกันขึ้นราคา","วันที่ 21 มกราคม 2565 นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษเปิดเผยว่าได้รับมอบหมายจากนายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ให้ลงพื้นที่ติดตามราคาจำหน่ายสุกรชำแหละ และตรวจสอบ การเก็บ สต๊อกเพื่อเป็นการเนื้อสุกรแช่แข็งไว้เก็งกำไร และกำกับดูแลร้านจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่มีบัญชาให้กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บูรณาการภาระกิจร่วมกันตรวจสอบการกักตุนเนื้อสุกรในพื้นที่รับผิดชอบ โดยได้ติดตามตรวจเยี่ยมแผงตลาดสดเทศบาล 1 ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีสาขาศรีสะเกษ และห้างสรรพสินค้าแมคโครสาขาศรีสะเกษ สอบถามราคาสุกรและไก่ ซึ่งผู้ประกอบการทุกรายได้จำหน่ายสินค้าตามกลไกราคาตลาด ไม่ได้จำหน่ายในราคาสูงกว่าปกติอบ่างอย่างไร เพราะต้องการรักษาฐานลูกค้าไว้ให้คงเดิม จึงตรึงราคาในส่วนสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆด้วย
นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษกล่าวว่าได้นำ คณะประกอบด้วย พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ นางฐพัชร์รดา ธนินท์จิรานนท หัวหน้าสำนักงานจังหวัดศรีสะเกษ พาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ ประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ ผอ.กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองศรีสะเกษ ผู้แทนปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษ ผู้แทนอุตสาหกรรมจังหวัดศรีสะเกษ รก.นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมบูรณาการตรวจเยี่ยมจุดจำหน่ายสุกรชำแหละตามโครงการ \"พาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน\"เพื่อลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนมาในการแก้ปัญหาเร่งด่วน ช่วยให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด โดยประชาชนสามารถเลือกซื้อหมูเนื้อแดงราคากิโลกรัม (กก.) ละ 150 บาท โดยเริ่มเปิดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 16-31 มกราคม 2565 ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษมีจุดจำหน่ายทั้งหมด 7 จุด
ขณะเดียวกันได้ตรวจสอบการกักตุนเนื้อสุกรชำแหละในห้างสรรพสินค้าและสถานประกอบการห้องเย็นภายในเขตพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อป้องกันการกักตุนซากสุกร ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้สุกรมีราคาที่เพิ่มสูงขึ้น และเป็นแนวทางป้องกันการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) รวมถึงตรวจสอบการลักลอบนำเข้าสัตว์ซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และพระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ.2597 จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ ห้องเย็นคุณใหม่อาหารไทยฮาลาล ห้องเย็นบุญสมหวังโฟรเซ่นฟูดส์โปรดัก ห้องเย็นแม็คโครสาขาศรีสะเกษ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีสาขาศรีสะเกษ และห้องเย็นบุญศิริโฟรเซ่นโปรดักส์ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ไม่พบการกักตุนเนื้อหมู จากนั้นได้ประชาสัมพันธ์ให้พ่อค้า แม่ค้า และประชาชนมารับการฉีดวัคซีนป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโรค
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","22/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ศรีสะเกษ","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122185438411"], [615,"บรรยากาศวันที่2 ของการจัดงาน Gastronomy Amazing ยิ่งกว่าเดิม Gastronomic Tread มากินกัญ เป็นไปอย่างคึกคัก ทั้งแสงสีเสียง การแสดงดนตรีสด พื้นที่ขายของจากร้านชั้นนำ","บรรยากาศวันที่2 ของการจัดงาน Gastronomy Amazing ยิ่งกว่าเดิม Gastronomic Tread มากินกัญ เป็นไปอย่างคึกคัก ทั้งแสงสีเสียง การแสดงดนตรีสด พื้นที่ขายของจากร้านชั้นนำ
บรรยากาศวันที่ 2 ของการจัดงาน Gastronomy Amazing ยิ่งกว่าเดิม Gastronomic Tread มากินกัญ สนับสนุนโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีประชาชนเข้ามาร่วมงานกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภายในงานมีทั้งอาหารเครื่องดื่ม สิ่งของเครื่องใช้ มีการให้คำแนะนำจากกรมสุขภาพจิต อีกทั้งยังมีการแสดงดนตรีเปิดหมวก กิจกรรมบนเวทีที่น่าสนใจอีกเป็นจำนวนมาก และได้รับอนุญาตตามข้อบัญญัติของกฎหมาย มานำเสนอในรูปแบบเมนูของคนรักสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ Health & Wellness และการท่องเที่ยวเส้นทางผลิตภัณฑ์กัญชา-กัญชง รวมถึงพืชผักสมุนไพรท้องถิ่นเชื่อมโยงกับชุมชน สะท้อนวิถีชีวิตและภูมิปัญญาไทย
นาย อัครเดช มั่งมี หนึ่งในประชาชนที่มาร่วมงาน กล่าวว่า ปัจจุบันนี้มีการเปิดเสรีกัญชาถือเป็นข้อดีที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ ช่วยรักษาโรคและบรรเทาอาการได้หลากหลาย
ด้าน นาง วันดี ธิติกรพงศ์ หนึ่งในผู้ประกอบการร้านค้าภายในงาน กล่าวว่า ชอบมาตรการการป้องกันโควิด-19 ของที่นี่ เพราะมีการตรวจคัดกรองโควิด-19 โดยผ่านการตรวจ ATK ก่อนเข้างาน ตรวจผลการฉีดวัคซีน 2 เข็ม และสำหรับผู้ประกอบการร้านค้ามีการตรวจ ATK ทุกวันที่จัดงาน
ทั้งนี้ ภายในงานมีการจัดงานในรูปแบบ Covid Free-Setting ตามมาตรการสาธารณสุข โดยสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้าได้ทางแอปพลิเคชั่น QueQ / มีการตรวจ ATK / แสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม จำกัดคนเข้างานรอบละ 500 คน และยังมีบริการส่งอาหาร 50 เมนูเด็ดจาก 40 ร้านอาหารดังภายในงานนี้ ผ่านแฟลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ / สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงานนี้ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 23 มกราคม 2565 เวลา 15.00-21.00 น. ณอุทยาน 100 ปี ถนนบรรทัดทอง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นำทีมตรวจสอบราคาสุกร สต็อกสินค้าและร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชนตรวจติดตามราคาหมูแพง กำชับผู้ประกอบการติดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน ตรวจสอบการครอบครอง เพื่อป้องกันการกักตุ้นและฉวยโอกาสขึ้นราคา ในขณะที่จังหวัดอุดรธานี มีจุดจำหน่ายสินค้าโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน 7 จุดใน 2 อำเภอ จำหน่ายหมูเนื้อแดง 150 บาท
วันที่ 22 มกราคม 2565 นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยนายจำรัส กังน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นายประเสริฐ ฝ่ายชาวนา พาณิชย์จังหวัดอุดรธานี พ.อ.ธนาวีร์ วิชาชัย รองผอ.รมน.อุดรธานี นายสามารถ สุวรรณมณี นายอำเภอเมืองอุดรธานี ผู้แทนปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานี ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ด่านกักกันสัตว์อุดรธานี สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุดรธานี ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์การจำหน่ายเนื้อหมูภายในตลาดสดไทยอีสาณ เขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยได้เข้าตรวจเยี่ยมพบปะพูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้า สอบถามผลกระทบจากภาวะราคาหมูที่แพงขึ้น ซึ่งพบว่าราคาหมูปัจจุบันส่งผลกระทบทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
โดยจากการสอบถามผู้ประกอบการอาหารตามสั่ง และอาหารปรุงสุกใช้วิธีการปรับลดปริมาณสินค้าแทนการขึ้นราคาเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยผู้ว่าราชการจังหวัด และคณะได้ให้กำลังใจ เน้นย้ำขอความร่วมมือประชาชนให้ระมัดระวังและป้องกันเกี่ยวกับการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ให้ยังคงปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด
จากนั้น คณะได้เดินทางตรวจสถานที่เก็บเนื้อสุกรชำแหละ ร้านเบทาโกร สาขาอุดรธานี ถนนอุดร-หนองบัวลำภู ตรวจห้องเก็บและสอบถามการครอบครองตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2565 เรื่อง การแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร ลงวันที่ 5 มกราคม 2565 และตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการตามโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคาช่วยประชาชน จังหวัดอุดรธานี ณ ร้านวีซีมิท สาขาอุดรธานี ซึ่งจำหน่ายหมู่เนื้อแดงราคากิโลกรัมละ 150 บาท ถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งเป็น 1 ใน 7 จุดในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ที่เข้าร่วมโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน
นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า จากราคาเนื้อสุกรที่สูงขึ้นมาก ทางจังหวัดได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบต้นทุนการเลี้ยงสุกร และราคาค้าปลีกเนื้อสุกร จากการตรวจสอบตลาดสดไทยอีสาณ พบว่าพ่อค้าแม่ค้าต่างได้รับผลกระทบจากราคาหมูที่แพงขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะลูกค้ารายย่อยลดปริมาณการซื้อสุกรลง ในขณะที่พ่อค้าแม่ค้าที่จำหน่ายหมูได้รับผลกระทบค่อนข้างมากและมีการปรับราคาขึ้น สินค้าทั้งหมูสดและแปรรูป จากเดิมในแต่ละรายการมากกว่า 10 บาท และมีการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายอย่างชัดเจน อาทิ เนื้อสัน หมูบด รวมถึงชิ้นส่วนต่างๆ ของหมู ส่วนการตรวจห้องเย็นที่มีการสต๊อกเนื้อหมูในจังหวัดอุดรธานี เนื่องจากเราไม่มีโรงชำแหละหมูขนาดใหญ่ การสต็อกในห้องเย็นมีไม่มาก และได้มีการแจ้งปริมาณตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พร้อมทั้งขอความร่วมมือมิให้ขึ้นราคาสินค้า โดยไม่มีเหตุอันควรและกักตุนสินค้า และเท่าที่ตรวจด้วยตัวเอง มอบหมายให้ทางอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่พบว่ามีการกักตุนเนื้อหมู จะมีแต่สต็อกไว้จำหน่ายมีปริมาณไม่มาก
สำหรับจุดจำหน่ายที่เข้าร่วมโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชนแห่งนี้เป็น 1 ใน 7 จุดของจังหวัดอุดรธานี ที่จำหน่ายหมูเนื้อแดงราคากิโลกรัมละ 150 บาท โดยอำเภอเมืองอุดรธานีมี 5 จุด คือ/เขียงคุณสุภาพร ตลาดสดโพศรี/ร้านวีซีมีท สาขาอุดรธานี/ร้านหมอหมูสด สาขาสามพร้าว/ร้านหมูพอเพียง เขียงหมูอนามัยเบทาโกรบ้านเชียงพิณ/ร้านอิหล่ามาเก็ต และที่อำเภอบ้านดุง มี 2 จุด คือ ร้าน Meat me Mart และร้านหมูเอ็นที)
ในขณะที่ตัวแทนปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานี ยืนยัน จังหวัดอุดรธานียังไม่พบการแพร่ระบาดของโรคแอฟริกาในสุกร โรคที่พบการระบาดของสุกรขณะนี้มีเพียงโรค PRS ที่มีผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงราย่อยในพื้นที่ 2 อำเภอ พร้อมฝากประชาสัมพันธ์กลุ่มผู้ค้าเนื้อสัตว์ในตลาดให้มาขึ้นทะเบียนการค้าผู้ค้าซากสัตว์ ซึ่งเริ่มได้รับความร่วมมือจากผู้ค้าเริ่มทยอยเข้ามาทำกันแล้ว เพื่อที่จะได้มีข้อมูลพื้นฐานที่ถูกต้องเกี่ยวกับผู้ค้าต่างๆในตลาดอย่างครบถ้วน ถ้าไม่ทำจะผิดตามกฎหมาย พรบ.โรคระบาด พ.ศ.2558 ปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","22/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อุดรธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุดรธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122180034396"], [617,"คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ ลงพื้นที่ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดเลย","ที่ร้านมะพร้าวแก้วเคียงเลย อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ นายกลินทร์ สารสิน ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปเศรษฐกิจด้านการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวคุณภาพสูง
นายชูศักดิ์ ชื่นประโยชน์ ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปเศรษฐกิจด้านการสร้างเกษตรมูลค่าสูง และนายสวาท ธีรรัตนกุลชัย ประธานคณะกรรมการการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม ลงพื้นที่ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดเลย โดยมี นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ว่าที่ร้อยตรี นครชัย แสงมณี นายอำเภอเชียงคาน กลุ่มสตรีและเยาวชนสหกรณ์ ผู้ใช้น้ำบ้านน้อย ร่วมให้การต้อนรับ
สำหรับประวัติความเป็นมาของกลุ่มมะพร้าวแก้วเคียงเลย ในสมัยปู่ย่า ตายาย ราษฎรบ้านน้อย ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตร ทำนา ทำไร่ ทำสาน ผลผลิตไม่แน่นอน จึงได้แปรรูปผลผลิตทางการเกษตรที่มีมากในพื้นที่ เช่น มัน เผือก กล้วย และมะพร้าว แปรรูปเป็น มันทอด เผือกทอด กล้วยทอดและมะพร้าวแก้ว ซึ่งมะพร้าวแก้วเริ่มแรกนั้นจะทำเป็นเส้นๆ เคี่ยวเสร็จจะนำมากองเป็นก้อนๆ ต่อมาได้มีการแปรรูปเป็นมะพร้าวอ่อนแก้วมีลักษณะเป็นแผ่น เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยว แก่งคุดคู้ กลุ่มสตรีและเยาวชนสหกรณ์ผู้ใช้น้ำบ้านน้อย หมู่ที่ 4 ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ได้เข้าสู่ระบบการเป็นผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP กรมการพัฒนาชุมชน เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2546 โดยมี นางอภิสรา ธรรมมาพา เป็นประธานกลุ่ม มีสมาชิกทั้งหมด 17 คน ทั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด/สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ ในการส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย และการส่งเสริมช่องทางการตลาดทั้งในระบบ Online และระบบ Off line เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านการผลิตมะพร้าวแก้วให้กับกลุ่มเยาวชน กลุ่มอาชีพ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังได้รับการคัดเลือกเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP Singnature ของจังหวัดเลย ในงาน OTOP ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี ของกรมการพัฒนาชุมชน ในปี พ.ศ.2561 และได้รับการคัดเลือกเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP Premium ปี พ.ศ.2562 และได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์จังหวัด เป็นจำนวนเงิน 40,000 บาท ในการพัฒนาสินค้าตลอดจนบรรจุภัณฑ์พร้อมตราสินค้า ปัจจุบันเป็นกลุ่มผู้ผลิตภัณฑ์ OTOP ระดับ 5 ดาว 4 ปีซ้อน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","22/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","เลย","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเลย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122180546398"], [618,"ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจกำกับดูแลมาตรการเกี่ยวกับสินค้าสุกร เนื้อสุกร","ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจกำกับดูแลมาตรการเกี่ยวกับสินค้าสุกร เนื้อสุกร
วันที่ 22 ม.ค.2565 นายศักดิ์ฤทธิ์ สลักคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจกำกับดูแลมาตรการเกี่ยวกับสินค้าสุกร เนื้อสุกร ตรวจสอบผู้ครอบครองสุกรชำแหละผ่าซีก เนื้อสุกรชำแหละแยกชิ้นส่วน จังหวัดพะเยา ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๖๕ เรื่อง การแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร ใขเขตพื้นที่เมืองพะเยา อาทิ บริษัท เอ็มพี โฟรเช่น โปรดักส์ ใน ต.ท่าวังทอง บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น โลตัส สาขา พะเยา บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด หจก. มีกินมีใช้ และ ห้องเย็นสิทธิพงษ์
ทั้งนี้ เพื่อให้การกำกับดูแลมาตรการเกี่ยวกับสินค้าสุกร เนื้อสุกร เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพะเยา ในฐานะฝ่าย เลขานุการคณะกรรมการส่วนจังหวัดว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กจร.) ได้กำหนดตรวจสอบ ผู้ครอบครองสุกรชำแหละผ่าซีก เนื้อสุกรชำแหละแยกชิ้นส่วน ในพื้นที่เมืองพะเยา ซึ่งจากากรตรวจสอบผู้ประกอบการได้ให้ความมือเป็นอย่างดี ส่วนราคาสุกรนั้นพบว่ามีราคาสูงขึ้นตามราคาตลาด
","22/1/2022","ภาคเหนือ","พะเยา","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพะเยา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122180157397"], [619,"ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นำทีมพาณิชย์ และปศุสัตว์จังหวัดน่านออกตรวจห้องเย็นและห้างสรรพสินค้าทั้ง 4 แห่งในจังหวัดน่าน เพื่อป้องกันการกักตุนเนื้อสุกร","นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นำทีมพาณิชย์ และปศุสัตว์จังหวัดน่านออกตรวจห้องเย็น และห้างสรรพสินค้าทั้ง 4 แห่ง ในจังหวัดน่าน เพื่อป้องกันการกักตุนเนื้อสุกร ที่บริษัทเอ็มเอสพี อินเตอร์ฟู้ด จำกัด
นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วย พลตำรวจตรีดุลเดชา อาชวะสมิตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน นางสุเกวรินทร์ เหล็กนาพญา พาณิชย์จังหวัดน่าน นายนพดล พินิจ ปศุสัตว์จังหวัดน่านและนายวรพล รุ่งสิทธิมงคล หัวหน้าด่านกักกันสัตว์น่าน นำคณะเจ้าหน้าที่ร่วมบูรณาการออกตรวจ ที่พักซากสัตว์สถานที่เก็บซากสัตว์และห้องเย็นในจังหวัดน่าน โดยได้เข้าตรวจในสถานที่ 4 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทเอ็มเอสพีอินเตอร์ฟู้ดส์จำกัด ตำบลน้ำปั้ว อำเภอเวียงสา ห้างแม็คโครสาขาน่าน ห้างบิ๊กซีซุปเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาน่าน และห้างโลตัส สาขาน่าน
บริษัทเอ็มเอสพี อินเตอร์ฟู้ด จำกัด เป็นห้องเย็นที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดน่าน ขนาดบรรจุ 10 ตัน ใช้เก็บซากสุกรที่เชือดสดวันต่อวัน เข้าโรงฆ่าสัตว์ที่อำเภอเวียงสา 30 ตัวต่อวัน ส่งไปยังสาขา 5 สาขา ใน 5 อำเภอในจังหวัด ส่วนห้างสรรพสินค้าแม็คโคร เป็นศูนย์ค้าส่ง ซึ่งรับซากสุกรมาจากศูนย์กระจายสินค้า วังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเฉลี่ยจะสามารถจำหน่ายเนื้อสุกรและชิ้นส่วนประมาณวันละ 3-4 ตัน ลดลงจากแต่ก่อน ที่จะขายได้ประมาณวันละ 5-6 ตัน เนื่องจากราคาเนื้อสุกรที่สูงขึ้น จะขายในลักษณะหมุนเวียนไม่กักตุนสินค้า โดยที่ห้างสรรพสินค้าแม็คโครมีทั้งระบบขายปลีกและขายส่ง ส่วนที่ห้างสรรพสินค้าโลตัส และบิ๊กซี สาขาน่าน จะสามารถจำหน่ายเนื้อสุกรและชิ้นส่วนได้ประมาณวันละ 100-200 กิโลกรัม ลดจากในช่วงเวลาปกติเกือบครึ่ง เนื่องจากราคาสูง และเป็นช่วงหลังเทศกาลปีใหม่ จากการตรวจสอบห้องเย็น เก็บสินค้าไม่มีการกักตุนแต่อย่างใด
นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดปกติ หรือการกักตุนเนื้อสุกรรวมทั้งเนื้อไก่ และไข่ไก่ ซึ่งเป็นไปตามอุปสงค์อุปทานตลาด อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามตรวจสอบ ไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคา หรือกักตุนสินค้า โดยทางผู้ประกอบการจะมีการรายงานข้อมูล ปริมาณเนื้อสุกรในท้องตลาด และราคามายังผู้ว่าราชการจังหวัด และกรมปศุสัตว์ทุกวัน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","22/1/2022","ภาคเหนือ","น่าน","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122181236400"], [620,"คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ ลงพื้นที่จังหวัดเลย เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น","คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ ลงพื้นที่จังหวัดเลย เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น
วันนี้ (22 ม.ค. 65) เวลา 09.00 น. นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านเศรษฐกิจ เป็นประธานการประชุม ความร่วมมือระหว่างคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG MODEL สาขาการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และคณะกรรมการเพิ่มมูลค่าพืชเกษตรหอการค้าไทย พร้อมคณะประกอบด้วย นายกลินทร์ สารสิน ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปเศรษฐกิจด้านการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวคุณภาพสูง , นายชูศักดิ์ ชื่นประโยชน์ ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปเศรษฐกิจด้านการสร้างเกษตรมูลค่าสูง , นายสวาท ธีรรัตนกุลชัย ประธานคณะกรรมการการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ , ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการ อุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม โดยมีนายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย , นายผดุงศักดิ์ หาญปรีชาสวัสดิ์ , นายดำรงค์ สิริพิชย อิ่มวิเศษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย , หัวหน้าส่วนราชการ , หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ร่วมให้การต้อนรับและร่วมประชุมฯ ที่ห้องประชุมศรีสองรัก ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดเลย
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ กล่าวว่า การใช้พื้นที่ หรือ Area-Based จะได้ผลมาก โดยเฉพาะในแต่ละจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นประธานและหน่วยงานในสังกัดที่ให้การสนับสนุน โดยทั้งกระทรวงเกษตร กระทรวงท่องเที่ยว และภาคเอกชน ร่วมบูรณาการ โดยไม่มีขีดจำกัด ไม่ยึดกฎเกณฑ์มากจนเกินไป จะช่วยสนับสนุนให้จังหวัด มีความคล่องตัว และมีศักยภาพในแต่ละด้าน ซึ่งทำอย่างไรให้จังหวัดนั้นมีมูลค่าเพิ่มทางด้านเศรษฐกิจที่สูงขึ้น ด้านการเกษตร ก็เป็นเกษตรที่มีคุณภาพสูง ราคาที่ดีขึ้น สามารถจำหน่ายและคุ้มค่ากับการลงทุนและมีกำไรมากขึ้น การท่องเที่ยวก็ต้องเป็นการท่องเที่ยวที่สร้างมูลค่าสูง โดยเฉพาะจังหวัดเลย มีพื้นที่ติดกับชายแดนต่อไปจะมีรถไฟฟ้าความเร็วสูงจากจีน มาเวียงจันทน์ ผ่านวังเวียง จะเป็นจุดที่จังหวัดเลย จะได้อานิสงส์และเป็นประโยชน์ด้านการค้า การท่องเที่ยว การลงทุน จะดีขึ้น
อีกทั้ง มีมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย เป็นศูนย์วิชาการ ทำการวิจัยอบรมให้ความรู้กับเกษตรกร เรื่องการท่องเที่ยว การบริการต่าง ๆ เพราะฉะนั้นจังหวัดเลยก็จะมีเป้าหมายที่ชัดเจนอยู่แล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ก็จะส่วนผลักดัน โดยตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนขึ้นมาได้ เพื่อขับเคลื่อนได้ต่อเนื่องในแต่ละจุด ที่เป็นจุดเน้น ต้องมีเป้าหมายชัดเจนว่าในแต่ละเรื่องจะมีผลลัพธ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง
ด้านกระเช้าขึ้นภูกระดึง รับทราบว่าประชาชนในจังหวัดเลยอยากจะได้ก็ต้องทำเรื่องนี้เสนอรัฐบาล ซึ่งอาจจะเป็นการลงทุน 2 ส่วน โดยรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่งส่วนหนึ่ง ให้ภาคเอกชนร่วมลงทุนเพื่อบรรเทางบประมาณของรัฐบาล หากจังหวัดเลยมีเป้าหมายที่ชัดเจนทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมกัน และมีเป้าหมายเดียวกัน น่าจะเดินไปได้ดี ซึ่งจังหวัดเลยเป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์ทางด้านสภาพอากาศ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม และมีแม่น้ำโขงกั้นเขตแดนสามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และมีจุดชมวิว แหล่งท่องเที่ยวทุกพื้นที่อยู่แล้ว โดยเฉพาะมีแหล่งผลิตไม้ดอกไม้ประดับที่มีคุณภาพ ที่อำเภอภูเรือ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตไม้ดอกเมืองหนาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เพื่อผลิตและส่งขายไปทั่วประเทศ โดยกระทรวง อว.และมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย จะได้ให้การสนับสนุนต่อไป
ทั้งนี้ จังหวัดเลย โดยนายผดุงศักดิ์ หาญปรีชาสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้นำเสนอผลการดำเนินงานด้านการส่งเสริมและพัฒนาด้านการเกษตรของจังหวัดเลย โดยมีพื้นที่การเกษตร 2.61 ล้านไร่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดเลย ปี 2652 (GPP) มีมูลค่ารวม 54,985 ล้านบาท มีรายได้ต่อหัวประชากร 101,527 บาทต่อคนต่อปี คิดเป็นลำดับที่ 45 ของประเทศ และเป็นลำดับที่ 3 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รายได้ภาคเกษตรมูลค่า 14,682 ล้านบาท มีผลการเติบโตของ GPP ที่เพิ่มสูงขึ้น พืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดเลย ได้แก่ อ้อยโรงงาน ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ไม้ดอกไม้ประดับ แก้วมังกร มะม่วง อะโวคาโด มะคาเดเมีย ดร.จักรกฤษณ์ พงษ์อินทร์วงศ์ รองอธิการบดี ฝ่ายนโยบายและแผนกิจการพิเศษ มหาวิทยาลัยราชภัฎเลย นำเสนอบทบาทสถาบันอุดมศึกษาในการขับเคลื่อนพัฒนาศักยภาพคน เพื่อเป็นกำลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพื้นที่จังหวัดเลย
มหาวิทยาลัยราชภัฎเลย ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่ 3 มหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น หรือชุมชนอื่น มีโครงการที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจพื้นที่ และการค้าชายแดน ดังนี้ 1.โครงการยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น 2.โครงการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าชายแดนโดยศูนย์การศึกษาโลจิสติกส์และการค้าชายแดน มหาวิทยาลัยราชภัฎเลย 3.โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ) มหาวิทยาลัยราชภัฎเลย 4.หน่วยปฏิบัติการส่วนหน้าของกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.ส่วนหน้า จ.เลย) นายธรรมนูญ ภาคธูป ผจก.อพท.5 นำเสนอการส่งเสริมและพัฒนาด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเลย ทิศทางการพัฒนาจังหวัดเลย การท่องเที่ยวมูลค่าสูงจังหวัดเลย
จากนั้น เปิดเวทีและเปลี่ยนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจังหวัดเลย และรับคำชี้แนะในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากคณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศคณะต่าง ๆ เสร็จแล้วคณะฯ ลงพื้นที่อำเภอภูเรือ ต่อไป
","22/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","เลย","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเลย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220122185524412"], [621,"เชิญคู่รักร่วมปีนผาจดทะเบียนสมรสในวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์นี้ ปีน ปั่น ปลูกป่านันทนาการภูผาหินบ้านมุง จังหวัดพิษณุโลก ","นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) แถลงข่าวกิจกรรมสัปดาห์แห่งความรัก ณ บ้านมุง โครงการ ปีน ปั่น ปลูก ป่านันทนาการ ภูผาหินบ้านมุง จังหวัดพิษณุโลก ว่า การจัดกิจกรรมดังกกล่าวจัดขึ้นเนื่องในวันแห่งความรัก ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งถือเป็นวันที่เปิดโอกาสมิติใหม่สำหรับตำบลบ้านมุง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งจะมีกิจกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพและเป็นการผจญภัยของการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย และจะสร้างเศรษฐกิจฐานรากธุรกิจชุมชนให้มีความเข้มแข็ง อีกทั้งจะเป็นโรงเรียนฝึกสอนนักกีฬาปีนผาสำหรับในอนาคต เป็นสถานที่ที่ทุกคนในครอบครัวสามารถเข้ามาร่วมกันอย่างมีความสุข ทั้งพ่อ แม่ ลูก
กิจกรรมนี้จะให้ทางท้องถิ่นช่วยในการออกแบบและการบริการสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและสามารถอยู่ได้อย่างปลอดภัยและมีความสุข ขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก และอาจารย์ไกรศักดิ์ บุญทิพย์ ซึ่งทั้งสองมีความมุ่งมั่นที่จะมอบของขวัญชิ้นนี้ให้กับชาวจังหวัดพิษณุโลก และเป็นอีกหนึ่งนโยบายรัฐบาลที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการเห็นความร่วมมือของภาคประชาชน ภาครัฐและภาคเอกชน และตนได้เห็นการสนับสนุน ความพยายามจากภาคีทุกภาคส่วน เป็นการสร้างโอกาสให้ทุกคนได้เห็นความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและความสำคัญของสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพราะมนุษย์ใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง
สำหรับงานนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกไ ด้สร้างโอกาส องค์ความรู้และรายได้ จากธุรกิจบริการของพื้นที่ให้กับชาวจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งทุกคนเป็นเจ้าของและมีส่วนได้ประโยชน์ รวมทั้งอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างทั่วถึง เท่าเทียมและยั่งยืน ขอฝากไว้กับนายกเทศมนตรีตำบลบ้านมุงให้ช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติในพื้นที่แห่งนี้ ช่วยกันบริหารประโยชน์ จัดสรรปันส่วนให้กับประชาชนทุกกลุ่ม และตกอยู่กับชาวบ้านมุงและทุกคนที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม กีฬาปีนผาเป็นกีฬาใหม่สำหรับคนไทยและประเทศไทย แต่เป็นกีฬาที่สามารถสร้างความตระหนักในการรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไว้ได้
สำหรับงาน ปีน ปั่น ปลูกป่านันทนาการ ภูผาหินบ้านมุง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีภูเขาหินปูนที่สวยงาม ถูกขนานนามว่า กุ้ยหลิน เมืองไทย มีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ 1) กิจกรรมปีนผาจดทะเบียนสมรส ณ ภูผาหินบ้านมุง (ผาถ้ำน้ำ) 2) กิจกรรมการแข่งขันปั่นจักรยาน และ 3) การปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว ขอเชิญชวนคู่รักที่สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมปีนผาจดทะเบียนสมรส ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 27 มกราคม 2565 และสามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ https://drive.google.com/drive/folders/1qfR0NiE49dJPzqFUlkpWubNFfpSjIHJB?usp=sharing พร้อมส่งใบสมัครมาที่ E-mail : family_center08@hotmail.com โดยจะประกาศผลคู่รักที่ได้รับการคัดเลือกในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งจะไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดตลอดการเข้าร่วมกิจกรรม สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถดูในใบสมัครและสอบถามได้ที่กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) โทร. 0 2659 6717 - 18
วันที่ 21 มกราคม 2565 นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่าได้รับมอบหมายจากนายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ให้ลงพื้นที่ติดตามราคาจำหน่ายสุกรชำแหละ และตรวจสอบ การเก็บสต๊อกเพื่อเป็นการเนื้อสุกรแช่แข็งไว้เก็งกำไร และกำกับดูแลร้านจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่มีบัญชาให้กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บูรณาการภาระกิจร่วมกันตรวจสอบการกักตุนเนื้อสุกรในพื้นที่รับผิดชอบ โดยได้ติดตามตรวจเยี่ยมแผงตลาดสดเทศบาล 1 ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีสาขาศรีสะเกษ และห้างสรรพสินค้าแมคโครสาขาศรีสะเกษ สอบถามราคาสุกรและไก่ ซึ่งผู้ประกอบการทุกรายได้จำหน่ายสินค้าตามกลไกราคาตลาด ไม่ได้จำหน่ายในราคาสูงกว่าปกติอบ่างอย่างไร เพราะต้องการรักษาฐานลูกค้าไว้ให้คงเดิม จึงตรึงราคาในส่วนสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆด้วย
นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่าได้นำ คณะประกอบด้วย พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ นางฐพัชร์รดา ธนินท์จิรานนท หัวหน้าสำนักงานจังหวัดศรีสะเกษ พาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ ประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ ผอ.กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองศรีสะเกษ ผู้แทนปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษ ผู้แทนอุตสาหกรรมจังหวัดศรีสะเกษ รก.นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมบูรณาการตรวจเยี่ยมจุดจำหน่ายสุกรชำแหละตามโครงการ \"พาณิชย์...ลดราคา ช่วยประชาชน\"เพื่อลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนมาในการแก้ปัญหาเร่งด่วน ช่วยให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด โดยประชาชนสามารถเลือกซื้อหมูเนื้อแดงราคากิโลกรัม (กก.) ละ 150 บาท โดยเริ่มเปิดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 16-31 มกราคม 2565 ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษมีจุดจำหน่ายทั้งหมด 7 จุด
ขณะเดียวกันได้ตรวจสอบการกักตุนเนื้อสุกรชำแหละในห้างสรรพสินค้าและสถานประกอบการห้องเย็นภายในเขตพื้นที่ อำเภอเมือง จงหวัดศรีสะเกษ เพื่อป้องกันการกักตุนซากสุกร ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้สุกรมีราคาที่เพิ่มสูงขึ้น และเป็นแนวทางป้องกันการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) รวมถึงตรวจสอบการลักลอบนำเข้าสัตว์ซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และพระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ.2597 จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ ห้องเย็นคุณใหม่อาหารไทยฮาลาล ห้องเย็นบุญสมหวังโฟรเซ่นฟูดส์โปรดัก ห้องเย็นแม็คโครสาขาศรีสะเกษ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีสาขาศรีสะเกษ และห้องเย็นบุญศิริโฟรเซ่นโปรดักส์ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ไม่พบการกักตุนเนื้อหมู จากนั้นได้ประชาสัมพันธ์ให้พ่อค้า แม่ค้า และประชาชนมารับการฉีดวัคซีนป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโรค
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
จิบกาแฟ-ทานอาหารบ้านๆ Cafe ท่องยามู บรรยากาศสวนยาง กลางธรรมชาติสุดชิล พาชิมกินกาแฟ ท่ามกลางธรรมชาติกลางสวนยางพารา แบบบ้านๆ ในท่องยามู หลังจากทางร้านได้ได้ย้ายร้านจากเดิมที่กลางทุ่งนา มาอยู่ฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นสวนยาง พร้อมกับประดับตกแต่งร้านอย่างสวยงามด้วยไม้ไผ่ซึ่งเป็นวัสดุที่มีอยู่ในพื้นที่ติดโคมไฟ บนต้นยาง ตามสไตล์บ้านๆ เมื่อเดินเข้าไปภายในสวนยางริมถนน ก็จะมีโต๊ะไม้ไผ่ ปูด้วยเสื้อ ที่ใต้ต้นยางเรียงราย 30 โต๊ะ มีสะพานทอดข้ามร่องน้ำ ไปยังที่ขายอาหาร มองไปสุดบริเวณ Cafe ในท่องยามู ก็จะเห็นรถตู้กาแฟสีฟ้า ซึ่งคนขายก็จะอยู่แต่บนรถ ลูกค้าจะซื้อก็จะต้องเดินมาสั่งเอง และรับบัตรคิว เมื่อทำเสร็จคนขายก็จะตะโกนเรียกตามหมายเลขให้มารับ
ผู้คนที่แวะ มาเที่ยว Cafe ในท่องยามู ก็จะนั่งชิลๆ กินอาหาร จิบกาแฟ คลอด้วยเสียงเพลง ได้บรรยากาศสุดๆ สำหรับคนในพื้นที่ และกลุ่มคนที่มาจากทั้งในเมืองยะลา และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง เมื่อมาถึงบางคนก็จะมุ่งไปที่ร้านขายอาหารกันก่อน มีให้เลือกมากมาย ทั้งไก่ทอด เฟรนซ์ฟรายส์ ข้าวโพดอบเนย ไก่ทอด ลูกชิ้น ส้มตำสารพัด ตำปู ตำปลาร้า ตำผลไม้ ตำไข่เค็ม ตำกุ้งสด ตำผลไม้สด ส่วนราคาก็จะเป็นกันเองเป็นราคาทั่วไป คนขายซึ่งเป็นคนในพื้นที่ทุ่งยามู บอกว่า ขายดีมากตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่ใหม่ชาวบ้านในพื้นที่ได้มีรายได้เพิ่ม
หลังจากที่เลือกสั่งอาหารได้ตามต้องการแล้ว ก็ถึงเวลา จิบกาแฟสด อร่อยๆ ซึ่งทางร้านมีอยู่หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น เมนูอมริกาโน่ ส้ม มะนาว เลม่อน เมนูโซดา ลิ่นจี่ สตอเบอรี่ นมสด ลาเต้ ชาไทย ชาเขียว โกโก้
นายอรรศพงศ์ วงศ์กระจ่าง เจ้าของร้าน Cafe ในท่องยามู บอกว่า ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่ร้านใหม่หลายเดือนแล้ว ลูกค้าเยอะกว่าเดิม ทั้งลูกค้าเดิม ลูกค้าใหม่ และลูกค้าประจำ ชาวบ้านก็มาขายของกันเยอะขึ้นกว่าเดิม เมื่อก่อนมี 3 ร้าน ตอนนี้มีอยู่ 12 ร้าน ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น อนาคตก็อาจจะมีมากกว่านี้อีก ตอนนี้เพิ่งเริ่มต้น ชาวบ้านบางคนไม่มีร้านขายของก็เยอะอยู่
ในส่วนของราคา บางตัวปรับขึ้น 5-10 บาท แต่บางตัวก็เหมือนเดิมตามเศรษฐกิจ ที่นิยมสั่งกันมาก ก็จะเป็นโกโก้ ชาเขียว ส้มคั้น ผลไม้ตามฤดูกาล บ้านเรามีหวาน มีเปรี้ยว
ขณะที่ในส่วนของการตกแต่งร้าน ก็จะเป็นสไตล์บ้านๆ เหมือนเดิม ขายแบบธรรมชาติ บรรยากาศเดิมปูเสื่อ ตั้งโต๊ะ เพิ่มความสะดวกสบายของลูกค้ามากขึ้น การนั่ง การมีไฟ สถานที่เอื้ออำนวยมากกว่าเดิม ไม่แออัด ช่วงโควิด บรรยากาศธรรมชาติ ส่วนผลตอบรับแม่ค้า ลูกค้า เยอะขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจก็มาสามารถแวะเวียน มาทานกาแฟสด-อาหาร ในแบบบ้านๆ ที่ Cafe ในท่องยามู ตั้งอยู่ที่บ้านทุ่งยามู ต.ยุโป อ.เมืองยะลา หากไปไม่ถูก สามารถเปิด Google Maps Cafe ในท่องยามู ปักหมุด หรือสอบถามโดยตรงได้ที่ 09-8041-6618 ร้านจะเปิดทุกวันปิดเฉพาะวันจันทร์วันเดียว พิเศษวันอาทิตย์ จะมีนักดนตรี เป็นเด็กๆ ในหมู่บ้านแสดงดนตรีสดให้ฟังด้วย
ด้านลูกค้าจากอำเภอเมืองยะลา ที่ได้แวะเวียนมาเที่ยว บอกว่า ชอบบรรยากาศธรรมชาติ กาแฟ อาหาร ก็อร่อย ถ้ามีโอกาสก็จะแวะเวียนมาอีก ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","23/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220123084233483"], [624,"พาณิชย์ลำปาง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ห้าง Modern Trade","นางสาวเยาวเรศ แซ่โค้ว พาณิชย์จังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ (21 ม.ค. 65) ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้าและเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค อาทิ เนื้อสุกรชำแหละ เนื้อไก่ชำแหละ ไข่ไก่ และน้ำมันพืช ณ ห้าง Modern Trade (ห้างโลตัส ห้างบิ๊กซี และห้างแม็คโคร) อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง
สถานการณ์การจำหน่ายและราคา มีดังนี้ เนื้อสุกรชำแหละ เนื้อแดง/เนื้อสะโพก/เนื้อหัวไหล่ ราคากิโลกรัมละ 150-185 บาท , สันนอก ราคากิโลกรัมละ 216-250 บาท , สามชั้น ราคากิโลกรัมละ 238-248 บาท เนื้อไก่ชำแหละ เนื้อส่วนอกไก่ ราคากิโลกรัมละ 75-77 บาท , เนื้อส่วนสะโพก ราคากิโลกรัมละ 65-67 บาท ไข่ไก่ ต่อแผง 30 ฟอง เบอร์ 0 ราคาจำหน่ายแผงละ 129 บาท , เบอร์ 1 ราคาจำหน่ายแผงละ 116 บาท , เบอร์ 2 ราคาจำหน่ายแผงละ 99 บาท , เบอร์ 3 ราคาจำหน่ายแผงละ 96 บาท , เบอร์ 4 ราคาจำหน่ายแผงละ 94 บาท , คละ (เบอร์ 3-4) จำหน่ายแผงละ 99 บาท น้ำมันปาล์มขนาดบรรจุ 1 ลิตร มีราคาจำหน่ายขวดละ 55-59 บาท
ทั้งนี้ ทางห้างฯ มีการจำกัดการซื้อ เพื่อเป็นการกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภคให้ทั่วถึง โดยมีประชาชนยังคงออกมาจับจ่ายใช้สอยเป็นปกติ ปริมาณสินค้ายังมีเพียงพอไม่ขาดแคลน ผู้ประกอบการมีการปิดแสดงราคาไว้อย่างชัดเจน
","23/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สวท.ลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220123091501504"], [625,"คุมเข้มราคาสินค้าใกล้ตรุษจีน ผู้ว่าฯ ยะลา ลุยตลาด ร่วมพาณิชย์ ตรวจสอบราคาหมู ไก่สด ไข่ไก่ สร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภค","คุมเข้มราคาสินค้าใกล้ตรุษจีน ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ลุยตลาด ร่วมพาณิชย์ ตรวจสอบราคาหมู ไก่สด ไข่ไก่ สร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภค ด้านคนขาย เผย ลูกค้าลดหมูแพง
ในขณะที่หมูยังคงมีราคาแพง รวมถึงสินค้าต่าง ๆ ได้ปรับราคาขึ้น ประกอบกับใกล้ถึงเทศกาลตรุษจีนของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน เพื่อเป็นการป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าในช่วงภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้น
วันนี้ (23 ม.ค. 65) นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายอำเภอเมืองยะลา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พาณิชย์จังหวัดยะลา ปศุสัตว์จังหวัดยะลา อุตสาหกรรมยะลา เทศบาลนครยะลา รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้า อาหารต่าง ๆ ทั้งไก่สด ไข่ไก่ โดยเฉพาะเนื้อหมูสด ในตลาดสดพิมลชัย เพื่อตรวจสอบการขายที่อาจมีราคาสูงเกินสมควร สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในช่วงที่มีสถานการณ์โควิด-19 และวิกฤติหมูแพง จากการลงตรวจสอบพบว่า เนื้อหมู ไก่สด ไข่ไก่ และสินค้าอย่างอื่นยังขายตามราคาที่กำหนด ผู้ประกอบการร้านค้าได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มีการติดป้ายแสดงราคาสินค้าต่าง ๆ
นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ระบุว่า วันนี้ได้นำคณะมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพ่อค้า แม่ค้า และมาดูราคาสินค้าต่าง ๆ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค หลังทราบข่าวมาว่าราคาหมูสูงมาก กิโลกรัมละ 200 กว่า จริง ๆ แล้ว ยะลา หมูเนื้อแดงขายที่ กิโลกรัมละ 150 บาท หมูสามชั้น 180 บาท หมูปลอดสารพิษ ก็ 150 บาท พ่อค้า แม่ค้า ก็พอใจ ส่วนกำลังซื้ออาจจะอ่อนลงบ้าง แต่ปัจจุบันเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ผู้ค้าหมูมีรายได้เพิ่มขึ้น เริ่มมาจากรัฐบาลได้ดูแลทุกอย่าง
\"...ยะลา เองหมูไม่ขาด หมูถูกกว่าที่อื่นมาก ส่วนราคาไก่สด ไข่ไก่ก็ขึ้นนิดหน่อย เราต้องช่วยกัน ให้พี่น้องประชาชนอยู่ได้ เศรษฐกิจดีขึ้นพี่น้องมีความสุข ขอให้ประชาชนอดทน สถานการณ์ต่าง ๆ จะดีขึ้น...\"
ด้านร้านขายหมู บอกว่า หมูยะลาราคาถูกสุด ถูกกว่าที่อื่นมาก แต่ตอนนี้หมูแพง คนซื้อก็ลดลง จากเดิมที่เคยขายได้หมื่นกว่าบาท เหลือห้าพันหกพันลดลงครึ่งต่อครึ่ง คนซื้อลดลง ดีแล้วที่เจ้าหน้าที่ลงมาดู ผู้บริโภคจะได้รู้ว่าหมูยะลา ไม่แพงเหมือนที่อื่นไม่แพงขนาดนั้น ตอนนี้ ก็ขึ้นป้ายราคาให้ลูกค้าได้ดูราคา สงสารคนที่กินด้วย ไม่ค้ากำไรเกินควร บางคนค่าแรงได้ 300 บาท ต่อวัน มาซื้อหมู กิโลเดียวก็หมดแล้ว
ทั้งนี้ จังหวัดยะลา และสำนักงานพาณิชย์ยะลา ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 โดยปิดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน และห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา หรือจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควรโดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติจะมีบทลงโทษตามกฎหมาย คือ ไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย มีโทษตามมาตรา 28 ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท จำหน่ายสินค้าราคาแพงเกินสมควร มีโทษตามมาตรา 29 จำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากพบเห็นการฉวยโอกาสขึ้นราคา หรือกระทำผิดแจ้ง สำนักงานพาณิชย์จังหวัดยะลา โทร.0-7320-3718 หรือ 0-7321-1259
","23/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220123094913505"], [626,"ผวจ.ยะลา ลุยตลาดสด เช็คราคาเนื้อหมู ระบุ ราคายังถูกกว่าที่อื่น","เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (23 ม.ค. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตลาดสดพิมลชัย (ตลาดรถไฟ) เขตเทศบาลนครยะลา นายภิรมย์ นิลทยา ผวจ.ยะลา พร้อมด้วยนายอำนาจ ชูทอง รอง ผวจ.ยะลา นางผุสสดี จ๋ายเจริญ พาณิชย์ จ.ยะลา นายธราวุธ ช่วยเกิด นายอำเภอเมืองยะลา พ.ต.อ.ทินทร รังมาตรย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา ปศุสัตว์ยะลา หัวหน้า สนง.จ.ยะลา และคณะส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ออกทำการตรวจสอบสินค้าเนื้อหมูรวมถึงการจำหน่ายเนื้อหมู ไก่ ไข่ และสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภคต่าง ๆ เนื่องจากว่า ขณะนี้มีสินค้าหลายประเภทมีการปรับราคาสูงขึ้นตามกลไกของตลาด
โดยคณะของ ผวจ.ยะลา ได้ตรวจบริเวณเขียงหมูที่ขายเนื้อหมูพบว่า มีพ่อค้าแม่ค้ากำลังขายเนื้อหมูให้กับประชาชนตามปกติ มีการติดป้ายบอกราคาเนื้อหมูไว้ที่ราคา กก.ละ 220 บาท อย่างชัดเจน ขณะที่ร้านขายเนื้อหมูสดบางแห่งมีราคาเนื้อหมู กก.ละ 160 บาท ส่วนร้านขายไก่พบว่า ราคาไก่สดทั้งตัว ราคา กก.ละ 70-80 บาท ไข่ไก่ก็มีการปรับราคาสูงขึ้น แต่ประชาชนก็ยังมาจับจ่ายซื้อสินค้ากันตามปกติ เนื่องจากว่าเป็นสินค้าจำพวกอาหารที่จำเป็นต้องใช้ในการทำเป็นอาหารเพื่อจำหน่ายและต้องกินเป็นอาหารประจำวัน ซึ่ง ผวจ.ยะลา และคณะ ได้พูดคุยกับพ่อแม่ค้าทุกคนพร้อมทั้งให้กำลังพ่อค้าแม่ค้า เนื่องจากมีลูกค้าที่ลดลง อีกทั้ง ได้ขอความร่วมมือไม่ให้จำหน่ายสินค้าราคาแพงเกินไปเพราะจะทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน
นางนิด แถมโต แม่ค้าแผงหมูในตลาด เปิดเผยว่า ยอมรับว่าจำนวนลูกค้าที่มาซื้อมีจำนวนที่ลดลง จากที่ขายได้วันละ 2 ตัว เหลือเพียงวันละ 1 ตัว แต่ยืนยันว่าหมูใน จ.ยะลา ราคาถูกกว่าที่อื่นมากเนื่องจากต้นทุนเราที่ถูกกว่า
ด้านนายภิรมย์ นิลทยา ผวจ.ยะลา กล่าวว่า จากการพูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าหมูในตลาด ทุกคนพอใจ ส่วนกำลังซื้อของประชาชนเมื่อก่อนมีลดลงบ้างแต่ปัจจุบันเริ่มดีขึ้นเนื่องจากรัฐบาลได้ผ่อนคลายในมาตรการต่าง ๆ ทำให้ภาวะเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ทั้งนี้ขอยืนยันกับประชาชนว่า จ.ยะลา เนื้อหมูไม่มีการขาดตลาดและราคายังถูกกว่าที่อื่นมาก นอกจากนี้ ได้ยังกำชับกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องให้ดูแลควบคุมราคาอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบและเดือดร้อนกับประชนชน
","23/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220123110349524"], [627,"สวนน้ำความสุขของเด็กยะลา","นับจากเดือนเมษายน ถึงเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา สถานการณ์โควิดใน จ.ยะลา ติดอันดับประเทศ จนทำให้เด็ก ๆ ต้องอยู่บ้าน เรียนออนไลน์ ป้องกันตนเองให้ห่างจากโควิด จนกระทั่งช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ สถานการณ์เริ่มดีขึ้นตามลำดับ เทศบาลนครยะลาจึงเริ่มเปิดเมือง จัดงานส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ มีงานวันเด็กแบบออนไซต์และออนไลน์ เปิดเรียนแบบออนไซต์สำหรับเด็กโต
ในขณะที่ ทางด้านสวนน้ำเทศบาล ภายในสนามช้างเผือก ก็ได้เริ่มกลับมาเปิดบริการอีกครั้ง ภายใต้มาตรการควบคุม จำกัดจำนวนคน โดยแบ่งเป็นรอบ ให้เด็ก ๆ เว้นระยะห่าง เรียนรู้การป้องกันตนเอง เพื่อจะได้ใช้ชีวิตใกล้เคียงปกติ
เจ้าหน้าที่ผู้ดูแล บอกว่า หลังเปิดสวนน้ำ มาตั้งแต่ 14 ธ.ค. 64 จนถึงปัจจุบัน จำนวนเด็กใหม่เพิ่มขึ้นมาก สมัครใหม่ทุกวัน 40-50 คนต่อวัน ซึ่งไม่รวมกับเด็กเก่าที่เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ส่วนมาตรการการป้องกันโควิด-19 ก็จะเข้มงวดตั้งแต่ก่อนเข้าสวนน้ำเด็ก ๆ จะต้องล้างมือ วัดไข้ ลงทะเบียน รับบัตรคิว เข้าต่อรอบ 50 คน เว้นระยะห่างในการเล่น ซึ่งจะมีวันละ 6 รอบ เริ่มตั้งแต่ 10.30 น. ไปจนถึงรอบ 17.45 น. โดยช่วง 16.00-17.45 น. จะเต็มเร็วมาก รวมไปถึงเด็ก ๆ ต้องสวมใส่ชุดว่ายน้ำมาจากบ้าน เพื่อลดการแออัดในห้องน้ำ เด็กเล็ก 1 คน ก็จะมีผู้ปกครองเข้ามาได้คนเดียว เพื่อลดการรวมตัวแออัดภายใน
สำหรับในช่วงนี้จะเน้นเด็กที่รับใหม่ ก็จะต้องเป็นเด็กที่อยู่ในพื้นที่ จ.ยะลา ก่อนช่วงโควิด-19 ต้องลดภาวะเสี่ยง ถ้าโควิดคลี่คลายก็จะเปิดรับทั่วไป ซึ่งตั้งแต่เปิดให้เด็กมาเล่นน้ำเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ผู้ปกครองเข้าใจมาตรการลดปริมาณผู้ใช้บริการให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ขณะที่ บรรยากาศโดยทั่วไป พบว่าบรรดาผู้ปกครองได้นำเด็ก ๆ มาเล่นน้ำกับเพื่อน ๆ อย่างสนุกสนาน โดยผู้ปกครองบางคนก็เพิ่งจะพาลูกหลานมาเล่นน้ำครั้งแรก บางคนก็มาหลายครั้งแล้ว โดยบอกว่าตั้งแต่โควิดไม่ได้มานานแล้ว พอเริ่มเปิดก็เลยพาลูก ๆ หลาน ๆ มาเล่นน้ำ ก่อนเข้าก็ทำจะทำตามมาตรการทุกอย่าง ล้างมือ ทำความสะอาดตัว เว้นระยะห่าง
","23/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220123110340521"], [628,"บุรีรัมย์ มาราธอน 2022 ปิดฉากอย่างน่าประทับใจ บรรยากาศ 2 ข้างทางเป็นไปอย่างอบอุ่นด้วยสีสันไฟประดับสวยงาม มีกองเชียร์ให้กำลังใจตลอด 2 ข้างทาง ส่วนผลการแข่งขัน \"สัญชัย\" คว้าถ้วยพระราชทานฯ สมัย 3","\"บุรีรัมย์ มาราธอน 2022\" ปิดฉากอย่างน่าประทับใจ บรรยากาศ 2 ข้างทางเป็นไปอย่างอบอุ่นด้วยสีสันไฟประดับสวยงาม มีกองเชียร์ให้กำลังใจตลอด 2 ข้างทาง ส่วนผลการแข่งขัน \"สัญชัย\" คว้าถ้วยพระราชทานฯ สมัย 3
เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (22 มกราคม 2565) ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้บริหารกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมปล่อยตัวนักวิ่ง \"บุรีรัมย์มาราธอน 2022\" รูปแบบไนท์รันบนมาตรฐานระดับเหรียญเงินของโลก (ซิลเวอร์ เลเบิล) ระยะวิ่งได้แก่ มาราธอน ระยะทาง 42.195 กิโลเมตร , ฮาล์ฟ มาราธอน ระยะทาง 21.1 กิโลเมตร , มินิมาราธอน ระยะทาง 10 กิโลเมตร และฟันรัน ระยะทาง 4.554 กิโลเมตร ท่ามกลางสายฝนตั้งแต่ปล่อยตัวระยะมาราธอน ซึ่งนักวิ่งและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องแสดงเอกสารการรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และต้องตรวจคัดกรองหาเชื้อฯ แบบ ATK ทุกคน กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับจังหวัดบุรรัมย์ ภาคเอกชน ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านกีฬาเชื่อโยงการท่องเที่ยวทางอายธรรม และเป็นจุดหมายปลายทางที่นักวิ่งจากทั่วโลก ต้องไปสัมผัสกับบรรยากาศการวิ่งที่บุรีรัมย์สักครั้งหนึ่งในชีวิต ส่วนบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น ปลอดภัย มีความสุข
ตลอดเส้นทางการวิ่งได้สัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติ และแสงไฟสีสันอย่างสวยงาม มีประชาชนชาวบุรีรัมย์ไปชมและเชียร์ให้กำลังใจนักวิ่งมาราธอนตลอด 2 ข้างทาง มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดโดยการปิดจราจร 100 เปอร์เซ็นด์ มีทีมแพทย์ฉุกเฉินช่วยเหลือนักกีฬา มีจุดปฐมพยาบาล ตลอดระยะทาง
ส่วนผลการแข่งขัน ระยะมาราธอน 42.195 กิโลเมตร ผู้ที่เข้าเส้นชัยคนแรก ฝ่ายชาย ได้แก่ เซอร์เก ซีรียานอฟ ปอดเหล็กจากรัสเซีย ทำเวลาได้ 2.28.21.80 ชั่วโมง อันดับ 2 สัญชัย นามเขต เหรียญเงินซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ ทำเวลาได้ 2.35.25.74 ชั่วโมง คว้าแชมป์คนไทย และได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เป็นสมัยที่ 3 ส่วนอันดับ 3 บุญถึง ศรีสังข์ ทำเวลาได้ 2.41.01.89 ชั่วโมง ฝ่ายหญิง อันดับ 1 อเล็กซานดรา โมโรโซวา ชาวรัสเซีย ทำเวลาได้ 2.52.12.88 ชั่วโมง อันดับ 2 ลินดา อินทะชิต ทีมชาติ ได้แชมป์คนไทย ทำเวลาได้ 3.00.08.11 ชั่วโมง อันดับ 3 อาภัสรา ปราสาทหินพิมาย ทำเวลาได้ 3.06.21.38 ชั่วโมง
ระยะฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กิโลเมตร ฝ่ายชาย ที่ 1 \"บิ๊ก\" ณัฐวุฒิ อินนุ่ม คู่แฝดคนพี่ ทีมชาติชุดซีเกมส์ ทำเวลาได้ 1.08.35.25 ชั่วโมง คว้าแชมป์ 2 สมัย แต่เป็นแชมป์คนไทยมาโดยตลอด อันดับที่ 2 คริสตอฟ ฮาดาซ (โปแลนด์) ทำเวลาได้ 1.09.36.78 ชั่วโมง ที่ 3 อีน็อค ไคเกน (เคนยา) ทำเวลาได้ 1.14.17.53 ชั่วโมง ฝ่ายหญิง ที่ 1 อรอนงค์ วงศ์ศร ทำเวลาได้ 1.26.06.33 ชั่วโมง ที่ 2 \"ฝน\" ณัฐธยาน์ ธนรณวัฒน์ อดีตทีมชาติไทย ทำเวลาได้ 1.28.00.38 ชั่วโมง ที่ 3 อรนุช เอี่ยมเทศ ทำเวลาได้ 1.29.01.85 ชั่วโมง
ระยะมินิมาราธอน 10 กิโลเมตร ฝ่ายชาย ที่ 1 อาทิตย์ โสดา ทำเวลาได้ 32.13.99 น. ที่ 2 \"เบล\" ณัฐวัฒน์ อินนุ่ม แฝดผู้น้อง ทำเวลาได้ 32.24.97 น. ที่ 3 นิติธรรม มิสาธรรม 33.45.05 น. ฝ่ายหญิง ที่ 1 \"น้องบิ๊กซี\" ศรัญญา บัวไพร 37.28.12 น. ที่ 2 ปารียา สนเส็ม 37.54.74 น. ที่ 3 กัลยรักษ์ เสรีวุฒิชัย 38.39.59 น.
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การจัดการแข่งขัน \"บุรีรัมย์ มาราธอน 2022\" ปีนี้มีการบริหารจัดการแข่งขันที่ดีมาก และมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เข้มแข็ง การปล่อยตัวแบบเว้นระยะห่าง ตรวจ ATK ทุกคน หากบุรีรัมย์ มาราธอนจัดงานประสบความสำเร็จได้ ภายใต้การจัดการผู้ร่วมงานหลายหมื่นคน ก็จะเป็นตัวอย่างสำหรับการแข่งขันวิ่งรายการอื่น ๆ ของจังหวัดอื่น ๆ หากสามารถบริหารจัดการ เราจะสามารถจัดการแข่งขัน หรือจัดอีเวนต์ได้ทุกอย่าง หลังจากนี้ ทางกระทรวงฯ จะติดตามผลการจัดงาน 1 สัปดาห์ หากไม่พบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ จะมีการประกาศให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาได้ในระบบ Test and Go หากเราสามารถจัดงานครั้งนี้สำเร็จได้ ก็แสดงให้เห็นว่าไทยสามารถจัดการแข่งขันกีฬาได้ แม้ว่าจะมีจำนวนคนร่วมกิจกรรมจำนวนมาก ซึ่งการจัดการแข่งขันบุรีรัมย์ มาราธอน จะเป็นตัวอย่างและแนวทางสำหรับจังหวัดสปอร์ตซิตี้ที่เรามีอยู่ 10 กว่าจังหวัด ว่าสามารถจัดการแข่งขันกีฬาได้ หากทุกคนช่วยกันปฏิบัติตามแนวทางสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นอีเว้นต์ของท่องเที่ยวต่าง ๆ การจัดคอนเสิร์ต หรือการจัดกีฬาต่าง ๆ
","23/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","บุรีรัมย์","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220123110354526"], [629,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ติดตามการดำเนินโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน","สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ติดตามการดำเนินโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน (ครั้งที่ 3) ของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน จุดจำหน่าย 8 จุด จำหน่ายหมูเนื้อแดงให้กับประชาชนผู้บริโภค ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ระหว่างวันที่ 17-31 มกราคม 2565 ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยมีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ จุดจำหน่าย ณ บริเวณหน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ มีสินค้าราคาประหยัดมาร่วมจำหน่ายด้วย อาทิ พืชผักสินค้าเกษตรอินทรีย์ข้าวสาร ผลไม้ ไข่ไก่ และสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาประหยัด
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","23/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","สุรินทร์","สวท.สุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220123105247515"], [630,"นายอำเภอรัตนบุรี เยี่ยมกลุ่มโอทอปกลุ่มเกษตรอินทรีย์ เครือข่ายโคกหนองนา งาน \"มหกรรมสินค้า OTOP เกษตรอินทรีย์ ของดี รัตนบุรี และคาราวานสินค้าราคาถูก\" มุ่งสร้างรายได้ กระจายความสุข เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก","นายคเณศวร เกษอินทร์ นายอำเภอรัตนบุรี พร้อมด้วย นายดุษฎี ดวงใจ ปลัดอำเภออาวุโส และนางศรินทราภรณ์ ไกรเสือ พัฒนาการอำเภอรัตนบุรี เข้าเยี่ยมติดตามการจำหน่ายผลผลิตของเครือข่ายกลุ่มวิสาหกิจ OTOP สมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี แกนนำขับเคลื่อนหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ในรูปแบบ โคก หนอง นา โมเดล เปิดงาน มหกรรมสินค้า OTOP เกษตรอินทรีย์ ของดีรัตนบุรี และคาราวานสินค้าราคาถูก ครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นกิจกรรมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าของชุมชน จากสัมมาชีพในชุมชน ผลผลิตทางการเกษตรอินทรีย์ ผลผลิตจากกลุ่มเครือข่ายโคกหนองนาโมเดล กรมการพัฒนาชุมชน ผลิตภัณฑ์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และเครื่องอุปโภคบริโภคจำเป็นที่มีราคาประหยัด SMEs นำมาจำหน่ายเพิ่อสร้างรายได้ ส่งเสริมกระตุ้นเศรษฐกิจ และลดค่าครองชีพของประชาชน ซึ่งงานได้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-23 มกราคม 2565 ที่บริเวณสนามข้างที่ว่าการอำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์
สำหรับกิจกรรมมหกรรมจำหน่ายสินค้า เพื่อให้ผู้ประกอบการ OTOP ได้มีโอกาสนำเสนอสินค้าผลิตภัณฑ์ OTOP ที่มีคุณภาพ จำหน่ายให้กับผู้บริโภค เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจจากฐานราก โดยเน้นมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มข้น การจัดงานในครั้งนี้ผู้ประกอบการมีการตรวจวัคซีน และมีการตรวจ ATK ส่วนผู้เข้าร่วมงานก็มีการตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิ สวมใส่หน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย และรักษาระยะห่าง ทั้งนี้ นายอำเภอรัตนบุรี ได้มอบหมายให้ผู้เกี่ยวข้องติดตามยอดจากการจำหน่ายสินค้า เพื่อนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ในการกำหนดแผนการส่งเสริมและพัฒนาการตลาดได้อย่างเหมาะสมต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","23/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","สุรินทร์","สวท.สุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220123110230518"], [631,"รัฐบาล มุ่งพัฒนาระบบรางของไทยในการเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาค ไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของอาเซียน","นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ระหว่างการพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูงของไทยและเพื่อให้การเดินทาง การขนส่งสินค้า สามารถเชื่อมต่อรถไฟไทย ลาว และจีน อย่างไร้รอยต่อ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แต่งตั้งคณะกรรมการบูรณาการการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน
นายกรัฐมนตรี มั่นใจว่า โครงสร้างพื้นฐานของไทยมีความพร้อมรองรับปริมาณสินค้าที่ต้องการขนส่งข้ามแม่น้ำโขง เชื่อมต่อการขนส่งสินค้าไทย ลาว และจีน ในลักษณะทีมประเทศไทย หรือ Team Thailand เพื่อบริหารจัดการสมดุลระหว่างปริมาณสินค้าที่ต้องการขนส่งกับความสามารถรองรับของโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ ระหว่าง demand และ supply เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย โดยหน่วยงานฝั่ง demand ประกอบด้วยกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ขณะที่ฝั่ง supply ประกอบด้วย กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการคลังและกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมวางแผนกำหนดนโยบายการเชื่อมต่อทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน พร้อมจัดทำแผนการขนส่งสินค้า เพื่อกำกับ ติดตามเร่งขับเคลื่อนการเชื่อมโยงทางรถไฟ พร้อมขับเคลื่อนสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน
สำหรับผลการประชุมคณะกรรมการบูรณาการการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีนครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา เห็นชอบแผนการดำเนินงานและเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อติดตามความก้าวหน้าสถานะการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเห็นชอบการจัดทำ Framework Agreement การขนส่งทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน โดยการเชื่อมต่อการเดินทางข้ามแดนผ่านทางรถไฟช่วงหนองคาย เวียงจันทน์ ซึ่งในการเจรจาระหว่างประเทศนั้น ให้ดำเนินการเจรจาบนพื้นฐานที่ไทย ลาว และจีน โดยอาจยกระดับให้เป็นบันทึกข้อตกลงที่มีความผูกพันเพิ่มเติมและให้การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ดำเนินการของบกลางเพื่อออกแบบสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 และเร่งดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศต่อไป นอกจากนี้ ยังได้แต่งตั้งองค์ประกอบของคณะกรรมการเพิ่มเติม ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อพิจารณาแนวทางการบูรณาการการเชื่อมโยงทางรถไฟไทย ลาว และจีนต่อไป
","23/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","นนทบุรี","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220123131016559"], [632,"รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตรวจเยี่ยมโครงการโมบาย พาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน ย้ำให้กรมการค้าภายตรวจสอบราคาสินค้าพร้อมตรึงราคา ช่วงเทศกาลตรุษจีน","
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตรวจเยี่ยมโครงการโมบาย พาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน ย้ำให้กรมการค้าภายตรวจสอบราคาสินค้าพร้อมตรึงราคา ช่วงเทศกาลตรุษจีน
นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังลงพื้นที่และตรวจเยี่ยมโครงการโมบาย พาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน lot ที่ 16 ที่ชุมชนปิ่นเจริญ 2 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ว่า โครงการฯนี้จะช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของของประชาชน โดยนำสินค้าบริโภคอุปโภคที่จำเป็นในการดำรงชีวิตมาจำหน่ายในราคาถูกกว่าท้องตลาดกว่าร้อยละ 86 เช่น หมูเนื้อแดง 1 กิโลกรัม 150 บาท // ไข่ไก่เบอร์ 2 จำนวน 1 แผง 80 บาท // ข้าวหอมมะลิ ถุงละ 5 กิโลกรัม 120 บาท // น้ำมันพืช ขวดละ 48 บาท และไก่น่องติดสะโพก 1 กิโลกรัม 65 บาท
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่พบว่า ประชาชนให้การตอบรับซื้อสินค้าเป็นอย่างดี ซึ่งประชาชนสามารถตรวจสอบจุดจำหน่ายได้ที่เว็บไซต์ของกระทรวงพาณิชย์ พร้อมย้ำว่า สินค้าอื่นที่อาจปรับราคาขึ้นทางกระทรวงได้จัดการแล้วทั้งสินค้าอาหารบริโภค ผงซักฟอง สบู่ ยาสีฟัน เครื่องใช้ไฟฟ้า เนื้อไก่ ไข่ไก่ ซอสปรุงรสบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และน้ำอัดลม ยืนยันว่า ได้เจรจากันจนยุติหมดแล้วจะไม่มีการขึ้นราคาเด็ดขาด
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยอมรับว่า ขณะนี้ราคาเนื้อหมูยังคงมีราคาสูง ถือเป็นปัญหาที่กระทรวงพาณิชย์กระทรวงเดียวไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ กระทรวงการคลังต้องไปเร่ง การลดภาษีอาหารสัตว์ กระทรวงพลังงานต้องเร่งแก้ไขราคาน้ำมันที่เป็นต้นทุนสำคัญด้วย รวมถึงปัญหาน้ำมันปาล์มที่เริ่มมีราคาแพงขึ้น ซึ่งภายใน 1-2 วัน กรมการค้าภายใน จะเชิญทุกฝ่ายเข้ามาหารืออีกครั้ง ขณะที่ช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะถึงนี้ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตือนไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าโดยเฉพาะอาหารและของใช้จำเป็น พร้อมทั้งให้หารือกับผู้ประกอบการ บริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ เกษตรกร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาข้อตกลงร่วมกันในการตรึงราคาจำหน่ายสินค้าให้ถูกลง เพื่อทำให้ทุกภาคส่วนได้ผลประโยชน์ร่วมกัน
ที่จุดบริการหน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ นายศิริพงษ์ วิวัฒน์เกษมชัย พาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มีนโยบายให้เปิดจุดจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูก ในโครงการพาณิชย์ลดราคา ! ช่วยประชาชน จำหน่ายเนื้อหมูราคาถูก กิโลกรัมละ 150 บาท มีเนื้อสะโพกหมู สันคอ หมูสามชั้น หมูเนื้อแดง ราคาเดียวกันหมด
โดยมีจุดบริการ 7 จุด ในพื้นที่อำเภอเมือง 5 จุด ประกอบด้วย 1.หน้าบริเวณสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ 2.เขียงหมูอารยาหมูสด 3.ที่ตลาดสดทุ่งนาทอง 4.หจก.เจทีพีฟู๊ด ถนนถีนานนท์ 5.ห้องเย็นนุชไก่สด 6.ตลาดสดร่วมใจการเกษตร 7.ห้องเย็นนุชไก่สด สาขา 1 ถนนถีนานนท์ และที่อำเภอยางตลาด 2 จุด 1.ร้าน Meat U หมูสด หน้าตลาดสดยางตลาด และ 2.ร้านเจ๊ตุ่มหมู ตำบลยางตลาด
ทั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากเจ้าของเขียงหมูในพื้นที่ นำหมูมาขายวันละ 340 กิโลกรัม โดยบรรดาพ่อบ้านแม่บ้านได้ให้ความสนใจ รอคิวซื้อกันอย่างเนืองแน่น เนื่องจากเป็นหมูที่ชำแหละมาแบบใหม่และสด คุณภาพเนื้อดีและสะอาด ภายใต้มาตรการป้องกัน COVID-19 อย่างเข้มข้น ซึ่งจะจำหน่ายไปถึงในวันที่ 31 มกราคม 2565
","23/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","กาฬสินธุ์","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220123115750537"], [634,"ผู้ว่าฯ ยะลา ลุยตลาด ตรวจสอบการจำหน่ายราคาเนื้อหมู เผยจังหวัดยะลายังจำหน่ายในราคาถูกกว่าที่อื่น ส่วนใหญ่เป็นหมูที่เลี้ยงในพื้นที่","วันนี้ (23 ม.ค.65) เวลา 07.00 น. นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย นายอำนาจ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นางผุสสดี จ๋ายเจริญ พาณิชย์จังหวัดยะลา นายธราวุธ ช่วยเกิด นายอำเภอเมืองยะลา พ.ต.อ.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา ปศุสัตว์ยะลา หัวหน้า สนง.จ.ยะลา และคณะส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตลาดสดพิมลชัย (ตลาดรถไฟ) ในเขตเทศบาลนครยะลา ตรวจสอบการจำหน่ายเนื้อหมูรวมถึงไก่ และไข่ สินค้าเครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ เนื่องจากว่า ขณะนี้มีสินค้าหลายประเภทมีการปรับราคาสูงขึ้นตามกลไกของตลาด จากการตรวจสอบพบว่า ร้านค้า เขียงหมูมีการติดป้ายบอกราคาเนื้อหมูไว้ที่อย่างชัดเจน ราคาอยู่ที่ เนื้อสามชั้น กก.ละ 220 บาท เนื้อแดง กก.ละ 180 บาท หมูติดมัน กก.ละ 160 บาท ส่วนร้านขายไก่พบว่า ราคาไก่สดทั้งตัว ราคา กก.ละ 70-80 บาท ไข่ไก่ก็มีการปรับราคาสูงขึ้น แต่ประชาชนก็ยังมาจับจ่ายซื้อสินค้ากันตามปกติ เนื่องจากว่าเป็นสินค้าจำพวกอาหารที่จำเป็นต้องใช้ในการทำเป็นอาหารเพื่อจำหน่ายและต้องกินเป็นอาหารประจำวัน พร้อมทั้งได้พูดคุยกับพ่อแม่ค้า ให้กำลังพ่อค้าแม่ค้า เนื่องจากมีลูกค้าที่ลดลง
นางนิด แถมโต แม่ค้าแผงหมูในตลาด เปิดเผยว่า ยอมรับว่าจำนวนลูกค้าที่มาซื้อมีจำนวนที่ลดลง จากที่ขายได้วันละ 2 ตัว เหลือเพียงวันละ 1 ตัว แต่ยืนยันว่าหมูในจังหวัดยะลา ราคาถูกกว่าที่อื่นส่วนใหญ่เป็นหมูที่เลี้ยงอยู่ในพื้นที่
นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า จากการพูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าหมูในตลาด ทุกคนพอใจ ส่วนกำลังซื้อของประชาชนเมื่อก่อนมีลดลงบ้างแต่ปัจจุบันเริ่มดีขึ้นเนื่องจากรัฐบาลได้ผ่อนคลายในมาตรการต่างๆ ทำให้ภาวะเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ทั้งนี้ขอยืนยันกับประชาชนว่าจังหวัดยะลา เนื้อหมูไม่มีการขาดตลาดและราคายังถูกกว่าที่อื่นมาก เนื่องจากเนื้อหมูส่วนใหญ่ มีฟาร์มเลี้ยงอยู่ในพื้นที่ มีการนำเข้าจากนอกพื้นที่บ้างแต่ไม่มาก ทั้งนี้ได้กำชับกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องให้ดูแลควบคุมราคาอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบและเดือดร้อนกับประชาชน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","23/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220123121740540"], [635,"จังหวัดหนองคาย จัด \"ตลาดนัดช่วยประชาชน บรรเทาปัญหาค่าครองชีพ\" ที่อำเภอศรีเชียงใหม่ จำหน่ายหมูพาณิชย์ลดราคา กิโลกรัมละ 150 จำกัดคนละ 2 กิโลกรัม มีประชาชนเข้าคิวแห่ซื้อจนขายหมดอย่างรวดเร็ว","จังหวัดหนองคาย จัด \"ตลาดนัดช่วยประชาชน บรรเทาปัญหาค่าครองชีพ\" ที่อำเภอศรีเชียงใหม่ จำหน่ายหมูพาณิชย์ลดราคา กิโลกรัมละ 150 จำกัดคนละ 2 กิโลกรัม มีประชาชนเข้าคิวแห่ซื้อจนขายหมดอย่างรวดเร็ว
ที่ลานวัฒนธรรมเบิ่งเวียงริมแม่น้ำโขง หมู่ที่ 2 ตำบลพานพร้าว อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย นายทศพล สินยบุตร นายอำเภอศรีเชียงใหม่ , นายจรัล กลางประดิษฐ ปลัดอาวุโสฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง , สำนักงานปศุสัตว์อำเภอศรีเชียงใหม่ , สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอศรีเชียงใหม่ , เกษตรกร , กลุ่มอาชีพ และกลุ่มสตรีในพื้นที่ ได้ร่วมกันเปิด \"ตลาดนัดช่วยประชาชน บรรเทาปัญหาค่าครองชีพ\" เพื่อจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ให้กับประชาชนในราคาถูก เพื่อลดค่าครองชีพในช่วงสินค้าราคาแพง
จังหวัดหนองคาย ประสานความร่วมมือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พาณิชย์จังหวัด , อุตสาหกรรมจังหวัด , สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด , เกษตรและสหกรณ์จังหวัด , องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน กำหนดจัดตลาดนัดฯสินค้าราคาถูกในทุกอำเภอของจังหวัด
โดยแต่ละอำเภอจะได้รับการจัดสรรหมูเนื้อแดงแช่แข็งจากพาณิชย์จังหวัด อำเภอละจำนวน 150 กิโลกรัม โดยเปิดขายราคากิโลกรัมละ 150 บาท ท่ามกลางความสนใจจากประชาชนที่มายืนรอต่อคิวลงทะเบียนเลือกซื้อหมูเนื้อแดงกันเป็นจำนวนมาก ภายใต้มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด โดยทันทีที่เปิดจำหน่ายพบว่ามีประชาชนมาทำการเลือกซื้อหมูเนื้อแดงแช่แข็งของพาณิชย์จังหวัด นำมาจำหน่ายหมดภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง และเพื่อให้ครอบคลุมการซื้อ ซึ่งประชาชนที่มาซื้อนั้นได้กำหนดไว้เพียงคนละ 2 กิโลกรัมเท่านั้น เพื่อให้เพียงพอต่อผู้บริโภคนั่นเอง
นอกจากการจำหน่ายหมูเนื้อแดงแช่แข็งราคาถูกแล้ว ทางสำนักงานปศุสัตว์อำเภอศรีเชียงใหม่ ยังได้นำไข่ไก่คละหน้าฟาร์ม จำนวน 40 แผง มาจำหน่ายแผงละ 85 บาท และไก่สด จำนวน 60 ตัว จำหน่ายตัวละ 90 บาท และสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอศรีเชีงใหม่ ยังได้นำไข่ไก่แบบขัดเบอร์จัมโบ้ จำนวน 50 แผง จำหน่ายแผงละ 80 บาท ปรากฏว่าจำหน่ายหมดภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที นอกจากนี้ ยังมีการจำหน่ายสินค้าเกษตรอื่น ๆ และสินค้าโอทอปมาจำหน่ายในราคาถูกกว่าท้องตลาดอีกด้วย โดยจะเปิด \"ตลาดนัดช่วยประชาชน บรรเทาปัญหาค่าครองชีพ\" จำหน่ายเนื้อแดงอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 29 มกราคม 2565 และจะเพิ่มจำนวนสินค้า เช่น ไก่สด และไข่ไก่มากขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่
","23/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","หนองคาย","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220123125035548"], [636,"จังหวัดสระบุรีส่งเสริมตลาดวัฒนธรรมภูมิปัญญท้องถิ่นเพิ่มคุณค่าทางสังคมและเศรษฐกิจ","วันนี้ (23 ม.ค.65) ที่ตลาดต้าน้ำโบราณบ้านต้นตาล อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี นายเอกพร จุ้ยสำราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมตลาดวัฒนธรรม ตลาดต้าน้ำโบราณบ้านต้นตาล อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี โดยการจัดงานในครั้งนี้เป็นการส่งเสริมนโยบายในการสืบสาน รักษา และพัฒนาต่อยอดทุนทางวัฒนธรรม ส่งเสริมอัตลักษณ์ และภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพื่อสร้างคุณค่าทางสังคม และมูลค่าทางเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชน และสังคมอยู่ดี กินดี มีความสุขอย่างยั่งยืน และเป็นการกระตุ้นการจำหน่ายสินค้า ให้กลับมาฟื้นตัวหลังจากที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในช่วงเดือนตุลาคม 2564 และยังส่งเสริม สนับสนุน และประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ตลาดวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดสระบุรี สร้างโอกาส สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่รวมถึงการเยียวยาเครือข่ายศิลปินพื้นบ้าน และผู้ประกอบการตลาดวัฒนธรรม ภายหลังจากสถานการณ์อุทกภัยคลี่คลาย เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ให้เด็ก เยาวชน และประชาชนได้มีส่วนร่วมดำเนินกิจกรรมทางวัฒนธรรม สร้างความรัก ความสามัคคี ทำให้ชุมชน เกิดความเข้มแข็งและเกิดสำนึกรักท้องถิ่น
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","23/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","สระบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220123133037571"], [637,"พาณิชย์บึงกาฬ เปิดจุดจำหน่ายโครงการ \"หมูพาณิชย์ลดราคา ! ช่วยประชาชน\" ครั้งที่ 3 จังหวัดบึงกาฬ ตลาดสดชัยพร ตำบลชัยพร อำเภอเมืองบึงกาฬ","วันนี้ (23 มกราคม 2565) เวลา 13.00 น. นางสาวเอื้อนจิตร ช่วยนก พาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ เปิดจุดจำหน่ายหมู ตามโครงการ \"หมูพาณิชย์ลดราคา ! ช่วยประชาชน\" (กก.ละ 150 บาท) ณ ตลาดสดชัยพร ตำบลชัยพร อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ จำหน่ายระหว่าง วันที่ 23-31 มกราคม 2565 มีประชาชนให้ความสนใจเข้าคิวซื้อหมูหมูพาณิชย์ลดราคาจำนวนมาก
นางสาวเอื้อนจิตร ช่วยนก พาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า โครงการ \"หมูพาณิชย์ลดราคา ! ช่วยประชาชน\" เป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาสุกรที่สูงขึ้น และให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งเป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ ได้จัดโครงการมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 (23 พ.ย.- 31 ธ.ค. 64) จำหน่ายกิโลกรัมละ 130 บาท (ราคาตลาด 160 บาท) ครั้งที่ 2 (6-22 ม.ค. 65) จำหน่ายกิโลกรัมละ 150 บาท (ราคาตลาด 200 บาท) รวมปริมาณการจำหน่ายทั้ง 2 ครั้ง ทั้งสิ้น 8,100 กิโลกรัม ยอดจำหน่าย 1,356,000 บาท ลดภาระค่าครองชีพของประชาชนได้จำนวน 273,000 บาท โดยครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 23-31 มกราคม 2565
และในวันนี้จัดเพิ่มที่ตลาดสดชัยพร ตำบลชัยพร 4 จุด (ร้านหมูเบทาโกร/ร้านหมูวีระหมูสด/ร้านหมูอธิกาหมูสด/ร้านหมูแม่ยอดหมูสด) เริ่มจำหน่ายเวลา 13.00 น. และที่ร้านหมู ป.เฟชรฮับ สาขา 1 ช๊อปหมูนาสวรรค์ ตำบลนาสวรรค์ เริ่มจำหน่ายเวลา 10.00 น. รวมจากเดิมมี 2 ร้าน ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองบึงกาฬ ร้านเจ๋เหล่ย /ร้านเจ้กบ จำหน่ายเวลา 10.00 น. เป็นทั้งหมด 7 จุด คาดว่าจะช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชนได้มากยิ่งขึ้น
","23/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","บึงกาฬ","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220123155420604"], [638,"พ่อเมืองอุบลฯ สั่งลุยตรวจสอบห้องเย็นแช่แข็ง ป้องกันกักตุนสินค้า","วันที่ 23 มกราคม 2565 นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้/นายสมเพชร สร้อยสระคู รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี/นายปัญญา สัมพะวงศ์ พาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุบลราชธานี ฝ่ายปกครองอำเภอเมือง สำนักงานชั่งตวงวัด เขต 2-4 อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบ ห้องเย็นแช่แข็ง ที่บริษัท บุญศิริโฟรเช่น จำกัด ตำบลหนองกินเพล อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อตรวจสอบสถานที่จัดเก็บอาหารประเภทเนื้อสัตว์ (เนื้อหมู) ซึ่งตอนนี้มีราคาสูงขึ้น โดยมีผู้จัดการบริษัทคอยให้ความสะดวกในการตรวจสอบภายในห้องเย็นที่เป็นที่เก็บอาหารประเภทเนื้อสัตว์แช่แข็ง จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีการกักตุนสินค้าประเภทเนื้อหมู แต่อย่างใด
จากนั้นคณะเดินทางไปที่ บริษัทสยามแม็คโคร จำกัด สาขาวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้า ราคาเนื้อหมู ที่จำหน่วยในราคา 185 บาท ซึ่งเข้าร่วมโครงการตรึงราคา เพื่อช่วยบรรเทาความเดือนร้อนให้กับประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จากนั้นได้เข้าตรวจสอบห้องเย็นแช่แข็งภายในบริษัทสยามแม็คโคร จำกัด สาขาวารินชำราบ ผลตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีการกักเก็บเข้าข่ายลักษณะการกักตุนสินค้าแต่อย่างใด
เวลา 11.00 น. คณะเดินทางไปที่ บริษัท โค-ดีซี อีมาร์เก็ต จำกัด ที่ตำบลแจระแม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นสถานที่พักและจัดเก็บสินค้าแช่แข็งตามที่ลูกค้าจะนำมาฝากเก็บไว้ ผลตรวจสอบแล้วพบว่ามีการเก็บเนื้อสุกรแปรรูปประมาณ 2.5 ตัน มีการแจ้งพาณิชย์ถูกต้อง ไม่มีการกักเก็บเข้าข่ายลักษณะการกักตุนสินค้าแต่อย่างใด
จากนั้นคณะเดินทางไปตรวจสอบที่ห้องเย็นโชคมหาชัย นาวี ตำบลไร่น้อย อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี จากการตรวจสอบพบว่ามีปริมาณ \"เนื้อหมู\" ตามปริมาณในการส่งจำหน่าย ไม่มีการกักตุนสินค้าและไม่พบการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 แต่อย่างใด
ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นว่ามีการกักตุนหรือฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี และหากตรวจสอบพบการกระทำผิดจะมีโทษตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปีปรับ 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","23/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อุบลราชธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220123155928609"], [639,"ภูเก็ต บรรยากาศนักท่องเที่ยวออกมาทำกิจกรรมตามชายหาดต่าง ๆ จำนวนมาก","บรรยากาศตามชายหาดต่าง ๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ออกมาทำกิจกรรมต่าง ๆ จำนวนมาก เช่น ที่หาดป่าตอง ซึ่งถือเป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดภูเก็ต และเป็นที่ใฝ่ฝันของนักท่องเที่ยวจากทั่งทุกมุมโลก ซึ่งหลังจากที่มีการปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตได้ในทุกโครงการต่าง ๆ ก็ส่งผลให้บรรยากาศคึกคักอย่างเห็นได้ชัด มีนักท่องเที่ยวมาทำกิจกรรมชายหาดตลอดทั้งชายหาดป่าตอง ส่งผลต่อประชาชนที่มีธุรกิจและผู้ประกอบการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นหมอนวดชายหาด หรือรถรับจ้าง ร้านอาหารต่าง ๆ เป็นต้น แม้จะไม่เหมือนในอดีต แต่ก็ดีกว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในส่วนตามชายหาดอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นหาดในหาน หาดในยาง หาดสุรินทร์ หาดบางเทา และเกือบทุกหาด ก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเล่นน้ำทะเล และมานอนอาบแดดตลอดจนทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ชายหาดมากขึ้นเช่นกัน
","23/1/2022","ภาคใต้","ภูเก็ต","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220123160453612"], [640,"ผวจ.แพร่ เยี่ยมชมสวนผัก ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านปง ตำบลต้าผามอก อำเภอลอง","วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม 2565 เวลา 11.30 น. ที่ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง บ้านปง หมู่ที่ 3 ตำบลต้าผามอก อำเภอลอง จังหวัดแพร่ นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้เยี่ยมชมสวนผักปลอดสารพิษ ของศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านปง ต้นแบบหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง \"อยู่เย็น เป็นสุข\" ซึ่งศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้เคยได้รับรางวัลชนะเลิศ ระดับจังหวัด หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง \"อยู่เย็น เป็นสุข\" และกิจกรรมพัฒนาชุมชนดีเด่นระดับจังหวัด ประจำปี 2563 มาแล้ว ซึ่งมีพืชผักปลอดสารพิษที่สามารถนำไปจำหน่ายสร้างรายได้แก่ชุมชนอีกด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","23/1/2022","ภาคเหนือ","แพร่","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220123164009620"], [641,"มทร.ศรีวิชัย พื้นที่ขนอม เยี่ยมชม \"โคกเหล็กฟาร์ม\" ศึกษาเรียนรู้ศาสตร์พระราชา หลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง มุ่งเป้าเผยแพร่ต่อยอดให้เกษตรกร ยกระดับพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและศิลปวัฒนธรรมของชุมชน","วิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมและการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชพื้นที่ขนอม นำโดย อาจารย์ทวีศักดิ์ ศรีภูงา ผู้อำนวยการ, อาจารย์ชุลี หมีรักษา รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนานักศึกษา อาจารย์ บุคลากร และนักศึกษา ลงพื้นที่เยี่ยมชม \"โคกเหล็กฟาร์ม\" ตำบลไทยบุรี อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยการบริหารจัดการของนายวีระพรรณ สุขะวัลลิ นายอำเภอท่าศาลา ซึ่งเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้เรื่องการเลี้ยงวัวสายพันธุ์ชาโรเลส์ และการทำปุ๋ยหมักโดยใช้ขี้วัวเป็นวัตถุดิบหลักในการจัดการฟาร์ม \"โคกเหล็กฟาร์ม\"
อาจารย์ทวีศักดิ์ ศรีภูงา ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมและการจัดการ กล่าวว่า วิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมและการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย มีจุดมุ่งหมายที่จะนำความรู้ที่ได้รับในครั้งนี้มาบูรณาการให้เกิดกิจกรรมต่างๆ ภายใต้โครงการมหาวิทยาลัยสีเขียว (Green Campus) เช่น กระบวนการจัดการขยะ การคัดแยกขยะ ก่อเกิดนวัตกรรมในรูปแบบต่างๆ อีกทั้งเผยแพร่ให้กับนักศึกษา ภายใต้การจัดการเรียนการสอน เก้าตามรอยบาท ศาสตร์พระราชา หลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง และต่อยอดให้กับเกษตรกรในพื้นที่ตำบลท้องเนียน อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ยกระดับพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและศิลปวัฒนธรรมของชุมชนด้วยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรมต่อไป
ด้านนายวีระพรรณ สุขะวัลลิ นายอำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า นอกเหนือจากภาระหน้าที่การบริหารอำเภอท่าศาลาแล้ว ตนได้ใช้เวลาว่างในการดูแล \"โคกเหล็กฟาร์ม\" เลี้ยงวัวสายพันธุ์ชาโรเลส์และการทำปุ๋ยหมัก โดยใช้ขี้วัวเป็นวัตถุดิบหลักในการจัดการฟาร์ม ยึดหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง เน้นหาข้าวหาปลาก่อนหาเงินหาทอง คือ ทำมาหากินก่อนทำมาค้าขาย การเกษตรผสมผสานเพื่อให้เกษตรกรพัฒนาตนเองแบบเศรษฐกิจพอเพียง การทำปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกและใช้วัสดุเหลือใช้เป็นปัจจัยการผลิต(ปุ๋ย) เพื่อลดค่าใช้จ่ายภายในฟาร์ม และวันนี้เป็นอีกครั้งที่ก้าวสู่ความสำเร็จ คือ โคกเหล็กฟาร์ม ได้ถ่ายทอดเรื่องราวดีๆ ให้กับทาง มทร.ศรีวิชัย พื้นที่ขนอม แลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อจะต่อยอดพัฒนาฟาร์มสู่เยาวชน นักศึกษา ซึ่งเป็นกำลังหลักของประเทศชาติในอนาคต เกษตรกรผู้สนใจต่างพื้นที่
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
ที่กระชังปลาริมฝั่งแม่น้ำตรัง หัวสะพานจิจิก หมู่ 1 ต.ท่าสะบ้า อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ของลุงอรุณ พงษ์พิพัฒน์ อายุ 61 ปี ซึ่งยึดอาชีพเลี้ยงปลากระชังริมฝั่งแม่น้ำตรังมาร่วม 19 ปี ประกอบด้วย ปลาทับทิม ปลานิล และปลากด พร้อมคนงานเร่งจับตัวใหญ่ที่ได้ขนาดมาพักไว้ในกระชังพักปลา เพื่อเตรียมพร้อมไว้ขายให้กับลูกค้าที่เดินทางมาจอดรถแวะซื้อกันไม่ขาดสาย รวมทั้งส่งพ่อค้าแม่ค้าที่รับซื้อประจำ
โดยขณะนี้มีปลาในกระชังอยู่ทั้งหมด 9 กระชังๆละ 1,500 ตัว รวมประมาณ 10,000 กว่าตัว จาก 18 กระชัง เนื่องจากสภาพอากาศหนาวส่งผลต่อการเพาะขยายพันธุ์ลูกปลา ซึ่งสั่งซื้อมาจากจังหวัดพัทลุง ทำให้เจ้าของพันธุ์ปลาส่งพันธุ์ปลามาให้ล่าช้ากว่ากำหนด โดยขณะนี้หลังจากราคาหมูแพง พบว่าทำให้ยอดขายปลากระชังเพิ่มสูงขึ้น จากเดิมเคยขายอยู่ประมาณวันละ 40 50 กิโลกรัมต่อวัน แต่ขณะนี้สามารถขายได้ถึงวันละ 60 70 กิโลกรัมต่อวัน ทั้งลูกค้าประจำและลูกค้าขาจรจะเดินทางมาซื้อกันไม่ขาดสาย มีรายได้เฉลี่ยวันละ 7,000 บาท สำหรับลูกค้าที่มาซื้อไปทำอาหารจะมีการทำปลาให้พร้อมนำไปปรุง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า นอกจากนั้นยังได้นำไตปลาสดๆมาทำเป็นไตปลาขายในราคาขวดละ 30 บาทอีกด้วย เพื่อเพิ่มรายได้ ลดภาระต้นทุนการผลิต
ลุงอรุณ และนางฉลาด พงษ์พิพัฒน์ สองสามีภรรยา กล่าวว่า หมู ไก่ มีราคาแพงทำให้คนหันมากินปลากันมากขึ้น แต่ตนเองยังคงขายราคาเดิมไม่อยากปรับสงสารลูกค้า คือ ปลานิล และปลาทับทิม จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 100 บาท ส่วนปลากด ราคากิโลกรัมละ 200 บาท แต่ก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกับเกษตรกรผู้ปลูกพืช และเลี้ยงสัตว์ชนิดอื่นๆ คือ อาหารปลาที่แพงสูงขึ้น จากเดิมน้ำหนัก 50 กิโลกรัม ราคากระสอบละ 430 บาท ขณะนี้ปรับขึ้นมาที่กระสอบละ 468 บาท ซึ่งตนเองสั่งครั้งละ 50 กระสอบ
โดยปลาที่มีในกระชังจำนวน 9 กระชัง ใช้เวลากินเพียงประมาณ 1 สัปดาห์เท่านั้น แต่หากปลาเต็มทั้ง 18 กระชัง กินเพียง 5 วันก็หมด แต่ละครั้งทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 2,000 บาท และเมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา ทางบริษัทได้แจ้งปรับราคาอาหารขึ้นอีก 3% หรือเฉลี่ยกระสอบละ 15 บาท ราคา จึงได้ปรับขึ้นไปอีกอยู่ที่กระสอบละ 483 บาท จะยิ่งทำให้เดือดร้อนมากขึ้น ภาครัฐควรเร่งกำกับดูแลเรื่องของราคาอาหารสัตว์ที่เพิ่มสูงขึ้นให้เกิดความเป็นธรรมกับประชาชน ส่วนปลาคาดว่าในสิ้นเดือนนี้อาจจะต้องมีการปรับราคาขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 110 บาท
สำหรับผู้สนใจอยากซื้อปลาทับทิมจากแม่น้ำตรัง ที่มีน้ำไหลผ่านตลอดเวลา รสชาติหวานมัน เนื้อแน่น ไม่มีกลิ่นคาว ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 086 2670033
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","24/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220124093332695"], [643,"นายกรัฐมนตรี สั่งการตรวจสอบสต๊อกสุกรในห้องเย็นทั่วประเทศ","นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ติดตามตรวจสอบปริมาณสุกรในห้องเย็นทั่วประเทศอย่างเข้มงวด โดยเป็นการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ปกครองและเจ้าหน้าที่พาณิชย์
ตัวเลขล่าสุด ณ วันที่ 23 มกราคม 2565 กรมปศุสัตว์รายงานว่า ได้มีการดำเนินการทั้งหมดไปแล้ว 539 แห่ง ตัวเลขสะสมนับตั้งแต่วันที่ 20-23 มกราคม 2565 พบเนื้อสุกรรวม 13.41 ล้านกิโลกรัม และทางกรมฯจะเดินหน้าตรวจสอบห้องเย็นที่มีสินค้าปศุสัตว์ที่เหลือให้ครบ ซึ่งจะมีอีกประมาณห้าร้อยกว่าแห่ง หากตรวจสอบโดยละเอียดพบมีการกักตุน ผู้กระทำผิดจะถูกดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด และเนื้อสุกรจะถูกสั่งให้จำหน่ายตามราคาที่ทางการกำหนดต่อไป
ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 กำหนดว่า กรณีที่ไม่แจ้งปริมาณสต๊อกถือว่ามีความผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และปรับอีกวันละ 2,000 บาท ตลอดระยะเวลาฝ่าฝืน ส่วนในกรณีที่แจ้งแล้วต้องตรวจสอบต่อไปว่าแจ้งด้วยข้อมูลที่ถูกต้องหรือไม่ หากแจ้งด้วยข้อมูลที่เป็นเท็จ จะมีความผิดอีกเช่นกัน หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการกักตุน ซึ่งหมายถึงการปฏิเสธการจำหน่าย ทั้งที่มีสินค้าและมีผู้ขอซื้อสินค้าเข้ามาแต่ไม่จำหน่าย มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หากประชาชนพบการกระทำความผิดหรือสงสัยว่าเป็นการกระทำความผิด ขอให้แจ้งสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ 063-225-6888 เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ลงไปตรวจสอบและดำเนินการได้ทันที
นอกจากแก้ปัญหาการกักตุนเนื้อสุกรแล้ว รัฐบาลยังเร่งดำเนินการหลายมาตรการเพื่อแก้ปัญหาเนื้อสุกรราคาแพง เช่น งดส่งออกสุกรมีชีวิตเป็นเวลาสามเดือน ตรึงราคาจำหน่ายที่เหมาะสมสอดคล้องกับต้นทุน เพิ่มกำลังการผลิตแม่สุกรทดแทน ยกระดับมาตรฐานฟาร์มเกษตรกรเพื่อป้องกันโรคระบาดและส่งเสริมให้ปรับปรุงเป็นฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรค
","24/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220124095856706"], [644,"อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอนตรวจเยี่ยมสมาชิกกลุ่มผู้เลี้ยงแพะเนื้อและศูนย์ฯ การผลิตถั่วคั่ว แนะ จนท.ส่งเสริมสมาชิกให้มีอาชีพและสร้างรายได้อย่างยั่งยืน","
วันที่ 23 มกราคม 2565 นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วย นายคีตวุฒิ นับแสง สหกรณ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสมาชิกกลุ่มผู้เลี้ยงแพะเนื้อ สมาชิกสหกรณ์การเกษตร คทช.แม่ปายฝั่งซ้าย จำกัด บ้านห้วยเดื่อ ตำบลผาบ่อง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีประธานสหกรณ์ และสมาชิกให้การต้อนรับ
โอกาสนี้ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ให้คำแนะนำในเรื่องการดำเนินงาน ทั้งในเรื่องของการส่งเสริมเกษตรกรสมาชิกให้มีอาชีพ มีรายได้เสริม สามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวให้มีรายได้ที่มั่นคงยั่งยืนต่อไป สำหรับสมาชิกกลุ่มผู้เลี้ยงแพะเนื้อสมาชิกสหกรณ์การเกษตร คทช.แม่ปายฝั่งซ้าย จำกัด ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน 26 ราย มีแพะพันธุ์เนื้อ จำนวน 24 ตัว ซึ่งได้รับการสนับสนุนองค์ความรู้ด้านการดูแลและปัจจัยการผลิตภายใต้คณะทำงานการส่งเสริมอาชีพและการตลาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อสร้างอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่สมาชิกให้มีความกินดีอยู่ดี
นอกจากนั้น ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตถั่วคั่วชุมชนบ้านผาบ่อง (วิสาหกิจชุมชนถั่วสายฟ้าบ้านผาบ่อง) ตำบลผาบ่อง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมี นายสอง เจ้าของร้านถั่วสายฟ้า นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกถั่วต่างๆ อาทิ ถั่วลายเสือ ถั่วดาวอินคา เป็นต้น ซึ่งทางร้านเน้นการรับซื้อวัตถุดิบที่ปลูกในพื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอปางมะผ้า ซึ่งจะนำมาแปรรูปด้วยการคั่วกับเกลือตามสูตรแบบชาวไทยใหญ่โบราณ ทำให้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว และสามารถสร้างรายได้แก่เกษตรกรในพื้นที่ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","24/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220124094248704"], [645,"ออก 3 มาตรการเร่งด่วนควบคุมการปล่อยมลพิษของโรงงาน แก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5","นายวันชัย พนมชัย อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมไม่นิ่งนอนใจในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 ที่ส่งผลกระทบในชีวิตประจำวันของประชาชนอยู่ตอนนี้ โดยมอบนโยบายให้หน่วยงานในกำกับดำเนินการ 3 มาตรการ ได้แก่
มาตรการเร่งด่วน ควบคุมการประกอบกิจการอย่างเข้มงวดกรณีตรวจพบโรงงานปล่อยมลพิษเกินค่ามาตรฐาน จะทำการออกคำสั่งให้ปรับปรุงแก้ไขทันที
มาตรการระยะกลาง พัฒนาระบบเฝ้าระวังและเตือนภัยมลพิษทางอากาศระยะไกลมาตรการระยะยาว ปรับปรุงกฎหมายการระบายมลพิษจากโรงไฟฟ้าให้เข้มงวดขึ้น รวมถึงพัฒนากฎหมาย 3 ฉบับ ได้แก่ กฎหมายว่าด้วยการรายงานการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายมลพิษ สำหรับภาคอุตสาหกรรม กฎหมายควบคุมการระบายสารอินทรีย์ระเหย และกฎหมายการระบายฝุ่นละอองขนาดเล็กจากปล่อง
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ลงพื้นที่จังหวัดลำปาง ตรวจติดตามสถานการณ์การจำหน่ายเนื้อหมู เผยในจังหวัดภาคเหนือเขตรับผิดชอบ ยังไม่พบการกระทำผิดเพราะในพื้นที่ไม่มีฟาร์มหมูขนาดใหญ่ เน้นย้ำเจ้าหน้าที่คุมเข้มป้องกันการลักลอบนำหมูข้ามชายแดน และกักตุนเพื่อจำหน่าย
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ลงพื้นที่ร่วมกับ นายสันติ รังษิรุจิ รองผู้ว่าการราการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย พล.ต.ต.นันทวิทย์ เทียมบุญธง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง นำเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด ปกครองจังหวัด กอ.รมน. และที่ว่าการอำเภอเมืองลำปาง ออกตรวจสถานที่เก็บและจำหน่ายเนื้อสัตว์ ตามสถานประกอบการขนาดใหญ่ในพื้นที่จังหวัดลำปาง โดยเฉพาะสถานประกอบการที่มีการจำหน่ายเนื้อสุกร หรือเนื้อหมู ซึ่งกำลังมีปัญหาอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากเกรงจะมีการกักตุน หรืออาจมีการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูจากต่างประเทศ มาจำหน่าย
โดยในการลงพื้นที่ครั้งนี้ ทางคณะฯ ได้เข้าร่วมตรวจเยี่ยมดูสถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์ และห้องเย็นสำหรับใช้ในการเก็บรักษาเนื้อสัตว์ ของห้างแม็คโครลำปาง ในเขตท้องที่ตำบลพระบาท อำเภอเมืองลำปาง ซึ่งหลังการตรวจเยี่ยมสถานที่ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนี้ เป็นออกตรวจสถานที่ของผู้ประกอบการที่มีการจำหน่ายเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะสถานประกอบการขนาดใหญ่ที่จะต้องมีการเก็บรักษาเนื้อสัตว์ไว้ภายในห้องเย็น ที่เกรงว่าอาจจะมีการกักตุนสินค้า เฉพาะอย่างยิ่งเนื้อสุกร หรือเนื้อหมู ที่กำลังมีปัญหาอยู่ในขณะนี้ และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูจากต่างประเทศอย่างผิดกฎหมาย โดยจากการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดลำปาง สถานการณ์การจำหน่ายเนื้อหมู เนื้อสัตว์ ยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ส่วนสถานการณ์ภาพรวมในพื้นที่ภาคเหนือ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 5 มี 8 จังหวัดในภาคเหนือที่ผ่านมาได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายเนื้อหมู เนื้อสัตว์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังไม่พบการกระทำผิดในเรื่องการกักตุนเนื้อหมูสด แต่ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้คอยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะอาจจะมีการลักลอบนำหมูข้ามชายแดนเข้ามาเพื่อจำหน่ายอย่างผิดกฎหมาย เนื่องจากคาดการณ์ว่าเนื้อหมูอาจจะมีราคาแพงขึ้นได้อีก โดยเฉพาะในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน และช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมถึงในช่วงที่เนื้อหมูมีราคาแพงอาจทำให้เกิดการกักตุนสินค้า ซึ่งเป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค ทั้งยังเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายมีโทษทั้งจำและปรับ ดังนั้นเพื่อป้องปรามไม่ให้เกิดข้อพิพาทในลักษณะดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องจึงได้ออกติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการย้ำเตือนและประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ป้องกันการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ จังหวัดลำปางได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการไม่ให้ฉวยโอกาสกักตุนสินค้า ไม่ให้จำหน่ายในราคาเกินสมควร และปิดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ผู้บริโภคเห็นอย่างชัดเจน หากพบการกระทำความผิดจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย ตามมาตรา 29 และมาตรา 30 พรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากพบเห็นการกระทำความผิดสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดลําปาง โทร 0-5426-5087
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","24/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220124114114759"], [647,"ททท.เผยเปิดระบบ test & go ปรับมาตรการป้องกันควบคุมโควิด-19 สามารถเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว","นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สรุปข้อชี้แจงแผนการตลาดด้านการท่องเที่ยวหลังการเปิดประเทศ โดยให้ความเห็นว่าการประชุม ศบค. ชุดใหญ่ ใน 20 มกราคมที่ผ่านมา ว่า พิจารณาเปิดรับลงทะเบียน Thailand Pass สำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรในรูปแบบ test & go สำหรับคนไทยและชาวต่างชาติ นำมาตรการ test & go กลับมาใช้อีกครั้ง โดยยกเลิกการระงับการลงทะเบียนเข้าประเทศ 63 ประเทศ ปรับมาตรการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในส่วนของการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ระบบไม่กักตัว Test and Go เริ่ม 1 กุมภาพันธ์ 2565 ตั้งแต่เวลา 09.00น. เป็นต้นไป อนุญาตให้เข้าไทยได้ทุกประเทศ แต่ยังต้องตรวจหาเชื้อผ่าน RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง / แสดงหลักฐานการจองโรงแรมในวันแรกและวันที่ 5 โดยเป็นโรงแรมที่มีโรงพยาบาลคู่ปฎิบัติการ / มีการจัดระบบการตรวจสอบและกำกับการเข้าที่พัก ตรวจหาเชื้อให้ครบ2ครั้งโดยให้รออยู่ที่พัก หรือสถานที่ที่กำหนดจนกว่าจะได้รับผลการตรวจเป็นลบ / กำหนดระบบประกันให้ชัดเจน กรณีประกันไม่ครอบคลุม ผู้เดินทางจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของ Hospital Hospitel Hotel Isolation และ HRC กรณีสัมผัสผู้มีความเสี่ยงสูงและสุดท้าย หากเกิดการแพร่ระบาดมากขึ้นหรือมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลง พิจารณาการรับผู้เดินทางแล้วปรับมาใช้ระบบนี้ในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว กรณี test & go สามารถเดินทางออกจากพื้นที่ได้เลยถ้าผลเป็นลบในการตรวจวันแรก และวันที่5กลับมาตรวจ ณ โรงแรมที่ท่านทำการจองที่พักไว้ ในส่วนของ sandbox อยู่ในพื้นที่เดิม 7 วัน จึงจะสามารถออกนอกพื้นที่ได้
นอกจากนี้ ยังเปิดพื้นที่ sandbox ในกลุ่มจังหวัดภูเก็ต กระบี่ พังงา และ 3 เกาะ ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในช่วง 7 วันที่ต้องพำนักในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ทั้งนี้ กรณีผลตรวจเป็นบวก ต้องเข้ารับการรักษาในสถานที่ที่กำหนด ขณะทำการรักษาเป็นเวลาอย่างน้อย 10 วัน ต้องอยู่ในพื้นที่รักษาเท่านั้น ไม่สามารถออกนอกที่พักได้ และเมื่อรักษาหายหรือครบกำหนดการรักษาแล้ว จะได้รับใบรับรองแพทย์เพื่อแสดงว่าเคยติดเชื้อและหายดีแล้ว
นางอนงค์ ไพจิตรประภาภรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร หน่วยงานเครือข่ายกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า 3 องค์กรเศรษฐกิจด้านธุรกิจเกษตรและอาหาร ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สถาบันอาหาร และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมบูรณาการข้อมูลจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยพบว่าในปี 2564 ที่ผ่านมา การส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ ส่งผลทำให้สินค้าส่งออกที่มีตลาดในกลุ่มธุรกิจบริการร้านอาหารและโรงแรมปรับตัวดีขึ้น ส่งผลดีต่อกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารที่เน้นผลิตเพื่อการส่งออก
โดยปี 2564 การส่งออกสินค้าอาหารไทยมีมูลค่า 1,107,450 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.8 ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดโลกของไทยลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.30 จากร้อยละ 2.32 ในปีก่อนหน้า และอันดับประเทศผู้ส่งออกอาหารของไทยคงที่อยู่ในอันดับที่ 13 ของโลก
ตลาดส่งออกอาหารเพิ่มขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้น สหรัฐอเมริกา แอฟริกา โอเชียเนีย และสหราชอาณาจักร โดยประเทศจีนเป็นตลาดส่งออกอาหารอันดับที่ 1 ของไทย มูลค่าการส่งออกกว่า 271,674 ล้านบาท จากการส่งออกผลไม้สดและแป้งมันสำปะหลังเป็นหลัก รองลงมาได้แก่ CLMV และญี่ปุ่น ส่วนปัจจัยที่ส่งผลทำให้การส่งออกอาหารในภาพรวมขยายตัวดี มาจากราคาสินค้าเกษตรวัตถุดิบอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้น
ขณะที่ในปี 2565 คาดว่าแนวโน้มการส่งออกสินค้าอาหารจะมีมูลค่า 1,200,000 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 ซึ่งหากเป็นไปตามคาด จะเป็นสถิติส่งออกสูงสุดครั้งใหม่ (New high) อย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายปัจจัยที่จะทำให้การส่งออกไม่เป็นไปตามคาดการณ์ เช่น ราคาวัตถุดิบภาคเกษตร บรรจุภัณฑ์และน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น กระทบต่อต้นทุนการผลิตและขนส่ง รวมทั้งการขาดแคลนแรงงานและกำลังซื้อของผู้บริโภคอ่อนตัวลงจากภาวะเงินเฟ้อ
สำหรับสินค้าส่งออกหลัก 10 กลุ่มสินค้า คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกกลุ่ม โดยกลุ่มขยายตัวสูง เช่น ข้าว คาดว่าราคาส่งออกข้าวในปี 2565 จะทรงตัวอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ , กลุ่มขยายตัวปานกลาง เช่น แป้งมันสำปะหลัง ผลิตภัณฑ์มะพร้าว (กะทิสำเร็จรูป) และเครื่องปรุงรส และกลุ่มขยายตัวต่ำ ได้แก่ การส่งออกไก่ ที่ได้รับผลกระทบจากตลาดหลักในญี่ปุ่น ที่ยังคงมีมาตรการเข้มงวดในการเปิดประเทศ ส่งผลทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและร้านอาหารฟื้นตัวช้า กระทบต่อการส่งออกสินค้าไก่ของไทย
","24/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220124194327960"], [649,"ครม. เห็นชอบให้ปรับช่วงเวลาโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้เร็วขึ้น พร้อมอนุมัติงบประมาณเพื่อช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐระยะที่ 4","
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐระยะที่ 4 กรอบวงเงินกว่า 8,072 ล้านบาท และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษระยะที่ 2 กรอบวงเงินกว่า 1,351 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเยียวยา และลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนกลุ่มดังกล่าวในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 และเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย ในสถานการณ์ในปัจจุบันที่ค่าครองชีพ ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จึงเห็นชอบให้ปรับช่วงเวลาเริ่มต้นของโครงการเร็วขึ้นเป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 จากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565
โดยภาครัฐจะให้ความช่วยเหลือเป็นเงินจำนวน 600 บาทต่อคน เป็นการเติมเงินจำนวน 200 บาทต่อเดือนตลอดระยะเวลา 3 เดือน เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย สามารถซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้า ร้านค้า หรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ในสถานการณ์ในปัจจุบันที่ค่าครองชีพ ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
สำหรับประชาชนที่อยู่ภายใต้ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 ในปัจจุบันมีจำนวนไม่เกิน 13.45 ล้านคน และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 จำนวน 2.25 ล้านคน ซึ่งรัฐบาลได้มีการกำหนดมาตรการเพิ่มเติมในการกำกับและติดตาม การดำเนินโครงการ เพื่อป้องกันการแสวงหา ประโยชน์จากการดำเนินโครงการโดยมิชอบได้ อาทิ ร้านค้าที่รับสแกนสิทธิ์แลกเปลี่ยนเป็นเงินสด อีกด้วย
","24/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220124182452867"], [650,"ครม. อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณ 34,800 ล้านบาท โครงการคนละครึ่ง เฟส 4 ช่วยเหลือค่าครองครองชีพประชาชนคนละ 1,200 บาท","
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 กรอบวงเงิน 34,800 ล้านบาท โดยใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ.2564 ให้กับประชาชนประมาณ 29 ล้านสิทธิ์ โดยโครงการคนสะครึ่ง เฟซ 4 มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไข รวมทั้งมีการขยับช่วงเวลา เริ่มต้นของโครงการให้เร็วขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และบรรเทาค่าครองชีพที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยคำนึงถึงการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าและเหมาะสม
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาปรับช่วงเวลาเริ่มต้นของโครงการให้เร็วขึ้นเป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 จากเดิมที่กำหนดไว้ ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2455 ครอบคลุมร้านค้ารายย่อยที่เข้าร่วมโครงการ ประมาณ 28 ล้านคน โดยสามารถยืนยันตัวตนและเริ่มใช้สิทธิตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ขณะเดียวก็เปิดสิทธิเพิ่มอีก 1 ล้านสิทธิให้สำหรับผู้สนใจและยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการฯ โดยเปิดลงทะเบียนในวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ จนกว่าจะครบ 1 ล้านสิทธิ และสามารถใช้สิทธิโครงการฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้
สำหรับรูปแบบการดำเนินโครงการในรอบนี้ รัฐบาลอนุมัติวงเงินไม่เกิน 1,200 บาทต่อคนตลอดโครงการสามารถนำไปชำระค่าอาหารเครื่องดื่ม รวมถึงสินค้าและบริการทั่วไปที่เข้าร่วมโครงการโดยภาครัฐร่วมชำระอัตราร้อยละ 50 ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน
","24/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220124190542909"], [651,"กรมอนามัย มอบป้ายประกาศนียบัตร COVID Free Setting ให้อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน วัดพุทธบาทสุทธาวาส จ.ลำปาง","
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย พร้อมด้วย นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง และคณะผู้บริหารกรมอนามัย คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง ร่วมตรวจเยี่ยมการดำเนินการตามมาตรการ COVID Free Setting พร้อมมอบป้ายประกาศนียบัตร COVID Free Setting ให้อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน และวัดพุทธบาทสุทธาวาส อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง พร้อมมอบหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์เพื่อสนับสนุนภารกิจของสถานที่ทั้ง 2 แห่ง
ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้ำตกแจ้ซ้อน และน้ำพุร้อน อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ทำให้อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสนใจเข้ามาเที่ยวในแต่ละปีเป็นจำนวนมากอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ได้รับเครื่องหมาย SHA Plus (SHA+) หมายเลขตราสัญลักษณ์ : C0501 เพื่อแสดงว่าเจ้าหน้าที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 แล้วไม่ต่ำกว่า 70% ของทั้งองค์กร และ 100% กับเจ้าหน้าที่หน้าด่าน (Frontline) ที่ต้องพบเจอนักท่องเที่ยวทุกวัน นักท่องเที่ยวสามารถสอบถามข้อมูลและติดตามรายละเอียดการท่องเที่ยวเพิ่มเติม โทร. 089 851 3355, FB ; อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน - Chae Son National Park
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","24/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สวท.ลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220124184839890"], [652,"ครม. อนุมัติยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา - นิติบุคคล ที่ได้รับเงินเยียวยาจาก 12 โครงการช่วยเหลือของรัฐ","นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติร่างกฎหมายการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินเยียวยา เงินช่วยเหลือ เงินสนับสนุน เงินอุดหนุน และประโยชน์อื่นใดที่ได้รับจากโครงการภาครัฐ อันเนื่องมาจากการบรรเทาผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19 รวม 2 ฉบับ ประกอบด้วย ร่าง พ.ร.ฎ. ออกตามความใน ป. รัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และ ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความใน ป. รัษฎากร ว่าด้วย การยกเว้นรัษฎากร ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดภาระภาษีและช่วยเหลือ ประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 และกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ รวมทั้งเพื่อให้เกิดความชัดเจนแก่ประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับเงินเยียวยาจาก 12 โครงการ ที่ภาครัฐได้จ่ายเงินเยียวยา เงินช่วยเหลือ เงินสนับสนุน เงินอุดหนุน และประโยชน์อื่นใดให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการ ในปี 2564 ที่ผ่านมา
สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.ฎ. ออกตามความใน ป. รัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้น รัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ให้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วน นิติบุคคล สำหรับเงินได้ที่ได้รับจากโครงการของภาครัฐ ได้แก่ (1) เงินเยียวยาที่ได้รับตามโครงการเยียวยานายจ้างและ ผู้ประกันตนตาม ม.33 แห่ง พ.ร.บ. ประกันสังคม พ.ศ. 33 ในกิจการ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (2) เงินอุดหนุนที่ได้รับตามโครงการส่งเสริมและรักษาระดับ การจ้างงานในธุรกิจ SMEs ของกรมการจัดหางาน โดยบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นต้องไม่นำรายจ่ายที่จ่ายจากเงินอุดหนุนตาม โครงการดังกล่าวมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ทั้งนี้สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่ได้มีการรับเงินตามโครงการ ทั้ง 2 โครงการดังกล่าว
ส่วนสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความใน ป. รัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ให้เงินได้ที่ผู้มีเงินได้ได้รับเป็นเงินเยียวยา เงินช่วยเหลือ เงินสนับสนุน เงินอุดหนุน หรือประโยชน์อื่นใดที่ได้รับจากโครงการของภาครัฐเป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ทั้งนี้ สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับในปีภาษี 64 ได้แก่ เงินได้ที่ได้รับเป็นค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว และค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินตามโครงการเราเที่ยวด้วยกัน/เงินได้ที่อาสาสมัครสาธารณสุข อาสาสมัคร กทม. และเจ้าหน้าที่ รพ.สต. ได้รับเป็นค่าซื้อแพ็กเกจทัวร์จากผู้ประกอบการนำเที่ยว ตามโครงการกำลังใจ/เงินได้ที่ได้ รับเป็นค่าเดินทางและค่าซื้อแพ็กเกจทัวร์ จากผู้ประกอบการนำเที่ยวในลักษณะร่วมจ่าย (Co-pay) ตามโครงการ ทัวร์เที่ยวไทย/เงินได้ที่ได้รับสำหรับค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าและค่าซื้อ สินค้าหรือบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ตามโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3/ เงินได้ที่ได้รับสำหรับค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าและค่าซื้อสินค้า หรือบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 เฉพาะผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษตามโครงการ เพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ / เงินได้ที่ได้รับเป็นค่าอาหาร ค่าเครื่องดื่ม และค่าซื้อสินค้าอื่น ที่ได้ใช้จ่ายผ่านระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยภาครัฐ ตามโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 1 ระยะที่ 2 และระยะที่ 3 /เงินได้ที่ได้รับในรูปของ e-Voucher เป็นค่าอาหาร ค่าเครื่องดื่ม หรือค่าสินค้าหรือบริการตามโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้/เงินได้ที่ประชาชนทั่วไปที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐและไม่เป็น ผู้ประกันตนตาม ม.33 แห่ง พ.ร.บ. ประกันสังคม พ.ศ. 33 ได้รับ เป็นค่าครองชีพตามโครงการเราชนะ และเงินได้ที่ผู้ประกันตนตาม ม.33 แห่ง พ.ร.บ. ประกันสังคม พ.ศ. 33 ได้รับตามโครงการ ม.33 เรารักกัน
อย่างไรก็ตาม รายได้ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและรายได้ภาษีเงินได้นิติบุคคลจากโครงการดังกล่าวไม่อยู่ ในประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ แต่หากไม่ได้กำหนดให้มีการยกเว้นภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล จะสามารถจัดเก็บภาษีดังกล่าวได้ประมาณ 31,979 ล้านบาท และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจะช่วยเพิ่มการบริโภคภายในประเทศ ช่วยสนับสนุนภาคธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงภาคธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง
","24/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220124181914862"], [653,"ครม. เห็นชอบ กรอบวงเงิน 9,000 ล้านบาท ภายใต้โครงการเที่ยวด้วยกัน","
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เพื่อสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวให้ประชาชน เกิดการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประกอบการภายในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของรัฐบาล ในวันนี้ (24 ม.ค.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จึงมีมติอนุมัติโครงการเราเที่ยวด้วยกัน กรอบวงเงิน 9,000 ล้านบาท โดยใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ.2564 โดยให้มีระยะเวลาดำเนินโครงการจากเดิมตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมิถุนายน 2565 เป็นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนกรกฎาคม 2565
โดยภาครัฐยังสนับสนุนค่าโรงแรมที่พัก คนละไม่เกิน 10 ห้อง ร้อยละ 40 ไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน จำนวน 2 ล้านสิทธิ แต่ปรับลดสิทธิสำหรับบัตรค่าโดยสารเครื่องบินลงเหลือ 600,000 สิทธิ เนื่องจากการดำเนินโครงการในระยะที่ผ่านมาในส่วนของบัตรโดยสาร ปรากฏว่า ผู้ร่วมโครงการไม่ได้มีการใช้สิทธิเต็มสิทธิที่ให้อยู่แล้ว
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มอบหมายให้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. พิจารณากำหนด มาตรการเพิ่มเติมในการกำกับและติดตาม การดำเนินโครงการ เพื่อป้องกันการแสวงหาประโยชน์จากการดำเนินโครงการโดยมิชอบ ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวอย่างเคร่งครัด
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้ ททท. เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการทัวร์เที่ยวไทย โดยปรับลดจำนวนสิทธิโครงการจากเดิม 1 ล้านสิทธิ เป็น 200,000 สิทธิ ลดกรอบวงเงินดำเนินโครงการลงจาก 5,000 ล้านบาท เป็น 1,000 ล้านบาท และเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังไม่เอื้ออำนวยให้มีการเดินทางเป็นหมู่คณะ จึงได้ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการ จากเดิมที่สิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นสิ้นสุดเดือนพฤษภาคม 2565 พร้อมกับมอบหมายให้ ททท. กำหนดแนวทางในการบริหารจัดการเพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดที่อาจเกิดขึ้นจากการเดินทางท่องเที่ยวภายใต้โครงการฯ โดยเคร่งครัด
","24/1/2022","NULL","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220124162227830"], [654,"ครม. มีมติให้เพิ่มสินค้าประเภทไก่และเนื้อไก่เป็นสินค้าควบคุมเพิ่มเติม ป้องกันการโกงราคาและกักตุนสินค้า","
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบกำหนดสินค้าควบคุมประจำปี 2565 จำนวน 5 รายการ ตามมติคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือ กกร. ซึ่งเป็นมาตรการระยะเร่งด่วน ในการแก้ไขปัญหารการโก่งราคาสินค้าและกักตุนสินค้า ที่มีความจำเป็นในช่วงเวลานี้
โดยเพิ่มสินค้าควบคุมใหม่ประกอบด้วย ไก่และเนื้อไก่ เนื่องจากเป็นเนื้ออาหารสัตว์ทางเลือกในช่วงที่เนื้อหมูมีราคาแพง ประชาชนจึงหันมาบริโภคเนื้อไก่มากขึ้นจากรายการสินค้าควบคุมเดิมในปี 2564 จำนวน 4 รายการ ประกอบด้วย หน้ากากอนามัย ใยสังเคราะห์เพื่อใช้ผลิตหน้ากากอนามัย ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบเพื่อสุขอนามัยสำหรับมือ เศษกระดาษหรือกระดาษที่นำกลับมาใช้ได้อีก ดังนั้นเกษตรผู้เลี้ยงไก่และผู้ประกอบการต้องมีหน้าที่รายงานปริมาณการเลี้ยงและต้นทุนราคา โดย กกร.กำหนดให้ผู้เลี้ยงไก่มีปริมาณการเลี้ยงไก่ตั้งแต่ 100,000 ตัวขึ้นไป และโรงชำแหละไก่ที่มีกำลังการผลิตมากกว่า 4,000 ตัวต่อวัน ต้องแจ้งปริมาณการสต๊อกและต้นทุนราคาการเลี้ยงสัตว์ ต่อ กกร.รับทราบเป็นประจำทุกเดือน เพื่อป้องกันการโกงราคาและป้องกันการกักตุนสินค้า ทำให้ปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศรายการสินค้าและบริการควบคุมไปแล้วรวมครั้งนี้จะเป็นจำนวนทั้งสิ้น 56 รายการ (จากเดิม 51 รายการ) เช่น ไข่ไก่ หมูและเนื้อหมู แชมพู ผงซักฟอก ข้าวสาร กระเทียม อาหารกึ่งสำเร็จรูป เครื่องแบบนักเรียน ค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก ยังชี้แจงถึงกระแสที่ออกมาว่า รัฐบาลชุดนี้ปล่อยให้ราคาสินค้าแพง โดยไม่มีการดำเนินการใดๆ โดยยืนยันว่า สถานการณ์สินค้าบางตัวที่มีการปรับราคาสูงขึ้น รัฐบาลและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินการในการรักษาระดับราคาในรูปแบบที่สร้างสมดุลระหว่างการให้สินค้าเกษตรมีราคาสูงขึ้นเพื่อสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นแก่เกษตรกร แต่ราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นนั้น จะต้องไม่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อลดผลกระทบ เช่น การตรึงราคาสินค้าใน 5 หมวดที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชน โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ประสานกับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ผู้ค้าและสมาคมต่างๆ ตรึงราคาในหลายหมวดสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตประจำวันคือ เครื่องใช้ไฟฟ้า ซอสปรุงรส บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำอัดลม
นอกจากนี้ ทางสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ประกาศตรึงราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มไว้ กิโลกรัมละ 110 บาท ไปจนถึงเสร็จสิ้นเทศกาลตรุษจีนและทางสมาคมผู้เลี้ยงและส่งออกไข่ไก่ พร้อมให้ความร่วมมือตรึงราคาไข่ไก่เบอร์ 3 ไว้ที่ฟองละ 2.90 บาท เป็นต้น ในขณะเดียวกันราคาเนื้อหมู ไข่ไก่และผักชนิดต่างๆ อาทิ ผักคะน้า ผักบุ้งจีน กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว ตามรายงานของสถานการณ์สินค้าเกษตรเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (17 - 24 มกราคม 2565) อยู่ในระดับที่ทรงตัว
","24/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220124190121904"], [655,"ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรีลงพื้นที่ตลาดสดเทศบาลเมืองสุพรรณบุรีตรวจติดตาม ราคาเนื้อสุกร และสินค้าต่างๆ เพื่อป้องกันการขึ้นราคาเอาเปรียบผู้บริโภค","
เช้าวันนี้ (24 ม.ค.65) นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วย นายอำเภอเมืองสุพรรณบุรี พาณิชย์จังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด ทหาร ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมบูรณาการออกตรวจติดตามสถานการณ์การจำหน่ายเนื้อสุกรในตลาดสดเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี และสินค้าต่างๆ เพื่อเป็นการป้องกันการขึ้นราคาเอาเปรียบผู้บริโภค และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้า พร้อมทั้งได้กำชับให้ผู้ประกอบการ ติดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคได้ตัดสินใจรวมถึงเครื่องชั่งให้ได้มาตรฐานที่กำหนด จากการตรวจสอบพบว่า สถานการณ์ราคาและการจำหน่ายเนื้อสุกรในตลาดสดเทศบาล ราคาหมูเนื้อแดงอยู่ในราคา 200-250 บาทต่อกิโลกรัม และแต่ละส่วนของหมูราคาลดหลั่นตามลำดับ เนื่องจากหมูเป็นหน้าฟาร์มมีราคาสูง จึงจำเป็นต้องขายในราคาที่สูงขึ้น
ต่อจากนั้น นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่ออกตรวจสถานที่เก็บเนื้อสุกร ร้านเจ๊ยุหมูอินเตอร์ ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายเนื้อสุกรรายใหญ่ของจังหวัดสุพรรณบุรี และในช่วงบ่ายที่เก็บเนื้อสุกรห้างสรรพสินค้าแม็คโคร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) สุพรรณบุรี อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จากการลงพื้นที่ตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดปกติ หรือการกักตุนเนื้อสุกร รวมทั้งเนื้อไก่ และไข่ไก่ พร้อมนี้ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามตรวจสอบ ไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคา หรือกักตุนสินค้า โดยทางผู้ประกอบการจะมีการรายงานข้อมูล ปริมาณเนื้อสุกรในท้องตลาด และราคาทุกวัน
ทั้งนี้ ทางจังหวัดสุพรรณบุรีได้แก้ปัญหาเรื่องราคาเนื้อหมูแพงโดยได้รับการช่วยเหลือจากกระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าภายใน จัดให้มีโครงการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน จำหน่ายในกิโลกรัมละ 150 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 สามารถซื้อได้ที่ร้านแฮปปี้ฟาร์มสาขาสุพรรณบุรี ทั้ง 8 สาขา กระจายอยู่ตามอำเภอต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","24/1/2022","ภาคตะวันตก","กาญจนบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุพรรณบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220124160600829"], [656,"รองผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม ประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสานพลังประชารัฐจังหวัดติดตามผลการดำเนินงานและขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ","วันนี้ (24 ม.ค.65) นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสานพลังประชารัฐจังหวัดสมุทรสงคราม ณ ห้องประชุม ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัด โดยมีคณะทำงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชนเข้าร่วมประชุม ซึ่งประธานได้แจ้งที่ประชุมให้รับทราบเรื่องที่คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมได้ขอความอนุเคราะห์กระทรวงมหาดไทยมอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคสนับสนุนข้อมูลและเชิญชวนผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับกิจการเพื่อสังคมหรือสหกรณ์ต่างๆ ได้พิจารณาจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมเพิ่มมากขึ้น และเชิญชวนให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนหรือกลุ่มอาชีพในชุมชนเข้ารับการจดแจ้งเป็นกลุ่มกิจการเพื่อสังคม กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย มูลนิธิ สมาคม กลุ่มอาชีพ กลุ่ม OTOP กลุ่มเกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจ เป็นต้น โดยดาวน์โหลดแบบคำขอจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม ได้ทางเว็บไซต์ www.osep.or.th หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม โทรศัพท์ 02-2462345 รวมทั้งหารือแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐประจำปี 2565 ของกรมการพัฒนาชุมชนซึ่งได้ให้แนวทางการ ดำเนินการ เช่น ให้จังหวัดศึกษานโยบาย รูปแบบ ทิศทาง การขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากทุกระดับให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาเชิงพื้นที่ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการกำหนดทิศทางการดำเนินงาน โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น กลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ กลุ่มอาชีพสัมมาชีพชุมชน กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และกลุ่มเป้าหมายเน้นหนักส่งผลกระทบต่อสังคมวงกว้าง นอกจากนี้ แนวทางการขับเคลื่อนการสร้างรายได้จากกิจการอาหารปลอดภัยระดับจังหวัด กรมการพัฒนาชุมชนได้ให้จังหวัดสมุทรสงครามขับเคลื่อน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ พิจารณาเลือกกลุ่มเป้าหมายจากฐานข้อมูลการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ โดยไม่ซ้ำกับที่ผ่านการอบรมปฏิบัติการสร้างรายได้จากกิจการอาหารปลอดภัย โรงพยาบาล โรงเรียน โรงแรม ร้านอาหาร ในปี 2563 2564, คัดเลือกกลุ่มเป้าหมายจากกลุ่มสัมมาชีพชุมชนตามโครงการสร้างความมั่นคงด้านอาชีพและรายได้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่ต้องดำเนินการปี 2562-2564 หรือกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ หรือกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีหรือกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียน OTOP หรือกลุ่มอาชีพที่หน่วยงานภาคีสนับสนุนหรือจัดตั้งขึ้นจังหวัด จัดกิจกรรมให้ความรู้กลุ่มเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการสร้างรายได้จากกิจการอาหารปลอดภัยระดับในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 และจัดกิจกรรมการเชื่อมโยงช่องทางการตลาดสร้างรายได้จากกิจการอาหารปลอดภัย เช่น การพัฒนาตราสินค้ากิจการอาหารปลอดภัย หรือการสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของสินค้า ผลิตภัณฑ์ เป็นต้น สำหรับกลุ่มเป้าหมายเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ ปี 2565 มีเพิ่มเติมจำนวน 2 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มแม่บ้านสตรี หมู่ที่ 2 ตำบลลาดใหญ่ ขนมโมจิ ขนมเบเกอรี่ ประเภทกลุ่มสัมมาชีพชุมชน และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจันทร์เจริญสุข หมี่กรอบสูตรส้มซ่า และข้าวกร่ำ ประเภทหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","24/1/2022","NULL","สมุทรสงคราม","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220124175658858"], [657,"กรมเจ้าท่า เร่งดำเนินการติดตามการกู้เรือ พร้อมขจัดคราบน้ำมันรั่วไหลกรณี เรือบรรทุก ป.อันมัน2อับปางกลางอ่าวไทย","นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยถึงความคืบหน้า การกู้เรือหลังเกิดเหตุการณ์เรือบรรทุกน้ำมันดีเซล (น้ำมันเขียว) ป.อันดามัน 2 ซึ่งจอดทอดสมอได้อับปางลงบริเวณอ่าวไทย ห่างจากปากน้ำชุมพรประมาณ 24 ไมล์ทะเล ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา โดยนายเรือและลูกเรือทั้งหมด5 คนได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัยจากเรือวีนัส 21 ไปแล้ว ว่า ล่าสุด ได้สั่งการให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 สาขาชุมพรติดตามและประสานบริษัทแหลมทองค้าน้ำมันประมงไทย จำกัด ที่เป็นเจ้าของเรือลำดังกล่าว เร่งกู้เรือพร้อมทำการขจัดคราบน้ำมันเร่งวางทุ่นล้อมน้ำมัน บริเวณเรือที่จม พร้อมประกาศเป็นพื้นที่อันตราย
โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 สาขาชุมพร ออกประกาศสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค ห้ามเดินเรือเข้าพื้นที่ที่ทำการกู้เรือ หรือทำการรื้อ ขนย้าย หรือทำลายซากเรือที่จม ไม่น้อยกว่าระยะ 1 ไมล์ทะเล ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2565 ถึงจนกว่าจะกู้เรือแล้วเสร็จ พร้อมมีคำสั่งห้ามใช้เรือจนกว่าผู้ครอบครองเรือจะแก้ไขปรับปรุงเรือให้มีสภาพเรียบร้อยปลอดภัยแก่การใช้งาน ทั้งนี้ การดำเนินการกู้เรือและขจัดคราบน้ำมันรั่วไหล ต้องเป็นไปตามมาตรการและแผนการดำเนินการด้านความปลอดภัยที่กรมเจ้าท่ากำหนด
จากการตรวจสอบคราบน้ำมันที่กระจายตัว พบว่าลักษณะของน้ำมันเป็นฟิล์มน้ำมันบางๆการปล่อยให้สลายตัวตามธรรมชาติจะมีความเหมาะสม เนื่องจากชนิดของน้ำมันที่รั่วไหลสามารถสลายตัวเองได้ดีในธรรมชาติ แต่ยังต้องมีการติดตามและเฝ้าระวังผลกระทบของคราบน้ำมันว่าจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมบริเวณใกล้เคียงในลักษณะใดบ้าง เพื่อหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสมต่อไป โดยเบื้องต้นจะใช้วิธีการกักและเก็บโดยทุ่นน้ำมัน (Boom) จำกัดขอบเขตการแพร่กระจายของน้ำมันเอาไว้ขณะกู้เรือ พร้อมใช้สารเคมีขจัดคราบน้ำมันฉีดพ่นไปบนพื้นผิวน้ำ โดยชนิดของน้ำมันที่รั่วไหลในครั้งนี้คือ น้ำมันดีเซล ซึ่งจัดเป็นน้ำมันเบา สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ โดยกรมเจ้าท่าได้ประสานการดำเนินการแบบบูรณาการร่วมกับกองทัพเรือในการปฏิบัติตามแผนการขจัดคราบน้ำมัน พร้อมเร่งตรวจสอบความปลอดภัยของเรือลำอื่นๆที่จอดทอดสมออยู่กลางทะเล กรมเจ้าท่า ได้มีการออกคำสั่งให้กู้เรือโดยเร็วที่สุด พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบโดยเรือตรวจการณ์เจ้าท่า 1302 บริเวณชายฝั่ง ปัจจุบันในพื้นที่ยังไม่พบคราบน้ำมัน พร้อมกันนี้ได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวางแผนตามมาตรการการป้องกันเหตุการณ์ฉุกเฉินในกรณีน้ำมันรั่วไหล พร้อมเน้นย้ำให้ผู้ควบคุมเรือ เจ้าของเรือ ตรวจเช็คสภาพความพร้อมของเรือเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำขึ้นอีก
","24/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220124200530976"], [658,"ผู้ว่าฯ สุรินทร์ ให้กำลังใจผู้จำหน่ายหมู (เนื้อแดง) ลดราคา และประชาชนที่มาเลือกซื้อ","
จังหวัดสุรินทร์ขับเคลื่อนโครงการพาณิชย์ลดราคา ! ช่วยประชาชน (หมูเนื้อแดง) ครั้งที่ 2 จำหน่ายเนื้อหมูราคาถูก กิโลกรัมละ 150 บาท ช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน ตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม จนถึงขณะนี้ มีประชาชนให้ความสนใจไปเลือกซื้อหมูตามจุดจำหน่ายต่างๆ ทั้ง 8 จุด อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้จำหน่ายสินค้า และประชาชน ณ บริเวณจุดจำหน่ายหน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ได้เดินเลือกซื้อสินค้า พร้อมพูดคุย ทักทาย ให้กำลังใจ อย่างเป็นกันเอง โดยมี นางพิรุณวรรณ์ จงใจภักดิ์ พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ร่วมต้อนรับและให้ข้อมูล
สำหรับบริเวณหน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ นอกจากเนื้อหมูแล้ว ยังมีสินค้าราคาประหยัดมาร่วมจำหน่ายด้วย อาทิ พืชผักสินค้าเกษตรอินทรีย์ ข้าวสาร ผลไม้ ไข่ไก่ และสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาประหยัดด้วย จึงเชิญชวนชาวสุรินทร์ หรือผู้สนใจ ไปเลือกซื้อ ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","24/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","สุรินทร์","สวท.สุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220124182919873"], [659,"พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ เผย สินค้าในโครงการพาณิชย์ลดราคา ! ช่วยประชาชน (หมูเนื้อแดง) ยังมีเพียงพอบริการชาวสุรินทร์ถึงวันที่ 31 มกราคม แน่นอน","นางพิรุณวรรณ์ จงใจภักดิ์ พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ กล่าวถึง โครงการพาณิชย์ลดราคา ! ช่วยประชาชน (หมูเนื้อแดง) ว่า จุดจำหน่ายทั้ง 8 จุด ในจังหวัดสุรินทร์ ได้รับการตอบรับจากชาวสุรินทร์อย่างต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ สังเกตจากการเข้าแถวซื้อ ณ จุดด้านหน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ แถวยาวเหยียดเกือบทุกวัน วันแรกจำหน่ายหมู 70 กิโลกรัม ไม่พอกับความต้องการ ในวันต่อมาจึงเพิ่มเป็นวันละ 100 กิโลกรัม ซึ่งชาวสุรินทร์ยังสามารถไปเลือกซื้อได้จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 นี้ ยืนยันว่าปริมาณยังมีเพียงพอ และนอกจากเนื้อหมูแล้ว ยังมีไข่ไก่ และพืชผักเกษตรอินทรีย์ ต่างๆ ที่เกษตรกรนำมาจำหน่ายเองด้วย จึงเชิญชวนทุกท่านอีกครั้ง
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","24/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","สุรินทร์","สวท.สุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220124184818889"], [660,"การรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งปรับเปลี่ยนการเดินรถและสถานีต้นทาง-ปลายทางเส้นทางไกลสายใต้ ","นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. กล่าวว่า เกิดเหตุโครงสร้างกลางสะพานพระราม 6 เคลื่อนตัว เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2565 เวลา 10.30 น. ส่งผลให้ขบวนรถไฟไม่สามารถผ่านได้จำเป็นต้องปิดทางขึ้น-ล่อง ระหว่างสถานีชุมทางบางซื่อบางบำหรุ เป็นการชั่วคราว การรถไฟฯ จึงต้องแจ้งปิดทางขึ้นและล่องระหว่างสถานีบางซ่อน-บางบำหรุ เป็นการชั่วคราวเพื่อให้กิจการร่วมค้าไอทีดี เออาร์ซี ซึ่งเป็นผู้รับเหมาที่รับผิดชอบโครงการงานปรับปรุงสะพานเสริมความมั่นคงสะพานเหล็ก ได้เร่งเข้าไปดำเนินการปรับปรุงให้อยู่ในสภาพปกติโดยด่วน ซึ่งคาดว่าจะสามารถกลับมาเปิดให้บริการเดินรถได้ตามปกติอีกครั้งได้ในวันพุธที่ 26 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 12.00 น. เป็นต้นไป
สำหรับสาเหตุที่เกิดโครงสร้างกลางสะพานเคลื่อนตัว ทางผู้รับเหมาได้แจ้งว่า เนื่องจากปัจจุบันสะพานพระราม 6 มีโครงการงานปรับปรุงสะพานเสริมความมั่นคงสะพานเหล็ก เพื่อรับน้ำหนักกดเพลามาตรฐาน 20 ตันต่อเพลา ซึ่งมีระยะเวลาก่อสร้าง 900 วัน และจะครบกำหนดเสร็จในวันที่ 4 มีนาคม 2565 ซึ่งในระหว่างที่กำลังเสริมความมั่นคงสะพานเหล็ก โดยเปลี่ยนจากรีเวท(หมุดย้ำ)ของเดิมเป็นน๊อตกำลังสูงใส่เข้าแทนที่ สะพานเหล็กได้เกิดการเคลื่อนตัวประมาณ 10 เซนติเมตร บริเวณสะพานเหล็กตัวที่ 3 ฝั่งกรุงเทพฯ จำนวน 1 จุด จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่กำลังมีการปรับปรุงสะพานฯ การรถไฟฯ ขอแจ้งปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง ปลายทาง และขบวนเดินรถทางไกลสายใต้เป็นการชั่วคราว โดยช่วงวันที่ 24 มกราคม 2565 ขบวนรถเที่ยวล่อง การรถไฟฯ ได้ทำการขนถ่ายผู้โดยสารจากสถานีบางบำหรุ โดยผู้โดยสารที่มีความประสงค์ที่จะลงที่สถานีชุมทางบางซื่อ สามารถเดินทางต่อโดยใช้รถไฟฟ้าสายสีแดงไปยังสถานีกลางบางซื่อได้ ส่วนสถานีสามเสนและสถานีกรุงเทพ ได้ทำการขนถ่ายผู้โดยสารทางรถยนต์ จำนวน 3 ขบวน ดังนี้
- ขบวนรถด่วนที่ 84 ตรัง - กรุงเทพ
- ขบวนรถด่วนพิเศษทักษิณารัถย์ที่ 32 ชุมทางหาดใหญ่ กรุงเทพ
- ขบวนรถเร็วที่ 172 สุไหงโกลก - กรุงเทพ
นอกจากนี้ ได้ประกาศปรับเปลี่ยนสถานีต้นทางของขบวนรถในเส้นทางสายใต้ 4 ขบวน โดยทำการขนถ่ายผู้โดยสารทางรถยนต์จากสถานีกรุงเทพและสถานีสามเสน ไปยังสถานีบางบำหรุ โดยผู้โดยสารที่สถานีชุมทางบางซื่อ สามารถใช้ตั๋วโดยสารรถไฟทางไกล เดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีแดงจากสถานกลางบางซื่อไปยังสถานีบางบำหรุ
โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ดังนี้
- ขบวนรถเร็วที่ 171 กรุงเทพ สุไหงโกลก ปรับเปลี่ยนเป็น บางบำหรุ - สุไหงโกลก
- ขบวนรถด่วนพิเศษทักษิณารัถย์ที่ 31 กรุงเทพ - ชุมทางหาดใหญ่ ปรับเปลี่ยนเป็น บางบำหรุ - ชุมทางหาดใหญ่
- ขบวนรถด่วนที่ 83 กรุงเทพ - ตรัง ปรับเปลี่ยนเป็น บางบำหรุ - ตรัง
- ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 39 กรุงเทพ สุราษฎร์ธานี ปรับเปลี่ยนเป็น บางบำหรุ - สุราษฎร์ธานี
พร้อมกับแจ้งงดเดินขบวนรถ จำนวน 3 ขบวน
- ขบวนรถด่วนที่ 85 กรุงเทพ นครศรีธรรมราช
- ขบวนรถชานเมืองที่ 355 กรุงเทพ ชุมทางหนองปลาดุก
- ขบวนรถพิเศษขนส่งสินค้าห่อวัตถุด่วนที่ 985 กรุงเทพ - สุไหงโกลก
ส่วนวันที่ 25 มกราคม 2565 จะมีการปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง-ปลายทาง ของขบวนรถในเส้นทางสายใต้ทุกขบวน โดยจะขนถ่ายผู้โดยสารทางรถยนต์ จากสถานีกรุงเทพและสถานีสามเสน ไปยังสถานีบางบำหรุ สำหรับผู้โดยสารที่สถานีชุมทางบางซื่อ สามารถใช้ตั๋วโดยสารรถไฟทางไกล เดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีแดงจากสถานกลางบางซื่อไปยังสถานีบางบำหรุโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และงดเดินขบวนรถ จำนวน 4 ขบวน ได้แก่
- ขบวนรถชานเมืองที่ 355 กรุงเทพ ชุมทางหนองปลาดุก
- ขบวนรถชานเมืองที่ 356 ชุมทางหนองปลาดุก กรุงเทพ
- ขบวนรถด่วนที่ 86 นครศรีธรรมราช - กรุงเทพ
- ขบวนรถพิเศษขนส่งสินค้าห่อวัตถุด่วนที่ 986 สุไหงโกลก- กรุงเทพ
สำหรับวันที่ 26 มกราคม 2565 การรถไฟฯ คาดว่าจะสามารถกลับมาเปิดเดินรถได้ตามปกติ ได้ตั้งเวลา 12.00 น. เป็นต้นไป แต่อาจมีขบวนรถในเส้นทางสายใต้บางขบวนเกิดความล่าช้าไปบ้าง ส่วนขบวนรถที่งดเดิน ผู้โดยสารสามารถขอคืนค่าตั๋วโดยสารได้เต็มราคา
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนราธิวาส จัดโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน จัดจำหน่ายควบคุมราคาหมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 150 บาท จำนวน 10 จุดในพื้นที่ จ .นราธิวาส ระหว่างวันที่ 16-31 มกราคม 2565
วันนี้ (24 ม.ค. 65) สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนราธิวาส จัดโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน จัดจำหน่าย 10 จุดในพื้นที่ จ .นราธิวาส เพื่อควบคุมราคาหมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 150 บาท ในพื้นที่อำเภอ 6 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส ได้แก่พื้นที่อำเภอเมืองนราธิวาสจัดจำหน่ายที่ร้านเสนแอนด์จิน (ตรงข้ามโรงเรียนศรสมบูรณ์) อำเภอตากใบ ร้านนุ้ยเขียงหมู และร้านเขียงหมูพี่ปราณี (ตลาดสดเทศบาลเมืองตากใบ) ,อำเภอสุไหงโกลก,ร้านมีหมูสด (ถนนเจริญเขต ซ.16) ส่วนร้าน-พจน์หมูสด (ข้างโรงเรียนเทศบาล 2) และร้านแบนหมูสด (เยื้อง Big C Mini เสมาวิโรจน์) อำเภอสุไหงโกลก (จำหน่ายวันที่ 18-31 มกราคม 2565) อำเภอสุไหงปาดี ร้านเจ๊ไพหมูสด อำเภอรือเสาะ ร้านเจ๊นางขายหมู และอำเภอศรีสาคร ร้านรัตนาหมูสด
สำหรับร้านจำหน่ายหมูสด จะต้องมีการติดป้ายกำกับราคาสินค้าที่หน้าร้าน และในภาพรวมจังหวัดนราธิวาสมีจำนวนหมูทั้งสิ้น 4,827 ตัว ขณะที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนราธิวาส บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ก็ได้ร่วมลงพื้นที่การบูรณาการร่วมกันลงไปตรวจสอบห้องเย็นควบคู่กับการที่จะลงไปดูที่ฟาร์มหมู และแผงขายเนื้อหมู พร้อมทั้งให้คำแนะนำในมาตรการต่างๆ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","24/1/2022","ภาคใต้","นราธิวาส","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220124183149875"], [662,"พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ จัดจำหน่ายสินค้าราคาประหยัด พร้อมพิกัดจำหน่ายอีก 8 จุด","
วันที่ 24 มกราคม 2565 เวลา 09.00 น. นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ลงพื้นที่เยี่ยมตลาดหน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ในโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน โดยจำหน่ายหมูเนื้อแดงให้กับประชาชนผู้บริโภค ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ตามนโยบายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาสุกรที่สูงขึ้น และให้ประชาชนมีทางเลือกในการซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งเป็นการลดภาระค่าครองชีพ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ในช่วงสถานการณ์ดังกล่าว โดยมีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก
นางพิรุณวรรณน์ จงใจภักดิ์ พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า นอกจากเนื้อหมูราคาถูกที่จัดจำหน่าย ณ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์แล้ว นี้ยังมีจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดงอีก 8 จุดในจังหวัดสุรินทร์ ได้แก่
1. หน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ถ.เทศบาล 4 อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มจำหน่ายเวลา 09.00 น.
2. โต้งหมูสด ถ.สุรินทร์-ปราสาท ต.เฉนียง อ.เมือง เริ่มจำหน่ายเวลา 08.00 น.
3. ร้านแรมโบ้หมูสด ถ.เลี่ยงเมืองสุรินทร์-ปราสาท ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มจำหน่ายเวลา 09.00 น.
4. เขียงเอ แอนด์ พี โปรช็อป (หน้ามหาวิทยาลัยราชมงคลสุรินทร์) ถ.สุรินทร์-ปราสาท ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มจำหน่ายเวลา 08.00 น.
5. ร้านพงษ์หมูสด สาขา 1 (ตรงกันข้ามทางเข้าบ้านบุณเยิง) ต.แสลงพันธ์ อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มจำหน่ายเวลา 09.00 น.
6. ร้านพงษ์หมูสด สาขา 2 (เยื้องร้านทะเลเผา) ต.สลักได อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มจำหน่ายเวลา 09.00 น.
7. ร้านวีซีมีท (VC meat) สาขาสุรินทร์ ถ.เทศบาล 3 ต.ในเมือง อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มจำหน่ายเวลา 09.00 น.
8. ร้านเจ้จิ้งหรีด ถ.เทศบาล 3 ต.ในเมือง อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มจำหน่ายเวลา 09.00 น.
นอกจากนี้ จุดจำหน่าย ณ บริเวณหน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ มีสินค้าราคาประหยัดมาร่วมจำหน่ายด้วย อาทิ พืชผักสินค้าเกษตรอินทรีย์ข้าวสาร ผลไม้ ไข่ไก่ และสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาประหยัด
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","24/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","สุรินทร์","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220124200407974"], [663,"หน่วยงานทุกภาคส่วนในจังหวัดนครปฐม ร่วมบูรณาการตรวจสอบห้องเย็นเก็บเนื้อสุกร เพื่อป้องกันการกักตุนสินค้า","หน่วยงานทุกภาคส่วนในจังหวัดนครปฐม ร่วมบูรณาการตรวจสอบห้องเย็นเก็บเนื้อสุกร เพื่อป้องกันการกักตุนสินค้า จากกรณีเนื้อสุกรมีราคาสูง จากการตรวจสอบพบผู้กระทำความผิด 2 ราย ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดจึงได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป
วันที่ 24 มกราคม 2565 นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย พลตำรวจตรีชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ปลัดจังหวัด นายอำเภอดอนตูม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด พาณิชย์จังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ฝ่ายปกครอง และเจ้าที่จากหน่วนงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมบูรณาการตรวจสอบห้องเย็นในพื้นที่จังหวัดนครปฐม เกี่ยวกับการแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บ และการจัดทำบัญชีคุมสินค้าเนื้อสุกร เนื้อสุกร ตามที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.)
กำหนดให้ผู้เลี้ยงสุกร ตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป และผู้ครอบครองหรือห้องเย็นที่มีสต็อกสุกร ตั้งแต่ 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป แจ้งปริมาณและราคาทุก 7 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2655 เป็นต้นไป เพื่อดูแลปริมาณสุกรและสต็อกเนื้อสุกรที่มีอยู่ทั้งประเทศ หากพบมีการกระทำความผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และปรับอีกวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้ง หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 25(5)
กำหนดให้แจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ ต้นทุน ค่าใช้จ่าย แผนการผลิต แผนการนำเข้ามาในราชอาณาจักร แผนการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร แผนการซื้อ แผนการจำหน่าย แผนการเปลี่ยนแปลงราคา หรือรายการอื่นใด หรือส่วนลดในการจำหน่าย กระบวนการผลิต และวิธีการจำหน่ายสินค้า และบริการควบคุมต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
สำหรับในพื้นที่จังหวัดนครปฐม มีสถานที่เก็บเนื้อสุกรทั้งหมด 30 แห่ง แบ่งเป็นพื้นที่อำเภอเมืองนครปฐม 16 แห่ง อำเภอสามพราน 5 แห่ง อำเภอดอนตูม 3 แห่ง อำเภอนครชัยศรี 2 แห่ง อำเภอพุทธมณฑล 2 แห่ง อำเภอกำแพงแสน 1 แห่ง และอำเภอบางเลน 1 แห่ง มีสุกรที่เก็บในห้องเย็นทั้งสิ้น 800-900 ตัน
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบห้องเย็น พบว่า มีการกระทำความผิดตามมาตรา 25(5) ตาม พรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 จำนวน 2 ราย เนื่องจาก ไม่ได้แจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บ และการจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2565 เรื่องการแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดจึงได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการกักตุนหรือจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม-ข่าว
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","24/1/2022","ภาคตะวันตก","นครปฐม","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220124204100990"], [664,"พาณิชย์บึงกาฬเปิดจุดจำหน่ายเพิ่มเติม ตามโครงการหมูพาณิชย์ลดราคา ! ช่วยประชาชน ครั้งที่ 3 ที่ตลาดสดชัยพร ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ","นางสาวเอื้อนจิตร ช่วยนก พาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ ได้เปิดจุดจำหน่ายหมูเพิ่มเติม ตามโครงการหมูพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน (กก.ละ 150 บาท) ณ ตลาดสดชัยพร ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ซึ่งจำหน่ายระหว่าง วันที่ 23 - 31 มกราคม 2565 มีประชาชนให้ความสนใจเข้าคิวซื้อหมูพาณิชย์ลดราคากันเป็นจำนวนมาก
พาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า โครงการหมูพาณิชย์ลดราคา ! ช่วยประชาชน เป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาหมูที่สูงขึ้น และให้ประชาชนได้มีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งเป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ตามนโยบายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ ได้จัดโครงการนี้มาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 ในวันที่ 23 พ.ย.- 31 ธ.ค. 2564 จำหน่าย กก.ละ 130 บาท ขณะที่ราคาตลาดอยู่ที่ 160 บาท ครั้งที่ 2 ในวันที่ 6 - 22 มค. 2565 จำหน่าย กก.ละ 150 บาท ขณะที่ราคาตลาดอยู่ที่ 200 บาท รวมปริมาณการจำหน่ายทั้ง 2 ครั้ง มีหมูทั้งสิ้น 8,100 กก. ยอดจำหน่ายอยู่ที่ 1,356,000 บาท ลดภาระค่าครองชีพของประชาชนได้จำนวน 273,000 บาท
โดยครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 3 ในระหว่างวันที่ 23 - 31 มกราคม 2565 ซึ่งจัดจุดจำหน่ายเพิ่มเติมที่ตลาดสดชัยพร ต.ชัยพร จำนวน 4 จุด คือ ร้านหมูเบทาโกร ร้านหมูวีระหมูสด ร้านหมูอธิกาหมูสด และร้านหมูแม่ยอดหมูสด เริ่มจำหน่ายเวลา 13.00 น. และอีก 1 จุด ที่ร้านหมู ป.เฟชรฮับ สาขา 1 ช๊อปหมูนาสวรรค์ ต.นาสวรรค์ เริ่มจำหน่ายเวลา 10.00 น. รวมแล้วมีจุดจำหน่ายหมูพาณิชย์เพิ่มเติมอีก 5 จุด ซึ่งจากเดิมมี 2 ร้าน ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองบึงกาฬ ร้านเจ้เหล่ย และร้านเจ้กบ เริ่มจำหน่ายเวลา 10.00 น. รวมเป็นทั้งหมด 7 จุด
ประชาชนให้ความสนใจมาจับจ่ายซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด ของโครงการ หมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน กันเป็นจำนวนมาก นอกจากจะเป็นการช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชนได้มากยิ่งขึ้นแล้ว ยังช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าในร้านค้าที่ขายเนื้อหมูมีรายได้อย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ และลดภาระต้นทุนของผู้ประกอบการร้านอาหารที่มีหมูเป็นส่วนประกอบได้อีกด้วย
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","24/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","บึงกาฬ","สวท.บึงกาฬ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220124220007999"], [665,"อุดรธานีเปิดจุดจำหน่ายเนื้อแดงราคาถูกโครงการพณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน อ.บ้านดุง พร้อมตรวจสต็อกห้องเย็นป้องกันการกักตุนเนื้อสุกร","รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์จุดจำหน่ายหมูเนื้อแดง 150 บาท โครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน ที่อำเภอบ้านดุง พร้อมตรวจห้องเย็น สต็อกสินค้าป้องกันการกักตุนเนื้อสุกร ฉวยโอกาสขึ้นราคา
วันที่ 24 มกราคม 2565 ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี นายจำรัส กังน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วย นายประเสริฐ ฝ่ายชาวนา พาณิชย์จังหวัดอุดรธานี นายสุมนชาติ แสงปัญญา ปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานี ,สารวัตรด่านกักกันสัตว์จังหวัดอุดรธานี ,กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดอุดรธานี ร่วมลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์จุดจำหน่ายหมูเนื้อแดงเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบและมาอุดหนุน โดยมี นายวรุตม์ วิศิษฏ์ศิลป์ นายอำเภอบ้านดุง ปศุสัตว์อำเภอบ้านดุงให้ข้อมูลร้านจำหน่ายสุกรเนื้อแดงที่เข้าร่วมโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน ซึ่งมี 2 ร้าน คือ ร้านมีท มี มาร์ท และร้านหมูเอ็นที โดยในวันนี้คณะรองผู้ว่าฯ ได้ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานที่ร้านมีท มี มาร์ท
พร้อมกันนี้ ได้เดินทางไปตรวจสอบการกักเก็บสุกรที่ร้านศรีจันทร์ ห้องเย็น ซึ่งเป็นสถานที่กักเก็บอาหารแช่แข็งครบวงจรที่ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเพื่อตรวจสอบสต็อกสินค้า ซึ่งพบว่าร้านดังกล่าวมีการกักเก็บชิ้นส่วนหมูในปริมาณต่ำกว่าที่แจ้ง เนื่องจากหมูมีราคาสูง ผู้บริโภคหันมาซื้อวัตถุดิบชนิดอื่นทดแทน โดยเฉพาะสถานศึกษาได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก
จากนั้นคณะได้เดินทางไปตรวจห้องเย็นมิวสิค สาขาใหญ่ ซึ่งเป็นห้องเย็นที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอบ้านดุง ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านจันทร์ เป็นแหล่งจำหน่ายอาหารแช่แข็งทุกชนิด
นายจำรัส กังน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้กำชับให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุดรธานี สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตาม กำกับดูแล และตรวจสอบผู้ประกอบการจำหน่ายเนื้อหมูในจังหวัดอุดรธานี ไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาหรือจำหน่ายราคาสูงเกินสมควร ห้ามกักตุนสินค้าและแนะนำให้มีการปิดป้ายแสดงสินค้าจำหน่ายให้ครบถ้วนถูกต้องและชัดเจน เพื่อให้ประชาชนได้เปรียบเทียบก่อนตัดสินใจซื้อ
พาณิชย์จังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้อนุมัติให้ดำเนินโครงการหมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน เพื่อลดภาระค่าครองชีพบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และเพื่อเป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วนเรื่องราคาเนื้อหมูปรับตัวสูงขึ้น ช่วยให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด โดยประชาชนสามารถเลือกซื้อหมูเนื้อแดงราคากิโลกรัมละ 150 บาท
จังหวัดอุดรธานี มีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูหรือจุดจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด จำนวน 7 จุด กระจายอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองอุดรธานี 5 จุด ได้แก่ ร้านเขียงหมูคุณสุภาพร ตลาดโพศรี ร้านวีซีมีท สาขาอุดรธานี ร้านหมอหมูสด สาขาสามพร้าว ร้านหมูพอเพียง เขียงหมูอนามัยเบทาโกร บ้านเชียงพิณ และร้านอิหล่ามาร์เก็ต และอำเภอบ้านดุง 2 จุด ได้แก่ ร้านมีท มี มาร์ท และ ร้านหมูเอ็นที ราคากิโลกรัมละ 150 บาท จำหน่ายจุดละ 50 กิโลกรัมต่อวัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 - 31 มกราคม 2565 โดยสามารถสอบถามจุดจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูกได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุดรธานี
ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
วันนี้ (25 ม.ค.65) นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส (อบจ.นราธิวาส) พร้อมด้วย นายอรรณพ คณานุรักษ์ ท้องถิ่นจังหวัดนราธิวาส นายสังคม เกิดก่อ นายอำเภอตากใบ และนางสาวรัตปภา ภูวนาถภัทรสิน กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม บริษัท มิทส์ดิสิชั่น จำกัด ร่วมแถลงข่าวและลงนามสัญญาโครงการจัดสร้างแพขนานยนต์ ด่านตากใบ ระหว่าง อบจ.นราธิวาส และบริษัท มิทส์ดิสิชั่น จำกัด ที่บริเวณโถงชั้นล่าง อบจ.นราธิวาส เพื่อให้บริการแก่ประชาชนในการเดินทางระหว่างประเทศ ขนส่งสินค้าและผลผลิตทางการเกษตรข้ามฟากไทย-มาเลเซียบริเวณด่านชายแดนตากใบ ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส และด่านเป็งกาลันกูโบร์ รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจังหวัดนราธิวาส
นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายก อบจ.นราธิวาส กล่าวว่า ทาง อบจ.นราธิวาส ได้อนุมัติใช้จ่ายเงินสะสมประจำปีงบประมาณ 2564 จำนวน 38,569,000 บาท ในการจัดสร้างแพขนานยนต์ลำใหม่เพื่อทดแทนแพขนานยนต์ลำเดิมที่เปิดใช้บริการมาตั้งแต่ปี 2544 แพขนานยนต์ลำใหม่ที่จะจัดสร้างมีขนาดกว้าง 9 เมตร ยาว 21 เมตร ลึก 1.55 เมตร สามารถบรรจุผู้โดยสารได้ 30 คน บรรทุกยานพาหนะ รถยนต์ ขนาด 2,500 กิโลกรัมต่อคัน ได้ 9 คัน ทั้งนี้การดำเนินโครงการฯ เพื่อหวังขยายมูลค่าการค้าชายแดนให้มีการเติบโต อีกทั้งเพื่อให้การสัญจรของประชาชนไปมาหาสู่ระหว่างไทย-มาเลเซีย ใช้แพขนานยนต์ลำใหม่ที่มีมาตรฐานและมีความปลอดภัย คาดว่าจะจัดสร้างแล้วเสร็จในช่วงเดือนมกราคม ปี 2566
ด้านนายอรรณพ คณานุรักษ์ ท้องถิ่นจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า จังหวัดนราธิวาส มียุทธศาสตร์การพัฒนาที่มุ่งเน้นการส่งเสริมการค้า การลงทุน พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ และเมืองการค้าชายแดนทั้ง 3 ด่าน ได้แก่ ด่านชายแดนสุไหงโก-ลก บูเก๊ะตา ตากใบ ซึ่งการจัดสร้างแพขนานยนต์ลำใหม่สิดรับนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ เป็นการขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม อันจะเกิดประโยชน์กับประชาชน เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ตลอดจนเพื่อยกระดับการค้าชายแดนและความร่วมมือในมิติต่าง ๆ ให้ดีขึ้นอีกด้วย
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคใต้","นราธิวาส","สวท.นราธิวาส","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125103127051"], [667,"คลังลำปาง เผย ครม. มีมติอนุมัติตามมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ ปี 2565 ผ่าน 3 โครงการ บรรเทาผลกระทบให้ประชาชน","นางสุภาภรณ์ จุลละสุภา คลังจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2565 รับทราบและอนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ (คณะกรรมการฯ) ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 3/2565 เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2565 ตามที่กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเสนอเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบการแพร่ระบาดของ COVID-19 ให้แก่กลุ่มที่มีความเปราะบางทางด้านรายได้ทรัพย์สินและหนี้สินและผู้ต้องการความช่วยเหลือตลอดจนเพื่อรักษาแรงกระตุ้นทางเศรษฐกิจจากการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นปี 2565 โดยประชาชนแต่ละคนจะสามารถเข้าร่วมโครงการได้เพียง 1 โครงการ ดังนี้
1. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 ช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ) และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 จำนวนไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์30 เมษายน 2565 (กรณีมีวงเงินคงเหลือในเดือนใดจะไม่มีการสะสมไปในเดือนถัดไป) รวมทั้งสิ้น 600 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ เป็นวงเงินรวม 8,071 ล้านบาท ให้แก่ผู้มีบัตรฯ จำนวนไม่เกิน 13.45 ล้านคน โดยจะใช้ฐานข้อมูล ณ วันที่ 25 มกราคม 2565
2. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 ช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าฯ และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 จำนวนไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์30 เมษายน 2565 (กรณีมีวงเงินคงเหลือในเดือนใดจะไม่มีการสะสมไปในเดือนถัดไป) รวมทั้งสิ้น 600 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการเป็นวงเงินรวม 1,352 ล้านบาท ให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือตามโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต ผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนทำให้ไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชัน เป๋าตัง ได้ ผู้ที่อยูในภาวะพึ่งพิง (ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทุพพลภาพ ผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถเดินทางไปลงทะเบียนหรือเดินทางไปใช้จ่ายวงเงินที่ได้รับผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง ได้) ผู้ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองไม่สำเร็จเนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้อง เป็นต้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับสิทธิตามโครงการเราชนะกลุ่ม 4 จำนวนไม่เกิน 2.25 ล้านคน
3. โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 สนับสนุนวงเงินค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่ว ไป และบริการนวดสปา ทำผม ทำเล็บ และบริการขนส่งสาธารณะ ยกเว้นสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และสินค้าหรือบริการ ที่กระทรวงการคลังกำหนดจากภาครัฐ ในอัตราร้อยละ 50 ทั้งนี้ ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกิน 1,200 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์วันที่ 30 เมษายน 2565 ให้กับประชาชนผู้ได้รับสิทธิที่เข้าร่วมโครงการจำนวนไม่เกิน 29 ล้านคน ซึ่งการร่วมจ่ายคนละครึ่งนี้จะเป็นการช่วยเติมกำลังซื้อให้แก่ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ
ในส่วนของการลงทะเบียนและการใช้จ่ายโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 มีรายละเอียดและระยะเวลาดำเนินโครงการในเบื้องต้น ดังนี้
3.1 การลงทะเบียนและการใช้จ่าย
3.1.1 ประชาชนผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 (คนเดิม) จำนวน 27.98 ล้านคน จะต้องยืนยันสิทธิเพื่อเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป โดยจะต้องเริ่มใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 22.59 น. หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวจะถูกตัดสิทธิ โดยสิทธิที่เหลืออาจจะนำมาพิจารณาเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้ง ซึ่งหากยังประสงค์จะเข้าร่วมโครงการฯ จะต้องลงทะเบียนเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไปในข้อ 3.1.2 ทั้งนี้ หากยืนยันสิทธิและใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ครั้งแรกในระยะที่กำหนดสามารถใช้สิทธิดังกล่าวได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ถึงวันที่ 30 เมษายน 2565
3.1.2 สำหรับประชาชนทั่วไปที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 จนกว่าจะครบจำนวนประมาณ 1 ล้านสิทธิ โดยสามารถใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ตั้งแต่วัน ที่ 17 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 ซึ่งช่องทางการลงทะเบียนแบ่งเป็น 2กรณี ดังนี้
1) กรณีเป็นประชาชนที่เคยได้รับสิทธิมาตรการ/ โครงการอื่นของรัฐที่มีการใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง หรือผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com
2) กรณีประชาชนที่ไม่มีแอปพลิเคชัน เป๋าตัง สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com
3.2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ ประชาชนที่มีสัญชาติไทย มีอายุ 18 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป มีบัตรประจำตัวประชาชน ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามฐานข้อมูลกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 25 มกราคม 2565 หรือไม่เป็นผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 ก่อนการใช้สิทธิครั้งแรกผู้ได้รับสิทธิตามโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 จะต้องยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนที่สาขาหรือตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) ยกเว้นผู้ที่เคยยืนยัน ตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนกับธนาคารกรุงไทยฯ หรือผู้ที่มีแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ซึ่งผ่านการยืนยันตัวตนกับธนาคารกรุงไทยฯ แล้ว
สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป เวลา 06.00-22.00 น. จนกว่ากระทรวงการคลังจะประกาศปิดรับสมัครผ่าน www.คนละครึ่ง.com โดยผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมมาตรการ/ โครงการอื่นของรัฐที่มีแอปพลิเคชัน ถุงเงิน แล้ว ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ถุงเงิน ส่วนผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมมาตรการ/ โครงการอื่นสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือสาขาหรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทยฯ
ทั้งนี้ การดำเนินการทั้ง 3 โครงการจะช่วยรักษากำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ จากการเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในปี 2565 จำนวน 79,023 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้ GDP ทั้งปี 2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.21 ต่อปีจากกรณีฐาน อีกทั้งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน เพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยและผู้ผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งรักษาระดับและทิศทางของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเพื่อให้เป็นไปได้อย่างต่อเนื่องในช่วงสถานการณ์
COVID-19
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สวท.ลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125102027043"], [668,"ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ติดตามการจำหน่ายหมูพาณิชย์ พร้อมเตรียมเจรจาฟาร์มผู้ผลิตช่วยผู้บริโภค","วันที่ 25 มกราคม 2565 ที่จังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พาณิชย์จังหวัดนครพนม ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ปศุสัตว์จังหวัดนครพนม ด่านกักกันสัตว์นครพนม ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม ลงพื้นที่เยี่ยมและติดตามการจำหน่ายหมูตามโครงการหมูพาณิชย์ที่ได้ร่วมกับพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่จัดบูธจำหน่ายตามจุดต่าง ๆ พร้อมเช็คปริมาณความต้องการของประชาชนผู้บริโภคว่ามีความต้องการมากน้อยเพียงใด ควรจัดหาส่วนไหนเพิ่มเติม รวมถึงได้มีการลงพื้นที่ตลาดเทศบาลเมืองนครพนมเพื่อชวนพ่อค้าแม่ค้าในตลาดเข้าร่วมโครงการ เป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้กับประชาชนในพื้นที่มากยิ่งขึ้น
นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ขณะนี้เป็นที่ทราบกันดีว่า ทั่วประเทศหมูมีราคาที่สูงขึ้น ซึ่งรัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ได้พยายามที่จะควบคุมราคาหมูให้อยู่ในราคากิโลกรัมละไม่เกิน 150 บาท จึงได้มีโครงการหมู่พาณิชย์มาดูแลในเรื่องนี้ โดยในจังหวัดนครพนมมีจุดจำหน่าย 7 จุดด้วยกัน ประกอบไปด้วย ร้านแหลมทองโภคภัณฑ์ข้างธนาคารออมสินนครพนม อำเภอเมืองนครพนม ซึ่งจะจำหน่าย 100 กิโลกรัมต่อวัน จุดต่อมาคือร้านอาลีเนื้อหมูสด ตำบลหนองสังข์ อำเภอนาแก จำหน่าย 100 กิโลกรัมต่อวัน ร้านตุ๊ดตู่หมูสด ตำบลพิมาน อำเภอนาแก จำหน่าย 50 กิโลกรัมต่อวัน ร้านกวินหมูสด ตำบลนาแก จำหน่าย 100 กิโลกรัมต่อวัน ร้านสกล ตำบลปลาปาก อำเภอปลาปาก จำหน่าย 35 กิโลกรัมต่อวัน ร้านครูลักษณ์หมูสด อำเภอบ้านแพง จำหน่าย 50 กิโลกรัมต่อวัน และจุดสุดท้ายร้านปังหอมหมูสด ตำบลนาทม อำเภอนาทม จำหน่าย 20 กิโลกรัมต่อวัน ซึ่งทุกจุดจะจำหน่ายให้ผู้บริโภคในราคา 150 บาท และจากการลงพื้นที่ในวันนี้จุดจำหน่ายหมูพาณิชย์มีความคึกคักต่อเนื่องโดยประชาชนผู้บริโภคได้ทยอยกันมาซื้อเรื่อย ๆ และในส่วนของพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มีการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด ไม่ขายหมูในราคาที่สูงจนเกินไป แต่อย่างไรก็ดีก็อยากให้ประชาชนผู้บริโภคมีช่องทางการเข้าถึงหมูราคาถูกที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม จึงได้มีการชักชวนพ่อค้าแม่ค้าในตลาดมาเข้าร่วมโครงการหมูพาณิชย์ด้วย เพราะนอกจากพ่อค้าแม่ค้าจะจำหน่ายหมูได้ง่ายและมากขึ้นแล้ว ยังจะได้รับค่าชดเชยส่วนต่างจากกระทรวงพาณิชย์ด้วย ซึ่งถือว่าทุกคนได้ประโยชน์ร่วมกัน ในส่วนของสินค้าประเภทอื่น ๆ ก็ได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดนครพนมไปร่วมหารือกับฟาร์มผู้ผลิตในพื้นที่ ว่ามีความเป็นไปได้ไหมที่จะช่วยลดราคากำไรลงอีกสักนิด เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าในราคาที่ถูกลง พ่อค้าแม่ค้าที่เป็นคนกลางสามารถอยู่ได้
ภาพ/ข่าว ส.ปชส.นครพนม
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","นครพนม","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125104957057"], [669,"จ.นราธิวาส แถลงข่าวจัดสร้างแพขนานยนต์ลำใหม่ งบประมาณกว่า 38 ล้านบาท เพื่อให้บริการแก่ประชาชนในการเดินทางระหว่างประเทศ ตลอดจนขนส่งสินค้า ผลผลิตทางการเกษตร เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจและยกระดับการค้าชายแดน","วันนี้ (25 ม.ค.65) นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส (อบจ.นราธิวาส) พร้อมด้วยนายอรรณพ คณานุรักษ์ ท้องถิ่นจังหวัดนราธิวาส นายสังคม เกิดก่อ นายอำเภอตากใบ และนางสาวรัตปภา ภูวนาถภัทรสิน กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม บริษัท มิทส์ดิสิชั่น จำกัด ร่วมแถลงข่าวและลงนามสัญญาโครงการจัดสร้างแพขนานยนต์ ด่านตากใบ ระหว่าง อบจ.นราธิวาส และบริษัท มิทส์ดิสิชั่น จำกัด ที่บริเวณโถงชั้นล่าง อบจ. นราธิวาส เพื่อให้บริการแก่ประชาชนในการเดินทางระหว่างประเทศ ขนส่งสินค้าและผลผลิตทางการเกษตรข้ามฟากไทย-มาเลเซียบริเวณด่านชายแดนตากใบ ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส และด่านเป็งกาลันกูโบร์ รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจังหวัดนราธิวาส
นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายก อบจ.นราธิวาส กล่าวว่า ทาง อบจ. นราธิวาส ได้อนุมัติใช้จ่ายเงินสะสมประจำปีงบประมาณ 2564 จำนวน 38,569,000 บาท ในการจัดสร้างแพขนานยนต์ลำใหม่เพื่อทดแทนแพขนานยนต์ลำเดิมที่เปิดใช้บริการมาตั้งแต่ปี 2544 แพขนานยนต์ลำใหม่ที่จะจัดสร้างมีขนาดกว้าง 9 เมตร ยาว 21 เมตร ลึก 1.55 เมตร สามารถบรรจุผู้โดยสารได้ 30 คน บรรทุกยานพาหนะ รถยนต์ ขนาด 2,500 กิโลกรัมต่อคัน ได้ 9 คัน
ทั้งนี้การดำเนินโครงการฯ เพื่อหวังขยายมูลค่าการค้าชายแดนให้มีการเติบโต อีกทั้งเพื่อให้การสัญจรของประชาชนไปมาหาสู่ระหว่างไทย-มาเลเซีย ใช้แพขนานยนต์ลำใหม่ที่มีมตรฐานและมีความปลอดภัย คาดว่าจะจัดสร้างแล้วเสร็จในช่วงเดือนมกราคม ปี 2566
ด้านนายอรรณพ คณานุรักษ์ ท้องถิ่นจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า จังหวัดนราธิวาสมียุทธศาสตร์การพัฒนาที่มุ่งเน้นการส่งเสริมการค้า การลงทุน พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ และเมืองการค้าชายแดนทั้ง 3 ด่าน ได้แก่ ด่านชายแดนสุไหงโก-ลก บูเก๊ะตา ตากใบ ซึ่งการจัดสร้างแพขนานยนต์ลำใหม่สิดรับนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ เป็นการขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม อันจะเกิดประโยชน์กับประชาชน เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ตลอดจนเพื่อยกระดับการค้าชายแดนและความร่วมมือในมิติต่าง ๆ ให้ดีขึ้นอีกด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคใต้","นราธิวาส","สวท.นราธิวาส","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125172828352"], [670,"งานตรุษไทสกล เบิ๊ดฮั่นล่ะ 1-3 กุมภาพันธ์ 2565 เข้มคัดกรอง ฉีดวัคซีน ตรวจ ATK ก่อนเข้างาน","จังหวัดสกลนคร เตรียมจัดงานสานสัมพันธ์ศิลปวัฒนธรรมละประเพณีไทย จีน เวียดนาม (ตรุษไทสกล) จังหวัดสกลนคร ประจำปี 2565 ภายใต้ชื่องาน ตรุษไทสกล เบิ๊ดฮั่นล่ะ ระหว่างวันที่ 1-3 กุมภาพันธ์ 2565 สานสัมพันธ์ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชนชาติไทย จีน เวียดนาม ภายใต้มาตรการเข้มผู้ร่วมงานต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม ตรวจ ATK ผู้ประกอบการ
ที่ลานคนเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นประธานในการแถลงข่าว การจัดงานสานสัมพันธ์ศิลปวัฒนธรรมละประเพณีไทย จีน เวียดนาม (ตรุษไทสกล) จังหวัดสกลนคร ประจำปี 2565 ระหว่างวันที่ 1-3 กุมภาพันธ์ 2565 ภายใต้ชื่องาน ตรุษไทสกล เบิ๊ดฮั่นล่ะ ซึ่งหมายถึง การรวมเชื้อชาติต่าง ๆ ในจังหวัดสกลนคร ที่ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติใด ทั้งหมดก็คือชาวสกลนคร โดยมี นายกเทศมนตรีนครสกลนคร ผู้แทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสกลนคร ผู้แทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานนครพนม ผู้แทนหอการค้าจังหวัดสกลนคร นายกสมาคมชาวไทยเชื้อสายเวียดนามจังหวัดสกลนคร ผู้แทนมูลนิธิเมตตาธรรม และประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดสกลนคร ร่วมแถลงข่าว มี หัวหน้าส่วนราชการ สื่อมวลชน และชาวจังหวัดสกลนคร ร่วมงาน ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมการจัดงาน ภายใต้มาตรป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 โดยผู้ร่วมงานต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกคน ผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้า อาหาร ต้องผ่านการตรวจ ATK ผู้ร่วมงานแสดงผลการฉีดวัคซีน อย่างน้อย 2 เข็ม
งาน ตรุษไทสกล เบิ๊ดฮั่นล่ะ จัดขึ้นเพื่อเป็นการสานสัมพันธ์ด้านขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชนชาติไทย จีน เวียดนาม อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเผยแพร่วัฒนธรรมในแต่ละเชื้อชาติ ทั้ง 8 ชนเผ่า ได้แก่ ภูไท ไทญ้อ ไทกะเลิง ไทโส้ ไทโย้ย ไทลาว ไทบรู โส้ทะวึง และ 2 เชื้อชาติ คือ จีน และเวียดนาม กิจกรรมวันแรกช่วงเช้า จะมีการทำบุญตักบาตรบริเวณลานคนเมือง ในพิธีเปิดจะมีการแสดงสิงโต มังกรทอง ตลอดการจัดงานจะมีการแสดงศิลปวัฒนธรรม 3 เชื้อชาติ การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน ถนนอาหารวัฒนธรรมสานสัมพันธ์ ไทย จีน เวียดนาม และพิเศษปีนี้ ททท.สำนักงานนครพนม ได้นำ โคมคราม ที่แสดงอัตลักษณ์ของไทสกล มาจัดแสดง พร้อมนำ โคมครามจิ๋ว มอบเป็นที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้าพักในโรงแรมภายใต้มาตรฐาน SHA ในจังหวัดสกลนคร ด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","สกลนคร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสกลนคร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125111540075"], [671,"จังหวัดตรัง ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดตรัง","วันนี้ (25 ม.ค.65) นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดตรัง (กรอ.จังหวัดตรัง) ครั้งที่ 4/2565 ณ ห้องพระยารัษฎา ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดตรัง
ตามที่กระทรวงมหาดไทยให้จังหวัดนำผลการพิจารณาข้อเสนอขอรับการสนับสนุนเพื่อฟื้นฟูผู้ประกอบการเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลัง ตามมติที่ประชุม กรอ.กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 กรอ. กลุ่มจังหวัดภาคกลางปริมณฑล และ กรอ.กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ให้คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัด (กรอ.จังหวัดตรัง) ทราบเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง จำนวน 3 ประเด็น ได้แก่ 1)การปรับหลักเกณฑ์การกู้เงินจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (Specialized Financial Institutions:SFLs) ให้เอื้อต่อผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ผู้ประกอบการ SMEs) ให้มากกว่าเดิม 2)การพิจารณาให้เงินทุนดอกเบี้ยต่ำสำหรับผู้ประกอบธุรกิจเพื่อฟื้นฟูเยียวยากิจการ และ 3)มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในภาวะวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยความร่วมมือของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลังได้ออกมาตรการเพื่อให้สถาบันการเงิน (สง.) ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการทั้งการส่งเสริมสภาพคล่องเพิ่มเติมและการผ่อนปรนเกณฑ์การกำกับดูแลสถาบันการเงินเพื่อให้เร่งช่วยเหลือลูกหนี้ และผู้ประกอบการผู้ได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยมีมาตรการเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการสินเชื่อ (soft loan) และสินเชื่อฟื้นฟูซึ่งมุ่งเน้นให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs เช่น 1)ขยายวงเงินสินเชื่อการเพิ่มอัตราการค้ำประกันสินเชื่อของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ให้กับกลุ่ม SMEs 2) การชะลอการชำระหนี้สำหรับลูกหนี้ SMEs 3) การจัดทำโครงการให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้ผู้ประกอบการภายใต้ พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2564 เป็นต้น
โดยการประชุมในวันนี้ ที่ประชุมเสนอขอให้ขุดลอกร่องน้ำกันตัง ฝั่งกันตังใต้ เพื่อพิจารณา ซึ่งจากเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นหลายครั้งในจังหวัดตรัง กรมชลประทานจึงมีแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าวโดยจัดทำโครงการระบบระบายแม่น้ำตรัง และโครงการประตูระบายแม่น้ำตรัง มีงานปรับปรุงช่องลัดแม่น้ำตรัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของแม่น้ำตรังให้ไหลสู่ทะเลได้อย่างรวดเร็ว จากโครงการดังกล่าว ทำให้น้ำถูกผลักดันให้ไหลไปยังพื้นที่รองรับสุดท้ายคือ อำเภอกันตัง ก่อนที่จะไหลลงสู่ทะเล ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนรวมถึงพื้นที่ทางการเกษตรในอำเภอกันตัง สร้างความเสียหายและทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่ท่วมขังอยู่ในพื้นที่อำเภอกันตัง จึงขอเสนอให้กรมเจ้าท่าได้สำรวจระดับของน้ำ และขุดลอกร่องน้ำกันตัง ฝั่งกันตังใต้ เนื่องจากปัจจุบันร่องน้ำดังกล่าวมีความตื้นเขินจากตะกอนทรายที่พัดมาทับถมกันเป็นเวลานาน ทำให้การระบายน้ำเป็นไปได้ช้า หากมีการขุดลอกจะทำให้การระบายน้ำรวดเร็วยิ่งขึ้น เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนชาวกันตังซึ่งเป็นพื้นที่ปลายน้ำด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125110049062"], [672,"ASEAN Access MATCH เพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการขยายธุรกิจ SMEs ผ่านช่องทางออนไลน์","นายวีระพงศ์ มาลัย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยภายหลังพิธีเปิดตัวฟีเจอร์ ASEAN Access MATCH ร่วมกับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศเยอรมัน (GIZ) ว่า สสว. เปิดตัวเว็บไซต์ www.aseanaccess.com ศูนย์รวมข้อมูลและรายละเอียดของผู้ให้บริการผู้ประกอบการ SME ในอาเซียนไปเมื่อช่วงกลางปี 2564 ที่ผ่านมา ภายใต้สโลแกน \"Your Business Information Gateway to ASEAN and Beyond\" ช่วยเชื่อมโยงการทำการค้าทั้งในอาเซียนและทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันมีผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซค์กว่า 22,000 ราย และมีผู้ลงทะเบียนเข้าใช้งานกว่า 900 ราย
สำหรับแพลตฟอร์ม ASEAN Access MATCH หรือชื่อย่อ MATCH ถือเป็นฟีเจอร์ที่สามารถเพิ่มอัตราการจ้างงานเพิ่มโอกาสในการแข่งขันของอาเซียนในตลาดโลก ลดอุปสรรคทางด้านการค้าการตลาดไปยังต่างประเทศ ช่วยเหลือเอสเอ็มอีไทยขยายธุรกิจ อาทิ การจัดประชุมในรูปแบบออนไลน์เสมือนจริง หรือจัดสัมมนาออนไลน์ ยกระดับการทำธุรกิจให้เติบโต และขยาย SMEs ของอาเซียนให้ดีขึ้นต่อไปในอนาคตทั่วโลก
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ร่วมกับ บริษัท อเมซอน โกลบอล เซลลิ่งจำกัด จัดสัมมนา Amazon Global Selling Thailand Conference 2022 ส่งเสริมผู้ประกอบการไทย สามารถเข้าถึงตลาดในระดับสากลบนแพลตฟอร์มออนไลน์เต็มรูปแบบ ตามแนวคิด Go Global, Sell on Amazon โดยผู้เข้าร่วมสัมมนากว่า 5,000 คน นอกจากนี้ภายในงานยังมี ผู้ค้าออนไลน์ ธุรกิจ SMEs ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบัญชีผู้ขาย ลิสต์รายการสินค้า โฆษณาหาลูกค้า ไปจนถึงการขอความช่วยเหลือจาก Amazon Seller Central พร้อมรับฟังคำแนะนำและประสบการณ์ตรงจากผู้ค้าตัวจริงที่ประสบความสำเร็จ รวมทั้งพาร์ทเนอร์ และผู้ให้บริการด้านต่างๆ ที่มาแบ่งปันเทคนิค และเครื่องมือต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจการค้าออนไลน์ระหว่างประเทศให้ประสบความสำเร็จ
ทั้งนี้ สำหรับผู้ประกอบการ e-Commerce หรือผู้ประกอบการทั่วไปที่สนใจจะขยายตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ ขอรับคำปรึกษาได้ที่ กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์โทร 0 2547 5960 หรือ สายด่วน 1570
","25/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125114153088"], [674,"จ.แม่ฮ่องสอน รับรองผลคุณภาพสินค้า ผู้ยื่นขออนุญาตถั่วลายเสือ 88 ราย และกระเทียมแม่ฮ่องสอน 144 ราย ในขณะที่บุกแม่ฮ่องสอนเตรียมขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์","วันที่ 24 มกราคม 2565 นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการกำกับดูแลและอนุญาตการใช้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ถั่วลายเสือแม่ฮ่องสอนและกระเทียมแม่ฮ่องสอน ครั้งที่ 1/2565 พาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ณ ห้องประชุมขุนลุมประพาส ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน
โดยที่ประชุมมีมติพิจารณาและรับรองผลการตรวจสอบคุณภาพสินค้า และผลประเมินเกษตรกร ตรวจกระบวนการการผลิต ควบคุมคุณภาพสินค้าและแหล่งที่มา ผู้สมัครขอใช้ตราสัญลักษณ์ สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ GI ตามข้อกำหนดของกรมทรัพย์สินทางปัญญา \" ถั่วลายเสือแม่ฮ่องสอน\" จำนวน 88 ราย \"กระเทียมแม่ฮ่องสอน\" 144 ราย ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ในการตรวจสอบและประเมิน โดยจากนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน จะดำเนินการเตรียมยื่นขอใช้ตราสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา ผ่านสำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอนต่อไป
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ดำเนินการยื่นจดทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้รับขึ้นทะเบียนแล้ว จำนวน 2 ชนิด คือ ถั่วลายเสือแม่ฮ่องสอน มีผลตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2562 และกระเทียมแม่ฮ่องสอน มีผลตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2563 สำหรับบุกแม่ฮ่องสอนอยู่ในระหว่างการยื่นแก้ไขข้อมูล และส่งเอกสารประกอบเพิ่มเติมตามข้อแนะนำของกรมทรัพย์สินทางปัญญา
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125115100094"], [675,"สำนักงานอุตสาหกรรมแพร่ แจ้งสินเชื่อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ เปิดรับคำขอสินเชื่อถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2565","
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่ รับแจ้งจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดแพร่ว่า ทางสำนักงานกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ได้รับจัดสรรงบประมาณตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ความช่วยเหลือเงินทุนและเพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพในการต่อยอดธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน จึงได้กำหนดเปิดรับคำขอโครงการสินเชื่อ เพื่อเพิ่มศักยภาพ SME วัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุง ลงทุน หมุนเวียน เสริมสภาพคล่องกิจการ ฟื้นฟูกิจการในปัจจุบัน เริ่มต้นกิจการใหม่ ให้กู้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 15 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี ผ่อนชำระคืนภายใน 10 ปี และโครงการสินเชื่อ สร้างโอกาสเสริมสภาพคล่อง SME วัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุง เสริมสภาพคล่องกิจการ หรือสำรองเป็นคำใช้จ่ายในการดำเนินกิจการ ให้กู้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี ผ่อนชำระนภายใน 7 ปี โดยกำหนดเปิดรับคำขอสินเชื่อกองทุนฯ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 เว้นแต่วงเงินสินเชื่อจะหมดก่อนจึงประชาสัมพันธ์มาให้ทราบโดยทั่วกัน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคเหนือ","แพร่","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125115434098"], [676,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี จัดกิจกรรม พาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน เชื่อมโยงการค้า พัฒนาเศรษฐกิจ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการบรรเทาภาระค่าครองชีพ","สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี จัดกิจกรรม \"พาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน เชื่อมโยงการค้า พัฒนาเศรษฐกิจ จังหวัดกาญจนบุรี\" ที่ บริเวณหน้าอาคารสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 25-26 มกราคม 2565 โดย นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธาน ในการเปิดงาน และได้รับเกียรติจาก นายฉัตรพันธ์ เดชกิจสุนทร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) พร้อมทั้ง หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน ผู้บริหารสถานประกอบการ เข้าร่วม
นายฉัตรพันธ์ เดชกิจสุนทร กล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ ตระหนักถึงความเดือดร้อน ของประชาชนจากสินค้าที่มีความจำเป็นมีราคาแพง จึงได้มีข้อสั่งการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ได้จัดกิจกรรม \"พาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน\" เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระผู้บริโภคให้มีโอกาสเข้าถึง ราคาสินค้าที่มีความยุติธรรมมากขึ้น อีกทั้งเป็นช่วยเหลือประชาชนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และผู้ประกอบการ ควบคู่กันไป ซึ่งขณะนี้ทางรัฐบาล โดยกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้ทำการตรวจสต๊อกหมูและไก่ ทุกจังหวัดเพื่อไม่ให้มีการเอารัดเอาเปรียบหรือกักตุนสินค้า จากข้อมูลที่ได้รับรายงานในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ได้มีการดำเนินการออกตรวจ โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีและพาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี ที่ผ่านมายังไม่พบผู้กระทำความผิดในลักษณะของการกักตุนสินค้า
ณัฏฐภัส เหลืองพฤกษชาติ / สวท.กาญจนบุรี
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคตะวันตก","กาญจนบุรี","สวท.กาญจนบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125114451089"], [677,"พัทยาพร้อมเดินหน้าจัดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจ","เมืองพัทยาพร้อมเดินหน้าจัดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ตามสถานการณ์โควิด-19
นายสนธยา คุณปลื้ม เปิดเผยหลังรัฐบาลและ ศบค. ได้มีการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ ในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว เพื่อให้เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว ว่า ขณะนี้เมืองพัทยาได้มีการจัดตั้งงบประมาณในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวไว้แล้ว ทั้งการจัดกิจกรรมเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2565 ไว้ก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน แต่พอเกิดการแพร่ระบาดสายพันธุ์ดังกล่าว จึงได้มีการปรับรูปแบบการจัดเทศกาลตรุษจีนในปีนี้จากการที่จะมีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลอง มีคอนเสิร์ตและการแสดงต่าง ๆ ในการเฉลิมฉลองและส่งเสริมการท่องเที่ยว มาเป็นเพียงการจัดตามพิธีกรรมตามขนมธรรมเนียมประเพณีของคนจีน และจะมีการจัดเซ่นไหว้ พร้อมประดับเมืองให้เข้ากับบรรยากาศของเทศกาลตรุษจีนเท่านั้น ด้วยยังอยู่ในช่วงการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19
ส่วนในกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอื่น ๆ อย่างเช่น เทศกาลดนตรีเมืองพัทยา หรือ Pattaya Music Festival ในช่วงเดือนมีนาคม เทศกาลสงกรานต์และวันไหล ยังคงเดินหน้าจัดงานตามปกติ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองพัทยาและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งในแต่ละเทศกาลนั้น ๆ จะมีการจัดหรือไม่รูปแบบจะเป็นอย่างไร จะต้องมาพิจารณาและประเมินการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงเวลาที่ใกล้จะถึงการจัดเทศกาลนนั้น ๆ อีกครั้ง ทั้งนี้การจัดตั้งงบประมาณไว้เป็นการเตรียมการเอาไว้ก่อนเหมือนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมา โดยการจัดกิจกรรมเหล่านี้จะทำให้ภาพรวมด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของเมืองพัทยากลับมาคึกคักและมีสีสันอีกครั้ง หากสถานการณ์โควิด-19 มีแนวโน้มที่ดีขึ้นต่อไป
ปริญญา ข่าว/ภาพ
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคตะวันออก","ชลบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125115443099"], [678,"จ.นครพนม ตรวจสอบการครอบครองสุกรชำแหละผ่าซีก เนื้อสุกรชำแหละแยกชิ้นส่วน พร้อมติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค","จังหวัดนครพนม นำโดยนายชาญชัย คงทัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พาณิชย์จังหวัดนครพนม ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ปศุสัตว์จังหวัดนครพนม ด่านกักกันสัตว์นครพนม ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม ลงพื้นที่ตรวจเข้มการครอบครองสุกรชำแหละผ่าซีก เนื้อสุกรชำแหละแยกชิ้นส่วน และติดตามสถานการณ์ด้านราคาจำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภค ณ ห้างสรรพสินค้า 3 แห่ง ประกอบด้วย โลตัส แมคโคร บิ๊กซี จากการตรวจสอบปรากฏว่า ส่วนของห้องเย็นไม่พบการกักตุนสินค้าและสินค้ามีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค
ทั้งนี้ ได้กำชับให้ปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เรื่องการแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกรอย่างเคร่งครัด การจำหน่ายปลีกพบว่า ราคายังทรงตัวจากสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย หมูเนื้อแกง ราคากิโลกรัมละ 185 บาท น่องไก่ติดสะโพก ราคากิโลกรัมละ 65 บาท น่องไก่ ราคากิโลกรัมละ 65-67 บาท สะโพกไก่ ราคากิโลกรัมละ 68 บาท ผู้ประกอบการได้ปิดป้ายแสดงราคไว้อย่างถูกต้อง ชัดเจน
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","นครพนม","สวท.นครพนม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125123346131"], [679,"จังหวัดลพบุรี ตรวจสอบสต๊อกเนื้อสุกร ป้องกันการกักตุนสินค้า และตรวจสอบราคาสินค้าอุปโภค บริโภค","หน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดลพบุรี เร่งแก้ไขปัญหาและกำกับดูแลสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาที่เป็นธรรม ป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าในช่วงนี้
โดย นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมปล่อยแถวตามโครงการตรวจตราตามมาตรการป้องกันการกักตุนและควบคุมราคาสินค้าและบริการ จังหวัดลพบุรีและลงพื้นที่ ตรวจสอบราคาสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น เนื้อสุกร เนื้อไก่ ไข่ไก่ ที่ห้างแมคโคร สาขาลพบุรี และตรวจเยี่ยมโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา! ช่วยประชาชน จำหน่ายหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท และได้เข้าตรวจสอบการครอบครองสุกรชำแหละให้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2565 เรื่อง การแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกรที่บริษัท ชลสิทธิ์โฟรเซ่นฟู้ดส์ จำกัดโดยกำชับให้ผู้ประกอบการได้ปฏิบัติ ตามกฎหมาย อย่างเคร่งครัด
ล่าสุด พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภธรภาค 1 เดินทางมาที่จังหวัดลพบุรี ร่วมบูรณาหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบสต๊อกเนื้อสุกร ที่บริษัทเบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด ต.ช่องสาลิกาอ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี เพื่อป้องกันการกักตุนเนื้อสุกรแช่แข็งไว้เก็งกำไร รวมทั้งเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ผลจากการตรวจสอบพบว่ามีเอกสารถูกต้องและปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการทุกประการ รวมทั้งมีการป้องกันโรคระบาดในสุกรอย่างเข้มงวด
หากตรวจพบการกักตุนสินค้าและฉวยโอกาสขึ้นราคาจะดำเนินการกับผู้กระทำผิดอย่างเฉียบขาด โดยขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการจำหน่ายในราคาที่เป็นธรรม ไม่ฉวยโอกาสกักตุนเพื่อหวังผลทางด้านการตลาดหรือราคา ที่สูงกว่าราคาควบคุม และหากประชาชนพบการกระทำผิดแจ้งได้ทางสายด่วน 1569 ได้ทันที
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","ลพบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125122125127"], [680,"กระทรวงการคลังขยายระยะเวลานำส่งเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่งวดเดือน มกราคม - มิถุนายน 2565 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของลูกจ้างและนายจ้างจากสถานการณ์โควิด-19","นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้มีมาตรการขยายระยะเวลาการช่วยเหลือนายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 จากเดิมที่ผ่อนผันให้จนถึงงวดนำส่งเงินของเดือนธันวาคม 2564 ให้สามารถหยุดหรือเลื่อนการนำส่งเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่งวดนำส่งเงินของเดือนมกราคม 2565 จนถึงงวดนำส่งเงินของเดือนมิถุนายน 2565 โดยนับอายุการเป็นสมาชิกกองทุนฯ ต่อเนื่อง และคงสมาชิกภาพไว้ ภายใต้หลักการและแนวปฏิบัติเดิม เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของลูกจ้างและนายจ้างที่ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ในปัจจุบัน โดยมุ่งหวังให้ลูกจ้างที่เป็นแรงงานในระบบยังคงสถานะการเป็นสมาชิกกองทุนฯ และสามารถออมผ่านกองทุนฯ หลังจากที่สถานการณ์ได้คลี่คลาย เพื่อเป็นหลักประกันรายได้และนำไปสู่ความมั่นคงทางการเงินเมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ออกประกาศ เรื่อง กำหนดประเภทธุรกิจ ระยะเวลา และเงื่อนไขให้ลูกจ้างหรือนายจ้างหยุดหรือเลื่อนการส่งเงินสะสม หรือเงินสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพในท้องที่ที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ สาธารณภัย หรือเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2565 ซึ่งได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2565 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2565 เป็นต้นไป
","25/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125130744148"], [681,"ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ลงพื้นที่ตลาดสดเทศบาลเมืองปทุมธานี กำชับให้ผู้ประกอบการติดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน","วันนี้ (25 ม.ค.65) เวลา 09.00 น. ที่ ตลาดสดเทศบาลเมืองปทุมธานี
นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วย นายแพทย์ภุชงค์ ไชยชิน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี นางสาวธนิยา นัยพินิจ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดปทุมธานี พ.อ.วินัย อภัยกุญชร รอง ผอ.รมน.จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ต.พงษ์สวัสดิ์ หาญสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีเมืองปทุมธานี พ.ต.อ.ธนกฤต บุญเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.ณรงค์ เอี่ยมระหงส์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี นางพรอัปสร นิลจินดา ประชาสัมพันธ์จังหวัดปทุมธานี นางสายสุดา พานย้อย หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดปทุมธานี หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่จับจ่ายซื้อสินค้า อุปโภคบริโภค อาทิ เนื้อหมูสด เนื้อไก่ ผักสด ผลไม้ อาหารสำเร็จรูป อื่นๆ เพื่อตรวจสอบราคาสินค้าให้มีความยุติธรรมต่อผู้บริโภคไม่ขายเกินราคาที่กำหนดและการติดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน เปิดเผยและสามารถอ่านได้โดยง่าย แสดงราคาสินค้าไว้บริเวณใกล้เคียงหรือแขวนในบริเวณที่ผู้บริโภคเห็นได้ ต้องเป็นภาษาไทย หรือภาษาอื่นด้วยก็ได้ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้า
ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กำชับให้ทุกร้านค้า ติดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคได้ตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้าและในการลงพื้นที่ครั้งนี้ได้มอบหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือแก่พ่อค้าแม่ค้าและผู้มาจับจ่ายซื้อของ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
","25/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","ปทุมธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปทุมธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125130617147"], [682,"รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินหน้าแก้ปัญหาสลากสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา ","นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาที่เกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วยฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการฯ ประกอบด้วย พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และนายทวีป วุฒิบาทุกาจิตต์ รองผู้อำนวยการที่กำกับดูแลสำนักการตลาดและจัดจำหน่าย ร่วมหารืออย่างไม่เป็นทางการ และสอบถามข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ชี้แจงถึงที่มาของปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคาว่า สาเหตุหลัก เกิดจากตัวผลิตภัณฑ์สลากเองและตัวผู้จำหน่าย นอกจากนี้ยังได้ ชี้แจงมาตรการที่สำนักงานฯ ดำเนินการเพื่อบรรเทาปัญหาในระยะสั้น การแก้ไขปัญหาระยะปานกลางและระยะยาว ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ประกอบด้วย การขยายจุดจำหน่ายโครงการ \"สลาก 80\" จำนวน 1,000 จุดทั่วประเทศ ซึ่งปิดรับสมัครไปแล้ว มีตัวแทนจำหน่ายสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ จำนวน 4,790 ราย การเปิดรับสมัครลงทะเบียนในระบบซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งจะปิดรับสมัครในวันที่ 31 มกราคม 2565 ขณะนี้มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 800,000 ราย การจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ //และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งคาดว่าทั้ง 4 มาตรการประกอบกันนี้ จะช่วยบรรเทาความรุนแรงของการจำหน่ายสลากเกินราคาลงได้
ด้านนายอนุชา กล่าวว่า ในเบื้องต้น จากมาตรการที่ได้รับทราบจากผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะนำไปประกอบการประชุมคณะกรรมการ ในวันที่ 31 มกราคม 2565 นี้ นอกจากข้อมูลเหล่านี้แล้ว ขอให้สำนักงานสลากฯ รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง อาทิ ข้อมูลการจำหน่ายสลากขององค์กรสลากต่างประเทศ รวมถึงปัญหาและข้อร้องเรียนของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา ในห้วงเวลาที่ผ่านมา เพื่อนำไปสู่การหาทางออกให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกฝ่าย และเพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างยั่งยืนตามเจตนารมณ์ต่อไป
","25/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125201231465"], [683,"ผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ กำชับเฝ้าระวังไม่ให้มีการกักตุนเนื้อสุกร และดูแลสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพไม่ให้ฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา","
(25 ม.ค.65) ที่ห้องประชุมหว้ากอ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินงานตามข้อสั่งการสำคัญของจังหวัด โดยกำชับให้หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน บูรณาการออกตรวจติดตาม เฝ้าระวัง และกำกับดูแลไม่ให้มีการกักตุนสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะหมูเนื้อแดง ไข่ไก่ และสินค้าที่จำเป็นในการดำรงชีวิตป้องกันผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน และไม่ให้เกิดการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าเอาเปรียบผู้บริโภค เน้นย้ำผู้ค้าผู้ประกอบการให้ติดป้ายแสดงราคาสินค้าอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคใช้เป็นข้อมูลตัดสินใจเลือกซื้อ
นอกจากนี้ ได้มอบแนวทางให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หารือร่วมกับผู้ประกอบการเพื่อผลักดันให้มีการดำเนินการจัดกิจกรรมบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน อาทิ กิจกรรมธงฟ้าจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพในราคาประหยัด
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคตะวันตก","ประจวบคีรีขันธ์","สวท.ประจวบคีรีขันธ์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125145047204"], [684,"จังหวัดสมุทรสงคราม จัดกิจกรรม ผู้ว่าฯ สัญจร ร่วมกันแก้ไขปัญหา และพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวจังหวัดสมุทรสงคราม สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ในสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19","
วันนี้ (25 ม.ค.65) นายขจร ศรีชวโนทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมด้วย นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา นายกรกฎ วงษ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ นำหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ร่วมกิจกรรม ผู้ว่าฯ สัญจร ณ โครงการอัมพวาชัยพวา นุรักษ์ อำเภออัมพวา ในรูปแบบเสวนา ประเด็น ส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดน้ำอัมพวากับความพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยว โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ภาคแอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการ ที่เกี่ยวข้องร่วมเสวนาตอบข้อซักถาม จุดเด่นและจุดขายที่สำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวและการบริหารจัดการตลาดน้ำอัมพวา ช่องการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับมาตรฐาน SHA เพื่อสร้างภาพลักษณ์และสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว รวมทั้งการสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา รวมทั้งมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และมาตรฐานของปลอดภัย มาตรการความปลอดภัยในองค์กร
ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า การจัดกิจกรรม ผู้ว่าฯ สัญจร เป็นการบูรณาการร่วม กับทุกภาคส่วน ร่วมกันแก้ไขปัญหา และพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวจังหวัดสมุทรสงครามทั่วทุกพื้นที่ ให้สามารถดำรงชีพและสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ในสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อีกทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ระหว่างส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและองค์การภาคประชาชน ประชาชนในจังหวัดสมุทรสงคราม ตามบริบทและปัญหาในพื้นที่ที่สัญจรไปในแต่ละเดือน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่บริเวณสถานที่แห่งนี้ จึงเป็นเรื่องของการท่องเที่ยว พร้อมนำประเด็นข้อสรุปมาดำเนินการพัฒนาส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาต่อไป จากนั้นได้ชมการทำน้ำตาลมะพร้าว สวนเกษตร ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของโครงการชัยพัฒนานุรักษ์
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","สมุทรสงคราม","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125144659201"], [685,"รอง.ผวจ.ยโสธร นำคณะลงพื้นที่ตรวจสอบห้องเย็นเก็บเนื้อหมู อ.เลิงนกทา","
นายชัยวัฒน์ แสงศรี รองผู้ว่าราชการ จังหวัดยโสธร พร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัดยโสธร กอ.รมน.จังหวัดยโสธร ปศุสัตว์จังหวัดยโสธร หัวหน้าด่านกักกันสัตว์ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ยโสธร นายอำเภอเลิงนกทา ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรอำเภอเลิงนกทา ปศุสัตว์อำเภอเลิงนกทา ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบการเก็บเนื้อหมูชำแหละ ของผู้ประกอบการในพื้นที่อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร จำนวน 3 ราย และจากการตรวจสอบไม่พบผู้กระทำความผิดตาม
พร้อมนี้ ได้เข้าตรวจสอบสถานที่รวมรวบไข่สดซึ่งมีการจำหน่ายไข่สดประมาณ 120,000 ฟองต่อสัปดาห์ ซึ่งผู้ประกอบการ ได้ดำเนินการถูกต้องตามระเบียบการเคลื่อนย้ายสัตว์และซากสัตว์ของ กรมปศุสัตว์
ทั้งนี้ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดยโสธร จะได้ส่งเสริมการประกอบการ ทั้งการจำหน่ายเนื้อสุกรและไข่สดให้ได้รับรองโครงการเนื้อสัตว์ปลอดภัยใส่ใจผู้บริโภค(ปศุสัตว์ OK) และโครงการไข่สดปลอดภัยใส่ใจผู้บริโภค (ไข่ OK) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคต่อไป
โอกาสนี้ ได้กำชับให้ผู้ประกอบการห้องเย็น ปฏิบัติตามประกาศ กระทรวงพาณิชย์ หากมีการครอบครองเนื้อสุกร 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป ต้องแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บและจัดทำบัญชี คุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร ให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดยโสธร ทราบเป็นประจำทุกวันจันทร์ เพื่อรายงานต่อคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ยโสธร","สวท.ยโสธร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125145045203"], [686,"สำนักงานขนส่งจังหวัดกระบี่ เปิดประมูลหมายเลขทะเบียนรถผ่าน เซฟไซต์ www.Tabienrod.com","วันที่ 25 ม.ค.65 นายวรชัย วงษ์เมฆ นายทะเบียนรถ สนง.ขนส่ง จ.กระบี่ เปิดผยว่า ได้รับมอบหมายจากนายอัดชา บัวจันทร์ ขนส่งจังหวัดกระบี่ จัดการประชาสัมพันธ์เชิญชวน ให้เจ้าของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน เข้าร่วมประมูลหมายเลขทะเบียนรถเลขสวย หมวดอักษร กน (การงาน การค้า ก้าวหน้า นำชัย) ผ่านเว็บไซต์ www.Tabienrod.com โดยดำเนินการประมูล ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 29 ม.ค.65
นายวรชัย กล่าวอีกว่า การประมูลเลขสวยเลขมงคล ในครั้งเป็นครั้งที่ 8 ของขังหวัดกระบี่ และต่างจากทุครั้ง ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรมการขนส่งทางบกไม่สามารถจัดการประมูลหมายเลขทะเบียน ซึ่งเป็นที่ต้องการหรือเป็นที่นิยม สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดที่นั่งในห้องประมูลได้ กรมการขนส่งทางบก โดยกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.)ใช้วิธีประมูลทะเบียนรถเลขสวย New normal auction ด้วยวิถีใหม่แห่งการประมูล ผ่านเว็บไซต์ www.Tabienrod.com หมวดอักษร กน (การงาน การค้า ก้าวหน้า นำชัย) โดยจะทำการปิดประมูลในวันที่ 29 มกราคมนี้ ตั้งแต่เวลา 09.น.เป็นต้นไป รวมจำนวน 301 หมายเลข
โดยสามารถเสนอราคาแข่งขันแบบเรียลไทม์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันปิดประมูล โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมการประมูลสามารถลงทะเบียนผ่านทาง www.tabienrod.com โดยมีขั้นตอนดังนี้ 1. เข้าไปที่เว็บไซต์ www.tabienrod.com 2. เลือกเมนู การประมูลทะเบียนรถเก๋ง 3. สมัครเข้าร่วมการประมูล 4. คลิก เพิ่มเงินวางหลักประกัน 5. คลิก เพิ่มเงินวางหลักประกัน รถเก๋ง ประมูลทางอินเทอร์เน็ต 6. เลือกจำนวนหมายเลขที่จะประมูลตามกลุ่มบัญชีหมายเลขที่ต้องการ และ 7. กรอกข้อมูล และพิมพ์เอกสารวางหลักประกัน ผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลสามารถลงทะเบียน และเสนอราคาได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
โดยเงินที่ได้จากการประมูลก็จะนำเข้ากองทุนความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนต่อไป
","25/1/2022","ภาคใต้","กระบี่","สวท.กระบี่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125153702236"], [687,"การประมูลหมายเลขทะเบียนสำหรับรถที่จดทะเบียน","วันที่ 25 มกราคม 2565 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม POC ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดพัทลุง นายฉัตรชัย อุสาหะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นประธานจัดประมูลหมายเลขทะเบียนสำหรับรถที่จดทะเบียน ในเขตจังหวัดพัทลุง โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดพัทลุงจัดประมูลหมายเลขทะเบียนซึ่งเป็นที่ต้องการหรือเป็นที่นิยมของประชาชนสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคล ไม่เกิน 7 คน หมวดอักษร กท มีความหมายว่า ก้าวหน้าร่ำรวย ทะเบียนสวยเลขมงคล จำนวน 301 หมายเลข
โดยประมูลทางอินเตอร์เน็ตเพียงช่องทางเดียว ปิดระบบในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 โดยเงินรายได้จากการประมูลหมายเลขทะเบียนจะนำเข้า กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เพื่อนำมาใช้รณรงค์ลดอุบัติเหตุทางท้องถนน รวมถึงปลูกจิตสำนึกด้านการขับขี่ปลอดภัยและสนับสนุนเงินค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ ที่ประสบภัยจากการใช้รถใช้ถนน
สำนักงานขนส่งจังหวัดพัทลุง ขอเชิญท่านเจ้าของรถและผู้ที่สนใจ เข้าร่วมประมูลหมายเลขทะเบียนรถยอดนิยมเริ่มประมูลได้ตั้งแต่บัดนี้เป้นต้นไป ทาง www.tabienrod.com และจะปิดระบบในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 080-8617496 , 0-7484-0149 , 0-7484-0150 , หรือสายด่วน 1584
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพัทลุง 074612404
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคใต้","พัทลุง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพัทลุง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125153432232"], [688,"จังหวัดกาญจนบุรีสนองนโยบายรัฐบาลขับเคลื่อนแนวทางเขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่","จังหวัดกาญจนบุรีสนองนโยบายรัฐบาลขับเคลื่อนแนวทางเขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ เพื่อขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาล โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ตามที่ กระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการ \"บำบัดทุกข์ บำรุงสุข\" ให้แก่ประชาชนตามแนวทางของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นหน่วยงานหลักที่ขับเคลื่อนการพัฒนาเชิงพื้นที่ (Area Based) โดยได้สั่งการให้ ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ทั้งในส่วนกลางและในระดับพื้นที่ทั่วประเทศ ขับเคลื่อนโครงการ \"การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพอเพียงด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Economy Model) มีเป้าหมายเพื่อขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในช่วงที่ผ่านมา และจัดทำโครงการในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพอเพียง เชื่อมโยงสอดคล้องกับวาระแห่งชาติเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อนำมาเป็นกรอบและทิศทางในการแก้ไขปัญหาความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัย พร้อมทั้งการสร้างความพร้อมรับมือภัยพิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งในระดับพื้นที่ สร้างงานสร้างรายได้ให้กับชุมชนและ SMEs สร้างความมั่นคงทางน้ำ อาหาร พลังงานให้กับครัวเรือนและชุมชน และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีกลไกขับเคลื่อนประกอบด้วย คณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (อขจพ.) เขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง หรือ SEDZ นี้ เป็นแนวทางที่ภาครัฐสนับสนุนการจ้างงาน โครงสร้างพื้นฐาน วัสดุอุปกรณ์พื้นฐาน และการอำนวยความสะดวกด้านต่าง ๆ ที่จำเป็นผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนและภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่ ด้วยการดึงภาควิชาการมาร่วมพัฒนาและยกระดับศักยภาพตัวบุคคล ต่อยอดด้วยงานวิจัยและนวัตกรรมที่เหมาะสม มีภาคเอกชนเข้ามาร่วมสนับสนุนโครงการ วางแผน พัฒนา และต่อยอดผลผลิตต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากความสมบูรณ์ของการพัฒนาพื้นที่ เพื่อให้เกิดการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนา พื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยพิบัติซ้ำซาก โดยใช้โอกาสจากภาคแรงงานที่มีทักษะและศักยภาพ ที่ประสบปัญหาว่างงานในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และกลับไปยังบ้านเกิด มาร่วมเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาพื้นที่เป้าหมาย ด้วยการให้ความรู้ตามแนวพระราชดำริ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงหรือเกษตรทฤษฎีใหม่ ควบคู่กับการศึกษารากเหง้า ภูมิปัญญาดั้งเดิม เพิ่มพูนด้วยชุดความรู้ทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสมกับการแก้ไขปัญหาของพื้นที่และภูมิสังคม ยกระดับเป็น \"เขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่\" เพื่อขจัดความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ผ่าน 9 กิจกรรม ได้แก่ 1. กำหนดพื้นที่เป้าหมาย/พื้นที่ปฏิบัติการ 2. พัฒนาและปรับปรุงพื้นที่เป้าหมาย/พื้นที่ปฏิบัติการ 3. บ่มเพาะพัฒนาบุคลากร 7 ภาคี คือ ภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคศาสนา ภาคประชาชน ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคสื่อมวลชน และเร่งสร้างผู้ประกอบการใหม่ 4. สร้างงาน สร้างรายได้แก่ชุมชน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก 5. ส่งเสริมการเรียนรู้เชิงประจักษ์ผ่านการฝึกปฏิบัติร่วมในรูปแบบจิตอาสาพัฒนาและจิตอาสาภัยพิบัติ 6. ต่อยอดผลผลิตเพื่อพัฒนาธุรกิจร่วมกับภาคเอกชน ด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Model) 7. จัดทำแพลตฟอร์มขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Model) ด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ 8. สร้างนวัตกรรมจากฐานการวิจัยเพื่อพัฒนาตลาดและธุรกิจในพื้นที่ 9. สร้างการรับรู้และจดจำ และการสื่อสารสังคมเชิงรุก การขับเคลื่อนในพื้นที่จะแบ่งเป็น 4 ระดับ คือ ระดับครัวเรือน ระดับชุมชน/ตำบล ระดับอำเภอ และระดับจังหวัด ผ่านแนวทางระบบเกษตรสองขา \"พอเพียง แบ่งปัน แข่งขันได้\" โดยใช้รูปแบบ \"โคก หนอง นา โมเดล\" มาเป็นเครื่องมือหนึ่งในการดำเนินการ ผ่านกลไกการมีส่วนร่วมและภาคีการพัฒนาจากทุกภาคส่วน เพื่อพัฒนาให้บรรลุเป้าหมายตามบริบทของพื้นที่ที่กำหนดร่วมกัน และส่งผลต่อการยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิต การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เพิ่มพื้นที่จัดเก็บคาร์บอนและความสมดุลของสิ่งแวดล้อม เป็นการนำการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพอเพียงสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลกต่อไป
ในส่วนของจังหวัดกาญจนบุรีได้มีการขับเคลื่อนแนวทางเขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่โดยได้คัดเลือกพื้นที่เป้าหมาย พื้นที่ปฏิบัติการที่เหมาะสมกับสภาพปัญหา สภาพภูมิสังคม และมีความพร้อมของพื้นที่ในการดำเนินงานได้ทันที โดยใช้กลไกคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรีได้ให้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดกาญจนบุรีเปิดรับสมัครพื้นที่เป้าหมายและได้ร่วมพิจารณาคัดเลือกในการดำเนินโครงการฯ นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ประชาชนและภาคส่วนต่างๆ ที่ถือครองกรรมสิทธิ์ในที่ดินเข้าร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่อง โดยให้จังหวัดเก็บข้อมูลดังกล่าวไว้สำหรับขับเคลื่อนการดำเนินงานในระยะต่อไป
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคตะวันตก","กาญจนบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125153937239"], [689,"โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวรอบ 1 งวดที่ 14 ปี 2564-65","
คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว รอบ 1 งวดที่ 14 ปี 2564/65 เพื่อชดในการชดเชยส่วนต่างตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว
นายผกายเนติ์ เล่งอี้ พาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 เพื่อช่วยเกษตรกรตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงและชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 งวดที่ 14 เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินโครงการต่อไป
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์อ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว จึงได้ออกประกาศ ดังนี้
ข้อ 1 ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงประจำวันที่ 14 มกราคม 2565 เพื่อใช้ในการชดเชยส่วนต่างตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 งวดที่ 14 ให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 ที่ระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 7-13 มกราคม 2565 สำหรับข้าวเปลือกชนิดต่างๆ ณ ความชื้นไม่เกิน 15 % ดังนี้
1.ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 11,522.60 บาท
2.ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 10,993.72 บาท
3.ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,059.83 บาท
4.ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 8,347.63 บาท
5.ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 10,451.85 บาท
ข้อ 2 การชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาประกันรายได้กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง มีอัตราส่วนต่างที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรใช้ในการจ่ายให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว สำหรับการจ่ายเงินงวดที่ 13 ในวันที่ 14 มกราคม 2565 ดังนี้
1.ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 3,477.40 บาท
2.ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 3,006.28 บาท
3.ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 940.17 บาท
4.ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 1,652.37 บาท
5.ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 1,548.15 บาท
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคตะวันตก","กาญจนบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125154307246"], [690,"ประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม จัดกิจกรรมจิบน้ำชา-กาแฟ หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น","
วันนี้ (25 ม.ค.65) ที่บริเวณโครงการอัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์ อำเภออัมพวา นางฐานิยา นิยมญาติ ประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม บูรณาร่วมกับจังหวัดสมุทรสงคราม จัดกิจกรรม จัดกิจกรรมจิบน้ำชา-กาแฟ หัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ภาคประชาชน โดยการสื่อสารประเด็นสำคัญจากหน่วยงานภาครัฐผ่านสื่อมวลชนจังหวัดสมุทรสงคราม ประเด็น ส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดน้ำอัมพวากับความพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยว จุดเด่นและจุดขายที่สำคัญในการดึงดูดนักดท่องเที่ยวและการบริหารจัดการตลาดน้ำอัมพวา ช่องการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับมาตรฐาน SHA เพื่อสร้างภาพลักษณ์และสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว รวมทั้งการสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา รวมทั้งมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และมาตรฐานของปลอดภัย มาตรการความปลอดภัยในองค์กร มีนายขจร ศรีชวโนทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธาน และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด,นายอำเภออัมพวา,นายกเทศมนตรีตำบลอัมพวา,ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด,ผอ.ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม,ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ร่วมสื่อสารประเด็นในการขับเคลื่อนการส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดน้ำ
ประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวด้วยว่า การบูรณาการร่วมจัดกิจกรรมครั้งนี้ เป็นการติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ในเรื่องประเด็นสื่อสารสำคัญ ตามแผนปฏิบัติการประชาสัมพันธ์แห่งชาติระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 และการรายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 และนำเสนอขอความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามต่อไป
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","สมุทรสงคราม","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125152729225"], [691,"จังหวัดชุมพร จำหน่ายสินค้าราคาถูก บรรเทาภาระค่าครองชีพ สร้างขวัญกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชน","
วันนี้ (25 ม.ค. 65) นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย นางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดชุมพร ร่วมเปิดโครงการจำหน่ายสินค้าราคาถูก เพื่อประชาชนจังหวัดชุมพร ปี 2565 ณ บริเวณที่ว่าการอำเภอเมืองชุมพร โดยเป็นการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ที่จำเป็นต่อการครองชีพ มาจำหน่ายให้กับประชาชนชุมพร ในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพได้เป็นการชั่วคราว โดยจัดจำหน่าย ระหว่างวันที่ 25-27 มกราคม 2565 บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองชุมพร และหน้าที่ว่าการอำเภอหลังสวน
นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวว่า จังหวัดชุมพร ให้ความสำคัญในเรื่องการดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนจังหวัดชุมพร ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ผลกระทบจากสถานการณ์ อุทกภัย ทำให้ประชาชนบางส่วน ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ เนื่องจากพื้นที่ทำการเกษตร และเครื่องมือในการประกอบอาชีพเสียหาย ส่งผลให้ประชาชนบางรายไม่มีรายได้หรือมีรายได้ลดลง ประกอบกับยังต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูที่อยู่อาศัย รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคประจำวัน จึงทำให้ประสบปัญหาความเดือดร้อนด้านค่าครองชีพ จังหวัดชุมพรในฐานะที่ต้องดูแลปากท้องของประชาชน จึงได้มอบนโยบายให้กับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จัดหาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพมาจำหน่ายให้กับประชาชนชุมพร ในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด โดยเฉพาะน้ำมันปาล์ม และน้ำปลา ซึ่งมีโรงงานผลิตอยู่ในพื้นที่จังหวัดชุมพร และเป็นที่มาของการจัดงานในครั้งนี้
ด้านนางสาวเปรมนีย์ ทรัพย์โชคไชย พาณิชย์จังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า จังหวัดชุมพรจัด โครงการจำหน่ายสินค้าราคาถูกเพื่อประชาชนจังหวัดชุมพร ปี 2565 โดยเป็นการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ที่จำเป็นต่อการครองชีพ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันปาล์ม น้ำปลา ไข่ไก่ ข้าวสาร หมูเนื้อแดง ปลากระป๋อง ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน เป็นต้น เพื่อให้ประชาชนสามารถ ประหยัดค่าใช้จ่ายประจำวัน และเพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพได้เป็นการชั่วคราว โดยจัดจำหน่ายระหว่างวันที่ 25-27 มกราคม 2565 บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองชุมพร และหน้าที่ว่าการอำเภอหลังสวน จำหน่ายเพียง 3 วันเท่านั้น เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ค้ารายย่อย หรือร้านค้าทั่วไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคใต้","ชุมพร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชุมพร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125160417295"], [692,"จังหวัดสมุทรสงคราม จัดกิจกรรม ผู้ว่าฯ สัญจร ร่วมกันแก้ไขปัญหา และพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวจังหวัดสมุทรสงคราม สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ในสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19","วันนี้ (25 ม.ค.65) นายขจร ศรีชวโนทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมด้วย นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา นายกรกฎ วงษ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ นำหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ร่วมกิจกรรม ผู้ว่าฯ สัญจร ณ โครงการอัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์ อำเภออัมพวา ในรูปแบบเสวนา ประเด็น ส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดน้ำอัมพวากับความพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยว โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการ ที่เกี่ยวข้องร่วมเสวนาตอบข้อซักถาม จุดเด่นและจุดขายที่สำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวและการบริหารจัดการตลาดน้ำอัมพวา ช่องการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับมาตรฐาน SHA เพื่อสร้างภาพลักษณ์และสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว รวมทั้งการสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา รวมทั้งมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และมาตรฐานของปลอดภัย มาตรการความปลอดภัยในองค์กร
ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า การจัดกิจกรรม ผู้ว่าฯสัญจร เป็นการบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน ร่วมกันแก้ไขปัญหา และพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวจังหวัดสมุทรสงครามทั่วทุกพื้นที่ ให้สามารถดำรงชีพและสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ในสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อีกทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ระหว่างส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและองค์การภาคประชาชน ประชาชนในจังหวัดสมุทรสงคราม ตามบริบทและปัญหาในพื้นที่ที่สัญจรไปในแต่ละเดือน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่บริเวณสถานที่แห่งนี้ จึงเป็นเรื่องของการท่องเที่ยว พร้อมนำประเด็นข้อสรุปมาดำเนินการพัฒนาส่งเสริมการท่องเที่ยวตล่าดน้ำอัมพวาต่อไป จากนั้นได้ชมการทำน้ำตาลมะพร้าว สวนเกษตร ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของโครงการชัยพัฒนานุรักษ์
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","สมุทรสงคราม","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125153451233"], [693,"ตรัง ร้านขนมกล้วยทอดเจ้าตำนานเมืองกันตังยังต้องยอม ต้นทุนมาแพง จากที่เคยขายดีกลับเงียบเหงา เพราะลูกค้าต้องประหยัด ขณะเจ้าของร้านเผยตั้งแต่เนื้อหมูขึ้นราคาไม่ซื้อหมูกินมาสักพักแล้วยอมซื้อไก่กินแทน เพราะค่าใช้จ่ายเยอะต้องประหยัด","
วันนี้ (25 ม.ค.2565) ที่ร้านกล้วยทอดป้าฉุ้น ตั้งอยู่เลขที่ 41 ถนนสถลสถานพิทักษ์ ต.กันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง ตรงข้ามสถานีตำรวจภูธรกันตัง ซึ่งเป็นร้านขายกล้วยทอดเก่าแก่ที่เปิดมานาน 40 ปี ในทุก ๆวันจะมีลูกค้าแวะเวียนกันมาอุดหนุนอย่างไม่ขาดสาย ขายดีทุกวันมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท แต่ล่าสุดในปัจจุบันนี้จากสภาวะเศรษฐกิจต้นทุนสูงขึ้นทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่น้ำมันพืช แป้ง แก๊สที่จ่อกำลังจะขึ้นราคา ทำให้ทางร้านมีรายได้ไม่ถึง 5,000 และยังจำเป็นต้องลดปริมาณขนมกล้วยลงจากเดิม 7 ชิ้น 10 บาท ปรับลงมาเหลือ 5 ชิ้น 10 บ้าน จากที่เคยขายดีกลับเงียบเหงา เนื่องจากลูกค้ามีรายได้เท่าเดิมแต่ค่าครองชีพสูงขึ้น จะซื้อขนมกล้วย 10-20 บาทก็ต้องคิดแล้วคิดอีก
นางปวริศา ชูนิ่ม อายุ 45 ปี เจ้าของร้านรุ่นที่ 2 บอกว่า ร้านของเราเปิดมานานจนเข้าสู่รุ่นที่ 2 แล้วรุ่นของตน ส่วนรุ่นแม่เปิดมา 40 ปีแล้ว ตอนนี้แม่อายุ 84 ปี เราจะขายกล้วยทอด ชากาแฟ ในช่วงหลังๆก็มาเพิ่มกล้วยปิ้ง ซึ่งกล้วยทอดจะขาย 7 ชิ้น 10 บาท แต่ตอนนี้พอน้ำมันปาล์มปรับราคาขึ้นก็ต้องลดปริมาณกล้วยทอดลง เป็น 5 ชิ้น 10 บาท จากเดิมน้ำมันปาล์มราคา 280 ต่อ 1 ลังมี12 ถุง แต่ตอนนี้ราคาขึ้นมา 880 บาท ต่อวันจะใช้น้ำมันเยอะถึง1ลัง และยังมีแป้งราคาปรับขึ้น ส่วนแก๊สก็กำลังจะจ่อปรับราคาขึ้น ตอนนี้ยังราคา 1,105 บาท 48 โล ใช้ได้ 9 วันต่อหนึ่งวัน
ซึ่งตอนนี้ต้นทุนมาแพงขึ้นทุกอย่าง เราก็แจ้งลูกค้าก่อนว่าขอขึ้นนิดหน่อย จากน้ำแก้วละ 10 บาท ขอเป็นแก้วละ 12 บาท แต่ลูกค้าก็เข้าใจ ยังคงมีลูกค้ามาซื้ออยู่ จากเดิมจะได้กำไรเยอะในแต่ละวันขายได้ 5,000 กว่าบาท แต่ตอนนี้ได้ไม่ถึงแล้ว โดยที่ร้านเราจะขายทุกวันตั้งแต่ 10.00-16.00 น. ช่วงลูกค้าเริ่มเงียบ จากเมื่อก่อนจะขายหมดก่อนเวลา ตอนนี้ลูกค้าเงียบลง แต่ละวันจะเตรียมแป้งจากเดิม 9-10 กิโลกรัม ตอนนี้เตรียมไว้แค่ 6-7 กิโลกรัม แต่ก่อนขายหมดทุกวัน แต่ตอนนี้คือเงียบเลยบางวันของก็เหลือ ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดีเลย ของแพง คนไม่มีเงิน ตนคิดว่ารัฐบาลควรกระเตื้องต้องลงมาดูใกล้ชิดช่วงนี้ อยากให้รัฐบาลลงมาเดินสำรวจตลาดทุกวัน อยากให้มาเองแล้วจะรู้ว่ามันสุดๆ แล้ว
ทั้งนี้ ต้องบอกเลยว่าตอนนี้ที่บ้านไม่ซื้อหมูมากินแล้วหลังจากหมูมีราคาแพงมาก จากที่เคยซื้อมาเป็นประจำ ยอมซื้อไก่มากิน ไปตลาดเมื่อเห็นแผงหมูต้องเดินผ่านเลย เพราะค่าใช้จ่ายที่บ้านเยอะ ตอนนี้ก็ต้องประหยัดหน่อยแต่ก็ยังดีที่เราไม่ได้เช่าบ้าน หากเช่าบ้านด้วยคงแย่หนักกว่านี้
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125154938260"], [694,"สนง.พาณิชย์จังหวัดนราธิวาส ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบห้องเย็นที่เก็บเนื้อสุกรและเนื้อไก่ ในเขตอ.เมืองนราธิวาส เพื่อป้องกันการกักตุนสินค้า โดยเฉพาะช่วงใกล้เทศกาลตรุษจีน พร้อมเชิญชวนอุดหนุนสินค้าอุปโภค-บริโภค ราคาย่อมเยา ในตลาดยิ้มได้ ในวันที่ 26 -27 ม.ค.นี้ ณ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา อ.เมือง จ.นราธิวาส","สนง.พาณิชย์จังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบห้องเย็นที่เก็บเนื้อสุกรและเนื้อไก่ ในเขตอ.เมืองนราธิวาส เพื่อป้องกันการกักตุนสินค้า โดยเฉพาะช่วงใกล้เทศกาลตรุษจีน พร้อมเชิญชวนอุดหนุนสินค้าอุปโภค-บริโภค ราคาย่อมเยา ในตลาดยิ้มได้ ในวันที่ 26 -27 ม.ค.นี้ ณ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา อ.เมือง จ.นราธิวาส
วันที่ 25 ม.ค. 65 สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนราธิวาส ร่วมกับ ปศุสัตว์จังหวัดนราธิวาส และด่านกักกันสัตว์ ลงพื้นที่ตรวจสอบห้องเย็นที่เก็บเนื้อสุกรและเนื้อไก่ ในเขตอำเภอเมืองนราธิวาส จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ บริษัทมายด์ฟู้ด สาขานราธิวาส ถ.พิชิตบำรุง อ.เมือง จ.นราธิวาส ,ห้องเย็นวาณิช ถ.พนาสณฑ์ อ.เมือง จ.นราธิวาส และร้านสันติฟาร์ม ถ.สุริยะประดิษฐ์ อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อเป็นการป้องกันการกักตุนสินค้า โดยเฉพาะในช่วงใกล้เทศกาลตรุษจีนนี้ด้วย โดยผลการตรวจสอบและติดตามภาวะการจำหน่ายครั้งนี้ พบว่าผู้ประกอบการมีเอกสารถูกต้อง ไม่ปรากฏว่ามีการกักตุนสินค้าแต่อย่างใด รวมถึงมีการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม จังหวัดนราธิวาสเชิญชวนประชาชน ร่วมอุดหนุนสินค้าราคาประหยัด ในตลาดยิ้มได้ โดยจัดจำหน่ายสินค้าราคาย่อมเยา เช่น ผลผลิตการเกษตรในพื้นที่ ตลอดจนกลุ่มอาชีพต่างๆ อาทิ กลุ่มสินค้าโอทอป รวมไปถึงโครงการธงฟ้าราคาประหยัด และการจำหน่ายเนื้อสุกร ราคาควบคุมในกิโลกรัมละ 150 บาท ณ บริเวณ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส
โดยจัดจำหน่ายในทุกๆสัปดาห์ๆละ 2 วัน ได้แก่วันพุธและวันพฤหัสบดี ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 26 -27 มกราคม 2565 นี้ ตั้งแต่เวลา 15.00 - 18.00 น. เพื่อสร้างรอยยิ้มและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนในเบื้องต้น
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคใต้","นราธิวาส","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125155120261"], [695,"นายก อบจ.นราฯทุ่มงบ 38,569,000 บาท จัดสร้างแพขนานยนต์ เชื่อมความสัมพันธ์ไทย-มาเลเซีย ยกระดับการค้าชายแดน","
วันที่ 25 มกราคม 2565 เวลา 09.30 น. ที่ห้องโถง ชั้น 1 องค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส ตำบลลำภู อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานแถลงข่าวและลงนามสัญญาจ้างโครงการจัดสร้างแพขนานยนต์ ระหว่างนายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส ในนามองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส กับ นางสาวรัตปภา ภูนาถภัทรสิน กรรมการบริหารบริษัทมิทส์ดิสิชั่น จำกัด ร่วมลงนามในครั้งนี้โดยมีนายสังคม เกิดก่อ นายอำเภอตากใบ นายอรรณพ คำณานุรักษ์ ท้องถิ่นจังหวัดนราธิวาส และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามในครั้งนี้
ทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส ได้อนุมัติงบประมาณจัดสร้างแพขนานยนต์ ด่านตากใบ ซึ่งเป็นด่านทางน้ำระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซียที่มีการคมนาคมโดยใช้ แพขนานยนต์ การจะได้มาซึ่งแพขนานยนต์ลำใหม่นับว่าเป็นการพัฒนา ความพร้อมของพื้นที่เพื่อสร้างบรรยากาศสำหรับส่งเสริมการค้าการลงทุน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โครงข่ายคมนาคมขนส่ง และโลจิสติกส์เพื่อสร้างโอกาสในการขยายช่องทางการค้าเชื่อมโยงทั้งตลาดภายใน และระหว่างประเทศซึ่งส่งผลให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจังหวัดนราธิวาส และภูมิภาค โดยจังหวัดนราธิวาสมียุทธศาสตร์การพัฒนาที่มุ่งเน้นการส่งเสริมการค้า การลงทุน พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ และเมืองการค้าชายแดน ทั้ง 3 ด่าน ได้แก่ด่านชายแดนสุไหงโก-ลก บูเก๊ะตา และตากใบ สำหรับด่านตากใบ มีแม่น้ำ โก-ลกเป็นแม่น้ำกั้นพรมแดนระหว่างไทยกับมาเลเซีย ซึ่งการจัดสร้างแพขนานยนต์ลำใหม่นับเป็นการสอดรับนโยบายการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน และระบบโลจิสติกส์ เป็นการขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม อันจะนำประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนทั้งฝั่งไทยและมาเลเซียที่ต้องได้รับการพัฒนา ให้ดีขึ้น ทั้งนี้เพื่อยกระดับการค้าชายแดน และความร่วมมือในมิติต่างๆให้ดีขึ้นอีกด้วย
ด้านนายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส เผยว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส ได้อนุมัติใช้จ่ายเงิน สะสมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จำนวน 38,569,000 บาท ในการจัดสร้างแพขนานยนต์ใหม่ เพื่อทดแทนแพขนานยนต์ลำเดิม ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 ซึ่งมีสภาพชำรุดทรุดโทรมเป็นอย่างมาก แพขนานยนต์ลำใหม่ที่จะจัดสร้าง มีขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว 21 เมตร ลึก 1.55 เมตร สามารถ บรรทุกผู้โดยสารได้ จำนวน 30 คน บรรทุกยานพาหนะ (รถยนต์) ขนาด 2,500 กิโลกรัมต่อวัน ได้จำนวน 4 คัน ให้บริการแก่ประชาชนในการ เดินทางระหว่างประเทศ การขนส่งสินค้า และผลผลิตทางการเกษตรข้ามฟากระหว่างด่านชายแดนตากใบ หมู่ที่ 1 ตำบลเจ๊ะเห ไปยังด่านเป็งกาลันกูโบร์ รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที
ปัจจุบันด่านพรมแดนตากใบ ได้เปิดให้ขนส่งสินค้าผ่านแพขนานยนต์ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาสข้ามไป-มา ระหว่าง 2 ประเทศ เพื่อหวังขยายมูลค่าการค้าชายแดนให้มีการเติบโต หากเปรียบเทียบมูลค่าการค้าที่เกิดจากการขนส่งผ่านแพขนานยนต์ อาจจะมีมูลค่าน้อยกว่าการขนส่งทางถนนหรือทางอากาศแต่สิ่งที่ได้มากกว่ามูลค่าการค้า คือ การให้บริการในการสัญจรของประชาชน ในพื้นที่เพื่อไปมาหาสู่ระหว่างไทย-มาเลเซีย แพขนานยนต์ลำใหม่นี้เป็น แพขนานยนต์ที่ได้มาตรฐาน และมีความปลอดภัย ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส ตั้งใจมอบให้พี่น้องประชาชนจังหวัดนราธิวาส รวมทั้งชายไทยและต่างชาติได้ใช้สัญจรไป-มา เพื่อให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในการโดยสารแพขนานยนต์ โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัด นราธิวาสมุ่งมั่นที่จะพัฒนาองค์กรให้มีประสิทธิภาพเพื่อการจัดบริการ สาธารณะที่ยั่งยืน ครอบคลุมทุกมิติ และก่อให้เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวมต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคใต้","นราธิวาส","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125155528268"], [696,"คณะนักศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 64 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ลงพื้นที่รับฟังยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง ปัญหาชายแดนไทยเมียนมา และการค้าชายแดน ของจังหวัดตาก","วันนี้ (25 ม.ค.65) เวลา 10.00 น. ที่ห้องเวียงปิง ชั้น 4 โรงแรมเวียงตากริเวอร์ไซด์ อำเภอเมือง จังหวัดตาก นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เป็นประธานกล่าวต้อนรับคณะนักศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 64 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ในโอกาสเดินทางมาดูกิจการและศึกษาภูมิประเทศภาคเหนือ โดยมี พลตรี เจนสิทธิ์ คนศิลป์ รองผู้อำนวยการวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ นำคณาจารย์และคณะนักศึกษา วปอ.64 เดินมาดูงานในครั้งนี้
ด้วยวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ มีกำหนดนำนักศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 64 พร้อมด้วยคณาจารย์และเจ้าหน้าที่ เดินทางมาดูกิจการและศึกษาภูมิประเทศภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 24-30 มกราคม 2565 รวม 7 วัน ซึ่งมีกำหนดดูกิจการฯ ในพื้นที่จังหวัดตาก ในวันนี้
โดยจังหวัดตาก ได้นำเสนอข้อมูลในรูปแบบบรรยายสรุป เรื่อง \"ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง ปัญหาชายแดนไทยเมียนมาในพื้นที่จังหวัดตาก\" โดย พันเอกประสาน เห็นประเสริฐ รองผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร และเรื่อง \"การค้าชายแดน\" โดย หอการค้าจังหวัดตาก หลังจากนั้น เป็นการซักถามประเด็นข้อสงสัย และความคิดเห็นเพิ่มเติมในเรื่องที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ คณะนักศึกษา วปอ. 64 จะได้นำข้อมูลจากการลงพื้นที่ติดตามสภาวการณ์ในพื้นที่ต่างๆ ของภาคเหนือ ที่สำคัญในเชิงลึกไปเป็นข้อมูลในการจัดทำข้อเสนอแนะฯ ในห้วงท้ายของหลักสูตรต่อไป
สำหรับวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หรือ วปอ. เป็นสถาบันการศึกษาชั้นสูงของประเทศ ขึ้นตรงกับสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กองบัญชาการกองทัพไทย กระทรวงกลาโหม มีหน้าที่จัดการศึกษาหลักสูตรเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งชาติและการป้องกันราชอาณาจักร ให้แก่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน พนักงานองค์การของรัฐ รัฐวิสาหกิจ รวมทั้งเอกชน โดยฝึกปฏิบัติการวางแผนและนโยบายระดับชาติ การพัฒนายุทธศาสตร์ชาติ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคตะวันตก","ตาก","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตาก","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125162148308"], [697,"จ.ตาก แถลงข่าวการจัดงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจ ระหว่างผู้ประกอบการของไทย-ลาว-เมียนมา ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชายแดนภาคเหนือ เพื่อขับเคลื่อนกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างมูลค่าการส่งออกสินค้าชายแดนในอนาคต","วันนี้ (25 ม.ค.65) เวลา 14.00 น. ที่ห้องเวียงวัง โรงแรมเวียงตาก ริเวอร์ไซค์ อำเภอเมือง จังหวัดตาก นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เป็นประธานการแถลงข่าวงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจชายแดนภาคเหนือ ร่วมกับ นางสาวปาริชาติ พงค์พันเทา พาณิชย์จังหวัดตาก สำหรับการจัดงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการของไทย-ลาว-เมียนมา ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชายแดนภาคเหนือ เพื่อขับเคลื่อนกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างมูลค่าการส่งออกสินค้าชายแดนในอนาคต โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมการแถลงข่าวในครั้งนี้
ด้วยกระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัด กำหนดจัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชายแดนภาคเหนือขึ้น เพื่อส่งเสริมและพัฒนาทั้งด้านบุคลากร การสร้างอาชีพ การเพิ่มศักยภาพการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการภาคเหนือพัฒนาศักยภาพในการผลิตสินค้าและบริการของตนเองสู่ตลาดการค้าชายแดน - ผ่าน
แดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคาดว่าจะช่วยสร้างความคึกคักในตลาด เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ การค้า และสร้างรายได้ให้กับชุมชน หลังจากที่ประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 มายาวนาน
สำหรับงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจชายแดนภาคเหนือ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-6 กุมภาพันธ์ 2565 ณ บริเวณลานกิจกรรม ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก โดยกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การแสดงและจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการภาคเหนือ 17 จังหวัด จำนวน 60 คูหา , ส่วนเจรจาธุรกิจ โดยมีผู้ประกอบการธุรกิจ ผู้ส่งออก-นำเข้าสินค้าจาก สปป. ลาว และเมียนมา เข้าร่วมกิจกรรมเจรจาจับคู่ และกิจกรรมส่งเสริมการขาย รวมทั้งการแสดงศิลปวัฒนธรรมความบันเทิงตลอดการจัดงาน
ทางด้าน นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการสนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยง และขยายมูลค่าการค้า การลงทุนของประเทศเพื่อนบ้านและภาคเหนือ อาทิ การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ (แม่สอด, เชียงราย) การสร้างรถไฟความเร็วสูง การขยายรถไฟรางคู่ การสร้างสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ เป็นต้น ถือเป็นการพัฒนาและยกระดับการแข่งขันให้ภาคเหนือของประเทศเกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าอย่างยั่งยืน
โอกาสนี้ จึงได้ขอเชิญชวนประชาชน นักท่องเที่ยว และนักธุรกิจ และผู้ที่สนใจร่วมงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจ ระหว่างวันที่ 2-6 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างมูลค่าการส่งออกสินค้าชายแดน ต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคตะวันตก","ตาก","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตาก","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125162502310"], [698,"ผู้ว่าฯ นครพนม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าในตลาดสดและตรวจเยี่ยมโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน","วันนี้(25 ม.ค.65) นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยพาณชิย์จังหวัดนครพนม ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ปศุสัตว์จังหวัดนครพนม ด่านกักกันสัตว์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าในตลาดสดเทศบาลเมืองนครพนม และตรวจเยี่ยมโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน ด้วยความห่วงใยพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครพนม รวมถึงพ่อค้าแม่ค้า ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการปรับตัวสูงขึ้นของราคาสินค้าอุปโภค บริโภค
ซึ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้างทั่วประเทศ รวมทั้งประชาชนในจังหวัดนครพนม เพื่อให้กำลังใจและคำแนะนำผู้ประกอบการค้าในการปรับวิธีการจำหน่ายให้สอดรับกับวิถีชีวิตของผู้คนในสถานการณ์ปัจจุบันและกำชับผู้ประกอบการให้ปิดป้ายแสดงราคาให้ถูกต้อง ชัดเจน ไม่ฉวยโอกาสขึ้นราคาหรือจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควร
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","นครพนม","สวท.นครพนม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125181407404"], [699,"อำเภอเมืองหนองบัวลำภู บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำรวจการกักตุนเนื้อสุกรในพื้นที่","อำเภอเมืองหนองบัวลำภู บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดชุดปฏิบัติการเพื่อปฎิบัติหน้าที่ในการสำรวจการกักตุนเนื้อสุกรในพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งมี กอ.รมน. จังหวัดหนองบัวลำภู สรรพากรจังหวัดหนองบัวลำภู ปศุสัตว์จังหวัดหนองบัวลำภู สภ.เมืองหนองบัวลำภู ฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองหนองบัวลำภูและสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองหนองบัวลำภู ออกตรวจที่บริเวณฟาร์มณัฐพงษ์ จุดที่มีการชำแหละเนื้อหมูส่งขายในเขตพื้นที่อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จากการซักถามในประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับราคาเนื้อหมู ที่มีการขยับราคาขึ้นสูงผิดปกติและได้ตรวจราคาเนื้อหมูที่ห้างแม็คโครสาขาหนองบัวลำภู ไม่พบปัญหาเนื้อสุกรแพงกว่าปกติ
","25/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","หน่วยงานสำนักข่าว","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125160548296"], [700,"พาณิชย์จังหวัดตราดร่วมกับอำเภอเมืองตราด และปศุสัตว์อำเภอเมืองตราดลงพื้นที่ตรวจสอบห้องเย็นสำหรับแช่เนื้อสุกรในพื้นที่อำเภอเมืองตราด","วันนี้ (25 ม.ค.65) นางวรัญญา ถนอมพันธ์ุ พาณิชย์จังหวัดตราด ร่วมกับ นายพีระ เอี่ยมสุนทร นายอำเภอเมืองตราด และ นายคุณาวุฒิ ธวันทา ปศุสัตว์อำเภอเมืองตราด ได้ร่วมกันลงพื้นที่ในการตรวจสอบห้องแช่เย็น สำหรับการแช่เนื้อสุกรในเขตพื้นที่ของอำเภอเมืองตราดประกอบไปด้วยห้องแช่เย็นกิจเจริญฟาร์ม แบทาโกรสาขาตราด ร้านสมนึก
สำหรับการตรวจห้องเย็นในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของทางกระทรวงพาณิชย์ ในการตรวจสอบห้องเย็นในทุกพื้นที่ เพื่อป้องกันการกักตุนเนื้อสุกร ซึ่งเป็นหนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้เนื้อสุกรราคาสูงขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งผลการตรวจในครั้งนี้ยังไม่พบผู้กระทำผิดในเรื่องของการกักตุนเนื้อสุกร ในพื้นที่ของอำเภอเมืองตราด
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคตะวันออก","ตราด","สวท.ตราด","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125161116303"], [701,"ของเครื่องเซ่นไหว้ เริ่มปรับราคาเล็กน้อย รับเทศกาลตรุษจีน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา","
วันที่ 25 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวออกสำรวจราคาอาหารสดและร้านเครื่องเซ่นไหว้ ก่อนจะถึงเทศกาลตรุษจีนประจำปี 2565 โดยที่ตลาดเจ้าพรหม ตำบลหอรัตนชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีบรรยากาศการจำหน่ายสินค้าต่างๆ ยังไม่คึกคัก
นางประคองจิต เพชรเรือนทอง แม่ค้าไก่สดในตลาด เปิดเผยว่า ไก่สดได้มีการปรับราคาขึ้น ครั้งละ 1-2 บาท จนปัจจุบันปรับเป็น 10 บาทต่อกิโลกรัม เช่น ราคาไก่ตัวอยู่ที่ 80 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิม 70 บาท เครื่องใน กิโลกรัมละ 100 บาท น่องกิโลกรัมละ 90 บาท ปีกไก่ กิโลกรัมละ 90 บาท อกไก่ กิโลกรัมละ 100 บาท ขาไก่ กิโลกรัมละ 120 บาท ซึ่งเป็นการปรับราคาขึ้นมาจากเดิมอย่างละ 10 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนยอดการจำหน่ายไก่ไม่ได้เพิ่มมากขึ้นแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าจะราคาถูกกว่าเนื้อหมู
ส่วนบรรยากาศที่ร้านเครื่องเซ่นไหว้อั้งเซี่ยงเฮง ตำบลหอรัตนชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดย นายวันชัย เกิดสกุล เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ในปีนี้ราคาของเซ่นไหว้ต่าง ๆ ยังไม่มีการปรับราคามากนัก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงสถานการณ์ของโควิด-19 ทำให้มีประชาชนมาเลือกซื้อน้อยลง ซึ่งได้แต่หวังว่าใกล้วันตรุษจีนประชาชนจะมาเลือกสินค้ามากขึ้น
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","พระนครศรีอยุธยา","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125164542326"], [702,"รองผูู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นำทีมลงพื้นที่ตรวจสถานประกอบการหลังราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้น","วันนี้ ( 25 มกราคม 2565 ) นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ มอบหมายให้นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย พาณิชย์จังหวัดกระบี่ ผู้แทน กอ.รมน.จว.กระบี่ ผู้แทนตำรวจภูธรเมืองกระบี่ ผู้แทนสำนักงานสาขาชั่งตวงวัด เขต 3-6 กระบี่ สำนักงานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ประจำจังหวัดกระบี่ ผู้แทนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ ผู้แทนองค์การบริหารส่วนตำบลไสไทย และเทศบาลตำบลกระบี่น้อย ลงพื้นที่ตรวจสอบสินค้าอุปโภคบริโภค อาทิ น้ำมัน ไข่ไก่ เนื้อหมู เนื้อไก่ น้ำตาล ผัก ผลไม้ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ณ ห้างสรรพสินค้าแม็คโคร ห้างบิ๊กซีกระบี่ และห้างเทสโก้โลตัส
เนื่องจากสถานการณ์ปัญหาค่าครองชีพครัวเรือนในปัจจุบันมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจมีการปรับราคาสินค้าอุปโภค บริโภค ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนทุกระดับ และเพื่อไม่ให้ผู้ประกอบธุรกิจมีการจำหน่ายสินค้าเกินราคา หรือ กักตุนสินค้า และปฏิเสธการจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ ผลการตรวจสอบปรากฏว่า ผู้ประกอบการมีการปรับราคาสินค้าบางชนิด ซึ่งราคาสินค้าเป็นไปตามกลไกตลาด ผู้ประกอบการมีการแสดงป้ายราคาเรียบร้อย และสินค้าบางรายการมีการจำกัดจำนวนการซื้อสำหรับผู้บริโภค ทางผู้ประกอบการได้มีป้ายแจ้งให้ผู้บริโภคทราบว่าสินค้าชนิดนี้ผู้บริโภคสามารถซื้อได้คนละไม่เกินเท่าไหร่ และไม่พบว่าผู้ประกอบธุรกิจมีการกักตุนสินค้าแต่อย่างใด จากการตรวจสอบได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการเป็นอย่างดี จากการออกตรวจสอบสินค้า ไม่พบการกักตุนสินค้า ซึ่งราคาสินค้าเป็นไปตามกลไกตลาด
รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึง หรือลดราคาสินค้าที่จำเป็น เพื่อช่วยเหลือประชาชน พร้อมกำชับให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 อย่างเคร่งครัด โดยปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าให้ชัดเจน ห้ามจำหน่ายสินค้าในราคาแพงเกินสมควร ห้ามกักตุนหรือปฏิเสธการจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพของประชาชน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคใต้","กระบี่","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125164401324"], [703,"เกษตรอำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ทดลองเปิดตลาดเกษตรกรอำเภอย่านตาขาว ณ ตลาดศรีตรัง ตำบลย่านตาขาว","วันนี้ (25 ม.ค.65) นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอำเภอย่านตาขาว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอย่านตาขาว? ร่วมกับคณะกรรมการตลาดเกษตรกรอำเภอย่านตาขาว ทดลองเปิดตลาดเกษตรกรอำเภอย่านตาขาว ณ ตลาดศรีตรัง ตำบลย่านตาขาว อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง โดยเริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เวลา? 11.00 น.? เป็นต้นไป ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนเต้นท์ โต๊ะ ผ้ากันเปื้อน หมวก และถุงบรรจุสินค้า จากจังหวัดตรัง โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง
สำหรับจุดประสงค์ในการตั้งตลาดเกษตรกรอำเภอ เพื่อพัฒนาตลาดให้เป็นที่จำหน่ายสินค้าหลักของเกษตรกรและกลุ่มสถาบันเกษตรกรในพื้นที่อำเภอย่านตาขาว? และภาคีเครือข่าย? ?โดยในการจัดตลาดครั้งนี้ฯ นำสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์จากสินค้าเกษตร อาหารแปรรูป เครื่องดื่มสมุนไพร และต้นไม้ มาจำหน่ายจำนวน 14 ร้านค้า โดยตลาดเกษตรกรอำเภอย่านตาขาว? กำหนดเปิดอย่างเป็นทางการในวันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 (ตลาดเกษตรกรอำเภอย่านตาขาว เปิดจำหน่ายในวันอังคาร และวันศุกร์ เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป ณ ตลาดศรีตรัง ตำบลย่านตาขาว อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง)
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125170903338"], [704,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดมหาสารคาม ลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบการ เพื่อเป็นการป้องปรามมิให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า ช่วงใกล้เทศกาลตรุษจีน","
วันนี้ (25 ม.ค.65) นายเจนณรงค์ ศรีอินทร์ พาณิชย์จังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมหาสารคาม ตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดมหาสารคาม ลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบการ ณ ห้างสรรพสินค้าในเขตพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม เพื่อเป็นการป้องปรามมิให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า ให้ประชาชนสามารถเปรียบเทียบคุณภาพ ชนิด และ ปริมาณกับราคาสินค้าได้สะดวก เป็นการดูแลผู้บริโภคและป้องปรามไม่ให้ผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าเกินสมควร ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นการเอารัดเอาเปรียบประชาชน ในช่วงเทศกาลตรุษจีน
นายเจนณรงค์ ศรีอินทร์ พาณิชย์จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ในวันนี้ได้ออกติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน โดยภาพรวมสินค้าส่วนใหญ่ราคาจำหน่ายยังคงทรงตัว ยกเว้นหมู ที่ยังอยู่ในระดับค่อนข้างจะสอดคล้องกับต้นทุนของหมูมีชีวิต โดยยอดการจำหน่ายเนื้อหมูลดลงประมาณ 20-30% เนื่องจากว่าผู้บริโภคหันไปบริโภคสินค้าอื่นทดแทน ในส่วนของผู้ประกอบการเองก็ได้ออกแพคเกจใหม่ๆมาหลายรายการ ให้ผู้บริโภคได้เลือก นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารแช่แข็งเก็บไว้บริการให้กับผู้บริโภคที่จะใช้ในช่วงตรุษจีน และได้มีการกำหนดแผนในเรื่องของการจำหน่ายประเภทอาหารสด ไม่ให้ขาดตลาด ฝากถึงผู้บริโภค ให้เลือกซื้อสินค้าที่มีการติดป้ายแสดงราคา และก็ควรตัดสินใจเลือกหลายๆที่ ทั้งจำหน่ายปลีกทั่วไป เพื่อเป็นการลดค่าครองชีพและประหยัดค่าใช้จ่าย ถ้าหากไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถร้องเรียนไปที่สายด่วน 1569 หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมหาสารคาม
","25/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","มหาสารคาม","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125180123389"], [705,"เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เชิญชวนร่วมประกวดตั้งชื่อภาษาจีนให้ เสือโคร่งสีทอง ต้อนรับตรุษจีน","เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เชิญชวนร่วมประกวดตั้งชื่อภาษาจีนให้
เสือโคร่งสีทอง ต้อนรับตรุษจีน
เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เชิญชวนร่วมประกวดตั้งชื่อภาษาจีนให้กับ
เสือโคร่งสีทอง จำนวน 3 ตัว ลุ้นรับรางวัลสุดพิเศษ ต้อนรับตรุษจีน
นายสายสิทธิ์ เจตสิกทัต ปฏิบัติหน้าที่แทน
ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร
เชิญชวนร่วมตั้งชื่อภาษาจีนที่มีความหมายมงคลให้ เสือโคร่งสีทอง
สมาชิกใหม่ เพศเมีย จำนวน 3 ตัว ซึ่งเกิดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564
เกิดจาก พ่อเครสเปรสโซ่ และ แม่คริสต้า ต้อนรับตรุษจีน
ลุ้นรับรางวัลสุดพิเศษ จำนวน 1 รางวัล ได้แก่
บัตรเข้าชมเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีฟรี 4 ใบ และแมสก์ลายกรงเล็บน้องเสือ 4
ชิ้น จากเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยสามารถร่วมตั้งชื่อ ได้ที่ Facebook :
เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี Chiang Mai Night Safari
ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 และประกาศผลวันที่ 1
กุมภาพันธ์ 2565
ปัจจุบันเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี มีเสือโคร่งสีทองทั้งหมด 5 ตัว
โดยลูกเสือโคร่งสีทองทั้ง 3 ตัว ขณะนี้อยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่
ในส่วนจัดแสดงอาคาร Tiger world
โดยก่อนหน้านี้ได้มีการประกวดตั้งชื่อให้น้อง ๆ ทั้ง 3 ตัว ได้ชื่อ น้องฮันนี่,
น้องเลมอน และน้องชูการ์ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมความน่ารักของ 3
เสือโคร่งสีทอง ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 19.00 น. เสือโคร่งสีทอง
ถือเป็นหนึ่งในสัตว์หายากที่สุดในโลก
ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ โทร. 053-999000
หรือทุกช่องทางโซเชียลมีเดีย Facebook : เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี Chiang
Mai Night Safari, LineOA : @nightsafari, Tiktok และ IG :
chiangmainightsafari
ชุมพรเตรียมเปิดงานรักษ์ชุมพรเที่ยวชุมพรที่เนินทรายงามรับการท่องเที่ยววิถีใหม่ \"New Normal\"
วันที่ 25 มกราคม 2565 เวลา 16.30 น. นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานการแถลงข่าวการจัดงาน \"รักษ์ชุมพร เที่ยวชุมพร ณ ชุดชมจันทร์ @ เนินทรายงาม\" โครงการพัฒนาเนินทรายงาม (Sand Dunes) ท่องเที่ยวเชิงนิเวศตามเส้นทางการท่องเที่ยว Scenic Route กิจกรรมที่ 5 การจัดกิจกรรมเพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว โดยมี ว่าที่ร้อยเอกสันติพงศ์ บุลยเลิศ ท่องเที่ยวกีฬาจังหวัดชุมพร, นางอัจจนา หอมละออ ประธานอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร, นายจาตุพจน์ ไกรมาศ ผู้แทนจากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) และนายทรงสิทธิ์ พุ่มศรี นายก อบต.ปากคลอง ร่วมกันแถลงข่าว ณ ร้านภูผาหน้าเล ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร
โดยกิจกรรมงาน \"รักษ์ชุมพร เที่ยวชุมพร ณ ชุดชมจันทร์ @ เนินทรายงาม\" จัดขึ้นเพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเนินทรายงาม ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศต้นแบบ รองรับการท่องเที่ยววิถีใหม่ New Normal ที่จะสอดคล้องกับแผนการพัฒนาเมือง พัฒนาบุคลากร และผู้ประกอบการให้มีความรู้ในการให้บริการด้านการท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้เนินทรายงามเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพระดับโลกอย่างยั่งยืนได้ในอนาคต
นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมและนำเสนอศิลปวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของจังหวัดชุมพรสู่สาธารณชนอีกด้วย ทั้งนี้ เนินทรายงาม (Sand Dune) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของจังหวัดชุมพร ตั้งอยู่ที่อำเภอปะทิว เป็นเนินทรายที่มีความยาวและมีความสูงที่สุดในประเทศไทย มีเนื้อที่กว้างขวางถึง 2,000ไร่ ความยาว 10 กิโลเมตร มีจุดสูงสุดยอดเนินทรายในบางจุดสูงถึง 30 เมตร จากระดับน้ำทะเล นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งพันธ์พืชเฉพาะถิ่น ที่สามารถเจริญเติบโตได้ในระบบนิเวศป่าเนินทรายเท่านั้น เหมาะกับการเป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านพันธ์ไม้ นอกจากนี้เนินทรายงาม (Sand Dune) ยังอยู่ในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก (Thailand Riviera) อีกด้วย
สำหรับ งาน \"รักษ์ชุมพร เที่ยวชุมพร ณ ชุดชมจันทร์ @ เนินทรายงาม\" จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 -16 กุมภาพันธ์ 2565 โดยภายในจะประกอบด้วย การจัดแสดงประติมากรรมทรายขนาดใหญ่ รูป \"ฉลามวาฬ\" ขนาดความยาวฐาน 10 เมตร โดยทีมปั้นทรายชุดแรกของประเทศไทย ที่เข้าร่วมมหกรรมประติมากรรมปั้นทรายโลก พร้อมจัดแข่งขันปั้นประติมากรรมทราย ในหัวข้อ \"โลกทะเลชุมพร\" ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวม 19,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ, การแข่งขันจักรยานเส้นทาง Scenic Route เริ่มจากโครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ-เนินทรายงาม ระยะทาง 75 กิโลเมตร ชิงเงินรางวัล 14,000 บาท, การจัดเสวนาภายใต้หัวข้อ \"Festival Economy สร้างความยั่งยืนให้เมืองและชุมชนผ่านการจัดงานเทศกาล เพื่อยกระดับเทศกาลไทยสู่ระดับนานาชาติ โดย ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์, ผู้แทนจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร และผู้แทนจากสำนักงานจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.), การออกร้านผลิตภัณฑ์โอทอปขึ้นชื่อของจังหวัดชุมพร และการสาธิตเมนูขึ้นชื่อของภาคใต้และจังหวัดชุมพร ตลอดจนการแสดงบนเวที โดยศิลปินชื่อดัง พร้อมทั้งการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน จากนักแสดงในท้องถิ่น อาทิระบำไก่ชน เป็นต้น ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผู้เข้าร่วมงานจะต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็มด้วน
","25/1/2022","ภาคใต้","ชุมพร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชุมพร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125213121495"], [707,"จังหวัดมุกดาหารแถลงข่าวโครงการส่งเสริมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดมุกดาหารเที่ยวมุกสุขทั้งปี ตรุษจีนมุก#2 ประจำปีงบประมาณ 2565","วันที่ 25 มกราคม 2560 5 เวลา 17.00 น นายเฉลิมพล มั่งคั่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารมอบหมายให้นายบุญช่วย น้อยสันเทียะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารเป็นประธานในการแถลงข่าวโครงการส่งเสริมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดมุกดาหาร เที่ยวมุกสุขทั้งปี ตรุษจีนมุก#2 ประจำปีงบประมาณ 2565 โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าวประกอบด้วย ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครพนม ผู้แทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร นายกสมาคมคนไทยเชื้อสายเวียดนาม ประธานมูลนิธิการกุศลมุกดาหาร และนายกสมาคมเมืองสามธรรม ร่วมกันแถลงข่าว เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดมุกดาหารให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดมุกดาหาร โดยกำหนดจัดกิจกรรมระหว่างวันที่ 30 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ 2565 ณ บริเวณศาลหลักเมืองมุกดาหาร ศาลเจ้าฟ้ามุงเมือง และศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้อง ถนนสองนางสถิตย์ ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมืองฯ จ.มุกดาหาร
กิจกรรมที่น่าสนใจภายในงาน ตรุษจีนมุก#2 คือการเปิดเส้นทางบูชาศาลบ้านศาลเมือง ได้แก่ ศาลหลักเมือง, ศาลเจ้าฟ้ามุมเมือง และศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้อง ในลักษณะ ผู้ว่าพาไหว้ พร้อมกิจกรรมโชว์ฝูงสิงโตเชิด จำนวน 74 ตัว ร้าน อันเกิม ฟู๊ดแกลอรี่ พิพิธภัณฑ์มีชีวิต อาหารเวียดนาม จัตุรัสเวียดนาม ใน Concept ลิตเติ้ลฮอยอัน จัตุรัสจีน ที่ประดับตกแต่งแบบจีนโบราณ ที่บริเวณแยกโรงแรมฮั่วนำ จัตุรัสไทยประดับโคมตุงสีเหลืองแดง นิทรรศการจากชมรมถ่ายภาพมุกดาหาร และกิจกรรมบนเวทีกลางบริเวณใกล้กับศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้อง
จึงขอเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหารและนักท่องเที่ยวที่สนใจ เข้าเที่ยวชมกิจกรรมส่งเสริมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวมุกดาหาร เที่ยวมุกสุขทั้งปี ตรุษจีนมุก#2 ประจำปีงบประมาณ 2565 ระหว่างวันที่ 30 มกราคม ถึง 1 กุมภาพันธ์ 2565 ตามสถานที่ดังกล่าว
","25/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","มุกดาหาร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125214805501"], [708,"ปชส.เลย สานสัมพันธ์เครือข่ายประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว สร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง","
ที่ห้องประชุมเอราวัณ โรงแรมฟอร่า ฮิลล์ รีสอร์ท อำเภอเมืองจังหวัดเลย นายดำรงค์ สิริวิชย อิ่มวิเศษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานเปิดโครงการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดเลย กิจกรรมสร้างพัฒนาและรักษาเครือข่ายการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว โดยมี นางทรงศิริ แก้วคำ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเลย หัวหน้าส่วนราชการ เครือข่ายประชาสัมพันธ์ ร่วมกิจกรรม
นายดำรงค์ สิริวิชย อิ่มวิเศษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า การประชาสัมพันธ์มีความสำคัญมากกับทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะในโลกยุกต์ดิจิทัล และการมีเครือข่ายประชาสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ ยิ่งจะช่วยสร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร นโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ของจังหวัด สู่พี่น้องประชาชนและกลุ่มเป้าหมาย สื่อมวลชนยังมีอิทธิพลต่อการพัฒนาด้านต่างๆ อยู่เสมอ ในยุกต์โลกไร้พรมแดน (Goverization ) สื่อมวลชนจึงมีอิทธิพลสูงต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเป็นอย่างมาก และหอกระจายข่าวเป็นสื่อที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่เป็นอย่างดี เมื่อสื่อมีความสำคัญ คนสื่อสารก็มีความสำคัญ และเนื้อหายิ่งมีความสำคัญ เราในฐานะผู้ใช้สื่อจะมีวิธีการอย่างไร เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งจังหวัดเลยเรามียุทธศาสตร์การพัฒนาว่า \"เมืองน่าอยู่ เมืองแห่งการท่องเที่ยว การค้าและการลงทุนภายใต้การพัฒนาที่ยั่งยืน รายได้หลักมาจากการท่องเที่ยวและภาคการเกษตร การท่องเที่ยวจะช่วยสร้างเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับชุมชนเป็นอย่างมาก ด้วยความพร้อมทางด้านสถานที่ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม ที่มีความพร้อมสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดเลยเป็นจำนวนมาก จึงขอฝากเครือข่ายประชาสัมพันธ์ช่วยสร้างการรับรู้ เข้าใจ ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์สู่กลุ่มเป้าให้ได้รับประโยชน์สูงสุดต่อไป
นอกจากนี้ จังหวัดเลยยังเป็นจังหวัดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เนื่องจากมีทรัพยากรและศักยภาพทางการท่องเที่ยว เป็นสถานที่ทางธรรมชาติ เช่น ป่าไม้ ภูเขา ถ้ำ น้ำตก แม่น้ำ และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เช่น บ้านไม้เรือนเก่าเชียงคาน สกายวอล์คเชียงคาน มีสถานที่ท่องเที่ยวด้านศาสนาและวัฒนธรรม อีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้น การจัดกิจกรรมสร้างพัฒนาและรักษาเครือข่ายการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว จึงมีความจำเป็นเป็นอย่างยิ่ง ในการเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างหน่วยงานและทุกๆ องค์กร เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนงานด้านการประชาสัมพันธ์ ตลอดจนการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและการเป็นเจ้าบ้านที่ดีให้นักท่องเที่ยวโดยทั่วไปได้รับทราบ โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะนี้ สื่อมวลชน นักประชาสัมพันธ์ มีความสำคัญในการสร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจ ในการเฝ้าระวัง การระงับยับยั้งป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 มากที่สุด จึงขอฝากทุกท่านได้ช่วยกันสื่อข่าวให้ประชาชนได้รับทราบและถือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างจริงจังและต่อเนื่อง หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้เข้าร่วมสัมมนาฯ ในครั้งนี้ จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง ในความร่วมมือด้านการเป็นเครือข่ายประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดเลย และร่วมกันขับเคลื่อนให้จังหวัดเลยเป็นเมืองน่าอยู่ เมืองแห่งการท่องเที่ยวและการลงทุน ภายใต้การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
นางทรงศิริ แก้วคำ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเลย กล่าวว่า การจัดกิจกรรมสร้างพัฒนาและรักษาเครือข่ายประชาสัมพันธ์ ตามโครงการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดเลยในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากจังหวัดเลย เพื่อพัฒนาและรักษาเครือข่ายสื่อบุคคลที่มีอยู่ ให้เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีทักษะและประสบการณ์ ในการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารด้านการเฝ้าระวัง ป้องกันระงับยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รวมทั้งเป็นการเพิ่มช่องทางการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว การรับ-ส่ง ข่าวสาร ให้กว้างขวางและครอบคลุมทุกหน่วยงาน ทุกพื้นที่ของจังหวัดเลย โดยกำหนดจัดเป็น 2 รุ่น รุ่นละ 50 คน รวม 2 รุ่น จำนวน 100 คน ผู้เข้าอบรมรุ่นที่ 2 ประกอบด้วย สื่อวิทยุในพื้นที่จังหวัดเลย ผู้ดูแลหอกระจายข่าว อาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านและชุมชน
ทั้งนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ย้ำถึงการประชาสัมพันธ์ในเรื่องไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อให้ประชาชนได้รับข่าวสารที่ถูกต้องพร้อมทั้งกำชับให้ใช้มาตรการ VUCA (วูก้า) เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ในเขตพื้นที่จังหวัดเลย โดยแบ่งออกเป็น 4 ตัว ได้แก่
V - Vaccine ฉีดครบ ลดป่วยหนัก
U - Universal Prevention ป้องกันตัวเองตลอดเวลา ห่างไกลจากโควิด
C - COVID Free Setting สถานที่บริการพร้อม ผู้ให้บริการฉีดวัคซีนครบ ตรวจ ATK ทุกสัปดาห์
A - ATK (Antigen test kit) พร้อมตรวจเสมอเมื่อใกล้ชิดคนติดเชื้อ หรือมีอาการทางเดินหายใจ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","เลย","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเลย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125225016509"], [709,"สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดยโสธร ขับเคลื่อนยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวและการค้าและสู่สากล","วันที่ 25 มกราคม 2565 เวลา 13.00 น. นายชัยวัฒน์ แสงศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานพิธีเปิดโครงการยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวและการค้าและสู่สากล กิจกรรมย่อยพัฒนาผู้ประกอบการ OTOP โดยมี นายสุรชัย แดนพิบูลย์ นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนพัฒนาการจังหวัดยโสธร กล่าวรายงาน และมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาชุมชน ผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP และสื่อมวลชน ร่วมงาน ณ โรงแรม เจ พี เอ็มเมอรัลด์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองจังหวัดยโสธร
ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของกลุ่ม ผู้ผลิต/ผู้ประกอบการ OTOP ให้ได้มาตรฐาน มีช่องทางการตลาด มีรายได้เพิ่มขึ้น และเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ OTOP จังหวัดยโสธร ได้เป็นที่รู้จักได้รับการยอมรับทั่วประเทศ นักท่องเที่ยวได้รับความพึงพอใจและเกิดความประทับใจจากการให้บริการของผู้ประกอบการท่องเที่ยวและชุมชนท่องเที่ยวของจังหวัดยโสธร โดยงานดังกล่าวจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 25-26 มกราคม 2565 และผู้ประกอบการสินค้าโอทอป จำนวน 20 กลุ่ม รวม 100 คน ร่วมกิจกรรม เพื่อสร้างความเข้าใจแนวทางการดำเนินงาน ด้านการบริหารจัดการ การจัดทำแผนธุรกิจ การเข้าถึงแหล่งทุน ช่องทางการจำหน่าย และเตรียมความพร้อมเข้าสู่ตลาดอาเซียน ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากมั่นคงและชุมชนพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ยโสธร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125233247511"], [710,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดปัตตานี ประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาสินค้า","วันที่ 25 มกราคม 2565 นางสาวจินตะณา ปิ่นสุภา พาณิชย์จังหวัดปัตตานี มอบหมายกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ลงพื้นที่ ณ ตลาดสดเทศวิวัฒน์ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เพื่อตรวจสอบและติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค พร้อมทั้งติดตามการปิดป้ายราคาสินค้าของผู้ประกอบการค้าในตลาด ให้ปฏิบัติตามประกาศจังหวัดปัตตานี เรื่อง ให้ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า เป็นการคุ้มครองผู้บริโภคและป้องปรามไม่ให้ผู้ประกอบการ ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า โดยราคาสินค้าที่จำหน่ายเป็นไปตามกลไกตลาด
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","25/1/2022","ภาคใต้","ปัตตานี","สวท.ปัตตานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220125233442512"], [711,"คกก.ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและอุตสาหกรรมบริการ 3 จชต. มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา เตรียมดำเนินโครงการ เบตง 10,000 ล้าน ดึงนักท่องเที่ยวปีละ 2 ล้านคน สร้างรายได้การท่องเที่ยวครบวงจร","ดร.ณพพงศ์ ธีระวร ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและอุตสาหกรรมบริการ 3 จชต. มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา เปิดเผยว่า สำหรับโครงการเบตง 10,000 ล้าน เป็นโครงการที่ทางคณะกรรมการฯจะดำเนินการพัฒนาพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ใน 4 ด้านหลักๆ โดยการจัดทำวิจัยเพื่อสร้าง \"แผนแม่บท\" ของอุตสาหกรรมบริการ และการท่องเที่ยวของจังหวัดยะลา จัดทำการศึกษาความเป็นไปได้ หรือ Feasibility Study โครงการเบตงหมื่นล้าน โดยมุ่งเน้นแนวทางในการดึงนักท่องเที่ยว 2 ล้านคนต่อปี และกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจับจ่ายเฉลี่ยไม่น้อยกว่าคนละ 5,000 บาท ปรับปรุงหลักสูตรของทุกคณะให้มีทิศทางสนับสนุนอุตสาหกรรมบริการ และการท่องเที่ยว รวมถึงการจัดทำการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาวิชาชีพในอุตสาหกรรมบริการ และการท่องเที่ยว
อำเภอเบตงมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว จึงจำเป็นต้องรักษาฐานกลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมายไว้ โดยอาศัยความเป็นเจ้าบ้านที่ดีและเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว รวมถึงเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวในอำเภอ เบตง และพื้นที่ใกล้เคียงเป็น LandMark แห่งใหม่ เปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวสู่จังหวัดภาคใต้ชายแดนต่อไป รวมทั้ง การนำโครงการเบตง 10,000 ล้าน เป็นศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบฐานพัฒนาหลักสูตร ทั้งนี้ โดยบูรณาการผลิตบัณฑิต วิจัย บริการวิชาการ และทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ให้เกิดผลกระทบทั้งคุณภาพบัณฑิต และคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยใช้ชุมชนเป็นฐานการเรียนการสอนให้กับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา มีความสามารถในเชิงปฏิบัติเพื่อการประกอบอาชีพ อีกทั้ง สร้างผู้ประกอบการและธุรกิจการท่องเที่ยวให้มีช่องทางการขยายตัวและเติบโตของเศรษฐกิจในท้องถิ่นแบบครบวงจร โดยได้รับการยอมรับด้านมาตรฐานการท่องเที่ยวในระดับสากล มุ่งเน้นการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมการศึกษา และสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างเม็ดเงินอย่างมหาศาลลงมาสู่ชุมชนท้องถิ่นมากขึ้น ผ่านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและอุตสาหกรรมบริการร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายความร่วมมือ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคประชาชน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ ดร.ณพพงศ์ กล่าว
ส่วนแผนการขับเคลื่อนการพัฒนาในอำเภอเบตง ดร.ณพพงศ์ บอกว่า ต้องเน้นการสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง และด้านสังคม การร่วมกลุ่มเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ จากภาคอุตสาหกรรมบริการและการท่องเที่ยวชุมชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งและเกิดความมั่นคงในทุกมิติของพื้นที่ และการบูรณาการสร้างการรับรู้แนวทางการพัฒนาร่วมกันกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง มีการจัดตั้งศูนย์เศรษฐกิจฐานรากและอุตสาหกรรมบริการต้นแบบ ในการพัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ การวิจัย การสร้างนวัตกรรมและการสร้างสรรค์ ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการแบบครบวงจร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพให้แก่นักศึกษา ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่ ภายใต้แผนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและอุตสาหกรรมบริการเพื่อสร้างโอกาสการท่องเที่ยวสู่ \"เบตง 10,000 ล้าน
ผมมีความตั้งใจในการกลับมาพัฒนาพื้นที่จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นบ้านเกิด โดยเมีความตั้งใจฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดยะลา เล็งเห็นศักยภาพของอำเภอเบตง เป็นอำเภอใต้สุดของประเทศไทย มีทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงาม มีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง รวมถึงมีหมอกตลอดทั้งปี อำเภอเบตงเป็นเมืองการค้าชายแดนและเมืองท่องเที่ยวที่มีความสวยงามของทรัพยากรธรรมชาติ และระบบนิเวศ เพื่อสร้างเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวในพื้นที่ให้โดดเด่นและเกิดความสำเร็จนั้น จำเป็นต้องอาศัยสิ่งดึงดูดเชิงอัตลักษณ์ของเบตง โดยประเด็นเรื่องอัตลักษณ์ท้องถิ่นที่อยู่ในความสนใจของนักท่องเที่ยวส่วนหนึ่ง ได้แก่ สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามอาหารจานเด็ดเชิงอัตลักษณ์ที่สามารถดึงดูดรายได้จากนักท่องเที่ยวจนเป็นที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวจากทั้งในและต่างประเทศซึ่งเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่ ส่งผลทำให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยวที่มีอัตราที่เพิ่มสูงขึ้น ดร.ณพพงศ์ กล่าว
ดร.ณพพงศ์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับโครงการเบตง 10,000 ล้าน ที่กำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่นานนี้ ได้รับความร่วมมือจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญของประเทศไทย ที่เดินทางลงพื้นที่เมื่อวันที่ 21-23 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการการท่องเที่ยว ผู้เชี่ยวชาญทางการทางด้านการให้ความรู้ การพัฒนาด้านอาชีพต่างๆ รวมทั้งสถาบันทางการเงิน ที่พร้อมที่จะสนับสนุนโครงการนี้ให้เดินหน้าไปสู่จุดหมาย เบตง 10,000 ล้าน ภายใน 5 ปี หลังจากนี้ และเชื่อว่าการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ จะสามารถสร้างเม็ดเงินอย่างมหาศาล ลงมาสู่ชุมชนท้องถิ่นมากขึ้น โดยก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่อำเภอเบตง อำเภอธารโต อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา และเชื่อมโยงไปยังพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่ใกล้เคียงสู่ชายแดนภาคใต้ที่เพิ่มขึ้น การสร้างความเข้มแข็งให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและเสริมสร้างความมั่นคงในทุกมิติ ส่งผลให้เศรษฐกิจเข้มแข้ง สร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","26/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126095117533"], [712,"จ.ลำปาง เตรียมจัดงาน DIPROM MOTOR SHOW สร้างมูลค่าอุตสาหกรรมยานยนต์ในระดับภูมิภาค","ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าอุตสาหกรรมภาคเหนือ จังหวัดลำปาง นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัด มอบหมายให้นายจำลักษ์ กันเพ็ชร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานประชุมเตรียมการจัดงาน DIPROM MOTOR SHOW พร้อมด้วยส่วนราชการ ภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ประชุมฯ มีแนวทางมอบหมายหน่วยงานพร้อมขับเคลื่อนในส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งการประชาสัมพันธ์การจัดงานฯ เชิงรุก มาตรการป้องกันโรคโควิด-19 การจราจร หรือการจัดกิจกรรมที่เป็นการกระตุ้นการจัดงาน อาทิ การแสดงและจัดจำหน่ายสินค้า ได้แก่ กลุ่มสินค้าเกษตรแปรรูป อาหารดังเมืองลำปาง กลุ่มธุรกิจเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สมุนไพร อุตสาหกรรมเครื่องนุ่มห่มในพื้นที่ภาคเหนือ เป็นต้น
สำหรับการจัดงาน DIPROM MOTOR SHOW จะจัดขึ้น ณ อาคารศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าอุตสาหกรรมภาคเหนือ จังหวัดลำปาง (ศูนย์เซรามิกและหัตถอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง เดิม) ระหว่างวันที่ 9-16 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นครั้งแรกที่ดีพร้อมดำเนินการจัดกิจกรรมดังกล่าว เพื่อกระตุ้นตลาดยานยนต์โดยเฉพาะในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ สามารถเสริมสร้างความเข้มแข็งของผู้ประกอบการและเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ตามแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภค ภายในงานฯ พบกับค่ายรถยนต์และจักรยานยนต์ชั้นนำร่วมจัดแสดงในงานดังกล่าวมากกว่า 15 แบรนด์ รวมทั้งเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการและผู้บริโภค
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","26/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สวท.ลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126095255534"], [713,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมตรวจสถานประกอบการที่มีพื้นที่เก็บเนื้อสุกรชำแหละโดยการสุ่มตรวจสอบห้องเย็นในพื้นที่","สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมตรวจสถานประกอบการที่มีพื้นที่เก็บเนื้อสุกรชำแหละโดยการสุ่มตรวจสอบห้องเย็นในพื้นที่
นายศิริพงษ์ วิวัฒน์เกษมชัย พาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ร่วมบูรณาการกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดกาฬสินธุ์ ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ตรวจสอบห้องเย็น จำนวน 5 แห่ง ประกอบด้วย 1.บริษัท เบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม สาขากาฬสินธุ 2.หจก.ห้องเย็นนุชไก่สด 3.บริษัท โอเล่ปลาทะเล จำกัด 4.ห้องเย็นหนองแปน และ 5.บริษัท โค ดีซี อี มาร์เก็ต จำกัด (ตรงข้าม ร.ร.เซ็นยอ)
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการกักตุนสินค้าเนื้อสุกร โดยได้ตรวจสอบปริมาณ ราคา สถานที่เก็บ และบัญชีคุมสินค้าเนื้อสุกร จากการตรวจสอบ ไม่พบการกักตุนสินค้าแต่อย่างใด และเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงและเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2565 ลงวันที่ 5 มกราคม 2565 เรื่องการแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีควบคุมสินค้าสุกรอย่างเคร่งครัด
นายศิริพงษ์ วิวัฒน์เกษมชัย พาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดปกติ หรือการกักตุนเนื้อสุกรรวมทั้งเนื้อไก่และไข่ไก่ ซึ่งเป็นไปตามกลไกของการตลาด พร้อมได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามตรวจสอบ ไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคา หรือกักตุนสินค้า โดยทางผู้ประกอบการจะมีการรายงานข้อมูล ปริมาณเนื้อสุกรในท้องตลาด มายังสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ทุกวันจันทร์ของสัปดาห์
","26/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","กาฬสินธุ์","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126100031541"], [714,"กระทรวงพาณิชย์ เร่งประสาน SME D Bank หาสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษร้อยละ 2 ต่อปี ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs","นายธีระชาติ ปางวิรุฬห์รักษ์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เพื่อให้ผู้ประกอบการกิจการสามารถดำเนินต่อไปได้โดยไม่สะดุด ได้ประสานธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ SME D Bank ส่งสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น เพื่อความรวดเร็วและทันต่อความต้องการด้านเงินทุนของผู้ประกอบการ SME D Bank จะใช้แพ็คเกจเดิมที่ธนาคารมีอยู่มาประยุกต์เข้ากับวงเงินสินเชื่อและความสามารถในการผ่อนชำระของเอสเอ็มอี อาทิ โครงการเติมทุนหนุนเอสเอ็มอีไทย โครงการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟู โครงการเพิ่มศักยภาพ SME โครงการสร้างโอกาสเสริมสภาพคล่องSME เป็นต้น สำหรับผู้ประกอบการสามารถเข้าร่วมโครงการฯของ SME D Bank ได้ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนดวงเงินสินเชื่อ 2 - 15 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้นร้อยละ2 ต่อปี โดยสามารถกู้ได้ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่
ทั้งนี้ ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย เสริมสภาพคล่องและเติมเงินทุนเข้าสู่ธุรกิจช่วยลดแรงกดดันในการประกอบธุรกิจได้ผลักดันให้ผลประกอบการเป็นไปในทิศทางที่เป็นบวกและดีขึ้นกว่าเดิม
","26/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126114139593"], [715,"บรรยากาศการจำหน่ายเสื้อผ้าสีแดงที่ใช้สวมใส่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ในปีนี้มีประชาชนมาหาซื้อเสื้อผ้าลดน้อยลง สาเหตุมาจากเศรษฐกิจที่ตกต่ำ และปัญหาสินค้าราคาแพง ทำให้ประชาชนขาดกำลังซื้อ ในขณะที่ผู้ประกอบการนำเสื้อผ้าหลากหลายรูปแบบมาจำหน่ายเพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้า","ใกล้ถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จังหวัดตรังหลายหน่วยงานได้งดจัดงานเทศกาลตรุษจีน เนื่องจากเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งการรวมตัวหันในช่วงเทศกาลตรุษจีน เกรงว่าจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทางจังหวัดตรังจึงขอความร่วมมือจากพี่ประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีน ให้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
ในส่วนของสินค้าที่ประชาชนต้องซื้ออีกอย่างหนึ่งนอกเหนือจากเครื่องเซ่นไหว้บรรพบุรุษ คือเสื้อผ้าสีแดงที่จะใช้สวมใส่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน สำหรับบรรยากาศการซื้อเสื้อผ้าสีแดงก่อนถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนในปีนี้มีประชาชนให้ความสนใจมาซื้อเสื้อผ้าลดลง จากการสอบถามเจ้าของร้านไทยวิวัฒน์ ร้านจำหน่ายเสื้อผ้าที่เก่าแก่ในเขตเทศบาลนครตรัง บอกว่าปีนี้ยอดจำหน่ายลดลงจากปีที่แล้ว สาเหตุมาจากเศรษฐกิจที่ตกต่ำ และปัญหาสินค้าราคาแพง ทำให้ประชาชนขาดกำลังซื้อเนื่องจากต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งประชาชนจะนำเสื้อผ้าจากปีที่แล้วมาสวมใส่ ในขณะที่ราคาเสื้อผ้าสีแดงก็ไม่ได้มีการปรับราคาขึ้นแต่อย่างใดโดยเสื้อผ้าจำหน่ายในราคา 70-500 บาท ในขณะที่ผู้ประกอบการนำเสื้อผ้าหลากหลายรูปแบบมาจำหน่ายเพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้า
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","26/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126104210566"], [716,"ธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกับธนาคารกลางมาเลเซีย เปิดตัวบริการชำระเงินข้ามประเทศระหว่างไทยกับมาเลเซีย ด้วย QR Code ระยะที่ 2 พร้อมเตรียมต่อยอด ให้โอนเงินข้ามประเทศผ่านพร้อมเพย์ได้ภายในปีนี้","
นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ร่วมกับธนาคารกลางมาเลเซีย (Bank Negara Malaysia) จัดให้มีบริการชำระเงินข้ามประเทศระหว่างไทยกับมาเลเซียด้วยการใช้ QR Code มาตรฐานของแต่ละประเทศ โดยได้เปิดให้บริการระยะแรกแก่ลูกค้าของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ที่อยู่ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ให้สามารถสแกน QR code ของประเทศมาเลเซีย เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการของร้านค้าที่ให้บริการโดยธนาคารในประเทศมาเลเซียได้
สำหรับในวันนี้ (26 ม.ค. 65) เป็นการเปิดตัวบริการระยะที่สอง ที่ลูกค้าในประเทศมาเลเซียจะสามารถชำระเงินให้กับร้านค้าในประเทศไทยได้ โดยลูกค้าของธนาคารสามารถสแกน Thai QR code เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการของร้านค้าไทยที่ให้บริการโดยธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ได้ ซึ่งคาดว่าจำนวนผู้ให้บริการจะเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป เพื่อรองรับการท่องเที่ยวภายหลังการคลี่คลายของโควิด 19
นอกจากนี้ ในปี 2565 จะต่อยอดบริการระยะที่สาม ซึ่งเป็นการให้บริการโอนเงินระหว่างสองประเทศแบบทันที ผ่านระบบพร้อมเพย์ของไทยและระบบ Real-time Retail Payments Platform ของประเทศมาเลเซีย อีกด้วย
","26/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126120720605"], [717,"พาณิชย์ลำปาง เชิญร่วมกิจกรรมเจรจาธุรกิจ E-San Business Matching 31 มกราคม นี้","นางสาวเยาวเรศ แซ่โค้ว พาณิชย์จังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจ E-San Business Matching ภายใต้โครงการเชื่อมโยงการตลาดผลิตภัณฑ์ภาคอีสานเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ปี 2565 ดำเนินการโดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุดรธานี ในวันที่ 31 มกราคม 2565 เวลา 09.00 - 17.00 น. ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ มณฑาทิพย์ฮอลล์ จังหวัดอุดรธานี และ Business Matching Online ได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำปาง
กิจกรรมภายในงานมีกิจกรรมเจรจาธุรกิจ Business matching, Mini Showcase, พิธีลงนามข้อตกลงซื้อขาย (MOU) โดยมีประเภทสินค้ากลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย ผลไม้ เช่น มะม่วง ทุเรียน เงาะ มังคุด (สวนต้องมีใบรับรอง GAP), ผักปลอดสารพิษ (ขั้นต่ำมาตรฐาน Thailand Organic), ผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป (ขั้นต่ำมาตรฐาน อย.), อาหารทะเลสดและอาหารทะเลแห้ง
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำปาง จึงเชิญชวนเกษตรกร/ผู้ประกอบการ/ผู้ผลิต/ผู้รับซื้อ เข้าร่วมกิจกรรม โดยสมัครเข้าร่วมซูมออนไลน์
https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSeawFNJKJdLiCowefGN0X-PmgG1W2wLgzGIU08ULhBUCzLf1g/viewform และรับชม Company Profile
https://drive.google.com/drive/folders/1c95u0fqqCWQnzSPFkke2pprXoh4G_7q2 หรือติดต่อสบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำปาง โทร. 0 5426 5022 สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุดรธานี โทร. 0 4224 1749, 065 510 2709 เจ้าหน้าที่ผู้ประสานงาน คุณกาญจนา 085 854 9730, คุณปรียาภรณ์ 094 262 4855
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","26/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สวท.ลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126104957570"], [718,"พาณิชย์จังหวัดสุราษฎร์ธานีพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอาหารทะเลภาคใต้ หวังเพิ่มมูลค่าธุรกิจและยกระดับด้านการตลาดสมัยใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว","วันนี้ (26 ม.ค.65) นายศักดาพร รัตนสุภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เกียรติกล่าวเปิดและพบปะผู้เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาศักยภาพผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ผู้ประกอบการ บุคลากรที่เกี่ยวข้องด้านอาหารทะเล เพื่อยกระดับผู้ประกอบการและเรียนรู้ด้านการตลาดสมัยใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคีเครือข่าย จัดขึ้น ณ โรงแรมร้อยเกาะ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี มีผู้เข้าร่วมจาก 11 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล สงขลา พัทลุง และจังหวัดนครศรีธรรมราช
ด้านนางขนิษฐา มุณีแนม พาณิชย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อให้มีความรู้ด้านการตลาดสมัยใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงได้ทราบกฎหมาย ระเบียบ มาตรฐานด้านการตลาด การเพิ่มมูลค่าธุรกิจด้วยการแปรรูปและการบรรจุภัณฑ์ การสร้าง Brand และ Story telling เพื่อจูงใจลูกค้า โดยแบ่งกิจกรรมออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกระหว่างวันที่ 26 27 มกราคม 2565 เป็นการบรรยายให้ความรู้ที่เกี่ยวข้องเรื่องการตลาด จำนวน 150 คน และช่วงที่ 2 ระหว่างวันที่ 28 29 มกราคม 2565 เป็นการให้ความรู้ในเชิงลึกและศึกษาดูงานจากสถานที่จริง จำนวน 30 คน โดยคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีความสนใจและมีศักยภาพจากกิจกรรมช่วงที่ 1
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้อนุมัติงบประมาณให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัด 11 จังหวัดภาคใต้ ดำเนินโครงการส่งเสริมตลาดสินค้าอัตลักษณ์ และเพิ่มขีดความสามารถทางการค้าภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินกิจกรรมการจัดงานมหกรรมซีฟู้ดภาคใต้ และการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งเป็นกิจกรรมย่อยของงานมหกรรมซีฟู้ดภาคใต้ เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ผู้ประกอบการ บุคลากรที่เกี่ยวข้องด้านอาหารทะเล ทั้งสดและแปรรูป รวมถึงผลิตภัณฑ์เด่นของ 11 จังหวัดภาคใต้ ให้มีความรู้ด้านการตลาดสมัยใหม่ รวมถึงได้ทราบกฎหมาย ระเบียบ มาตรฐานด้านการตลาด และการเพิ่มมูลค่าธุรกิจ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
นางสาวเยาวเรศ แซ่โค้ว พาณิชย์จังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจ E-San Business Matching ภายใต้โครงการเชื่อมโยงการตลาดผลิตภัณฑ์ภาคอีสานเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ปี 2565 ดำเนินการโดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุดรธานี ในวันที่ 31 มกราคม 2565 เวลา 09.00 - 17.00 น. ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ มณฑาทิพย์ฮอลล์ จังหวัดอุดรธานี และ Business Matching Online ได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำปาง
กิจกรรมภายในงานมีกิจกรรมเจรจาธุรกิจ Business matching, Mini Showcase พิธีลงนามข้อตกลงซื้อขาย (MOU) โดยมีประเภทสินค้ากลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วยผลไม้ เช่น มะม่วง ทุเรียน เงาะ มังคุด (สวนต้องมีใบรับรอง GAP), ผักปลอดสารพิษ (ขั้นต่ำมาตรฐาน Thailand Organic), ผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป (ขั้นต่ำมาตรฐาน อย.), อาหารทะเลสดและอาหารทะเลแห้ง
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำปาง จึงเชิญชวนเกษตรกร/ผู้ประกอบการ/ผู้ผลิต/ผู้รับซื้อ เข้าร่วมกิจกรรม โดยสมัครเข้าร่วมซูมออนไลน์
https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSeawFNJKJdLiCowefGN0X-PmgG1W2wLgzGIU08ULhBUCzLf1g/viewform และรับชม Company Profile
https://drive.google.com/drive/folders/1c95u0fqqCWQnzSPFkke2pprXoh4G_7q2 หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำปาง โทร. 0 5426 5022 สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุดรธานี โทร. 0 4224 1749, 065 510 2709 เจ้าหน้าที่ผู้ประสานงาน คุณกาญจนา โทร.085 854 9730, คุณปรียาภรณ์ โทร.094 262 4855
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","26/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สวท.ลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126111713585"], [720,"กรมเจ้าท่า คุมเข้มการกู้เรือ ป.อันดามัน 2 พร้อมบูรณาการแผนขจัดคราบน้ำมัน เพื่อความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางทะเล","นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ประชุมติดตามกรณี เรือ ป.อันดามัน 2 ที่เกิดเหตุอับปาง บริเวณอ่าวไทย จังหวัดชุมพร ร่วมกับ ศรชล. กรมควบคุมมลพิษ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมประมง และสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร ผ่านระบบ VDO Conference โดยที่ประชุมมีมติให้กรมเจ้าท่า ออกติดตามประเมินการกระจายน้ำมันบริเวณชายฝั่ง ร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมประมง เพื่อสกัดกั้นน้ำมันไม่ให้กระจายตัวและสร้างผลกระทบต่อชายฝั่ง
ทั้งนี้ กรมเจ้าท่าได้เร่งรัดให้เจ้าของเรือเข้าสำรวจตัวเรือ พร้อมกู้สินค้า ซึ่งเจ้าของเรือได้รับทราบพร้อมเตรียมการดำน้ำสำรวจสภาพตัวเรือทันที พร้อมสั่งการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร ออกประกาศชาวเรือ เตือนให้ระวังการเดินเรือใกล้บริเวณที่เรือจมอย่างต่อเนื่อง สำหรับหน่วยงานอื่น ๆ อาทิ กองทัพเรือ ได้ทำการจัดส่งยานสำรวจใต้น้ำบริเวณที่เรือจม ภายหลังสำรวจและได้ข้อมูลสภาพใต้น้ำแล้วจะประเมินและวางแผนการดูดน้ำมันขึ้นภายใน 7 วัน กรมควบคุมมลพิษ ดำเนินการประเมิน model สถานการณ์คราบน้ำมันรั่วไหล ยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชายฝั่ง
จากการตรวจสอบข้อมูลของเรือ ป.อันดามัน 2 พบว่าไม่มีการทำประกันภัย การปฎิบัติการจึงต้องพิจารณาประกอบในฐานผู้ประสบภัย ในส่วนการขจัดคราบน้ำมันกรมเจ้าท่า ได้เตรียมพร้อมทุ่นกักน้ำมันไว้จำนวน 600 เมตร เพื่อป้องกันพื้นที่อ่อนไหวและสารสลายคราบน้ำมันจำนวน 600 ลิตร โดยเจ้าหน้าที่จากสำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ ได้ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างคราบน้ำมัน พร้อมกันนี้ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาชุมพร ได้นำเรือตรวจการณ์เจ้าท่า 1302 และเจ้าหน้าที่ สำรวจค้นหาคราบน้ำมันและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น โดยการลงพื้นที่ในวันนี้ยังไม่พบคราบน้ำมันที่จะส่งผลและสร้างความเสียหายในบริเวณชายฝั่งและบริเวณโดยรอบ
อย่างไรก็ตาม กรมเจ้าท่า เล็งเห็นถึงความสำคัญในการรักษาความปลอดภัยทางทะเล รวมถึงการดูแลป้องกันรักษาสภาพแวดล้อมทางทะเล จากคราบน้ำมัน ไม่ให้กระทบกับสิ่งมีชีวิตใต้น้ำและประชาชนโดยรอบ
","26/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126122408622"], [721,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เช็คสต๊อกหมูจับตาสินค้าบริโภคที่สำคัญอย่างใกล้ชิด เน้นย้ำผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจนเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้บริโภค","วันที่ 25 มกราคม 2565 เวลา 10.00 น. นางสาวเอื้อนจิตร ช่วยนก พาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ มอบหมายให้กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ร่วมกับปศุสัตว์จังหวัดบึงกาฬ สำนักงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ ตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ ฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่เช็คสต๊อกหมู จับตาสินค้าบริโภคอย่างใกล้ชิด พื้นที่อำเภอปากคาด และอำเภอโซ่พิสัย
จากการตรวจสอบพบว่า สินค้าบริโภค อาทิ เนื้อสุกร ไก่เนื้อ ไข่ไก่ เนื้อวัว ปลา และผักสด ราคายังทรงตัวปกติ และยังมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ไม่พบการจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควร และคณะเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจนทุกชนิดสินค้าเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้บริโภค
จากนั้นไปตรวจสอบสต๊อกหมูยังร้านจำหน่ายเนื้อหมูสด ห้องเย็นพื้นที่ตลาดสดเทศบาลปากคาด และตลาดสดเทศบาลโซ่พิสัย ไม่พบการกักตุนเนื้อสุกรแต่อย่างใด
สำหรับเรื่องน้ำมัน สถานการณ์ราคาในช่วงนี้มีการปรับขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันปาล์ม เพราะราคาผลปาล์มดิบของเกษตรกรราคาสูงขึ้นมาก ปัจจุบันขึ้นจากกิโลกรัมละ 2 บาทกว่า เป็นกิโลกรัมละ 10-11 บาท จากการสำรวจราคาน้ำมัน รายละเอียดดังนี้
น้ำมันปาล์ม ยี่ห้อโอลีน ขนาดบรรจุ 1 ลิตร
-ร้านค้าทั่วไป ราคาขวดละ 58-65 บาท
-ห้าง ราคาขวดละ 59 บาท
ยี่ห้อมรกต ขนาดบรรจุ 1 ลิตร
-ร้านค้าทั่วไป ราคาขวดละ 61-65 บาท
-ห้าง ราคาขวดละ 59 บาท
ยี่ห้อทับทิม/ยี่ห้อเกสร
-ร้านค้าทั่วไป ราคาขวดละ 61-65 บาท
-ห้าง ราคาขวดละ 58 บาท
น้ำมันถั่วเหลือง ยี่ห้อ กุ๊ก ขนาดบรรจุ 1 ลิตร
-ร้านค้าทั่วไป ราคาขวดละ 60 บาท
-ห้าง ราคาขวดละ 58 บาท
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","26/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","บึงกาฬ","สวท.บึงกาฬ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126121148608"], [722,"ปชส.สุราษฎร์ธานี เผย ครม.เห็นชอบให้ไก่และเนื้อไก่เป็นสินค้าควบคุมปี 2565 พร้อมวางมาตรการลดภาระค่าครองชีพและแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง","นางสุนิสา รามแก้ว ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวถึงมาตรการลดภาระค่าครองชีพและแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง ว่า ครม. เห็นชอบกำหนดสินค้าควบคุมปี 2565 เพิ่มอีก 1 รายการ คือ ไก่และเนื้อไก่ จากเดิมรายการสินค้าควบคุมในปี 2564 จำนวน 4 รายการ คือ 1.หน้ากากอนามัย 2.ใยสังเคราะห์ Polypropylene (Spunbond) เพื่อใช้ในการผลิตหน้ากากอนามัย 3. ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบเพื่อสุขอนามัยสำหรับมือ 4 เศษกระดาษ และกระดาษที่นำกลับมาใช้ได้อีง เนื่องจากปัจจุบันราคาไก่ปรับตัวสูงขึ้น จึงจำเป็นต้องกำกับดูแลติดตามไก่ เนื้อไก่ ที่เป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญต่อการบริโภคของประชาชน ให้มีปริมาณเพียงพอและมีราคาที่เหมาะสม ทั้งนี้คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ กำหนดให้ผู้ประกอบการ ผู้ค้า และฟาร์มเลี้ยงไก่ ต้องปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
สำหรับสถานการณ์สินค้าบางตัวที่มีการปรับราคาสูงขึ้น รัฐบาลและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินการในการรักษาระดับราคาในรูปแบบที่สร้างสมดุลระหว่างการให้สินค้าเกษตรมีราคาสูงขึ้นเพื่อสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นแก่เกษตรกร แต่ราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นนั้น จะต้องไม่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อลดผลกระทบ เช่น การตรึงราคาสินค้า
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์และกรมการค้าภายใน ได้ประสานกับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ผู้ค้าและสมาคมต่างๆ ตรึงราคาในหลายหมวดสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตประจำวัน คือ เครื่องใช้ไฟฟ้า ซอสปรุงรส บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำอัดลม
นอกจากนี้ ทางสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ประกาศตรึงราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มไว้ กิโลกรัมละ 110 บาท ไปจนถึงเสร็จสิ้นเทศกาลตรุษจีน และทางสมาคมผู้เลี้ยงและส่งออกไข่ไก่ พร้อมให้ความร่วมมือตรึงราคาไข่ไก่เบอร์ 3 ไว้ที่ฟองละ 2.90 บาท เป็นต้น ขณะเดียวกันราคาเนื้อหมู ไข่ไก่ และผักชนิดต่างๆ อาทิ ผักคะน้า ผักบุ้งจีน กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว ตามรายงานของสถานการณ์สินค้าเกษตรเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (17-24 มกราคม 2565) อยู่ในระดับที่ทรงตัว.
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","26/1/2022","ภาคใต้","สุราษฎร์ธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126120028598"], [723,"ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่และประชุมตรวจติดตามผลการดำเนินงาน ตามแผนงานและนโยบายที่สำคัญของกระทรวงพาณิชย์ พร้อมชี้แนะแนวทางการเพิ่มจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดง และขยายโอกาสทางการค้าชมพู่เพชรสายรุ้ง","ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่และประชุมตรวจติดตามผลการดำเนินงาน ตามแผนงานและนโยบายที่สำคัญของกระทรวงพาณิชย์ พร้อมชี้แนะแนวทางการเพิ่มจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดง และขยายโอกาสทางการค้าชมพู่เพชรสายรุ้ง ณ ห้องประชุมตรีวัง ชั้น 1 สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี
นางลลิดา จิวะนันทประวัติ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่และประชุมตรวจติดตามการปฏิบัติราชการของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 รอบที่ 1 ร่วมกับ นายธีรวุฒิ คล้ายเคลื่อน พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน ตามแผนงานและนโยบายที่สำคัญของกระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งรับฟังประเด็นปัญหาต่างๆ ในการปฏิบัติงาน ตลอดจนชี้แนะแนวทางในการเพิ่มจุดจำหน่ายหมู เนื้อแดง ตามโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค ลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
ทั้งนี้ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เน้นย้ำให้สำนักงานฯ ผลักดันและส่งเสริมการเชื่อมโยงการตลาด เพื่อขยายโอกาสทางการค้าและประชาสัมพันธ์สินค้าจังหวัดเพชรบุรี รวมถึงสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ GI(ชมพู่เพชรสายรุ้ง) ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ตลอดจนการพัฒนาฐานข้อมูลเกษตรกรอย่างเป็นระบบ โดยการตรวจสอบย้อนกลับสินค้าเกษตร เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ GI
สวท.เพชรบุรี
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","26/1/2022","ภาคตะวันตก","เพชรบุรี","สวท.เพชรบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126115516596"], [724,"รฟท.ขยายเวลาให้บริการขบวนรถนำเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ต่อไปอีก 1 เดือนหลังประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยจะเปิดให้บริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ รวม 8 ขบวน","นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. เปิดเผยว่า หลังจากการรถไฟฯ เปิดขบวนรถไฟนำเที่ยวเขื่อนปาสักชลสิทธิ์ แบบไปเช้า-เย็นกลับ โดยกำหนดจัดให้มีขึ้นทุกวันศุกร์, เสาร์ และอาทิตย์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 ไปจนถึงวันที่ 30 มกราคม 2565 ปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติและพบว่ายังมีนักท่องเที่ยวต้องการเดินทางท่องเที่ยวไปกับขบวนรถไฟนำเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อีกเป็นจำนวนมาก
การรถไฟฯ จึงขยายเวลาออกไปอีก 1 เดือน หรือจนถึงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 โดยจะเปิดเพิ่มเฉพาะวันเสาร์ -อาทิตย์ รวม 8 เที่ยวเท่านั้น คือวันที่ 5-6, 12-13, 19-20 และ 26-27 กุมภาพันธ์ 2565 ขบวนรถพิเศษนำเที่ยวเขื่อนปาสักชลสิทธิ์นี้ เป็นอีกหนึ่งความพิเศษที่การรถไฟฯ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และเชิญชวนคนไทยร่วมท่องไปกับความสุขเหนือน้ำ
ออกเดินทางจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 06:00 น. และขบวนรถจะหยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร ที่สถานีสามเสน บางซื่อ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง รังสิต อยุธยา สระบุรี และชุมทางแก่งคอย ซึ่ง นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถไฟตามสถานีดังกล่าวได้ จากนั้น เดินทางถึงจุดชมวิว รถไฟลอยน้ำ กลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เวลา 09:25 น. ถึงสถานีโคกสลุง เพื่อชม ชิม ช้อป สินค้า OTOP เวลา 09:50 น. และจะหยุดรถที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อท่องเที่ยวสถานที่ใกล้เคียง เวลา 10:35 น.
ขากลับ จะออกเดินทางจากที่หยุดรถเขื่อนปาสักชลสิทธิ์กลับสู่กรุงเทพฯ เวลา 15:30 น. โดยจะหยุดรับส่งที่ชุมทางแก่งคอย สระบุรี อยุธยา รังสิต ดอนเมือง หลักสี่ บางเขน บางซื่อ และสถานีสามเสน ตามลำดับ ถึงสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 18:50 น. สำหรับนักท่องเที่ยวที่ร่วมโดยสารไปกับขบวนรถไฟ ต้องได้รับการฉีดวัคซีน ครบ 2 เข็ม โดยสามารถแสดงหลักฐานผ่าน Digital Health Pass บน หมอพร้อม แอพพลิเคชั่น หรือแสดงผลตรวจ ATK ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ต่อเจ้าหน้าที่ ณ จุดคัดกรองในวันเดินทาง
ผู้สนใจสามารถติดต่อซื้อตั๋วโดยสารได้ที่สถานีรถไฟทั่วประเทศ หรือผ่านระบบ D-Ticket และยังสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง อัตราค่าโดยสารไป-กลับ ชั้นธรรมดา กรุงเทพ- เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กรุงเทพ คนละ 330 บาท สระบุรี/แก่งคอย - โคกสลุง ผู้ใหญ่/เด็ก คนละ 130 บาท เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กรุงเทพ (เที่ยวเดียว) คนละ 150 บาท และอัตราค่าโดยสารไป-กลับ ชั้นปรับอากาศ กรุงเทพ- เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กรุงเทพ คนละ 560 บาท สระบุรี/แก่งคอย - โคกสลุง ผู้ใหญ่/เด็ก คนละ 260 บาท เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กรุงเทพ (เที่ยวเดียว) คนละ 250 บาท
","26/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126120443603"], [725,"พ่อเมืองกาฬสินธุ์ ตรวจตลาด กำชับพ่อค้า แม่ค้า ห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาในช่วงเทศกาลตรุษจีน","ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ ลงสำรวจตลาดสดทุ่งนาทอง อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าในช่วงตรุษจีน ไม่ฉวยโอกาสขึ้นราคาและกำชับให้ปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน
วันนี้ (26 ม.ค.65) นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายศิริพงษ์ วิวัฒน์เกษมชัย พาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ตลาดสดทุ่งนาทอง อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อตรวจติดตามการจำหน่ายราคาสินค้า โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ใกล้จะถึงโดยได้สำรวจการจำหน่ายไข่ไก่ เนื้อหมู เนื้อไก่ ปลา ผัก ผลไม้
นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่สำรวจตลาดในครั้งนี้ เนื่องด้วยสถานการณ์เนื้อหมูที่มีราคาแพงขึ้น ทางหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มีมาตรการช่วยเหลือด้วยการจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูกกิโลกรัมละ 150 บาท จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 และได้กำชับพ่อค้า-แม่ค้า ให้จำหน่ายในราคาที่เป็นไปตามกลไกการตลาด ไม่ฉวยโอกาสขึ้นราคาโดยเฉพาะอย่างยิ่งใกล้ช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยขอให้แสดงป้ายราคาให้เห็นเป็นที่ชัดเจน และตรวจดูในเรื่องของเครื่องชั่งให้เป็นไปตามมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มีการตรวจห้องเย็นที่มีการเก็บเนื้อสัตว์ เพื่อตรวจสอบป้องกันการกักตุนเนื้อหมู โดยจากการตรวจสอบ ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","26/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","กาฬสินธุ์","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126121906612"], [726,"จ.ลำปาง ประชุมความพร้อมเตรียมจัดงานมหกรรมยานยนต์ DIPROM MOTOR SHOW","จังหวัดลำปาง ประชุมคณะทำงานหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมวางแผนบูรณาการการจัดกิจกรรมส่งเสริมสร้างมูลค่าอุตสาหกรรมยานยนต์ \"DIPROM MOTOR SHOW\" เตรียมนำรถยนต์จากค่ายดังเกือบทุกยี่ห้อ มาร่วมโชว์และจำหน่ายกระตุ้นการฟื้นตัวภาคเศรษฐกิจ
นายจำลักษ์ กันเพ็ชร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานการประชุมคณะทำงานระดับพื้นที่ เตรียมการจัดกิจกรรมงานมหกรรมยานยนต์ \"DIPROM MOTOR SHOW\" เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคภาคเหนือ ซึ่งได้มีการเปิดโต๊ะร่วมประชุมระดมความคิดเห็นกลุ่มคณะทำงานฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งด้านพิธีการการจัดสถานที่ ด้านการอำนวยการการจัดงาน ด้านความปลอดภัย และด้านการประชาสัมพันธ์ เพื่อวางแนวทางการจัดกิจกรรมร่วมกัน ณ ห้องประชุมเล็กชั้น 1 อาคารศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าอุตสาหกรรมภาคเหนือ ตำบลศาลา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง
ทั้งนี้ ด้วยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือ Diprom ได้มีแนวคิดในการที่จะดำเนินกิจกรรมเชิงรุกเพื่อยกระดับห่วงโซ่อุตสาหกรรมของประเทศไทย ให้สามารถแข่งขันและปรับตัวได้ทันกับกระแสโลก ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 ที่ยังคงผันผวน ซึ่งจำเป็นต้องสร้างความต่อเนื่องในกระบวนการผลิตเพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ โดยเห็นว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงเป็นอุตสาหกรรมหลักที่มีศักยภาพ และเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องด้วยประเทศไทยยังคงเป็นฐานสำคัญในการผลิต ทั้งชิ้นส่วนยานยนต์ การประกอบรถยนต์ รวมถึงการผลิตยานยนต์เชิงพาณิชย์ ดังนั้นจึงได้จับมือร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และกลุ่มองค์กรภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ-เอกชน เตรียมการจัดงาน \"DIPROM MOTOR SHOW\" ขึ้น ซึ่งได้เล็งจังหวัดภาคเหนือเป็นพื้นที่เป้าหมายหลัก โดยได้เลือกจังหวัดลำปาง เป็นพื้นที่เตรียมการจัดกิจกรรมครั้งแรก ในช่วงระหว่างวันที่ 9-15 กุมภาพันธ์นี้
สำหรับในเรื่องความพร้อมของการจัดงานดังกล่าว ที่ประชุมฯ มีแนวทางมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันจัดกิจกรรมสนับสนุน ซึ่งจะใช้บริเวณอาคารสถานที่ของ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าอุตสาหกรรมภาคเหนือ จังหวัดลำปาง หรือศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าเซรามิคและหัตถอุตสาหกรรม(เดิม) ในเขตท้องที่ตำบลศาลา อำเภอเกาะคา เป็นสถานที่จัดงาน โดยเตรียมที่จะนำค่ายยานยนต์ชั้นนำ ทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์รวมกว่า 15 ยี่ห้อ มาร่วมออกบูธโชว์และจำหน่ายพร้อมกับโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อให้ประชาชนผู้บริโภคสามารถชมและสัมผัสนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ๆ จากผู้ผลิตได้พร้อมกันทีเดียวทุกค่าย ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบรุ่น ราคา สมรรถนะด้านต่างๆ รวมถึงสามารถที่จะทดลองขับขี่และตัดสินใจซื้อหาได้ครบจบในที่เดียว นอกจากนี้ภายในงาน ได้เตรียมที่จะนำผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดลำปางและจังหวัดใกล้เคียงมาร่วมออกบูธจำหน่ายสินค้าคุณภาพราคาถูกมากมาย ทั้งสินค้าเกษตรแปรรูป เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เครื่องประดับตกแต่ง สิ่งของเครื่องใช้ และเสื้อผ้า เครื่องนุ่มห่ม เป็นต้น
ทั้งนี้ การจัดงานกิจกรรม \"DIPROM MOTOR SHOW\" ดังกล่าว เพื่อเป็นกิจกรรมสนับสนุนช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวภาคเศรษฐกิจ โดยทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือ Diprom คาดหวังว่าจะก่อให้เกิดการเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการด้วยกันเอง รวมถึงระหว่างผู้ประกอบการกับผู้บริโภค ทั้งในการสร้างมูลค่า การจับคู่ธุรกิจ หรือ Business Matching ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมการท่องเที่ยวเมืองรองในรูปแบบของงานแฟร์ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว รวมถึงช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคที่จะก่อให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้จำนวนหลายร้อยล้านบาท
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","26/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126135441673"], [727,"จังหวัดสตูล จัดงาน ตลาดนัดชุมชน คนสตูล ครั้งที่ 1 เปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชน นำสินค้าทางการเกษตร สินค้า OTOP ฯลฯ มาจำหน่าย ในราคายุติธรรม เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ ภายใต้สถานการณ์ปัญหาค่าครองชีพมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น","วันนี้ 26 มกราคม 2565 นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยนายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เขตตรวจราชการที่ 6 กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน นาวาตรีหญิงโนสมา หลีเส็น นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล นางศุภมาส เหล็นเรือง พัฒนาการจังหวัดสตูล นางสายช่อ อังศุพานิช พาณิชย์จังหวัดสตูล หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจเยี่ยมให้กำลัง พ่อค้า แม่ค้า และผู้มาจับจ่ายใช้สอย ที่ตลาดนัดชุมชน คนสตูล ครั้งที่ 1 ตั้งแต่เวลา 08.00 14.00 น. บริเวณหน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศาลากลางจังหวัดสตูล
นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า วันนี้ได้ลงเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ พ่อค้า แม่ค้า ที่ตลาดนัดชุมชน คนสตูล เป็นตลาดที่เปิดโอกาสให้พี่น้องเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ของกระทรวงเกษตร มาบูรณาการร่วมกับกลุ่ม OTOP กลุ่มกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และบูรณาการร่วมกับพาณิชย์จังหวัดสตูล ในเรื่องไข่ไก่ราคาพิเศษ จำนวน 800 แผง ขายในราคา แผงละ 80 บาท เป็นการประหยัดเงินให้พี่น้องประชาชนมาจับจ่ายใช้สอย ซึ่งจะดำเนินการทุกสัปดาห์ ของวันพุธ และใน 1 เดือน จะบูรณาการร่วมกัน เพื่อพี่น้องประชาชนสามารถ นำสินค้าทางการเกษตร สินค้า OTOP มาจำหน่าย ในราคายุติธรรม ก็จะเกิดการหมุนเวียนเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ ภายใต้สถานการณ์ปัญหาค่าครองชีพครัวเรือนในปัจจุบันที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยมุ่งเน้นการแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดความยั่งยืน ในส่วนของอำเภอต่างๆก็ให้ดำเนินการทุกอำเภอเช่นกัน
ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวอีกว่า ซึ่งก่อนหน้านี้ทางจังหวัดสตูล ได้ดำเนินการทุกวิถีทางในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ลงตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ขาย ในตลาดสด พร้อมทั้งดูราคาสินค้าว่ามีการขึ้นราคาเกินจริงหรือไม่ ส่วนมากสินค้าที่ได้ลงตรวจที่ราคาสูงขึ้นไม่ได้เกิดจากการ ตรึงกำไร และที่ราคาขึ้นเพราะกลไกทางการตลาด เลยต้องทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนให้รับทราบถึงสถานการณ์ปัจจุบันด้วย และจังหวัดสตูลไม่มีการกักตุนสินค้าไว้เกร็งกำไรแต่อย่างใด
สำหรับภายในงานฯ ประกอบด้วย การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ / สินค้าของสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ผลิตภัณฑ์ OTOP จากพื้นที่ 7 อำเภอ , สินค้า / ผลผลิตทางการเกษตร และการจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด โดยมีผู้ประกอบการเข้าร่วมจำนวน 40 บูท อีกทั้งยังมีกิจกรรมจัดแสดงผ้าลายขอพระราชทานจากเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ , กิจกรรมส่งเสริมการขาย การจัดแสดงบอนดำสตูล และไม้มงคล จากชุมชนคุณธรรมวัดนิคมพัฒนาราม ผัง 7 อำเภอมะนัง และการจำหน่ายพันธุ์ไม้พื้นถิ่นไม้ใบยอดนิยม ด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","26/1/2022","ภาคใต้","สตูล","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126133927662"], [728,"องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ร่วมประชุมโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากปี 2565","องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ร่วมประชุมโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากปี 2565
นายวิเชียร ขาวขำ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี มอบหมายให้ นายศักดา เกตุแก้ว รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี เข้าร่วมการประชุมโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากปี 2565 ในการนี้มี นายวันชัย จันทร์เพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานในการประชุมพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพียงกัน
สืบเนื่องจากจังหวัดอุดรธานี ได้รับแจ้งจากกระทรวงมหาดไทยว่า คณะรัฐมนตรีได้ปรึกษาหารือ ลงมติทราบกรอบการดำเนินการและคู่มือแนวปฏิบัติการเสนอโครงการพัฒนา และเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากปี 2565 จังหวัดจึงได้จัดประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันจังหวัดอุดรธานี เพื่อพิจารณาโครงการเพื่อเสนอต่อรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
","26/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อุดรธานี","สวท.อุดรธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126141602685"], [729,"กระทรวงพาณิชย์คุมเข้มราคาสินค้า จัดสายตรวจ 55 ชุดปูพรมตรวจทั่วประเทศ หากพบกระทำผิด ดำเนินการตามกฏหมายทันที","นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้มีการประชุมติดตามสถานการณ์ราคามันสำปะหลัง โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา สามารถส่งออกได้กว่า 10 ล้านตัน เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 40 จากปีก่อนหน้า ถือเป็นข่าวดีของเกษตรกร รวมทั้งได้พิจารณาเกณฑ์กลางอ้างอิงราคามันสำปะหลัง งวดที่ 3 สำหรับหัวมันสดเชื้อแป้ง 25 เปอร์เซนต์ โดยราคาอยู่ที่ 2.64 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาประกันรายได้ ทำให้เกษตรได้รับประโยชน์เป็นอย่างมาก ขณะที่สถานการณ์ราคาสินค้าอื่น ๆ เช่น เนื้อหมู พบว่า ราคาหมูเนื้อแดงในท้องตลาดมีการปรับลดลง และเริ่มทรงตัว โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่กิโลกรัมละไม่เกิน 200-210 บาท ส่วนน้ำมันปาล์ม มีราคาสูงขึ้นตามกลไกตลาด เนื่องจากผลปาล์มดิบ ราคาอยู่ในเกณฑ์ที่สูงมาก คาดว่าช่วงเดือน กุมภาพันธ์- มีนาคม นี้ จะมีผลผลิตปาล์มเข้ามาในระบบเพิ่มขึ้น ทำให้แนวโน้มสถานการณ์ราคาน่าจะปรับลดลงตามกลไกตลาด รวมทั้ง กรมการค้าภายในได้มีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นระยะ เพื่อขอความร่วมมือตรึงราคาให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกัน จากการสำรวจความต้องการใช้น้ำมันปาล์มมีแนวโน้มลดลง ผู้บริโภคหันไปใช้น้ำมันชนิดอื่นทดแทน
นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ ได้แต่งตั้งคณะทำงานวอร์รูม จัดชุดสายตรวจ 55 ชุด ออกตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากพบการกระทำผิด เช่น ไม่ปิดป้ายแสดงราคา หรือจำหน่ายสินค้าราคาเกินควร จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดทันที ทั้งนี้ หลังส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ ทั้งในตลาดสดและห้างค้าปลีกค้าส่ง พบว่า ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือตรึงราคาจำหน่ายสินค้า โดยราคายังอยู่ในเกณฑ์ปกติ พร้อมได้เน้นย้ำผู้ประกอบการต้องติดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าอย่างเหมาะสม และห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิด สามารถแจ้งได้ที่สายด่วยกรมการค้าภายใน 1569 เจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบทันที
","26/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126151319711"], [730,"ตำรวจกาฬสินธุ์ตั้งโต๊ะขายไข่ราคาถูกช่วยลดค่าครองชีพช่วงของแพง","ผู้บังคับการตำรวจภูธรกาฬสินธุ์ พร้อมแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ตั้งโต๊ะขาย ไข่ไก่ผู้การโป้งเบอร์ 1 ราคาถูก แผงละ 80 บาท สดๆจากฟาร์มขายขาดทุนให้ครอบครัวตำรวจกาฬสินธุ์ครัวเรือนละ 2 แผง เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายและลดค่าครองชีพในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด และช่วงไข่ไก่-เนื้อหมูราคาแพง (26ม.ค.65) พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ นางพรพรรณ มะลิ ประธานแม่บ้านตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายอำนวยการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ นำไข่ไก่เบอร์ 1 ไข่ไก่ผู้การโป้ง สดๆจากฟาร์มมาตั้งโต๊ะวางขายราคาถูกกว่าท้องตลาดแผงละ 80 บาท จำหน่ายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ โดยกำหนดให้ซื้อได้คนละ 2 แผง เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายและลดค่าครองชีพให้กับครอบครัวตำรวจในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด และช่วงที่ราคาสินค้าต่างๆปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะไข่ไก่ และเนื้อหมูที่มีราคาแพง
พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวตนเองได้ซื้อไข่ไก่สดเบอร์ 1 จากฟาร์มโดยตรง ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ซึ่งซื้อได้ราคาแผงละ 90 บาท ซึ่งปัจจุบันจำหน่ายอยู่ที่แผงละ 110 -120 บาท จำนวน 1,000 แผง นำมาจำหน่ายให้กับตำรวจในสังกัดตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ โดยขายแผงละ 80 บาท ซึ่งถูกกว่าท้องตลาด และเป็นการขายแบบขาดทุน กำหนดให้ซื้อได้คนละ 2 แผง ถือเป็นสวัสดิการให้กับตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชา และได้กำไรเป็นการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายและลดค่าครองชีพให้กับครอบครัวตำรวจได้ส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาสินค้าหลายชนิดปรับตัวสูงขึ้น เช่น ราคาไข่ไก่ และเนื้อหมู นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยเหลือพี่น้องตำรวจ ในช่วงที่ยังมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกด้วย โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะมีโครงการดังกล่าวนำไข่ไก่มาขายเดือนละครั้ง ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้ตำรวจต่อไป
ด้าน ร.ต.ท.สมจิตร สืบมา รองสารวัตรป้องกันปราบปราม ปฏิบัติราชการ ตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขอขอบคุณ พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ที่เป็นห่วงเป็นใยในความเดือดร้อนของข้าราชการตำรวจ และครอบครัว ที่ต้องแบกรับภาระค่าครองชีพที่เพิ่มสูงในปัจจุบัน ทั้งราคาเนื้อหมูและไข่ไก่ตามท้องตลาดมีราคาแพง จากการที่ได้จัดโครงการไข่ไก่ราคาถูกดังกล่าว ซึ่งมีขนาดฟองใหญ่ ใหม่ สด จึงเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้บังคับบัญชามอบให้ผู้ใต้บังคับบัญชา และอยากให้มีโครงการนี้อีก เพราะจะได้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้เป็นอย่างดี
ร.ต.ท.สมจิตร สืบมา รองสารวัตรป้องกันปราบปราม
ปฏิบัติราชการ ตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","26/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","กาฬสินธุ์","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126142938698"], [731,"แม่ค้าเครื่องเซ่นไหว้และร้านจำหน่ายเสื้อผ้า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนในพื้นที่ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เศรษฐกิจไม่ดี ผลกระทบจากโควิด-19 ทำยอดขายตก บางร้านยอมลดราคาหวังดึงลูกค้า เพื่อให้ผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน","วันนี้ (26 ม.ค.65) บรรยากาศการตามร้านจำหน่ายเครื่องเซ่นไหว้และร้านจำหน่ายเสื้อผ้า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนในเขตเทศบาลเมืองเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ในปีนี้ยอดการขายไม่คึกคักเท่าที่ควร สาเหตุส่วนหนึ่งเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจปีนี้ไม่ค่อยดีนัก รวมทั้งการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะมาเลเซีย สิงค์โปร์ ที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนไม่สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้ ส่งผลให้ร้านจำหน่าย สถานประกอบการได้รับผลกระทบรวมทั้งคนไทยเชื้อสายจีน บางคนงดการซื้อเสื้อสีแดงใหม่ ในขณะที่ชุดกี่เพ้า ชุดเสื้อคอจีน และชุดสีแดงแบบผู้ชาย ที่มีการออกแบบที่ทันสมัยยังคงขายได้ดี
เจ้าของร้านจำหน่ายเครื่องไหว้ในเขตเทศบาลเมืองเบตง กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ทางร้านได้นำขนม เครื่องเซ่นไหว้ออกมาจำหน่ายแล้ว ส่วนร้านจำหน่ายเสื้อผ้าสีแดงก็นำ ชุดกี่เพ้า เสื้อคอจีน และชุดแฟชั่นสีแดง ที่ราคาไม่สูงนัก โดยมีราคาตั้งแต่ 200 บาทขึ้นไปจนถึงราคาสูงสุด 800 บาท เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ยังมีกำลังซื้อ โดยเริ่มขายมาตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. จนถึงปัจจุบันเหลือสินค้าอยู่ไม่มากแล้วด้วยรูปแบบเสื้อผ้าที่นำมาออกแบบสวยงามทันสมัย สามารถสวมใส่ได้นอกเทศกาลตรุษจีนได้ด้วยโดย ทางร้านค้ายังไม่ปรับราคาขึ้นแต่ในขณะเดียวกันราคาส่งได้ปรับขึ้นไปแล้วอย่างละ 5-10 บาท ไปแล้ว
นอกจากเสื้อผ้าในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ไม่คึกคักทำให้ยอดขายตก ลดลงจากปีที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้ยังเหลือเวลาอีก 10 วัน ที่ลูกค้าที่เป็นคนไทยเชื้อสายจีนจะออกมาเลือกซื้อเสื้อใหม่เพื่อสวมใส่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน อย่างไรก็ตามทางร้านมีเสื้อผ้าทั้งแบบเด็ก ผู้ใหญ่ทั้งชายและหญิง เน้นคุณภาพ ราคาถูกเริ่มต้นที่ตัวละ 100 กว่าบาทขึ้นไป เพื่อบริการให้ลูกค้าที่ต้องการสวมใส่เสื้อใหม่สีแดงสีมงคลในช่วงตรุษจีนนี้
ด้านนายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ในวันที่ 1 ก.พ.นี้ พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนจะมีกิจกรรม ได้แก่ วันจ่ายทั้งในตลาด วันไหว้ที่บ้าน และศาสนสถาน วันเที่ยว ตามสถานที่ต่างๆ ทั้ง 3 วัน โดยมีความเสี่ยงของการรวมกลุ่มญาติ ตลาด หรือสถานที่ที่มีความแออัด การเดินทางไปเที่ยว การรับประทานอาหารในร้าน และศาสนสถาน เพื่อไหว้พระขอพร อาจแออัด ทาง ศปก.อำเภอเบตง จึงมีคำแนะนำคือประชาชน ควรเลือกซื้อของในตลาดหรือสถานที่ที่ผ่านการประเมินไทยสต็อปโควิด สถานที่ที่มีการจัดระบบระบายอากาศที่ดี พนักงานรับวัคซีนแล้วทุกคน คัดกรองคนเข้าไปใช้บริการ ที่สำคัญคือควรวางแผนก่อนซื้อ เพื่อใช้เวลาที่ตลาดน้อยที่สุด จุดที่เลือกซื้อสินค้าไม่ควรมีคนแออัดหรืออาจพิจารณาเลือกซื้อของเซ่นไหว้ผ่านระบบออนไลน์ เพื่อลดความเสี่ยงต่างๆและที่น่าเป็นห่วงคือในวันรวมญาติ บุคคลที่เราควรระมัดระวังสูงสุดคือ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคประจำตัว เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ขอให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยให้มากที่สุด ล้างมือ เว้นระยะห่าง กรณีหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไปขอให้ไปรับวัคซีน การไหว้บรรพบุรุษในบ้านควรจัดระบบถ่ายเทอากาศให้ดี ไม่ควรปักธูปไว้บนอาหาร เลี่ยงการเผากระดาษ ปรุงอาหารให้ร้อนก่อนรับประทาน การเดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ควรพกเจลแอลกอฮอล์ไปด้วย ล้างมือบ่อยๆ กลับถึงบ้านควรเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำทันที มาตรการต่างๆ ที่ดำเนินการเพื่อความปลอดภัย ให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตปกติใหม่ในทุกที่ทุกโอกาสทุกเทศกาล
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","26/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.เบตง จ.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126143551700"], [732,"พาณิชย์ชัยภูมิ เดินหน้าลดค่าครองชีพประชาชน จำหน่ายเนื้อหมูแดง ราคา 150 บาทต่อกิโลกรัม","นางศศิพิมล มงคล พาณิชย์จังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดชัยภูมิได้ดำเนินโครงการตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในการจัดโครงการ พาณิชย์... ลดราคา ! ช่วยประชาชน จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาที่ประหยัดเพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน จนถึงปัจจุบันได้ดำเนินการเป็นครั้งที่ 17 แล้ว
และจากสถานการณ์เนื้อหมูขึ้นราคา ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ทางกระทรวงพาณิชย์จึงได้มีนโยบายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด จัดจำหน่ายเนื้อหมูในราคาประหยัดกิโลกรัมละไม่เกิน 150 บาท ภายใต้ชื่อ โครงการหมูพาณิชย์... ลดราคา ! ช่วยประชาชน ซึ่งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดชัยภูมิ ได้ทำการเปิดจุดจำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคากิโลกรัมละไม่เกิน 150 บาท แบ่งเป็น 2 ส่วนด้วยกัน ได้แก่
ส่วนแรก จะเป็นการเปิดจุดบริการ 3 จุด จำหน่ายหมูเนื้อแดงล้วน ในราคา 150 บาทต่อกิโลกรัม ได้แก่ จุดที่ 1.ร้านเจ้เกมส์ หน้าสหกรณ์จังหวัดชัยภูมิ , จุดที่ 2.ร้านหมูทอง พ่อไสว บ้านนาฝาย อำเมือง และจุดที่ 3.ร้านแม่วันเพ็ญหมูสด ตลาดเย็นในตลาดสด อำเภอเมือง โดยเปิดจำหน่ายทุกวันตั้งแต่ 17-31 มกราคม 2565
ส่วนที่สอง สำนักงานพาณิชย์จังหวัดชัยภูมิ ได้ร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (สุทธิพันธุ์ฟาร์ม) ในการนำเข้าสุกรผ่านและโรงฆ่าสัตว์ที่ได้มาตรฐาน โดยกำหนดจุดจำหน่ายไว้ 12 จุดด้วยกัน ซึ่งเป็นการจัดจำหน่ายเนื้อหมูแดงและส่วนประกอบอื่น ๆ อาทิ เครื่องใน เนื้อสันคอ เนื้อสามชั้น หัวหมู ฯลฯ ในราคาต่ำกว่าท้องตลาดประมาณ 30%
สำหรับประชาชนที่สนใจอยากซื้อเนื้อหมูกับทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดชัยภูมิ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดจุดจำหน่ายได้ที่ Facebook Page สำนักงานพาณิชย์จังหวัดชัยภูมิ หรือโทรสอบถามได้ที่เบอร์ 0-4481-6928, 0-4481-1598
ด้านเจ้าของร้าน เจ้เกมส์ 1 ในตัวแทนจำหน่าย กล่าวว่า ทางร้านของตนได้ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัด นำเนื้อหมูมาขายในราคา 150 บาทต่อกิโลกรัม รับมาวันละ 50 กิโลกรัม โดยเปิดขายในช่วง 09.00 น. ของทุกวัน ปรากฏว่า มีประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก จนเนื้อหมูที่นำมา 50 กิโลกรัมนั้น ขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงของทุกวัน
","26/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ชัยภูมิ","สวท.ชัยภูมิ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126151501714"], [733,"ขอนแก่น จัดใหญ่มหกรรมบ้านและคอนโด 65 กระตุ้นเศรษฐกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ไตรมาส 1 ของปี คาดมีเงินสะพัดกว่า 1 พันล้านบาท","ที่สำนักงานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยนายวุฒิชัย ฉัตรชัยพลรัตน์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ขอนแกน และนายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น ร่วมแถลงข่าวการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดขอนแก่น 2022 Khon Kaen House & Condo Fair 2022 ซึ่งสมาคมอสังหาริมทรัพย์ขอนแก่น ร่วมกับหอการค้าจังหวัดขอนแก่น รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนได้กำหนดจัดกิจกรรมขึ้นในวันที่ 9-13 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น โดยได้รับความสนใจจากนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์และสื่อมวลชน เข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นไปตามเกณฑ์ที่รัฐบาล และ ศบค. กำหนด และรัฐบาลได้กำหนดมาตารการผ่อนคลายในด้านต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้แผนการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจของจังหวัดจึงจำเป็นที่จะต้องทำทันที เพื่อแสดงถึงศักยภาพของความเป็นเมืองที่ปลอดภัย และการใช้ชีวิตแบบวิถีใหม่นิวนอมอลที่ทุกคนนั้นคุ้นชินกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดขอนแก่น 2022 ที่ได้กำหนดจัดกิจกรรมในช่วงระหว่างวันที่ 3-19 กุมภาพันธ์ 2565 ที่จะถึงนั้น ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดได้นำอสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญในพื้นที่ 33 ทำเลทองของจังหวัด มาแสดงและจำหน่ายรวมกว่า 100 โครงการ ทั้งแบบ้านเดี่ยว บ้านแฝด คอนโดมิเนียม ที่ดินเปล่า หรือทรัพย์สินของธนาคาร ที่จะถูกนำมาแสดงและจำหน่ายให้กับชาวขอนแก่นได้เลือกซื้อ เลือกชมและเจรจาบ้านและคอนโด รวมทั้งที่ดิน และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ภายในงานอย่างเสร็จสรรพ
จากการสอบถามพบว่า ขณะนี้ 100 โครงการเด่นของขอนแกน พร้อมที่จะยกสินทรัพย์มาแสดงและจำหน่ายให้กับชาวขอนแกนและจังหวัดใกล้เคียงได้มาเลือกชม ซึ่งเป็นมูลค่าสินทรัพย์กว่า 20,000 ล้านบาท และในการจัดงานครั้งนี้คาดว่าจะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท เลยทีเดียว
...นับเป็นการกระตุ้นภาพรวมทางเศรษฐกิจในช่วงต้นปีของจังหวัดขอนแก่นได้เป็นอย่างดี และต้องขอขอบคุณทุกคนที่ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ในการปฎิบัติตามคำแนะนำในการป้องกันตนเองและดำเนินชีวิตแบบวิถีใหม่นิวนอมอลจนเป็นความคุ้นชินที่เกิดขึ้น รวมไปถึงการที่คนขอนแก่นเข้ารับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นอกจากสินทรัพย์ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่นำมาแสดงและจำหน่ายในราคาถูกแล้ว ยังคงมีกิจกรรมและโปรโมชั่นพิเศษต่าง ๆ จากสถาบันการเงิน รวมไปถึงส่วนลดต่างๆจากโครงการที่นำมามอบให้กับคนขอนแก่นไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาทอีกด้วย...
ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ผู้ที่จะเข้าชมงานหรือร่วมงาน ขอให้ปฎิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการเตรียมเอกสารยืนยันการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ที่จะต้องแสดงให้กับเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบก่อนเข้าชมงาน โดยสมาคมอสังหาริมทรัพย์ขอนแก่น ยังได้มีการจัดงานผ่านระบบออนไลน์ ให้กับผู้ที่สนใจได้เลือกซื้อและเลือกชมหากไม่สะดวกเดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้อีกด้วย
","26/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ขอนแก่น","สวท.ขอนแก่น","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126151827716"], [734,"ขอนแก่น จัดใหญ่มหกรรมบ้านและคอนโด 65 กระตุ้นเศรษฐกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ไตรมาส 1 ของปี คาดมีเงินสะพัดกว่า 1 พันล้านบาท","นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยนายวุฒิชัย ฉัตรชัยพลรัตน์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ขอนแกนและนายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น ร่วมแถลงข่าวการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดขอนแก่น 2022 Khon Kaen House & Condo Fair 2022 ที่สำนักงานหอการค้า จ.ขอนแก่น ซึ่ง สมาคมอสังหาริมทรัพย์ขอนแก่น ร่วมกับ หอการค้าจังหวัดขอนแก่น รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนได้กำหนดจัดกิจกรรมขึ้นในวันที่ 9-13 ก.พ. ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า ขอนแก่น โดยได้รับความสนใจจากนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ และสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นไปตามเกณฑ์ที่รัฐบาลและ ศบค.กำหนด และรัฐบาลได้กำหนดมาตารการผ่อนคลายในด้านต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้แผนการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจของจังหวัดจึงจำเป็นที่จะต้องทำทันที เพื่อแสดงถึงศักยภาพของความเป็นเมืองที่ปลอดภัย และการใช้ชีวิตแบบวิถีใหม่นิวนอมอลที่ทุกคนนั้นคุ้นชินกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดขอนแก่น 2022 ที่ได้กำหนดจัดกิจกรรมในช่วงระหว่างวันที่ 3-19 ก.พ. ที่จะถึงนั้น ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดได้นำอสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญในพื้นที่ 33 ทำเลทองของจังหวัด มาแสดงและจำหน่ายรวมกว่า 100 โครงการ ทั้งแบบ้านเดี่ยว บ้านแฝด คอนโดมิเนียม ที่ดินเปล่า หรือทรัพย์สินของธนาคาร ที่จะถูกนำมาแสดงและจำหน่ายให้กับชาวขอนแก่นได้เลือกซื้อ เลือกชมและเจรจาบ้านและคอนโด รวมทั้งที่ดิน และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้ภายในงานอย่างเสร็จสรรพ
ซึ่งจากการสอบถามพบว่าขณะนี้ 100 โครงการเด่นของขอนแกนพร้อมที่จะยกสินทรัพย์มาแสดงและจำหน่ายให้กับชาวขอนแกนและจังหวัดใกล้เคียงได้มาเลือกชม ซึ่งเป็นมูลค่าสินทรัพย์กว่า 20,000 ล้านบาทและในการจัดงานครั้งนี้คาดว่าจะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท เลยทีเดียว
นับเป็นการกระตุ้นภาพรวมทางเศรษฐกิจในช่วงต้นปีของจังหวัดขอนแก่น ได้เป็นอย่างดีและต้องขอขอบคุณทุกคนที่ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในการปฎิบัติตามคำแนะนำในการป้องกันตนเองและดำเนินชีวิตแบบวิถีใหม่นิวนอมอลจนเป็นความคุ้นชินที่เกิดขึ้น รวมไปถึงการที่คนขอนแก่นเข้ารับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามนอกจากสินทรัพย์ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่นำมาแสดงและจำหน่ายในราคาถูกแล้ว ยังคงมีกิจกรรมและโปรโมชั่นพิเศษต่างๆจากสถาบันการเงิน รวมไปถึงส่วนลดต่างๆจากโครงการที่นำมามอบให้กับคนขอนแก่นไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาทอีกด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ผู้ที่จะเข้าชมงานหรือร่วมงาน ขอให้ปฎิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการเตรียมเอกสารยืนยันการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ที่จะต้องแสดงให้กับเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบก่อนเข้าชมงาน โดยสมาคมอสังหาริมทรัพย์ขอนแก่น ยังได้มีการจัดงานผ่านระบบออนไลน์ ให้กับผู้ที่สนใจได้เลือกซื้อและเลือกชมหากไม่สะดวกเดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้อีกด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","26/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ขอนแก่น","สวท.ขอนแก่น","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126154503735"], [735,"จ.ชัยภูมิ เอาจริง ! ตรวจสอบห้องเย็น พร้อมติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า","เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2565 นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยนางศศิพิมล มงคล พาณิชย์จังหวัดชัยภูมิ สพ.ญ.ศรีสมัย โชติวนิช ปศุสัตว์จังหวัดชัยภูมิ นายสุเทพ ทะวลี ประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยภูมิ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรหนองบัวแดง ผู้แทนปกครองจังหวัดชัยภูมิ ผู้แทนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดชัยภูมิ ลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายปริมาณสุกรชำแหละ สถานที่เก็บ ในพื้นที่อำเภอหนองบัวแดง จำนวน 5 แห่ง จากการตรวจสอบพบว่า สถานที่เก็บเป็นห้องเย็นขนาดเล็ก ปริมาณการจัดเก็บเนื้อสุกรสำหรับจำหน่ายให้กับลูกค้าในแต่ละวัน ซึ่งมีปริมาณไม่ถึง 5,000 กิโลกรัม และทางผู้ประกอบการได้จัดทำบัญชีคุมสต๊อกสินค้า โดยไม่มีการกักตุนสินค้า
ทั้งนี้ ได้ตรวจสอบติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า ณ เทสโก้ โลตัส สาขาหนองบัวแดง ตลาดสดเทศบาลอำเภอหนองบัวแดง พบว่าราคาจำหน่ายเนื้อแดง กิโลกรัมละ 185-220 บาท หมูสามชั้น กิโลกรัมละ 230-240 บาท สำหรับราคาเนื้อไก่และไข่ไก่เป็นไปตามที่กรมการค้าภายในขอความร่วมมือ และผู้ประกอบการมีการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายปลีกชัดเจน สำหรับสินค้าบริโภคอุปโภคอื่น ๆ ไม่มีการขึ้นราคาแต่อย่างใด
","26/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ชัยภูมิ","สวท.ชัยภูมิ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126151953717"], [736,"รองผู้ว่าฯนครพนม นำทีมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าในตลาด ตรวจห้องเย็นและตรวจเยี่ยมโครงการพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน ในเขตพื้นที่อำเภอนาแก","วันนี้ (26 ม.ค. 65) นายชวนินทร์ วงศ์สถติจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัดนครพนม ปศุสัตว์จังหวัด ด่านกักกันสัตว์ ตำรวจภูธรจังหวัด ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าในตลาดสดตรวจสอบห้องเย็น และตรวจเยี่ยมโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน ซึ่งจำหน่ายมหมูเนื้อแดงในราคา 150 บาท/กก. ณ ร้านอารีย์เนื้อหมูสด ในเขตพื้นที่อำเภอนาแก ดังนี้
1.การจำหน่ายหมูเนื้อแดงตามโครงการพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน มีผู้บริโภคสนใจซื้อเป็นจำนวนที่เหมาะสมกับการให้การช่วยเหลือของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนม (100 กก/วัน)
2. ราคาจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค และพืชผัก ณ ตลาดสดเทศบาลนาแก
หมูเนื้อแดง 160-180 บาท/กก
มะละกอ 180 บาท/ถุง(10 กก)
กะหล่ำปลี 40 บาท/กก
คะน้า 40 บาท/กก
มะเขือเทศ 15-30 บาท /กก
พริกจินดา 40-50 บาท/กก
มะนาว 60 บาท/กก
ไข่ไก่ เบอร์ 0 ราคา 4.00 บาท/ฟอง
เบอร์ 1 ราคา 3.83 บาท/ฟอง
เบอร์ 2 ราคา 3.67 บาท/ฟอง
เบอร์ 3 ราคา 3.50 บาท/ฟอง
เบอร์ 4 ราคา 3.33 บาท/ฟอง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แนะนำและกำชับให้ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายให้ชัดเจนไม่ฉกฉวยโอกาสขึ้นราคาหรือจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควร
3 การตรวจสอบห้องเย็น ณ บริษัท นครพนม บีฟ (ไทยแลนด์) จำกัด ต.พิมาน อ.นาแก พบว่า เป็นห้องเย็นขนาดความจุ 35 ตัน ใช้เก็บซากโค จำนวน 5.5 ตัน ไม่พบเนื้อสุกร ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เน้นย้ำตามประกาศ กกร.ฉบับที่ 2 พ.ศ.2565 เรื่องการแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บและจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร ลงวันที่ 5 มกราคม 2565 เพื่อให้ผู้ประกอบการได้ทราบและกรณีเข้าเงื่อนไขตามประกาศฯ ให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","26/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","นครพนม","สวท.นครพนม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126160201752"], [737,"มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ศูนย์การศึกษาจังหวัดระนอง จัดโครงการอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ โครงการการบริหารจัดการธุรกิจบริการการท่องเที่ยวแบบ New normal ปลอด Covid-19 จังหวัดระนอง","วันนี้ (26 ม.ค. 65) นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ โครงการการบริหารจัดการธุรกิจบริการการท่องเที่ยวแบบ New Normal ปลอด covid-19 จังหวัดระนอง ณ เฮอริเทจ แกรนด์คอนเวนชั่น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง โดยมี ดร. สุวัฒน์ นวลขาว ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาจังหวัดระนอง มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา คณะวิทยากรจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา บุคลากร และผู้ประกอบการท่องเที่ยวเข้าร่วมพิธี
ดร. สุวัฒน์ นวลขาว ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาจังหวัดระนอง มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา กล่าวว่า การจัดโครงการอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ โครงการการบริหารจัดการธุรกิจบริการการท่องเที่ยวแบบ New normal ปลอด covid-19 จังหวัดระนอง ในครั้งนี้ เป็นแนวคิดและนโยบายของจังหวัดระนองร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ที่ตระหนักถึงสภาพปัญหาทางด้านการท่องเที่ยวของจังหวัด ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับการบริหารจัดการการท่องเที่ยวตามมาตรฐาน SHA ให้ผู้ประกอบการ มีทักษะความรู้เกี่ยวกับมาตรการป้องกัน และปฏิบัติตนเกี่ยวกับด้านสุขอนามัยในภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า จังหวัดระนอง ขอขอบคุณมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และบุคลากรทุกท่าน ที่ร่วมจัดโครงการครั้งนี้ ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ที่ดีของทางมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ที่เล็งเห็นความสำคัญของคุณภาพชีวิตประชาชนผู้ประกอบการภายในจังหวัดระนองที่ได้รับผลกระทบจากภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน จังหวัดระนองเป็นจังหวัดที่น่าอยู่ และมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม อันดับต้นๆ ของประเทศ ขอให้ทุกท่านภูมิใจในจังหวัดของเรา และช่วยกันสร้างภาพลักษณ์ทางการท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้น ให้เป็นที่น่าจดจำแก่นักท่องเที่ยว เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชุมชนจังหวัดระนองและประเทศชาติต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","26/1/2022","ภาคใต้","ระนอง","สวท.ระนอง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126161243767"], [738,"พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ตรวจติดตามโครงการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชนครั้งที่ 3","วันที่ 26 มกราคม 2565 สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ติดตามการดำเนินโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคาช่วยประชาชน (ครั้งที่ 3) โดยตรวจสอบติดตามการจัดจำหน่ายหมูเนื้อแดงของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการหมูพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน จุดจำหน่าย 8 จุด จำหน่ายหมูเนื้อแดงให้กับประชาชนผู้บริโภค ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ระหว่างวันที่ 17 31 มกราคม 2565 ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ดังนี้
1. หน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ถ.เทศบาล 4 อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มจำหน่ายเวลา 09.00 น.
2. โต้งหมูสด ถ.สุรินทร์-ปราสาท ต.เฉนียง อ.เมือง เริ่มจำหน่ายเวลา 08.00 น.
3. ร้านแรมโบ้หมูสด ถ.เลี่ยงเมืองสุรินทร์-ปราสาท ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มจำหน่ายเวลา 09.00 น.
4. เขียงเอ แอนด์ พี โปรช็อป (หน้ามหาวิทยาลัยราชมงคลสุรินทร์) ถ.สุรินทร์-ปราสาท ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มจำหน่ายเวลา 08.00 น.
5. ร้านพงษ์หมูสด สาขา 1 (ตรงกันข้ามทางเข้าบ้านบุณเยิง) ต.แสลงพันธ์ อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มจำหน่ายเวลา 09.00 น.
6. ร้านพงษ์หมูสด สาขา 2 (เยื้องร้านทะเลเผา) ต.สลักได อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มจำหน่ายเวลา 09.00 น.
7. ร้านวีซีมีท (VC meat) สาขาสุรินทร์ ถ.เทศบาล 3 ต.ในเมือง อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มจำหน่ายเวลา 09.00 น.
8. ร้านเจ้จิ้งหรีด ถ.เทศบาล 3 ต.ในเมือง อ.เมืองสุรินทร์ เริ่มจำหน่ายเวลา 09.00 น.
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในภาวะราคาสุกรที่สูงขึ้น และให้ประชาชนมีทางเลือกในการซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งเป็นการลดภาระค่าครองชีพ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ในช่วงสถานการณ์ดังกล่าว โดยมีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก สำหรับมูลค่าการจำหน่ายหมูเนื้อแดงทั้ง 8 จุด เป็นเงิน 54,000 บาท/วัน สามารถลดค่าครองชีพให้กับประชาชนได้วันละ 18,000 บาท
นอกจากนี้ จุดจำหน่าย ณ บริเวณหน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ มีสินค้าราคาประหยัดมาร่วมจำหน่ายด้วย อาทิ พืชผักสินค้าเกษตรอินทรีย์ข้าวสาร ผลไม้ ไข่ไก่ และสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาประหยัด ยอดจำหน่ายเฉลี่ยวันละ 12,000 - 15,000 บาท
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","26/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สวท.สุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126165923802"], [739,"พาณิชย์สุรินทร์ร่วมกับปศุสัตว์สุรินทร์ตรวจสอบปริมาณสต็อกเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์สุกรในห้องเย็น","สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับปศุสัตว์จังหวัด ออกตรวจสอบปริมาณสต็อคเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์สุกรในห้องเย็น จำนวน 3 แห่ง ดังนี้
1. ร้านห้องเย็น บีเค สุรินทร์
ตั้งอยู่เลขที่ 71 ม.16 ต.สลักได อ.เมืองสุรินทร์ เนื้อสุกรชำแหละ 4,570 กก. ปลาทู 20,000 กก.
2. บริษัท บุญศิริโฟรเซ่นโปรดักส์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 209 ม.4 ต.แกใหญ่ อ.เมืองสุรินทร์ หมูบด 411 กก. หมูหั่นแกง 992 กก. หน้ากากหมู 1,275 กก.
3. ร้านสบายใจพรีเมี่ยมบีฟ ตั้งอยู่เลขที่ 91 ม.16 ต.นาบัว อ.เมืองสุรินทร์ ไม่มีเนื้อสุกรชำแหละ มีแต่เนื้อโค
ปริมาณเนื้อสุกรชำแหละรวมทั้งสิ้น 4,570 กก. (ข้อมูล ณ วันที่ 25 มกราคม 2565)
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","26/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สวท.สุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126171039804"], [740,"กระทรวงพลังงาน ยืนยันเหตุท่อน้ำมันในทะเลรั่วที่ระยองไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดหาน้ำมันเพื่อรองรับการใช้ของประเทศ พร้อมติดตามและสำรวจความเสียหายอย่างเร่งด่วน","นายสมภพ พัฒนอริยางกูล โฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเหตุท่อน้ำมันดิบใต้ทะเล ของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) รั่วไหลในช่วงดึกคืนวันที่ 25 มกราคม 2565 บริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึก หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมือง ระยอง ว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กระทรวงพลังงาน ได้ตรวจสอบกับบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) โดยบริษัทได้ชี้แจงว่ามีปริมาณน้ำมันดิบในทะเล 20,000 ลิตร ซึ่งกระทรวงพลังงานได้มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน ติดตามสถานการณ์และตรวจสอบปริมาณน้ำมันสำรอง พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่กระทบต่อการจัดหาน้ำมันเพื่อรองรับการใช้ของประเทศอย่างแน่นอน รวมถึงมอบหมายให้พลังงานจังหวัดระยองติดตามสถานการณ์และประสานงานในพื้นที่ ซึ่งในภาพรวมประเทศไทยมีกำลังการกลั่นน้ำมันประมาณ 1.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในส่วนของโรงกลั่น SPRC มีกำลังการกลั่นประมาณ 175,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งการผลิตของโรงกลั่น SPRC ยังสามารถดำเนินการได้ และหากมีกรณีที่มีเหตุที่ไม่สามารถดำเนินการผลิตได้ ก็สามารถเพิ่มการผลิตของโรงกลั่นที่ไม่ได้รับผลกระทบ หรือ นำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเข้ามาได้ โดยปริมาณน้ำมันดิบสำรองของประเทศสามารถใช้ได้ประมาณ 28 วัน ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ บริษัทฯ ได้ดำเนินการควบคุมสถานการณ์ทันที และดำเนินการสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน โดยใช้น้ำยาและอุปกรณ์เพื่อขจัดคราบน้ำมัน รวมทั้งได้เร่งประสานหน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ ศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมสิ่งแวดล้อม (EMCC), ศูนย์บัญชาการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินและกระจายข่าว, ชุมชนกลุ่มประมงใกล้เคียง, ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ในการช่วยกันดำเนินการเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด
","26/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","นนทบุรี","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126174330823"], [741,"เลขาธิการ ศอ.บต. ร่วมแถลงข่าววิ่ง Amazean Jungle Trail ณ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา พร้อมผลักดันสู่ World Series สนามที่ 2 ของประเทศ","วันนี้ (26 มกราคม 2565)นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานงานแถลงข่าวการแข่งขัน Amazean Jungle Trail โดยมี พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นายสิรภพ ดวงสอดศรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย นางพาตีเมาะ สะดียามู รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว Ms. Sabrina De Nadai Co-Director UTMB ASIA และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก กรุงเทพฯ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ด้วยนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการผลักดันให้ประเทศไทยมีรายการแข่งขันวิ่งเทรลระดับโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศผ่านการท่องเที่ยวเชิงกีฬา รวมถึงเป็นช่องทางการสร้างรายได้ใหม่ให้กับประเทศอีกช่องทางหนึ่ง กระทั่งประสบความสำเร็จเกิดเป็นรายการแข่งขันวิ่งเทรลระดับโลก Thailand by UTMB ที่ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ สนามแห่งแรกของประเทศไทยที่เป็นหนึ่งในสนาม World Series และในวันนี้นับว่าเป็นโอกาสดีอีกครั้งหนึ่งที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีโครงการจัดแข่งขันวิ่งเทรลในนาม Amazean Jungle Trail ณ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ระหว่างวันที่ 6 - 8 พฤษภาคม 2565 โดยมีนโยบายที่จะผลักดันสนามแห่งนี้ให้เป็นสนาม World Series สนามที่ 2 ของประเทศไทย ในนามของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ต้องขอขอบคุณทาง ศอ.บต. ที่ได้มอบความไว้วางใจให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ได้ร่วมมือกันดำเนินการจัดการแข่งขัน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การแข่งขันครั้งนี้จะนำมาซึ่งมิติใหม่ของวงการกีฬาชายแดนใต้ เปิดบ้านรับนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศและทั่วโลก ขณะเดียวกันก็เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าสนามแห่งนี้จะสำเร็จและก้าวสู่สนามระดับโลก ได้สร้างชื่อเสียง และประโยชน์ทางเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับ Thailand by UTMB จังหวัดเชียงใหม่ที่ได้ดำเนินการสำเร็จมาแล้ว
ด้าน พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร กล่าวว่า ด้วยนโยบายของนายกรัฐมนตรี ในการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ได้เห็นชอบอนุมัติหลักการโครงการยกระดับการพัฒนาพื้นที่เมืองต้นแบบ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ภายใต้กิจกรรมการแข่งขัน Amazean Jungle Trail ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ตามคำขวัญที่ว่า \"สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อการส่งเสริมภาพลักษณ์และยกระดับมาตรฐานเมืองท่องเที่ยวเมืองเบตง ในด้านกีฬาให้ไปสู่ระดับนานาชาติ เป็นหมุดหมายใหม่ให้นักกีฬาวิ่งเทรลจากทั่วโลกได้เดินทางมาร่วมการแข่งขัน เป็นการเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจให้กับจังหวัดชายแดนใต้ และได้ผลักดันการแข่งขัน Amazean Jungle Trail ให้เป็นหนึ่งในรายการแข่งขันวิ่งเทรลนานาชาติระดับโลกในโอกาสต่อไป
สำหรับ การแข่งขัน Amazean Jungle Trail ครั้งนี้ เป็นการจัดแข่งขันเพื่อควอลิฟายสนามสู่การเป็น 1 ในสนาม World Series หากสำเร็จจะเป็นสนามที่ 2 ของประเทศไทยต่อจากสนาม Thailand by UTMB จังหวัดเชียงใหม่ Amazean Jungle Trail โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 6-8 พฤษภาคม 2565 ทำการปล่อยตัว ที่อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา มีระยะทางแข่งขัน 3 ระยะคือ ระยะ เบตง 100K ระยะ เบตง 50K และระยะ เบตง 25K โดยผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมแข่งขันได้ที่ www.runningconnect.com
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","26/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.เบตง จ.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126173838818"], [742,"จ.นครปฐม ประชุมคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดนครปฐม ครั้งที่ 10/2564","ที่ห้องกิ่งเพชร โรงแรมเวล นายสมเกียรติ พูลสุขเสริม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม
เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดนครปฐม ครั้งที่ 10/2564 โดยมี นายวิชัย โกสมนึก ประธานหอการค้าจังหวัดนครปฐม เป็นประธานที่ประชุม โดยในที่ประชุมได้แจ้งถึงความคืบหน้าโครงการต่างๆ ของหอการค้านครปฐม ได้แก่ โครงการ 1 ไร่ 1 ล้าน สร้างชาวไร่และชาวนาอัจฉริยะ โครงการทำนา 1 ไร่ ได้ข้าว 2 ตัน ณ บจ.สยามแฮนดส และการพิจารณาการจัดงานเทศกาลอาหารผลไม้และของดีนครปฐม 2565 ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการประชุมเพื่อกำหนดวันจัดงาน และการแจ้งความเคลื่อนไหวของสมาชิกหอการค้าที่ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน 778 ราย นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดวันประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 ที่เห็นชอบให้จัดในวันจันทร์ที่ 28 มีนาคม 2565 ซึ่งเป็นวันก่อตั้งหอการค้านครปฐม และการจัดโครงการกระจายวัคซีน mrna ให้กับผู้ประกอบการและแรงงานทั้งไทยและต่างชาติ ที่ในส่วนของหอการค้านครปฐมรวบรวมได้จำนวน 115 โดส และจะได้รับวัคซีนประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 สถานที่ฉีดคือโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
วันที่ 26 มกราคม 2565 พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม ร่วมกับ นายพงศ์สุธี สุขศิริ พาณิชย์จังหวัดนครปฐม และคณะทำงาน ร่วมตรวจสต็อกน้ำมันปาล์มในโรงงานน้ำมันปาล์ม พื้นที่จังหวัดนครปฐม และสถานที่เก็บน้ำมันปาล์ม ประจำเดือนมกราคม 2565 ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ทุกหน่วยออกตรวจน้ำมันปาล์ม สถานที่จัดเก็บและโรงงาน จากการตรวจสอบในครั้งนี้ พบว่าน้ำมันปาล์มของโรงงานที่เข้าตรวจสอบ มีสต็อกน้ำมันปาล์มตรงกับที่แจ้งไว้กับพาณิชย์จังหวัดนครปฐม และยังไม่พบการกระทำผิดแต่อย่างใด
ทั้งนี้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครปฐมได้แจ้งให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ห้ามมิให้กักตุนสินค้า หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","26/1/2022","NULL","NULL","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126202515898"], [744,"ศูนย์หม่อนไหมฯ ขอนแก่น ร่วมขับเคลื่อนงานโมเดลเศรษฐกิจสู่ความยั่งยืน (BCG Model) ของ จ.ขอนแก่น","นางสาวจิราลักษณ์ ปรีดี ผู้อำนวยการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ ขอนแก่น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ร่วมประชุมการขับเคลื่อนงาน BCG Model ของจังหวัดขอนแก่น ผ่านระบบออนไลน์ (Application ZOOM) โดยมีนายพัฒนา นุศรีอัน เกษตรและสหกรณ์จังหวัดขอนแก่น เป็นประธานการประชุม
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมและวางพื้นฐานและขยายผลในพื้นที่ ซึ่งจังหวัดขอนแก่น โดยสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดขอนแก่น ได้รับมอบหมายในการขับเคลื่อนงาน BCG Model ในระดับพื้นที่ โดยจังหวัดขอนแก่นกำหนดเป็นหนึ่งในพื้นที่นำร่อง มีสินค้า 2 ชนิด คืออ้อยโรงงาน และหม่อนไหม และเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Model) โมเดลเศรษฐกิจสู่ความยั่งยืน ต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","26/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ขอนแก่น","สวท.ขอนแก่น","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126192113877"], [745,"เพชรบุรี เดินหน้าเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารของยูเนสโก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจทุกด้าน ทั้งการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว","จังหวัดเพชรบุรี เดินหน้าเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารของยูเนสโก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจทุกด้าน ทั้งการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (วันที่ 26 มกราคม 2565) นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ร่วมประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดเพชรบุรี (กรอ.จังหวัด) ครั้งที่ 1/2565 ณ ห้องประชุมพริบพรี ศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี
นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดเพชรบุรีร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันหาแนวทางการพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยวให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ผลักดันทุกช่องทางให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ที่จะเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งจากการที่จังหวัดเพชรบุรีได้รับการประกาศเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารของยูเนสโก ได้วางแผนจัดทำ Roadmap ในระยะ 5 ปี โดยองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. และมหาวิทยาลัยศิลปากร รวมทั้งการสำรวจกิจกรรมต่างๆ ที่สอดคล้องกับการเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารจากทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ที่ดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดสัมฤทธิ์ผล
นอกจากนั้น ที่ประชุมได้หารือและเห็นชอบในการนำมาสคอต น้องโตนด ซึ่งเป็นมาสคอตที่ชนะการประกวดการออกแบบมาสคอตและโลโก้ ของจังหวัดเพชรบุรีเมืองสร้างสรรค์ ระดับนานาชาติ 2564 ที่แสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์เฉพาะของเมืองเพชร มาใช้ในการสื่อสารเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ในการเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร โดยจะใช้แสดงสัญลักษณ์ให้กับสถานประกอบการ ร้านอาหาร ที่พัก ที่ได้มาตรฐาน Sha Plus เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวขึ้นมา แสดงให้เห็นว่ามีความปลอดภัย มีคุณภาพ และคุ้มค่า
รวยริน ทองชู นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ข่าว ภาพ/ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","26/1/2022","ภาคตะวันตก","เพชรบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126223833909"], [746,"วช.- มทส. เดินหน้าแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมัน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน","วันนี้ (26 ม.ค. 2565) วช.นำสื่อมวลชน ลงพื้นที่ ศูนย์สาธิตการจัดการขยะและของเสียอันตรายแบบครบวงจร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) จ.นครราชสีมา ดูผลสำเร็จการแปรรูปขยะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับใช้เป็นน้ำมันทางเลือก มีศักยภาพใช้แทนน้ำมันเชิงพาณิชย์ได้ โดยใช้ขยะพลาสติกจากขยะมูลฝอยชุมชนเป็นวัตถุดิบ ภายใต้การสนับสนุนทุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยเป็นเทคโนโลยีเพื่อการแข่งขัน แนวโน้มการลงทุนคุ้มค่า แนะทุกภาคส่วนสนับสนุน ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านชีวมวล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี หัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่า ขยะพลาสติกเป็นปัญหาวิกฤติระดับโลก ยากต่อการกำจัด จึงเกิดวิธีการจัดการต่าง ๆ อาทิ การแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า สร้างนวัตกรรม Upcycling ฯลฯ หากแต่ขยะบางส่วน ยังใช้วิธีการฝังกลบ เผาทำลาย ทิ้งลงแหล่งน้ำธรรมชาติ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชีวิตความเป็นอยู่ของประชากร การผลิตน้ำมันทางเลือกโดยใช้วัตถุดิบจากขยะพลาสติก มาผ่านกระบวนการไพโรไลซิส ให้ได้คุณภาพเทียบเคียงกับน้ำมันที่ใช้เติมรถยนต์ หรือในเชิงพาณิชย์ จึงเป็นเรื่องที่ต้องศึกษาวิจัย มทส. มีแนวความคิดในการจัดการขยะตามแนวทางของเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular economy) โดยจัดการขยะมูลฝอยให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนน้อยที่สุด ควบคู่ไปกับการสร้างมูลค่าของขยะมูลฝอยเอง มาอย่างยาวนานเป็นเวลา 20 ปีแล้ว ถือเป็น เทคโนโลยีเพื่อการแข่งขัน ให้กับ Business Economy
โดยโครงการนี้ ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เพื่อปรับปรุงระบบเดิม ซึ่งเป็นโรงงานต้นแบบ ขนาดกำลังผลิตน้ำมันไพโรไลซิส 4,000 ลิตรต่อวัน และเพื่อลดต้นทุนการแปรรูปน้ำมัน เริ่มตั้งแต่การคัดแยกขยะพลาสติกออกจากขยะมูลฝอยชุมชน ที่รับมาจากชุมชนในเขตเทศบาลตำบลสุรนารี และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้วันละ 20 ตัน โดยใช้เทคนิคการบำบัดขยะเชิงกลและชีวภาพ ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (SUT-MBT) ที่พัฒนาขึ้น ด้วยการสับขยะให้เล็ก นำไปหมัก 5-7 วัน จนได้ขยะพลาสติกที่มีความชื้นต่ำ และมีองค์ประกอบสม่ำเสมอ สามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการแปรรูปเป็นน้ำมันดิบได้ โดยการพัฒนาต้นแบบเตาปฏิกรณ์หลอมพลาสติกเบื้องต้น (Pre-Melting Reactor) เพื่อหลอมขยะพลาสติกก่อนป้อนเข้าสู่เตาปฏิกรณ์หลัก (Pyrolysis Rector) ในการผลิตน้ำมันในเตาปฏิกรณ์ และนำความร้อนเหลือทิ้งนำกลับมาใช้ใหม่ มีการปรับปรุงชุดถ่ายกากให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ในกระบวนการหลอมพลาสติกเบื้องต้น มีการนำกากของเสียจากอุตสาหกรรมสี มาเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาและเป็นวัตถุดิบร่วมในการผลิตด้วย ในสัดส่วนร้อยละ 5-10 ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตน้ำมันได้อย่างชัดเจน โดยไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
สำหรับขยะพลาสติก 1 กิโลกรัม (Dry basis) สามารถผลิตน้ำมันไพโรไลซิสได้ 1 ลิตร โดยที่องค์ประกอบของน้ำมันฯ ประกอบด้วย น้ำมันดีเซล แนฟทา และน้ำมันเตา ร้อยละ 53 , 32 และ 15 ตามลำดับ ซึ่งสัดส่วนของน้ำมันดีเซล ลดลง 7% เนื่องจากกากของเสียจากอุตสาหกรรมสี ที่นำมาใช้มาเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาและเป็นวัตถุดิบร่วมในการผลิต มีสัดส่วนขององค์ประกอบไฮโดรคาร์บอนที่เบาซึ่งมาจากตัวทำละลายสี เมื่อทำการวิเคราะห์ต้นทุน พบว่า ต้นทุนจากคัดแยกขยะพลาสติก มีจำนวน 2 บาท/ลิตร ต้นทุนการผลิตน้ำมันจากขยะพลาสติก ที่กำลังการผลิตต่อเนื่อง 200 ลิตร/ชั่วโมง มีจำนวนที่ลดลง อยู่ที่ 6.5 บาท/ลิตร จาก เดิม 8 บาท/ลิตร และต้นทุนการกลั่นน้ำมันแยกลำดับส่วน คิดเป็น 4 บาท/ลิตร รวมต้นทุนการแปรรูปน้ำมันทั้งสิ้น 12.50 บาท/ลิตร ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ต่ำ หากจะมีการนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ภาครัฐต้องมีกลไกสนับสนุนอีกหลายอย่าง ต้องมีการจับคู่กับเอกชน เพื่อนำเทคโนโลยีไปใช้ในการต่อยอดธุรกิจ ซึ่งศักยภาพของน้ำมันไพโรไลซิสนี้มีความเป็นไปได้อย่างมาก
ผศ.ดร.วีรชัย เปิดเผยอีกว่า น้ำมันไพโรไลซิสที่กลั่นแยกได้ มีคุณสมบัติเทียบเคียงกับน้ำมันเชิงพาณิชย์ เป็นต้นแบบและถูกนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมันดีเซลในเตาเผาของโรงกำจัดขยะติดเชื้อจากโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยทั้งหมดอย่างครบวงจร ตามแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนของประเทศ ทำให้ จ.นครราชสีมา ไม่ประสบปัญหาการจัดการขยะติดเชื้อ โดยเฉพาะ หน้ากากอนามัย และนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงงานไฟฟ้าชีวมวล ของ มทส. หรือส่งวัตถุดิบเชื้อเพลิงไปโรงงานผลิตปูนซีมนต์ โดยทั้งหมดมาจากการรับกำจัดขยะมูลฝอยที่ได้จากชุมชน ที่นำมาใช้อย่างคุ้มค่า
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","26/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","นครราชสีมา","สวท.นครราชสีมา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127033005935"], [747,"รองผู้ว่าฯ นครพนม นำทีมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าในตลาดสด ตรวจห้องเย็น และตรวจเยี่ยมโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ในเขตพื้นที่อำเภอนาแก","วันที่ 26 มกราคม 2565 นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พาณิชย์จังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด ด่านกักกันสัตว์ ตำรวจภูธรจังหวัด ประสานการปฏิบัติงานร่วมกันลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าในตลาดสด ตรวจสอบห้องเย็น และตรวจเยี่ยมโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ที่จำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคา 150 บาท/กก. ณ ร้านอารีย์เนื้อหมูสด ในเขตพื้นที่อำเภอนาแก ซึ่งการจำหน่ายหมูเนื้อแดง ตามโครงการพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน มีผู้บริโภคสนใจซื้อเป็นจำนวนที่เหมาะสมกับการให้การช่วยเหลือตามมาตรการของจังหวัดนครพนม (100 กก./วัน) ในส่วนของราคาจำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภค และพืชผัก ณ ตลาดสดเทศบาลนาแก อำเภอนาแก
- หมูเนื้อแดง 160-180 บาท/กก.
- มะละกอ 180 บาท/ถุง (10 กก.)
- กะหล่ำปลี 40 บาท/กก.
- คะน้า 40 บาท/กก.
- มะเขือเทศ 15-30 บาท/กก.
- พริกจินดา 40-50 บาท/กก.
- มะนาว 60 บาท/กก.
- ไข่ไก่
เบอร์ 0 ราคา 4.00 บาท/ฟอง
เบอร์ 1 ราคา 3.83 บาท/ฟอง
เบอร์ 2 ราคา 3.67 บาท/ฟอง
เบอร์ 3 ราคา 3.50 บาท/ฟอง
เบอร์ 4 ราคา 3.33 บาท/ฟอง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แนะนำและกำชับให้ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายให้ชัดเจน ไม่ฉกฉวยโอกาสขึ้นราคาหรือจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควร
สำหรับการเข้าตรวจสอบห้องเย็น ณ บริษัท นครพนม บีฟ (ไทยแลนด์) จำกัด ต.พิมาน พบว่า เป็นห้องเย็นขนาดความจุ 35 ตัน ใช้เก็บซากโค จำนวน 5.5 ตัน ไม่พบเนื้อสุกร ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เน้นย้ำตามประกาศ กกร. ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2565 เรื่อง การแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร ลงวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2565 เพื่อให้ผู้ประกอบการได้ทราบและเข้าใจ ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามประกาศโดยเคร่งครัด
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","26/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","นครพนม","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220126235008930"], [748,"สำนักงาน คปภ. ระบุ บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เลิกกิจการ ย้ำทุกกรมธรรม์ยังได้รับความคุ้มครอง","สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ชี้แจงกรณีการเลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของ บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ว่า ตามกฎหมายได้กำหนดให้บริษัทประกันวินาศภัยที่ประสงค์จะเลิกประกอบธุรกิจฯ ให้ยื่นคำขออนุญาตต่อคณะกรรมการ คปภ. เพื่อพิทักษ์ประโยชน์ของผู้เอาประกันภัย โดยคณะกรรมการมีอำนาจกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลา ให้บริษัทต้องปฏิบัติให้แล้วเสร็จ ก่อนที่จะอนุญาตให้เลิกกิจการ
แม้บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นคำขอเลิกประกอบธุรกิจ ผ่านสำนักงาน คปภ. แล้ว แต่คณะกรรมการ คปภ. ยังไม่ได้อนุญาต ในการนี้ จึงได้ตั้งคณะทำงานพิจารณารายละเอียดต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายก่อนเสนอต่อคณะกรรมการ คปภ. ได้พิจารณาต่อไป
ส่วนกองทุนประกันวินาศภัย ได้ถูกจัดตั้งขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองเจ้าหนี้ ในกรณีที่บริษัทถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยและเพื่อพัฒนาธุรกิจประกันวินาศภัยให้มีความมั่นคงและเสถียรภาพเท่านั้น ไม่ได้ครอบคลุมถึงกรณีบริษัทขอเลิกประกอบธุรกิจเอง
ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก โดยยืนยันว่าขณะนี้ บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ยังไม่สามารถปิดหรือหยุดประกอบกิจการได้ จนกว่าจะได้รับอนุญาตให้เลิกกิจการจากคณะกรรมการ คปภ. โดยสำนักงาน คปภ. ได้ตั้งทีมงานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแล้ว เพื่อเป็นการพิทักษ์ประโยชน์ของผู้เอาประกันภัย ผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยและผู้มีส่วนได้เสีย
ชาวยะลาเริ่มทยอยเลือกซื้อผลไม้-ขนมไหว้เจ้าตรุษจีน ส่วนราคาปรับขึ้นบางชนิด ร้านค้าเผยเศรษฐกิจไม่ดี ของแพงประชาชนจับจ่ายน้อยลง
ร้านค้าเขตเทศบาลนครยะลา ได้เริ่มวางจำหน่ายผลไม้/ขนมไหว้เจ้าต่างๆ ที่จะนำไปไหว้เจ้าในช่วงตรุษจีนกันอย่างคึกคัก โดยราคาส่วนใหญ่ในปีนี้ก็ยังคงเดิมปรับขึ้นบางชนิด ส้มโชกุนอยู่ที่ 70 บาท ส้มไต้หวัน 80 บาท สาลี่หิมะลูกละ 35 บาท แอปเปิลวอชิงตัน 18 บาท องุ่น 180 บาท ฟักเงินฟักทอง แพ็ก 100 บาท ขนมเข่ง 120 บาท
ขณะที่มีประชาชนทยอยไปเลือกซื้อผลไม้ไหว้เจ้ากันบ้างแล้วแต่ไม่มาก ส่วนใหญ่ก็จะซื้อของแห้งไปก่อน ทั้งเส้นหมี่/อาหารกระป๋องและอื่นๆ ส่วนผลไม้สดก็จะมาซื้อใกล้ๆ วันตรุษจีน หรือมาซื้อในวันจ่าย ซึ่งจะตรงกับวันที่ 30 มกราคม ก่อนที่จะไหว้เจ้าในวันที่ 31 มกราคม สำหรับบางคนที่จะมาแออัดในวันจ่ายก็ได้มาเลือกซื้อก่อนล่วงหน้า
ประชาชนเผยว่าสำหรับการไหว้เจ้าไหว้บรรพบุรุษ ก็จะไหว้เป็นประจำทุกปี แต่ในปีนี้ของทุกอย่างแพงขึ้นราคา ก็จะลดปริมาณลง แต่ก็มีครบตามประเพณีการไหว้
ทางด้านเจ้าของร้านเฮนเบเกอรี่ บอกว่า สำหรับผลไม้ไหว้เจ้าปีนี้ส่วนใหญ่ราคาเดิม มีบางชนิดที่ขึ้นราคา ส่วนขนมเข่งก็ราคาเดิมไม่ปรับขึ้น ตอนนี้ลูกค้ายังไม่ค่อยมีเงียบๆ โดยเพื่อนๆ ที่ร้านทางหาดใหญ่ก็บอกว่าขายไม่ค่อยดี เศรษฐกิจย่ำแย่ไปตามๆ กันเหมือนกันทุกที่ ของแพงทุกอย่าง ส่วนใหญ่ประชาชนจะชอบมาซื้อกันใกล้ๆ เบียดเสียดกัน จริงๆ แล้วก็อยากให้ทยอยมาเลือกซื้อจะได้ไม่แออัด ช่วงนี้ยังมีโควิดระบาดอยู่
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127103038972"], [750,"คุณแม่พาหนูน้อยเลือกซื้อชุดกี่เพ้าสวมใส่ \"รับตรุษจีน\"","ใกล้เทศกาลตรุษจีนที่จะมาถึง ระหว่างวันที่ 30 ม.ค 65 ไปจนถึงวันที่ 1 ก.พ 65 ทำให้บรรยากาศร้านขายเสื้อสีแดง ย่านการค้าสายกลาง เขตเทศบาลนครยะลาที่มีอยู่จำนวนหลายร้าน ได้เริ่มคึกคักแล้ว แต่ละร้านก็จะมีลูกค้าแวะเวียนมาเลือกซื้อเสื้อผ้าไปสวมใส่กันอย่างต่อเนื่อง
โดยที่ร้านเพื่อนกัน ซึ่งมีจำหน่ายเสื้อสีแดงตรุษจีน ทั้งเสื้อยืดคอกลม เสื้อกี่เพ้า หลากหลายแบบ ได้มีผู้ปกครองชาวไทยเชื้อสายจีน คุณแม่ คุณย่า พาหนูน้อยวัยขวบเศษไปเลือกซื้อชุดกี่เพ้าสีแดงสดสวย ซึ่งเป็นสีมงคลของชาวจีนไว้สวมใส่เพื่อต้อนรับวันขึ้นปีใหม่จีน โดยคุณแม่บอกว่ามาซื้อประจำในช่วงตรุษจีนของตนเองได้เลือกซื้อเสื้อไปใส่แล้ว วันนี้ก็ได้พาลูกมาเลือกซื้อ ปีใหม่ทั้งทีลูกจะได้มีชุดกี่เพ้าสวยๆ ไว้ใส่ ขณะที่ผู้ใหญ่ ซึ่งมาเลือกซื้อเสื้อสีแดง ซึ่งเป็นเสื้อยืดคอกลม ก็จะซื้อเป็นทีมเพื่อให้คนในครอบครัวได้สวมใส่เหมือนกัน
ในส่วนของราคาเสื้อสีแดง ทางร้านบอกว่าเสื้อตรุษจีนปีนี้ราคาเท่าเดิมเหมือนปีที่แล้ว ไม่ปรับขึ้นแต่อย่างใด ไม่เหมือนสินค้าอื่นๆ ที่พากันขึ้นราคา โดยราคาเสื้อยืดเริ่มต้นที่ 100 กว่าบาท ส่วนกี่เพ้าเด็กชุดละ 350 บาท
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127101542968"], [751,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุทัยธานี ร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอุทัยธานี จัดโครงการสินค้าราคาประหยัด เพื่อลดค่าครองชีพ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน","
วันนี้ (27 ม.ค.65) ณ ที่ว่าการอำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม การจำหน่ายสินค้าราคาประหยัด เพื่อลดค่าครองชีพ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยมี นางอัมพิกา พ่างสกุล พาณิชย์จังหวัดอุทัยธานี นายสมพล ไวปัญญา ปศุสัตว์จังหวัดอุทัยธานี และนายบุญธรรม ทองพิจิตร นายอำเภอเมืองอุทัยธานี ให้การต้อนรับ
ในการนี้ สำนักงานพาณิชย์ ได้บูรณาการร่วมกับ สำนักงานปศุสัตว์ จัดโครงการครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 8 นำสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ ไปจำหน่ายในราคาประหยัด และต่ำกว่าราคาท้องตลาดทั่วไป โดยเริ่มจำหน่ายตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น. หรือจนกว่าสินค้าจะหมด
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับกลุ่มผู้ผลิตสินค้าชุมชน สินค้า OTOP และเป็นการลดค่าครองชีพ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากอีกด้วย
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","อุทัยธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุทัยธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127104512983"], [752,"พช.ยโสธร ดำเนินโครงการยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว และการค้าและสู่สากลกิจกรรมย่อยพัฒนาผู้ประกอบการ OTOP","วันที่ 26 มกราคม 2565 เวลา 13.00 น. นายสุรชัย แดนพิบูลย์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานสารสนเทศ ฯ รักษาราชการแทนพัฒนาการจังหวัดยโสธร ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP จังหวัดยโสธร ที่เข้าร่วมโครงการยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว และการค้าและสู่สากล กิจกรรมย่อยพัฒนาผู้ประกอบการ OTOP เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของกลุ่ม ผู้ผลิต/ผู้ประกอบการ OTOP ให้ได้มาตรฐาน มีช่องทางการตลาด มีรายได้เพิ่มขึ้น และเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ OTOP จังหวัดยโสธร ได้เป็นที่รู้จักได้รับการยอมรับทั่วประเทศ นักท่องเที่ยวได้รับความพึงพอใจและเกิดความประทับใจจากการให้บริการของผู้ประกอบการท่องเที่ยว และชุมชนท่องเที่ยวของจังหวัดยโสธร พร้อมด้วย นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ และเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาจังหวัดยโสธร ณ โรงแรม เจ พี เอ็มเมอรัลด์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร
ทั้งนี้ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดยโสธร ได้กำหนด กิจกรรม ประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างความเข้าใจแนวทางการดำเนินงาน ด้านการบริหารจัดการ การจัดทำแผนธุรกิจ การเข้าถึงแหล่งทุน ช่องทางการจำหน่าย และเตรียมความพร้อมเข้าสู่ตลาดอาเซียน ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมาย จำนวน 20 กลุ่มๆละ 5 คน รวม 100 คน ดำเนินการในระหว่างวันที่ 25-26 มกราคม 2565
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ยโสธร","สวท.ยโสธร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127105150991"], [753,"จ.ชัยภูมิ ขับเคลื่อนนโยบายขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง","วันที่ 26 มกราคม 2565 นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นประธานมอบบ้าน \"บ้านนี้มีรัก\" โดยมีนายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัด และ พล.ร.อ.สุวิทย ธาระรูป ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด ระดับอำเภอ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ กลุ่ม/องค์กร เครือข่ายชุมชน และผู้นำชุมชน เข้าร่วมพิธีมอบบ้าน ณ ครัวเรือนเป้าหมาย นางสาวอุทัยวรรณ เหมือนสิงห์ บ้านเลขที่ 408/2 หมู่ที่ 17 บ้าน เพชรสำโรง อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ
โดยนางสาวอ้อยใจ คำบุญเรือง นายอำเภอบำเหน็จณรงค์ ได้รายงานความเป็นมาและข้อมูลทั่วไปของครัวเรือนยากจนฯ สภาพปัญหาครัวเรือน ใน 5 มิติ คือ มิติด้านที่อยู่อาศัย มิติด้านอาชีพและรายได้ มิติด้านการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิต มิติด้านสุขภาพ และมิติด้านสวัสดิการ ภายใต้แนวคิด \"1 ครัวเรือน 1 หมู่บ้าน 1 case study \" พร้อมทั้ง กระบวนการช่วยเหลือ โดยเปรียบเทียบกระบวนการ Before - Action - After
ในการนี้ นางกชพร ปริปุณนัง พัฒนาการจังหวัดชัยภูมิ ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการบริหารศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนฯ พร้อมด้วยนายโดมทอง ดิเรกศิลป์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนจังหวัดชัยภูมิ ร่วมพิธีมอบบ้าน \"บ้านนี้มีรัก\" ในครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้ให้กำลังใจครัวเรือนเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพชีวิต และเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตาม สนับสนุนและพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้ง 5 มิติ เพื่อให้ครัวเรือนเป้าหมายสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน และช่วยเหลือผู้อื่นได้ในอนาคต และขอบคุณทุกภาคส่วนที่บูรณาการความช่วยเหลือในครั้งนี้ การลงแขกซ่อมแซม \"บ้านนี้มีรัก\" ในครั้งนี้ มีการบูรณาการความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 39,629 บาท และรายการช่วยเหลืออื่น ๆ ที่ไม่ใช่ตัวเงิน 1. บริจาคแผ่นเมทัลชีทและสกรูฯ 2. บริจาคไม้กระดาษและไม้หน้าสาม 3. บริจาคท่อส้วม 4. บริจาคไม่ไผ่ 5. บริจาคพันธุ์ไม้และพันธุ์ผัก 6. อาหารและเครื่องดื่ม
พร้อมทั้ง ทีมโคก หนอง นา โมเดล และทีมงาน ผู้นำ อช. อำเภอบำเหน็จณรงค์ ร่วมพัฒนาพื้นที่แปลงปลูกดอกดาวเรืองและผักสวนครัวด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ชัยภูมิ","สวท.ชัยภูมิ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127113924019"], [754,"สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดแสดงและจำหน่ายสินค้าคุณภาพดี ราคาประหยัด ส่งเสริมช่องทางการตลาด และบรรเทาปัญหาค่าครองชีพแก่ผู้ผลิตและผู้ประกอบการ OTOP ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019","เช้าวันนี้ (27 ม.ค.65) ผู้ประกอบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ทำการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าคุณภาพดี ราคาประหยัด ซึ่งจัดโดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อส่งเสริมช่องทางการตลาด และบรรเทาปัญหาค่าครองชีพแก่ผู้ผลิตและผู้ประกอบการ OTOP ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 บริเวณห้องโถงหน้ากองคลัง ชั้น 1 อาคาร 4 ชั้น ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สำหรับการจัดบูธจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในวันนี้ เป็นผู้ประกอบการ OTOP จาก
\"ร้านน้องจันทร์\" อำเภอลาดผักไห่ จัดจำหน่ายผลิตน้ำอ้อยคั้นสดแท้ 100% ขิงดอง กระเทียมดอง และเผือกอบกรอบ
\"ร้านน้ำพริกแห่งตลาดกรุงศรี\" อำเภอพระนครศรีอยุธยา จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แคปหมู น้ำพริกเผาปลาย่าง น้ำพริกเผาแมงดา ปลาร้าทรงเครื่อง และน้ำพริกรสเด็ดอีกมากมาย ร้านเปิดจำหน่ายสินค้าประจำที่บริเวณ วิหารมงคลบพิตร
\"ร้านคุณหนู หมูแดดเดียว\" อำเภอพระนครศรีอยุธยา จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์หมูแดดเดียว หมูหวาน และเนื้อหวาน ร้านเปิดจำหน่ายสินค้าประจำที่บริเวณ วิหารมงคลบพิตร
ท่านที่สนใจร่วมอุดหนุนสินค้า สามารถติดต่อได้ที่ 035 336542
ข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เว็บไซต์ https://ayutthaya.prd.go.th/
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","พระนครศรีอยุธยา","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127125007066"], [755,"รองผู้ว่าฯ ตรัง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการจำหน่ายสินค้าอุปโภค- บริโภค ราคาถูกสู้ภัยโควิด-19 จังหวัดตรัง ระยะที่ 3","วันนี้ (27 ม.ค.2565) นายภูวนัฐ สมใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ตรวจเยี่ยมการจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ตามโครงการจัดจำหน่ายสินค้า อุปโภคบริโภค ราคาถูก สู้ภัยโควิต 19 จังหวัดตรัง ครั้งที่ 3 ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้จังหวัดตรังและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ได้กำหนดจัดกิจกรรมระหว่างวันที่ 26-27 มกราคม 2565 ณ โรงเรียนบ้านเกาะปราง ต.นาท่ามเหนือ อ.เมือง จ.ตรัง
ตามที่จังหวัดตรังได้อนุมัติงบประมาณ จำนวน 353,600.-บาท ให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ดำเนินการจัดกิจกรรมในพื้นที่ 10 อำเภอๆ ละ 2 วัน เพื่อบรรเทาภาวะค่าครองชีพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น โดยดำเนินการภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
โดยในวันนี้ ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ได้นำสินค้ามาจำหน่าย อาทิ ไข่ไก่เบอร์ 2 จำนวน 300 แผงต่อวัน ปกติราคา 108-110 บาท จำหน่ายเพียง 65 บาทเท่านั้น น้ำมันพืชปาล์มขนาด 1 ลิตร วันละ 180 ขวด ปกติราคา 57-60 บาท จำหน่ายเพียง 45 บาท ทั้งนี้ให้สิทธิ์ผู้ซื้อไข่ไก่คนละ 1 แผง น้ำมันพืชคนละ 1 ขวด นอกจากนี้ยังจำหน่ายเนื้อหมูชำแหละ อาทิ หมูเนื้อแดง (ไหล่/สะโพก/ขาหน้า/คอ) ราคาตลาด 180-200 บาท จำหน่ายเพียง 150 บาท สามชั้น 180-220 บาท จำหน่าย 170 บาท เนื้อสันใน ราคา 180-200 บาท จำหน่ายเพียง 170 บาท ซี่โครง ราคา 170-180 บาทจำหน่าย 160 บาท เครื่องใน (ตับ/หัวใจ) ราคา 130-140 บาทจำหน่าย 100 บาท ขา-หัว ราคา 120-130 บาท จำหน่าย 100 บาท กระดูกสัน ราคา 110-120 บาท จำหน่าย 100 บาท เครื่องในรวม จำหน่าย 50-70 บาท จำหน่าย 50 บาท
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127112541010"], [756,"ผลักดันธุรกิจอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยสู่ตลาดต่างประเทศ ผ่านโครงการ Content Pitching มูลค่าการค้ากว่า 300 ล้านบาท","นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานเปิดโครงการ Content Pitching ธุรกิจภาพยนตร์และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง ว่า เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ ขยายโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการผลิตและนําเสนอผลงาน
ในปี 2565 ถือเป็นการเริ่มต้นกิจกรรมแรก เป็นนโยบายใหม่ของกระทรวงฯ ภายใต้แนวคิด Soft Power สู่ระดับสากล ผลักดันอุตสาหกรรม ดิจิทัลคอนเทนต์ไทย ให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ ในการผลิตดิจิทัลคอนเทนต์ทั้งภาพยนตร์ แอนิเมชัน เกมส์ การ์ตูนและด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเผยแพร่ทั้งศิลปะวัฒนธรรม อาหาร และความเป็นไทยโดยมีผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมธุรกิจภาพยนตร์และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง จํานวน 15 ราย ผู้ดําเนินธุรกิจแพลตฟอร์มคอนเทนต์ออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศที่มีชื่อเสียง จํานวน 4 ราย ได้แก่ weTV / Netflix / iQIY และ Viu ทั้งนี้ เพิ่มช่องทางการนำเสนอไอเดียและสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยตั้งเป้าการจับคู่เจรจาธุรกิจวันนี้ (27 ม.ค.) มีมูลค่าการค้ากว่า 300 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้จะมีการจัดกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป
ที่โรงเรียนบ้านเกาะปราง ตำบลนาท่ามเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง นายภูวนัฐ สมใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ตรวจเยี่ยมการจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ตามโครงการจัดจำหน่ายสินค้า อุปโภคบริโภค ราคาถูก สู้ภัยโควิด-19 จังหวัดตรัง ครั้งที่ 3 ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้จังหวัดตรังและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ได้กำหนดจัดกิจกรรมระหว่างวันที่ 26-27 มกราคม 2565
ตามที่จังหวัดตรังได้อนุมัติงบประมาณ จำนวน 353,600.บาท ให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ดำเนินการจัดกิจกรรมในพื้นที่ 10 อำเภอๆ ละ 2 วัน เพื่อบรรเทาภาวะค่าครองชีพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น โดยดำเนินการภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
โดยในวันนี้ ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ได้นำสินค้ามาจำหน่าย อาทิ ไข่ไก่เบอร์ 2 จำนวน 300 แผงต่อวัน ปกติราคา 108-110 บาท จำหน่ายเพียง 65 บาทเท่านั้น น้ำมันพืชปาล์มขนาด 1 ลิตร วันละ 180 ขวด ปกติราคา 57-60 บาท จำหน่ายเพียง 45 บาท ทั้งนี้ให้สิทธิ์ผู้ซื้อไข่ไก่คนละ 1 แผง น้ำมันพืชคนละ 1 ขวด นอกจากนี้ยังจำหน่ายเนื้อหมูชำแหละ อาทิ หมูเนื้อแดง (ไหล่/สะโพก/ขาหน้า/คอ) ราคาตลาด 180-200 บาท จำหน่ายเพียง 150 บาท สามชั้น 180-220 บาท จำหน่าย 170 บาท เนื้อสันใน ราคา 180-200 บาท จำหน่ายเพียง 170 บาท ซี่โครง ราคา 170-180 บาท จำหน่าย 160 บาท เครื่องใน (ตับ/หัวใจ) ราคา 130-140 บาทจำหน่าย 100 บาท ขา-หัว ราคา 120-130 บาท จำหน่าย 100 บาท กระดูกสัน ราคา 110-120 บาท จำหน่าย 100 บาท เครื่องในรวม จำหน่าย 50-70 บาท จำหน่าย 50 บาท
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127112859012"], [758,"ขณะนี้ราคาหมูเริ่มลดลง หลังหลายฝ่ายร่วมมือแก้ไขปัญหาหมูแพงต่อเนื่อง","นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีข้อกังวลช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้หมูจะมีราคาแพงขึ้น โดยยืนยันว่า ขณะนี้มีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายในและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่า ราคาหมูในหลายพื้นที่เริ่มปรับราคาลดลง เป็นผลจากการที่กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหลายฝ่ายทั้งกรมปศุสัตว์ กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามตรวจสต็อกหมูอย่างต่อเนื่อง พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ที่กระทำผิดฉวยโอกาสขึ้นราคาและกักตุนสินค้าอย่างเคร่งครัด รวมถึงมีการเจราจากับสมาคมผู้เลี้ยงหมูฯและห้างสรรพสินค้า ตรึงราคาขายหมูเป็นหน้าฟาร์มอยู่ที่ 100-110 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งขณะนี้พบว่าราคาลดลงเหลือเพียง 104 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนหมูเนื้อแดง กำหนดราคาไว้ไม่เกิน กิโลกรัมละ 200-210 บาท
นายจุรินทร์ ย้ำว่ากระทรวงพาณิชย์ ยังสามารถบริหารจัดการสถานการณ์ราคาหมูได้และที่ผ่านมาต้องยอมรับหมูหายไปจากระบบจำนวนหนึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจหาตัวเลขที่หายไป พร้อมขอความร่วมมือประชาชนหากพบเห็นการฉวยโอกาส หรือมีการกักตุนสินค้า แจ้งเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน หรือสายด่วนโทร 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง
นายไกรศร วิศิษฏ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้กล่าวในตอนหนึ่งของการประชุมกรมการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ประจำเดือนมกราคม 2565 ที่ห้องประชุมศรีวิชัย ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช วันนี้(27 ม.ค. 65) เน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนอย่างยิ่งสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีการเตรียมความพร้อมและสร้างมาตรฐานด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และความปลอดภัยจากโรคโควิด-19 แก่นักท่องเที่ยว ปฏิบัติตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุข และมาตรฐานด้านการท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ยังกำชับให้เร่งสร้างความเข้าใจกับกลุ่มผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการปรับตัวและเตรียมความพร้อมด้านการท่องเที่ยว ภายใต้แนวทางการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรค ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยว และส่งเสริมให้เกิดการกระจายรายได้ในภาคการท่องเที่ยว และชุมชนท้องถิ่น รวมทั้งเพื่อเป็นการยกระดับขีดความสามารถด้านการแข่งขันทางการท่องเที่ยวต่อไป
อย่างไรก็ตาม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมกรมการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ครั้งที่ 1/2565 ประจำเดือนมกราคม 2565 จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มอบโล่รางวัลเด็กและเยาวชนดีเด่น เด็กและเยาวชนที่ทำชื่อเสียงมาสู่ประเทศเนื่องในงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2565 แก่เด็กและเยาวชนสังกัดสถานศึกษาต่างๆ จำนวน 12 ราย และมอบเกียรติบัตรแก่ผู้รับรางวัลการประกวดโครงการภาพวาดส่งเสริมวัฒนธรรมความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 16 ประจำปี 2564 จำนวน 2 รายด้วย
อุไรวรรณ/ข่าว/ภาพ , จุรีรัตน์/ภาพ27 มกราคม 2565
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคใต้","นครศรีธรรมราช","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127124430058"], [760,"จังหวัดขอนแก่น เปิดตลาดนัดชุมชน ประชาสุขใจ สู้ภัยโควิด บรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน","ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดโครงการ ตลาดนัดชุมชน ประชาสุขใจ สู้ภัยโควิด เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับสินค้าของเกษตรกร และนำผลผลิตทางการเกษตร, ผลิตภัณฑ์ OTOP ที่มีศักยภาพแต่ขาดช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ และพัฒนาเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ประกอบการในพื้นที่ให้สามารถผลิตสินค้าได้ตรงตามความต้องการของตลาด
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การเปิดตลาดนัดชุมชน ประชาสุขใจ สู้ภัยโควิด-19 เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้นำสินค้าที่ผลิตได้ในท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นสินค้า OTOP สินค้าจากโคก หนอง นา โมเดล สินค้าที่เป็นผลผลิตจากธนาคารอาหาร (Food Bank) กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มสตรี กลุ่มการผลิตต่างๆ ได้มีโอกาสมาขายตรงสู่ประชาชนในเขตเมือง ทำให้มีรายได้มากขึ้น สามารถนำไปปรับปรุงการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้บริโภคได้ลดค่าใช้จ่าย ซึ่งถือเป็นก้าวแรกในการที่จังหวัดขอนแก่นจะได้ดำเนินการ พร้อมทั้งให้ทุกอำเภอทั้ง 26 อำเภอ ได้ดำเนินการจัดตลาดนัดชุมชนขึ้นในพื้นที่ของตนเอง เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มทางเลือกให้กับพี่น้องประชาชนผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน
เนื่องจากปัจจุบันปัญหาค่าครองชีพของครัวเรือนมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้น จากการปรับราคาสินค้าอุปโภค-บริโภค ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนในทุกระดับ โครงการตลาดนัดชุมชน ประชาสุขใจ สู้ภัยโควิด จึงเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อน และแก้ไขปัญหาค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ด้วยการนำผลิตภัณฑ์ OTOP ที่ขึ้นชื่อ และผลผลิตทางการเกษตรจากการดำเนินโครงการโคก หนอง นา โมเดล, โครงการธนาคารอาหาร หรือ Food Bank สินค้าจากกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส มาจำหน่ายในราคาถูก เพื่อสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่ โดยมีเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และกลุ่มต่าง ๆ นำสินค้ามาร่วมจำหน่ายกว่า 90 ราย
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ขอนแก่น","สวท.ขอนแก่น","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127142147105"], [761,"แบ่งเบาภาระค่าไฟฟ้าประชาชน รับภาระค่าใช้จ่ายต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อไปอีก 3 เดือนกว่า 36,000 ล้านบาท","ดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ในฐานะโฆษก กฟผ.เปิดเผยว่า กฟผ. ดำเนินการตามแนวทางการบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ ของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช. ด้วยการปรับแผนบริหารจัดการเชื้อเพลิงใหม่ โดยเลื่อนแผนการปลดโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เครื่องที่ 8 ที่มีกำหนดปลดออกจากระบบผลิตไฟฟ้าในวันที่ 1 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา เนื่องจากหมดอายุการใช้งาน ออกไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 รวมระยะเวลาประมาณ 1 ปี ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าในภาพรวมของประเทศลงได้ คาดว่า การเดินเครื่องโรงไฟฟ้าแม่เมาะเครื่องที่ 8 ซึ่งใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง กำลังผลิตประมาณ 2,160 ล้านหน่วย เทียบเท่ากับการใช้ LNG ประมาณ 15,330 ล้านลูกบาศก์ฟุต ช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าลงได้ถึงประมาณ 12,200 ล้านบาท
กฟผ. ยังได้ปรับเปลี่ยนการใช้เชื้อเพลิง ของโรงไฟฟ้าบางปะกงและโรงไฟฟ้าเอกชนในภาคตะวันตกให้มาใช้น้ำมันเตาและน้ำมันดีเซล แทนการใช้ก๊าซฯ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน ธันวาคม 2564 เพื่อลดการนำเข้า LNG คิดเป็นพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้ประมาณ 1,235 ล้านหน่วย เทียบเท่ากับการใช้ LNG 7,839 ล้านลูกบาศก์ฟุต ช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าลงได้ถึง 2,600 ล้านบาท
นอกจากนี้ กฟผ. ยังได้แบกรับต้นทุนเชื้อเพลิงค่าก๊าซ LNG แทนผู้ใช้ไฟฟ้าในงวดเดือนกันยายน ธันวาคม 2564 เป็นการชั่วคราวอีกประมาณ 36,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม กฟผ. ยังเตรียมปรับแผนการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำต่างประเทศให้สอดคล้องรองรับกับสถานการณ์และแนวทางการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) ประเภทพลังงานหมุนเวียน เพิ่มเติมจากสัญญาเดิม พร้อมทั้งจัดตั้ง War Room เพื่อติดตามข้อมูลราคาเชื้อเพลิงแต่ละประเภท และพิจารณาเปรียบเทียบต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจาก LNG ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง
","27/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127183532285"], [762,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำปาง เดินหน้าตรวจสอบผู้ครอบครองเนื้อสุกรชำแหละ เพื่อป้องกันการกักตุนสินค้า","
นางสาวเยาวเรศ แซ่โค้ว พาณิชย์จังหวัดลำปาง และเจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า เข้าตรวจสอบห้องเย็นบริษัท ซีพีเอฟ เทรดดิ้ง จำกัด เลขที่ 708 ม.2 ตำบลชมพู อำเภอเมืองลำปาง เพื่อตรวจสอบการครอบครองเนื้อสุกรชำแหละแยกชิ้นส่วน โดยพบว่าบริษัทฯ ได้จัดเก็บเนื้อสุกรชำแหละแช่แข็ง ได้แก่ เนื้อแดง สันคอ สันนอก สันใน และสามชั้น เพื่อกระจายให้ลูกค้าในเขตภาคเหนือ ซึ่งบริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามประกาศ กกร. ฉบับที่ 2 พ.ศ.2565 ในการแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บและจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร
นอกจากนี้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำปาง ได้ร่วมลงพื้นที่กับเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอเมืองลำปาง ปศุสัตว์อำเภอห้างฉัตร และด่านกักกันสัตว์จังหวัดลำปาง ตรวจสอบห้องเย็นสำหรับแช่แข็งเนื้อหมูสด จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ 1.กะฐินห้องเย็น ตำบลปงแสนทอง อำเภอเมืองลำปาง 2.ห้องเย็น เอกอภัสรา ตำบลวอแก้ว อำเภอห้างฉัตร และ 3.ห้องเย็นพรทิพย์ อำเภอเมืองลำปาง เพื่อตรวจการเคลื่อนย้ายและการกักตุนเนื้อหมู ซึ่งการตรวจสอบไม่พบการกระทำกักตุนสินค้าแต่อย่างใด
ทั้งนี้ หากพบเห็นว่ามีการกักตุนจะมีโทษตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ และหากประชาชนพบเห็นการกักตุนหรือจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สวท.ลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127135159096"], [763,"เจ้าของเขียงหมูใน อ.เบตง เผยหมูหน้าฟาร์มภาคใต้ไม่ขาดตลาด พร้อมฝากรัฐบาลควบคุมราคาหมูเป็นหน้าฟาร์ม เมื่อหมูหน้าฟาร์มไม่ขึ้น เขียงหมูก็ไม่ขึ้นราคา คนจนคนรวยได้กินกันหมด","วันนี้ 27 ม.ค. 65 จากสถานการณ์ราคาหมูปรับขึ้นสูงถึงกิโลกรัมละ 240 บาท ซึ่งสาเหตุเกิดจากหมูเป็นโรค ทำให้เกิดวิกฤตหมูขาดสภาพคล่องในตลาด และคาดว่าจะคงสภาวะแบบนี้ไปอีกนาน ขณะที่เจ้าของเขียงหมูภาคใต้เผยหมูทางภาคใต้ไม่ขาดตลาด หากราคาหน้าฟาร์มไม่ปรับราคาขึ้น บรรดาเขียงหมูสดก็ไม่ปรับราคาขึ้นเช่นกัน วอนรัฐบาลแก้ไขให้ตรงจุดควบคุมราคาหมูหน้าฟาร์มให้ได้ ขณะที่วันนี้ราคาหมูสามชั้นอยู่ที่กิโลกรัมละ 240 บาท หมูสันนอก กิโลกรัมละ 210 บาท หมูสันใน กิโลกรัมละ 220 บาท สะโพก กิโลกรัมละ 190 บาท ซี่โครงหมู กิโลกรัมละ 190 บาท
ด้าน เจ้าของเขียงหมูสด ตลาดโก้งโค้งในเขตเทศบาลเมืองเบตง กล่าวว่า ราคาหมูเขียงวันนี้สูงขึ้นทุกวันอยู่ที่กิโลละ 240บาท และอาจจะขยับขึ้นเรื่อยๆ เพราะจำนวนหมูหน้าฟาร์มลดหายไปมาก โดยเฉพาะฟาร์มหมูจากภาคกลาง เช่น จังหวัดนครปฐม หากหมดแล้วไม่มีหมูให้จับแล้ว บรรดาเขียงหมูจึงหันไปสั่งจากฟาร์มหมูของบริษัท ซีพี แทน เพราะบรรดาเขียงหมูสด ไม่ชอบราคาสูง เพราะขายยาก โดยมีราคาหน้าฟาร์มอยู่ที่ กิโลกรัมละ 110 บาท ทุกวันนี้ไม่ได้สั่งเป็นตัวแล้ว ต้องสั่งเป็นชิ้นส่วนเข้ามาแทน แพงกว่า ก็ต้องยอมเพราะวันนี้ไม่มีส่งตามร้านอาหารประจำ ลูกค้าหน้าร้านก็หดหายเพราะราคาสูง หันไปกินไก่ ปลา แทน แตกต่างจากที่มีโครงการคนละครึ่ง ลูกค้าพอมีกำลังซื้อ เพราะจ่ายเพียงครึ่งเดียว แต่พอโครงการหมดลูกค้าก็หาย เราก็พยายามดึงราคาเพราะสงสารลูกค้า เราไม่ชอบให้ราคาขึ้น ขายยากและจากสถานการณ์ราคาหมูที่ยังขยับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากปัญหา ทั้งต้นทุนการเลี้ยงหมูที่สูงขึ้นเกษตรกรเลิกเลี้ยง รวมถึงหมูเป็นโรค ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภคโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะถึงนี้
นอกจากนี้ พ่อค้าเขียงหมู ยังฝากถึงรัฐบาลโดยเฉพาะหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้อยู่ หากต้องการแก้ไขปัญหาจริงให้ควบคุมราคาหมูเป็นหน้าฟาร์ม เมื่อหมูหน้าฟาร์มไม่ขึ้น เขียงหมูก็ไม่ขึ้นราคา คนจนคนรวยได้กินกันหมด
ขณะที่ กระทรวงพาณิชย์ ได้เร่งแก้ปัญหา จัดโครงการ หมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าครองชีพ ให้กับประชาชน ในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 มาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ล่าสุดทางกระทรวงพาณิชย์ ได้ขยายเวลาโครงการออกไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค 65 แล้ว หลังราคาหมูยังพุ่งไม่หยุด
นางผุสสดี จ๋ายเจริญ พาณิชย์จังหวัดยะลา เผยว่า หลังจากที่พาณิชย์ยะลา ได้รับนโยบายให้จัดโครงการหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชนในรอบแรกปลายเดือน พ.ย ถึง ธ.ค 64 ซึ่งมีการนำหมูเนื้อแดง มาจำหน่ายในราคา 130 บาท ต่อกิโลกรัม และขยายต่อมาในวันที่ 8 ม.ค 65-15 ม.ค 65 ปรับราคาจำหน่ายขึ้น ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท ตามราคาของหมูที่เพิ่มขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันราคาหมูยังไม่คลี่คลาย ทั้งปริมาณที่เข้าสู่ตลาดน้อย ต้นทุนสูงขึ้น แนวโน้มราคาหมูยังคงปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งทางพาณิชย์ยะลา ได้รับนโยบายให้ขยายเวลา ขายหมูลดราคา ในกิโลกรัมละ 150 บาท ไปจนถึงสิ้นเดือนมกราคม เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการที่สูงขึ้น ในช่วงโควิด-19 ที่มีการเปิดเมือง เป็นการช่วยลดค่าครองชีพ ให้กับประชาชน
สำหรับ อ.เบตง ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจะเข้ามามากมีความต้องการบริโภคสูง ก็จะมี อยู่ 4 จุด คือ แผงหมูป้ารัตน์ แผงคุณชินกร แผงคุณวงค์คณา และ แผงคุณอภิชาต โดยจะจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.65 ไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค.65
ขณะที่ ในส่วนของสินค้าอย่างอื่น ที่เกี่ยวข้องกับปศุสัตว์ ซึ่งต้นทุนได้ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไก่สด ไข่ไก่ ทางพาณิชย์ยะลา ก็ได้เข้าไปดูแล แล้ว ทั้งในส่วนของผู้บริโภคและ เกษตรกร ฝากผู้ประกอบการ การจำหน่ายสินค้า ก็ให้เหมาะสม เป็นไปตามต้นทุน ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค ซึ่งทางพาณิชย์ มีกฎหมายอยู่ ถ้ามีการร้องเรียนเข้ามา ก็จะต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย โดยเฉพาะในส่วนของสุกรในขณะนี้ก็ได้มีประกาศ ห้ามส่งออกสุกรมีชีวิต ต้องแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร ด้วย ทั้งนี้ หากผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่ 1569 ทางพาณิชย์ยะลา ก็จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.เบตง จ.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127135017095"], [764,"จังหวัดมุกดาหารแถลงข่าวโครงการส่งเสริมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดมุกดาหารเที่ยวมุกสุขทั้งปี ตรุษจีนมุก#2 ประจำปีงบประมาณ 2565","วันที่ 25 มกราคม 2565 นายเฉลิมพล มั่งคั่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารมอบหมายให้นายบุญช่วย น้อยสันเทียะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารเป็นประธานในการแถลงข่าวโครงการส่งเสริมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดมุกดาหาร เที่ยวมุกสุขทั้งปี ตรุษจีนมุก#2 ประจำปีงบประมาณ 2565 โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าวประกอบด้วย ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครพนม ผู้แทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร นายกสมาคมคนไทยเชื้อสายเวียดนาม ประธานมูลนิธิการกุศลมุกดาหาร และนายกสมาคมเมืองสามธรรม ร่วมกันแถลงข่าว เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดมุกดาหารให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดมุกดาหาร โดยกำหนดจัดกิจกรรมระหว่างวันที่ 30 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ 2565 ณ บริเวณศาลหลักเมืองมุกดาหาร ศาลเจ้าฟ้ามุงเมือง และศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้อง ถนนสองนางสถิตย์ ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมืองฯ จ.มุกดาหาร
กิจกรรมที่น่าสนใจภายในงาน ตรุษจีนมุก#2 คือการเปิดเส้นทางบูชาศาลบ้านศาลเมือง ได้แก่ ศาลหลักเมือง, ศาลเจ้าฟ้ามุมเมือง และศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้อง ในลักษณะ ผู้ว่าพาไหว้ พร้อมกิจกรรมโชว์ฝูงสิงโตเชิด จำนวน 74 ตัว ร้าน อันเกิม ฟู๊ดแกลอรี่ พิพิธภัณฑ์มีชีวิต อาหารเวียดนาม จัตุรัสเวียดนาม ใน Concept ลิตเติ้ลฮอยอัน จัตุรัสจีน ที่ประดับตกแต่งแบบจีนโบราณ ที่บริเวณแยกโรงแรมฮั่วนำ จัตุรัสไทยประดับโคมตุงสีเหลืองแดง นิทรรศการจากชมรมถ่ายภาพมุกดาหาร และกิจกรรมบนเวทีกลางบริเวณใกล้กับศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้อง
จึงขอเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหารและนักท่องเที่ยวที่สนใจ เข้าเที่ยวชมกิจกรรมส่งเสริมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวมุกดาหาร เที่ยวมุกสุขทั้งปี ตรุษจีนมุก#2 ประจำปีงบประมาณ 2565 ระหว่างวันที่ 30 มกราคมถึง 1 กุมภาพันธ์ 2565 ตามสถานที่ดังกล่าว
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","มุกดาหาร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127144535115"], [765,"เมืองพัทยาเปิดรับนักท่องเที่ยว 2 รูปแบบ Test & Go,Sand Box 1 ก.พ.นี้","นายกธุรกิจพัทยา เผยเมืองพัทยาเปิดรับนักท่องเที่ยว 2 รูปแบบ Test & Go,Sand Box 1 ก.พ.นี้ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มหลังเกิดกระแสนักท่องเที่ยวยกเลิกพักเกาะเสม็ดด้วยมีการเรียกเก็บค่าตรวจ ATK ก่อนเดินทาง 300 บาท ระบุสำหรับชลบุรีเก็บค่าตรวจ RT-PCR 2 รอบ ซึ่งนักท่องเที่ยวทราบเพราะอยู่ในเงื่อนไข Thailand Pass ก่อนจับจองอยู่แล้ว
จากกรณีที่รัฐมีมาตรการที่มีการประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. 65 เป็นต้นมา ที่ต้องตรวจ ATK นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปยังเกาะเสม็ด จังหวัดระยอง โดยต้องมีผลตรวจไม่เกิน 72 ชม. และต้องจ่ายค่าเครื่องตรวจสูงถึงรายละ 330 บาท ซึ่งมาตรการดังกล่าวส่งผลให้นักท่องเที่ยวมีการยกเลิกการเดินทางไปพักผ่อนเป็นจำนวนมากจนส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการท่องเที่ยวนั้น
นายบุญอนันต์ พัฒนสิน นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวว่าสำหรับเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นั้นอยู่ในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวหรือ Blue Zone ร่วมกับอีก 3 จังหวัด ไม่เหมือนกับพื้นที่จังหวัดระยอง โดยเมืองพัทยาจะรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 2 รูปแบบ ทั้งแบบ Test & Go และ Sand Box ที่จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป ซึ่งมีมาตรการตามข้อกำหนดและมาตรการของภาครัฐอยู่แล้ว อย่างกรณีเรื่องของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาพักผ่อนที่เมืองพัทยานั้นจะต้องมีการตรวจคัดกรองแบบ RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง คือในวันแรกซึ่งหากมีผลเป็นลบก็สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตามปกติ ก่อนจะตรวจคัดกรองซ้ำอีกครั้งในวันที่ 5 ของการพำนัก โดยค่าใช้จ่ายเรื่องนี้เป็นไปตามข้อตกลงและตามเงื่อนไขของ Thailand Pass ที่นักท่องเที่ยวยินยอมตั้งแต่เริ่มการจับจอง ซึ่งนอกจากเรื่องนี้แล้วก็ไม่มีนโยบายในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่อย่างใด ดังนั้นหน้าที่หลักของผู้ประกอบการคือการไปรับนักท่องเที่ยวที่สนามบินก่อนจะพาไปตรวจคัดกรองที่ รพ.คู่สัญญา และพาเข้าพักจากนั้นก็จะทำการนัดตรวจอีกครั้งตามข้อกำหนดเท่านั้น ส่วนที่ว่าจะมีการตรวจ ATK เพิ่มเติมหรือไม่นั้น คงเป็นเรื่องความสมัครใจระหว่างผู้ประกอบการกับนักท่องเที่ยวมาก กว่าซึ่งก็ถือว่าแตกต่างจากพื้นที่ของจังหวัดระยอง
นายบุญอนันต์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับพื้นที่ของเกาะล้านนั้น เมืองพัทยาก็ไม่มีนโยบายการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อตรวจ ATK แต่อย่างใด เพียงแต่มีความเข้มงวดในการตรวจสอบเรื่องของอุณหภูมิ การสวมหน้ากากอนามัย และการแสดงผลการฉีดวัคซีนตามที่กำหนดเท่านั้น ทั้งในส่วนของนักท่องเที่ยวต่างประเทศและนักท่องเที่ยวชาวไทย ส่วนผู้ใดที่น่าสงสัยก็ให้ทำการตรวจ ATK และแสดงผล ซึ่งหากเป็นลบก็สามารถท่องเที่ยวได้ตามปกติ แต่หากมีผลเป็นบวกก็จะถูนำตัวเข้าสู่ขั้นตอนการรักษาต่อไป
ปัจจุบันสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยให้ความสนใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และได้จัดสรรชุดตรวจ ATK จำนวน 6,000 ชุด ให้กับพนักงานบริการด้านการท่องเที่ยวฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดด้วย
ปริญญา ข่าว/ภาพ
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคตะวันออก","ชลบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127145748132"], [766,"เมืองพัทยา เปิดรับนักท่องเที่ยว 2 รูปแบบ Test&Go,Sand Box 1 ก.พ.นี้","นายกธุรกิจพัทยา เผยเมืองพัทยาเปิดรับนักท่องเที่ยว 2 รูปแบบ Test&Go,Sand Box 1 ก.พ.นี้ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มหลังเกิดกระแสนักท่องเที่ยวยกเลิกพักเกาะเสม็ดด้วยมีการเรียกเก็บค่าตรวจ ATK ก่อนเดินทาง 300 บาท ระบุสำหรับชลบุรีเก็บค่าตรวจ RT-PCR 2 รอบ ซึ่งนัก ทท.ทราบเพราะอยู่ในเงื่อนไข Thailand Pass ก่อนจับจองอยู่แล้ว จากกรณีที่รัฐมีมาตรการที่มีการประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. 65 เป็นต้นมา ที่ต้องตรวจ ATK นักท่อง เที่ยวที่จะเดินทางไปยังเกาะเสม็ด จังหวัดระยอง โดยต้องมีผลตรวจไม่เกิน 72 ชม. และต้องจ่ายค่าเครื่องตรวจสูงถึงรายละ 330 บาท ซึ่งมาตรการดังกล่าวส่งผลให้นักท่องเที่ยวมีการยกเลิกการเดินทางไปพักผ่อนเป็นจำนวนมากจนส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการท่องเที่ยวนั้น
นายบุญอนันต์ พัฒนสิน นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวว่า สำหรับเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นั้นอยู่ในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวหรือ Blue Zone ร่วมกับอีก 3 จังหวัด ไม่เหมือนกับพื้นที่จังหวัดระยอง โดยเมืองพัทยาจะรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 2 รูปแบบทั้งแบบ Test&Go และ Sand Box ที่จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป ซึ่งมีมาตรการตามข้อกำหนดและมาตรการของภาครัฐอยู่แล้ว อย่างกรณีเรื่องของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาพักผ่อนที่เมืองพัทยานั้นจะต้องมีการตรวจคัดกรองแบบ RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง คือในวันแรกซึ่งหากมีผลเป็นลบก็สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตามปกติ ก่อนจะตรวจคัดกรองซ้ำอีกครั้งในวันที่ 5 ของการพำนัก โดยค่าใช้จ่ายเรื่องนี้เป็นไปตามข้อตกลงและตามเงื่อนไขของ Thailand Pass ที่นักท่องเที่ยวยินยอมตั้งแต่เริ่มการจับจอง
ซึ่งนอกจากเรื่องนี้แล้วก็ไม่มีนโยบายในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่อย่างใด ดังนั้นหน้าที่หลักของผู้ประกอบการคือการไปรับนักท่องเที่ยวที่สนามบินก่อนจะพาไปตรวจคัดกรองที่ รพ.คู่สัญญา และพาเข้าพักจากนั้นก็จะทำการนัดตรวจอีกครั้งตามข้อกำหนดเท่านั้น ส่วนที่ว่าจะมีการตรวจ ATK เพิ่มเติมหรือไม่นั้น คงเป็นเรื่องความสมัครใจระหว่างผู้ประกอบการกับนักท่องเที่ยวมาก กว่าซึ่งก็ถือว่าแตกต่างจากพื้นที่ของจังหวัดระยอง
นายบุญอนันต์ กล่าวต่อไปว่าสำหรับพื้นที่ของเกาะล้านนั้น เมืองพัทยาก็ไม่มีนโยบายการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อตรวจ ATK แต่อย่างใด เพียงแต่มีความเข้มงวดในการตรวจสอบเรื่องของอุณหภูมิ การสวมหน้ากากอนามัย และการแสดงผลการฉีดวัคซีนตามที่กำหนดเท่านั้น ทั้งในส่วนของนักท่องเที่ยวต่างประเทศและนักท่องเที่ยวชาวไทย ส่วนผู้ใดที่น่าสงสัยก็ให้ทำการตรวจ ATK และแสดงผล ซึ่งหากเป็นลบก็สามารถท่องเที่ยวได้ตามปกติ แต่หากมีผลเป็นบวกก็จะถูนำตัวเข้าสู่ขั้นตอนการรักษาต่อไป
ปัจจุบันสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยให้ความสนใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และได้จัดสรรชุดตรวจ ATK จำนวน 6,000 ชุด ให้กับพนักงานบริการด้านการท่องเที่ยวฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดด้วย
ปริญญา/ข่าว/ภาพ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","NULL","ชลบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127180648238"], [767,"จังหวัดมุกดาหารขับเคลื่อนตามประกาศเจตนารมณ์ขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง","วันที่ 26 มกราคม 2565 นายเฉลิมพล มั่งคั่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร มอบหมายให้ นายวุฒิชัย เสาวโกมุท รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป้นประธานการประขุม คณะกรรมการบริหารศูนย์อำนวยการปฏิบัติการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลัดเศรษฐกิจพอเพียง (คพจ.จ.มห) ครั้งที่ 2/2565 ตามประกาศเจตนารมณ์จังหวัดมุกดาหารในการขจัดความยากจนฯ เพื่อให้ครัวเรือนเป้าหมายได้รับความช่วยเหลือตามสภาพปัญหาในมิติต่างๆ และสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง โดยใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์ด้วยระบบ TPMAP 5 มิติ ประกอบด้วย ด้านสุขภาพ ด้านความเป็นอยู่ ด้านรายได้ ด้านการศึกษา และด้านการเข้าถึงบริการของรัฐ
นายวุฒิชัย เสาวโกมุท รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า จากข้อมูล ปี 2564 จังหวัดมุกดาหารมีครัวเรือนที่ตกเกณฑ์ความยากจนในระบบ TPMAP ที่ต้องได้รับการช่วยเหลือจำนวน 1,587 ครัวเรือน ได้แก่ อำเภอเมือง 614 ครัวเรือน นิคมคำสร้อย 359 ครัวเรือน คำชะอี 397 ครัวเรือน ดงหลวง 105 ครัวเรือน ดอนตาล 74 ครัวเรือน หว้านใหญ่ 9 ครัวเรือน และหนองสูง 29 ครัวเรือน ซึ่งจังหวัดมุกดาหารได้มอบหมายภารกิจให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามขั้นตอนและบูรณาการร่วมกับทุกกระทรวงในพื้นที่เพื่อให้การข่วยเหลือครัวเรือนเป้าหมายในพื้นที่ต่อไป
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","มุกดาหาร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127143756112"], [768,"พัทยา พร้อมรับนักท่องเที่ยวระบบ Sandbox และ Test&Go 1 ก.พ.นี้","ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา นางอำไพ ศักดานุกูลจิต สไลวินสกี้ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย นายขจรเดช อภิชาติตรากุล ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพัทยา นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวชลบุรี นายบุญอนันต์ พัฒนสิน นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา นายพิสูจน์ แซ่คู นายกสมาคมโรงแรมภาคตะวันออก พร้อมด้วยตัวแทนภาคการท่องเที่ยว และตัวแทนโรงพยาบาลในพื้นที่เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง เข้าร่วมประชุมเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวทั้งแบบ sandbox และ Test&Go ที่จะเริ่มในวันที่ 1 ก.พ.นี้
นางอำไพ ศักดานุกูลจิต สไลวินสกี้ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า สำหรับการประชุมเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวทั้งแบบ sandbox และ Test&Go ในครั้งนี้ เพื่อสอดรับกับมติของ ศบค.ชุดใหญ่ ที่เห็นชอบให้นักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยแบบ Test & Go ลงทะเบียนตั้งแต่ 1 กุม ภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป หลังได้ทำการระงับไปตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2564 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังเทศกาลปีใหม่ โดยในการรองรับนักท่องเที่ยวแบบ Test&Go นี้ นักท่องเที่ยวจะต้องตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง และต้องมีหลักฐานการจองโรงแรมที่พัก ในวันที่ 1 และ 5 ที่เข้ามาในประเทศ รวมทั้งลงทะเบียนแอพ หมอชนะ เพื่อการติดตามตัวมาตรวจหาเชื้อโควิด-19
โดยในส่วนภาคท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จึงเร่งหาแผนรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินมาท่องเที่ยวในพื้นที่ รวมถึงการดูแลนักท่องเที่ยวหากผลการตรวจออกมาเป็นบวก ทั้งนี้เบื้องต้นได้กำหนดร่างมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หรือที่เรียกว่า SHA Extra Plus ของโรงแรมสำหรับกักกันตัวเอง หรือ Hotel Room Isolation ซึ่งโรงแรมที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวในระบบ sandbox และTest&Go ในวันที่ 1 กุมภาพันธุ์ 2565 จะต้องได้รับมาตรฐาน SHA Extra Plus โดยมีข้อกำหนดตามประกาศของคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดชลบุรี ในการกันห้องพักไว้ 5 % เพื่อจัดทำ Hotel Room Isolation สำหรับดูแลนักท่องเที่ยวที่ตรวจหาเชื้อแล้วมีผลเป็นบวก ทั้งนี้เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้กับนักท่องเที่ยวไม่ต้องเข้าพักใน Hospitel ซึ่งปัจจุบันโรงแรมที่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีที่ได้รับมาตรฐาน SHA+ มีจำนวน 267 โรงแรม และโรงแรมที่ได้มาตรฐาน SHA Extra Plus มีจำนวน 177 โรงแรม โดยมีร้อยละ 70 % อยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา
ทั้งนี้ สำหรับร่างข้อกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หรือที่เรียกว่า SHA Extra Plus ของโรงแรมสำหรับกักกันตัวเอง หรือ Hotel Room Isolation นั้น
1.โรงแรมต้องมีสถานที่เป็นสัดส่วนแยกจากผู้อื่น สะดวก ปลอดภัย เหมาะสมต่อการให้การรักษาพยาบาล
2.โรงแรม ต้องให้บริการจัดหาอาหาร 3 มื้อ โดยใช้ภาชนะที่ใช้ครั้งเดียว และจัดหาของใช้จำเป็นเพียงพอและเหมาะสม โดยป่วยไม่ต้องออกไปจัดหานอกที่พักด้วยตนเอง
3.โรงแรมและสถานพยาบาลคู่ปฏิบัติการ ต้องจัดให้มีบริการและระบบสนับสนุนการให้บริการ
4.โรงแรม ต้องจัดให้มีเครื่อง เครื่องใช้ยา เวชภัณฑ์ ที่จำเป็นในการให้บริการในจำนวนที่เพียงพอ และอุปกรณ์ทุกชนิดต้องมีมาตรฐาน
5.สถานพยาบาลคู่ปฏิบัติ ต้องจัดให้มีผู้ประกอบการวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุขหรือเจ้าหน้าที่ที่เพียงพอเหมาะสม เพื่อติดตามและประเมินอาการของผู้ป่วย ผ่านระบบการสื่อสารทุกวันและผู้ป่วยสามารถติดต่อสอบถามไปยังสถานพยาบาลคู่ปฏิบัติการได้ตลอด ทั้งนี้ร่างขอกำหนดดังกล่าวอยู่ระหว่างการนำเสนอให้คณะกรรมการควบคุมโรงจังหวัดชลบุรีพิจารณา ก่อนนำเสนอศบค.ชุดใหญ่เห็นชอบต่อไป
ปริญญา/ข่าว/ภาพ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคตะวันออก","ชลบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127180910240"], [769,"พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้า และประชาสัมพันธ์การปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการ ส่งเสริมให้พ่อค้าแม่ค้าและร้านค้าทั่วไปมีส่วนร่วมในการรักษาความเป็นธรรมทางการค้า","นายธีรวุฒิ คล้ายเคลื่อน พาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี มอบหมายให้ นางสาวจิตติมา ดิลกวิลาศ นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า และ นางสาวฐิติมา อโณทัยวลัยกุล นักวิชาการพาณิชย์ปฏิบัติการ กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนงาน ร่วมกับ สำนักงานสาขาชั่งตวงวัดเขต 0-6 เพชรบุรี ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบุรีและเทศบาลเมืองเพชรบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้า และประชาสัมพันธ์การปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 โดยมีประเด็นประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ ดังนี้
ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการ มีความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ม.28 มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และไม่ให้ฉวยโอกาสขึ้นราคา ผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ม.29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงการตรวจสอบความเที่ยงตรงของเครื่องชั่งที่ใช้ในการซื้อขาย ณ ตลาดสดเทศบาลเมืองเพชรบุรี อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคในด้านราคาและปริมาณ และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่ รวมถึงนักท่องเที่ยว เพื่อไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากการซื้อขายสินค้าในพื้นที่อำเภอเมืองเพชรบุรี ส่งเสริมให้พ่อค้าแม่ค้าและร้านค้าทั่วไปมีส่วนร่วมในการรักษาความเป็นธรรมทางการค้า ตลอดจนสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่จังหวัดเพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคตะวันตก","เพชรบุรี","สวท.เพชรบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127145129123"], [770,"สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกาญจนบุรี ขานรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เตรียมจัดกิจกรรม เที่ยวไทยมั่นใจไปกับ SHA","นางสาวสรียา บุญมาก ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกาญจนบุรี เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ขานรับนโยบาย ที่ประกาศให้จังหวัดกาญจนบุรี เป็นพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว สีฟ้า (Blue Zone) เตรียมจัดกิจกรรม \"เที่ยวไทยมั่นใจไปกับ SHA\" ระหว่างวันที่ 4-6 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บริเวณโรงงานกระดาษไทยกาญจนบุรี เพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมท่องเที่ยววิถีใหม่ New Normal ตามนโยบายของรัฐบาล และเป็นการสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนจากการจัดกิจกรรม ในการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ อีกทั้งสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ที่ดี มีความสุข และความปลอดภัยด้านสุขอนามัยจากสินค้าและบริการในการเดินทางท่องเที่ยวไปกับ SHA สำหรับรูปแบบกิจกรรมได้แบ่งออก เป็น 4 Zone ได้แก่
- Zone SHA Pavilion การเลือกซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA ที่เข้าร่วมนำเสนอขายสินค้า Package สุดพิเศษ ราคาโดนใจ
- Zone Do It By yourself หรือ DIY กิจกรรมการประดิษฐ์ ที่เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ของครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน และนำกลับเป็นของที่ระลึกได้
- Zone Gastronomy การออกร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมสาธิตการทำอาหาร จากเชฟชุมชน
- Zone Stage Show ชมและรับฟังเพลงจากศิลปินที่มีชื่อเสียง พร้อมทั้งวงดนตรีท้องถิ่น มาร่วมสร้างความสนุกสนานให้ผู้เข้าร่วมงาน
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการยิงธนู และการสาธิต Sup Board หรือกระดานยืนพาย โดยภายในงาน มีการบริหารจัดการภายใต้มาตรการการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกระทรวงสาธารณสุข และมาตรฐาน SHA เช่น การจัดระบบ Social Distancing และจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงานให้เหมาะสม
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคตะวันตก","กาญจนบุรี","สวท.กาญจนบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127181818250"], [771,"จังหวัดนครศรีธรรมราชประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน เพื่อร่วมพิจารณาโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก ปี 2565","วันนี้ (27 ม.ค.65) ที่ห้องประชุมศรีปราชญ์ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายไตรรัตน์ ไชยรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก ปี 2565 จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีนางเรืองอุไร บุญช่วยชูพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงาน ภาคเอกชน องค์กรภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม
สำหรับประเด็นสำคัญในการประชุมเป็นการพิจารณาให้ความเห็นชอบโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก ปี 2565 จังหวัดนครศรีธรรมราช การพิจารณาผลการตรวจสอบความถูกต้องและเหมาะสมของโครงการฯ จากกองจัดทำงบประมาณเขตพื้นที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) สำนักงบประมาณ รวมถึงการรับทราบแนวทางการดำเนินงานตามคู่มือปฏิบัติโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก ปี 2565 จังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งนี้ในส่วนของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เสนอโครงการในวงเงินงบประมาณ 142,595,400 บาท จากจำนวน 34 โครงการ ทั้งนี้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยเป็นโครงการพัฒนาสินค้า ท่องเที่ยว บริการและการค้า โครงการยกระดับประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าเพิ่มด้านการเกษตร/อุตสาหกรรม โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการฟื้นตัวและพัฒนากิจกรรมทางเศรษฐกิจของชุมชน และโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการกระจายประโยชน์ให้กับประชาชนในระดับพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับห้างสรรพสินค้าชั้นนำของประเทศ ได้แก่ แมคโคร บิ๊กซี โลตัสและท๊อป มาร์เก็ต รวม 710 สาขา จัดจำหน่ายไก่ต้มไหว้เจ้าตัวละ 189 บาท รวม 100,000 ตัว ขนาด 1.4-1.7 กิโลกรัมโดยประมาณ ซึ่งเป็นความร่วมมือกับภาคเอกชนในการจัดโปรโมชันพิเศษช่วงเทศกาลตรุษจีนให้กับประชาชน
เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (27 ม.ค. 65) ถึงวันที่ 30 มกราคม 2565 โดยแบ่งเป็นห้างแมคโคร 20,000 ตัว โลตัส 40,000 ตัว บิ๊กซี 30,000 ตัว และท้อป มาร์เก็ต 10,000 ตัว อย่างไรก็ตามหากพบปริมาณไก่ต้มไหว้เจ้าไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค จะมีการหารือในการเพิ่มปริมาณไก่ไหว้เจ้า เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนช่วงเทศกาลตรุษจีน
สำหรับการควบคุมราคาไก่สด หลังจากประชุมร่วมกับเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ ผู้ประกอบการ โรงชำแหละและห้างสรรพสินค้าต่างๆ กระทรวงพาณิชย์ มีมติให้ตรึงราคาไก่หน้าฟาร์มกิโลกรัมละไม่เกิน 40 บาท สำหรับการกำหนดราคาจำหน่ายไก่สดทั้งตัวและน่องติดสะโพกต้องไม่เกินกิโลกรัมละ 60-65 บาท น่องแยกสะโพกกิโลกรัมละ 65-70 บาท และน่องไก่กิโลกรัมละ 70-75 บาท โดยจะจำหน่ายราคานี้ไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ย้ำถึงมาตรการตรึงราคาสินค้าหมวดสำคัญ 5 หมวด ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า น้ำอัดลม ซอสปรุงรส บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและอาหารสด เช่น ไข่ไก่คละหน้าฟาร์มฟองละไม่เกิน 2.90 บาท และหมูหน้าฟาร์มไม่เกินกิโลกรัมละ 100-110 บาท โดยหลังจากนี้มีแนวโน้มราคาลดลงเนื่องจากมีหมูเข้าสู่ระบบมากขึ้น
วันนี้ (27 ม.ค.65) นายพงษ์ศักดิ์ วรวงศ์ พาณิชย์จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นายปัญญา มูลคำกาเจริญ ปศุสัตว์จังหวัดร้อยเอ็ด, พลตำรวจไพโรจน์ มังคลา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองร้อยเอ็ด นำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณการครอบครองเนื้อหมู ของผู้ประกอบการห้องเย็นในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ บริษัท โกลเด้นไลน์ บิสชิเนส จำกัด / บริษัท ห้องเย็นมหาชัยวาริน จำกัด/ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทองสุข โฟรเซน ฟู๊ด และ ห้องเย็นอาลดิน ตลาดสระทอง
จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ประกอบการทั้ง 4 ราย มีปริมาณเก็บสต๊อก เป็นไปตามเกณฑ์ที่กฏหมายกำหนด พร้อมแจ้งปริมาณและสถานที่จัดเก็บสินค้า รวมถึงรายงานปริมาณครอบครอง แจ้งแหล่งที่มาของสินค้าอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคได้สบายใจในการเลือกซื้อสินค้า จากการเข้าตรวจสอบไม่พบการกระทำผิดและการกักตุนสินค้าแต่อย่างใด
นายพงษ์ศักดิ์ วรวงศ์ พาณิชย์จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ด ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบราคาสินค้าที่ความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิดเป็นประจำทุกวัน สำหรับการตรวจติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ณ ตลาดสระทอง และตลาดทุ่งเจริญในวันนี้ พบว่าราคาจำหน่ายเนื้อหมูแดงอยู่ที่ กิโลกรัมละ 200-220 บาท หมูสามชั้น กิโลกรัมละ 210-230 บาท ซี่โครงหมู กิโลกรัมละ 190-200 บาท สำหรับราคาเนื้อไก่สดและไข่ไก่ยังคงเป็นไปตามราคาแนะนำของกรมการค้าภายใน ส่วนสินค้ารายการอื่นๆ ยังไม่มีการปรับราคาจำหน่ายขึ้น และขอให้ผู้ประกอบการติดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน และห้ามมิให้ฉวยโอกาสปรับราคาจำหน่ายสูงขึ้น โดยไม่มีเหตุอันควร หากพบการกระทำผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ร้อยเอ็ด","สวท.ร้อยเอ็ด","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127201222366"], [774,"เกาหลีใต้พร้อมใช้ความตกลง RCEP 1 กุมภาพันธ์นี้ เตรียมยกเว้นภาษีสินค้าให้ไทยทันที กว่า 7,800 รายการ","นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ความตกลง RCEP จะเริ่มมีผลใช้บังคับกับเกาหลีใต้ ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ส่งผลเกาหลีใต้จะยกเว้นภาษีสินค้าให้ไทยในทันทีกว่า 7,843 รายการ รวมทั้งยังเปิดตลาดเพิ่มเติมให้กับสินค้าไทยอีก 413 รายการ เช่น ผักผลไม้แปรรูปและไม่แปรรูป น้ำมันที่ได้จากพืช ของปรุงแต่งจากธัญพืช แป้งมันสำปะหลังและสินค้าประมง เป็นต้น
นอกจากนี้ จะช่วยสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทย เข้าไปลงทุนในเกาหลีใต้ในสาขาที่ไทยมีศักยภาพ อาทิ ธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์และบันเทิง ประเภทเทคนิคตัดต่อภาพและเสียง และการผลิตแอนิเมชัน ตลอดจนธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว บริการด้านสิ่งแวดล้อมและเกมส์ออนไลน์ โดยเกาหลีใต้ถือเป็นคู่ค้าอันดับ 10 ของไทย ในปี 2564 ที่ผ่านมา มูลค่าการค้ารวม 15,801.79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ ความตกลง RCEP จะมีผลใช้บังคับกับมาเลเซีย ในวันที่ 18 มีนาคม 2565 ส่งผลให้ได้รับการยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าของไทยอีกกว่า 6,590 รายการ โดยมาเลเซีย ถือเป็นคู่ค้าอันดับ 5 ของไทย ในปี 2564 ที่ผ่านมา มูลค่าการค้ารวม 24,076.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ความตกลง RCEP จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยผู้ประกอบการสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม อาทิ อัตราภาษีศุลกากรภายใต้ความตกลง RCEP ได้ที่ศูนย์ RCEP Center กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ยังได้จัดทำ E-Book ความตกลง RCEP ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อให้ผู้สนใจนำไปใช้ได้อย่างสะดวก โดยสามารถเข้าไปสืบค้นได้ที่เว็บไซต์ www.dtn.go.th
","27/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127183323277"], [775,"ส่งเสริมการร่วมลงทุนในกิจการร่วมทุน แก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ สกัดหนี้เสียเพิ่มสูงขึ้น","
นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายและกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กล่าวว่า เมื่อวันที่ (26 ม.ค.65) ที่ผ่านมาเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องหลักเกณฑ์การดำเนินงานในกิจการร่วมทุน เพื่อแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ อันเนื่องมาจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2565 เป็นต้นไป ทั้งนี้การแพร่ระบาดโควิด -19 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างและยาวนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ แม้ในช่วงที่ผ่านมาภาครัฐจะดำเนินมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง แต่การฟื้นตัวยังเปราะบางจากความไม่แน่นอนสูงและฐานะการเงินของบางภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนยังคงได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก
เพื่อให้มีเครื่องมือในการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพในระบบเศรษฐกิจการเงินที่อาจเกิดขึ้นในระยะต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ธนาคารแห่งประเทศไทย จึงมีมาตรการส่งเสริมให้ธนาคารพาณิชย์และบริษัทบริหารสินทรัพย์สามารถร่วมลงทุนในกิจการร่วมทุน หรือ Joint Venture เป็นการชั่วคราว เพื่อรองรับการแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพในระบบเศรษฐกิจการเงินที่คาดว่าจะทยอยเพิ่มสูงขึ้นอันเนื่องมาจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ได้ ในระยะเวลาที่กำหนด 3 ปี ในการยื่นขอจัดตั้งกิจการร่วมทุน และมีระยะเวลา 15 ปีในการดำเนินกิจการร่วมทุนนี้ โดยในการดำเนินการ จะต้องให้ความช่วยเหลือในการปรับโครงสร้างหนี้ต่อให้กับลูกหนี้ด้อยคุณภาพที่ได้รับโอนมาด้วย
ธนาคารแห่งประเทศไทย มั่นใจว่า มาตรการดังกล่าว จะช่วยให้สถาบันการเงินมีทรัพยากรเพิ่มเติมในการดูแลลูกหนี้ที่กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวได้ดีขึ้น ทั้งนี้ ด้วยกลไกการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่จะดำเนินต่อเนื่องให้แก่ลูกหนี้ จะส่งผลให้ลูกหนี้ยังมีโอกาสได้รับความช่วยเหลือและไม่ถูกเร่งรัดให้จำหน่ายทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ซึ่งจะช่วยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังดำเนินได้อย่างต่อนื่อง
","27/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127183151272"], [776,"จังหวัดตรัง ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด เพื่อพิจารณาโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก พ.ศ.2565","
นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ประธานประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัดเพื่อพิจารณาโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก พ.ศ.2565 ครั้งที่ 1/2565 ณ ห้องพระยารัษฎา ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัด
สำหรับโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ปี 2565 จำนวน 50 โครงการ วงเงิน 270,331,090 บาท เป็นโครงการที่เสนอโดยส่วนราชการ จำนวน 21 โครงการ วงเงิน 104,989,540 บาท โครงการที่เสนอโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 29 โครงการ ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง จำนวน 1 โครงการ วงเงิน 18,290,000 บาท เทศบาลนครตรัง จำนวน 2 โครงการ วงเงิน 11,595,000 บาท เทศบาลเมืองกันตัง จำนวน 1 โครงการ วงเงิน 18,778,000 บาท และโครงการของเทศบาลตำบล และองค์การบริหารส่วนตำบล เสนอผ่านสำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดตรัง จำนวน 25 โครงการ วงเงิน 116,216,300 บาท
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","NULL","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127161622177"], [777,"ภูเก็ต-สสว.ชี้แจงมาตรการการให้ความช่วยเหลืออุดหนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมผ่านโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS ปีงบประมาณ 2565 ครั้งที่ 2","วันนี้ (27 ม.ค. 2565) ณ ห้องดุสิตลากูนาฮอลล์ โรงแรมดุสิตธานีลากูน่าภูเก็ต นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุม ชี้แจงมาตรการการให้ความช่วยเหลืออุดหนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมผ่านโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS ปีงบประมาณ 2565 ครั้งที่ 2 และประชุมรับฟัง ความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาอุปสรรคและแนวทางการแก้ไขในการประกอบธุรกิจจากผู้ประกอบการภาคการผลิต การค้า และการท่องเที่ยวพื้นที่ภาคใต้ โดยมี นายวชิระ แก้วกอ ผู้ช่วยผู้อำนวยการรักษาการรองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการเข้าร่วม
ทั้งนี้ ทาง สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS ปีงบประมาณ 2565 เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ให้ได้รับโอกาสในการเข้าถึงการบริการสนับสนุนด้านการพัฒนาธุรกิจในรูปแบบใหม่ ที่ผู้ประกอบการจะสามารถเลือกรับการบริการหรือพัฒนาทางธุรกิจกับผู้ให้บริการทางธุรกิจ ในด้านที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ BDS ได้โดยตรงโดยสสว. จะช่วยเหลืออุดหนุนค่าใช้จ่ายในการพัฒนาให้แก่ผู้ประกอบการ SME แบบร่วมจ่าย ในสัดส่วนตามขนาดของธุรกิจและรับฟังความคิดเห็นของผู้ประกอบการ SME พื้นที่ภาคใต้
สสว. จึงได้จัดการประชุมชี้แจงหลักเกณฑ์และสัดส่วนการช่วยเหลืออุดหนุนแก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการทางธุรกิจ และวิธีการขึ้นทะเบียนขอรับความช่วยเหลืออุดหนุนสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ผ่านระบบ BDS เป้าหมายคือ ผู้ประกอบการ SME ที่เป็นนิติบุคคลหรือผู้ประกอบการที่จดทะเบียนกับหน่วยงานภาครัฐมุ่งเน้นกลุ่มท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 5,274 ราย ผู้ให้บริการทางธุรกิจส่วนราชการหน่วยงานของรัฐรัฐวิสาหกิจไม่น้อยกว่า 55 หน่วยงาน โดยจะเน้นการสนับสนุนในหมวดการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและบริการ เพื่อช่วยเหลือให้ได้มาซึ่งการขึ้นทะเบียนใบรับรอง ใบอนุญาตหรือทะเบียนต่างๆ เพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคใต้","ภูเก็ต","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127170822204"], [778,"เทศบาลนครตรัง เตรียมพัฒนารมณียสถานพระโพธิสัตว์กวนอิม เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงพหุวัฒนธรรม","วันนี้ ( 27 มกราคม 2565 ) ดร.สัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่สำรวจบริเวณเขาหนองยวนซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมองค์ใหญ่ เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่าน และพบว่าภายในอาคารมีโครงสร้างผุพังไม่สามารถเข้าใช้งานได้ และหวั่นเกิดอันตรายกับประชาชนที่ขึ้นไปสักการะองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม จึงได้มอบหมายสำนักช่าง ประเมินและวางแนวทางในการปรับปรุงทั้งภายในและภายนอกอาคาร เพื่อพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงพหุวัฒนธรรมนั้น ความคืบหน้าล่าสุดในขณะนี้สำนักช่างเทศบาลนครตรัง ได้เขียนแบบก่อสร้างเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยจะดำเนินการทั้งภายในและภายนอกอาคาร
ดร.สัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง กล่าวว่า การเขียนแบบก่อสร้างโครงการปรับปรุงอาคารรมณียสถานพระโพธิสัตว์กวนอิม มีความสวยงาม เหมาะสมกับพื้นที่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยจะเริ่มจากการก่อสร้างซุ้มประตูทางเข้า ,ทางเดิน ,อาคารและสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อให้ประชาชนได้ขึ้นไปสักการะองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของทางเข้า ทางเดิน ไม่มีป้ายที่บ่งบอกว่าเป็นสถานที่ใด ทางเดินเป็นหินคลุกไม่สะดวกในการเดินทางไม่สวยงามไม่น่ามอง จึงดำเนินการเพื่อให้มีภูมิทัศน์ที่สวยงามและสะดวกปลอดภัย นอกจากนี้จะดำเนินการทำสกายวอล์คเชื่อมโยงพหุวัฒนธรรม ศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม ซึ่งจะเป็นเส้นทางการศึกษาเรียนรู้ด้านศาสนาที่สามารถเชื่อมโยงไปสู่การท่องเที่ยวได้ สำหรับโครงการดังกล่าวจะนำเข้าสู่เพิ่มเติมแผนพัฒนาท้องถิ่น ( พ.ศ.2566-2570) เทศบาลนครตรังเพื่อดำเนินการต่อไป.
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127163757187"], [779,"กรมสรรพสามิตจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไพ่ที่ระลึกมวยไทยชาย-หญิงเพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์ศิลปะแม่ไม้มวยไทย","นายภูมิจิตต์ พงษ์พันธุ์งาม ผู้อำนวยการโรงงานไพ่ เปิดเผยว่า โรงงานไพ่ กรมสรรพสามิต เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไพ่ที่ระลึกมวยไทยชาย-หญิง เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์ศิลปะแม่ไม้มวยไทย เหมาะสำหรับการเก็บสะสมเป็นที่ระลึก เพื่อเพิ่มคุณค่าความสวยงามโรงงานไพ่ กรมสรรพสามิต ขอนำเสนอไพ่ที่ระลึกมวยไทยชาย-หญิง โดยจัดจำหน่ายในราคาสำรับละ 67 บาท และจำหน่ายคู่ 2 สำรับ ราคา 130 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีสรรพสามิตแล้ว
ทั้งนี้ หากท่านสนใจสั่งซื้อไพ่มวยไทยชาย-หญิง สามารถติดต่อสอบถามรายเอียดได้ที่ส่วนพัฒนาธุรกิจและการตลาด โทร 022436483 - 4 ต่อ 50 โทรสาร ต่อ 10.
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคใต้","สุราษฎร์ธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127171746212"], [780,"เกษตรตรังลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงาน โครงการส่งเสริมการเกษตรตำบลนาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง เพื่อการท่องเที่ยว","สำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง โดยนายวสันต์ สุขสุวรรณ เกษตรจังหวัดตรัง มอบหมายให้นางสาวกำไลทิพย์ เศรษฐ์ซิชัย หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร สำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการส่งเสริมการเกษตรตำบลนาข้าวเสีย อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง เพื่อการท่องเที่ยว (งบประมาณโครงการภายใต้โครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมตามบัญชีท้ายพระราชกำหนด ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคระบาดไวรัสโคโรน่า 2019 พ.ศ.2563) ตำบลนาข้าวเสีย อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ณ ที่ทำการวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรตำบลนาข้าวเสีย และที่ทำการกลุ่มสมาชิกต่างๆ ที่ได้รับสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 7 กลุ่ม
กิจกรรมประกอบด้วย กิจกรรมพัฒนาจุดรับนักท่องเที่ยวและการประชาสัมพันธ์, กิจกรรมพัฒนากลุ่มข้าวปลอดภัยเพื่อชุมชนตามแนวทางประชารัฐ, กิจกรรมพัฒนากลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์เพื่อชุมชน, กิจกรรมพัฒนากลุ่มเย็บผ้า ตำบลนาข้าวเสีย (ผ้าปาเต๊ะ), กิจกรรมพัฒนากลุ่มผลิตลังผึ้ง ตำบลนาข้าวเสีย, กิจกรรมพัฒนากลุ่มผู้ปลูกกาแฟเทือกเขาบรรทัด และกิจกรรมพัฒนากลุ่มเลี้ยงสุกรครบวงจร โดยมีการติดตามในกระบวนการดำเนินงานในด้านต่าง ๆ เช่น การมีส่วนร่วมของสมาชิกหลังจากที่ได้รับสนับสนุนงบประมาณ การใช้ประโยชน์จากวัสดุ/ครุภัณฑ์ที่ได้รับสนับสนุน การขยายผล การเชื่อมโยงเครือข่ายด้านต่าง ๆ (เช่น กลุ่ม การตลาด การผลิตฯลฯ) รวมทั้งปัญหาและข้อเสนอแนะอื่น ๆ เพื่อใช้ในการปรับปรุงวางแผนหาแนวทางในการแก้ไขในการดำเนินกิจกรรมต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127183404280"], [781,"พาณิชย์เพชรบุรีสานนโยบายรัฐบาลบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วน ตรวจสต๊อกโรงงานน้ำมันปาล์ม ป้องกันการกักตุน","เวลา 09.00 น.วันนี้ (27 ม.ค. 65) นายปริญญา กำแหง ผอ.กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สนง.พาณิชย์ จ.เพชรบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาย้อย และเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนลงพื้นที่ สถานที่จัดเก็บ และโรงงานน้ำมันปาล์ม ในพื้นที่ จ.เพชรบุรี เพื่อป้องกันการกักตุนน้ำมัน
นายปริญญา กำแหง กล่าวว่า ได้ร่วมกับคณะทำงานตรวจสอบสต๊อกคงเหลือ ร่วมด้วยทางสถานีตำรวจเขาย้อย มาร่วมตรวจสอบเพื่อให้สอดคล้องกับ ตามนโยบายของทางรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ ที่ให้มากำกับดูแลสต๊อกน้ำมันปาล์ม เนื่องจากในช่วงนี้น้ำมันปาล์มมีราคาสูงขึ้น มาดูว่าผู้ประกอบการมีการกักตุนสินค้าหรือไม่ ซึ่งถ้ามีการกักตุนก็จะทำให้สินค้ามีราคาสูงขึ้นไปอีก และจากการที่ทางคณะได้มีการตรวจสอบนี้ ทั้ง4 ราย พบว่าน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ตอนนี้มีการผลิตน้อยมากเนื่องจากผลผลิตน้ำมันปาล์มน้อยลง เพราะฉะนั้นการเก็บสต๊อกน้ำมันปาล์ม ก็น้อยลงไปด้วย และจากการตรวจสอบพบว่าไม่มีการกักตุนแต่อย่างใด ทั้งนี้สืบเนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ มีความห่วงใยจากสถานการณ์ที่ราคาปาล์มน้ำมันพรุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลผลิตปาล์มน้ำมันน้อยกว่าปกติอย่างมาก หวั่นผู้ประกอบการรายใหญ่กักตุนสินค้า ทำให้ราคาปาล์มน้ำมันทั้งระบบพุ่งสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริโภคอุปโภคเป็นวงกว้าง จึงสั่งการให้ ตร. จัดชุดตรวจร่วมบูรณาการกับ กรมการค้าภายใน พาณิชย์จังหวัด ตรวจสต๊อกปาล์มน้ำมัน โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ โรงกลั่นน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ตลอดจนคลังน้ำมันปาล์ม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากราคาปาล์มน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น หากพบเบาะแส สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน บก.ปคบ. 1135 หรือ สายด่วน กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ 1569.
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคตะวันตก","เพชรบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127175635231"], [782,"ปรับราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอลทุกชนิด 50 สตางค์ต่อลิตร เว้น E20 และ E 85 ปรับขึ้น 60 สตางค์ต่อลิตร ","กลุ่มผู้ค้าน้ำมัน บริษัท ปตท. และ บางจาก แจ้งว่าตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันที่ 28 มกราคม 2565 เป็นต้นไป ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอลทุกชนิด ปรับขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร เว้น E20 และ E 85 ปรับขึ้น 0.60 บาทต่อต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลทุกชนิดราคาคงเดิม
ส่งผลให้ราคาขายปลีก น้ำมันเบนซินอยู่ที่ 41.46 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ E85 ราคาอยู่ที่ 26.14 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ E20 ราคาอยู่ที่ 32.84 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 ราคาอยู่ที่ 33.78 บาทต่อลิตรแก๊สโซฮอล์ 95 ราคาอยู่ที่ 34.05 บาทต่อลิตร ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลราคาคงเดิม โดยน้ำมันดีเซลไฮพรีเมียม ดีเซล B7 ราคาอยู่ที่ 35.96 บาทต่อลิตร ไฮดีเซล B7 ไฮดีเซล S และไฮดีเซล B20 S ราคาอยู่ที่ 29.94 บาทต่อลิตร
วันนี้ (27 ม.ค.65) เวลา 16.00 น. นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสเป็นประธานเปิด ตลาดยิ้มได้ คนนราธิวาส...จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยมีนายปรีชา นวลน้อย ปลัดจังหวัดนราธิวาส นายกฤษณนันท์ กำไร หัวหน้าสำนักงานจังหวัดนราธิวาส นายไพซอล อาแว นายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบการในพื้นที่ ร่วมในพิธีฯ ณ บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา - สวน ร.5 อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส
นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า การจัดตลาดนัดยิ้มได้ จังหวัดนราธิวาส เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการแก้ไขปัญหา และบรรเทาปัญหาลดค่าครองชีพของประชาชน โดยการจัดตลาดนัด ตลาดชุมชน จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาประหยัด ประกอบกับมีนโยบายของจังหวัดให้มีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ควบคู่กับการส่งเสริมการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน สร้างรอยยิ้ม ปันความสุขแก่ประชาชนในจังหวัดนราธิวาส
สำหรับ ตลาดยิ้มได้ จังหวัดนราธิวาส กำหนดเปิดตลาดจำหน่ายสินค้าราคาประหยัดเป็นประจำทุกสัปดาห์ๆ ละ 2 วัน ได้แก่วันพุธและวันพฤหัสบดี ระหว่างเวลา 15.00-18.00 น. ณ บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา-สวน ร.5 จังหวัดนราธิวาส โดยมีผู้ประกอบการมาร่วมจำหน่ายสินค้า รวมจำนวน 20 ราย ประกอบด้วย
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนราธิวาส จำหน่ายสินค้าประเภท สินค้าอุปโภคบริโภคธงฟ้าราคาประหยัด เช่น น้ำมัน น้ำตาล น้ำปลา หมูราคาถูกกิโลละ 150 บาท ฯลฯ
สำนักงานเกษตรจังหวัดนราธิวาส จำหน่ายสินค้าประเภท พืชผัก, มะพร้าว, ขนมเข่ง
สำนักงานประมงจังหวัดนราธิวาส จำหน่ายสินค้าประเภท ผลิตภัณฑ์ปลาแปรรูป, ปลาสด
สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนราธิวาส จำหน่ายสินค้าประเภท ไก่เบตง,ไข่ไก่, ไข่เป็ด
สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนราธิวาส จำหน่ายสินค้า ผลิตภัณฑ์ OTOP ที่มีคุณภาพ อาทิ ผ้าบาติก/บาเต๊ะ ข้าวเกรียบ ทุเรียนกวน เป็นต้น
ทั้งนี้การจัดตลาดยิ้มได้ในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างส่วนราชการหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน ลดค่าครองชีพ ที่สำคัญคือการทำให้คนนรายิ้มได้ ในภาพรวมประชาชนในพื้นที่ตอบรับเป็นอย่างดี
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคใต้","นราธิวาส","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127185858326"], [784,"คณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน จังหวัดตราด ประชุมพิจารณากลั่นกรองโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ปี 2565","วันนี้ (27 ม.ค.65) นาย?ชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน จังหวัดตราด ครั้งที่ 1/2565 โดยมีคณะกรรมการจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรภาคเอกชน ภาคประชาชน เข้าร่วมที่ห้องประชุมพลอยแดง ศาลากลางจังหวัดตราด
ทั้งนี้ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ศสช.) เป็นกรรมการและเลขานุการร่วม และกำหนดให้มีคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัดในแต่ละจังหวัด โดยคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันของจังหวัดตราด จะมีหน้าที่ติดตามรับฟังปัญหาเดือดร้อนเร่งด่วน และตอบสนองความต้องการของประชาชนให้สัมฤทธิ์ผลเป็นรูปธรรมรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ ยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เสริมสร้างศักยภาพในการพัฒนาพื้นที่ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แนวคิดชีวิตวิถีใหม่ และการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน
สำหรับการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน จังหวัดตราด ในครั้งนี้เป็นการพิจารณากลั่นกรองโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ปี 2565 จำนวน 57 โครงการครอบคลุมทุกพื้นที่อำเภอในจังหวัดตราด โดยพิจารณาตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่กำหนดของลักษณะประเภทโครงการ พื้นที่ดำเนินการไม่มีความซ้ำซ้อนกับโครงการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไปแล้ว และจัดลำดับความสำคัญของทุกโครงการ เพื่อเสนอต่อรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคตะวันออก","ตราด","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127190749337"], [785,"จังหวัดเชียงใหม่ แจกผัก ช่วยเหลือประชาชนในช่วงสถานการณ์โควิด-19..","ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดเชียงใหม่ ซื้อผักกาดขาวปลี จากเกษตรกรบนพื้นที่สูง บรรเทาความเดือดร้อนผลผลิตราคาตกต่ำ นำมาแจกจ่ายให้แก่ประชาชนในเขตอำเภอเมือง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว
ที่บริเวณตลาดประชารัฐ หน้าศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นำหัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ ร่วมกิจกรรม เกษตรกรสุขใจ ชาวเชียงใหม่ช่วยกินผัก โดยนำผักกาดขาวปลี ที่ไปรับซื้อจากเกษตรกรรายย่อยอำเภอฮอดและอำเภอแม่แจ่มจำนวน 6,400 กิโลกรัม มาแจกจ่ายให้แก่ประชาชน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกผักกาดขาวปลี ที่มีผลผลิตล้นตลาดและขายส่งได้เพียงกิโลกรัมละ 1-1.50 บาทเท่านั้น โดยจังหวัดเชียงใหม่รับซื้อจากเกษตรกรรวมค่าขนส่งมาในราคากิโลกรัมละ 5 บาท เพื่อแจกจ่ายแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และเป็นการลดค่าครองชีพบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ซึ่งมีประชาชนให้ความสนใจมารับผักกาดขาวปลีเป็นจำนวนมาก ภายใต้มาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยมีการจำกัดจำนวนผักกาดขาวปลีคนละ 2 ถุง เฉลี่ยคนละ 6 กิโลกรัม เพื่อกระจายได้อย่างทั่วถึง
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สวท.เชียงใหม่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127202834376"], [786,"สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เตรียมเปิดจำหน่ายสลากราคา 80 บาท 1,000 จุดทั่วประเทศ","นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา ว่า ขณะนี้มีตัวแทนจำหน่ายสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการสลาก 80 จำนวน 4,790 ราย ซึ่งกำหนดจุดจำหน่ายไว้ 1,000 จุด ทั่วประเทศ ส่วนการเปิดให้ลงทะเบียนผู้ซื้อจองล่วงหน้า ทั้งรายเดิมและรายใหม่ มีผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 878,454 ราย โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนได้ถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 ซึ่งคณะกรรมการสลากฯ ได้ให้ความเห็นชอบขั้นตอนและวิธีการคัดเลือกผู้ลงทะเบียนรายใหม่ และวิธีการตรวจสอบผู้ลงทะเบียนรายเดิม ที่มีการยืนยันตัวตนเข้ามาว่าเป็นผู้ขายสลากในราคา 80 บาท โดยจะเริ่มดำเนินการทันที ภายหลังจากปิดลงทะเบียน คาดว่าจะสามารถประกาศผลการคัดเลือกได้ในเร็วๆ นี้ และจะสามารถเริ่มจำหน่ายสลาก 1,000 จุด ทั่วประเทศ ตามโครงการได้ ในงวดวันที่ 2 พฤษภาคม 2565
ขณะที่การจัดทำระบบจำหน่ายสลากผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ ขณะนี้มีความพร้อมที่จะเริ่มดำเนินการ ซึ่งได้มีการจัดเตรียมระบบสำหรับการจำหน่ายเรียบร้อยแล้ว ภายใต้แนวทางในการดำเนินงานที่คำนึงถึงความโปร่งใส ไม่สามารถทำการปลอมแปลงสลากดิจิทัลได้ สามารถตรวจสอบการเปลี่ยนมือเจ้าของสลากได้รวมถึงต่อยอดการตรวจสอบและควบคุมราคาขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจแล้ว จะสามารถเริ่มดำเนินการเชื่อมต่อระบบได้ทันที
","27/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127191705342"], [787,"ที่ปรึกษา รมว.กษ.ติดตามความก้าวหน้าพืชสวนโลกและนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี","
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะตรวจ ติดตามความกว้าหน้าการดำเนินงานพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี และนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี
วันที่ 27 มกราคม 2565 ที่ห้องประชุมคำชะโนดชั้น 2 อาคาร 2 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะติดตามงานนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จังหวัดอุดรธานี โดยจุดแรกที่ลงพื้นที่คือติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี ซึ่งมีนายจำรัส กังน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นางขนิษฐา โกวิทยากร เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุดรธานี นายเอนก รัตน์รองใต้ เกษตรจังหวัดอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะทำงานพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี ร่วมประชุม
จังหวัดอุดรธานีเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานงานมหกรรมพืชสวนโลกอุดรธานี พ.ศ.2569 (Udon Thani International Horticulture Expo 2026) รูปแบบ B โดยกำหนดใช้พื้นที่สวนสาธารณะหนองแด ตำบลกุดสระ ซึ่งมีพื้นที่ 1,030 ไร่ แยกเป็นพื้นดิน 630 ไร่ พื้นน้ำ 400 ไร่ เป็นพื้นที่จัดงาน เพื่อร่วมเฉลิมฉลอการครองงสิริราชสมบัติครบ 10 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมฉลองในโอกาสพระชนมายุ 72 พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเฉลิมฉลองการก่อตั้งเมืองอุดรธานี 134 ปี ซึ่งกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 ถึงวันที่ 14 มีนาคม 2570 Theme : Harmony of Life: People well-being , Water & Plant วิถีชีวิตสายน้ำ และพืชพรรณ ซึ่งคาดเงินสะพัดระหว่างการจัดงาน 32,000 ล้านบาท, สร้างการจ้างงาน 81,000 อัตรา, เกิดรายได้จากการจัดเก็บภาษี 7,700 ล้านบาท
ทั้งนี้ในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี จังหวัดได้ดำเนินการตามขั้นตอนตามการประมูลสิทธิ์การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกที่สมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH) กำหนด เริ่มจากเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดงานต่อสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ, นำเสนอข้อมูลต่อสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย, เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อขอกรอบงบประมาณ เบื้องต้นคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565 อนุมัติกรอบงบประมาณการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก จังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 วงเงิน 2,500 ล้านบาท, ยื่นใบสมัครอย่างเป็นทางการผ่านช่องทางออนไลน์ต่อ AIPH และ AIPH กำหนดลงสำรวจพื้นที่จริง วันที่ 13-16 กุมภาพันธ์ 2565 ส่วนขั้นตอนสุดท้ายจังหวัดอุดรธานีจะเป็นผู้แทนประเทศไทยยื่นเอกสารสมัครอย่างเป็นทางการ ณ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมืองดูไบ ต่อไป
จากนั้น ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ได้เดินไปนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ตำบลโนนสูง อำเภอเมืองอุดรธานี เพื่อตรวจสภาพพื้นที่ การจัดจุดรวมตรวจสินค้าทางราง โดยมีหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี Green Industrial City นิคมฯ สีเขียว ศูนย์กลางการขนส่งและโลจิสติกส์ของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ภาพรวมความก้าวหน้าการพัฒนาโครงการ ด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน ก่อสร้างแล้วเสร็จ 60% มีสถานีใฟฟ้าย่อย ขนาด 115 KV ภายในโครงการพร้อมจ่ายกระแสไฟ มีบ่อหน่วงน้ำ 3 บ่อ ขนาด 1 ล้านลบ.ม. เพื่อรองรับน้ำฝนในพื้นที่ และเป็นแหล่งน้ำสำหรับผลิตน้ำประปา ปัจจุบันมีน้ำเต็มทุกบ่อ ถนนสายหลักและสายย่อยภายในโครงการ ขนาด 2-4 ช่องจราจร รวมความยาวทั้งสิ้นประมาณ 12 กิโลเมตร ก่อสร้างเสร็จแล้ว 8 กิโลเมตร ระบบผลิตน้ำประปา ขนาด 8.000 ลบ ม/วัน และระบบบำบัดน้ำเสีย 6,400 ลบ ม./วัน พร้อมขยายพื้นที่ต้นปี 2565 ซึ่งคาดว่าตามแผนก่อสร้างแล้วเสร็จเดือนเมษายน 2565 จะมีโรงงานเกิดขึ้นประมาณ 80-100 โรงงาน การจ้างงานเพิ่มขึ้น 15,000-20,000 รายในพื้นที่ และ 60,000 รายรอบนิคมฯ มูลค่าการลงทุนประมาณ 100,000 ล้านบาท
ความพร้อมการเป็นศูนย์กลางการขนส่งและโลจิสติกส์ของอนุภูมิภาคลุ่มแม่โขง โครงการจัดตั้ง CY, ICD แล: FREE ZONE มี Warehouse (อาคารคลังสินค้า) ขนาดใหญ่ 3 หลัง พื้นที่รวม 23,160 ตร.ม. พร้อมเปิดให้เช่า และขณะนี้อยู่ระหว่างจัดตั้ง CY เฟส 1 พื้นที่ 30 ไร่ เป็นลานคอนกรีต พร้อมตั้งสำนักงานศุลกากร และสำนักงานของหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจปล่อยสินค้า และรับรองมาตรฐานสินค้า ซี่งระยะต่อไปมีแผนจัดตั้ง CY เฟส 2 พื้นที่ 50 ไร่ เป็นลานคอนกรีต พร้อมจุดชาร์จตู้คอนเทนเนอร์ ควบคุมอุณหภูมิในระบบ Cold Chain Logistics แผนจัดตั้ง ICD บนพื้นที่ 114 ไร่ พร้อมเชื่อมรางรถไฟเข้ามาในพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกขนถ่ายสินค้าจากรถไฟจีน รวมทั้งส่งสินค้าไปท่าเรือแหลมฉบัง ภาคใต้ มาเลเซียและสิงคโปร์
ขณะเดียวกัน โครงการฯ อยู่ระหว่างการขอจัดตั้งเขตประกอบการเสรี (I-EA-T Free Zone) ภายใต้การกำกับของ กนอ. โครงการจัดตั้ง Micro factory และ Warehouse SML เพื่อกลุ่มธุรกิจ SME มีแผนพัฒนาก่อสร้าง Micro Factory ขนาดพื้นที่ 1000-3,000 ตร.ม. บนพื้นที่ 100 ไร่ เพื่อสนับสนุนให้กลุ่มธุรกิจ SME เช่าประกอบกิจการและต่อยอดธุรกิจ รวมถึงแผนก่อสร้าง Warehouse ขนาดเล็ก สำหรับ SME รวม 25 หลัง เพื่อเป็นจุดศูนย์รวมสินค้าการเกษตร ประมง และปศุสัตว์ โดยมีข้อเสนอขอรับการสนับสนุน เจ้าหน้าที่ศุลกากรและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินพิธีการศุลกากร การตรวจสอบและรับรองมาตรฐานสินค้าการเกษตร ประมง ปศุสัตว์ อาหารและยา มาอำนวยความสะดวกในการตรวจปล่อยสินค้าขาเข้าและขาออก ในพื้นที่ CY, ICD และ FRE ZONE ของนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ขอรับการสนับสนุนการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟภายนอกโครงการถึงจุดเชื่อมต่อทางรถไฟเข้านิคมฯ อุดรธานี ระยะทาง 2.802 กม. วงเงิน 76.370 ล้านบาท โครงการยกระดับความปลอดภัยบริเวณทางแยกเข้านิคมฯอุดรธานี บนทางหลวงหมายเลข 2 ที่ กม. 441+129 วงเงิน 50 ล้านบาท และขอสนับสนุนด้านสิทธิประโยชน์พิเศษแก่ผู้ประกอบการในนิคมฯ อุดรธานี โดยพิจารณาเร่งรัดการให้สิทธิประโยชน์พิเศษแก่ผู้ประกอบการในเขตเศรษฐกิจพิเศษหนองคาย หรือเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้รับ
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อุดรธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุดรธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127193617353"], [788,"จังหวัดเพชรบุรี ขอเชิญเที่ยวงาน พระนครคีรี-เมืองเพชร เพลิดเพลินอรรถรสแหล่งอาหารอันโอชะ สัมผัสบรรยากาศแห่งความสุขทุกรสชาติ (18-27 กุมภาพันธ์ 2565 Phetchaburi City of Gastronomy ตำนานอาหาร สืบสานวัฒนธรรม งามล้ำพระนครคีรี สดุดีจอมราชัน )","จังหวัดเพชรบุรี ขอเชิญเที่ยวงาน พระนครคีรี-เมืองเพชร เพลิดเพลินอรรถรสแหล่งอาหารอันโอชะ สัมผัสบรรยากาศแห่งความสุขทุกรสชาติ (18-27 กุมภาพันธ์ 2565 Phetchaburi City of Gastronomy ตำนานอาหาร สืบสานวัฒนธรรม งามล้ำพระนครคีรี สดุดีจอมราชัน )
เวลา 15.00 น. วันนี้ (27 ม.ค.65) นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ภาคเอกชน ภาคประชาชน และคณะกรรมการการจัดงานพระนครคีรี-เมืองเพชร ร่วมประชุมเตรียมความพร้อมการจัดงานพระนครคีรีเมืองเพชร ประจำปี 2565 ณ ห้องพริบพรี ศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า คณะกรรมการการจัดงานพระนครคีรี-เมืองเพชร ทุกฝ่ายเตรียมการพร้อมแล้ว ที่จะสร้างความสุขให้ประชาชนคนเพชรบุรี และนักท่องเที่ยว นับเป็นงานประจำปีที่จัดติดต่อกันมาอย่างยาวนานถึง 35 ครั้ง ที่ชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมเดินทางมาเที่ยวชมงานกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งปีนี้จะเป็นปีที่พิเศษ ที่ถือเป็นการฉลองความเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารของยูเนสโก จะเป็นการรวมความอร่อยแหล่งอาหารของเพชรบุรี ทั้งอาหารต้นตำรับดั้งเดิม และนวัตกรรมผลงานที่รังสรรค์ ออกแบบอาหารแปลกหลากชนิด มีทั้งการสาธิต ทำจำหน่าย และการประกวดอาหารและขนมไทยที่คอชิมไม่ควรพลาด
นอกจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากจะเพลิดเพลินอรรถรสแหล่งอาหารอันโอชะแล้ว ยังจะได้สัมผัสบรรยากาศแห่งความสุขทุกรสชาติ ทั่วบริเวณบนพระนครคีรีหรือเขาวัง และรอบอุทยานฯ ร.4 ชมการแสดงวัฒนธรรมประเพณีต่างๆ สกุลช่างเมืองเพชร กิจกรรมการแสดงความบันเทิงมากมาย วันที่ 18-27 กุมภาพันธ์นี้ ในงาน Phetchaburi City of Gastronomy ตำนานอาหาร สืบสานวัฒนธรรม งามล้ำพระนครคีรี สดุดีจอมราชัน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคตะวันตก","เพชรบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127194147354"], [789,"ผู้ว่าฯ นราธิวาส เปิดตลาดยิ้มได้จังหวัดนราธิวาส ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลในการบรรเทาปัญหาค่าครองชีพของประชาชน โดยจะจำหน่ายสินค้าราคาถูกทุกวันพุธและวันพฤหัสบดี","วันนี้ (27 ม.ค.65) นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดตลาดนัดยิ้มได้จังหวัดนราธิวาสที่บริเวณหน้าสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา หรือ สวน ร.5 ถนนศูนย์ราชการ อำเภอเมืองนราธิวาส ซึ่งมีนายปรีชา นวลน้อย ปลัดจังหวัดนราธิวาส นายไพซอล อาแว นายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส นายเทอดศักดิ์ รัญจวน เกษตรและสหกรณ์จังหวัดนราธิวาส นางสาวคลอทรีหม๊ะ หะยีอารุณ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนราธิวาส นางสาวสุนีย์ มาหะ รักษาราชการแทนพัฒนาการจังหวัดนราธิวาส นายกิตติพนธ์ วุฒิวงศ์หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส ผู้แทนประมงจังหวัดนราธิวาส ร่วมเป็นเกียรติในกิจกรรม
นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า จังหวัดนราธิวาสได้ขานรับนโยบายของรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติ ดูแลทุกข์สุขความเป็นอยู่ของประชาชนชาวนราธิวาส การจัดตลาดจำหน่ายสินค้าราคาถูกจะช่วยลดภาระค่าครองชีพ รวมถึงผู้ประกอบการที่หน่วยงานต่างๆ ได้ไปส่งเสริมไว้ อาทิ ผลิตภัณฑ์ OTOP โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนได้มีสถานที่จำหน่ายสินค้า มีรายได้เพิ่มขึ้น พร้อมนี้ขอฝาก 4 คำ \"ชื่นชม ยินดี ขอบคุณ เป็นกำลังใจ\" ที่ทุกภาคส่วนทำให้เกิดตลาดในวันนี้ รวมถึงหน่วยงานความมั่นคง ตำรวจ ทหาร อส. ที่ดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยย้ำขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ทำงานเพื่อประชาชนให้มีรายได้ มีชีวิตที่ดีขึ้น และขอบคุณที่ดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประโยชน์ทุกฝ่าย นโยบายของรัฐได้รับการขับเคลื่อนอย่างจริงจัง ประชาชนได้รับการดูแลแก้ปัญหา
สำหรับการจัดตลาดนัดยิ้มได้จังหวัดนราธิวาส เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการแก้ไขปัญหาและบรรเทาปัญหาค่าครองชีพของประชาชน โดยการจัดตลาดนัด ตลาดนัดชุมชน จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาประหยัดประกอบกับนโยบายของจังหวัดนราธิวาสให้มีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่กับการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน สร้างร้อยยิ้ม ปันความสุขแก่ประชาชนในพื้นที่
ทั้งนี้กำหนดเปิดตลาดนัดยิ้มได้จังหวัดนราธิวาส เป็นประจำทุกวันพุธและวันพฤหัสบดีทุกสัปดาห์ ระหว่างเวลา 15.00-18.00 น. ที่บริเวณหน้าสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา หรือ สวน ร.5 ถนนศูนย์ราชการ อำเภอเมืองนราธิวาส โดยมีผู้ประกอบการมาร่วมจำหน่ายสินค้า จำนวน 20 ร้าน เช่น สินค้าธงฟ้าราคาประหยัด ผลิตภัณฑ์ปลาแปรรูป ไข่ไก่ ไข่เป็ด ผ้าบาติก/ปาเต๊ะ ลูกชิ้นโบราณ ข้าวเกรียบ เป็นต้น
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคใต้","นราธิวาส","สวท.นราธิวาส","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127195018357"], [790,"รองผู้ว่าฯ นครพนม นำทีมลงพื้นที่ตรวจฟาร์มสุกร","วันนี้ (27 ม.ค.65) นายวรรณพล ต่อพล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัดนครพนม ปศุสัตว์จังหวัด ด่านกักกันสัตว์ ตำรวจภูธรจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจฟาร์มสุกร บริษัทบุญทะพานฟาร์ม จำกัด แต่เนื่องด้วยฟาร์มสุกรอยู่ในช่วงการเฝ้าระวังการติดเชื้อโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) จึงได้มีการรายงานข้อมูลและตอบข้อสอบถามของคณะบริเวณประตูทางเข้าฟาร์ม โดยมีนายวินัย คำมุงคุณ ผู้จัดการฟาร์มเป็นผู้ให้ข้อมูล
ฟาร์มสุกร บริษัท บุญทะพานฟาร์ม จำกัด มีที่ตั้งอยู่ที่เลขที่ 99 หมู่ 7 ตำบลกุรุคุ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม เป็นฟาร์มที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครพนม โดยมีการเลี้ยงพ่อพันธ์ุ 60 ตัว แม่พันธ์ุ 60,000 ตัว ผลิตลูกสุกรได้ 11,000-12,000 ตัว/เดือน มีสุกรขุนเกิน 80 กิโลกรัม/ตัว ขึ้นไป จำนวน 3,000 ตัว สำหรับสุกรขุนมีการจับขายส่งให้โรงเชือดวันละ 60-70 ตัว ที่จังหวัดนครพนมและสกลนคร
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนม จึงได้ทำบันทึกการตรวจไว้พร้อมเน้นย้ำประกาศ ประกาศ กกร.ฉบับที่ 1 พ.ศ.2565 เรื่องห้ามส่งออกสุกรมีชีวิตไปนอกราชอาณาจักร ลงวันที่ 5 มกราคม 2565 และฉบับที่ 2 พ.ศ.2565 เรื่องการแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บและจัดทำบัญชีคุมสินค้าสุกร เนื้อสุกร ลงวันที่ 5 มกราคม 2565 เพื่อให้ผู้ประกอบการได้ทราบและกรณีเข้าเงื่อนไขตามประกาศฯ ให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","27/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","นครพนม","สวท.นครพนม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220127235630404"], [791,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ตรวจสอบเอกสารและสต๊อกข้าวตามโครงการชดเชยดอกเบี้ยฯ","นางพิรุณวรรณน์ จงใจภักดิ์ พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ มอบหมาย ให้นายอนุชา ชาญประโคน นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ กลุ่มงานยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ เป็นผู้แทน พร้อม เจ้าหน้าที่ กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า นำคณะทำงานตรวจสอบเอกสารและสต๊อกข้าวตามโครงการชดเชยดอกเบี้ยฯ โดยตรวจสอบปริมาณและมูลค่าข้าวที่ผู้ประกอบการค้าข้าวเก็บสต๊อก ตามโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อกปีการผลิต 2564/65 ครั้งที่ 3 วันที่ 1 จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย
1) บริษัท กิจเจริญพรชัยชุมพลสุรินทร์ จำกัด
2) ท่าข้าวสิทธิพงษ์ ชุมพลบุรี
3) ห้างหุ้นส่วนจำกัด สหพืชผลท่าตูม อำเภอท่าตูม
ได้ยื่นตั๋วสัญญาใช้เงินรวม 12 ฉบับ หมดอายุ 1 ฉบับ มูลค่าตั๋วสัญญาใช้เงิน 11 ฉบับ 255 ล้านบาท ผลการตรวจสต๊อกข้าว ครอบคลุม ทั้ง 11 ฉบับ มูลค่ารวม 255 ล้านบาท โดยมี ปริมาณข้าวเปลือกและข้าวสาร รวมทั้งสิ้น 35,500 ตัน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","28/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","สุรินทร์","สวท.สุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220128085533429"], [792,"จ.สุรินทร์ ตรวจสอบสถานที่เก็บ ปริมาณสุกรชำแหละ และการจำหน่ายสินค้าเนื้อสุกรชำแหละ ชุดเครื่องไหว้ และสินค้าในช่วงเทศกาลวันตรุษจีน พบ ยังอยู่ในสถานการณ์ปกติ","จังหวัดสุรินทร์ นำโดย นายเสริมศักดิ์ สีสันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นำคณะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นางพิรุณวรรณน์ จงใจภักดิ์ พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ รอง ผบก.ภจว.สุรินทร์ ปลัดอำเภอเมืองสุรินทร์หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสุรินทร์ รองนายกเทศบาลเมืองสุรินทร์ ผอ.สวท.สุรินทร์ และหัวหน้าด่านกักกันสัตว์สุรินทร์ ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เก็บ ปริมาณ สุกรชำแหละ และตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าเนื้อสุกรชำแหละ ชุดเครื่องไหว้ และสินค้าในช่วงเทศกาลวันตรุษจีน โดย
1) ตรวจสอบสถานที่เก็บ ปริมาณ สุกรชำแหละ ณ ศูนย์ตัดแต่งและกระจายสินค้า (เครือซีพี) ตั้งอยู่เลขที่ 898/3 ถนนหลักเมือง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ พบว่า ได้มีการแจ้งปริมาณครอบครองสุกรชำแหละถูกต้อง เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2565 เรื่องการแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บ ที่กำหนดให้ผู้เลี้ยงสุกรตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป หรือผู้ครอบครองที่มีปริมาณตั้งแต่ 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป จะต้องแจ้งปริมาณ ราคา และสถานที่เก็บเป็นประจำทุกสัปดาห์ในวันจันทร์ พบว่ามีปริมาณเนื้อสุกร 42,532 กก. พนักงานเจ้าหน้าที่ได้กำชับให้ผู้ประกอบการแจ้งข้อมูลที่เป็นจริง จัดทำบัญชีคุมสินค้าเนื้อสุกร โดยให้ถือปฏิบัติตามประกาศฯ อย่างเคร่งครัด
2) ตรวจสอบการจำหน่ายสินค้า เนื้อสุกรชำแหละ ชุดเครื่องไหว้ ในช่วงเทศกาลวันตรุษจีน ณ ห้างสรรพสินค้าแม็คโคร สาขาสุรินทร์ พบว่า ราคาจำหน่าย หมูเนื้อแดง 174 บาท/กก. หมูสามชั้น 244 บาท/กก. และตรวจสต็อกห้องแช่เย็นมีปริมาณเนื้อสุกร 500 กิโลกรัม ส่วนชุดเครื่องไหว้มีให้เลือกหลายขนาด หลายราคา โดยทางห้างมีการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าอย่างชัดเจน ทั้งนี้หากประชาชนพบเห็นการกักตุนหรือจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","28/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","สุรินทร์","สวท.สุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220128090005431"], [793,"กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เตรียมจัด ดีพร้อม มอเตอร์ โชว์ จังหวัดลำปาง ฟื้นกิจกรรมท่องเที่ยว - งานแฟร์ในระดับภูมิภาค","นางละเอียด มธุรส ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาวัสดุอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM : Department of Industrial Promotion) ขานรับมาตรการกระทรวงอุตสาหกรรมในการยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ รุกจัดกิจกรรม DIPROM MOTOR SHOW ณ จังหวัดลำปาง เพื่อสร้างมูลค่าอุตสาหกรรมยานยนต์ในระดับภูมิภาค พร้อมทั้งผลักดันให้มีการจัดนิทรรศการและงานแฟร์ได้อย่างต่อเนื่องในช่วงที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว
นอกจากนี้ ยังเชื่อมโยงผู้ประกอบการที่ได้รับการพัฒนาจาก ดีพร้อม ผ่านโครงการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม หรือ คพอ. เข้ามาร่วมในงานดังกล่าวด้วย เพื่อแสดงศักยภาพของผู้ประกอบการในระดับภูมิภาคที่สามารถนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาตอบโจทย์การทำตลาดในยุคปกติใหม่ ตลอดจนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคเพื่อให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ระหว่างวันที่ วันที่ 9 - 16 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งคาดว่าตลอดการจัดงานในครั้งนี้จะมีเงินสะพัดภายในงานกว่า 115 ล้านบาท ดีพร้อม มอเตอร์ โชว์ จัดขึ้นที่อาคารศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าอุตสาหกรรมภาคเหนือ จังหวัดลำปาง ระหว่างวันที่ วันที่ 9 - 16 กุมภาพันธ์ 2565 และเป็นครั้งแรกที่ ดีพร้อม ดำเนินการจัดกิจกรรมดังกล่าว เพื่อกระตุ้นตลาดยานยนต์โดยเฉพาะในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ
อีกทั้ง ยังเป็นการเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งทางค่ายรถยนต์ จำนวน 12 แบรนด์ และจักรยานยนต์ จำนวน 5 แบรนด์ รวมตัวกันในงานนี้ ยังเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริโภคที่จะสามารถเปรียบเทียบข้อมูลยานยนต์ต่าง ๆ จากหลากหลายค่ายในที่เดียวก่อนการตัดสินใจที่จะซื้อรถ ซึ่งคาดว่าจากการจัดกิจกรรมนี้จะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับผู้ประกอบภาคการผลิตของอุตสาหกรรมยานยนต์ได้กว่า 100 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการแสดงศักยภาพของผู้ประกอบการในระดับภูมิภาคที่สามารถนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาตอบโจทย์การทำตลาดในยุคปกติใหม่ หรือ New Normal อีกทั้ง ยังช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคเพื่อให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอีกด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","28/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สวท.ลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220128090649435"], [794,"ชาวกาฬสินธุ์ ผู้รับสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีกว่า 2 แสน 9 หมื่นราย ได้รับความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนรวมกว่า 344 ล้านบาท","นางสาวสุธีรา กิจนาบูรณ์ คลังจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า รัฐบาล ได้มอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐภายใต้โครงการไทยนิยมยั่งยืนให้กับชาวกาฬสินธุ์เพิ่มเติมในรอบที่ผ่านมา โดยประชาชน ต่างเดินทางทยอยเดินทางมารับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่สำนักงานคลังจังหวัดกาฬสินธุ์ ในส่วนของจังหวัดกาฬสินธุ์มีผู้มาลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทั้งหมด จำนวน 290,024 คน ระหว่างเดือน ตุลาคม-ธันวาคม มียอดใช้จ่ายรวม 3 เดือนกว่า 344 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิม เนื่องจากมีการเพิ่มวงเงินจากมติ ครม. ให้บัตรละ 500 บาท ในช่วงเดือน พฤศจิกายน-ธันวาคม 2564
ทั้งนี้ ยังเป็นนโยบายของนายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยการตั้งให้จังหวัดกาฬสินธุ์เป็นจังหวัดโมเดลแก้ไขความยากจน และโครงการไทยนิยมยั่งยืน ซึ่งเป็นการดำเนินงานที่เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมและสามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนอย่างแท้จริง โดยได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก นางสาวสุธีรา กิจนาบูรณ์ คลังจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวด้วยว่า ในปี 2565 ครม. ได้อนุมัติเพิ่มเงินรวมให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ หรือกลุ่มเปราะบาง ระยะที่ 2 กรอบวงเงิน 1,351.9812 ล้านบาท โดยเป็นการสนับสนุนเงินช่วยเหลือให้กับกลุ่มเป้าหมายจำนวนไม่เกิน 200 บาทต่อเดือนต่อคน เป็นเวลา 3 เดือน ได้แก่เดือน ก.พ.-เม.ย. 2565 หรือรวมวงเงินคนละ 600 บาท
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","28/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","กาฬสินธุ์","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220128095820457"], [795,"กรมบัญชีกลาง ชี้แจงการจ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2565","นางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่ ครม. ได้เห็นชอบมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ ปี 2565 ผ่าน 3 โครงการ ซึ่งโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 จะช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้า จำนวนไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 30 เมษายน 2565
โดยมีรายละเอียดการจ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในช่วงเวลาดังกล่าว ทุกวันที่ 1 ของเดือน จะได้รับวงเงินซื้อสินค้า รวม 400/500 บาทต่อเดือน (เป็นวงเงินเดิม 200/300 บาท และวงเงินจากโครงการเพิ่มกำลังซื้อ 200 บาท) ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อ 3 เดือน ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน ค่าโดยสารรถไฟฟ้าและขสมก. 500 บาทต่อเดือน โดยไม่สามารถถอนเป็นเงินสดและไม่สามารถสะสมในเดือนถัดไปได้
ในทุกวันที่ 18 ของเดือน จะได้รับเงินคืนค่าไฟฟ้า ครัวเรือนละไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน เงินคืนค่าน้ำประปา ครัวเรือนละไม่เกิน 100 บาทต่อเดือน โดยสามารถถอนเป็นเงินสดและสะสมในเดือนถัดไปได้ นอกจากนี้ ทุกวันที่ 22 ของเดือน ผู้ถือบัตรฯ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ จะได้รับเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน ซึ่งสามารถถอนเป็นเงินสดและสะสมในเดือนถัดไปได้เช่นกัน
โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจาก COVID-19 ให้แก่กลุ่มที่มีความเปราะบางทางด้านรายได้และผู้ต้องการความช่วยเหลือ ตลอดจนรักษาแรงกระตุ้นทางเศรษฐกิจจากการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นปี 2565
","28/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220128102424478"], [796,"นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นไทยและซาอุดีอาระเบีย สร้างอาชีพให้คนไทยเข้าทำงานในภาคการท่องเที่ยวและบริการ","
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทันที ภายหลังเสร็จสิ้นการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 25 26 มกราคม 2565
โดยให้เร่งสานต่อข้อหารือด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ไทย-ซาอุดีอาระเบีย เพราะจากบริบทที่นายกรัฐมนตรีและเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ชัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลชะอูด (His Royal Highness Prince Mohammad bin Salman bin Abdulaziz Al Saud) มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ได้เน้นย้ำความสำคัญของการส่งเสริมความสัมพันธ์ในระดับประชาชนและจะผลักดันความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสให้แลกเปลี่ยนแรงงานและแรงงานไทยจะได้เข้าทำงานในภาคการท่องเที่ยวและบริการ เพราะแรงงานไทยมีศักยภาพและมีฝีมือเป็นที่ต้องการของซาอุดีอาระเบีย ประกอบกับซาอุดีอาระเบียให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความหลากหลายทางเศรษฐกิจ
ในช่วงที่ผ่านมาได้เปิดตัวโครงการขนาดใหญ่และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อาทิ โครงการ NEOM เมืองแห่งอนาคต เน้นใช้พลังงานสะอาด ไร้มลพิษ โดยตั้งเป้าหมายให้เป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีและเขตธุรกิจชั้นนำของโลก มีแผนคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2568 ซึ่งจะสร้างงานใหม่ได้กว่า 380,000 ตำแหน่ง /โครงการ Red Sea Project โครงการพัฒนาหมู่เกาะริมชายฝั่งทะเลแดงในมณฑล Tabouk โดยคาดว่าจะเปิดตัวเฟสแรกในช่วงปลายปี 2565 และมีกำหนดการแล้วเสร็จในปี 2573 ซึ่งในช่วงของการก่อสร้างโครงการจะก่อให้เกิดการจ้างงานได้กว่า 70,000 ตําแหน่ง ซึ่ง โครงการเหล่านี้ล้วนเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการไทย รวมถึงแรงงานฝีมือและกึ่งฝืมือของไทยให้สามารถเข้าทำงานได้มากขึ้นในอนาคต
โอกาสนี้ สายการบินแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย Saudi Arabian Airlines ประกาศเปิดเที่ยวบินตรง (Direct flights) จากซาอุดีอาระเบียมายังประเทศไทย คาดว่าจะเปิดการบินในช่วงเดือนพฤษภาคม 2565 ซึ่งจะสร้างเม็ดเงินด้านการท่องเที่ยวระหว่างกันจำนวนมาก ซึ่งยังสอดคล้องกับนโยบายการเปิดประเทศของไทยด้วย นายกรัฐมนตรี จึงเชื่อมั่นว่า การฟื้นฟูความสัมพันธ์ครั้งนี้จะเป็นโอกาสที่ดี
","28/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220128113436515"], [797,"กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขยายการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) สู่บริการหน่วยงานราชการแบบ Walk in ในส่วนภูมิภาค","
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงสถิติผู้ใช้บริการออกหนังสือรับรองและรับรองสำเนาเอกสารนิติบุคคล ว่า กรมฯ ได้มีการออกหนังสือรับรองและรับรองสำเนาเอกสารทางอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่ภาคธุรกิจและประชาชน จำนวนทั้งสิ้น 6,959,940 ราย ซึ่งมีหน่วยงานราชการมาขอใช้บริการ โดยจะให้บริการแบบ Walk in ณ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก จึงได้มีขยายการให้บริการด้วยลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) บนหนังสือรับรอง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการให้มีความคล่องตัวในการทำธุรกิจ ลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เสริมสร้างศักยภาพของผู้ประกอบการให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจต่อทุกภาคส่วน
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนบริการข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ กองข้อมูลธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร 1570 หรือผ่านเว็บไซค์ www.dbd.go.th
","28/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220128110500503"], [798,"นายกรัฐมนตรี มั่นใจไทยพร้อมเปิด Test and Go รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เริ่มวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้","
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มั่นใจทุกระบบของไทยมีความพร้อม ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศให้เข้ามาในประเทศไทยในรูปแบบ Test and Go อีกครั้งในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวของไทยให้กลับมาได้โดยเร็วที่สุด หลังรัฐบาลตัดสินใจระงับไปเมื่อปลายปี 2564 เพราะเกิดการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน และคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยตลอดทั้งปี 2565 ไม่ต่ำกว่า 8 ล้านคน สร้างรายได้ 4.8 แสนล้านบาท
ส่วนปัญหาการลักลอบเข้าประเทศไทย นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการกระทรวงมหาดไทย ให้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัด แจ้งนายอำเภอให้เน้นย้ำ กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน ของพื้นที่ที่ติดต่อกับชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน หรือมีช่องทางผ่านแดนที่เป็นช่องทางธรรมชาติ คุมเข้มทุกด่านให้ระมัดระวัง ป้องกัน การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย รวมถึงขอให้เครือข่ายสาธารณสุขในพื้นที่ ร่วมสอดส่องว่ามีบุคคลแปลกหน้าเข้ามาในพื้นที่หรือไม่ หากพบให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่
นายบวรวิทย์ อัครจันทโชติ อุตสาหกรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน อนุกรรมการและเลขานุการ คณะอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน ระบุว่า สำนักงานกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในจังหวัดแม่ฮ่องสอนให้ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีดอกเบี้ยต่ำ โดยการให้สินเชื่อของกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ \"โครงการสินเชื่อ เพิ่มศักยภาพ SME\" พ.ศ.2565 ให้วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาทต่อราย ดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี ตลอดอายุสัญญา ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี ปลอดชำระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 18 เดือน
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ความช่วยเหลือเงินทุน และเพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพในการต่อยอดธุรกิจ เติมทุนหนุนผู้ประกอบการกลุ่ม BCG (Bio Circular Green) ไม่ว่าจะเป็นการเกษตรอุตสาหกรรมหรืออาหารแปรรูปที่ใช้เทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมพลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ อุตสาหกรรมเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือบริการทางการแพทย์ กลุ่มผู้ผลิต/ผู้ใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์หรือระบบอัตโนมัติ อุตสาหกรรมประกอบเป็นยานยนต์ไฟฟ้า เช่น ชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ที่ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า
จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่สนใจ เข้ารับคำขอสินเชื่อได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2565 หรือจนกว่าวงเงินจะหมด สามารถติตต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน โทร 0 5361 1089 ต่อ 13 หรือ สมัครผ่านทางเว็บไซด์ https:/thaismefund.com
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","28/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220128112935514"], [800,"พ่อเมืองสุพรรณบุรี เยี่ยมชมตลาดชุมชนด้านหลังศาลากลางจังหวัดและให้กำลังใจเกษตรกรและผู้ผลิตสินค้าชุมชน","(28 ม.ค.65) ที่บริเวณตลาดชุมชนด้านหลังศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วย นางนภัสสร สุวรรณประทีป ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสุพรรณบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการ เยี่ยมชมการจับจ่ายซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์เกษตร และสินค้าชุมชน โดยเกษตรกรและผู้ผลิตสินค้าชุมชนมาออกร้านจำหน่ายพบผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งเป็นการเปิดตัวตลาดครั้งแรกภายหลังที่ต้องปิดตัวลงชั่วคราวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ได้พูดคุยสอบถามและให้กำลังใจพ่อค้าแม่ค้าที่มาร่วมเปิดร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและสินค้าชุมชนในครั้งนี้ด้วย
ด้านพ่อค้าแม่ค้าที่มาร่วมจำหน่ายสินค้า ต่างรู้สึกดีใจ ที่ตลาดชุมชนแห่งนี้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง เพื่อเป็นช่องทางการเพิ่มรายได้ โดยบางรายเป็นอาชีพหลัก บางรายเป็นอาชีพเสริม บางรายต้องปรับตัวจากเกษตรกรส่งออกกุ้งสด มาเป็นการแปรรูปกุ้งจำหน่ายในพื้นที่ และได้ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวการเปิดตลาดจากไลน์กลุ่ม ซึ่งมีเงื่อนไขสำหรับผู้ที่จะเข้าร่วมจำหน่ายสินค้าต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 2 เข็มเป็นอย่างน้อย และร้านค้าต้องมีมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยพ่อค้าแม่ค้าต่างยินดีให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการอย่างเต็มที่
สำหรับตลาดชุมชน ตลาดท้องถิ่น ด้านหลังศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดบริการทุกวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","28/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","สุพรรณบุรี","สวท.สุพรรณบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220128113928519"], [801,"มหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติวิถีถิ่น วิถีไทย 4 ภาค กระตุ้นเศรษฐกิจ ฟื้นฟูการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม","นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทยจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยนำทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างงาน สร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นฟูการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในจังหวัดของทุกภาค เป็นการฟื้นวิกฤติจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งเสริมและเปิดพื้นที่ให้ศิลปินศิลปินพื้นบ้านแขนงต่างๆ ได้มีโอกาสถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมการแสดงและมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมท้องถิ่นไปสู่เยาวชนและประชาชน รวมทั้งสนับสนุนการนำสินค้าผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย ซีพอต และสินค้าทางวัฒนธรรมของชุมชนคุณธรรมที่มีกว่า 2 หมื่นแห่งทั่วประเทศมาจัดจำหน่ายภายใต้การจัดมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด การจัดงานในปีที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาค นั้นๆ แห่งละไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการทางวัฒนธรรม ศิลปิน และการท่องเที่ยวของจังหวัด
สำหรับการจัดงานครั้งนี้กำหนดจัดขึ้น 4 ภาค ได้แก่ งานเสน่ห์เมืองหนังโนรา รังสรรค์ศิลป์ถิ่นใต้ ที่จังหวัดพัทลุง วันที่ 10-13 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาส(ยูเนสโก) ประกาศขึ้นทะเบียนโนราเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ มีจำหน่ายอาหารและผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม 14 จังหวัดภาคใต้ ภาคกลางจัดงานในเดือนเมษายน 2565 ที่จังหวัดตราด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดในเดือนพฤษภาคม ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ และภาคเหนือจัดงานในเดือนกรกฎาคม 2565 ที่จังหวัดพิษณุโลก
เช้าวันนี้ (28 ม.ค.65) ผู้ประกอบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ทำการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าคุณภาพดี ราคาประหยัด ซึ่งจัดโดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อส่งเสริมช่องทางการตลาด และบรรเทาปัญหาค่าครองชีพแก่ผู้ผลิตและผู้ประกอบการ OTOP ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) บริเวณห้องโถงหน้ากองคลัง ชั้น 1 อาคาร 4 ชั้น ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สำหรับการจัดบูธจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในวันนี้ เป็นผู้ประกอบการ OTOP จาก\"กลุ่มชุมชน OTOP\" อำเภอลาดบัวหลวง จัดจำหน่ายผลิตเกษตรกร อาทิ ผักปลอดสารพิษมะม่วง กล้วยน้ำหว้า มะนาว ส้มโอ เมล่อน ปลาแดดเดียว และผักผลไม้อบกรอบ
\"ร้านปู่แสวง\" อำเภอลาดบัวหลวง จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แท่นยืนคลายเส้น ช่วยผ่อนคลายเส้นสายในร่างกายให้เบาโล่งสบาย ราคาย่อมเยาเพื่อสุขภาพดี
ผู้ที่สนใจร่วมอุดหนุนสินค้า สามารถติดต่อได้ที่ 035 336542
ข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เว็บไซต์ : https://ayutthaya.prd.go.th/
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","28/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","พระนครศรีอยุธยา","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220128122016534"], [803,"ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเนื้อหมูและสินค้าราคาแพง เปิดพื้นที่ศูนย์ราชการจัดตลาดนัดชุมชนช่วยลดค่าครองชีพ","วันนี้ (28 ม.ค.65) ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งจัดให้มีตลาดนัดชุมชนสินค้าราคาถูกลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ภายใต้แนวคิดของนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และส่วนราชการที่เกี่ยวไข้อง เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภค ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และผลกระทบจากราคาเนื้อหมูในท้องตลาดที่ปรับสูงขึ้น
โดยบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังเปิดจำหน่ายสินค้ามีประชาชนผู้บริโภคเดินทางมาจับจ่ายเลือกซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเนื้อหมูและไก่สดราคาถูก รวมทั้งสินค้าประเภทอาหารและสินค้าอื่นๆ โดยหมูเนื้อแดงจำหน่ายกิโลกรัมละ 150 บาท หมูสามชั้น 180 บาท ซี่โครงหมูกิโลกรัมละ 100 บาท ขณะที่อกไก่กิโลกรัมละ 80 บาท น่องติดสะโพกกิโลกรมละ 75 บาท รวมทั้งสินค้าอื่นๆ ในราคาย่อมเยาอีกมากมาย อาทิ ผัก ผลไม้ น้ำมันพืช ซอสปรุงรส ไก่เนื้อ ไข่ไก่ ไข่เค็ม กุนเชียง สินค้า OTOP และอาหารสดแช่แข็ง เป็นต้น โดยตลาดนัดแห่งนี้เปิดจำหน่ายทุกเช้าวันศุกร์
นอกจากนี้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังมีจุดจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูก จำนวน 6 จุด ได้แก่ 1.ร้านหมูวิทยา คงหวาน ถนนตลาดใหม่ 2.ร้านเอ-วิน หมูสด ถนนตลาดล่าง 3.ร้านข้าวหอม-ข้าวฟ่าง หมูสด ถนนตลาดล่าง 4.ร้านณีหมูคุณภาพ หมู่ที่ 3 ตำบลมะขามเตี้ย 5.ร้านยกครัว หมู่ที่ 6 ตำบลคลองน้อย อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี และ 6.ร้านวัฒนาฟาร์มฟู๊ด ถนนศรีเวียง อำเภอบ้านนาสาร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริโภค ที่ได้รับผลกระทบจากราคาเนื้อหมูในท้องตลาดปรับสูงขึ้น.
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","28/1/2022","ภาคใต้","สุราษฎร์ธานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220128130655558"], [804,"ขนส่งปากน้ำ กำชับประชาชนหมั่นตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องยนต์ของรถให้มีค่าควันดำไม่เกินกำหนด","นางสุนิสา อนันตกูล ขนส่งจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า สำนักงานขนส่งจังหวัดสมุทรปราการ จัดชุดปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่ง ประชาสัมพันธ์แนะนำและกำชับผู้มาติดต่อดำเนินการด้านใบอนุญาตขับรถ ให้หมั่นตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องยนต์ของรถให้มีค่าควันดำไม่เกินกำหนด กรณีใช้รถบรรทุกสินค้าหรือสิ่งของให้ปิดคลุมป้องกันการตกหล่นรั่วไหลให้เรียบร้อยด้วย และหากพบเห็นรถควันดำ หรือไม่ปิดคลุมป้องกันสินค้าหรือสิ่งของที่บรรทุก โปรดแจ้งข้อมูลร้องเรียนทาง Facebook 1584 ร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ หรือสายด่วน โทร 1584
ทั้งนี้ ชุดปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่ง ลงพื้นที่ตรวจวัดควันดำรถที่เข้ารับตรวจเพื่อดำเนินการทางทะเบียนและภาษี ณ สำนักงานขนจังหวัดฯ ขนส่งสาขาพระประแดง และสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) จำนวน 507 คัน พบว่ามีค่าควันดำไม่เกินกำหนด 499 คัน และมีค่าควันดำเกินกำหนด 8 คัน โดยให้ปรับปรุงแก้ไขก่อนนำรถเข้าตรวจสอบใหม่ ตรวจวัดควันดำรถตามโครงการตรวจสอบมลพิษทางอากาศและเสียงรถราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จำนวน 3 คัน ไม่พบว่ามีค่าควันดำเกินกำหนด
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","28/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","สมุทรปราการ","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรปราการ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220128134634576"], [805,"สายการบินไทยสมายล์ ขยายเส้นทางบินใหม่ ผลักดันศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ สายการบินไทยสมายล์ เส้ยทางสุวรรณภูมิ ร้อยเอ็ด อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร โดยจะให้บริการบินตรงทุกวัน วันละ 1 เที่ยวบิน พร้อมบริการฟูลเซอร์วิส
ด้านบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส แจ้งเพิ่มความถี่เที่ยวบินเส้นทางบินระหว่าง กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) - พนมเปญ (กัมพูชา) (ไป-กลับ) เป็นวันละ 2 เที่ยวบิน เพื่อสนับสนุนความต้องการเดินทางระหว่างประเทศ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป
ด้วยเครื่องบินแบบแอร์บัส เอ 319 หรือ เอ 320 โดยเที่ยวบิน PG935 ออกจากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เวลา 17.20 น. ถึงสนามบินนานาชาติพนมเปญ เวลา 18.35 น. และเที่ยวบิน PG936 ออกจากสนามบินนานาชาติพนมเปญ เวลา 19.25 น. ถึงสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เวลา 20.40 น.
เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2565 เวลา 08.30 น. ที่บริเวณหอประชุมหน้าศาลากลางจังหวัดระยอง นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมด้วย นายอนันต์ นาคนิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นางสาวสุวีรยา ปั้นปาน พาณิชย์จังหวัดระยอง และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเยี่ยมชมการจัดบูธขายสินค้าตามโครงการระยองสเปซ ตลาดนัดของดีระยอง \"ออฟไลน์\" ที่ยกของดีจังหวัดระยองในระยองสเปซออนไลน์ มาให้เลือกซื้อ ได้แก่ ชุดผ้าไทย ผลิตภัณฑ์จากเครื่องหนัง อาหารทะเล ทุเรียนทอด น้ำสับปะรด น้ำสำรอง อาหารสด อาหารแปรรูปต่าง ๆ หมูเนื้อแดงราคากิโลกรัมละ 150 บาท จากโครงการหมูพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน จังหวัดระยอง รวมถึงร้านค้าสวัสดิการแม่วัยรุ่นจังหวัดระยอง โดยบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยอง ร้านค้าจากโครงการส่งเสริมช่องทางการตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มอาชีพจังหวัดระยอง? โดยสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดระยอง สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดระยอง และอีกมากมาย โดยมีกำหนดจัดงาน 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","28/1/2022","ภาคตะวันออก","ระยอง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220128153238630"], [807,"คาดการณ์เศรษฐกิจไทย ปี 2565 ขยายตัวที่ร้อยละ 4 ต่อปี จากการฟื้นตัวของการใช้จ่ายในประเทศ ","นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2565 คาดว่าจะขยายตัวเร่งขึ้นมาอยู่ในช่วงร้อยละ 4 ต่อปี โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่ายในประเทศ ที่ขยายตัวหลังสถานการณ์ COVID-19 และภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาขยายตัวหลังจากการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ผ่านระบบ Test & Go อีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่านักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย จำนวน 7 ล้านคน
ขณะที่การส่งออกสินค้า จะขยายตัวที่ร้อยละ 3.6 ต่อปี ตามอุปสงค์โลกที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายของภาครัฐ จะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 ภาครัฐจะมีการใช้จ่าย จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท และงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 2565 วงเงิน 3.07 แสนล้านบาท รวมทั้งจาก พ.ร.ก. กู้เงินเพิ่มเติม วงเงิน 5 แสนล้านบาทในส่วนที่เหลือ ที่คาดว่าจะมีการเบิกจ่ายได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในทุกกลุ่มอย่างตรงจุด รวมทั้งสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ควบคู่กับการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจต่างๆ
แรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐ จะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจ รวมทั้งการลงทุนในประเทศปรับตัวสูงขึ้น โดยการลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 5.0 ต่อปี ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ร้อยละ 1.9 ซึ่งยังอยู่ภายในกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยร่วมกันกำหนดไว้
ขณะที่ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย เช่น สถานการณ์ COVID-19 ความผันผวนของเศรษฐกิจและการเงินโลก ตลาดแรงงานที่ยังคงฟื้นตัวไม่เต็มที่และราคาพลังงาน อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลัง จะติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะดำเนินมาตรการทางการคลังและการเงินที่เหมาะสม เพื่อให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่องและทั่วถึงในทุกภาคส่วน
สำหรับในปี 2564 ที่ผ่านมา คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวที่ร้อยละ 1.2 ต่อปี ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับประมาณการครั้งก่อน โดยช่วงครึ่งหลังของปี 2564 เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดีกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการประคับประคองเศรษฐกิจและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดภายในประเทศที่ปรับดีขึ้นและการเร่งกระจายวัคซีนที่มีความครอบคลุมมากขึ้น ขณะที่การส่งออกสินค้าขยายตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าและปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่ทยอยคลี่คลายลง
เช้าวันนี้ (28 ม.ค.65) ที่ปางอุ๋งคึกคัก อุณหภูมิ 12 องศาเซลเซียส นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวรับลมหนาวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไฮไลท์ของที่นี่คือ การล่องแพไม้ไผ่ฝ่าหมอกขาว ท่ามกลางป่าสนที่เรียงรายเป็นทิวแถวสวยงาม และชมความสวยงามของดอกซากุระเมืองไทยหรือนางพญาเสือโคร่งที่บานต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงหน้าหนาว มาเที่ยวที่นี่นอกจากจะฟินกับบรรยากาศและความสวยงามแล้ว ยังมั่นใจได้ว่าสินค้า/บริการมีความปลอดภัยและถูกต้องตามหลักอนามัย เนื่องจากปางอุ๋งได้รับมาตรฐานด้านสุขอนามัย (SHA+) แล้ว
ในด้านของมาตรการสาธารณสุข นักท่องเที่ยวต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือผลการตรวจ ATK อย่างน้อย 30 นาที หรือตรวจจากที่พักก่อนเข้าพื้นที่ สวมหน้ากากอนามัย ตรวจวัดอุณหภูมิ นำเต็นท์และอุปกรณ์มาเอง
Check-in ผ่านแอพไทยชนะ เตรียมบัตรประชาชนและเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนฯ ครบ 2 เข็ม หรือแสดงชุดตรวจ ATK อย่างน้อย 30 นาที หรือ เอกสารการตรวจโรคโควิด-19 กรอกใบลงทะเบียนการเข้าพักของอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ Check-out แอพ QueQ และ แอพไทยชนะ
ในส่วนของขั้นตอนการพักแรมพื้นที่ลานกางเต็นท์ปางอุ๋งตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ให้จองพื้นที่ลานกางเต็นท์ในเว็บไซต์ www.nps.dnp.go.th ลงทะเบียนเข้าอุทยานฯล่วงหน้าผ่านแอพ QueQ
ปางอุ๋ง หรือโครงการสวนป่าในพระราชดำริปางตอง 2 อยู่ในอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบอันดับต้นๆ ของเมืองไทย เนื่องจากมีป่าสนขึ้นเรียงรายอยู่รอบ ๆ อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่บนยอดเขา บรรยากาศสงบเงียบ โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม อากาศหนาวๆ เช้าๆ จะมีลมหนาวพัดมาพร้อมกับไอหมอกที่ลอยอยู่เหนือผืนน้ำ ประกอบกับความสวยงามของแสงแดดอุ่นๆ สาดแสงแรกกระทบยอดเขาเป็นภาพที่สวยงามที่สุดจนถูกขนานนามว่า สวิสเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","28/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220128145844602"], [809,"คณะทำงานตรวจสอบสต็อกน้ำมันปาล์มคงเหลือทั้งระบบจังหวัดตราด ลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณน้ำมันปาล์มคงเหลือทั้งระบบของจังหวัดตราด","
นางวรัญญา ถนอมพันธุ์ พาณิชย์จังหวัดตราด นำคณะทำงานตรวจสอบสต็อกน้ำมันปาล์มคงเหลือทั้งระบบจังหวัดตราด ได้แก่ ผู้แทนนายอำเภอเมืองตราด ผู้แทนเกษตรและสหกรณ์จังหวัดตราด ผู้แทนสภาเกษตกรจังหวัดตราด พร้อมผู้ร่วมสังเกตการณ์ ได้แก่ ผู้แทนผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด และผู้แทนหัวหน้าชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 1 บ่อไร่ เข้าร่วมตรวจสอบสต็อกน้ำมันปาล์มของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท ไทยอีสเทิร์นตราด จำกัด และ บริษัท สุขสมบูรณ์ น้ำมันปาล์ม บ่อไร่ จำกัด เพื่อป้องกันการกักตุน เนื่องจากราคาน้ำมันปาล์มที่สูงขึ้น
พาณิชย์จังหวัดตราด เผยว่า จากสถานการณ์ราคาปาล์มน้ำมันที่สูงขึ้น เกิดความกังวลว่าผู้ประกอบการรายใหญ่จะกักตุนสินค้า ทำให้ราคาปาล์มน้ำมันทั้งระบบพุ่งสูงขึ้นอีก ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริโภคเป็นวงกว้าง จึงมีการออกตรวจสต๊อกปาล์มน้ำมัน โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ โรงกลั่นน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ตลอดจนคลังน้ำมันปาล์ม เพื่อตรวจสอบปริมาณน้ำมันปาล์มดิบคงเหลือว่ามีเพียงพอหรือมีการกักตุนมากผิดปกติหรือไม่
ทั้งนี้ ได้กำชับให้ผู้ประกอบการแจ้งการครอบครอง หรือแจ้งปริมาณตามที่กฎหมายกำหนด หากฝ่าฝืนก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย และหากผู้บริโภคพบเห็นการกระทำผิดฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า กักตุน หรือปฎิเสธการจำหน่าย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ 1569 สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตราด 039-512711 หรือ สายด่วน บก.ปคบ.1135
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","28/1/2022","ภาคตะวันออก","ตราด","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220128153740640"], [810,"พาณิชย์จังหวัดตราด นำคณะลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบการร้านทองและผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าไหว้เจ้า ก่อนเทศกาลตรุษจีน ปี 2565","วันนี้ (2 8ม.ค. 65) สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตราด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดตราด นำคณะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบผู้ประกอบการธุรกิจจำหน่ายทองรูปพรรณและผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าสำหรับไหว้เจ้า ก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2565 ในห้างสรรพสินค้าค้าปลีก ค้าส่ง และร้านค้ารายย่อยในเขตตัวเมืองตราด
สำหรับการออกตรวจร้านทองและสินค้าไหว้เจ้า ก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2565 ในครั้งนี้ เนื่องจากใกล้ช่วงเทศกาลตรุษจีนของทุกปีประชาชนผู้บริโภคส่วนมากจะนิยมซื้อสินค้าประเภททองรูปพรรณจากร้านทองต่างๆ ซึ่งสินค้าดังกล่าวจะต้องจัดทำฉลากให้ถูกต้องตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก (ฉบับที่6) พ.ศ.2544 เรื่อง ให้ทองรูปพรรณเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลากและประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลากฉบับที่ 13 พ.ศ. 2556 เรื่อง ให้ทองรูปพรรณเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก ฉบับที่ 2 โดยต้องแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อสินค้า ชื่อ ที่อยู่ของผู้ประกอบธุรกิจ ปริมาณความบริสุทธิ์ของทองรูปพรรณ น้ำหนักทองรูปพรรณ ค่าแรงหรือค่ากำเหน็จ ราคารับซื้อคืนทองรูปพรรณตามที่สมาคมค้าทองคำกำหนด
ในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือร้านค้าส่วนใหญ่ จะเริ่มนำสินค้าสำหรับไหว้เจ้าไหว้บรรพบุรุษและเครื่องไหว้ที่ประกอบไปด้วย อาหารคาวหวาน ดังนั้นทางจังหวัดตราดโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้ดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบสินค้าดังกล่าว ที่วางจำหน่าย ให้เป็นไปตามกฎหายที่เกี่ยวข้อง คือ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่2) พ.ศ. 2541 พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 และประกาศของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 61 พ.ศ. 2564 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เรื่อง การแสดงราคาสินค้าและค่าบริการให้ครบถ้วนถูกต้อง และประชาชนผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้า เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการเอาเปรียบผู้บริโภค
โดยเฉพาะสินค้าที่จัดจำหน่ายจะต้องมีคุณภาพคุ้มค่ากับราคาที่แสดง อาหารต้องไม่หมดอายุ และต้องมีการแสดงราคาจำหน่ายปลีกสินค้าหรือบริการที่ชัดเจน เปิดเผย และสามารถอ่านได้ง่าย ทั้งนี้ จากการตรวจสอบครั้งนี้พบว่าผู้ประกอบการได้ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามประกาศของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการได้อย่างถูกต้อง
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","28/1/2022","ภาคตะวันออก","ตราด","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตราด","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220128154711668"], [811,"จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ตลาดเทศบาลเมืองกันตังและตลาดแหลมม่วง อำเภอกันตัง เพื่อติดตามสถานการณ์ ปริมาณ ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค","นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ผู้แทนพาณิชย์จังหวัดตรัง พร้อมด้วยนายอำเภอกันตัง นายกเทศมนตรีเมืองกันตัง ผู้แทนปลัดจังหวัด ผู้แทนปศุสัตว์จังหวัด ผู้แทนตำรวจภูธรจังหวัด ผู้แทนผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ลงพื้นที่ตลาดเทศบาลเมืองกันตังและตลาดแหลมม่วง อำเภอกันตัง เพื่อติดตามสถานการณ์ ปริมาณ ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค และกำกับดูแลร้านค้าให้ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าอย่างชัดเจน ไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุอันควร ป้องกันการกักตุนและปฏิเสธการจำหน่ายสินค้า
จากการตรวจสอบ พบว่าร้านค้าส่วนใหญ่ ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายอย่างชัดเจน อาทิ ราคาจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละราคา เนื้อแดงกิโลกรัมละ 180-190 บาท สามชั้นกิโลกรัมละ 200-210 บาท ไก่ทั้งตัวไม่รวมเครื่องในราคากิโลกรัมละ 70-80 บาท ผักกาดขาวกิโลกรัมละ 25 บาท ดอกกะหล่ำกิโลกรัมละ 20 บาท มะนาวแป้นกิโลกรัมละ 60 บาท เป็นต้น
จากสถานการณ์ปัจจุบันราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนโดยรวม ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังจึงได้มอบหมายสำนักงานพาณิชย์จังหวัด บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกตรวจติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพประชาชน อาทิ เนื้อหมู ไก่สด ไข่ไก่ ในตลาดสด/ตลาดนัด และร้านจำหน่ายเนื้อหมูในพื้นที่ 10 อำเภอของจังหวัดตรัง ระหว่างวันที่ 25 มกราคม 10 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อกำกับดูแลร้านค้าให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้า
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","28/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220128172632736"], [812,"จังหวัดตรัง ตรวจสอบสต็อกน้ำมันปาล์มคงเหลือทั้งระบบ ประจำเดือนมกราคม 2565","นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า คณะทำงานตรวจสอบสต็อกน้ำมันปาล์มคงเหลือทั้งระบบจังหวัดตรัง ประกอบด้วย ผู้แทนจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ผู้แทนจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง ผู้แทนจากสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดตรัง และผู้แทนจากสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดตรัง ร่วมกับ ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ดำเนินการตรวจสอบสต็อกน้ำมันปาล์มคงเหลือประจำเดือนมกราคม 2565 ของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบและโรงผลิตไบโอดีเซล รวม 5 แห่ง ได้แก่
1) บจ.พิทักษ์ปาล์มออยล์
2) บจ.เอส.พี.โอ.อะโกร
3) บมจ.ล่ำสูง (ประเทศไทย)
4) บจ.ตรังน้ำมันปาล์ม
5) บจ. พารากอนอกรีเทค
ทั้งนี้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ได้สรุปผลการตรวจสอบสต็อกน้ำมันปาล์ม ดังนี้ 1) CPO จำนวน 2,313.707 ตัน ลดลงจากเดือนก่อน 1,065.179 ตัน (ธ.ค. 64 จำนวน 3,378.886 ตัน) หรือลดลงร้อยละ 31.5252) CPKO จำนวน 279.922 ตัน ลดลงจากเดือนก่อน 68.345 ตัน (ธ.ค. 64 จำนวน 348.267 ตัน) หรือลดลงร้อยละ 19.6243) ปริมาณผลปาล์มที่รับซื้อ ตั้งแต่ 1-26 ม.ค. 65 จำนวน 30,689.865 ตัน ลดลงจากเดือนก่อน 1,258.365 ตัน (ธ.ค. 64 จำนวน 31,948.230 ตัน) หรือลดลงร้อยละ 3.9394) ปริมาณผลปาล์มที่ใช้ในการผลิต ตั้งแต่ 1-26 ม.ค. 65 จำนวน 27,963.330 ตัน ลดลงจากเดือนก่อน 6,927.111 ตัน (ธ.ค. 64 จำนวน 34,890.441) หรือลดลงร้อยละ 19.854
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","28/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220128172912737"], [813,"กฟผ. Kick off ปลูกป่าเศรษฐกิจ จังหวัดน่าน ภายใต้โครงการ ปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วม เพิ่มพื้นที่สีเขียว ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์","นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานและประธานกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นประธานเปิดกิจกรรม Kick off ปลูกป่าเศรษฐกิจในโครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วม โดยมีเป้าหมายในการจัดการปัญหาด้านคุณภาพอากาศ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวของประเทศรวมถึงเพิ่มการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ โดยมีนายกฤชเพชร เพชระบูรณิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นายชิดชนก สุขมงคล ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ผู้บริหาร กฟผ. หน่วยงานราชการ หน่วยงานพันธมิตร นักเรียน นักศึกษา และชุมชนกว่า 200 คน เข้าร่วมกิจกรรม ณ บ้านพงษ์ อำเภอสันติสุข จังหวัดน่าน
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานและประธานกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงพลังงาน มีนโยบายในการยกระดับการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2065 - 2070 โครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วมจึงเป็นโครงการสำคัญที่สนองนโยบายดังกล่าว และนำมาปฏิบัติได้อย่างทันท่วงที สามารถสร้างประโยชน์ในการดูดซับและกักเก็บคาร์บอน ช่วยชดเชยการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการผลิตไฟฟ้า ซึ่งการดำเนินงานต้องอาศัยความร่วมมือและการรวมพลังกันของทุกภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องผนึกกำลังและแสดงเจตนารมณ์ในการดำเนินงานที่เป็นประโยชน์ให้กับประเทศ เพื่ออนาคตของประเทศไทยและคนไทยทุกคน
ด้านนายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วมของ กฟผ. เป็นโครงการที่สนองนโยบายรัฐบาล โดยมีเป้าหมายปลูกป่า จำนวน 1,000,000 ไร่ ภายในระยะเวลา 10 ปี ในระหว่างปี พ.ศ. 2565-2574 โดยได้ดำเนินการปลูกป่าทั้งป่าอนุรักษ์ ป่าชุมชน ป่าเศรษฐกิจและป่าชายเลน เพื่อดูดซับและกักเก็บคาร์บอนมากกว่า 1.2 ล้านตัน CO2 ต่อปี และคาดว่าตลอดระยะเวลาโครงการฯ จะสามารถดูดซับและกักเก็บคาร์บอนได้ทั้งสิ้นประมาณ 23.6 ล้านตัน CO2 และ กฟผ. ยังได้วางแนวทางการดูแลและบำรุงรักษาป่าอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2583 ผ่านการสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนและพันธมิตร เพื่อตรวจติดตามอัตราการรอดตาย และอัตราการเติบโตของกล้าไม้ร่วมกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนการตรวจติดตาม
สำหรับการปลูกป่าที่จังหวัดน่านในครั้งนี้ เป็นป่าเศรษฐกิจมีจำนวน 19 ไร่ ที่บ้านพงษ์ อำเภอสันติสุข โดยก่อนหน้านี้ กฟผ. ได้ร่วมมือกับพันธมิตร ดำเนินการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติในพื้นที่จังหวัดน่าน มาตั้งแต่ ปี 2537-2561 ทั้งป่าสงวนแห่งชาติ ป่าต้นน้ำ ป่าชุมชน รวม 105,800 ไร่ ครอบคลุม 12 อำเภอ สามารถดูดซับและกักเก็บคาร์บอนได้ทั้งสิ้นประมาณ 100,000 ตัน CO2
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","28/1/2022","ภาคเหนือ","น่าน","สวท.น่าน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220128175630751"], [814,"รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตรวจราคาสินค้าช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จังหวัดเชียงใหม่ ..","
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุมาตรการตรึงราคาช่วยประชาชน จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของราคาสินค้าได้ในระดับหนึ่ง พร้อมสั่งการให้พาณิชย์จังหวัด หาแนวทางการปฏิบัติเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกหอมหัวใหญ่ หลังได้รับหนังสือร้องเรียนจากตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกหอมหัวใหญ่ ขอให้เข้มงวดและชะลอการนำเข้าหอมหัวใหญ่จากต่างประเทศ..//
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการจําหน่ายสินค้าราคาพิเศษในช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่ห้างแม็คโคร สาขาหางดง อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นห้างค้าส่งที่ให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์มาโดยตลอด
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ราคาสินค้าหมวดสำคัญกระทรวงพาณิชย์สามารถควบคุมราคาไว้ได้ในระดับที่ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ และบางตัวราคาถูกลงแล้ว เช่น ไข่ไก่ ตรึงราคาหน้าฟาร์มไว้ ฟองละ 2.90 บาทส่งผลให้ไข่ไก่เบอร์สามราคาไม่เกิน 3.50 บาท รวมทั้ง ราคาไก่สดซึ่งกระทรวงพาณิชย์เสนอ ครม.ให้ความเห็นชอบให้ไก่เป็นสินค้าควบคุม และได้มีข้อตกลงร่วมกันในห้างสำคัญ 3 ห้าง ประกอบด้วยแม็คโคร โลตัสและบิ๊กซี ให้จำหน่ายไก่ในราคาควบคุมของกระทรวงพาณิชย์เพื่อเป็นราคาชี้นำตลาด
โดยกำหนดราคาไก่หน้าฟาร์มไว้ไม่เกิน 40 บาทต่อกิโลกรัม ไก่ชำแหละทั้งตัวรวมเครื่องใน ราคา 60- 65 บาทต่อกิโลกรัม น่องติดสะโพกไม่เกิน 60-65 บาท ต่อกิโลกรัม น่องแยกและสะโพกแยก ราคา 65 -70 บาทต่อกิโลกรัม อกไก่ ราคา 70-75 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนราคาเนื้อหมูนั้น ให้กำกับราคาหมูหน้าฟาร์มไว้ที่กิโลกรัมละ 100-110 บาท ซึ่งจะส่งผลให้หมูเนื้อแดงขายที่กิโลกรัมละ 200-220 บาท และสินค้าหมวดอื่นๆราคาได้มีการปรับลดลงมา ทั้งนี้ ยังได้สั่งการให้มีการตรวจสต๊อกเนื้อหมูทั่วประเทศ เพื่อป้องกันการกักตุนและทำให้ปริมาณหมูขาดตลาด จากผลการตรวจ สต๊อกพบการกระทำความผิดบางพื้นที่และได้มอบนโยบายไปยังเจ้าหน้าที่ในสังกัดแล้วว่าถ้าพบการกระทำความผิดให้ดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเคร่งครัด นอกจากนี้ ยังได้มาตรวจสอบราคาสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีนอีกด้วย เพื่อให้พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน ได้ซื้อสินค้าไปไหว้เจ้า ในราคาที่ไม่แพง และได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้มีการตรวจราคาสินค้าที่ห้างค้าส่งแมคโครสาขาหางดงแล้ว ได้มีตัวแทนกลุ่มสหกรณ์ผู้ปลูกหอมหัวใหญ่บ้านการพัฒนาจำกัด นำหนังสือร้องเรียนยื่นต่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้มีการเข้มงวดและชะลอการนำเข้าหอมหัวใหญ่จากต่างประเทศ ในช่วงที่มีการเก็บเกี่ยวผลผลิตภายในประเทศ เพราะจะทำให้ราคาหอมหัวใหญ่ตกต่ำเนื่องจาก ปริมาณผลผลิตล้นตลาด ซึ่งทางด้านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มีการเซ็นรับมอบหนังสือพร้อมทั้งสั่งการพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เร่งดำเนินการตรวจสอบและหาแนวทางการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเร่งด่วนต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","28/1/2022","ภาคเหนือ","เชียงใหม่","สวท.เชียงใหม่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220128182650761"], [815,"แนวทางการจัดเก็บภาษีสินทรัพย์ดิจิทัล ผ่อนปรนให้สามารถหักกลบกำไรและขาดทุนได้","นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า จากผลการรับฟังความคิดเห็นและการทำงานร่วมกันของทุกฝ่าย ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้แนวทางการจัดเก็บภาษีสินทรัพย์ดิจิทัลที่เหมาะสมกับบริบทในปัจจุบัน โดยยึดแนวทางการถือเอาผู้เสียภาษีเป็นศูนย์กลาง ซึ่งกรมสรรพากรได้มีแนวทางในการผ่อนปรน โดยสามารถนำผลขาดทุนมาหักกลบกับกำไรได้ในปีภาษีเดียวกัน รวมทั้งไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย และยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะสามารถเข้าเงื่อนไขนี้เฉพาะ ผู้ประกอบธุรกิจ หรือ Exchange ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เท่านั้น ส่วนรูปแบบของภาษีเงินได้ มีแนวทางการจัดเงินได้ให้ชัดเจน โดยระบุประเภทเงินได้และผลประโยชน์ให้ครอบคลุมกำไร / รายได้จากการโอน / ผลประโยชน์จากสินทรัพย์ดิจิทัล รวมทั้งวิธีการคำนวณต้นทุนโดยใช้วิธีมาตรฐานการบัญชีรับรอง และการวัดมูลค่าสินทรัยพ์ดิจิทัล ณ เวลาที่ได้มา
รายละเอียดต่างๆ จะมีอยู่ในคู่มือการชำระภาษีของผู้มีเงินได้จากการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจะดำเนินการเผยแพร่ในวันจันทร์ที่ 31 มกราคมนี้ ทั้งนี้ กรมสรรพากรจะพิจารณาหารือร่วมกับชุมชนสินทรัพย์ดิจิทัลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อศึกษาความเป็นไปได้เชิงนโยบายในอนาคต เพื่อแก้ไขกฎหมายที่จำเป็นและเหมาะสมต่อไป
","28/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220128204741781"], [816,"คณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน จังหวัดร้อยเอ็ด ประชุมพิจารณากลั่นกรองโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ปี 2565","
วันที่ 28 มกราคม 2565 เวลา 14.00 น. นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน จังหวัดร้อยเอ็ด ครั้งที่ 1/2565 โดยมี นายเชวงศักดิ์ พลเยี่ยม , นายสนอง ดลประสิทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด และคณะกรรมการจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรภาคเอกชน ภาคประชาชน เข้าร่วม ณ ห้องประชุมข้าวหอมมะลิ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด
ด้วย สำนักนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ศสช.) เป็นกรรมการและเลขานุการร่วม และกำหนดให้มีคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัดในแต่ละจังหวัด โดยคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันของจังหวัดร้อยเอ็ด จะมีหน้าที่ติดตามรับฟังปัญหาเดือดร้อนเร่งด่วน และตอบสนองความต้องการของประชาชนให้สัมฤทธิ์ผลเป็นรูปธรรมรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ ยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เสริมสร้างศักยภาพในการพัฒนาพื้นที่ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แนวคิดชีวิตวิถีใหม่ และการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ เป็นการพิจารณากลั่นกรองโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ปี 2565 จำนวน 93 โครงการ ครอบคลุมทุกพื้นที่อำเภอในจังหวัดร้อยเอ็ด โดยพิจารณาตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่กำหนดของลักษณะประเภทโครงการ พื้นที่ดำเนินการไม่มีความซ้ำซ้อนกับโครงการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไปแล้ว และจัดลำดับความสำคัญของทุกโครงการ เพื่อเสนอต่อรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","28/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ร้อยเอ็ด","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220128203743779"], [817,"ร้อยเอ็ด รมว.กระทรวงการคลัง ขึ้นเที่ยวบินปฐมฤกษ์ กรุงเทพฯ - ร้อยเอ็ด สายการบินไทยสมายล์ร้อยเอ็ด","วันนี้ (28 มกราคม 2565) เวลา 11.00 น. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ กรุงเทพฯ - ร้อยเอ็ด สายการบินไทยสมายล์ร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ,นายกิติชัย สัจจลักษณ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยาน ,นายวิเศรษฐ์ สนธิชัย รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ที่ ท่าอากาศยานร้อยเอ็ด ตำบลหนองพอก อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด
โดย การเปิดบินตรงเส้นทางใหม่ทุกวัน วันละ 1 เที่ยวบิน พร้อมให้บริการวันแรกวันที่ 28 มกราคม 2565 ซึ่ง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมนักท่องเที่ยว ได้ขึ้นเที่ยวบินปฐมฤกษ์จาก กรุงเทพฯ มายัง ร้อยเอ็ด เพื่อเปิดงานและขับเคลื่อนการเดินทางท่องเที่ยวเมืองรองให้มีประสิทธิภาพเสริมศักยภาพด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดร้อยเอ็ดรวมทั้งอำนวยความสะดวกให้แก่ชาวร้อยเอ็ดและจังหวัดใกล้เคียง มาท่องเที่ยว ติดต่อธุรกิจ หรือกลับภูมิลำเนา ได้มาใช้บริการของสายการบินไทยสมายล์
สำหรับเที่ยวบินใหม่เปิดบริการทุกวัน จากท่าอากาศสุวรรณภูมิ ไปยัง ท่าอากาศยานร้อยเอ็ด เที่ยวบินเวลา 10.25 น. และ จากท่าอากาศยานร้อยเอ็ด ไปยัง ท่าอากาศสุวรรณภูมิ เที่ยวบินเวลา 12.05 น. โดย บัตรโดยสาร ราคาเริ่มต้นที่ 1,100 บาท ต่อ 1 ท่าน ,1 เที่ยวบิน ซึ่งมีบริการแบบ ฟูลเซอร์วิส อาทิ จองที่นั่งล่วงหน้าบริการฟรี น้ำหนักกระเป๋าสูงสุด 30 กิโลกรัม และให้บริการอาหารบนเที่ยวบินแบบนำกลับ เปิดทำการจองที่นั่งล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันนี้ สนใจสำรองที่นั่งได้ที่เว็บไซต์ www.thaismileair.com Call Center โทร. 1181 หรือ 0-2118-8888 หรือห้องจำหน่ายบัตรโดยสารไทยสมายล์ และตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารไทยสมายล์ (Smile Travel Agents) ทั่วประเทศ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อนเอ็ด
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","28/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ร้อยเอ็ด","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220128205024785"], [818,"พาณิชย์ขอนแก่น บูรณาการร่วมหลายหน่วยงาน ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ช่วงเทศกาลตรุษจีน","สำนักงานพาณิชย์จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดขอนแก่น สถานีตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น เจ้าหน้าที่ปกครองจังหวัดขอนแก่น กอ.รมน. จังหวัดขอนแก่น และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงเทศกาลตรุษจีน ปี 2565 ที่ ห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาขอนแก่น และบิ๊กซี สาขาขอนแก่น 2
ผลการตรวจสอบสภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภค พบว่า ยังไม่มีสินค้าประเภทไก่ต้ม เป็ดต้ม หมูสามชั้นแบบเส้นต้ม จำหน่าย โดยจะเริ่มจำหน่ายในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นวันจ่ายวันแรก และมีโปรโมชั่นสำหรับสั่งออนไลน์ คือ สั่งสินค้าครบ 800 บาท จะได้คูปองส่วนลด 100 บาท ส่วนสินค้าประเภทผลไม้ พบว่ามีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","28/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ขอนแก่น","สวท.ขอนแก่น","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220128212819805"], [819,"จังหวัดยโสธร นำสื่อมวลชนขับเคลื่อนโครงการยกระดับการท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2","วันที่ 28 มกราคม 2565 เวลา 09.00 น. นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานพิธีเปิดการปล่อยขบวนสื่อมวลชน เข้าร่วมโครงการยกระดับการท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 กิจกรรมพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวโดยชุมชนกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 ระหว่างวันที่ 28-29 มกราคม 2565 ที่ชุมชนท่องเที่ยวบ้านภูไทบ้านห้องแซง อ.เลิงนกทา และชุมชนท่องเที่ยวบ้านกู่จาน อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร โดยมี นายอนันต์ อุดมศิลป์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดยโสธร หัวหน้าส่วนราชการ รองนายกเทศมนตรีเมืองยโสธร สื่อมวลชน เข้าร่วมในพิธี ณ ลานวิมานพญาแถน ต.ในเมือง อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร
ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทางการท่องเที่ยวของจังหวัดยโสธร และพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวโดยชุมชนของจังหวัดยโสธร ในการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและบริการ กระจายรายได้สู่ชุมชน เพื่อเพิ่มแนวทางการตลาดและการประชาสัมพันธ์ของการท่องเที่ยวชุมชนให้เป็นที่รู้จักนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากขึ้น
วันที่ 28 มกราคม 2565 เวลา 09.00 น. นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานพิธีเปิดการปล่อยขบวนสื่อมวลชน เข้าร่วมโครงการยกระดับการท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 กิจกรรมพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวโดยชุมชนกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 ระหว่างวันที่ 28-29 มกราคม 2565 ที่ชุมชนท่องเที่ยวบ้านภูไทบ้านห้องแซง อ.เลิงนกทา และชุมชนท่องเที่ยวบ้านกู่จาน อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร โดยมี นายอนันต์ อุดมศิลป์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดยโสธร หัวหน้าส่วนราชการ รองนายกเทศมนตรีเมืองยโสธร สื่อมวลชน เข้าร่วมในพิธี ณ ลานวิมานพญาแถน ต.ในเมือง อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร
ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทางการท่องเที่ยวของจังหวัดยโสธร และพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวโดยชุมชนของจังหวัดยโสธร ในการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและบริการ กระจายรายได้สู่ชุมชน เพื่อเพิ่มแนวทางการตลาดและการประชาสัมพันธ์ของการท่องเที่ยวชุมชนให้เป็นที่รู้จักนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากขึ้น
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","28/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ยโสธร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129072151809"], [820,"จังหวัดระยอง ออกตรวจติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า-บริการ และการติดป้ายราคาสินค้า","วันที่ 28 มกราคม 2564 ว่าที่ร้อยตรี พิรุณ เหมะรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมด้วย นางสาวสุวีรยา ปั้นปาน พาณิชย์จังหวัดระยอง ปศุสัตว์จังหวัดระยอง เกษตรและสหกรณ์จังหวัดระยอง อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง อำเภอเมืองระยอง กอ.รมน.จังหวัดระยอง ประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง และฝ่ายปกครองจังหวัดระยอง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าและบริการ ที่ตลาดสดสตาร์ และตลาดลุงนัดหนู อ.เมืองระยอง
โดยเป็นการติดตามราคาสินค้าและบริการ จากสถานการณ์ปัจจุบันค่าครองชีพครัวเรือนมีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากการปรับราคาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะการปรับราคาจำหน่ายเนื้อหมู เนื้อไก่ เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและบริการอย่างไม่เป็นธรรม
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่พบว่า ร้านค้ามีการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและค่าบริการชัดเจน เปิดเผย และจำหน่ายสินค้าตรงกับราคาที่แสดง รวมทั้งจำหน่ายสินค้าในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม ไม่พบการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าหรือกักตุนสินค้า
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","28/1/2022","ภาคตะวันออก","ระยอง","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129072406810"], [821,"บรรยากาศคืนก่อนเทศกาลตรุษจีนเมืองเบตงคึกคัก ชาวเบตงเตรียมรับเที่ยวบินเช่าเหมาลำในการทดลองการบริการเที่ยวบินพาณิชย์ท่าอากาศยานเบตง เที่ยวแรกของ อ.เบตง จ.ยะลา ","บรรยากาศคืนก่อนเทศกาลตรุษจีนเมืองเบตงคึกคัก ชาวเบตงเตรียมรับเที่ยวบินเช่าเหมาลำในการทดลองการบริการเที่ยวบินพาณิชย์ท่าอากาศยานเบตง เที่ยวแรกของ อ.เบตง จ.ยะลา ด้านนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอำเภอเบตง คาดช่วงเทศกาลตรุษจีนเงินสะพัดกว่า 100 ล้านบาท
ค่ำวันนี้(28ม.ค.65) บรรดานักท่องเที่ยวในจังหวัดชายแดนภาคใต้และภาคอื่นๆ ต่างถ่ายรูป ชมความสวยงามตระการตา ของโคมไฟแดงหรือเต็งลั้ง กว่า 2,500 ดวง ที่ติดตั้งตามถนนหนทางภายในเขตเทศบาลเมืองเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคล โดยเฉพาะจุดบริเวณหน้าปากอุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ ซึ่งอุโมงค์รถยนต์ลอดภูเขาแห่งแรกของประเทศไทย และบริเวณหอนาฬิกาเทศบาลเมืองเบตง ใกล้กับตู้ไปรษณีย์สูง-ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นศูนย์กลางของเมืองเบตง มีนักท่องเที่ยวต่างถ่ายรูปเซลฟี่เป็นจำนวนมาก ทำให้โรงเเรม และร้านอาหารหลายเเห่ง มีลูกค้ามาใช้บริการจำนวนมาก โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ มีการปรับตัวกับการแพร่ระบาดรอบใหม่ ทั้งการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือ ตามมาตรการอย่างเคร่งครัด
นายโตหอง แซ่หลี่ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอำเภอเบตง เปิดเผยว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีน ใน อ.เบตง จ.ยะลา เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง มีทั้งนักท่องเที่ยวในจังหวัดชายแดนภาคใต้และภาคอื่นๆ เดินทางมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก ซึ่งพรุ่งนี้ (29 ม.ค.65) จะมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำ(Charter Flight) สายการบินนกเเอร์ ซึ่งเป็นเที่ยวบินทดลองการบริการกิจการสาธารณะของสนามบินเบตงเที่ยวบินเเรกเดินทางมายังสนามบินเบตง ชาวเบตงดีใจมาก หลังจากที่รอมานาน ซึ่งเที่ยวบินนี้ จัดขึ้นโดยสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนวีระราษฏร์ประสาน และชมรมคนเบตงในกรุงเทพมหานคร เพื่อนำผู้โดยสารมายังอำเภอเบตง ทำให้หลายคนมีความหวังว่าในอนาคตสนามบินเบตงจะสามารถเปิดบริการเชิงพาณิชย์ต่อไป ทั้งนี้ คาดว่า จะมีเงินสะพัดในช่วงเทศกาลตรุษจีนในอ.เบตง ประมาณ 135 ล้านบาท
ด้าน นางดวงพร สุวรรณมณี ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนราธิวาส ปฏิบัติงานในฐานะผู้อำนวยการท่าอากาศยานเบตง เปิดเผยว่า กรมท่าอากาศยานจะทำการทดลองการเปิดบริการเที่ยวบินพาณิชย์ท่าอากาศยานเบตง จังหวัดยะลา โดยให้บริการเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำ (Charter Flight) ใช้อากาศยานแบบ Q-400 ความจุผู้โดยสารจำนวน 86 ที่นั่ง โดยสายการบินนกแอร์ ในเส้นทางดอนเมือง - เบตง - ดอนเมือง ในวันที่ 29 มกราคม 2565 ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน โดยพลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีนโยบายให้หน่วยงานดำเนินการพัฒนาเศรษฐกิจความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเป็นรูปธรรม
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ มอบให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งทั่วประเทศอย่างบูรณาการ เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนให้สามารถเดินทางสัญจรได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ซึ่งด้านท่าอากาศยานเบตงยืนยันมีความพร้อมในด้านกายภาพ อุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก และบุคลากรที่จะปฏิบัติหน้าที่ให้บริการภายใต้มาตรการการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยทั้งหมดเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ซึ่งท่าอากาศยานเบตงได้รับใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สายการบินนกแอร์จึงได้ขออนุญาตทำการบินแบบเช่าเหมาลำ (Charter Flight) เส้นทางบินกรุงเทพ - เบตง - กรุงเทพ เพื่อตรวจสอบความพร้อมในการให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์ และสรุปข้อตกลงสำหรับการเปิดทำการบินแบบประจำ(Schedule Flight) ตามที่ได้ยื่นขออนุญาตทำการบินไว้ 2 เส้นทาง คือ 1.หาดใหญ่-เบตง-หาดใหญ่ และ 2.ดอนเมือง-เบตง-ดอนเมือง
สำหรับการเปิดเที่ยวบินพาณิชย์แบบประจำ กระทรวงคมนาคม กรมท่าอากาศยาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการประชุมสรุปข้อมูลภายหลังจากเที่ยวบินทดลองนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมของทุกฝ่ายอีกครั้ง ซึ่งการเปิดเที่ยวบินของท่าอากาศยานเบตงจะช่วยแก้ไขปัญหาการคมนาคมในพื้นที่ที่มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชัน ไม่สะดวกต่อการเดินทาง รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","28/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.เบตง จ.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129074127820"], [822,"ยโสธร บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกตรวจห้างร้าน เข้มงวดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อแก้ไขบรรเทาปัญหาค่าครองชีพ","วานนี้ (28 มกราคม 2565) เวลา 13.30 น. ที่จังหวัดยโสธร สำนักงานพาณิชย์จังหวัดยโสธร บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำโดย นางสาวอลเวง ศรีหิรัญ พาณิชย์จังหวัดยโสธร นายขันชัย สีนอร์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดยโสธร พันตำรวจตรีพิสูจน์ นัทศักดิ์ภิญโญ สารวัตรป้องกันและปราบปราม ตำรวจภูธรเมืองยโสธร ร้อยโทจังกร บุญจันทร์ ผู้แทน กอ.รมน.จังหวัดยโสธร นายนิวัฒน์ เกตุมณี เจ้าพนักงานปกครอง ที่ทำการปกครองยโสธร และนางสาวนรีรัตน์ เจริญศิริรัตนา นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร และเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ ห้างนานาภัณฑ์พลาซ่า ห้างแมคโคร สาขายโสธร และห้างโลตัส สาขายโสธร อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร
ทั้งนี้เพื่อกำกับติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อแก้ไขและบรรเทาปัญหาค่าครองชีพ พร้อมสร้างความเข้าใจในการปฏิบัติตาม พรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ให้มีการปิดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน ตรวจสอบการจำหน่าย และป้องปรามการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าแพงเกินสมควร โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีน และได้รับความร่วมมือจากห้างร้านเป็นอย่างดี พร้อมแนะนำให้หมั่นเติมสินค้า เพื่อเป็นการกระจายสินค้าให้ผู้บริโภคได้ซื้อกันอย่างทั่วถึง
อีกทั้ง พาณิชย์จังหวัดยโสธร ได้ย้ำ! ห้ามห้างร้านกักตุนสินค้า และห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า หรือห้ามจำหน่ายราคาสูงเกินควรโดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากพบการกระทำผิดแจ้งได้ที่สายด่วน กรมการค้าภายใน โทร. 1569
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","29/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ยโสธร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129074340821"], [823,"เทศบาลนครยะลา เตรียมฟื้นฟูเศรษฐกิจ จัดแข่งนกเขาชวาเสียง รูปแบบใหม่ sandbox ครั้งแรก","เทศบาลนครยะลา เตรียมฟื้นฟูเศรษฐกิจ จัดแข่งนกเขาชวาเสียง รูปแบบใหม่ sandbox ครั้งแรก จำกัดนก 1,000 นก ผู้ร่วมงาน 2,000 คน
จากนโยบายของทางเทศบาล ในการที่จะฟื้นฟูภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งในปีใหม่ที่ผ่านมา ได้มีการจัดคอนเสิร์ตที่เรียกว่าsandbox ผลปรากฎว่าเราได้ผลที่น่าพอใจมากไม่พบผู้ติดเชื้อแม้กระทั่งรายเดียว แล้วเราก็ใช้ในการเปิดเรียนต่างๆของนักเรียนในเขตเทศบาลตั้งแต่วันที่16 ที่ผ่านมา จนกระทั่งถึงปัจจุบันนักเรียนที่เราเปิดเรียนไม่พบผู้ติดเชื้อแม้กระทั่งรายเดียว
นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา ได้เผยว่า วันนี้คิดว่าอะไรที่เคยเป็นกิจกรรมเดิมเราก็อยากจะฟื้นฟูกลับมาแต่อาจจะภายใต้ข้อจำกัดอะไรอยู่บ้างเพราะฉะนั้นทางเทศบาลก็ได้ตัดสินใจในการที่จะจัดงานแข่งขันนกเขาชวา เสียงอาเซียน แต่คงไม่ได้เป็นอาเซียนเพราะมาเลเซียและสิงค์โปรยังไม่เปิดประเทศ เป็นการแข่งขันนกเขาของเทศบาลนครยะลาแล้วเป็นการจัดแบบ sandbox ซึ่งเราก็จำกัดนกประมาณ1,000ตัว และนก 1 ตัว สามารถมีคนติดตามนกได้ 2 คน หมายถึงผู้ที่จะเข้าร่วมงาน 2,000 คนโดย 2,000 คน จะมีเงื่อนไขในการเข้า ต้องฉีดวัคซีน 2 เข็มขึ้นไป จะให้พ่นสารสกัดเอนโดรกาโฟไลฟ์ และให้กลับบ้านไปพ่นต่อ ตรวจATK ก่อนและหลังเข้างาน
ทางเทศบาลฯ ก็ต้องการให้โอกาสว่านกเขาซึ่งเป็นสัตว์เศรษฐกิจของภาคใต้และเป็นสัตว์ที่อยู่ในวิถีชีวิตของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จะได้กลับไปฟื้นตัวขึ้นมาเพื่อรองรับการเปิดประเทศหรือการค้าขายในการจัดกิจกรรมเองเราก็ต้องยอมรับว่าการแข่งขัน1ครั้งก็จะมีเม็ดเงินเข้ามามากมาย จึงเป็นแนวทางหนึ่งในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของเทศบาลนครยะลา เหมือนการที่เราจะจัดการแข่งขันยะลามาราทอนในเดือนกรกฎาคม
จากการที่ได้ประชุมกับทางสมาคมนกเห็นชอบในการที่เทศบาลจะแข่งขันนก ซึ่งในวันนี้ก็ต้องยอมรับว่าได้มีการจัดตามหมู่บ้านตามอำเภอ ก็ไม่ได้เป็นการจัดที่เป็นกิจจะลักษณะและการจัดแบบนั้นก็ไม่ได้มีผลในเชิงเศรษฐกิจมากเพราะการซื้อขายนกต่างๆก็จะน้อยแต่ของทางเทศบาลที่จัดก็จะช่วยในการซื้อขายนกได้มากขึ้น นอกเหนือจากการแข่งขันนกเขาชวาแล้ว ก็จะมีการแข่งขันนกกรงหัวจุกซึ่งเราก็จะมีการจำกัดนกประมาณ 500 ตัว และงานอาหารจานเด็ดก็จะมีการจัดด้วยแต่จะจำกัดในเรื่องของจำนวนคนและคอนเสิร์ตโดยนำสิ่งที่เคยทำในsandbox มาใช้ในการควบคุมต่างๆ
นายกเทศมนตรีนครยะลา ยังระบุอีกว่า สถานการณ์โควิด จ.ยะลา ณ ปัจจุบัน ถือว่ามีจำนวนน้อยมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เราเองก็ยังมีการเก็บตัวอย่างน้ำเสียซึ่งเมื่อวันที่ 25 ที่ผ่านมา ก็เก็บและส่งให้มหาวิทยาลัยนเรศวรในการเก็บตัวอย่างน้ำเสียในโรงเรียนที่พึ่งเปิดไปเก็บตัวอย่างน้ำเสียในโรงเรียนนั้นและดูว่ามีการระบาดของโควิดหรือมีผู้ติดเชื้อไหม แทนที่จะไปนั่งสุ่มตรวจ ATK ทุกราย เราใช้วิธีตรวจดูน้ำเสียในทุกโรงเรียนที่เปิดและเสริมในการตรวจในภาพของเมืองด้วยที่ ผ่านมาก็เห็นว่าจากการตรวจ น้ำเสีย สถานการณ์ในยะลาไม่น่าเป็นห่วงและมีแนวโน้มที่ดีขึ้นแต่เราก็ยังประมาทไม่ได้ยังคงมีมาตรการตรวจเข้มอยู่ตลอดเวลา
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","29/1/2022","NULL","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129080136827"], [824,"มหาวิทยาลัยเกริกขานรับนโยบายกระชับสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ สร้างการรับรู้องค์กรภาคใต้ฝั่งอันดามัน","มหาวิทยาลัยเกริกขานรับนโยบายกระชับสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ สร้างการรับรู้องค์กรภาคใต้ฝั่งอันดามัน
ทันทีที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนประเทศซาอุดิอาระเบีย เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 โดยได้เข้าเฝ้าเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. กระทรวงกลาโหมแห่งซาอุดีอาระเบีย ได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบีย ให้กลับมาอยู่ใน ระดับปกติ อย่างสมบูรณ์
ล่าสุดวันที่ 26 - 28 มกราคม 2565 มหาวิทยาลัยเกริก นำโดย ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์กระแส ชนะวงศ์ อธิการบดี รองศาสตราจารย์ สุพัฒน์ ธีรเวชเจริญชัย รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ และดร.พัชราวดี ตรีชัย คณบดีคณะบริหารธุรกิจ มอบนโยบาย ให้คณะรุดลงพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามัน
โดยมี อาจารย์อำพล ขำวิลัย ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยเกริก อาจารย์ยิ่งศักดิ์ สิทธิยากรณ์ ผู้ช่วยรองอธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษ อาจารย์ ดร.สมีธ อีซอ ผู้อำนวยการหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารธุรกิจอิสลาม อาจารย์สราวุธ และซัน หัวหน้าสาขาวิชาบริหารธุรกิจอิสลาม ดร.ปริญญา ประหยัดทรัพย์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาบริการธุรกิจอิสลาม และอาจารย์อรวรรณ บุญมาเลิศ เลขานุการประจำสาขาวิชาบริหารธุรกิจอิสลาม ดร.อภิวัฒน์ รักชาติ ผู้ประสานงานมหาวิทยาลัยเกริกภาคใต้ฝั่งอันดามัน เพื่อประชุมหารือและทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ทางวิชาการ กับสถาบันการเงินอิสลามถึงโอกาสในการดึงองค์กร และเงินลงทุนจากประเทศซาอุดิอาระเบียให้มาทำการค้าการลงทุนในประเทศไทย สร้างเศรษฐกิจไทยให้เติบโตยิ่งขึ้น
เนื่องจากการฟื้นความสัมพันธ์ไทยซาอุดิอาระเบีย โดยมีสหกรณ์เข้าร่วมประชุม 7 แห่งด้วยกัน ดังนี้ สหกรณ์อิสลามษะกอฟะฮ(กระบี่) สหกรณ์อิสลามตันมียะห์(กระบี่) สหกรณ์อิสลามบารอกะฮฺ(กระบี่) สหกรณ์นูรุลอิสลาม(กระบี่) สหกรณ์อัล-อิสลามียะฮ์(จังหวัดภูเก็ต) สหกรณ์อิสลามฮุซนี(ภูเก็ต) สหกรณ์อัลอิสลามอิบนูเอาฟ(จังหวัดสตูล) ซึ่งมีเงินทุนหมุนเวียนรวมกว่า 2,000 ล้านบาท
ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์กระแส ชนะวงศ์ กล่าวว่า เราให้ความสำคัญกับมุสลิมที่มีประชากรทั่วโลกมากกว่า 2,000 ล้านคน และประชากรมุสลิมในประเทศไทยมีประมาณ 10 % โดยมหาวิทยาลัยได้เปิดหลักสูตรบริหารธุรกิจอิสลาม ซึ่งประกอบด้วย 3 วิชาเอก คือ การเงินอิสลาม อุตสาหกรรมฮาลาล การจัดการบริการฮัจย์และอุมเราะห์ โดยสอดรับกับการฟื้นฟูความสัมพันธ์ 3 ด้าน 1) การท่องเที่ยวที่จะสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี 2) ด้านอาหาร ที่ไทยมีศักยภาพด้านอุตสาหกรรมฮาลาลในการผลิตและพร้อมส่งออกให้ซาอุดิอาระเบีย 3) ด้านการค้าและการลงทุน ที่ซาอุดิอาระเบียส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศอยู่แล้ว
ทั้งนี้ การลงพื้นที่ฝั่งอันดามันเพื่อสร้างการรับรู้ถึงประโยชน์ที่ประชาชนชาวไทยจะได้รับจากการคืนความสัมพันธ์ในครั้งนี้ให้สถาบันการศึกษาร่วมกันพัฒนาศักยภาพของแรงงานไทย และร่วมผลักดันให้แรงงานไทยมีคุณภาพสร้างชื่อให้กับประเทศของเรา โดยมีสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดกระบี่ ซึ่งมีโรงเรียนกว่า 30 แห่ง นำโดย นายกอิสมาแอล ไร่ใหญ่ และอาจารย์ธียุทธ์ โสบุตร เลขานุการสมาคมฯ ให้ความสนใจในโอกาสและลงนามบันทึกข้อตกความร่วมมือ (MOU) ทางวิชาการร่วมกัน ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้รับความสนใจจากมูลนิธิอาดามี โดย อาจารย์อัสนาวี มุคุระ ประธานกรรมการอิสลามจังหวัดกระบี่ ดำรงตำแหน่ง ประธานมูลนิธิฯ และอาจารย์อริส มุคุระ ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนอาดามีศึกษาวิทยา และอาจารย์ศุฟเฟียน อาแว ประธานมูลนิธิเอเชียเพื่อการศึกษาและพัฒนาสังคม ซึ่งดูแลอุปถัมภ์โรงเรียนในเครือ 5 แห่ง ที่มีบทความในงานด้านการพัฒนาการสังคมและการศึกษาในพื้นที่ฝั่งอันดามัน เข้าร่วมลงนามความร่วมมือ (MOU) ทางวิชาการในครั้งนี้ด้วย
ภายในงานยังได้รับเกียรติจาก นายชัยวุฒิ บัวทอง นายอำเภอเมืองกระบี่ ได้มอบหมายให้ นางณัฐธยาน์ ผาสุข ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองกระบี่ เป็นตัวแทนเข้าเป็นสักขีพยานกิตติมศักดิ์ ในพิธีลงนามความร่วมมือครั้งนี้ โดยก่อนเดินทางกลับมีโอกาสได้เข้าเยี่ยม นายยุโสบ หยั่งทะเล ผู้อำนวยการโรงเรียนมุสลิมวิทยาภูเก็ต และคณาจารย์ ซึ่งมีนักเรียนกว่า 2,000 คน และอาจารย์สมาพล และซัน ผู้อำนวยการโรงเรียนอิสลามพัฒนาภูเก็ต หารือร่วมกันในการวางยุทธศาสตร์กำหนดทิศทางการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาของนักเรียน และอาชีพ ให้สอดรับกับนโยบายการฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย กับซาอุดิอาระเบีย เพื่อให้แรงงานไทยมีคุณภาพ และศักยภาพด้านฝีมือและภาษาอาหรับ สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติของเราในดินแดนตะวันออกกลางอีกครั้ง
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","29/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129081335830"], [825,"นายกรัฐมนตรี ปลื้ม เว็บไซต์ระดับโลก จัดให้จังหวัดกระบี่ เป็นเมืองต้อนรับผู้เดินทางได้ดีที่สุด","นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความยินดีกับจังหวัดกระบี่ ที่ได้รับรางวัล Traveller Review Awards 2022 ถูกจัดอันดับจากเว็บไซต์ Booking.com ผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับการเดินทางระดับโลก ให้เป็นจังหวัดที่ให้การต้อนรับผู้เดินทางได้ดีที่สุดในประเทศไทย ผ่านการรวบรวมข้อมูลกว่าหลายล้านรีวิวของลูกค้า โดยนอกจากจังหวัดกระบี่แล้ว ยังมีจังหวัดตราด เชียงราย เชียงใหม่ นครราชสีมา ที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือนถูกจัดอันดับด้านการต้อนรับผู้เดินทางได้ดีด้วยเช่นกัน
สำหรับการจัดอันดับดังกล่าว สอดรับกับแนวทางการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวของไทย และเชื่อว่าจะส่งเสริมงานด้านการท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น โดยที่ผ่านมา จังหวัดกระบี่เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติให้ความสนใจ และนับตั้งแต่เปิดแคมเปญ Krabi Even More Amazingเที่ยวกระบี่ ดีกว่าเดิม ก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางเยือนกระบี่อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับหลายจังหวัด ที่นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาตามมาตรการเปิดรับ
นางสาวไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการและประชาชน ที่ช่วยกันเป็นเจ้าบ้านที่ดี สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว เชื่อว่าอัตลักษณ์ความเป็นมิตรที่ดีของคนไทย จะสามารถความประทับใจ ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้เป็นอย่างดี
ขณะเดียวกันยืนยันความพร้อม ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เข้ามาประเทศไทยในรูปแบบ Test and Go อีกครั้งในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ โดยทุกภาคส่วนได้เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางเข้าประเทศทุกด้าน เชื่อว่าเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับประเทศไทย ที่จะใช้โอกาสนี้ฟื้นฟูการท่องเที่ยว ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ใต้ภายใต้มาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ที่รัดกุม
","29/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129122105900"], [826,"พาณิชย์ยะลา ชวนประชาชนซื้อส้มโชกุนเบตงสีทองราคาถูก ช่วยเหลือประชาชนได้ซื้อสินค้าราคาถูกช่วงตรุษจีน","
นางผุสสดี จ๋ายเจริญ พาณิชย์จังหวัดยะลา เปิดเผยว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดยะลา ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมซื้อส้มโชกุนเบตงสีทอง (ส้มปลอดสาร) ราคาถูก สดจากสวน ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา ส่งตรงสู่ผู้บริโภค ส้มรับทรัพย์นำโซค มิ่งมงคลตรุษจีน ได้รับการรับรองจาก สนง.เกษตรอำเภอเบตง โดยส้มขนาดเบอร์ 2 จำหน่ายกิโลกรัมละ 80 บาท และเบอร์ 3 กก.ละ 70 บาท ซึ่งจะจำหน่ายในวันเสาร์ - อาทิตย์ 29 - 30 มกราคม 2565 นี้ เวลา 09.00 น. - 12.00 น.ณ บริเวณด้านข้างสำนักงานพาณิชย์จังหวัดยะลา
สำหรับ การจำหน่ายส้มดังกล่าว สืบเนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดยะลา จะนำของไหว้ราคาประหยัดมาช่วยจำหน่ายเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคให้ได้ซื้อสินค้าราคาถูก อาทิ หมูเนื้อแดงและส้ม ซึ่งจะเป็นของที่จำเป็นที่จะต้องใช้ในช่วงตรุษจีน อีกทั้งยังเป็นการช่วยทั้งผู้บริโภคและเกษตรกรในการระบายสินค้า ผู้บริโภคได้ซื้อของถูก เกษตรกรได้ระบายสินค้าโดยที่ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะทำตลาดนัดศุกร์ส่งสุข เพื่อให้เกษตรกรได้นำสินค้าดีๆ ราคาถูกมาจำหน่ายอีกด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","29/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129093853836"], [827,"รัฐบาลพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยววัยเกษียณ หลังสื่อฝรั่งเศสจัดไทยติดอันดับ 5 ของประเทศที่น่าใช้ชีวิตเกษียณที่สุด ปี 2022","นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรณีนิตยสาร Capital ของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นนิตยสารรายเดือนที่เน้นการนำเสนอข่าวสารด้านเศรษฐกิจ การเงิน และการลงทุน ได้เผยแพร่บทความการจัดอันดับ 10 ประเทศ/เมืองที่น่าใช้ชีวิตยามเกษียณมากที่สุด จัดทำโดยเว็บไซต์รีเทท ซอง ฟองเทีย (Retraite sans Frontieres) โดยประเทศไทยได้รับการจัดอันดับที่ 5 ต่อจาก กรีซ โปรตุเกส มอรีเชียส และสเปน สะท้อนความโดดเด่นและภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวและเป็นเมืองที่น่าอาศัยอยู่ของไทย การจัดลำดับดังกล่าว พิจารณาจากตัวชี้วัด 12 ข้อ อาทิ ค่าครองชีพ อสังหาริมทรัพย์ การแพทย์ มรดกทางวัฒนธรรม
นางสาวรัชดา กล่าวว่า รัฐบาลมีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มซึ่งมีความต้องการที่หลากหลายและสำหรับชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญในการสร้างรายได้เข้าประเทศ ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มประชากรผู้มีความมั่งคั่งสูง (Wealthy global citizen) กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ (Wealthy pensioner) กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย (Work from Thailand professional) กลุ่มผู้เชี่ยวชาญพิเศษ (High skilled professional) กลุ่มนี้รัฐบาลจึงออกมาตราการดึงดูดให้พำนักในประเทศไทยเป็นเวลานาน โดยสามารถขอวีซ่าประเภทผู้พำนักระยะยาว มีอายุการตรวจลงตรา 10 ปี และสำหรับการเข้ามาในประเทศไทยเพื่อใช้ชีวิตในฐานะผู้สูงอายุ จะต้องมีอายุ 50 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ระบุวัตถุประสงค์ว่าจะขอเข้ามาใช้ชีวิตในฐานะผู้สูงอายุหรือเกษียณ และจะไม่ทำงานในระหว่างพำนักในไทย มีหลักฐานแสดงฐานะทางการเงินหรือหลักฐานที่ได้รับเงินบำนาญ (ต้องมีเงินฝากไม่น้อยกว่า 2 แสนบาท หรือมีรายได้/บำนาญไม่น้อยกว่า 6 หมื่น 5 พันบาทต่อเดือน)
นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Thailand Wellness Sandbox หัวหิน ชะอำ มีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพแห่งใหม่ ประมาณการค่าใช้จ่ายของนักท่องเทียวในกลุ่มนี้ จะอยู่ที่ 3,276 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ ต่อคนต่อการเดินทาง
นายกรัฐมนตรี ได้วางกรอบการทำงานของรัฐบาล เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศและดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ควบคู่ไปกับการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 สร้างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจและสาธารณสุข คาดการณ์ว่า ภายใต้สถานการณ์โควิดที่สามารถบริหารจัดการได้เช่นนี้ มาตรการ Test & Go จะสามมารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ สร้างงาน สร้างรายได้แก่ประเทศให้เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน
เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2565 เวลา 09.30 น. นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหา เศรษฐกิจจังหวัดแม่ฮ่องสอน (กรอ.) ครั้งที่ 1/2565 เพื่อพิจารณาประเด็นปัญหาสำคัญและ จัดทำข้อเสนอแผนงานโครงการ สำหรับเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ ห้องประชุมประดิษฐ์จองคำ ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน
โดยการประชุมครั้งนี้ เป็นการผลักดันเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจสายตะวันออก ตะวันตก (East west Economic Corridor : EWEC) ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อพัฒนาให้สามารถ รับรองการขนส่งและพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมที่แข่งขันได้ รวมถึงผลักดันให้จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้อยู่ในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมล้านนา ขณะที่สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีทิศทางที่เริ่มดีขึ้นทั้งการใช้จ่ายภาคบริการ เกษตรกรรม การลงทุน การบริโภค การค้าชายแดน อุตสาหกรรม และการจ้างงาน พบว่ามีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค พบว่าบางรายการปรับตัวสูงขึ้นตามกลไกตลาด ด้านสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวพบว่าช่วงที่ผ่านมานักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอนมากกว่าการคาดการณ์ ทำให้เกิดรายได้เข้าจังหวัด และชุมชนมากขึ้น
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยังพบผู้ติดเชื้อในจังหวัดลดลง ขณะที่สถิติการฉีดวัคซีนเริ่มเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เน้นย้ำให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ปฏิบัติการเชิงรุกบริการฉีดวัคซีนให้มาก
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","29/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129104620860"], [829,"พาณิชย์ปัตตานีร่วมกับศูนย์ดำรงธรรม เทศบาลเมืองปัตตานีและอำเภอเมือง ออกตรวจร้านค้าตลาดสดและห้างสรรพสินค้าเพื่อป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาในเทศกาลตรุษจีน","พาณิชย์ปัตตานีร่วมกับศูนย์ดำรงธรรม เทศบาลเมืองปัตตานีและอำเภอเมือง ออกตรวจร้านค้าตลาดสดและห้างสรรพสินค้าเพื่อป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาในเทศกาลตรุษจีน วันนี้ (29 มกราคม 2565) เวลา 08.00 น. จังหวัดปัตตานี
โดยศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ร่วมกับพาณิชย์จังหวัด อำเภอเมืองปัตตานีและเทศบาลเมืองปัตตานี บูรณาการร่วมออกตรวจร้านค้าในตลาดสดเทศวิวัฒน์1 และห้างสรรพสินค้าบิกซีปัตตานี เพื่อตรวจสอบราคาและรณรงค์การปิดป้ายแสดงราคาสินค้าเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ปี 2565 ที่กำลังจะมาถึง โดยมี นางสาวจินตะณา ปิ่นสุภา พาณิชย์จังหวัดปัตตานี นายดำรง กุกุทพันธ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองปัตตานี เจ้าหน้าที่จากพาณิชย์จังหวัด เจ้าหน้าที่เทศบาล ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมืองปัตตานี ร่วมออกตรวจ
นางสาวจินตะณา ปิ่นสุภา พาณิชย์จังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ในปีนี้วันตรุษจีน ตรงกับวันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 โดยก่อนที่จะถึงวันตรุษจีน ก็ยังมีอีก 2 วันสำคัญของเทศกาลตรุษจีน คือวันจ่าย และ วันไหว้ โดยวันจ่าย ตรงกับวันที่ 30 มกราคม 2565 และวันไหว้ ตรงกับวันจันทร์ที่ 31 มกราคม 2565
ดังนั้น เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราสินค้าโดยไม่เป็นธรรมในช่วงเทสกาลดังกล่าว สำนักงานพาณิชย์จังหวัดปัตตานี จึงได้ร่วมกับหน่วยต่างๆที่เกี่ยวข้อง ออกรณรงค์ขอความร่วมมือผู้จำหน่ายสินค้าให้แสดงป้ายราคา และป้องกันไม่ให้ฉวยโอกาสขึ้นราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่งของไหว้ เช่น ไก่ ผลไม้มงคล เป็นต้น ซึ่งจากการตรวจสอบขณะนี้ สินค้าดังกล่าวยังมีราคาปกติ ไม่ได้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาแต่อย่างใด
ภาพ/ข่าว เพชรน้อย ส.ปชส.ปัตตานี
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","29/1/2022","ภาคใต้","ปัตตานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129104942862"], [830,"พาณิชย์จังหวัดลำปาง ลงพื้นที่ตรวจราคาสินค้า อาหาร ก่อนเทศกาลตรุษจีน","นางสาวเยาวเรศ แซ่โค้ว พาณิชย์จังหวัดลำปาง มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้า เนื้อสัตว์ ไข่ ผัก ผลไม้ และอาหาร ช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งจะมีประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคสำหรับประกอบพิธีไหว้บรรพบุรุษ ทั้งวัตถุดิบในการประกอบอาหารและเครื่องเซ่นไหว้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบในการซื้อสินค้า จึงได้ดำเนินการตรวจสอบ ณ ห้างโลตัส ห้างสยามแมคโคร ห้างบิ๊กซี และห้างท็อป ซูเปอร์มาร์เก็ต และตลาดสดเมืองลำปาง
จากการตรวจสอบพบว่า ราคาหมูเนื้อแดง ในห้างฯ ราคา 174 -185 บาท/กก.ในตลาดสด 220 บาท/กก., ไก่ไหว้พร้อมเครื่องใน ราคา 65-70 บาท/กก., ราคาไข่ไก่ เบอร์ 2 แผงละ 99 บาท, ราคาเป็ดแช่แข็ง 69 - 89 บาท/กก. และน้ำมันปาล์มมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นและได้จำกัดการจำหน่ายเพื่อกระจายสินค้าให้ทั่วถึง
ทั้งนี้ผู้ประกอบการได้จัดเตรียมสินค้าเพื่อรองรับความต้องการของของคนไทยเชื้อสายจีน ที่จะเริ่มจ่ายในวันที่ 30 มกราคม ที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ตามในช่วงนี้เริ่มมีประชาชนมาจับจ่ายใช้สอย คาดว่าปริมาณความต้องการเพิ่มขึ้น
ราคาสินค้าส่วนใหญ่ทรงตัว ขณะที่เนื้อหมูก็ยังสามารถหาซื้อได้ มีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","29/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สวท.ลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129105341865"], [831,"กรมการค้าภายใน สั่งจับเครื่องชั่งในบริษัทขนส่งไม่ผ่านการตรวจสอบ ย้ำถ้าพบเจออีกจะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที","??นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงกรณี กรมฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 ว่ามีการใช้งานเครื่องชั่งที่ไม่ได้รับการตรวจสอบให้คำรับรองจากกรมฯในการชั่งพัสดุในบริษัทรับ-ส่งพัสดุชื่อดังแห่งหนึ่ง จึงได้มีจัดส่งสายตรวจของกรมฯลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ณ บริษัทรับ-ส่งพัสดุดังกล่าว จำนวน 4 แห่งในท้องที่จังหวัดนนทบุรี พบมีการใช้งานเครื่องชั่งที่ไม่ได้รับการตรวจสอบให้คำรับรองจากกรมฯจริง ตามที่ได้รับการร้องเรียน
การกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนจะมีโทษ ตามมาตรา 25 วรรค 1 รับโทษตามมาตรา 70 แห่งพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ ซึ่งกรณีดังกล่าว จึงได้ดำเนินการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำความผิด ส่งให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนนทบุรีเปรียบเทียบปรับเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 55,000 บาท
กรมการค้าภายใน ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องชั่ง เพื่อรักษาความเป็นธรรมให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง หากประชาชนพบเห็นว่ามีการใช้งานเครื่องชั่งที่ไม่ได้รับการตรวจสอบให้คำรับรองโดยกรมการค้าภายใน สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
วันนี้ (29 มกราคม 2565) นายภูวนัฐ สมใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ (หาดปากเมง) ของ นดต. รุ่น 11 จังหวัดตรัง ณ บริเวณหาดปากเมง อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง
สำหรับการดำเนินกิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี กับประชาชนในการช่วยเหลือและพัฒนาชุมชนให้มีความสะอาด สงบ ปลอดภัย น่าอยู่อาศัย เพื่อสุขอนามัยที่ดีของประชาชนในพื้นที่โดยรอบ สนองพระราชปณิธาน รักษา สืบสาน ต่อยอด ซึ่งการจัดกิจกรรมในวันนี้ เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยสร้างจิตสำนึกให้ประชาชน และทุกฝ่ายตระหนัก และให้ความสำคัญในการรักษาความสะอาด สร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้กับหาดปากเมงซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดตรัง
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","29/1/2022","ภาคใต้","ตรัง","สวท.ตรัง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129114754880"], [833,"สำนักงานพาณิชย์ จ.ลำปาง ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง จัดเจรจาธุรกิจการค้าออนไลน์ (OBM)","นางสาวเยาวเรศ แซ่โค้ว พาณิชย์จังหวัดลำปาง ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง จัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจออนไลน์ Online Business Matching : OBM ระหว่างผู้ประกอบการไทย-ฮ่องกง ผ่านโปรแกรม zoom meeting
โดยมีผู้ประกอบการจังหวัดลำปาง คือนางสาวปางคูน ไชยยารักษ์ จากนาปางคูนเซรามิค เจรจาธุรกิจออนไลน์กับบริษัท Chiangmai Herbs Trading Limited หรือ ABOUTHAI (Hong Kong Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทร้านค้าปลีกจำหน่ายสินค้าไทยในฮ่องกงที่มีสินค้าอุปโภคบริโภคหลากหลาย
เบื้องต้นคู่เจรจาได้ขอให้นาปางคูนเซรามิคส่งแคตตาล็อกสินค้าและตัวอย่างสินค้าเพิ่มเติม อาทิ ชุดกาแฟ แก้วน้ำขนาดเล็ก ชุดกาแฟดริฟ เป็นต้น ให้กับคู่เจรจา เพื่อจะมีการพิจารณาสินค้าและซื้อขายสินค้าในโอกาสต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","29/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สวท.ลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129115237883"], [834,"อาทิตย์อัสดง 2 แผ่นดิน ที่บ้านกาแปะฮูลู แลนด์มาร์คใหม่ในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา","ที่บริเวณจุดชมวิว ริมถนนเลียบชายไทย-มาเลย์ บ้านกาแปะฮูลู ถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คใหม่ในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา มีนักท่องเที่ยวจากในและต่างจังหวัดเข้ามาเที่ยวชมธรรมชาติ ดูดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้ากันจำนวนมาก ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
นางภาวนา สาและ นักท่องเที่ยว เผยว่า การสร้างจุดแลนด์มาร์คใหม่แห่งนี้ สามารถกระจายรายได้ให้กับชุมชนกาแปะฮูลูเป็นอย่างดี และความสวยงามในพื้นที่จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาชื่นชมธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่การสัญจรในพื้นที่ก็มีความสะดวก การจัดการโดยภาพรวมถือได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก วันนี้เลยพาครอบครัวมาเที่ยวพักผ่อนดูดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติริมชายแดนไทย-มาเลย์
ทั้งนี้ บริเวณข้างทางยังได้มีการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนในพื้นที่ อ.เบตง ขายอาหาร และเครื่องดื่มให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","29/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129124604922"], [835,"จังหวัดเพชรบุรี รับอรุณ เบิกฟ้า จัดกิจกรรม ปั่นเที่ยว ปั่นกิน ชิวชิว @ ท่ายาง นักจักรยานชื่นชอบ ได้ชมทั้งทัศนียภาพ อิ่มอร่อยผลไม้สด และทำประโยชน์ให้สังคม","
วันนี้ (29 มกราคม 2565) เมื่อเวลา 06.00 น. นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานเปิดกิจกรรมปั่นเที่ยว ปั่นกิน ชิวชิว @ ท่ายาง พร้อมด้วยนางสาวมิ่งขวัญ บุญโภคัย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และคณะกรรมการจัดงาน ร่วมกิจกรรม ณ บริเวณลานกางเต็นท์หน้าโครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี
นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดเพชรบุรี เสริมสร้างความสุข ให้ประชาชนคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองเพชรบุรี สานนโยบายการเปิดเมือง ส่งเสริม การค้า การผลิต การบริการ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ทั้งเชิงนิเวศ เชิงสุขภาพ และเชิงศาสนาวัฒนธรรม หวังยกระดับการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอำเภอท่ายาง ที่มีต้นทุนด้านทรัพยากรธรรมชาติ มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย อากาศบริสุทธิ์ ที่เหมาะสมต่อการปั่นจักรยาน สัมผัสบรรยากาศเนินป่า เชิงเขา ได้ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพใจ
สำหรับการจัดกิจกรรมปั่นเที่ยว ปั่นกิน ชิวชิว @ ท่ายาง เสริมสร้างให้ประชาชนทั่วไปได้ออกกำลังกาย ภายใต้การป้องกันโรคโควิด 19 พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวพื้นที่อำเภอท่ายางและจังหวัดเพชรบุรี โดยมีนักปั่นจักรยานทั้งชาวเพชรบุรีและต่างจังหวัด เข้าร่วมกิจกรรมโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ จำนวน 700 ราย ซึ่งเส้นทางปั่นจักรยานจะเริ่มจากโครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ มุ่งหน้าชมธรรมชาติ ผ่านบึงบัว มุ่งสู่พระพุทธบาทเขาลูกช้าง จุดพักรถพร้อมทำประโยชน์ให้สังคม เก็บขยะในพื้นที่วัด และเดินทางต่อตามเส้นทาง แวะทานผลไม้ ซึ่งขณะนี้ชมพู่เพชร ผลผลิตกำลังออกตามฤดูกาล ชมเขื่อนยางชุม และกลับถึงโครงการชั่งหัวมัน เพื่อร่วมปล่อยพันธ์ปลา รวมระยะทางปั่น 59 กิโลเมตร
จามรี อนุรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรีรายงาน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","29/1/2022","ภาคตะวันตก","เพชรบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129124823923"], [836,"สมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ จ.ลำปาง ต้อนรับนักท่องเที่ยวแดนใต้ นครศรีธรรมราช","ที่บริเวณห้าแยกหอนาฬิกา และวัดศรีรองเมือง เขตเทศบาลนครลำปาง นางสุมาลี จังเกษม นายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดลำปาง ได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจากจังหวัดนครศรีธรรมราชที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดลำปาง โดยคณะนักท่องเที่ยวได้นั่งรถม้ารอบเมืองลำปาง ชมความงามของวัดศรีรองเมือง ฯลฯ ซึ่งสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
นายดุลยชัย รักษ์ดำ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า คณะนักท่องเที่ยวประมาณ 46 คน เดินทางมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ภายใต้การนำขององค์การบริการส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกันทำ roadshow จังหวัดภาคเหนือ เริ่มต้นจากจังหวัดชัยนาท พิษณุโลก เชียงใหม่ ลำปาง และพระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้รู้สึกดีใจที่ได้เดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดลำปาง เพราะถือว่าเมืองลำปางหรือเมืองเขลางค์นครเป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์และเป็นเมืองรถม้า หากมาลำปางแวะลำปางต้องนั่งรถม้า ซึ่งถือว่ารถม้าเป็นส่วนหนึ่งในการทำกิจกรรมของชุมชนในพื้นที่ที่ได้มีการการสืบทอดมานาน จึงเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองลำปาง เมืองที่เสน่ห์ มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกแจ้ซ้อน หรือแหล่งท่องเที่ยว อีกหลายแห่ง วัดสำคัญๆ ในเขตตัวเมืองลำปาง และวัดพระธาตุลำปางหลวง ฯลฯ เป็นต้น
พร้อมกันนี้ทางด้าน นางสุมาลี จังเกษม นายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดลำปาง ได้ทำหนังสือเชิญชวนคณะ ฯ ร่วมงานโครงการเสวนาทิศทางการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดลำปางและการเป็นเจ้าภาพการประชุมสัญจรของสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ 17 จังหวัดภาคเหนือ จำนวน 18 สมาคม ในการประชุมวิสามัญสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ 17 จังหวัด เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และแสดงความคิดเห็นในการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดลำปางและจังหวัดภาคเหนือตอนบน ในวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ 2565 ณ โรงแรมลำปางเวียงทอง ตำบลสวนดอก อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","29/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สวท.ลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129125640926"], [837,"ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ปั่นจริง นำทีมจักรยาน ชมทิวทัศน์ ปั่นเลียบเส้นทางBike Riviera #ปั่นน้อย..100 รูป @ เพชรบุรี","ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ปั่นจริง นำทีมจักรยาน ชมทิวทัศน์ ปั่นเลียบเส้นทางBike Riviera #ปั่นน้อย..100 รูป @ เพชรบุรี เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ (29 มกราคม 2565) นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นำทีมนักปั่นจักรยาน ปั่นชมเมืองเพชรบุรี ร่วมกิจกรรมปั่นเลียบเส้นทางทางBike Riviera #ปั่นน้อย..100 รูป @ เพชรบุรี
นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า เป็นกิจกรรมที่ทางททท.จังหวัดเพชรบุรี จัดปั่นจักรยานเลียบเส้นทางBike Riviera #ปั่นน้อย..100 รูป @ เพชรบุรี ซึ่งเป็นการปั่นน้อย แต่ร้อยรูป คือหลักการง่ายๆ ที่เราได้ปั่นออกกำลังกาย และได้ชมวิวทิวทัศน์ในตัวเมืองเพชรบุรีไปด้วย ขี่ผ่านทุ่งนาป่าตาล เส้นทางท่องเที่ยว เขาหลวง อุทยาน ร 4. ปั่นเที่ยววัด ชมโบราณสถานสำคัญๆ เช่น วัดใหญ่ วัดข่อย วัดพระมหาธาตุ นอกจากได้ออกกำลังกาย ให้สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ยังสานมาตรการป้องกันโรค ของกระทรวงสาธารณสุข ปั่นแบบสวมแมสตลอดเวลา เว้นระยะห่าง ไม่มีการสัมผัส ใกล้ชิด ป้องกันโควิด 19 ด้วย
นอกจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีกล่าวเพิ่มเติมว่า Bike Riviera #ปั่นน้อย..100 รูป เพื่อยืนยันว่า จังหวัดเพชรบุรีพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือมาเที่ยวชิมอาหารอร่อย เพชรบุรีเป็นเมือง gastronomy ก็สามารถเปิดให้บริการได้ตลอดเวลา เป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวมาเยือนจังหวัดเพชรบุรี นักท่องเที่ยวสามารถเลือกรสนิยมท่องเที่ยวแบบตามทีใจชอบได้
ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเพชรบุรี ร่วมกับพันธมิตรทางการท่องเที่ยว จัดกิจกรรมท่องเที่ยวในรูปแบบปั่นจักรยานตามเส้นทาง Bike Riviera โดยถือเอาแม่น้ำเพชรบุรีเป็นหลัก ได้แก่ เส้นทางเสือลุยแก่งแหล่ง OZONE อำเภอแก่งกระจาน เส้นทาง ตะลุยสวนตาล Palm Street Art อำเภอบ้านลาด และเส้นทาง ชิลล์ริมเล Scenic Route อำเภอชะอำ เพื่อเป็นประสบการณ์เดินทางท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่งของจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งกิจกรรมปั่นจักรยานจะส่งต่อความสนุกและการเดินทางที่คุ้มค่าให้แก่นักท่องเที่ยวตลอด 4 เดือน โดยเริ่มกิจกรรมปั่นตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2565
จามรี อนุรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรีรายงาน
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","29/1/2022","ภาคตะวันตก","เพชรบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129140234950"], [838,"รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมโครงการ \"หมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน\" ณ ห้างบิ๊กซี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พบว่าราคาสินค้าอยู่ในระดับที่ควบคุม","วันนี้ (29 ม.ค. 65) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอำพล พงศ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นางสาวฉัตร์สุดา ชุมแสง พาณิชย์จังหวัดสงขลา นายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี นายอำเภอหาดใหญ่ พลตํารวจโท สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการ \"หมูพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน\" ที่ห้างบิ๊กซี สาขาหาดใหญ่ 2 อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ กล่าวว่า จากการติดตามราคาสินค้าของห้างสรรพสินค้า (แม็คโคร โลตัส และบิ๊กซี) ที่เป็นตัวชี้วัดราคาของตลาด โดยการลงพื้นที่วันนี้ได้ติดตามสินค้า 5 หมวดด้วยกัน ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า, ซอสปรุงรส, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, น้ำอัดลม และอาหารสด พบว่าราคาสินค้าเป็นไปตามข้อตกลง โดยเฉพาะ ไข่ไก่ ซึ่งมีการควบคุมราคาหน้าฟาร์มแก่เกษตรกรและห้างสรรพสินค้าทั้งหมด โดยกำหนดราคาไข่ไก่ฟองละไม่เกิน 2.90 บาท และเนื้อไก่ พบว่าอยู่ในระดับราคาควบคุม ด้านเนื้อหมู
ขณะนี้ได้มีการเจรจากับเกษตรกร โรงชำแหละ และห้างสรรพสินค้าต่างๆ โดยทำการตกลงราคาสำหรับหมูหน้าฟาร์ม ไม่เกินกิโลกรัมละ 110 บาท ด้านหมูชำแหละ ที่ขายปลีกในห้างสรรพสินค้า (แม็คโคร โลตัส และบิ๊กซี) พบว่าราคามีการปรับลงตามที่กำหนด โอกาสนี้ ได้จัดโครงการไก่ต้มไหว้เจ้าในราคาตัวละ 189 บาท ซึ่งเป็นโครงการที่ร่วมมือกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับ 4 ห้างสรรพสินค้า ได้แก่ แม็คโคร โลตัส บิ๊กซี และซูเปอร์มาเก็ต มีการผลิตประมาณ 100,000 ตัว ทั่วประเทศ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระพี่น้องประชาชนเชื้อสายจีนที่จะซื้อไก่ไหว้เจ้าช่วงเทศกาลตรุษจีนในราคาที่เป็นธรรม
ขณะที่ ได้สั่งการสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศร่วมกับปศุสัตว์จังหวัด ตลอดจนผู้ว่าราชการจังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ดำเนินการตรวจสต๊อกหมูทุกแห่งทั่วประเทศ และหากพบเห็นการกระทำความผิด อาทิ การกักตุนสินค้า หรือไม่แจ้งจำนวนการสต๊อกสินค้าให้ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทราบ จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยไม่มีการยกเว้น
นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำพี่น้องประชาชน หากใครพบเห็นจุดจำหน่ายสินค้าที่ขายแพงเกินกว่าราคาที่กำหนด หรือมีการกักตุนสินค้า ให้ทำการแจ้งเบาะแสแก่กระทรวงพาณิชย์ทราบ เพื่อที่จะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยสามารถแจ้งเบาะแสทางสายด่วน 1569
ณิชารีย์ หนูบุญ/ข่าว วิทยา-จิรพัฒน์/ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา29 ม.ค. 2565
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","29/1/2022","ภาคใต้","สงขลา","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129141434961"], [839,"พาณิชย์บุรีรัมย์ จัดงาน Chiness New Year 2022 ตามโครงการยกระดับการค้าภาคอีสานสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 2","วันนี้ (29 ม.ค. 65) สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับภาคเอกชน ห้างสรรพสินค้าทวีกิจซุปเปอร์เซ็นเตอร์ และกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ จัดงาน Chiness New Year 2022 ช่วยเหลือผู้ประกอบการ และเกษตรกรจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลตรุษจีน
โดยนายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร พาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า กิจกรรมที่เกิดขึ้น เป็นการร่วมมือระหว่าง กลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ กับ คณะทำงานด้านการตลาดระดับจังหวัด จังหวัดบุรีรัมย์ ได้แก่ หอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์, สภาอุตสาหกรรมจังหวัดบุรีรัมย์, สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์, สภาเกษตรกรจังหวัดบุรีรัมย์, เครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club จังหวัดบุรีรัมย์ และสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสาขาจังหวัดบุรีรัมย์ นำเกษตรกรและผู้ประกอบการสินค้า OTOP, SMEs และเกษตรกร ในกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์และสุรินทร์ รวมกว่า 35 ร้านค้า มาจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า มากมายไม่ว่าจะเป็น ผักผลไม้สด,ต้นไม้มงคล, อาหารเด่น, เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย, เครื่องประดับของตกแต่ง, เครื่องสำอาง และสมุนไพร ทั้งเพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางให้ผู้ประกอบการ รวมทั้งเป็นการเพิ่มการบริโภคและการจับจ่ายใช้สอยเพื่อกระตุ้นให้มีการหมุนเวียนและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์
สำหรับงานแสดงและจำหน่ายสินค้า Chiness New Year 2022 จัดขึ้นระหว่างวันที่29 มกราคม 2 กุมภาพันธ์ 2565 ณ Event Hall โซนอาคารใหม่ ห้างสรรพสินค้าทวีกิจซุปเปอร์เซ็นเตอร์ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","29/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","บุรีรัมย์","สวท.บุรีรัมย์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129145855989"], [840,"ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี นำผู้ประกอบชาวเบตงในกรุงเทพและกลุ่มสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนเบตง\"วีระราษฎร์ประสานร่วมเที่ยวบินพาณิชย์สู่สวรรค์บนดินสนามบินเบตง","ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีนำผู้ประกอบชาวเบตงในกรุงเทพและกลุ่มสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนเบตง\"วีระราษฎร์ประสานร่วมเที่ยวบินพาณิชย์สู่สวรรค์บนดินสนามบินเบตง
วันนี้ (29 ม.ค. 65 ) เที่ยวบินของสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินพิเศษ DD 6260 ซึ่งเป็นเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำ บรรทุกผู้โดยสาร 76 คน ร่อนลงจอดในรันเวย์สนามบินเบตง จังหวัดยะลา เป็นครั้งแรก หลังเดินทางออกจากท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพมหานคร มาถึงท่าอากาศยานเบตงในเวลา 11.17 น. ซึ่งถือเป็นเที่ยวบินพาณิชย์ทดลองบินครั้งแรก โดยมีเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี นายภาณุ อุทัยรัตน์ สมาชิก วุฒิสภา นำกลุ่มนักธุรกิจชาวเบตงในกรุงเทพฯ กลุ่มสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนเบตง \"วีระราษฎร์ประสาน\" ที่ร่วมกันลงขัน คนละ 10,000 บาท เพื่อเช่าเหมาลำอากาศยานของสายการบินนกเเอร์ แบบ Q-400 ซึ่งรองรับผู้โดยสารจำนวน 86 ที่นั่ง มายังอำเภอเบตง หลังจากเมื่อวานนี้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ได้มีหนังสือรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะให้แก่สนามบินเบตงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเปิดใช้สนามบินเบตงเพื่อรองรับการพัฒนาทางเศรษฐกิจและเพื่อความมั่นคงของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอเบตง โดยนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีนโยบายเร่งรัดการเปิดให้บริการท่าอากาศยานเบตงโดยเร็ว ซึ่งจะทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น ส่วนท่าอากาศยานเบตง จะเปิดให้บริการเที่ยวบินปฐมฤกษ์อย่างเป็นทางการเมื่อไหร่นั้น ทางกระทรวงคมนาคม กรมท่าอากาศยาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการประชุมสรุปข้อมูลภายหลังจากเที่ยวบินทดลองนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมของทุกฝ่ายอีกครั้ง
ด้าน นางดวงพร สุวรรณมณี ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนราธิวาส ปฏิบัติงานในฐานะผู้อำนวยการท่าอากาศยานเบตง เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สังการให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ออกใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะให้แก่ท่าอากาศยานเบตง ซึ่งเป็นท่าอากาศยานแห่งใหม่ ลำดับที่ 29 ของกรมท่าอากาศยาน(ทย.) วันนี้ ทางกรมท่าอากาศยานได้ทำการทดลองการเปิดบริการเที่ยวบินพาณิชย์ท่าอากาศยานเบตง โดยให้บริการเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำ (Charter Flight) DD 6260 ใช้อากาศยานแบบ Q-400 ของสายการบินนกแอร์ ในเส้นทางดอนเมือง - เบตง - ดอนเมือง เพื่อตรวจสอบความพร้อมในการให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์ มีผู้โดยสารเดินทางมา จำนวน 76 คน พร้อมยืนยันว่าท่าอากาศยานเบตง มีความพร้อมในด้านกายภาพ อุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก และบุคลากรที่จะปฏิบัติหน้าที่ให้บริการภายใต้มาตรการการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19) โดยทั้งหมดเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.)
ขณะที่ นางลิ้มหลัง เอ็ง อายุ 92 ปี หนึ่งในผู้โดยสาร ซึ่งเดินทางมาพร้อมลูกชาย กล่าวว่า ดีใจมากที่ได้เดินทางกลับ อ.เบตง อีกครั้ง หลังจากเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ก็ไม่ได้กลับมาเบตงอีกเลย การเดินทางเป็นไปด้วยความราบรื่น สะดวก สบาย ไม่ลำบากเหมือนเมื่อก่อนแล้ว พอมีสนามบินเกิดขึ้นก็ทำให้มีโอกาสกลับมาพบปะญาติพี่น้องกลับมาเที่ยวบ้านเกิดได้บ่อยขึ้น
สำหรับขีดความสามารถของท่าอากาศยานเบตง มีความยาวทางวิ่งขนาด 30 คูณ 1,800 เมตร รองรับอากาศยานขนาดไม่เกิน 80 ที่นั่ง ลาดจอดเครื่องบินรองรับได้จำนวน 3 ลำ อาคารที่พักผู้โดยสารสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสาร 300 คนต่อชั่วโมง หรือประมาณ 800,000 คนต่อปี อยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้งเครื่องตรวจอาวุธและวัตถุระเบิดแบบ EDS และเครื่อง X-Ray 4 เครื่อง และทางเข้า-ออก Airside 4 จุดและอุปกรณ์ความปลอดภัยสนามบินตามมาตรฐานสากล ในอนาคตมีแผนที่จะขยายรันเวย์เพิ่มอีก 800 เมตร เป็น 2,500 เพื่อรองรับอากาศยานขนาด 180 ที่นั่งได้ ท่าอากาศยานเบตงจะทำให้การเดินทางมายัง อ.เบตง สะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใตเอีกด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","29/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.เบตง จ.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129161847000"], [841,"พาณิชย์จังหวัดยะลา ชวนประชาชนซื้อส้มโชกุนเบตงสีทอง รับทรัพย์นำโชค รับตรุษจีน","สำนักงานพาณิชย์ยะลา ร่วมฉลองตรุษจีน สั่งตรงส้มโชกุนเบตงสีทอง ปลอดสารพิษ สดจากสวน ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา มาจำหน่ายสู่ผู้บริโภค ในราคาถูก เบอร์ 2 กิโลกรัมละ 80 บาท เบอร์ 3 กิโลกรัมละ 70 บาท (9 - 10 ผล / กก.) พร้อม เชิญชวนประชาชนซื้อส้มรับทรัพย์นำโชค มิ่งมงคลตรุษจีนนี้ โดยจะจำหน่าย ในวันเสาร์ที่ 29 ม.ค 65 และ วันอาทิตย์ 30 มกราคม 2565 ที่บริเวณด้านข้างสำนักงานพาณิชย์จังหวัดยะลา เวลา 09.00 น. - 12.00 น.
ทางไร่ส้มศศินันท์ บอกว่า เพิ่งเริ่มนำส้มมาจำหน่ายที่ข้างพาณิชย์ วันนี้วันแรกโดยจะจำหน่ายสองวัน ในวันพรุ่งนี้ 30 ม.ค 65 อีก 1 วัน วันละ 10 ตะกร้า โดยจะวางจำหน่ายจนกว่าส้มจะหมด สำหรับส้มของทางไร่ จะหอม ฉ่ำ หวาน เป็นส้มปลอดสารพิษ อยากให้ลองชิมดู
ขณะนี้มีประชาชนให้ความสนใจมาเลือกซื้อ ส้มกันบ้างแล้ว นอกจากนี้ประชาชนที่มาเลือกซื้อส้ม ก็จะซื้อหมูพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน ซึ่งยังคงมีวางจำหน่ายที่ด้านข้างสำนักงานพาณิชย์ ไปจนถึงวันจันทร์ ในราคา กก.ละ 150 บาท อีกด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","29/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129172430028"], [842,"ชาวเบตง เฮ เครื่องบินไฟล์ท DD-6062 ทดลองลงจอดสนามบินเบตงแล้ว","หลังจากที่ทางสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ออกใบรับรองให้สนามบินเบตงยืนยันมาตรฐานความปลอดภัย สนามบินสาธารณะเชิงพาณิชย์ ได้แล้ว เพื่อสอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ดำเนินการพัฒนาเศรษฐกิจความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเป็นรูปธรรม
วันนี้ (29 ม.ค. 65) ทางสนามบินเบตงก็ได้ทดลองการเปิดบริการเที่ยวบินพาณิชย์ โดยให้บริการเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำ ใช้อากาศยานแบบ Q-400 โดยทาง ท่าอากาศยานเบตงยืนยันมีความพร้อมในด้านกายภาพ อุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก และบุคลากรที่จะปฏิบัติหน้าที่ให้บริการภายใต้มาตรการการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19) โดยทั้งหมดเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.)
ซึ่งท่าอากาศยานเบตงได้รับใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สายการบินนกแอร์จึงได้ขออนุญาตทำการบินแบบเช่าเหมาลำ (Charter Flight) เส้นทางบินกรุงเทพ - เบตง - กรุงเทพ เพื่อตรวจสอบความพร้อมในการให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์ และสรุปข้อตกลงสำหรับการเปิดทำการบินแบบประจำ?(Schedule Flight) ตามที่ได้ยื่นขออนุญาตทำการบินไว้ 2 เส้นทาง คือ 1.หาดใหญ่-เบตง-หาดใหญ่ และ 2.ดอนเมือง-เบตง-ดอนเมือง ต่อไป
นางดวงพร สุวรรณมณี ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนราธิวาส ปฏิบัติงานในฐานะผู้อำนวยการท่าอากาศยานเบตง เผยว่า เมื่อวานทางสนามบินเบตงเราได้ใบรับรองการดำเนินการสนามบินสาธารณะ วันนี้ก็เลยมีไฟลท์บินที่สำหรับมาทดลองบินให้ชาวเบตงดูว่าสนามบินเบตงมีศักยภาพ ที่สามารถจะรองรับนักท่องเที่ยวในอนาคตได้ค่ะ ส่วนไฟท์บินสาธารณะ? ตอนนี้เราพร้อมที่จะให้ทำการบิน หลังจากที่เรามีการทดลองบินแล้วที่พี่บอกว่าทางท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ทางกระทรวงคมนาคม ทางกรมท่าอากาศยาน ทาง ศอ.บต. และทางจังหวัดยะลาเอง เราก็มีความพร้อมนะคะ ที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนที่จะเดินทางมายังท่าอากาศยานเบตง มีความมั่นใจว่าเราพร้อมที่จะดำเนินการแล้วเครื่องมาบินแน่นอน
เชื่อว่าตามยุทธศาสตร์ของท่านนายกรัฐมนตรีความมียุทธศาสตร์เป็นสามเหลี่ยม มั่นคั่ง มั่งคั่ง ยั่งยืน จะทำให้เบตง สามารถมีศักยภาพในด้านเศรษฐกิจที่ดีขึ้นเพราะมีการสร้างงาน ซึ่งพี่มีความมั่นใจว่าท่าอากาศยานสามารถรองรับผู้โดยสารได้
ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวพบปะพี่น้องประชาชนที่มาต้อนรับ ก่อนที่ผู้โดยสารจะเดินทางต่อไปที่โรงแรมแกรนด์แมนดารินเบตง เพื่อร่วมงานต้อนรับ? \"คนเบตงร่วมฉลองชัยสนามบินเบตง
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","29/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129182233033"], [843,"เที่ยวบินแรกของคนเบตง ทดลองบินโดยสายการบินนกแอร์ DD6260เช่าเหมาลำ","เที่ยวบินแรกของคนเบตง ทดลองบินโดยสายการบินนกแอร์ DD6260 เป็นการเช่าเหมาลำ (กรุงเทพฯ-เบตง-กรุงเทพฯ) โดยมีผู้โดยสาร จำนวน 76 ท่าน ที่เดินทางมาจากสนามบินดอนเมือง โดยล่าสุดทาง กพท.ออกใบรับรองสนามบินเบตงยืนยันมาตรฐานความปลอดภัย สนามบินสาธารณะ
ซึ่งในวันนี้ทดลองบินเที่ยวแรกของคนเบตง เป็นการบินเพื่อการกุศลของสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนวีระราษฏร์ประสาน และชมรมคนเบตงในจังหวัดกรุงเทพมหานคร เป็นการทดลองการบริการกิจการสาธารณะของสนามบินเบตงเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว
เครื่องบินทดลองลำนี้ landing สู่ภาคพื้นดินสนามบินเบตง ในเวลา 11.00 น. ก่อนที่ผู้โดยสารจะเดินทางต่อไปที่โรงแรมแกรนด์แมนดารินเบตง เพื่อร่วมงานต้อนรับ\"คนเบตงร่วมฉลองชัยสนามบินเบตง\" ร่วมกับผู้แทนสมาคม/ชมรมภาคประชาชนในเบตง ซึ่งทางนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเบตง นำเสนอ\"ปีทองท่องเที่ยวเบตง\"และพบปะสังสรรค์รวมญาติ จากนั้นเครื่อง take off ออกจากสนามบินเบตงในเวลา 16.00 น.ที่ผ่านมา
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","29/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129182933034"], [844,"ผู้ว่านราฯ ลงพื้นที่สำรวจแหล่งท่องเที่ยวและพบปะนักท่องเที่ยวในพื้นที่หาดนราทัศน์ จ.นราธิวาส","วันที่ 29 ม.ค.65 เวลา 16.30 น. ที่หาดนราทัศน์ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย นายทศพล สวัสดิสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ลงพื้นที่สำรวจแหล่งท่องเที่ยวและพบปะนักท่องเที่ยว ที่มาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจบริเวณหาดนราทัศน์ จ.นราธิวาส
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสและรองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้เดินสำรวจบริเวณหาดนราทัศน์ และทักทายพี่น้องประชาชนที่มาจากในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง มีการถ่ายภาพรวมกัน ซึ่งบรรยากาศการท่องเที่ยวในห้วงนี้เป็นไปอย่างคึกคัก นักท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงได้พาครอบครัวมาเที่ยวพักผ่อน มีกิจกรรมเล่นเซิร์ฟสเก็ต รับประทานอาหารริมหาด บางส่วนก็ได้แวะเสื้อผ้ามือสองและสินค้าอีกมากมาย ที่นำมาขายบริเวณหาดนราทัศน์ ซึ่งสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้อย่างมากเลยที่เดียว
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสได้ฝากถึงพี่น้องประชาชนที่มาท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่บริเวณหาดนราทัศน์ให้ช่วยกันดูแลรักษาความสะอาดและให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อที่จะได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามามากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ดีขึ้น พี่น้องประชาชนก็มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขมากยิ่งขึ้น
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","29/1/2022","ภาคใต้","นราธิวาส","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129183154036"], [845,"นักท่องเที่ยวทยอยเดินทางชมสวนดอกไม้หมื่นบุปผา อ.เบตง จ.ยะลา รับตรุษจีน","สีสันสวนดอกไม้หมื่นบุปผา ในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ทำให้นักเที่ยวจากทั่วประเทศ เลือกที่จะมาเดินทางพักผ่อน โดยบรรยากาศภายในสวนดอกไม้หมื่นบุปผานั้น ได้มีการประดับตกแต่งด้วยชุดโคมไฟแดง รับตรุษจีนที่จะถึงในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้
นางพรเพ็ญ ภัทรกร นักท่องเที่ยวจากจังหวัดชลบุรี เผยว่า สำหรับการมรท่องเที่ยวเมืองเบตงในครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางมาเที่ยว ซึ่งเมื่อคืนพึ่งถึงและพักค้างคืนในตัวเมือง รู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก ผู้คนที่นี่น่ารัก บ้านเมืองสะอาด ในวันนี้ทางไกด์ได้พามายังสวนดอกไม้เมืองหนาวเบตง ประทับใจ สวยมากค่ะ อากาศไม่ได้ร้อนมากค่ะ ชอบมาก ขอบคุณทาง เมืองเบตงที่เปิดให้เข้ามาท่องเที่ยวเราก้พร้อมปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิดอย่างเคร่งครัด ก็อยากเชิญชวนให้มาท่องเที่ยวกัน และใกล้จะตรุษจีนเบตงก็การเตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวช่วงตรุษจีน มีการประดับสถานที่ในเมืองมากมาย คาดว่าจะคึกคักอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ สวนดอกไม้หนาว หมื่นบุปผาแห่งนี้ถูกพัฒนาขึ้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวในอำเภอเบตงในเนื้อที่กว่า 10 ไร่เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเชิงชุมชนในรูปแบบของรีสอร์ทเชิงเขาสร้างขึ้นจำนวน 45 หลัง สามารถรองรับนักท่องเที่ยว ได้จำนวนกว่า 100 คน ชื่นชมธรรมชาติอย่างใกล้ชิด สำหรับผู้ที่สนใจก็สามารถเข้ามาชมดอกไม้ได้ทุกวัน มีค่าธรรมเนียมเด็ก 20 บาท และสำหรับผู้ใหญ่ 40 บาท
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","29/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129183030035"], [846,"จังหวัดสุรินทร์จัดกิจกรรมลานวัฒนธรรม เพื่อเปิดตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์และเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่","จังหวัดสุรินทร์ รวมพลังทุกภาคส่วน จัดกิจกรรมตลาดลานวัฒนธรรม สะเร็น สร้างสุข สุรินทร์รุ่งเรือง เมืองเกษตรอินทรีย์ ตามนโยบายของนายสุวพงศ์ กิติภัทย์ภิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งได้กำหนดจัดขึ้นในทุกวันเสาร์ ณ บริเวณลานหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ (หลังเก่า) โดยได้จัดกิจกรรมในช่วงเวลาดังนี้
เวลา 07:00-12:00 น. กิจกรรมทำบุญตักบาตร และเลือกชมเลือกซื้อตลาดผ้าไหมของกลุ่มทอผ้าไหมทั่วจังหวัดสุรินทร์
เวลา 17:00-20:00 น. ลานวัฒนธรรม สะเร็น สร้างสุข สุรินทร์รุ่งเรือง เมืองเกษตรอินทรีย์ พบกับกิจกรรมมากมายเช่น ร้อง เล่น เต้น รำ ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรม เช่น กันตรึม การร้องเจรียง พร้อมทั้งอิ่มอร่อยกับอาหารฟิวชั่น อาหารพื้นถิ่น สินค้าพื้นเมือง สินค้า GI เกษครอินทรีย์วิถีสุรินทร์
ทั้งนี้ ตลาดลานวัฒนธรรม สะเร็น สร้างสุข สุรินทร์รุ่งเรือง เมืองเกษตรอินทรีย์ เกิดจากการบูรณาการการดำเนินงานร่วมกันของทุกภาคส่วนในจังหวัดสุรินทร์ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อปรับพื้นที่บริเวณลานหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ (หลังเก่า) ให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ สำหรับชาวสุรินทร์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ส่งเสริมวัฒนธรรมความเป็นไทย ซึ่งจะจัดไปจนถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","29/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","สุรินทร์","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220129230503068"], [847,"ชาวไทยเชื้อสายจีนในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี ทยอยจับจ่ายซื้อสินค้าเพื่อเซ่นไหว้เทพเจ้า คาดว่าตลอดทั้งวันจะมีประชาชนมาจับจ่ายซื้อของกันอย่างคึกคัก","วันนี้ (30 ม.ค. 65)นายกิตติพงษ์ เทพพานิช นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบุรี กล่าวว่า บรรยากาศการจับจ่ายซื้อขายสินค้าช่วงเทศกาลตรุษจีนในตลาดเทศบาลเมืองเพชรบุรี ในช่วงเช้าวันนี้ พ่อค้า แม่ค้า ออกมาตั้งร้านจำหน่ายสินค้ามากว่าปีที่แล้ว และคาดว่าตลอดทั้งวันถึงช่วงเย็นวันนี้ประชาชนจะออกมาจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น ถึงแม้ปีนี้ราคาสินค้า เนื้อหมู เป็ด ไก่ และเครื่องเซ่นไหว้มีราคาแพงมากกว่าปีที่แล้ว เช่น ราคาเนื้อหมู กิโลกรัมละ 200-240 บาท เพิ่มขึ้นจากปีที่มาก สำหรับราคาสินค้าอื่นๆเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ไก่ตัวละ 180-200 บาท ราคาเป็ดตัวละ 300 กว่าบาทขึ้นอยู่กับขนาด ผักคะน้า กวางตุ้ง ราคากิโลกรัมละ 20-25 บาท ต้นหอมกิโลกรัมละ 60 บาท
นายคงศักดิ์ พ่อค้าผักในตลาดทรัพย์สินเพชรบุรี ก็กล่าวว่า ราคาสินค้า ทุกฝ่ายช่วยกันตรึงราคาไม่ให้สูง ประชาชนสามารถมีกำลังจับจ่ายใช้สอย ตนเองเชื่อว่าราคาสินค้าที่มีราคาสูงขึ้นอยู่กับราคาผันผวนของน้ำมันโลก
ทางด้าน นางลดาวัลย์ เอี่ยมรุ่งโรจน์ กล่าวว่า ปีนี้สินค้ามีราคาแพงขึ้น จึงไหว้ตามกำลังทรัพย์ ลดปริมาณการไหว้ลง เช่น ไก่ ไหว้ 5 ลดเหลือ 2 ตัว หมูเคยไหว้ 5 ชิ้น ก็ไหว้ 2 ชิ้น ผลไม้จาก 9 อย่าง ลดเหลือ 5 อย่าง
ทั้งนี้ เทศบาลเมืองเพชรบุรี ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เมืองเพชรบุรี ลงพื้นที่ดูแลความเรียบร้อยพร้อมทั้งทำความเข้าใจร่วมกับพ่อค้าแม่ค้าเกี่ยวกับการจำหน่ายสินค้า และขอความผู้ที่มาจับจ่ายซื้อของปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 อย่างเคร่งครัดถึงแม้ส่วนใหญ่จะได้รับวัคซีนแล้ว
สวท.เพชรบุรี/30 ม.ค.65
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","30/1/2022","ภาคตะวันตก","เพชรบุรี","สวท.เพชรบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220130090910089"], [848,"ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคช่วยลดค่าครองชีพของประชาชนในช่วงเทศกาลตรุษจีน","นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวภายหลังลงพื้นที่ห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขารามมินทรา กรุงเทพมหานคร เพื่อติดตามการจำหน่ายสินค้าภายใต้โครงการ \"พาณิชย์ลดราคา ตรุษจีนปีเสือทอง 2565\" พบว่า หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้มีการพูดคุยกับผู้ประกอบการ ผู้เลี้ยงและโรงฆ่าสัตว์ รวมถึงห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ ทำให้ปัจจุบันราคาสินค้าอุปโภค/บริโภค เริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มปรับตัวลง
โดยเฉพาะหมูเนื้อแดง ที่ปัจจุบันมีการปรับตัวลงมาที่ 180 บาท ต่อกิโลกรัม ขณะที่ ราคาไก่ ปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดราคากลางเพื่อจำหน่าย จำแนกเป็น น่องติดสะโพก 60-65 บาท/กก. น่องและสะโพก 65-70 บาท/กก. เนื้อส่วนอก 70-75 บาท/กก. ซึ่งผู้ประกอบการก็ให้ความร่วมมือจำหน่ายไม่เกินราคาที่กระทรวงฯกำหนด
สำหรับราคาไข่คละหน้าฟาร์ม ที่ปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์ขอความร่วมมือกำหนดให้ไม่เกินฟองละ 2.90 บาท จากการตรวจสอบ พบว่าราคาไข่ 1 แพง ห้างสรรพสินค้าจำหน่ายอยู่ที่แพงละประมาณ 98-99 บาท ส่วนราคาขนมเทียนจำหน่าย 10 ชิ้น 60 บาท ขนมเข่ง 10 ชิ้น 48 บาท
นอกจากนี้ ผลไม้ ประเภทส้มและกล้วย ปีนี้ก็ได้ปรับลดราคาลงมา รวมถึงเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมยังไม่มีการปรับราคาขึ้นแต่อย่างใด
วานนี้ (29 ม.ค. 65) ที่บริเวณถนนสายวัฒนธรรม (ถนนคนเดินมารี-หนองแคน) อ.เมือง จ.ศรีสะเเกษ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานเปิดงาน \"มหกรรมวัฒนธรรมศรีสะเกษ สู่ประชาคมอาเชียน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ครั้งที่ 7\" ซึ่งสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้จัดงขึ้น ภายในงานมีกิจกรรม ประกอบด้วย การแสดงวงดนตรีพื้นบ้านจากสถานศึกษา การแสดงศิลปวัฒนธรรมจากสภาวัฒนธรรมอำเภอเครือข่ายวัฒนธรรม การสาธิตแสดงศิลปวัฒนธรรมอาเซียนจากสถาบันการศึกษาสถานศึกษา การสาธิตภูมิปัญญาท้องถิ่น การออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนจากเครือข่ายวัฒนธรรมโดยมีนายอนุรัตน์ ธรรมประจิต นายนพ พงษ์ผลาดิสัย รองผู้ว่าราชการจังหวหัดศรีสะเกษ นายวิทยา วิรารัตน์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ให้การต้อนรับ
นายวิทยา กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่ตระหนักในคุณค่าความสำคัญของศิลปวัฒนธรรม 4 เผ่าจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกันอนุรักษ์สืบสาน สร้างสรรค์ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมท้องถิ่นให้ดำรงอยู่ รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด และสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ตลอดจนสร้างความร่วมมือในด้านต่างๆ โดยใช้มิติทางวัฒนธรรมเป็นสื่อกลาง ซึ่งดำเนินการจัดงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 แล้ว
ผลจากการจัดงานในปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดการนำทุนทางวัฒนธรรมในพื้นที่มาพัฒนาต่อยอด สร้างสรรค์ ให้เกิดการท่องเที่ยวด้านศิลปวัฒนธรรม ส่งเสริมให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยมีการขยายและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเครือข่ายจัดงานระดับอำเภอ ในการจัดกิจกรรมด้านศิลปวัฒนธรรมให้ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ สร้างงาน สร้างรายได้ เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัดศรีสะเกษ นับว่าเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องชาวจังหวัดศรีสะเกษเป็นอย่างยิ่ง
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","30/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ศรีสะเกษ","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220130110849111"], [850,"ผู้ว่าฯ ลำปาง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล เส้นทางเฉลิมพระเกียรติ ย.1 - ย.4ติดตามนวัตกรรมกังหันน้ำพลังงานผลิตกระแสไฟฟ้า","นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล พร้อมตรวจเยี่ยมการดำเนินงานด้านการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ด้านนวัตกรรมกังหันน้ำพลังงานผลิตกระแสไฟฟ้า พร้อมเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล บริเวณเส้นทางเฉลิมพระเกียรติ ย.1 - ย.4
สำหรับเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ย.1 - ย.4 ถือเป็นไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งสำหรับการมาเที่ยวขุนตาล โดยระยะทางตั้งแต่จุดเริ่มต้น ย.1-ย.4 เป็นระยะทางทั้งสิ้น 5 กิโลเมตร โดยแต่ละจุดทางเดินจะมีการถางทางเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าเดินสะดวก ไม่ลำบาก โดยเส้นทางส่วนใหญ่จะเป็นการเดินที่ต้องค่อย ๆ ไต่ระดับความสูงไปเรื่อย ๆ จะมีช่วง เนินวัดใจ ที่บอกเลยว่าวัดใจของจริง เพราะทางค่อนข้างชัน ต้องอาศัยพลังในการโน้มน้าวตัวเองให้เดินต้านแรงโน้มถ่วงของโลก เพื่อขึ้นไปยังยอดขุนตาลที่จุด ย.4 ที่ระดับความสูง 1,375 เมตร
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","30/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สวท.ลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220130111158112"], [851,"วันจ่ายที่ยะลาคึกคัก ประชาชนกำลังซื้อลดลง ใช่จ่ายเท่าที่จำเป็น","วันนี้ 30 ม.ค.65 บรรยากาศวันจ่ายตรุษจีนในพื้นที่จังหวัดยะลา ที่ตลาดสดพิมลชัย อ.เมือง จ.ยะลา พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนออกมาจับจ่ายอาหาร คาว หวาน เครื่องเซ่นไหว้ตรุษจีน ยังคงคึกคัก แม้จะเกิดสถานการณ์คนร้ายป่วนเมือง ลอบวางระเบิด ตั้งแต่เมื่อช่วงคืนของวันที่ 28 ม.ค.65 ต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ ทั้งนี้ประชาชนได้มีความระมัดระวังตัวเองมากยิ่งขึ้น หวั่นสถานการณ์ แต่ยังคงถือปฏิบัติตามประเพณีในเทศกาลตรุษจีน มีการจับจ่ายได้เลือกซื้อของไหว้ เท่าที่จำเป็น เนื่องจากปีนี้ราคาสินค้าต่างๆ ปรับสูงขึ้น ทั้งเนื้อหมู อาหารทะเล ผัก ผลไม้ ขณะที่ขนมเซ่นไหว้ ยังคงราคาเดิม เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยเข้ม
นางสาวเครือวัลย์ สกุลเผือก แม่ค้าขายขนมเข่ง เปิดเผยว่า วันจ่ายปีนี้ลดลงกว่าปีที่ผ่านมา ประชาชนมาจับจ่ายเลือกซื้อเท่าที่จำเป็น ผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และเศรษฐกิจ ประชาชนรายได้ลดลง ส่วนราคาขนมเข่งปีนี้ราคาขายยังคงเดิม กก.ละ 120 บาท ขนมเทียน กก.ละ 200 บาท ทั้งนี้จากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดป่วนเมือง มีผลต่อการออกมาจับจ่ายในในปีนี้ ประชาชนรีบซื้อ รีบกลับบ้าน ระมัดระวังตัวเองมากขึ้น
ด้านนายโชคชัย เซ่งสวัสดิ์ พ่อค้าเขียงหมู เปิดเผยว่า ราคาหมูแพง กำลังซื้อของประชาชนปีนี้น้อยลง โดยทางร้าน หมูติดมัน กก.ละ 150 บาท หมูสามชั้น กก.ละ 180-190 บาท หมูเนื้อแดง กก.ละ 150-160 บาท
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","30/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220130111629115"], [852,"พาณิชย์แม่ฮ่องสอน นำทีมลงพื้นที่บ้านห้วยโป่งกานและบ้านไมโครเวฟ รับฟังความคิดเห็นเกษตรกร ราคาผลผลิตตกต่ำ ขอให้รัฐช่วยเหลือเร่งด่วน","เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2565 นางสาวยุพา นาคา พาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับ นางสาวลักษณาวดี ขำผุด รักษาการหัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟู และพัฒนาเกษตรกรจังหวัดแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ และรับฟังความเห็นจากเกษตรกรประมาณ 20 คน ในพื้นที่บ้านห้วยโป่งกาน ตำบลผาบ่อง และบ้านไมโครเวฟ ตำบลห้วยโป่ง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน พบว่าราคาตกต่ำเนื่องจากมีผลผลิตในหลายจังหวัดออกสู่ตลาดเพิ่มจากปีก่อน มีการนำเข้าผักจากจีนมาจำหน่ายในประเทศ ประกอบกับจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขา การขนส่งสินค้าระยะทางเท่ากัน แต่จังหวัดแม่ฮ่องสอนต้องใช้ระยะเวลามากกว่าจังหวัดอื่นๆ 2 เท่า ทำให้ต้นทุนการขนส่งสูง
เกษตรกรขอให้ภาครัฐช่วยเหลือ ดังนี้ มาตรการเร่งด่วนคือ หาผู้ประกอบการมารับซื้อผลผลิตหน้าสวนในราคา 3 บาท/กก. โดยเกษตรกรรับผิดชอบค่าแรงในการตัดและขนจัดเรียงขึ้นรถบรรทุก, สนับสนุนปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย ยา เป็นต้น ในราคา ที่ถูกลง ในการปลูกพืชฤดูกาลถัดไป ในส่วนของมาตรการระยะยาว ให้ช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ, กองทุนฟื้นฟูและพัฒนา เกษตรกรช่วยเหลือสนับสนุนเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย, ปรับเปลี่ยนพื้นที่ ปลูกผักกาดขาวและกะหล่ำปลี เป็นผักปลอดภัย เพื่อเพิ่มมูลค่า และส่งเสริมเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวหรือส่งเสริมอาชีพ/ปลูกพืชอื่นๆ ที่สร้างรายได้ที่ดีให้เกษตรกร
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","30/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220130112539121"], [853,"ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บูรณาการทุกหน่วยงานพร้อมรองรับผู้โดยสารหลังเปิดให้ลงทะเบียนเข้าประเทศ ","นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลโดย ศบค. ได้ปรับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 สำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร โดยจะเริ่มให้ผู้เดินทางจากทุกประเทศทั่วโลกลงทะเบียนเพื่อขออนุญาตเข้าประเทศไทยโดยระบบ Test & Go ได้อีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในฐานะท่าอากาศยานหลักของประเทศมีความพร้อมในการรองรับผู้โดยสารที่จะกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ภายใต้มาตรการคัดกรองที่เข้มงวดปฏิบัติตามแนวทาง COVID Free Setting ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อร่วมเป็นกลไกสำคัญกับรัฐบาลในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ
โดยบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ ที่ปฏิบัติงานร่วมกัน อาทิ ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน COVID-19 หรือ EOC) ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว สายการบิน ตลอดจนผู้ประกอบการโรงแรม
ในส่วนของการให้บริการขนส่งผู้โดยสารไปยังโรงแรมที่จองล่วงหน้า กรณีรถโรงแรมสำหรับผู้โดยสารระบบ Thailand Pass ไม่เพียงพอ ทอท. ได้จัดเตรียมรถแท็กซี่ที่ผ่านมาตรฐาน Sha plus และ AOT Limousine พร้อมให้บริการผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศที่จองโรงแรมไว้ล่วงหน้าตามมาตรการที่ ศบค. กำหนด ภายใต้มาตรการควบคุมการส่งผู้โดยสารที่เข้มงวด
สำหรับความพร้อมด้านบุคลากร ผู้ปฏิบัติงานจากทุกภาคส่วนที่ปฏิบัติงาน ณ ทสภ. ขณะนี้อยู่ระหว่างการฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 ซึ่งคาดว่า ปลายเดือนกุมภาพันธ์จะสามารถฉีดได้ครบตามเป้าหมายที่ตั้งไว้จำนวน 25,000 คน นอกจากนั้นยังมีการสุ่มตรวจคัดกรองผู้ปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยงด้วยวิธี ATK เป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ
สำหรับตัวเลขผู้โดยสาร ตามที่รัฐบาลมีนโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ถึงวันที่ 29 มกราคม 2565 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวมทั้งสิ้น 381,871 คน แบ่งเป็นผู้เดินทางผ่านระบบ Test & Go จำนวน 317,754 คน ระบบ Sandbox จำนวน 22,918 คน ระบบ Quarantine 7 วัน จำนวน 30,418 คน Quarantine 10 วัน จำนวน 9,950 คน และ Quarantine 14 วัน จำนวน 831 คน
","30/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220130203605320"], [854,"เยาวราชคึกคัก ประชาชนจับจ่ายสินค้ากันอย่างต่อเนื่องในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยเฉพาะร้านทองถึงแม้จะมีราคาสูง ","
เข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีน ถือเป็นวันปีใหม่ของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน ประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าเพื่อเตรียมประกอบในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งวันนี้บรรยากาศร้านค้าย่านเยาวราชคึกคัก ประชาชนเดินทางมาจับจ่ายซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่เดินทางมาเลือกซื้อของสำหรับทำพิธีกงเต๊กในหลากหลายรูปแบบ เช่น เสื้อผ้า กระดาษเงินกระดาษทอง หรือแม้กระทั้งสิ้นค้าแบรนด์เนม ที่ถูกทำในรูปแบบกระดาษก็มี เพื่อให้ลูกหลานเลือกเผาส่งไปให้บรรพบุรุษผู้ล่วงลับ ขณะเดียวกันที่ร้านทองที่เยาวราช ประชาชนต่อแถวเพื่อรอซื้อทองเป็นของขวัญช่วงเทศกาล ถึงแม้ว่าจะมีราคาที่สูงกว่าปีที่ผ่านมา โดยในแต่ละร้านมีมาตรการป้องกันโควิด-19 เป็นอย่างดี
นางรินรดา วรรณศรี ประชาชนที่ต่อแถวรอซื้อทอง เล่าว่า ปีนี้ถึงแม้ว่าราคาทองจะสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา แต่ตนก็เลือกที่จะซื้อทองเพื่อเก็บไว้ในอนาคต นอกจากทองแล้วสิ่งของอื่นๆ จำพวกของใช้ที่ราคาสูงขึ้นก็จะเลือกซื้อตามความจำเป็นเท่านั้น ส่วนของไหว้ตรุษจีนปีนี้ไม่ได้ติดเรื่องราคาแต่อย่างใดเพราะมีแค่ปีละ 1 ครั้งเท่านั้น
นอกจากนี้ ประชาชนยังสนใจเลือกซื้อเสื้อผ้าสีแดงไว้ใส่ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ และเตรียมซื้อซองแดงเพื่อใส่อั่งเปามอบให้กับลูกหลานเพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นขวัญถุงของผู้รับด้วย
วันที่ 3 ของการจัดงานเกษตรแฟร์ ประจำปี 2565 ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน มีผู้สนใจเข้าชมงานและเลือกซื้อสินค้าอย่างคึกคัก ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด เกษตรวิถีใหม่ หลังมหันตภัยโควิด โดยเป็นการจัดงานตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด ผู้ที่จะเข้างานต้องแสดงผลการรับวัคซีนแก่เจ้าหน้าที่และเช็คอินผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อม
ขณะที่ภายในงานแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ เช่น โซนสินค้าเกษตรอุปโภคบริโภค โซนสัตว์เลี้ยง โซนต้นไม้และเครื่องมืออุปกรณ์การเกษตร โซนร้านค้าหน่วยงานภาครัฐและแฟรนไชส์ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมจากทางมหาวิทยาลัย อาทิ เวทีการแสดงของนิสิต ณ ลานหน้าอาคารเทพศาสตร์สถิตย์ ตั้งแต่เวลา 18.00 น.-21.00 น. โดยมีการเข้าร่วมกว่า 10 องค์กร เช่น KU band โขนละคอน ดนตรีไทย นิสิตอีสาน ส่งเสริมและเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมภาคเหนือ เป็นต้น
ผู้สนใจสามารถเข้าชมงานได้จนถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ หรือเข้าชมงานแบบเสมือนจริง 360 องศา รวมทั้งสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์ kasetfair.ku.ac.th
","30/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","กรุงเทพมหานคร","สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220130195550297"], [856,"รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมประชุม คบจ.ยโสธร รับทราบสถานการณ์เศรษกิจและปัญหาการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ","
วันที่ 28 มกราคม 2565 เวลา 18.30 น.นายอาคม เติมพิทยา ไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะฯ เข้าร่วมประชุม คณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัดยโสธร โดยมีนายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมด้วย นายชัยวัฒน์ แสงศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร คณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัดยโสธร (คบจ.ยโสธร) ประธานหอการค้าจังหวัด ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ประธานอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ประชาสัมพันธ์จังหวัด และเจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยว ร่วมรับประชุมรับฟังนโยบาย ที่ห้องประชุม ข้าวหอม มะลิอินทรีย์ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดยโสธร
โดยที่ประชุมได้รายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ประจำปี 2565 ทั้งงบประมาณที่เป็นรายจ่ายประจำ รายจ่ายลงทุน ผลการจัดเก็บ รายได้ของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงการคลัง สถานการณ์การรับ ฝากเงิน สินเชื่อและ NPL ผลการดำเนินงานตามมาตรการสินเชื่อ ของสถาบัน การเงินในสังกัดกระทรวงการคลัง
ด้านปัญหาอุปสรรคของการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ เช่น พื้นที่ดำเนินโครงการซ้ำซ้อน มีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ สถานที่ก่อสร้าง ไม่พร้อมดำเนินการ การจัดซื้อจัดจ้าง ไม่แบ่งงวดงานเพื่อเบิกจ่าย งบประมาณ หน่วยงานขาดผู้มีความรู้ในการคำนวณราคาก่อสร้าง ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า
ส่วนปัญหาและอุปสรรคของการจ่ายสินเชื่อของธนาคารต่างๆ เช่น ธกส. โครงการธุรกิจชุมชนสร้างไทย ที่ผู้ยื่นขอกู้มีแผนการดำเนินธุรกิจ ไม่ชัดเจน ไม่จัดทำระบบบัญชี รายรับ-รายจ่าย ให้เป็นปัจจุบัน ตลอดจน คณะกรรมการขาดความเชื่อมั่นจากสมาชิกจึงมีการคัดค้านการขอกู้เงิน ส่วนธนาคารออมสิน เช่น สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระ/ผู้มีรายได้ประจำ ทีได้รับผลกระทบจากโควิด-19, โครงการธนาคารประชาชน เพื่อผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีปัญหาเนื่อง จากลูกหนี้มีภาระหนี้สินสูงเกินความสามารถในการชำระหนี้ ขาดหลักประกันในการขอสินเชื่อ
พร้อมนี้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ให้คำแนะนำแนวทางการแก้ไขปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐล่า ช้า เช่น ให้ตรวจสอบพื้นที่ให้ชัดเจนก่อนเสนอของบประมาณ ให้มีการบริหารสัญญาจ้างโดยแบ่งเป็นงวดงานเพื่อเบิกจ่ายงบประมาณอีกทั้งขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่มีบุคลากรมีความสามารถในการคำนวณราคากลางการก่อสร้างทั้งเทคนิคด้านช่างและกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาช่วยงานและจัดฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานให้มีความรู้ในด้านที่ขาดแคลน
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังได้รับทราบ ผลการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังในพื้นที่จังหวัดยโสธร เช่น สำนักงานคลังจังหวัด สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ และสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ อีกด้วย
ส.ปชส.ยโสธร/ข่าว/ 30 ม.ค.65
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","30/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ยโสธร","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220130163744205"], [857,"นครนายก ประมูลหมายเลขทะเบียนรถเลขสวย","สำนักงานขนส่งจังหวัดนครนายก เปิดและปิดการประมูลหมายเลขทะเบียนรถเลขสวย ในหมวด กฉ รวยรุ่ง พุ่งกระฉูด วันสุดท้าย วันที่ 30 มกราคม 2565 ณ ห้องประชุมราชพฤกษ์ โรงแรมชลพฤกษ์ รีสอร์ท ตำบลบ้านพร้าว อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก
สำนักงานขนส่งจังหวัดนครนายก เปิดการประมูลหมายเลขทะเบียนรถเลขสวย ในหมวด กฉ รวยรุ่ง พุ่งกระฉูด เป็นการประมูลหมายเลขทะเบียนสวยของจังหวัดนครนายก โดยมีนายอุดมเดช ราษฎร์นุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก กล่าวต้อนรับ นางสาวทวีพร เพิ่มทวี ขนส่งจังหวัดนครนายก กล่าวรายงาน และนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ประธาน กล่าวเปิดการประมูล จากนั้น มีกิจกรรมการเดินแบบโชว์ ป้ายทะเบียนเลขสวย และ เริ่มเปิดประมูลผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ต
สำหรับจังหวัดนครนายก ได้มีการประมูลหมายเลขทะเบียนรถมาแล้ว 3 ครั้ง มียอดรายได้รวมทั้งสิ้น 45,238,500 บาท ซึ่งรายได้จากการประมูลได้นำเข้าสู่กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เพื่อนำไปใช้ในการป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน การประมูลครั้งนี้ เป็นการจัดประมูลเป็นครั้งที่ 4 หมวดอักษร กฉ รวยรุ่ง พุ่งกระฉูด เป็นการประมูลทางอินเตอร์เนตเพียงช่องทางเดียว เป็นครั้งแรกของจังหวัดนครนายกมีผู้สนใจลงทะเบียนจำนวน 394 ราย รวมเป็นเงิน 3,635,010 บาท.
ส.ปชส.นครนายก ภาพ / ข่าว
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","30/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","นครราชสีมา","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครนายก","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220130164546211"], [858,"ชาวไทยเชื้อสายจีนในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ต่างออกอมาจับจ่ายซื้ออาหารสด และผลไม้มงคล เครื่องเซ่นไหว้กันอย่างต่อเนื่อง แต่ยอดขายในปีนี้ไม่ดีเท่าช่วงเทศกาลตรุษจีนปีที่ผ่านๆ มา","วันนี้ 30 ม.ค.65 บรรยากาศวันจ่าย ในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน ที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ชาวไทยเชื้อสายจีนต่างออกมาจับจ่ายซื้ออาหารสด และผลไม้มงคล เครื่องเซ่นไหว้กันอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่คึกคัก ทำให้ยอดขายในปีนี้ไม่ดีเท่าช่วงเทศกาลตรุษจีนปีที่ผ่านมาโดยวันนี้ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง ตามแผงผัก ผลไม้ และร้านขนมมงคล เครื่องเซ่นไหว้บูชา ซึ่งในวันนี้เป็นวันจ่ายในเทศกาลตรุษจีนพบว่าบรรยากาศการจับจ่ายซื้อขายเครื่องเซ่น ไหว้ต่าง ๆเช่น เครื่องเซ่นไหว้กงเต๊ก กระดาษเงิน กระดาษทอง เงิน ทอง อาหารแห้ง หมู ไก่ ผัก ผลไม้ ที่จะนำไปเซ่นไหว้ให้กับบรรพบุรุษ ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะถึงนี้เป็นไปด้วยความเงียบเหงามีลูกค้าบางตากว่าปีที่ผ่านมา
เจ้าของ ร้านขายขนมมงคล ในเขตเทศบาลเมืองเบตง บอกว่า ก่อนวันตรุษจีนปีนี้ ได้สั่งซื้อสินค้าขนมมงคลที่สำหรับการเซ่นไหว้ในช่วงเทศกาลตรุษจีนจีนมาจำหน่ายลดลง สาเหตุมาจากความไม่มั่นใจกับสถานการณ์การแพร่ระบาดประกอบกับประชาชนได้รับผลกระทบจาก การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 มากว่า 2 ปีทำให้ ขาดสภาพคล่องส่วนทางด้านเศรษฐกิจ รายได้ก็ลดลง ส่งผลให้การจำหน่ายซื้อของเครื่องเซ่นไหว้ของแต่ละครอบครัวลดลง โดยจะเลือกซื้อสิ่งของที่จำเป็นและที่ใช้สำหรับพิธีไหว้เจ้า และบรรพบุรุษเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย โดยพบว่าสินค้าบางประเภท ราคาปรับเพิ่มขึ้น เช่นเทียน กระดาษเงินกระดาษทอง ปรับขึ้น 5 บาท ส่วนสิ้นค้าอื่นๆ ราคาคงเดิม
ขณะที่พ่อค้าผลไม้ บอกว่า ตนเองไม่ค่อยได้รับผลกระทบเท่าไหร่นัก เนื่องจากผลไม้ที่นำมาขายเป็นพวกส้ม องุ่นแก้วมังกร ซึ่งช่วงนี้พอขายได้และขายราคาไม่แพงเพราะเข้าใจถึงเศรษฐกิจในช่วงนี้ดี เลยไม่ปรับขึ้น ยังคงขายราคาเดิมเพื่อที่จะให้ประชาชนได้เซ่นไหว้บรรพบุรุษในวันตรุษจีน ส่วนราคาผลไม้มงคลที่ใช้สำหรับการไหว้ในวันตรุษจีนโดยเฉพาะผลไม้มงคล 5 อย่างที่ขาดไม่ได้ เช่น กล้วยหอมหวีละ 80 บาท ส้มโชกุนเบตงกิโลกรัมละ 60 บาท ส้มสายน้ำผึ้งกิโลกรัมละ 60 บาท ส้มแมนดาริน กิโลกรัมละ 120 - 130 บาท แอปเปิ้ล ลูกละ 10 - 35 บาท , สาลี่กิโลกรัม 70 80 บาท , องุ่นกิโลกรัมละ 180 200 บาท ซึ่งปรับราคามาแล้วเฉลี่ยกิโลกรัมละ 10 - 20 บาท
โดยบรรยากาศทั่วไปพบว่าประชาชนที่มาจับจ่ายในตลาดสดเทศบาลเมืองเบตงปีนี้ ไม่คึกคักเท่าที่ควร ถือว่าการจับจ่ายซื้อของเครื่องเซ่นไหว้ในช่วงเทศกาลตรุษจีนลดน้อยลง สาเหตุมาจากปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง รวมถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในระลอกใหม่นี้ด้วย เลยทำให้ประชาชนวิตกกังวลในเรื่องปัญหาเศรษฐกิจเลยทำให้การจับจ่ายลดลงเพื่อเป็นการประหยัดหากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัศโควิด-19 หลังเทศกาลตรุษจีน เนื่องจากมีการเดินทางและการพบปะคนในครอบครัวรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนหากไม่มีการป้องกันที่ดี อาจเกิดการระบาดและเกิดการจำกัดพื้นที่
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","30/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สวท.เบตง จ.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220130164706212"], [859,"จังหวัดนครสวรรค์ กระตุ้นเศรษฐกิจ เปิดเส้นทางการท่องเที่ยว เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก","จังหวัดนครสวรรค์ นำโดย นางนิตยา เหลืองสุรภีสกุล อดีตสมาชิกกิ่งกาชาดอำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ ให้การต้อนรับ คณะนักท่องเที่ยว วัยเก๋าสร้างสุข บ้านหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 24 คน ลงพื้นที่ศึกษาดูงาน ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก
เปิดเส้นทางการค้า การลงทุน เส้นทางการท่องเที่ยว เมืองสี่แคว จังหวัดนครสวรรค์ มุ่งสู่ชายแดนไทย-เมียนมา แม่สอด-เมียวดี เขตเศรษฐกิจพิเศษตาก เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทย เน้นย้ำ! มาตรการ ท่องเที่ยววิถีใหม่แบบ New Normal กระตุ้นเศรษฐกิจบนฐานการใช้จ่าย เพื่อชื่นชมความงามทางธรรมชาติในช่วงฤดูหนาว เที่ยวไร่เตรยาวรรณกาแฟ ชมพิพิธภัณฑ์ของดีจังหวัดตาก ร่วมกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไหว้พระ 9 วัด กราบนมัสการ พระ?มหามัยมุนีองค์?จำลอง จากเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ที่วัดไทยวัฒนาราม กราบไหว้ขอพร พระพุทธไสยาสน์ พระนอนตาหวาน องค์ใหญ่ ความยาวประมาณ 40 เมตร กราบไหว้ขอพรองค์เทพทันใจ และองค์ท่านเจ้าพ่อพะวอ นายด่านปราการแรกของไทย ในรัชสมัย สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่หมู่คณะ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับกลุ่มสมาชิกแม่บ้าน เจ้าหน้าที่ อสม. วัยเก๋าสร้างสุข และตัวแทนเยาวชนคนรุ่นใหม่
ก่อนกลับไปรับใช้ ปฏิบัติหน้าที่จิตอาสา ออกหน่วยบรรเทาทุกข์ บำรุงสุข ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ให้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น สร้างความรัก ความสามัคคีให้กับหมู่คณะ องค์กร และหน่วยงาน ในศุภวารดิถีปีใหม่ อีกด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","30/1/2022","ภาคตะวันตก","ตาก","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตาก","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220130170601223"], [860,"หอการค้าแพร่ จับมือดีป้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดแพร่ ควบคู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์","นายปัญจพล ประสิทธิโศภิน ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดแพร่ เข้าพบกับนางสาวชฎาธช จันทนพันธ์ หัวหน้างานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ DEPA สาขาภาคเหนือตอนบน เพื่อหารือการส่งเสริมการพัฒนาด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของจังหวัดแพร่
ซึ่งในปี 2565 หอการค้าจังหวัดแพร่ มีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ Digital Economy เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดแพร่ ควบคู่ไปกับ Creative Economy หรือเศรษฐกิจสร้างสรรค์โดยได้วางแนวทางการพัฒนาทั้งระยะสั้น โดยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการนำระบบดิจิทัลเข้ามาใช้ในการดำเนินธุรกิจให้มากขึ้นผ่านคูปองสนับสนุน ในระยะกลางจะวางแผนเพื่อสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ หรือ Business Ecosystem ให้เอื้อต่อการทำงานของนักธุรกิจรุ่นใหม่ Digital Nomads ที่นิยมบรรยากาศความสงบของเมืองและค่าครองชีพต่ำ
ส่วนในระยะยาว คือ การวางแผนเมืองให้สามารถมีแต้มต่อในการลงทุน อาทิ สิทธิประโยชน์ทางภาษีและสิทธิประโยชน์จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI หากเมื่อมีการลงทุนจะมีการจ้างงาน การหมุนเวียนของเงิน ลูกหลานของคนในพื้นที่ต้องการที่จะกลับมาทำงานที่ภูมิลำเนา และผลลัพธ์อื่น ๆ ที่จะตามมาอีกมากมาย จึงนับเป็นการเริ่มต้นเศรษฐกิจดิจิทัลกับจังหวัดแพร่ ที่ต้องเริ่มวางแผนนับตั้งแต่วันนี้
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","30/1/2022","ภาคเหนือ","แพร่","สวท.แพร่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220130171005226"], [861,"สวนสัตว์สงขลา จัดแคมเปญรับตรุษจีน ชวนเที่ยวสวนสัตว์ สร้างพลังชีวิต เสริมสิริมงคลรับปีเสือ","สวนสัตว์สงขลาจัดแคมเปญรับตรุษจีน ชวนเที่ยวสวนสัตว์สงขลาไหว้เทพเจ้าและเลี้ยงเสือ สร้างพลังชีวิต สร้างสิริมงคล รับปีเสือ ระหว่างวันที่ 31 มกราคม -1 กุมภาพันธ์ 2565 นี้
สำหรับการจัดกิจกรรม เทศกาลวันตรุษจีนภายในสวนสัตว์สงขลา มีกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 31 มกราคม ถึง 1 กุมภาพันธ์ 2565 นี้ โดยได้จัดทำซุ้มเจ้าพ่อเสือให้บริการนักท่องเที่ยวสำหรับไหว้เทพเจ้า อันถือเป็นการสร้างพลังและเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต เพื่อต้อนรับปีเสือ พร้อมรับถ่างหยวน เสริมโชคลาภ ต้อนรับนักท่องเที่ยวบริเวณด้านหน้าส่วนแสดงเสือ เพื่อให้ได้เข้ามามีส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเป็นพี่เลี้ยงเสือในปีเสือทอง
โดยสามารถเลือกอุปถัมภ์ผ่านกล่องมงคลสีแดง จำนวน 3 กล่อง คือ
กล่องที่ 1 เลี้ยงเสือ สร้างพลังชีวิต
กล่องที่ 2 เลี้ยงเสือ สร้างสิริมงคล
กล่องที่ 3 เสริมโชคลาภ รับถ่างหยวน
พร้อมทั้งได้จัดเซียมซี สำหรับทำนายดวงชะตานักท่องเที่ยว ที่เข้ามาเที่ยวชมสวนสัตว์สงขลา ตามความเชื่อของคนจีน การไหว้เทพเจ้าจะสามารถช่วยลดทุกข์และลดเคราะห์กรรมได้ โดยเฉพาะคนที่เกิดปีชง จะช่วยทำให้เบาบางลง
สวนสัตว์สงขลา จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนเข้ามาเที่ยวชมสวนสัตว์ในช่วงเทศกาลวันตรุษจีนนี้ ซึ่งนอกจากจะได้เที่ยวชมสวนสัตว์แล้ว ยังได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเป็นพี่เลี้ยงเสือ ผ่านกล่องมงคล อันจะเป็นการช่วยเสริมสิริมงคล เสริมดวงชะตา โชคลาภ และปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดีออกไปจากชีวิต
สำหรับบรรยากาศที่สวนสัตว์สงขลาซึ่งเป็นช่วงหยุดยาวในเทศกาลตรุษจีน มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิมจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะที่บริเวณส่วนแสดงเสือ ทางสวนสัตว์ได้นำมาสคอตเสือและสิงโตคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวบริเวณซุ้มเจ้าพ่อเสือเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกรวมทั้งมีการแสดงความสามารถของเสือโคร่งทั้ง 2 ตัวในการให้อาหาร สร้างความชื่นชมและชื่นชอบให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
นายวันชัย ตันวัฒนะ ผู้อำนวยการสวนสัตว์สงขลา กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน และมีวันหยุดยาว ทางสวนสัตว์สงขลาก็ได้จัดกิจกรรมทำบุญเสริมสิริมงคลรับปีเสือ นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชมสวนสัตว์สงขลาในช่วงนี้ก็เข้ามาดูโชว์เสือบริเวณส่วนแสดงเสือของสวนสัตว์สงขลาและทางสวนสัตว์สงขลาได้จัดทำซุ้มเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ทำบุญส่งเสริมมงคลชีวิตเพื่อต้อนรับปีเสือในช่วงนี้นักท่องเที่ยวค่อนข้างหนาแน่นเป็นช่วงของวันหยุดยาว
อีกทั้ง จังหวัดสงขลาเรามีการฉีดวัคซีนมากกว่า ร้อยละ 76 และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็เริ่มออกมาท่องเที่ยวกัน ก็อยากจะเชิญชวนพี่น้องชาวจังหวัดสงขลาและจังหวัดใกล้เคียงได้เข้ามาเที่ยวชมสวนสัตว์สงขลา เมื่อได้รับวัคซีนครบแล้วก็จะมีภูมิคุ้มกันเข้ามาท่องเที่ยวเพื่อให้เศรษฐกิจสงขลาดีขึ้น
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","30/1/2022","ภาคใต้","สงขลา","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220130171447228"], [862,"จังหวัดนครสวรรค์ กระตุ้นเศรษฐกิจ เปิดเส้นทางการท่องเที่ยว เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก","จังหวัดนครสวรรค์ กระตุ้นเศรษฐกิจ เปิดเส้นทางการท่องเที่ยว เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก วัยเก๋าสร้างสุข จังหวัดนครสวรรค์ นำโดย นางนิตยา เหลืองสุรภีสกุล อดีตสมาชิกกิ่งกาชาดอำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ ให้การต้อนรับ คณะนักท่องเที่ยว วัยเก๋าสร้างสุข บ้านหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 24 คน ลงพื้นที่ศึกษาดูงาน ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก
เปิดเส้นทางการค้า การลงทุน เส้นทางการท่องเที่ยว เมืองสี่แคว จังหวัดนครสวรรค์ มุ่งสู่ชายแดนไทย-เมียนมา แม่สอด-เมียวดี เขตเศรษฐกิจพิเศษตาก เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทย เน้นย้ำ! มาตรการ ท่องเที่ยววิถีใหม่แบบ New Normal กระตุ้นเศรษฐกิจบนฐานการใช้จ่าย เพื่อชื่นชมความงามทางธรรมชาติในช่วงฤดูหนาว เที่ยวไร่เตรยาวรรณกาแฟ ชมพิพิธภัณฑ์ของดีจังหวัดตาก
ร่วมกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไหว้พระ 9 วัด กราบนมัสการ พระ?มหามัยมุนีองค์?จำลอง จากเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ที่วัดไทยวัฒนาราม กราบไหว้ขอพร พระพุทธไสยาสน์ พระนอนตาหวาน องค์ใหญ่ ความยาวประมาณ 40 เมตร กราบไหว้ขอพรองค์เทพทันใจ และองค์ท่านเจ้าพ่อพะวอ นายด่านปราการแรกของไทย ในรัชสมัย สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่หมู่คณะ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับกลุ่มสมาชิกแม่บ้าน เจ้าหน้าที่ อสม. วัยเก๋าสร้างสุข และตัวแทนเยาวชนคนรุ่นใหม่
ก่อนกลับไปรับใช้ ปฏิบัติหน้าที่จิตอาสา ออกหน่วยบรรเทาทุกข์ บำรุงสุข ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ให้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น สร้างความรัก ความสามัคคีให้กับหมู่คณะ องค์กร และหน่วยงาน ในศุภวารดิถีปีใหม่ อีกด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","30/1/2022","ภาคตะวันตก","ตาก","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตาก","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220130172244231"], [863,"รมว.คลังเปิดมหกรรมวัฒนธรรมศรีสะเกษสู่ประชาคมอาเซียนประจำปี 2565 แจกโครงการ คนละครึ่งเฟส 4","ที่บริเวณถนนสายวัฒนธรรม (ถนนคนเดินมารี-หนองแคน) อำเภอเมืองศรีสะเกษ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดมหกรรมวัฒนธรรมศรีสะเกษสู่ประชาคมอาเขียน ประจำปี 2565 ครั้งที่ 7 โดยมี นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต และนายนพ พงศ์ผลาดิสัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายประหยัด ถิลา วัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมให้การต้อนรับ และ นายวิทยา วิรารัตน์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ เป็นผู้กล่าวรายงาน พร้อมนำคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมอำเภอทั้ง 22 อำเภอ และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยมีคณะผู้บริหารจากกระทรวงการคลัง นางสาวศิริกันยา ศรศิลป์ คลังจังหวัดศรีสะเกษ ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ พ.ต.อ.ณัฐกิตติ์ เจริญเกษสุวรรณ์ ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ นายสมพร จึงศิรกุลวิทย์ รองนายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ และหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดศรีสะเกษภาครัฐและเอกชน ข้าราชการและประชาชนร่วมในพิธิเปิดเป็นจำนวนมาก
นายวิทยา วิรารัตน์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จังหวัดศรีสะเกษ ได้จัดงานมหกรรมวัฒนธรรมศรีสะเกษสู่ประชาคมอาเขียนต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 แล้ว ผลจากการจัดงานในปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดการนำทุนทางวัฒนธรรมในพื้นที่มาพัฒนาต่อยอด สร้างสรรค์ ให้เกิดการท่องเที่ยวด้านศิลปวัฒนธรรม ส่งเสริมให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยมีการขยายเครือข่ายจัดงานในระดับอำเภอเพิ่มขึ้น ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมด้านศิลปวัฒนธรรมให้ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษสร้างงาน สร้างรายได้ เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัดศรีสะเกษ นับว่าเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องชาวจังหวัดศรีสะเกษเป็นอย่างยิ่ง สำหรับในปีนี้ จังหวัดศรีสะเกษได้กำหนดจัดงาน จำนวน 8 ครั้ง ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2565 โดยกำหนดจัดงานในพื้นที่อำเภอเมืองศรีสะเกษ ในวันเสาร์ที่ 15 , 22 ,29 มกราคม และ 25 กุมภาพันธ์ 2565 ณ บริเวณถนนสายวัฒนธรรม (ถนนคนเดินมารี-หนองแคน) และกำหนดจัดกิจกรรมในพื้นที่ตลาดวัฒนธรรมอำเภออื่น 4 ครั้ง ได้แก่ วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ศูนย์หัตถวิถีมณีวิภา อำเภอกันทรลักษ์ วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ตลาดวัฒนธรรมอำเภอศรีรัตนะ วันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ ณ ตลาดวัฒนธรรมวัดไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ และวันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ตลาดวัฒนธรรมอำเภอกันทรารมย์ โดยมีกิจกรรม ประกอบด้วย การแสดงวงดนตรีพื้นบ้านจากสถานศึกษา การแสดงศิลปวัฒนธรรมจากสภาวัฒนธรรมอำเภอ เครือข่ายวัฒนธรรม การสาธิตแสดงศิลปวัฒนธรรมอาเซียนจากสถาบันการศึกษา การสาธิตภูมิปัญญาท้องถิ่น การออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนจากเครือข่ายวัฒนธรรม
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จากการมาร่วมงานของจังหวัดศรีสะเกษหลายครั้ง ได้พบว่า มีการส่งเสริมให้ประชาชนรักษาศิลปวัฒนธรรม 4 เผ่า และอนุรักษ์ สืบสานสร้างสรรค์ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมท้องถิ่นเป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องผ้าเบญจศรี อาหารประจำถิ่น สินค้า otop ที่ใช้วัสดุพื้นถิ่น การแสดงศิลปวัฒนธรรมต่างๆ ทำให้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก โดยใช้มิติทางวัฒนธรรมเป็นสื่อกลาง รวมทั้งได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดด้วย เป็นการสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ซึ่งรัฐบาลก็ได้ออกนโยบายช่วยเหลือภาคประชาชนเป็นระยะๆ ขณะนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการ \"คนละครึ่งเฟส 4\" สนับสนุนให้นำเงินไปใช้จ่ายค่าอาหาร, เครื่องดื่ม, สินค้าทั่วไป, บริการนวดสปา, ทำผม, ทำเล็บ และบริการขนส่งสาธารณะ ยกเว้นสลากกินแบ่ง, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ยาสูบ และสินค้าหรือบริการ และในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นี้ ก็จะช่วยเหลือภาคประชาชนอีก สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการ คนละครึ่งเฟส 4 วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 เปิดให้ลงทะเบียนร่วมโครงการ จนกว่าจะครบจำนวนประมาณ 1 ล้านสิทธิ์ ใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ. ถึงวันที่ 30 เม.ย. 65 เพื่อรับวงเงิน 1,200 บาทต่อคน ใช้ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน และ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป ประชาชนผู้ได้รับสิทธิ์โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 (คนเดิม) ต้องยืนยันสิทธิ์เพื่อเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ผ่านแอปพลิเคชัน \"เป๋าตัง\" และต้องเริ่มใช้สิทธิ์ให้หมด ภายในวันที่ 28 ก.พ. 65 หากพ้นกำหนดจะถูกตัดสิทธิ์ และอาจจะนำสิทธิ์ที่เหลือไปพิจารณาเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้ง
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
จังหวัดศรีสะเกษ โดยพาณิชย์จังหวัดเปิดจุดขายเนื้อหมูราคาถูกช่วยเหลือประชาชน เตือนพ่อค้าแม่ค้าห้ามขายสินค้าเกินราคาโทษหนักจำคุก 7 ปีปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ให้จำหน่ายสินค้าตามราคาที่เป็นไปตามกลไกของตลาด
ที่บริเวณตลาดสดเทศบาล 1 ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายชัยรัตน์ บุญส่ง พาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ตนพร้อมด้วย นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต รอง ผวจ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ นางฐพัชร์รดา ธนินทร์จิรานนท์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดศรีสะเกษ และคณะส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ออกทำการตรวจติดตามการจำหน่ายสินค้าต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจำหน่ายเนื้อหมู ไก่ ไข่ เนื่องจากว่า ขณะนี้เนื้อหมู ไข่ ไก่ มีการปรับราคาสูงขึ้นตามกลไกของตลาด พบว่า ประชาชนก็ยังมาจับจ่ายซื้อสินค้ากันตามปกติ เนื่องจากว่า เป็นสินค้าจำพวกอาหารที่จำเป็นต้องใช้ในการทำเป็นอาหารเพื่อจำหน่ายและต้องกินเป็นอาหารประจำวัน
นายชัยรัตน์ บุญส่ง พาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยต่อไปว่า โดยในส่วนของราคาหมูขณะนี้ทางกระทรวงพาณิชย์ของเราได้เปิดจุดเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคในราคาหมูแดงกิโลกรัมละ 150 บาท ตอนนี้มีกำหนดเปิดจุดถึงวันที่ 31 ม.ค. 2565 ซึ่งในส่วนตรงนี้ต้องขอบอกเลยว่า เราใช้เงินของทางราชการชดเชยราคาลงไปในส่วนของพ่อค้าที่จำหน่ายราคาปกติกิโลกรัมละ 200 บาท พ่อค้าต้องมาจำหน่ายหมูแดงในราคากิโลกรัมละ 150 บาทมีส่วนต่าง 50 บาทที่เราจะต้องชดเชยลงไป และในแต่ละร้านอาจจะจำหน่ายราคาเนื้อหมูไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับต้นทุนของเขา ในส่วนของ จ.ศรีสะเกษเรามีจุดจำหน่ายจำนวนทั้งสิ้น 7 จุด ด้วยกัน ซึ่งกระจายอยู่ในเขตอำเภอเมือง 1 จุด อ.กันทรารมย์ 3 จุด อ.กันทรลักษ์ 1 จุด อ.ขุนหาญ 1 จุด และ อ.อุทุมพรพิสัยอีก 1 จุด
ซึ่งปรากฏว่าได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการด้วยดี ซึ่งขณะนี้เราก็พยายามจะหาร้านเข้าร่วมโครงการเพิ่มเติมเพื่อเปิดจุดจำหน่ายสินค้าให้กับผู้บริโภคเพิ่มขึ้นในจุดที่ใกล้บ้าน ตนขอฝากถึงพ่อค้าแม่ค้าในการที่จำหน่ายสินค้าไม่ว่าจะเป็นหมูไข่ไก่หรือสินค้าต่าง ๆ ขอให้จำหน่ายในราคาที่เหมาะสม ราคาอาจจะสูงขึ้นก็ขอให้เป็นไปตามกลไกของตลาด และขอให้มีการติดป้ายราคาที่ชัดเจนซึ่งในส่วนของพี่น้องผู้บริโภคเมื่อไปซื้อสินค้าก็ขอให้ดูป้ายราคาด้วยหรือรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ขอให้แจ้งสายด่วน 1569 ได้ในส่วนนี้ทางเราจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมกับพี่น้อง หากมีการขายสินค้าเกินราคาทางผู้ประกอบการจงใจหรือมีเหตุจำหน่ายให้สูงกว่าราคา ทางราชการมีมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปีและปรับไม่เกิน 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
ที่ห้องประชุมพระมงคลมิ่งเมือง ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะลงพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ ติดตามและมอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติงานแก่คณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัดอำนาจเจริญ โดยมี นายทวีป บุตรโพธิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมด้วย นายฤทธิสรรค์ เทพพิทักษ์ ปลัดจังหวัดอำนาจเจริญ นายภุชงค์ เศรษฐยานนท์ คลังจังหวัดอำนาจเจริญ คณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัดอำนาจเจริญ (คบจ.อำนาจเจริญ) และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมและรับฟังนโยบายในครั้งนี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ และให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งมอบนโยบายรัฐบาลเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ ทั้งโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการคนละครึ่งเฟสที่ 4 วงเงิน 1,200 บาทต่อคนตลอดทั้งโครงการ และใช้จ่ายวันละ 150 บาท โดยผู้ที่เคยได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ซึ่งมีประมาณ 28 ล้านสิทธิ ให้กดยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 และใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 เพื่อให้ประชาชนได้มีความสุขและกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลตรุษจีนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ส่วนผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียนรับสิทธิโครงการ จำนวน 1 ล้านสิทธิ ให้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 จนครบจำนวน โดยลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์คนละครึ่ง/แอปพลิเคชันเป๋าตัง และใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 และในปี 2565 ได้สั่งการมอบหมายหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงการคลังและสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชนเป็นพันธกิจหลักด้วย
จากนั้น เวลา 14.30 น. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ ลงพื้นที่ศูนย์เรียนรู้ผักเกษตรอินทรีย์เมืองธรรมเกษตรไร่ภูตะวันออร์แกนิคฟาร์ม บ้านหนองเม็ก ตำบลคึมใหญ่ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานแปลงใหญ่ ที่ทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ได้สนับสนุนและให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์แปลงใหญ่บ้านหนองเม็ก โดยมี นางจำปา สุวะไกร ประธานแปลงใหญ่ผักอินทรีย์บ้านหนองเม็ก ไร่ภูตะวันออร์แกนิคฟาร์ม เป็นผู้นำเสนอผลการดำเนินงานของกลุ่ม จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เยี่ยมชม การผลิตผักอินทรีย์ พร้อมร่วมปลูกผักอินทรีย์ กับนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองเม็ก ซึ่งได้เข้าร่วมโครงการเยาวชนปลูกผักอินทรีย์ พร้อมนำไปขยายผลปลูกผักอินทรีย์ที่บ้าน สร้างรายได้ให้กับครอบครัว
สำหรับศูนย์เรียนรู้ผักอินทรีย์เมืองธรรมเกษตร ไร่ภูตะวัน ออร์แกนิคฟาร์ม จัดตั้งขึ้นภายใต้กลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านหนองเม็กและวิสาหกิจชุมชนข้าวอินทรีย์บ้านหนองเม็ก เป็นพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ของจังหวัด การพัฒนาเกษตรอินทรีย์ที่นี่มีจุดเริ่มต้นจากบทเรียนการใช้สารเคมีของเกษตรกร แกนนำซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ได้ตระหนักถึงปัญหาและเห็นความสำคัญของวิถีการดูแลสุขภาพ จึงใช้ประสบการณ์ องค์ความรู้และเทคโนโลยี มาประยุกต์กับการทำเกษตร โดยปลูกผักอินทรีย์ในโรงเรือน ภายใต้หลักการ การตลาดนำการผลิต มีวางแผนการผลิตอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สามารถมีผลผลิตป้อนเข้าสู่ตลาดได้ตลอดทั้งปีรวมทั้งมีการรวมกลุ่มเพื่อให้มีอำนาจในการต่อรอง ผลผลิตหลัก ได้แก่ ผักอินทรีย์ในโรงเรือน และผลผลิตรองชนิดอื่น ๆ เช่น ข้าวอินทรีย์ สมุนไพร ข้าวโพด กล้วย ไก่ไข่ อินทรีย์และปลาอินทรีย์ การพัฒนาเกษตรอินทรีย์ที่นี่มีความสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาของจังหวัดอำนาจเจริญในเรื่องเมืองธรรมเกษตร หรือเมืองเกษตรอินทรีย์วิถีธรรม ที่เกษตรกรมีคุณธรรมในการทำการเกษตร และวิสัยทัศน์ของจังหวัดอำนาจเจริญที่ว่า เมืองธรรมเกษตร เขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง เส้นทางการค้าสู่อาเซียน #สุขเกินคาด อำนาจเจริญ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอำนาจเจริญ
","30/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อำนาจเจริญ","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอำนาจเจริญ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220130213213324"], [866,"รมว.คลัง ลงพื้นที่อำนาจเจริญ ตรวจติดตามหารือการดำเนินงานการขับเคลื่อนการพัฒนาการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่อำนาจเจริญ","วานนี้ 29 มกราคม 2565 เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุมพระมงคลมิ่งเมือง ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและคณะลงพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ โดยมี นายทวีป บุตรโพธิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญและหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ และให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งมอบนโยบายรัฐบาลเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ ทั้งโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการคนละครึ่งเฟสที่ 4 วงเงิน 1,200 บาทต่อคนตลอดทั้งโครงการ และใช้จ่ายวันละ 150 บาท โดยผู้ที่เคยได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ซึ่งมีประมาณ 28 ล้านสิทธิ ให้กดยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 และใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 เพื่อให้ประชาชนได้มีความสุขและกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลตรุษจีนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ส่วนผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียนรับสิทธิโครงการ จำนวน 1 ล้านสิทธิ ให้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 จนครบจำนวน โดยลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์คนละครึ่ง/แอปพลิเคชันเป๋าตัง และใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 และในปี 2565 ได้สั่งการมอบหมายหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงการคลังและสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชนเป็นพันธกิจหลักด้วย
จากนั้น เวลา 14.30 น. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ ลงพื้นที่ศูนย์เรียนรู้ผักเกษตรอินทรีย์เมืองธรรมเกษตรไร่ภูตะวันออร์แกนิคฟาร์ม บ้านหนองเม็ก ตำบลคึมใหญ่ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานแปลงใหญ่ ที่ทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ได้สนับสนุนและให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์แปลงใหญ่บ้านหนองเม็ก โดยมี นางจำปา สุวะไกร ประธานแปลงใหญ่ผักอินทรีย์บ้านหนองเม็ก ไร่ภูตะวันออร์แกนิคฟาร์ม เป็นผู้นำเสนอผลการดำเนินงานของกลุ่ม จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เยี่ยมชม การผลิตผักอินทรีย์ พร้อมร่วมปลูกผักอินทรีย์ กับนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองเม็ก ซึ่งได้เข้าร่วมโครงการเยาวชนปลูกผักอินทรีย์ พร้อมนำไปขยายผลปลูกผักอินทรีย์ที่บ้าน สร้างรายได้ให้กับครอบครัว
สำหรับศูนย์เรียนรู้ผักอินทรีย์เมืองธรรมเกษตร ไร่ภูตะวัน ออร์แกนิคฟาร์ม จัดตั้งขึ้นภายใต้กลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านหนองเม็กและวิสาหกิจชุมชนข้าวอินทรีย์บ้านหนองเม็ก เป็นพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ของจังหวัด การพัฒนาเกษตรอินทรีย์ที่นี่มีจุดเริ่มต้นจากบทเรียนการใช้สารเคมีของเกษตรกร แกนนำซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ได้ตระหนักถึงปัญหาและเห็นความสำคัญของวิถีการดูแลสุขภาพ จึงใช้ประสบการณ์ องค์ความรู้และเทคโนโลยี มาประยุกต์กับการทำเกษตร โดยปลูกผักอินทรีย์ในโรงเรือน ภายใต้หลักการ การตลาดนำการผลิต มีวางแผนการผลิตอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สามารถมีผลผลิตป้อนเข้าสู่ตลาดได้ตลอดทั้งปีรวมทั้งมีการรวมกลุ่มเพื่อให้มีอำนาจในการต่อรอง ผลผลิตหลัก ได้แก่ ผักอินทรีย์ในโรงเรือน และผลผลิตรองชนิดอื่น ๆ เช่น ข้าวอินทรีย์ สมุนไพร ข้าวโพด กล้วย ไก่ไข่ อินทรีย์และปลาอินทรีย์ การพัฒนาเกษตรอินทรีย์ที่นี่มีความสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาของจังหวัดอำนาจเจริญในเรื่องเมืองธรรมเกษตร หรือเมืองเกษตรอินทรีย์วิถีธรรม ที่เกษตรกรมีคุณธรรมในการทำการเกษตร และวิสัยทัศน์ของจังหวัดอำนาจเจริญที่ว่า เมืองธรรมเกษตร เขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง เส้นทางการค้าสู่อาเซียน #สุขเกินคาด อำนาจเจริญ
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","30/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","อำนาจเจริญ","สวท.อำนาจเจริญ","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220131003500329"], [867,"ขนส่งจังหวัดลพบุรี จัดประมูลรถเลยสวยในรูปแบบ New Normal Auction วิถีใหม่แห่งการประมูล ทางอินเตอร์เน็ต ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ตั้งเป้าหมาย 10 ล้านจาก 301 เลขหมาย เพื่อนำรายได้เข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน","
วานนี้ (30 มกราคม 2565) นายสุชัย เลยะกุล ขนส่งจังหวัดสระบุรี รักษาราชการแทนขนส่งจังหวัดลพบุรี ได้จัดประมูลทะเบียนรถเลขสวยทางอินเตอร์เน็ต ภายในห้องประชุมโรงแรมเบญจธารา ตำบลเขาสามยอด อำเภอเมืองลพบุรี โดยการจัดประมูลในครั้งนี้ได้จัดการประมูลทางอินเตอร์ ผู้เข้าประมูลได้เข้าลงทะเบียนเข้าร่วมประมูลแข่งขัน แต่การประมูลในครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมาเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
การประมูลที่คู่แข่งไม่สามารถมองเห็นหน้ากัน เวลาลุ้นราคาก็ไม่มีกองเชียร์ ผู้เข้าประมูลจะต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข New Normal Auction วิถีใหม่แห่งการประมูล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้จากการประมูลทะเบียนรถเลขสวยนำเข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และเพื่อสนับสนุนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอันเกิดจากการใช้รถใช้ถนน โดยตั้งเป้าหมายรายได้จากการประมูลในครั้งนี้ที่ 10 ล้านบาท จาก 301 เลขหมาย
ขณะที่พิธีกรในการจัดประมูลกล่าวกับทีมข่าวว่า เป็นการประมูลในรูปแบบใหม่ครั้งแรกทำให้ทีมงานตั้งเตรียมความพร้อมทั้งเสื้อผ้าหน้าตาการแต่งการตั้งเปลี่ยนตลอดเวลาไม่ให้ผู้เข้าร่วมประมูลเบื่ออีกทั้งต้องหาวิธีการสร้างจุดสนใจให้ผู้ที่เข้าร่วมประมูลเข้าขันกันและได้เป็นเจ้าของเลขหมายที่ตัวเองต้องการ ขณะที่ผู้ที่เข้าร่วมประมูลก็บอกว่าก่อนที่จะเข้าร่วมประมูลก็ต้องศึกษาการใช้อินเตอร์เน็ตให้ทันที่จะเสนอราคาได้ทันและที่สำคัญต้องกดตัวเลขให้ถูก เนื่องจากการประมูลไม่เหมือนการประมูลสดที่ยกป้ายแต่ละครั้งจะกำหนดตัวเลขราคาไว้แล้วแต่ในทางอินเตอร์เน็ตเราต้องพิมพ์ราคาเองอาจจะผิดพลาดได้
แต่อย่างไรก็ตาม จะประมูลในรูปแบบใดถ้าเราต้องการและตั้งใจอยากได้หมายเลขใดก็ได้ตามความต้องการนอกจากจะได้เลขหมายตามต้องการแล้วยังได้ทำบุญปีละครั้งอีกด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","31/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","ลพบุรี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220131081902338"], [868,"ลำปาง เตรียมความพร้อมจัดงาน Lampang Ceramic World Class (ลำปางเซรามิกแฟร์ ครั้งที่ 34) โครงการมหกรรมลำปางชนะแกรนด์เซลล์","นางสาวตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร นายก อบจ.ลำปาง มอบหมายให้นางชุลีวันทน์ สายสิงห์ทอง ที่ปรึกษานายก อบจ.ลำปาง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการดำเนินโครงการมหกรรมลำปางชนะแกรนด์เซลล์ กิจกรรม Lampang Ceramic World Class (ลำปางเซรามิกแฟร์ ครั้งที่ 34) ณ ห้องประชุมชั้น 3 อบจ.ลำปาง
ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นางสุพรรณี สุขสันต์รุ่งเรือง รองปลัด อบจ. รักษาราชการแทนปลัด อบจ.ลำปาง/นางสาวพรรณี การะกัน รองปลัด อบจ.ลำปาง/สมาคมเครื่องปั้นดินเผาลำปาง นำโดย นายต่อศักดิ์ ประคำทอง/ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง นำโดย นายสัญลักษณ์ เลิศปัญญานุช/ หอการค้าจังหวัดลำปาง นำโดย นายสกล สุพรรณบรรจง/ สหกรณ์เซรามิกและหัตถอุตสาหกรรมลำปาง จำกัด/ทีมงาน หจก.พิมพ์สวย 2010 พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ อบจ.ลำปาง และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมพร้อมการดำเนินกิจกรรมตามโครงการฯ ดังกล่าว
ทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง ร่วมกับเครือข่ายคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) จังหวัดลำปาง กำหนดจัดโครงการมหกรรมลำปางชนะแกรนด์เซลล์ กิจกรรม Lampang Ceramic World Class (ลำปางเซรามิกแฟร์ ครั้งที่ 34) ระหว่างวันที่ 12-22 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ลานอเนกประสงค์ห้างไทวัสดุ สาขาลำปาง
#สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","31/1/2022","ภาคเหนือ","ลำปาง","สวท.ลำปาง","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220131095140363"], [869,"สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดแสดงและจำหน่ายสินค้าคุณภาพดี ราคาประหยัด ส่งเสริมช่องทางการตลาด และบรรเทาปัญหาค่าครองชีพแก่ผู้ผลิตและผู้ประกอบการ OTOP ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( วันที่ 31 มกราคม 2565 )","เช้าวันนี้ (31 ม.ค.65) ผู้ประกอบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ทำการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าคุณภาพดี ราคาประหยัด ซึ่งจัดโดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อส่งเสริมช่องทางการตลาด และบรรเทาปัญหาค่าครองชีพแก่ผู้ผลิตและผู้ประกอบการ OTOP ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 บริเวณห้องโถงหน้ากองคลัง ชั้น 1 อาคาร 4 ชั้น ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สำหรับการจัดบูธจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในวันนี้ เป็นผู้ประกอบการ OTOP จาก
\"ร้าน Varunee\" อำเภอลาดเสนา จัดจำหน่ายผลิตกระเป๋าผ้าและกระเป๋าผ้าเคลือบพิมพ์ลายการ์ตูน ราคาเริ่มต้นที่ 15-120 บาท นอกจากการจัดบูธจัดจำหน่ายสินค้าในวันนี้ ทุกท่านยังสามารถหาซื้อหรือชมสินค้าได้ตามการจัดบูธงานอิเว้นท์ของห้างสรรพสินค้าในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อาทิ ศูนย์การค้า Ayutthaya City Park และ ศูนย์การค้า Central Ayutthaya
ผู้ที่สนใจร่วมอุดหนุนสินค้า สามารถติดต่อได้ที่ 035 336542
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
ข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เว็บไซต์ https://ayutthaya.prd.go.th/
","31/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","พระนครศรีอยุธยา","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220131100358370"], [870,"รอง ผอ.รมน.ภาค 4 เยี่ยมจุดตรวจยะลา -ปัตตานี สั่งคุมเข้มเมืองเศรษฐกิจ สร้างความมั่นใจประชาชน","รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตรวจเยี่ยม จุดตรวจ ด่านตรวจ ยะลา -ปัตตานี สั่งคุมเข้มเมืองเศรษฐกิจ สร้างความมั่นใจ หลังเหตุระเบิดทั่วเมือง
พลตรี อุทิศ อนันตนานนท์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อม คณะฝ่ายเสนาธิการ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ ด่านตรวจ ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี 6 จุด ประกอบด้วย ด่านตรวจปราการ 5 แยกฟอร์ด, จุดตรวจซุ้มประตูเมือง (หน้าวิทยาลัยเทคนิคปัตตานี) , จุดตรวจหน้าแขวงการทาง จุดตรวจหน้าศาลหลักเมือง , จุดตรวจแยกสะพานเดชา , ด่านตรวจปราการ 15 แยกบานา สำหรับในพื้นที่จังหวัดยะลา จำนวน 1 จุด คือ ด่านคลองทรายใน ตำบลยุโป อำเภอเมือง จังหวัดยะลา
โดยมี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี,ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจตำรวจยะลา 91 ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจตำรวจปัตตานี 92 ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานี และรองเสนาธิการหน่วยเฉพาะกิจยะลา ร่วมในการตรวจเยี่ยมในครั้งนี้
รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้เน้นย้ำการปฏิบัติตามสั่งการของ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ในการรักษาความปลอดภัยเมืองเศรษฐกิจ การควบคุมพื้นที่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน โดยให้กำลังพลเพิ่มความเข้มในการตรวจยานพาหนะ สำหรับการตรวจบุคคลให้ยึดถือข้อสั่งการอย่างเคร่งครัด อีกทั้งให้กำลังพลเพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะการเฝ้าระวังป้องกันการก่อเหตุลอบวางระเบิด และการก่อเหตุรุนแรงในทุกรูปแบบ
นอกจากนี้ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้มอบเครื่องบริโภค เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพล ในการปฏิบัติหน้าที่
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","31/1/2022","ภาคใต้","ยะลา","สทท.ยะลา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220131103558376"], [871,"พาณิชย์ เร่งช่วยเกษตรกรแก้ปัญหาผักกาดขาวราคาตก พร้อมผลักดันใช้กลไกสัญญาข้อตกลงล่วงหน้า อมก๋อยโมเดล ป้องกันราคาตกต่ำ","นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากที่มีข้อร้องเรียนผักกาดขาวราคาตกจนเกษตรกรต้องตัดทิ้ง กระทรวงพาณิชย์ได้เร่งดำเนินการตรวจสอบ พบว่า ผักกาดขาวปลีมีแหล่งเพาะปลูกสำคัญในภาคเหนือ ได้แก่ เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ พิษณุโลก สถานการณ์ราคาปัจจุบัน ราคาขายส่งอยู่ที่ กก.ละ 10-15 บาท ราคาขายปลีกอยู่ที่ กก.ละ 20-25 ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี สภาพอากาศที่หนาวเย็นมากขึ้นในปีนี้เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก ปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดกระจุกตัวมากในช่วงนี้ส่งผลให้ราคาจำหน่ายส่งปรับลดจากเดือนที่ผ่านมาเล็กน้อย ประกอบกับการบริโภคในตลาดบางพื้นที่ชะลอตัว เนื่องจากผู้บริโภคหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่ที่มีประชาชนหนาแน่น (ตลาด ห้างสรรพสินค้า) ด้วยมีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19
สำหรับปัญหากลุ่มเกษตรกรจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่เป็นข่าว ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ชาวม้งบ้านไมโครเวฟ ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งปกติจะปลูกผักกาดขาวปลีในช่วงฤดูฝนเมื่อนอกฤดูฝน ซึ่งไม่สามารถพึ่งพาน้ำฝนได้ จะลงมาเช่าที่ดินเพื่อเพาะปลูกริมน้ำ เกษตรกรบางส่วนได้ทำสัญญาข้อตกลงล่วงหน้า หรือ contract farming กับผู้รวบรวมในอำเภอแม่สะเรียง ซึ่งเป็นไปตามแนวนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้วางแนวทาง อมก๋อยโมเดล ในการแก้ไขปัญหาราคาผักที่ยั่งยืนไว้ ซึ่งเกษตรกรกลุ่มดังกล่าวได้ราคาจำหน่ายได้ที่ไร่นา กก.ละ 3 บาท และเกษตรกรจะได้รับค่าขนส่งผักจากสวนไปยังโรงคัดแยกบรรจุที่ อ.แม่สะเรียง กก.ละ 1 บาท
กลุ่มเกษตรกรที่เป็นข่าวดังกล่าว เป็นเกษตรกรที่ไม่มีสัญญาข้อตกลง ซึ่งที่ผ่านมาผู้รับซื้อได้เข้าไปซื้อใน กก.ละ 2 บาท และให้ค่าขนส่ง กก.ละ 1 บาทเช่นเดียวกัน แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่การบริโภคชะลอตัวลงและคำสั่งซื้อจากห้างลดลง จึงมีการชะลอการซื้อผลผลิตจากเกษตรกรนอกสัญญา ในเบื้องต้นได้รับรายงานจากพาณิชย์จังหวัดว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ประชุมหารือกับส่วนราชการระดับจังหวัดและผู้ที่เกี่ยวข้องกำหนดแนวทางให้ความช่วยเหลือโดยใช้กลไกภายในจังหวัด รณรงค์ให้หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และประชาชน เพิ่มการบริโภคผักกาดขาวปลีภายในจังหวัด โดยประสานผู้รับซื้อภายในพื้นที่เข้าไปรับซื้อผลผลิตส่วนเกินจากเกษตรกร ซึ่งขณะนี้ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้นำผู้ประกอบการในพื้นที่เข้าไปรับซื้อจากเกษตรกรในราคา กก. 3 บาทก่อน ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรพอใจ และในส่วนนี้กรมการค้าภายในได้พร้อมที่จะสนับสนุนงบประมาณทันที และต่อไปได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดประสานกับเกษตรกรจังหวัดใช้กลไกสัญญาข้อตกลงล่วงหน้า หรือ อมก๋อยโมเดล ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีก
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","31/1/2022","ภาคเหนือ","แม่ฮ่องสอน","สวท.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220131114719400"], [872,"สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสมุทรสงคราม ตรวจสอบราคาสินค้าเนื้อหมู เนื้อไก่ ปลา ผักสด","ที่บริเวณตลาดสดเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม เจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสมุทรสงคราม ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าเนื้อหมู เนื้อไก่ ปลา ผักสด พบว่าสินค้ามีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ไม่มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าในเทศกาลตรุษจีน ไม่มีการกักตุนสินค้า สำหรับเนื้อสุกร เนื้อแดง กิโลกรัมละ 180-200 บาท เนื้อสามชั้น ราคา 200 - 250 บาท สุกรมีชีวิตกิโลกรัมละ 96 บาท เนื้อไก่ เนื้อไก่สดราคา รวมเครื่องใน 90-95 บาท/กิโลกรัม น่องติดสะโพก 65-75 บาท/กิโลกรัม เนื้อปลา ปลานิล 70 บาท/กิโลกรัม ปลาดุก 65-70 บาท/กิโลกรัม ปลาทับทิม 110-120 บาท/กิโลกรัม
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้กำชับให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ในการติดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ถูกต้องชัดเจน เพื่อให้ประชาชนสามารถเปรียบเทียบราคาสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","31/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","สมุทรสงคราม","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220131134614430"], [873,"จังหวัดภูเก็ต เรียกคนขับแท็กซี่มาชี้แจง ด้านขนส่งเตรียมปรับ 1 พันบาท และอบรม 3 ชั่วโมง","เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 31 มกราคม2565 ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายอานุภาพ รอดขวัญยอดระบำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกประจำจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 1/2565 โดยมีนายจตุรงค์ แก้วกสิ ขนส่งจังหวัดภูเก็ต, ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในการนี้ได้มีเชิญตัวนายเจษฎา คาหะปะนะคนขับแท็กซี่ มาให้ข้อมูลกรณีที่มีการพิพาทกับนายเฆวินทร์ พล นักท่องเที่ยวลูกหมอคนดัง เหตุเกิดหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ตด้วย โดยมีหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชน ร่วมรับฟังด้วย
ขณะที่ นายเจษฎา คาหะปะนะ คนขับแท็กซี่ กล่าวภายหลังเข้าให้ข้อมูลกับคณะกรรมการฯ ว่า จากการที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลา ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา และได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา เพื่อต้องการรักษาภาพลักษณ์ของกลุ่มอาชีพแท็กซี่ทั่วทั้งภูเก็ต และตนก็ไม่ได้รู้เรื่องราวของกฎหมายว่าเป็นอะไรยังไงบ้าง จึงขอปฏิเสธเพื่อไปปรึกษาคนที่รู้เรื่องราวกฎหมายอีกครั้ง และจะเข้าไปหาเจ้าหน้าที่อีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม มีความกังวลนิดหนึ่งว่าภาพลักษณ์ที่ออกไปอาจจะทำให้เพื่อนร่วมอาชีพดูเสียหายในภาพรวม อันที่จริงกลุ่มคนขับแท็กซี่ไม่ได้เลวร้ายอย่างภาพลักษณ์ในคลิปที่ออกไป แต่อาจจะเป็นเพราะเหตุและผลที่มันเกิดขึ้น ณ ตอนนั้น ลำดับเหตุการณ์ 1 2 3 4 มันออกมาเป็นยังไง คลิปที่ออกไปมันเริ่มจาก 1 รึเปล่า หรือเริ่มจาก 5 ไปจบที่ 10 คนที่รับชมคลิปต้องใช้วิจารณญาณ ว่ามันใช่หรือเปล่า แล้วคนที่เคยมาเที่ยวภูเก็ตแล้วบอกว่าแพง คุณเคยเข้าใจไหมว่า ค่าครองชีพหรือลักษณะต้นทุนของคนที่ให้บริการมันเป็นยังไงบ้าง จ่ายภาษี ค่าน้ำมัน และระบบคิวขับไปส่งอย่างเดียว ไปรับที่อื่นกลับไม่ได้ อะไรประมาณนี้ อยากให้เข้าใจตรงนี้ด้วย
ทั้งนี้ ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น นายจตุรงค์ แก้วกสิ ขนส่งจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าว ต่อสื่อมวลชนว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต จังหวัดภูเก็ตจึงได้เร่งแก้ปัญหากรณีข้อพิพาท ระหว่างนักท่องเที่ยวกับผู้ขับขี่รถแท็กซี่ ในพื้นที่ตำบลกมลา คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกประจำจังหวัดภูเก็ต มาประชุมร่วมกันทั้งในส่วนของตำรวจ อัยการจังหวัดและภาคเอกชนเพื่อกำหนดมาตรการในการแก้ปัญหา เพื่อไม่ให้เกิดกรณีพิพาทหรือปัญหาดังกล่าวอีก ในส่วนของอัตราค่าโดยสารของจังหวัดภูเก็ตได้มีการจัดทำอัตราค่าโดยสารราคาแนะนำไว้เพื่อให้ ผู้โดยสารโดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต ได้ดาวน์โหลดเพื่อใช้เป็นราคาอ้างอิง ในการต่อรองราคา ในการใช้บริการ รถโดยสารสาธารณะ และเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการเอาเปรียบผู้โดยสาร
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นจะเกิดจากการสื่อสาร ที่ไม่รัดกุมรอบคอบและไม่มีการแนะนำราคาค่าโดยสารที่กำหนดโดยทางจังหวัด แก่นักท่องเที่ยว และพบว่าผู้ให้บริการแท็กซี่ มีการบอกราคาในลักษณะ เผื่อให้นักท่องเที่ยวต่อรอง ทำให้เกิดเหตุการณ์ ที่นักท่องเที่ยวรู้สึกว่าราคาที่รับทราบจาก App และราคาที่ผู้ให้บริการแท็กซี่แจ้งมีความแตกต่างกัน จึงทำให้เกิดความรู้สึกถูกเอารัดเอาเปรียบโดยไม่เป็นธรรม จากประเด็นดังกล่าวผลการประชุมในวันนี้มีมติ จะเร่งประชาสัมพันธ์ อัตราค่าโดยสารแนะนำที่กำหนด
โดยจังหวัดภูเก็ต ให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบทุกช่องทาง ทั้งที่สนามบินภูเก็ต ที่ด่านท่าฉัตรไชย และพื้นที่โรงแรมต่างๆ โดยจะจัดทำเป็นสติกเกอร์ และแผ่นพับประชาสัมพันธ์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถดาวน์โหลดราคาแนะนำต่างๆได้ด้วยตนเอง พร้อมทั้งจะให้ผู้ให้บริการรถ ได้ใช้ราคาดังกล่าวเป็นราคากลางในการให้บริการแก่นักท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการเก็บค่าโดยสารและ ป้องกันการเอาเปรียบผู้โดยสารต่อไป ในประเด็นที่ 2 จังหวัดภูเก็ตจะมีการยกระดับมาตรฐานการให้บริการ รถโดยสารสาธารณะ โดยเมื่อจังหวัดภูเก็ตมีการเปิดจังหวัดรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ทำให้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาสู่จังหวัดภูเก็ตเป็นจำนวนมาก
โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดจะเป็นเจ้าภาพให้ผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะและผรถรับจ้างมาประชุมร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทางในการให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยว ยกระดับการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ประเด็นที่ 3 มาตรการในการลงโทษผู้กระทำผิด ในเรื่องของการใช้กิริยาท่าทางวาจาที่ไม่สุภาพต่อผู้รับบริการ ลักษณะการข่มขู่คุกคาม โดยจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ในส่วนที่ 1 คือหน้าที่ของผู้ขับรถ ที่กระทำผิดทางสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ตจะเรียกไปสอบสวน และลงโทษเปรียบเทียบปรับ 1,000 บาทและให้เข้าอบรม 3 ชั่วโมง ในส่วนของการข่มขู่คุกคาม
ในส่วนของผู้โพสต์ ได้มีการแจ้งความ ที่สถานีตำรวจภูธรกมลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ตามความผิดทางอาญา เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ประเด็นที่ 4 คือปัญหาเรื่องเสรีภาพ ของรถรับจ้างที่จะเข้ามารับผู้โดยสารในแต่ละพื้นที่ ซึ่งอาจจะมีปัญหาของการปิดกั้น ตามกระแสข่าวที่เผยแพร่ออกไป ทางจังหวัดภูเก็ตได้ให้ความสำคัญซึ่งจะมีการตั้งคณะทำงานมาแก้ไขปัญหาดังกล่าว ร่วมกับตำรวจและฝ่ายปกครอง ในการจัดพื้นที่จอดรถ รับจ้างสาธารณะ ในแต่ละประเภท ตั้งรถยนต์บริการและรถแท็กซี่มิเตอร์และรถอื่นๆ เพื่อให้เป็นทางเลือก ในการเดินทางให้กับ นักท่องเที่ยวที่จะสามารถเลือกใช้บริการได้อย่างเสรี รวมถึงการเลือกใช้ รถโดยสารสาธารณะผ่าน Application ซึ่งในอนาคตจะมีการใช้เรียกใช้รถผ่านApplicationเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งจังหวัดภูเก็ตจะต้องเตรียมแผนรองรับในเรื่องนี้และจะต้องแก้ปัญหา เมื่อนักท่องเที่ยวเรียกใช้รถแล้ว รถไม่สามารถเข้าไปรับผู้ใช้บริการได้ ดังนั้นขอให้สังคมมีความเชื่อถือเชื่อมั่นจังหวัดภูเก็ตมีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้จังหวัดภูเก็ตยังคงต้อนรับนักท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืนต่อไป
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","31/1/2022","ภาคใต้","ภูเก็ต","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220131145343476"], [874,"ต้นส้มมงคลขายดีรับตรุษจีน ชาวขอนแก่นเลือกซื้อมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่จีนกันทั้งต้น ขณะที่ ราคาจำหน่ายปรับขึ้นเล็กน้อย","การเลือกซื้อสินค้าและสิ่งของเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งพบว่าชาวขอนแก่นเชื้อสายจีนส่วนใหญ่นอกจากจะจัดเตรียมอั่งเปา และชุดส้มมงคล ไว้สำหรับการมอบเป็นของขวัญรับปีใหม่จีนเทศกาลตรุษจีน ที่กำลังจะมาถึงแล้ว ส่วนหนึ่งพากันเลือกซื้อต้นส้มมงคลเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ เสริมความเป็นสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัวอีกด้วย โดยเฉพาะที่ร้านคุ้มไม้งาม ซึ่งตั้งอยู่ริมบึงหนองโคตร ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งพบว่าในช่วงก่อนถึงเทศกาลตรุษจีน มีประชาชนมาทำการเลือกซื้อต้นส้มมงคล รวมไปถึงพันธุ์ไม้นานาชนิดกันอย่างต่อเนื่อง
นายวีรพงษ์ สุวรรณภา เจ้าของร้านคุ้มไม้งาม กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าไม้มงคลที่เป็นที่นิยมและขายดีอย่างมากคือต้นเป็นส้มจี๊ด เนื่องจากคนจีนเชื่อว่าหากปลูกไว้ในบ้านจะเป็นสิริมงคล และส้ม คือ ตัวแทนแห่งความอุดมสมบูรณ์พูนสุข
\"...ช่วงนี้เป็นช่วงตรุษจีนของคนไทยเชื้อสายจีนช่วงนี้จะเป็นช่วงของไม้ยอดนิยม คือ ไม้มงคล ไม้ชื่อมงคลต่าง ๆ แต่ที่นิยมสุดช่วงนี้จะเป็นส้มจี๊ดเป็นที่นิยมให้เป็นของขวัญในวันตรุษจีนหรือซื้อไปให้ผู้หลักผู้ใหญ่เพื่อเอาไปประดับหน้าบ้านเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล หรือจะเป็นไม้ใบชนิดต่างๆที่มีชื่อเกี่ยวกับ เงิน ๆ ทอง ๆ ส่วนมากจะขายดีในช่วงนี้เพราะคนสามารถใช้แทนเงินทองไปเป็นของฝากได้...\"
พร้อมกล่าวต่ออีกว่า ส้มจี๊ดเป็นไม้ยอดนิยม เนื่องจากสีสันมีสีเหลืองทอง เวลาออกกลิ่นจะหอมฟุ้งไปทั่ว และคนจีนเชื่อว่าหากปลูกไว้ในบ้านจะเป็นสิริมงคล ส้ม คือ ตัวแทนแห่งความอุดมสมบูรณ์พูนสุข แม้จะไม่ใช่ช่วงเทศกาลตรุษจีนก็ยังนิยมมาจัดวางไว้ที่โต๊ะอาหาร เพราะเชื่อว่าจะทำให้มั่งมีเงินทอง
อย่างไรก็ตาม แม้ในระยะนี้ราคาส้มจะขยับสูงขึ้นกว่าช่วงปกติทั่วไป แต่ก็ไม่สูงมาก โดยราคาจำหน่ายของทางร้านนั้นเริ่มต้นที่กระถางละ 200 บาท ไปถึงต้นละ 2,500 บาท ซึ่งเทศกาลตรุษจีนปีนี้ทางร้านเตรียมต้นส้มจี๊ดไว้ให้บริการลูกค้าประมาณ 200 ต้น ซึ่งก็มีลูกค้ามาสอบถามและเลือกซื้อกันทุกวัน
","31/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","ขอนแก่น","สวท.ขอนแก่น","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220131141552439"], [875,"มุกดาหาร เชิญชวนเที่ยวชมงาน \"หนาวนี้ที่ร่มเกล้า\" 12-13 ก.พ. นี้","
นายชายสิทธิ์ สุวรรณโชติ นายอำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า ในพื้นที่มีทุ่งกังหันลม ซึ่งเป็นกังหันลมที่มีความสูงที่สุดในเอเชียแปซิฟิก นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่น่าสนใจ และมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมอย่างต่อเนื่อง นายเฉลิมพล มั่งคั่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารจึงมีนโยบายในการพัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่ของอำเภอให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น โดยสนับสนุนให้อำเภอนิคมคำสร้อย จัดงานเทศกาล \"หนาวนี้ที่ร่มเกล้า\" เพื่อประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวในพื้นที่อำเภอนิคมคำสร้อย และจังหวัดมุกดาหารเพิ่มมากขึ้น ทำให้ประชาชนมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นด้วย
งาน #หนาวนี้ที่ร่มเกล้า กำหนดจัดขึ้นวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ทุ่งกังหันลม ตำบลร่มเกล้า อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร มีกิจกรรมประกอบด้วย การจัดเดิน-วิ่ง ชมภูดูกังหันลม การละเล่น การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านและดนตรีคอนเสิร์ตนักร้องชื่อดัง ตลอดจนการออกร้านจำหน่ายสินค้า OTOP และของดีอำเภอนิคมคำสร้อยมากมายภายในงาน
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","31/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","มุกดาหาร","สวท.มุกดาหาร","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220131151225488"], [876,"อำเภอศรีเชียงใหม่ เปิดจำหน่ายหมูเนื้อแดงราคาถูก ในโครงการ \"ตลาดนัดช่วยประชาชน บรรเทาปัญหาค่าครองชีพ\" กิโลกรัมละ 150 บาท","ที่ลานวัฒนธรรมเบิ่งเวียงริมแม่น้ำโขง หมู่ที่ 2 ตำบลพานพร้าว อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย นายทศพล สินยบุตร นายอำเภอศรีเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายจรัล กลางประดิษฐ ปลัดอาวุโสฯ , นายจักรวรรดิ วิทาโน พัฒนาการอำเภอศรีเชียงใหม่ , เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอศรีเชียงใหม่ , กลุ่มอาชีพ , กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ เปิด \"ตลาดนัดช่วยประชาชน บรรเทาปัญหาค่าครองชีพ\" จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ให้กับประชาชน เพื่อลดค่าครองชีพในช่วงสินค้าราคาแพง โดยเฉพาะเปิดขายหมูเนื้อแดงแช่แข็ง ที่ได้รับการจัดสรรจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดหนองคาย จำนวน 150 กิโลกรัม ขายในราคากิโลกรัมละ 150 บาท และยังมีไข่ไก่คละหน้าฟาร์ม แผงละ 80 บาท จำนวน 50 แผง, ไข่ไก่แบบขัดเบอร์จัมโบ้ แผงละ 80 บาท จำนวน 50 แผง, ไก่สด ตัวละ 90 บาท จำนวน 20 ตัว
นอกจากนี้ ยังมีผักสด ผลไม้ ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร สินค้า OTOP และของใช้อื่น ๆ อีกจำนวนมาก มาจำหน่ายราคาถูกให้ประชาชน ซึ่งภายในตลาดมีประชาชนแห่กันมาจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก ทำให้ของบางอย่างหมดอย่างรวดเร็วไม่ถึง 1 ชั่วโมง โดยเฉพาะหมูเนื้อแดง ไข่ไก่ และไก่สด
สำหรับการเปิดตลาดจำหน่ายสินค้าราคาถูกในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 และเป็นวันสุดท้ายของโครงการ \"ตลาดนัดช่วยเหลือประชาชน บรรเทาปัญหาค่าครองชีพ\" ที่กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับทางจังหวัดหนองคาย ตั้งจุดจำหน่ายหมูราคาถูกให้กับประชาชนทั้ง 9 อำเภอในจังหวัด รวม 9 จุดจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภคราคาถูก เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยประชาชนที่มาจับจ่ายสินค้ารายหนึ่งบอกว่า อยากให้ทางจังหวัดเปิดตลาดแบบนี้บ่อยขึ้น อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง โดยการมาจำหน่ายสินค้าราคาถูกช่วยลดค่าครองชีพได้มาก
","31/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","หนองคาย","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220131153623500"], [877,"รองผู้ว่าฯ นครพนม นำทีมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าในตลาดสด และตรวจเยี่ยม โครงการหมูพาณิชย์... ลดราคา ! ช่วยประชาชน ในเขตพื้นที่อำเภอบ้านแพง","นายชาญชัย คงทัน รองผู้ว่าฯ นครพนม นำทีมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าในตลาดสด และตรวจเยี่ยม โครงการหมูพาณิชย์... ลดราคา ! ช่วยประชาชน ในเขตพื้นที่อำเภอบ้านแพง
วันนี้ (31 ม.ค. 65) นายชาญชัย คงทัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด ด่านกักกันสัตว์ ตำรวจภูธรจังหวัด ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าในตลาดสด และตรวจเยี่ยม โครงการหมูพาณิชย์... ลดราคา ! ช่วยประชาชน ในเขตพื้นที่อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม ตามที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้สั่งการให้มีการติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน สรุปผลของการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ฯ ได้ดังนี้
1.การจำหน่ายหมูเนื้อแดงตาม โครงการหมูพาณิชย์... ลดราคา ! ช่วยประชาชน ณ ร้านครูรักหมูสด จำหน่ายหมูเนื้อแดง ราคา 150 บาท/กก. วันละ 50 กก. ระหว่างวันที่ 16-31 ม.ค. 65
2.ราคาจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคและพืชผัก ณ ตลาดสดนาพระชัย ตำบลหนองแวง อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม ไข่ไก่ เบอร์ 2 ราคา 110 บาท/แผง , น้ำมันปาล์มโอลีน 60 บาท/ขวด , มะละกอ 20 บาท/กก. , กะหล่ำปลี/ผักกาดขาว/แตงกวา/มะเขือเทศ 20 บาท/กก. , ผักบุ้ง 15 บาท/กก. , คะน้า 30-40 บาท/กก. , พริกจินดา 40 บาท/กก. , ปลานิล 75 บาท/กก. , ปลาดุก 80 บาท/กก. , เนื้อวัวสด 300 บาท/กก. , ไก่ทั้งตัวรวมเครื่องใน 80 บาท/กก. , น่องติดสะโพก 80 บาท/กก. , อกไก่ 80 บาท/กก.
อย่างไรก็ตาม ทางพาณิชย์จังหวัดจะจับตาดูแลราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้แนะนำและกำชับให้ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายให้ชัดเจน ไม่ฉกฉวยโอกาสขึ้นราคา หรือจำหน่ายสินค้าสูงเกินสมควร
วันนี้ (31 มกราคม 2565) นายนิพันธ์ บุญหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปัตตานี ครั้งที่ 5/2565 ที่ห้องประชุมพญาตานี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดปัตตานี เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของจังหวัดปัตตานี
โดยได้กำชับให้หน่วยงานที่รับผิดชอบและนายอำเภอ ทั้ง 12 อำเภอ ในจังหวัดปัตตานี ได้ติดตามกลุ่มผู้ใช้แรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมอาหารทะเลในจังหวัดปัตตานี หลังพบว่า 1 ใน 10 กว่าโรงงาน มีพนักงานติดโควิด - 19 เพื่อให้การควบคุมและป้องกันโรคโควิด 19 และสายพันธุ์โอมิครอน ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้คณะอนุกรรมการฯ ทั้ง 7 ด้าน ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการด้านการป้องกันการติดเชื้อ , ด้านการควบคุมการแพร่ระบาด , ด้านการรักษาผุ้ติดเชื้อ , ด้านการเยียวยา , ด้านการเตรีความพร้อมสำหรับมาตรการผ่อนคลาย , ด้านข้อมูลประชาสัมพันธ์ และรับเรื่องร้องเรียน และด้านกำกับติดตามการบังคับใช้กฎหมาย ได้รายงานผลการปฏิบัติงานฯ ตามลำดับ พร้อมให้มีการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงเชิงรุก ด้วยระบบ ATK ค้นหาผู้ติดเชื้อ โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางกลับจากต่างจังหวัด
โดยที่ประชุมครั้งนี้ ได้ประเมินความพร้อมองค์กร ตามมาตรการ COVID Free Setting ตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่กำหนด ส่วนใหญ่จะผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ในส่วนของการฉีดวัคซีนในภาพรวมของจังหวัดปัตตานี อยู่ที่ร้อยละ 59.7 สำหรับสถานการณ์ COVID - 19 จังหวัดปัตตานี ประจำวันที่ 30 มกราคม 2565 (ระลอกเดือนมกราคม 2565) ผู้ป่วยยืนยันรายใหม่เพิ่ม (RT- PCR) 12 ราย และผู้ติดเชื้อเข้าข่าย (ATK) 3 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสมแล้ว 497 ราย หายป่วยแล้ว 349 ราย เสียชีวิต 9 ราย (เพิ่มวันนี้ 0 ราย)
ภาพ/ข่าว/บดินทร์ ส.ปชส.ปน.
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","31/1/2022","ภาคใต้","ปัตตานี","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220131165408572"], [879,"ผู้ว่าฯ ลำพูน ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยการจำหน่ายสินค้าและบริการ เพื่อไม่ให้เกิดการกักตุนสินค้า และฉวยโอกาสขึ้นราคาในช่วงเทศกาลตรุษจีน","นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นายบุญส่ง ไชยมณี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำพูน พาณิชย์จังหวัดลำพูน คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดลำพูน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยการจำหน่ายสินค้าและบริการ ณ ห้างสรรพสินค้า บิ๊กชี สาขาลำพูน ห้างแม็คโค สาขาลำพูน และตลาดจตุจักร อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เพื่อไม่ให้เกิดการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า และบริการเกินราคาที่กำหนด โดยการจัดจำหน่ายสินค้า ต้องมีการปิดประกาศป้ายแสดงสินค้าแสดงให้ชัดเจน พร้อมการตรวจสอบการเก็บสต๊อกเนื้อหมู ไข่ไก่ รวมถึงสินค้า ประเภทต่างๆ เพื่อให้ไม่เกิดการกักตุนสินค้า และการจำหน่ายเกินราคาที่กำหนด ในพื้นที่จังหวัดลำพูน ในช่วงเทศกาลตรุษจีน
จากการลงพื้นที่ ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าสินค้าที่ได้ตรวจสอบนั้น ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ และสินค้าประเภทต่างๆ ได้มีการปิดป้ายแสดงสินค้าชัดเจน และราคาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่มีการขึ้นราคาแต่อย่างใด ส่วนร้านค้าที่ไม่มีการดำเนินการปิดป้าย ได้มีการแจ้งให้ดำเนินการทันที โดยทางคณะกรรมการฯได้ให้คำแนะนำ และขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้าให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง ไม่ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าในช่วง เทศกาลตรุษจีนนี้ และเพื่อป้องกันการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนอีกด้วย
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","31/1/2022","ภาคเหนือ","ลำพูน","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220131174500594"], [880,"อุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน จัดฝึกอบรมกิจกรรมส่งเสริมนวัตกรรมและการออกแบบผลิตภัณฑ์หัตถสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาและยกระดับการผลิต ผลิตภัณฑ์ผ้า รวมถึงการเพิ่มศักยภาพในการผลิต เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม","วันนี้ (31 มกราคม 2565) ที่เดอะแกรนด์ จามจุรี รีสอร์ท จังหวัดลำพูน นางจันทนา ไวยาวัจมัย อุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมกิจกรรมส่งเสริมนวัตกรรมและการออกแบบผลิตภัณฑ์หัตถสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการพัฒนาหัตถอุตสาหกรรมหริภุญไชยสู่นวัตกรรมสร้างสรรค์งบพัฒนาจังหวัดลำพูน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 โดยมีนางบำเพ็ญ เมืองมูล พัฒนาการจังหวัดลำพูน หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมในพิธี
นางสาวจินตนันท์ ข้นไชย นักวิชาการอุตสาหกรรมชำนาญการ เผยว่า การอบรมในวันนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับและพัฒนาหัตถกรรมในจังหวัดลำพูน ด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ ซึ่งผู้ประกอบการจะได้รับการพัฒนาและยกระดับการผลิต ผลิตภัณฑ์ผ้า เพิ่มศักยภาพในการผลิตสร้างมูลค่าเพิ่มสามารถต่อยอดให้เกิดการขยายช่องทางการตลาดให้กับการผลิตผลิตภัณฑ์ผ้าในจังหวัดลำพูน
อีกทั้ง ยังเป็นการอนุรักษ์สืบสานสินค้าภูมิปัญญาและต่อยอดการผลิตสินค้า ในเชิงสร้างสรรค์ตอบสนองความต้องการของตลาดและผู้บริโภค เกิดการสร้างรายได้พัฒนาเศรษฐกิจชุมชน และสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนต่อไป การจัดอบรมในวันนี้มีผู้เข้าร่วมอบรม จำนวน 26 กิจการ 30 คน โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้า โดยอาจารย์ศักดิ์จิระ เวียงเก่า เจ้าของแบรนด์ Baisri และอาจารย์วายุ ขันทะนา ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์จากผ้า จะมาให้ความรู้และพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถแก่ผู้ประกอบการผ้า ที่จะเข้าร่วมอบรมตลอดทั้งโครงการในครั้งนี้ อีกทั้งในวันนี้ เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย ทางคณะผู้จัดงานจึงขอให้ท่านอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน ให้เกียรติมอบใบรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช. ให้กับผู้ประกอบการ จำนวน 3 ราย)
ด้าน อุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าผลิตภัณฑ์จากผ้า ทั้งเสื้อผ้า ของใช้ ของที่ระลึกจากผ้าในจังหวัดลำพูน มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ด้วยเพราะฝีมือที่ประณีตของช่าง ผสมผสานกับเอกลักษณ์ของความเป็นล้านนา ในปัจจุบันความนิยมของกลุ่มลูกค้า ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย รูปแบบความนิยมจึงเปลี่ยนตามแฟชั่น มีความร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น
จังหวัดลำพูน โดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน จึงได้จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการผ้าในจังหวัดลำพูน ได้รับการพัฒนาและยกระดับการผลิต ผลิตภัณฑ์จากผ้า สามารถเพิ่มศักยภาพในการผลิตสร้างมูลค่าเพิ่ม และสามารถต่อขยายช่องทางการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ผ้าในจังหวัดลำพูน โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ จะได้รับการพัฒนาด้านการออกแบบอย่างสร้างสรรค์ ได้รับคำปรึกษาแนะนำเชิงลึก จนกระทั่งสามารถเกิดผลิตภัณฑ์ใหม่
การอบรมในครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณวิทยากร อาจารย์ศักดิ์จิระ เวียงเก่า และอาจารย์วายุ ขันทะนา ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากผ้า ที่มาให้ความรู้และบ่มเพาะให้ผู้เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการในการต่อยอดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ในโอกาสนี้ ขอแสดงความยินกับผู้ประกอบการที่ได้รับใบรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) ทุกท่าน โดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน มีความยินดีและหวังว่าผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองจะใช้โอกาสตรงนี้ เพื่อเป็นเครื่องหมายการันตรีถึงคุณภาพ และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ของท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
","31/1/2022","ภาคเหนือ","ลำพูน","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220131174711595"], [881,"สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน จัดฝึกอบรม ยกระดับ และเพิ่มศักยภาพการผลิตภัณฑ์ผ้า สร้างมูลค่าเพิ่ม ต่อยอด ให้เกิดการขยายช่องทางการตลาด","วันนี้ (31 มกราคม 2565) ที่เดอะแกรนด์ จามจุรี รีสอร์ท จังหวัดลำพูน นางจันทนา ไวยาวัจมัย อุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมกิจกรรมส่งเสริมนวัตกรรมและการออกแบบผลิตภัณฑ์หัตถสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการพัฒนาหัตถอุตสาหกรรมหริภุญไชยสู่นวัตกรรมสร้างสรรค์งบพัฒนาจังหวัดลำพูน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 โดยมีนางบำเพ็ญ เมืองมูล พัฒนาการจังหวัดลำพูน หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมในพิธี
นางสาวจินตนันท์ ข้นไชย นักวิชาการอุตสาหกรรมชำนาญการ เผยว่า การอบรมในวันนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับและพัฒนาหัตถกรรมในจังหวัดลำพูน ด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ ซึ่งผู้ประกอบการจะได้รับการพัฒนาและยกระดับการผลิต ผลิตภัณฑ์ผ้า เพิ่มศักยภาพในการผลิตสร้างมูลค่าเพิ่มสามารถต่อยอดให้เกิดการขยายช่องทางการตลาดให้กับการผลิตผลิตภัณฑ์ผ้าในจังหวัดลำพูน
อีกทั้ง ยังเป็นการอนุรักษ์สืบสานสินค้าภูมิปัญญาและต่อยอดการผลิตสินค้า ในเชิงสร้างสรรค์ตอบสนองความต้องการของตลาดและผู้บริโภค เกิดการสร้างรายได้พัฒนาเศรษฐกิจชุมชน และสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนต่อไป การจัดอบรมในวันนี้มีผู้เข้าร่วมอบรม จำนวน 26 กิจการ 30 คน โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้า โดยอาจารย์ศักดิ์จิระ เวียงเก่า เจ้าของแบรนด์ Baisri และอาจารย์วายุ ขันทะนา ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์จากผ้า จะมาให้ความรู้และพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถแก่ผู้ประกอบการผ้า ที่จะเข้าร่วมอบรมตลอดทั้งโครงการในครั้งนี้ อีกทั้งในวันนี้ เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย ทางคณะผู้จัดงานจึงขอให้ท่านอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน ให้เกียรติมอบใบรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช. ให้กับผู้ประกอบการ จำนวน 3 ราย)
ด้าน อุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าผลิตภัณฑ์จากผ้า ทั้งเสื้อผ้า ของใช้ ของที่ระลึกจากผ้าในจังหวัดลำพูน มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ด้วยเพราะฝีมือที่ประณีตของช่าง ผสมผสานกับเอกลักษณ์ของความเป็นล้านนา ในปัจจุบันความนิยมของกลุ่มลูกค้า ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย รูปแบบความนิยมจึงเปลี่ยนตามแฟชั่น มีความร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น
จังหวัดลำพูน โดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน จึงได้จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการผ้าในจังหวัดลำพูน ได้รับการพัฒนาและยกระดับการผลิต ผลิตภัณฑ์จากผ้า สามารถเพิ่มศักยภาพในการผลิตสร้างมูลค่าเพิ่ม และสามารถต่อขยายช่องทางการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ผ้าในจังหวัดลำพูน โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ จะได้รับการพัฒนาด้านการออกแบบอย่างสร้างสรรค์ ได้รับคำปรึกษาแนะนำเชิงลึก จนกระทั่งสามารถเกิดผลิตภัณฑ์ใหม่
การอบรมในครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณวิทยากร อาจารย์ศักดิ์จิระ เวียงเก่า และอาจารย์วายุ ขันทะนา ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากผ้า ที่มาให้ความรู้และบ่มเพาะให้ผู้เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการในการต่อยอดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ในโอกาสนี้ ขอแสดงความยินกับผู้ประกอบการที่ได้รับใบรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) ทุกท่าน โดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน มีความยินดีและหวังว่าผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองจะใช้โอกาสตรงนี้ เพื่อเป็นเครื่องหมายการันตรีถึงคุณภาพ และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ของท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
","31/1/2022","ภาคเหนือ","ลำพูน","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220131175157604"], [882,"ผู้ว่าฯ ลำพูน ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยการจำหน่ายสินค้าและบริการ เพื่อไม่ให้เกิดการกักตุนสินค้าและฉวยโอกาสขึ้นราคาในช่วงเทศกาลตรุษจีน","วันนี้ (31 มกราคม 2565) นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วยนายบุญส่ง ไชยมณี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำพูน พาณิชย์จังหวัดลำพูน คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดลำพูน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยการจำหน่ายสินค้าและบริการ ณ ห้างสรรพสินค้า บิ๊กชี สาขาลำพูน ห้างแม็คโค สาขาลำพูน และตลาดจตุจักร อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เพื่อไม่ให้เกิดการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและบริการเกินราคาที่กำหนด
โดยการจัดจำหน่ายสินค้า ต้องมีการปิดประกาศป้ายแสดงสินค้าแสดงให้ชัดเจน พร้อมการตรวจสอบการเก็บสต๊อกเนื้อหมู ไข่ไก่ รวมถึงสินค้า ประเภทต่าง ๆ เพื่อให้ไม่เกิดการกักตุนสินค้า และการจำหน่ายเกินราคาที่กำหนดในพื้นที่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าสินค้าที่ได้ตรวจสอบนั้น ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ และสินค้าประเภทต่าง ๆ ได้มีการปิดป้ายแสดงสินค้าชัดเจน และราคาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่มีการขึ้นราคาแต่อย่างใด ส่วนร้านค้าที่ไม่มีการดำเนินการปิดป้าย ได้มีการแจ้งให้ดำเนินการทันที โดยทางคณะกรรมการฯ ได้ให้คำแนะนำ และขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้าให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง ไม่ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีน นี้ และเพื่อป้องกันการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนอีกด้วย
","31/1/2022","ภาคเหนือ","ลำพูน","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220131175407605"], [883,"เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เปิดโครงการอบรม \"ยุวชนอสาสและนำเที่ยวท้องถิ่น ประจำปี 2565\"","เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จัดโครงการอบรมยุวชนอาสาและนำเที่ยวท้องถิ่น ประจำปี 2565 ส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างงาน สร้างอาชีพในชุมชน ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายสายสิทธิ์ เจตสิกทัต ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เป็นประธานเปิดโครงการ \"อบรมยุวชนอาสาและนำเที่ยวท้องถิ่น ประจำปี 2565\" เปิดประสบการณ์การนำเที่ยว สร้างอาชีพ สร้างรายได้ แก่เยาวชนและผู้สูงอายุในชุมชน
นายสายสิทธิ์ เจตสิกทัต กล่าวว่า เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้จัดกิจกรรม \"ยุวชนอาสาและนำเที่ยวท้องถิ่น ประจำปี 2565\" ขึ้นมา เพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่กำลังเติบโตขึ้น รวมถึงเป็นการสร้างอาชีพให้เยาวชน ผู้สูงอายุในชุมชน และผู้ที่มีความสนใจแต่ยังขาดความรู้ในด้านการท่องเที่ยว ได้เข้ามาฝึกอบรมและเรียนรู้ พร้อมนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ เพื่อถ่ายทอดเรื่องราว ความน่าสนใจของแหล่งท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบต่อไป
โดยในปีนี้มีผู้เข้าร่วมเป็นยุวชนอาสา จำนวน 30 คน และผู้สูงอายุ จากบ้านไร่กองขิงและบ้านเหมืองกุง จำนวน 10 คน โดยจะได้ฝึกอบรมภาคทฤษฎี ทั้งความรู้พื้นฐาน , ความรู้เฉพาะอาชีพ , ความรู้เกี่ยวกับภาษาต่างประเทศเบื้องต้น (อังกฤษ , จีน) และภาคปฏิบัติจะมีการลงพื้นที่ในส่วนแสดงสัตว์ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จำนวน 4 จุด ประกอบด้วย Jaguar Trail Zone , Savanna Safari Zone , Predator Prowl Zone , งานอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว และการเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นจากชุมชน ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดจัดขึ้นในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนกรกฎาคม 2565 (เฉพาะวันศุกร์ , เสาร์ และนักขัตฤกษ์) โดยผู้ที่เข้ารับการฝึกอบรมจนจบหลักสูตรจะได้รับใบประกาศนียบัตรการเป็นยุวชนอาสาและนำเที่ยวท้องถิ่น พร้อมค่าตอบแทน
ทั้งนี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีมาตราการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัส COVID-19 อย่างเคร่งครัด และได้รับการรับรองตามมาตรฐาน SHA Plus จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมทั้งได้รับการรับรองมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวเพื่อนันทนาการระดับดีเยี่ยม ประจำปี 2564 จากกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สามารถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในการเข้าใช้บริการ
","31/1/2022","ภาคเหนือ","เชียงใหม่","สวท.เชียงใหม่","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220131180411608"], [884,"พาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ ตรวจสอบราคาสินค้าหลังวันจ่ายคนไทยเชื้อสายจีน พบสินค้าแทบทุกตัวราคาลดลง","วันนี้ (31 ม.ค. 65) นายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร พาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สำรวจราคาและติดตามการจับจ่ายสินค้าในตลาดสดเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ พร้อมเปิดเผยว่า หลังวันจ่ายของคนไทยเชื้อสายจีน คือ จะต้องออกมาหาซื้อของเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ซึ่งถือว่าเป็นวันที่เงินจะพัดมากที่สุดวันหนึ่งของเทศกาลตรุษจีน แต่ปรากฏว่าแม่ค้าที่จำหน่ายสินค้าของเซ่นไหว้ กลับมียอดขายลดลงต่างจากทุกปีที่ผ่านมา
จากการสำรวจราคาสินค้าในตลาดสด พบว่าอาหารแทบทุกประเภท เช่น ปลาสด หน่อไม้จีน ไก่สด และสินค้าชนิดอื่น ได้ปรับราคาลง โดยเฉพาะผักสด มะละกอ ราคาถูกลงอย่างเห็นได้ชัด เฉลี่ย มะละกอ ขายส่งที่ กก.ละ 15 บาท ผักกาดทุกชนิด ลดราคาลง ผักชีที่เคยราคาสูงถึง กก.ละ 200 บาท ตอนนี้เหลือ 50 บาท ต่อ กก. ส่วนอาหารทะเล มีเพียงกุ้งขาวที่ปรับราคาขึ้น กก.ละ 10-15 บาท หอยปรับลดลง ปูราคาคงเดิม
นายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร พาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่สินค้าไม่ปรับราคาขึ้นในช่วงตรุษจีน เหมือนทุกปีคาดว่า คนไหว้เจ้าลดลง เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมา นอกจากคนไทยเสื้อสายจีนจะไหว้เจ้าทุกวันตรุษจีนแล้ว ยังมีคนไทยที่มีอาชีพค้าขาย ได้หันมาไหว้ตรุษจีน เหมือนคนไทยเชื้อสายจีนด้วย แต่ปีนี้สภาพเศรษฐกิจไม่ค่อยดี คนกลุ่มนี้บางส่วนยกเลิกการไหว้เจ้า ซึ่งน่าจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้สินค้าขายไม่ค่อยได้ และไม่ปรับราคาขึ้น สำหรับเนื้อหมู มีแนวโน้มที่จะปรับราคาลง หลังจากราคาหมูเป็นมีแนวโน้มลดคงในเร็ว ๆ นี้
","31/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","บุรีรัมย์","สวท.บุรีรัมย์","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220131180714610"], [885,"ECOtive นิเวศสร้างสรรค์ปัตตานีโมเดล ร่วมแก้จนชาวปัตตานีด้วยนวัตกรรม","ดร.ศริยา บิลแสละ หัวหน้าโครงการวิจัยและพัฒนาระบบนิเวศสร้างสรรค์ เพื่อการเป็นผู้ประกอบการรายย่อยสู่โมเดลพึ่งตนเอง แก้จนจังหวัดปัตตานี หรือ ECOtive นิเวศสร้างสรรค์ปัตตานีโมเดล จัดประชุมเพื่อหารือแนวทางการพัฒนาพื้นที่จังหวัดปัตตานี เพื่อสร้างผู้ประกอบการรายย่อยสู่โมเดลพึ่งพาตนเอง และยกระดับทางเศรษฐกิจของคนในจังหวัดปัตตานีให้ดียิ่งขึ้น ณ ห้องประชุมชูเกียรติ ปิติเจริญกิจ ชั้น 3 คณะวิทยาการสื่อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.ปัตตานี) เมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคการปกครองส่วนท้องถิ่น โดยใช้ทรัพยากรจากทางหน่วยงานเพื่อมาช่วยกันพัฒนาหรือส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมร่วมกัน และออกแบบระบบนิเวศสร้างสรรค์ร่วมกัน เพื่อทำให้ความยากจนในจังหวัดปัตตานีลดลง
ดร.ศริยา กล่าวว่า ปัจจัยที่สำคัญของการสร้างระบบนิเวศสร้างสรรค์เพื่อการพัฒนาผู้ประกอบการของจังหวัดปัตตานี คือ การมีภาคีเครือข่ายความร่วมมือที่มาจากหลากหลายภาคส่วน ทั้งภาคการศึกษา ผู้ประกอบการ ภาครัฐ ภาคการปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคธุรกิจ และภาคการเงิน โดยองค์กรที่มาร่วมประชุมและเป็นภาคีความร่วมมือ ได้แก่ พาณิชย์จังหวัดปัตตานี องค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี เทศบาลเมืองปัตตานี องค์การบริหารส่วนตำบลตะบิ้ง องค์การบริหารส่วนตำบลบานา โรงแรมปาร์คอินทาวน์ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล Depa สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวปัตตานี Patani Artspace มูลนิธิดิจิทัลเพื่อสันติภาพ Digital 4 Peace ห้างหุ้นส่วนสามัญฮณาฮาลาล และธุรกิจเครือเดอนารา โครงงานวิจัยดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมแห่งชาติ (สอช.) ร่วมกับ ม.อ.ปัตตานี เป็นงานวิจัยเพื่อการพัฒนาและทดลองเชิงนโยบายเพื่อออกแบบกลไกการพัฒนาพื้นที่และเศรษฐกิจฐานราก
ดร.ศริยา กล่าวว่า จังหวัดปัตตานีมีประชากรจำนวน 153,466 ครัวเรือน ประชากรจำนวน 635,671 คน มีภาคเกษตรและการผลิต 46% การขายส่งขายปลีก โรงแรม การผลิต การก่อสร้าง รับราชการ มีเยาวชนขาดการศึกษาไปเกือบ 60% การหลุดพ้นจากความยากจนคือ คนในพื้นที่ต้องมีการศึกษา และมีเศรษฐกิจ เงินหมุนเวียนที่ดี
ปัญหาความยากจนของปัตตานีติดอันดับต้นๆ ของไทยทุกปี เราอยากแก้จน เมื่อไม่เรียนหนังสือก็ต้องประกอบอาชีพ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สร้างระบบที่ขับเคลื่อนด้วยระบบดิจิทัล ใช้การเก็บข้อมูลในพื้นที่ นำไปวิเคราะห์ เรามีองค์ความรู้ในเรื่องของการออกแบบ ใช้โมเดลความเจริญรุ่งเรืองเริ่มหยั่งรากจากรัฐให้ความสำคัญกับนวัตกรรม โดยเฉพาะการสร้างนวัตกรรมการตลาด ประยุกต์ใช้ขบวนการ MIT REAP ในการพัฒนาผู้ประกอบการมุ่งเน้นนวัตกรรมและการจำหน่าย ใช้เครื่องมือโปรแกรมสร้างผู้ประกอบการในพื้นที่ขับเคลื่อน อาจเป็นเรื่องใหม่ในพื้นที่ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือภาคีเครือข่าย 5 ส่วนประกอบด้วย ภาครัฐ นักวิจัย นักธุรกิจรายใหญ่ นักธุรกิจรายย่อย และแหล่งเงิน ร่วมขับเคลื่อน สร้างความตระหนักรู้ สร้างการเปลี่ยนแปลง และสร้างผู้ประกอบการ
เริ่มทำเมื่อตุลาคม 64 ม.1 ม.6 ต.บานา อ.เมือง และ ม.1 ต.ตะบิ้ง อ สายบุรี จ.ปัตตานี เราพบว่าตะบิ้ง ชาวบ้านรวมตัวกันดี ชุมชนพร้อม มีใจ มีทรัพยากรในการที่จะพัฒนา เขาอยากทำแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ส่วนบานา บ้านจือโระมีพื้นที่เกษตรกรรมค่อนข้างมาก ส่วนสุไหงปาแนจะทำการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่มีท่าเรือฮอลันดาเดิม ที่มาจากเยเมน มีกุโบร์ของเชค ชาวบ้านมีฝีมือในการตัดเย็บ จะขับเคลื่อนงานผ้าให้มีคุณภาพที่ตลาดต้องการ ตลาดเสื้อผ้ามุสลิมะฮฺมีทั่วโลก เราจะทำยังไงให้งานของเรามีคุณภาพ มีการตัดเย็บที่ดี ให้มุสลิมะฮ์ผลิตงานที่บ้านมีคุณภาพเทียบเท่ายูนิโคล่ได้ ถ้าเราทำได้คือความตั้งใจของเราจะพยายามเอาระบบดิจิตอลเข้าไปช่วยคือ การเก็บข้อมูลในการวิเคราะห์ทรัพยากร 5 ด้าน ในพื้นฐานของทรัพยากรที่มีอยู่จริง ดูว่าตลาดภายนอกต้องการอะไร สร้างภาคีเครือข่าย เพราะโมเดลของอามีทีรีสคือการเดินไปด้วยกัน และไปสู่กระบวนการให้ชาวบ้านคิด ปรับเปลี่ยนความคิด หานวัตกรรมใหม่ๆ สามารถออกแบบผลิตภัณฑ์ ตอบโจทย์ตลาดได้
ข้อดีของโครงการคือ เขาให้มาทำ 3 ปีอย่างต่อเนื่อง ปีแรกสร้างความเข้าใจร่วมกัน ให้ปรับเปลี่ยนความคิด ปีที่ 2 ยกระดับผู้ประกอบการ สร้างพื้นที่การเรียนรู้ในชุมชนให้พัฒนา ปีที่ 3 คือผลิตโปรดักส์ ต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ ช่องทางการตลาด และนวัตกรรมใหม่ๆ เป็นการทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่การเอาเงินมาละลาย พัฒนาปัตตานีให้เป็นผู้ประกอบการที่พึ่งพาตนเอง
จินตนา ปิ่นสุภา พาณิชย์จังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ได้ทำงานกับทุกภาคส่วน พาณิชย์เป็นส่วนปลายทางที่ทำด้านการตลาดเป็นหลัก รวมทั้งผลิตภัณฑ์และผู้ประกอบการ ตอนนี้ต้องเปลี่ยนแนวคิดดึงการตลาดนำการผลิต ดูเทรนด์การตลาด มองเรื่องสุขอนามัย มองความพร้อมให้มีความยั่งยืน เกษตรกรผลิตได้ ขายเป็นใช้โซเชี่ยลให้เป็นประโยชน์ จดทรัพย์สินทางปัญญาให้กับผลิตภัณฑ์ ซึ่งสินค้าของปัตตานีที่ได้รับเครื่องหมายสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications: GI) คือ ลูกหยี และส้มโอบูโก ส่วนทุเรียนทรายขาวอยู่ในระหว่างกำลังดำเนินการขอเครื่องหมาย การตลาดจะทำได้สินค้าต้องมีความประณีต เป็นที่ต้องการของตลาด รวมทั้งได้ทำคลิป กิน เที่ยว@ พาณิชย์ปัตตานี เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก ให้ภายนอกได้รับรู้เรื่องราวดีๆ ของปัตตานี
นิอันนุวา สุไลมาน นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปัตตานี กล่าวว่า จังหวัดปัตตานีมีดีมากกว่าที่คิด อยากให้มองว่าจังหวัดปัตตานีคือประเทศหนึ่ง มองว่าสินค้านำเข้ามีอะไร มีสินค้าไหนดีที่ส่งออก มองแบบนี้ทำให้ง่ายขึ้นในการทำให้ภาคีเข้มแข็ง ช่วยกันส่งเสริมทุกองคาพยพ เป้าหมายการตลาดในที่อื่น เช่นปัจจุบันการบริโภคข้าวลดงจากการมีอาหารจานด่วน ผักผลไม้เราก็นำข้ามาจากที่อื่น จะสร้างเมืองด้วยดุลการค้าหรือดุลบัญชีเดินสะพัด ภาพรวมในจังหวัดปัตตานียังไม่มีใครทำ คือการรวบรวมศูนย์แล้ววิเคราะห์ ภาคประชาชนคือตัวขับเคลื่อนสำคัญสุดของสังคม ต้องการให้สามจังหวัดเป็นป่าทึบ มีอากาศหายใจ มีคนมาเที่ยวมาพัก ทุกคนมีส่วนร่วมในความสะอาด สุขอนามัย ความปลอดภัย ตัวแทนจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลหรือ depa บอกว่าหลายภาคส่วนช่วยให้เกิดความยั่งยืน เป็นเศรษฐกิจดิจิตอล เน้นในเรื่องของสมาร์ทซิตี้ รวมการเข้าถึงของประชาชนในพื้นที่ ชาวบ้านขับเคลื่อนชีวิตได้อย่างมีความสุข ปากท้องอิ่ม เข้าถึงเรื่องโรงพยาบาลอัจฉริยะ ความมั่นคงของชีวิตและทรัพย์สิน ความปลอดภัย ให้บ้านเมืองเข้มแข็งด้วยนวัตกรรม
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","31/1/2022","ภาคใต้","ปัตตานี","สวท.ปัตตานี","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220131211457627"], [886,"พัฒนาที่ดินนครราชสีมา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม : ติดตามการดำเนินงาน โครงการศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาที่ดิน (ต่อยอด) ต.แชะ ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา","วันนี้ (31 ม.ค.65) เวลา 13.30 น. นายวิรุธ คงเมือง ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินนครราชสีมา ให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพร้อม ติดตามการดำเนินงาน โครงการศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาที่ดิน (ต่อยอด) ปีงบประมาณ 2565 ณ ตำบลแชะ อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา โดยกิจกรรมศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาที่ดิน ภายใต้การดำเนินงานตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง เป็นการจัดตั้งและต่อยอดศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการพัฒนาที่ดิน เพื่อเป็นศูนย์เครือข่าย (Node)ให้แก่โครงการศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน รวมถึงเป็นแหล่งเรียนรู้ สาธิต/ศึกษา/ดูงานด้านการพัฒนาที่ดิน โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมของกรมพัฒนาที่ดินไปถ่ายทอดให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ ให้เกษตรกรและผู้ที่สนใจเข้ามาดูงานสามารถนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการพัฒนาที่ดินไปใช้ในพื้นที่ของตนเองอย่างถูกต้อง
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","31/1/2022","ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ","นครราชสีมา","สวท.นครราชสีมา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220131235743646"], [887,"เฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนต้อนรับปีขาล สักการะ 5 เทพเจ้า ตระการตาโชว์สิงโตมังกรทอง อวยพรมั่งคั่ง โชคดีมีสุข 1 - 13 กุมภาพันธ์นี้","วันนี้ (31 ม.ค. 65) ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค เปิดงาน ฉลองตรุษจีน สักการะ 5 เทพ เสริมมงคล โดยมี คุณณรงค์ ด่านชัยวิโรจน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร คุณปราณี ด่านชัยวิโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน ร่วมพิธีที่ บริเวณหน้าประตู G4
ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค ร่วมกับ สภาศิลปินส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย และบริษัท เจอาร์ไอเดีย จำกัด จัดงาน ฉลองตรุษจีน สักการะ 5 เทพ เสริมมงคล เพื่อส่งมอบความสุข ความมงคลให้กับลูกค้าและประชาชนทั่วไป ได้สักการะบูชาและขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของชาวจีน ระหว่างวันที่ 29 มกราคม - 13 กุมภาพันธ์ 2565 บริเวณชั้น 1 หน้าประตู G4 (ร้านโมชิโมชิ)
โดยในปีนี้ได้อัญเชิญและสักการะ 5 องค์เทพ ประกอบด้วย พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร พระแม่กวนอิม ปางพันมือ พระผู้ทรงเปี่ยมด้วยความรัก ความเมตตา ปกปักรักษา แคล้วคลาด พระแม่กิมบ่อเนี้ย เทพแห่งความเจริญยืนยาวและความสุขนิรันดร์องค์ตั่วเหล่าเอี๊ย เทพเจ้าปกปักอภิบาล ปราบปรามศัตรูและสิ่งเลวร้าย แชกงหมิว เทพแห่งโชคลาภ เงินทอง และความสำเร็จ หลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) เทพผู้มีความเมตตากรุณา ช่วยเหลือผู้ยากไร้ เพื่อขอพรเป็นสิริมงคลต่อตัวเองและครอบครัว
นอกจากนี้ ศูนย์การค้าฯ จัดงาน \"Happy Chinese New Year Celebration\" ช้อป เฮง เฮง รับปีเสือทอง กระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัดให้คึกคัก ตลอดช่วงเทศกาลตรุษจีนทั่วทั้งศูนย์การค้าฯ โดยในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 14.00 น. ยกขบวนแห่มังกรทอง สิงโต จากคณะเจ้าพ่อเฮ่งเจีย ที่มีผลงานผ่านทางรายการท้าพิสูจน์รีเทิร์น ช่อง 33 พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ร่วมมอบของมงคลให้กับผู้ประกอบการร้านค้าภายในศูนย์การค้าฯ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และเวลา 18.00 น. ปิดท้ายความเฮงกับโชว์สุดพิเศษ มังกรทองลอยฟ้า นาจาระเบิดถ้ำ อวยพรมั่งคั่งตลอดทั้งปี กับการแสดงกายกรรมต่อตัว, มังกรทองประดับไฟ LED, สิงโตเสาดอกเหมย, สิงโตไต่ไม้สะพาน, สิงโตแดนซ์ และอีกมากมาย บริเวณ Event Park ลานจอดรถด้านหลัง
ทั้งนี้ ศูนย์การค้าฯ คุมเข้มการจัดงานด้วยมาตรฐานความปลอดภัยในสุขอนามัยสูงสุด ร่วมฉลองตรุษจีนรับความมงคลตลอดปีเสือทอง สักการะขอพร 5 เทพเสริมมงคล วันนี้ - 13 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 10.00 -21.00 น. และชมการแสดง มังกรทองลอยฟ้า นาจาระเบิดถ้ำ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 18.00 - 20.00 น. บริเวณ Event Park ลานจอดรถด้านหลัง ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค
#สำนักข่าว #กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND
","31/1/2022","ภาคกลางและปริมณฑล","พระนครศรีอยุธยา","สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา","https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220131234147643"] ]}